เหนือฟ้ารอให้คั่วกลิ้งเอาคีย์การ์ดห้องพักขึ้นมาให้แล้วตัดสินใจโทรไปสั่งอาหารเดลิเวรี่แทนที่จะลงไปหาข้าวที่ร้านสะดวกซื้อใต้โรงแรม หญิงสาวกดสั่งซูชิร้านโปรดที่ขายจนถึงห้าทุ่ม แล้วมานั่งกินคนเดียวที่บันไดหนีไฟ ขณะที่ภาคีเปิดประตูห้องพักออกมาเพื่อลงไปเช็กบูธที่ลูกน้องช่วยกันจัดว่าเป็นระเบียบดีหรือไม่
พลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเจือยแจ้วดังมาจากทางบันไดหนีไฟ ซึ่งเสียงใส ๆ นี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปแอบฟัง
"กินข้าวแล้วใช่ไหมเหนือ" ราตรีกรอกเสียงกลับมาผ่านทางโทรศัพท์
"กินซูชิค่ะ"
"กินร้านนั้นมาสามปีแล้วนะ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนร้านมั่ง พี่เห็นจนจะเอียนแล้ว"
"ก็มันเป็นร้านโปรดพี่คีนี่นา"
ภาคีตวัดมองแผ่นหลังที่อยู่ในชุดเสื้อฮู้ดตัวหนาทันควัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่บอกเลิกกลับพยายามจะพูดและนึกถึงเขาอยู่ตลอด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนตัดสายสัมพันธ์นั้นก่อนแท้ ๆ
"บอกเลิกเขาแล้วยังไม่รู้จักมูฟออน แล้วนี่ฮ้อนจะตายไป ทำไปถึงใส่ชุดกันหนาวแขนยาวตลอด"
เหนือฟ้ารีบตวัดหน้าไปดู แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยืนพิงประตูบันไดหนีไฟอยู่ "เหนือไม่ได้ตั้งใจบอกเลิกนะคะ เหนือมีเหตุผล ส่วนเรื่องการแต่งตัวเหนือแค่อยากเปลี่ยนสไตล์นิดหน่อย"
"เหตุผลอะไร ไหนลองบอกมาสิ"
"คือ ตอนนั้นเหนือประสบอุบัติค่ะ ก็เลยไม่อยากให้พี่คีเป็นกังวล เหนือแค่กลัวว่าพี่คี..."
"พอเหอะหยุดชักแม่น้ำทั้งห้าซะที"
"พี่คีไม่เชื่อเหนือเหรอคะ" เหนือฟ้าเองก็อยากพูดตรง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาจะยอมเชื่อไหม อีกอย่างเธอเองก็ไม่พร้อมจะให้รับรู้เรื่องเลวร้ายแบบนั้น เธอไม่ค่อยอยากจะขุดคุ้ยมันขึ้นมาอีก นึกถึงทีไรก็กลัวจนตัวสั่นไปหมด
"เงียบทำไม แน่จริงก็อธิบายต่อสิ" เขาท้า
"เหนือยังไม่พร้อมจะบอกเรื่องนี้ แต่เหนือพร้อมจะจีบพี่คีใหม่อีกรอบ เหนือจีบพี่คีได้ไหมคะ"
ภาคีขมวดคิ้วดวงตาเขม็งมองดวงหน้าจิ้มลิ้ม "ไปต่อแถวเอาแล้วกัน"
เขาบอกแล้วเดินตัวปลิวตรงไปที่ลิฟต์ แต่เหนือฟ้าวิ่งตามไปด้วย แล้วรีบแทรกตัวเข้าไปยืนอยู่ข้างเขา
"จะตามมาทำไม น่ารำคาญ"
"พี่คีกินซูชิไหมคะ เดี๋ยวเหนือป้อน"
ภาคีไม่ตอบพอลิฟต์เปิดออกเขาก็เดินเข้าไปในฮอลล์จัดงานเพื่อตรวจความเรียบร้อยของบูธ ขณะที่เหนือฟ้าก็ยังคงตามตื๊อไม่หยุด ถ้ามีโอกาสจะสามสัมพันธ์กับเขาใหม่ เธอก็ทวงคืนเขากลับมาเป็นของตนเองให้ได้ แม้จะต้องช่วงชิงกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ก็ตาม
หนุ่มผมหยักศกตรวจดูบูธของตนเองเสร็จสรรพ จากนั้นเดินไปหาของกินรอบดึกที่ร้านสะดวกซื้อเหนือฟ้าจึงตามเข้าไปด้วย ภาคีเลือกซื้อนมกับขนมและของกินมากมายใส่ตะกร้า และของที่เขาหยิบล้วนแต่เป็นของที่เหนือฟ้าชอบทั้งนั้น ขณะจ่ายเงิน ปูเป้ผู้หญิงที่เขากำลังดูใจไปเรื่อยเปื่อยกลับเดินมาซื้อของกินไปตุนในห้องเช่นกัน
"อ้าวคี ยังไม่นอนอีกเหรอคะ มาหาของกินเหรอ"
"ครับ คุณล่ะ"
"มาซื้อของไปกินเล่นเหมือนกันค่ะ วันนี้นอนไม่ค่อยหลับเลย สงสัยเป้จะตื่นเต้นที่ได้มาทำงานอยู่ใกล้ ๆ แฟน"
หัวใจของเหนือฟ้าถึงกับแตกสลาย เมื่อได้รับรู้ว่าพิธีกรสาวคนดังที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมกำลังคบหากับอดีตคนรักของเธอ ดวงตากลมเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา สาวพลัซไซซ์ใจเสียรีบวิ่งออกไปหน้าร้านสะดวกซื้อจนสะดุดขาล้มลงกับพื้น กล่องซูชิที่หิ้วติดมาด้วยเทกระจาดหกกระจัดกระจาย
ลูกค้าทุกคนในร้านตวัดไปมองสาวผู้โชคร้าย ภาคีกัดฟันแน่นข่มใจไม่ให้ตัวเองเดินไปพยุงเหนือฟ้าขึ้นมา
"เฮ้ย พี่เหนือ" โชคดีที่คั่วกลิ้งลูกน้องหนุ่มคนสนิทเดินผ่านมาพอดี จึงช่วยประคองเหนือฟ้าขึ้นมาจากพื้นคอนกรีต
"ขอบใจนะ พี่ไม่เป็นไร พี่ขอตัวก่อน พรุ่งนี้นายอย่าตื่นสายล่ะ" บอกแล้วรีบร้อนพาตัวเองกลับออกมาจากสายตานับสิบคู่ที่กำลังจ้องมอง
เหนือฟ้ากลับมาอาบน้ำสระผมเอนตัวพิงกำแพงปล่อยโฮเสียงดังลั่นห้องน้ำ เพราะเสียงร้องไห้ของเธอกลบเสียงเคาะเรียกด้านนอก
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ภาคียืนเคาะประตูอยู่นาน แต่คนด้านในยังคงเงียบอยู่ เขายืนพิงประตูอยู่แบบนั้นพยายามสงบสติอารมณ์แล้วใช้เหตุผลคุยกับเหนือฟ้า
เหนือฟ้าเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำในทั้งที่ตัวเองยังอยู่ในสภาพนุ่งผ้าขนหนูผืนสั้น ผมเพ้าเปียกโชก ดวงตาแดงก่ำทรุดตัวลงกับเตียงนอน สะอื้นเสียงดังอีกครั้ง โดยไม่รู้ว่าภาคียังยืนพิงประตูอยู่ข้างนอก
ก๊อก! ก๊อก!
