กล้ามแขนเป็นมัดกระหวัดโอบเหนือฟ้ากลับ ภาคีก้มลงจูบซับเรือนผมสีน้ำตาลคาราเมลซ้ำ ๆ ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยเช็ดคราบน้ำตาที่เปื้อนแก้มป่องพองลม"จะเป็นคุณนายของไร่พิทักษ์มหิงสา ก็ต้องส่งใบสมัครก่อน" อธิบายแล้วถอดเสื้อเบลเซอร์ของเธอออกไป หยิบกระเป๋าที่คล้องหัวไหล่เหนือฟ้าวางลงบนโต๊ะ"ส่งใบสมัครยังไง แล้วเอาประวัติการทำงานด้วยไหมคะ" เหนือฟ้าผู้อ่อนต่อโลกไม่ทันกับดักที่ภาคีวางไว้"ส่งง่ายมาก ก็แค่ส่งผ่านร่างกาย" เสียงเข้มกระซิบแนบใบหู แล้วบรรจงกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอออกทีละเม็ดจนหมด"เป็นการส่งใบสมัครงานที่แปลกดีนะคะ แล้วเคยมีใครมาส่งใบสมัครกับพี่คีแบบนี้บ้างไหม" เหนือฟ้าทำหน้าหงิก แต่ก็ยืนเท้าสะเอวให้ผู้ชายแก้ผ้าตัวเองโดยไม่ปฏิเสธ"ไม่มี" เขาตอบแล้วบรรจงถอดชุดทำงานของเหนือฟ้าออกจนเหลือเพียงบราลูกไม้สีขาวและบิกินี่เข้าเซต ตามด้วยการแก้ผ้าตัวเองให้เหลือเพียงบ็อกเซอร์สีเทา ขณะที่ฝ่ามืออุ่นหนาไล้มาตามเนินอกขาวผ่องค่อย ๆ เคลื่อนไปดีดตะขอเสื้อใน และจัดการเกี่ยวทิ้งลงกับพื้นกวาดดวงตามองปทุมถันขาวเนียนเกลี้ยงเกลาไร้ตำหนิ บนหน้าอกสองข้างโดดเด่นด้วยสตรอว์เบอร์รี่ญี่ปุ่นลูกใหญ่ผลสดที่ประดับอยู่บนลำต้น
สาวอวบลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจบนเตียงนอน มองหาเจ้าของกลิ่นกายวนิลาที่นอนโอบกอดเธอทั้งคืน แล้วนึกขึ้นได้ว่าเขากลับไปแล้วแถมยังติดโน้ตไว้ที่กระจก พร้อมเบอร์โทรศัพท์"ไว้ป๊ะกั๋นเน้อ บะหนุนน้อย 099-xxxxxxx" เหนือฟ้าฉีกยิ้มแล้วกระโดดโลดเต้นไปทั่วห้อง รีบเก็บข้าวเก็บของแล้วลงไปเช็กเอาท์เพื่อตรงกลับไปเก็บข้าวของที่คอนโดพี่สาวแล้วเดินทางไปนครนายกทันทีราตรีนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟลาเต้เครื่องดื่มโปรด ผู้อำนวยการโรงเรียนสาวชำเลืองมองน้องรักที่กำลังนั่งพับเสื้อผ้าอาภรณ์ลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ยักษ์ ตามด้วยกระเป๋าใบเล็ก ๆ อีกสองใบ"จะรีบร้อนไปไหนฮะเรา ยัยเหนือ""ไปหาผัวค่าาาา"พรวด!!!!กาแฟถูกพ่นออกมาเป็นฝอย ๆ ราตรีรีบหยิบทิชชูมาซับปาก แล้วส่งใบหน้าหงิกงอไม่พอใจให้น้องที่กล้าได้กล้าเสียจนเกินไป"ไปหาใครมิทราบ อย่าบอกนะว่าภาคีอ่ะ"เหนือฟ้าขมวดคิ้วไม่คาดคิดว่าพี่สาวจะล่วงรู้ "ทำไมถึงรู้ล่ะคะ""ก็เดาไปมั่ว ๆ แล้วนี่จะไปอยู่กับผู้ชายที่นครนายกเลยเหรอ ไม่กลัวแม่กับพ่อบ่นหรือไง" ราตรีนั่งขัดสมาธิแล้วช่วยน้องสาวเก็บสัมภาระ"พ่อแม่ไม่บ่นหรอกค่ะ พวกเขาอยากให้เหนือมีสามีแบบพี่คีจะตายไป ไม่งั้นสามปีมานี้คงไม่พูดถึง
