*มีฉากหดหู่โปรดทำใจดี ๆ"
เมื่อคืนภาคีกล่อมเหนือฟ้าหลับ เขาทำเพียงตบ ๆ หลังเธอราวกับปลอบใจเด็กหญิงที่ยังไม่โต ถึงในใจอยากจะขึ้นไปนอนกอดเธอไว้ แต่กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้
เขากลัวว่าจะทิ้งเธอไม่ลง เวลาสามปีที่ญี่ปุ่นสำหรับเขามันช่างรู้สึกยาวนานเหมือนกับสามสิบปี แค่นึกถึงตอนที่ไม่ได้เจอเหนือฟ้า ไม่ได้จับมือ ไม่ได้จูบ เขาก็รู้สึกทรมานใจไปหมด
สามวันที่เหลือก่อนจะถึงวันเดินทางภาคียังคงไปรับไปส่งเหนือฟ้าและดูแลจนถึงวินาทีสุดท้าย หลังเลิกเรียนเขาพาเธอไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ดูหนัง และโยนโบว์ลิ่งด้วยกัน บ้างก็พาไปเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนแวะกินเมนูเด็ดร้านดัง
เรียกได้ว่าทำครบกระบวนการของคนที่เป็นแฟนกันอย่างดีที่สุด
"เหนือ พี่ให้ครับ" ภาคีไปเจอตุ๊กตาควายจากร้านขายตุ๊กตาแห่งหนึ่งที่ตลาด เขาจึงแวะซื้อมาฝากเหนือฟ้า
"ตัวเท่าฝ่ามือเอง ราคาเท่าไหร่คะ" เหนือฟ้ากอดตุ๊กตาควายดำตัวเล็กแล้วก้มลงฟัดมันอย่างมันเขี้ยว
"เจ็ดสิบเก้าบาทครับ"
"แพงเหมือนกันนะคะ เหนือนึกว่าตัวละห้าสิบบาทซะอีก"
"ก็มันเหลือตัวเดียวในร้านแล้ว พี่ก็เลยซื้อมา เหนือเก็บไว้เป็นตัวแทนพี่นะ" ภาคีฉีกยิ้มกว้างลูบหัวแฟนสาวอย่างอ่อนโยน
"เอาควายเป็นตัวแทนพี่คีเนี่ยนะ ตลกจัง" หญิงสาวมุ่นคิ้วบีบตุ๊กตาควายจนบู้บี้
"ก็พี่รักควายมาก รักเหมือนลูกตัวเองเลยล่ะ ใครจะหาว่าพี่เป็นควายพี่ก็ไม่โกรธหรอก ขนาดพ่อพี่ยังชอบให้แม่เรียกว่าไอ้ควาย" ภาคีนึกเหตุการณ์ตอนที่พ่อกับแม่ทะเลาะแล้วทึ้งผมกัน แม่มักจะเรียกพ่อว่าไอ้ควายภูประจำ
"พ่อแม่พี่คีดูขิงก็ราข่าก็แรงมาก น่ารัก"
"ไม้เบื่อไม้เมาเลยล่ะ"
ทั้งสองนั่งคุยด้วยกันหน้าทีวีอย่างกระหนุงกระหนิง พอฟ้าเริ่มมืดภาคีจึงทยอยเก็บข้าวของลงกระเป๋าใบโต เพราะกลางดึกคืนวันจันทร์เขาต้องบินไปญี่ปุ่น ขณะที่เหนือฟ้าที่บอกว่าขอตัวเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ความจริงแล้วเธอไปนอนร้องไห้ หลังร้องไห้เสร็จก็แอบมาชะโงกดูภาคีนั่งเก็บสัมภาระเงียบ ๆ โดยไม่ให้เขารู้
เช้าวันจันทร์ภาคีเลือกที่จะไปส่งเหนือฟ้าไปมหาลัยเป็นครั้งสุดท้าย เขาและเธอต่างยิ้มให้กันแต่กลับไม่มีบทสนทนาใดเล็ดลอดออกมาจากปากอีกฝ่าย
"พี่คีคะ วันนี้เหนือต้องพรีเซ้นต์วิชาเรียนตอนเย็น เพราะอาจารย์ป่วยเลยขอเลื่อนมาวันนี้ เพราะอาทิตย์หน้าจะต้องเริ่มสอบเก็บคะแนนปลายภาคแล้ว"
นิสิตสาวบอกแล้วก้าวขาลงจากรถ ภาคีรีบยึดข้อมือเธอ "แล้วเหนือจะไปส่งพี่ที่สนามบินใช่ไหม"
"ไปค่ะ เหนือไปแน่นอน แต่พี่คีไปรอที่สนามบินก่อนเลย เผื่อเหนือไปสาย" เหนือฟ้าขยับตัวกลับเข้ามานั่งยกมือกอบกุมใบหน้าเศร้าโศกของภาคี ชายหนุ่มพยักหน้ารับดวงตาแดงก่ำคล้ายกับจะร้องไห้
ล่วงเข้าห้าโมงเย็นเหนือฟ้ากลับกลุ่มเพื่อนที่เพิ่งพรีเซ็นต์งานกับอาจารย์ประจำวิชาเสร็จต่างพากันแยกย้ายกลับบ้าน นิสิตสาวรีบตรงกลับไปที่คอนโดด้วยความเร่งรีบทว่าระหว่างเดินทางกลับด้วยรถแท็กซี่ กอแก้วกลับโทรเข้ามา
"ฮัลโหลว่าไงยัยแก้ว"
"เหนือช่วยแก้วด้วย....กรี๊ดด"
เผียะ! เผียะ!
