รุ่งเช้าของวันเสาร์เหนือฟ้าเก็บเสื้อผ้าและของสำคัญลงกระเป๋าสะพายใบย่อม ส่วนที่เหลือกะว่าจะไปเอาเพิ่มเติมที่บ้าน หญิงสาวออกมานั่งรอภาคีที่หน้าทีวี พักหนึ่งเขาก็เดินตัวหอมฉุยจนกลิ่นกายตีขึ้นจมูก
"กลิ่นเซ็กซี่จัง" เหนือฟ้านั่งเขินบิดแล้วลอบมองภาคีที่กำลังกดโทรศัพท์คุยกับแม่ของเขา ขณะที่เหนือฟ้าได้โอกาสหยิบโทรศัพท์มาส่องโซเชียลเพื่อเช็กเรตติ้งของแฟนหนุ่ม โดยใช้โปรไฟล์ชื่อ 'สาวน้อยข้าวโพด' ตามกดไลก์รูปภาพในแอป ๆ หนึ่งของเขา แล้วยังคอมเมนต์ให้กำลังใจภาคีอยู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ภาคีเห็นว่าเหนือฟ้ากำลังนั่งพิมพ์แชตยิก ๆ เขาจึงย่องมาหาเธอด้านหลัง แล้วเห็นรูปควายหน้าตาคุ้น ๆ เหมือนแม่บ่าผางควายตัวเมียที่เขาช่วยไถ่มาจากโรงเชือดทางลำปางเมื่อสองปีก่อน "เหนือ"
สาวท่องโซเชียลสะดุ้งเฮือกรีบร้อนปิดหน้าจอโทรศัพท์หนี "ไปกันหรือยังคะ"
"เมื่อกี้เหนือดูรูปควายอยู่เหรอ"
"อ้อ เปล่าค่ะ พอดีเลื่อนไปเจอเฉย ๆ เหนือว่าเรารีบไปกันดีกว่าเดี๋ยวพ่อกับแม่จะรอนะคะ" เหนือฟ้าเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อน
"พ่อกับแม่พี่รออยู่ที่ร้านปลาเผาพุงพุ้ยแล้ว รวมทั้งพ่อแม่เหนือด้วย"
"หืม" เหนือฟ้าได้แต่พยักหน้ารับอย่างงุนงง โดยไม่รู้เลยว่าเดตต่างจังหวัดครั้งนี้จะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด
ทั้งสองมาถึงร้านปลาเผาพุงพุ้ย ร้านปลาเผาและศูนย์รวมเมนูปลาในตำนานซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเจ๊กระต่าย แม่ของภาคี ตอนที่เขาเดินเข้ามาในบ้าน ชายหนุ่มก็พบกับเตียวหุย น้องชายสายเลือดเชฟอายุสิบเก้าปีที่ดั้นด้นไปเรียนทำอาหารตั้งแต่เด็กกำลังยืนช่วยพ่อครัวใหญ่ของร้านย่างปลาอยู่หน้าบ้าน
"เตียว ย่างปลาให้ลูกค้าเมื่อเจ้าเลยก๊ะ" ภาคีเหนี่ยวคอน้องชายสุดที่รักเข้ามากอด
"อืม มีลูกค้ามาสั่งจะเอาไปฝากคนที่เฮือน แล้วอ้ายจะกิ๋นก่อ น้องจะย่างให้กิ๋น" เตียวหุยหันไปถามพี่ชายที่ตัวสูงกว่า
"อ้ายอยากกิ๋นน้ำพริกขี้กา" ยิ้มหวานให้น้องแล้วจับมือเหนือฟ้าเข้ามาทักทายให้น้องชายรู้จัก "อ้อลืมแนะนำเลย นี่เหนือฟ้า แฟนพี่เอง"
"สวัสดีเจ้า เปิ้นจื่อเตียวหุยเจ้า ปี่เหนืองามแต๊ ๆ จะอี้สเปกอ้ายคีเลย" เตียวหุยยิ้มแฉ่งส่งให้หญิงสาวข้างกายพี่ชาย
"ขอบคุณเจ้า" เหนือฟ้ายิ้มแป้นให้เตียวหุย
"เด็ก ๆ มากิ๋นข้าวได้แล้ว" หม่อมเจ้าภูวสินตะโกนเสียงดังออกมาจากครัวหลังร้าน ภาคีรีบจูงมือเหนือฟ้าเข้าไปทักทายพ่อกับแม่ที่กำลังยกกับข้าวกับปลามาวางบนโต๊ะ
"เฮ้ยไอ้ภู กูกับเมียมาฝากท้องด้วยแล้ว เดี๋ยวจะได้ขับไปนครนายกยาว ๆ" ผู้อำนวยการทัพฟ้าควงแขนมากับครูนับเก้า เหนือฟ้าตวัดมองหน้าภาคีอย่างสับสนทันที เพราะได้ยินว่าพ่อกับแม่จะไปเที่ยวกับเธอด้วย
"พ่อคะ เหนือจะไปกับพี่คีสองคน พ่อจะตามไปด้วยทำไมอ่ะ" เหนือฟ้าเท้าสะเอวประจันหน้ากับพ่อ
"ก็พ่อจะไปเดตกับแม่ เมื่อสองวันก่อนเพิ่งจะครบรอบวันแต่งงาน พ่อก็อยากพาแม่ไปเที่ยวตามประสาผัวเมียไม่ได้เหรอ"
ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ เหนือฟ้าหน้าบึ้งตวัดมองภาคีเพื่อขอความช่วยเหลือ "พี่คี"
"ก็แสดงว่าพ่อเหนืออนุญาตให้เราสองคนไปค้างคืนที่นครนายกด้วยกัน แต่ต้องอยู่ในสายตาพ่อแม่ ใช่ไหมครับ"
ภาคีกล่าวสรุปสั้น ๆ ตามความหมายลึก ๆ ที่ผู้เป็นพ่อตั้งใจจะสื่อสารกับลูกสาว
"รู้ก็ดีแล้วนี่" ผอ.ทัพฟ้ายิ้มกริ่มแล้วเริ่มกินอาหารเหนือรสเลิศอย่างเอร็ดอร่อย ผิดกับเหนือฟ้าที่รู้สึกว่ามื้อเช้าไม่ค่อยถูกปากเธอนัก เพราะพ่อเอาแต่จ้องหน้าเธอไม่หยุดตลอดการกิน ทั้งที่แม่เชียร์เธอทุกอย่าง แต่พ่อกลับตามประกบเหมือนเจ้ากรรมนายเวรตามติด
