ภาคีขับรถกอล์ฟมาส่งเหนือฟ้าลงหน้าบ้านพัก เขาจอดรถและเดินตามหลังมา
"เหนือ" "คะ...พี่คีมีอะไรเหรอ" "ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับเหนือฟ้า พี่ขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ พี่ภาคี กฤตกล้าธนาดร อายุยี่สิบห้าปี สถานะโสด" "รู้มาตั้งนานแล้ว" สาวแก้มยุ้ยพูดพึมพำ "ว่าไงนะ" "เปล่าค่ะไม่มีอะไร งั้นราตรีสวัสดิ์ค่ะ" "ฝันดี" แผ่นหลังสูงขับรถกอล์ฟไปจอดที่มุมมืดเพื่อลอบมองดูสาวอวบที่กำลังแตะคีย์การ์ดเข้าห้อง พอมั่นใจว่าเธอปลอดภัยเขาถึงขับรถออกไป นี่เป็นครั้งแรกที่เหนือฟ้านอนคนเดียวในที่ต่างถิ่น หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เปิดไฟสว่างไปทั่วห้อง ตั๊บแก!! ตั๊บตั๊บตั๊บแก" "ตุ๊กแกที่นี่ก้างติดคอหรือไง แต่บรรยากาศที่นี่วังเวงจัง ป่านนี้พี่ไนท์หลับหรือยังนะ" เหนือฟ้าแชตไปหาพี่สาว แต่ราตรีไม่อ่านข้อความของเธอ หญิงสาวจึงพยายามสวดมนต์เพื่อผ่อนคลายตัวเองก่อนนอนและฝืนข่มตา แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีอาการกลัวผียิ่งทำให้เธอกระสับกระส่าย จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงห้าทุ่ม "ฮือตายแน่นอนไม่หลับ" แฟ่ก! แฟ่ก! เหนือฟ้าสะดุ้งลุกดึงผ้าห่มมาคลุมจนมิดหัว "เสียงอะไรอ่ะ" ด้านนอกระเบียงมีแมวประจำรีสอร์ตแวะมาฝนเล็บ ทำให้คนกลัวสิ่งที่มองไม่เห็นขึ้นสมองเริ่มหวาดระแวงจนมโนไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าเป็นเสียงเล็บขูดของผี หญิงสาวลนลานควานหาโทรศัพท์นอกผ้าห่มแล้วรีบเปิดแชตข้อความไปหาภาคี "พี่คีเหนือกลัวผีค่ะ มาอยู่เป็นเพื่อนเหนือหน่อย" ภาคีอ่านอย่างไวแล้วรีบตอบกลับมารวดเร็วไม่แพ้กัน "ขอพี่ใส่เสื้อผ้าก่อนนะ พี่ยังโป๊อยู่เลย" "อ๊าย..ตาบ้าไม่เห็นต้องบอกเลยว่าโป๊อยู่ ใครอยากรู้เล่า" ปากก็ว่าแต่ก็อดจินตนาการถึงซิกซ์แพ็คแน่น ๆ ใต้เสื้อกล้ามสีดำไม่ไหว สาวอวบในชุดนอนกระโปรงคลุมเข่านั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียง ประมาณสิบกว่านาทีเสียงเคาะประตูในยามวิกาลก็ดังขึ้น เหนือฟ้ารีบส่องตาแมวเพื่อความมั่นใจ แล้วค่อยเปิดประตู "ขอโทษนะคะที่รบกวน พอดีเหนือไม่เคยนอนคนเดียวค่ะ แล้วพี่ไนท์ก็หลับไปแล้ว" "ไม่เป็นไร พี่ขอเข้าห้องได้ไหม" ภาคีไม่รอให้เธออนุญาตกลับเดินเข้าไปในห้องแถมยังพกหมอนข้างมาด้วย "มานอนเถอะพี่ง่วงสุด ๆ เลย พรุ่งนี้พี่มีงานที่คาเฟ่อีก ถ้าเหนือไม่ว่าอะไรพี่ขอหลับอยู่ข้าง ๆ นะครับ" เขาพูดปุปก็วางหมอนข้างกั้นตรงกลางแล้วปิดตาสนิททันที "อ้าวหลับแล้วเหรอคะ...หลับไวจัง" เหนือฟ้าคลานขึ้นมาบนเตียง ล้มตัวนอนโดยหันตะแคงข้างมองหน้าหล่อ ๆ ของคนด้านข้างจนกระทั่งปิดตาลง แต่คนที่มานอนเป็นเพื่อนกลับเปิดตาออก ยกแขนขึ้นเท้าหัวมองดูหน้าหวาน และแก้มพองนุ่ม พินิจพิเคราะห์เก็บทุกรายละเอียด ยื่นนิ้วไปเกลี่ยเส้นผมที่บดบังจากสายตา "จะรู้บ้างไหมนะว่าตัวเองสวย สวยของคนอื่นพี่ไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่ของพี่คือแบบเหนือ" เสียงนุ่มกล่าวท่ามกลางความมืดมิดที่มีเพียงแสนจันทร์ลอดฉายผ่านผ้าม่านเข้ามา ภาคียิ้มปนเศร้าเพราะอีกสามเดือนข้างหน้าเขาก็จะไปเรียนต่อปริญญาโทและไปหาประสบการณ์ด้านการเกษตรที่ญี่ปุ่นสักสองสามปีก่อนจะกลับมาดูแลไร่ควายที่นครนายกซึ่งเป็นมรดกตกทอดของบรรพบุรุษ แสงสีทองสว่างวาบกระทบเปลือกตาของคนขี้เซา