เหนือฟ้านั่งบิดขี้เกียจอยู่ใต้โคมไฟสีส้มสลัว ดวงตากลมเริ่มพร่าเลือนจนภาคีที่กำลังจัดวางกับข้าวถึงต้องชะเง้อคอมองดูด้วยความกังวล
"เสร็จแล้วครับ มากินได้เลย" หนุ่มมาดเซอร์ในชุดผ้ากันเปื้อนมัดจุกรวบเก็บผมไว้ครึ่งหัวเดินมาตามนิสิตแสนขยันในห้อง สาวอวบกลั้นยิ้มเพราะเธอโคตรโชคดีที่ได้เห็นหนุ่มฮ็อตขวัญใจสาวค่อนประเทศในสภาพพ่อบ้านกล้ามโต "รับทราบค่ะ" เหนือฟ้าเดินตรงไปที่โต๊ะกินข้าว มองข้าวซอยไก่ชามใหญ่และน้ำข้าวโพดปั่นนมสดฮอกไกโดกลิ่นหอมสองชุด ภาคีนั่งลงฝั่งตรงข้าม แล้วรินน้ำเปล่าเพิ่มให้เธออีกหนึ่งแก้ว ทำไมเขาช่างดีกับเธอมากมายขนาดนี้ ทั้งที่เธอทำตัวเย็นชากับเขาสารพัด แต่เขาก็ไม่โกรธเลยสักครั้ง "พี่คีทำอาหารน่ากินจัง" เหนือฟ้าบอกแล้วตักข้าวซอยไก่ร้อน ๆ คำแรกใส่ปาก ดวงตากลมถลึงมองเมนูดังกล่าวในชามตัวเอง แล้วเริ่มจ้วงกินคำใหญ่อย่างลืมตัว จนพ่อครัวหัวเราะร่วน "อร่อยใช่ไหม กินเยอะ ๆ นะเดี๋ยวจะผอมไป" เขาแซว "อร่อยมากค่ะ ไก่ก็เปื่อยมาก น้ำซุปก็จัดจ้าน กดไลก์ให้เลย" เหนือฟ้าฉีกยิ้มเคี้ยวแก้มตุ่ย ภาคีรู้สึกภูมิใจที่ทำให้สาวที่เขาลงทุนจีบมาเป็นแม่ของลูกเอ่ยปากชมได้ ทั้งสองกินไปคุยไปกระหนุงกระหนิงจนกระทั่งข้าวซอยไก่หมดเกลี้ยง เหนือฟ้าจัดการทำความสะอาดด้วยการซดน้ำซุปจนไม่มีเหลือสักหยด "ดีจัง เลี้ยงง่ายแบบนี้พี่ชอบ" ภาคีลุกแล้วหยิบทิชชูมาซับปากที่เปื้อนคราบน้ำซุป เหนือฟ้านั่งตัวเกร็ง "เอ่อ ขอบคุณค่ะ งั้นเหนือไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยมาทำรายงานต่อดีกว่า" "เดี๋ยว" เขาคว้าข้อมือเธอ แล้วรีบปล่อยทันทีเพราะกลัวว่าจะห้ามใจตัวเองไม่ไหว "คือ พี่จะบอกว่านั่งพักสักสิบถึงสิบห้านาทีรอให้อาหารย่อยแล้วค่อยอาบน้ำดีกว่า อาบน้ำหลังกินเสร็จจะทำให้จุกได้นะ" "อ้อ งั้นเหรอคะ แล้วทำอะไรดี" เหนือฟ้าพึมพำมองหากิจกรรมทำเพื่อรอเวลาให้อาหารย่อย "ดูทีวีดีกว่า" เขาบอกแล้วเดินไปเปิดทีวี หยิบรีโมตส่งให้เธอ "ขอบคุณค่ะ แต่เหนือขอช่วยล้างจานก่อนได้ไหมคะ เหนือไม่อยากเป็นภาระพี่คีค่ะ" เหนือฟ้าหยิบถ้วยชามไปที่ซิงค์แล้วตั้งใจล้างจนสะอาดเอี่ยม ภาคีจึงอาสาเข้าไปดูรายงานที่เธอพิมพ์ไว้ในคอมพิวเตอร์ และช่วยเพิ่มเติม แก้ไขบางส่วนให้ ภาคีเพลิดเพลินกับการออกไอเดียรายงานของเหนือฟ้า พอเขาเงยหน้าขึ้นจากจอนาฬิกาบนฝาผนังก็บอกเวลาหนึ่งทุ่ม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันนับเก้า แม่ของเหนือฟ้าโทรเข้ามาพอดี "ภาคีลูก แม่เอากระเป๋าเสื้อผ้าเหนือฟ้ามาให้จ้ะ หนูลงมาเอาให้น้องหน่อย" ภาคีรีบร้อนลงไปรับสัมภาระของเหนือฟ้า นับเก้าในชุดเดรสสีม่วงประดับคริสตัลก้าวขาลงจากรถแวนหรู ส่งกระเป๋าเสื้อผ้าให้กับชายตัวสูงที่เดินยกมือสวัสดีมาแต่ไกล นับเก้าครูสาวรุ่นใหญ่ ภรรยาผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังรับไหว้อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม "ขอบคุณมากนะครับ ผมคงไม่ได้รบกวนมากเกินไปใช่ไหม" ภาคีรับกระเป๋าของเหนือฟ้ามาจากแม่ของเธอ "ไม่รบกวนหรอกจ้า อีกสองเดือนก็จะไปญี่ปุ่นแล้วไม่ใช่เหรอ มีเวลาสั้น ๆ ได้อยู่กับน้องก็ใช้มันให้เต็มที่นะลูก" "ยังไง คุณแม่อย่าเพิ่งบอกเรื่องที่ผมจะไปเรียนปริญญาโทต่อที่ญี่ปุ่นกับเหนือฟ้าได้ไหมครับ ผมอยากบอกน้องเอง" "ได้เลยจ้ะ แม่จะรูดซิปปากให้สนิทเลย ยังไงขอบคุณคีมากนะที่ดูแลเหนือฟ้าให้แม่ ปกติแล้วกลับไปบ้านเด็กคนนี้ก็หมกตัวอยู่ในห้องกับแมวตลอด ไม่ค่อยออกไปพบปะใครหรอก น้องเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง แม่ก็เลยอยากให้เขาลองมาใช้ชีวิตกับคนอื่นบ้าง