ภายในบ้านไม้สไตล์ยุโรปติดแอร์เย็นฉ่ำ
มีร่างคนกับหมากำลังนั่งคุยกันกระหนุงกระหนิงอยู่บริเวณพื้นห้องนั่งเล่น เหนือฟ้ากำลังช่วยแปรงขนให้เจ้าหมาไร้ชื่อ แล้วเริ่มถ่ายรูปของมันเพื่อนำไปติดประกาศตามหาเจ้าของ
"เสร็จแล้ว อืม...พี่คีมีเครื่องปริ้นท์ไหมน้า เผื่อจะติดประกาศแถวนี้เพิ่มอีกช่องทาง" ชะโงกหน้ามองหาเครื่องปริ้นท์เอกสาร โดยลุกไปดูทั่วชั้นล่าง ระหว่างเดินผ่านบาร์ของห้องครัวหรูหรา ดวงตาพลันสะดุดกึกเข้ากับโหลแตงกวาดองนับสิบโหล
เหนือฟ้าเดินไปดูขวดโหลแต่ละไซซ์ที่ใช้ดองแตงกวา พบว่ามีสติ๊กเกอร์แปะเขียนวันที่ดองแตงไว้ด้วย วันที่ 12 ธันวาคม 2566
"ตั้งแต่ปีที่ไปญี่ปุ่นนี่นา หรือว่าแตงกวาที่เรากับพี่คีปลูกเอาไว้ตอนมาไร่เป็นครั้งแรก"
"สวัสดีค่า คุณเหนือฟ้าอยู่ไหมเอ่ย" เสียงของตะโกนดังมาจากหน้าบ้าน
สาวอวบเร่งฝีเท้าออกไปดูขณะที่เจ้าสุนัขโกลเด้นวิ่งนำไปรับแขกเ
รถกอล์ฟดับสนิทที่หน้าคอกควาย เจ้าของไร่ตัวสูงก้าวขานำทางวิทยากรคนใหม่ไปชมพ่อควาย แม่ควายที่กำลังยืนเคี้ยวเอื้องอยู่ในโรงนาขนาดใหญ่"โหมีทั้งควายดำ ควายเผือกเยอะแยะไปหมดเลย แต่เหมือนที่โรงเรือนนี้จะมีแต่ควายป่วย ควายท้องกับควายเด็กซะส่วนใหญ่ใช่ไหมคะ""ช่างสังเกตดีนี่ ไม่เสียแรงที่ใคร ๆ ก็อยากได้เป็นคุณนาย" เขาชมเปาะแล้วเดินนำเข้าไปบริเวณที่เก็บอุปกรณ์การเกษตรต่าง ๆ"แล้วควายที่อยู่ในนี้ รวมทั้งฝูงควายที่ยืนเล็มหญ้าอยู่ตรงทุ่งหญ้าตรงโน้นเป็นควายที่พี่คีไถ่มาทั้งหมดเลยเหรอคะ"" รู้ได้ไงว่าพี่ไถ่มา" ภาคีถามแล้วหยิบเสียมพรวนดินส่งให้เหนือฟ้าหนึ่งอัน"ขอบคุณค่ะ พอดีเหนือรู้มาจากเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่พี่คีเคยพาไป" สาวอวบมองดูภาคีแซะอึเปียกในคอกควายใส่กระป๋อง แล้วหิ้วนำไปยังลานหญ้าที่มีพลาสติกสีขาวปูวางเป็นจุด ๆ แล้วจัดการเทมูลควายลงไป"พี่ไถ่มารวม ๆ ก็แค่สามร้อยกว่าตัว ที่เหลือก็จะมีควายที่พ่อกับอาจิณณ์ไถ่ช่วยมาอีกเกือบพันตัว รวม ๆ กันแล้วก็หนึ่งพันห้าร้อยตัว""โห เทวดาของเหล่าควายชัด ๆ น้องควายโชคดีที่ได้เจอครอบครัวกฤตกล้าธนาดรค่ะ" เหนือฟ้ายิ้มแล้วใช้เสียมแซะตักอึเหม็น ๆ อย่างไม่รังเกียจ
เมื่อวานตอนหัวค่ำหลังจากกินมื้อค่ำเสร็จ เขาชวนเธออาบน้ำด้วยกันบนดาดฟ้า แต่เธอรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะไม่สบายก็เลยปฏิเสธไปแล้วก็หยิบยาในกระเป๋ามากินดักไข้ไว้ก่อนสรุปทั้งเธอและเขาก็เลยทำเพียงแค่นอนกอดกันบนเตียงนุ่มโดยมีหอมบั่วนอนหงายท้องสบายใจเฉิบอยู่บนเบาะสุนัขปลายเตียงเช้านี้เหนือฟ้าตื่นตั้งแต่ไก่โห่เพราะรู้สึกมึนหัวเพราะเมื่อวานอยู่กลางแดดร้อน