เหนือฟ้าผุดลุกขึ้นหันไปหาคนด้านข้างรู้สึกโล่งอกขึ้นมาหน่อย ๆ ที่เขาไม่อยู่แล้ว "ถ้าตื่นมาตอนเช้าแล้วเห็นเราน้ำลายยืดแบบนี้ เขินตายเลย" เหนือฟ้าเช็ดคราบน้ำลายที่แห้งติดมุมปาก หญิงสาวนั่งกินมื้อเช้ากับครอบครัวที่ร้านอาหารของรีสอร์ต หากหันหน้าไปฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นคาเฟ่ที่มีบาสริสต้าหนุ่มยืนประจำการอยู่ ภาคีฉีกยิ้มกว้าง ส่งให้บ่ะหนุนน้อยของเขา เหนือฟ้าเผลอยิ้มตอบ ชายหนุ่มอึ้งไปเล็กน้อยที่สาวเจ้าทำท่าจะเล่นด้วย เขาจึงกระพริบตาให้หนึ่งข้าง แต่คราวนี้เธอจำต้องรีบเบือนหน้าหนี เพราะรู้ตัวแล้วว่าการเล่นระหว่างเธอกับเขามันชักบานปลาย ประมาณสิบโมงหญิงสาวเดินไปถ่ายรูปบรรยากาศของไร่ชา และไปดูกรรมวิธีแปรรูปชาเขียว รวมทั้งล่องเรือริมแม่น้ำปายกับครอบครัวและขึ้นมากินมื้อเที่ยงด้วยกัน หลังจากเติมพลังกันจนเต็มที่เหนือฟ้าจึงแวะไปที่คาเฟ่เพื่อหาเครื่องดื่มสักแก้ว เพราะเห็นว่ายังไม่มีคนมาสั่งจึงคิดว่าจะช่วยอุดหนุนคนหล่อสักหน่อย แต่ปลายเท้าสองข้างกลับชะงักค้าง เพราะผู้หญิงที่ไหนไม่รู้กำลังโน้มคอพี่คีลงมาจูบอย่างดูดดื่ม แถมพวกเขายังตัวสูงไล่เลี่ยกันอีก เหนือฟ้ารีบกลั้นน้ำตาเม้มริมฝีปากเข้าหากันเพื่อสะกดกลั้นความเสียใจ รีบก้าวขาฉับ ๆ เดินออกมาจากคาเฟ่ จังหวะเดียวกันนั้นผู้ช่วยบาริสต้าอีกคนก็เดินสวนเข้ามาพอดี "ชมปล่อยสักที" ภาคีผลักตัวเธอออกแล้วเช็ดริมฝีปากอย่างหงุดหงิด "ทำไมรอบนี้หวงเนื้อหวงตัวนักละคะ ที่ชมมาหาเพราะคุณไม่ติดต่อมาเลยชมคิดถึงเลยต้องมากอดจูบลูบคลำให้หายคิดถึง คืนนี้ว่างไหมคะ ชมให้กินฟรีเลยนะ" "ที่ผมหยุดติดต่อคุณ เพราะไม่คิดจะซื้อใครกินแล้วไง ผมพอแล้ว ตอนนี้ผมต้องการแม่ของลูก" ภาคีตวาดแล้วรีบเดินออกจากคาเฟ่ "คุณคีครับ เมื่อกี้ผมเห็นแขกคุณคีวิ่งหน้าซีดออกไป สงสัยจะเห็นภาพติดเรทกลางวันแสก ๆ" คำปอเบะปากใส่ชมออนที่ชอบถืออภิสิทธิ์คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงของเจ้านาย "แขกคนไหนคำปอ" ภาคีเริ่มหวั่นใจกลัวว่าจะเป็นคนที่เขาคิด คำปอย่นคิ้วเกาหัวกลอกตาไปมา "ก็สาวขาวอวบหน้าหวานคนนั้นไงครับ" "ฉันรู้แล้ว ขอบใจมาก ฝากส่งชมออนกลับด้วย ดีดไปให้ไกล ๆ เลย" ภาคีตบบ่าคำปอ ชายหนุ่มรีบปั่นจักรยานที่จอดไว้หน้าคาเฟ่ปั่นหาเหนือฟ้าไปทั่ว ทั้งแชทไปหา โทรหาเธอก็ไม่รับสาย สาวอวบนั่งกอดเข่าอยู่ที่ริมระเบียงห้องพักชำเลืองมองแชทของภาคีที่เด้งเข้ามารัว ๆ ก๊อก! ก๊อก! ด้วยความหงุดหงิดเธอจึงเดินไปเปิดประตูโดยที่ลืมส่องตาแมวเหมือนทุกครั้ง ทำให้ไม่อาจปิดประตูหนีคนด้านนอกได้ทัน ฝ่ามือใหญ่ตะครุบขอบประตูเอาไว้อย่างรวดเร็วจนเกือบจะถูกหนีบ "ทำบ้าอะไรของพี่คี อย่านึกว่าเป็นลูกชายเจ้าของรีสอร์ตจะทำอะไรเอิกเริก หรือเผด็จการกับใครก็ได้นะคะ" "โมโหพี่เรื่องอะไร" ภาคีลองใจ "เปล่านี่คะ ไม่ได้โมโหไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้น ขอเหนืออยู่คนเดียวได้ไหม" เหนือฟ้าพยายามดันอกของชายตัวสูงใหญ่ให้ออกห่างภาคีผลักประตูแล้วรีบกดล็อกสาวเท้าเข้ามาจนเหนือฟ้าวิ่งหนีไปอยู่มุมห้อง "พี่คีจะทำอะไร หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ต้องเข้ามา" หนุ่มมาดเซอร์ท่าทางยียวนกวนประสาทเลิกคิ้วสูงแล้วพุ่งตัวเข้าใส่สาวอวบหลับตาปี๋ยกแขนป้องตัวเอง สองแขนเต็มด้วยมัดกล้ามคร่อมแนบหัวไหล่เปลือยขาว "ขี้แย ขี้ตกใจ ขี้ขางด้วย น่าฮักขนาด" "ขี้ขางอะไรเหนือไม่เข้าใจค่ะ" เหนือฟ้าหลุบตามองพื้นพยายามทำตัวลีบแบน "ฮ่าฮ่าบ่ะหนุนน้อย จะย่อขนาดเหรอครับ ตัวเท่านี้แหละพี่ชอบ" "ฮะ...