เหนือฟ้าลากแม่ออกมาคุยหน้าร้าน ระหว่างที่พ่อของเธอยืนเทศน์ภาคีฉอด ๆ "แม่คะ ทำไมไม่ห้ามพ่อล่ะ"
"พ่อเขาไม่ได้ว่าอะไรหรอกลูก ก็อ้างไปงั้นแหละ ความจริงอยากไปจู๋จี๋กับแม่มากกว่า" ครูนับเก้าทำหน้าเศร้า
"อ้าว ทำไมล่ะคะ ทะเลาะกันเหรอ" เหนือฟ้าตรึงหน้าแม่ให้หันมาสบตา "บอกหนูหน่อย พ่อทำอะไรให้แม่เสียใจเหรอคะ"
"ก็วันครบรอบแต่ง แม่อุตส่าห์เปิดห้องเพื่อจะสวีตหวานกับพ่อ แต่ตาแก่นั่นก็เมาหัวราน้ำ แถมยังถีบแม่ตกเตียงจนหัวปูดเป็นลูกมะนาวเลย น่าโมโหจริง ๆ"
"โธ่! พ่อนะพ่อ ทำแม่คนเก่งของเหนือได้ลงคอ งั้นเหนือจะช่วยให้แม่กับพ่อได้ป่ำปั๊มกันสำเร็จนะคะ แต่แม่ก็ต้องกันพ่ออย่าให้มาเกาะแกะพี่คีของเหนือ เพราะเหนือกลัวพี่คีอึดอัดใจค่ะ"
"ภาคีนิสัยดีมากใช่ไหม เหมือนหนูจะหลงรักพี่เข้าแล้วสิ ใช่เปล่า ๆ เจ้าหญิงเต้าหู้ของแม่" ครูนับเก้าบีบแก้มลูกสาวด้วยความมันเขี้ยว
"แม่ปล่อยแก้มเหนือก่อน คนมองกันหมดแล้ว" เหนือฟ้าพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ครูนับเก้าก็ฟัดแก้มลูกสาวคนเล็กไม่หยุด เพราะถ้าเปรียบเทียบลูกสาวสองคนที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ เหนือฟ้า ไม่ใช่ราตรีคนโต
ภาคีขับรถจี๊ปสีดำของตนนำรถแวนของครอบครัวเวหะชลการมาถึงไร่พิทักษ์มหิงสา ซึ่งเป็นมรดกที่พ่อมอบให้เขาในวันเรียนจบปริญญาตรี เขาจึงค่อย ๆ พัฒนาที่ดินแห้งแล้งแห่งนี้จนกลายเป็นพื้นที่เขียวขจีที่เต็มด้วยระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์
รถเจ้าของไร่จอดสนิทที่หน้าบ้านไม้สไตล์รัสติก หรือบ้านที่มีการออกแบบสไตล์อเมริกันผสมผสานความเป็นโรงนาในชนบทโดยมีวัสดุหลักเป็นงานไม้ บ้านหลังนี้มีขนาดสามชั้นครึ่งแต่ความกว้างขวางของบ้านทำให้มีห้องนอนมากถึงหกห้องด้วยกัน
"บ้านสวยจังเลยค่ะ"
เหนือฟ้าก้าวขาเปิดประตูลงมาก่อนภาคี ทันใดควายเผือกตัวใหญ่ก็เดินเข้ามาทักทายแขกหน้าใหม่ที่ไม่เคยพบหน้า
"พ...พี่คี ควาย ควายจะขวิดเหนือไหม" เหนือฟ้ายืนตัวลีบตัวแบนเกาะประตูด้วยความหวาดเสียว เพราะเขาควายตรงหน้าทั้งยาวและใหญ่ ถ้าเกิดมันขวิดเธอขึ้นมารับรองว่าไส้แตกแน่นอน
"ฮ่าฮ่า ไม่ขวิดครับ เขาเข้ามาทักทายเฉย ๆ" ภาคีเดินอ้อมมาหาแฟนสาว แล้วลูบหัวของ 'ข้าวนึ่ง' แม่ข้าวเผือกตัวแรกที่เขาไถ่มาจากเจ้าของฟาร์มควายที่เกิดอุบัติเหตุจนต้องใช้ค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก
"ไม่ขวิดแน่นะคะ" เหนือฟ้ามือสั่น แต่ได้ภาคีจับมือของเธอวางลงบนหัวควาย ทำให้หญิงสาวอุ่นใจ พอเขาปล่อยมือออก เธอก็ค่อย ๆ ลูบหัวของมันอย่างนุ่มนวล
รถแวนของผอ.ทัพฟ้าจอดยังโรงรถบริเวณบ้านไม้ของภาคี แฟนหนุ่มอนาคตไกลของลูกสาวจึงเดินมาต้อนรับอีกครั้ง"ผมจะพาไปดูห้องนอนครับ""อืม บ้านสวยมากเลยภาคี แล้วนี่เธอปลูกเองเหรอ" ผอ.ทัพฟ้ามองความใหญ่โตของบ้านไม้สไตล์แปลกตาที่เหมือนกับบ้านฝรั่งในต่างประเทศ"ครับ ผมเป็นคนออกแบบเองแล้วก็ควบคุมการก่อสร้างเอง""โห คนเก่ง เก่งสุดยอด" ครูนับเก้าชมไม่ขาดปาก แต่สามีด้านข้างกลับทำหน้าจ๋อยใส่ "ไม่ต้องเลยค่ะ พี่ฟ้าต้องง้อนับ เชอะงอนแล้ว""อ้าวเดี๋ยวค่ะแม่" เหนือฟ้าวิ่งตามแม่เข้าไปในบ้าน จึงเหลือเพียงลูกผู้ชายต่างวัยทั้งสองคนที่กำลังยืนจ้องตาทำสงครามเย็นกันอยู่"ผมช่วยให้อาคืนดีกับคุณแม่ได้นะครับ ถ้าอยากให้ผมช่วยจัดดินเนอร์พิเศษให้ ผมก็ทำให้ได้หมด" ภาคียื่นข้อเสนอเอาใจพ่อของแฟนสาว"งั้นจัดดินเนอร์กับหานักสีไวโอลินให้ให้ฉันหน่อย" ผอ.ทัพฟ้ายิ้มแล้วตบไหล่เจ้าของไร่"แค่นี้เองเหรอครับ ผมนึกว่าจริง ๆ แล้วอาจะมาจับผิดผมซะอีก""อาไม่กล้าขออะไรเธอมากหรอกภาคี แล้วที่เดินทางมาด้วยก็ไม่ได้จะมาจับผิดอะไรเธอกับยัยเหนือ แค่หาที่เหมาะ ๆ ง้อแม่นับเขาเท่านั้นเอง แต่จะทำอะไรกันก็อย่าลืมป้องกันให้ดี แล้วก็เรียกพ่อเธอไม่ต้องเร
