เหนือฟ้านั่งบิดขี้เกียจอยู่ใต้โคมไฟสีส้มสลัว ดวงตากลมเริ่มพร่าเลือนจนภาคีที่กำลังจัดวางกับข้าวถึงต้องชะเง้อคอมองดูด้วยความกังวล
"เสร็จแล้วครับ มากินได้เลย" หนุ่มมาดเซอร์ในชุดผ้ากันเปื้อนมัดจุกรวบเก็บผมไว้ครึ่งหัวเดินมาตามนิสิตแสนขยันในห้อง สาวอวบกลั้นยิ้มเพราะเธอโคตรโชคดีที่ได้เห็นหนุ่มฮ็อตขวัญใจสาวค่อนประเทศในสภาพพ่อบ้านกล้ามโต "รับทราบค่ะ" เหนือฟ้าเดินตรงไปที่โต๊ะกินข้าว มองข้าวซอยไก่ชามใหญ่และน้ำข้าวโพดปั่นนมสดฮอกไกโดกลิ่นหอมสองชุด ภาคีนั่งลงฝั่งตรงข้าม แล้วรินน้ำเปล่าเพิ่มให้เธออีกหนึ่งแก้ว ทำไมเขาช่างดีกับเธอมากมายขนาดนี้ ทั้งที่เธอทำตัวเย็นชากับเขาสารพัด แต่เขาก็ไม่โกรธเลยสักครั้ง "พี่คีทำอาหารน่ากินจัง" เหนือฟ้าบอกแล้วตักข้าวซอยไก่ร้อน ๆ คำแรกใส่ปาก ดวงตากลมถลึงมองเมนูดังกล่าวในชามตัวเอง แล้วเริ่มจ้วงกินคำใหญ่อย่างลืมตัว จนพ่อครัวหัวเราะร่วน "อร่อยใช่ไหม กินเยอะ ๆ นะเดี๋ยวจะผอมไป" เขาแซว "อร่อยมากค่ะ ไก่ก็เปื่อยมาก น้ำซุปก็จัดจ้าน กดไลก์ให้เลย" เหนือฟ้าฉีกยิ้มเคี้ยวแก้มตุ่ย ภาคีรู้สึกภูมิใจที่ทำให้สาวที่เขาลงทุนจีบมาเป็นแม่ของลูกเอ่ยปากชมได้ ทั้งสองกินไปคุยไปกระหนุงกระหนิงจนกระทั่งข้าวซอยไก่หมดเกลี้ยง เหนือฟ้าจัดการทำความสะอาดด้วยการซดน้ำซุปจนไม่มีเหลือสักหยด "ดีจัง เลี้ยงง่ายแบบนี้พี่ชอบ" ภาคีลุกแล้วหยิบทิชชูมาซับปากที่เปื้อนคราบน้ำซุป เหนือฟ้านั่งตัวเกร็ง "เอ่อ ขอบคุณค่ะ งั้นเหนือไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยมาทำรายงานต่อดีกว่า" "เดี๋ยว" เขาคว้าข้อมือเธอ แล้วรีบปล่อยทันทีเพราะกลัวว่าจะห้ามใจตัวเองไม่ไหว "คือ พี่จะบอกว่านั่งพักสักสิบถึงสิบห้านาทีรอให้อาหารย่อยแล้วค่อยอาบน้ำดีกว่า อาบน้ำหลังกินเสร็จจะทำให้จุกได้นะ" "อ้อ งั้นเหรอคะ แล้วทำอะไรดี" เหนือฟ้าพึมพำมองหากิจกรรมทำเพื่อรอเวลาให้อาหารย่อย "ดูทีวีดีกว่า" เขาบอกแล้วเดินไปเปิดทีวี หยิบรีโมตส่งให้เธอ "ขอบคุณค่ะ แต่เหนือขอช่วยล้างจานก่อนได้ไหมคะ เหนือไม่อยากเป็นภาระพี่คีค่ะ" เหนือฟ้าหยิบถ้วยชามไปที่ซิงค์แล้วตั้งใจล้างจนสะอาดเอี่ยม ภาคีจึงอาสาเข้าไปดูรายงานที่เธอพิมพ์ไว้ในคอมพิวเตอร์ และช่วยเพิ่มเติม แก้ไขบางส่วนให้ ภาคีเพลิดเพลินกับการออกไอเดียรายงานของเหนือฟ้า พอเขาเงยหน้าขึ้นจากจอนาฬิกาบนฝาผนังก็บอกเวลาหนึ่งทุ่ม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันนับเก้า แม่ของเหนือฟ้าโทรเข้ามาพอดี "ภาคีลูก แม่เอากระเป๋าเสื้อผ้าเหนือฟ้ามาให้จ้ะ หนูลงมาเอาให้น้องหน่อย" ภาคีรีบร้อนลงไปรับสัมภาระของเหนือฟ้า นับเก้าในชุดเดรสสีม่วงประดับคริสตัลก้าวขาลงจากรถแวนหรู ส่งกระเป๋าเสื้อผ้าให้กับชายตัวสูงที่เดินยกมือสวัสดีมาแต่ไกล นับเก้าครูสาวรุ่นใหญ่ ภรรยาผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังรับไหว้อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม "ขอบคุณมากนะครับ ผมคงไม่ได้รบกวนมากเกินไปใช่ไหม" ภาคีรับกระเป๋าของเหนือฟ้ามาจากแม่ของเธอ "ไม่รบกวนหรอกจ้า อีกสองเดือนก็จะไปญี่ปุ่นแล้วไม่ใช่เหรอ มีเวลาสั้น ๆ ได้อยู่กับน้องก็ใช้มันให้เต็มที่นะลูก" "ยังไง คุณแม่อย่าเพิ่งบอกเรื่องที่ผมจะไปเรียนปริญญาโทต่อที่ญี่ปุ่นกับเหนือฟ้าได้ไหมครับ ผมอยากบอกน้องเอง" "ได้เลยจ้ะ แม่จะรูดซิปปากให้สนิทเลย ยังไงขอบคุณคีมากนะที่ดูแลเหนือฟ้าให้แม่ ปกติแล้วกลับไปบ้านเด็กคนนี้ก็หมกตัวอยู่ในห้องกับแมวตลอด ไม่ค่อยออกไปพบปะใครหรอก น้องเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง แม่ก็เลยอยากให้เขาลองมาใช้ชีวิตกับคนอื่นบ้าง