ชอบ ชอบอะไร" หญิงสาวพยายามจะมุดออกจากวงแขนกว้าง แต่ภาคีก็ขยับตามตลอด "ชอบบ่ะหนุนไง อร่อยดี" "เหนือไม่ใช่ขนุน....เฮ้ยพี่คีนั่นจิ้งเหลนนี่คะ มันเข้ามาในห้องได้ยังไง" เหนือฟ้าแสร้งหลอกให้เขาตายใจ "ฮะไหน" เขาก็ช่างหลอกง่าย สาวอวบจึงได้โอกาสมุดตัวหนีออกจากวงแขนที่คร่อมยันผนังอยู่ "จะหนีไปไหน" ถึงจะหลงกลแต่ระดับความเร็วของเขาก็ต่างกันอยู่ดี เรียวแขนแกร่งรวบเอวเหนือฟ้าแล้วรั้งให้หันกลับมาปะทะกับตัวของเขา คราวนี้ภาคีใช้แขนสองข้างรัดตัวเธอไม่ต่างกับงูเหลือมเพศผู้ "พี่คีชอบใช้กำลัง" บ่นอุบอิบทำแก้มป่องจนอยากก้มลงฟัดให้ช้ำกันไปข้างนึง "เปล่านะ พี่ไม่ได้ชอบใ
อีกวันเดียวครอบครัวเวหะชลการก็จะเดินทางกลับกรุงเทพ ภาคีจึงมายืนดักรอเหนือฟ้าหลังเธอกินมื้อเช้ากับครอบครัวเสร็จ วันนี้เหนือฟ้าใส่ชุดเอี๊ยมกางเกงขายาวสวมหมวกปีกกว้าง มองเผิน ๆ ดูน่ารักเหมือนสาวชาวไร่ ขณะที่เธอกำลังเดินมาถึงตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ หนุ่มผมยาวตัดสินใจคุกเข่าลงตรงหน้า "เหนือเป็นแฟนกับพี่นะ" ทั้งพ่อแม่พี่สาว ทุกคนมองเธอเป็นตาเดียวกันแล้วรีบซอยเท้าเดินหนีไปจากตรงนั้นเพื่อให้เธออยู่กับเขาสองคน "พี่คีอ่ะ...ลุกเถอะค่ะเหนืออาย" "ไม่ลุก จนกว่าเหนือจะตกลง" "ก็ได้ค่ะ เหนือจะเป็นแฟนกับพี่คี" สาวอวบอมยิ้มแล้วฉุดแขนภาคีขึ้นมา "นี่ดอกไม้ที่พี่ปลูกเอง" ดอกไม้สารพัดสายพันธุ์ช่อใหญ่อยู่ในมือของเขา เหนือฟ้ารีบดึงช่อดอกไม้ดังกล่าวมาอย่างว่องไว พราะไม่อยากยืนเป็นเป้าสายตาของใครต่อใคร "ขอบคุณค่ะ" "พรุ่งนี้จะกลับกรุงเทพแล้วใช่ไหม พี่แวะไปหาได้เปล่า" "เหนือปิดเทอมแค่สองอาทิตย์ก็ต้องกลับไปเรียนต่อแล้วค่ะ พี่คีจะไปหาก็ไปหาที่บ้านแทนได้ไหม คือเหนือไม่อยากให้คนอื่น ๆ นินทาพี่คี" "ใครเขาจะพูดอะไรก็ปล่อยให้พูดไปสิ พี่ไม่แคร์" ความจริงแล้วเธอหวงเขาต่างหากไม่อยากให้ใครเ
นิสิตสาวเดินลงมาจากตึกคณะโบกมือลาเพื่อน ๆ ในกลุ่มจากนั้นตรงไปที่ร้านน้ำปั่นเจ้าโปรดเพื่อสั่งข้าวโพดนมสดปั่น แต่ขาเจ้ากรรมกลับสะดุดกึก เพราะห่างจากเธอไม่กี่เมตรคือ สารถีรูปหล่อสุดฮ็อตที่กำลังยืนกินหม่าล่าอยู่ข้าง ๆ ร้านน้ำปั่น โดยที่รอบตัวเขามีแต่นักศึกษาชายหญิงที่กำลังยืนห้อมล้อมราวกับพบดาราดัง "ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ ผมขอแสกนจ่ายนะ" ภาคีล้วงหาโทรศัพท์เพื่อแสกนจ่าย แต่ทันใดนั้นดาวมหาลัยอย่างลินินก็เสนอตัวด้วยการยื่นแบงค์พันส่งให้ชายหนุ่ม"หนึ่งร้อยบาทจ้ะพ่อหนุ่ม นี่จ้ะ" ป้าแม่ค้าบอกพลางหยิบคิวอาร์โค้ดให้ลูกค้าหนุ่มแสกนจ่าย"เดี๋ยวลิเลี้ยงมื้อนี้เองค่ะ" นิสิตคนสวยกล่าวด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ เหนือฟ้าที่ยืนมองดูอยู่นั้นได้แต่ลอบถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ แล้วรีบยกกระเป๋าปิดหน้าเดินไปสั่งน้ำข้าวโพดแก้วโปรดโดยไม่สนใจภาคี"ไม่เป็นไรครับ ผมมีเงิน" ภาคีตัดบทแล้วหยิบโทรศัพท์มาแสกนจ่าย สายตาที่เขาตวัดมองลินินนั้นดูเย็นชาและแฝงด้วยความน่ากลัว โชคดีที่เธอแชตมาสั่งมาน้ำปั่นกับแม่ค้าก่อน พอไปถึงก็ได้รับน้ำข้าวโพดปั่นกลิ่นหอมพอดี ทำให้เธอสามารถหลบหลีกการปะทะกับผู้ห