บ้านไม้หลังใหญ่สามชั้นของภาคีถูกรีโนเวทใหม่และสวยกว่าเดิม รอบ ๆ ปลูกหมากแดงประดับตกแต่ง ด้านข้างมีสระว่ายน้ำ และครัวเปิดโล่งสไตล์ฝรั่ง เขาแบกกระเป๋าเธอขึ้นไปชั้นบนสุดที่เป็นห้องนอนขนาดห้าสิบตารางเมตรต่อออกไปยังสวนบนดาดฟ้า มีอ่างจากุชชี่เอ้าท์ออร์ทรงกลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมระเบียง มีบาร์เล็ก ๆ และต้นไม้จำนวนมากบนนี้"ชอบไหม" เขาถามแล้วเดินไปหยิบนมข้าวโพดในตู้เย็นมินิบาร์เล็ก ๆ ส่งให้เธอ"ชอบมากค่ะ สดชื่น" เหนือฟ้ารับนมขนาดเท่าฝ่ามือมาจากภาคี หย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาข้างเตียงอย่างประหม่า มองเจ้าของบ้านลากกระเป๋าของเธอไปเก็บข้างตู้เสื้อผ้าขณะนั้นสายตาดันเหลือบไปเห็นตู้กระจกคอลเล็กชั่นถุงยางอนามัยนับยี่สิบชนิดที่อยู่ข้าง ๆ แถมยังมีเจลหล่อลื่นหลายกลิ่นตั้งเรียงราวกับของสะสม"พ...พี่คี มีถุงยางหลายแบบจังเนอะ เก็บสะสมเป็นงานอดิเรกเหรอคะ"เหนือฟ้ากระดกน้ำนมข้าวโพดอย่างรีบ ๆ ขณะที่ภาคีสับเท้าเดินมาหาแล้วหยิบขวดนมที่หมดแล้วในมือเธอเขวี้ยงลงถังขยะพอดีเป๊ะ ตามด้วยการดึงเธอมากอด แล้วหอมจนแก้มแทบยุบฟอด!! ฟอด!! ฟอด!!"อื้อ...แก้มเหนือช้ำแล้วค่ะ""พอดีของขึ้น" เขาบอกแล้วหยิบมือเธอให้คว้าจับสัมผัสขอนไม้ที
ภายในบ้านไม้สไตล์ยุโรปติดแอร์เย็นฉ่ำมีร่างคนกับหมากำลังนั่งคุยกันกระหนุงกระหนิงอยู่บริเวณพื้นห้องนั่งเล่น เหนือฟ้ากำลังช่วยแปรงขนให้เจ้าหมาไร้ชื่อ แล้วเริ่มถ่ายรูปของมันเพื่อนำไปติดประกาศตามหาเจ้าของ"เสร็จแล้ว อืม...พี่คีมีเครื่องปริ้นท์ไหมน้า เผื่อจะติดประกาศแถวนี้เพิ่มอีกช่องทาง" ชะโงกหน้ามองหาเครื่องปริ้นท์เอกสาร โดยลุกไปดูทั่วชั้นล่าง ระหว่างเดินผ่านบาร์ของห้องครัวหรูหรา ดวงตาพลันสะดุดกึกเข้ากับโหลแตงกวาดองนับสิบโหลเหนือฟ้าเดินไปดูขวดโหลแต่ละไซซ์ที่ใช้ดองแตงกวา พบว่ามีสติ๊กเกอร์แปะเขียนวันที่ดองแตงไว้ด้วย วันที่ 12 ธันวาคม 2566"ตั้งแต่ปีที่ไปญี่ปุ่นนี่นา หรือว่าแตงกวาที่เรากับพี่คีปลูกเอาไว้ตอนมาไร่เป็นครั้งแรก""สวัสดีค่า คุณเหนือฟ้าอยู่ไหมเอ่ย" เสียงของตะโกนดังมาจากหน้าบ้านสาวอวบเร่งฝีเท้าออกไปดูขณะที่เจ้าสุนัขโกลเด้นวิ่งนำไปรับแขกเ