อาจจะทำให้เขามั่นใจในตัวเองมากขึ้น" "ผมจะทำให้น้องเป็นคนมั่นใจในตัวเองให้ได้เลยครับ" ภาคียืนรอส่งให้รถแวนสีดำขับออกไปจากคอนโดจนลับตา เขาจึงกลับขึ้นมาบนห้อง "อ้อ เหนือแม่ของเหนือ..." ชายหนุ่มรีบเม้มปากสนิท เพราะเหนือฟ้านอนหลับคารีโมตทีวีไปเรียบร้อย เขาจึงไม่อยากรบกวนเธอในเวลาพักผ่อน เจ้าของห้องหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ แต่นั่งปุป ศีรษะของเหนือฟ้าก็ไหลลงมาทับบนตักเขาทันที "อยากกินลูกชิ้นปิ้ง กับเห็ดหอมย่างอ่ะแม่" "ขนาดละเมอยังเป็นของกินอีกเหรอ" หนุ่มมาดเซอร์ก้มลงแล้วใช้ปลายนิ้วเขี่ยเส้นผมของเหนือฟ้าออกให้พ้นจากหน้า เพื่อที่เขาจะได้เก็บรายละเอียดของใบหน้าจิ้มลิ้มนี้ให้มากที่สุด ก่อนที่จะจากกันไปอีกหลายปี ด้วยความที่เกรงใจสาวน้อยขี้เซา เขาจึงได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อทนดูทีวีอย่างเงียบ ๆ ไม่กล้าปลุกให้คนง่วงนอนตื่นขึ้น จนเวลาล่วงเลยไปถึงสองทุ่ม เหนือฟ้าจึงเปิดเปลือกตาออกแล้วรู้สึกว่าตัวเองนั้นนอนหนุนบางสิ่งอยู่ หญิงสาวขยับใบหน้าแล้วเงยขึ้นมองภาคีที่กำลังก้มมองเธออยู่ก่อนแล้ว "ตื่นแล้วเหรอ ไปอาบน้ำได้แล้วครับ" เขาเอานิ้วจิ้มแก้มเธอ เหนือฟ้าดีดตัวออกอย่างไว "เหนือไปหนุนตักพี่คีตั้งแต่ตอนไหนคะ" "ก็เมื่อชั่วโมงก่อน พอพี่นั่งลงปุปหัวเหนือก็ร่วงลงมาบนตักพี่เลย ดูสิขาพี่เป็นเหน็บชาเลย" ภาคีลุกเดินกระเผลก ๆ "นี่กระเป๋าเสื้อผ้าเหนือนะ แม่นับเขามาส่งให้เมื่อตอนหัวค่ำ เดี๋ยวพี่ไปทำงานของพี่ก่อน เหนืออาบน้ำก่อนเลย เดี๋ยวพี่ค่อยอาบทีหลัง" "พี่คี" เหนือฟ้าวิ่งไปจับมือของภาคีให้หยุดเดิน "มีอะไรเหรอ" เลิกคิ้วสูงข้างหนึ่ง "เหนือนวดขาให้นะคะ" เหนือฟ้ากะพริบตาช้า ๆ ราวกับวิงวอน "ตามใจเหนือ" เขายิ้มแล้วเดินกลับไปนั่งลงที่เดิมให้แฟนสาวบริการนวดอย่างเต็มที่จนกระทั่งอาการเหน็บชาที่เป็นอยู่ทุเลาขึ้น "เอาล่ะ พอเถอะ พี่ดีขึ้นแล้วครับ" "งั้นเหนือไปอาบน้ำก่อนนะคะ" เหนือฟ้าคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำ หญิงสาวอาบน้ำเพียงสิบห้านาทีจึงกลับออกมาตามภาคีไปอาบบ้าง แต่กลับพบว่าเขากำลังนั่งอ่านเอกสารจำนวนมากพร้อมกับโทรศัพท์คุยกับใครบางคนเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างคล่องแคล่ว แถมยังกางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไว้บนเตียงนอนด้วย เหนือฟ้าเดินกลับมานั่งทำงานพอเปิดดูไฟล์เอกสาร หญิงสาวก็ยิ้มจนปากแทบฉีกถึงรูหู เพราะภาคีจัดการทำให้จนเกือบเสร็จหมดแล้ว เธอจึงเหลือเพียงการทำสรุปรายงานสั้น ๆ เท่านั้น นิสิตสาวปั่นงานจนเสร็จเกือบสามทุ่มครึ่ง "เฮ้อเสร็จสักที" หลังจากปิดคอมพิวเตอร์เหนือฟ้าจึงหยิบโทรศัพท์มาเช็กอีเมล์ และแชตของเพื่อนที่มหาลัย ระหว่างนั้นภาพของกระเป๋าเดินทางใบยักษ์ของภาคีก็โผล่พรวดขึ้นมาในความคิด "หรือว่าเขากำลังจะไปไหน" ปลายนิ้วเรียวเล็กที่กำลังพิมพ์แชตส่งให้เพื่อนชะงักงัน ดวงหน้าเล็กขาวเหม่อลอยออกไปนอนหน้าต่าง ภาคีที่เดินเข้ามาพร้อมกับผ้าเช็ดผมจึงหยุดมองเหนือฟ้าอย่างสงสัย "ใจลอยไปหาใคร คิดถึงผู้ชายคนอื่นอยู่เหรอ" เขาถามพลางใช้ผ้าขยี้เส้นผมที่เปียกหมาดของตน ทรงผมของเขาตอนที่เปียกและยุ่งเหยิงทำให้ดูกว่าตอนผมแห้งเสียอีก "เปล่าค่ะ ก็แค่เหนื่อย ๆ อ้อแล้วให้เหนือนอนไหนคะ" "นอนบนเตียงพี่ที่ห้องฝั่งโน้น ตามพี่มาสิ" เขาเดินนำเธอไปที่ห้องเดิมที่เธอเห็นกระเป๋าเดินทาง แต่ตอนนี้กระเป๋านั่นถูกเก็บพิงไว้ข้างตู้เสื้อผ้าตามเดิมเรียบร้อย "พี่คีมีแพลนจะไปไหนหรือเปล่าคะ" เหนือฟ้าตัดสินใจโพล่งถามออกไปตรง