เหนือฟ้านั่งบิดขี้เกียจอยู่ใต้โคมไฟสีส้มสลัว ดวงตากลมเริ่มพร่าเลือนจนภาคีที่กำลังจัดวางกับข้าวถึงต้องชะเง้อคอมองดูด้วยความกังวล "เสร็จแล้วครับ มากินได้เลย" หนุ่มมาดเซอร์ในชุดผ้ากันเปื้อนมัดจุกรวบเก็บผมไว้ครึ่งหัวเดินมาตามนิสิตแสนขยันในห้อง สาวอวบกลั้นยิ้มเพราะเธอโคตรโชคดีที่ได้เห็นหนุ่มฮ็อตขวัญใจสาวค่อนประเทศในสภาพพ่อบ้านกล้ามโต "รับทราบค่ะ" เหนือฟ้าเดินตรงไปที่โต๊ะกินข้าว มองข้าวซอยไก่ชามใหญ่และน้ำข้าวโพดปั่นนมสดฮอกไกโดกลิ่นหอมสองชุด ภาคีนั่งลงฝั่งตรงข้าม แล้วรินน้ำเปล่าเพิ่มให้เธออีกหนึ่งแก้ว ทำไมเขาช่างดีกับเธอมากมายขนาดนี้ ทั้งที่เธอทำตัวเย็นชากับเขาสารพัด แต่เขาก็ไม่โกรธเลยสักครั้ง "พี่คีทำอาหารน่ากินจัง" เหนือฟ้าบอกแล้วตักข้าวซอยไก่ร้อน ๆ คำแรกใส่ปาก ดวงตากลมถลึงมองเมนูดังกล่าวในชามตัวเอง แล้วเริ่มจ้วงกินคำใหญ่อย่างลืมตัว จนพ่อครัวหัวเราะร่วน "อร่อยใช่ไหม กินเยอะ ๆ นะเดี๋ยวจะผอมไป" เขาแซว "อร่อยมากค่ะ ไก่ก็เปื่อยมาก น้ำซุปก็จัดจ้าน กดไลก์ให้เลย" เหนือฟ้าฉีกยิ้มเคี้ยวแก้มตุ่ย ภาคีรู้สึกภูมิใจที่ทำให้สาวที่เขาลงท
เมื่อคืนเหนือฟ้านอนไม่ค่อยหลับเพราะอดคิดไม่ตกเรื่องที่เขาบอกมีแพลนจะเดินทางเร็ว ๆ นี้ วันนี้ก็เลยตื่นตั้งตีห้าครึ่ง ทั้งที่มีคาบเรียนแรกตอนแปดโมงเช้า นิสิตสาวอาบน้ำแต่งตัวมองหาชุดนักศึกษาที่เธอแขวนไว้กับตู้ กะว่าจะขอเตารีดของภาคีมาใช้รีดชุดตอนเช้า ทว่าชุดของเธอกลับไม่ได้แขวนไว้ที่เดิม เพราะมันถูกแขวนไว้ที่โต๊ะยืนรีดผ้ายิ่งไปกว่านั้นทั้งเสื้อและกระโปรงของเธอก็ถูกรีดจนเนี๊ยบไม่มีรอยยับรอยพับใด ๆ"ฝีมือพี่คีเหรอ" หญิงสาวพูดพึมพำพลางหยิบชุดนักศึกษามาใส่ แล้วคิดว่าจะทำมื้อเช้าให้เขารับประทาน เขาจะได้รู้ว่าเธอเองก็มีเสน่ห์ปลายจวักอยู่เหมือนกันผ่านไปเพียงสิบกว่านาทีไข่กระทะกับนมจืดก็ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะกินข้าว แต่รอจนหกโมงครึ่งภาคีก็ยังไม่ตื่น เหนือฟ้าจึงเดินไปเคาะห้องทำงาน"พี่คีคะ พี่คีตื่นหรือยัง"เพราะเขาไม่ตอบเธอจึงค่อย ๆ บิดกลอนประตูเข้าไปแล้วเดินให้เงียบที่สุด แต่พอเห็นว่าเขานอนหลับฟุบอยู่หน้าจอคอม จึงเข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังไม่ตื่น เหนือฟ้าหยุดที่หน้าจอคอม มองดูบางสิ่งที่เขาทำค้างไว้ ผลปรากฏว่ามันคือเอกสารภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ ซึ่งเธออ่านไม่ออกเลยสักตัว"พี่คี เหนือมาปลุกไปกินมื้อเช้าค่ะ"
เหนือฟ้านอนร้องไห้ตาบวมจนถึงสามทุ่ม จึงลุกเดินไปอาบน้ำแล้วกลับมาอ่านชีตสรุปสำหรับการสอบเก็บคะแนนในสัปดาห์หน้า"เหนือ พี่จะเอาเสื้อผ้าไปซักให้ เปิดประตูให้พี่หน่อยครับ"คนด้านในแง้มประตูออกเพียงเล็กน้อย "เหนือซักเองได้ค่ะ พี่คีป่วยอยู่ก็ไปพักเถอะ"จังหวะที่กำลังจะปิดประตู ภาคีสังเกตเห็นดวงตาที่บวมช้ำ เขาจึงจับขอบประตูไว้ไม่ให้เหนือฟ้าปิด "เป็นอะไรรึเปล่า""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เหนือจะอ่านหนังสือสอบ" เหนือฟ้าพยายามดึงประตูที่ภาคีกำลังง้างออก แต่ด้วยสู้แรงคนตัวใหญ่กว่าไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องยอมให้เขาเปิดประตูเข้ามาคนที่กำลังเสียใจรีบเดินหนีไปโต๊ะทรงกลมริมหน้าต่างห้องนอน พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล "เหนือ หันมาหาพี่หน่อย""พี่คีจะไปญี่ปุ่นเหรอคะ"ภาคีอึ้งคิ้วเข้มขมวดเข้ามากัน นึกย้อนไปถึงตอนที่เขาให้เธอไปหยิบยาในลิ้นชัก สงสัยคงจะไปเจอเอกสารมหาลัยที่ญี่ปุ่นกับพาสปอตที่เขาแอบเก็บไว้"ใช่ พี่จะไปเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น""แล้วพี่คีคิดจะบอกเหนือเมื่อไหร่ หรือคิดจะบอกตอนที่เหนือถลำลึกไปมากกว่านี้" เหนือฟ้าเถียงเสียงสั่นพยายามเดินหนีไปที่อื่นไม่ให้เขาเห็น ภาคีรีบเดินไปดักหน้า ทำให้พบว่าดวงหน้าจิ้มลิ้ม