อาจจะทำให้เขามั่นใจในตัวเองมากขึ้น" "ผมจะทำให้น้องเป็นคนมั่นใจในตัวเองให้ได้เลยครับ" ภาคียืนรอส่งให้รถแวนสีดำขับออกไปจากคอนโดจนลับตา เขาจึงกลับขึ้นมาบนห้อง "อ้อ เหนือแม่ของเหนือ..." ชายหนุ่มรีบเม้มปากสนิท เพราะเหนือฟ้านอนหลับคารีโมตทีวีไปเรียบร้อย เขาจึงไม่อยากรบกวนเธอในเวลาพักผ่อน เจ้าของห้องหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ แต่นั่งปุป ศีรษะของเหนือฟ้าก็ไหลลงมาทับบนตักเขาทันที "อยากกินลูกชิ้นปิ้ง กับเห็ดหอมย่างอ่ะแม่" "ขนาดละเมอยังเป็นของกินอีกเหรอ" หนุ่มมาดเซอร์ก้มลงแล้วใช้ปลายนิ้วเขี่ยเส้นผมของเหนือฟ้าออกให้พ้นจากหน้า เพื่อที่เขาจะได้เก็บรายละเอียดของใบหน้าจิ้มลิ้มนี้ให้มากที่สุด ก่อนที่จะจากกันไปอีกหลายปี ด้วยความที่เกรงใจสาวน้อยขี้เซา เขาจึงได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อทนดูทีวีอย่างเงียบ ๆ ไม่กล้าปลุกให้คนง่วงนอนตื่นขึ้น จนเวลาล่วงเลยไปถึงสองทุ่ม เหนือฟ้าจึงเปิดเปลือกตาออกแล้วรู้สึกว่าตัวเองนั้นนอนหนุนบางสิ่งอยู่ หญิงสาวขยับใบหน้าแล้วเงยขึ้นมองภาคีที่กำลังก้มมองเธออยู่ก่อนแล้ว "ตื่นแล้วเหรอ ไปอาบน้ำได้แล้วครับ" เขาเอานิ้วจิ้มแก้มเธอ เหนือฟ้าดีดตัวออกอย่างไว "เหนือไปหนุนตักพี่คีตั้งแต่ตอนไหนคะ" "ก็เมื่อชั่วโมงก่อน พอพี่นั่งลงปุปหัวเหนือก็ร่วงลงมาบนตักพี่เลย ดูสิขาพี่เป็นเหน็บชาเลย" ภาคีลุกเดินกระเผลก ๆ "นี่กระเป๋าเสื้อผ้าเหนือนะ แม่นับเขามาส่งให้เมื่อตอนหัวค่ำ เดี๋ยวพี่ไปทำงานของพี่ก่อน เหนืออาบน้ำก่อนเลย เดี๋ยวพี่ค่อยอาบทีหลัง" "พี่คี" เหนือฟ้าวิ่งไปจับมือของภาคีให้หยุดเดิน "มีอะไรเหรอ" เลิกคิ้วสูงข้างหนึ่ง "เหนือนวดขาให้นะคะ" เหนือฟ้ากะพริบตาช้า ๆ ราวกับวิงวอน "ตามใจเหนือ" เขายิ้มแล้วเดินกลับไปนั่งลงที่เดิมให้แฟนสาวบริการนวดอย่างเต็มที่จนกระทั่งอาการเหน็บชาที่เป็นอยู่ทุเลาขึ้น "เอาล่ะ พอเถอะ พี่ดีขึ้นแล้วครับ" "งั้นเหนือไปอาบน้ำก่อนนะคะ" เหนือฟ้าคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำ หญิงสาวอาบน้ำเพียงสิบห้านาทีจึงกลับออกมาตามภาคีไปอาบบ้าง แต่กลับพบว่าเขากำลังนั่งอ่านเอกสารจำนวนมากพร้อมกับโทรศัพท์คุยกับใครบางคนเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างคล่องแคล่ว แถมยังกางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไว้บนเตียงนอนด้วย เหนือฟ้าเดินกลับมานั่งทำงานพอเปิดดูไฟล์เอกสาร หญิงสาวก็ยิ้มจนปากแทบฉีกถึงรูหู เพราะภาคีจัดการทำให้จนเกือบเสร็จหมดแล้ว เธอจึงเหลือเพียงการทำสรุปรายงานสั้น ๆ เท่านั้น นิสิตสาวปั่นงานจนเสร็จเกือบสามทุ่มครึ่ง "เฮ้อเสร็จสักที" หลังจากปิดคอมพิวเตอร์เหนือฟ้าจึงหยิบโทรศัพท์มาเช็กอีเมล์ และแชตของเพื่อนที่มหาลัย ระหว่างนั้นภาพของกระเป๋าเดินทางใบยักษ์ของภาคีก็โผล่พรวดขึ้นมาในความคิด "หรือว่าเขากำลังจะไปไหน" ปลายนิ้วเรียวเล็กที่กำลังพิมพ์แชตส่งให้เพื่อนชะงักงัน ดวงหน้าเล็กขาวเหม่อลอยออกไปนอนหน้าต่าง ภาคีที่เดินเข้ามาพร้อมกับผ้าเช็ดผมจึงหยุดมองเหนือฟ้าอย่างสงสัย "ใจลอยไปหาใคร คิดถึงผู้ชายคนอื่นอยู่เหรอ" เขาถามพลางใช้ผ้าขยี้เส้นผมที่เปียกหมาดของตน ทรงผมของเขาตอนที่เปียกและยุ่งเหยิงทำให้ดูกว่าตอนผมแห้งเสียอีก "เปล่าค่ะ ก็แค่เหนื่อย ๆ อ้อแล้วให้เหนือนอนไหนคะ" "นอนบนเตียงพี่ที่ห้องฝั่งโน้น ตามพี่มาสิ" เขาเดินนำเธอไปที่ห้องเดิมที่เธอเห็นกระเป๋าเดินทาง แต่ตอนนี้กระเป๋านั่นถูกเก็บพิงไว้ข้างตู้เสื้อผ้าตามเดิมเรียบร้อย "พี่คีมีแพลนจะไปไหนหรือเปล่าคะ" เหนือฟ้าตัดสินใจโพล่งถามออกไปตรง ๆ ภาคีที่กำลังเดินออกจากห้องนอนหมุนกายกลับมา คิ้วสีเข้มหนาขมวดเป็นปมเหมือนไม่อยากตอบคำถามเธอเท่าไหร่นัก "อืม พี่มีแพลนเดินทางเร็ว ๆ นี้ ยังไงเราคุยกันวันหลังดีกว่า ฝันดีครับ" ภาคีรีบร้อนตัดบท เพราะเขายังทำใจไม่ได้ ทั้งที่ตนเองซื้อกินมาตลอด แต่บทจะถูกใจใครสักคน กลับหลงจนโงหัวไม่ขึ้น โดยเฉพาะการตกหลุมรักสาวพลัสไซซ์คนนี้ และการตกหลุมรักผิดเวลาก็ทำให้เขาเลือกไม่ได้ว่าควรจะเลือกอนาคต หรือควรจะเลือกเธอดีเมื่อคืนเหนือฟ้านอนไม่ค่อยหลับเพราะอดคิดไม่ตกเรื่องที่เขาบอกมีแพลนจะเดินทางเร็ว ๆ นี้ วันนี้ก็เลยตื่นตั้งตีห้าครึ่ง ทั้งที่มีคาบเรียนแรกตอนแปดโมงเช้า นิสิตสาวอาบน้ำแต่งตัวมองหาชุดนักศึกษาที่เธอแขวนไว้กับตู้ กะว่าจะขอเตารีดของภาคีมาใช้รีดชุดตอนเช้า ทว่าชุดของเธอกลับไม่ได้แขวนไว้ที่เดิม เพราะมันถูกแขวนไว้ที่โต๊ะยืนรีดผ้ายิ่งไปกว่านั้นทั้งเสื้อและกระโปรงของเธอก็ถูกรีดจนเนี๊ยบไม่มีรอยยับรอยพับใด ๆ"ฝีมือพี่คีเหรอ" หญิงสาวพูดพึมพำพลางหยิบชุดนักศึกษามาใส่ แล้วคิดว่าจะทำมื้อเช้าให้เขารับประทาน เขาจะได้รู้ว่าเธอเองก็มีเสน่ห์ปลายจวักอยู่เหมือนกันผ่านไปเพียงสิบกว่านาทีไข่กระทะกับนมจืดก็ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะกินข้าว แต่รอจนหกโมงครึ่งภาคีก็ยังไม่ตื่น เหนือฟ้าจึงเดินไปเคาะห้องทำงาน"พี่คีคะ พี่คีตื่นหรือยัง"เพราะเขาไม่ตอบเธอจึงค่อย ๆ บิดกลอนประตูเข้าไปแล้วเดินให้เงียบที่สุด แต่พอเห็นว่าเขานอนหลับฟุบอยู่หน้าจอคอม จึงเข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังไม่ตื่น เหนือฟ้าหยุดที่หน้าจอคอม มองดูบางสิ่งที่เขาทำค้างไว้ ผลปรากฏว่ามันคือเอกสารภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ ซึ่งเธออ่านไม่ออกเลยสักตัว"พี่คี เหนือมาปลุกไปกินมื้อเช้าค่ะ"
เหนือฟ้านอนร้องไห้ตาบวมจนถึงสามทุ่ม จึงลุกเดินไปอาบน้ำแล้วกลับมาอ่านชีตสรุปสำหรับการสอบเก็บคะแนนในสัปดาห์หน้า"เหนือ พี่จะเอาเสื้อผ้าไปซักให้ เปิดประตูให้พี่หน่อยครับ"คนด้านในแง้มประตูออกเพียงเล็กน้อย "เหนือซักเองได้ค่ะ พี่คีป่วยอยู่ก็ไปพักเถอะ"จังหวะที่กำลังจะปิดประตู ภาคีสังเกตเห็นดวงตาที่บวมช้ำ เขาจึงจับขอบประตูไว้ไม่ให้เหนือฟ้าปิด "เป็นอะไรรึเปล่า""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เหนือจะอ่านหนังสือสอบ" เหนือฟ้าพยายามดึงประตูที่ภาคีกำลังง้างออก แต่ด้วยสู้แรงคนตัวใหญ่กว่าไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องยอมให้เขาเปิดประตูเข้ามาคนที่กำลังเสียใจรีบเดินหนีไปโต๊ะทรงกลมริมหน้าต่างห้องนอน พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล "เหนือ หันมาหาพี่หน่อย""พี่คีจะไปญี่ปุ่นเหรอคะ"ภาคีอึ้งคิ้วเข้มขมวดเข้ามากัน นึกย้อนไปถึงตอนที่เขาให้เธอไปหยิบยาในลิ้นชัก สงสัยคงจะไปเจอเอกสารมหาลัยที่ญี่ปุ่นกับพาสปอตที่เขาแอบเก็บไว้"ใช่ พี่จะไปเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น""แล้วพี่คีคิดจะบอกเหนือเมื่อไหร่ หรือคิดจะบอกตอนที่เหนือถลำลึกไปมากกว่านี้" เหนือฟ้าเถียงเสียงสั่นพยายามเดินหนีไปที่อื่นไม่ให้เขาเห็น ภาคีรีบเดินไปดักหน้า ทำให้พบว่าดวงหน้าจิ้มลิ้ม
รุ่งเช้าของวันเสาร์เหนือฟ้าเก็บเสื้อผ้าและของสำคัญลงกระเป๋าสะพายใบย่อม ส่วนที่เหลือกะว่าจะไปเอาเพิ่มเติมที่บ้าน หญิงสาวออกมานั่งรอภาคีที่หน้าทีวี พักหนึ่งเขาก็เดินตัวหอมฉุยจนกลิ่นกายตีขึ้นจมูก"กลิ่นเซ็กซี่จัง" เหนือฟ้านั่งเขินบิดแล้วลอบมองภาคีที่กำลังกดโทรศัพท์คุยกับแม่ของเขา ขณะที่เหนือฟ้าได้โอกาสหยิบโทรศัพท์มาส่องโซเชียลเพื่อเช็กเรตติ้งของแฟนหนุ่ม โดยใช้โปรไฟล์ชื่อ 'สาวน้อยข้าวโพด' ตามกดไลก์รูปภาพในแอป ๆ หนึ่งของเขา แล้วยังคอมเมนต์ให้กำลังใจภาคีอยู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Pakee Kritkratanadorn บ้าน ถูกใจ 188,920 คน
