เสียงนาฬิกาปลุกของเหนือฟ้าดังขึ้นตั้งแต่ตีห้า เช้านี้เธอคิดจะทำอาหารให้ภาคีกินก่อนไปเรียน แต่หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พอเปิดประตูออกจากห้องนอนกลับพบว่าพ่อครัวหนุ่มกำลังยืนผัดอะไรบางอย่างอยู่หน้าเตา สวมผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนรูปควาย เหนือฟ้าเดินตรงมาหาภาคีที่เตา ชะโงกหน้าลงไปดูเมนูส่งกลิ่นหอมในกระทะ
"ผัดบ่ะหนุน ผัดแบบใส่พริกแกงเผ็ด ใช้ขนุนอ่อนหน่อย กินตอนร้อน ๆ อร่อยมาก น้องชายพี่ทำให้กินบ่อย" ภาคีบอกแล้วปิดแก๊สเทผัดขนุนอ่อนใส่จาน
"พร้อมกินค่ะ หอมน่ากินมาก ๆ เลย"
"ผัดบ่ะหนุนอย่างเดียวเหรอที่น่ากิน คนทำล่ะ" ภาคีถามขณะเดินนำจานผัดเผ็ดขนุนกลิ่นหอมไปวางที่โต๊ะ โดยมีเหนือฟ้าทำหน้าที่คดข้าวสองจานตามไปทีหลัง
"คนทำก็น่ากินอยู่นิดนึง" นิสิตสาวนั่งลงฝั่งตรงข้าม พูดเสียงเบาอย่างอาย ๆ
"อนาคตพี่จะให้เหนือกินแล้วกันนะ"
เขายังคงตะล่อมและหว่านล้อมให้เธอใจแตก โชคดีที่พี่คีไม่ชอบคนชอบบังคับฝืนใจ การคบหากับเขาจึงมีแต่ความสบายใจ
ภาคีขับรถไปส่งเหนือฟ้าแถมยังแวะซื้อของกินมากมายให้เธอกินระหว่างช่วงพักกลางวัน
"อิจฉาอ่ะ พี่คีดูแลเพื่อนรักแก้วดีขนาดนี้เลยเหรอ ดูดิของกินเพียบเลย แฟนแก้วนะทั้งขี้งกทั้งนิสัยผีเปรตมาก" กอแก้วกระแทกหนังสือลงบนโต๊ะอย่างโมโห
"กินสิแก้ว เหนือยังมีข้าวหน้าหมูเทอริยากิอีกหนึ่งกล่อง" เหนือฟ้าเปิดกล่องซูชิให้กอแก้ว
"งั้นไม่เกรงใจแล้วนะ" กอแล้วฉีกยิ้มกว้างแล้วใช้ตะเกียบคีบซูชิสามสิบชิ้นที่ภาคีซื้อมาขุนเหนือฟ้า
ฟากเดียวกันภาคีแวะเข้าไปหาแม่ที่ร้านปลาเผาพุงพุ้ยแล้วอยู่ช่วยแม่เสริฟ์อาหารจดออเดอร์
ครืด!! ครืด!!
"คีลูก มีคนโทรมาจ้ะ เป็นภาษาญี่ปุ่นด้วย" เจ๊กระต่าย แม่คนเก่งดีกรีนางแบบเก่าหยิบโทรศัพท์มาส่งให้ลูกชาย "เดี๋ยวแม่จดออเดอร์ต่อเองจ้ะ ไปทำธุระของลูกเถอะ"
"ขอบคุณครับ" ภาคีก้มลงหอมแก้มแม่คนสวย แล้วรีบกดรับเบอร์ของรุ่นพี่ชาวญี่ปุ่นด้วยความสงสัย "ครับ โชตะเซมปาย ฮะ...เลื่อนวันเดินทางเหรอครับ ทำไมล่ะ"
หัวใจของภาคีหล่นวูบเมื่อได้รับข่าวสารว่าสวนผลไม้ที่ฮอกไกโดชื่อดังแห่งหนึ่งรับสมัครนักศึกษาช่วยงานสองคนเท่านั้น ซึ่งเป็นสวนที่เขาสนใจอยากไปร่วมงานด้วยมานาน ทว่าทางผู้จัดการสวนที่โน่นต้องการให้นักศึกษาได้เรียนรู้และช่วยงานเต็มที่ก่อนที่มหาลัยจะเปิดในช่วงเดือนพฤศจิกายน ทางมหาวิทยาลัยจึงส่งรายชื่อนักศึกษาต่างชาติที่จบเกษตรไปหกคน แล้วภาคีเป็นหนึ่งที่ได้รับเลือก
หลังจากคุยโทรศัพท์หนุ่มผมหยักศกประบ่าจึงนั่งกุมขมับอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้านที่เชื่อมต่อกับร้านปลาเผาของแม่ กระต่ายเห็นว่าลูกชายยังไม่ได้กินมื้อเที่ยงจึงเดินมาตาม
"คีครับ ไม่กินข้าวเหรอลูก แล้วคีโอเคเปล่าครับ" คุณแม่ผมสั้นเสมอหูนั่งลงด้านข้าง ยกมือลูบแผ่นหลังภาคี
"อิแม่ถ้าคีเดินทางไปญี่ปุ่นก่อนกำหนด เหนือจะเสียใจไหม คีกลัวน้องร้องไห้" ภาคีเครียด ทั้งที่เขาคิดว่าตนเองจะมีเวลาสานสัมพันธ์กับเหนือฟ้าอีกสักหน่อย อย่างน้อยก็อีกหนึ่งเดือนเต็ม แต่นี่ยังไม่ทันหมดเดือนแรกก็ต้องเดินทางไปญี่ปุ่นกะทันหัน
