เหนือฟ้ารอให้คั่วกลิ้งเอาคีย์การ์ดห้องพักขึ้นมาให้แล้วตัดสินใจโทรไปสั่งอาหารเดลิเวรี่แทนที่จะลงไปหาข้าวที่ร้านสะดวกซื้อใต้โรงแรม หญิงสาวกดสั่งซูชิร้านโปรดที่ขายจนถึงห้าทุ่ม แล้วมานั่งกินคนเดียวที่บันไดหนีไฟ ขณะที่ภาคีเปิดประตูห้องพักออกมาเพื่อลงไปเช็กบูธที่ลูกน้องช่วยกันจัดว่าเป็นระเบียบดีหรือไม่
พลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเจือยแจ้วดังมาจากทางบันไดหนีไฟ ซึ่งเสียงใส ๆ นี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปแอบฟัง
"กินข้าวแล้วใช่ไหมเหนือ" ราตรีกรอกเสียงกลับมาผ่านทางโทรศัพท์
"กินซูชิค่ะ"
"กินร้านนั้นมาสามปีแล้วนะ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนร้านมั่ง พี่เห็นจนจะเอียนแล้ว"
"ก็มันเป็นร้านโปรดพี่คีนี่นา"
ภาคีตวัดมองแผ่นหลังที่อยู่ในชุดเสื้อฮู้ดตัวหนาทันควัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่บอกเลิกกลับพยายามจะพูดและนึกถึงเขาอยู่ตลอด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนตัดสายสัมพันธ์นั้นก่อนแท้ ๆ
"บอกเลิกเขาแล้วยังไม่รู้จักมูฟออน แล้วนี่ฮ้อนจะตายไป ทำไปถึงใส่ชุดกันหนาวแขนยาวตลอด"
เหนือฟ้ารีบตวัดหน้าไปดู แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยืนพิงประตูบันไดหนีไฟอยู่ "เหนือไม่ได้ตั้งใจบอกเลิกนะคะ เหนือมีเหตุผล ส่วนเรื่องการแต่งตัวเหนือแค่อยากเปลี่ยนสไตล์นิดหน่อย"
"เหตุผลอะไร ไหนลองบอกมาสิ"
"คือ ตอนนั้นเหนือประสบอุบัติค่ะ ก็เลยไม่อยากให้พี่คีเป็นกังวล เหนือแค่กลัวว่าพี่คี..."
"พอเหอะหยุดชักแม่น้ำทั้งห้าซะที"
"พี่คีไม่เชื่อเหนือเหรอคะ" เหนือฟ้าเองก็อยากพูดตรง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาจะยอมเชื่อไหม อีกอย่างเธอเองก็ไม่พร้อมจะให้รับรู้เรื่องเลวร้ายแบบนั้น เธอไม่ค่อยอยากจะขุดคุ้ยมันขึ้นมาอีก นึกถึงทีไรก็กลัวจนตัวสั่นไปหมด
"เงียบทำไม แน่จริงก็อธิบายต่อสิ" เขาท้า
"เหนือยังไม่พร้อมจะบอกเรื่องนี้ แต่เหนือพร้อมจะจีบพี่คีใหม่อีกรอบ เหนือจีบพี่คีได้ไหมคะ"
ภาคีขมวดคิ้วดวงตาเขม็งมองดวงหน้าจิ้มลิ้ม "ไปต่อแถวเอาแล้วกัน"
เขาบอกแล้วเดินตัวปลิวตรงไปที่ลิฟต์ แต่เหนือฟ้าวิ่งตามไปด้วย แล้วรีบแทรกตัวเข้าไปยืนอยู่ข้างเขา
"จะตามมาทำไม น่ารำคาญ"
"พี่คีกินซูชิไหมคะ เดี๋ยวเหนือป้อน"
ภาคีไม่ตอบพอลิฟต์เปิดออกเขาก็เดินเข้าไปในฮอลล์จัดงานเพื่อตรวจความเรียบร้อยของบูธ ขณะที่เหนือฟ้าก็ยังคงตามตื๊อไม่หยุด ถ้ามีโอกาสจะสามสัมพันธ์กับเขาใหม่ เธอก็ทวงคืนเขากลับมาเป็นของตนเองให้ได้ แม้จะต้องช่วงชิงกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ก็ตาม
หนุ่มผมหยักศกตรวจดูบูธของตนเองเสร็จสรรพ จากนั้นเดินไปหาของกินรอบดึกที่ร้านสะดวกซื้อเหนือฟ้าจึงตามเข้าไปด้วย ภาคีเลือกซื้อนมกับขนมและของกินมากมายใส่ตะกร้า และของที่เขาหยิบล้วนแต่เป็นของที่เหนือฟ้าชอบทั้งนั้น ขณะจ่ายเงิน ปูเป้ผู้หญิงที่เขากำลังดูใจไปเรื่อยเปื่อยกลับเดินมาซื้อของกินไปตุนในห้องเช่นกัน
"อ้าวคี ยังไม่นอนอีกเหรอคะ มาหาของกินเหรอ"
"ครับ คุณล่ะ"
"มาซื้อของไปกินเล่นเหมือนกันค่ะ วันนี้นอนไม่ค่อยหลับเลย สงสัยเป้จะตื่นเต้นที่ได้มาทำงานอยู่ใกล้ ๆ แฟน"
หัวใจของเหนือฟ้าถึงกับแตกสลาย เมื่อได้รับรู้ว่าพิธีกรสาวคนดังที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมกำลังคบหากับอดีตคนรักของเธอ ดวงตากลมเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา สาวพลัซไซซ์ใจเสียรีบวิ่งออกไปหน้าร้านสะดวกซื้อจนสะดุดขาล้มลงกับพื้น กล่องซูชิที่หิ้วติดมาด้วยเทกระจาดหกกระจัดกระจาย
ลูกค้าทุกคนในร้านตวัดไปมองสาวผู้โชคร้าย ภาคีกัดฟันแน่นข่มใจไม่ให้ตัวเองเดินไปพยุงเหนือฟ้าขึ้นมา
"เฮ้ย พี่เหนือ" โชคดีที่คั่วกลิ้งลูกน้องหนุ่มคนสนิทเดินผ่านมาพอดี จึงช่วยประคองเหนือฟ้าขึ้นมาจากพื้นคอนกรีต
"ขอบใจนะ พี่ไม่เป็นไร พี่ขอตัวก่อน พรุ่งนี้นายอย่าตื่นสายล่ะ" บอกแล้วรีบร้อนพาตัวเองกลับออกมาจากสายตานับสิบคู่ที่กำลังจ้องมอง
เหนือฟ้ากลับมาอาบน้ำสระผมเอนตัวพิงกำแพงปล่อยโฮเสียงดังลั่นห้องน้ำ เพราะเสียงร้องไห้ของเธอกลบเสียงเคาะเรียกด้านนอก
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ภาคียืนเคาะประตูอยู่นาน แต่คนด้านในยังคงเงียบอยู่ เขายืนพิงประตูอยู่แบบนั้นพยายามสงบสติอารมณ์แล้วใช้เหตุผลคุยกับเหนือฟ้า
เหนือฟ้าเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำในทั้งที่ตัวเองยังอยู่ในสภาพนุ่งผ้าขนหนูผืนสั้น ผมเพ้าเปียกโชก ดวงตาแดงก่ำทรุดตัวลงกับเตียงนอน สะอื้นเสียงดังอีกครั้ง โดยไม่รู้ว่าภาคียังยืนพิงประตูอยู่ข้างนอก
ก๊อก! ก๊อก!
