*มีฉากหดหู่โปรดทำใจดี ๆ"
เมื่อคืนภาคีกล่อมเหนือฟ้าหลับ เขาทำเพียงตบ ๆ หลังเธอราวกับปลอบใจเด็กหญิงที่ยังไม่โต ถึงในใจอยากจะขึ้นไปนอนกอดเธอไว้ แต่กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้
เขากลัวว่าจะทิ้งเธอไม่ลง เวลาสามปีที่ญี่ปุ่นสำหรับเขามันช่างรู้สึกยาวนานเหมือนกับสามสิบปี แค่นึกถึงตอนที่ไม่ได้เจอเหนือฟ้า ไม่ได้จับมือ ไม่ได้จูบ เขาก็รู้สึกทรมานใจไปหมด
สามวันที่เหลือก่อนจะถึงวันเดินทางภาคียังคงไปรับไปส่งเหนือฟ้าและดูแลจนถึงวินาทีสุดท้าย หลังเลิกเรียนเขาพาเธอไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ดูหนัง และโยนโบว์ลิ่งด้วยกัน บ้างก็พาไปเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนแวะกินเมนูเด็ดร้านดัง
เรียกได้ว่าทำครบกระบวนการของคนที่เป็นแฟนกันอย่างดีที่สุด
"เหนือ พี่ให้ครับ" ภาคีไปเจอตุ๊กตาควายจากร้านขายตุ๊กตาแห่งหนึ่งที่ตลาด เขาจึงแวะซื้อมาฝากเหนือฟ้า
"ตัวเท่าฝ่ามือเอง ราคาเท่าไหร่คะ" เหนือฟ้ากอดตุ๊กตาควายดำตัวเล็กแล้วก้มลงฟัดมันอย่างมันเขี้ยว
"เจ็ดสิบเก้าบาทครับ"
"แพงเหมือนกันนะคะ เหนือนึกว่าตัวละห้าสิบบาทซะอีก"
"ก็มันเหลือตัวเดียวในร้านแล้ว พี่ก็เลยซื้อมา เหนือเก็บไว้เป็นตัวแทนพี่นะ" ภาคีฉีกยิ้มกว้างลูบหัวแฟนสาวอย่างอ่อนโยน
"เอาควายเป็นตัวแทนพี่คีเนี่ยนะ ตลกจัง" หญิงสาวมุ่นคิ้วบีบตุ๊กตาควายจนบู้บี้
"ก็พี่รักควายมาก รักเหมือนลูกตัวเองเลยล่ะ ใครจะหาว่าพี่เป็นควายพี่ก็ไม่โกรธหรอก ขนาดพ่อพี่ยังชอบให้แม่เรียกว่าไอ้ควาย" ภาคีนึกเหตุการณ์ตอนที่พ่อกับแม่ทะเลาะแล้วทึ้งผมกัน แม่มักจะเรียกพ่อว่าไอ้ควายภูประจำ
"พ่อแม่พี่คีดูขิงก็ราข่าก็แรงมาก น่ารัก"
"ไม้เบื่อไม้เมาเลยล่ะ"
ทั้งสองนั่งคุยด้วยกันหน้าทีวีอย่างกระหนุงกระหนิง พอฟ้าเริ่มมืดภาคีจึงทยอยเก็บข้าวของลงกระเป๋าใบโต เพราะกลางดึกคืนวันจันทร์เขาต้องบินไปญี่ปุ่น ขณะที่เหนือฟ้าที่บอกว่าขอตัวเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ความจริงแล้วเธอไปนอนร้องไห้ หลังร้องไห้เสร็จก็แอบมาชะโงกดูภาคีนั่งเก็บสัมภาระเงียบ ๆ โดยไม่ให้เขารู้
เช้าวันจันทร์ภาคีเลือกที่จะไปส่งเหนือฟ้าไปมหาลัยเป็นครั้งสุดท้าย เขาและเธอต่างยิ้มให้กันแต่กลับไม่มีบทสนทนาใดเล็ดลอดออกมาจากปากอีกฝ่าย
"พี่คีคะ วันนี้เหนือต้องพรีเซ้นต์วิชาเรียนตอนเย็น เพราะอาจารย์ป่วยเลยขอเลื่อนมาวันนี้ เพราะอาทิตย์หน้าจะต้องเริ่มสอบเก็บคะแนนปลายภาคแล้ว"
นิสิตสาวบอกแล้วก้าวขาลงจากรถ ภาคีรีบยึดข้อมือเธอ "แล้วเหนือจะไปส่งพี่ที่สนามบินใช่ไหม"
"ไปค่ะ เหนือไปแน่นอน แต่พี่คีไปรอที่สนามบินก่อนเลย เผื่อเหนือไปสาย" เหนือฟ้าขยับตัวกลับเข้ามานั่งยกมือกอบกุมใบหน้าเศร้าโศกของภาคี ชายหนุ่มพยักหน้ารับดวงตาแดงก่ำคล้ายกับจะร้องไห้
ล่วงเข้าห้าโมงเย็นเหนือฟ้ากลับกลุ่มเพื่อนที่เพิ่งพรีเซ็นต์งานกับอาจารย์ประจำวิชาเสร็จต่างพากันแยกย้ายกลับบ้าน นิสิตสาวรีบตรงกลับไปที่คอนโดด้วยความเร่งรีบทว่าระหว่างเดินทางกลับด้วยรถแท็กซี่ กอแก้วกลับโทรเข้ามา
"ฮัลโหลว่าไงยัยแก้ว"
"เหนือช่วยแก้วด้วย....กรี๊ดด"
เผียะ! เผียะ!