รถกอล์ฟดับสนิทที่หน้าคอกควาย เจ้าของไร่ตัวสูงก้าวขานำทางวิทยากรคนใหม่ไปชมพ่อควาย แม่ควายที่กำลังยืนเคี้ยวเอื้องอยู่ในโรงนาขนาดใหญ่"โหมีทั้งควายดำ ควายเผือกเยอะแยะไปหมดเลย แต่เหมือนที่โรงเรือนนี้จะมีแต่ควายป่วย ควายท้องกับควายเด็กซะส่วนใหญ่ใช่ไหมคะ""ช่างสังเกตดีนี่ ไม่เสียแรงที่ใคร ๆ ก็อยากได้เป็นคุณนาย" เขาชมเปาะแล้วเดินนำเข้าไปบริเวณที่เก็บอุปกรณ์การเกษตรต่าง ๆ"แล้วควายที่อยู่ในนี้ รวมทั้งฝูงควายที่ยืนเล็มหญ้าอยู่ตรงทุ่งหญ้าตรงโน้นเป็นควายที่พี่คีไถ่มาทั้งหมดเลยเหรอคะ"" รู้ได้ไงว่าพี่ไถ่มา" ภาคีถามแล้วหยิบเสียมพรวนดินส่งให้เหนือฟ้าหนึ่งอัน"ขอบคุณค่ะ พอดีเหนือรู้มาจากเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่พี่คีเคยพาไป" สาวอวบมองดูภาคีแซะอึเปียกในคอกควายใส่กระป๋อง แล้วหิ้วนำไปยังลานหญ้าที่มีพลาสติกสีขาวปูวางเป็นจุด ๆ แล้วจัดการเทมูลควายลงไป"พี่ไถ่มารวม ๆ ก็แค่สามร้อยกว่าตัว ที่เหลือก็จะมีควายที่พ่อกับอาจิณณ์ไถ่ช่วยมาอีกเกือบพันตัว รวม ๆ กันแล้วก็หนึ่งพันห้าร้อยตัว""โห เทวดาของเหล่าควายชัด ๆ น้องควายโชคดีที่ได้เจอครอบครัวกฤตกล้าธนาดรค่ะ" เหนือฟ้ายิ้มแล้วใช้เสียมแซะตักอึเหม็น ๆ อย่างไม่รังเกียจ
เมื่อวานตอนหัวค่ำหลังจากกินมื้อค่ำเสร็จ เขาชวนเธออาบน้ำด้วยกันบนดาดฟ้า แต่เธอรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะไม่สบายก็เลยปฏิเสธไปแล้วก็หยิบยาในกระเป๋ามากินดักไข้ไว้ก่อนสรุปทั้งเธอและเขาก็เลยทำเพียงแค่นอนกอดกันบนเตียงนุ่มโดยมีหอมบั่วนอนหงายท้องสบายใจเฉิบอยู่บนเบาะสุนัขปลายเตียงเช้านี้เหนือฟ้าตื่นตั้งแต่ไก่โห่เพราะรู้สึกมึนหัวเพราะเมื่อวานอยู่กลางแดดร้อน ๆ เป็นเวลานาน ไหน ๆ นอนไม่หลับแล้วก็เลยเตรียมอาหารเช้าให้เจ้าของบ้านรับประทานก่อนไปทำงานแม่บ้านชาวกรุงเตรียมอาหารเช้าด้วยวัตถุดิบในตู้เย็นประจำบ้านตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น โดยมีหอมบั่วหมอบนอนคอยให้กำลังใจ"เหนือ ทำไมรีบตื่นจังจะไปเก็บขี้ควายแต่เช้าเลยเหรอ" เขาแซวหวังให้เธอยิ้ม"ไม่ใช่แค่การเก็บขี้ควายหรอกค่ะ แต่เหนืออยากทำทุกอย่าง ๆ ในไร่เท่าที่จะทำได้ เพื่อแบ่งเบาภาระพี่คี" พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง"เป็นอะไร ป่วยเหรอ หืม" ภาคีรีบสาวเท้าเข้ามายกหลังมือทาบหน้าผากมน "ตัวอุ่น ๆ นะ พี่ว่านอนพักดีกว่า""นิดหน่อยค่ะ แต่เหนือกินยาไปแล้ว" สาวอวบหย่อนก้นลงบนเก้าอี้แล้วเริ่มตักข้าวต้มหมูสับร้อน ๆ ใส่ปากด้วยสีหน้าเซื่องซึมหลังมือเช้าภาคีสั่งใ