คราวนี้เขาไม่ลังเลรีบทุบประตูห้องเรียกคนข้างในด้วยความกังวล ขณะที่คนที่กำลังฟูมฟายรีบร้อนหาเสื้อคลุมอาบน้ำมาคลุมทับด้วยเร่งรีบ แล้วเดินไปส่องตาแมวข้างนอก เมื่อเห็นว่าใบหน้าคมขาวที่คุ้นเคยกำลังยืนรออยู่หน้าห้อง จึงไม่ลังเลที่จะเปิดประตูออกไป
"พี่คี"
ภาคีกวาดตามองดวงตาบวมช้ำ และปลายจมูกที่กลายเป็นสีชมพู "ร้องไห้ทำไม"
"ก็เหนือหกล้มก็เลยเจ็บ พี่คีปลอบเหนือหน่อยสิ"
"สลิดหยั่งวอก" เขาสบถแล้วส่งถุงของกินที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อให้เธอ
เหนือฟ้าหลุบตาลงมองพื้น รู้สึกเจ็บจี๊ดกับคำด่าของอดีตคนรัก ตอนนี้เธอก็ดัดจริตอย่างที่เขาว่าเป็นภาษาเหนือจริง ๆ
"ซื้อมาขุนเหนือเหรอคะ ขอบคุณมากเลยค่ะ"
"ไม่ได้ขุน ก็แค่ซื้อมาฝาก"
"แล้วยะหยังอ้ายถึงซื้อมาฝากน้อง" เหนือฟ้ารับถุงขนมมาแล้ววางลงกับพื้น คว้ามือภาคีมาจับ แต่เขากลับสะบัดทิ้ง
"ซื้อมาให้ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่จัดงาน ก็แค่แสดงน้ำใจเล็ก ๆ น้อย อ้ายไม่เหมือนใครบางคนที่นิสัยใจจืดใจดำ" เขายังคงแดกดันประชดประชันจนถึงวินาทีสุดท้าย
คราวนี้เหนือฟ้ากระชากแขนภาคีแล้วดึงเข้ามาในห้อง ปิดประตูเสร็จสรรพ "จะทำอะไร"
"นอนกับเหนือ มีอะไรกับเหนือ กล้าไหม"
"บ้าไปแล้วรึไง" ภาคีก้าวขาหนี แต่เหนือฟ้าเดินไปดักหน้า กางแขนสองข้างออกไม่ยอมให้เขาจากไปทั้งที่ยังเคลียร์ไม่จบ
"ใช่ เหนือมันบ้า รึว่าพี่คีจะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามา เหนือจะซื้อพี่คี จะเอาคืนละห้าพัน หรือว่าคืนละหนึ่งหมื่น"
ภาคีกัดกรามแน่นแล้วผลักหัวไหล่เหนือฟ้าไปชนกับผนังห้องอย่างหัวเสีย "มีสักห้าแสนไหมล่ะ ถ้ามีเดี๋ยวจะจัดให้ขาสั่น จะเอาจนถุงยางหมดกล่อง"
"ระดับเหนือไม่ใส่ถุงยางหรอกค่ะ เหนือชอบสด" เหนือฟ้าไม่ยอม เขาแรงมาเธอก็แรงกลับให้รู้ซะบ้างว่าสามปีมานี้เธอเข้มแข็งขึ้นมากแค่ไหน
*สลิดหยั่งวอก = ดัดจริต *ฮ้อน = ร้อน
คนตัวสูงเพียงแค่พูดขู่ แต่เหนือฟ้ากลับคว้าโทรศัพท์โทรหาพี่สาว "พี่ไนท์เหนือขอยืมห้าแสน"ภาคีถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเร่งฝีเท้าออกจากห้อง"เดี๋ยวพี่คี ไอ้ภาคี ไอ้คน..." เหนือฟ้าเดินตามไป แต่เขากลับปิดประตูกระแทกใส่หน้าเธออย่างแรง"เหนือจะเอาเงินตั้งมากมายไปทำอะไร" ราตรีกรอกเสียงกลับมาอย่างกังวล"เหนือจะซื้อพี่คี ซื้อกิน""ฮะ..บ้าเปล่าเนี่ย แล้วเจอคีที่ไหน ที่งานเอ็กซ์โปใช่ไหม""ใช่ค่ะ""เอางี้นะ พี่จะโอนเงินให้พรุ่งนี้ แต่เหนือต้องใจเย็นแล้วกลับไปนอนซะ ถ้ายังดื้ออีกพี่จะบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าสามปีก่อนเหนือเจออะไรมา""ก็ได้ค่ะ ตกลง"หลังจากวางสายจากน้องสาวราตรีที่หัวไว ไหวพริบเป็นเลิศก็คิดแผนการซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว "ยังไงคงต้องบอกความจริงแล้วล่ะ ก่อนที่น้องสาวฉันจะประสาทแดก"ราตรีกลอกตามองบน ไอ้เด็กสองคนนี้มันเป็นอะไรกันนักหนา นักธุรกิจสาวในชุดเสื้อยืดเอวลอยสวมกางเกงวอร์มผ้าร่มคว้ากระเป๋ากล่องเหล็กที่เก็บข้อมูลทุกอย่างแล้วโทรตามทนายพิมุกต์กลางดึก"คุณพิคะ ช่วยไนท์หน่อย ถ้าคุณพิไม่มาด้วยไนท์กลัวว่าภาคีจะไม่เชื่อ ดังนั้นไนท์รวบกวนคุณพิหน่อยนะคะ"ราตรีขับรถไปรับพิมุกต์ที่บ้านแล้วเหยียบมิด
ภาคีกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบแล้วซื้อถุงยางอนามัยพร้อมกับเครื่องดื่มมึนเมาสองสามกระป๋อง หลังจากคุยกับราตรีจบเขาก็รู้สึกเบลอไปหมด เขาไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าคนที่เขารักสุดหัวใจปิดบังเรื่องเลวร้ายกับเขามาถึงสามปีเต็มภายในห้องพักของเหนือฟ้าเปิดไฟสว่างโล่ง หญิงสาวเอาแต่จ้องโทรศัพท์เผื่อว่าพี่สาวจะตัดสินใจโอนเงินมาให้ภายในคืนนี้ ตอนนี้เธอร้อนรุ่มไม่ใช่ว่าต้องการทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวยัยปูเป้นั่นฉกพี่คีของเธอไปกิน แต่ดูจากการที่พวกเขาแตะเนื้อต้องตัวกัน ป่านนี้น่าจะกินกันไปหลายรอบแล้วด้วยซ้ำผิดกับเธอถึงยังคงเก็บเวอร์จิ้นไว้ให้หนุ่มเหนือคนนี้เพียงคนเดียว ตึ๋ง!เงินจำนวน 500,000 บาทโอนเข้าบัญชีคุณเรียบร้อย"กรี๊ดดดด เงินมาแล้วโว้ย จะได้กินผู้ชายแล้วไอ้เหนือ" หญิงสาวกระดี๊กระด๊าเหลือบดูนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาตีหนึ่งพอดี "กินกันตอนตีหนึ่ง จะท้องอืดไหมนะ"เหนือฟ้าลูบวนไปทั่วหน้าท้องย้วย ๆ ของตนเองก๊อก! ก๊อก!สาวอวบรีบวาดขาลงจากเตียง หาวสองสามที ใบหน้าอ่อนเพลียเขย่งส่องตาแมว พลันนั้นหนังตาที่หนักอึ้งกลับเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นในทันที คนระริกระรี้รีบเปิดประตูห้องออกไปแล้วยิ้มแฉ่งให้หนุ่มชาวไ
ทันทีที่แผ่นหลังของเหนือฟ้าแตะลงกับเตียงนอน จูบดุดันจึงได้ผละออก ภาคีถัดกายลงจากเตียงเกี่ยวปราการสุดท้ายออก เหนือฟ้ารีบสะบัดหน้าหนี ขณะที่เขาคลานกลับขึ้นมา แล้วใช้สองแขนคร่อมชิดอยู่กับหัวไหล่อวบ ริมฝีปากแดงฉานจรดลงมาบนผิวขาว ดวงตาหวานคมสะดุดเข้ากับรอยแผลเป็นนูนเล็ก ๆ ที่ต้นแขน กรามแกร่งบดข่มอารมณ์เดือดดาลที่กำลังปะทุอยู่ภายใน"ไปโดนอะไรมา" เขาอยากลองใจดูว่าเหนือฟ้าจะยอมสารภาพความจริงไหม"โดนกระจกบาดค่ะ" เธอยังคงกลบเกลื่อนไปเรื่อย"เหรอ" ภาคีลุกขึ้นแล้วนั่งขัดสมาธิ เขาหยิบมือของเหนือฟ้าแล้วก้มลงหอมซ้ำ ๆ เหมือนที่เคยชอบทำ "บอกว่าให้มานั่งนี่" เขาตบขาตัวเอง"ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวพี่คีหนัก" เหนือฟ้าหยัดตัวขึ้นเหลือบมองแก่นกายที่กำลังแข็งตัวกลางซอกขา"งั้นก็มาลองดูว่าจะหนักแค่ไหน หรือคุณลูกค้าอยากให้คนอื่นมานั่งบนตักผม" เขาขู่แล้วยักคิ้วหลิ่วตาใส่"ไม่เอา" สาวอวบไม่ยอม สุดท้ายจึงต้องกัดฟันสู้แล้วลุกไปหาเขาทั้งที่ยังมีผ้าห่มปิดกายอยู่"ไม่ชอบผ้าเกะกะลูกตา" ภาคีดึงผ้าออก เหนือเบิกตาโตเมื่อผ้าห่มปลิวไปอยู่ข้างเตียง"พี่คีเดี๋ยวเหอะ เหนือเป็นลูกค้านะ ต้องตามใจลูกค้าสิคะ ว้าย..." ข้อมือขาวถูกฉุดใ
เหนือฟ้าขนลุกขนพองไปทั้งตัวเมื่อเนินขานุ่มของตนเองถูกเขาถ่างออก หญิงสาวดันตัวขึ้นส่งมือไปปิดรอยแยกสีชมพูที่กำลังถูกภาคีเชยชม ดวงตากลมเอ่อล้นด้วยน้ำใส ชายหนุ่มรู้สึกผิดยิ่งคิดว่าเธอต้องไปเผชิญเรื่องโหดร้ายป่าเถื่อนแบบนี้ เขาก็ยิ่งแค้นจนอยากสับไอ้เวคินเป็นร้อย ๆ ชิ้น"เห็นใจ๋อ้ายเต๊อะคนดี"สาวพลัซไซซ์นึกถึงวันที่เธอให้พี่สาวเขียนจดหมายไปบอกเลิกเขาก็รู้สึกผิดอยู่ตลอดสามปีที่ผ่านมา ถ้าร่างกายนี้ตอบแทนเขาได้ เธอก็ยอม มือนุ่มยกออกไม่ถึงสิบวิ ชิวหาแดงก็ทะแยงลงมาที่ตัวตนของเธอ ริมฝีปากเล็กขบเม้นเป็นเส้นตรง เสียวซ่านจนมือสองข้างต้องยันกับพื้นเตียงเพื่อประคองร่างกายที่กำลังอ่อนปวกเปียกลงไปทุกที"อ๊ะ...อ๊า" เสียงหวานครางระงม ดังสะท้อนกึกก้องไปทั่วห้องพักในยามวิกาลลีลาการโบกสะบัดจากปลายลิ้นอุ่นหนาของภาคีละเลงลงมาที่กลีบดอกไม้สีชมพูสวยสดอย่างต่อเนื่อง พลางใช้นิ้วแหวกอ้านำทางเพื่อขบดูดเม็ดกระสันแวววาวดุดอัญมณีของเหนือฟ้า เสียงดื่มกลืนของเขาดังซู้ดซ้าดราวกับซดน้ำแกง"เต๋มปากเต๋มคำ" ภาคีผงกหัวขึ้นมอง ก้มลงดูดผิวที่เนินขาด้วยความลุ่มหลง แล้วจัดการดูดซับมวลน้ำป่าจากภายในกายที่ไหลทะลักท่วมออกมาราวเขื่อ