"แก้ว กอแก้ว เกิดอะไรขึ้น"
"มึงคิดจะเลิกกับกูงั้นเหรอ ฝันไปเหอะ"
เสียงของเวย์แฟนหนุ่มของกอแก้วดังแล่บเข้ามาในโทรศัพท์ ทำให้เหนือฟ้าตัดสินใจฟังเงียบ ๆ
"คุณลุงคะ หนูขอเปลี่ยนเส้นทางค่ะ"
เหนือฟ้าตัดสินใจจะไปช่วยกอแก้วที่บ้าน ตอนนี้เธอไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น รู้เพียงแต่ว่าเธอต้องรีบไปช่วยเพื่อน ความเป็นห่วงเพื่อนทำให้เหนือฟ้าลืมสนิทว่าภาคีกำลังรออยู่ที่คอนโด
ชายหนุ่มเดินไปเดินมามองนาฬิกาบนฝาผนังครั้งละหลายสิบรอบ แต่เหนือฟ้าก็ยังเดินทางมาไม่ถึงคอนโด เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปสนามบินคนเดียว
แต่เขาก็ยังมีหวังเล็ก ๆ ว่าเหนือฟ้าจะมาส่งทัน ภาคีจึงตั้งใจจะรอจนถึงวินาทีสุดท้าย
ฟากเดียวกันเหนือฟ้าที่รีบมาช่วยกอแก้ว หญิงสาวเดินทางถึงบ้านที่เป็นทาวน์เฮาส์ตั้งอยู่สุดซอย เพื่อความไม่ประมาทเหนือฟ้าจัดการโทรแจ้งตำรวจล่วงหน้า แต่รอแล้วรอเล่าตำรวจก็ยังไม่มา กระทั่งกอแก้วโทรเข้ามา
"ว่าไงแก้ว ปลอดภัยดีใช่ไหม"
"แก้วโอเค แต่ไอ้เวย์มันขังแก้วไว้ในห้องนอนชั้นล่าง เหนือลองดูกุญแจแถวกระถางต้นไม้หน้าห้องหน่อยนะ แก้วซุกแอบไว้ข้างใต้ แต่เหนือระวังตัวด้วยเผื่อไอ้ผีเปรตนั่นกลับมา"
"ได้จ้ะ แก้วรอหน่อยนะเหนือแจ้งตำรวจแล้ว"
เหนือฟ้าย่องเข้าไปในห้องนอนของกอแก้ว แล้วยกกระถางต้นไม้ฟอกอากาศออกรียหยิบกุญแจไขช่วยกอแก้วออกมา
"ไปเร็วแก้ว" เหนือฟ้าจับมือเพื่อนออกมา แต่โชคร้ายเวย์เดินกลับเข้ามาพร้อมขวดเบียร์ในมือ สีหน้าของอีกฝ่ายเห่อแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
"พวงมึงคิดจะไปไหนกันวะ นังแก้วมึงคิดจะหนีเหรอ"
กอแก้วรีบหยิบด้ามไม้กวาดขึ้นมาใช้ป้องกันตัว แต่เวย์กลับพุ่งเข้ามาแล้วส่งลูกถีบเตะไปที่กลางท้องของกอแก้ว
"โอ้ย...ไอ้ชั่ว" กอแก้วจุกน้ำตาไหล
เหนือฟ้าโมโหจึงหยิบกระถางดินเผาขนาดเล็กทุ่มใส่หัวของเวย์
"ไปตายซะไอ้ชาติหมา!"
"โอ้ยยยย นังบ้า" เวย์สบถจับหัวที่มีเลือดไหลเป็นทาง มันช้อนตาขึ้นมองเหนือฟ้าด้วยความโกรธแล้วสวนหมัดเสยใส่คาง สาวอวบล้มไปกองกับพื้น ริมฝีปากแตกเลือดสีแดงสดไหลล้นริมขอบปาก จากนั้นเวย์จึงพุ่งเข้ามาตบและชกเธอด้วยหมัดอีกสองข้างด้วยความโกรธ แล้วกระทืบลงมาที่ขาเธอซ้ำ ๆ
ปั้ก! ผลัวะ! ปั้ก!
"กรี๊ดดดดด เหนือ ไอ้เวย์มึงหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ อย่าทำเหนือนะขอร้อง"
กอแก้วพยายามคลานไปคว้าขวดเบียร์แล้วกลั้นใจใช้แรงทั้งหมดฟาดไปที่หัวของเวย์
แต่กลับพลาดฟาดลงไปที่พื้น จนขวดแตกเป็นเสี่ยง ๆ แต่กอแก้วไม่ยอมแพ้รีบหยิบเศษแก้วที่แตกแล้วพุ่งเข้าใส่ตัวเวย์
ฉึก!
"อ้ากก"เศษแก้วทะลุเข้าเอวของเวย์ ชายตัวสูงใหญ่หน้าซีด รีบดึงเศษแก้วออกจนเลือดไหลทะลักจำนวนมาก
"กูจะฆ่ามึงอีแก้ว แล้วก็จะฆ่านังนั่นด้วย" เวย์สวนหมัดใส่กอแก้วอีกครั้ง แล้วขึ้นคร่อมคิดจะบีบคอหญิงสาวให้ขาดใจตาย เหนือฟ้าพยายามกัดฟันลุกขึ้น แม้ดวงตาจะปิดข้างหนึ่ง ขาอีกข้างก็คล้ายว่าจะหัก แต่เธอยังเหลือเรี่ยวแรงอยู่ หญิงสาวเห็นขวดเบียร์เปล่า ๆ อีกสองสามขวดที่วางระเกะระกะอยู่ข้างถังขยะ จึงพยายามลากสังขารอันสะบักสะบอมของตนไปหยิบแล้วเดินเข้าไปทางด้านหลังเวย์ แล้วจัดการฟาดลงที่ท้ายทอยของมันให้แรงที่สุด
เพล้ง!!
ขวดเบียร์แตกกระจายกลายเป็นเสี้ยว เวย์ช็อกตาค้างแล้วเอี้ยวตัวกลับมาทำตาขวางใส่คนฟาด "มึงตาย!"