คราวนี้เขาไม่ลังเลรีบทุบประตูห้องเรียกคนข้างในด้วยความกังวล ขณะที่คนที่กำลังฟูมฟายรีบร้อนหาเสื้อคลุมอาบน้ำมาคลุมทับด้วยเร่งรีบ แล้วเดินไปส่องตาแมวข้างนอก เมื่อเห็นว่าใบหน้าคมขาวที่คุ้นเคยกำลังยืนรออยู่หน้าห้อง จึงไม่ลังเลที่จะเปิดประตูออกไป
"พี่คี"
ภาคีกวาดตามองดวงตาบวมช้ำ และปลายจมูกที่กลายเป็นสีชมพู "ร้องไห้ทำไม"
"ก็เหนือหกล้มก็เลยเจ็บ พี่คีปลอบเหนือหน่อยสิ"
"สลิดหยั่งวอก" เขาสบถแล้วส่งถุงของกินที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อให้เธอ
เหนือฟ้าหลุบตาลงมองพื้น รู้สึกเจ็บจี๊ดกับคำด่าของอดีตคนรัก ตอนนี้เธอก็ดัดจริตอย่างที่เขาว่าเป็นภาษาเหนือจริง ๆ
"ซื้อมาขุนเหนือเหรอคะ ขอบคุณมากเลยค่ะ"
"ไม่ได้ขุน ก็แค่ซื้อมาฝาก"
"แล้วยะหยังอ้ายถึงซื้อมาฝากน้อง" เหนือฟ้ารับถุงขนมมาแล้ววางลงกับพื้น คว้ามือภาคีมาจับ แต่เขากลับสะบัดทิ้ง
"ซื้อมาให้ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่จัดงาน ก็แค่แสดงน้ำใจเล็ก ๆ น้อย อ้ายไม่เหมือนใครบางคนที่นิสัยใจจืดใจดำ" เขายังคงแดกดันประชดประชันจนถึงวินาทีสุดท้าย
คราวนี้เหนือฟ้ากระชากแขนภาคีแล้วดึงเข้ามาในห้อง ปิดประตูเสร็จสรรพ "จะทำอะไร"
"นอนกับเหนือ มีอะไรกับเหนือ กล้าไหม"
"บ้าไปแล้วรึไง" ภาคีก้าวขาหนี แต่เหนือฟ้าเดินไปดักหน้า กางแขนสองข้างออกไม่ยอมให้เขาจากไปทั้งที่ยังเคลียร์ไม่จบ
"ใช่ เหนือมันบ้า รึว่าพี่คีจะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามา เหนือจะซื้อพี่คี จะเอาคืนละห้าพัน หรือว่าคืนละหนึ่งหมื่น"
ภาคีกัดกรามแน่นแล้วผลักหัวไหล่เหนือฟ้าไปชนกับผนังห้องอย่างหัวเสีย "มีสักห้าแสนไหมล่ะ ถ้ามีเดี๋ยวจะจัดให้ขาสั่น จะเอาจนถุงยางหมดกล่อง"
"ระดับเหนือไม่ใส่ถุงยางหรอกค่ะ เหนือชอบสด" เหนือฟ้าไม่ยอม เขาแรงมาเธอก็แรงกลับให้รู้ซะบ้างว่าสามปีมานี้เธอเข้มแข็งขึ้นมากแค่ไหน
*สลิดหยั่งวอก = ดัดจริต *ฮ้อน = ร้อน
คนตัวสูงเพียงแค่พูดขู่ แต่เหนือฟ้ากลับคว้าโทรศัพท์โทรหาพี่สาว "พี่ไนท์เหนือขอยืมห้าแสน"ภาคีถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเร่งฝีเท้าออกจากห้อง"เดี๋ยวพี่คี ไอ้ภาคี ไอ้คน..." เหนือฟ้าเดินตามไป แต่เขากลับปิดประตูกระแทกใส่หน้าเธออย่างแรง"เหนือจะเอาเงินตั้งมากมายไปทำอะไร" ราตรีกรอกเสียงกลับมาอย่างกังวล"เหนือจะซื้อพี่คี ซื้อกิน""ฮะ..บ้าเปล่าเนี่ย แล้วเจอคีที่ไหน ที่งานเอ็กซ์โปใช่ไหม""ใช่ค่ะ""เอางี้นะ พี่จะโอนเงินให้พรุ่งนี้ แต่เหนือต้องใจเย็นแล้วกลับไปนอนซะ ถ้ายังดื้ออีกพี่จะบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าสามปีก่อนเหนือเจออะไรมา""ก็ได้ค่ะ ตกลง"หลังจากวางสายจากน้องสาวราตรีที่หัวไว ไหวพริบเป็นเลิศก็คิดแผนการซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว "ยังไงคงต้องบอกความจริงแล้วล่ะ ก่อนที่น้องสาวฉันจะประสาทแดก"ราตรีกลอกตามองบน ไอ้เด็กสองคนนี้มันเป็นอะไรกันนักหนา นักธุรกิจสาวในชุดเสื้อยืดเอวลอยสวมกางเกงวอร์มผ้าร่มคว้ากระเป๋ากล่องเหล็กที่เก็บข้อมูลทุกอย่างแล้วโทรตามทนายพิมุกต์กลางดึก"คุณพิคะ ช่วยไนท์หน่อย ถ้าคุณพิไม่มาด้วยไนท์กลัวว่าภาคีจะไม่เชื่อ ดังนั้นไนท์รวบกวนคุณพิหน่อยนะคะ"ราตรีขับรถไปรับพิมุกต์ที่บ้านแล้วเหยียบมิด
ภาคีกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบแล้วซื้อถุงยางอนามัยพร้อมกับเครื่องดื่มมึนเมาสองสามกระป๋อง หลังจากคุยกับราตรีจบเขาก็รู้สึกเบลอไปหมด เขาไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าคนที่เขารักสุดหัวใจปิดบังเรื่องเลวร้ายกับเขามาถึงสามปีเต็มภายในห้องพักของเหนือฟ้าเปิดไฟสว่างโล่ง หญิงสาวเอาแต่จ้องโทรศัพท์เผื่อว่าพี่สาวจะตัดสินใจโอนเงินมาให้ภายในคืนนี้ ตอนนี้เธอร้อนรุ่มไม่ใช่ว่าต้องการทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวยัยปูเป้นั่นฉกพี่คีของเธอไปกิน แต่ดูจากการที่พวกเขาแตะเนื้อต้องตัวกัน ป่านนี้น่าจะกินกันไปหลายรอบแล้วด้วยซ้ำผิดกับเธอถึงยังคงเก็บเวอร์จิ้นไว้ให้หนุ่มเหนือคนนี้เพียงคนเดียว ตึ๋ง!เงินจำนวน 500,000 บาทโอนเข้าบัญชีคุณเรียบร้อย"กรี๊ดดดด เงินมาแล้วโว้ย จะได้กินผู้ชายแล้วไอ้เหนือ" หญิงสาวกระดี๊กระด๊าเหลือบดูนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาตีหนึ่งพอดี "กินกันตอนตีหนึ่ง จะท้องอืดไหมนะ"เหนือฟ้าลูบวนไปทั่วหน้าท้องย้วย ๆ ของตนเองก๊อก! ก๊อก!สาวอวบรีบวาดขาลงจากเตียง หาวสองสามที ใบหน้าอ่อนเพลียเขย่งส่องตาแมว พลันนั้นหนังตาที่หนักอึ้งกลับเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นในทันที คนระริกระรี้รีบเปิดประตูห้องออกไปแล้วยิ้มแฉ่งให้หนุ่มชาวไ
ทันทีที่แผ่นหลังของเหนือฟ้าแตะลงกับเตียงนอน จูบดุดันจึงได้ผละออก ภาคีถัดกายลงจากเตียงเกี่ยวปราการสุดท้ายออก เหนือฟ้ารีบสะบัดหน้าหนี ขณะที่เขาคลานกลับขึ้นมา แล้วใช้สองแขนคร่อมชิดอยู่กับหัวไหล่อวบ ริมฝีปากแดงฉานจรดลงมาบนผิวขาว ดวงตาหวานคมสะดุดเข้ากับรอยแผลเป็นนูนเล็ก ๆ ที่ต้นแขน กรามแกร่งบดข่มอารมณ์เดือดดาลที่กำลังปะทุอยู่ภายใน"ไปโดนอะไรมา" เขาอยากลองใจดูว่าเหนือฟ้าจะยอมสารภาพความจริงไหม"โดนกระจกบาดค่ะ" เธอยังคงกลบเกลื่อนไปเรื่อย"เหรอ" ภาคีลุกขึ้นแล้วนั่งขัดสมาธิ เขาหยิบมือของเหนือฟ้าแล้วก้มลงหอมซ้ำ ๆ เหมือนที่เคยชอบทำ "บอกว่าให้มานั่งนี่" เขาตบขาตัวเอง"ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวพี่คีหนัก" เหนือฟ้าหยัดตัวขึ้นเหลือบมองแก่นกายที่กำลังแข็งตัวกลางซอกขา"งั้นก็มาลองดูว่าจะหนักแค่ไหน หรือคุณลูกค้าอยากให้คนอื่นมานั่งบนตักผม" เขาขู่แล้วยักคิ้วหลิ่วตาใส่"ไม่เอา" สาวอวบไม่ยอม สุดท้ายจึงต้องกัดฟันสู้แล้วลุกไปหาเขาทั้งที่ยังมีผ้าห่มปิดกายอยู่"ไม่ชอบผ้าเกะกะลูกตา" ภาคีดึงผ้าออก เหนือเบิกตาโตเมื่อผ้าห่มปลิวไปอยู่ข้างเตียง"พี่คีเดี๋ยวเหอะ เหนือเป็นลูกค้านะ ต้องตามใจลูกค้าสิคะ ว้าย..." ข้อมือขาวถูกฉุดใ
เหนือฟ้าขนลุกขนพองไปทั้งตัวเมื่อเนินขานุ่มของตนเองถูกเขาถ่างออก หญิงสาวดันตัวขึ้นส่งมือไปปิดรอยแยกสีชมพูที่กำลังถูกภาคีเชยชม ดวงตากลมเอ่อล้นด้วยน้ำใส ชายหนุ่มรู้สึกผิดยิ่งคิดว่าเธอต้องไปเผชิญเรื่องโหดร้ายป่าเถื่อนแบบนี้ เขาก็ยิ่งแค้นจนอยากสับไอ้เวคินเป็นร้อย ๆ ชิ้น"เห็นใจ๋อ้ายเต๊อะคนดี"สาวพลัซไซซ์นึกถึงวันที่เธอให้พี่สาวเขียนจดหมายไปบอกเลิกเขาก็รู้สึกผิดอยู่ตลอดสามปีที่ผ่านมา ถ้าร่างกายนี้ตอบแทนเขาได้ เธอก็ยอม มือนุ่มยกออกไม่ถึงสิบวิ ชิวหาแดงก็ทะแยงลงมาที่ตัวตนของเธอ ริมฝีปากเล็กขบเม้นเป็นเส้นตรง เสียวซ่านจนมือสองข้างต้องยันกับพื้นเตียงเพื่อประคองร่างกายที่กำลังอ่อนปวกเปียกลงไปทุกที"อ๊ะ...อ๊า" เสียงหวานครางระงม ดังสะท้อนกึกก้องไปทั่วห้องพักในยามวิกาลลีลาการโบกสะบัดจากปลายลิ้นอุ่นหนาของภาคีละเลงลงมาที่กลีบดอกไม้สีชมพูสวยสดอย่างต่อเนื่อง พลางใช้นิ้วแหวกอ้านำทางเพื่อขบดูดเม็ดกระสันแวววาวดุดอัญมณีของเหนือฟ้า เสียงดื่มกลืนของเขาดังซู้ดซ้าดราวกับซดน้ำแกง"เต๋มปากเต๋มคำ" ภาคีผงกหัวขึ้นมอง ก้มลงดูดผิวที่เนินขาด้วยความลุ่มหลง แล้วจัดการดูดซับมวลน้ำป่าจากภายในกายที่ไหลทะลักท่วมออกมาราวเขื่อ