รถแวนของผอ.ทัพฟ้าจอดยังโรงรถบริเวณบ้านไม้ของภาคี แฟนหนุ่มอนาคตไกลของลูกสาวจึงเดินมาต้อนรับอีกครั้ง"ผมจะพาไปดูห้องนอนครับ""อืม บ้านสวยมากเลยภาคี แล้วนี่เธอปลูกเองเหรอ" ผอ.ทัพฟ้ามองความใหญ่โตของบ้านไม้สไตล์แปลกตาที่เหมือนกับบ้านฝรั่งในต่างประเทศ"ครับ ผมเป็นคนออกแบบเองแล้วก็ควบคุมการก่อสร้างเอง""โห คนเก่ง เก่งสุดยอด" ครูนับเก้าชมไม่ขาดปาก แต่สามีด้านข้างกลับทำหน้าจ๋อยใส่ "ไม่ต้องเลยค่ะ พี่ฟ้าต้องง้อนับ เชอะงอนแล้ว""อ้าวเดี๋ยวค่ะแม่" เหนือฟ้าวิ่งตามแม่เข้าไปในบ้าน จึงเหลือเพียงลูกผู้ชายต่างวัยทั้งสองคนที่กำลังยืนจ้องตาทำสงครามเย็นกันอยู่"ผมช่วยให้อาคืนดีกับคุณแม่ได้นะครับ ถ้าอยากให้ผมช่วยจัดดินเนอร์พิเศษให้ ผมก็ทำให้ได้หมด" ภาคียื่นข้อเสนอเอาใจพ่อของแฟนสาว"งั้นจัดดินเนอร์กับหานักสีไวโอลินให้ให้ฉันหน่อย" ผอ.ทัพฟ้ายิ้มแล้วตบไหล่เจ้าของไร่"แค่นี้เองเหรอครับ ผมนึกว่าจริง ๆ แล้วอาจะมาจับผิดผมซะอีก""อาไม่กล้าขออะไรเธอมากหรอกภาคี แล้วที่เดินทางมาด้วยก็ไม่ได้จะมาจับผิดอะไรเธอกับยัยเหนือ แค่หาที่เหมาะ ๆ ง้อแม่นับเขาเท่านั้นเอง แต่จะทำอะไรกันก็อย่าลืมป้องกันให้ดี แล้วก็เรียกพ่อเธอไม่ต้องเร
เช้าวันอาทิตย์ผอ.ทัพฟ้าและครูนับเก้าเดินทางกลับกรุงเทพก่อน โชคดีที่ได้ภาคีจัดดินเนอร์พร้อมกับดนตรีหวานชื่นให้ทำให้พ่อแม่ของเหนือฟ้ากลับมาคืนดีกระหนุงกระหนิงกันดังเดิมหลังมื้อเช้าภาคีขับรถกอล์ฟพาแฟนสาวไปชมวิวทิวทัศน์ในไร่ แล้วหยุดรถที่โรงเรือนปลูกวนิลาด้านข้างมีแปลงผักที่ยังไม่ได้เพาะปลูกปล่อยโล่งอยู่"พี่คีกำลังจะปลูกอะไรเพิ่มเติมเหรอคะ""ยังไม่รู้เหมือนกันครับ คงจะปลูกผักอายุสั้นเก็บเกี่ยวได้เร็ว แล้วเหนืออยากปลูกอะไรล่ะ พี่มีเมล็ดให้เลือก" ภาคีบอกแล้วหายเข้าไปในโรงนาหลังเล็กข้างโรงวนิลา แล้วกลับออกมาพร้อมกับซองเมล็ดปลูกผักเหนือฟ้าก้มดูผักแต่ละชนิดในตะกร้าและสะดุดตาไปที่ผักของโปรดอย่าง แตงกวา "ปลูกอันนี้ค่ะ""ทำไมปลูกแตงกวาล่ะ พี่นึกว่าเหนือจะปลูกพวกคะน้า กวางตุ้งอะไรแบบนี้ซะอีก""เหนือไม่ค่อยชอบกินคะน้าค่ะ มันเหม็นเขียว แต่เหนือชอบแตงกวามาก ๆ""มีผักอะไรที่เหนือไม่ชอบอีกไหม""ไม่ชอบกินหอมแดงกับต้นหอมค่ะ ต่อให้ทำให้เละหรือเปื่อยก็ไม่ชอบอยู่ดี""อย่างน้อยก็กินผักอย่างอื่นได้ ไปเถอะเดี๋ยวพี่จะพาไปปลูกแตงกวา" เขาบอกแล้วเดินหายเข้าไปในโรงนาหลังเล็กอีกรอบแล้วกลับออกมาพร้อมกับถุงดำหยอดเม
เช้านี้เหนือฟ้าเดินทางไปมหาลัยด้วยตนเองโดยรถไฟฟ้าใต้ดินที่ติดกับคอนโด เพราะเมื่อคืนภาคีทำงานหามรุ่งหามค่ำ เธอจึงไม่อยากรบกวน แล้วปล่อยให้เขานอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนิสิตสาวใช่เวลาในการสอบสามชั่วโมงเต็มตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงสิบโมง แล้วเรียนต่อภาคบ่ายจนถึงสี่โมงเย็น ก่อนกลับจึงแวะซื้อของกินมากมายไปฝากเขา"คุณเหนือฟ้ารึเปล่าครับ" รปภ.หน้าคอนโดเดินเข้ามาดักหน้าแล้วก้มลงดูรูปในโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบว่าใช่ตัวจริงหรือเปล่า"ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ""พอดีเจ้าของห้อง 909 ฝากคีย์การ์ดไว้ครับ เห็นว่ามีธุระด่วน""อ้อ ขอบคุณค่ะ" เหนือฟ้ารับคีย์การ์ดของภาคีมาจากมือของรปภ.แล้วเดินกลับห้องพักด้วยสีหน้าเป็นกังวล จึงตัดสินใจโทรไปหา"พี่คีอยู่ไหนคะ เหนือกลับมาถึงห้องแล้วนะคะ""ฮัลโหลเหนือ พี่ขอโทษนะ พี่ต้องบินด่วนกลับมาแม่ฮ่องสอน พอดีรถคนงานประสบอุบัติเหตุ คนงานบาดเจ็บสามคนพ่อเลยส่งพี่มาดูแลพวกเขา""แล้วเป็นอะไรกันมากไหมคะ""ยังไม่รู้เลยครับ พี่ต้องรอไปสอบถามอาการจากหมอที่โรงพยาบาลก่อน ยังไงสามสี่วันนี้เหนืออยู่คนเดียวไปก่อนนะ ถ้าอยู่คนเดียวไม่ได้ เหนือก็กลับไปนอนที่บ้านก่อน""ไม่เป็นไรค่ะ เหนืออยู่ได้ เดินทาง
