นิสิตสาวเดินลงมาจากตึกคณะโบกมือลาเพื่อน ๆ ในกลุ่มจากนั้นตรงไปที่ร้านน้ำปั่นเจ้าโปรดเพื่อสั่งข้าวโพดนมสดปั่น แต่ขาเจ้ากรรมกลับสะดุดกึก เพราะห่างจากเธอไม่กี่เมตรคือ สารถีรูปหล่อสุดฮ็อตที่กำลังยืนกินหม่าล่าอยู่ข้าง ๆ ร้านน้ำปั่น โดยที่รอบตัวเขามีแต่นักศึกษาชายหญิงที่กำลังยืนห้อมล้อมราวกับพบดาราดัง
"ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ ผมขอแสกนจ่ายนะ" ภาคีล้วงหาโทรศัพท์เพื่อแสกนจ่าย แต่ทันใดนั้นดาวมหาลัยอย่างลินินก็เสนอตัวด้วยการยื่นแบงค์พันส่งให้ชายหนุ่ม "หนึ่งร้อยบาทจ้ะพ่อหนุ่ม นี่จ้ะ" ป้าแม่ค้าบอกพลางหยิบคิวอาร์โค้ดให้ลูกค้าหนุ่มแสกนจ่าย "เดี๋ยวลิเลี้ยงมื้อนี้เองค่ะ" นิสิตคนสวยกล่าวด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ เหนือฟ้าที่ยืนมองดูอยู่นั้นได้แต่ลอบถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ แล้วรีบยกกระเป๋าปิดหน้าเดินไปสั่งน้ำข้าวโพดแก้วโปรดโดยไม่สนใจภาคี "ไม่เป็นไรครับ ผมมีเงิน" ภาคีตัดบทแล้วหยิบโทรศัพท์มาแสกนจ่าย สายตาที่เขาตวัดมองลินินนั้นดูเย็นชาและแฝงด้วยความน่ากลัว โชคดีที่เธอแชตมาสั่งมาน้ำปั่นกับแม่ค้าก่อน พอไปถึงก็ได้รับน้ำข้าวโพดปั่นกลิ่นหอมพอดี ทำให้เธอสามารถหลบหลีกการปะทะกับผู้หญิงจำนวนมากที่เดินตามถ่ายรูปภาคีจนกระทั่งมาถึงลานจอดรถ เหนือฟ้านั่งดูดน้ำข้าวโพดแล้วใช้เสื้อคลุมไหมพรมโพกหัวเพื่อปิดหน้าปิดตาของตนเอง ทว่าภาคีที่เดินสับเท้ามาถึงซุ้มศาลานั่งพักหน้าตึกกลับจดจำได้ว่าหุ่นเหมือนขนุนน่ารักนั่นคือ แฟนสาวขี้อายของเขานั่นเอง "บะหนุนน้อย" เขาโผล่หน้ามาจนจมูกชนกับหน้าผากเธอ เหนือฟ้าสะดุ้งเฮือก "พี่คี ขึ้นรถเร็วค่ะ" นิสิตสาวหันซ้ายหันขวาแล้วลากแขนภาคีไปขึ้นรถ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเดินตามเธอไปอย่างว่านอนสอนง่าย ทันทีที่ทั้งสองขึ้นมาอยู่บนรถ สาวอวบก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ภาคีจึงสตาร์ทรถแล้วขับออกจากมหาลัยเพื่อให้ห่างไกลจากจุดสนใจ ก่อนที่เขาจะหยุดจอดหน้าร้านสะดวกซื้อ แล้วยกแขนเท้าพวงมาลัยหันไปมองเหนือฟ้าที่มีท่าทางเลิ่กลั่กตลอดเวลา "ทำไมต้องรีบขนาดนั้น เหนือหึงเหรอ" ผู้ชายคนนี้ช่างหน้าหนาเสียจริง "อือ....เฮ้ย เอ่อคือไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่นะคะ" เหนือฟ้าโบกไม้โบกมือปฏิเสธ ภาคีจึงขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วผูกปมของผ้าคลุมหัวให้แน่นกว่าเดิม ทำให้แก้มขาวอมชมพูยิ่งดูป่องคล้ายกับแก้มปลาทองมากกว่าเก่า "หึหึ" เขาขำแล้วช้อนตามองเธอ ทุกครั้งที่เขามองแบบนี้ โรคหัวใจแพ้ผู้ชายขี้อ่อยก็กำเริบขึ้นมาทันที "ขำอะไรคะ" เหนือฟ้าบึนปากแล้วหยิบน้ำข้าวโพดปั่นมาดูดต่อ "ก็ขำเหนือนั่นแหละ" เขาใช้นิ้วจิ้มลงบนหน้าผากเธอ "เหนือคงจะตลกมากสินะ คงไม่สวยเหมือนยัยดาวหมานั่น" เหนือฟ้าจิกกัดลินินดาวมหาลัยไฮโซ "อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร ความสวยที่แท้จริงอยู่ที่การกระทำ ทำดีก็ยิ่งสวย ถ้าสวยระดับจักรวาลแค่ไหน แต่นิสัยไม่ดี ก็คือคนไม่สวย สวยแต่รูปจูบไม่หอม พี่ไม่คบหรอก ดังนั้นเหนือก็ทำดีกับพี่ให้มาก ๆ นะ ดีก่อเจ้า คนงามแต๊ ๆ " "ไม่ต้องมาชมเลยค่ะ เหนือรู้ว่าเหนือสวยได้แค่นี้แหละ อื้อ" จู่ ๆ เขาก็บีบแก้มเธอจนบู้บี้ทำให้พูดต่อไม่ได้ "อ่อยเอื่ออ๊ะอี้อี" เหนือฟ้าเริ่มตะบึงตะบอน ภาคีจึงหยิบแก้วน้ำข้าวโพดปั่นที่เสียบอยู่ในช่องใส่เครื่องดื่มข้างประตูของน้ำเหนือมาดูดจนหมดไปครึ่งแก้ว เจ้าของน้ำปั่นมองตาเหลือก "อร่อยอะ" เขายอมปล่อยแล้วตั้งตาตั้งตาดูดไปเรื่อย ๆ "นี่มันของเหนือนะ มากินของคนอื่นเขาได้ไง" "ก็เพราะเหนือดูดน้ำแก้วนี้ไง อ้ายก็เลยอยากกิ๋น" เขาชอบต่อล้อต่อเถียงกับเธอเป็นภาษาเหนือ ทุกครั้งที่เขาพูดเหนือความน่ารักเพิ่มระดับเป็นล้านเท่า จนต้องยอมแพ้ทุกรอบ "เดี๋ยวพี่ขับรถก่อน เหนือกินหม่าล่าไปก่อนนะ เดี๋ยวถึงคอนโดก่อนพี่จะทำมื้อเย็นให้กิน" ภาคีหยิบถุงหม่าล่าส่งให้เหนือฟ้าแล้วมุ่งหน้าไปที่คอนโดหรูที่แม่เคยอยู่สมัยมีอาชีพเป็นนางแบบ เหนือฟ้าไม่เคยไปไหนมาไหนกับผู้ชายสองต่อสองโดยปราศจากเพื่อนมาก่อน ถึงแม้เธอเคยมีแฟนสมัยเรียนมัธยมปลายแต่ก็ไปไหนเป็นหมู่คณะ หญิงสาวจึงแชตไปบอกพ่อกับแม่ว่าจะกลับบ้านมืดหน่อย "แม่คะ เหนือกลับบ้านดึกหน่อย เหนือมากับพี่คีค่ะ" "จริงเหรอ ดี ๆ อยู่นั่นแหละ เอาเสื้อผ้าไหมจ๊ะเดี๋ยวแม่ให้ลูกน้องพ่อเอาไปให้ที่คอนโด" "อะไรของแม่เนี่ย เหนือยังเรียนอยู่นะ เหนือยังเป็นแค่นักศึกษาเวอร์จิ้นอยู่เลย" "เอาน่า ทุกคนต่างก็ต้องมีครั้งแรก ยังไงก็ถุงยางกลิ่นข้าวเหนียวมะม่วงเด็ดสุดดีสุดต้องห้ามพลาดนะลูกจ๋า แม่ไปละ วันนี้วันครบรอบแต่งงานของแม่กับสุดที่รัก แม่จะไปล่องเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยากับผัว แล้วเราสองคนก็จะไปป่ำปั๊มกันที่โรงแรม บ๊ายบาย" แชตของเหนือฟ้าจบลงอย่างงงวย หญิงสาวเกาหัวแก้เขิน ผิวแก้มขาวเนียนเห่อแดงเหมือนผลมะเขือเทศสุก ดวงตากลมโตเหลือบมองคนขับรถด้านข้างที่กำลังเลี้ยวรถเข้าคอนโด "มองพี่อีกแล้ว" ภาคีดับรถแล้วหันหน้ามาสบตา "มีอะไรก็พูดกับพี่ตรง ๆ" "อ...เอ่อ ฮ่าฮ่า คือแม่บอกว่า แม่เหนือ" ครืด!! ครืด!! เสียงโทรศัพท์ของภาคีสั่นดัง เขารีบกดรับแล้วฉีกยิ้มกว้างทันที "ครับ อ้อเดี๋ยวผมจัดการหาของอร่อย ๆ ให้น้องกินเอง ใส่เสื้อผ้าผมก็ได้ครับ ขอบคุณนะครับที่ไว้วางใจให้ผมดูแลเหนือ" "ใครโทรมาคะ อย่าบอกนะว่าแม่ของเหนือ" "จะมีใครอีกที่ห่วงลูกสาวถึงขนาดบอกว่าให้พี่ถนอมลูกสาวด้วย จะทำอะไรก็อย่าลืมป้องกันให้ดี" "หาาาา แม่พูดแบบนั้นเหรอคะ" "ใช่ แต่ไม่ต้องห่วงนะ พี่คงจะไม่ทำอะไรแบบนั้นกับเหนือ" ทำไมเธอรู้สึกน้อยใจกับประโยคที่เขาพูด ทั้งที่นาน ๆ จะพบคนที่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักคนหลงพลัดถิ่นเข้ามา เธอก็ควรดีใจสิ เหนือฟ้าเดินตามภาคีเข้ามาในลิฟต์มุ่งตรงสู่ห้องพักชั้นที่เก้า เขาแตะคีย์การ์ดแล้วเปิดประตูนำเธอเข้าไปก่อน พร้อมกับรินน้ำส้มใส่แก้วให้ดื่ม "พี่คั้นน้ำส้มไว้เมื่อเช้า ส้มนี่ส่งมาจากสวนบนดอย รับรองได้ว่าปลอดสารพิษแน่นอน" "ขอบคุณค่ะ" เหนือฟ้ารับแก้วมาจากมือ ทำให้มือกับมือสัมผัสกันเล็กน้อย ทั้งสองต่างขนลุกเกรียว ภาคีจึงรีบเดินหนีกลบเกลื่อน "อ้อ เดี๋ยวแม่ของเหนือบอกว่าจะแวะเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาให้ ถ้าเหนือไม่อยากค้างที่นี่ พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ พี่ขับรถไปส่งเหนือที่บ้านได้" "เหนืออยากค้างค่ะ ก็แค่ค้างไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น อีกอย่างเหนือมีรายงานต้องทำด้วย เผื่อพี่คีจะช่วยเป็นติวเตอร์ให้เหนือได้" สาวอวบยิ้มกว้างแล้วเดินหอบแฟ้มรายงานที่ทำค้างไว้ยังไม่เสร็จส่งให้ภาคีดู เขารับมาแล้วเปิดดูอย่างตั้งใจ "รายงานการจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ เหนือเรียกอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเหรอครับ" "ใช่ค่ะ เหนืออยากเป็นนักจัดอีเว้นท์ค่ะ อยากทำได้ทุกรูปแบบ" "แล้วอยากจัดธีมไหน" "อืม อีเว้นท์ส่งเสริมสินค้าเกษตรดีไหมคะ เพราะพี่คีก็ถนัดทางนี้อยู่แล้ว" "รู้ประวัติการศึกษาพี่ด้วยเหรอบ่ะหนุนน้อย" ภาคีวางแฟ้มลงสาวเท้าเข้ามาจนเหนือฟ้าต้องรีบถอยหลังกรูด