เสียงนาฬิกาปลุกของเหนือฟ้าดังขึ้นตั้งแต่ตีห้า เช้านี้เธอคิดจะทำอาหารให้ภาคีกินก่อนไปเรียน แต่หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พอเปิดประตูออกจากห้องนอนกลับพบว่าพ่อครัวหนุ่มกำลังยืนผัดอะไรบางอย่างอยู่หน้าเตา สวมผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนรูปควาย เหนือฟ้าเดินตรงมาหาภาคีที่เตา ชะโงกหน้าลงไปดูเมนูส่งกลิ่นหอมในกระทะ
"ผัดบ่ะหนุน ผัดแบบใส่พริกแกงเผ็ด ใช้ขนุนอ่อนหน่อย กินตอนร้อน ๆ อร่อยมาก น้องชายพี่ทำให้กินบ่อย" ภาคีบอกแล้วปิดแก๊สเทผัดขนุนอ่อนใส่จาน
"พร้อมกินค่ะ หอมน่ากินมาก ๆ เลย"
"ผัดบ่ะหนุนอย่างเดียวเหรอที่น่ากิน คนทำล่ะ" ภาคีถามขณะเดินนำจานผัดเผ็ดขนุนกลิ่นหอมไปวางที่โต๊ะ โดยมีเหนือฟ้าทำหน้าที่คดข้าวสองจานตามไปทีหลัง
"คนทำก็น่ากินอยู่นิดนึง" นิสิตสาวนั่งลงฝั่งตรงข้าม พูดเสียงเบาอย่างอาย ๆ
"อนาคตพี่จะให้เหนือกินแล้วกันนะ"
เขายังคงตะล่อมและหว่านล้อมให้เธอใจแตก โชคดีที่พี่คีไม่ชอบคนชอบบังคับฝืนใจ การคบหากับเขาจึงมีแต่ความสบายใจ
ภาคีขับรถไปส่งเหนือฟ้าแถมยังแวะซื้อของกินมากมายให้เธอกินระหว่างช่วงพักกลางวัน
"อิจฉาอ่ะ พี่คีดูแลเพื่อนรักแก้วดีขนาดนี้เลยเหรอ ดูดิของกินเพียบเลย แฟนแก้วนะทั้งขี้งกทั้งนิสัยผีเปรตมาก" กอแก้วกระแทกหนังสือลงบนโต๊ะอย่างโมโห
"กินสิแก้ว เหนือยังมีข้าวหน้าหมูเทอริยากิอีกหนึ่งกล่อง" เหนือฟ้าเปิดกล่องซูชิให้กอแก้ว
"งั้นไม่เกรงใจแล้วนะ" กอแล้วฉีกยิ้มกว้างแล้วใช้ตะเกียบคีบซูชิสามสิบชิ้นที่ภาคีซื้อมาขุนเหนือฟ้า
ฟากเดียวกันภาคีแวะเข้าไปหาแม่ที่ร้านปลาเผาพุงพุ้ยแล้วอยู่ช่วยแม่เสริฟ์อาหารจดออเดอร์
ครืด!! ครืด!!
"คีลูก มีคนโทรมาจ้ะ เป็นภาษาญี่ปุ่นด้วย" เจ๊กระต่าย แม่คนเก่งดีกรีนางแบบเก่าหยิบโทรศัพท์มาส่งให้ลูกชาย "เดี๋ยวแม่จดออเดอร์ต่อเองจ้ะ ไปทำธุระของลูกเถอะ"
"ขอบคุณครับ" ภาคีก้มลงหอมแก้มแม่คนสวย แล้วรีบกดรับเบอร์ของรุ่นพี่ชาวญี่ปุ่นด้วยความสงสัย "ครับ โชตะเซมปาย ฮะ...เลื่อนวันเดินทางเหรอครับ ทำไมล่ะ"
หัวใจของภาคีหล่นวูบเมื่อได้รับข่าวสารว่าสวนผลไม้ที่ฮอกไกโดชื่อดังแห่งหนึ่งรับสมัครนักศึกษาช่วยงานสองคนเท่านั้น ซึ่งเป็นสวนที่เขาสนใจอยากไปร่วมงานด้วยมานาน ทว่าทางผู้จัดการสวนที่โน่นต้องการให้นักศึกษาได้เรียนรู้และช่วยงานเต็มที่ก่อนที่มหาลัยจะเปิดในช่วงเดือนพฤศจิกายน ทางมหาวิทยาลัยจึงส่งรายชื่อนักศึกษาต่างชาติที่จบเกษตรไปหกคน แล้วภาคีเป็นหนึ่งที่ได้รับเลือก
หลังจากคุยโทรศัพท์หนุ่มผมหยักศกประบ่าจึงนั่งกุมขมับอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้านที่เชื่อมต่อกับร้านปลาเผาของแม่ กระต่ายเห็นว่าลูกชายยังไม่ได้กินมื้อเที่ยงจึงเดินมาตาม
"คีครับ ไม่กินข้าวเหรอลูก แล้วคีโอเคเปล่าครับ" คุณแม่ผมสั้นเสมอหูนั่งลงด้านข้าง ยกมือลูบแผ่นหลังภาคี
"อิแม่ถ้าคีเดินทางไปญี่ปุ่นก่อนกำหนด เหนือจะเสียใจไหม คีกลัวน้องร้องไห้" ภาคีเครียด ทั้งที่เขาคิดว่าตนเองจะมีเวลาสานสัมพันธ์กับเหนือฟ้าอีกสักหน่อย อย่างน้อยก็อีกหนึ่งเดือนเต็ม แต่นี่ยังไม่ทันหมดเดือนแรกก็ต้องเดินทางไปญี่ปุ่นกะทันหัน