เสียงนาฬิกาปลุกของเหนือฟ้าดังขึ้นตั้งแต่ตีห้า เช้านี้เธอคิดจะทำอาหารให้ภาคีกินก่อนไปเรียน แต่หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พอเปิดประตูออกจากห้องนอนกลับพบว่าพ่อครัวหนุ่มกำลังยืนผัดอะไรบางอย่างอยู่หน้าเตา สวมผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนรูปควาย เหนือฟ้าเดินตรงมาหาภาคีที่เตา ชะโงกหน้าลงไปดูเมนูส่งกลิ่นหอมในกระทะ "ผัดบ่ะหนุน ผัดแบบใส่พริกแกงเผ็ด ใช้ขนุนอ่อนหน่อย กินตอนร้อน ๆ อร่อยมาก น้องชายพี่ทำให้กินบ่อย" ภาคีบอกแล้วปิดแก๊สเทผัดขนุนอ่อนใส่จาน"พร้อมกินค่ะ หอมน่ากินมาก ๆ เลย""ผัดบ่ะหนุนอย่างเดียวเหรอที่น่ากิน คนทำล่ะ" ภาคีถามขณะเดินนำจานผัดเผ็ดขนุนกลิ่นหอมไปวางที่โต๊ะ โดยมีเหนือฟ้าทำหน้าที่คดข้าวสองจานตามไปทีหลัง"คนทำก็น่ากินอยู่นิดนึง" นิสิตสาวนั่งลงฝั่งตรงข้าม พูดเสียงเบาอย่างอาย ๆ"อนาคตพี่จะให้เหนือกินแล้วกันนะ"เขายังคงตะล่อมและหว่านล้อมให้เธอใจแตก โชคดีที่พี่คีไม่ชอบคนชอบบังคับฝืนใจ การคบหากับเขาจึงมีแต่ความสบายใจภาคีขับรถไปส่งเหนือฟ้าแถมยังแวะซื้อของกินมากมายให้เธอกินระหว่างช่วงพักกลางวัน"อิจฉาอ่ะ พี่คีดูแลเพื่อนรักแก้วดีขนาดนี้เลยเหรอ ดูดิของกินเพียบเลย แฟนแก้วนะทั้งขี้งกทั
*มีฉากหดหู่โปรดทำใจดี ๆ"เมื่อคืนภาคีกล่อมเหนือฟ้าหลับ เขาทำเพียงตบ ๆ หลังเธอราวกับปลอบใจเด็กหญิงที่ยังไม่โต ถึงในใจอยากจะขึ้นไปนอนกอดเธอไว้ แต่กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้เขากลัวว่าจะทิ้งเธอไม่ลง เวลาสามปีที่ญี่ปุ่นสำหรับเขามันช่างรู้สึกยาวนานเหมือนกับสามสิบปี แค่นึกถึงตอนที่ไม่ได้เจอเหนือฟ้า ไม่ได้จับมือ ไม่ได้จูบ เขาก็รู้สึกทรมานใจไปหมดสามวันที่เหลือก่อนจะถึงวันเดินทางภาคียังคงไปรับไปส่งเหนือฟ้าและดูแลจนถึงวินาทีสุดท้าย หลังเลิกเรียนเขาพาเธอไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ดูหนัง และโยนโบว์ลิ่งด้วยกัน บ้างก็พาไปเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนแวะกินเมนูเด็ดร้านดังเรียกได้ว่าทำครบกระบวนการของคนที่เป็นแฟนกันอย่างดีที่สุด"เหนือ พี่ให้ครับ" ภาคีไปเจอตุ๊กตาควายจากร้านขายตุ๊กตาแห่งหนึ่งที่ตลาด เขาจึงแวะซื้อมาฝากเหนือฟ้า"ตัวเท่าฝ่ามือเอง ราคาเท่าไหร่คะ" เหนือฟ้ากอดตุ๊กตาควายดำตัวเล็กแล้วก้มลงฟัดมันอย่างมันเขี้ยว"เจ็ดสิบเก้าบาทครับ""แพงเหมือนกันนะคะ เหนือนึกว่าตัวละห้าสิบบาทซะอีก""ก็มันเหลือตัวเดียวในร้านแล้ว พี่ก็เลยซื้อมา เหนือเก็บไว้เป็นตัวแทนพี่นะ" ภาคีฉีกยิ้มกว้างลูบหัวแฟนสาวอย่างอ่อนโยน"เอาควา
ปิดเทอมหน้าร้อนเทอมสุดท้ายบะแต๋งจะเรียนจบประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าจะขึ้นปอ.2 ครอบครัวคนเลี้ยงควายจึงคุยกันว่าจะไปเยี่ยมเยียนครอบครัวมหาจันทร์ของปินปินและพบปะสังสรรค์สักหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ภาคีจอดรถจี๊ปในอาณาจักรอัญฎรญามีอันยิ่งใหญ่ที่มีเทวสถานพระศิวะขนาดความสูง 35 เมตร นิ่มฟ้าที่กำลังนั่งมองวิวทิวทัศน์สังเกตเห็นว่ารอบบริเวณเทวาลัยถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้พลันนั้นเด็กหญิงกลับสะดุดตาเข้ากับไม้ยืนต้นสูงที่มีลักษณะใบคล้ายกับต้นมณฑารพที่เทพมาสมักจะนัดพบเจอเธอที่นั่น เพียงแต่ดอกไม้ตนนั้นมีขนาดสูงใหญ่กว่าและผลิดอกสีเหลืองนวลเต็มต้น"พี่คีพี่เหนือเชิญทางนี้ค่ะ" แซมมี่ในชุดสาหรี่แต้มผงกุมสีแดงกลางหน้าผากเดินออกมาพร้อมกับมะแป่มตัวน้อยที่ตอนนี้ขึ้นอนุบาลสองเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่มะแป่มเห็นน่านฟ้า หนูน้อยก็ทำตัวอ่อนเดินเซไปหาคนพี่"ปี้น่านขา" มะแป่มคว้าหมับที่แขนของเด็กชายจนผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองต่างพากันหัวเราะขบขัน"เอ่อ...