เช้าของงานเอ็กซ์โปวันแรกเหนือฟ้าต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าทั้งที่เธอเพิ่งนอนหลับพักไปได้แค่สองชั่วโมง เพราะเพิ่งเสียเวอร์จิ้นไปให้อดีตคนรัก สาวอวบเลือกสวมเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงยีนทรงบอยตามด้วยการสวมสูทเบลเซอร์สีดำทับ ถักเปียข้างแล้วผูกโบว์สีฟ้า ระหว่างที่กำลังเดินเข้ามาในฮอลล์จัดงานคั่วกลิ้งที่เดินจับไม้จับมือมากับแฟนสาวก็ปรี่เข้ามาทักทาย"พี่เหนือ กินกาแฟยังเนี่ย" ลูกน้องหนุ่มเห็นว่าหัวหน้าของตนดูอิดโรยไม่สดชื่น"ยังจ้ะ งั้นพี่ไปหากาแฟจิบก่อนนะ ดูแลประสานงานแทนพี่ด้วย" เหนือฟ้าใช้นิ้วถ่างตาตัวเองแล้วเดินขาปัดตุปัดตุเป๋ไปหาที่นั่งข้างนอกฮอลล์ขณะที่ภาคีกำลังจูงควายเผือกแม่บ่ะผางเข้ามาในงานพร้อมกับลูกควายเผือกตัวน้อยพร้อมกับลูกน้องสองสามคน เหนือฟ้าจึงได้แต่นั่งมองอย่างมีหวัง หวังลึก ๆ ว่าเขาจะใจอ่อนกับเธอ"น้องเหนือ น้องเหนือเปล่าครับ""คะ" เหนือฟ้าหันไปยังต้นเสียงด้านข้าง แล้วพบว่าคนที่ทักทายคือเจ้าของสวนอินทผลัมที่เคยมาจัดงานเมื่อปีก่อน"จำผมได้ไหม ผมศัจกรที่เคยมาจัดงานเกษตรแฟร์ปีก่อน""จำได้ค่ะ แล้วคุณกรสบายดีไหมคะ""สบายดีครับ แล้วน
ภาคีให้เหนือฟ้าสั่งก๋วยเตี๋ยวแบบพิเศษมา เขารู้สึกว่าเธอผอมลงทั้งที่เมื่อก่อนมีน้ำมีนวลมากกว่านี้ เขากินไปสองชามแล้วนั่งมองออแกไนซ์สาวโซ้ยบะหมี่เหลืองน้ำตกอย่างเอร็ดอร่อย แค่เห็นเธอกินเขาก็มีความสุขแล้วครืด! ครืด!"ฮัลโหล ฉันพาเมียออกมาหาอะไรกิน เออมีแล้ว ไว้ค่อยบอก" เขาคุยกับใครบางคน แต่กลับทำให้ใครอีกคนยิ้มแก้มแตก"กิน ๆ ไปหยุดยิ้มได้แล้ว เดี๋ยวพี่มานะจะเดินไปดูขนมร้านข้าง ๆ หน่อย" เขาบอกแล้วควักแบงค์พันวางไว้ข้างมือเธอ "จะกินอะไรก็สั่งเพิ่ม ไม่ต้องเกรงใจ""แปลกแฮะ อยู่ดี ๆ ก็พ่อพระขึ้นมาเฉย"เหนือฟ้ากินก๋วยเตี๋ยวไปสามชามแล้วตามด้วยน้ำแข็งใสอีกสอง "น้ำแข็งใสถ้วยที่สองค่ะ"ทอฝันเจ้าของร้านวางขนมหวานให้เหนือฟ้า แล้วเก็บชามก๋วยเตี๋ยวที่เหลือพลางเช็ดโต๊ะทำความสะอาด"ขอโทษนะคะ เหนือขอถามอะไรหน่อยได้ไหม""ได้ค่ะ จะถามว่าทำไมสนิทกับพ่อเลี้ยงภาคีเหรอคะ" ทอฝันรู้ทันเพราะเห็นแววตาของเหนือฟ้าตั้งแต่เข้ามาในร้าน ดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่าหวงพ่อเลี้ยงขนาดไหน"ใช่ค่ะ ถ้าไม่สะดวกใจตอบก็ไม่เป็นไรนะคะ""พ่อเลี้ยงไม่ได้สนิทกับฝันคนเดียวหรอกค่ะ แต่สนิทกับคุณพ่อแลละสามีของฝันด้วย เมื่อก่อนพวกเราลำบากมากค่ะ บ้
กล้ามแขนเป็นมัดกระหวัดโอบเหนือฟ้ากลับ ภาคีก้มลงจูบซับเรือนผมสีน้ำตาลคาราเมลซ้ำ ๆ ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยเช็ดคราบน้ำตาที่เปื้อนแก้มป่องพองลม"จะเป็นคุณนายของไร่พิทักษ์มหิงสา ก็ต้องส่งใบสมัครก่อน" อธิบายแล้วถอดเสื้อเบลเซอร์ของเธอออกไป หยิบกระเป๋าที่คล้องหัวไหล่เหนือฟ้าวางลงบนโต๊ะ"ส่งใบสมัครยังไง แล้วเอาประวัติการทำงานด้วยไหมคะ" เหนือฟ้าผู้อ่อนต่อโลกไม่ทันกับดักที่ภาคีวางไว้"ส่งง่ายมาก ก็แค่ส่งผ่านร่างกาย" เสียงเข้มกระซิบแนบใบหู