"แม่เชื่อว่าเหนือมีเหตุผลพอ น้องอาจจะเสียใจเป็นเรื่องธรรมดา ก็แฟนไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง จะเจอหน้ากันทีก็ลำบาก แต่ช่วงที่น้องปิดเทอมคีก็บินกลับมาหาน้องได้นี่ ไม่ต้องคิดมากนะลูก" เจ๊กระต่ายเหนี่ยวคอลูกชายเข้ามากอด
ภาคีออกจากร้านปลาเผาพุงพุ้ยแล้วหาซื้อกล่องแสตนเลสแบบมีตัวล็อกเพื่อนำไปทำไทม์แคปซูลไว้เก็บความทรงจำของเขากับเหนือฟ้า เมื่อรถจี๊ปจอดเทียบฟุตบาทตามจุดเดิมที่เคยรับแฟนสาวมหาลัยตามปกติ เหนือฟ้าที่กำลังเดินลงมาจากตึกพร้อมกับกอแก้วจึงรีบเข้ามาทักทายโชเฟอร์สุดหล่อ
ชายหนุ่มลดกระจกลง กอแก้วยกมือสวัสดี "สวัสดีค่ะพี่คี วันนี้ซูชิอร่อยมากเลยค่ะ"
"สวัสดีครับ ขอบคุณนะครับที่ชอบ ซูชิที่พี่ซื้อเป็นร้านเจ้าประจำพี่เอง" ภาคีรับไหว้ฉีกยิ้มให้กอแก้วอย่างเป็นกันเอง
"สงสัยวันหลังแก้วต้องไปอุดหนุนบ้างแล้ว"
"อ้อ พี่มีบัตรสะสมแต้มด้วย" ภาคีล้วงหาบัตรร้านซูชิในกระเป๋าสตางค์แล้วส่งให้กับกอแก้ว
"อุ้ยไม่เป็นไรหรอกค่ะ แก้วเกรงใจ" กอแก้วส่ายมือปฏิเสธ
"ต่อไปพี่คงไม่ได้ใช้แล้ว รับไปเถอะ ซื้ออีกสี่ครั้งก็ได้แต้มครบ ทางร้านเขาให้เรากินฟรีสิบชิ้นเลยนะ" เขายังคงยืนกราน กอแก้วจึงรับยอมรับบัตรสะสมแต้ม
"ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ เหนือแก้วกลับก่อนนะ พี่เวย์แชตว่ามาถึงแล้ว" กอแก้วโบกมือลาเพื่อนสนิทแล้วรีบวิ่งไปหาเวย์ แฟนหนุ่มทันที
ปกติหลังเลิกเรียนภาคีจะขับรถตรงกลับคอนโด แต่วันนี้เขาเลือกที่จะไปโรงเรียนอนุบาลเวหะชลการ ธุรกิจของครอบครัวเหนือฟ้าแทน
"พี่คีมาที่โรงเรียนพ่อเหนือทำไมคะ มีธุระอะไรกับพ่อรึเปล่าเอ่ย" เหนือฟ้าขมวดคิ้วถาม
ภาคียิ้มแล้วเอื้อมมือหยิบกล่องแสตนเลสมีตัวล็อกที่อยู่เบาะหลัง "พี่จะชวนเหนือมาฝังไทม์แคปซูลของเรา เผื่อว่าวันที่พี่เรียนจบกลับมา เราจะได้มาเปิดไทม์แคปซูลดูความลับของเราสองคน"
"ความลับเหรอคะ เหนือต้องเขียนความลับใส่ไว้ในกล่องนี้ใช่ไหม"
"ครับ พี่เองก็จะเขียนความลับของพี่เหมือนกัน เหนือมีกระดาษกับปากกาไหม"
"มีค่ะ" เหนือฟ้าฉีกกระดาษจากสมุดสองแผ่น แล้วส่งปากกาให้ภาคีหนึ่งแท่ง ทั้งสองต่างคนต่างเขียนไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้จนกว่าเวลานั้นจะมาถึง
เหนือฟ้าไปยืมจอบของภารโรงประจำโรงเรียนแล้วชวนภาคีไปฝังไว้ที่ใต้ต้นประดู่อังสนาที่ปลูกอยู่หลังสนามหญ้าของโรงเรียน ภาคีจัดการขุดดินให้ลึกพอประมาณแล้ววางไทม์แคปซูลกล่องเหล็กลงไปที่ก้นหลุม จัดการฝังกลบจนมิดชิด
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจฝังแคปซูลกาลเวลา เขาจึงชวนเหนือฟ้าซื้อของไปกินที่ห้องแล้วจัดดินเนอรืเล็ก ๆ ริมระเบียงเพื่อบอกเรื่องสำคัญเร่งด่วน
"พี่คีคะ ขนมจีนน้ำเงี้ยวเจ้านี้อร่อยมากเลย พี่คีอ้าปากสิคะ เหนือป้อน"
ภาคีนั่งเงียบไม่พูดไม่จาแต่ก็ยอมอ้าปากงับอาหารจากช้อนเหนือฟ้าโดยไม่ปฏิเสธ เหนือฟ้าป้อนชายหนุ่มจนตึงท้อง จบของคาวก็ต่อของหวาน แล้วผลไม้อีกหลายชนิด
"ทำไมวันนี้พี่คีดูซึม ๆ" สาวอวบถามขณะที่ตนกำลังกินลิ้นจี่จักรพรรดิลูกใหญ่รสหวาน
"พี่มีเรื่องจะบอก" ดวงตาคมช้อนมองอย่างหวั่นใจ
"คะ เรื่องอะไรเหรอ" อีกฝ่ายกลับเคี้ยวลิ้นจี่แก้มพองเหมือนอึ่งอ่าง
"วันจันทร์หน้าพี่ต้องไปญี่ปุ่นแล้ว"
ตุ้บ!