จนแผ่นหลังชนกับกำแพง "ก็มันโชว์หราอยู่ตามโซเชียลเยอะแยะ ใคร ๆ ก็รู้ทั้งนั้นแหละค่ะ" เหนือฟ้าหาข้อแก้ตัว "โชว์หราอยู่ในโซเชียล หรือว่าหัวใจเหนือกันแน่" เขาพยายามต้อนให้จนมุม สาวอวบจึงรีบกระเถิบตัวหนีแล้วหยิบแฟ้มรายงานมากอดแน่น "เหนือไม่คุยกับพี่คีแล้ว เหนือนั่งทำงานที่ไหนได้บ้างคะ" นิสิตสาวมองหาโต๊ะทำงาน "เดินเลี้ยวไปที่ห้องซ้ายมือ มีโต๊ะคอม เหนือเปิดใช้ได้ตามสบาย ยังไงเหนือทำรายงานไปก่อนนะ พี่จะทำกับข้าวให้กิน" เขายิ้มพลางกะพริบตาข้างหนึ่งส่งให้เพื่อโปรยเสน่ห์ แล้วหยิบผ้ากันเปื้อนมามัดรอบเอวเพื่อสวมวิญญาณพ่อครัวหัวป่าก์เหนือฟ้านั่งบิดขี้เกียจอยู่ใต้โคมไฟสีส้มสลัว ดวงตากลมเริ่มพร่าเลือนจนภาคีที่กำลังจัดวางกับข้าวถึงต้องชะเง้อคอมองดูด้วยความกังวล "เสร็จแล้วครับ มากินได้เลย" หนุ่มมาดเซอร์ในชุดผ้ากันเปื้อนมัดจุกรวบเก็บผมไว้ครึ่งหัวเดินมาตามนิสิตแสนขยันในห้อง สาวอวบกลั้นยิ้มเพราะเธอโคตรโชคดีที่ได้เห็นหนุ่มฮ็อตขวัญใจสาวค่อนประเทศในสภาพพ่อบ้านกล้ามโต "รับทราบค่ะ" เหนือฟ้าเดินตรงไปที่โต๊ะกินข้าว มองข้าวซอยไก่ชามใหญ่และน้ำข้าวโพดปั่นนมสดฮอกไกโดกลิ่นหอมสองชุด ภาคีนั่งลงฝั่งตรงข้าม แล้วรินน้ำเปล่าเพิ่มให้เธออีกหนึ่งแก้ว ทำไมเขาช่างดีกับเธอมากมายขนาดนี้ ทั้งที่เธอทำตัวเย็นชากับเขาสารพัด แต่เขาก็ไม่โกรธเลยสักครั้ง "พี่คีทำอาหารน่ากินจัง" เหนือฟ้าบอกแล้วตักข้าวซอยไก่ร้อน ๆ คำแรกใส่ปาก ดวงตากลมถลึงมองเมนูดังกล่าวในชามตัวเอง แล้วเริ่มจ้วงกินคำใหญ่อย่างลืมตัว จนพ่อครัวหัวเราะร่วน "อร่อยใช่ไหม กินเยอะ ๆ นะเดี๋ยวจะผอมไป" เขาแซว "อร่อยมากค่ะ ไก่ก็เปื่อยมาก น้ำซุปก็จัดจ้าน กดไลก์ให้เลย" เหนือฟ้าฉีกยิ้มเคี้ยวแก้มตุ่ย ภาคีรู้สึกภูมิใจที่ทำให้สาวที่เขาลงท
เมื่อคืนเหนือฟ้านอนไม่ค่อยหลับเพราะอดคิดไม่ตกเรื่องที่เขาบอกมีแพลนจะเดินทางเร็ว ๆ นี้ วันนี้ก็เลยตื่นตั้งตีห้าครึ่ง ทั้งที่มีคาบเรียนแรกตอนแปดโมงเช้า นิสิตสาวอาบน้ำแต่งตัวมองหาชุดนักศึกษาที่เธอแขวนไว้กับตู้ กะว่าจะขอเตารีดของภาคีมาใช้รีดชุดตอนเช้า ทว่าชุดของเธอกลับไม่ได้แขวนไว้ที่เดิม เพราะมันถูกแขวนไว้ที่โต๊ะยืนรีดผ้ายิ่งไปกว่านั้นทั้งเสื้อและกระโปรงของเธอก็ถูกรีดจนเนี๊ยบไม่มีรอยยับรอยพับใด ๆ"ฝีมือพี่คีเหรอ" หญิงสาวพูดพึมพำพลางหยิบชุดนักศึกษามาใส่ แล้วคิดว่าจะทำมื้อเช้าให้เขารับประทาน เขาจะได้รู้ว่าเธอเองก็มีเสน่ห์ปลายจวักอยู่เหมือนกันผ่านไปเพียงสิบกว่านาทีไข่กระทะกับนมจืดก็ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะกินข้าว แต่รอจนหกโมงครึ่งภาคีก็ยังไม่ตื่น เหนือฟ้าจึงเดินไปเคาะห้องทำงาน"พี่คีคะ พี่คีตื่นหรือยัง"เพราะเขาไม่ตอบเธอจึงค่อย ๆ บิดกลอนประตูเข้าไปแล้วเดินให้เงียบที่สุด แต่พอเห็นว่าเขานอนหลับฟุบอยู่หน้าจอคอม จึงเข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังไม่ตื่น เหนือฟ้าหยุดที่หน้าจอคอม มองดูบางสิ่งที่เขาทำค้างไว้ ผลปรากฏว่ามันคือเอกสารภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ ซึ่งเธออ่านไม่ออกเลยสักตัว"พี่คี เหนือมาปลุกไปกินมื้อเช้าค่ะ"
