สามปีผ่านไป
ภายในงานเกษตรแฟร์เอ็กซ์โป 2026 ออกาไนซ์สาวร่างอวบผิวขากำลังวิ่งประสานงานตามบูธต่าง ๆ ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย
"คุณโรจน์คะ ประมาณช่วงสิบโมงของวันพรุ่งนี้เราจะเริ่มไลฟ์สดเริ่มที่บูธคุณโรจน์ก่อนนะคะ ยังไงเตรียมข้อมูลกับผลิตภัณฑ์ที่จะโปรโมตไว้ล่วงหน้าได้เลยค่ะ อาจจะมีทีมงานมาบรีฟให้เบื้องต้นก่อนสักหนึ่งชั่วโมงค่ะ"
"โอเคครับ ขอบคุณมากครับคุณเหนือ"
"พี่เหนือ ๆ ทางโน้นมีเรื่องกัน เหมือนว่าจะเจ้าหน้าที่ของเราจะติดป้ายผิด ทำให้บูธของผู้ประกอบการสลับกัน พี่เหนือไปเจรจาหน่อย เพราะอีกเจ้าเขาไม่ยอมย้าย"
"ได้เดี๋ยวพี่ไปคุยเอง" หัวหน้าทีมดูแลบูธอย่างเหนือฟ้ารีบสับขาตรงไปจุดเกิดเหตุ แต่เพราะช่วงที่ผู้ประกอบการแต่ละบูธกำลังเดินพลุกพล่านทำให้หญิงสาวเผลอไปชนเข้ากับใครบางคน
ปั้ก!
"โอ้ย" เหนือฟ้ากุมแขนที่โดนตัวของอีกฝ่ายกระแทก
"เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ" เสียงเข้มที่คุ้นเคยทำให้เจ้าหน้าที่จัดงานที่กำลังทำหน้าบิดเบ้ต้องรีบตวัดหน้าไปมอง
วินาทีที่ดวงตาสบประสานกับชายใต้แว่นสีดำสนิท หัวใจของเธอก็แทบจะหล่นวูบไปกองอยู่ที่พื้น ดวงตากลมสั่นระริกเมื่อเขาทำท่าทางเคร่งขรึมเมินเฉยเหมือนไม่รู้จักกัน
"พี่คี ไม่ได้เจอกันนานเลย สบาย..."
เขาไม่อยู่ฟังเธอพูดจนจบกลับเดินตรงไปข้างหน้าแล้วหยุดที่บูธขนาดใหญ่ที่ยาวเกือบสี่เมตร ที่แท้เขาก็คือหนึ่งในผู้ประกอบการสิบคนด้านการเกษตรที่น่าจับตามองของปีนี้นั่นเอง บูธถึงได้ใหญ่โตโชว์ความอลังการกว่าชาวบ้าน
"พี่เหนือ จะตบกันแล้วครับ" คั่วกลิ้ง น้องคนสนิทหนึ่งในทีมออแกไนซ์สะกิดให้หัวหน้าสาวตื่นจากภวังค์
"เออ พี่ลืมเลยโทษที" เหนือฟ้าวิ่งไปยังบูธที่มีปัญหากันอยู่ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบูธของภาคีมากนัก
ออแกไนซ์สาวรีบเข้าไปแยกคุณป้าในชุดผ้าไหมพื้นเมืองสองคนที่กำลังขยุ้มหัวกันไม่หยุด "ป้าคะ ใจเย็น ๆ กันก่อนนะคะ"
ป้าทั้งสองยังคงกระชากหนังหัวของกันและกันอย่างไม่ยอม เหนือฟ้าจึงตัดสินใจแทรกตัวเข้าไปห้ามทำให้ฝ่ามือของป้าอีกคนที่เหวี่ยงลงมาเผลอฟาดเข้าไปที่หน้าออแกไนซ์สาวเต็ม ๆ
เผียะ!
ภาคีที่กำลังช่วยลูกน้องยกของมาจัดวางในบูธหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับอดีตคนรักของตน
"เอ่อหนู ป้าขอโทษจ้ะ" ป้าชุดผ้าไหมพื้นเมืองรีบยกมือขอโทษ ขณะที่ป้าชุดชมพูก็ยอมสงบจิตใจลงไม่ตอบโต้ใด ๆ อีก
"หนูไม่เจ็บค่ะ ยังไงถือซะว่าหนูโดนตบเป็นการไถ่โทษที่ทีมงานแปะป้ายสลับกันได้ไหมคะ" เหนือฟ้ายกมือไหว้ผู้ประกอบการทั้งสอง
"ได้ ๆ พวกป้ายกโทษให้นะ ขอโทษด้วยนะหนู ยังไงเอาน้ำมันเขียวจากไร่ป้าไปใช้ดูนะ ตัวนี้สกัดจากใบเสลดพังพอนจากสวนของป้าโดยตรงเลย" คุณป้าชุดน้ำเงินรีบล้วงน้ำมันขวดใหม่เอี่ยมออกมาจากล่องแล้วส่งให้เหนือฟ้า
"ขอบคุณค่ะ"
"ส่วนของป้าเป็นผลิตภัณฑ์จากใบเตยจ้ะ อันนี้เป็นขนมลืมกลืนนะ ส่วนนี่เป็นสบู่ใบเตยจ้ะ ใช้ดีแล้วก็มาเล่าสู่กันฟังบ้าง" คุณป้าชุมชมพูหยิบของใส่ถุงแล้วส่งให้เหนือฟ้า
"ขอบคุณ คุณป้าทั้งสองคนมาก ๆ ค่ะ ยังไงหนูขอให้ได้ลูกค้าเยอะ ๆ นะคะ เดี๋ยวยังไงหนูจะให้ทีมงานช่วยย้ายข้าวของของคุณป้าทั้งสองคนแล้วก็ช่วยจัดบูธจนกว่าจะเสร็จ หนูขอตัวก่อนนะคะ"
ภาคียืนมองยืนฟังอยู่ไกล ๆ จังหวะที่เหนือฟ้ากลับมาต้องผ่านบูธของเขา พอเธอจะเข้าไปทักทาย เขากลับเดินหนีไปทางอื่น หญิงสาวจึงทำได้เพียงยืนมองแผ่นหลังเขาแล้วกลับไปทำงานของตัวเองต่อจนเสร็จ
เหนือฟ้าประสานงานและช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในฮอลล์จัดงานจนไม่มีเวลากินข้าวเที่ยง ลูกน้องทุกคนจึงไล่ให้เธอกลับขึ้นมาพักผ่อนที่โรงแรมใกล้กับสถานที่จัดงาน