เช้าวันอาทิตย์ผอ.ทัพฟ้าและครูนับเก้าเดินทางกลับกรุงเทพก่อน โชคดีที่ได้ภาคีจัดดินเนอร์พร้อมกับดนตรีหวานชื่นให้ทำให้พ่อแม่ของเหนือฟ้ากลับมาคืนดีกระหนุงกระหนิงกันดังเดิมหลังมื้อเช้าภาคีขับรถกอล์ฟพาแฟนสาวไปชมวิวทิวทัศน์ในไร่ แล้วหยุดรถที่โรงเรือนปลูกวนิลาด้านข้างมีแปลงผักที่ยังไม่ได้เพาะปลูกปล่อยโล่งอยู่"พี่คีกำลังจะปลูกอะไรเพิ่มเติมเหรอคะ""ยังไม่รู้เหมือนกันครับ คงจะปลูกผักอายุสั้นเก็บเกี่ยวได้เร็ว แล้วเหนืออยากปลูกอะไรล่ะ พี่มีเมล็ดให้เลือก" ภาคีบอกแล้วหายเข้าไปในโรงนาหลังเล็กข้างโรงวนิลา แล้วกลับออกมาพร้อมกับซองเมล็ดปลูกผักเหนือฟ้าก้มดูผักแต่ละชนิดในตะกร้าและสะดุดตาไปที่ผักของโปรดอย่าง แตงกวา "ปลูกอันนี้ค่ะ""ทำไมปลูกแตงกวาล่ะ พี่นึกว่าเหนือจะปลูกพวกคะน้า กวางตุ้งอะไรแบบนี้ซะอีก""เหนือไม่ค่อยชอบกินคะน้าค่ะ มันเหม็นเขียว แต่เหนือชอบแตงกวามาก ๆ""มีผักอะไรที่เหนือไม่ชอบอีกไหม""ไม่ชอบกินหอมแดงกับต้นหอมค่ะ ต่อให้ทำให้เละหรือเปื่อยก็ไม่ชอบอยู่ดี""อย่างน้อยก็กินผักอย่างอื่นได้ ไปเถอะเดี๋ยวพี่จะพาไปปลูกแตงกวา" เขาบอกแล้วเดินหายเข้าไปในโรงนาหลังเล็กอีกรอบแล้วกลับออกมาพร้อมกับถุงดำหยอดเม
เช้านี้เหนือฟ้าเดินทางไปมหาลัยด้วยตนเองโดยรถไฟฟ้าใต้ดินที่ติดกับคอนโด เพราะเมื่อคืนภาคีทำงานหามรุ่งหามค่ำ เธอจึงไม่อยากรบกวน แล้วปล่อยให้เขานอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนิสิตสาวใช่เวลาในการสอบสามชั่วโมงเต็มตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงสิบโมง แล้วเรียนต่อภาคบ่ายจนถึงสี่โมงเย็น ก่อนกลับจึงแวะซื้อของกินมากมายไปฝากเขา"คุณเหนือฟ้ารึเปล่าครับ" รปภ.หน้าคอนโดเดินเข้ามาดักหน้าแล้วก้มลงดูรูปในโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบว่าใช่ตัวจริงหรือเปล่า"ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ""พอดีเจ้าของห้อง 909 ฝากคีย์การ์ดไว้ครับ เห็นว่ามีธุระด่วน""อ้อ ขอบคุณค่ะ" เหนือฟ้ารับคีย์การ์ดของภาคีมาจากมือของรปภ.แล้วเดินกลับห้องพักด้วยสีหน้าเป็นกังวล จึงตัดสินใจโทรไปหา"พี่คีอยู่ไหนคะ เหนือกลับมาถึงห้องแล้วนะคะ""ฮัลโหลเหนือ พี่ขอโทษนะ พี่ต้องบินด่วนกลับมาแม่ฮ่องสอน พอดีรถคนงานประสบอุบัติเหตุ คนงานบาดเจ็บสามคนพ่อเลยส่งพี่มาดูแลพวกเขา""แล้วเป็นอะไรกันมากไหมคะ""ยังไม่รู้เลยครับ พี่ต้องรอไปสอบถามอาการจากหมอที่โรงพยาบาลก่อน ยังไงสามสี่วันนี้เหนืออยู่คนเดียวไปก่อนนะ ถ้าอยู่คนเดียวไม่ได้ เหนือก็กลับไปนอนที่บ้านก่อน""ไม่เป็นไรค่ะ เหนืออยู่ได้ เดินทาง
เสียงนาฬิกาปลุกของเหนือฟ้าดังขึ้นตั้งแต่ตีห้า เช้านี้เธอคิดจะทำอาหารให้ภาคีกินก่อนไปเรียน แต่หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พอเปิดประตูออกจากห้องนอนกลับพบว่าพ่อครัวหนุ่มกำลังยืนผัดอะไรบางอย่างอยู่หน้าเตา สวมผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนรูปควาย เหนือฟ้าเดินตรงมาหาภาคีที่เตา ชะโงกหน้าลงไปดูเมนูส่งกลิ่นหอมในกระทะ "ผัดบ่ะหนุน ผัดแบบใส่พริกแกงเผ็ด ใช้ขนุนอ่อนหน่อย กินตอนร้อน ๆ อร่อยมาก