ๆ ภาคีที่กำลังเดินออกจากห้องนอนหมุนกายกลับมา คิ้วสีเข้มหนาขมวดเป็นปมเหมือนไม่อยากตอบคำถามเธอเท่าไหร่นัก "อืม พี่มีแพลนเดินทางเร็ว ๆ นี้ ยังไงเราคุยกันวันหลังดีกว่า ฝันดีครับ" ภาคีรีบร้อนตัดบท เพราะเขายังทำใจไม่ได้ ทั้งที่ตนเองซื้อกินมาตลอด แต่บทจะถูกใจใครสักคน กลับหลงจนโงหัวไม่ขึ้น โดยเฉพาะการตกหลุมรักสาวพลัสไซซ์คนนี้ และการตกหลุมรักผิดเวลาก็ทำให้เขาเลือกไม่ได้ว่าควรจะเลือกอนาคต หรือควรจะเลือกเธอดีเมื่อคืนเหนือฟ้านอนไม่ค่อยหลับเพราะอดคิดไม่ตกเรื่องที่เขาบอกมีแพลนจะเดินทางเร็ว ๆ นี้ วันนี้ก็เลยตื่นตั้งตีห้าครึ่ง ทั้งที่มีคาบเรียนแรกตอนแปดโมงเช้า นิสิตสาวอาบน้ำแต่งตัวมองหาชุดนักศึกษาที่เธอแขวนไว้กับตู้ กะว่าจะขอเตารีดของภาคีมาใช้รีดชุดตอนเช้า ทว่าชุดของเธอกลับไม่ได้แขวนไว้ที่เดิม เพราะมันถูกแขวนไว้ที่โต๊ะยืนรีดผ้ายิ่งไปกว่านั้นทั้งเสื้อและกระโปรงของเธอก็ถูกรีดจนเนี๊ยบไม่มีรอยยับรอยพับใด ๆ"ฝีมือพี่คีเหรอ" หญิงสาวพูดพึมพำพลางหยิบชุดนักศึกษามาใส่ แล้วคิดว่าจะทำมื้อเช้าให้เขารับประทาน เขาจะได้รู้ว่าเธอเองก็มีเสน่ห์ปลายจวักอยู่เหมือนกันผ่านไปเพียงสิบกว่านาทีไข่กระทะกับนมจืดก็ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะกินข้าว แต่รอจนหกโมงครึ่งภาคีก็ยังไม่ตื่น เหนือฟ้าจึงเดินไปเคาะห้องทำงาน"พี่คีคะ พี่คีตื่นหรือยัง"เพราะเขาไม่ตอบเธอจึงค่อย ๆ บิดกลอนประตูเข้าไปแล้วเดินให้เงียบที่สุด แต่พอเห็นว่าเขานอนหลับฟุบอยู่หน้าจอคอม จึงเข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังไม่ตื่น เหนือฟ้าหยุดที่หน้าจอคอม มองดูบางสิ่งที่เขาทำค้างไว้ ผลปรากฏว่ามันคือเอกสารภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ ซึ่งเธออ่านไม่ออกเลยสักตัว"พี่คี เหนือมาปลุกไปกินมื้อเช้าค่ะ"
เหนือฟ้านอนร้องไห้ตาบวมจนถึงสามทุ่ม จึงลุกเดินไปอาบน้ำแล้วกลับมาอ่านชีตสรุปสำหรับการสอบเก็บคะแนนในสัปดาห์หน้า"เหนือ พี่จะเอาเสื้อผ้าไปซักให้ เปิดประตูให้พี่หน่อยครับ"คนด้านในแง้มประตูออกเพียงเล็กน้อย "เหนือซักเองได้ค่ะ พี่คีป่วยอยู่ก็ไปพักเถอะ"จังหวะที่กำลังจะปิดประตู ภาคีสังเกตเห็นดวงตาที่บวมช้ำ เขาจึงจับขอบประตูไว้ไม่ให้เหนือฟ้าปิด "เป็นอะไรรึเปล่า""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เหนือจะอ่านหนังสือสอบ" เหนือฟ้าพยายามดึงประตูที่ภาคีกำลังง้างออก แต่ด้วยสู้แรงคนตัวใหญ่กว่าไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องยอมให้เขาเปิดประตูเข้ามาคนที่กำลังเสียใจรีบเดินหนีไปโต๊ะทรงกลมริมหน้าต่างห้องนอน พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล "เหนือ หันมาหาพี่หน่อย""พี่คีจะไปญี่ปุ่นเหรอคะ"ภาคีอึ้งคิ้วเข้มขมวดเข้ามากัน นึกย้อนไปถึงตอนที่เขาให้เธอไปหยิบยาในลิ้นชัก สงสัยคงจะไปเจอเอกสารมหาลัยที่ญี่ปุ่นกับพาสปอตที่เขาแอบเก็บไว้"ใช่ พี่จะไปเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น""แล้วพี่คีคิดจะบอกเหนือเมื่อไหร่ หรือคิดจะบอกตอนที่เหนือถลำลึกไปมากกว่านี้" เหนือฟ้าเถียงเสียงสั่นพยายามเดินหนีไปที่อื่นไม่ให้เขาเห็น ภาคีรีบเดินไปดักหน้า ทำให้พบว่าดวงหน้าจิ้มลิ้ม
รุ่งเช้าของวันเสาร์เหนือฟ้าเก็บเสื้อผ้าและของสำคัญลงกระเป๋าสะพายใบย่อม ส่วนที่เหลือกะว่าจะไปเอาเพิ่มเติมที่บ้าน หญิงสาวออกมานั่งรอภาคีที่หน้าทีวี พักหนึ่งเขาก็เดินตัวหอมฉุยจนกลิ่นกายตีขึ้นจมูก"กลิ่นเซ็กซี่จัง" เหนือฟ้านั่งเขินบิดแล้วลอบมองภาคีที่กำลังกดโทรศัพท์คุยกับแม่ของเขา ขณะที่เหนือฟ้าได้โอกาสหยิบโทรศัพท์มาส่องโซเชียลเพื่อเช็กเรตติ้งของแฟนหนุ่ม โดยใช้โปรไฟล์ชื่อ 'สาวน้อยข้าวโพด' ตามกดไลก์รูปภาพในแอป ๆ หนึ่งของเขา แล้วยังคอมเมนต์ให้กำลังใจภาคีอยู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Pakee Kritkratanadorn บ้าน ถูกใจ 188,920 คน