"คั่วกลิ้งไงพี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวจะไปหาข้าวกินด้วย" เหนือฟ้าโบกมือลาแล้วคว้ากระเป๋าสานหวายใบใหญ่ยัดข้าวของที่ผู้ประกอบการหลายคนหยิบยื่นน้ำใจด้วยของกินของใช้มากมายมาให้เธอ
"ไปเถอะพี่ ฝันดีครับ" คั่วกลิ้งตะโกนบอก
เหนือฟ้าเดินเข้าลิฟต์มาด้วยสภาพหมดเรี่ยวแรง ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดกว้าง เสียงของชายหญิงที่คุยกันกระหนุงกระหนิงก็ดังมาจากโถงทางเดิน พอเธอก้าวขาออกไปยังไม่ทันจะออกเดินไปยังห้องพักตัวเองด้วยซ้ำ กลับพบว่าชายหญิงคู่นั้นก็คือ ภาคี กฤตกล้าธนาดร กับ คุณปูเป้ พิธีกรสาวสวยคนดังที่กำลังยืนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่หน้าห้อง
"เรื่องบังเอิญแน่ ๆ ทำไมถึงพักชั้นเดียวกัน เอาวะใจดีสู้เสือ" เหนือฟ้ากำมือแน่นแล้วพยายามกัดฟันเดินผ่านพวกเขาไปให้ได้
หนุ่มผมยาวหยักศกตัวสูงคล้องเอวของปูเป้กลับแล้วรั้งให้แนบชิดกับแผ่นอกของเขา เป็นจังหวะเดียวกับที่แขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างเธอต้องเดินผ่านมาพอดิบพอดี
"เป้ดีใจจังที่จะได้อยู่คุยเล่นกับคีตั้งสิบวัน" ปูเป้ยกมือโอบหลังคอของภาคีกลับ ฉีกยิ้มโปรยเสน่ห์ให้หนุ่มโสด
เหนือฟ้ารีบสับขาเดินไปถึงห้องพัก เธอสังเกตเห็นภาคีช้อนตามองเล็กน้อยแต่พอเธอสบตากลับเขาก็หันกลับไปมองปูเป้เหมือนเดิม สาวอวบล้วงหาคีย์การ์ดห้องด้วยความรีบเร่ง เพราะไม่อยากได้ยินเสียง และเห็นภาพบาดตาบาดใจไปมากกว่านี้
"พรุ่งนี้ช่วงเย็นผมจะพาคุณไปร้านอาหารริมแม่น้ำ ดีไหม หรือถ้าคุณอยากไปที่ไหนก็บอกผม"
"เป้ไปได้หมดค่ะ ถ้ามีคุณอยู่ด้วย งั้นเป้ไปนอนก่อนนะคะ" ปูเป้เขย่งปลายเท้าหอมแก้มภาคี ชายหนุ่มก้มลงหอมกลับ
ขณะที่เหนือฟ้ายังคงตัวแข็งอยู่แบบนั้น ที่เธอยังยืนอยู่หน้าประตูห้องและยังไม่ได้เข้านั่นก็เพราะว่าคีย์การ์ดห้องพักไม่ได้อยู่ในกระเป๋า แต่เธอลืมไปว่าฝากไว้ที่คั่วกลิ้งลูกน้องคนสนิท
"จะยืนเสือกไปถึงพระอาทิตย์ขึ้นเลยไหม หน้าเลื่อมต๋าหล๊อกเรื่องชาวบ้านเป็นงานอดิเรกเหรอแม่คุณ" ภาคีแดกดันเป็นภาษาเหนือ เพราะเขาคิดว่าอดีตคนรักคงจะไม่เข้าใจแน่นอน
แต่กลับคิดผิดเพราะตลอดระยะเวลาสามปีที่ขาดการติดต่อกันไป เธอตั้งเรียนภาษาเหนืออย่างจริงจังเพื่อไว้คุยกับเขาเพียงคนเดียว
"เหนือไม่ได้เสนอหน้าค่ะ ก็แค่เข้าห้องไม่ได้" ออแกไนซ์สาวตอกกลับ หมุนกายกลับมาเผชิญหน้าอย่างท้าทาย
"ก็บ่อลวกจะอี้!" เขาเบะปากแล้วรีบแตะคีย์การ์ดเข้าห้องตัวเอง
"เหนือฉลาด ฉลาดมากด้วย อ้ายนั่นแหละ อ้ายมันควายสตวง"
ภาคีชะงักแล้วเดินถอยหลังกลับมา "ด่าใครว่าโง่ดักดาน"
"ก็พูดอยู่กับใครล่ะคะ" เหนือฟ้าเชิดหน้าบอกด้วยความมั่นใจ ทั้งที่เมื่อก่อนเธอเป็นคนขี้อาย แต่ตอนนี้กลับพยายามรุกเขาอย่างสุดกำลัง ผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไรกันแน่
ภาคีขมวดคิ้วติดกันแล้วตัดสินใจเดินกลับมา มองเธอด้วยแววตาเย็นชา "เดี๋ยวนี้เก่งภาษาเหนือแล้วนี่ เอาไว้คุยกับหนุ่มเหนือที่ไหนล่ะ"
"ก็อ้ายคีไงล่ะ" เหนือฟ้าพยายามจะสานสัมพันธ์กับภาคีอีกครั้ง
"สุมาเต๊อะ เปิ้นบ่าอู้กับคนหยั่งวอก" ภาคีย้ำเสียงแข็งแล้วรีบกลับเข้าห้องอย่างหัวเสีย ปล่อยทิ้งให้เหนือฟ้ายืนตัวชาอยู่ตรงนั้น ตอนนี้ภาคีคนอ่อนโยน นุ่มนวล คนนั้นได้หายไปจากชีวิตเธอแล้ว ตอนนี้มีเพียงภาคีปากเสีย แข็งกระด้าง และหยาบคายเข้ามาแทนที่
*หน้าเลื่อมต๋าหล๊อก = เสนอหน้า บ่อลวก = ไม่ฉลาด *ควายสตวง = โง่ดักดาน *หยั่งวอก = ปลิ้นปล้อน