พ่อเลี้ยงหนุ่มกระกองกอดเหนือฟ้าวางลงบนเตียง เขาโอบกอดเธอแน่นปลอบประโลมด้วยการนิ่งเงียบแล้วปล่อยให้เธอระบายความทุกข์ในใจออกมาจนกว่าจะสบายใจ"มีอะไรจะเล่าพี่ฟังไหม เล่าเรื่องที่เหนือเจ็บปวดอยู่ตอนนี้" โพล่งถามออกไปอย่างไม่ลังเล"เหนือกลัวค่ะ เหนือไม่กล้าเล่า" แก้มอวบเกยกับแผ่นอก แหงนมองใบหน้าหล่อที่ก้มลงมาสบตาหวานเยิ้ม "โกรธไหมคะที่เหนือไม่เล่าให้พี่คีฟัง""พูดอะไรเด็กดี พี่จะโกรธทำไม มันเป็นสิทธิ์ของเหนือ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเล่าให้พี่ฟังแล้วกั๋นเน้อ" มืออุ่นนาบข้างแก้มป่องจ๊อกกก จ๊อกกกเสียงท้องของเหนือฟ้าคำรามก้อง"ดีใจจังที่หิวแล้ว เหนืออยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม" เขาหยิบเส้นผมระใบหน้าออกไป"กินพี่คี ฮ่าฮ่า" เธอแค่ล้อเล่น แต่ภาคีคิดจริง เขากดตัวเธอลงกับหมอนอย่างเร็ว "นี่! เหนือแค่พูดเล่น""ถ้ากินพี่แล้วอิ่ม ก็กินเลย" เขาเสนอตัวด้วยห
สองครอบครัวพากันไปดูฤกษ์งามยามดีของพิธีมงคล และได้กำหนดการจากเจ้าอาวาสที่วัดใกล้กับไร่พิทักษ์มหิงสา เมื่อเวลามงคลคือช่วงต้นเดือนหน้า ทำให้การแต่งงานขยับเข้ามาเร็วขึ้นหลังจากที่พ่อแม่ของเหนือฟ้าและภาคีบุกมาคุยเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่เมื่อกลางเดือนก่อนในวันงานสมรส ตั้งแต่ปากทางเข้าไร่ยาวไปจนถึงบ้านหลังใหญ่ของภาคี ถูกตกแต่งด้วยร่มบ่อสร้างและดอกกุหลาบสีขาว สินค้าพื้นเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ ร่มหลากสีถูกกางห้อยประดับตกแต่งให้เข้ากับธีมงานแต่งล้านนากลางสวนพิธีการในเช้าวันแต่งงาน เริ่มด้วยคณะเจ้าสาวไปขอเขย หรือการไปขอเจ้าบ่าวที่บ้านนั่นเอง โดยฝั่งเจ้าบ่าวอย่างภาคีเตรียมพานดอกไม้และธูปเทียน โดยมีผู้อำนวยการทัพฟ้าและครูนับเก้าทำหน้าที่เชิญพ่อแม่ฝ่ายเจ้าบ่าวแห่ขบวนขันหมากไปที่บ้านของเจ้าสาวตามฤกษ์มงคลในวันแต่งงานหลังจากภาคียกบ้านตัวเองให้ทำเป็นบ้านของเจ้าสาว หลังจบพิธีแห่ขันหมากที่กินเวลาหลายชั่วโมง เพราะถูกกั้นประตูเงินประตูทองนับสิบยี่สิบประตูจากเพื่อนฝูงและพี่น้องที่ไม่ใช่สายเลือด
ล่วงเข้าสี่ทุ่มทั้งปูเป้และพิมุกต์เริ่มเมามายรวมทั้งอินเหลาพี่เลี้ยงเด็กแฝดชาวดอย"โว้ย ป้อเลี้ยงหำโผล่ ไอ้ยมมึงขวิดเลยสิวะ" หนุ่มชาวดอยที่ถูกชวนมาแจมมื้อค่ำด้วยเริ่มมีอาการเมา พอเมาทีไรเริ่มด่าทุกทีภาคีหันขวับ ไอ้นี่มันเมาแล้วหลอกด่าเหรอวะ "ไอ้อิน! มึงได้สติบ่าไดกูจะไม่จ่ายเงินเดือนให้มึงจักบาท""ยู๊ดดดน้าปาขี้" นิ่มฟ้าไม่ชอบให้พ่อพูดคำหยาบคาย ฟังแล้วมันระคายเคืองหู หนูน้อยเดินตรงไปหาพ่อแล้วยื่นมือเล็กไปตีปากเบา ๆ"อะหยังป้อถึงอู้บ่าได้ ป้อขออู้นิดเดียวเอง" ภาคีอ้อนลูกสาว"เดี๋ยวตกรกเวจี นิ่งกั๋วป้อเจ๋บปวดตอระมาน" นิ่มฟ้าเบะปากแล้วซุกใบหน้าเล็กแนบคอพ่อ"โอ๋ ๆ บ่าต้องร้อง ป้อจะบ่าพูดคำหยาบอีกแล้ว" พ่อเลี้ยงหนุ่มอุ้มกระเต็งลูกสาวไว้ในอ้อมแขน"คุณพิขาพาเป้กลับห้องทีนะค้า แล้วเราก็แอ้มกันสักสี่ห้ายก ดีไหมค้า"