"แก้ว กอแก้ว เกิดอะไรขึ้น"
"มึงคิดจะเลิกกับกูงั้นเหรอ ฝันไปเหอะ"
เสียงของเวย์แฟนหนุ่มของกอแก้วดังแล่บเข้ามาในโทรศัพท์ ทำให้เหนือฟ้าตัดสินใจฟังเงียบ ๆ
"คุณลุงคะ หนูขอเปลี่ยนเส้นทางค่ะ"
เหนือฟ้าตัดสินใจจะไปช่วยกอแก้วที่บ้าน ตอนนี้เธอไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น รู้เพียงแต่ว่าเธอต้องรีบไปช่วยเพื่อน ความเป็นห่วงเพื่อนทำให้เหนือฟ้าลืมสนิทว่าภาคีกำลังรออยู่ที่คอนโด
ชายหนุ่มเดินไปเดินมามองนาฬิกาบนฝาผนังครั้งละหลายสิบรอบ แต่เหนือฟ้าก็ยังเดินทางมาไม่ถึงคอนโด เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปสนามบินคนเดียว
แต่เขาก็ยังมีหวังเล็ก ๆ ว่าเหนือฟ้าจะมาส่งทัน ภาคีจึงตั้งใจจะรอจนถึงวินาทีสุดท้าย
ฟากเดียวกันเหนือฟ้าที่รีบมาช่วยกอแก้ว หญิงสาวเดินทางถึงบ้านที่เป็นทาวน์เฮาส์ตั้งอยู่สุดซอย เพื่อความไม่ประมาทเหนือฟ้าจัดการโทรแจ้งตำรวจล่วงหน้า แต่รอแล้วรอเล่าตำรวจก็ยังไม่มา กระทั่งกอแก้วโทรเข้ามา
"ว่าไงแก้ว ปลอดภัยดีใช่ไหม"
"แก้วโอเค แต่ไอ้เวย์มันขังแก้วไว้ในห้องนอนชั้นล่าง เหนือลองดูกุญแจแถวกระถางต้นไม้หน้าห้องหน่อยนะ แก้วซุกแอบไว้ข้างใต้ แต่เหนือระวังตัวด้วยเผื่อไอ้ผีเปรตนั่นกลับมา"
"ได้จ้ะ แก้วรอหน่อยนะเหนือแจ้งตำรวจแล้ว"
เหนือฟ้าย่องเข้าไปในห้องนอนของกอแก้ว แล้วยกกระถางต้นไม้ฟอกอากาศออกรียหยิบกุญแจไขช่วยกอแก้วออกมา
"ไปเร็วแก้ว" เหนือฟ้าจับมือเพื่อนออกมา แต่โชคร้ายเวย์เดินกลับเข้ามาพร้อมขวดเบียร์ในมือ สีหน้าของอีกฝ่ายเห่อแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
"พวงมึงคิดจะไปไหนกันวะ นังแก้วมึงคิดจะหนีเหรอ"
กอแก้วรีบหยิบด้ามไม้กวาดขึ้นมาใช้ป้องกันตัว แต่เวย์กลับพุ่งเข้ามาแล้วส่งลูกถีบเตะไปที่กลางท้องของกอแก้ว
"โอ้ย...ไอ้ชั่ว" กอแก้วจุกน้ำตาไหล
เหนือฟ้าโมโหจึงหยิบกระถางดินเผาขนาดเล็กทุ่มใส่หัวของเวย์
"ไปตายซะไอ้ชาติหมา!"
"โอ้ยยยย นังบ้า" เวย์สบถจับหัวที่มีเลือดไหลเป็นทาง มันช้อนตาขึ้นมองเหนือฟ้าด้วยความโกรธแล้วสวนหมัดเสยใส่คาง สาวอวบล้มไปกองกับพื้น ริมฝีปากแตกเลือดสีแดงสดไหลล้นริมขอบปาก จากนั้นเวย์จึงพุ่งเข้ามาตบและชกเธอด้วยหมัดอีกสองข้างด้วยความโกรธ แล้วกระทืบลงมาที่ขาเธอซ้ำ ๆ
ปั้ก! ผลัวะ! ปั้ก!
"กรี๊ดดดดด เหนือ ไอ้เวย์มึงหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ อย่าทำเหนือนะขอร้อง"
กอแก้วพยายามคลานไปคว้าขวดเบียร์แล้วกลั้นใจใช้แรงทั้งหมดฟาดไปที่หัวของเวย์
แต่กลับพลาดฟาดลงไปที่พื้น จนขวดแตกเป็นเสี่ยง ๆ แต่กอแก้วไม่ยอมแพ้รีบหยิบเศษแก้วที่แตกแล้วพุ่งเข้าใส่ตัวเวย์
ฉึก!
"อ้ากก"เศษแก้วทะลุเข้าเอวของเวย์ ชายตัวสูงใหญ่หน้าซีด รีบดึงเศษแก้วออกจนเลือดไหลทะลักจำนวนมาก
"กูจะฆ่ามึงอีแก้ว แล้วก็จะฆ่านังนั่นด้วย" เวย์สวนหมัดใส่กอแก้วอีกครั้ง แล้วขึ้นคร่อมคิดจะบีบคอหญิงสาวให้ขาดใจตาย เหนือฟ้าพยายามกัดฟันลุกขึ้น แม้ดวงตาจะปิดข้างหนึ่ง ขาอีกข้างก็คล้ายว่าจะหัก แต่เธอยังเหลือเรี่ยวแรงอยู่ หญิงสาวเห็นขวดเบียร์เปล่า ๆ อีกสองสามขวดที่วางระเกะระกะอยู่ข้างถังขยะ จึงพยายามลากสังขารอันสะบักสะบอมของตนไปหยิบแล้วเดินเข้าไปทางด้านหลังเวย์ แล้วจัดการฟาดลงที่ท้ายทอยของมันให้แรงที่สุด
เพล้ง!!
ขวดเบียร์แตกกระจายกลายเป็นเสี้ยว เวย์ช็อกตาค้างแล้วเอี้ยวตัวกลับมาทำตาขวางใส่คนฟาด "มึงตาย!"
เวย์คว้าเศษแก้วอันใหญ่ฟันลงไปที่แขนของเหนือฟ้า โชคดีที่เธอยังพลิกตัวหลบทันทำไม่อย่างนั้นคงพลาดโดนหน้าจนเสียโฉม
"นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หยุดเดี๋ยวนี้" ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนก็มาถึง พวกเขาเข้าชาร์ตเวน์แล้วจับใส่กุญแจมือ และรีบโทรแจ้งโรงพยาบาลทันที
คนเจ็บสองคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่กอแก้วไม่สาหัสเท่าเหนือฟ้า เธอจึงกดโทรหาราตรี พี่สาวของเพื่อนเพื่อแจ้งข่าวร้าย
ราตรีมาถึงโรงพยาบาลในระยะเวลาอันรวดเร็ว แล้วพุ่งเข้าไปหากอแก้วที่นอนอยู่บนเตียงในห้องฉุกเฉินในสภาพใบหน้ายับเยิน