เหนือฟ้ารอให้คั่วกลิ้งเอาคีย์การ์ดห้องพักขึ้นมาให้แล้วตัดสินใจโทรไปสั่งอาหารเดลิเวรี่แทนที่จะลงไปหาข้าวที่ร้านสะดวกซื้อใต้โรงแรม หญิงสาวกดสั่งซูชิร้านโปรดที่ขายจนถึงห้าทุ่ม แล้วมานั่งกินคนเดียวที่บันไดหนีไฟ ขณะที่ภาคีเปิดประตูห้องพักออกมาเพื่อลงไปเช็กบูธที่ลูกน้องช่วยกันจัดว่าเป็นระเบียบดีหรือไม่พลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเจือยแจ้วดังมาจากทางบันไดหนีไฟ ซึ่งเสียงใส ๆ นี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปแอบฟัง"กินข้าวแล้วใช่ไหมเหนือ" ราตรีกรอกเสียงกลับมาผ่านทางโทรศัพท์"กินซูชิค่ะ""กินร้านนั้นมาสามปีแล้วนะ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนร้านมั่ง พี่เห็นจนจะเอียนแล้ว""ก็มันเป็นร้านโปรดพี่คีนี่นา"ภาคีตวัดมองแผ่นหลังที่อยู่ในชุดเสื้อฮู้ดตัวหนาทันควัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่บอกเลิกกลับพยายามจะพูดและนึกถึงเขาอยู่ตลอด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนตัดสายสัมพันธ์นั้นก่อนแท้ ๆ"บอกเลิกเขาแล้วยังไม่รู้จักมูฟออน แล้วนี่ฮ้อนจะตายไป ทำไปถึงใส่ชุดกันหนาวแขนยาวตลอด"เหนือฟ้ารีบตวัดหน้าไปดู แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยืนพิงประตูบันไดหนีไฟอยู่ "เหนือไม่ได้ตั้งใจบอกเลิกนะคะ เหนือมีเหตุผล ส่วนเรื่องการแต่งตัวเหนือแค่อยากเปลี่ยนสไตล์
คนตัวสูงเพียงแค่พูดขู่ แต่เหนือฟ้ากลับคว้าโทรศัพท์โทรหาพี่สาว "พี่ไนท์เหนือขอยืมห้าแสน"ภาคีถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเร่งฝีเท้าออกจากห้อง"เดี๋ยวพี่คี ไอ้ภาคี ไอ้คน..." เหนือฟ้าเดินตามไป แต่เขากลับปิดประตูกระแทกใส่หน้าเธออย่างแรง"เหนือจะเอาเงินตั้งมากมายไปทำอะไร" ราตรีกรอกเสียงกลับมาอย่างกังวล"เหนือจะซื้อพี่คี ซื้อกิน""ฮะ..บ้าเปล่าเนี่ย แล้วเจอคีที่ไหน ที่งานเอ็กซ์โปใช่ไหม""ใช่ค่ะ""เอางี้นะ พี่จะโอนเงินให้พรุ่งนี้ แต่เหนือต้องใจเย็นแล้วกลับไปนอนซะ ถ้ายังดื้ออีกพี่จะบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าสามปีก่อนเหนือเจออะไรมา""ก็ได้ค่ะ ตกลง"หลังจากวางสายจากน้องสาวราตรีที่หัวไว ไหวพริบเป็นเลิศก็คิดแผนการซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว "ยังไงคงต้องบอกความจริงแล้วล่ะ ก่อนที่น้องสาวฉันจะประสาทแดก"ราตรีกลอกตามองบน ไอ้เด็กสองคนนี้มันเป็นอะไรกันนักหนา นักธุรกิจสาวในชุดเสื้อยืดเอวลอยสวมกางเกงวอร์มผ้าร่มคว้ากระเป๋ากล่องเหล็กที่เก็บข้อมูลทุกอย่างแล้วโทรตามทนายพิมุกต์กลางดึก"คุณพิคะ ช่วยไนท์หน่อย ถ้าคุณพิไม่มาด้วยไนท์กลัวว่าภาคีจะไม่เชื่อ ดังนั้นไนท์รวบกวนคุณพิหน่อยนะคะ"ราตรีขับรถไปรับพิมุกต์ที่บ้านแล้วเหยียบมิด
ภาคีกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบแล้วซื้อถุงยางอนามัยพร้อมกับเครื่องดื่มมึนเมาสองสามกระป๋อง หลังจากคุยกับราตรีจบเขาก็รู้สึกเบลอไปหมด เขาไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าคนที่เขารักสุดหัวใจปิดบังเรื่องเลวร้ายกับเขามาถึงสามปีเต็มภายในห้องพักของเหนือฟ้าเปิดไฟสว่างโล่ง หญิงสาวเอาแต่จ้องโทรศัพท์เผื่อว่าพี่สาวจะตัดสินใจโอนเงินมาให้ภายในคืนนี้ ตอนนี้เธอร้อนรุ่มไม่ใช่ว่าต้องการทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวยัยปูเป้นั่นฉกพี่คีของเธอไปกิน แต่ดูจากการที่พวกเขาแตะเนื้อต้องตัวกัน ป่านนี้น่าจะกินกันไปหลายรอบแล้วด้วยซ้ำผิดกับเธอถึงยังคงเก็บเวอร์จิ้นไว้ให้หนุ่มเหนือคนนี้เพียงคนเดียว ตึ๋ง!เงินจำนวน 500,000 บาทโอนเข้าบัญชีคุณเรียบร้อย"กรี๊ดดดด เงินมาแล้วโว้ย จะได้กินผู้ชายแล้วไอ้เหนือ" หญิงสาวกระดี๊กระด๊าเหลือบดูนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาตีหนึ่งพอดี "กินกันตอนตีหนึ่ง จะท้องอืดไหมนะ"เหนือฟ้าลูบวนไปทั่วหน้าท้องย้วย ๆ ของตนเองก๊อก! ก๊อก!สาวอวบรีบวาดขาลงจากเตียง หาวสองสามที ใบหน้าอ่อนเพลียเขย่งส่องตาแมว พลันนั้นหนังตาที่หนักอึ้งกลับเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นในทันที คนระริกระรี้รีบเปิดประตูห้องออกไปแล้วยิ้มแฉ่งให้หนุ่มชาวไ