เวย์คว้าเศษแก้วอันใหญ่ฟันลงไปที่แขนของเหนือฟ้า โชคดีที่เธอยังพลิกตัวหลบทันทำไม่อย่างนั้นคงพลาดโดนหน้าจนเสียโฉม
"นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หยุดเดี๋ยวนี้" ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนก็มาถึง พวกเขาเข้าชาร์ตเวน์แล้วจับใส่กุญแจมือ และรีบโทรแจ้งโรงพยาบาลทันที
คนเจ็บสองคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่กอแก้วไม่สาหัสเท่าเหนือฟ้า เธอจึงกดโทรหาราตรี พี่สาวของเพื่อนเพื่อแจ้งข่าวร้าย
ราตรีมาถึงโรงพยาบาลในระยะเวลาอันรวดเร็ว แล้วพุ่งเข้าไปหากอแก้วที่นอนอยู่บนเตียงในห้องฉุกเฉินในสภาพใบหน้ายับเยิน
"เหนือเป็นไงบ้างแก้ว แล้วเราโอเคไหม"
"แก้วขอโทษค่ะที่เป็นต้นเหตุ" กอแก้วฟูมฟาย
"ขอโทษนะคะคุณใช่ญาติคุณเหนือฟ้า เวหะชลการไหม" พยาบาลสาวเดินเข้ามาทักราตรี
"ใช่ค่ะ"
"พอดีคนไข้อยากคุยด้วยค่ะ รีบคุยหน่อยนะคะ เพราะเดี๋ยวต้องพาคนไข้ไปแสกนร่างกายดูว่ามีอวัยวะภายในจุดไหนได้รับความเสียหายบ้าง"
"รับทราบค่ะ" ราตรีรีบเดินตามนางพยาบาลเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกฝั่งที่ปิดม่านกั้นไว้ เมื่อราตรีเห็นสภาพน้องเธอกับเข้าทรุด เพราะดวงตาข้างหนึ่งบวมช้ำน่ากลัว ปากเจ่อบวม คางแตก ช่วงแขนมีรอยบาดลึกเป็นทางยาว ขาก็ถูกดามไว้ ใบหน้าฟกช้ำดำเขียวจนไม่เหลือเค้าโครงน้องสาวผู้น่ารักของเธอเลยสักนิด ราตรีน้ำตาไหลจับมือน้องที่พยายามขยับปากพูด
"พ....พี่ไนท์เขียนจดหมายให้เหนือหน่อย แล้วเอาไปให้พี่คี พีี่....พี่คีจะไปญี่ปุ่น คืนนี้ค่ะ"
"เขียนว่าอะไรจ๊ะ"
"เลิก เราเลิกกันเถอะ"
"เหนือคิดจะปิดบังเรื่องนี้กับคีใช่ไหม บอกคีเถอะนี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยนะ"
"ม....ไม่ได้ค่ะ ถ้าเขารู้ เขา.,.เขาจะไม่ไป เขาจะไม่ทิ้งเหนือ ขอ ขอร้องนะ ช่วยที" เหนือฟ้าพูดทั้งน้ำตา
"ตกลง พี่จะทำให้"
ราตรีรีบจัดการตามที่เหนือฟ้าบอก แล้วเขียนจดหมายบอกเลิกตามที่น้องสาวสั่ง หญิงสาวนั่งแอร์พอร์ตลิงค์ไปถึงสนามบิน โชคดีที่มาถึงก่อนหน้าที่ภาคีจะบินในอีกสี่สิบนาที
"คี พี่เองนะ คีอยู่ไหน"
"พี่ไนท์เหรอครับ ผมอยู่หน้าร้านกาแฟครับ"
ราตรีเดินหาภาคีจนพบ แล้วรีบส่งจดหมายให้อีกฝ่าย "อะไรครับ"
. "ของเหนือจ้ะ โทษทีนะเหนือไม่สะดวกมา เลยฝากพี่มาส่งคีแทน ยังไงขอให้โชคดี ว่าง ๆ ก็แวะกลับมาไทยบ้าง พี่ขอตัวก่อน"
"เฮ้ย...พี่ไนท์ ผมจะฝากบอกเหนือว่า....." ภาคีไม่เข้าใจอาการลุกลนของราตรี บางทีเธอคงจะมีธุระด่วนจึงมาไวไปไว
ภาคีอมยิ้มแล้วเปิดซองจดหมายออก พลันนั้นรอยยิ้มกลับหุบลง กรามแกร่งขบแน่น "เราเลิกกันเถอะพี่คี เหนือไม่เหมาะกับพี่คีหรอกค่ะ"
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเหนือฟ้าถึงตัดสินใจบอกเลิกโดยไม่มีต้นสายปลายเหตุ ชายหนุ่มเดินหมดแรงทรุดตัวลงกับเก้าอี้ หยดน้ำตาของเขาร่วงเผาะ ๆ ราวกับสายฝนโปรยปราย
"ผู้หญิงใจดำ!" เขาพูดพึมพำแล้วขยำจดหมายทิ้งลงถังขยะ ยกหลังมือปาดน้ำตา แล้วคิดว่าจะไม่หันหลังกลับมาอีกจนกว่าจะครบสามปี หรือจนกว่าเขาจะลืมเธอ
เหนือฟ้านอนพักรักษาตัวเกือบหนึ่งเดือนเต็ม โชคดีที่อวัยวะภายในไม่ฉีกขาดหรือได้รับบาดเจ็บรุนแรง แต่ที่หนักหนาก็คือบริเวณดวงตา และใบหน้าทั้งหมดที่ฟกช้ำและปูดบวม รวมทั้งบาดแผลจากเศษแก้วที่ต้นแขนซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นในอนาคต กับช่วงขาที่โดนเตะจนหักทำให้ต้องใส่เฝือกดามนานหลายเดือนยิ่งไปกว่านั้นราตรีเป็นบุคคลเดียวที่รู้ความลับนี้ เพราะเหนือฟ้าให้พี่สาวปกปิดเรื่องเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายจากพ่อแม่และทุกคน เธอจึงต้องมาอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ของพี่สาว และอยู่ในความดูแลของพี่ตลอดเวลาจนกว่าจะไม่เหลือร่องรอยของบาดแผลต่าง ๆ ให้เห็น"ดีนะที่พี่แต่งเรื่องว่าเหนือเสียใจเรื่องภาคีก็เลยขอมาอยู่กับพี่ที่บ้านเพื่อคลายเหงา โชคดีอีกเรื่องก็คือ พ่อกับแม่ของเราดันไปล่องเรือรอบโลกหลายเดือน งานที่โรงเรียนจึงตกมาอยู่ที่พี่คนเดียวเลย นึกจะไปสวีตหวานกันก็ไปโดยไม่สนใจภาระหน้าที่กันเลยตาทัพกับยายนับเนี่ย"ราตรีบ่นขณะเซ็นเอกสารกองท่วมสูงพลางเหล่สายตามองน้องสาวที่กำลังนั่งทำงานย้อนหลังหลายชิ้นส่งอาจารย์ที่มหาลัยเนื่องจากต้องหยุดเพื่อรักษาตัว"แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมพ่อกับแม่ถึงเลือกไปล่องเรือ คงไม่ใช่แผนพี่ไนท์ใช่ไหม" เหนือ