ๆ เป็นเวลานาน ไหน ๆ นอนไม่หลับแล้วก็เลยเตรียมอาหารเช้าให้เจ้าของบ้านรับประทานก่อนไปทำงานแม่บ้านชาวกรุงเตรียมอาหารเช้าด้วยวัตถุดิบในตู้เย็นประจำบ้านตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น โดยมีหอมบั่วหมอบนอนคอยให้กำลังใจ"เหนือ ทำไมรีบตื่นจังจะไปเก็บขี้ควายแต่เช้าเลยเหรอ" เขาแซวหวังให้เธอยิ้ม"ไม่ใช่แค่การเก็บขี้ควายหรอกค่ะ แต่เหนืออยากทำทุกอย่าง ๆ ในไร่เท่าที่จะทำได้ เพื่อแบ่งเบาภาระพี่คี" พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง"เป็นอะไร ป่วยเหรอ หืม" ภาคีรีบสาวเท้าเข้ามายกหลังมือทาบหน้าผากมน "ตัวอุ่น ๆ นะ พี่ว่านอนพักดีกว่า""นิดหน่อยค่ะ แต่เหนือกินยาไปแล้ว" สาวอวบหย่อนก้นลงบนเก้าอี้แล้วเริ่มตักข้าวต้มหมูสับร้อน ๆ ใส่ปากด้วยสีหน้าเซื่องซึมหลังมือเช้าภาคีสั่งใ
พ่อเลี้ยงหนุ่มกระกองกอดเหนือฟ้าวางลงบนเตียง เขาโอบกอดเธอแน่นปลอบประโลมด้วยการนิ่งเงียบแล้วปล่อยให้เธอระบายความทุกข์ในใจออกมาจนกว่าจะสบายใจ"มีอะไรจะเล่าพี่ฟังไหม เล่าเรื่องที่เหนือเจ็บปวดอยู่ตอนนี้" โพล่งถามออกไปอย่างไม่ลังเล"เหนือกลัวค่ะ เหนือไม่กล้าเล่า" แก้มอวบเกยกับแผ่นอก แหงนมองใบหน้าหล่อที่ก้มลงมาสบตาหวานเยิ้ม "โกรธไหมคะที่เหนือไม่เล่าให้พี่คีฟัง""พูดอะไรเด็กดี พี่จะโกรธทำไม มันเป็นสิทธิ์ของเหนือ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเล่าให้พี่ฟังแล้วกั๋นเน้อ" มืออุ่นนาบข้างแก้มป่องจ๊อกกก จ๊อกกกเสียงท้องของเหนือฟ้าคำรามก้อง"ดีใจจังที่หิวแล้ว เหนืออยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม" เขาหยิบเส้นผมระใบหน้าออกไป"กินพี่คี ฮ่าฮ่า" เธอแค่ล้อเล่น แต่ภาคีคิดจริง เขากดตัวเธอลงกับหมอนอย่างเร็ว "นี่! เหนือแค่พูดเล่น""ถ้ากินพี่แล้วอิ่ม ก็กินเลย" เขาเสนอตัวด้วยห
สองครอบครัวพากันไปดูฤกษ์งามยามดีของพิธีมงคล และได้กำหนดการจากเจ้าอาวาสที่วัดใกล้กับไร่พิทักษ์มหิงสา เมื่อเวลามงคลคือช่วงต้นเดือนหน้า ทำให้การแต่งงานขยับเข้ามาเร็วขึ้นหลังจากที่พ่อแม่ของเหนือฟ้าและภาคีบุกมาคุยเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่เมื่อกลางเดือนก่อนในวันงานสมรส ตั้งแต่ปากทางเข้าไร่ยาวไปจนถึงบ้านหลังใหญ่ของภาคี ถูกตกแต่งด้วยร่มบ่อสร้างและดอกกุหลาบสีขาว สินค้าพื้นเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ ร่มหลากสีถูกกางห้อยประดับตกแต่งให้เข้ากับธีมงานแต่งล้านนากลางสวนพิธีการในเช้าวันแต่งงาน เริ่มด้วยคณะเจ้าสาวไปขอเขย หรือการไปขอเจ้าบ่าวที่บ้านนั่นเอง