เหนือฟ้านอนร้องไห้ตาบวมจนถึงสามทุ่ม จึงลุกเดินไปอาบน้ำแล้วกลับมาอ่านชีตสรุปสำหรับการสอบเก็บคะแนนในสัปดาห์หน้า"เหนือ พี่จะเอาเสื้อผ้าไปซักให้ เปิดประตูให้พี่หน่อยครับ"คนด้านในแง้มประตูออกเพียงเล็กน้อย "เหนือซักเองได้ค่ะ พี่คีป่วยอยู่ก็ไปพักเถอะ"จังหวะที่กำลังจะปิดประตู ภาคีสังเกตเห็นดวงตาที่บวมช้ำ เขาจึงจับขอบประตูไว้ไม่ให้เหนือฟ้าปิด "เป็นอะไรรึเปล่า""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เหนือจะอ่านหนังสือสอบ" เหนือฟ้าพยายามดึงประตูที่ภาคีกำลังง้างออก แต่ด้วยสู้แรงคนตัวใหญ่กว่าไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องยอมให้เขาเปิดประตูเข้ามาคนที่กำลังเสียใจรีบเดินหนีไปโต๊ะทรงกลมริมหน้าต่างห้องนอน พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล "เหนือ หันมาหาพี่หน่อย""พี่คีจะไปญี่ปุ่นเหรอคะ"ภาคีอึ้งคิ้วเข้มขมวดเข้ามากัน นึกย้อนไปถึงตอนที่เขาให้เธอไปหยิบยาในลิ้นชัก สงสัยคงจะไปเจอเอกสารมหาลัยที่ญี่ปุ่นกับพาสปอตที่เขาแอบเก็บไว้"ใช่ พี่จะไปเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น""แล้วพี่คีคิดจะบอกเหนือเมื่อไหร่ หรือคิดจะบอกตอนที่เหนือถลำลึกไปมากกว่านี้" เหนือฟ้าเถียงเสียงสั่นพยายามเดินหนีไปที่อื่นไม่ให้เขาเห็น ภาคีรีบเดินไปดักหน้า ทำให้พบว่าดวงหน้าจิ้มลิ้ม
รุ่งเช้าของวันเสาร์เหนือฟ้าเก็บเสื้อผ้าและของสำคัญลงกระเป๋าสะพายใบย่อม ส่วนที่เหลือกะว่าจะไปเอาเพิ่มเติมที่บ้าน หญิงสาวออกมานั่งรอภาคีที่หน้าทีวี พักหนึ่งเขาก็เดินตัวหอมฉุยจนกลิ่นกายตีขึ้นจมูก"กลิ่นเซ็กซี่จัง" เหนือฟ้านั่งเขินบิดแล้วลอบมองภาคีที่กำลังกดโทรศัพท์คุยกับแม่ของเขา ขณะที่เหนือฟ้าได้โอกาสหยิบโทรศัพท์มาส่องโซเชียลเพื่อเช็กเรตติ้งของแฟนหนุ่ม โดยใช้โปรไฟล์ชื่อ 'สาวน้อยข้าวโพด' ตามกดไลก์รูปภาพในแอป ๆ หนึ่งของเขา แล้วยังคอมเมนต์ให้กำลังใจภาคีอยู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Pakee Kritkratanadorn บ้าน ถูกใจ 188,920 คน
รถแวนของผอ.ทัพฟ้าจอดยังโรงรถบริเวณบ้านไม้ของภาคี แฟนหนุ่มอนาคตไกลของลูกสาวจึงเดินมาต้อนรับอีกครั้ง"ผมจะพาไปดูห้องนอนครับ""อืม บ้านสวยมากเลยภาคี แล้วนี่เธอปลูกเองเหรอ" ผอ.ทัพฟ้ามองความใหญ่โตของบ้านไม้สไตล์แปลกตาที่เหมือนกับบ้านฝรั่งในต่างประเทศ"ครับ ผมเป็นคนออกแบบเองแล้วก็ควบคุมการก่อสร้างเอง""โห คนเก่ง เก่งสุดยอด" ครูนับเก้าชมไม่ขาดปาก แต่สามีด้านข้างกลับทำหน้าจ๋อยใส่ "ไม่ต้องเลยค่ะ พี่ฟ้าต้องง้อนับ เชอะงอนแล้ว""อ้าวเดี๋ยวค่ะแม่" เหนือฟ้าวิ่งตามแม่เข้าไปในบ้าน จึงเหลือเพียงลูกผู้ชายต่างวัยทั้งสองคนที่กำลังยืนจ้องตาทำสงครามเย็นกันอยู่"ผมช่วยให้อาคืนดีกับคุณแม่ได้นะครับ ถ้าอยากให้ผมช่วยจัดดินเนอร์พิเศษให้ ผมก็ทำให้ได้หมด" ภาคียื่นข้อเสนอเอาใจพ่อของแฟนสาว"งั้นจัดดินเนอร์กับหานักสีไวโอลินให้ให้ฉันหน่อย" ผอ.ทัพฟ้ายิ้มแล้วตบไหล่เจ้าของไร่"แค่นี้เองเหรอครับ ผมนึกว่าจริง ๆ แล้วอาจะมาจับผิดผมซะอีก""อาไม่กล้าขออะไรเธอมากหรอกภาคี แล้วที่เดินทางมาด้วยก็ไม่ได้จะมาจับผิดอะไรเธอกับยัยเหนือ แค่หาที่เหมาะ ๆ ง้อแม่นับเขาเท่านั้นเอง แต่จะทำอะไรกันก็อย่าลืมป้องกันให้ดี แล้วก็เรียกพ่อเธอไม่ต้องเร
เช้าวันอาทิตย์ผอ.ทัพฟ้าและครูนับเก้าเดินทางกลับกรุงเทพก่อน โชคดีที่ได้ภาคีจัดดินเนอร์พร้อมกับดนตรีหวานชื่นให้ทำให้พ่อแม่ของเหนือฟ้ากลับมาคืนดีกระหนุงกระหนิงกันดังเดิมหลังมื้อเช้าภาคีขับรถกอล์ฟพาแฟนสาวไปชมวิวทิวทัศน์ในไร่ แล้วหยุดรถที่โรงเรือนปลูกวนิลาด้านข้างมีแปลงผักที่ยังไม่ได้เพาะปลูกปล่อยโล่งอยู่"พี่คีกำลังจะปลูกอะไรเพิ่มเติมเหรอคะ""ยังไม่รู้เหมือนกันครับ คงจะปลูกผักอายุสั้นเก็บเกี่ยวได้เร็ว แล้วเหนืออยากปลูกอะไรล่ะ พี่มีเมล็ดให้เลือก" ภาคีบอกแล้วหายเข้าไปในโรงนาหลังเล็กข้างโรงวนิลา แล้วกลับออกมาพร้อมกับซองเมล็ดปลูกผักเหนือฟ้าก้มดูผักแต่ละชนิดในตะกร้าและสะดุดตาไปที่ผักของโปรดอย่าง แตงกวา "ปลูกอันนี้ค่ะ""ทำไมปลูกแตงกวาล่ะ พี่นึกว่าเหนือจะปลูกพวกคะน้า กวางตุ้งอะไรแบบนี้ซะอีก""เหนือไม่ค่อยชอบกินคะน้าค่ะ มันเหม็นเขียว แต่เหนือชอบแตงกวามาก ๆ""มีผักอะไรที่เหนือไม่ชอบอีกไหม""ไม่ชอบกินหอมแดงกับต้นหอมค่ะ ต่อให้ทำให้เละหรือเปื่อยก็ไม่ชอบอยู่ดี""อย่างน้อยก็กินผักอย่างอื่นได้ ไปเถอะเดี๋ยวพี่จะพาไปปลูกแตงกวา" เขาบอกแล้วเดินหายเข้าไปในโรงนาหลังเล็กอีกรอบแล้วกลับออกมาพร้อมกับถุงดำหยอดเม