"เหนือเป็นไงบ้างแก้ว แล้วเราโอเคไหม"
"แก้วขอโทษค่ะที่เป็นต้นเหตุ" กอแก้วฟูมฟาย
"ขอโทษนะคะคุณใช่ญาติคุณเหนือฟ้า เวหะชลการไหม" พยาบาลสาวเดินเข้ามาทักราตรี
"ใช่ค่ะ"
"พอดีคนไข้อยากคุยด้วยค่ะ รีบคุยหน่อยนะคะ เพราะเดี๋ยวต้องพาคนไข้ไปแสกนร่างกายดูว่ามีอวัยวะภายในจุดไหนได้รับความเสียหายบ้าง"
"รับทราบค่ะ" ราตรีรีบเดินตามนางพยาบาลเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกฝั่งที่ปิดม่านกั้นไว้ เมื่อราตรีเห็นสภาพน้องเธอกับเข้าทรุด เพราะดวงตาข้างหนึ่งบวมช้ำน่ากลัว ปากเจ่อบวม คางแตก ช่วงแขนมีรอยบาดลึกเป็นทางยาว ขาก็ถูกดามไว้ ใบหน้าฟกช้ำดำเขียวจนไม่เหลือเค้าโครงน้องสาวผู้น่ารักของเธอเลยสักนิด ราตรีน้ำตาไหลจับมือน้องที่พยายามขยับปากพูด
"พ....พี่ไนท์เขียนจดหมายให้เหนือหน่อย แล้วเอาไปให้พี่คี พีี่....พี่คีจะไปญี่ปุ่น คืนนี้ค่ะ"
"เขียนว่าอะไรจ๊ะ"
"เลิก เราเลิกกันเถอะ"
"เหนือคิดจะปิดบังเรื่องนี้กับคีใช่ไหม บอกคีเถอะนี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยนะ"
"ม....ไม่ได้ค่ะ ถ้าเขารู้ เขา.,.เขาจะไม่ไป เขาจะไม่ทิ้งเหนือ ขอ ขอร้องนะ ช่วยที" เหนือฟ้าพูดทั้งน้ำตา
"ตกลง พี่จะทำให้"
ราตรีรีบจัดการตามที่เหนือฟ้าบอก แล้วเขียนจดหมายบอกเลิกตามที่น้องสาวสั่ง หญิงสาวนั่งแอร์พอร์ตลิงค์ไปถึงสนามบิน โชคดีที่มาถึงก่อนหน้าที่ภาคีจะบินในอีกสี่สิบนาที
"คี พี่เองนะ คีอยู่ไหน"
"พี่ไนท์เหรอครับ ผมอยู่หน้าร้านกาแฟครับ"
ราตรีเดินหาภาคีจนพบ แล้วรีบส่งจดหมายให้อีกฝ่าย "อะไรครับ"
. "ของเหนือจ้ะ โทษทีนะเหนือไม่สะดวกมา เลยฝากพี่มาส่งคีแทน ยังไงขอให้โชคดี ว่าง ๆ ก็แวะกลับมาไทยบ้าง พี่ขอตัวก่อน"
"เฮ้ย...พี่ไนท์ ผมจะฝากบอกเหนือว่า....." ภาคีไม่เข้าใจอาการลุกลนของราตรี บางทีเธอคงจะมีธุระด่วนจึงมาไวไปไว
ภาคีอมยิ้มแล้วเปิดซองจดหมายออก พลันนั้นรอยยิ้มกลับหุบลง กรามแกร่งขบแน่น "เราเลิกกันเถอะพี่คี เหนือไม่เหมาะกับพี่คีหรอกค่ะ"
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเหนือฟ้าถึงตัดสินใจบอกเลิกโดยไม่มีต้นสายปลายเหตุ ชายหนุ่มเดินหมดแรงทรุดตัวลงกับเก้าอี้ หยดน้ำตาของเขาร่วงเผาะ ๆ ราวกับสายฝนโปรยปราย
"ผู้หญิงใจดำ!" เขาพูดพึมพำแล้วขยำจดหมายทิ้งลงถังขยะ ยกหลังมือปาดน้ำตา แล้วคิดว่าจะไม่หันหลังกลับมาอีกจนกว่าจะครบสามปี หรือจนกว่าเขาจะลืมเธอ
เหนือฟ้านอนพักรักษาตัวเกือบหนึ่งเดือนเต็ม โชคดีที่อวัยวะภายในไม่ฉีกขาดหรือได้รับบาดเจ็บรุนแรง แต่ที่หนักหนาก็คือบริเวณดวงตา และใบหน้าทั้งหมดที่ฟกช้ำและปูดบวม รวมทั้งบาดแผลจากเศษแก้วที่ต้นแขนซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นในอนาคต กับช่วงขาที่โดนเตะจนหักทำให้ต้องใส่เฝือกดามนานหลายเดือนยิ่งไปกว่านั้นราตรีเป็นบุคคลเดียวที่รู้ความลับนี้ เพราะเหนือฟ้าให้พี่สาวปกปิดเรื่องเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายจากพ่อแม่และทุกคน เธอจึงต้องมาอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ของพี่สาว และอยู่ในความดูแลของพี่ตลอดเวลาจนกว่าจะไม่เหลือร่องรอยของบาดแผลต่าง ๆ ให้เห็น"ดีนะที่พี่แต่งเรื่องว่าเหนือเสียใจเรื่องภาคีก็เลยขอมาอยู่กับพี่ที่บ้านเพื่อคลายเหงา โชคดีอีกเรื่องก็คือ พ่อกับแม่ของเราดันไปล่องเรือรอบโลกหลายเดือน งานที่โรงเรียนจึงตกมาอยู่ที่พี่คนเดียวเลย นึกจะไปสวีตหวานกันก็ไปโดยไม่สนใจภาระหน้าที่กันเลยตาทัพกับยายนับเนี่ย"ราตรีบ่นขณะเซ็นเอกสารกองท่วมสูงพลางเหล่สายตามองน้องสาวที่กำลังนั่งทำงานย้อนหลังหลายชิ้นส่งอาจารย์ที่มหาลัยเนื่องจากต้องหยุดเพื่อรักษาตัว"แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมพ่อกับแม่ถึงเลือกไปล่องเรือ คงไม่ใช่แผนพี่ไนท์ใช่ไหม" เหนือ