ลิ้นจี่ลูกใหญ่ในมือของเหนือฟ้ากลิ้งตกลงบนพื้น "กำหนดการเลื่อนขึ้นมาเหรอคะ ไหนว่าจะไปพฤศจิกายนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงไปวันจันทร์"
ภาคีหยิบโทรศัพท์แล้วเปิดอีเมล์จากสวนผลไม้ชื่อดังในฮอกไกโดให้เหนือฟ้าดู เธอจะได้เชื่อว่าเขาจำเป็นต้องไป
เหนือฟ้าอ่านอีเมล์สองภาษาฉบับหนึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น อีกฉบับเป็นภาษาอังกฤษแล้วส่งคืนให้ภาคี
"ได้รับคัดเลือกไปใช่ไหมคะ ดีใจด้วยนะคะ" เธอบอกแล้วลุกจากเก้าอี้ ตรงไปที่ซิงค์ล้างมือ พลันนั้นดวงตาสองข้างก็อาบชุ่มไปด้วยหยดน้ำใส เหนือฟ้าสะอึกสะอื้นอยู่แบบนั้น เนื้อตัวสั่นเทา ใบหน้าก้มต่ำไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย
"ร้องออกมาเถอะ" ภาคีรีบเดินเข้ามาแล้วดึงเธอเข้ามากอดไว้ เขาสวมกอดเธอแน่นจนร่างกายเกือบหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
*มีฉากหดหู่โปรดทำใจดี ๆ"เมื่อคืนภาคีกล่อมเหนือฟ้าหลับ เขาทำเพียงตบ ๆ หลังเธอราวกับปลอบใจเด็กหญิงที่ยังไม่โต ถึงในใจอยากจะขึ้นไปนอนกอดเธอไว้ แต่กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้เขากลัวว่าจะทิ้งเธอไม่ลง เวลาสามปีที่ญี่ปุ่นสำหรับเขามันช่างรู้สึกยาวนานเหมือนกับสามสิบปี แค่นึกถึงตอนที่ไม่ได้เจอเหนือฟ้า ไม่ได้จับมือ ไม่ได้จูบ เขาก็รู้สึกทรมานใจไปหมดสามวันที่เหลือก่อนจะถึงวันเดินทางภาคียังคงไปรับไปส่งเหนือฟ้าและดูแลจนถึงวินาทีสุดท้าย หลังเลิกเรียนเขาพาเธอไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ดูหนัง และโยนโบว์ลิ่งด้วยกัน บ้างก็พาไปเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนแวะกินเมนูเด็ดร้านดังเรียกได้ว่าทำครบกระบวนการของคนที่เป็นแฟนกันอย่างดีที่สุด"เหนือ พี่ให้ครับ" ภาคีไปเจอตุ๊กตาควายจากร้านขายตุ๊กตาแห่งหนึ่งที่ตลาด เขาจึงแวะซื้อมาฝากเหนือฟ้า"ตัวเท่าฝ่ามือเอง ราคาเท่าไหร่คะ" เหนือฟ้ากอดตุ๊กตาควายดำตัวเล็กแล้วก้มลงฟัดมันอย่างมันเขี้ยว"เจ็ดสิบเก้าบาทครับ""แพงเหมือนกันนะคะ เหนือนึกว่าตัวละห้าสิบบาทซะอีก""ก็มันเหลือตัวเดียวในร้านแล้ว พี่ก็เลยซื้อมา เหนือเก็บไว้เป็นตัวแทนพี่นะ" ภาคีฉีกยิ้มกว้างลูบหัวแฟนสาวอย่างอ่อนโยน"เอาควา
เหนือฟ้านอนพักรักษาตัวเกือบหนึ่งเดือนเต็ม โชคดีที่อวัยวะภายในไม่ฉีกขาดหรือได้รับบาดเจ็บรุนแรง แต่ที่หนักหนาก็คือบริเวณดวงตา และใบหน้าทั้งหมดที่ฟกช้ำและปูดบวม รวมทั้งบาดแผลจากเศษแก้วที่ต้นแขนซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นในอนาคต กับช่วงขาที่โดนเตะจนหักทำให้ต้องใส่เฝือกดามนานหลายเดือนยิ่งไปกว่านั้นราตรีเป็นบุคคลเดียวที่รู้ความลับนี้ เพราะเหนือฟ้าให้พี่สาวปกปิดเรื่องเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายจากพ่อแม่และทุกคน เธอจึงต้องมาอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ของพี่สาว และอยู่ในความดูแลของพี่ตลอดเวลาจนกว่าจะไม่เหลือร่องรอยของบาดแผลต่าง ๆ ให้เห็น"ดีนะที่พี่แต่งเรื่องว่าเหนือเสียใจเรื่องภาคีก็เลยขอมาอยู่กับพี่ที่บ้านเพื่อคลายเหงา โชคดีอีกเรื่องก็คือ พ่อกับแม่ของเราดันไปล่องเรือรอบโลกหลายเดือน งานที่โรงเรียนจึงตกมาอยู่ที่พี่คนเดียวเลย นึกจะไปสวีตหวานกันก็ไปโดยไม่สนใจภาระหน้าที่กันเลยตาทัพกับยายนับเนี่ย"ราตรีบ่นขณะเซ็นเอกสารกองท่วมสูงพลางเหล่สายตามองน้องสาวที่กำลังนั่งทำงานย้อนหลังหลายชิ้นส่งอาจารย์ที่มหาลัยเนื่องจากต้องหยุดเพื่อรักษาตัว"แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมพ่อกับแม่ถึงเลือกไปล่องเรือ คงไม่ใช่แผนพี่ไนท์ใช่ไหม" เหนือ