รถแวนของผอ.ทัพฟ้าจอดยังโรงรถบริเวณบ้านไม้ของภาคี แฟนหนุ่มอนาคตไกลของลูกสาวจึงเดินมาต้อนรับอีกครั้ง"ผมจะพาไปดูห้องนอนครับ""อืม บ้านสวยมากเลยภาคี แล้วนี่เธอปลูกเองเหรอ" ผอ.ทัพฟ้ามองความใหญ่โตของบ้านไม้สไตล์แปลกตาที่เหมือนกับบ้านฝรั่งในต่างประเทศ"ครับ ผมเป็นคนออกแบบเองแล้วก็ควบคุมการก่อสร้างเอง""โห คนเก่ง เก่งสุดยอด" ครูนับเก้าชมไม่ขาดปาก แต่สามีด้านข้างกลับทำหน้าจ๋อยใส่ "ไม่ต้องเลยค่ะ พี่ฟ้าต้องง้อนับ เชอะงอนแล้ว""อ้าวเดี๋ยวค่ะแม่" เหนือฟ้าวิ่งตามแม่เข้าไปในบ้าน จึงเหลือเพียงลูกผู้ชายต่างวัยทั้งสองคนที่กำลังยืนจ้องตาทำสงครามเย็นกันอยู่"ผมช่วยให้อาคืนดีกับคุณแม่ได้นะครับ ถ้าอยากให้ผมช่วยจัดดินเนอร์พิเศษให้ ผมก็ทำให้ได้หมด" ภาคียื่นข้อเสนอเอาใจพ่อของแฟนสาว"งั้นจัดดินเนอร์กับหานักสีไวโอลินให้ให้ฉันหน่อย" ผอ.ทัพฟ้ายิ้มแล้วตบไหล่เจ้าของไร่"แค่นี้เองเหรอครับ ผมนึกว่าจริง ๆ แล้วอาจะมาจับผิดผมซะอีก""อาไม่กล้าขออะไรเธอมากหรอกภาคี แล้วที่เดินทางมาด้วยก็ไม่ได้จะมาจับผิดอะไรเธอกับยัยเหนือ แค่หาที่เหมาะ ๆ ง้อแม่นับเขาเท่านั้นเอง แต่จะทำอะไรกันก็อย่าลืมป้องกันให้ดี แล้วก็เรียกพ่อเธอไม่ต้องเร
เช้าวันอาทิตย์ผอ.ทัพฟ้าและครูนับเก้าเดินทางกลับกรุงเทพก่อน โชคดีที่ได้ภาคีจัดดินเนอร์พร้อมกับดนตรีหวานชื่นให้ทำให้พ่อแม่ของเหนือฟ้ากลับมาคืนดีกระหนุงกระหนิงกันดังเดิมหลังมื้อเช้าภาคีขับรถกอล์ฟพาแฟนสาวไปชมวิวทิวทัศน์ในไร่ แล้วหยุดรถที่โรงเรือนปลูกวนิลาด้านข้างมีแปลงผักที่ยังไม่ได้เพาะปลูกปล่อยโล่งอยู่"พี่คีกำลังจะปลูกอะไรเพิ่มเติมเหรอคะ""ยังไม่รู้เหมือนกันครับ คงจะปลูกผักอายุสั้นเก็บเกี่ยวได้เร็ว แล้วเหนืออยากปลูกอะไรล่ะ พี่มีเมล็ดให้เลือก" ภาคีบอกแล้วหายเข้าไปในโรงนาหลังเล็กข้างโรงวนิลา แล้วกลับออกมาพร้อมกับซองเมล็ดปลูกผักเหนือฟ้าก้มดูผักแต่ละชนิดในตะกร้าและสะดุดตาไปที่ผักของโปรดอย่าง แตงกวา "ปลูกอันนี้ค่ะ""ทำไมปลูกแตงกวาล่ะ พี่นึกว่าเหนือจะปลูกพวกคะน้า กวางตุ้งอะไรแบบนี้ซะอีก""เหนือไม่ค่อยชอบกินคะน้าค่ะ มันเหม็นเขียว แต่เหนือชอบแตงกวามาก ๆ""มีผักอะไรที่เหนือไม่ชอบอีกไหม""ไม่ชอบกินหอมแดงกับต้นหอมค่ะ ต่อให้ทำให้เละหรือเปื่อยก็ไม่ชอบอยู่ดี""อย่างน้อยก็กินผักอย่างอื่นได้ ไปเถอะเดี๋ยวพี่จะพาไปปลูกแตงกวา" เขาบอกแล้วเดินหายเข้าไปในโรงนาหลังเล็กอีกรอบแล้วกลับออกมาพร้อมกับถุงดำหยอดเม
เช้านี้เหนือฟ้าเดินทางไปมหาลัยด้วยตนเองโดยรถไฟฟ้าใต้ดินที่ติดกับคอนโด เพราะเมื่อคืนภาคีทำงานหามรุ่งหามค่ำ เธอจึงไม่อยากรบกวน แล้วปล่อยให้เขานอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนิสิตสาวใช่เวลาในการสอบสามชั่วโมงเต็มตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงสิบโมง แล้วเรียนต่อภาคบ่ายจนถึงสี่โมงเย็น ก่อนกลับจึงแวะซื้อของกินมากมายไปฝากเขา"คุณเหนือฟ้ารึเปล่าครับ" รปภ.หน้าคอนโดเดินเข้ามาดักหน้าแล้วก้มลงดูรูปในโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบว่าใช่ตัวจริงหรือเปล่า"ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ""พอดีเจ้าของห้อง 909 ฝากคีย์การ์ดไว้ครับ เห็นว่ามีธุระด่วน""อ้อ ขอบคุณค่ะ" เหนือฟ้ารับคีย์การ์ดของภาคีมาจากมือของรปภ.แล้วเดินกลับห้องพักด้วยสีหน้าเป็นกังวล จึงตัดสินใจโทรไปหา"พี่คีอยู่ไหนคะ เหนือกลับมาถึงห้องแล้วนะคะ""ฮัลโหลเหนือ พี่ขอโทษนะ พี่ต้องบินด่วนกลับมาแม่ฮ่องสอน พอดีรถคนงานประสบอุบัติเหตุ คนงานบาดเจ็บสามคนพ่อเลยส่งพี่มาดูแลพวกเขา""แล้วเป็นอะไรกันมากไหมคะ""ยังไม่รู้เลยครับ พี่ต้องรอไปสอบถามอาการจากหมอที่โรงพยาบาลก่อน ยังไงสามสี่วันนี้เหนืออยู่คนเดียวไปก่อนนะ ถ้าอยู่คนเดียวไม่ได้ เหนือก็กลับไปนอนที่บ้านก่อน""ไม่เป็นไรค่ะ เหนืออยู่ได้ เดินทาง