แล้วบรรจงกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอออกทีละเม็ดจนหมด"เป็นการส่งใบสมัครงานที่แปลกดีนะคะ แล้วเคยมีใครมาส่งใบสมัครกับพี่คีแบบนี้บ้างไหม" เหนือฟ้าทำหน้าหงิก แต่ก็ยืนเท้าสะเอวให้ผู้ชายแก้ผ้าตัวเองโดยไม่ปฏิเสธ"ไม่มี" เขาตอบแล้วบรรจงถอดชุดทำงานของเหนือฟ้าออกจนเหลือเพียงบราลูกไม้สีขาวและบิกินี่เข้าเซต ตามด้วยการแก้ผ้าตัวเองให้เหลือเพียงบ็อกเซอร์สีเทา ขณะที่ฝ่ามืออุ่นหนาไล้มาตามเนินอกขาวผ่องค่อย ๆ เคลื่อนไปดีดตะขอเสื้อใน และจัดการเกี่ยวทิ้งลงกับพื้นกวาดดวงตามองปทุมถันขาวเนียนเกลี้ยงเกลาไร้ตำหนิ บนหน้าอกสองข้างโดดเด่นด้วยสตรอว์เบอร์รี่ญี่ปุ่นลูกใหญ่ผลสดที่ประดับอยู่บนลำต้น
สาวอวบลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจบนเตียงนอน มองหาเจ้าของกลิ่นกายวนิลาที่นอนโอบกอดเธอทั้งคืน แล้วนึกขึ้นได้ว่าเขากลับไปแล้วแถมยังติดโน้ตไว้ที่กระจก พร้อมเบอร์โทรศัพท์"ไว้ป๊ะกั๋นเน้อ บะหนุนน้อย 099-xxxxxxx" เหนือฟ้าฉีกยิ้มแล้วกระโดดโลดเต้นไปทั่วห้อง รีบเก็บข้าวเก็บของแล้วลงไปเช็กเอาท์เพื่อตรงกลับไปเก็บข้าวของที่คอนโดพี่สาวแล้วเดินทางไปนครนายกทันทีราตรีนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟลาเต้เครื่องดื่มโปรด ผู้อำนวยการโรงเรียนสาวชำเลืองมองน้องรักที่กำลังนั่งพับเสื้อผ้าอาภรณ์ลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ยักษ์ ตามด้วยกระเป๋าใบเล็ก ๆ อีกสองใบ"จะรีบร้อนไปไหนฮะเรา ยัยเหนือ""ไปหาผัวค่าาาา"พรวด!!!!กาแฟถูกพ่นออกมาเป็นฝอย ๆ ราตรีรีบหยิบทิชชูมาซับปาก แล้วส่งใบหน้าหงิกงอไม่พอใจให้น้องที่กล้าได้กล้าเสียจนเกินไป"ไปหาใครมิทราบ อย่าบอกนะว่าภาคีอ่ะ"เหนือฟ้าขมวดคิ้วไม่คาดคิดว่าพี่สาวจะล่วงรู้ "ทำไมถึงรู้ล่ะคะ""ก็เดาไปมั่ว ๆ แล้วนี่จะไปอยู่กับผู้ชายที่นครนายกเลยเหรอ ไม่กลัวแม่กับพ่อบ่นหรือไง" ราตรีนั่งขัดสมาธิแล้วช่วยน้องสาวเก็บสัมภาระ"พ่อแม่ไม่บ่นหรอกค่ะ พวกเขาอยากให้เหนือมีสามีแบบพี่คีจะตายไป ไม่งั้นสามปีมานี้คงไม่พูดถึง
ปิดเทอมหน้าร้อนเทอมสุดท้ายบะแต๋งจะเรียนจบประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าจะขึ้นปอ.2 ครอบครัวคนเลี้ยงควายจึงคุยกันว่าจะไปเยี่ยมเยียนครอบครัวมหาจันทร์ของปินปินและพบปะสังสรรค์สักหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ภาคีจอดรถจี๊ปในอาณาจักรอัญฎรญามีอันยิ่งใหญ่ที่มีเทวสถานพระศิวะขนาดความสูง 35 เมตร นิ่มฟ้าที่กำลังนั่งมองวิวทิวทัศน์สังเกตเห็นว่ารอบบริเวณเทวาลัยถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้พลันนั้นเด็กหญิงกลับสะดุดตาเข้ากับไม้ยืนต้นสูงที่มีลักษณะใบคล้ายกับต้นมณฑารพที่เทพมาสมักจะนัดพบเจอเธอที่นั่น เพียงแต่ดอกไม้ตนนั้นมีขนาดสูงใหญ่กว่าและผลิดอกสีเหลืองนวลเต็มต้น"พี่คีพี่เหนือเชิญทางนี้ค่ะ" แซมมี่ในชุดสาหรี่แต้มผงกุมสีแดงกลางหน้าผากเดินออกมาพร้อมกับมะแป่มตัวน้อยที่ตอนนี้ขึ้นอนุบาลสองเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่มะแป่มเห็นน่านฟ้า หนูน้อยก็ทำตัวอ่อนเดินเซไปหาคนพี่"ปี้น่านขา" มะแป่มคว้าหมับที่แขนของเด็กชายจนผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองต่างพากันหัวเราะขบขัน"เอ่อ...เป๋นหยังครับ" น่านฟ้าขานรับแต่กลับยืนตัวเกร็งหน้าแดงซ่าน"อุ๊ย..." มะแป่มทำท่าสะดุดขาแล้วรีบสวมกอดเอวพี่พลางเอาหน้าซบแผ่นอก"เกินไปแล้วจ้ะแม่ลูกสาว" แ