สามปีผ่านไปภายในงานเกษตรแฟร์เอ็กซ์โป 2026 ออกาไนซ์สาวร่างอวบผิวขากำลังวิ่งประสานงานตามบูธต่าง ๆ ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย"คุณโรจน์คะ ประมาณช่วงสิบโมงของวันพรุ่งนี้เราจะเริ่มไลฟ์สดเริ่มที่บูธคุณโรจน์ก่อนนะคะ ยังไงเตรียมข้อมูลกับผลิตภัณฑ์ที่จะโปรโมตไว้ล่วงหน้าได้เลยค่ะ อาจจะมีทีมงานมาบรีฟให้เบื้องต้นก่อนสักหนึ่งชั่วโมงค่ะ""โอเคครับ ขอบคุณมากครับคุณเหนือ""พี่เหนือ ๆ ทางโน้นมีเรื่องกัน เหมือนว่าจะเจ้าหน้าที่ของเราจะติดป้ายผิด ทำให้บูธของผู้ประกอบการสลับกัน พี่เหนือไปเจรจาหน่อย เพราะอีกเจ้าเขาไม่ยอมย้าย""ได้เดี๋ยวพี่ไปคุยเอง" หัวหน้าทีมดูแลบูธอย่างเหนือฟ้ารีบสับขาตรงไปจุดเกิดเหตุ แต่เพราะช่วงที่ผู้ประกอบการแต่ละบูธกำลังเดินพลุกพล่านทำให้หญิงสาวเผลอไปชนเข้ากับใครบางคนปั้ก!"โอ้ย" เหนือฟ้ากุมแขนที่โดนตัวของอีกฝ่ายกระแทก"เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ" เสียงเข้มที่คุ้นเคยทำให้เจ้าหน้าที่จัดงานที่กำลังทำหน้าบิดเบ้ต้องรีบตวัดหน้าไปมองวินาทีที่ดวงตาสบประสานกับชายใต้แว่นสีดำสนิท หัวใจของเธอก็แทบจะหล่นวูบไปกองอยู่ที่พื้น ดวงตากลมสั่นระริกเมื่อเขาทำท่าทางเคร่งขรึมเมินเฉยเหมือนไม่รู้จักกัน"พี่คี ไม่ได้เจอ
เหนือฟ้ารอให้คั่วกลิ้งเอาคีย์การ์ดห้องพักขึ้นมาให้แล้วตัดสินใจโทรไปสั่งอาหารเดลิเวรี่แทนที่จะลงไปหาข้าวที่ร้านสะดวกซื้อใต้โรงแรม หญิงสาวกดสั่งซูชิร้านโปรดที่ขายจนถึงห้าทุ่ม แล้วมานั่งกินคนเดียวที่บันไดหนีไฟ ขณะที่ภาคีเปิดประตูห้องพักออกมาเพื่อลงไปเช็กบูธที่ลูกน้องช่วยกันจัดว่าเป็นระเบียบดีหรือไม่พลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเจือยแจ้วดังมาจากทางบันไดหนีไฟ ซึ่งเสียงใส ๆ นี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปแอบฟัง"กินข้าวแล้วใช่ไหมเหนือ" ราตรีกรอกเสียงกลับมาผ่านทางโทรศัพท์"กินซูชิค่ะ""กินร้านนั้นมาสามปีแล้วนะ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนร้านมั่ง พี่เห็นจนจะเอียนแล้ว""ก็มันเป็นร้านโปรดพี่คีนี่นา"ภาคีตวัดมองแผ่นหลังที่อยู่ในชุดเสื้อฮู้ดตัวหนาทันควัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่บอกเลิกกลับพยายามจะพูดและนึกถึงเขาอยู่ตลอด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนตัดสายสัมพันธ์นั้นก่อนแท้ ๆ"บอกเลิกเขาแล้วยังไม่รู้จักมูฟออน แล้วนี่ฮ้อนจะตายไป ทำไปถึงใส่ชุดกันหนาวแขนยาวตลอด"เหนือฟ้ารีบตวัดหน้าไปดู แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยืนพิงประตูบันไดหนีไฟอยู่ "เหนือไม่ได้ตั้งใจบอกเลิกนะคะ เหนือมีเหตุผล ส่วนเรื่องการแต่งตัวเหนือแค่อยากเปลี่ยนสไตล์
คนตัวสูงเพียงแค่พูดขู่ แต่เหนือฟ้ากลับคว้าโทรศัพท์โทรหาพี่สาว "พี่ไนท์เหนือขอยืมห้าแสน"ภาคีถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเร่งฝีเท้าออกจากห้อง"เดี๋ยวพี่คี ไอ้ภาคี ไอ้คน..." เหนือฟ้าเดินตามไป แต่เขากลับปิดประตูกระแทกใส่หน้าเธออย่างแรง"เหนือจะเอาเงินตั้งมากมายไปทำอะไร" ราตรีกรอกเสียงกลับมาอย่างกังวล"เหนือจะซื้อพี่คี ซื้อกิน""ฮะ..บ้าเปล่าเนี่ย แล้วเจอคีที่ไหน ที่งานเอ็กซ์โปใช่ไหม""ใช่ค่ะ""เอางี้นะ พี่จะโอนเงินให้พรุ่งนี้ แต่เหนือต้องใจเย็นแล้วกลับไปนอนซะ ถ้ายังดื้ออีกพี่จะบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าสามปีก่อนเหนือเจออะไรมา""ก็ได้ค่ะ ตกลง"หลังจากวางสายจากน้องสาวราตรีที่หัวไว ไหวพริบเป็นเลิศก็คิดแผนการซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว "ยังไงคงต้องบอกความจริงแล้วล่ะ ก่อนที่น้องสาวฉันจะประสาทแดก"ราตรีกลอกตามองบน ไอ้เด็กสองคนนี้มันเป็นอะไรกันนักหนา นักธุรกิจสาวในชุดเสื้อยืดเอวลอยสวมกางเกงวอร์มผ้าร่มคว้ากระเป๋ากล่องเหล็กที่เก็บข้อมูลทุกอย่างแล้วโทรตามทนายพิมุกต์กลางดึก"คุณพิคะ ช่วยไนท์หน่อย ถ้าคุณพิไม่มาด้วยไนท์กลัวว่าภาคีจะไม่เชื่อ ดังนั้นไนท์รวบกวนคุณพิหน่อยนะคะ"ราตรีขับรถไปรับพิมุกต์ที่บ้านแล้วเหยียบมิด
ภาคีกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบแล้วซื้อถุงยางอนามัยพร้อมกับเครื่องดื่มมึนเมาสองสามกระป๋อง หลังจากคุยกับราตรีจบเขาก็รู้สึกเบลอไปหมด เขาไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าคนที่เขารักสุดหัวใจปิดบังเรื่องเลวร้ายกับเขามาถึงสามปีเต็มภายในห้องพักของเหนือฟ้าเปิดไฟสว่างโล่ง หญิงสาวเอาแต่จ้องโทรศัพท์เผื่อว่าพี่สาวจะตัดสินใจโอนเงินมาให้ภายในคืนนี้ ตอนนี้เธอร้อนรุ่มไม่ใช่ว่าต้องการทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวยัยปูเป้นั่นฉกพี่คีของเธอไปกิน แต่ดูจากการที่พวกเขาแตะเนื้อต้องตัวกัน ป่านนี้น่าจะกินกันไปหลายรอบแล้วด้วยซ้ำผิดกับเธอถึงยังคงเก็บเวอร์จิ้นไว้ให้หนุ่มเหนือคนนี้เพียงคนเดียว ตึ๋ง!เงินจำนวน 500,000 บาทโอนเข้าบัญชีคุณเรียบร้อย"กรี๊ดดดด เงินมาแล้วโว้ย จะได้กินผู้ชายแล้วไอ้เหนือ" หญิงสาวกระดี๊กระด๊าเหลือบดูนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาตีหนึ่งพอดี "กินกันตอนตีหนึ่ง จะท้องอืดไหมนะ"เหนือฟ้าลูบวนไปทั่วหน้าท้องย้วย ๆ ของตนเองก๊อก! ก๊อก!สาวอวบรีบวาดขาลงจากเตียง หาวสองสามที ใบหน้าอ่อนเพลียเขย่งส่องตาแมว พลันนั้นหนังตาที่หนักอึ้งกลับเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นในทันที คนระริกระรี้รีบเปิดประตูห้องออกไปแล้วยิ้มแฉ่งให้หนุ่มชาวไ
ทันทีที่แผ่นหลังของเหนือฟ้าแตะลงกับเตียงนอน จูบดุดันจึงได้ผละออก ภาคีถัดกายลงจากเตียงเกี่ยวปราการสุดท้ายออก เหนือฟ้ารีบสะบัดหน้าหนี ขณะที่เขาคลานกลับขึ้นมา แล้วใช้สองแขนคร่อมชิดอยู่กับหัวไหล่อวบ ริมฝีปากแดงฉานจรดลงมาบนผิวขาว ดวงตาหวานคมสะดุดเข้ากับรอยแผลเป็นนูนเล็ก ๆ ที่ต้นแขน กรามแกร่งบดข่มอารมณ์เดือดดาลที่กำลังปะทุอยู่ภายใน"ไปโดนอะไรมา" เขาอยากลองใจดูว่าเหนือฟ้าจะยอมสารภาพความจริงไหม"โดนกระจกบาดค่ะ" เธอยังคงกลบเกลื่อนไปเรื่อย"เหรอ" ภาคีลุกขึ้นแล้วนั่งขัดสมาธิ เขาหยิบมือของเหนือฟ้าแล้วก้มลงหอมซ้ำ ๆ เหมือนที่เคยชอบทำ "บอกว่าให้มานั่งนี่" เขาตบขาตัวเอง"ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวพี่คีหนัก" เหนือฟ้าหยัดตัวขึ้นเหลือบมองแก่นกายที่กำลังแข็งตัวกลางซอกขา"งั้นก็มาลองดูว่าจะหนักแค่ไหน หรือคุณลูกค้าอยากให้คนอื่นมานั่งบนตักผม" เขาขู่แล้วยักคิ้วหลิ่วตาใส่"ไม่เอา" สาวอวบไม่ยอม สุดท้ายจึงต้องกัดฟันสู้แล้วลุกไปหาเขาทั้งที่ยังมีผ้าห่มปิดกายอยู่"ไม่ชอบผ้าเกะกะลูกตา" ภาคีดึงผ้าออก เหนือเบิกตาโตเมื่อผ้าห่มปลิวไปอยู่ข้างเตียง"พี่คีเดี๋ยวเหอะ เหนือเป็นลูกค้านะ ต้องตามใจลูกค้าสิคะ ว้าย..." ข้อมือขาวถูกฉุดใ
เหนือฟ้าขนลุกขนพองไปทั้งตัวเมื่อเนินขานุ่มของตนเองถูกเขาถ่างออก หญิงสาวดันตัวขึ้นส่งมือไปปิดรอยแยกสีชมพูที่กำลังถูกภาคีเชยชม ดวงตากลมเอ่อล้นด้วยน้ำใส ชายหนุ่มรู้สึกผิดยิ่งคิดว่าเธอต้องไปเผชิญเรื่องโหดร้ายป่าเถื่อนแบบนี้ เขาก็ยิ่งแค้นจนอยากสับไอ้เวคินเป็นร้อย ๆ ชิ้น"เห็นใจ๋อ้ายเต๊อะคนดี"สาวพลัซไซซ์นึกถึงวันที่เธอให้พี่สาวเขียนจดหมายไปบอกเลิกเขาก็รู้สึกผิดอยู่ตลอดสามปีที่ผ่านมา ถ้าร่างกายนี้ตอบแทนเขาได้ เธอก็ยอม มือนุ่มยกออกไม่ถึงสิบวิ ชิวหาแดงก็ทะแยงลงมาที่ตัวตนของเธอ ริมฝีปากเล็กขบเม้นเป็นเส้นตรง เสียวซ่านจนมือสองข้างต้องยันกับพื้นเตียงเพื่อประคองร่างกายที่กำลังอ่อนปวกเปียกลงไปทุกที"อ๊ะ...อ๊า" เสียงหวานครางระงม ดังสะท้อนกึกก้องไปทั่วห้องพักในยามวิกาลลีลาการโบกสะบัดจากปลายลิ้นอุ่นหนาของภาคีละเลงลงมาที่กลีบดอกไม้สีชมพูสวยสดอย่างต่อเนื่อง พลางใช้นิ้วแหวกอ้านำทางเพื่อขบดูดเม็ดกระสันแวววาวดุดอัญมณีของเหนือฟ้า เสียงดื่มกลืนของเขาดังซู้ดซ้าดราวกับซดน้ำแกง"เต๋มปากเต๋มคำ" ภาคีผงกหัวขึ้นมอง ก้มลงดูดผิวที่เนินขาด้วยความลุ่มหลง แล้วจัดการดูดซับมวลน้ำป่าจากภายในกายที่ไหลทะลักท่วมออกมาราวเขื่อ