ทันทีที่แผ่นหลังของเหนือฟ้าแตะลงกับเตียงนอน จูบดุดันจึงได้ผละออก ภาคีถัดกายลงจากเตียงเกี่ยวปราการสุดท้ายออก เหนือฟ้ารีบสะบัดหน้าหนี ขณะที่เขาคลานกลับขึ้นมา แล้วใช้สองแขนคร่อมชิดอยู่กับหัวไหล่อวบ ริมฝีปากแดงฉานจรดลงมาบนผิวขาว ดวงตาหวานคมสะดุดเข้ากับรอยแผลเป็นนูนเล็ก ๆ ที่ต้นแขน กรามแกร่งบดข่มอารมณ์เดือดดาลที่กำลังปะทุอยู่ภายใน"ไปโดนอะไรมา" เขาอยากลองใจดูว่าเหนือฟ้าจะยอมสารภาพความจริงไหม"โดนกระจกบาดค่ะ" เธอยังคงกลบเกลื่อนไปเรื่อย"เหรอ" ภาคีลุกขึ้นแล้วนั่งขัดสมาธิ เขาหยิบมือของเหนือฟ้าแล้วก้มลงหอมซ้ำ ๆ เหมือนที่เคยชอบทำ "บอกว่าให้มานั่งนี่" เขาตบขาตัวเอง"ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวพี่คีหนัก" เหนือฟ้าหยัดตัวขึ้นเหลือบมองแก่นกายที่กำลังแข็งตัวกลางซอกขา"งั้นก็มาลองดูว่าจะหนักแค่ไหน หรือคุณลูกค้าอยากให้คนอื่นมานั่งบนตักผม" เขาขู่แล้วยักคิ้วหลิ่วตาใส่"ไม่เอา" สาวอวบไม่ยอม สุดท้ายจึงต้องกัดฟันสู้แล้วลุกไปหาเขาทั้งที่ยังมีผ้าห่มปิดกายอยู่"ไม่ชอบผ้าเกะกะลูกตา" ภาคีดึงผ้าออก เหนือเบิกตาโตเมื่อผ้าห่มปลิวไปอยู่ข้างเตียง"พี่คีเดี๋ยวเหอะ เหนือเป็นลูกค้านะ ต้องตามใจลูกค้าสิคะ ว้าย..." ข้อมือขาวถูกฉุดใ
ผู้อำนวยการทัพฟ้าและครูนับเก้าพาลูก ๆ ของตนมาเที่ยวบนดอย ณ ไร่กฤตกล้าธนาดรของหม่อมเจ้าภูวสินที่แม่ฮ่องสอน เนื่องจากลูกสาวคนโตกำลังจะไปหาประสบการณ์ทำงานที่ต่างประเทศและเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น ส่วนคนเล็กก็เพิ่งอยู่มหาลัยปีสอง แถมเพิ่งสอบปลายภาคเสร็จ พ่อแม่จึงหวังให้ลูก ๆ มีโอกาสได้คลายเครียดบ้าง "เฮ้ยไอ้ฟ้า มึงมาถึงเร็วจังวะ" เจ้าของไร่ชาบนดอยตะโกนเรียกเพื่อนสนิทที่เพิ่งลงมาจากรถกอล์ฟของรีสอร์ต "มาถึงช้าก็อดดื่มด่ำบรรยากาศสิวะ เออไนท์ เหนือ หวัดดีอาภูสิลูก" ทัพฟ้าบอกลูกสาวทั้งสองคน "สวัสดีค่ะอาภู" หลานสาวสองคนยกมือไหว้ด้วยกิริยาท่าทางอ่อนหวาน "หวัดดีลูกมาถึงเหนื่อย ๆ ไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ" "แล้วภาคีละวะ เห็นเพิ่งประกวดหนุ่มหล่อแห่งชาติอะไรมา ลูกมึงนี่ฮ็อตจริง ๆ จริงไหมยัยเหนือ" "ค...คะ พ่อถามเหนือทำไม เหนือไม่รู้" เหนือฟ้าสาวอวบผิวขาวอมชมพูถักเปียข้าง รีบปฏิเสธทันควัน "ทีตอนอยู่บ้านยังรู้เรื่องอยู่เลยนะ" ราตรีพี่สาวบีบแกมจ้ำม่ำของน้อง "เด็ก ๆ นี่กุญแจห้องพักจ้ะ" นับเก้าส่งคีย์การ์ดห้องพักให้ลูกสาวคนละอัน "พี่ไนท์น่าจะให้เหนือนอนด้วย ทำไมต้องนอนคนละหลังกัน เปลือ
เหนือฟ้าเดินสะบัดสะบิ้งเตรียมเรียกรถกอล์ฟของรีสอร์ตตรงกลับห้องพัก แต่ภาคีเร็วกว่าเพียงแค่ฝ่ามือใหญ่หนายึดข้อมือเธอไว้ กระชากให้หันกลับไปด้วยกำลังเล็กน้อย ตัวของเธอก็ปะทะกับกล้ามอกแน่นเข้าอย่างจัง "จะไปไหน" "จะกลับห้องพักค่ะ เหนือไม่หิวแล้ว" โครก!!! คราก!!! อยู่ดี ๆ ไอ้ท้องบ้าก็เกิดทรยศขึ้นมา มิหนำซ้ำยังร้องซะเสียงดังน่าเกลียด ภาคีเม้มปากแน่นพยายามกลั้นขำ "อยากขำก็ขำเถอะค่ะ" เหนือฟ้าสะบัดหน้าโกรธแล้วก้มลงมองวงแขนบึกบึนที่รวบเอวเธอไม่ยอมปล่อย เหนือฟ้ายืนตัวเกร็ง "ตอนเด็ก ๆ เหนือคงจำไม่ได้ว่าขี่หลังพี่ประจำ อ้อนให้พี่อุ้มอยู่บ่อย ๆ" ภาคีรำลึกความหลังสมัยเหนือฟ้ามาวิ่งเล่นอยู่บนไร่ชาบนดอยของเขานานร่วมเดือนช่วงที่พ่อแม่ของเธอแวะมาพักผ่อนหย่อนใจที่นี่ "เด็กขนาดนั้นใครจะจำได้ ยังไงเหนือขอร่างกายคืนด้วยค่ะ" สาวอวบจิกตาขวาง "ทำไมรู้สึกไม่ค่อยอยากคืนซะแล้ว" หน้าขาวโน้มต่ำลงมาให้ริมฝีปากคลอเคลียอยู่แถวหน้าผาก เหนือฟ้ารีบดึงตัวออก แต่วงแขนแกร่งก็ผลักเข้ามาอีก "พี่ภาคี!" "น่ากลัวจัง ปล่อยก็ได้" เขายกแขนแต่เปลี่ยนเป็นรวบตัวเธอขึ้นสูงแทน "นี่....พี่คีปล่อย อุ้มเหนือทำไม