โดยฝั่งเจ้าบ่าวอย่างภาคีเตรียมพานดอกไม้และธูปเทียน โดยมีผู้อำนวยการทัพฟ้าและครูนับเก้าทำหน้าที่เชิญพ่อแม่ฝ่ายเจ้าบ่าวแห่ขบวนขันหมากไปที่บ้านของเจ้าสาวตามฤกษ์มงคลในวันแต่งงานหลังจากภาคียกบ้านตัวเองให้ทำเป็นบ้านของเจ้าสาว หลังจบพิธีแห่ขันหมากที่กินเวลาหลายชั่วโมง เพราะถูกกั้นประตูเงินประตูทองนับสิบยี่สิบประตูจากเพื่อนฝูงและพี่น้องที่ไม่ใช่สายเลือด
ประเทศญี่ปุ่นสวนผลไม้ยาบุคู่รักข้าวใหม่ปลามันเดินทางจากสถานีรถไฟซัปโปโรแล้วต่อรถไฟท้องถิ่นไปยังเมืองโยอิจิที่ตั้งอยู่บนเกาะฮอกไกโด จนมาถึงสวนผลไม้ที่ภาคีเคยมาฝึกงานและทำวิจัยระหว่างปริญญาโท"ว้าว สวนเขากว้างขวางจังเลยค่ะ" เหนือฟ้าแก้มแดงซ่านหันมากระโดดโลดเต้นเขย่าแขนสามีที่กำลังล้วงหาบางอย่างในกระเป๋าเป้"แล้วผลไม้ที่นี่ก็เยอะมาก ๆ" บอกแล้วสวมที่คาดปิดหูเขาควายลงบนหัวของภรรยา"นี่มันเขาควายนี่ ไปหาซื้อมาจากไหนคะ" เหนือฟ้าหยิบโทรศัพท์มาส่องหน้าตัวเอง"ซื้อมาจากร้านค้าข้างโรงแรม สวมเอาไว้หิมะจะได้ไม่กัดผิว ดูสิแก้มแตกหมดแล้ว" บ่นอุบอิบแล้วล้วงโลชั่นแบบหลอดออกมาจากเสื้อโค้ทบุนวมของตนเอง เนื้อครีมสีขาวถูกบีบลงบนนิ้วเรียวสวย ภาคีจิ้มลงบนแก้มป่องสองข้าง บรรงจงวาดวนไปทั่วบริเวณผิวที่เริ่มลอกเป็นขุยเหนือฟ้าอมยิ้ม
อากาศนอกโรงแรมเย็นวาบไปด้วยเกล็ดหิมะที่โปรยปรายลงมา ยิ่งฟ้าสลัวมัวลงความหนาวเหน็บส่งผลให้อุณหภูมิในลดลงร่างอวบอิ่มในชุดยูกาตะสีฟ้าลายดอกสึบากิสีขาวยืนประสานมืออย่างเกร็ง ๆแววตากลมเพ่งมองไปยังอ่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ติดกับกระจกใสของห้องพักวิวตรงนี้ทำให้เห็นบรรยากาศและแสงสีของเมืองซัปโปโรในยามค่ำคืนที่ส่องประกายระยับหลากเฉดสีเหนือฟ้าแกว่งมือลงไปในน้ำร้อน เพราะความเยือกเย็นของฤดูหนาวทำให้ผิวสัมผัสรู้สึกว่าน้ำในอ่างนี้อุ่นกำลังดีครืด! ครืด!"ฮัลโหล ได้ฉันพกมาด้วย จะเอาข้อมูลใช่ไหม เดี๋ยวฉันส่งให้เลย" ภาคีกดวางสาย"มีงานด่วนเหรอคะ" เหนือฟ้าแกว่งน้ำเล่นนั่งยอง ๆ หันไปถามสามี"อืม เดี๋ยวพี่ขอส่งงานก่อนนะ" ภาคียิ้ม ตรงเข้าไปในห้องนอน เปิดแล็ปทอปด้วยความรีบเร่ง เสียบแฟลชไดร์ฟด้
อ่างออนเซ็นพวยพุ่งด้วยไอร้อนสีขาวจาง ๆ ภายในกระแสธารมีร่างกายของชายหญิงกอดก่ายกันในน้ำอย่างสนุกสนาน ทั้งสองหยอกล้อกันด้วยการจับโน่น จับนี่ไปเรื่อยเปื่อย"อันนี้นุ่มจังเหมือนเต้าหู้ยักษ์" มือหนาเอื้อมกอบกุมทรวงอกอิ่มใต้น้ำ นวด ๆ ขยำ ๆ จนเจ้าของเต้าหู้ถึงกับสั่นสะท้านหน้าขา"พี่คีจับอยู่คนเดียวเลย ให้เหนือจับบ้าง" สาวอวบทำใจห้าวหาญลุกขึ้นแล้วคร่อมลงบนตัก ดวงตาคมเบิกกว้างตั้งรับกับการรุกฆาตของเมียไม่ทัน"หนุนน้อยหิวเหรอ" ภาคีช้อนสะโพกเหนือฟ้าให้เบื้องล่างเสียดสีกันไปมา"พี่คี หยุดนะคะ เหนือแค่จะนั่งเฉย ๆ ไม่ได้จะ อื้อ" มือที่สั่นและเตรียมผลักอกห้าม กลับต้องจับบ่าสองข้าง เพราะอาวุธใต้น้ำของเขากำลังเสยตัวไปมาระหว่างรอยแยกกลางลำตัวของเธอ"ก็ยอมรับความจริงกับพี่มาก่อน ว่าเหนืออยากได้พี่ใจจะขาด ใช่ก่อ" เขาให้โอกาสอีกครั้ง ถ้าเหนือฟ้ายังอ้ำอึ้งเขาก็จะแกล้งด้วยการหยุดแหย่เธอทันที
จบภารกิจปั๊มลูกในยกแรกที่ออนเซ็น ภาคีพาเหนือฟ้าขึ้นมาซับเนื้อซับตัวจนแห้ง นั่งไดร์ผมและบรรจงหวีผมให้ด้วยท่าทางละเมียดละไมภาคีหยิบเส้นผมสลวยสีน้ำตาลอ่อนขึ้นมาหอม ก้มลงฝังจมูกลงกับหลังคอขาว"พี่คีขา หยุดก่อนค่ะ" เหนือฟ้ารีบหันหลังไปหาแล้วกดบ่าภาคีลงกับหมอนอย่างไว "ฮ่ะ ๆ""ติดใจแล้วสิ" เสียงทุ้มนุ่มหูถามพลางใช้นิ้วม้วนเส้นผมของเหนือฟ้าเล่น"ค่ะ ติดใจแล้ว" สาวอวบนอนทับลงบนตัวภาคี สรีระที่ฟูฟ่องจึงกองท่วมอยู่บนตัวเขา เหนือฟ้านอนคว่ำแล้วเกยคางบนหลังมือของตน ตีขาสลับซ้ายขวาไปมา"คิดถึงจัง ถึงเหนือจะอยู่ต่อหน้าพี่แล้ว แต่พี่ก็ยังคิดถึงอยู่ดี คิดถึงที่สุดเลย" พร่ำบอกคำว่าคิดถึง ส่วนมือเคลื่อนไปยังบั้นท้ายงอนเด้งเหนือฟ้ายิ้มเจ้าเล่ห์ใช้ปากงับลงบนยอดถันประดับกล้ามอกแกร่ง ในเมื่อเขาหยอกเธอได้ เธอก็หยอกเขาได้เช่นกันเส
ปิดเทอมหน้าร้อนเทอมสุดท้ายบะแต๋งจะเรียนจบประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าจะขึ้นปอ.2 ครอบครัวคนเลี้ยงควายจึงคุยกันว่าจะไปเยี่ยมเยียนครอบครัวมหาจันทร์ของปินปินและพบปะสังสรรค์สักหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ภาคีจอดรถจี๊ปในอาณาจักรอัญฎรญามีอันยิ่งใหญ่ที่มีเทวสถานพระศิวะขนาดความสูง 35 เมตร นิ่มฟ้าที่กำลังนั่งมองวิวทิวทัศน์สังเกตเห็นว่ารอบบริเวณเทวาลัยถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้พลันนั้นเด็กหญิงกลับสะดุดตาเข้ากับไม้ยืนต้นสูงที่มีลักษณะใบคล้ายกับต้นมณฑารพที่เทพมาสมักจะนัดพบเจอเธอที่นั่น เพียงแต่ดอกไม้ตนนั้นมีขนาดสูงใหญ่กว่าและผลิดอกสีเหลืองนวลเต็มต้น"พี่คีพี่เหนือเชิญทางนี้ค่ะ" แซมมี่ในชุดสาหรี่แต้มผงกุมสีแดงกลางหน้าผากเดินออกมาพร้อมกับมะแป่มตัวน้อยที่ตอนนี้ขึ้นอนุบาลสองเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่มะแป่มเห็นน่านฟ้า หนูน้อยก็ทำตัวอ่อนเดินเซไปหาคนพี่"ปี้น่านขา" มะแป่มคว้าหมับที่แขนของเด็กชายจนผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองต่างพากันหัวเราะขบขัน"เอ่อ...เป๋นหยังครับ" น่านฟ้าขานรับแต่กลับยืนตัวเกร็งหน้าแดงซ่าน"อุ๊ย..." มะแป่มทำท่าสะดุดขาแล้วรีบสวมกอดเอวพี่พลางเอาหน้าซบแผ่นอก"เกินไปแล้วจ้ะแม่ลูกสาว" แ