สามปีผ่านไปภายในงานเกษตรแฟร์เอ็กซ์โป 2026 ออกาไนซ์สาวร่างอวบผิวขากำลังวิ่งประสานงานตามบูธต่าง ๆ ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย"คุณโรจน์คะ ประมาณช่วงสิบโมงของวันพรุ่งนี้เราจะเริ่มไลฟ์สดเริ่มที่บูธคุณโรจน์ก่อนนะคะ ยังไงเตรียมข้อมูลกับผลิตภัณฑ์ที่จะโปรโมตไว้ล่วงหน้าได้เลยค่ะ อาจจะมีทีมงานมาบรีฟให้เบื้องต้นก่อนสักหนึ่งชั่วโมงค่ะ""โอเคครับ ขอบคุณมากครับคุณเหนือ""พี่เหนือ ๆ ทางโน้นมีเรื่องกัน เหมือนว่าจะเจ้าหน้าที่ของเราจะติดป้ายผิด ทำให้บูธของผู้ประกอบการสลับกัน พี่เหนือไปเจรจาหน่อย เพราะอีกเจ้าเขาไม่ยอมย้าย""ได้เดี๋ยวพี่ไปคุยเอง" หัวหน้าทีมดูแลบูธอย่างเหนือฟ้ารีบสับขาตรงไปจุดเกิดเหตุ แต่เพราะช่วงที่ผู้ประกอบการแต่ละบูธกำลังเดินพลุกพล่านทำให้หญิงสาวเผลอไปชนเข้ากับใครบางคนปั้ก!"โอ้ย" เหนือฟ้ากุมแขนที่โดนตัวของอีกฝ่ายกระแทก"เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ" เสียงเข้มที่คุ้นเคยทำให้เจ้าหน้าที่จัดงานที่กำลังทำหน้าบิดเบ้ต้องรีบตวัดหน้าไปมองวินาทีที่ดวงตาสบประสานกับชายใต้แว่นสีดำสนิท หัวใจของเธอก็แทบจะหล่นวูบไปกองอยู่ที่พื้น ดวงตากลมสั่นระริกเมื่อเขาทำท่าทางเคร่งขรึมเมินเฉยเหมือนไม่รู้จักกัน"พี่คี ไม่ได้เจอ
เหนือฟ้ารอให้คั่วกลิ้งเอาคีย์การ์ดห้องพักขึ้นมาให้แล้วตัดสินใจโทรไปสั่งอาหารเดลิเวรี่แทนที่จะลงไปหาข้าวที่ร้านสะดวกซื้อใต้โรงแรม หญิงสาวกดสั่งซูชิร้านโปรดที่ขายจนถึงห้าทุ่ม แล้วมานั่งกินคนเดียวที่บันไดหนีไฟ ขณะที่ภาคีเปิดประตูห้องพักออกมาเพื่อลงไปเช็กบูธที่ลูกน้องช่วยกันจัดว่าเป็นระเบียบดีหรือไม่พลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเจือยแจ้วดังมาจากทางบันไดหนีไฟ ซึ่งเสียงใส ๆ นี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปแอบฟัง"กินข้าวแล้วใช่ไหมเหนือ" ราตรีกรอกเสียงกลับมาผ่านทางโทรศัพท์"กินซูชิค่ะ""กินร้านนั้นมาสามปีแล้วนะ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนร้านมั่ง พี่เห็นจนจะเอียนแล้ว""ก็มันเป็นร้านโปรดพี่คีนี่นา"ภาคีตวัดมองแผ่นหลังที่อยู่ในชุดเสื้อฮู้ดตัวหนาทันควัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่บอกเลิกกลับพยายามจะพูดและนึกถึงเขาอยู่ตลอด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนตัดสายสัมพันธ์นั้นก่อนแท้ ๆ"บอกเลิกเขาแล้วยังไม่รู้จักมูฟออน แล้วนี่ฮ้อนจะตายไป ทำไปถึงใส่ชุดกันหนาวแขนยาวตลอด"เหนือฟ้ารีบตวัดหน้าไปดู แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยืนพิงประตูบันไดหนีไฟอยู่ "เหนือไม่ได้ตั้งใจบอกเลิกนะคะ เหนือมีเหตุผล ส่วนเรื่องการแต่งตัวเหนือแค่อยากเปลี่ยนสไตล์
คนตัวสูงเพียงแค่พูดขู่ แต่เหนือฟ้ากลับคว้าโทรศัพท์โทรหาพี่สาว "พี่ไนท์เหนือขอยืมห้าแสน"ภาคีถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเร่งฝีเท้าออกจากห้อง"เดี๋ยวพี่คี ไอ้ภาคี ไอ้คน..." เหนือฟ้าเดินตามไป แต่เขากลับปิดประตูกระแทกใส่หน้าเธออย่างแรง"เหนือจะเอาเงินตั้งมากมายไปทำอะไร" ราตรีกรอกเสียงกลับมาอย่างกังวล"เหนือจะซื้อพี่คี ซื้อกิน""ฮะ..บ้าเปล่าเนี่ย แล้วเจอคีที่ไหน ที่งานเอ็กซ์โปใช่ไหม""ใช่ค่ะ""เอางี้นะ พี่จะโอนเงินให้พรุ่งนี้ แต่เหนือต้องใจเย็นแล้วกลับไปนอนซะ ถ้ายังดื้ออีกพี่จะบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าสามปีก่อนเหนือเจออะไรมา""ก็ได้ค่ะ ตกลง"หลังจากวางสายจากน้องสาวราตรีที่หัวไว ไหวพริบเป็นเลิศก็คิดแผนการซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว "ยังไงคงต้องบอกความจริงแล้วล่ะ ก่อนที่น้องสาวฉันจะประสาทแดก"ราตรีกลอกตามองบน ไอ้เด็กสองคนนี้มันเป็นอะไรกันนักหนา นักธุรกิจสาวในชุดเสื้อยืดเอวลอยสวมกางเกงวอร์มผ้าร่มคว้ากระเป๋ากล่องเหล็กที่เก็บข้อมูลทุกอย่างแล้วโทรตามทนายพิมุกต์กลางดึก"คุณพิคะ ช่วยไนท์หน่อย ถ้าคุณพิไม่มาด้วยไนท์กลัวว่าภาคีจะไม่เชื่อ ดังนั้นไนท์รวบกวนคุณพิหน่อยนะคะ"ราตรีขับรถไปรับพิมุกต์ที่บ้านแล้วเหยียบมิด
ภาคีกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบแล้วซื้อถุงยางอนามัยพร้อมกับเครื่องดื่มมึนเมาสองสามกระป๋อง หลังจากคุยกับราตรีจบเขาก็รู้สึกเบลอไปหมด เขาไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าคนที่เขารักสุดหัวใจปิดบังเรื่องเลวร้ายกับเขามาถึงสามปีเต็มภายในห้องพักของเหนือฟ้าเปิดไฟสว่างโล่ง หญิงสาวเอาแต่จ้องโทรศัพท์เผื่อว่าพี่สาวจะตัดสินใจโอนเงินมาให้ภายในคืนนี้ ตอนนี้เธอร้อนรุ่มไม่ใช่ว่าต้องการทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวยัยปูเป้นั่นฉกพี่คีของเธอไปกิน แต่ดูจากการที่พวกเขาแตะเนื้อต้องตัวกัน ป่านนี้น่าจะกินกันไปหลายรอบแล้วด้วยซ้ำผิดกับเธอถึงยังคงเก็บเวอร์จิ้นไว้ให้หนุ่มเหนือคนนี้เพียงคนเดียว ตึ๋ง!เงินจำนวน 500,000 บาทโอนเข้าบัญชีคุณเรียบร้อย"กรี๊ดดดด เงินมาแล้วโว้ย จะได้กินผู้ชายแล้วไอ้เหนือ" หญิงสาวกระดี๊กระด๊าเหลือบดูนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาตีหนึ่งพอดี "กินกันตอนตีหนึ่ง จะท้องอืดไหมนะ"เหนือฟ้าลูบวนไปทั่วหน้าท้องย้วย ๆ ของตนเองก๊อก! ก๊อก!สาวอวบรีบวาดขาลงจากเตียง หาวสองสามที ใบหน้าอ่อนเพลียเขย่งส่องตาแมว พลันนั้นหนังตาที่หนักอึ้งกลับเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นในทันที คนระริกระรี้รีบเปิดประตูห้องออกไปแล้วยิ้มแฉ่งให้หนุ่มชาวไ
ทันทีที่แผ่นหลังของเหนือฟ้าแตะลงกับเตียงนอน จูบดุดันจึงได้ผละออก ภาคีถัดกายลงจากเตียงเกี่ยวปราการสุดท้ายออก เหนือฟ้ารีบสะบัดหน้าหนี ขณะที่เขาคลานกลับขึ้นมา แล้วใช้สองแขนคร่อมชิดอยู่กับหัวไหล่อวบ ริมฝีปากแดงฉานจรดลงมาบนผิวขาว ดวงตาหวานคมสะดุดเข้ากับรอยแผลเป็นนูนเล็ก ๆ ที่ต้นแขน กรามแกร่งบดข่มอารมณ์เดือดดาลที่กำลังปะทุอยู่ภายใน"ไปโดนอะไรมา" เขาอยากลองใจดูว่าเหนือฟ้าจะยอมสารภาพความจริงไหม"โดนกระจกบาดค่ะ" เธอยังคงกลบเกลื่อนไปเรื่อย"เหรอ" ภาคีลุกขึ้นแล้วนั่งขัดสมาธิ เขาหยิบมือของเหนือฟ้าแล้วก้มลงหอมซ้ำ ๆ เหมือนที่เคยชอบทำ "บอกว่าให้มานั่งนี่" เขาตบขาตัวเอง"ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวพี่คีหนัก" เหนือฟ้าหยัดตัวขึ้นเหลือบมองแก่นกายที่กำลังแข็งตัวกลางซอกขา"งั้นก็มาลองดูว่าจะหนักแค่ไหน หรือคุณลูกค้าอยากให้คนอื่นมานั่งบนตักผม" เขาขู่แล้วยักคิ้วหลิ่วตาใส่"ไม่เอา" สาวอวบไม่ยอม สุดท้ายจึงต้องกัดฟันสู้แล้วลุกไปหาเขาทั้งที่ยังมีผ้าห่มปิดกายอยู่"ไม่ชอบผ้าเกะกะลูกตา" ภาคีดึงผ้าออก เหนือเบิกตาโตเมื่อผ้าห่มปลิวไปอยู่ข้างเตียง"พี่คีเดี๋ยวเหอะ เหนือเป็นลูกค้านะ ต้องตามใจลูกค้าสิคะ ว้าย..." ข้อมือขาวถูกฉุดใ
เหนือฟ้าขนลุกขนพองไปทั้งตัวเมื่อเนินขานุ่มของตนเองถูกเขาถ่างออก หญิงสาวดันตัวขึ้นส่งมือไปปิดรอยแยกสีชมพูที่กำลังถูกภาคีเชยชม ดวงตากลมเอ่อล้นด้วยน้ำใส ชายหนุ่มรู้สึกผิดยิ่งคิดว่าเธอต้องไปเผชิญเรื่องโหดร้ายป่าเถื่อนแบบนี้ เขาก็ยิ่งแค้นจนอยากสับไอ้เวคินเป็นร้อย ๆ ชิ้น"เห็นใจ๋อ้ายเต๊อะคนดี"สาวพลัซไซซ์นึกถึงวันที่เธอให้พี่สาวเขียนจดหมายไปบอกเลิกเขาก็รู้สึกผิดอยู่ตลอดสามปีที่ผ่านมา ถ้าร่างกายนี้ตอบแทนเขาได้ เธอก็ยอม มือนุ่มยกออกไม่ถึงสิบวิ ชิวหาแดงก็ทะแยงลงมาที่ตัวตนของเธอ ริมฝีปากเล็กขบเม้นเป็นเส้นตรง เสียวซ่านจนมือสองข้างต้องยันกับพื้นเตียงเพื่อประคองร่างกายที่กำลังอ่อนปวกเปียกลงไปทุกที"อ๊ะ...อ๊า" เสียงหวานครางระงม ดังสะท้อนกึกก้องไปทั่วห้องพักในยามวิกาลลีลาการโบกสะบัดจากปลายลิ้นอุ่นหนาของภาคีละเลงลงมาที่กลีบดอกไม้สีชมพูสวยสดอย่างต่อเนื่อง พลางใช้นิ้วแหวกอ้านำทางเพื่อขบดูดเม็ดกระสันแวววาวดุดอัญมณีของเหนือฟ้า เสียงดื่มกลืนของเขาดังซู้ดซ้าดราวกับซดน้ำแกง"เต๋มปากเต๋มคำ" ภาคีผงกหัวขึ้นมอง ก้มลงดูดผิวที่เนินขาด้วยความลุ่มหลง แล้วจัดการดูดซับมวลน้ำป่าจากภายในกายที่ไหลทะลักท่วมออกมาราวเขื่อ