ภาคีขับรถกอล์ฟมาส่งเหนือฟ้าลงหน้าบ้านพัก เขาจอดรถและเดินตามหลังมา "เหนือ" "คะ...พี่คีมีอะไรเหรอ" "ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับเหนือฟ้า พี่ขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ พี่ภาคี กฤตกล้าธนาดร อายุยี่สิบห้าปี สถานะโสด" "รู้มาตั้งนานแล้ว" สาวแก้มยุ้ยพูดพึมพำ "ว่าไงนะ" "เปล่าค่ะไม่มีอะไร งั้นราตรีสวัสดิ์ค่ะ" "ฝันดี" แผ่นหลังสูงขับรถกอล์ฟไปจอดที่มุมมืดเพื่อลอบมองดูสาวอวบที่กำลังแตะคีย์การ์ดเข้าห้อง พอมั่นใจว่าเธอปลอดภัยเขาถึงขับรถออกไป นี่เป็นครั้งแรกที่เหนือฟ้านอนคนเดียวในที่ต่างถิ่น หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เปิดไฟสว่างไปทั่วห้อง ตั๊บแก!! ตั๊บตั๊บตั๊บแก" "ตุ๊กแกที่นี่ก้างติดคอหรือไง แต่บรรยากาศที่นี่วังเวงจัง ป่านนี้พี่ไนท์หลับหรือยังนะ" เหนือฟ้าแชตไปหาพี่สาว แต่ราตรีไม่อ่านข้อความของเธอ หญิงสาวจึงพยายามสวดมนต์เพื่อผ่อนคลายตัวเองก่อนนอนและฝืนข่มตา แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีอาการกลัวผียิ่งทำให้เธอกระสับกระส่าย จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงห้าทุ่ม "ฮือตายแน่นอนไม่หลับ" แฟ่ก! แฟ่ก! เหนือฟ้าสะดุ้งลุกดึงผ้าห่มมาคลุมจนมิดหัว "เสียงอะไรอ่ะ" ด้านนอกระเบียงมีแมวประจำรีสอร์ตแวะมา
ภาคีผลักประตูแล้วรีบกดล็อกสาวเท้าเข้ามาจนเหนือฟ้าวิ่งหนีไปอยู่มุมห้อง "พี่คีจะทำอะไร หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ต้องเข้ามา" หนุ่มมาดเซอร์ท่าทางยียวนกวนประสาทเลิกคิ้วสูงแล้วพุ่งตัวเข้าใส่สาวอวบหลับตาปี๋ยกแขนป้องตัวเอง สองแขนเต็มด้วยมัดกล้ามคร่อมแนบหัวไหล่เปลือยขาว "ขี้แย ขี้ตกใจ ขี้ขางด้วย น่าฮักขนาด" "ขี้ขางอะไรเหนือไม่เข้าใจค่ะ" เหนือฟ้าหลุบตามองพื้นพยายามทำตัวลีบแบน "ฮ่าฮ่าบ่ะหนุนน้อย จะย่อขนาดเหรอครับ ตัวเท่านี้แหละพี่ชอบ" "ฮะ...ชอบ ชอบอะไร" หญิงสาวพยายามจะมุดออกจากวงแขนกว้าง แต่ภาคีก็ขยับตามตลอด "ชอบบ่ะหนุนไง อร่อยดี" "เหนือไม่ใช่ขนุน....เฮ้ยพี่คีนั่นจิ้งเหลนนี่คะ มันเข้ามาในห้องได้ยังไง" เหนือฟ้าแสร้งหลอกให้เขาตายใจ "ฮะไหน" เขาก็ช่างหลอกง่าย สาวอวบจึงได้โอกาสมุดตัวหนีออกจากวงแขนที่คร่อมยันผนังอยู่ "จะหนีไปไหน" ถึงจะหลงกลแต่ระดับความเร็วของเขาก็ต่างกันอยู่ดี เรียวแขนแกร่งรวบเอวเหนือฟ้าแล้วรั้งให้หันกลับมาปะทะกับตัวของเขา คราวนี้ภาคีใช้แขนสองข้างรัดตัวเธอไม่ต่างกับงูเหลือมเพศผู้ "พี่คีชอบใช้กำลัง" บ่นอุบอิบทำแก้มป่องจนอยากก้มลงฟัดให้ช้ำกันไปข้างนึง "เปล่านะ พี่ไม่ได้ชอบใ
ทันทีที่แผ่นหลังของเหนือฟ้าแตะลงกับเตียงนอน จูบดุดันจึงได้ผละออก ภาคีถัดกายลงจากเตียงเกี่ยวปราการสุดท้ายออก เหนือฟ้ารีบสะบัดหน้าหนี ขณะที่เขาคลานกลับขึ้นมา แล้วใช้สองแขนคร่อมชิดอยู่กับหัวไหล่อวบ ริมฝีปากแดงฉานจรดลงมาบนผิวขาว ดวงตาหวานคมสะดุดเข้ากับรอยแผลเป็นนูนเล็ก ๆ ที่ต้นแขน กรามแกร่งบดข่มอารมณ์เดือดดาลที่กำลังปะทุอยู่ภายใน"ไปโดนอะไรมา" เขาอยากลองใจดูว่าเหนือฟ้าจะยอมสารภาพความจริงไหม"โดนกระจกบาดค่ะ" เธอยังคงกลบเกลื่อนไปเรื่อย"เหรอ" ภาคีลุกขึ้นแล้วนั่งขัดสมาธิ เขาหยิบมือของเหนือฟ้าแล้วก้มลงหอมซ้ำ ๆ เหมือนที่เคยชอบทำ "บอกว่าให้มานั่งนี่" เขาตบขาตัวเอง"ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวพี่คีหนัก" เหนือฟ้าหยัดตัวขึ้นเหลือบมองแก่นกายที่กำลังแข็งตัวกลางซอกขา"งั้นก็มาลองดูว่าจะหนักแค่ไหน หรือคุณลูกค้าอยากให้คนอื่นมานั่งบนตักผม" เขาขู่แล้วยักคิ้วหลิ่วตาใส่"ไม่เอา" สาวอวบไม่ยอม สุดท้ายจึงต้องกัดฟันสู้แล้วลุกไปหาเขาทั้งที่ยังมีผ้าห่มปิดกายอยู่"ไม่ชอบผ้าเกะกะลูกตา" ภาคีดึงผ้าออก เหนือเบิกตาโตเมื่อผ้าห่มปลิวไปอยู่ข้างเตียง"พี่คีเดี๋ยวเหอะ เหนือเป็นลูกค้านะ ต้องตามใจลูกค้าสิคะ ว้าย..." ข้อมือขาวถูกฉุดใ
ภาคีกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบแล้วซื้อถุงยางอนามัยพร้อมกับเครื่องดื่มมึนเมาสองสามกระป๋อง หลังจากคุยกับราตรีจบเขาก็รู้สึกเบลอไปหมด เขาไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าคนที่เขารักสุดหัวใจปิดบังเรื่องเลวร้ายกับเขามาถึงสามปีเต็มภายในห้องพักของเหนือฟ้าเปิดไฟสว่างโล่ง หญิงสาวเอาแต่จ้องโทรศัพท์เผื่อว่าพี่สาวจะตัดสินใจโอนเงินมาให้ภายในคืนนี้ ตอนนี้เธอร้อนรุ่มไม่ใช่ว่าต้องการทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวยัยปูเป้นั่นฉกพี่คีของเธอไปกิน แต่ดูจากการที่พวกเขาแตะเนื้อต้องตัวกัน ป่านนี้น่าจะกินกันไปหลายรอบแล้วด้วยซ้ำผิดกับเธอถึงยังคงเก็บเวอร์จิ้นไว้ให้หนุ่มเหนือคนนี้เพียงคนเดียว ตึ๋ง!เงินจำนวน 500,000 บาทโอนเข้าบัญชีคุณเรียบร้อย"กรี๊ดดดด เงินมาแล้วโว้ย จะได้กินผู้ชายแล้วไอ้เหนือ" หญิงสาวกระดี๊กระด๊าเหลือบดูนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาตีหนึ่งพอดี "กินกันตอนตีหนึ่ง จะท้องอืดไหมนะ"เหนือฟ้าลูบวนไปทั่วหน้าท้องย้วย ๆ ของตนเองก๊อก! ก๊อก!สาวอวบรีบวาดขาลงจากเตียง หาวสองสามที ใบหน้าอ่อนเพลียเขย่งส่องตาแมว พลันนั้นหนังตาที่หนักอึ้งกลับเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นในทันที คนระริกระรี้รีบเปิดประตูห้องออกไปแล้วยิ้มแฉ่งให้หนุ่มชาวไ
คนตัวสูงเพียงแค่พูดขู่ แต่เหนือฟ้ากลับคว้าโทรศัพท์โทรหาพี่สาว "พี่ไนท์เหนือขอยืมห้าแสน"ภาคีถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเร่งฝีเท้าออกจากห้อง"เดี๋ยวพี่คี ไอ้ภาคี ไอ้คน..." เหนือฟ้าเดินตามไป แต่เขากลับปิดประตูกระแทกใส่หน้าเธออย่างแรง"เหนือจะเอาเงินตั้งมากมายไปทำอะไร" ราตรีกรอกเสียงกลับมาอย่างกังวล"เหนือจะซื้อพี่คี ซื้อกิน""ฮะ..บ้าเปล่าเนี่ย แล้วเจอคีที่ไหน ที่งานเอ็กซ์โปใช่ไหม""ใช่ค่ะ""เอางี้นะ พี่จะโอนเงินให้พรุ่งนี้ แต่เหนือต้องใจเย็นแล้วกลับไปนอนซะ ถ้ายังดื้ออีกพี่จะบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าสามปีก่อนเหนือเจออะไรมา""ก็ได้ค่ะ ตกลง"หลังจากวางสายจากน้องสาวราตรีที่หัวไว ไหวพริบเป็นเลิศก็คิดแผนการซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว "ยังไงคงต้องบอกความจริงแล้วล่ะ ก่อนที่น้องสาวฉันจะประสาทแดก"ราตรีกลอกตามองบน ไอ้เด็กสองคนนี้มันเป็นอะไรกันนักหนา นักธุรกิจสาวในชุดเสื้อยืดเอวลอยสวมกางเกงวอร์มผ้าร่มคว้ากระเป๋ากล่องเหล็กที่เก็บข้อมูลทุกอย่างแล้วโทรตามทนายพิมุกต์กลางดึก"คุณพิคะ ช่วยไนท์หน่อย ถ้าคุณพิไม่มาด้วยไนท์กลัวว่าภาคีจะไม่เชื่อ ดังนั้นไนท์รวบกวนคุณพิหน่อยนะคะ"ราตรีขับรถไปรับพิมุกต์ที่บ้านแล้วเหยียบมิด
เหนือฟ้ารอให้คั่วกลิ้งเอาคีย์การ์ดห้องพักขึ้นมาให้แล้วตัดสินใจโทรไปสั่งอาหารเดลิเวรี่แทนที่จะลงไปหาข้าวที่ร้านสะดวกซื้อใต้โรงแรม หญิงสาวกดสั่งซูชิร้านโปรดที่ขายจนถึงห้าทุ่ม แล้วมานั่งกินคนเดียวที่บันไดหนีไฟ ขณะที่ภาคีเปิดประตูห้องพักออกมาเพื่อลงไปเช็กบูธที่ลูกน้องช่วยกันจัดว่าเป็นระเบียบดีหรือไม่พลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเจือยแจ้วดังมาจากทางบันไดหนีไฟ ซึ่งเสียงใส ๆ นี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปแอบฟัง"กินข้าวแล้วใช่ไหมเหนือ" ราตรีกรอกเสียงกลับมาผ่านทางโทรศัพท์"กินซูชิค่ะ""กินร้านนั้นมาสามปีแล้วนะ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนร้านมั่ง