บริเวณหน้าบ้านพักสองหลังมีเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวของปูเป้กับทนายพิมุกต์ ทั้งสองทะเลาะกันมาตั้งแต่บึงบัวจนถึงบนบก"นี่คุณจะตามฉันไปถึงไหนคุณพิ เมื่อไหร่จะเลิกตามสักที""ผมก็กลัวว่าคุณจะมาทำให้ครอบครัวคนอื่นเขาแตกแยกน่ะสิ" พิมุกต์เดินเร็ว ๆ ขึ้นไปดักหน้าไม่ให้อดีตพิธีกรคนดังกลับเข้าไปในบ้านพักของตน"ถ้าฉันจะทำให้คุณภาคีกับคุณเหนือฟ้าเขาแตกคอ ฉันทำไปตั้งนานแล้วย่ะ และที่ฉันมาพักที่นี่ก็เพราะว่าต้องตระเวนเที่ยวนครนายกเพื่อทำคอนเทนต์ส่งบริษัท" ปูเป้บอกแล้วผลักตัวคนพูดจาไม่รู้เรื่องให้พ้นทาง"ไหนล่ะหลักฐาน ผมต้องการข้อพิสูจน์" ทนายหนุ่มเลิกคิ้วสูง"คุณมันบ้า" ปูเป้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดแชตบริษัทให้ดู "ไง จะเชื่อได้ยัง""เชื่อก็ได้ มั้ง" พิมุกต์ทำหน้ายียวน"สุมาเต๊อะคุณทนายปิ๊ ปอดีว่าป้อเลี้ยงให้เปิ้นชวนคุณปิ๊กับคุณปุ๊ไปกินปิ้งย่างที่บ้านเย็นวันนี้จ้าว""ประทานโทษนะคะ เป้ชื่อปูเป้ไม่ใช่ปุ๊ งั้นฝากบอกคุณคีกับคุณเหนือด้วยนะว่าเป้ตกลง" ปูเป้ไม่ปฏิเสธเพราะเธอเองบริสุทธิ์ใจ"ผมเองก็ตกลงครับ" ทนายพิมุกต์รับคำชวนเช่นกัน ที่เขารับเพราะต้องการไปเฝ้าระวังพฤติกรรมปูเป้ อนึ่งเขาต้องการหาทางจีบเธออีกครั้ง
ที่สนามหญ้าหน้าบ้านประดับด้วยไฟปิงปองสีส้มห้อยระโยงระยางไปทั่วต้นไม้ บริเวณนี้ได้กลายจุดปาร์ตี้เล็ก ๆ ของครอบครัวที่มีทั้งคนหมาหกตัวและควายแคระตัวอ้วนป้อมหนึ่งกับแพะปิ๊กมี่อีกสองตัววันนี้ทุกคนจะฉลองวันเกิดบะแต๋งจึงเปิดหนังผีตลกเรื่องหอตุ๋ยตุ้ยดูด้วยกันพร้อมกับกินป๊อปคอร์นและไอศกรีมไปด้วยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม"หุยหุย หนาวไหมลูก" ภาคีหาผ้ามาห่มให้ควายแคระอายุสี่ขวบ ควายทุกตัวเขาล้วนรักเหมือนลูกในไส้"แบ้! แบ้!" บะแว้งกับบะแปปเจ้าแพะแคระตัวน้อยทั้งสองที่สูงยังไม่ถึงหัวเข่าด้วยซ้ำกระโดดเหยง ๆ มาหาภาคี มันเองก็ต้องการผ้าเช่นเดียวกัน"จ้า ๆ" เขาหยิบผ้าอีกผืนห่มให้มัน จากนั้นเจ้าแพะก็ม้วนตัวนั่งลงเคียงข้างหุยหุย"มาล้าว พ๊อกกอน" น่านฟ้าวางถังป๊อปคอร์นรสชีสออกมาจากครัวพร้อมกับเหนือฟ้า นิ่มฟ้าและบะแต๋งหนูน้อยเลือกนั่งข้างพ่อ ส่วนนิ่มฟ้านั่งข้างแม่และบะแต๋งนั่งกับหุยหุยเพราะเด็กชายติดควายแคระตัวนี้มาก เนื่องจากเห็นมันตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลกทุกคนแบ่งป๊อปคอร์นกินด้วยกัน ช่วงแรกที่หนังเริ่มฉายในจอโพรเจกเตอร์กลางสนามหญ้า เสียงเย็นเยียบก็แว่วมาจากที่ไกล ๆ"กินด้วยสิจ๊าาาาา"น่านฟ้ามองหาเส