เช้าวันต่อมาหลังจบงานประกวดนางนพมาศ"เย้เย้ ชาหลองกั๋นตกกันเต๊อะ" นิ่มฟ้ากระโดดโลดเต้นวิ่งวนไปรอบตัวมะแป่มกับยายนับเก้าหลังจากที่กรรมการประกาศว่าผู้ชนะการประกวดนางนพมาศรุ่นน้อยและรุ่นใหญ่ปีนี้ได้แก่ตัวแทนจากไร่พิทักษ์มหิงสา เด็กหญิงก็ดีใจออกนอกหน้าประหนึ่งว่าตัวเองเป็นผู้เข้าแข่งขัน"จะกิ๋นหยั่งอีก" หม่อมเจ้าภูวสินทักหลานสาวขณะที่กำลังช่วยลูกชายจัดโต๊ะเพื่อฉลองให้กับชัยชนะของนพมาศสองรุ่น"กิ๋นกั๋นตกไงจ้าว ป้ออุ้ยบ่เคยกิ๋นก่อ" เด็กหญิงเดินไปถามปู่ใกล้ ๆ"ปู่กินขันโตกประจำ ปู่เป็นหนุ่มเหนือเน้อ" คุณปู่ยังหนุ่มอุ้มหลานสาวขึ้นมานั่งในวงแขนแกร่ง"นิ่มฟ้าคะมาอาบน้ำได้แล้วค่ะ น้ำกำลังอุ่นเลย" เหนือฟ้าทำน้ำสมุนไพรด้วยการต้มใบมะขามและหอมแดงบุบซึ่งเธอมักจะใช้วิธีนี้เป็นประจำทุกครั้งที่ลูก ๆ เป็นไข้หวัดมะแป่มอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดเอี๊ยมประโปรงสีฟ้าออกมานั่งแกว่งขารออยู่บนเก้าอี้ตัวยาว ส่วนน่านฟ้ากับบะแต๋งกำลังช่วยปู่ย่าตายายหิ้วตะกร้าผักและเครื่องเคียงออกมาจากในครัวของบ้านแฝดหญิงที่เพิ่งอาบน้ำอาบท่าเสร็จจึงเดินกระโดดดึ๋ง ๆ ออกมาพร้อมกับแพะใส่เสื้อผ้าสองตัว บะแปปกับบะแว้งวิ่งไปทั่วรอบรั้วหน้าบ้าน
ถึงช่วงการประกวดนางนพมาศน้อยและนางนพมาศใหญ่ เมื่อพิธีกรในงานประกาศรายชื่อผู้เข้าแข่งขันซึ่งเป็นตัวแทนจนมาถึงรายชื่อของมะแป่มกับครูนับเก้า สาวงามในชุดไทยต่างรุ่นจึงเดินเยื้องย่างออกมาด้วยท่าทางงดงาม"นางนพมาศน้อยและนางนพมาศรุ่นใหญ่ตัวแทนจากไร่พิทักษ์มหิงสา เด็กหญิงวาริชา มหาจันทร์ น้องมะแป่มอายุสี่ขวบควงคู่มากับคุณทวดนับเก้า.." พิธีกรหนุ่มไม่ทันพูดจบ"ฉันสวยขนาดนี้เป็นทวดเลยเหรอ ฉันคุณยายจ้ะ แค่คุณยาย" ครูนับเก้ารีบสวนกลับว่าตนเป็นยายไม่ใช่ทวด"ขอ ขอประทานโทษครับ" พิธีกรหนุ่มยิ้มเจื่อน "งั้นขอเชิญผู้ประกวดรุ่นใหญ่รุ่นเล็กแนะนำตัวสักเล็กน้อยครับ" ไมค์อันเล็กถูกยื่นมาให้มะแป่มเป็นคนแรก เด็กหญิงมือสั่นเล็กน้อยแต่พอเห็นพี่น่านฟ้าชูสองนิ้วสู้ตายมาให้ ความหวาดหวั่นในหัวใจนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความกล้าหาญทันที"ซาวัดดีค่า หนูชื่อเด็กหญิงวายิชา ม๋าชัน ชื่อเย่นว่ามาแพ่ม อยู่อายุบานหยึ่งโรงเรียนอายุบานเวหะโชนยะกาน วันนี้หนูไม่ได้มาเย่น ๆ เพราะหนูมาเอาต้วยยางวันไปฝากปู้จายค่า""ว้ายตาเถร! ที่ซ้อมกันมามันไม่ใช่แบบนี้นี่ลูก" ครูนับเก้ายกมือปิดปาก แต่ผู้ชมด้านล่างกับปรบมือกรี๊ดกร๊าดชอบอกชอบใจกันยกใหญ่ แ
มะแป่มไม่สามารถอยู่เชียร์นิ่มฟ้ากับน่านฟ้าได้จนจบ เพราะหนูน้อยต้องไปเตรียมตัวประกวดนางนพมาศที่จะเริ่มจัดช่วงเย็นจนถึงมืด แซมมี่จึงพาลูกสาวกลับไปแต่งหน้าแต่งตัวที่บ้าน โดยมียายนับเก้าช่วยทำผมเพราะสาวใหญ่ก็ลงประกวดคู่กับมะแป่มเป็นนพมาศรุ่นใหญ่กับรุ่นเด็กที่จะต้องเดินจับมือขึ้นเวทีพร้อมกันปีนี้ภาคีเข้าประชุมกับหน่วยงานท้องถิ่นออกและเสนอไอเดียให้มีกิจกรรมสร้างสรรค์แปลกใหม่ และห้ามให้มีการจุดพลุในไร่และพื้นที่โดยรอบ เพื่อป้องการสิงสาราสัตว์ในไร่แตกตื่น นอกจากนี้ยังห้ามให้มีการลอยกระทงใบตอง มีแต่การลอยกระทงด้วยผักและขนมปังเพื่อลดมลพิษและขยะที่ก่อให้เกิดน้ำเน่าเสียและส่งผลกระทบกับสัตว์น้ำแต่กระนั้นกิจกรรมเช่น การแสดงดนตรีสด เครื่องเล่นต่างที่มาให้บริการในไร่ก็ยังคงมีอยู่ รวมทั้งการประกวดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับคนในงานและชุมชนก็ยังคงมีต่อไปเสร็จสิ้นการแข่งตอบชื่อผักและสมุนไพรนิ่มฟ้ากับน่านฟ้าก็แทบหมดเรี่ยวแรง เพราะแฝดพี่น้องต้องใช้สมองขบคิดค่อนข้างเยอะ ถึงขนาดนิ่มฟ้าที่มัดผมสวยเกาหัวยุ่งจนเป็นยัยเพิ้ง"ปีหน้านิ่งบ่เอาแล้ว นิ่งไม่แก่งอารัยทั้งนั้น อิดขนาด นิ่งอยากขี่ฟายแก่งมากฟ่า" นิ่ม