สามปีผ่านไปภายในงานเกษตรแฟร์เอ็กซ์โป 2026 ออกาไนซ์สาวร่างอวบผิวขากำลังวิ่งประสานงานตามบูธต่าง ๆ ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย"คุณโรจน์คะ ประมาณช่วงสิบโมงของวันพรุ่งนี้เราจะเริ่มไลฟ์สดเริ่มที่บูธคุณโรจน์ก่อนนะคะ ยังไงเตรียมข้อมูลกับผลิตภัณฑ์ที่จะโปรโมตไว้ล่วงหน้าได้เลยค่ะ อาจจะมีทีมงานมาบรีฟให้เบื้องต้นก่อนสักหนึ่งชั่วโมงค่ะ""โอเคครับ ขอบคุณมากครับคุณเหนือ""พี่เหนือ ๆ ทางโน้นมีเรื่องกัน เหมือนว่าจะเจ้าหน้าที่ของเราจะติดป้ายผิด ทำให้บูธของผู้ประกอบการสลับกัน พี่เหนือไปเจรจาหน่อย เพราะอีกเจ้าเขาไม่ยอมย้าย""ได้เดี๋ยวพี่ไปคุยเอง" หัวหน้าทีมดูแลบูธอย่างเหนือฟ้ารีบสับขาตรงไปจุดเกิดเหตุ แต่เพราะช่วงที่ผู้ประกอบการแต่ละบูธกำลังเดินพลุกพล่านทำให้หญิงสาวเผลอไปชนเข้ากับใครบางคนปั้ก!"โอ้ย" เหนือฟ้ากุมแขนที่โดนตัวของอีกฝ่ายกระแทก"เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ" เสียงเข้มที่คุ้นเคยทำให้เจ้าหน้าที่จัดงานที่กำลังทำหน้าบิดเบ้ต้องรีบตวัดหน้าไปมองวินาทีที่ดวงตาสบประสานกับชายใต้แว่นสีดำสนิท หัวใจของเธอก็แทบจะหล่นวูบไปกองอยู่ที่พื้น ดวงตากลมสั่นระริกเมื่อเขาทำท่าทางเคร่งขรึมเมินเฉยเหมือนไม่รู้จักกัน"พี่คี ไม่ได้เจอ
เหนือฟ้ารอให้คั่วกลิ้งเอาคีย์การ์ดห้องพักขึ้นมาให้แล้วตัดสินใจโทรไปสั่งอาหารเดลิเวรี่แทนที่จะลงไปหาข้าวที่ร้านสะดวกซื้อใต้โรงแรม หญิงสาวกดสั่งซูชิร้านโปรดที่ขายจนถึงห้าทุ่ม แล้วมานั่งกินคนเดียวที่บันไดหนีไฟ ขณะที่ภาคีเปิดประตูห้องพักออกมาเพื่อลงไปเช็กบูธที่ลูกน้องช่วยกันจัดว่าเป็นระเบียบดีหรือไม่พลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเจือยแจ้วดังมาจากทางบันไดหนีไฟ ซึ่งเสียงใส ๆ นี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปแอบฟัง"กินข้าวแล้วใช่ไหมเหนือ" ราตรีกรอกเสียงกลับมาผ่านทางโทรศัพท์"กินซูชิค่ะ""กินร้านนั้นมาสามปีแล้วนะ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนร้านมั่ง พี่เห็นจนจะเอียนแล้ว""ก็มันเป็นร้านโปรดพี่คีนี่นา"ภาคีตวัดมองแผ่นหลังที่อยู่ในชุดเสื้อฮู้ดตัวหนาทันควัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่บอกเลิกกลับพยายามจะพูดและนึกถึงเขาอยู่ตลอด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนตัดสายสัมพันธ์นั้นก่อนแท้ ๆ"บอกเลิกเขาแล้วยังไม่รู้จักมูฟออน แล้วนี่ฮ้อนจะตายไป ทำไปถึงใส่ชุดกันหนาวแขนยาวตลอด"เหนือฟ้ารีบตวัดหน้าไปดู แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยืนพิงประตูบันไดหนีไฟอยู่ "เหนือไม่ได้ตั้งใจบอกเลิกนะคะ เหนือมีเหตุผล ส่วนเรื่องการแต่งตัวเหนือแค่อยากเปลี่ยนสไตล์
คนตัวสูงเพียงแค่พูดขู่ แต่เหนือฟ้ากลับคว้าโทรศัพท์โทรหาพี่สาว "พี่ไนท์เหนือขอยืมห้าแสน"ภาคีถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเร่งฝีเท้าออกจากห้อง"เดี๋ยวพี่คี ไอ้ภาคี ไอ้คน..." เหนือฟ้าเดินตามไป แต่เขากลับปิดประตูกระแทกใส่หน้าเธออย่างแรง"เหนือจะเอาเงินตั้งมากมายไปทำอะไร" ราตรีกรอกเสียงกลับมาอย่างกังวล"เหนือจะซื้อพี่คี ซื้อกิน""ฮะ..บ้าเปล่าเนี่ย แล้วเจอคีที่ไหน ที่งานเอ็กซ์โปใช่ไหม""ใช่ค่ะ""เอางี้นะ พี่จะโอนเงินให้พรุ่งนี้ แต่เหนือต้องใจเย็นแล้วกลับไปนอนซะ ถ้ายังดื้ออีกพี่จะบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าสามปีก่อนเหนือเจออะไรมา""ก็ได้ค่ะ ตกลง"หลังจากวางสายจากน้องสาวราตรีที่หัวไว ไหวพริบเป็นเลิศก็คิดแผนการซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว "ยังไงคงต้องบอกความจริงแล้วล่ะ ก่อนที่น้องสาวฉันจะประสาทแดก"ราตรีกลอกตามองบน ไอ้เด็กสองคนนี้มันเป็นอะไรกันนักหนา นักธุรกิจสาวในชุดเสื้อยืดเอวลอยสวมกางเกงวอร์มผ้าร่มคว้ากระเป๋ากล่องเหล็กที่เก็บข้อมูลทุกอย่างแล้วโทรตามทนายพิมุกต์กลางดึก"คุณพิคะ ช่วยไนท์หน่อย ถ้าคุณพิไม่มาด้วยไนท์กลัวว่าภาคีจะไม่เชื่อ ดังนั้นไนท์รวบกวนคุณพิหน่อยนะคะ"ราตรีขับรถไปรับพิมุกต์ที่บ้านแล้วเหยียบมิด
ภาคีกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบแล้วซื้อถุงยางอนามัยพร้อมกับเครื่องดื่มมึนเมาสองสามกระป๋อง หลังจากคุยกับราตรีจบเขาก็รู้สึกเบลอไปหมด เขาไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าคนที่เขารักสุดหัวใจปิดบังเรื่องเลวร้ายกับเขามาถึงสามปีเต็มภายในห้องพักของเหนือฟ้าเปิดไฟสว่างโล่ง หญิงสาวเอาแต่จ้องโทรศัพท์เผื่อว่าพี่สาวจะตัดสินใจโอนเงินมาให้ภายในคืนนี้ ตอนนี้เธอร้อนรุ่มไม่ใช่ว่าต้องการทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวยัยปูเป้นั่นฉกพี่คีของเธอไปกิน แต่ดูจากการที่พวกเขาแตะเนื้อต้องตัวกัน ป่านนี้น่าจะกินกันไปหลายรอบแล้วด้วยซ้ำผิดกับเธอถึงยังคงเก็บเวอร์จิ้นไว้ให้หนุ่มเหนือคนนี้เพียงคนเดียว ตึ๋ง!เงินจำนวน 500,000 บาทโอนเข้าบัญชีคุณเรียบร้อย"กรี๊ดดดด เงินมาแล้วโว้ย จะได้กินผู้ชายแล้วไอ้เหนือ" หญิงสาวกระดี๊กระด๊าเหลือบดูนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาตีหนึ่งพอดี "กินกันตอนตีหนึ่ง จะท้องอืดไหมนะ"เหนือฟ้าลูบวนไปทั่วหน้าท้องย้วย ๆ ของตนเองก๊อก! ก๊อก!สาวอวบรีบวาดขาลงจากเตียง หาวสองสามที ใบหน้าอ่อนเพลียเขย่งส่องตาแมว พลันนั้นหนังตาที่หนักอึ้งกลับเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นในทันที คนระริกระรี้รีบเปิดประตูห้องออกไปแล้วยิ้มแฉ่งให้หนุ่มชาวไ
ทันทีที่แผ่นหลังของเหนือฟ้าแตะลงกับเตียงนอน จูบดุดันจึงได้ผละออก ภาคีถัดกายลงจากเตียงเกี่ยวปราการสุดท้ายออก เหนือฟ้ารีบสะบัดหน้าหนี ขณะที่เขาคลานกลับขึ้นมา แล้วใช้สองแขนคร่อมชิดอยู่กับหัวไหล่อวบ ริมฝีปากแดงฉานจรดลงมาบนผิวขาว ดวงตาหวานคมสะดุดเข้ากับรอยแผลเป็นนูนเล็ก ๆ ที่ต้นแขน กรามแกร่งบดข่มอารมณ์เดือดดาลที่กำลังปะทุอยู่ภายใน"ไปโดนอะไรมา" เขาอยากลองใจดูว่าเหนือฟ้าจะยอมสารภาพความจริงไหม"โดนกระจกบาดค่ะ" เธอยังคงกลบเกลื่อนไปเรื่อย"เหรอ" ภาคีลุกขึ้นแล้วนั่งขัดสมาธิ เขาหยิบมือของเหนือฟ้าแล้วก้มลงหอมซ้ำ ๆ เหมือนที่เคยชอบทำ "บอกว่าให้มานั่งนี่" เขาตบขาตัวเอง"ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวพี่คีหนัก" เหนือฟ้าหยัดตัวขึ้นเหลือบมองแก่นกายที่กำลังแข็งตัวกลางซอกขา"งั้นก็มาลองดูว่าจะหนักแค่ไหน หรือคุณลูกค้าอยากให้คนอื่นมานั่งบนตักผม" เขาขู่แล้วยักคิ้วหลิ่วตาใส่"ไม่เอา" สาวอวบไม่ยอม สุดท้ายจึงต้องกัดฟันสู้แล้วลุกไปหาเขาทั้งที่ยังมีผ้าห่มปิดกายอยู่"ไม่ชอบผ้าเกะกะลูกตา" ภาคีดึงผ้าออก เหนือเบิกตาโตเมื่อผ้าห่มปลิวไปอยู่ข้างเตียง"พี่คีเดี๋ยวเหอะ เหนือเป็นลูกค้านะ ต้องตามใจลูกค้าสิคะ ว้าย..." ข้อมือขาวถูกฉุดใ
เหนือฟ้าขนลุกขนพองไปทั้งตัวเมื่อเนินขานุ่มของตนเองถูกเขาถ่างออก หญิงสาวดันตัวขึ้นส่งมือไปปิดรอยแยกสีชมพูที่กำลังถูกภาคีเชยชม ดวงตากลมเอ่อล้นด้วยน้ำใส ชายหนุ่มรู้สึกผิดยิ่งคิดว่าเธอต้องไปเผชิญเรื่องโหดร้ายป่าเถื่อนแบบนี้ เขาก็ยิ่งแค้นจนอยากสับไอ้เวคินเป็นร้อย ๆ ชิ้น"เห็นใจ๋อ้ายเต๊อะคนดี"สาวพลัซไซซ์นึกถึงวันที่เธอให้พี่สาวเขียนจดหมายไปบอกเลิกเขาก็รู้สึกผิดอยู่ตลอดสามปีที่ผ่านมา ถ้าร่างกายนี้ตอบแทนเขาได้ เธอก็ยอม มือนุ่มยกออกไม่ถึงสิบวิ ชิวหาแดงก็ทะแยงลงมาที่ตัวตนของเธอ ริมฝีปากเล็กขบเม้นเป็นเส้นตรง เสียวซ่านจนมือสองข้างต้องยันกับพื้นเตียงเพื่อประคองร่างกายที่กำลังอ่อนปวกเปียกลงไปทุกที"อ๊ะ...อ๊า" เสียงหวานครางระงม ดังสะท้อนกึกก้องไปทั่วห้องพักในยามวิกาลลีลาการโบกสะบัดจากปลายลิ้นอุ่นหนาของภาคีละเลงลงมาที่กลีบดอกไม้สีชมพูสวยสดอย่างต่อเนื่อง พลางใช้นิ้วแหวกอ้านำทางเพื่อขบดูดเม็ดกระสันแวววาวดุดอัญมณีของเหนือฟ้า เสียงดื่มกลืนของเขาดังซู้ดซ้าดราวกับซดน้ำแกง"เต๋มปากเต๋มคำ" ภาคีผงกหัวขึ้นมอง ก้มลงดูดผิวที่เนินขาด้วยความลุ่มหลง แล้วจัดการดูดซับมวลน้ำป่าจากภายในกายที่ไหลทะลักท่วมออกมาราวเขื่อ