กว่าจะรู้ตัวว่าตนเองขับรถมาทั้งผ้าขาวม้า พ่อเลี้ยงหนุ่มก็วนรถมาจอดใต้ต้นไม่ใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลกับบึงน้ำที่เต็มไปด้วยต้นธูปฤาษีเสียแล้วคนตัวสูงก้าวขาลงจากรถซาเล้งคันโปรดของเหนือฟ้าด้วยความมั่นใจ ยืดอกผายไหล่ผึ่ง เชิดหน้าชูคอพกพาความมั่นหน้ามาเต็มที่"เปิ้นมาแล้ว" ภาคีเท้าสะเอวเชิดหน้าตะโกนเสียงลั่นหาลูกน้องที่กำลังยืนถางหญ้ารกร้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ที่กำลังค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม"กรี๊ดดดด" กลุ่มลูกน้องชาวสวนรุ่นป้าที่นั่งจกข้าวเหนียวกันอยู่ใต้ต้นไม้พากันร้องวี๊ดว๊ายปิดหูปิดตา"ฉิบหายแล้ว ป้อเลี้ยงหำโผล่" อินเหลาหยิบหมวกสานบนหัวมาบังเป้าให้เจ้านายหนุ่มขณะที่คนอื่น ๆ กรูกันเข้ามาห้อมล้อมดูสภาพของภาคีที่มาในแฟชั่นแบบใหม่แบบสับไฟลุกท่วมลูกตา โดยมีเพียงเสื้อกล้ามสีดำกับผ้าขาวม้าโชว์บิ๊กคีตัวใหญ่วับแวมด้านใน"อุ้ย! ซวยแล้ว" ภาคีรีบกุมไหล่อินเหลาให้ยืนนิ่ง ๆจังหวะเดียวกันนั้นบ่ะยมที่เดินเล็มหญ้ามากับสำรวยก็มีอาการหงุดหงิดเล็กน้อย เมื่อเห็นผู้อุปถัมภ์ของมันอยู่ในชุดไม่ค่อยเข้าหูเข้าตา บ่ะยมเริ่มกระทืบกลีบเท้าจ้องผู้มีพระคุณของมันประหนึ่งเป็นของเล่นชิ้นใหม่"เปิ้นว่าป้อเลี้ยง
เนื่องจากเมื่อคืนออกกำลังกายยิงยาวหลายชั่วโมง ภาคีจึงรู้สึกว่าวันนี้ตนไม่อยากลุกจากเตียง ไหน ๆ เหนือฟ้าก็เอ่ยปากบอกแล้วว่าให้นอนหลับพักผ่อนไม่ต้องไปทำงานงั้นวันนี้ก็นอนให้เต็มที่เลยละกันวะชั่วโมงแห่งการเคลิ้มหลับใกล้เข้ามา เปลือกตาหนาสองชั้นปิดตัวลง ฝ่ามือกระชับผ้าห่มในห้องแอร์เย็นฉ่ำปอด"ป้อเลี้ยง ป้อเลี้ยง"อีกแล้ว ไอ้ห่าอินเหลานี่นอกจากมันจะขัดจังหวะรักของเขา มันยังขัดจังหวะการนอนอีกเหรอวะพ่อเลี้ยงหนุ่มเด้งตัวลงจากเตียง คว้าผ้าขาวม้ามันพันรอบเอวชั่วคราวแล้วเดินออกไปริมระเบียงชะโงกหน้าลงไปหาไอ้ลูกน้องชาวดอยจอมขัด"มีอะหยังกับกูอีกวะไอ้อิน""เกิดเรื่องแล้วน่ะสิป้อเลี้ยง เจ้านี้คนงานไปสางป่าต้นธูปฤาษีหลังสวนอ้อยไข่เลยไปสักประมาณสามร้อยเมตร แล้วก็พบซากโครงกระดูก ไม่รู้ว่าเป็นของคนหรือสัตว์ ป้อเลี้ยงขะใจ๋โวย ๆ หน่อยเน้อ เปิ้นไปก่อน"อินเหลาโบกมือลาแล้วคร่อมรถเอทีวีจากไปภาคีถอนหายใจแรง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่เขากลัวได้เกิดขึ้นแล้ว เพราะเห็นตามข่าวอยู่บ่อยครั้งว่าเดี๋ยวนี้ชอบมีพวกอำพรางศพตามสวนนาป่าไร่แต่ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับตัวเองคนตัวสูงรีบสาวเท้าลงจากบันไดบ้าน ตรงไปที่ห้อง