เช้าของงานเอ็กซ์โปวันแรกเหนือฟ้าต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าทั้งที่เธอเพิ่งนอนหลับพักไปได้แค่สองชั่วโมง เพราะเพิ่งเสียเวอร์จิ้นไปให้อดีตคนรัก สาวอวบเลือกสวมเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงยีนทรงบอยตามด้วยการสวมสูทเบลเซอร์สีดำทับ ถักเปียข้างแล้วผูกโบว์สีฟ้า ระหว่างที่กำลังเดินเข้ามาในฮอลล์จัดงานคั่วกลิ้งที่เดินจับไม้จับมือมากับแฟนสาวก็ปรี่เข้ามาทักทาย"พี่เหนือ กินกาแฟยังเนี่ย" ลูกน้องหนุ่มเห็นว่าหัวหน้าของตนดูอิดโรยไม่สดชื่น"ยังจ้ะ งั้นพี่ไปหากาแฟจิบก่อนนะ ดูแลประสานงานแทนพี่ด้วย" เหนือฟ้าใช้นิ้วถ่างตาตัวเองแล้วเดินขาปัดตุปัดตุเป๋ไปหาที่นั่งข้างนอกฮอลล์ขณะที่ภาคีกำลังจูงควายเผือกแม่บ่ะผางเข้ามาในงานพร้อมกับลูกควายเผือกตัวน้อยพร้อมกับลูกน้องสองสามคน เหนือฟ้าจึงได้แต่นั่งมองอย่างมีหวัง หวังลึก ๆ ว่าเขาจะใจอ่อนกับเธอ"น้องเหนือ น้องเหนือเปล่าครับ""คะ" เหนือฟ้าหันไปยังต้นเสียงด้านข้าง แล้วพบว่าคนที่ทักทายคือเจ้าของสวนอินทผลัมที่เคยมาจัดงานเมื่อปีก่อน"จำผมได้ไหม ผมศัจกรที่เคยมาจัดงานเกษตรแฟร์ปีก่อน""จำได้ค่ะ แล้วคุณกรสบายดีไหมคะ""สบายดีครับ แล้วน
เวลาล่วงถึงสี่โมงเย็นเหนือฟ้าส่งกรุ๊ปทัวร์ที่ภัตตาคารของรีสอร์ต แต่ลืมว่าทิ้งแฟ้มเอกสารสำคัญเอาไว้ที่โรงตากเกรสบัวหลวงจึงรีบร้อนขับรถกระบะกลับไปเอาทว่าหลังจากถึงโรงเรือนแปรรูปได้ไม่นาน ฝนฟ้ากลับเทกระหน่ำลงมาจนมองไม่เห็นภาพเบื้องหน้าให้ขับรถสัญจรผ่านไปได้ แต่เธอก็คิดจะฝืนขับกลับบ้านไปหาครอบครัวโชคร้ายต่อเนื่องจู่ ๆ ยางรถก็แบนแต๊ดแต๋"อ้าวยางรั่วเหรอ"เหนือฟ้ารีบเปิดประตูลงมาดูล้อรถ แต่สายฟ้าที่ฟาดลงมากลางไร่เป็นแสงวาบคาดท้องดำทมิฬเปรี้ยง!"ขืนอยู่ตรงนี้ฟ้าผ่าตายก่อน" หญิงสาวรีบมองหาที่หลบฝน สายตาประหวั่นพรั่นพรึงสะดุดกึกที่โรงเก็บฟืนที่สามีสั่งให้สร้างไว้รอบไร่ เพื่อบรรจุเศษไม้แห้งเก็บไว้เผาถ่านสาวอวบวิ่งฝ่าพายุไปยังโรงเก็บฟืนทีี่มีเตาถ่านอยู่ข้างใน ล้วงหาโทรศัพท์ในเสื้อร่มกดโทรหาบะแต๋งฟากเดียวกันภาคีที่ยังนอนซมพยายามงัดตัวขึ้นมามองหาภรรยา เพราะนี่ก็เกือบห้าโมงเย็นแล้วแต่เหนือฟ้ายังไม่ถึงบ้านสักที"ฮัลโหลหนุนน้อย หนุนน้อยโอเคก่อ""เกิดอะไรลูก แม่ล่ะ" ภาคีรีบพุ่งตัวเข้ามากุมไหล่ลูกชาย"หนุนน้อยบอกว่ารถยางแตก ตอนนี้หลบฝนอยู่โรงเก็บฟืนแถวบึงบัวหลวงครับป้อ""งั้นป้อจะให้เดือนเพ็ญกับอิ
ภาคีหอบลูกเต้าตามเหนือฟ้ามาถึงโซนของรีสอร์ต ทันทีที่ศัจกรเห็นหน้าเขาอีกฝ่ายกลับเลิกคิ้วสูงมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า"ผมมีธุระคุยกับคุณเหนือคนเดียวนะครับ ไม่ได้จะคุยกับคนอื่น""ประทานโทษนะครับ พอดีผมไม่ไช่คนอื่นคนไกล ผมเป็นผัวของเหนือฟ้า" ปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยหึงหวงเมียเท่าไร แต่กับไอ้หมอนี่มันมีประกายของความปรารถนาที่แผ่ซ่านออกมาอย่างเห็นได้ชัดแค่มันอ้าปากเขาก็เห็นลิ้นไก่ของคนตรงหน้าว่าศัจกร ชายที่เคยตื๊อจีบภรรยาของเขานึกคิดสิ่งใดอยู่"ตานโต้ดนะก๋า" นิ่มฟ้าพูดเลียนแบบพ่อบะแต๋งชำเลืองมองกำปั้นพ่อที่กำลังกำแน่นจนเห็นเส้นเลือด เด็กชายจึงยื่นมือไปกุมไว้ "ป้อเป็นหยัง ป้อโอเคก่อ""ป้อโอเคครับ แต่ไม่โอเคกับไอ้หมอนี่"เหนือฟ้าที่กำลังไปคุยกับเดือนเพ็ญเรื่องกิจกรรมของคณะทัวร์จากบริษัทแมลงทอดรีบเดินกลับมา หญิงสาวชะงักงันเมื่อพบว่าสามีกำลังโมโหจนหน้าขาว ๆ ของเขาแดงซ่าน"พี่คีคะ พี่คี มาหาเหนือก่อน" สาวอวบรั้งเอวสามีให้มาคุยส่วนตัว"หนุนฟ้าฉานิ่งไปกิ๋นฉ้นตันได้ก่อ ป้าเพงชวนกิ๋น" นิ่มฟ้ากระตุกเสื้อแม่ขณะที่บะแต๋งกับน่านฟ้าไปนั่งล้อมวงกินส้มตำถาดใหญ่กับหมูปิ้งของโปรดอยู่กับเดือนเพ็ญและอินเหลาก่อนแล้