เป๋นหยังครับ" น่านฟ้าขานรับแต่กลับยืนตัวเกร็งหน้าแดงซ่าน"อุ๊ย..." มะแป่มทำท่าสะดุดขาแล้วรีบสวมกอดเอวพี่พลางเอาหน้าซบแผ่นอก"เกินไปแล้วจ้ะแม่ลูกสาว" แ
ภายในอ่างอาบน้ำทรงกลมที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องน้ำ มีร่างตุ้ยนุ้ยสองแม่ลูกกำลังแช่น้ำนมอุ่น ๆ ที่ภาคีเป็นคนเตรียมให้ ระหว่างที่เหนือฟ้ากำลังหยิบฟองน้ำเตรียมยกขึ้นมาขัดแผ่นหลังให้ลูกสาว พลันนั้นบาดแผลที่มีร่องรอยของการถูกกัดก็ปรากฏอยู่บนหัวไหล่เล็ก นัยน์ตาของเธอสั่นระริกวูบไหวอย่างฉับพลัน หัวใจของคนเป็นแม่แทบแหลกสลายในทันที เมื่อเห็นว่าลูกสาวยังมีบาดแผลภายในร่มผ้าที่เธอหรือหมอก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน"นิ่มฟ้าคะ หนู หนูเจ็บไหมลูก" ฟองน้ำรูปสัปปะรดหลุดลอยจากฝ่ามือไหลผ่านไปยังเบื้องหน้าของเด็กหญิงที่กำลังนั่งหันหลัง นิ่มฟ้าย่นคิ้วชิดกันแล้วรีบหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"เป็นอะหยังก๊ะหนุนน้อย" มือเล็กยื่นไปจับแก้มขาวอมชมพูของแม่ ผิวพรรณของแม่ทำให้เธอรู้สึกหลงรัก"หัวไหล่หนูไงคะ โดนยัยเด็กกระถินนั่นกัดมาเหรอ ทำไมหนูไม่บอกแม่ว่ามีแผลตรงนี้ด้วย"เจ้าของบาดแผลกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว แต่แม่ของเธอกลับน้ำตาไหลอาบนองหน้า "เจ้า นิ่งโดนขบมาแต่นิ่งบ่เจ๋บแล้ว อี่แม่บ่ต้องร้อง เดี๋ยวนิ่งร้องตามเน้อ"เด็กหญิงโผเข้าซุกอกของแม่ที่ล้นหลามเหนือผิวน้ำ เหนือฟ้าสวมกอดกลับจูบซับศีระษะเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ ไม่รู้เบื่อเส
นิ่มฟ้าแสดงสีหน้าและแววตาโกรธสุดขีด เด็กหญิงตอบโต้กลับไปหาอีกฝ่ายด้วยความขุ่นเคือง กำหมัดสองข้างแน่นพยายามนึกถึงหน้าครอบครัวที่เธอรัก นึกถึงเทวดาคนโปรด"กรี๊ดด ติ๋นไม่ได้โง่นะ ไม่ได้โง่" กระถินกระทืบเท้าปึ้กปั้กแล้วพุ่งเข้ามากระชากศีระษะของนิ่มฟ้าและใช้กรงเล็บครูดข่วนใบหน้าของเธอไปทั่วโดยมีเพื่อน ๆ พยายามช่วยกันดึงตัวกระถินสายวีนออกจากการทึ้งหัวของหัวหน้าห้อง"ปล่อยเปิ้นเน้อ ปล่อยสิ" นิ่มฟ้าพยายามแกะมือเหนียวของกระถินออก พอเห็นว่าไม่เป็นผลเธอจึงใช้แรงทั้งหมดเหวี่ยงตัวของเด็กหญิงที่ตัวเล็กกว่าจนเหวี่ยงไปกระแทกกับพื้น"โอ้ย ยัยหัวหน้าเผ่าฟาย" กระถินโกรธหน้าดำหน้าแดง"บ่าใจ้ฟายตำมะดาโตย แต่เป๋นฟายเจ๋ดทัวย่ะ" เด็กหญิงเถียงกลับแล้วรีบจัดทรงผมให้เข้าที่ เตรียมที่จะเดินหนียัยกระถินปากจัดที่พูดจาไม่รู้เรื่อง"ไม่ให้ปายยย" กระถินวิ่งกลับเข้ามากระโดดตะครุบกลางหลังนิ่มฟ้า เนื่องจากเธอตัวเล็กกว่าทำให้ปีนขึ้นไปอยู่หลังเด็กหญิงหุ่นจ้ำม่ำได้ง่ายขึ้นงั่บ!"โอ๊ยยย" นิ่มฟ้าร้องเพราะถูกคมเขี้ยวของกระถินงับลงมาบนหัวไหล่ แม้จะมีเนื้อผ้าของชุดนักเรียนขวางกั้นแต่ฟันคม ๆ ก็กัดจมลงมาจนเด็กหญิงถึงกับน้ำตาเล็ด