พี่เห็นจนจะเอียนแล้ว""ก็มันเป็นร้านโปรดพี่คีนี่นา"ภาคีตวัดมองแผ่นหลังที่อยู่ในชุดเสื้อฮู้ดตัวหนาทันควัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่บอกเลิกกลับพยายามจะพูดและนึกถึงเขาอยู่ตลอด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนตัดสายสัมพันธ์นั้นก่อนแท้ ๆ"บอกเลิกเขาแล้วยังไม่รู้จักมูฟออน แล้วนี่ฮ้อนจะตายไป ทำไปถึงใส่ชุดกันหนาวแขนยาวตลอด"เหนือฟ้ารีบตวัดหน้าไปดู แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยืนพิงประตูบันไดหนีไฟอยู่ "เหนือไม่ได้ตั้งใจบอกเลิกนะคะ เหนือมีเหตุผล ส่วนเรื่องการแต่งตัวเหนือแค่อยากเปลี่ยนสไตล์
สามปีผ่านไปภายในงานเกษตรแฟร์เอ็กซ์โป 2026 ออกาไนซ์สาวร่างอวบผิวขากำลังวิ่งประสานงานตามบูธต่าง ๆ ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย"คุณโรจน์คะ ประมาณช่วงสิบโมงของวันพรุ่งนี้เราจะเริ่มไลฟ์สดเริ่มที่บูธคุณโรจน์ก่อนนะคะ ยังไงเตรียมข้อมูลกับผลิตภัณฑ์ที่จะโปรโมตไว้ล่วงหน้าได้เลยค่ะ อาจจะมีทีมงานมาบรีฟให้เบื้องต้นก่อนสักหนึ่งชั่วโมงค่ะ""โอเคครับ ขอบคุณมากครับคุณเหนือ""พี่เหนือ ๆ ทางโน้นมีเรื่องกัน เหมือนว่าจะเจ้าหน้าที่ของเราจะติดป้ายผิด ทำให้บูธของผู้ประกอบการสลับกัน พี่เหนือไปเจรจาหน่อย เพราะอีกเจ้าเขาไม่ยอมย้าย""ได้เดี๋ยวพี่ไปคุยเอง" หัวหน้าทีมดูแลบูธอย่างเหนือฟ้ารีบสับขาตรงไปจุดเกิดเหตุ แต่เพราะช่วงที่ผู้ประกอบการแต่ละบูธกำลังเดินพลุกพล่านทำให้หญิงสาวเผลอไปชนเข้ากับใครบางคนปั้ก!"โอ้ย" เหนือฟ้ากุมแขนที่โดนตัวของอีกฝ่ายกระแทก"เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ" เสียงเข้มที่คุ้นเคยทำให้เจ้าหน้าที่จัดงานที่กำลังทำหน้าบิดเบ้ต้องรีบตวัดหน้าไปมองวินาทีที่ดวงตาสบประสานกับชายใต้แว่นสีดำสนิท หัวใจของเธอก็แทบจะหล่นวูบไปกองอยู่ที่พื้น ดวงตากลมสั่นระริกเมื่อเขาทำท่าทางเคร่งขรึมเมินเฉยเหมือนไม่รู้จักกัน"พี่คี ไม่ได้เจอ
เหนือฟ้านอนพักรักษาตัวเกือบหนึ่งเดือนเต็ม โชคดีที่อวัยวะภายในไม่ฉีกขาดหรือได้รับบาดเจ็บรุนแรง แต่ที่หนักหนาก็คือบริเวณดวงตา และใบหน้าทั้งหมดที่ฟกช้ำและปูดบวม รวมทั้งบาดแผลจากเศษแก้วที่ต้นแขนซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นในอนาคต กับช่วงขาที่โดนเตะจนหักทำให้ต้องใส่เฝือกดามนานหลายเดือนยิ่งไปกว่านั้นราตรีเป็นบุคคลเดียวที่รู้ความลับนี้ เพราะเหนือฟ้าให้พี่สาวปกปิดเรื่องเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายจากพ่อแม่และทุกคน เธอจึงต้องมาอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ของพี่สาว และอยู่ในความดูแลของพี่ตลอดเวลาจนกว่าจะไม่เหลือร่องรอยของบาดแผลต่าง ๆ ให้เห็น"ดีนะที่พี่แต่งเรื่องว่าเหนือเสียใจเรื่องภาคีก็เลยขอมาอยู่กับพี่ที่บ้านเพื่อคลายเหงา โชคดีอีกเรื่องก็คือ พ่อกับแม่ของเราดันไปล่องเรือรอบโลกหลายเดือน งานที่โรงเรียนจึงตกมาอยู่ที่พี่คนเดียวเลย นึกจะไปสวีตหวานกันก็ไปโดยไม่สนใจภาระหน้าที่กันเลยตาทัพกับยายนับเนี่ย"ราตรีบ่นขณะเซ็นเอกสารกองท่วมสูงพลางเหล่สายตามองน้องสาวที่กำลังนั่งทำงานย้อนหลังหลายชิ้นส่งอาจารย์ที่มหาลัยเนื่องจากต้องหยุดเพื่อรักษาตัว"แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมพ่อกับแม่ถึงเลือกไปล่องเรือ คงไม่ใช่แผนพี่ไนท์ใช่ไหม" เหนือ