เช้าของงานเอ็กซ์โปวันแรกเหนือฟ้าต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าทั้งที่เธอเพิ่งนอนหลับพักไปได้แค่สองชั่วโมง เพราะเพิ่งเสียเวอร์จิ้นไปให้อดีตคนรัก สาวอวบเลือกสวมเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงยีนทรงบอยตามด้วยการสวมสูทเบลเซอร์สีดำทับ ถักเปียข้างแล้วผูกโบว์สีฟ้า ระหว่างที่กำลังเดินเข้ามาในฮอลล์จัดงานคั่วกลิ้งที่เดินจับไม้จับมือมากับแฟนสาวก็ปรี่เข้ามาทักทาย"พี่เหนือ กินกาแฟยังเนี่ย" ลูกน้องหนุ่มเห็นว่าหัวหน้าของตนดูอิดโรยไม่สดชื่น"ยังจ้ะ งั้นพี่ไปหากาแฟจิบก่อนนะ ดูแลประสานงานแทนพี่ด้วย" เหนือฟ้าใช้นิ้วถ่างตาตัวเองแล้วเดินขาปัดตุปัดตุเป๋ไปหาที่นั่งข้างนอกฮอลล์ขณะที่ภาคีกำลังจูงควายเผือกแม่บ่ะผางเข้ามาในงานพร้อมกับลูกควายเผือกตัวน้อยพร้อมกับลูกน้องสองสามคน เหนือฟ้าจึงได้แต่นั่งมองอย่างมีหวัง หวังลึก ๆ ว่าเขาจะใจอ่อนกับเธอ"น้องเหนือ น้องเหนือเปล่าครับ""คะ" เหนือฟ้าหันไปยังต้นเสียงด้านข้าง แล้วพบว่าคนที่ทักทายคือเจ้าของสวนอินทผลัมที่เคยมาจัดงานเมื่อปีก่อน"จำผมได้ไหม ผมศัจกรที่เคยมาจัดงานเกษตรแฟร์ปีก่อน""จำได้ค่ะ แล้วคุณกรสบายดีไหมคะ""สบายดีครับ แล้วน
ช่วงหัวค่ำเหนือฟ้านั่งเป่าผมอยู่บนเตียงนอนภาคีที่เพิ่งกลับมาจากตรวจความเรียบร้อยภายในงานลอยกระทงจึงโผเข้าสวมกอดจากด้านหลัง เนื้อตัวของเขาหอมกลิ่นหอมนุ่มผสมผสานกับกลิ่นความสดชื่นของผลไม้ เดาได้เลยว่านี่เป็นแป้งของนิ่มฟ้า เพราะถ้ากลิ่นของบะแต๋งกับน่านฟ้าจะเป็นกลิ่นนมน้ำผึ้ง"ไปอาบน้ำที่ไหนมาคะ แถมยังไปเอาแป้งของลูกมาใช้อีก" เหนือฟ้าถามแต่ไม่ได้หมุนตัวกลับไปหาคนด้านหลัง"อาบข้างล่างครับ พี่เห็นแป้งลูกตั้งอยู่ในห้องน้ำก็เลยโรยมาเต็มตัวเลย เผื่อจะปลุกอารมณ์เหนือได้บ้าง" เขาว่าแล้วถอดกางเกงผ้าฝ้ายของตัวเอง ถอดทุกอย่างจนเหลือเพียงผิวกายขาวเหลืองเกรียมแดด"ปลุกอารมณ์อะ...โอ้ว" ดวงตากลมลุกวาวเมื่อภาพสะท้อนในกระจกข้างเตียงโชว์เรือนร่างกำยำตั้งแต่หัวถึงกลางลำตัวที่ปูดบวม"พี่กะว่าจะเติมพลังให้ ถ้าเหนือได้พลังจากพี่ต้องชนะขาดลอยแน่นอน" เขาบอกแล้วทรุดตัวนั่งประกบอยู่ด้านหลัง กางขาออกกว้างแล้วขนาบช่วงสะโพกของเธอ"พี่คีหลงตัวเองเกินไปแล้ว" เจ้าของพวงแก้มขาวเอนหลังลงไปซบกับแผ่นอก ยินยอมพร้อมให้เติมด้วยความเต็มใจ"ใช่ พี่หลงตัวเองแล้วก็หลงเหนือด้วย" สิ้นคำหวานริมฝีปากหยักคมก็ระดมจูบไปตามลำคอ มือไม้เคล
ภาคีเห็นเหนือฟ้ายังไม่ลงมาเขาจึงบอกให้ลูกสาวขึ้นไปตามแม่ นิ่มฟ้าจึงชวนส้มปู๋ สุนัขโกลเด้นตัวโปรดของเธอขึ้นไปเป็นเพื่อน"โฮ่ง!" ส้มปู๋เห็นเหนือฟ้านั่งแกว่งยาดมอยู่บนเตียงมันจึงเดินไปเช็ดเท้าที่พรม บรรจงเขี่ยเท้าหน้าเท้าหลังสองสามทีด้วยความแสนรู้ แล้วกระโดดขึ้นไปหาเจ้านายสาวเอาคางเกยแนบขาอย่างห่วงใย"เกิดอะหยังขึ้นอี่แม่" เด็กหญิงรีบเดินไว ๆ เข้ามาดูแม่ด้วยความเป็นห่วง มือเล็กกอบกุมหน้าแม่ "หนุนเหนือเป็นอารัย หมู่เหาไปโฮงยากั๋นก่อ""แม่เครียดเรื่องงานประกวดพรุ่งนี้ค่ะ ก็เลยรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย แต่ถ้าหนูหอมแก้มแม่สองที แม่จะรีบหายเลยค่ะ" คุณแม่อ้อนลูกสาวจุ๊บ! จุ๊บ!นิ่มฟ้าจุ๊บแก้มแม่ข้างซ้ายข้างขวาอย่างรวดเร็ว "หายแล้วใจ้ก่อ" เด็กหญิงฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันหลอจนอาการมึนหัวเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง"ดีขึ้นแล้วค่ะ แล้วนี่ฟันหักเหรอลูก หักเมื่อตอนไหนเนี่ย" แม่แหกปากลูกสาวดูว่ามีตรงไหนแตกหักเพิ่มเติม"หักตอนกิ๋นฉะเต๊ะก๋องปาขี้ เต๊ะหมูปาขี้ตำฟันนิ่งตายกาตี้" นิ่มฟ้าตั้งใจเล่าด้วยสีหน้าจริงจัง"ฟันตายคาที่มันเป็นยังไงคะ""ฟันนิ่งติดกับตัวหมูจ้าว น่าฉงฉานป่านนี้ชาไปเกิดตี้ไหนก็บ่าฮู้""เขาเรียกว่
เสียงแก็งสุนัขเห่าหอนเคล้าดังมาพร้อมกับเสียงเด็ก ๆ สามสี่คน ทำให้คนที่นอนมุดอยู่ใต้ผ้าห่มพยายามดึงตัวขึ้นแล้วเดินไปดูต้นเสียงที่นอกระเบียงห้อง เหนือฟ้าชะโงกหน้าลงไปดูที่สนามหญ้าเห็นครอบครัวของเธอ ครอบครัวสามีและครอบครัวของมะแป่มกำลังจัดโต๊ะอาหารเช้า ส่วนพวกตัวแสบทั้งหลายกำลังวิ่งเล่นอยู่กับสุนัขโกลเด้นทั้งสี่ตัว ขณะที่หอมบั่วกับลูกชุบที่เริ่มอายุมากขึ้นทำเพียงเฝ้ามองดูอยู่ใกล้กับแปลงดอกดาวกระจาย"ไม่นอนต่ออีกหน่อยเหรอ" เสียงเข้มกระซิบแว่วดังมาจากประตูห้อง สาวอวบหมุนกายกลับแล้วตรงเข้าไปสวมกอดพ่อครัวผ้ากันเปื้อนสีหวาน เดี๋ยวนี้เขาไม่เข้าไปคุมงานในไร่เสียแล้วแต่กลับมาคุมครัวที่บ้านแทน"พี่คีคะพรุ่งนี้เหนือก็ประกวดแล้ว ซ้อมแค่วันเดียวจะพอเหรอคะ เหนือไม่ค่อยมั่นใจเลย" เจ้าของวงแขนเจ้าเนื้อโอบรัดรอบแผ่นหลังกว้าง ภาคีโอบกอดกลับซุกใบหน้าลงข้างซอกคอกลิ่นหอม"แต่พี่มั่นใจในตัวเหนือนะ อีกอย่างเรื่องแพ้ชนะพี่ไม่ได้กังวลเลย พี่ก็แค่อยากอวดเมียให้ทุกคนเห็น" เขาชมแล้วเคลื่อนริมฝีปากมาตามขมับแล้วขยับต่ำลงมาถึงสันจมูก"พี่คีปากหวานอีกแล้ว เดี๋ยวเหนือไม่กินมื้อเช้านะคะ เพราะเหนือจะกินพี่คีแทน" เธอบอกแล