น้องชายพี่ทำให้กินบ่อย" ภาคีบอกแล้วปิดแก๊สเทผัดขนุนอ่อนใส่จาน"พร้อมกินค่ะ หอมน่ากินมาก ๆ เลย""ผัดบ่ะหนุนอย่างเดียวเหรอที่น่ากิน คนทำล่ะ" ภาคีถามขณะเดินนำจานผัดเผ็ดขนุนกลิ่นหอมไปวางที่โต๊ะ โดยมีเหนือฟ้าทำหน้าที่คดข้าวสองจานตามไปทีหลัง"คนทำก็น่ากินอยู่นิดนึง" นิสิตสาวนั่งลงฝั่งตรงข้าม พูดเสียงเบาอย่างอาย ๆ"อนาคตพี่จะให้เหนือกินแล้วกันนะ"เขายังคงตะล่อมและหว่านล้อมให้เธอใจแตก โชคดีที่พี่คีไม่ชอบคนชอบบังคับฝืนใจ การคบหากับเขาจึงมีแต่ความสบายใจภาคีขับรถไปส่งเหนือฟ้าแถมยังแวะซื้อของกินมากมายให้เธอกินระหว่างช่วงพักกลางวัน"อิจฉาอ่ะ พี่คีดูแลเพื่อนรักแก้วดีขนาดนี้เลยเหรอ ดูดิของกินเพียบเลย แฟนแก้วนะทั้งขี้งกทั
*มีฉากหดหู่โปรดทำใจดี ๆ"เมื่อคืนภาคีกล่อมเหนือฟ้าหลับ เขาทำเพียงตบ ๆ หลังเธอราวกับปลอบใจเด็กหญิงที่ยังไม่โต ถึงในใจอยากจะขึ้นไปนอนกอดเธอไว้ แต่กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้เขากลัวว่าจะทิ้งเธอไม่ลง เวลาสามปีที่ญี่ปุ่นสำหรับเขามันช่างรู้สึกยาวนานเหมือนกับสามสิบปี แค่นึกถึงตอนที่ไม่ได้เจอเหนือฟ้า ไม่ได้จับมือ ไม่ได้จูบ เขาก็รู้สึกทรมานใจไปหมดสามวันที่เหลือก่อนจะถึงวันเดินทางภาคียังคงไปรับไปส่งเหนือฟ้าและดูแลจนถึงวินาทีสุดท้าย หลังเลิกเรียนเขาพาเธอไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ดูหนัง และโยนโบว์ลิ่งด้วยกัน บ้างก็พาไปเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนแวะกินเมนูเด็ดร้านดังเรียกได้ว่าทำครบกระบวนการของคนที่เป็นแฟนกันอย่างดีที่สุด"เหนือ พี่ให้ครับ" ภาคีไปเจอตุ๊กตาควายจากร้านขายตุ๊กตาแห่งหนึ่งที่ตลาด เขาจึงแวะซื้อมาฝากเหนือฟ้า"ตัวเท่าฝ่ามือเอง ราคาเท่าไหร่คะ" เหนือฟ้ากอดตุ๊กตาควายดำตัวเล็กแล้วก้มลงฟัดมันอย่างมันเขี้ยว"เจ็ดสิบเก้าบาทครับ""แพงเหมือนกันนะคะ เหนือนึกว่าตัวละห้าสิบบาทซะอีก""ก็มันเหลือตัวเดียวในร้านแล้ว พี่ก็เลยซื้อมา เหนือเก็บไว้เป็นตัวแทนพี่นะ" ภาคีฉีกยิ้มกว้างลูบหัวแฟนสาวอย่างอ่อนโยน"เอาควา
เหนือฟ้านอนพักรักษาตัวเกือบหนึ่งเดือนเต็ม โชคดีที่อวัยวะภายในไม่ฉีกขาดหรือได้รับบาดเจ็บรุนแรง แต่ที่หนักหนาก็คือบริเวณดวงตา และใบหน้าทั้งหมดที่ฟกช้ำและปูดบวม รวมทั้งบาดแผลจากเศษแก้วที่ต้นแขนซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นในอนาคต กับช่วงขาที่โดนเตะจนหักทำให้ต้องใส่เฝือกดามนานหลายเดือนยิ่งไปกว่านั้นราตรีเป็นบุคคลเดียวที่รู้ความลับนี้ เพราะเหนือฟ้าให้พี่สาวปกปิดเรื่องเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายจากพ่อแม่และทุกคน เธอจึงต้องมาอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ของพี่สาว และอยู่ในความดูแลของพี่ตลอดเวลาจนกว่าจะไม่เหลือร่องรอยของบาดแผลต่าง ๆ ให้เห็น"ดีนะที่พี่แต่งเรื่องว่าเหนือเสียใจเรื่องภาคีก็เลยขอมาอยู่กับพี่ที่บ้านเพื่อคลายเหงา โชคดีอีกเรื่องก็คือ พ่อกับแม่ของเราดันไปล่องเรือรอบโลกหลายเดือน งานที่โรงเรียนจึงตกมาอยู่ที่พี่คนเดียวเลย นึกจะไปสวีตหวานกันก็ไปโดยไม่สนใจภาระหน้าที่กันเลยตาทัพกับยายนับเนี่ย"ราตรีบ่นขณะเซ็นเอกสารกองท่วมสูงพลางเหล่สายตามองน้องสาวที่กำลังนั่งทำงานย้อนหลังหลายชิ้นส่งอาจารย์ที่มหาลัยเนื่องจากต้องหยุดเพื่อรักษาตัว"แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมพ่อกับแม่ถึงเลือกไปล่องเรือ คงไม่ใช่แผนพี่ไนท์ใช่ไหม" เหนือ