"แม่เชื่อว่าเหนือมีเหตุผลพอ น้องอาจจะเสียใจเป็นเรื่องธรรมดา ก็แฟนไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง จะเจอหน้ากันทีก็ลำบาก แต่ช่วงที่น้องปิดเทอมคีก็บินกลับมาหาน้องได้นี่ ไม่ต้องคิดมากนะลูก" เจ๊กระต่ายเหนี่ยวคอลูกชายเข้ามากอด
ภาคีออกจากร้านปลาเผาพุงพุ้ยแล้วหาซื้อกล่องแสตนเลสแบบมีตัวล็อกเพื่อนำไปทำไทม์แคปซูลไว้เก็บความทรงจำของเขากับเหนือฟ้า เมื่อรถจี๊ปจอดเทียบฟุตบาทตามจุดเดิมที่เคยรับแฟนสาวมหาลัยตามปกติ เหนือฟ้าที่กำลังเดินลงมาจากตึกพร้อมกับกอแก้วจึงรีบเข้ามาทักทายโชเฟอร์สุดหล่อ
ชายหนุ่มลดกระจกลง กอแก้วยกมือสวัสดี "สวัสดีค่ะพี่คี วันนี้ซูชิอร่อยมากเลยค่ะ"
"สวัสดีครับ ขอบคุณนะครับที่ชอบ ซูชิที่พี่ซื้อเป็นร้านเจ้าประจำพี่เอง" ภาคีรับไหว้ฉีกยิ้มให้กอแก้วอย่างเป็นกันเอง
"สงสัยวันหลังแก้วต้องไปอุดหนุนบ้างแล้ว"
"อ้อ พี่มีบัตรสะสมแต้มด้วย" ภาคีล้วงหาบัตรร้านซูชิในกระเป๋าสตางค์แล้วส่งให้กับกอแก้ว
"อุ้ยไม่เป็นไรหรอกค่ะ แก้วเกรงใจ" กอแก้วส่ายมือปฏิเสธ
"ต่อไปพี่คงไม่ได้ใช้แล้ว รับไปเถอะ ซื้ออีกสี่ครั้งก็ได้แต้มครบ ทางร้านเขาให้เรากินฟรีสิบชิ้นเลยนะ" เขายังคงยืนกราน กอแก้วจึงรับยอมรับบัตรสะสมแต้ม
"ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ เหนือแก้วกลับก่อนนะ พี่เวย์แชตว่ามาถึงแล้ว" กอแก้วโบกมือลาเพื่อนสนิทแล้วรีบวิ่งไปหาเวย์ แฟนหนุ่มทันที
ปกติหลังเลิกเรียนภาคีจะขับรถตรงกลับคอนโด แต่วันนี้เขาเลือกที่จะไปโรงเรียนอนุบาลเวหะชลการ ธุรกิจของครอบครัวเหนือฟ้าแทน
"พี่คีมาที่โรงเรียนพ่อเหนือทำไมคะ มีธุระอะไรกับพ่อรึเปล่าเอ่ย" เหนือฟ้าขมวดคิ้วถาม
ภาคียิ้มแล้วเอื้อมมือหยิบกล่องแสตนเลสมีตัวล็อกที่อยู่เบาะหลัง "พี่จะชวนเหนือมาฝังไทม์แคปซูลของเรา เผื่อว่าวันที่พี่เรียนจบกลับมา เราจะได้มาเปิดไทม์แคปซูลดูความลับของเราสองคน"
"ความลับเหรอคะ เหนือต้องเขียนความลับใส่ไว้ในกล่องนี้ใช่ไหม"
"ครับ พี่เองก็จะเขียนความลับของพี่เหมือนกัน เหนือมีกระดาษกับปากกาไหม"
"มีค่ะ" เหนือฟ้าฉีกกระดาษจากสมุดสองแผ่น แล้วส่งปากกาให้ภาคีหนึ่งแท่ง ทั้งสองต่างคนต่างเขียนไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้จนกว่าเวลานั้นจะมาถึง
เหนือฟ้าไปยืมจอบของภารโรงประจำโรงเรียนแล้วชวนภาคีไปฝังไว้ที่ใต้ต้นประดู่อังสนาที่ปลูกอยู่หลังสนามหญ้าของโรงเรียน ภาคีจัดการขุดดินให้ลึกพอประมาณแล้ววางไทม์แคปซูลกล่องเหล็กลงไปที่ก้นหลุม จัดการฝังกลบจนมิดชิด
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจฝังแคปซูลกาลเวลา เขาจึงชวนเหนือฟ้าซื้อของไปกินที่ห้องแล้วจัดดินเนอรืเล็ก ๆ ริมระเบียงเพื่อบอกเรื่องสำคัญเร่งด่วน
"พี่คีคะ ขนมจีนน้ำเงี้ยวเจ้านี้อร่อยมากเลย พี่คีอ้าปากสิคะ เหนือป้อน"
ภาคีนั่งเงียบไม่พูดไม่จาแต่ก็ยอมอ้าปากงับอาหารจากช้อนเหนือฟ้าโดยไม่ปฏิเสธ เหนือฟ้าป้อนชายหนุ่มจนตึงท้อง จบของคาวก็ต่อของหวาน แล้วผลไม้อีกหลายชนิด
"ทำไมวันนี้พี่คีดูซึม ๆ" สาวอวบถามขณะที่ตนกำลังกินลิ้นจี่จักรพรรดิลูกใหญ่รสหวาน
"พี่มีเรื่องจะบอก" ดวงตาคมช้อนมองอย่างหวั่นใจ
"คะ เรื่องอะไรเหรอ" อีกฝ่ายกลับเคี้ยวลิ้นจี่แก้มพองเหมือนอึ่งอ่าง
"วันจันทร์หน้าพี่ต้องไปญี่ปุ่นแล้ว"
ตุ้บ!