เช้าของงานเอ็กซ์โปวันแรกเหนือฟ้าต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าทั้งที่เธอเพิ่งนอนหลับพักไปได้แค่สองชั่วโมง เพราะเพิ่งเสียเวอร์จิ้นไปให้อดีตคนรัก สาวอวบเลือกสวมเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงยีนทรงบอยตามด้วยการสวมสูทเบลเซอร์สีดำทับ ถักเปียข้างแล้วผูกโบว์สีฟ้า ระหว่างที่กำลังเดินเข้ามาในฮอลล์จัดงานคั่วกลิ้งที่เดินจับไม้จับมือมากับแฟนสาวก็ปรี่เข้ามาทักทาย"พี่เหนือ กินกาแฟยังเนี่ย" ลูกน้องหนุ่มเห็นว่าหัวหน้าของตนดูอิดโรยไม่สดชื่น"ยังจ้ะ งั้นพี่ไปหากาแฟจิบก่อนนะ ดูแลประสานงานแทนพี่ด้วย" เหนือฟ้าใช้นิ้วถ่างตาตัวเองแล้วเดินขาปัดตุปัดตุเป๋ไปหาที่นั่งข้างนอกฮอลล์ขณะที่ภาคีกำลังจูงควายเผือกแม่บ่ะผางเข้ามาในงานพร้อมกับลูกควายเผือกตัวน้อยพร้อมกับลูกน้องสองสามคน เหนือฟ้าจึงได้แต่นั่งมองอย่างมีหวัง หวังลึก ๆ ว่าเขาจะใจอ่อนกับเธอ"น้องเหนือ น้องเหนือเปล่าครับ""คะ" เหนือฟ้าหันไปยังต้นเสียงด้านข้าง แล้วพบว่าคนที่ทักทายคือเจ้าของสวนอินทผลัมที่เคยมาจัดงานเมื่อปีก่อน"จำผมได้ไหม ผมศัจกรที่เคยมาจัดงานเกษตรแฟร์ปีก่อน""จำได้ค่ะ แล้วคุณกรสบายดีไหมคะ""สบายดีครับ แล้วน
ภาคีให้เหนือฟ้าสั่งก๋วยเตี๋ยวแบบพิเศษมา เขารู้สึกว่าเธอผอมลงทั้งที่เมื่อก่อนมีน้ำมีนวลมากกว่านี้ เขากินไปสองชามแล้วนั่งมองออแกไนซ์สาวโซ้ยบะหมี่เหลืองน้ำตกอย่างเอร็ดอร่อย แค่เห็นเธอกินเขาก็มีความสุขแล้วครืด! ครืด!"ฮัลโหล ฉันพาเมียออกมาหาอะไรกิน เออมีแล้ว ไว้ค่อยบอก" เขาคุยกับใครบางคน แต่กลับทำให้ใครอีกคนยิ้มแก้มแตก"กิน ๆ ไปหยุดยิ้มได้แล้ว เดี๋ยวพี่มานะจะเดินไปดูขนมร้านข้าง ๆ หน่อย" เขาบอกแล้วควักแบงค์พันวางไว้ข้างมือเธอ "จะกินอะไรก็สั่งเพิ่ม ไม่ต้องเกรงใจ""แปลกแฮะ อยู่ดี ๆ ก็พ่อพระขึ้นมาเฉย"เหนือฟ้ากินก๋วยเตี๋ยวไปสามชามแล้วตามด้วยน้ำแข็งใสอีกสอง "น้ำแข็งใสถ้วยที่สองค่ะ"ทอฝันเจ้าของร้านวางขนมหวานให้เหนือฟ้า แล้วเก็บชามก๋วยเตี๋ยวที่เหลือพลางเช็ดโต๊ะทำความสะอาด"ขอโทษนะคะ เหนือขอถามอะไรหน่อยได้ไหม""ได้ค่ะ จะถามว่าทำไมสนิทกับพ่อเลี้ยงภาคีเหรอคะ" ทอฝันรู้ทันเพราะเห็นแววตาของเหนือฟ้าตั้งแต่เข้ามาในร้าน ดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่าหวงพ่อเลี้ยงขนาดไหน"ใช่ค่ะ ถ้าไม่สะดวกใจตอบก็ไม่เป็นไรนะคะ""พ่อเลี้ยงไม่ได้สนิทกับฝันคนเดียวหรอกค่ะ แต่สนิทกับคุณพ่อแลละสามีของฝันด้วย เมื่อก่อนพวกเราลำบากมากค่ะ บ้
กล้ามแขนเป็นมัดกระหวัดโอบเหนือฟ้ากลับ ภาคีก้มลงจูบซับเรือนผมสีน้ำตาลคาราเมลซ้ำ ๆ ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยเช็ดคราบน้ำตาที่เปื้อนแก้มป่องพองลม"จะเป็นคุณนายของไร่พิทักษ์มหิงสา ก็ต้องส่งใบสมัครก่อน" อธิบายแล้วถอดเสื้อเบลเซอร์ของเธอออกไป หยิบกระเป๋าที่คล้องหัวไหล่เหนือฟ้าวางลงบนโต๊ะ"ส่งใบสมัครยังไง แล้วเอาประวัติการทำงานด้วยไหมคะ" เหนือฟ้าผู้อ่อนต่อโลกไม่ทันกับดักที่ภาคีวางไว้"ส่งง่ายมาก ก็แค่ส่งผ่านร่างกาย" เสียงเข้มกระซิบแนบใบหู