เช้านี้เหนือฟ้าเดินทางไปมหาลัยด้วยตนเองโดยรถไฟฟ้าใต้ดินที่ติดกับคอนโด เพราะเมื่อคืนภาคีทำงานหามรุ่งหามค่ำ เธอจึงไม่อยากรบกวน แล้วปล่อยให้เขานอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนิสิตสาวใช่เวลาในการสอบสามชั่วโมงเต็มตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงสิบโมง แล้วเรียนต่อภาคบ่ายจนถึงสี่โมงเย็น ก่อนกลับจึงแวะซื้อของกินมากมายไปฝากเขา"คุณเหนือฟ้ารึเปล่าครับ" รปภ.หน้าคอนโดเดินเข้ามาดักหน้าแล้วก้มลงดูรูปในโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบว่าใช่ตัวจริงหรือเปล่า"ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ""พอดีเจ้าของห้อง 909 ฝากคีย์การ์ดไว้ครับ เห็นว่ามีธุระด่วน""อ้อ ขอบคุณค่ะ" เหนือฟ้ารับคีย์การ์ดของภาคีมาจากมือของรปภ.แล้วเดินกลับห้องพักด้วยสีหน้าเป็นกังวล จึงตัดสินใจโทรไปหา"พี่คีอยู่ไหนคะ เหนือกลับมาถึงห้องแล้วนะคะ""ฮัลโหลเหนือ พี่ขอโทษนะ พี่ต้องบินด่วนกลับมาแม่ฮ่องสอน พอดีรถคนงานประสบอุบัติเหตุ คนงานบาดเจ็บสามคนพ่อเลยส่งพี่มาดูแลพวกเขา""แล้วเป็นอะไรกันมากไหมคะ""ยังไม่รู้เลยครับ พี่ต้องรอไปสอบถามอาการจากหมอที่โรงพยาบาลก่อน ยังไงสามสี่วันนี้เหนืออยู่คนเดียวไปก่อนนะ ถ้าอยู่คนเดียวไม่ได้ เหนือก็กลับไปนอนที่บ้านก่อน""ไม่เป็นไรค่ะ เหนืออยู่ได้ เดินทาง
เสียงนาฬิกาปลุกของเหนือฟ้าดังขึ้นตั้งแต่ตีห้า เช้านี้เธอคิดจะทำอาหารให้ภาคีกินก่อนไปเรียน แต่หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พอเปิดประตูออกจากห้องนอนกลับพบว่าพ่อครัวหนุ่มกำลังยืนผัดอะไรบางอย่างอยู่หน้าเตา สวมผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนรูปควาย เหนือฟ้าเดินตรงมาหาภาคีที่เตา ชะโงกหน้าลงไปดูเมนูส่งกลิ่นหอมในกระทะ "ผัดบ่ะหนุน ผัดแบบใส่พริกแกงเผ็ด ใช้ขนุนอ่อนหน่อย กินตอนร้อน ๆ อร่อยมาก น้องชายพี่ทำให้กินบ่อย" ภาคีบอกแล้วปิดแก๊สเทผัดขนุนอ่อนใส่จาน"พร้อมกินค่ะ หอมน่ากินมาก ๆ เลย""ผัดบ่ะหนุนอย่างเดียวเหรอที่น่ากิน คนทำล่ะ" ภาคีถามขณะเดินนำจานผัดเผ็ดขนุนกลิ่นหอมไปวางที่โต๊ะ โดยมีเหนือฟ้าทำหน้าที่คดข้าวสองจานตามไปทีหลัง"คนทำก็น่ากินอยู่นิดนึง" นิสิตสาวนั่งลงฝั่งตรงข้าม พูดเสียงเบาอย่างอาย ๆ"อนาคตพี่จะให้เหนือกินแล้วกันนะ"เขายังคงตะล่อมและหว่านล้อมให้เธอใจแตก โชคดีที่พี่คีไม่ชอบคนชอบบังคับฝืนใจ การคบหากับเขาจึงมีแต่ความสบายใจภาคีขับรถไปส่งเหนือฟ้าแถมยังแวะซื้อของกินมากมายให้เธอกินระหว่างช่วงพักกลางวัน"อิจฉาอ่ะ พี่คีดูแลเพื่อนรักแก้วดีขนาดนี้เลยเหรอ ดูดิของกินเพียบเลย แฟนแก้วนะทั้งขี้งกทั
บทเพลงบรรเลงรักยามรัตติกาลโหมกระหน่ำดั่งพายุร้อนที่พัดผ่านในช่วงปลายฝนต้นหนาวเสียงหอบกระชั้นของชายหญิงคลอประสานเกิดเป็นท่วงทำนองขับขานอันแสนไพเราะผสานด้วยเสียงคราง เสียงกระแทกกระทั้นที่เคลื่อนเข้าออกเป็นจังหวะภายในตัวเหนือฟ้านั้นเกิดเป็นเมโลดี้ที่ระรื่นหู"อ๊ะ อ๊า" ขาอวบสองข้างถูกงอชิดจนถึงอก ความเป็นชายอัดแน่นของภาคีกระซวกแทงเข้าออกจนเนื้อตัวของคนใต้ล่างเขย่าไปมาอย่างรุนแรง หน้าอกภูเขาไฟสะบัดไปมาคล้ายกับเครื่องดื่มมิลค์เชครสละมุนลิ้น"พี่รักเหนือนะ รักที่สุดเลย" ภาคีพร่ำบอกคำหวานแล้วตอกตัวตนเข้าไปอย่างต่อเนื่อง"อ๊า เหนือก็รักพี่คีค่ะ อ๊ะ" เหนือฟ้าขานรับด้วยใบหน้าแดงก่ำ"โบ๋ววววว" หอมบั่วและลูกชุบที่นอนอยู่ชั้นล่างช่วยกันเป็นคอรัส"ฮ่าฮ่า เหนือร้องจนหมาหอนเลย" เขาแซวด้วยเสียงหอบ"ก็พี่คีซอยขนาดนี้ เหนือก็เสียวน่ะสิคะ" มือนุ่มฟาดเบา ๆ ลงมาที่ซิกซ์แพคเซ็กซี่ ค้อนมองด้วยความหมั่นไส้"เหนือรัดพี่จนปวดร้าวไปหมด พี่ก็ต้องเร่งจังหวะสิครับ" เถียงฉอด ๆ ตามด้วยการขยำหน้าอกสองข้างเล่นถึงแม้เบื้องล่างของเธอกับเขาจะดูดกลืนกันอยู่ แต่ปากคมที่เพิ่งเถียงเมื่อครู่ก็ไม่ยอมเว้นว่าง โน้มต่ำลงมาเพื่อตะ
ภาคีนั่งจิกเกร็งอยู่บนเก้าอี้ไม้เมื่อตรงหน้าขาของเขามีดวงหน้าหวานจ่อเกยแนบเข่า คอยละเลียดเล็มแทะกินส่วนลำร้อนที่กำลังปูดโปนด้วยเส้นเลือดตอนนี้เขามิอาจห้ามปรามหรือเอ่ยปากขอสิ่งใด เพราะนักนวดสรรพาวุธกำลังสวาปามท่อนเนื้อของเขาอย่างเอร็ดอร่อย"อ่า...." กายแกร่งกระตุกเมื่อน้ำขาวขุ่นถูกฉีดพ่นออกไปทางปากปล่องทว่ากลับไม่มีร่องรอยเหลือไว้ให้เห็น เพราะโพรงปากอุ่นสูบกลืนผ่านลำคอลงไปจนแห้งเหือดเมื่อตัวตนของความเป็นชายชาตรีถูกปลดปล่อยออกมา แม่คุณขาก็ตามมาโลมเลียเก็บกวาดจนสะอาดหมดจด"พี่คีขา อีกรอบไหมคะ"คุณพระคุณเจ้าช่วยอ้ายโตย เดี๋ยวนี้เมียติดใจไอ้ปืนใหญ่กลางลำตัวเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วหรือ"อีกรอบเป็นของพี่ต่างหาก" ภาคีรั้งหัวไหล่มนขึ้น ดึงเข้ามากอดกดจมูกสูดดมความหอมขอกลิ่นน้ำนมที่เคลือบอยู่บนผิวนุ่ม มือข้างหนึ่งเอื้อมไปปลดกิ๊บหนีบผมออก แล้ววางลงกับเก้าอี้ ใช้ปลายนิ้วทั้งสิบช่วยสางเส้นผมให้เข้าทรง บรรจงทัดเก็บไว้หลังหู"นี่เลย ผมยุ่ง ๆ ของเหนือในวันนั้นที่เพื่อนพี่ถ่ายรูปส่งมาให้" เขาย้ำถึงเหตุการณ์ในความทรงจำ จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าตนเองนั้นพร้อมจะหยุดที่ผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียว"
มือไม้ที่เต็มด้วยฟองสีขาวควานหาหัวก๊อก เพราะตอนนี้ฟองของยาสระผมกำลังไหลลงมาเคลือบดวงตาจนรู้สึกแสบไปหมด เหนือฟ้าพยายามคลำหา"พี่คีคะ พี่คี" ร่างเปลือยเปล่าตะโกนขอความช่วยเหลือ"ว่าไงเหนือ" ภาคีตื่นตระหนกรีบหากุญแจห้องน้ำแล้วไขเข้าไป เขาสีหน้าแดงระเรื่อทันทีเมื่อเห็นทรวดทรงที่มีน้ำมีนวลปรากฏอยู่ตรงหน้า"ล้างผมให้เหนือหน่อยค่ะ แชมพูเข้าตา" เหนือฟ้าหรี่ตามองพยายามเดินตรงมาหาสามี"อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวพี่ล้างให้"ภาคีจูงมือเหนือฟ้าไปนอนแล้วบังคับให้เธอแหงนศีรษะพาดขอบอ่างช่วงเวลาที่เขากำลังละเมียดละไมกับการล้างคราบยาสระผม จึงเริ่มพูดบางสิ่งที่เหนือฟ้าหลงลืมมานาน"เหนือจำได้ไหมที่เราบอกว่ากลับจากจีนแล้วจะไปขุดไทม์แคปซูลขึ้นมา แล้วพวกเราก็ลืมสนิท""จริงด้วยค่ะ เหนือลืมไปแล้วนะเนี่ย งั้นพรุ่งนี้เราพาลูก ๆ ไปขุดกันดีไหมคะ""พี่วานให้เตียวไปขุดมาให้แล้ว" เขาบอกแล้วหยิบผ้าขนหนูมาซับเส้นผมที่เริ่มยาวจนถึงกลางหลัง"จริงเหรอคะ" เหนือฟ้ารีบร้อนดันตัวเองขึ้นจากอ่างก้าวขาออกแล้วเตรียมคว้าผ้าขนหนูมาพันตัว เดินออกจากห้องน้ำ ทว่าภายในห้องนอนกลับเต็มด้วยดอกกุหลาบสีแดง และเทียนไฟฟ้าที่ส่องไสว"เนื่องในโอกาสพิเศ