ภายในอ่างอาบน้ำทรงกลมที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องน้ำ มีร่างตุ้ยนุ้ยสองแม่ลูกกำลังแช่น้ำนมอุ่น ๆ ที่ภาคีเป็นคนเตรียมให้ ระหว่างที่เหนือฟ้ากำลังหยิบฟองน้ำเตรียมยกขึ้นมาขัดแผ่นหลังให้ลูกสาว พลันนั้นบาดแผลที่มีร่องรอยของการถูกกัดก็ปรากฏอยู่บนหัวไหล่เล็ก นัยน์ตาของเธอสั่นระริกวูบไหวอย่างฉับพลัน หัวใจของคนเป็นแม่แทบแหลกสลายในทันที เมื่อเห็นว่าลูกสาวยังมีบาดแผลภายในร่มผ้าที่เธอหรือหมอก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน"นิ่มฟ้าคะ หนู หนูเจ็บไหมลูก" ฟองน้ำรูปสัปปะรดหลุดลอยจากฝ่ามือไหลผ่านไปยังเบื้องหน้าของเด็กหญิงที่กำลังนั่งหันหลัง นิ่มฟ้าย่นคิ้วชิดกันแล้วรีบหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"เป็นอะหยังก๊ะหนุนน้อย" มือเล็กยื่นไปจับแก้มขาวอมชมพูของแม่ ผิวพรรณของแม่ทำให้เธอรู้สึกหลงรัก"หัวไหล่หนูไงคะ โดนยัยเด็กกระถินนั่นกัดมาเหรอ ทำไมหนูไม่บอกแม่ว่ามีแผลตรงนี้ด้วย"เจ้าของบาดแผลกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว แต่แม่ของเธอกลับน้ำตาไหลอาบนองหน้า "เจ้า นิ่งโดนขบมาแต่นิ่งบ่เจ๋บแล้ว อี่แม่บ่ต้องร้อง เดี๋ยวนิ่งร้องตามเน้อ"เด็กหญิงโผเข้าซุกอกของแม่ที่ล้นหลามเหนือผิวน้ำ เหนือฟ้าสวมกอดกลับจูบซับศีระษะเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ ไม่รู้เบื่อเส
นิ่มฟ้าแสดงสีหน้าและแววตาโกรธสุดขีด เด็กหญิงตอบโต้กลับไปหาอีกฝ่ายด้วยความขุ่นเคือง กำหมัดสองข้างแน่นพยายามนึกถึงหน้าครอบครัวที่เธอรัก นึกถึงเทวดาคนโปรด"กรี๊ดด ติ๋นไม่ได้โง่นะ ไม่ได้โง่" กระถินกระทืบเท้าปึ้กปั้กแล้วพุ่งเข้ามากระชากศีระษะของนิ่มฟ้าและใช้กรงเล็บครูดข่วนใบหน้าของเธอไปทั่วโดยมีเพื่อน ๆ พยายามช่วยกันดึงตัวกระถินสายวีนออกจากการทึ้งหัวของหัวหน้าห้อง"ปล่อยเปิ้นเน้อ ปล่อยสิ" นิ่มฟ้าพยายามแกะมือเหนียวของกระถินออก พอเห็นว่าไม่เป็นผลเธอจึงใช้แรงทั้งหมดเหวี่ยงตัวของเด็กหญิงที่ตัวเล็กกว่าจนเหวี่ยงไปกระแทกกับพื้น"โอ้ย ยัยหัวหน้าเผ่าฟาย" กระถินโกรธหน้าดำหน้าแดง"บ่าใจ้ฟายตำมะดาโตย แต่เป๋นฟายเจ๋ดทัวย่ะ" เด็กหญิงเถียงกลับแล้วรีบจัดทรงผมให้เข้าที่ เตรียมที่จะเดินหนียัยกระถินปากจัดที่พูดจาไม่รู้เรื่อง"ไม่ให้ปายยย" กระถินวิ่งกลับเข้ามากระโดดตะครุบกลางหลังนิ่มฟ้า เนื่องจากเธอตัวเล็กกว่าทำให้ปีนขึ้นไปอยู่หลังเด็กหญิงหุ่นจ้ำม่ำได้ง่ายขึ้นงั่บ!"โอ๊ยยย" นิ่มฟ้าร้องเพราะถูกคมเขี้ยวของกระถินงับลงมาบนหัวไหล่ แม้จะมีเนื้อผ้าของชุดนักเรียนขวางกั้นแต่ฟันคม ๆ ก็กัดจมลงมาจนเด็กหญิงถึงกับน้ำตาเล็ด