เสียงนาฬิกาปลุกของเหนือฟ้าดังขึ้นตั้งแต่ตีห้า เช้านี้เธอคิดจะทำอาหารให้ภาคีกินก่อนไปเรียน แต่หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พอเปิดประตูออกจากห้องนอนกลับพบว่าพ่อครัวหนุ่มกำลังยืนผัดอะไรบางอย่างอยู่หน้าเตา สวมผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนรูปควาย เหนือฟ้าเดินตรงมาหาภาคีที่เตา ชะโงกหน้าลงไปดูเมนูส่งกลิ่นหอมในกระทะ "ผัดบ่ะหนุน ผัดแบบใส่พริกแกงเผ็ด ใช้ขนุนอ่อนหน่อย กินตอนร้อน ๆ อร่อยมาก น้องชายพี่ทำให้กินบ่อย" ภาคีบอกแล้วปิดแก๊สเทผัดขนุนอ่อนใส่จาน"พร้อมกินค่ะ หอมน่ากินมาก ๆ เลย""ผัดบ่ะหนุนอย่างเดียวเหรอที่น่ากิน คนทำล่ะ" ภาคีถามขณะเดินนำจานผัดเผ็ดขนุนกลิ่นหอมไปวางที่โต๊ะ โดยมีเหนือฟ้าทำหน้าที่คดข้าวสองจานตามไปทีหลัง"คนทำก็น่ากินอยู่นิดนึง" นิสิตสาวนั่งลงฝั่งตรงข้าม พูดเสียงเบาอย่างอาย ๆ"อนาคตพี่จะให้เหนือกินแล้วกันนะ"เขายังคงตะล่อมและหว่านล้อมให้เธอใจแตก โชคดีที่พี่คีไม่ชอบคนชอบบังคับฝืนใจ การคบหากับเขาจึงมีแต่ความสบายใจภาคีขับรถไปส่งเหนือฟ้าแถมยังแวะซื้อของกินมากมายให้เธอกินระหว่างช่วงพักกลางวัน"อิจฉาอ่ะ พี่คีดูแลเพื่อนรักแก้วดีขนาดนี้เลยเหรอ ดูดิของกินเพียบเลย แฟนแก้วนะทั้งขี้งกทั
*มีฉากหดหู่โปรดทำใจดี ๆ"เมื่อคืนภาคีกล่อมเหนือฟ้าหลับ เขาทำเพียงตบ ๆ หลังเธอราวกับปลอบใจเด็กหญิงที่ยังไม่โต ถึงในใจอยากจะขึ้นไปนอนกอดเธอไว้ แต่กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้เขากลัวว่าจะทิ้งเธอไม่ลง เวลาสามปีที่ญี่ปุ่นสำหรับเขามันช่างรู้สึกยาวนานเหมือนกับสามสิบปี แค่นึกถึงตอนที่ไม่ได้เจอเหนือฟ้า ไม่ได้จับมือ ไม่ได้จูบ เขาก็รู้สึกทรมานใจไปหมดสามวันที่เหลือก่อนจะถึงวันเดินทางภาคียังคงไปรับไปส่งเหนือฟ้าและดูแลจนถึงวินาทีสุดท้าย หลังเลิกเรียนเขาพาเธอไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ดูหนัง และโยนโบว์ลิ่งด้วยกัน บ้างก็พาไปเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนแวะกินเมนูเด็ดร้านดังเรียกได้ว่าทำครบกระบวนการของคนที่เป็นแฟนกันอย่างดีที่สุด"เหนือ พี่ให้ครับ" ภาคีไปเจอตุ๊กตาควายจากร้านขายตุ๊กตาแห่งหนึ่งที่ตลาด เขาจึงแวะซื้อมาฝากเหนือฟ้า"ตัวเท่าฝ่ามือเอง ราคาเท่าไหร่คะ" เหนือฟ้ากอดตุ๊กตาควายดำตัวเล็กแล้วก้มลงฟัดมันอย่างมันเขี้ยว"เจ็ดสิบเก้าบาทครับ""แพงเหมือนกันนะคะ เหนือนึกว่าตัวละห้าสิบบาทซะอีก""ก็มันเหลือตัวเดียวในร้านแล้ว พี่ก็เลยซื้อมา เหนือเก็บไว้เป็นตัวแทนพี่นะ" ภาคีฉีกยิ้มกว้างลูบหัวแฟนสาวอย่างอ่อนโยน"เอาควา