เสร็จสิ้นงานทำบุญของไร่ภาคีจึงสั่งให้ลูกน้องทุกคนตรวจสอบบริเวณพื้นที่สวนส้มซ่ายี่สิบไล่ไปจนถึงบริเวณแปลงปลูกอ้อยไข่ปลาอีกจำนวนสามสิบไร่วันนี้เหนือฟ้าจึงมาให้กำลังใจสามีกับคนงานโดยการพาลูก ๆ มาปิ๊กนิคนอกสถานที่และมองดูอยู่ห่าง ๆ ใต้เต้นท์ผ้าใบฟลายชีทที่ปักขึงกับพื้นดินรวมทั้งยังมีของกินมากมายที่เดือนเพ็ญ อินเหลาช่วยกันหอบหิ้วมาจากโรงครัวประจำไร่เพื่อเลี้ยงคนงานระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบ"นี่กืออะหยังจ้าว" น่านฟ้านั่งยอง ๆ มองดูแม่กำลังย่างอ้อยไข่ปลาบนเตาถ่าน""อ้อยไข่ หรืออ้อยไข่ปลาครับ อ่ะ เดี๋ยวแม่ให้น่านชิมนะ" เหนือฟ้าคีบอ้อยกลิ่นหอมย่างเนยลักษณะคล้ายไข่ปลาขึ้นมาจากเตาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ มีน้ำจิ้มให้เลือกสามอย่าง คือ น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มบาร์บีคิว และน้ำจิ้มแจ่ว"กอบกุนจ้าว" น่านฟ้าใช้นิ้วหยิบอ้อยไข่ชิ้มพอดีคำเปล่าพ่นความร้อนเล็กน้อยแล้วจุ่มลงไปในถ้วยน้ำจิ้มบาร์บีคิวแล้วโยนใส่ปาก"เป็นไงชอบไหมครับ" เหนือฟ้าลูบหัวลูกชายคนเล็ก"ฮักเลย กิ่นโหมกะหนาด น่านจ้วยเน้อหนุนเหนือ" เด็กชายตัดสินใจหยิบเก้าอี้มานั่งดูแม่ย่างอ้อยไข่ เพื่อรอกินรอบต่อไปส่วนนิ่มฟ้ากำลังช่วยพี่ชายย่างหมูปิ้ง โดยมีอินเหล
วันที่สามของการกลับมาอยู่ที่ไร่พิทักษ์มหิงสาตามเดิม เหนือฟ้าตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าแต่กลับมีคนไวกว่า บุคคลที่ว่าก็คือภาคี บะแต๋ง สองคนพ่อลูกที่กำลังช่วยกันเตรียมมื้อเช้าอย่างพิถีพิถันเหนือฟ้ายิ้มกริ่มประทับใจพ่อบ้านกับแก๊งลูกขนุนของตนเอง คุณแม่สายเที่ยวจึงได้โอกาสย่องเบาออกไปจากบ้านพร้อมกับลูกชุบ คุณแม่หมาคู่ขาของเจ้านาย แต่ทว่ากลับมีมือเล็ก ๆ ยื่นมาเกาะข้อเท้ายื้อยุดเอาไว้สาวอวบสะดุ้งเฮือกค่อย ๆ ก้มดูผลปรากฏว่าเป็นลูกแฝดของตนนั่นเอง"หมู่เหาไปโตยเน้อ" นิ่มฟ้าพูดกระซิบ น่านฟ้ายิ้มกว้างช่วยพี่สาวอ้อนวอนแม่"เงียบ ๆ นะจ๊ะ"สามคนแม่ลูกและหมาอีกหนึ่งตัวขับซาเล้งตรงไปที่ไร่ลิ้นจี่ ขับผ่านโรงวนิลาที่เหล่าคนงามกำลังเดินไปมากวักไกว่รอบ ๆ โรงเรือนตั้งแต่เช้าตรู่"หวัดดีครับคุณนาย คุณแฝดตื่นเช้าจังเลยค่า" เสียงคนงานในไร่ตะโกนทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส"ซาหวัดดีจ้าว ไผจานอนคุ่มคาลุ่มอยู่ละจ้าว" นิ่มฟ้าตะโกนตอบกลับไป"คุ่มคาลุ่มเหรอจ๊ะ ใช่กุ้มกาลุม ที่แปลว่านอนคลุมโปงหรือเปล่า" คุณแม่ทวนถามเพื่อความแน่ใจว่าเธอกับลูกเข้าใจตรงกันุ"แม่นแล้วอี่แม่" สาวน้อยมัดแกะสองข้างพยักหน้า"แล้วหมู่เหาจาไปตี้ได ปายเข๋
การใช้ชีวิตอยู่ที่แม่ฮ่องสอนดำเนินมาเกือบสามปีเต็ม น่านฟ้ากับนิ่มฟ้าก็เริ่มคุยจ้อและเดินเตาะแตะไปมาทั่วไร่ชา ด้วยพัฒนาการอันแสนรวดเร็วทำให้แฝดคู่แสบสามารถคุยได้คล่องแคล่ว หยิบจับ ชี้สิ่งของได้ถูกต้อง แม้จะพูดไม่ชัดและไม่เป็นภาษาเท่าไหร่นัก"ปาขี้ หาหนุนกันเต๊อะ" น่านฟ้าจะไปหาแม่ที่กำลังรับนักท่องเที่ยวจีนอยู่กลางไร่ แม้อากาศบนดอยนี้จะเย็นแต่ช่วงเที่ยงวันกลับมีแดดจ้า ภาคีจึงไม่อยากให้ลูกไปเล่นซน"เรียกป้อเฉย ๆ ได้ก่อ ป้อไม่อยากเป็นป้อขี้เลยจ้าว" ภาคีอุ้มลูกชายตัวสูงเท่าหัวเข่าใส่คอกกั้น"ป้อบ่าใช่ปาขี้ แล้วป้อกืออายัย" นิ่มฟ้ากำลังนั่งเล่นบล็อกไม้ในคอก เอ่ยปากถามพ่ออย่างชาญฉลาด"ภาคี ภาคีครับลูก เฮ้อ...เอาเถอะอยากเรียกอะไรก็เรียกไป" ภาคีต้องทำหน้าที่พ่อนมเลี้ยงลูก เพราะทั้งสัปดาห์นี้ทัวร์จีนเข้าไม่หยุด นาน ๆ จะมีกรุ๊ปทัวร์ญี่ปุ่นหลงมาสักสองสามคณะ แต่ก็นานทีปีหนทำให้หน้าที่เลี้ยงลูกตกเป็นของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โชคดีหน่อยที่ช่วงปิดเทอมบะแต๋งจะแวะมาอยู่ที่แม่ฮ่องสอนเพื่อแบ่งเบาภาระช่วยพ่อกับแม่เลี้ยงน้อง"ตายแล้ว ๆ คุณคีคะอีนางชมออนมันมาเกาะแกะเซ้าซี้คุณนายค่ะ" จู่ ๆ ผู้จัดการดู