บทเพลงบรรเลงรักยามรัตติกาลโหมกระหน่ำดั่งพายุร้อนที่พัดผ่านในช่วงปลายฝนต้นหนาวเสียงหอบกระชั้นของชายหญิงคลอประสานเกิดเป็นท่วงทำนองขับขานอันแสนไพเราะผสานด้วยเสียงคราง เสียงกระแทกกระทั้นที่เคลื่อนเข้าออกเป็นจังหวะภายในตัวเหนือฟ้านั้นเกิดเป็นเมโลดี้ที่ระรื่นหู"อ๊ะ อ๊า" ขาอวบสองข้างถูกงอชิดจนถึงอก ความเป็นชายอัดแน่นของภาคีกระซวกแทงเข้าออกจนเนื้อตัวของคนใต้ล่างเขย่าไปมาอย่างรุนแรง หน้าอกภูเขาไฟสะบัดไปมาคล้ายกับเครื่องดื่มมิลค์เชครสละมุนลิ้น"พี่รักเหนือนะ รักที่สุดเลย" ภาคีพร่ำบอกคำหวานแล้วตอกตัวตนเข้าไปอย่างต่อเนื่อง"อ๊า เหนือก็รักพี่คีค่ะ อ๊ะ" เหนือฟ้าขานรับด้วยใบหน้าแดงก่ำ"โบ๋ววววว" หอมบั่วและลูกชุบที่นอนอยู่ชั้นล่างช่วยกันเป็นคอรัส"ฮ่าฮ่า เหนือร้องจนหมาหอนเลย" เขาแซวด้วยเสียงหอบ"ก็พี่คีซอยขนาดนี้ เหนือก็เสียวน่ะสิคะ" มือนุ่มฟาดเบา ๆ ลงมาที่ซิกซ์แพคเซ็กซี่ ค้อนมองด้วยความหมั่นไส้"เหนือรัดพี่จนปวดร้าวไปหมด พี่ก็ต้องเร่งจังหวะสิครับ" เถียงฉอด ๆ ตามด้วยการขยำหน้าอกสองข้างเล่นถึงแม้เบื้องล่างของเธอกับเขาจะดูดกลืนกันอยู่ แต่ปากคมที่เพิ่งเถียงเมื่อครู่ก็ไม่ยอมเว้นว่าง โน้มต่ำลงมาเพื่อตะ
ภาคีนั่งจิกเกร็งอยู่บนเก้าอี้ไม้เมื่อตรงหน้าขาของเขามีดวงหน้าหวานจ่อเกยแนบเข่า คอยละเลียดเล็มแทะกินส่วนลำร้อนที่กำลังปูดโปนด้วยเส้นเลือดตอนนี้เขามิอาจห้ามปรามหรือเอ่ยปากขอสิ่งใด เพราะนักนวดสรรพาวุธกำลังสวาปามท่อนเนื้อของเขาอย่างเอร็ดอร่อย"อ่า...." กายแกร่งกระตุกเมื่อน้ำขาวขุ่นถูกฉีดพ่นออกไปทางปากปล่องทว่ากลับไม่มีร่องรอยเหลือไว้ให้เห็น เพราะโพรงปากอุ่นสูบกลืนผ่านลำคอลงไปจนแห้งเหือดเมื่อตัวตนของความเป็นชายชาตรีถูกปลดปล่อยออกมา แม่คุณขาก็ตามมาโลมเลียเก็บกวาดจนสะอาดหมดจด"พี่คีขา อีกรอบไหมคะ"คุณพระคุณเจ้าช่วยอ้ายโตย เดี๋ยวนี้เมียติดใจไอ้ปืนใหญ่กลางลำตัวเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วหรือ"อีกรอบเป็นของพี่ต่างหาก" ภาคีรั้งหัวไหล่มนขึ้น ดึงเข้ามากอดกดจมูกสูดดมความหอมขอกลิ่นน้ำนมที่เคลือบอยู่บนผิวนุ่ม มือข้างหนึ่งเอื้อมไปปลดกิ๊บหนีบผมออก แล้ววางลงกับเก้าอี้ ใช้ปลายนิ้วทั้งสิบช่วยสางเส้นผมให้เข้าทรง บรรจงทัดเก็บไว้หลังหู"นี่เลย ผมยุ่ง ๆ ของเหนือในวันนั้นที่เพื่อนพี่ถ่ายรูปส่งมาให้" เขาย้ำถึงเหตุการณ์ในความทรงจำ จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าตนเองนั้นพร้อมจะหยุดที่ผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียว"