หลังจากกลับจากโรงพยาบาลภาคีอาสาดูแลหมูยอแทนเหนือฟ้า ระหว่างนั้นเขาจึงปรึกษากับภรรยาเรื่องลูกสาวเพราะเกรงว่าอาจมีการกลั่นแกล้งและบูลลี่กันที่โรงเรียนโดยที่เขาและเธอไม่เคยรับรู้มาก่อน"เหนือว่าเราควรไปสอบถามคุณครูโดยตรงเลยดีไหม พี่ไม่ค่อยสบายใจเลย" เขาบ่นพึมพำท่ามกลางไฟสีส้มที่ส่องจากโคมรูปเห็ด ขณะที่ตนเองกำลังนอนตะแคงตบ ๆ ก้นให้หมูยอที่เพิ่งจะนอนหลับสนิท เนื่องจากหนูน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายท้อง แค้พอได้รับประทานยากับเกลือแร่เข้าไปอาการท้องเสียของเจ้าตัวเล็กก็ดูทุเลาลงสาวอวบที่เพิ่งอาบน้ำและไดร์ผมเสร็จก้าวขาเข้ามาในคอกกั้น วันนี้เธอกับสามีตัดสินใจนอนที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูแลหมูยอ"ดีค่ะ เพราะสมัยที่เหนือโดนเพื่อนแกล้งและถูกล้อเลียนเรื่องรูปร่างเหนือก็มีความรู้สึกเดียวกับลูก เหนือไม่เข้าใจเลยว่าตอนนั้นทำอะไรผิดเพื่อน ๆ ถึงไม่อยากคบเหนือ ตอนนั้นคนเดียวที่ให้คำปรึกษาได้คือพี่ไนท์ค่ะ แต่ตอนนี้เราคือครอบครัว เราทุกคนจะช่วยกันให้คำปรึกษานิ่มฟ้า เหนือจะไม่ปล่อยให้ลูกเผชิญความเจ็บปวดคนเดียวเด็ดขาด" หญิงสาวเล่าเท้าความในอดีตที่เจ็บช้ำ คำพูดถากถากทับถมของเพื่อน ๆ กลายเป็นปมในใจของเธอที่อยาก
ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงนาฬิกาปลุกข้างหัวเตียงดังขึ้นทำให้พ่อครัวใหญ่รีบดีดตัวขึ้นมาคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาชะล้างร่างกายเพียงสิบห้านาทีจึงรีบวิ่งซอยเท้าลงไปแล้วเริ่มปรุงอาหารด้วยความรักก่อนที่ลูกและภรรยาจะตื่นนอน"ป้อขี้!""เฮ่ย" หัวมันฝรั่งในมือเขาร่วงตุ้บลงกระแทกพื้น นิ่มฟ้าที่อยู่ชุดเสื้อคอกระเช้าเด็กประแปรงหน้าขาววอกสะกิดเรียกเขาท่ามกลางความมืดสลัวของห้องครัวในเวลาตีห้า"นิ่งบ่าใจ้ปี๋เน้อ ป้อต๋กใจนิ่งก๊ะ" นิ่มฟ้าลากเก้าอี้แล้วก้าวขึ้นไปยืนข้างพ่อชะโงกดูวัถตถุดิบที่พ่อเตรียมทำมื้อเช้า "ป้อทำก้าวผัดแฮ่มก๊ะ"เด็กหญิงสังเกตเห็นว่ามีเครื่องเคียงเป็นผัก หมูสับ และแฮมอีกอย่างพ่อก็วางกระทะตั้งไว้กับเตาแก๊สจึงมั่นใจว่าพ่อกำลังจะทำข้าวผัดแฮม"ฉลาดนะเนี่ยเรา ถูกต้องครับป้อกำลังทำข้าวผัดแฮมแล้วก็มีน้ำซุปมันฝรั่งซดแก้ฝืดคอ" เขาว่าแล้ววางหัวมันลง"โอ้โหดีเลยนิ่งกำลังอยากกิ๋น" นิ่มฟ้าคว้าหัวมันฝรั่งที่พ่อวางไว้บนเขียงมาถือแล้วหาที่ปอกเปลือกมัน"นี่ครับ" ผู้เป็นพ่อหยิบที่ปอกให้ลูกสาว มือเล็กรับไว้แล้วเริ่มปอกมันฝรั่งอย่าทะมัดทะแมง"ค่อย ๆ ปอกนะครับ แล้วนี่หนูตื่นมาทำอะไรแต่เช้า วันนี้วันเสาร์ไม่