บะแต๋งเดินไปเดินมารอพ่อที่เข้าไปในห้องผ่าคลอดกับแม่ ในมือมีตุ๊กตาหุยหุยมาสคอตควายเผือกสีชมพูสองตัว เพื่อรอมอบให้น้องที่กำลังจะลืมตาดูโลก"แต๋งครับมานั่งรอกับย่าก่อนเถอะลูก ย่าซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ชอบมาฝากด้วยนะ" เจ๊ต่ายกุมไหล่เล็กของหลานชายที่กำลังจดจ่อรอคอยน้องกับพ่อแม่โดยไม่ละสายตา"แต๋งกินไม่ลงจ้าว แต๋งเป็นห่วงอี่แม่กับน้อง" บะแต๋งกอดตุ๊กตาควายสองตัวแน่น หัวใจเต้นตึกตัก อยากพบหน้าน้องใจแทบขาด"งั้นป้ออุ้ยกิ๋นเน้อ" หม่อมเจ้าภูวสินอาสากินแทนหลาน บะแต๋งพยักหน้ารับแล้วหันกลับไปมองบานประตูห้องคลอดดังเดิมกี่นาที หรือกี่ชั่วโมงผ่านไปแล้วไม่รู้ ตอนนี้บะแต๋งเริ่มหิวข้าวจนตาลายแต่วินาทีที่กำลังจะไปขอหมูปิ้งจากย่ามากิน ประตูห้องคลอดก็เปิดออก พ่อเดินนำออกมาก่อนตามด้วยเตียงของแม่"ป้อ อี่แม่ เป็นอะหยังบ้างจ้าว โอเคก่อ"บะแต๋งปรี่เข้าไปเกาะขาพ่อที่น้ำตาท่วมหน้า ภาคีคุกเข่าลง"โอเคจ้าว น้องอ้วนท้วนสมบูรณ์ลูก ปะเราไปเจอน้องกันดีกว่า"ครอบครัวกฤตกล้าธนาดรนั่งรอทารกน้อยที่นางพยาบาลกำลังเข็นมาส่งให้ที่ห้องพักฟื้น "แต๋งมาหาแม่สิครับ"เหนือฟ้ากวักมือเรียกลูกชายที่เริ่มกินนั่นกินนี่ได้เพราะสบายใจที
ภายในห้องพักพิเศษแอร์เย็นเฉียบ รอบห้องมีทั้งกระเช้าดอกไม้ ตะกร้าผลไม้และของบำรุงสุขภาพของเหนือฟ้าที่แวะเวียนมาเยี่ยม เนื่องจากคุณแม่ลูกแฝดได้รับการวินิจฉัยว่าอาจเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ เพราะตลอดแปดเดือนที่ผ่านมาหญิงสาวยังคงแพ้ท้องหนัก แม้จะกินได้บ้างแต่ก็กินได้น้อยภาคีเป็นห่วงลูกกับเมียในท้องจึงตัดสินใจให้เหนือฟ้านอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจนกว่าจะคลอดก๊อก ๆด้านนอกประตูห้องมีสองสามเงากำลังยืนตะคุ่ม ๆ คนตัวสูงที่กำลังนั่งเช็คออเดอร์ผลไม้อบแห้งระหว่าเฝ้าเหนือฟ้ารีบวางแล๊ปท็อบลงข้างโซฟา แล้วเดินออกไปรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนหลังบานประตูห้องผู้ป่วย มีใบหน้าเล็กยื่นทำตาแป๋วส่งให้ พร้อมกับบะแต๋ง เตียวหุยและเปาะเปี๊ยะที่แวะมาส่งอาหารให้คนเฝ้าไข้กับคนท้องรับประทาน"ซาหวัดดีจ้าวยุงคี" ปังเนย วัยห้าขวบมัดผมทรงหางม้ายกมือยกไม้สวัสดี"สวัสดีครับปังเนยหลานลุง" ภาคีโค้งตัวลงอุ้มปังเนยขึ้นมาแล้วฟัดแก้มหลานสองสามที"ป้อ แต๋งรู้แล้วนะว่าอี่แม่ไม่สบาย แต๋งจะมาอยู่ดูแลด้วย" บะแต๋งโผเข้ามาจับข้อมือพ่อ ภาคีเหลือบตามองลูกชายของตนอย่างชั่งใจ เพราะเขาไม่อยากให้ลูกรู้สึกหดหู่ใจเมื่อต้องเห็นว่าแม่มีอาการยังไง"ใ
บะแต๋งเปิดเทอมสองจึงกลับไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาลเวหะชลการสาขาในกรุงเทพใกล้กับร้านปลาเผาพุงพุ้ย และย้ายไปนอนที่บ้านเตียวหุยเป็นหลัก กลายเป็นลูกอีกคนของน้องชายไปเรียบร้อยที่สำคัญที่บะแต๋งไม่ค่อยอยากแยกจากอา เพราะตัวติดกับปังเนย ลูกสาวคนโตของเตียวหุยที่กำลังอยู่ในวัยหัดจ้อและก็แก่นแก้วเป็นที่สุดอีกอย่างช่วงนี้เหนือฟ้าเพิ่งท้องลูกแฝดได้เพียงสี่เดือน ภาคีจึงอยากให้เตียวหุยช่วยดูแลลูกชายไปก่อนจนกว่าภรรยาจะคลอดเพราะถ้าบะแต๋งอยู่บ้านก็คงจะตามวอแวแม่ และหาเรื่องชวนกันไปซุกซนยิ่งท้องแฝดรอบนี้ค่อนข้างอ่อนไหว จะเดินเหินอะไรก็ลำบาก จะกินจะอยู่ก็ต้องระมัดระวังให้มาก"แหวะ!" ใบหน้ากลมปุ๊กก้มงุดลงไปในชักโครก ภาคีวิ่งเข้าไปลูบหลัง พร้อมแกว่งยาดมให้เมียที่มีอาการแพ้ท้องหนัก"ไหวไหมเหนือ หมอบอกว่าถ้าไม่ไหวให้ไปนอนโรงพยาบาล พี่จ่ายไหวเหนือไม่ต้องเป็นห่วง""เหนือเกรงใจค่ะ ยังไงขอคิดดูก่อนนะคะ แต่ตอนนี้เหนืออยากเยอะแยะไปหมดเลย" เหนือฟ้าค่อย ๆ ลุกขึ้นโดยมีภาคีช่วยพยุง"อยากอะไรมั่งครับ พี่จะไปหามาให้" พ่อเลี้ยงหนุ่มรปะคองภรรยามายังเก้าอี้แบบปรับนอนได้ ภายในห้องนั่งเล่นนี้เขาได้เตรียมการทุกอย่างพร้อม ทั้