รุ่งเช้าของวันเสาร์เหนือฟ้าเก็บเสื้อผ้าและของสำคัญลงกระเป๋าสะพายใบย่อม ส่วนที่เหลือกะว่าจะไปเอาเพิ่มเติมที่บ้าน หญิงสาวออกมานั่งรอภาคีที่หน้าทีวี พักหนึ่งเขาก็เดินตัวหอมฉุยจนกลิ่นกายตีขึ้นจมูก"กลิ่นเซ็กซี่จัง" เหนือฟ้านั่งเขินบิดแล้วลอบมองภาคีที่กำลังกดโทรศัพท์คุยกับแม่ของเขา ขณะที่เหนือฟ้าได้โอกาสหยิบโทรศัพท์มาส่องโซเชียลเพื่อเช็กเรตติ้งของแฟนหนุ่ม โดยใช้โปรไฟล์ชื่อ 'สาวน้อยข้าวโพด' ตามกดไลก์รูปภาพในแอป ๆ หนึ่งของเขา แล้วยังคอมเมนต์ให้กำลังใจภาคีอยู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Pakee Kritkratanadorn บ้าน ถูกใจ 188,920 คน
รถแวนของผอ.ทัพฟ้าจอดยังโรงรถบริเวณบ้านไม้ของภาคี แฟนหนุ่มอนาคตไกลของลูกสาวจึงเดินมาต้อนรับอีกครั้ง"ผมจะพาไปดูห้องนอนครับ""อืม บ้านสวยมากเลยภาคี แล้วนี่เธอปลูกเองเหรอ" ผอ.ทัพฟ้ามองความใหญ่โตของบ้านไม้สไตล์แปลกตาที่เหมือนกับบ้านฝรั่งในต่างประเทศ"ครับ ผมเป็นคนออกแบบเองแล้วก็ควบคุมการก่อสร้างเอง""โห คนเก่ง เก่งสุดยอด" ครูนับเก้าชมไม่ขาดปาก แต่สามีด้านข้างกลับทำหน้าจ๋อยใส่ "ไม่ต้องเลยค่ะ พี่ฟ้าต้องง้อนับ เชอะงอนแล้ว""อ้าวเดี๋ยวค่ะแม่" เหนือฟ้าวิ่งตามแม่เข้าไปในบ้าน จึงเหลือเพียงลูกผู้ชายต่างวัยทั้งสองคนที่กำลังยืนจ้องตาทำสงครามเย็นกันอยู่"ผมช่วยให้อาคืนดีกับคุณแม่ได้นะครับ ถ้าอยากให้ผมช่วยจัดดินเนอร์พิเศษให้ ผมก็ทำให้ได้หมด" ภาคียื่นข้อเสนอเอาใจพ่อของแฟนสาว"งั้นจัดดินเนอร์กับหานักสีไวโอลินให้ให้ฉันหน่อย" ผอ.ทัพฟ้ายิ้มแล้วตบไหล่เจ้าของไร่"แค่นี้เองเหรอครับ ผมนึกว่าจริง ๆ แล้วอาจะมาจับผิดผมซะอีก""อาไม่กล้าขออะไรเธอมากหรอกภาคี แล้วที่เดินทางมาด้วยก็ไม่ได้จะมาจับผิดอะไรเธอกับยัยเหนือ แค่หาที่เหมาะ ๆ ง้อแม่นับเขาเท่านั้นเอง แต่จะทำอะไรกันก็อย่าลืมป้องกันให้ดี แล้วก็เรียกพ่อเธอไม่ต้องเร
9 เดือนต่อมาห้องคลอดบะแต๋ง นิ่มฟ้า น่านฟ้าและวงศาคณาญาติต่างนั่งลุ้นรอลุ้นกับทายาทคนใหม่ที่กำลังจะลืมตาดูโลก แต่มีเพียงคนเดียวที่เอาแต่เดินไปเดินมาจนทุกคนพากันเวียนหัว"หยุ๋ดเตวซะทีเต๊อะ อ้ายเมาหัวโจ้น ๆ แล้ว" บะแต๋งคว้าข้อมือน้องสาว"ก็นิ่งตื่นเต้นเจ้า" นิ่มฟ้าบอกพี่ชายพลางเหลือบมองหน้าประตูห้องคลอด"มานั่งตักอ้ายมา" บะแต๋งอุ้มน้องสาวนั่งลงบนตัก สวมกอดน้องแล้วจับมือที่เย็นเฉียบขึ้นมาเป่า"อ้ายแต๋งหนุนน้อยจะปดพัยก่อ" เด็กหญิงตบมือเปาะแปะลงบนมือพี่"ปลอดภัยสิครับ" พี่ชายกอดรัดน้องสาวแล้วโยกตัวเบา ๆ ขณะที่น่านฟ้าเพิ่งกลับมาจากร้านสะดวกซื้อพร้อมกับยายนับเก้าและตาทัพฟ้า เนื่องจากหม่อมเจ้าภูวสินกับเจ๊ต่ายติดธุระจึงส่งพ่อตาแม่ยายลูกชายมาแทน"น้องออกมารึยัง" เด็กชายนั่งลงพร้อมส่งเยลลี่รูปหมูให้พี่ชายกับพี่สาวกินเล่นระหว่างรอพ่อกับแม่"ยังเลย แต่เดี๋ยวก็คงออกมาแล้วล่ะ" บะแต๋งหันไปคุยกับน้องชายพลันนั้นไฟที่หน้าห้องคลอดก็ดับลงพร้อมกับประตูที่เปิดออก เตียงผู้ป่วยที่มีร่างเหนือฟ้านอนยิ้มแป้นชูสองนิ้วออกมาให้ลูกทั้งสามคนและครอบครัวของเธอและสามีขณะที่ภาคีเดินตามออกมาหลังสุดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับหย
เด็กหญิงเปิดโคมไฟดอกไม้ที่หัวเตียงนั่งพับเพียบไหว้พระแล้วเริ่มอธิษฐานถึงพระจันทร์กลมโตที่ซ่อนตัวอยู่หลังม่านเมฆสีเทา"อ้ายมาสฉา อ้ายมาสฉุดหย่อมาหานิ่งเต๊อะ" นิ่มฟ้าประสานมือแน่น มองท้องฟ้าที่เคลื่อนตัวผ่านหน้าต่างห้อง ทว่าเทพมาสกลับไม่ปรากฏกายเสียที หนูน้อยนั่งรอนอนรอจนตาแทบปิด แล้วรู้สึกน้อยอกน้อยใจที่เทวดาคนโปรดไม่ยอมมาหาแต่ช่วงเวลาเคลิ้มหลับเทพมาสกลับร่วงตุ้บลงมาบนเตียงของนิ่มฟ้าโป๊ก!หน้าผากของทั้งคู่เขกชนกัน"โอ๊ย! เจ๋บ ๆ" นิ่มฟ้าจับหน้าผากของตน ดวงตากลมใสสอดประสานกับคนด้านบน เทวกุมารรูปหล่อกะพริบตาปริบ ๆ นิ่มฟ้าได้โอกาสรวบกอดอีกฝ่ายเสมือนเป็นตุ๊กตาขนาดเท่ามนุษย์"ได้โอกาสเอาใหญ่เชียว" เขายิ้มแต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามเด็กหญิง แต่รู้ดีว่าไม่เหมาะสมจึงรีบดึงตัวออกอย่างว่องไว"อ้าว หนีนิ่งตำไมล่ะ นิ่งกิ๊ดเติงหาอ้ายมาสเน้อ" นิ่มฟ้าคลานสี่ขามาถึงปลายเตียง แล้วนั่งพับเพียบเรียบร้อยทำหน้าจ๋อย"เป็นเด็กเป็นเล็กไม่สมควร" เขามักจะย้ำเรื่องความไม่สมควรจนเด็กหญิงจำได้ขึ้นใจ"ตำไมซอบอู้เรื่องไม่ฉมควร ไม่ฉมควรเป็นยังไงเจ้า""เอาไว้อธิบายวันหลังละกัน ตอนนี้ดึกมากแล้วน้องควรนอนหลับ" เทพมาสพยักพเยิดใ
ภารกิจที่ญี่ปุ่นจบลงอย่างรวดเร็วแม้ก่อนวันเดินทางภาคีต้องไปเป็นวิทยากรที่มหาลัยเก่าพร้อมกับพาบะแต๋งไปโชว์ตัว เนื่องจากคลิปที่เป็นไวรัลในญี่ปุ่นนั้นมีภาพการแสดงของบะแต๋งและหุยหุยรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ทุกคนยังให้การต้อนรับและชื่นชมเขาและลูกชายอย่างอบอุ่น หลายคนยังออกปากว่าถ้ามีโอกาสจะไปเที่ยวที่ไร่พิทักษ์มหิงสาเพื่อชมการแสดงควายแคระหลังจากเดินทางถึงบ้าน ครอบครัวเขาและครอบครัวภรรยาต่างแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน ขณะที่เหนือฟ้ามีอาการเจ็ทแลคทำให้มีอาการอ่อนเพลีย ทั้งที่กลับมาได้เกือบสามวันแล้วแต่เธอกลับไม่สดใสร่าเริงนั่นจึงจนทำให้ภาคีเริ่มวิตกจริต"เหนือโอเคไหม ไม่สบายตัวตรงไหนบอกพี่นะ" เขาหยิบหวีมาสางผมที่พันกันยุ่งเหยิง รู้เลยว่าภรรยากำลังเหนื่อยล้าขนาดผมเผ้ายังไม่หวีให้เรียบร้อย"แค่เหนื่อยค่ะ แล้วเหนือก็รู้สึกกลัวด้วย ฮึก..ฮึก" เธอมักจะเห็นภาพตอนที่ตัวเองตกเลือดซ้ำ ๆ ในหัว ครั้งนั้นมันเหมือนฝันร้ายที่ฝังอยู่ในใจของเธอเรื่อยมา เหตุการณ์ในวันวานที่สูญเสียลูกคนที่สองไป"ไม่เป็นไรครับ ดีแล้วที่กลัว การที่เรากลัวไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนะ และเวลาที่เหนือกลัวพี่จะได้รู้ว่าต้องดูแลเหนือยังไง" เข
กองถ่ายรายการให้เวลาเด็กทั้งสามคนซักซ้อม เหนือฟ้าที่นั่งกินผลไม้จนจุกจึงลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย เดินมาให้กำลังใจลูก ๆ“บะแต๋ง นิ่มน่านมาหาแม่เร็วค่ะ” เหนือฟ้ากวักมือเรียกแก๊งเด็กแสบจึงรีบสับขาไปหาอย่างไว“มีอะหยังบะหนุนน้อย” บะแต๋งกุมมือแม่“แม่แค่อยากให้กำลังใจครับ แม่เชื่อว่าพวกลูกทำได้” เหนือฟ้าลูบศีระษะเล็กของลูกทั้งสามคนละที“แต๋งทำได้ครับ” บะแต๋งโผเข้ากอดแม่ พิงหน้ากับท้องเพื่อขอกำลังใจจากน้องแฝดสามที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่ช้า “อ้ายขอกำลังใจ๋หน่อยเน้อละอ่อนทั้งหลาย” “น่านก็ตำได้ น่านไปฝึกฉ้อมกับปาขี้ก่อนเน้ออี่แม่” น่านฟ้าชูสองนิ้ววิ่งนำไปหาพ่อเป็นคนแรก ตามด้วยบะแต๋งเป็นคนที่สอง เหลือเพียงนิ่มฟ้าที่ยังยืนท่องภาษาญี่ปุ่นวนไปเวียนมาด้วยความไม่มั่นใจ“คนนี้ล่ะทำได้หรือเปล่า” เหนือฟ้ายื่นมือไปให้ลูกสาวจับ เด็กหญิงจับมือแม่มาหอมเพื่อสร้างกำลังใจให้ตนเอง“นิ่งตำอย่างอื่นได้จ้าว แต่นิ่งจำปาสายี่ปุ่งบ่ได้” นิ่มฟ้าบอกปัญหาที่ตนเองมีให้แม่ฟัง“เขาให้พูดว่า ชิอาวาเสะ เดส เนะ ก็แค่คำพูดเพียงหกคำเท่านั้นเอง เหมือนตอนที่หนูนับควายหกตัวนั่นแหละ”เพราะเธอรู้ดีว่าลูกสาวเห็นทุกอย่างเป็นควายไปซะหม