ลิ้นจี่ลูกใหญ่ในมือของเหนือฟ้ากลิ้งตกลงบนพื้น "กำหนดการเลื่อนขึ้นมาเหรอคะ ไหนว่าจะไปพฤศจิกายนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงไปวันจันทร์"
ภาคีหยิบโทรศัพท์แล้วเปิดอีเมล์จากสวนผลไม้ชื่อดังในฮอกไกโดให้เหนือฟ้าดู เธอจะได้เชื่อว่าเขาจำเป็นต้องไป
เหนือฟ้าอ่านอีเมล์สองภาษาฉบับหนึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น อีกฉบับเป็นภาษาอังกฤษแล้วส่งคืนให้ภาคี
"ได้รับคัดเลือกไปใช่ไหมคะ ดีใจด้วยนะคะ" เธอบอกแล้วลุกจากเก้าอี้ ตรงไปที่ซิงค์ล้างมือ พลันนั้นดวงตาสองข้างก็อาบชุ่มไปด้วยหยดน้ำใส เหนือฟ้าสะอึกสะอื้นอยู่แบบนั้น เนื้อตัวสั่นเทา ใบหน้าก้มต่ำไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย
"ร้องออกมาเถอะ" ภาคีรีบเดินเข้ามาแล้วดึงเธอเข้ามากอดไว้ เขาสวมกอดเธอแน่นจนร่างกายเกือบหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
*มีฉากหดหู่โปรดทำใจดี ๆ"เมื่อคืนภาคีกล่อมเหนือฟ้าหลับ เขาทำเพียงตบ ๆ หลังเธอราวกับปลอบใจเด็กหญิงที่ยังไม่โต ถึงในใจอยากจะขึ้นไปนอนกอดเธอไว้ แต่กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้เขากลัวว่าจะทิ้งเธอไม่ลง เวลาสามปีที่ญี่ปุ่นสำหรับเขามันช่างรู้สึกยาวนานเหมือนกับสามสิบปี แค่นึกถึงตอนที่ไม่ได้เจอเหนือฟ้า ไม่ได้จับมือ ไม่ได้จูบ เขาก็รู้สึกทรมานใจไปหมดสามวันที่เหลือก่อนจะถึงวันเดินทางภาคียังคงไปรับไปส่งเหนือฟ้าและดูแลจนถึงวินาทีสุดท้าย หลังเลิกเรียนเขาพาเธอไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ดูหนัง และโยนโบว์ลิ่งด้วยกัน บ้างก็พาไปเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนแวะกินเมนูเด็ดร้านดังเรียกได้ว่าทำครบกระบวนการของคนที่เป็นแฟนกันอย่างดีที่สุด"เหนือ พี่ให้ครับ" ภาคีไปเจอตุ๊กตาควายจากร้านขายตุ๊กตาแห่งหนึ่งที่ตลาด เขาจึงแวะซื้อมาฝากเหนือฟ้า"ตัวเท่าฝ่ามือเอง ราคาเท่าไหร่คะ" เหนือฟ้ากอดตุ๊กตาควายดำตัวเล็กแล้วก้มลงฟัดมันอย่างมันเขี้ยว"เจ็ดสิบเก้าบาทครับ""แพงเหมือนกันนะคะ เหนือนึกว่าตัวละห้าสิบบาทซะอีก""ก็มันเหลือตัวเดียวในร้านแล้ว พี่ก็เลยซื้อมา เหนือเก็บไว้เป็นตัวแทนพี่นะ" ภาคีฉีกยิ้มกว้างลูบหัวแฟนสาวอย่างอ่อนโยน"เอาควา
เหนือฟ้านอนพักรักษาตัวเกือบหนึ่งเดือนเต็ม โชคดีที่อวัยวะภายในไม่ฉีกขาดหรือได้รับบาดเจ็บรุนแรง แต่ที่หนักหนาก็คือบริเวณดวงตา และใบหน้าทั้งหมดที่ฟกช้ำและปูดบวม รวมทั้งบาดแผลจากเศษแก้วที่ต้นแขนซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นในอนาคต กับช่วงขาที่โดนเตะจนหักทำให้ต้องใส่เฝือกดามนานหลายเดือนยิ่งไปกว่านั้นราตรีเป็นบุคคลเดียวที่รู้ความลับนี้ เพราะเหนือฟ้าให้พี่สาวปกปิดเรื่องเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายจากพ่อแม่และทุกคน เธอจึงต้องมาอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ของพี่สาว และอยู่ในความดูแลของพี่ตลอดเวลาจนกว่าจะไม่เหลือร่องรอยของบาดแผลต่าง ๆ ให้เห็น"ดีนะที่พี่แต่งเรื่องว่าเหนือเสียใจเรื่องภาคีก็เลยขอมาอยู่กับพี่ที่บ้านเพื่อคลายเหงา โชคดีอีกเรื่องก็คือ พ่อกับแม่ของเราดันไปล่องเรือรอบโลกหลายเดือน งานที่โรงเรียนจึงตกมาอยู่ที่พี่คนเดียวเลย นึกจะไปสวีตหวานกันก็ไปโดยไม่สนใจภาระหน้าที่กันเลยตาทัพกับยายนับเนี่ย"ราตรีบ่นขณะเซ็นเอกสารกองท่วมสูงพลางเหล่สายตามองน้องสาวที่กำลังนั่งทำงานย้อนหลังหลายชิ้นส่งอาจารย์ที่มหาลัยเนื่องจากต้องหยุดเพื่อรักษาตัว"แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมพ่อกับแม่ถึงเลือกไปล่องเรือ คงไม่ใช่แผนพี่ไนท์ใช่ไหม" เหนือ