แล้วบรรจงกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอออกทีละเม็ดจนหมด"เป็นการส่งใบสมัครงานที่แปลกดีนะคะ แล้วเคยมีใครมาส่งใบสมัครกับพี่คีแบบนี้บ้างไหม" เหนือฟ้าทำหน้าหงิก แต่ก็ยืนเท้าสะเอวให้ผู้ชายแก้ผ้าตัวเองโดยไม่ปฏิเสธ"ไม่มี" เขาตอบแล้วบรรจงถอดชุดทำงานของเหนือฟ้าออกจนเหลือเพียงบราลูกไม้สีขาวและบิกินี่เข้าเซต ตามด้วยการแก้ผ้าตัวเองให้เหลือเพียงบ็อกเซอร์สีเทา ขณะที่ฝ่ามืออุ่นหนาไล้มาตามเนินอกขาวผ่องค่อย ๆ เคลื่อนไปดีดตะขอเสื้อใน และจัดการเกี่ยวทิ้งลงกับพื้นกวาดดวงตามองปทุมถันขาวเนียนเกลี้ยงเกลาไร้ตำหนิ บนหน้าอกสองข้างโดดเด่นด้วยสตรอว์เบอร์รี่ญี่ปุ่นลูกใหญ่ผลสดที่ประดับอยู่บนลำต้น
สาวอวบลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจบนเตียงนอน มองหาเจ้าของกลิ่นกายวนิลาที่นอนโอบกอดเธอทั้งคืน แล้วนึกขึ้นได้ว่าเขากลับไปแล้วแถมยังติดโน้ตไว้ที่กระจก พร้อมเบอร์โทรศัพท์"ไว้ป๊ะกั๋นเน้อ บะหนุนน้อย 099-xxxxxxx" เหนือฟ้าฉีกยิ้มแล้วกระโดดโลดเต้นไปทั่วห้อง รีบเก็บข้าวเก็บของแล้วลงไปเช็กเอาท์เพื่อตรงกลับไปเก็บข้าวของที่คอนโดพี่สาวแล้วเดินทางไปนครนายกทันทีราตรีนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟลาเต้เครื่องดื่มโปรด ผู้อำนวยการโรงเรียนสาวชำเลืองมองน้องรักที่กำลังนั่งพับเสื้อผ้าอาภรณ์ลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ยักษ์ ตามด้วยกระเป๋าใบเล็ก ๆ อีกสองใบ"จะรีบร้อนไปไหนฮะเรา ยัยเหนือ""ไปหาผัวค่าาาา"พรวด!!!!กาแฟถูกพ่นออกมาเป็นฝอย ๆ ราตรีรีบหยิบทิชชูมาซับปาก แล้วส่งใบหน้าหงิกงอไม่พอใจให้น้องที่กล้าได้กล้าเสียจนเกินไป"ไปหาใครมิทราบ อย่าบอกนะว่าภาคีอ่ะ"เหนือฟ้าขมวดคิ้วไม่คาดคิดว่าพี่สาวจะล่วงรู้ "ทำไมถึงรู้ล่ะคะ""ก็เดาไปมั่ว ๆ แล้วนี่จะไปอยู่กับผู้ชายที่นครนายกเลยเหรอ ไม่กลัวแม่กับพ่อบ่นหรือไง" ราตรีนั่งขัดสมาธิแล้วช่วยน้องสาวเก็บสัมภาระ"พ่อแม่ไม่บ่นหรอกค่ะ พวกเขาอยากให้เหนือมีสามีแบบพี่คีจะตายไป ไม่งั้นสามปีมานี้คงไม่พูดถึง
บทเพลงบรรเลงรักยามรัตติกาลโหมกระหน่ำดั่งพายุร้อนที่พัดผ่านในช่วงปลายฝนต้นหนาวเสียงหอบกระชั้นของชายหญิงคลอประสานเกิดเป็นท่วงทำนองขับขานอันแสนไพเราะผสานด้วยเสียงคราง เสียงกระแทกกระทั้นที่เคลื่อนเข้าออกเป็นจังหวะภายในตัวเหนือฟ้านั้นเกิดเป็นเมโลดี้ที่ระรื่นหู"อ๊ะ อ๊า" ขาอวบสองข้างถูกงอชิดจนถึงอก ความเป็นชายอัดแน่นของภาคีกระซวกแทงเข้าออกจนเนื้อตัวของคนใต้ล่างเขย่าไปมาอย่างรุนแรง หน้าอกภูเขาไฟสะบัดไปมาคล้ายกับเครื่องดื่มมิลค์เชครสละมุนลิ้น"พี่รักเหนือนะ รักที่สุดเลย" ภาคีพร่ำบอกคำหวานแล้วตอกตัวตนเข้าไปอย่างต่อเนื่อง"อ๊า เหนือก็รักพี่คีค่ะ อ๊ะ" เหนือฟ้าขานรับด้วยใบหน้าแดงก่ำ"โบ๋ววววว" หอมบั่วและลูกชุบที่นอนอยู่ชั้นล่างช่วยกันเป็นคอรัส"ฮ่าฮ่า เหนือร้องจนหมาหอนเลย" เขาแซวด้วยเสียงหอบ"ก็พี่คีซอยขนาดนี้ เหนือก็เสียวน่ะสิคะ" มือนุ่มฟาดเบา ๆ ลงมาที่ซิกซ์แพคเซ็กซี่ ค้อนมองด้วยความหมั่นไส้"เหนือรัดพี่จนปวดร้าวไปหมด พี่ก็ต้องเร่งจังหวะสิครับ" เถียงฉอด ๆ ตามด้วยการขยำหน้าอกสองข้างเล่นถึงแม้เบื้องล่างของเธอกับเขาจะดูดกลืนกันอยู่ แต่ปากคมที่เพิ่งเถียงเมื่อครู่ก็ไม่ยอมเว้นว่าง โน้มต่ำลงมาเพื่อตะ