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจส่งวิญญาณปินปินก็จัดการไปคุยกับเปรตอีกตนที่อดีตเคยเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้ แล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลของตนให้ เปรตที่ได้รับบุญจากผู้มีอภิญญาบารมีรู้สึกยินดีปรีดา แม้จะยังไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้แต่กองบุญนี้ก็ช่วยลดทอนเวรกรรมที่เคยทำมาในอดีตชาติได้บ้าง"เดี๋ยวก็ต้องเดินทางกลับกันแล้วใช่ไหมจ๊ะแซม" เหนือฟ้าดันจานสลัดให้แซมมี่ตัก"ค่ะ กินมื้อเช้าเสร็จเราก็ต้องเดินทางกลับทันที ปินเขามีภารกิจต้องเตรียมงานในเทศกาลดิวาลีที่เทวาลัยอัญฎรญามีค่ะ""แป่มม่ายกับบั้น" มะแป่มที่กำลังกินไข่ดาวจนปากเลอะเหลือบดวงตากลมไปหาเป้าหมายเล็กน้อย"แล้วตั๋วจะอยู่ตำไม" น่านฟ้าถามแล้วกระเถิบเก้าอี้ไปชิดกับเหนือฟ้า"ยู่กะแควน" หนูน้อยยิ้มหวานโชว์คราบไข่แดงที่เปื้อนเป็นวงทั่วริมฝีปาก"อี๋ ชาหยองก่าปี๋อีก" เด็กชายตัวเล็กทำหน้าเหวอ ทำไมเด็กคนนี้กินเลอะเทอะขนาดนี้"แป่มคะ หนูยังเด็กมากเลยนะแม่กับพ่อต้องการหนูนะ แม่ว่าหนูอย่าเพิ่งมีแฟนเลย" แซมมี่กระซิบใบหูเล็กแล้วหยิบทิชชูเปียกในกระเป๋ามาซับคราบอาหารบนปากลูกสาว"แย้วตะไมจันพินมีแควนเพงแม่แชม" คำถามนี้ทำเอาแซมมี่ถึงกับชะงัก"เก๊าโทแล้วไง เก๊าเป็นปู้หย่าย
ช่วงหัวค่ำอาจารย์ปินปินเรียกทุกคนมารวมตัวกันเพื่อกำชับว่าห้ามทำอะไรและไม่ควรทำอะไร"เดี๋ยวผมจะออกไปตรวจดูจุดเกิดเหตุกับแซมมี่นะครับ ผมขอฝากมะแป่มไว้ด้วย""มะอาวแป่มปายกะจันพิน ปายกะแชม" หนูน้อยเหนี่ยวขาพ่อไว้ด้วยการใช้แขนขารัดแข้งพ่อให้แน่นที่สุด"ไม่ได้ครับ มันอันตรายนะ พ่อสัญญาว่าถ้าเสร็จงานแล้วพ่อจะซื้อขนมให้แป่มกินเยอะ ๆ เลย" อาจารย์ปินคุกเข่าลงกับพื้นกอบกุมวงหน้าเล็กเท่าฝ่ามือของเขา"ฉันยา" นิ้วก้อยเล็กคล้องเกี่ยวกับนิ้วก้อยใหญ่ของพ่อ ถึงแม้มะแป่มจะเป็นเด็กที่ยังไม่รู้ตาสีตาสีแต่หนูน้อยจำได้แม่นยำว่าเคยเห็นพ่อกับแม่มีเลือดท่วมตัว"เด็กดีของพ่อกับแม่" เจ้าของฝ่ามือใหญ่วางลงบนหัวเล็ก ก่อนจะอุ้มลูกสาวฝากไว้กับเหนือฟ้าและภาคี"งั้นให้นิ่งไปโตยนะค้าอาพิน นิ่งจะไปจ่วยปับปี๋" นิ่มฟ้าผู้ไม่กลัวผีสางนางไม้ใด ๆ เสนอตัวไปเป็นผู้ช่วย"ปี้นิ่งไปน่านก็ต้องไป หมู่เหาไม่ทิ้งกัน" น่านฟ้าจับมือพี่สาว ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็ถูกมือเล็กของมะแป่มกุมแน่น"ห้ำปายนะแควน คิก ๆ" มะแป่มหัวเราะคิกคักมโนเป็นตุเป็นตะหาว่าน่านฟ้าเป็นแฟน"ไผเป๋นแควนตั๋ว" เด็กชายดึงมือออก"ก็กุนปี้ไง กุนปี้เพงแควนแป่ม" หนูน้อยดึง
ภาคียิ้มเจื่อนส่งให้ลูกสาว นิ่มฟ้ายื่นมือเล็กไปกุมหน้าพ่อตบเบา ๆ สองสามที"ป้อสะเบ๊อะสะเจ๊อะ ทีหลังป้อท่องยะวังเน้อ นิ่งไม่ฉามาสดูแยป้อได้ตาหลอด" นิ่มฟ้ากำชับให้พ่อหัดดูแลตนเอง"อะหยังหนูถึงไม่สามารถดูแลป้อได้ตลอดล่ะครับ" ฝ่ามือใหญ่ประคองพวงแก้มอูม"นิ่งต้องไปยะก๋านในไร่ป้อขี้ไง อี่แม่บอกว่าถ้านิ่งอยากได้ทุ๊กทาปาปี้นิ่งต้องยะก๋าน" นิ่มฟ้าบอกพลางกอดอกทำหน้าขึงขังจริงจัง"ฮ่าฮ่าลูกเป็นละอ่อนตี้น่าฮักจริง ๆ" คุณพ่อหัวเราะคิกคักเอ็นดูความตรงไปตรงมาของลูกสาวหลังจากที่ภาคีขนกับข้าวลงมาจากรถ ขณะที่เขากำลังเตรียมนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเหนือฟ้าที่กำลังแกะถุงโจ๊กใส่ชาม"กลิ่นอะไรเหมือนขี้เลยค่ะ กลิ่นตุ ๆ" สาวอวบทำจมูกฟุตฟิตใส่สามี"พี่อาบน้ำแล้วนะครับ""เหนือรู้ค่ะ แต่เหนือได้กลิ่นเหม็นเน่ามาก เหม็นสาบเหมือนกับกลิ่นขี้แพะเลย" ยิ่งยื่นหน้าไปดมใกล้ ๆ กลิ่นก็ยิ่งแรง"ป้อ ๆ ฉาน่านอยากกินน้ำฉ้วม" น่านฟ้ากระตุกแขนพ่อเพื่อไปเอาน้ำส้มสายน้ำผึ้งที่แม่คั้นแช่ตู้เย็นในบ้าน"ได้ครับ เดี๋ยวป้อไปหยิบให้นะ" พอคนตัวสูงลุกเท่านั้นกลิ่นขี้ก็แรงสะพัดประจวบเหมาะกับช่วงที่สายลมพัดผ่านกลิ่นขี้แพะใกล้ปลายจมูกก็ยิ่งแรงข