หลังจากกลับจากโรงพยาบาลภาคีอาสาดูแลหมูยอแทนเหนือฟ้า ระหว่างนั้นเขาจึงปรึกษากับภรรยาเรื่องลูกสาวเพราะเกรงว่าอาจมีการกลั่นแกล้งและบูลลี่กันที่โรงเรียนโดยที่เขาและเธอไม่เคยรับรู้มาก่อน"เหนือว่าเราควรไปสอบถามคุณครูโดยตรงเลยดีไหม พี่ไม่ค่อยสบายใจเลย" เขาบ่นพึมพำท่ามกลางไฟสีส้มที่ส่องจากโคมรูปเห็ด ขณะที่ตนเองกำลังนอนตะแคงตบ ๆ ก้นให้หมูยอที่เพิ่งจะนอนหลับสนิท เนื่องจากหนูน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายท้อง แค้พอได้รับประทานยากับเกลือแร่เข้าไปอาการท้องเสียของเจ้าตัวเล็กก็ดูทุเลาลงสาวอวบที่เพิ่งอาบน้ำและไดร์ผมเสร็จก้าวขาเข้ามาในคอกกั้น วันนี้เธอกับสามีตัดสินใจนอนที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูแลหมูยอ"ดีค่ะ เพราะสมัยที่เหนือโดนเพื่อนแกล้งและถูกล้อเลียนเรื่องรูปร่างเหนือก็มีความรู้สึกเดียวกับลูก เหนือไม่เข้าใจเลยว่าตอนนั้นทำอะไรผิดเพื่อน ๆ ถึงไม่อยากคบเหนือ ตอนนั้นคนเดียวที่ให้คำปรึกษาได้คือพี่ไนท์ค่ะ แต่ตอนนี้เราคือครอบครัว เราทุกคนจะช่วยกันให้คำปรึกษานิ่มฟ้า เหนือจะไม่ปล่อยให้ลูกเผชิญความเจ็บปวดคนเดียวเด็ดขาด" หญิงสาวเล่าเท้าความในอดีตที่เจ็บช้ำ คำพูดถากถากทับถมของเพื่อน ๆ กลายเป็นปมในใจของเธอที่อยาก
ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงนาฬิกาปลุกข้างหัวเตียงดังขึ้นทำให้พ่อครัวใหญ่รีบดีดตัวขึ้นมาคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาชะล้างร่างกายเพียงสิบห้านาทีจึงรีบวิ่งซอยเท้าลงไปแล้วเริ่มปรุงอาหารด้วยความรักก่อนที่ลูกและภรรยาจะตื่นนอน"ป้อขี้!""เฮ่ย" หัวมันฝรั่งในมือเขาร่วงตุ้บลงกระแทกพื้น นิ่มฟ้าที่อยู่ชุดเสื้อคอกระเช้าเด็กประแปรงหน้าขาววอกสะกิดเรียกเขาท่ามกลางความมืดสลัวของห้องครัวในเวลาตีห้า"นิ่งบ่าใจ้ปี๋เน้อ ป้อต๋กใจนิ่งก๊ะ" นิ่มฟ้าลากเก้าอี้แล้วก้าวขึ้นไปยืนข้างพ่อชะโงกดูวัถตถุดิบที่พ่อเตรียมทำมื้อเช้า "ป้อทำก้าวผัดแฮ่มก๊ะ"เด็กหญิงสังเกตเห็นว่ามีเครื่องเคียงเป็นผัก หมูสับ และแฮมอีกอย่างพ่อก็วางกระทะตั้งไว้กับเตาแก๊สจึงมั่นใจว่าพ่อกำลังจะทำข้าวผัดแฮม"ฉลาดนะเนี่ยเรา ถูกต้องครับป้อกำลังทำข้าวผัดแฮมแล้วก็มีน้ำซุปมันฝรั่งซดแก้ฝืดคอ" เขาว่าแล้ววางหัวมันลง"โอ้โหดีเลยนิ่งกำลังอยากกิ๋น" นิ่มฟ้าคว้าหัวมันฝรั่งที่พ่อวางไว้บนเขียงมาถือแล้วหาที่ปอกเปลือกมัน"นี่ครับ" ผู้เป็นพ่อหยิบที่ปอกให้ลูกสาว มือเล็กรับไว้แล้วเริ่มปอกมันฝรั่งอย่าทะมัดทะแมง"ค่อย ๆ ปอกนะครับ แล้วนี่หนูตื่นมาทำอะไรแต่เช้า วันนี้วันเสาร์ไม่
โรงพยาบาลทั้งครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจภาคีในวันที่มีผ่าตัดทำหมันกับหมอที่โรงพยาบาล หลังจากที่เขาตัดสินใจจะหยุดการสืบพันธ์ุนี้เพราะเกรงว่าภรรยาจะเผลอท้องขึ้นมาอีกในอนาคต และเพื่อแสดงตนว่าเขาจริงใจที่จะเสียสละเพื่อเธอดังนั้นวิธีการนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพราะเขาอยากให้เหนือฟ้ารู้ว่าทายาททั้งหกคนของเขาจะเป็นของเธอตลอดไป และจะมีใครมีโอกาสแย่งชิงเขาไปจากเธอ"ปี้ปี้" หมูยอเดินเลาะไปมาเกาะแข้งเกาะขาพวกพี่ ๆ ขณะที่แป้งจี่นอนหลับอยู่บนตักแม่ ส่วนน้ำเงี้ยวนั้นนอนแผ่ยาวหนุนตักน่านฟ้าและนิ่มฟ้าเสมือนว่าพี่สาวพี่ชายเป็นเตียงนอนส่วนตัว"หมูยอคะมานั่งเฉย ๆ สิลูก" เหนือฟ้าอุ้มลูกชายสายปราดเปรียวที่ไม่ยอมหลับยอมนอน เอาแต่ปีนป่ายโซฟาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย"หม่ำ ๆ" หมูยอเริ่มเดินเหนื่อยหนูน้อยหยิบขวดนมในกระเป๋าสัมภาระเด็กที่วางอยู่บนเก้าอี้ แล้วเปิดฝาขวดนมบริการตัวเอง"อะหยังป้อต้องตัดหำโตยก๊ะ" น่านฟ้าสงสัยตั้งแต่พ่อบอกว่ามีนัดตัดสิ่งที่อยู่ใต้หว่างขา เด็กชายก็มีคำถามกับเธออยู่ตลอด"ป้อตัดเพื่อคุมกำเนิดพวกเราจะได้มีกันแค่หกคนไงคะ ไม่ดีเหรอหรือหนูอยากมีน้องเพิ่ม" เหนือฟ้าหันไปอธิบายกับลูกชาย"อึ๋ย