สามปีผ่านไปภายในงานเกษตรแฟร์เอ็กซ์โป 2026 ออกาไนซ์สาวร่างอวบผิวขากำลังวิ่งประสานงานตามบูธต่าง ๆ ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย"คุณโรจน์คะ ประมาณช่วงสิบโมงของวันพรุ่งนี้เราจะเริ่มไลฟ์สดเริ่มที่บูธคุณโรจน์ก่อนนะคะ ยังไงเตรียมข้อมูลกับผลิตภัณฑ์ที่จะโปรโมตไว้ล่วงหน้าได้เลยค่ะ อาจจะมีทีมงานมาบรีฟให้เบื้องต้นก่อนสักหนึ่งชั่วโมงค่ะ""โอเคครับ ขอบคุณมากครับคุณเหนือ""พี่เหนือ ๆ ทางโน้นมีเรื่องกัน เหมือนว่าจะเจ้าหน้าที่ของเราจะติดป้ายผิด ทำให้บูธของผู้ประกอบการสลับกัน พี่เหนือไปเจรจาหน่อย เพราะอีกเจ้าเขาไม่ยอมย้าย""ได้เดี๋ยวพี่ไปคุยเอง" หัวหน้าทีมดูแลบูธอย่างเหนือฟ้ารีบสับขาตรงไปจุดเกิดเหตุ แต่เพราะช่วงที่ผู้ประกอบการแต่ละบูธกำลังเดินพลุกพล่านทำให้หญิงสาวเผลอไปชนเข้ากับใครบางคนปั้ก!"โอ้ย" เหนือฟ้ากุมแขนที่โดนตัวของอีกฝ่ายกระแทก"เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ" เสียงเข้มที่คุ้นเคยทำให้เจ้าหน้าที่จัดงานที่กำลังทำหน้าบิดเบ้ต้องรีบตวัดหน้าไปมองวินาทีที่ดวงตาสบประสานกับชายใต้แว่นสีดำสนิท หัวใจของเธอก็แทบจะหล่นวูบไปกองอยู่ที่พื้น ดวงตากลมสั่นระริกเมื่อเขาทำท่าทางเคร่งขรึมเมินเฉยเหมือนไม่รู้จักกัน"พี่คี ไม่ได้เจอ
เหนือฟ้ารอให้คั่วกลิ้งเอาคีย์การ์ดห้องพักขึ้นมาให้แล้วตัดสินใจโทรไปสั่งอาหารเดลิเวรี่แทนที่จะลงไปหาข้าวที่ร้านสะดวกซื้อใต้โรงแรม หญิงสาวกดสั่งซูชิร้านโปรดที่ขายจนถึงห้าทุ่ม แล้วมานั่งกินคนเดียวที่บันไดหนีไฟ ขณะที่ภาคีเปิดประตูห้องพักออกมาเพื่อลงไปเช็กบูธที่ลูกน้องช่วยกันจัดว่าเป็นระเบียบดีหรือไม่พลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเจือยแจ้วดังมาจากทางบันไดหนีไฟ ซึ่งเสียงใส ๆ นี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปแอบฟัง"กินข้าวแล้วใช่ไหมเหนือ" ราตรีกรอกเสียงกลับมาผ่านทางโทรศัพท์"กินซูชิค่ะ""กินร้านนั้นมาสามปีแล้วนะ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนร้านมั่ง พี่เห็นจนจะเอียนแล้ว""ก็มันเป็นร้านโปรดพี่คีนี่นา"ภาคีตวัดมองแผ่นหลังที่อยู่ในชุดเสื้อฮู้ดตัวหนาทันควัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่บอกเลิกกลับพยายามจะพูดและนึกถึงเขาอยู่ตลอด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนตัดสายสัมพันธ์นั้นก่อนแท้ ๆ"บอกเลิกเขาแล้วยังไม่รู้จักมูฟออน แล้วนี่ฮ้อนจะตายไป ทำไปถึงใส่ชุดกันหนาวแขนยาวตลอด"เหนือฟ้ารีบตวัดหน้าไปดู แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยืนพิงประตูบันไดหนีไฟอยู่ "เหนือไม่ได้ตั้งใจบอกเลิกนะคะ เหนือมีเหตุผล ส่วนเรื่องการแต่งตัวเหนือแค่อยากเปลี่ยนสไตล์
บทเพลงบรรเลงรักยามรัตติกาลโหมกระหน่ำดั่งพายุร้อนที่พัดผ่านในช่วงปลายฝนต้นหนาวเสียงหอบกระชั้นของชายหญิงคลอประสานเกิดเป็นท่วงทำนองขับขานอันแสนไพเราะผสานด้วยเสียงคราง เสียงกระแทกกระทั้นที่เคลื่อนเข้าออกเป็นจังหวะภายในตัวเหนือฟ้านั้นเกิดเป็นเมโลดี้ที่ระรื่นหู"อ๊ะ อ๊า" ขาอวบสองข้างถูกงอชิดจนถึงอก ความเป็นชายอัดแน่นของภาคีกระซวกแทงเข้าออกจนเนื้อตัวของคนใต้ล่างเขย่าไปมาอย่างรุนแรง หน้าอกภูเขาไฟสะบัดไปมาคล้ายกับเครื่องดื่มมิลค์เชครสละมุนลิ้น"พี่รักเหนือนะ รักที่สุดเลย" ภาคีพร่ำบอกคำหวานแล้วตอกตัวตนเข้าไปอย่างต่อเนื่อง"อ๊า เหนือก็รักพี่คีค่ะ อ๊ะ" เหนือฟ้าขานรับด้วยใบหน้าแดงก่ำ"โบ๋ววววว" หอมบั่วและลูกชุบที่นอนอยู่ชั้นล่างช่วยกันเป็นคอรัส"ฮ่าฮ่า เหนือร้องจนหมาหอนเลย" เขาแซวด้วยเสียงหอบ"ก็พี่คีซอยขนาดนี้ เหนือก็เสียวน่ะสิคะ" มือนุ่มฟาดเบา ๆ ลงมาที่ซิกซ์แพคเซ็กซี่ ค้อนมองด้วยความหมั่นไส้"เหนือรัดพี่จนปวดร้าวไปหมด พี่ก็ต้องเร่งจังหวะสิครับ" เถียงฉอด ๆ ตามด้วยการขยำหน้าอกสองข้างเล่นถึงแม้เบื้องล่างของเธอกับเขาจะดูดกลืนกันอยู่ แต่ปากคมที่เพิ่งเถียงเมื่อครู่ก็ไม่ยอมเว้นว่าง โน้มต่ำลงมาเพื่อตะ