ภายในอ่างอาบน้ำทรงกลมที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องน้ำ มีร่างตุ้ยนุ้ยสองแม่ลูกกำลังแช่น้ำนมอุ่น ๆ ที่ภาคีเป็นคนเตรียมให้ ระหว่างที่เหนือฟ้ากำลังหยิบฟองน้ำเตรียมยกขึ้นมาขัดแผ่นหลังให้ลูกสาว พลันนั้นบาดแผลที่มีร่องรอยของการถูกกัดก็ปรากฏอยู่บนหัวไหล่เล็ก นัยน์ตาของเธอสั่นระริกวูบไหวอย่างฉับพลัน หัวใจของคนเป็นแม่แทบแหลกสลายในทันที เมื่อเห็นว่าลูกสาวยังมีบาดแผลภายในร่มผ้าที่เธอหรือหมอก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน"นิ่มฟ้าคะ หนู หนูเจ็บไหมลูก" ฟองน้ำรูปสัปปะรดหลุดลอยจากฝ่ามือไหลผ่านไปยังเบื้องหน้าของเด็กหญิงที่กำลังนั่งหันหลัง นิ่มฟ้าย่นคิ้วชิดกันแล้วรีบหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"เป็นอะหยังก๊ะหนุนน้อย" มือเล็กยื่นไปจับแก้มขาวอมชมพูของแม่ ผิวพรรณของแม่ทำให้เธอรู้สึกหลงรัก"หัวไหล่หนูไงคะ โดนยัยเด็กกระถินนั่นกัดมาเหรอ ทำไมหนูไม่บอกแม่ว่ามีแผลตรงนี้ด้วย"เจ้าของบาดแผลกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว แต่แม่ของเธอกลับน้ำตาไหลอาบนองหน้า "เจ้า นิ่งโดนขบมาแต่นิ่งบ่เจ๋บแล้ว อี่แม่บ่ต้องร้อง เดี๋ยวนิ่งร้องตามเน้อ"เด็กหญิงโผเข้าซุกอกของแม่ที่ล้นหลามเหนือผิวน้ำ เหนือฟ้าสวมกอดกลับจูบซับศีระษะเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ ไม่รู้เบื่อเส
นิ่มฟ้าแสดงสีหน้าและแววตาโกรธสุดขีด เด็กหญิงตอบโต้กลับไปหาอีกฝ่ายด้วยความขุ่นเคือง กำหมัดสองข้างแน่นพยายามนึกถึงหน้าครอบครัวที่เธอรัก นึกถึงเทวดาคนโปรด"กรี๊ดด ติ๋นไม่ได้โง่นะ ไม่ได้โง่" กระถินกระทืบเท้าปึ้กปั้กแล้วพุ่งเข้ามากระชากศีระษะของนิ่มฟ้าและใช้กรงเล็บครูดข่วนใบหน้าของเธอไปทั่วโดยมีเพื่อน ๆ พยายามช่วยกันดึงตัวกระถินสายวีนออกจากการทึ้งหัวของหัวหน้าห้อง"ปล่อยเปิ้นเน้อ ปล่อยสิ" นิ่มฟ้าพยายามแกะมือเหนียวของกระถินออก พอเห็นว่าไม่เป็นผลเธอจึงใช้แรงทั้งหมดเหวี่ยงตัวของเด็กหญิงที่ตัวเล็กกว่าจนเหวี่ยงไปกระแทกกับพื้น"โอ้ย ยัยหัวหน้าเผ่าฟาย" กระถินโกรธหน้าดำหน้าแดง"บ่าใจ้ฟายตำมะดาโตย แต่เป๋นฟายเจ๋ดทัวย่ะ" เด็กหญิงเถียงกลับแล้วรีบจัดทรงผมให้เข้าที่ เตรียมที่จะเดินหนียัยกระถินปากจัดที่พูดจาไม่รู้เรื่อง"ไม่ให้ปายยย" กระถินวิ่งกลับเข้ามากระโดดตะครุบกลางหลังนิ่มฟ้า เนื่องจากเธอตัวเล็กกว่าทำให้ปีนขึ้นไปอยู่หลังเด็กหญิงหุ่นจ้ำม่ำได้ง่ายขึ้นงั่บ!"โอ๊ยยย" นิ่มฟ้าร้องเพราะถูกคมเขี้ยวของกระถินงับลงมาบนหัวไหล่ แม้จะมีเนื้อผ้าของชุดนักเรียนขวางกั้นแต่ฟันคม ๆ ก็กัดจมลงมาจนเด็กหญิงถึงกับน้ำตาเล็ด
หลังจากกลับจากโรงพยาบาลภาคีอาสาดูแลหมูยอแทนเหนือฟ้า ระหว่างนั้นเขาจึงปรึกษากับภรรยาเรื่องลูกสาวเพราะเกรงว่าอาจมีการกลั่นแกล้งและบูลลี่กันที่โรงเรียนโดยที่เขาและเธอไม่เคยรับรู้มาก่อน"เหนือว่าเราควรไปสอบถามคุณครูโดยตรงเลยดีไหม พี่ไม่ค่อยสบายใจเลย" เขาบ่นพึมพำท่ามกลางไฟสีส้มที่ส่องจากโคมรูปเห็ด ขณะที่ตนเองกำลังนอนตะแคงตบ ๆ ก้นให้หมูยอที่เพิ่งจะนอนหลับสนิท เนื่องจากหนูน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายท้อง แค้พอได้รับประทานยากับเกลือแร่เข้าไปอาการท้องเสียของเจ้าตัวเล็กก็ดูทุเลาลงสาวอวบที่เพิ่งอาบน้ำและไดร์ผมเสร็จก้าวขาเข้ามาในคอกกั้น วันนี้เธอกับสามีตัดสินใจนอนที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูแลหมูยอ"ดีค่ะ เพราะสมัยที่เหนือโดนเพื่อนแกล้งและถูกล้อเลียนเรื่องรูปร่างเหนือก็มีความรู้สึกเดียวกับลูก เหนือไม่เข้าใจเลยว่าตอนนั้นทำอะไรผิดเพื่อน ๆ ถึงไม่อยากคบเหนือ ตอนนั้นคนเดียวที่ให้คำปรึกษาได้คือพี่ไนท์ค่ะ แต่ตอนนี้เราคือครอบครัว เราทุกคนจะช่วยกันให้คำปรึกษานิ่มฟ้า เหนือจะไม่ปล่อยให้ลูกเผชิญความเจ็บปวดคนเดียวเด็ดขาด" หญิงสาวเล่าเท้าความในอดีตที่เจ็บช้ำ คำพูดถากถากทับถมของเพื่อน ๆ กลายเป็นปมในใจของเธอที่อยาก
ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงนาฬิกาปลุกข้างหัวเตียงดังขึ้นทำให้พ่อครัวใหญ่รีบดีดตัวขึ้นมาคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาชะล้างร่างกายเพียงสิบห้านาทีจึงรีบวิ่งซอยเท้าลงไปแล้วเริ่มปรุงอาหารด้วยความรักก่อนที่ลูกและภรรยาจะตื่นนอน"ป้อขี้!""เฮ่ย" หัวมันฝรั่งในมือเขาร่วงตุ้บลงกระแทกพื้น นิ่มฟ้าที่อยู่ชุดเสื้อคอกระเช้าเด็กประแปรงหน้าขาววอกสะกิดเรียกเขาท่ามกลางความมืดสลัวของห้องครัวในเวลาตีห้า"นิ่งบ่าใจ้ปี๋เน้อ ป้อต๋กใจนิ่งก๊ะ" นิ่มฟ้าลากเก้าอี้แล้วก้าวขึ้นไปยืนข้างพ่อชะโงกดูวัถตถุดิบที่พ่อเตรียมทำมื้อเช้า "ป้อทำก้าวผัดแฮ่มก๊ะ"เด็กหญิงสังเกตเห็นว่ามีเครื่องเคียงเป็นผัก หมูสับ และแฮมอีกอย่างพ่อก็วางกระทะตั้งไว้กับเตาแก๊สจึงมั่นใจว่าพ่อกำลังจะทำข้าวผัดแฮม"ฉลาดนะเนี่ยเรา ถูกต้องครับป้อกำลังทำข้าวผัดแฮมแล้วก็มีน้ำซุปมันฝรั่งซดแก้ฝืดคอ" เขาว่าแล้ววางหัวมันลง"โอ้โหดีเลยนิ่งกำลังอยากกิ๋น" นิ่มฟ้าคว้าหัวมันฝรั่งที่พ่อวางไว้บนเขียงมาถือแล้วหาที่ปอกเปลือกมัน"นี่ครับ" ผู้เป็นพ่อหยิบที่ปอกให้ลูกสาว มือเล็กรับไว้แล้วเริ่มปอกมันฝรั่งอย่าทะมัดทะแมง"ค่อย ๆ ปอกนะครับ แล้วนี่หนูตื่นมาทำอะไรแต่เช้า วันนี้วันเสาร์ไม่
โรงพยาบาลทั้งครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจภาคีในวันที่มีผ่าตัดทำหมันกับหมอที่โรงพยาบาล หลังจากที่เขาตัดสินใจจะหยุดการสืบพันธ์ุนี้เพราะเกรงว่าภรรยาจะเผลอท้องขึ้นมาอีกในอนาคต และเพื่อแสดงตนว่าเขาจริงใจที่จะเสียสละเพื่อเธอดังนั้นวิธีการนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพราะเขาอยากให้เหนือฟ้ารู้ว่าทายาททั้งหกคนของเขาจะเป็นของเธอตลอดไป และจะมีใครมีโอกาสแย่งชิงเขาไปจากเธอ"ปี้ปี้" หมูยอเดินเลาะไปมาเกาะแข้งเกาะขาพวกพี่ ๆ ขณะที่แป้งจี่นอนหลับอยู่บนตักแม่ ส่วนน้ำเงี้ยวนั้นนอนแผ่ยาวหนุนตักน่านฟ้าและนิ่มฟ้าเสมือนว่าพี่สาวพี่ชายเป็นเตียงนอนส่วนตัว"หมูยอคะมานั่งเฉย ๆ สิลูก" เหนือฟ้าอุ้มลูกชายสายปราดเปรียวที่ไม่ยอมหลับยอมนอน เอาแต่ปีนป่ายโซฟาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย"หม่ำ ๆ" หมูยอเริ่มเดินเหนื่อยหนูน้อยหยิบขวดนมในกระเป๋าสัมภาระเด็กที่วางอยู่บนเก้าอี้ แล้วเปิดฝาขวดนมบริการตัวเอง"อะหยังป้อต้องตัดหำโตยก๊ะ" น่านฟ้าสงสัยตั้งแต่พ่อบอกว่ามีนัดตัดสิ่งที่อยู่ใต้หว่างขา เด็กชายก็มีคำถามกับเธออยู่ตลอด"ป้อตัดเพื่อคุมกำเนิดพวกเราจะได้มีกันแค่หกคนไงคะ ไม่ดีเหรอหรือหนูอยากมีน้องเพิ่ม" เหนือฟ้าหันไปอธิบายกับลูกชาย"อึ๋ย