ภาคีนั่งจิกเกร็งอยู่บนเก้าอี้ไม้เมื่อตรงหน้าขาของเขามีดวงหน้าหวานจ่อเกยแนบเข่า คอยละเลียดเล็มแทะกินส่วนลำร้อนที่กำลังปูดโปนด้วยเส้นเลือดตอนนี้เขามิอาจห้ามปรามหรือเอ่ยปากขอสิ่งใด เพราะนักนวดสรรพาวุธกำลังสวาปามท่อนเนื้อของเขาอย่างเอร็ดอร่อย"อ่า...." กายแกร่งกระตุกเมื่อน้ำขาวขุ่นถูกฉีดพ่นออกไปทางปากปล่องทว่ากลับไม่มีร่องรอยเหลือไว้ให้เห็น เพราะโพรงปากอุ่นสูบกลืนผ่านลำคอลงไปจนแห้งเหือดเมื่อตัวตนของความเป็นชายชาตรีถูกปลดปล่อยออกมา แม่คุณขาก็ตามมาโลมเลียเก็บกวาดจนสะอาดหมดจด"พี่คีขา อีกรอบไหมคะ"คุณพระคุณเจ้าช่วยอ้ายโตย เดี๋ยวนี้เมียติดใจไอ้ปืนใหญ่กลางลำตัวเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วหรือ"อีกรอบเป็นของพี่ต่างหาก" ภาคีรั้งหัวไหล่มนขึ้น ดึงเข้ามากอดกดจมูกสูดดมความหอมขอกลิ่นน้ำนมที่เคลือบอยู่บนผิวนุ่ม มือข้างหนึ่งเอื้อมไปปลดกิ๊บหนีบผมออก แล้ววางลงกับเก้าอี้ ใช้ปลายนิ้วทั้งสิบช่วยสางเส้นผมให้เข้าทรง บรรจงทัดเก็บไว้หลังหู"นี่เลย ผมยุ่ง ๆ ของเหนือในวันนั้นที่เพื่อนพี่ถ่ายรูปส่งมาให้" เขาย้ำถึงเหตุการณ์ในความทรงจำ จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าตนเองนั้นพร้อมจะหยุดที่ผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียว"
มือไม้ที่เต็มด้วยฟองสีขาวควานหาหัวก๊อก เพราะตอนนี้ฟองของยาสระผมกำลังไหลลงมาเคลือบดวงตาจนรู้สึกแสบไปหมด เหนือฟ้าพยายามคลำหา"พี่คีคะ พี่คี" ร่างเปลือยเปล่าตะโกนขอความช่วยเหลือ"ว่าไงเหนือ" ภาคีตื่นตระหนกรีบหากุญแจห้องน้ำแล้วไขเข้าไป เขาสีหน้าแดงระเรื่อทันทีเมื่อเห็นทรวดทรงที่มีน้ำมีนวลปรากฏอยู่ตรงหน้า"ล้างผมให้เหนือหน่อยค่ะ แชมพูเข้าตา" เหนือฟ้าหรี่ตามองพยายามเดินตรงมาหาสามี"อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวพี่ล้างให้"ภาคีจูงมือเหนือฟ้าไปนอนแล้วบังคับให้เธอแหงนศีรษะพาดขอบอ่างช่วงเวลาที่เขากำลังละเมียดละไมกับการล้างคราบยาสระผม จึงเริ่มพูดบางสิ่งที่เหนือฟ้าหลงลืมมานาน"เหนือจำได้ไหมที่เราบอกว่ากลับจากจีนแล้วจะไปขุดไทม์แคปซูลขึ้นมา แล้วพวกเราก็ลืมสนิท""จริงด้วยค่ะ เหนือลืมไปแล้วนะเนี่ย งั้นพรุ่งนี้เราพาลูก ๆ ไปขุดกันดีไหมคะ""พี่วานให้เตียวไปขุดมาให้แล้ว" เขาบอกแล้วหยิบผ้าขนหนูมาซับเส้นผมที่เริ่มยาวจนถึงกลางหลัง"จริงเหรอคะ" เหนือฟ้ารีบร้อนดันตัวเองขึ้นจากอ่างก้าวขาออกแล้วเตรียมคว้าผ้าขนหนูมาพันตัว เดินออกจากห้องน้ำ ทว่าภายในห้องนอนกลับเต็มด้วยดอกกุหลาบสีแดง และเทียนไฟฟ้าที่ส่องไสว"เนื่องในโอกาสพิเศ
เสร็จสิ้นงานทำบุญของไร่ภาคีจึงสั่งให้ลูกน้องทุกคนตรวจสอบบริเวณพื้นที่สวนส้มซ่ายี่สิบไล่ไปจนถึงบริเวณแปลงปลูกอ้อยไข่ปลาอีกจำนวนสามสิบไร่วันนี้เหนือฟ้าจึงมาให้กำลังใจสามีกับคนงานโดยการพาลูก ๆ มาปิ๊กนิคนอกสถานที่และมองดูอยู่ห่าง ๆ ใต้เต้นท์ผ้าใบฟลายชีทที่ปักขึงกับพื้นดินรวมทั้งยังมีของกินมากมายที่เดือนเพ็ญ อินเหลาช่วยกันหอบหิ้วมาจากโรงครัวประจำไร่เพื่อเลี้ยงคนงานระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบ"นี่กืออะหยังจ้าว" น่านฟ้านั่งยอง ๆ มองดูแม่กำลังย่างอ้อยไข่ปลาบนเตาถ่าน""อ้อยไข่ หรืออ้อยไข่ปลาครับ อ่ะ เดี๋ยวแม่ให้น่านชิมนะ" เหนือฟ้าคีบอ้อยกลิ่นหอมย่างเนยลักษณะคล้ายไข่ปลาขึ้นมาจากเตาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ มีน้ำจิ้มให้เลือกสามอย่าง คือ น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มบาร์บีคิว และน้ำจิ้มแจ่ว"กอบกุนจ้าว" น่านฟ้าใช้นิ้วหยิบอ้อยไข่ชิ้มพอดีคำเปล่าพ่นความร้อนเล็กน้อยแล้วจุ่มลงไปในถ้วยน้ำจิ้มบาร์บีคิวแล้วโยนใส่ปาก"เป็นไงชอบไหมครับ" เหนือฟ้าลูบหัวลูกชายคนเล็ก"ฮักเลย กิ่นโหมกะหนาด น่านจ้วยเน้อหนุนเหนือ" เด็กชายตัดสินใจหยิบเก้าอี้มานั่งดูแม่ย่างอ้อยไข่ เพื่อรอกินรอบต่อไปส่วนนิ่มฟ้ากำลังช่วยพี่ชายย่างหมูปิ้ง โดยมีอินเหล
วันที่สามของการกลับมาอยู่ที่ไร่พิทักษ์มหิงสาตามเดิม เหนือฟ้าตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าแต่กลับมีคนไวกว่า บุคคลที่ว่าก็คือภาคี บะแต๋ง สองคนพ่อลูกที่กำลังช่วยกันเตรียมมื้อเช้าอย่างพิถีพิถันเหนือฟ้ายิ้มกริ่มประทับใจพ่อบ้านกับแก๊งลูกขนุนของตนเอง คุณแม่สายเที่ยวจึงได้โอกาสย่องเบาออกไปจากบ้านพร้อมกับลูกชุบ คุณแม่หมาคู่ขาของเจ้านาย แต่ทว่ากลับมีมือเล็ก ๆ ยื่นมาเกาะข้อเท้ายื้อยุดเอาไว้สาวอวบสะดุ้งเฮือกค่อย ๆ ก้มดูผลปรากฏว่าเป็นลูกแฝดของตนนั่นเอง"หมู่เหาไปโตยเน้อ" นิ่มฟ้าพูดกระซิบ น่านฟ้ายิ้มกว้างช่วยพี่สาวอ้อนวอนแม่"เงียบ ๆ นะจ๊ะ"สามคนแม่ลูกและหมาอีกหนึ่งตัวขับซาเล้งตรงไปที่ไร่ลิ้นจี่ ขับผ่านโรงวนิลาที่เหล่าคนงามกำลังเดินไปมากวักไกว่รอบ ๆ โรงเรือนตั้งแต่เช้าตรู่"หวัดดีครับคุณนาย คุณแฝดตื่นเช้าจังเลยค่า" เสียงคนงานในไร่ตะโกนทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส"ซาหวัดดีจ้าว ไผจานอนคุ่มคาลุ่มอยู่ละจ้าว" นิ่มฟ้าตะโกนตอบกลับไป"คุ่มคาลุ่มเหรอจ๊ะ ใช่กุ้มกาลุม ที่แปลว่านอนคลุมโปงหรือเปล่า" คุณแม่ทวนถามเพื่อความแน่ใจว่าเธอกับลูกเข้าใจตรงกันุ"แม่นแล้วอี่แม่" สาวน้อยมัดแกะสองข้างพยักหน้า"แล้วหมู่เหาจาไปตี้ได ปายเข๋
การใช้ชีวิตอยู่ที่แม่ฮ่องสอนดำเนินมาเกือบสามปีเต็ม น่านฟ้ากับนิ่มฟ้าก็เริ่มคุยจ้อและเดินเตาะแตะไปมาทั่วไร่ชา ด้วยพัฒนาการอันแสนรวดเร็วทำให้แฝดคู่แสบสามารถคุยได้คล่องแคล่ว หยิบจับ ชี้สิ่งของได้ถูกต้อง แม้จะพูดไม่ชัดและไม่เป็นภาษาเท่าไหร่นัก"ปาขี้ หาหนุนกันเต๊อะ" น่านฟ้าจะไปหาแม่ที่กำลังรับนักท่องเที่ยวจีนอยู่กลางไร่ แม้อากาศบนดอยนี้จะเย็นแต่ช่วงเที่ยงวันกลับมีแดดจ้า ภาคีจึงไม่อยากให้ลูกไปเล่นซน"เรียกป้อเฉย ๆ ได้ก่อ ป้อไม่อยากเป็นป้อขี้เลยจ้าว" ภาคีอุ้มลูกชายตัวสูงเท่าหัวเข่าใส่คอกกั้น"ป้อบ่าใช่ปาขี้ แล้วป้อกืออายัย" นิ่มฟ้ากำลังนั่งเล่นบล็อกไม้ในคอก เอ่ยปากถามพ่ออย่างชาญฉลาด"ภาคี ภาคีครับลูก เฮ้อ...เอาเถอะอยากเรียกอะไรก็เรียกไป" ภาคีต้องทำหน้าที่พ่อนมเลี้ยงลูก เพราะทั้งสัปดาห์นี้ทัวร์จีนเข้าไม่หยุด นาน ๆ จะมีกรุ๊ปทัวร์ญี่ปุ่นหลงมาสักสองสามคณะ แต่ก็นานทีปีหนทำให้หน้าที่เลี้ยงลูกตกเป็นของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โชคดีหน่อยที่ช่วงปิดเทอมบะแต๋งจะแวะมาอยู่ที่แม่ฮ่องสอนเพื่อแบ่งเบาภาระช่วยพ่อกับแม่เลี้ยงน้อง"ตายแล้ว ๆ คุณคีคะอีนางชมออนมันมาเกาะแกะเซ้าซี้คุณนายค่ะ" จู่ ๆ ผู้จัดการดู