ช่วงบ่ายนิ่มฟ้าและน่านฟ้าไปเตรียมตัวแข่งขันตอบชื่อผักและสมุนไพรพื้นบ้านโดยมีทุกคนตามไปให้กำลังใจ เด็กทั้งสองเปลี่ยนเป็นชุดหม้อฮ้อมสวมงอบชาวนาให้เข้ากับกติกาเครื่องแต่งกายที่กรรมการตั้งเงื่อนไขถึงแม้นี่จะเป็นโพรเจกต์แรกของโรงเรียนอนุบาลเวหะชลการที่นำโดยกรรมการบริหารอย่างครูนับเก้าเป็นคนไอเดีย แต่ทั้งผอ.ทัพฟ้าที่เป็นผู้บริหารสูงสุดและภรรยากับเลือกที่จะไม่ขอเป็นกรรมการตัดสิน เพื่อให้ไม่เกิดข้อครหาและการซุบซิบนินทาในภายหลัง"เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวอีกสามสิบนาทีก็แข่งแล้วหนูจะกินข้าวกินอะไรก่อนไหมแม่จะไปซื้อมาให้" เหนือฟ้ามัดผมของนิ่มฟ้าสองข้างแล้วใช้ยางหลากสีสันมัดเป็นข้อเล็ก ๆ แล้วหยิบกระจกให้ลูกสาวส่องดูทรงผม"โค๊ะ! กนอารัยงามย่มเมือง" นิ่มฟ้ากะพริบตาวิบวับใส่กระจกในมือแม่"ไม่ค่อยจะอวยตัวเองเลยเนอะลูกฉัน แล้วสรุปจะกินอะไรไหม""กิ๋นสิจ้าว แต่นิ่งอยากทายิปฉีจุมออนแบบอี่แม่ นิ่งทาได้ก่อ" นิ่มฟ้าจิ้มไปที่ริมฝีปากบางเล็กของเหนือฟ้า"ได้สิคะ แต่แม่จะทาแบบลิปมันวาว ๆ ให้จะได้บำรุงริมฝีปากด้วย" เหนือฟ้าล้วงลิปกลอสแท่งออกมาจากกระเป๋าสะพายข้างแล้วบรรจงละเลงบนปากลูกสาว "เสร็จแล้วค่ะ ส่องกระจกดูสิ"น
ถึงวันแข่งตอบชื่อผักและสมุนไพรพื้นบ้านของนิ่มฟ้าและน่านฟ้า แต่ช่วงเช้าทุกคนรวมตัวไปให้กำลังใจบะแต๋งทำภารกิจแสดงควายร่วมกับหุยหุยพร้อมกับพ่อและตาสำรวยก่อนที่จะไปเชียร์คู่แฝดในรอบบ่าย และรอบเย็นจะเป็นการประกวดนพมาศน้อยในโดมลานการแสดงประจำไร่พิทักษ์มหิงสาซึ่งชุดการแสดงรอบแรกนี้จะถูกเปิดตัวโดยเจ้าภาพจัดงาน และตามมาด้วยการแสดงของฟาร์มควายแคระอีกหลากหลายจังหวัดที่เข้าร่วมด้วยนับสิบรายบนที่นั่งสูงไล่ระดับสองฝั่งซ้ายขวามีป้ายไวนิลสกรีนรูปหุยหุยกับบะแต๋งคู่กัน เมื่อภาคีในชุดผ้าฝ้ายล้านนาพื้นเมืองประยุกต์สีกรมคอจีน และกาเกงผ้าฝ้ายขายาวเข้าคู่กัน โพกผ้าสีขาวสไตล์หนุ่มเหนือ เดินนำทีมจูงพ่อสะเดาควายแคระเผือกเข้ามาในลานการแสดง แถวกลางเป็นหุยหุยลูกของมันพร้อมกับบะแต๋งพี้เลี้ยงคนสนิท ท้ายแถวเป็นแม่บะผางที่จูงโดยตาสำรวยคนคุมควายประจำไร่เมื่อทั้งสามยืนเรียงแถวหน้ากระดานพร้อมกับควายประจำตัวของตน เสียงกรี๊ดกร๊าดละม้ายเหนือฟ้านิ่มฟ้าดังขึ้นแซงหน้าเสียงชาวบ้านที่นั่งชมการแสดงอยู่ฝั่งตรงข้าม"กรี๊ดดด ปาขี้อ้ายแท๋งตาฉำกวย หย่อขนาด หย่อตี้ฉุดในนายกเวจี" นิ่มฟ้าใส่ชุดไทยล้านนาเสื้อผ้าฝ้ายสีชมพูโอรสสวมผ้าซิ่
ช่วงเช้าภาคีสอนลูก ๆ คัดแยกผักพื้นบ้าน สมุนไพรเกือบสามชั่วโมงเต็มแล้วไปสอนบะแต๋งกับหุยหุยเรื่องงานแสดงโชว์ควายแคระประจำไร่ โชคดีที่บะแต๋งคอยฝึกซ้อมกับตาสำรวยและอินเหลาอยู่เป็นประจำ ทำให้หุยหุยฟังคำสั่งเข้าใจ"เดี๋ยวนิ่มกับน่านอยู่บ้านกับป้ออุ้ยแม่อุ้ยนะครับ ป้อจะพาแม่ไปฝากครรภ์ครับ""ปาขี้ฉื้อหนมมาฝากนิ่งกับน่านโตยเน้อ หนุนน้อยเพย์เงินให้ป้อนะ ป้อจะได้มีเงินฉื้อหนม" นิ่มฟ้าตบลงบนก้นแม่"อะไรกันคะ ทำไมแม่ต้องเป็นคนเปย์ ป้อหนูก็มีเงิน" เหนือฟ้าค้อนตาใส่ลูกกับสามี"แต่น่านเห็นแม่เข็บเงินป้อไว้ในตู้เชฟเน้อ" น่านฟ้าชี้ขึ้นไปบนบ้าน"หนูเห็นตอนไหนครับน่านฟ้า หนูอาจจะฝันไปก็ได้" คุณแม่ปฏิเสธทั้งที่เธอเรื่องเก็บเงินของสามีไว้ในตู้เซฟคือเรื่องจริง"เห็นตาหยอดเลย" เด็กชายแหกตาตัวเองให้แม่ดู"ป้อ อี่แม่แต๋งเสร็จแล้ว" ไม่มีครั้งไหนที่แม่ไปโรงพยาบาลแล้วจะไร้เงาลูกชายคนนี้ เพราะเรื่องที่แม่เคยแท้งน้องไปมันยังฝังในใจของบะแต๋งอยู่เสมอ เด็กชายจึงกลัวว่าแม่จะเป็นอะไรไป จึงพยายามเกาะติดแม่ทุกฝีก้าวเพื่อคอยดูแลแม่ให้ดีที่สุด"แย้วอะหยังน่านเติงไปกับหนุนฟ้าบ่ได้ น่านอยากไปดูหมอฉวย ๆ ที่โฮงยา" เด็กชายตัวน้อ