*มีฉากหดหู่โปรดทำใจดี ๆ"เมื่อคืนภาคีกล่อมเหนือฟ้าหลับ เขาทำเพียงตบ ๆ หลังเธอราวกับปลอบใจเด็กหญิงที่ยังไม่โต ถึงในใจอยากจะขึ้นไปนอนกอดเธอไว้ แต่กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้เขากลัวว่าจะทิ้งเธอไม่ลง เวลาสามปีที่ญี่ปุ่นสำหรับเขามันช่างรู้สึกยาวนานเหมือนกับสามสิบปี แค่นึกถึงตอนที่ไม่ได้เจอเหนือฟ้า ไม่ได้จับมือ ไม่ได้จูบ เขาก็รู้สึกทรมานใจไปหมดสามวันที่เหลือก่อนจะถึงวันเดินทางภาคียังคงไปรับไปส่งเหนือฟ้าและดูแลจนถึงวินาทีสุดท้าย หลังเลิกเรียนเขาพาเธอไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ดูหนัง และโยนโบว์ลิ่งด้วยกัน บ้างก็พาไปเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนแวะกินเมนูเด็ดร้านดังเรียกได้ว่าทำครบกระบวนการของคนที่เป็นแฟนกันอย่างดีที่สุด"เหนือ พี่ให้ครับ" ภาคีไปเจอตุ๊กตาควายจากร้านขายตุ๊กตาแห่งหนึ่งที่ตลาด เขาจึงแวะซื้อมาฝากเหนือฟ้า"ตัวเท่าฝ่ามือเอง ราคาเท่าไหร่คะ" เหนือฟ้ากอดตุ๊กตาควายดำตัวเล็กแล้วก้มลงฟัดมันอย่างมันเขี้ยว"เจ็ดสิบเก้าบาทครับ""แพงเหมือนกันนะคะ เหนือนึกว่าตัวละห้าสิบบาทซะอีก""ก็มันเหลือตัวเดียวในร้านแล้ว พี่ก็เลยซื้อมา เหนือเก็บไว้เป็นตัวแทนพี่นะ" ภาคีฉีกยิ้มกว้างลูบหัวแฟนสาวอย่างอ่อนโยน"เอาควา
เสียงนาฬิกาปลุกของเหนือฟ้าดังขึ้นตั้งแต่ตีห้า เช้านี้เธอคิดจะทำอาหารให้ภาคีกินก่อนไปเรียน แต่หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พอเปิดประตูออกจากห้องนอนกลับพบว่าพ่อครัวหนุ่มกำลังยืนผัดอะไรบางอย่างอยู่หน้าเตา สวมผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนรูปควาย เหนือฟ้าเดินตรงมาหาภาคีที่เตา ชะโงกหน้าลงไปดูเมนูส่งกลิ่นหอมในกระทะ "ผัดบ่ะหนุน ผัดแบบใส่พริกแกงเผ็ด ใช้ขนุนอ่อนหน่อย กินตอนร้อน ๆ อร่อยมาก น้องชายพี่ทำให้กินบ่อย" ภาคีบอกแล้วปิดแก๊สเทผัดขนุนอ่อนใส่จาน"พร้อมกินค่ะ หอมน่ากินมาก ๆ เลย""ผัดบ่ะหนุนอย่างเดียวเหรอที่น่ากิน คนทำล่ะ" ภาคีถามขณะเดินนำจานผัดเผ็ดขนุนกลิ่นหอมไปวางที่โต๊ะ โดยมีเหนือฟ้าทำหน้าที่คดข้าวสองจานตามไปทีหลัง"คนทำก็น่ากินอยู่นิดนึง" นิสิตสาวนั่งลงฝั่งตรงข้าม พูดเสียงเบาอย่างอาย ๆ"อนาคตพี่จะให้เหนือกินแล้วกันนะ"เขายังคงตะล่อมและหว่านล้อมให้เธอใจแตก โชคดีที่พี่คีไม่ชอบคนชอบบังคับฝืนใจ การคบหากับเขาจึงมีแต่ความสบายใจภาคีขับรถไปส่งเหนือฟ้าแถมยังแวะซื้อของกินมากมายให้เธอกินระหว่างช่วงพักกลางวัน"อิจฉาอ่ะ พี่คีดูแลเพื่อนรักแก้วดีขนาดนี้เลยเหรอ ดูดิของกินเพียบเลย แฟนแก้วนะทั้งขี้งกทั
เช้านี้เหนือฟ้าเดินทางไปมหาลัยด้วยตนเองโดยรถไฟฟ้าใต้ดินที่ติดกับคอนโด เพราะเมื่อคืนภาคีทำงานหามรุ่งหามค่ำ เธอจึงไม่อยากรบกวน แล้วปล่อยให้เขานอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนิสิตสาวใช่เวลาในการสอบสามชั่วโมงเต็มตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงสิบโมง แล้วเรียนต่อภาคบ่ายจนถึงสี่โมงเย็น ก่อนกลับจึงแวะซื้อของกินมากมายไปฝากเขา"คุณเหนือฟ้ารึเปล่าครับ" รปภ.หน้าคอนโดเดินเข้ามาดักหน้าแล้วก้มลงดูรูปในโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบว่าใช่ตัวจริงหรือเปล่า"ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ""พอดีเจ้าของห้อง 909 ฝากคีย์การ์ดไว้ครับ เห็นว่ามีธุระด่วน""อ้อ ขอบคุณค่ะ" เหนือฟ้ารับคีย์การ์ดของภาคีมาจากมือของรปภ.แล้วเดินกลับห้องพักด้วยสีหน้าเป็นกังวล จึงตัดสินใจโทรไปหา"พี่คีอยู่ไหนคะ เหนือกลับมาถึงห้องแล้วนะคะ""ฮัลโหลเหนือ พี่ขอโทษนะ พี่ต้องบินด่วนกลับมาแม่ฮ่องสอน พอดีรถคนงานประสบอุบัติเหตุ คนงานบาดเจ็บสามคนพ่อเลยส่งพี่มาดูแลพวกเขา""แล้วเป็นอะไรกันมากไหมคะ""ยังไม่รู้เลยครับ พี่ต้องรอไปสอบถามอาการจากหมอที่โรงพยาบาลก่อน ยังไงสามสี่วันนี้เหนืออยู่คนเดียวไปก่อนนะ ถ้าอยู่คนเดียวไม่ได้ เหนือก็กลับไปนอนที่บ้านก่อน""ไม่เป็นไรค่ะ เหนืออยู่ได้ เดินทาง