ล่วงเลยมาจวบจนแฝดสามตัวป่วนอายุย่างเข้าวัยหัดอ้อแอ้ ความโกลาหลก็เพิ่มระดับขึ้นทำให้ในแต่ละวันพ่อแม่ต้องสลับกันควักยาดมตอนนี้บะแต๋งขึ้นประถมศึกษาชั้นปีที่หกส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าขึ้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง“เย้นิ่งเป็นฉาวแล้ว” นิ่มฟ้าสะบัดผมเปียของตัวเองขณะสวมชุดกระโปรงแบบไม่มีเอี๊ยม เด็กหญิงชะม้อยชะม้ายชายตามองกระจกขณะที่แม่ทำหน้าที่จัดทรงผมตามระเบียบของโรงเรียนที่กำหนดว่าต้องมัดผมให้เรียบร้อย“แก่แดดแก่ลมเกินไปแล้วนะแม่คนนี้” เหนือฟ้ายื่นมือมาบีบแก้มอูมของลูกสาว“ที่รักอาหารเช้าเสร็จแล้ว” ภาคีตะโกนเสียงดังขึ้นมาบนห้องนอนชั้นสาม สองแม่ลูกจึงพากันลงไปลิ้มรสมื้อเช้าขณะที่แฝดสาม บะแต๋งและน่านฟ้านั่งประจำตำแหน่งที่โต๊ะอาหารของใครของมันเรียบร้อย ที่คอของหมูยอ แป้งจี่และน้ำเงี้ยวมีผ้ากันเปื้อนลายลายการ์ตูนคนละสี ผมของทารกวัยหนึ่งขวบกว่าเริ่มดกดำคลุมทั้งหัว“หม่ำ ๆ” หมูยอกระแทกช้อนส้อมกับเก้าอี้กินข้าวที่มีกระบะสำหรับใส่ภาชนะอย่างร้อนใจ“ครับเสร็จแล้วลูก” ภาคีวางถ้วยบะหมี่ผักหมูน้ำลงบนกระบะกินข้าวของแฝดสาม แล้วยกจานข้าวผัดปลาแซลมอนจานใหญ่มาตั้งตรงกลางให้บะแต๋ง นิ่มฟ้าและน่านฟ้าบริการตัวเองทว่า
หนึ่งสัปดาห์ของการปิดเทอมที่เงียบเหงาทำให้นิ่มฟ้าที่ใจจดจ่อรอคอยต้องออกไปหากิจกรรมทำพร้อมกับพี่น้อง ช่วงเช้าเด็กหญิงนั่งรถซาเล้งออกมากับภาคีที่กระเต็งน้ำเงี้ยวไว้ในเป้อุ้มทารก ในรถพ่วงข้างยังมีส้มปู๋กับบะแว้งและบะแปปเจ้าแพะแคระติดสอยห้อยตามมาด้วย ส่วนบะแต๋งกับน่านฟ้านั้นไปทำงานกับแม่ที่โรงเลี้ยงวนิลา"เทพมาสไม่มาหาหนูแล้วเหรอ" จู่ ๆ พ่อก็ตัดสินใจถามเด็กหญิงที่กำลังใช้คราดขุดมันม่วงโอกินาว่า นิ่มฟ้าผงะเล็กน้อยกับคำถามที่เธอไม่อยากตอบเท่าไหร่"ดะดะ" แต่เพราะน้ำเงี้ยวเอียงคอมองพี่สาวที่กำลังทำหน้าจ๋อย พี่จึงยิ้มกว้างเพื่อให้น้องสบายใจ"บ่มาแล้ว จะไปตี้ไหนก็ไปเต๊อะนิ่งมุดออนแล้วเจ้า" หนูน้อยวัยอนุบาลที่มีวาจาฉะฉานประหนึ่งคนโตตอบพ่อด้วยความมั่นใจ แล้วกลับไปใช้คราดถากหญ้าถอนมันต่อ"เขาเรียกว่ามูฟออนจ้ะ ทำใจ๋เต๊อะความรักก็แบบนี้แหละน้า" ภาคีอุ้มน้ำเงี้ยวออกมาแล้วจับใส่สนับเข่าให้เจ้าตัวเล็กหัดคลานไปบนพื้นดินและได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่"ตะตะ" น้ำเงี้ยวเห็นใครบางคนกำลังกวักมือเรียก หนูน้อยสวมหมวกลายดอกไม้กับชุดผ้าหม้อฮ่อมสไตล์ล้านนารีบเร่งคลานแบบติดเทอร์โบไปหาเป้าหมายที่กำลังเปล่งแสงเร
ผ่านมาแล้วเกือบเจ็ดเดือนแล้วที่เหนือฟ้ากับภาคีได้กลายเป็นพ่อแม่ลูกหก แม้ในแต่ละวันทั้งคู่จะวุ่นวายกับการเลี้ยงเจ้าตัวเล็กต่างวัยทั้งหลาย แต่กลับไม่รู้เลยว่าการมีเด็กน้อยเหล่านี้เป็นภาระเพราะพวกเขามีพร้อมทุกอย่าง ทั้งเวลาอาชีพ เงินทองและความรักทว่ากลับมีเด็กหญิงเพียงคนเดียวที่กลายเป็นเด็กไม่สดใสร่าเริง เนื่องจากเธอเฝ้ารอคอยใครคนนั้นให้แวะเวียนมาหา โชคร้ายที่คำสวดอ้อนวอนและภาวนารวมทั้งการทำความดีของเธอไม่ได้ช่วยให้เทวดาคนโปรดปรากฏกายถึงแม้นี่จะเป็นวันปิดเทอมวันแรกของภาคเรียนที่หนึ่ง แทนที่นิ่มฟ้าจะดีใจแต่เธอกลับรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะการไปเจอเพื่อน ๆ นั้นทำให้เธอได้พบกับความสนุกสนาน เสียงหัวเราะและพูดคุยของเพื่อนสนิทนั้นช่วยคลายความเหงาและความคิดถึงที่มีต่อเทพมาส“นิ่มฟ้าหนูมีการบ้านปิดเทอมหรือเปล่าคะ” เหนือฟ้าที่กำลังทำงุ่มง่ามวุ่นวายกับการเตรียมมื้อเช้าให้ทารกแฝดสามวัยอายุเจ็ดเดือนเศษอยู่หน้าเตาชะเง้อคอมองลูกสาวที่กำลังนั่งเฝ้าน้องในคอกกั้นโดยไม่พูดไม่จา “นิ่มฟ้าแม่ถามว่ามีการบ้านหรือเปล่าลูก” สาวอวบปิดเตาแก๊สแล้วล้างมือเดินไปดูอาการของลูกสาวที่ซึมเศร้าเหงาหงอยมาพักใ