ล่วงเลยมาจวบจนแฝดสามตัวป่วนอายุย่างเข้าวัยหัดอ้อแอ้ ความโกลาหลก็เพิ่มระดับขึ้นทำให้ในแต่ละวันพ่อแม่ต้องสลับกันควักยาดมตอนนี้บะแต๋งขึ้นประถมศึกษาชั้นปีที่หกส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าขึ้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง“เย้นิ่งเป็นฉาวแล้ว” นิ่มฟ้าสะบัดผมเปียของตัวเองขณะสวมชุดกระโปรงแบบไม่มีเอี๊ยม เด็กหญิงชะม้อยชะม้ายชายตามองกระจกขณะที่แม่ทำหน้าที่จัดทรงผมตามระเบียบของโรงเรียนที่กำหนดว่าต้องมัดผมให้เรียบร้อย“แก่แดดแก่ลมเกินไปแล้วนะแม่คนนี้” เหนือฟ้ายื่นมือมาบีบแก้มอูมของลูกสาว“ที่รักอาหารเช้าเสร็จแล้ว” ภาคีตะโกนเสียงดังขึ้นมาบนห้องนอนชั้นสาม สองแม่ลูกจึงพากันลงไปลิ้มรสมื้อเช้าขณะที่แฝดสาม บะแต๋งและน่านฟ้านั่งประจำตำแหน่งที่โต๊ะอาหารของใครของมันเรียบร้อย ที่คอของหมูยอ แป้งจี่และน้ำเงี้ยวมีผ้ากันเปื้อนลายลายการ์ตูนคนละสี ผมของทารกวัยหนึ่งขวบกว่าเริ่มดกดำคลุมทั้งหัว“หม่ำ ๆ” หมูยอกระแทกช้อนส้อมกับเก้าอี้กินข้าวที่มีกระบะสำหรับใส่ภาชนะอย่างร้อนใจ“ครับเสร็จแล้วลูก” ภาคีวางถ้วยบะหมี่ผักหมูน้ำลงบนกระบะกินข้าวของแฝดสาม แล้วยกจานข้าวผัดปลาแซลมอนจานใหญ่มาตั้งตรงกลางให้บะแต๋ง นิ่มฟ้าและน่านฟ้าบริการตัวเองทว่า
หนึ่งสัปดาห์ของการปิดเทอมที่เงียบเหงาทำให้นิ่มฟ้าที่ใจจดจ่อรอคอยต้องออกไปหากิจกรรมทำพร้อมกับพี่น้อง ช่วงเช้าเด็กหญิงนั่งรถซาเล้งออกมากับภาคีที่กระเต็งน้ำเงี้ยวไว้ในเป้อุ้มทารก ในรถพ่วงข้างยังมีส้มปู๋กับบะแว้งและบะแปปเจ้าแพะแคระติดสอยห้อยตามมาด้วย ส่วนบะแต๋งกับน่านฟ้านั้นไปทำงานกับแม่ที่โรงเลี้ยงวนิลา"เทพมาสไม่มาหาหนูแล้วเหรอ" จู่ ๆ พ่อก็ตัดสินใจถามเด็กหญิงที่กำลังใช้คราดขุดมันม่วงโอกินาว่า นิ่มฟ้าผงะเล็กน้อยกับคำถามที่เธอไม่อยากตอบเท่าไหร่"ดะดะ" แต่เพราะน้ำเงี้ยวเอียงคอมองพี่สาวที่กำลังทำหน้าจ๋อย พี่จึงยิ้มกว้างเพื่อให้น้องสบายใจ"บ่มาแล้ว จะไปตี้ไหนก็ไปเต๊อะนิ่งมุดออนแล้วเจ้า" หนูน้อยวัยอนุบาลที่มีวาจาฉะฉานประหนึ่งคนโตตอบพ่อด้วยความมั่นใจ แล้วกลับไปใช้คราดถากหญ้าถอนมันต่อ"เขาเรียกว่ามูฟออนจ้ะ ทำใจ๋เต๊อะความรักก็แบบนี้แหละน้า" ภาคีอุ้มน้ำเงี้ยวออกมาแล้วจับใส่สนับเข่าให้เจ้าตัวเล็กหัดคลานไปบนพื้นดินและได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่"ตะตะ" น้ำเงี้ยวเห็นใครบางคนกำลังกวักมือเรียก หนูน้อยสวมหมวกลายดอกไม้กับชุดผ้าหม้อฮ่อมสไตล์ล้านนารีบเร่งคลานแบบติดเทอร์โบไปหาเป้าหมายที่กำลังเปล่งแสงเร
ผ่านมาแล้วเกือบเจ็ดเดือนแล้วที่เหนือฟ้ากับภาคีได้กลายเป็นพ่อแม่ลูกหก แม้ในแต่ละวันทั้งคู่จะวุ่นวายกับการเลี้ยงเจ้าตัวเล็กต่างวัยทั้งหลาย แต่กลับไม่รู้เลยว่าการมีเด็กน้อยเหล่านี้เป็นภาระเพราะพวกเขามีพร้อมทุกอย่าง ทั้งเวลาอาชีพ เงินทองและความรักทว่ากลับมีเด็กหญิงเพียงคนเดียวที่กลายเป็นเด็กไม่สดใสร่าเริง เนื่องจากเธอเฝ้ารอคอยใครคนนั้นให้แวะเวียนมาหา โชคร้ายที่คำสวดอ้อนวอนและภาวนารวมทั้งการทำความดีของเธอไม่ได้ช่วยให้เทวดาคนโปรดปรากฏกายถึงแม้นี่จะเป็นวันปิดเทอมวันแรกของภาคเรียนที่หนึ่ง แทนที่นิ่มฟ้าจะดีใจแต่เธอกลับรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะการไปเจอเพื่อน ๆ นั้นทำให้เธอได้พบกับความสนุกสนาน เสียงหัวเราะและพูดคุยของเพื่อนสนิทนั้นช่วยคลายความเหงาและความคิดถึงที่มีต่อเทพมาส“นิ่มฟ้าหนูมีการบ้านปิดเทอมหรือเปล่าคะ” เหนือฟ้าที่กำลังทำงุ่มง่ามวุ่นวายกับการเตรียมมื้อเช้าให้ทารกแฝดสามวัยอายุเจ็ดเดือนเศษอยู่หน้าเตาชะเง้อคอมองลูกสาวที่กำลังนั่งเฝ้าน้องในคอกกั้นโดยไม่พูดไม่จา “นิ่มฟ้าแม่ถามว่ามีการบ้านหรือเปล่าลูก” สาวอวบปิดเตาแก๊สแล้วล้างมือเดินไปดูอาการของลูกสาวที่ซึมเศร้าเหงาหงอยมาพักใ