เช้าวันต่อมาหลังจบงานประกวดนางนพมาศ"เย้เย้ ชาหลองกั๋นตกกันเต๊อะ" นิ่มฟ้ากระโดดโลดเต้นวิ่งวนไปรอบตัวมะแป่มกับยายนับเก้าหลังจากที่กรรมการประกาศว่าผู้ชนะการประกวดนางนพมาศรุ่นน้อยและรุ่นใหญ่ปีนี้ได้แก่ตัวแทนจากไร่พิทักษ์มหิงสา เด็กหญิงก็ดีใจออกนอกหน้าประหนึ่งว่าตัวเองเป็นผู้เข้าแข่งขัน"จะกิ๋นหยั่งอีก" หม่อมเจ้าภูวสินทักหลานสาวขณะที่กำลังช่วยลูกชายจัดโต๊ะเพื่อฉลองให้กับชัยชนะของนพมาศสองรุ่น"กิ๋นกั๋นตกไงจ้าว ป้ออุ้ยบ่เคยกิ๋นก่อ" เด็กหญิงเดินไปถามปู่ใกล้ ๆ"ปู่กินขันโตกประจำ ปู่เป็นหนุ่มเหนือเน้อ" คุณปู่ยังหนุ่มอุ้มหลานสาวขึ้นมานั่งในวงแขนแกร่ง"นิ่มฟ้าคะมาอาบน้ำได้แล้วค่ะ น้ำกำลังอุ่นเลย" เหนือฟ้าทำน้ำสมุนไพรด้วยการต้มใบมะขามและหอมแดงบุบซึ่งเธอมักจะใช้วิธีนี้เป็นประจำทุกครั้งที่ลูก ๆ เป็นไข้หวัดมะแป่มอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดเอี๊ยมประโปรงสีฟ้าออกมานั่งแกว่งขารออยู่บนเก้าอี้ตัวยาว ส่วนน่านฟ้ากับบะแต๋งกำลังช่วยปู่ย่าตายายหิ้วตะกร้าผักและเครื่องเคียงออกมาจากในครัวของบ้านแฝดหญิงที่เพิ่งอาบน้ำอาบท่าเสร็จจึงเดินกระโดดดึ๋ง ๆ ออกมาพร้อมกับแพะใส่เสื้อผ้าสองตัว บะแปปกับบะแว้งวิ่งไปทั่วรอบรั้วหน้าบ้าน
ถึงช่วงการประกวดนางนพมาศน้อยและนางนพมาศใหญ่ เมื่อพิธีกรในงานประกาศรายชื่อผู้เข้าแข่งขันซึ่งเป็นตัวแทนจนมาถึงรายชื่อของมะแป่มกับครูนับเก้า สาวงามในชุดไทยต่างรุ่นจึงเดินเยื้องย่างออกมาด้วยท่าทางงดงาม"นางนพมาศน้อยและนางนพมาศรุ่นใหญ่ตัวแทนจากไร่พิทักษ์มหิงสา เด็กหญิงวาริชา มหาจันทร์ น้องมะแป่มอายุสี่ขวบควงคู่มากับคุณทวดนับเก้า.." พิธีกรหนุ่มไม่ทันพูดจบ"ฉันสวยขนาดนี้เป็นทวดเลยเหรอ ฉันคุณยายจ้ะ แค่คุณยาย" ครูนับเก้ารีบสวนกลับว่าตนเป็นยายไม่ใช่ทวด"ขอ ขอประทานโทษครับ" พิธีกรหนุ่มยิ้มเจื่อน "งั้นขอเชิญผู้ประกวดรุ่นใหญ่รุ่นเล็กแนะนำตัวสักเล็กน้อยครับ" ไมค์อันเล็กถูกยื่นมาให้มะแป่มเป็นคนแรก เด็กหญิงมือสั่นเล็กน้อยแต่พอเห็นพี่น่านฟ้าชูสองนิ้วสู้ตายมาให้ ความหวาดหวั่นในหัวใจนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความกล้าหาญทันที"ซาวัดดีค่า หนูชื่อเด็กหญิงวายิชา ม๋าชัน ชื่อเย่นว่ามาแพ่ม อยู่อายุบานหยึ่งโรงเรียนอายุบานเวหะโชนยะกาน วันนี้หนูไม่ได้มาเย่น ๆ เพราะหนูมาเอาต้วยยางวันไปฝากปู้จายค่า""ว้ายตาเถร! ที่ซ้อมกันมามันไม่ใช่แบบนี้นี่ลูก" ครูนับเก้ายกมือปิดปาก แต่ผู้ชมด้านล่างกับปรบมือกรี๊ดกร๊าดชอบอกชอบใจกันยกใหญ่ แ
มะแป่มไม่สามารถอยู่เชียร์นิ่มฟ้ากับน่านฟ้าได้จนจบ เพราะหนูน้อยต้องไปเตรียมตัวประกวดนางนพมาศที่จะเริ่มจัดช่วงเย็นจนถึงมืด แซมมี่จึงพาลูกสาวกลับไปแต่งหน้าแต่งตัวที่บ้าน โดยมียายนับเก้าช่วยทำผมเพราะสาวใหญ่ก็ลงประกวดคู่กับมะแป่มเป็นนพมาศรุ่นใหญ่กับรุ่นเด็กที่จะต้องเดินจับมือขึ้นเวทีพร้อมกันปีนี้ภาคีเข้าประชุมกับหน่วยงานท้องถิ่นออกและเสนอไอเดียให้มีกิจกรรมสร้างสรรค์แปลกใหม่ และห้ามให้มีการจุดพลุในไร่และพื้นที่โดยรอบ เพื่อป้องการสิงสาราสัตว์ในไร่แตกตื่น นอกจากนี้ยังห้ามให้มีการลอยกระทงใบตอง มีแต่การลอยกระทงด้วยผักและขนมปังเพื่อลดมลพิษและขยะที่ก่อให้เกิดน้ำเน่าเสียและส่งผลกระทบกับสัตว์น้ำแต่กระนั้นกิจกรรมเช่น การแสดงดนตรีสด เครื่องเล่นต่างที่มาให้บริการในไร่ก็ยังคงมีอยู่ รวมทั้งการประกวดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับคนในงานและชุมชนก็ยังคงมีต่อไปเสร็จสิ้นการแข่งตอบชื่อผักและสมุนไพรนิ่มฟ้ากับน่านฟ้าก็แทบหมดเรี่ยวแรง เพราะแฝดพี่น้องต้องใช้สมองขบคิดค่อนข้างเยอะ ถึงขนาดนิ่มฟ้าที่มัดผมสวยเกาหัวยุ่งจนเป็นยัยเพิ้ง"ปีหน้านิ่งบ่เอาแล้ว นิ่งไม่แก่งอารัยทั้งนั้น อิดขนาด นิ่งอยากขี่ฟายแก่งมากฟ่า" นิ่ม