"ตึ่งได้ล้าวปาขี้ หนุนน้อยให้มาตามไปหม่ำ ๆ"ปึ้ก! ปึ้ก!นิ่มฟ้าใช้ตุ๊กตาควายที่พกมาจากไทยด้วยตีลงไปที่ท้องของพ่อ"โอ้ย ๆ หยุ๋ดบุ๋บตี๋ป้อก่อน แล้วอี่แม่ล่ะ" เขาสะลืมสะลือกวาดตามองหาภรรยาท้องโต ผลปรากฏว่าเหนือฟ้ากำลังนั่งกินมื้อเช้าแบบญี่ปุ่นชมวิวทิวทัศน์ผ่านหน้าต่างห้องพักอยู่กับบะแต๋ง"อะหยังป้อเกเยเกยุงจะอี้" น่านฟ้ารีบวิ่งมาฉุดแขนพ่อ โดยมีสายตาของบะแต๋งกับเหนือฟ้ามองดูอย่างขำขัน"ป้อไม่เคยเกเรเกตุงนะครับ พ่อเป็นเด็กดีมาตลอด ถ้าลูกบ่าเจื่อก็ถามอี่แม่ได้เลย" ผู้เป็นพ่อพยักพเยิดให้ลูกแฝดไปขอความเห็นจากแม่ที่กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้า"แต่บางครั้งป้อของพวกหนูก็เป็นเด็กไม่ดีเหมือนกันนะ" สาวอวบทิ้งระเบิดตู้มใหญ่ให้ นิ่มฟ้ากับน่านฟ้าหันขวับจิกตาเขียวปัดมาทางพ่อผมหยิกหยักศกด้วยความขุ่นข้องหมองใจ"โอ้ยถึงพี่จะเป็นเด็กไม่ดีแต่ก็ไม่เคยทำอะไรเหนือได้ เหนืออึดยิ่งกว่ากระทิงซะอีกใครจะไปสู้" ภาคีหลุดปากเปรียบเทียบเหนือฟ้าเป็นกระทิง"พี่คีหาว่าเหนือเหมือนกระทิงเหรอคะ" ด้วยอาการฮอร์โมนคนท้องที่พลุ่งพล่านแปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายทำให้วาจาที่สามีเอื้อนเอ่ยนั้นฟังไม่ค่อยเข้าหูนัก"ก็พี่กำลังชมว่าเ
เนื่องจากพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปสวนผลไม้ยาบุตั้งแต่ช่วงเช้าทุกคนจึงรีบเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ราวเที่ยงคืนเด็กหญิงรู้สึกอยากปัสสาวะ ตอนที่นิ่มฟ้าลืมตาขึ้นกวาดมองไปรอบห้องพักเงียบสงัด เธอเห็นพ่อกำลังพยุงแม่ออกมาจากห้องน้ำ หนูน้อยฉีกยิ้มแป้นที่พ่อกับแม่รักและดูแลกันดี แต่ก็อดสงสารแม่ไม่ได้ที่ต้องมีถุงหน้าท้องอันมหึมาเพราะข้างในมีน้องของเธอถึงสามคน"นิ่งชาไม่ยบควนป้อขี้กับหนุนน้อย" นิ่มฟ้าแสนกลัวแต่ก็ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำด้วยตัวเอง เด็กหญิงเดินย่องออกไปนอกห้องนอนตรงไปที่ห้องน้ำซึ่งเปิดไฟสีส้มสลัวริบหรี่ ดวงตากลมแป๋วเหลือบมองเพดาน มองหน้ามองหลังด้วยอาการหวาดกลัว กลัวว่าจะเจอผีญี่ปุ่นผมยาวที่เธอเคยเห็นในภาพยนต์"ไม่เข้าซะทีล่ะ" เสียงเย็นวาบเป่ารดอยู่ข้างหู แม้จะรู้ดีว่าเป็นเสียงของเทวดาคนโปรด แต่เธอก็ยังตกใจจนต้องถอยหลังกรูดอยู่ดี"เต๋วะดามายี่ปุ่งได้โตยก๊ะ" นิ่มฟ้ายืนตัวลีบติดผนังห้อง"ไปได้ทุกที่บนโลกนั่นแหละ ถ้ามีพลังมากพอ" เทพมาสเอ่ยพลางเดินไปหยุดหน้าห้องน้ำผายมือเชิญให้นิ่มฟ้าเข้าไประบายทุกข์"ห้ำหายตั๋วไปตี้ไหนเน้อ นิ่งว่านิ่งปวดอึ๊ นิ่งต้องเข้านานแน่ ๆ" นิ่มฟ้าเดินมาประจันหน้ากับเทวกุมารยื่