สามปีผ่านไปภายในงานเกษตรแฟร์เอ็กซ์โป 2026 ออกาไนซ์สาวร่างอวบผิวขากำลังวิ่งประสานงานตามบูธต่าง ๆ ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย"คุณโรจน์คะ ประมาณช่วงสิบโมงของวันพรุ่งนี้เราจะเริ่มไลฟ์สดเริ่มที่บูธคุณโรจน์ก่อนนะคะ ยังไงเตรียมข้อมูลกับผลิตภัณฑ์ที่จะโปรโมตไว้ล่วงหน้าได้เลยค่ะ อาจจะมีทีมงานมาบรีฟให้เบื้องต้นก่อนสักหนึ่งชั่วโมงค่ะ""โอเคครับ ขอบคุณมากครับคุณเหนือ""พี่เหนือ ๆ ทางโน้นมีเรื่องกัน เหมือนว่าจะเจ้าหน้าที่ของเราจะติดป้ายผิด ทำให้บูธของผู้ประกอบการสลับกัน พี่เหนือไปเจรจาหน่อย เพราะอีกเจ้าเขาไม่ยอมย้าย""ได้เดี๋ยวพี่ไปคุยเอง" หัวหน้าทีมดูแลบูธอย่างเหนือฟ้ารีบสับขาตรงไปจุดเกิดเหตุ แต่เพราะช่วงที่ผู้ประกอบการแต่ละบูธกำลังเดินพลุกพล่านทำให้หญิงสาวเผลอไปชนเข้ากับใครบางคนปั้ก!"โอ้ย" เหนือฟ้ากุมแขนที่โดนตัวของอีกฝ่ายกระแทก"เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ" เสียงเข้มที่คุ้นเคยทำให้เจ้าหน้าที่จัดงานที่กำลังทำหน้าบิดเบ้ต้องรีบตวัดหน้าไปมองวินาทีที่ดวงตาสบประสานกับชายใต้แว่นสีดำสนิท หัวใจของเธอก็แทบจะหล่นวูบไปกองอยู่ที่พื้น ดวงตากลมสั่นระริกเมื่อเขาทำท่าทางเคร่งขรึมเมินเฉยเหมือนไม่รู้จักกัน"พี่คี ไม่ได้เจอ
เหนือฟ้ารอให้คั่วกลิ้งเอาคีย์การ์ดห้องพักขึ้นมาให้แล้วตัดสินใจโทรไปสั่งอาหารเดลิเวรี่แทนที่จะลงไปหาข้าวที่ร้านสะดวกซื้อใต้โรงแรม หญิงสาวกดสั่งซูชิร้านโปรดที่ขายจนถึงห้าทุ่ม แล้วมานั่งกินคนเดียวที่บันไดหนีไฟ ขณะที่ภาคีเปิดประตูห้องพักออกมาเพื่อลงไปเช็กบูธที่ลูกน้องช่วยกันจัดว่าเป็นระเบียบดีหรือไม่พลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเจือยแจ้วดังมาจากทางบันไดหนีไฟ ซึ่งเสียงใส ๆ นี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปแอบฟัง"กินข้าวแล้วใช่ไหมเหนือ" ราตรีกรอกเสียงกลับมาผ่านทางโทรศัพท์"กินซูชิค่ะ""กินร้านนั้นมาสามปีแล้วนะ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนร้านมั่ง พี่เห็นจนจะเอียนแล้ว""ก็มันเป็นร้านโปรดพี่คีนี่นา"ภาคีตวัดมองแผ่นหลังที่อยู่ในชุดเสื้อฮู้ดตัวหนาทันควัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่บอกเลิกกลับพยายามจะพูดและนึกถึงเขาอยู่ตลอด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนตัดสายสัมพันธ์นั้นก่อนแท้ ๆ"บอกเลิกเขาแล้วยังไม่รู้จักมูฟออน แล้วนี่ฮ้อนจะตายไป ทำไปถึงใส่ชุดกันหนาวแขนยาวตลอด"เหนือฟ้ารีบตวัดหน้าไปดู แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยืนพิงประตูบันไดหนีไฟอยู่ "เหนือไม่ได้ตั้งใจบอกเลิกนะคะ เหนือมีเหตุผล ส่วนเรื่องการแต่งตัวเหนือแค่อยากเปลี่ยนสไตล์
คนตัวสูงเพียงแค่พูดขู่ แต่เหนือฟ้ากลับคว้าโทรศัพท์โทรหาพี่สาว "พี่ไนท์เหนือขอยืมห้าแสน"ภาคีถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเร่งฝีเท้าออกจากห้อง"เดี๋ยวพี่คี ไอ้ภาคี ไอ้คน..." เหนือฟ้าเดินตามไป แต่เขากลับปิดประตูกระแทกใส่หน้าเธออย่างแรง"เหนือจะเอาเงินตั้งมากมายไปทำอะไร" ราตรีกรอกเสียงกลับมาอย่างกังวล"เหนือจะซื้อพี่คี ซื้อกิน""ฮะ..บ้าเปล่าเนี่ย แล้วเจอคีที่ไหน ที่งานเอ็กซ์โปใช่ไหม""ใช่ค่ะ""เอางี้นะ พี่จะโอนเงินให้พรุ่งนี้ แต่เหนือต้องใจเย็นแล้วกลับไปนอนซะ ถ้ายังดื้ออีกพี่จะบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าสามปีก่อนเหนือเจออะไรมา""ก็ได้ค่ะ ตกลง"หลังจากวางสายจากน้องสาวราตรีที่หัวไว ไหวพริบเป็นเลิศก็คิดแผนการซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว "ยังไงคงต้องบอกความจริงแล้วล่ะ ก่อนที่น้องสาวฉันจะประสาทแดก"ราตรีกลอกตามองบน ไอ้เด็กสองคนนี้มันเป็นอะไรกันนักหนา นักธุรกิจสาวในชุดเสื้อยืดเอวลอยสวมกางเกงวอร์มผ้าร่มคว้ากระเป๋ากล่องเหล็กที่เก็บข้อมูลทุกอย่างแล้วโทรตามทนายพิมุกต์กลางดึก"คุณพิคะ ช่วยไนท์หน่อย ถ้าคุณพิไม่มาด้วยไนท์กลัวว่าภาคีจะไม่เชื่อ ดังนั้นไนท์รวบกวนคุณพิหน่อยนะคะ"ราตรีขับรถไปรับพิมุกต์ที่บ้านแล้วเหยียบมิด
ภาคีกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบแล้วซื้อถุงยางอนามัยพร้อมกับเครื่องดื่มมึนเมาสองสามกระป๋อง หลังจากคุยกับราตรีจบเขาก็รู้สึกเบลอไปหมด เขาไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าคนที่เขารักสุดหัวใจปิดบังเรื่องเลวร้ายกับเขามาถึงสามปีเต็มภายในห้องพักของเหนือฟ้าเปิดไฟสว่างโล่ง หญิงสาวเอาแต่จ้องโทรศัพท์เผื่อว่าพี่สาวจะตัดสินใจโอนเงินมาให้ภายในคืนนี้ ตอนนี้เธอร้อนรุ่มไม่ใช่ว่าต้องการทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวยัยปูเป้นั่นฉกพี่คีของเธอไปกิน แต่ดูจากการที่พวกเขาแตะเนื้อต้องตัวกัน ป่านนี้น่าจะกินกันไปหลายรอบแล้วด้วยซ้ำผิดกับเธอถึงยังคงเก็บเวอร์จิ้นไว้ให้หนุ่มเหนือคนนี้เพียงคนเดียว ตึ๋ง!เงินจำนวน 500,000 บาทโอนเข้าบัญชีคุณเรียบร้อย"กรี๊ดดดด เงินมาแล้วโว้ย จะได้กินผู้ชายแล้วไอ้เหนือ" หญิงสาวกระดี๊กระด๊าเหลือบดูนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาตีหนึ่งพอดี "กินกันตอนตีหนึ่ง จะท้องอืดไหมนะ"เหนือฟ้าลูบวนไปทั่วหน้าท้องย้วย ๆ ของตนเองก๊อก! ก๊อก!สาวอวบรีบวาดขาลงจากเตียง หาวสองสามที ใบหน้าอ่อนเพลียเขย่งส่องตาแมว พลันนั้นหนังตาที่หนักอึ้งกลับเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นในทันที คนระริกระรี้รีบเปิดประตูห้องออกไปแล้วยิ้มแฉ่งให้หนุ่มชาวไ
ทันทีที่แผ่นหลังของเหนือฟ้าแตะลงกับเตียงนอน จูบดุดันจึงได้ผละออก ภาคีถัดกายลงจากเตียงเกี่ยวปราการสุดท้ายออก เหนือฟ้ารีบสะบัดหน้าหนี ขณะที่เขาคลานกลับขึ้นมา แล้วใช้สองแขนคร่อมชิดอยู่กับหัวไหล่อวบ ริมฝีปากแดงฉานจรดลงมาบนผิวขาว ดวงตาหวานคมสะดุดเข้ากับรอยแผลเป็นนูนเล็ก ๆ ที่ต้นแขน กรามแกร่งบดข่มอารมณ์เดือดดาลที่กำลังปะทุอยู่ภายใน"ไปโดนอะไรมา" เขาอยากลองใจดูว่าเหนือฟ้าจะยอมสารภาพความจริงไหม"โดนกระจกบาดค่ะ" เธอยังคงกลบเกลื่อนไปเรื่อย"เหรอ" ภาคีลุกขึ้นแล้วนั่งขัดสมาธิ เขาหยิบมือของเหนือฟ้าแล้วก้มลงหอมซ้ำ ๆ เหมือนที่เคยชอบทำ "บอกว่าให้มานั่งนี่" เขาตบขาตัวเอง"ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวพี่คีหนัก" เหนือฟ้าหยัดตัวขึ้นเหลือบมองแก่นกายที่กำลังแข็งตัวกลางซอกขา"งั้นก็มาลองดูว่าจะหนักแค่ไหน หรือคุณลูกค้าอยากให้คนอื่นมานั่งบนตักผม" เขาขู่แล้วยักคิ้วหลิ่วตาใส่"ไม่เอา" สาวอวบไม่ยอม สุดท้ายจึงต้องกัดฟันสู้แล้วลุกไปหาเขาทั้งที่ยังมีผ้าห่มปิดกายอยู่"ไม่ชอบผ้าเกะกะลูกตา" ภาคีดึงผ้าออก เหนือเบิกตาโตเมื่อผ้าห่มปลิวไปอยู่ข้างเตียง"พี่คีเดี๋ยวเหอะ เหนือเป็นลูกค้านะ ต้องตามใจลูกค้าสิคะ ว้าย..." ข้อมือขาวถูกฉุดใ
เหนือฟ้าขนลุกขนพองไปทั้งตัวเมื่อเนินขานุ่มของตนเองถูกเขาถ่างออก หญิงสาวดันตัวขึ้นส่งมือไปปิดรอยแยกสีชมพูที่กำลังถูกภาคีเชยชม ดวงตากลมเอ่อล้นด้วยน้ำใส ชายหนุ่มรู้สึกผิดยิ่งคิดว่าเธอต้องไปเผชิญเรื่องโหดร้ายป่าเถื่อนแบบนี้ เขาก็ยิ่งแค้นจนอยากสับไอ้เวคินเป็นร้อย ๆ ชิ้น"เห็นใจ๋อ้ายเต๊อะคนดี"สาวพลัซไซซ์นึกถึงวันที่เธอให้พี่สาวเขียนจดหมายไปบอกเลิกเขาก็รู้สึกผิดอยู่ตลอดสามปีที่ผ่านมา ถ้าร่างกายนี้ตอบแทนเขาได้ เธอก็ยอม มือนุ่มยกออกไม่ถึงสิบวิ ชิวหาแดงก็ทะแยงลงมาที่ตัวตนของเธอ ริมฝีปากเล็กขบเม้นเป็นเส้นตรง เสียวซ่านจนมือสองข้างต้องยันกับพื้นเตียงเพื่อประคองร่างกายที่กำลังอ่อนปวกเปียกลงไปทุกที"อ๊ะ...อ๊า" เสียงหวานครางระงม ดังสะท้อนกึกก้องไปทั่วห้องพักในยามวิกาลลีลาการโบกสะบัดจากปลายลิ้นอุ่นหนาของภาคีละเลงลงมาที่กลีบดอกไม้สีชมพูสวยสดอย่างต่อเนื่อง พลางใช้นิ้วแหวกอ้านำทางเพื่อขบดูดเม็ดกระสันแวววาวดุดอัญมณีของเหนือฟ้า เสียงดื่มกลืนของเขาดังซู้ดซ้าดราวกับซดน้ำแกง"เต๋มปากเต๋มคำ" ภาคีผงกหัวขึ้นมอง ก้มลงดูดผิวที่เนินขาด้วยความลุ่มหลง แล้วจัดการดูดซับมวลน้ำป่าจากภายในกายที่ไหลทะลักท่วมออกมาราวเขื่อ