ช่วงบ่ายนิ่มฟ้าและน่านฟ้าไปเตรียมตัวแข่งขันตอบชื่อผักและสมุนไพรพื้นบ้านโดยมีทุกคนตามไปให้กำลังใจ เด็กทั้งสองเปลี่ยนเป็นชุดหม้อฮ้อมสวมงอบชาวนาให้เข้ากับกติกาเครื่องแต่งกายที่กรรมการตั้งเงื่อนไขถึงแม้นี่จะเป็นโพรเจกต์แรกของโรงเรียนอนุบาลเวหะชลการที่นำโดยกรรมการบริหารอย่างครูนับเก้าเป็นคนไอเดีย แต่ทั้งผอ.ทัพฟ้าที่เป็นผู้บริหารสูงสุดและภรรยากับเลือกที่จะไม่ขอเป็นกรรมการตัดสิน เพื่อให้ไม่เกิดข้อครหาและการซุบซิบนินทาในภายหลัง"เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวอีกสามสิบนาทีก็แข่งแล้วหนูจะกินข้าวกินอะไรก่อนไหมแม่จะไปซื้อมาให้" เหนือฟ้ามัดผมของนิ่มฟ้าสองข้างแล้วใช้ยางหลากสีสันมัดเป็นข้อเล็ก ๆ แล้วหยิบกระจกให้ลูกสาวส่องดูทรงผม"โค๊ะ! กนอารัยงามย่มเมือง" นิ่มฟ้ากะพริบตาวิบวับใส่กระจกในมือแม่"ไม่ค่อยจะอวยตัวเองเลยเนอะลูกฉัน แล้วสรุปจะกินอะไรไหม""กิ๋นสิจ้าว แต่นิ่งอยากทายิปฉีจุมออนแบบอี่แม่ นิ่งทาได้ก่อ" นิ่มฟ้าจิ้มไปที่ริมฝีปากบางเล็กของเหนือฟ้า"ได้สิคะ แต่แม่จะทาแบบลิปมันวาว ๆ ให้จะได้บำรุงริมฝีปากด้วย" เหนือฟ้าล้วงลิปกลอสแท่งออกมาจากกระเป๋าสะพายข้างแล้วบรรจงละเลงบนปากลูกสาว "เสร็จแล้วค่ะ ส่องกระจกดูสิ"น
ถึงวันแข่งตอบชื่อผักและสมุนไพรพื้นบ้านของนิ่มฟ้าและน่านฟ้า แต่ช่วงเช้าทุกคนรวมตัวไปให้กำลังใจบะแต๋งทำภารกิจแสดงควายร่วมกับหุยหุยพร้อมกับพ่อและตาสำรวยก่อนที่จะไปเชียร์คู่แฝดในรอบบ่าย และรอบเย็นจะเป็นการประกวดนพมาศน้อยในโดมลานการแสดงประจำไร่พิทักษ์มหิงสาซึ่งชุดการแสดงรอบแรกนี้จะถูกเปิดตัวโดยเจ้าภาพจัดงาน และตามมาด้วยการแสดงของฟาร์มควายแคระอีกหลากหลายจังหวัดที่เข้าร่วมด้วยนับสิบรายบนที่นั่งสูงไล่ระดับสองฝั่งซ้ายขวามีป้ายไวนิลสกรีนรูปหุยหุยกับบะแต๋งคู่กัน เมื่อภาคีในชุดผ้าฝ้ายล้านนาพื้นเมืองประยุกต์สีกรมคอจีน และกาเกงผ้าฝ้ายขายาวเข้าคู่กัน โพกผ้าสีขาวสไตล์หนุ่มเหนือ เดินนำทีมจูงพ่อสะเดาควายแคระเผือกเข้ามาในลานการแสดง แถวกลางเป็นหุยหุยลูกของมันพร้อมกับบะแต๋งพี้เลี้ยงคนสนิท ท้ายแถวเป็นแม่บะผางที่จูงโดยตาสำรวยคนคุมควายประจำไร่เมื่อทั้งสามยืนเรียงแถวหน้ากระดานพร้อมกับควายประจำตัวของตน เสียงกรี๊ดกร๊าดละม้ายเหนือฟ้านิ่มฟ้าดังขึ้นแซงหน้าเสียงชาวบ้านที่นั่งชมการแสดงอยู่ฝั่งตรงข้าม"กรี๊ดดด ปาขี้อ้ายแท๋งตาฉำกวย หย่อขนาด หย่อตี้ฉุดในนายกเวจี" นิ่มฟ้าใส่ชุดไทยล้านนาเสื้อผ้าฝ้ายสีชมพูโอรสสวมผ้าซิ่
ช่วงเช้าภาคีสอนลูก ๆ คัดแยกผักพื้นบ้าน สมุนไพรเกือบสามชั่วโมงเต็มแล้วไปสอนบะแต๋งกับหุยหุยเรื่องงานแสดงโชว์ควายแคระประจำไร่ โชคดีที่บะแต๋งคอยฝึกซ้อมกับตาสำรวยและอินเหลาอยู่เป็นประจำ ทำให้หุยหุยฟังคำสั่งเข้าใจ"เดี๋ยวนิ่มกับน่านอยู่บ้านกับป้ออุ้ยแม่อุ้ยนะครับ ป้อจะพาแม่ไปฝากครรภ์ครับ""ปาขี้ฉื้อหนมมาฝากนิ่งกับน่านโตยเน้อ หนุนน้อยเพย์เงินให้ป้อนะ ป้อจะได้มีเงินฉื้อหนม" นิ่มฟ้าตบลงบนก้นแม่"อะไรกันคะ ทำไมแม่ต้องเป็นคนเปย์ ป้อหนูก็มีเงิน" เหนือฟ้าค้อนตาใส่ลูกกับสามี"แต่น่านเห็นแม่เข็บเงินป้อไว้ในตู้เชฟเน้อ" น่านฟ้าชี้ขึ้นไปบนบ้าน"หนูเห็นตอนไหนครับน่านฟ้า หนูอาจจะฝันไปก็ได้" คุณแม่ปฏิเสธทั้งที่เธอเรื่องเก็บเงินของสามีไว้ในตู้เซฟคือเรื่องจริง"เห็นตาหยอดเลย" เด็กชายแหกตาตัวเองให้แม่ดู"ป้อ อี่แม่แต๋งเสร็จแล้ว" ไม่มีครั้งไหนที่แม่ไปโรงพยาบาลแล้วจะไร้เงาลูกชายคนนี้ เพราะเรื่องที่แม่เคยแท้งน้องไปมันยังฝังในใจของบะแต๋งอยู่เสมอ เด็กชายจึงกลัวว่าแม่จะเป็นอะไรไป จึงพยายามเกาะติดแม่ทุกฝีก้าวเพื่อคอยดูแลแม่ให้ดีที่สุด"แย้วอะหยังน่านเติงไปกับหนุนฟ้าบ่ได้ น่านอยากไปดูหมอฉวย ๆ ที่โฮงยา" เด็กชายตัวน้อ