ช่วงสายของวันรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวของอาจารย์ปินปินขับเข้ามาถึงไร่พิทักษ์มหิงสาพร้อมกับลูกและภรรยาและหลานสาวคนเล็ก โดยมีเหนือฟ้ายืนต้อนรับอยู่หน้าบ้านพร้อมกับน่านฟ้าปินปิน อาจารย์หนุ่มมาดสุขุมสวมแว่นกรอบเงินกระเตงมะแป่มหนูน้อยอายุสองขวบลงมาจากรถ"ก้างหย่าย" มะแป่มกางแขนออก กระตุกขาพ่อให้ดูอาณาจักรควายอันยิ่งใหญ่ตรงหน้า"ครับ กว้างใหญ่มาก""ปี๋เปียบ ปี๋เต็มโหมะเลย" มะแป่มหนูน้อยที่เห็นภูติผีปีศาจตั้งแต่เกิดชี้ให้พ่อดูพลังงานลึุกลับที่สิงสถิตย์อยู่ในไร่แห่งนี้"แล้วหนูกลัวไหมลูก" เจ้าสำนักอันตรยามีชันเข่าหนึ่งข้างพลางช้อนตัวลูกสาวขึ้น"มะกัว" มะแป่มส่ายหน้า"สองพ่อลูกทำอะไรกันอยู่" แซมมี่กวักมือเรียกสองพ่อลูก"อาปินคะเดี๋ยวปั้นดูแลมะแป่มให้เองค่ะ" ปั้นหยาอายุสิบสองปีอาสาดูแลมะแป่มน่านฟ้ายืนหน้าซีดรับแขกพร้อมแม่ ถึงหนูน้อยจะปวดท้องแต่ก็ยืนอดทนไม่แสดงอาการงอแงใด ๆ ปินปินเห็นเด็กชายมีอาการไม่สู้ดีจึงหยิบสร้อยรุทรักษะที่เตรียมมาให้คล้องลงไปที่คอของเด็กชาย"ใส่ไว้นะครับ สิ่งนี้จะช่วยคุ้มครองหนู แล้วก็อย่าไปเล่นซนไกลบ้านล่ะ แม่ซื้อเขาตามดูแลไม่ทัน" ปินปินเหลือบมองแม่ซื้อสไบชมพูที่นั่งห้อยขาอยู
เอ้ก! อี้! เอ้กเอ้ก!นาฬิกาปลุกเสียงไก่ร้องของเหนือฟ้าปลุกเรียกภาคีให้ตื่นขึ้นก่อน เขาหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงขึ้นมาปิดเสียงแล้วลุกขึ้นช้า ๆ นวดขมับเล็กน้อยเพื่อปรับจูนสายตา"พี่คีคะ เหนืออยากกินโจ๊กจัง" เหนือฟ้าบิดขี้เกียจ ยกหน้าขึ้นวางบนตักของภาคี ใช้สองมือโอบกอดรอบเอวสามี"เอาปาท่องโก๋ไหมครับ""เอาค่า เอาพี่คีด้วยได้ก่อจ้าว" เหนือฟ้าคลานสี่ขาเข้าไปหาภาคีที่กำลังนั่งทาครีมกันแดดอยู่บนเตียง สองมืออวบคล้องลงบนหลังคอ"เด็กลามก เดี๋ยวนี้ร้องขอเองแล้วเหรอ""ใช่ค่ะ เดี๋ยวนี้เหนือหน้าด้านเป็นแล้วนะ" บอกเสียงเล็กเสียงน้อยภาคีเขยิบตัวหันหลังรั้งหัวไหล่เปลือยขาวในชุดนอนวาบหวิวเข้ามาหา "เปลี่ยนบรรยากาศบ้างไหม""เปลี่ยนยังไงคะ""ย้อนความหลังกันเล็กน้อย" เขาโน้มต่ำลงมาแล้วงับก้านหูของเธอเบา ๆ"อึ๋ย ขนลุก" สาวอวบสะท้าน ตอนแรกก็อยากโจ๊กอยู่หรอก แต่ตอนนี้อยากกินสามีมากกว่าก๊อก! ก๊อก!สองผัวเมียรีบแยกตัวออกจากกันเพราะเสียงเคาะประตู ภาคีรีบเดินไปส่องตาแมวเห็นลูกชายตัวเล็กกำลังยืนทำหน้าซึมเป็นหมาจ๋อยอยู่ข้างนอก หน้าตาซีดเซียวเหมือนคนไม่สบาย"น่านฟ้าหนูเป็นอะไรครับ" คุณพ่อย่อตัวลง"น่านเจ๋บต๋อง ฮือออ"
ล่วงเข้าสี่ทุ่มทั้งปูเป้และพิมุกต์เริ่มเมามายรวมทั้งอินเหลาพี่เลี้ยงเด็กแฝดชาวดอย"โว้ย ป้อเลี้ยงหำโผล่ ไอ้ยมมึงขวิดเลยสิวะ" หนุ่มชาวดอยที่ถูกชวนมาแจมมื้อค่ำด้วยเริ่มมีอาการเมา พอเมาทีไรเริ่มด่าทุกทีภาคีหันขวับ ไอ้นี่มันเมาแล้วหลอกด่าเหรอวะ "ไอ้อิน! มึงได้สติบ่าไดกูจะไม่จ่ายเงินเดือนให้มึงจักบาท""ยู๊ดดดน้าปาขี้" นิ่มฟ้าไม่ชอบให้พ่อพูดคำหยาบคาย ฟังแล้วมันระคายเคืองหู หนูน้อยเดินตรงไปหาพ่อแล้วยื่นมือเล็กไปตีปากเบา ๆ"อะหยังป้อถึงอู้บ่าได้ ป้อขออู้นิดเดียวเอง" ภาคีอ้อนลูกสาว"เดี๋ยวตกรกเวจี นิ่งกั๋วป้อเจ๋บปวดตอระมาน" นิ่มฟ้าเบะปากแล้วซุกใบหน้าเล็กแนบคอพ่อ"โอ๋ ๆ บ่าต้องร้อง ป้อจะบ่าพูดคำหยาบอีกแล้ว" พ่อเลี้ยงหนุ่มอุ้มกระเต็งลูกสาวไว้ในอ้อมแขน"คุณพิขาพาเป้กลับห้องทีนะค้า แล้วเราก็แอ้มกันสักสี่ห้ายก ดีไหมค้า"
บริเวณหน้าบ้านพักสองหลังมีเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวของปูเป้กับทนายพิมุกต์ ทั้งสองทะเลาะกันมาตั้งแต่บึงบัวจนถึงบนบก"นี่คุณจะตามฉันไปถึงไหนคุณพิ เมื่อไหร่จะเลิกตามสักที""ผมก็กลัวว่าคุณจะมาทำให้ครอบครัวคนอื่นเขาแตกแยกน่ะสิ" พิมุกต์เดินเร็ว ๆ ขึ้นไปดักหน้าไม่ให้อดีตพิธีกรคนดังกลับเข้าไปในบ้านพักของตน"ถ้าฉันจะทำให้คุณภาคีกับคุณเหนือฟ้าเขาแตกคอ ฉันทำไปตั้งนานแล้วย่ะ และที่ฉันมาพักที่นี่ก็เพราะว่าต้องตระเวนเที่ยวนครนายกเพื่อทำคอนเทนต์ส่งบริษัท" ปูเป้บอกแล้วผลักตัวคนพูดจาไม่รู้เรื่องให้พ้นทาง"ไหนล่ะหลักฐาน ผมต้องการข้อพิสูจน์" ทนายหนุ่มเลิกคิ้วสูง"คุณมันบ้า" ปูเป้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดแชตบริษัทให้ดู "ไง จะเชื่อได้ยัง""เชื่อก็ได้ มั้ง" พิมุกต์ทำหน้ายียวน"สุมาเต๊อะคุณทนายปิ๊ ปอดีว่าป้อเลี้ยงให้เปิ้นชวนคุณปิ๊กับคุณปุ๊ไปกินปิ้งย่างที่บ้านเย็นวันนี้จ้าว""ประทานโทษนะคะ เป้ชื่อปูเป้ไม่ใช่ปุ๊ งั้นฝากบอกคุณคีกับคุณเหนือด้วยนะว่าเป้ตกลง" ปูเป้ไม่ปฏิเสธเพราะเธอเองบริสุทธิ์ใจ"ผมเองก็ตกลงครับ" ทนายพิมุกต์รับคำชวนเช่นกัน ที่เขารับเพราะต้องการไปเฝ้าระวังพฤติกรรมปูเป้ อนึ่งเขาต้องการหาทางจีบเธออีกครั้ง