บทเพลงบรรเลงรักยามรัตติกาลโหมกระหน่ำดั่งพายุร้อนที่พัดผ่านในช่วงปลายฝนต้นหนาวเสียงหอบกระชั้นของชายหญิงคลอประสานเกิดเป็นท่วงทำนองขับขานอันแสนไพเราะผสานด้วยเสียงคราง เสียงกระแทกกระทั้นที่เคลื่อนเข้าออกเป็นจังหวะภายในตัวเหนือฟ้านั้นเกิดเป็นเมโลดี้ที่ระรื่นหู"อ๊ะ อ๊า" ขาอวบสองข้างถูกงอชิดจนถึงอก ความเป็นชายอัดแน่นของภาคีกระซวกแทงเข้าออกจนเนื้อตัวของคนใต้ล่างเขย่าไปมาอย่างรุนแรง หน้าอกภูเขาไฟสะบัดไปมาคล้ายกับเครื่องดื่มมิลค์เชครสละมุนลิ้น"พี่รักเหนือนะ รักที่สุดเลย" ภาคีพร่ำบอกคำหวานแล้วตอกตัวตนเข้าไปอย่างต่อเนื่อง"อ๊า เหนือก็รักพี่คีค่ะ อ๊ะ" เหนือฟ้าขานรับด้วยใบหน้าแดงก่ำ"โบ๋ววววว" หอมบั่วและลูกชุบที่นอนอยู่ชั้นล่างช่วยกันเป็นคอรัส"ฮ่าฮ่า เหนือร้องจนหมาหอนเลย" เขาแซวด้วยเสียงหอบ"ก็พี่คีซอยขนาดนี้ เหนือก็เสียวน่ะสิคะ" มือนุ่มฟาดเบา ๆ ลงมาที่ซิกซ์แพคเซ็กซี่ ค้อนมองด้วยความหมั่นไส้"เหนือรัดพี่จนปวดร้าวไปหมด พี่ก็ต้องเร่งจังหวะสิครับ" เถียงฉอด ๆ ตามด้วยการขยำหน้าอกสองข้างเล่นถึงแม้เบื้องล่างของเธอกับเขาจะดูดกลืนกันอยู่ แต่ปากคมที่เพิ่งเถียงเมื่อครู่ก็ไม่ยอมเว้นว่าง โน้มต่ำลงมาเพื่อตะ
ภาคีนั่งจิกเกร็งอยู่บนเก้าอี้ไม้เมื่อตรงหน้าขาของเขามีดวงหน้าหวานจ่อเกยแนบเข่า คอยละเลียดเล็มแทะกินส่วนลำร้อนที่กำลังปูดโปนด้วยเส้นเลือดตอนนี้เขามิอาจห้ามปรามหรือเอ่ยปากขอสิ่งใด เพราะนักนวดสรรพาวุธกำลังสวาปามท่อนเนื้อของเขาอย่างเอร็ดอร่อย"อ่า...." กายแกร่งกระตุกเมื่อน้ำขาวขุ่นถูกฉีดพ่นออกไปทางปากปล่องทว่ากลับไม่มีร่องรอยเหลือไว้ให้เห็น เพราะโพรงปากอุ่นสูบกลืนผ่านลำคอลงไปจนแห้งเหือดเมื่อตัวตนของความเป็นชายชาตรีถูกปลดปล่อยออกมา แม่คุณขาก็ตามมาโลมเลียเก็บกวาดจนสะอาดหมดจด"พี่คีขา อีกรอบไหมคะ"คุณพระคุณเจ้าช่วยอ้ายโตย เดี๋ยวนี้เมียติดใจไอ้ปืนใหญ่กลางลำตัวเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วหรือ"อีกรอบเป็นของพี่ต่างหาก" ภาคีรั้งหัวไหล่มนขึ้น ดึงเข้ามากอดกดจมูกสูดดมความหอมขอกลิ่นน้ำนมที่เคลือบอยู่บนผิวนุ่ม มือข้างหนึ่งเอื้อมไปปลดกิ๊บหนีบผมออก แล้ววางลงกับเก้าอี้ ใช้ปลายนิ้วทั้งสิบช่วยสางเส้นผมให้เข้าทรง บรรจงทัดเก็บไว้หลังหู"นี่เลย ผมยุ่ง ๆ ของเหนือในวันนั้นที่เพื่อนพี่ถ่ายรูปส่งมาให้" เขาย้ำถึงเหตุการณ์ในความทรงจำ จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าตนเองนั้นพร้อมจะหยุดที่ผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียว"
มือไม้ที่เต็มด้วยฟองสีขาวควานหาหัวก๊อก เพราะตอนนี้ฟองของยาสระผมกำลังไหลลงมาเคลือบดวงตาจนรู้สึกแสบไปหมด เหนือฟ้าพยายามคลำหา"พี่คีคะ พี่คี" ร่างเปลือยเปล่าตะโกนขอความช่วยเหลือ"ว่าไงเหนือ" ภาคีตื่นตระหนกรีบหากุญแจห้องน้ำแล้วไขเข้าไป เขาสีหน้าแดงระเรื่อทันทีเมื่อเห็นทรวดทรงที่มีน้ำมีนวลปรากฏอยู่ตรงหน้า"ล้างผมให้เหนือหน่อยค่ะ แชมพูเข้าตา" เหนือฟ้าหรี่ตามองพยายามเดินตรงมาหาสามี"อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวพี่ล้างให้"ภาคีจูงมือเหนือฟ้าไปนอนแล้วบังคับให้เธอแหงนศีรษะพาดขอบอ่างช่วงเวลาที่เขากำลังละเมียดละไมกับการล้างคราบยาสระผม จึงเริ่มพูดบางสิ่งที่เหนือฟ้าหลงลืมมานาน"เหนือจำได้ไหมที่เราบอกว่ากลับจากจีนแล้วจะไปขุดไทม์แคปซูลขึ้นมา แล้วพวกเราก็ลืมสนิท""จริงด้วยค่ะ เหนือลืมไปแล้วนะเนี่ย งั้นพรุ่งนี้เราพาลูก ๆ ไปขุดกันดีไหมคะ""พี่วานให้เตียวไปขุดมาให้แล้ว" เขาบอกแล้วหยิบผ้าขนหนูมาซับเส้นผมที่เริ่มยาวจนถึงกลางหลัง"จริงเหรอคะ" เหนือฟ้ารีบร้อนดันตัวเองขึ้นจากอ่างก้าวขาออกแล้วเตรียมคว้าผ้าขนหนูมาพันตัว เดินออกจากห้องน้ำ ทว่าภายในห้องนอนกลับเต็มด้วยดอกกุหลาบสีแดง และเทียนไฟฟ้าที่ส่องไสว"เนื่องในโอกาสพิเศ