ทั้งที่ตอนแรกภาคีกะว่าจะชวนอินเหลากับเดือนเพ็ญมาช่วยดูแลเด็ก ๆ เพราะเขาห่วงว่าเหนือฟ้าจะดูลูกไม่ไหว แต่สุดท้ายทั้งสองก็อดมาเพราะมีนักท่องเที่ยวเข้าพักจำนวนมากเนื่องจากเป็นช่วงไฮน์ซีซั่น เขาจึงตัดสินใจโทรไปยืมตัวแม่ทั้งสองมา ทว่าพวกพ่อขี้หวงก็ห่างเมียไม่ได้ ดังนั้นทุกคนจึงพากันยกโขยงกันมาทั้งหมด"ลูกบ่ชอบรึที่ป้อมาโตย" หม่อมเจ้าภูวสินที่กำลังนั่งโซ้ยอูด้งควันโขมง"เปล่านี่ครับ แค่สงสัยว่าป้อตามมาหวงแม่หรือตัวติดหลานกันแน่" ภาคีหรี่ตามองพ่อที่เอาแต่ลอยหน้าลอยตากินอยู่ข้างแม่"ป้อขี้นิ่งชาผ้อนก้าวเน๋วปาฉ้มให้กิ๋นเน้อ" นิ่มฟ้าหยิบทิชชู่เช็ดมือไม้จนสะอาดแล้วหยิบซูชิที่มีแต่ขาวล้วนจุ่มลงบนโชยุ"ฮ่าฮ่า เขาเรียกว่าซูชิหน้าปลาแซลมอนลูก บ่าใจ้ข้าวเหนียวปลาส้ม แล้วทำไมซูชิชิ้นนี้ถึงไม่เห็นมีเนื้อปลาเลยครับ" พ่อชี้ไปที่ซูชิชิ้นพอดีคำในมือเล็ก"นิ่งเป็นกนกิ๋นปาฉ้มเอง เพราะว่าป้อจาหลาดแล้ว นิ่งก็เลยอยากจาหลาดเหมือนป้อ" ด้วยคำพูดที่น่ารักเกินจะโกรธลง ทำให้ภาคียอมกินแต่ข้าวเปล่า ๆ โดยปราศจากเนื้อปลาแซลมอน"ยี่ปุ่งมีปิ้งฉิ่บก่อ อี่แม่น่านอยากกิ๋นปิ้งฉิ่บ" น่านฟ้าติดเรียกปิ้งสิบตามพี่ชาย"มาญี่ปุ่นไม่มี
การเดินทางกลับบ้านที่แม่ฮ่องสอนครั้งนี้เสมือนเป็นการพบปะสังสรรค์ระหว่างครอบครัวเพื่อฉลองข่าวดีที่สารคดีรายการเชฟสองสัญชาติได้รับการต่อสัญญาให้ถ่ายทำถึงต่ออีกหลายซีซั่น"วันนี้จะทำอะไรกินเหรอเตียว" ภาคีจูงมือนิ่มฟ้าออกมาจากบ้านตรงเข้ามาถามน้องชายที่กำลังก่อไฟอยู่หน้าเตาก่ออิฐแดง"ซุปกระดูกหมูบัวหิมะกับไก่ผัดมู่กวาครับ" เชฟหนุ่มเผยเมนูมื้อเช้าที่เขาจะทำให้ทุกคนกิน"มู่คะวากืออะหยังอาเตี๋ยว" นิ่มฟ้าช่างซักเริ่มสงสัย"หน้าตามันคล้ายมะละกอผลเป็นสีเหลืองมีรสเปรี้ยว เอามาทำอาหารอร่อยมากครับ" เตียวหุยพยายามย่อยสาระให้หลานสาวเข้าใจ"ว้าวแซ่บซี้ดแน่ นิ่งอยากกิ๋นแล้ว" เด็กหญิงกลืนน้ำลาย“อ้อแล้วให้พี่ช่วยอะไรไหม เตียวมีบัวหิมะหรือยัง” เขามองหาบัวหิมะรอบตัวน้องชาย“เฮ้อลืมซะสนิท งั้นพี่คีไปขุดให้ได้ก่อ” เตียวหุยโบ้ยหน้าที่ให้พี่ชาย“นิ่งชาไปขุดให้อาเตี๋ยวเองจ้าว” นิ่มฟ้ารับอาสาแล้วพุ่งตัวไปยังเนินเขาโดยไม่รอพ่อ“เดี๋ยว ๆ ก่อนลูก โอ้ยแม่คนนี้” ภาคีซอยเท้าตามลูกสาวจอมซนลงไปถึงตีนเขาแล้วรีบช้อนตัวลูกขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน“ฮ่า ๆ ป้อขี้ไม่ทันนิ่ง แล้วหมู่เหาชาไปเข็บงัวหิมะตี้ไหน ต้องเลิ้วซ้ายหรือว่าเลิ้ว
ที่โรงพยาบาลในตัวเมืองเด็ก ๆ ทุกคนนั่งกินไอศกรีมรอพ่อกับแม่ในห้องอัลตราซาวด์โดยมีบะแต๋งเป็นหัวหน้าแก็งคอยดูแลน้อง ในห้องตรวจเหนือฟ้านอนอยู่บนเตียงขณะที่หมอเจ้าของครรภ์กำลังใช้เจลเย็นทาท้องเพื่อทำให้คลื่นความถี่สูงถูกส่งผ่านได้ดียิ่งขึ้นเมื่อหมอรุ่นป้าแตะหัวตรวจอัลตราซาวน์บนหน้าท้องนูนใหญ่ แล้วเคลื่อนไปตามตำแหน่ง ครู่หนึ่งคลื่นเสียงสะท้อนกลับมายังตัวรับสัญญาณภาพและปรากฏเป็นภาพขาวดำบนหน้าจอ"ท้องรอบนี้ของคุณแม่ใหญ่กว่ารอบก่อนอีกนะคะ" หมอรุ่นแม่สงสัย"นี่ก็เข้าห้าเดือนแล้วใช่ไหมคะคุณหมอ" เหนือฟ้ารู้สึกไม่สบายใจกลัวว่าลูกในท้องจะเกิดความผิดปกติอะไร ภาคีที่นั่งอยู่ข้างเตียงจึงกุมมือภรรยาแน่น"ใช่ค่ะคุณแม่ โอ๊ะ อุ้ย ๆ ว้าว" จู่ ๆ หมอสาวรุ่นใหญ่วัยห้าสิบต้นรีบเคลื่อนหัวจับไปรอบบริเวณท้อง พลันนั้นภาพของสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ทั้งสามก็โชว์เด่นหราบนจอแสดงผล"นั่นทารกใช่ไหมคะ เหมือนว่าจะมากกว่าสองเลยค่ะคุณหมอ" เหนือฟ้าตื่นเต้น สงสัยวันนั้นที่เธอหลุดพูดว่าแฝดสามคนจะกลายเป็นความจริงขึ้นมาซะแล้ว"ไม่ผิดค่ะ จำนวนน้องในท้องคุณแม่มีถึงสามคนด้วยกัน เคสคุณเหนือถือว่าหาได้ยากมากเลยนะคะ ยังไงหมอดีใจด้วยนะคะรอ