ภาคีนั่งจิกเกร็งอยู่บนเก้าอี้ไม้เมื่อตรงหน้าขาของเขามีดวงหน้าหวานจ่อเกยแนบเข่า คอยละเลียดเล็มแทะกินส่วนลำร้อนที่กำลังปูดโปนด้วยเส้นเลือดตอนนี้เขามิอาจห้ามปรามหรือเอ่ยปากขอสิ่งใด เพราะนักนวดสรรพาวุธกำลังสวาปามท่อนเนื้อของเขาอย่างเอร็ดอร่อย"อ่า...." กายแกร่งกระตุกเมื่อน้ำขาวขุ่นถูกฉีดพ่นออกไปทางปากปล่องทว่ากลับไม่มีร่องรอยเหลือไว้ให้เห็น เพราะโพรงปากอุ่นสูบกลืนผ่านลำคอลงไปจนแห้งเหือดเมื่อตัวตนของความเป็นชายชาตรีถูกปลดปล่อยออกมา แม่คุณขาก็ตามมาโลมเลียเก็บกวาดจนสะอาดหมดจด"พี่คีขา อีกรอบไหมคะ"คุณพระคุณเจ้าช่วยอ้ายโตย เดี๋ยวนี้เมียติดใจไอ้ปืนใหญ่กลางลำตัวเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วหรือ"อีกรอบเป็นของพี่ต่างหาก" ภาคีรั้งหัวไหล่มนขึ้น ดึงเข้ามากอดกดจมูกสูดดมความหอมขอกลิ่นน้ำนมที่เคลือบอยู่บนผิวนุ่ม มือข้างหนึ่งเอื้อมไปปลดกิ๊บหนีบผมออก แล้ววางลงกับเก้าอี้ ใช้ปลายนิ้วทั้งสิบช่วยสางเส้นผมให้เข้าทรง บรรจงทัดเก็บไว้หลังหู"นี่เลย ผมยุ่ง ๆ ของเหนือในวันนั้นที่เพื่อนพี่ถ่ายรูปส่งมาให้" เขาย้ำถึงเหตุการณ์ในความทรงจำ จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าตนเองนั้นพร้อมจะหยุดที่ผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียว"
มือไม้ที่เต็มด้วยฟองสีขาวควานหาหัวก๊อก เพราะตอนนี้ฟองของยาสระผมกำลังไหลลงมาเคลือบดวงตาจนรู้สึกแสบไปหมด เหนือฟ้าพยายามคลำหา"พี่คีคะ พี่คี" ร่างเปลือยเปล่าตะโกนขอความช่วยเหลือ"ว่าไงเหนือ" ภาคีตื่นตระหนกรีบหากุญแจห้องน้ำแล้วไขเข้าไป เขาสีหน้าแดงระเรื่อทันทีเมื่อเห็นทรวดทรงที่มีน้ำมีนวลปรากฏอยู่ตรงหน้า"ล้างผมให้เหนือหน่อยค่ะ แชมพูเข้าตา" เหนือฟ้าหรี่ตามองพยายามเดินตรงมาหาสามี"อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวพี่ล้างให้"ภาคีจูงมือเหนือฟ้าไปนอนแล้วบังคับให้เธอแหงนศีรษะพาดขอบอ่างช่วงเวลาที่เขากำลังละเมียดละไมกับการล้างคราบยาสระผม จึงเริ่มพูดบางสิ่งที่เหนือฟ้าหลงลืมมานาน"เหนือจำได้ไหมที่เราบอกว่ากลับจากจีนแล้วจะไปขุดไทม์แคปซูลขึ้นมา แล้วพวกเราก็ลืมสนิท""จริงด้วยค่ะ เหนือลืมไปแล้วนะเนี่ย งั้นพรุ่งนี้เราพาลูก ๆ ไปขุดกันดีไหมคะ""พี่วานให้เตียวไปขุดมาให้แล้ว" เขาบอกแล้วหยิบผ้าขนหนูมาซับเส้นผมที่เริ่มยาวจนถึงกลางหลัง"จริงเหรอคะ" เหนือฟ้ารีบร้อนดันตัวเองขึ้นจากอ่างก้าวขาออกแล้วเตรียมคว้าผ้าขนหนูมาพันตัว เดินออกจากห้องน้ำ ทว่าภายในห้องนอนกลับเต็มด้วยดอกกุหลาบสีแดง และเทียนไฟฟ้าที่ส่องไสว"เนื่องในโอกาสพิเศ
เสร็จสิ้นงานทำบุญของไร่ภาคีจึงสั่งให้ลูกน้องทุกคนตรวจสอบบริเวณพื้นที่สวนส้มซ่ายี่สิบไล่ไปจนถึงบริเวณแปลงปลูกอ้อยไข่ปลาอีกจำนวนสามสิบไร่วันนี้เหนือฟ้าจึงมาให้กำลังใจสามีกับคนงานโดยการพาลูก ๆ มาปิ๊กนิคนอกสถานที่และมองดูอยู่ห่าง ๆ ใต้เต้นท์ผ้าใบฟลายชีทที่ปักขึงกับพื้นดินรวมทั้งยังมีของกินมากมายที่เดือนเพ็ญ อินเหลาช่วยกันหอบหิ้วมาจากโรงครัวประจำไร่เพื่อเลี้ยงคนงานระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบ"นี่กืออะหยังจ้าว" น่านฟ้านั่งยอง ๆ มองดูแม่กำลังย่างอ้อยไข่ปลาบนเตาถ่าน""อ้อยไข่ หรืออ้อยไข่ปลาครับ อ่ะ เดี๋ยวแม่ให้น่านชิมนะ" เหนือฟ้าคีบอ้อยกลิ่นหอมย่างเนยลักษณะคล้ายไข่ปลาขึ้นมาจากเตาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ มีน้ำจิ้มให้เลือกสามอย่าง คือ น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มบาร์บีคิว และน้ำจิ้มแจ่ว"กอบกุนจ้าว" น่านฟ้าใช้นิ้วหยิบอ้อยไข่ชิ้มพอดีคำเปล่าพ่นความร้อนเล็กน้อยแล้วจุ่มลงไปในถ้วยน้ำจิ้มบาร์บีคิวแล้วโยนใส่ปาก"เป็นไงชอบไหมครับ" เหนือฟ้าลูบหัวลูกชายคนเล็ก"ฮักเลย กิ่นโหมกะหนาด น่านจ้วยเน้อหนุนเหนือ" เด็กชายตัดสินใจหยิบเก้าอี้มานั่งดูแม่ย่างอ้อยไข่ เพื่อรอกินรอบต่อไปส่วนนิ่มฟ้ากำลังช่วยพี่ชายย่างหมูปิ้ง โดยมีอินเหล
วันที่สามของการกลับมาอยู่ที่ไร่พิทักษ์มหิงสาตามเดิม เหนือฟ้าตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าแต่กลับมีคนไวกว่า บุคคลที่ว่าก็คือภาคี บะแต๋ง สองคนพ่อลูกที่กำลังช่วยกันเตรียมมื้อเช้าอย่างพิถีพิถันเหนือฟ้ายิ้มกริ่มประทับใจพ่อบ้านกับแก๊งลูกขนุนของตนเอง คุณแม่สายเที่ยวจึงได้โอกาสย่องเบาออกไปจากบ้านพร้อมกับลูกชุบ คุณแม่หมาคู่ขาของเจ้านาย แต่ทว่ากลับมีมือเล็ก ๆ ยื่นมาเกาะข้อเท้ายื้อยุดเอาไว้สาวอวบสะดุ้งเฮือกค่อย ๆ ก้มดูผลปรากฏว่าเป็นลูกแฝดของตนนั่นเอง"หมู่เหาไปโตยเน้อ" นิ่มฟ้าพูดกระซิบ น่านฟ้ายิ้มกว้างช่วยพี่สาวอ้อนวอนแม่"เงียบ ๆ นะจ๊ะ"สามคนแม่ลูกและหมาอีกหนึ่งตัวขับซาเล้งตรงไปที่ไร่ลิ้นจี่ ขับผ่านโรงวนิลาที่เหล่าคนงามกำลังเดินไปมากวักไกว่รอบ ๆ โรงเรือนตั้งแต่เช้าตรู่"หวัดดีครับคุณนาย คุณแฝดตื่นเช้าจังเลยค่า" เสียงคนงานในไร่ตะโกนทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส"ซาหวัดดีจ้าว ไผจานอนคุ่มคาลุ่มอยู่ละจ้าว" นิ่มฟ้าตะโกนตอบกลับไป"คุ่มคาลุ่มเหรอจ๊ะ ใช่กุ้มกาลุม ที่แปลว่านอนคลุมโปงหรือเปล่า" คุณแม่ทวนถามเพื่อความแน่ใจว่าเธอกับลูกเข้าใจตรงกันุ"แม่นแล้วอี่แม่" สาวน้อยมัดแกะสองข้างพยักหน้า"แล้วหมู่เหาจาไปตี้ได ปายเข๋
การใช้ชีวิตอยู่ที่แม่ฮ่องสอนดำเนินมาเกือบสามปีเต็ม น่านฟ้ากับนิ่มฟ้าก็เริ่มคุยจ้อและเดินเตาะแตะไปมาทั่วไร่ชา ด้วยพัฒนาการอันแสนรวดเร็วทำให้แฝดคู่แสบสามารถคุยได้คล่องแคล่ว หยิบจับ ชี้สิ่งของได้ถูกต้อง แม้จะพูดไม่ชัดและไม่เป็นภาษาเท่าไหร่นัก"ปาขี้ หาหนุนกันเต๊อะ" น่านฟ้าจะไปหาแม่ที่กำลังรับนักท่องเที่ยวจีนอยู่กลางไร่ แม้อากาศบนดอยนี้จะเย็นแต่ช่วงเที่ยงวันกลับมีแดดจ้า ภาคีจึงไม่อยากให้ลูกไปเล่นซน"เรียกป้อเฉย ๆ ได้ก่อ ป้อไม่อยากเป็นป้อขี้เลยจ้าว" ภาคีอุ้มลูกชายตัวสูงเท่าหัวเข่าใส่คอกกั้น"ป้อบ่าใช่ปาขี้ แล้วป้อกืออายัย" นิ่มฟ้ากำลังนั่งเล่นบล็อกไม้ในคอก เอ่ยปากถามพ่ออย่างชาญฉลาด"ภาคี ภาคีครับลูก เฮ้อ...เอาเถอะอยากเรียกอะไรก็เรียกไป" ภาคีต้องทำหน้าที่พ่อนมเลี้ยงลูก เพราะทั้งสัปดาห์นี้ทัวร์จีนเข้าไม่หยุด นาน ๆ จะมีกรุ๊ปทัวร์ญี่ปุ่นหลงมาสักสองสามคณะ แต่ก็นานทีปีหนทำให้หน้าที่เลี้ยงลูกตกเป็นของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โชคดีหน่อยที่ช่วงปิดเทอมบะแต๋งจะแวะมาอยู่ที่แม่ฮ่องสอนเพื่อแบ่งเบาภาระช่วยพ่อกับแม่เลี้ยงน้อง"ตายแล้ว ๆ คุณคีคะอีนางชมออนมันมาเกาะแกะเซ้าซี้คุณนายค่ะ" จู่ ๆ ผู้จัดการดู