โรงพยาบาลทั้งครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจภาคีในวันที่มีผ่าตัดทำหมันกับหมอที่โรงพยาบาล หลังจากที่เขาตัดสินใจจะหยุดการสืบพันธ์ุนี้เพราะเกรงว่าภรรยาจะเผลอท้องขึ้นมาอีกในอนาคต และเพื่อแสดงตนว่าเขาจริงใจที่จะเสียสละเพื่อเธอดังนั้นวิธีการนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพราะเขาอยากให้เหนือฟ้ารู้ว่าทายาททั้งหกคนของเขาจะเป็นของเธอตลอดไป และจะมีใครมีโอกาสแย่งชิงเขาไปจากเธอ"ปี้ปี้" หมูยอเดินเลาะไปมาเกาะแข้งเกาะขาพวกพี่ ๆ ขณะที่แป้งจี่นอนหลับอยู่บนตักแม่ ส่วนน้ำเงี้ยวนั้นนอนแผ่ยาวหนุนตักน่านฟ้าและนิ่มฟ้าเสมือนว่าพี่สาวพี่ชายเป็นเตียงนอนส่วนตัว"หมูยอคะมานั่งเฉย ๆ สิลูก" เหนือฟ้าอุ้มลูกชายสายปราดเปรียวที่ไม่ยอมหลับยอมนอน เอาแต่ปีนป่ายโซฟาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย"หม่ำ ๆ" หมูยอเริ่มเดินเหนื่อยหนูน้อยหยิบขวดนมในกระเป๋าสัมภาระเด็กที่วางอยู่บนเก้าอี้ แล้วเปิดฝาขวดนมบริการตัวเอง"อะหยังป้อต้องตัดหำโตยก๊ะ" น่านฟ้าสงสัยตั้งแต่พ่อบอกว่ามีนัดตัดสิ่งที่อยู่ใต้หว่างขา เด็กชายก็มีคำถามกับเธออยู่ตลอด"ป้อตัดเพื่อคุมกำเนิดพวกเราจะได้มีกันแค่หกคนไงคะ ไม่ดีเหรอหรือหนูอยากมีน้องเพิ่ม" เหนือฟ้าหันไปอธิบายกับลูกชาย"อึ๋ย
ล่วงเลยมาจวบจนแฝดสามตัวป่วนอายุย่างเข้าวัยหัดอ้อแอ้ ความโกลาหลก็เพิ่มระดับขึ้นทำให้ในแต่ละวันพ่อแม่ต้องสลับกันควักยาดมตอนนี้บะแต๋งขึ้นประถมศึกษาชั้นปีที่หกส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าขึ้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง“เย้นิ่งเป็นฉาวแล้ว” นิ่มฟ้าสะบัดผมเปียของตัวเองขณะสวมชุดกระโปรงแบบไม่มีเอี๊ยม เด็กหญิงชะม้อยชะม้ายชายตามองกระจกขณะที่แม่ทำหน้าที่จัดทรงผมตามระเบียบของโรงเรียนที่กำหนดว่าต้องมัดผมให้เรียบร้อย“แก่แดดแก่ลมเกินไปแล้วนะแม่คนนี้” เหนือฟ้ายื่นมือมาบีบแก้มอูมของลูกสาว“ที่รักอาหารเช้าเสร็จแล้ว” ภาคีตะโกนเสียงดังขึ้นมาบนห้องนอนชั้นสาม สองแม่ลูกจึงพากันลงไปลิ้มรสมื้อเช้าขณะที่แฝดสาม บะแต๋งและน่านฟ้านั่งประจำตำแหน่งที่โต๊ะอาหารของใครของมันเรียบร้อย ที่คอของหมูยอ แป้งจี่และน้ำเงี้ยวมีผ้ากันเปื้อนลายลายการ์ตูนคนละสี ผมของทารกวัยหนึ่งขวบกว่าเริ่มดกดำคลุมทั้งหัว“หม่ำ ๆ” หมูยอกระแทกช้อนส้อมกับเก้าอี้กินข้าวที่มีกระบะสำหรับใส่ภาชนะอย่างร้อนใจ“ครับเสร็จแล้วลูก” ภาคีวางถ้วยบะหมี่ผักหมูน้ำลงบนกระบะกินข้าวของแฝดสาม แล้วยกจานข้าวผัดปลาแซลมอนจานใหญ่มาตั้งตรงกลางให้บะแต๋ง นิ่มฟ้าและน่านฟ้าบริการตัวเองทว่า