"หนุนเหนือตึ่งได้แล้วจ้าว" นิ่มฟ้าเขย่าตัวแม่แล้วหันไปเขย่าพ่อต่อ "ป้อขี้ตื่ง นิ่งอยากปิ๊กเฮือน นิ่งกึ๊ดเติงหาอ้ายแท๋งกับน่าน"เหนือฟ้ากับภาคีลุกพร้อมกับยืดเส้นยืดสายกะพริบตาปริบ ๆ มองดูลูกสาวที่ตื่นแต่เช้าตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น"ยังตีห้าอยู่เลยลูก ทำไมรีบตื่นจังคะ" คุณแม่เอื้อมมือกดเปิดสวิตซ์ไฟ นิ่มฟ้าจึงกระเถิบตัวลงจากเตียงไปหยิบผ้าขนหนูลายการ์ตูนของตนแล้วเดินเข้าห้องน้ำ"นิ่งฉันยากับน้องว่าชาซ้อมแก่ง นิ่งท่องไปให้ทงเวยา" เด็กหญิงแสนรู้เดินสับเท้าตรงไปยังซิงค์ล้างหน้า ดันเก้าอี้ตัวสั้นก้าวขึ้นไปยืนส่องกระจกยิ้มหวานสะบัดผมชื่นชมความงามของตนเอง "ต๊าย กนอายัยงามเฟ่อร์""ฮึ ๆ" ภาคีหัวเราะในลำคอเพราะลูกสาวมีท่าทางมั่นอกมั่นใจเกินวัย"พี่คีหัวเราะอะไรคะ" เหนือฟ้าเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาดื่ม"ก็ลูกดูเป็นเด็กที่พกความมั่นใจเกินร้อย ผิดกับเหนือที่ขาดความมั่นใจ" เขาบอกแล้วเปรียบเทียบเธอกับลูกให้ฟัง"เหนือแค่ไม่มั่นใจในรูปร่างตัวเอง แต่อย่างอื่นก็มั่นใจหมดนะ โดยเฉพาะเรื่องพี่คี" เจ้าของหุ่นเจ้าเนื้อคลานสี่ขาแล้วขึ้นคร่อมเอวสามีต่อหน้านิ่มฟ้าที่กำลังยืนแปรงฟัน"อี่แม่จะปาสมปันก๊ะ คิก ๆ
"โอ้ หัวใจ๋แหลวแหล้ะแหลวแล่น โอ้ อะหยังปี้ทำย้ายใจ๋น้องแหลวแฝ้ะแหลวแฟ่น" เด็กหญิงร้องเพลงขณะที่แม่กำลังใช้หวีสางผมหยักศกสีดำขลับ"เพลงอะไรของหนูคะนิ่มฟ้า แม่ไม่เคยได้ยินมาก่อน" เหนือฟ้าถามแล้วประแป้งบาง ๆ บนหน้านิ่มฟ้า"นิ่งแต่งเองจ้าว เพลงของนิ่งม่วนอ๋กม่วนใจ๋ดีก่อ" เด็กหญิงในชุดกระโปรงลายนกฟลามิงโก้สีชมพูเอี้ยวตัวไปถามแม่"ม่วนอ๋กม่วนใจ๋ขนาดจ้าว" ตอบด้วยรอยยิ้มยกมือบีบแก้มป่องของลูกทั้งสองข้างอย่างมันเขี้ยว"แล้วป้อทำหยังอยู่จ้าว" หนูน้อยฉงนทำหน้ามึนงงเพราะเห็นพ่อกำลังซิทอัพอยู่นอกระเบียงสาวอวบชะโงกหน้าดูครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อหลายนาทีก่อนที่เธอแกล้งอ่อยสามีให้ตบะแตก "สงสัยป้อจะแข็ง""แข็งกือหยัง อะหยังแข็งก๊ะ" มือเล็กสะกิดถามแม่"อ้อ แม่หมายถึงแข็งแรงจ้ะ ฮ่าฮ่า" เกือบหลุดบอกลูกในสิ่งที่ไม่ควรพูดไปซะแล้ว ขืนหลุดบอกไปว่าควายน้อยของพ่อแข็ง มีหวังต้อนถามยันสว่างแน่เลยนิ่มฟ้ากระดึ๊บตัวลงจากเตียงเดินไปรื้อถุงของเล่นและเครื่องสำอางเด็กและอุปกรณ์แต่งตัวที่ย่าต่ายซื้อให้ออกมาวางทีละชิ้น หนูน้อยหันไปพิจารณาแม่ แล้วส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปยังพ่อที่กำลังออกกำลังกายอย่างแข็งขั
ระหว่างรอสามีอาบน้ำเหนือฟ้ารู้สึกหิวจนคลื่นไส้จึงตัดสินใจสั่งอาหารจากภัตตาคารชุดใหญ่ให้มาเสริฟ์ยังวิลล่าของไร่ ภาคีที่ผิวปากอารมณ์ดีออกมาในสภาพผ้าขนหนูพันรอบเอวผืนสั้นจนเห็นขาอ่อนขาวจั๊วะชะงักงันเล็กน้อย เพราะกลัวพวกพนักงานเห็นตนอยู่ในชุดเกือบเปลือยหลังจากคนที่ภัตตาคารทยอยออกไปจากวิลล่า พ่อเลี้ยงหนุ่มจึงย่องออกไปหาภรรยาช้า ๆ ที่ระเบียงห้องริมสระว่ายน้ำ"หนุนน้อยสั่งอะไรมาเยอะแยะเลย หิวมากเลยเหรอ" เขายืนพิงต้นกล้วยไม้ทั้งที่ทั้งเนื้อตัวมีเพียงผ้าขนหนู"หิวขนาดค่ะ ก็พี่คีมัวแต่ขัดอะไรอยู่ในห้องน้ำตั้งนาน เหนือรอไม่ไหวก็เลยโทรสั่ง แต่เหนือสั่งของโปรดพี่คีมาด้วย""ไหนบอกมาสิว่าพี่ชอบอะไร" เขาสาวเท้าเข้ามาแล้วกอดไหล่เธอจากด้านหลังเกยคางแนบบ่า"พี่คีควรไปใส่เสื้อผ้าก่อนนะคะ ถึงนี่จะเป็นวิลล่าส่วนตัวแต่พี่คีก็ไม่ควรมาเดินนุ่งผ้าขนหนูโชว์ตัวแบบนี้" เหนือฟ้าบ่นอุบอิบแล้วตักแกงคั่วเห็ดถอบใส่ปาก"คืนนี้กะว่าจะไม่ใส่" เขายังคงหยอกย้อนกวนประสาท"ถ้างั้นเหนือจะเดินแก้ผ้าบ้างดีไหมคะ" นัยน์ตากลมมองขวางอย่างเอาเรื่อง"โอเคครับ อย่าแก้นะคนดี เดี๋ยวพี่จะขับรถกลับไปเอาเสื้อผ้าก่อนเอาชุดนอนมาเผื่อเหนือด้