เสร็จสิ้นงานทำบุญของไร่ภาคีจึงสั่งให้ลูกน้องทุกคนตรวจสอบบริเวณพื้นที่สวนส้มซ่ายี่สิบไล่ไปจนถึงบริเวณแปลงปลูกอ้อยไข่ปลาอีกจำนวนสามสิบไร่วันนี้เหนือฟ้าจึงมาให้กำลังใจสามีกับคนงานโดยการพาลูก ๆ มาปิ๊กนิคนอกสถานที่และมองดูอยู่ห่าง ๆ ใต้เต้นท์ผ้าใบฟลายชีทที่ปักขึงกับพื้นดินรวมทั้งยังมีของกินมากมายที่เดือนเพ็ญ อินเหลาช่วยกันหอบหิ้วมาจากโรงครัวประจำไร่เพื่อเลี้ยงคนงานระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบ"นี่กืออะหยังจ้าว" น่านฟ้านั่งยอง ๆ มองดูแม่กำลังย่างอ้อยไข่ปลาบนเตาถ่าน""อ้อยไข่ หรืออ้อยไข่ปลาครับ อ่ะ เดี๋ยวแม่ให้น่านชิมนะ" เหนือฟ้าคีบอ้อยกลิ่นหอมย่างเนยลักษณะคล้ายไข่ปลาขึ้นมาจากเตาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ มีน้ำจิ้มให้เลือกสามอย่าง คือ น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มบาร์บีคิว และน้ำจิ้มแจ่ว"กอบกุนจ้าว" น่านฟ้าใช้นิ้วหยิบอ้อยไข่ชิ้มพอดีคำเปล่าพ่นความร้อนเล็กน้อยแล้วจุ่มลงไปในถ้วยน้ำจิ้มบาร์บีคิวแล้วโยนใส่ปาก"เป็นไงชอบไหมครับ" เหนือฟ้าลูบหัวลูกชายคนเล็ก"ฮักเลย กิ่นโหมกะหนาด น่านจ้วยเน้อหนุนเหนือ" เด็กชายตัดสินใจหยิบเก้าอี้มานั่งดูแม่ย่างอ้อยไข่ เพื่อรอกินรอบต่อไปส่วนนิ่มฟ้ากำลังช่วยพี่ชายย่างหมูปิ้ง โดยมีอินเหล
วันที่สามของการกลับมาอยู่ที่ไร่พิทักษ์มหิงสาตามเดิม เหนือฟ้าตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าแต่กลับมีคนไวกว่า บุคคลที่ว่าก็คือภาคี บะแต๋ง สองคนพ่อลูกที่กำลังช่วยกันเตรียมมื้อเช้าอย่างพิถีพิถันเหนือฟ้ายิ้มกริ่มประทับใจพ่อบ้านกับแก๊งลูกขนุนของตนเอง คุณแม่สายเที่ยวจึงได้โอกาสย่องเบาออกไปจากบ้านพร้อมกับลูกชุบ คุณแม่หมาคู่ขาของเจ้านาย แต่ทว่ากลับมีมือเล็ก ๆ ยื่นมาเกาะข้อเท้ายื้อยุดเอาไว้สาวอวบสะดุ้งเฮือกค่อย ๆ ก้มดูผลปรากฏว่าเป็นลูกแฝดของตนนั่นเอง"หมู่เหาไปโตยเน้อ" นิ่มฟ้าพูดกระซิบ น่านฟ้ายิ้มกว้างช่วยพี่สาวอ้อนวอนแม่"เงียบ ๆ นะจ๊ะ"สามคนแม่ลูกและหมาอีกหนึ่งตัวขับซาเล้งตรงไปที่ไร่ลิ้นจี่ ขับผ่านโรงวนิลาที่เหล่าคนงามกำลังเดินไปมากวักไกว่รอบ ๆ โรงเรือนตั้งแต่เช้าตรู่"หวัดดีครับคุณนาย คุณแฝดตื่นเช้าจังเลยค่า" เสียงคนงานในไร่ตะโกนทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส"ซาหวัดดีจ้าว ไผจานอนคุ่มคาลุ่มอยู่ละจ้าว" นิ่มฟ้าตะโกนตอบกลับไป"คุ่มคาลุ่มเหรอจ๊ะ ใช่กุ้มกาลุม ที่แปลว่านอนคลุมโปงหรือเปล่า" คุณแม่ทวนถามเพื่อความแน่ใจว่าเธอกับลูกเข้าใจตรงกันุ"แม่นแล้วอี่แม่" สาวน้อยมัดแกะสองข้างพยักหน้า"แล้วหมู่เหาจาไปตี้ได ปายเข๋
การใช้ชีวิตอยู่ที่แม่ฮ่องสอนดำเนินมาเกือบสามปีเต็ม น่านฟ้ากับนิ่มฟ้าก็เริ่มคุยจ้อและเดินเตาะแตะไปมาทั่วไร่ชา ด้วยพัฒนาการอันแสนรวดเร็วทำให้แฝดคู่แสบสามารถคุยได้คล่องแคล่ว หยิบจับ ชี้สิ่งของได้ถูกต้อง แม้จะพูดไม่ชัดและไม่เป็นภาษาเท่าไหร่นัก"ปาขี้ หาหนุนกันเต๊อะ" น่านฟ้าจะไปหาแม่ที่กำลังรับนักท่องเที่ยวจีนอยู่กลางไร่ แม้อากาศบนดอยนี้จะเย็นแต่ช่วงเที่ยงวันกลับมีแดดจ้า ภาคีจึงไม่อยากให้ลูกไปเล่นซน"เรียกป้อเฉย ๆ ได้ก่อ ป้อไม่อยากเป็นป้อขี้เลยจ้าว" ภาคีอุ้มลูกชายตัวสูงเท่าหัวเข่าใส่คอกกั้น"ป้อบ่าใช่ปาขี้ แล้วป้อกืออายัย" นิ่มฟ้ากำลังนั่งเล่นบล็อกไม้ในคอก เอ่ยปากถามพ่ออย่างชาญฉลาด"ภาคี ภาคีครับลูก เฮ้อ...เอาเถอะอยากเรียกอะไรก็เรียกไป" ภาคีต้องทำหน้าที่พ่อนมเลี้ยงลูก เพราะทั้งสัปดาห์นี้ทัวร์จีนเข้าไม่หยุด นาน ๆ จะมีกรุ๊ปทัวร์ญี่ปุ่นหลงมาสักสองสามคณะ แต่ก็นานทีปีหนทำให้หน้าที่เลี้ยงลูกตกเป็นของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โชคดีหน่อยที่ช่วงปิดเทอมบะแต๋งจะแวะมาอยู่ที่แม่ฮ่องสอนเพื่อแบ่งเบาภาระช่วยพ่อกับแม่เลี้ยงน้อง"ตายแล้ว ๆ คุณคีคะอีนางชมออนมันมาเกาะแกะเซ้าซี้คุณนายค่ะ" จู่ ๆ ผู้จัดการดู