"หนุนเหนือตึ่งได้แล้วจ้าว" นิ่มฟ้าเขย่าตัวแม่แล้วหันไปเขย่าพ่อต่อ "ป้อขี้ตื่ง นิ่งอยากปิ๊กเฮือน นิ่งกึ๊ดเติงหาอ้ายแท๋งกับน่าน"เหนือฟ้ากับภาคีลุกพร้อมกับยืดเส้นยืดสายกะพริบตาปริบ ๆ มองดูลูกสาวที่ตื่นแต่เช้าตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น"ยังตีห้าอยู่เลยลูก ทำไมรีบตื่นจังคะ" คุณแม่เอื้อมมือกดเปิดสวิตซ์ไฟ นิ่มฟ้าจึงกระเถิบตัวลงจากเตียงไปหยิบผ้าขนหนูลายการ์ตูนของตนแล้วเดินเข้าห้องน้ำ"นิ่งฉันยากับน้องว่าชาซ้อมแก่ง นิ่งท่องไปให้ทงเวยา" เด็กหญิงแสนรู้เดินสับเท้าตรงไปยังซิงค์ล้างหน้า ดันเก้าอี้ตัวสั้นก้าวขึ้นไปยืนส่องกระจกยิ้มหวานสะบัดผมชื่นชมความงามของตนเอง "ต๊าย กนอายัยงามเฟ่อร์""ฮึ ๆ" ภาคีหัวเราะในลำคอเพราะลูกสาวมีท่าทางมั่นอกมั่นใจเกินวัย"พี่คีหัวเราะอะไรคะ" เหนือฟ้าเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาดื่ม"ก็ลูกดูเป็นเด็กที่พกความมั่นใจเกินร้อย ผิดกับเหนือที่ขาดความมั่นใจ" เขาบอกแล้วเปรียบเทียบเธอกับลูกให้ฟัง"เหนือแค่ไม่มั่นใจในรูปร่างตัวเอง แต่อย่างอื่นก็มั่นใจหมดนะ โดยเฉพาะเรื่องพี่คี" เจ้าของหุ่นเจ้าเนื้อคลานสี่ขาแล้วขึ้นคร่อมเอวสามีต่อหน้านิ่มฟ้าที่กำลังยืนแปรงฟัน"อี่แม่จะปาสมปันก๊ะ คิก ๆ
"โอ้ หัวใจ๋แหลวแหล้ะแหลวแล่น โอ้ อะหยังปี้ทำย้ายใจ๋น้องแหลวแฝ้ะแหลวแฟ่น" เด็กหญิงร้องเพลงขณะที่แม่กำลังใช้หวีสางผมหยักศกสีดำขลับ"เพลงอะไรของหนูคะนิ่มฟ้า แม่ไม่เคยได้ยินมาก่อน" เหนือฟ้าถามแล้วประแป้งบาง ๆ บนหน้านิ่มฟ้า"นิ่งแต่งเองจ้าว เพลงของนิ่งม่วนอ๋กม่วนใจ๋ดีก่อ" เด็กหญิงในชุดกระโปรงลายนกฟลามิงโก้สีชมพูเอี้ยวตัวไปถามแม่"ม่วนอ๋กม่วนใจ๋ขนาดจ้าว" ตอบด้วยรอยยิ้มยกมือบีบแก้มป่องของลูกทั้งสองข้างอย่างมันเขี้ยว"แล้วป้อทำหยังอยู่จ้าว" หนูน้อยฉงนทำหน้ามึนงงเพราะเห็นพ่อกำลังซิทอัพอยู่นอกระเบียงสาวอวบชะโงกหน้าดูครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อหลายนาทีก่อนที่เธอแกล้งอ่อยสามีให้ตบะแตก "สงสัยป้อจะแข็ง""แข็งกือหยัง อะหยังแข็งก๊ะ" มือเล็กสะกิดถามแม่"อ้อ แม่หมายถึงแข็งแรงจ้ะ ฮ่าฮ่า" เกือบหลุดบอกลูกในสิ่งที่ไม่ควรพูดไปซะแล้ว ขืนหลุดบอกไปว่าควายน้อยของพ่อแข็ง มีหวังต้อนถามยันสว่างแน่เลยนิ่มฟ้ากระดึ๊บตัวลงจากเตียงเดินไปรื้อถุงของเล่นและเครื่องสำอางเด็กและอุปกรณ์แต่งตัวที่ย่าต่ายซื้อให้ออกมาวางทีละชิ้น หนูน้อยหันไปพิจารณาแม่ แล้วส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปยังพ่อที่กำลังออกกำลังกายอย่างแข็งขั
ระหว่างรอสามีอาบน้ำเหนือฟ้ารู้สึกหิวจนคลื่นไส้จึงตัดสินใจสั่งอาหารจากภัตตาคารชุดใหญ่ให้มาเสริฟ์ยังวิลล่าของไร่ ภาคีที่ผิวปากอารมณ์ดีออกมาในสภาพผ้าขนหนูพันรอบเอวผืนสั้นจนเห็นขาอ่อนขาวจั๊วะชะงักงันเล็กน้อย เพราะกลัวพวกพนักงานเห็นตนอยู่ในชุดเกือบเปลือยหลังจากคนที่ภัตตาคารทยอยออกไปจากวิลล่า พ่อเลี้ยงหนุ่มจึงย่องออกไปหาภรรยาช้า ๆ ที่ระเบียงห้องริมสระว่ายน้ำ"หนุนน้อยสั่งอะไรมาเยอะแยะเลย หิวมากเลยเหรอ" เขายืนพิงต้นกล้วยไม้ทั้งที่ทั้งเนื้อตัวมีเพียงผ้าขนหนู"หิวขนาดค่ะ ก็พี่คีมัวแต่ขัดอะไรอยู่ในห้องน้ำตั้งนาน เหนือรอไม่ไหวก็เลยโทรสั่ง แต่เหนือสั่งของโปรดพี่คีมาด้วย""ไหนบอกมาสิว่าพี่ชอบอะไร" เขาสาวเท้าเข้ามาแล้วกอดไหล่เธอจากด้านหลังเกยคางแนบบ่า"พี่คีควรไปใส่เสื้อผ้าก่อนนะคะ ถึงนี่จะเป็นวิลล่าส่วนตัวแต่พี่คีก็ไม่ควรมาเดินนุ่งผ้าขนหนูโชว์ตัวแบบนี้" เหนือฟ้าบ่นอุบอิบแล้วตักแกงคั่วเห็ดถอบใส่ปาก"คืนนี้กะว่าจะไม่ใส่" เขายังคงหยอกย้อนกวนประสาท"ถ้างั้นเหนือจะเดินแก้ผ้าบ้างดีไหมคะ" นัยน์ตากลมมองขวางอย่างเอาเรื่อง"โอเคครับ อย่าแก้นะคนดี เดี๋ยวพี่จะขับรถกลับไปเอาเสื้อผ้าก่อนเอาชุดนอนมาเผื่อเหนือด้