เช้าวันต่อมาหลังจบงานประกวดนางนพมาศ"เย้เย้ ชาหลองกั๋นตกกันเต๊อะ" นิ่มฟ้ากระโดดโลดเต้นวิ่งวนไปรอบตัวมะแป่มกับยายนับเก้าหลังจากที่กรรมการประกาศว่าผู้ชนะการประกวดนางนพมาศรุ่นน้อยและรุ่นใหญ่ปีนี้ได้แก่ตัวแทนจากไร่พิทักษ์มหิงสา เด็กหญิงก็ดีใจออกนอกหน้าประหนึ่งว่าตัวเองเป็นผู้เข้าแข่งขัน"จะกิ๋นหยั่งอีก" หม่อมเจ้าภูวสินทักหลานสาวขณะที่กำลังช่วยลูกชายจัดโต๊ะเพื่อฉลองให้กับชัยชนะของนพมาศสองรุ่น"กิ๋นกั๋นตกไงจ้าว ป้ออุ้ยบ่เคยกิ๋นก่อ" เด็กหญิงเดินไปถามปู่ใกล้ ๆ"ปู่กินขันโตกประจำ ปู่เป็นหนุ่มเหนือเน้อ" คุณปู่ยังหนุ่มอุ้มหลานสาวขึ้นมานั่งในวงแขนแกร่ง"นิ่มฟ้าคะมาอาบน้ำได้แล้วค่ะ น้ำกำลังอุ่นเลย" เหนือฟ้าทำน้ำสมุนไพรด้วยการต้มใบมะขามและหอมแดงบุบซึ่งเธอมักจะใช้วิธีนี้เป็นประจำทุกครั้งที่ลูก ๆ เป็นไข้หวัดมะแป่มอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดเอี๊ยมประโปรงสีฟ้าออกมานั่งแกว่งขารออยู่บนเก้าอี้ตัวยาว ส่วนน่านฟ้ากับบะแต๋งกำลังช่วยปู่ย่าตายายหิ้วตะกร้าผักและเครื่องเคียงออกมาจากในครัวของบ้านแฝดหญิงที่เพิ่งอาบน้ำอาบท่าเสร็จจึงเดินกระโดดดึ๋ง ๆ ออกมาพร้อมกับแพะใส่เสื้อผ้าสองตัว บะแปปกับบะแว้งวิ่งไปทั่วรอบรั้วหน้าบ้าน
ถึงช่วงการประกวดนางนพมาศน้อยและนางนพมาศใหญ่ เมื่อพิธีกรในงานประกาศรายชื่อผู้เข้าแข่งขันซึ่งเป็นตัวแทนจนมาถึงรายชื่อของมะแป่มกับครูนับเก้า สาวงามในชุดไทยต่างรุ่นจึงเดินเยื้องย่างออกมาด้วยท่าทางงดงาม"นางนพมาศน้อยและนางนพมาศรุ่นใหญ่ตัวแทนจากไร่พิทักษ์มหิงสา เด็กหญิงวาริชา มหาจันทร์ น้องมะแป่มอายุสี่ขวบควงคู่มากับคุณทวดนับเก้า.." พิธีกรหนุ่มไม่ทันพูดจบ"ฉันสวยขนาดนี้เป็นทวดเลยเหรอ ฉันคุณยายจ้ะ แค่คุณยาย" ครูนับเก้ารีบสวนกลับว่าตนเป็นยายไม่ใช่ทวด"ขอ ขอประทานโทษครับ" พิธีกรหนุ่มยิ้มเจื่อน "งั้นขอเชิญผู้ประกวดรุ่นใหญ่รุ่นเล็กแนะนำตัวสักเล็กน้อยครับ" ไมค์อันเล็กถูกยื่นมาให้มะแป่มเป็นคนแรก เด็กหญิงมือสั่นเล็กน้อยแต่พอเห็นพี่น่านฟ้าชูสองนิ้วสู้ตายมาให้ ความหวาดหวั่นในหัวใจนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความกล้าหาญทันที"ซาวัดดีค่า หนูชื่อเด็กหญิงวายิชา ม๋าชัน ชื่อเย่นว่ามาแพ่ม อยู่อายุบานหยึ่งโรงเรียนอายุบานเวหะโชนยะกาน วันนี้หนูไม่ได้มาเย่น ๆ เพราะหนูมาเอาต้วยยางวันไปฝากปู้จายค่า""ว้ายตาเถร! ที่ซ้อมกันมามันไม่ใช่แบบนี้นี่ลูก" ครูนับเก้ายกมือปิดปาก แต่ผู้ชมด้านล่างกับปรบมือกรี๊ดกร๊าดชอบอกชอบใจกันยกใหญ่ แ
มะแป่มไม่สามารถอยู่เชียร์นิ่มฟ้ากับน่านฟ้าได้จนจบ เพราะหนูน้อยต้องไปเตรียมตัวประกวดนางนพมาศที่จะเริ่มจัดช่วงเย็นจนถึงมืด แซมมี่จึงพาลูกสาวกลับไปแต่งหน้าแต่งตัวที่บ้าน โดยมียายนับเก้าช่วยทำผมเพราะสาวใหญ่ก็ลงประกวดคู่กับมะแป่มเป็นนพมาศรุ่นใหญ่กับรุ่นเด็กที่จะต้องเดินจับมือขึ้นเวทีพร้อมกันปีนี้ภาคีเข้าประชุมกับหน่วยงานท้องถิ่นออกและเสนอไอเดียให้มีกิจกรรมสร้างสรรค์แปลกใหม่ และห้ามให้มีการจุดพลุในไร่และพื้นที่โดยรอบ เพื่อป้องการสิงสาราสัตว์ในไร่แตกตื่น นอกจากนี้ยังห้ามให้มีการลอยกระทงใบตอง มีแต่การลอยกระทงด้วยผักและขนมปังเพื่อลดมลพิษและขยะที่ก่อให้เกิดน้ำเน่าเสียและส่งผลกระทบกับสัตว์น้ำแต่กระนั้นกิจกรรมเช่น การแสดงดนตรีสด เครื่องเล่นต่างที่มาให้บริการในไร่ก็ยังคงมีอยู่ รวมทั้งการประกวดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับคนในงานและชุมชนก็ยังคงมีต่อไปเสร็จสิ้นการแข่งตอบชื่อผักและสมุนไพรนิ่มฟ้ากับน่านฟ้าก็แทบหมดเรี่ยวแรง เพราะแฝดพี่น้องต้องใช้สมองขบคิดค่อนข้างเยอะ ถึงขนาดนิ่มฟ้าที่มัดผมสวยเกาหัวยุ่งจนเป็นยัยเพิ้ง"ปีหน้านิ่งบ่เอาแล้ว นิ่งไม่แก่งอารัยทั้งนั้น อิดขนาด นิ่งอยากขี่ฟายแก่งมากฟ่า" นิ่ม