บะแต๋งเดินไปเดินมารอพ่อที่เข้าไปในห้องผ่าคลอดกับแม่ ในมือมีตุ๊กตาหุยหุยมาสคอตควายเผือกสีชมพูสองตัว เพื่อรอมอบให้น้องที่กำลังจะลืมตาดูโลก"แต๋งครับมานั่งรอกับย่าก่อนเถอะลูก ย่าซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ชอบมาฝากด้วยนะ" เจ๊ต่ายกุมไหล่เล็กของหลานชายที่กำลังจดจ่อรอคอยน้องกับพ่อแม่โดยไม่ละสายตา"แต๋งกินไม่ลงจ้าว แต๋งเป็นห่วงอี่แม่กับน้อง" บะแต๋งกอดตุ๊กตาควายสองตัวแน่น หัวใจเต้นตึกตัก อยากพบหน้าน้องใจแทบขาด"งั้นป้ออุ้ยกิ๋นเน้อ" หม่อมเจ้าภูวสินอาสากินแทนหลาน บะแต๋งพยักหน้ารับแล้วหันกลับไปมองบานประตูห้องคลอดดังเดิมกี่นาที หรือกี่ชั่วโมงผ่านไปแล้วไม่รู้ ตอนนี้บะแต๋งเริ่มหิวข้าวจนตาลายแต่วินาทีที่กำลังจะไปขอหมูปิ้งจากย่ามากิน ประตูห้องคลอดก็เปิดออก พ่อเดินนำออกมาก่อนตามด้วยเตียงของแม่"ป้อ อี่แม่ เป็นอะหยังบ้างจ้าว โอเคก่อ"บะแต๋งปรี่เข้าไปเกาะขาพ่อที่น้ำตาท่วมหน้า ภาคีคุกเข่าลง"โอเคจ้าว น้องอ้วนท้วนสมบูรณ์ลูก ปะเราไปเจอน้องกันดีกว่า"ครอบครัวกฤตกล้าธนาดรนั่งรอทารกน้อยที่นางพยาบาลกำลังเข็นมาส่งให้ที่ห้องพักฟื้น "แต๋งมาหาแม่สิครับ"เหนือฟ้ากวักมือเรียกลูกชายที่เริ่มกินนั่นกินนี่ได้เพราะสบายใจที
ภายในห้องพักพิเศษแอร์เย็นเฉียบ รอบห้องมีทั้งกระเช้าดอกไม้ ตะกร้าผลไม้และของบำรุงสุขภาพของเหนือฟ้าที่แวะเวียนมาเยี่ยม เนื่องจากคุณแม่ลูกแฝดได้รับการวินิจฉัยว่าอาจเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ เพราะตลอดแปดเดือนที่ผ่านมาหญิงสาวยังคงแพ้ท้องหนัก แม้จะกินได้บ้างแต่ก็กินได้น้อยภาคีเป็นห่วงลูกกับเมียในท้องจึงตัดสินใจให้เหนือฟ้านอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจนกว่าจะคลอดก๊อก ๆด้านนอกประตูห้องมีสองสามเงากำลังยืนตะคุ่ม ๆ คนตัวสูงที่กำลังนั่งเช็คออเดอร์ผลไม้อบแห้งระหว่าเฝ้าเหนือฟ้ารีบวางแล๊ปท็อบลงข้างโซฟา แล้วเดินออกไปรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนหลังบานประตูห้องผู้ป่วย มีใบหน้าเล็กยื่นทำตาแป๋วส่งให้ พร้อมกับบะแต๋ง เตียวหุยและเปาะเปี๊ยะที่แวะมาส่งอาหารให้คนเฝ้าไข้กับคนท้องรับประทาน"ซาหวัดดีจ้าวยุงคี" ปังเนย วัยห้าขวบมัดผมทรงหางม้ายกมือยกไม้สวัสดี"สวัสดีครับปังเนยหลานลุง" ภาคีโค้งตัวลงอุ้มปังเนยขึ้นมาแล้วฟัดแก้มหลานสองสามที"ป้อ แต๋งรู้แล้วนะว่าอี่แม่ไม่สบาย แต๋งจะมาอยู่ดูแลด้วย" บะแต๋งโผเข้ามาจับข้อมือพ่อ ภาคีเหลือบตามองลูกชายของตนอย่างชั่งใจ เพราะเขาไม่อยากให้ลูกรู้สึกหดหู่ใจเมื่อต้องเห็นว่าแม่มีอาการยังไง"ใ
บะแต๋งเปิดเทอมสองจึงกลับไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาลเวหะชลการสาขาในกรุงเทพใกล้กับร้านปลาเผาพุงพุ้ย และย้ายไปนอนที่บ้านเตียวหุยเป็นหลัก กลายเป็นลูกอีกคนของน้องชายไปเรียบร้อยที่สำคัญที่บะแต๋งไม่ค่อยอยากแยกจากอา เพราะตัวติดกับปังเนย ลูกสาวคนโตของเตียวหุยที่กำลังอยู่ในวัยหัดจ้อและก็แก่นแก้วเป็นที่สุดอีกอย่างช่วงนี้เหนือฟ้าเพิ่งท้องลูกแฝดได้เพียงสี่เดือน ภาคีจึงอยากให้เตียวหุยช่วยดูแลลูกชายไปก่อนจนกว่าภรรยาจะคลอดเพราะถ้าบะแต๋งอยู่บ้านก็คงจะตามวอแวแม่ และหาเรื่องชวนกันไปซุกซนยิ่งท้องแฝดรอบนี้ค่อนข้างอ่อนไหว จะเดินเหินอะไรก็ลำบาก จะกินจะอยู่ก็ต้องระมัดระวังให้มาก"แหวะ!" ใบหน้ากลมปุ๊กก้มงุดลงไปในชักโครก ภาคีวิ่งเข้าไปลูบหลัง พร้อมแกว่งยาดมให้เมียที่มีอาการแพ้ท้องหนัก"ไหวไหมเหนือ หมอบอกว่าถ้าไม่ไหวให้ไปนอนโรงพยาบาล พี่จ่ายไหวเหนือไม่ต้องเป็นห่วง""เหนือเกรงใจค่ะ ยังไงขอคิดดูก่อนนะคะ แต่ตอนนี้เหนืออยากเยอะแยะไปหมดเลย" เหนือฟ้าค่อย ๆ ลุกขึ้นโดยมีภาคีช่วยพยุง"อยากอะไรมั่งครับ พี่จะไปหามาให้" พ่อเลี้ยงหนุ่มรปะคองภรรยามายังเก้าอี้แบบปรับนอนได้ ภายในห้องนั่งเล่นนี้เขาได้เตรียมการทุกอย่างพร้อม ทั้