มือไม้ที่เต็มด้วยฟองสีขาวควานหาหัวก๊อก เพราะตอนนี้ฟองของยาสระผมกำลังไหลลงมาเคลือบดวงตาจนรู้สึกแสบไปหมด เหนือฟ้าพยายามคลำหา"พี่คีคะ พี่คี" ร่างเปลือยเปล่าตะโกนขอความช่วยเหลือ"ว่าไงเหนือ" ภาคีตื่นตระหนกรีบหากุญแจห้องน้ำแล้วไขเข้าไป เขาสีหน้าแดงระเรื่อทันทีเมื่อเห็นทรวดทรงที่มีน้ำมีนวลปรากฏอยู่ตรงหน้า"ล้างผมให้เหนือหน่อยค่ะ แชมพูเข้าตา" เหนือฟ้าหรี่ตามองพยายามเดินตรงมาหาสามี"อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวพี่ล้างให้"ภาคีจูงมือเหนือฟ้าไปนอนแล้วบังคับให้เธอแหงนศีรษะพาดขอบอ่างช่วงเวลาที่เขากำลังละเมียดละไมกับการล้างคราบยาสระผม จึงเริ่มพูดบางสิ่งที่เหนือฟ้าหลงลืมมานาน"เหนือจำได้ไหมที่เราบอกว่ากลับจากจีนแล้วจะไปขุดไทม์แคปซูลขึ้นมา แล้วพวกเราก็ลืมสนิท""จริงด้วยค่ะ เหนือลืมไปแล้วนะเนี่ย งั้นพรุ่งนี้เราพาลูก ๆ ไปขุดกันดีไหมคะ""พี่วานให้เตียวไปขุดมาให้แล้ว" เขาบอกแล้วหยิบผ้าขนหนูมาซับเส้นผมที่เริ่มยาวจนถึงกลางหลัง"จริงเหรอคะ" เหนือฟ้ารีบร้อนดันตัวเองขึ้นจากอ่างก้าวขาออกแล้วเตรียมคว้าผ้าขนหนูมาพันตัว เดินออกจากห้องน้ำ ทว่าภายในห้องนอนกลับเต็มด้วยดอกกุหลาบสีแดง และเทียนไฟฟ้าที่ส่องไสว"เนื่องในโอกาสพิเศ
เสร็จสิ้นงานทำบุญของไร่ภาคีจึงสั่งให้ลูกน้องทุกคนตรวจสอบบริเวณพื้นที่สวนส้มซ่ายี่สิบไล่ไปจนถึงบริเวณแปลงปลูกอ้อยไข่ปลาอีกจำนวนสามสิบไร่วันนี้เหนือฟ้าจึงมาให้กำลังใจสามีกับคนงานโดยการพาลูก ๆ มาปิ๊กนิคนอกสถานที่และมองดูอยู่ห่าง ๆ ใต้เต้นท์ผ้าใบฟลายชีทที่ปักขึงกับพื้นดินรวมทั้งยังมีของกินมากมายที่เดือนเพ็ญ อินเหลาช่วยกันหอบหิ้วมาจากโรงครัวประจำไร่เพื่อเลี้ยงคนงานระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบ"นี่กืออะหยังจ้าว" น่านฟ้านั่งยอง ๆ มองดูแม่กำลังย่างอ้อยไข่ปลาบนเตาถ่าน""อ้อยไข่ หรืออ้อยไข่ปลาครับ อ่ะ เดี๋ยวแม่ให้น่านชิมนะ" เหนือฟ้าคีบอ้อยกลิ่นหอมย่างเนยลักษณะคล้ายไข่ปลาขึ้นมาจากเตาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ มีน้ำจิ้มให้เลือกสามอย่าง คือ น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มบาร์บีคิว และน้ำจิ้มแจ่ว"กอบกุนจ้าว" น่านฟ้าใช้นิ้วหยิบอ้อยไข่ชิ้มพอดีคำเปล่าพ่นความร้อนเล็กน้อยแล้วจุ่มลงไปในถ้วยน้ำจิ้มบาร์บีคิวแล้วโยนใส่ปาก"เป็นไงชอบไหมครับ" เหนือฟ้าลูบหัวลูกชายคนเล็ก"ฮักเลย กิ่นโหมกะหนาด น่านจ้วยเน้อหนุนเหนือ" เด็กชายตัดสินใจหยิบเก้าอี้มานั่งดูแม่ย่างอ้อยไข่ เพื่อรอกินรอบต่อไปส่วนนิ่มฟ้ากำลังช่วยพี่ชายย่างหมูปิ้ง โดยมีอินเหล