ช่วงบ่ายนิ่มฟ้าและน่านฟ้าไปเตรียมตัวแข่งขันตอบชื่อผักและสมุนไพรพื้นบ้านโดยมีทุกคนตามไปให้กำลังใจ เด็กทั้งสองเปลี่ยนเป็นชุดหม้อฮ้อมสวมงอบชาวนาให้เข้ากับกติกาเครื่องแต่งกายที่กรรมการตั้งเงื่อนไขถึงแม้นี่จะเป็นโพรเจกต์แรกของโรงเรียนอนุบาลเวหะชลการที่นำโดยกรรมการบริหารอย่างครูนับเก้าเป็นคนไอเดีย แต่ทั้งผอ.ทัพฟ้าที่เป็นผู้บริหารสูงสุดและภรรยากับเลือกที่จะไม่ขอเป็นกรรมการตัดสิน เพื่อให้ไม่เกิดข้อครหาและการซุบซิบนินทาในภายหลัง"เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวอีกสามสิบนาทีก็แข่งแล้วหนูจะกินข้าวกินอะไรก่อนไหมแม่จะไปซื้อมาให้" เหนือฟ้ามัดผมของนิ่มฟ้าสองข้างแล้วใช้ยางหลากสีสันมัดเป็นข้อเล็ก ๆ แล้วหยิบกระจกให้ลูกสาวส่องดูทรงผม"โค๊ะ! กนอารัยงามย่มเมือง" นิ่มฟ้ากะพริบตาวิบวับใส่กระจกในมือแม่"ไม่ค่อยจะอวยตัวเองเลยเนอะลูกฉัน แล้วสรุปจะกินอะไรไหม""กิ๋นสิจ้าว แต่นิ่งอยากทายิปฉีจุมออนแบบอี่แม่ นิ่งทาได้ก่อ" นิ่มฟ้าจิ้มไปที่ริมฝีปากบางเล็กของเหนือฟ้า"ได้สิคะ แต่แม่จะทาแบบลิปมันวาว ๆ ให้จะได้บำรุงริมฝีปากด้วย" เหนือฟ้าล้วงลิปกลอสแท่งออกมาจากกระเป๋าสะพายข้างแล้วบรรจงละเลงบนปากลูกสาว "เสร็จแล้วค่ะ ส่องกระจกดูสิ"น
ถึงวันแข่งตอบชื่อผักและสมุนไพรพื้นบ้านของนิ่มฟ้าและน่านฟ้า แต่ช่วงเช้าทุกคนรวมตัวไปให้กำลังใจบะแต๋งทำภารกิจแสดงควายร่วมกับหุยหุยพร้อมกับพ่อและตาสำรวยก่อนที่จะไปเชียร์คู่แฝดในรอบบ่าย และรอบเย็นจะเป็นการประกวดนพมาศน้อยในโดมลานการแสดงประจำไร่พิทักษ์มหิงสาซึ่งชุดการแสดงรอบแรกนี้จะถูกเปิดตัวโดยเจ้าภาพจัดงาน และตามมาด้วยการแสดงของฟาร์มควายแคระอีกหลากหลายจังหวัดที่เข้าร่วมด้วยนับสิบรายบนที่นั่งสูงไล่ระดับสองฝั่งซ้ายขวามีป้ายไวนิลสกรีนรูปหุยหุยกับบะแต๋งคู่กัน เมื่อภาคีในชุดผ้าฝ้ายล้านนาพื้นเมืองประยุกต์สีกรมคอจีน และกาเกงผ้าฝ้ายขายาวเข้าคู่กัน โพกผ้าสีขาวสไตล์หนุ่มเหนือ เดินนำทีมจูงพ่อสะเดาควายแคระเผือกเข้ามาในลานการแสดง แถวกลางเป็นหุยหุยลูกของมันพร้อมกับบะแต๋งพี้เลี้ยงคนสนิท ท้ายแถวเป็นแม่บะผางที่จูงโดยตาสำรวยคนคุมควายประจำไร่เมื่อทั้งสามยืนเรียงแถวหน้ากระดานพร้อมกับควายประจำตัวของตน เสียงกรี๊ดกร๊าดละม้ายเหนือฟ้านิ่มฟ้าดังขึ้นแซงหน้าเสียงชาวบ้านที่นั่งชมการแสดงอยู่ฝั่งตรงข้าม"กรี๊ดดด ปาขี้อ้ายแท๋งตาฉำกวย หย่อขนาด หย่อตี้ฉุดในนายกเวจี" นิ่มฟ้าใส่ชุดไทยล้านนาเสื้อผ้าฝ้ายสีชมพูโอรสสวมผ้าซิ่
ช่วงเช้าภาคีสอนลูก ๆ คัดแยกผักพื้นบ้าน สมุนไพรเกือบสามชั่วโมงเต็มแล้วไปสอนบะแต๋งกับหุยหุยเรื่องงานแสดงโชว์ควายแคระประจำไร่ โชคดีที่บะแต๋งคอยฝึกซ้อมกับตาสำรวยและอินเหลาอยู่เป็นประจำ ทำให้หุยหุยฟังคำสั่งเข้าใจ"เดี๋ยวนิ่มกับน่านอยู่บ้านกับป้ออุ้ยแม่อุ้ยนะครับ ป้อจะพาแม่ไปฝากครรภ์ครับ""ปาขี้ฉื้อหนมมาฝากนิ่งกับน่านโตยเน้อ หนุนน้อยเพย์เงินให้ป้อนะ ป้อจะได้มีเงินฉื้อหนม" นิ่มฟ้าตบลงบนก้นแม่"อะไรกันคะ ทำไมแม่ต้องเป็นคนเปย์ ป้อหนูก็มีเงิน" เหนือฟ้าค้อนตาใส่ลูกกับสามี"แต่น่านเห็นแม่เข็บเงินป้อไว้ในตู้เชฟเน้อ" น่านฟ้าชี้ขึ้นไปบนบ้าน"หนูเห็นตอนไหนครับน่านฟ้า หนูอาจจะฝันไปก็ได้" คุณแม่ปฏิเสธทั้งที่เธอเรื่องเก็บเงินของสามีไว้ในตู้เซฟคือเรื่องจริง"เห็นตาหยอดเลย" เด็กชายแหกตาตัวเองให้แม่ดู"ป้อ อี่แม่แต๋งเสร็จแล้ว" ไม่มีครั้งไหนที่แม่ไปโรงพยาบาลแล้วจะไร้เงาลูกชายคนนี้ เพราะเรื่องที่แม่เคยแท้งน้องไปมันยังฝังในใจของบะแต๋งอยู่เสมอ เด็กชายจึงกลัวว่าแม่จะเป็นอะไรไป จึงพยายามเกาะติดแม่ทุกฝีก้าวเพื่อคอยดูแลแม่ให้ดีที่สุด"แย้วอะหยังน่านเติงไปกับหนุนฟ้าบ่ได้ น่านอยากไปดูหมอฉวย ๆ ที่โฮงยา" เด็กชายตัวน้อ