หนึ่งสัปดาห์ของการปิดเทอมที่เงียบเหงาทำให้นิ่มฟ้าที่ใจจดจ่อรอคอยต้องออกไปหากิจกรรมทำพร้อมกับพี่น้อง ช่วงเช้าเด็กหญิงนั่งรถซาเล้งออกมากับภาคีที่กระเต็งน้ำเงี้ยวไว้ในเป้อุ้มทารก ในรถพ่วงข้างยังมีส้มปู๋กับบะแว้งและบะแปปเจ้าแพะแคระติดสอยห้อยตามมาด้วย ส่วนบะแต๋งกับน่านฟ้านั้นไปทำงานกับแม่ที่โรงเลี้ยงวนิลา"เทพมาสไม่มาหาหนูแล้วเหรอ" จู่ ๆ พ่อก็ตัดสินใจถามเด็กหญิงที่กำลังใช้คราดขุดมันม่วงโอกินาว่า นิ่มฟ้าผงะเล็กน้อยกับคำถามที่เธอไม่อยากตอบเท่าไหร่"ดะดะ" แต่เพราะน้ำเงี้ยวเอียงคอมองพี่สาวที่กำลังทำหน้าจ๋อย พี่จึงยิ้มกว้างเพื่อให้น้องสบายใจ"บ่มาแล้ว จะไปตี้ไหนก็ไปเต๊อะนิ่งมุดออนแล้วเจ้า" หนูน้อยวัยอนุบาลที่มีวาจาฉะฉานประหนึ่งคนโตตอบพ่อด้วยความมั่นใจ แล้วกลับไปใช้คราดถากหญ้าถอนมันต่อ"เขาเรียกว่ามูฟออนจ้ะ ทำใจ๋เต๊อะความรักก็แบบนี้แหละน้า" ภาคีอุ้มน้ำเงี้ยวออกมาแล้วจับใส่สนับเข่าให้เจ้าตัวเล็กหัดคลานไปบนพื้นดินและได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่"ตะตะ" น้ำเงี้ยวเห็นใครบางคนกำลังกวักมือเรียก หนูน้อยสวมหมวกลายดอกไม้กับชุดผ้าหม้อฮ่อมสไตล์ล้านนารีบเร่งคลานแบบติดเทอร์โบไปหาเป้าหมายที่กำลังเปล่งแสงเร
ผ่านมาแล้วเกือบเจ็ดเดือนแล้วที่เหนือฟ้ากับภาคีได้กลายเป็นพ่อแม่ลูกหก แม้ในแต่ละวันทั้งคู่จะวุ่นวายกับการเลี้ยงเจ้าตัวเล็กต่างวัยทั้งหลาย แต่กลับไม่รู้เลยว่าการมีเด็กน้อยเหล่านี้เป็นภาระเพราะพวกเขามีพร้อมทุกอย่าง ทั้งเวลาอาชีพ เงินทองและความรักทว่ากลับมีเด็กหญิงเพียงคนเดียวที่กลายเป็นเด็กไม่สดใสร่าเริง เนื่องจากเธอเฝ้ารอคอยใครคนนั้นให้แวะเวียนมาหา โชคร้ายที่คำสวดอ้อนวอนและภาวนารวมทั้งการทำความดีของเธอไม่ได้ช่วยให้เทวดาคนโปรดปรากฏกายถึงแม้นี่จะเป็นวันปิดเทอมวันแรกของภาคเรียนที่หนึ่ง แทนที่นิ่มฟ้าจะดีใจแต่เธอกลับรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะการไปเจอเพื่อน ๆ นั้นทำให้เธอได้พบกับความสนุกสนาน เสียงหัวเราะและพูดคุยของเพื่อนสนิทนั้นช่วยคลายความเหงาและความคิดถึงที่มีต่อเทพมาส“นิ่มฟ้าหนูมีการบ้านปิดเทอมหรือเปล่าคะ” เหนือฟ้าที่กำลังทำงุ่มง่ามวุ่นวายกับการเตรียมมื้อเช้าให้ทารกแฝดสามวัยอายุเจ็ดเดือนเศษอยู่หน้าเตาชะเง้อคอมองลูกสาวที่กำลังนั่งเฝ้าน้องในคอกกั้นโดยไม่พูดไม่จา “นิ่มฟ้าแม่ถามว่ามีการบ้านหรือเปล่าลูก” สาวอวบปิดเตาแก๊สแล้วล้างมือเดินไปดูอาการของลูกสาวที่ซึมเศร้าเหงาหงอยมาพักใ