บะแต๋งเดินไปเดินมารอพ่อที่เข้าไปในห้องผ่าคลอดกับแม่ ในมือมีตุ๊กตาหุยหุยมาสคอตควายเผือกสีชมพูสองตัว เพื่อรอมอบให้น้องที่กำลังจะลืมตาดูโลก"แต๋งครับมานั่งรอกับย่าก่อนเถอะลูก ย่าซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ชอบมาฝากด้วยนะ" เจ๊ต่ายกุมไหล่เล็กของหลานชายที่กำลังจดจ่อรอคอยน้องกับพ่อแม่โดยไม่ละสายตา"แต๋งกินไม่ลงจ้าว แต๋งเป็นห่วงอี่แม่กับน้อง" บะแต๋งกอดตุ๊กตาควายสองตัวแน่น หัวใจเต้นตึกตัก อยากพบหน้าน้องใจแทบขาด"งั้นป้ออุ้ยกิ๋นเน้อ" หม่อมเจ้าภูวสินอาสากินแทนหลาน บะแต๋งพยักหน้ารับแล้วหันกลับไปมองบานประตูห้องคลอดดังเดิมกี่นาที หรือกี่ชั่วโมงผ่านไปแล้วไม่รู้ ตอนนี้บะแต๋งเริ่มหิวข้าวจนตาลายแต่วินาทีที่กำลังจะไปขอหมูปิ้งจากย่ามากิน ประตูห้องคลอดก็เปิดออก พ่อเดินนำออกมาก่อนตามด้วยเตียงของแม่"ป้อ อี่แม่ เป็นอะหยังบ้างจ้าว โอเคก่อ"บะแต๋งปรี่เข้าไปเกาะขาพ่อที่น้ำตาท่วมหน้า ภาคีคุกเข่าลง"โอเคจ้าว น้องอ้วนท้วนสมบูรณ์ลูก ปะเราไปเจอน้องกันดีกว่า"ครอบครัวกฤตกล้าธนาดรนั่งรอทารกน้อยที่นางพยาบาลกำลังเข็นมาส่งให้ที่ห้องพักฟื้น "แต๋งมาหาแม่สิครับ"เหนือฟ้ากวักมือเรียกลูกชายที่เริ่มกินนั่นกินนี่ได้เพราะสบายใจที
ภายในห้องพักพิเศษแอร์เย็นเฉียบ รอบห้องมีทั้งกระเช้าดอกไม้ ตะกร้าผลไม้และของบำรุงสุขภาพของเหนือฟ้าที่แวะเวียนมาเยี่ยม เนื่องจากคุณแม่ลูกแฝดได้รับการวินิจฉัยว่าอาจเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ เพราะตลอดแปดเดือนที่ผ่านมาหญิงสาวยังคงแพ้ท้องหนัก แม้จะกินได้บ้างแต่ก็กินได้น้อยภาคีเป็นห่วงลูกกับเมียในท้องจึงตัดสินใจให้เหนือฟ้านอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจนกว่าจะคลอดก๊อก ๆด้านนอกประตูห้องมีสองสามเงากำลังยืนตะคุ่ม ๆ คนตัวสูงที่กำลังนั่งเช็คออเดอร์ผลไม้อบแห้งระหว่าเฝ้าเหนือฟ้ารีบวางแล๊ปท็อบลงข้างโซฟา แล้วเดินออกไปรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนหลังบานประตูห้องผู้ป่วย มีใบหน้าเล็กยื่นทำตาแป๋วส่งให้ พร้อมกับบะแต๋ง เตียวหุยและเปาะเปี๊ยะที่แวะมาส่งอาหารให้คนเฝ้าไข้กับคนท้องรับประทาน"ซาหวัดดีจ้าวยุงคี" ปังเนย วัยห้าขวบมัดผมทรงหางม้ายกมือยกไม้สวัสดี"สวัสดีครับปังเนยหลานลุง" ภาคีโค้งตัวลงอุ้มปังเนยขึ้นมาแล้วฟัดแก้มหลานสองสามที"ป้อ แต๋งรู้แล้วนะว่าอี่แม่ไม่สบาย แต๋งจะมาอยู่ดูแลด้วย" บะแต๋งโผเข้ามาจับข้อมือพ่อ ภาคีเหลือบตามองลูกชายของตนอย่างชั่งใจ เพราะเขาไม่อยากให้ลูกรู้สึกหดหู่ใจเมื่อต้องเห็นว่าแม่มีอาการยังไง"ใ
บะแต๋งเปิดเทอมสองจึงกลับไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาลเวหะชลการสาขาในกรุงเทพใกล้กับร้านปลาเผาพุงพุ้ย และย้ายไปนอนที่บ้านเตียวหุยเป็นหลัก กลายเป็นลูกอีกคนของน้องชายไปเรียบร้อยที่สำคัญที่บะแต๋งไม่ค่อยอยากแยกจากอา เพราะตัวติดกับปังเนย ลูกสาวคนโตของเตียวหุยที่กำลังอยู่ในวัยหัดจ้อและก็แก่นแก้วเป็นที่สุดอีกอย่างช่วงนี้เหนือฟ้าเพิ่งท้องลูกแฝดได้เพียงสี่เดือน ภาคีจึงอยากให้เตียวหุยช่วยดูแลลูกชายไปก่อนจนกว่าภรรยาจะคลอดเพราะถ้าบะแต๋งอยู่บ้านก็คงจะตามวอแวแม่ และหาเรื่องชวนกันไปซุกซนยิ่งท้องแฝดรอบนี้ค่อนข้างอ่อนไหว จะเดินเหินอะไรก็ลำบาก จะกินจะอยู่ก็ต้องระมัดระวังให้มาก"แหวะ!" ใบหน้ากลมปุ๊กก้มงุดลงไปในชักโครก ภาคีวิ่งเข้าไปลูบหลัง พร้อมแกว่งยาดมให้เมียที่มีอาการแพ้ท้องหนัก"ไหวไหมเหนือ หมอบอกว่าถ้าไม่ไหวให้ไปนอนโรงพยาบาล พี่จ่ายไหวเหนือไม่ต้องเป็นห่วง""เหนือเกรงใจค่ะ ยังไงขอคิดดูก่อนนะคะ แต่ตอนนี้เหนืออยากเยอะแยะไปหมดเลย" เหนือฟ้าค่อย ๆ ลุกขึ้นโดยมีภาคีช่วยพยุง"อยากอะไรมั่งครับ พี่จะไปหามาให้" พ่อเลี้ยงหนุ่มรปะคองภรรยามายังเก้าอี้แบบปรับนอนได้ ภายในห้องนั่งเล่นนี้เขาได้เตรียมการทุกอย่างพร้อม ทั้