บะแต๋งเดินไปเดินมารอพ่อที่เข้าไปในห้องผ่าคลอดกับแม่ ในมือมีตุ๊กตาหุยหุยมาสคอตควายเผือกสีชมพูสองตัว เพื่อรอมอบให้น้องที่กำลังจะลืมตาดูโลก"แต๋งครับมานั่งรอกับย่าก่อนเถอะลูก ย่าซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ชอบมาฝากด้วยนะ" เจ๊ต่ายกุมไหล่เล็กของหลานชายที่กำลังจดจ่อรอคอยน้องกับพ่อแม่โดยไม่ละสายตา"แต๋งกินไม่ลงจ้าว แต๋งเป็นห่วงอี่แม่กับน้อง" บะแต๋งกอดตุ๊กตาควายสองตัวแน่น หัวใจเต้นตึกตัก อยากพบหน้าน้องใจแทบขาด"งั้นป้ออุ้ยกิ๋นเน้อ" หม่อมเจ้าภูวสินอาสากินแทนหลาน บะแต๋งพยักหน้ารับแล้วหันกลับไปมองบานประตูห้องคลอดดังเดิมกี่นาที หรือกี่ชั่วโมงผ่านไปแล้วไม่รู้ ตอนนี้บะแต๋งเริ่มหิวข้าวจนตาลายแต่วินาทีที่กำลังจะไปขอหมูปิ้งจากย่ามากิน ประตูห้องคลอดก็เปิดออก พ่อเดินนำออกมาก่อนตามด้วยเตียงของแม่"ป้อ อี่แม่ เป็นอะหยังบ้างจ้าว โอเคก่อ"บะแต๋งปรี่เข้าไปเกาะขาพ่อที่น้ำตาท่วมหน้า ภาคีคุกเข่าลง"โอเคจ้าว น้องอ้วนท้วนสมบูรณ์ลูก ปะเราไปเจอน้องกันดีกว่า"ครอบครัวกฤตกล้าธนาดรนั่งรอทารกน้อยที่นางพยาบาลกำลังเข็นมาส่งให้ที่ห้องพักฟื้น "แต๋งมาหาแม่สิครับ"เหนือฟ้ากวักมือเรียกลูกชายที่เริ่มกินนั่นกินนี่ได้เพราะสบายใจที
ภายในห้องพักพิเศษแอร์เย็นเฉียบ รอบห้องมีทั้งกระเช้าดอกไม้ ตะกร้าผลไม้และของบำรุงสุขภาพของเหนือฟ้าที่แวะเวียนมาเยี่ยม เนื่องจากคุณแม่ลูกแฝดได้รับการวินิจฉัยว่าอาจเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ เพราะตลอดแปดเดือนที่ผ่านมาหญิงสาวยังคงแพ้ท้องหนัก แม้จะกินได้บ้างแต่ก็กินได้น้อยภาคีเป็นห่วงลูกกับเมียในท้องจึงตัดสินใจให้เหนือฟ้านอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจนกว่าจะคลอดก๊อก ๆด้านนอกประตูห้องมีสองสามเงากำลังยืนตะคุ่ม ๆ คนตัวสูงที่กำลังนั่งเช็คออเดอร์ผลไม้อบแห้งระหว่าเฝ้าเหนือฟ้ารีบวางแล๊ปท็อบลงข้างโซฟา แล้วเดินออกไปรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนหลังบานประตูห้องผู้ป่วย มีใบหน้าเล็กยื่นทำตาแป๋วส่งให้ พร้อมกับบะแต๋ง เตียวหุยและเปาะเปี๊ยะที่แวะมาส่งอาหารให้คนเฝ้าไข้กับคนท้องรับประทาน"ซาหวัดดีจ้าวยุงคี" ปังเนย วัยห้าขวบมัดผมทรงหางม้ายกมือยกไม้สวัสดี"สวัสดีครับปังเนยหลานลุง" ภาคีโค้งตัวลงอุ้มปังเนยขึ้นมาแล้วฟัดแก้มหลานสองสามที"ป้อ แต๋งรู้แล้วนะว่าอี่แม่ไม่สบาย แต๋งจะมาอยู่ดูแลด้วย" บะแต๋งโผเข้ามาจับข้อมือพ่อ ภาคีเหลือบตามองลูกชายของตนอย่างชั่งใจ เพราะเขาไม่อยากให้ลูกรู้สึกหดหู่ใจเมื่อต้องเห็นว่าแม่มีอาการยังไง"ใ
บะแต๋งเปิดเทอมสองจึงกลับไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาลเวหะชลการสาขาในกรุงเทพใกล้กับร้านปลาเผาพุงพุ้ย และย้ายไปนอนที่บ้านเตียวหุยเป็นหลัก กลายเป็นลูกอีกคนของน้องชายไปเรียบร้อยที่สำคัญที่บะแต๋งไม่ค่อยอยากแยกจากอา เพราะตัวติดกับปังเนย ลูกสาวคนโตของเตียวหุยที่กำลังอยู่ในวัยหัดจ้อและก็แก่นแก้วเป็นที่สุดอีกอย่างช่วงนี้เหนือฟ้าเพิ่งท้องลูกแฝดได้เพียงสี่เดือน ภาคีจึงอยากให้เตียวหุยช่วยดูแลลูกชายไปก่อนจนกว่าภรรยาจะคลอดเพราะถ้าบะแต๋งอยู่บ้านก็คงจะตามวอแวแม่ และหาเรื่องชวนกันไปซุกซนยิ่งท้องแฝดรอบนี้ค่อนข้างอ่อนไหว จะเดินเหินอะไรก็ลำบาก จะกินจะอยู่ก็ต้องระมัดระวังให้มาก"แหวะ!" ใบหน้ากลมปุ๊กก้มงุดลงไปในชักโครก ภาคีวิ่งเข้าไปลูบหลัง พร้อมแกว่งยาดมให้เมียที่มีอาการแพ้ท้องหนัก"ไหวไหมเหนือ หมอบอกว่าถ้าไม่ไหวให้ไปนอนโรงพยาบาล พี่จ่ายไหวเหนือไม่ต้องเป็นห่วง""เหนือเกรงใจค่ะ ยังไงขอคิดดูก่อนนะคะ แต่ตอนนี้เหนืออยากเยอะแยะไปหมดเลย" เหนือฟ้าค่อย ๆ ลุกขึ้นโดยมีภาคีช่วยพยุง"อยากอะไรมั่งครับ พี่จะไปหามาให้" พ่อเลี้ยงหนุ่มรปะคองภรรยามายังเก้าอี้แบบปรับนอนได้ ภายในห้องนั่งเล่นนี้เขาได้เตรียมการทุกอย่างพร้อม ทั้