ภาคีผลักประตูแล้วรีบกดล็อกสาวเท้าเข้ามาจนเหนือฟ้าวิ่งหนีไปอยู่มุมห้อง
"พี่คีจะทำอะไร หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ต้องเข้ามา" หนุ่มมาดเซอร์ท่าทางยียวนกวนประสาทเลิกคิ้วสูงแล้วพุ่งตัวเข้าใส่สาวอวบหลับตาปี๋ยกแขนป้องตัวเอง สองแขนเต็มด้วยมัดกล้ามคร่อมแนบหัวไหล่เปลือยขาว "ขี้แย ขี้ตกใจ ขี้ขางด้วย น่าฮักขนาด" "ขี้ขางอะไรเหนือไม่เข้าใจค่ะ" เหนือฟ้าหลุบตามองพื้นพยายามทำตัวลีบแบน "ฮ่าฮ่าบ่ะหนุนน้อย จะย่อขนาดเหรอครับ ตัวเท่านี้แหละพี่ชอบ" "ฮะ...ชอบ ชอบอะไร" หญิงสาวพยายามจะมุดออกจากวงแขนกว้าง แต่ภาคีก็ขยับตามตลอด "ชอบบ่ะหนุนไง อร่อยดี" "เหนือไม่ใช่ขนุน....เฮ้ยพี่คีนั่นจิ้งเหลนนี่คะ มันเข้ามาในห้องได้ยังไง" เหนือฟ้าแสร้งหลอกให้เขาตายใจ "ฮะไหน" เขาก็ช่างหลอกง่าย สาวอวบจึงได้โอกาสมุดตัวหนีออกจากวงแขนที่คร่อมยันผนังอยู่ "จะหนีไปไหน" ถึงจะหลงกลแต่ระดับความเร็วของเขาก็ต่างกันอยู่ดี เรียวแขนแกร่งรวบเอวเหนือฟ้าแล้วรั้งให้หันกลับมาปะทะกับตัวของเขา คราวนี้ภาคีใช้แขนสองข้างรัดตัวเธอไม่ต่างกับงูเหลือมเพศผู้ "พี่คีชอบใช้กำลัง" บ่นอุบอิบทำแก้มป่องจนอยากก้มลงฟัดให้ช้ำกันไปข้างนึง "เปล่านะ พี่ไม่ได้ชอบใช้กำลัง แต่พี่ชอบเล่นกับเหนือ เหนือตลกดี" "ชายหญิงที่ไหนเขาเล่นกันถึงเหนือถึงตัวขนาดนี้" เหนือฟ้าพยายามดันตัวเขาออก แต่ยิ่งต่อต้านภาคีก็ยิ่งรัด เวลานี้ทรวงอกของเธอถูกบี้จนแทบรวมเป็นเนื้อเดียวกับแผ่นอกของเขาอย่างไม่มีทางเลือก "ขอกอดได้ก่อ" ภาคีเกริ่นถามเป็นภาษาเหนือ "หน้าด้าน หน้าฉาบยางมะตอยร้อยปี จู่ ๆ ก็ขอกอดเหนือไม่ใช่ตุ๊กตา ไม่ใช่ของเล่นพี่คีนะ" "หรืออยากทำอย่างอื่น" ปากแดงก้มลงปัดผ่านผิวแก้มที่ร้อนผ่าว ลำคอขาวกลืนน้ำลายดังอึกจนอีกฝ่ายได้ยินชัดเต็มสองหู "อยากกินพี่เหรอ อยากกินส่วนไหน ปาก นม แขน ขา พี่ให้เลือกกินได้ตามสบายเลย" "เหนือไม่หน้ามืดจนกินผู้ชายเข้าไปทั้งตัวหรอกค่ะ" "แต่พี่อาจจะหน้ามืดเผลอกินบ่ะหนุนสุกงอมลูกนี้เข้าไปก็ได้นะ" เขายังคงกวนประสาทเธอไม่หยุด "เมื่อไหร่พี่คีจะปล่อยเหนือ เหนือเมื่อยขาแล้วก็อึดอัดด้วย" "ย้อนไปที่คำถามแรก พี่กอดได้ไหม" เขายังคงดื้อดึงจะกอดเธอให้ได้ ทั้งที่ตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างจากการถูกกอดไว้เลยสักนิด "แล้วตอนนี้ไม่ได้กอดอยู่เหรอคะ" เหนือฟ้าเชิดหน้าขึ้น ภาคีเถียงไม่ออกเพราะตอนนี้เขาก็กอดเธออยู่จริง ๆ เพียงแต่ว่าเป็นการกอดฝ่ายเดียว สิ่งที่เขาต้องการคืออ้อมกอดอุ่นของเธอ "เงียบอีก สตั๊นไปแล้วเหรอคะ ฮ่าฮ่าเถียงไม่ได้ล่ะสิ" สาวแก้มยุ้ยค่อนขอดด้วยท่าทางทะเล้น หนุ่มหน้าขาวคมก้มมองริมฝีปากช่างเถียงคำไม่ตกฟาก ปากกระจับเล็กอิ่มเอบดูน่าจูบกว่าทุกคนที่เคยพบมา ยิ่งอยู่ห่างจากปากของเขาเพียงไม่กี่เซ็น อสูรร้ายในร่างก็สั่งการให้คิดแต่เรื่องแย่ ๆ สั่งการให้จูบ ๆ ๆ มีแต่คำว่าจูบเต็มหัวไปหมด ไม่ได้เด็ดขาด เขากำลังตั้งใจที่จะหาแม่ของลูกอย่างจริงจัง ดังนั้นเขาจะต้องค่อยเป็นค่อยไปทีละขั้นตอน ภาคีปล่อยแขนที่รวบรัดแม่จอมเถียงออกอย่างยอมแพ้ "พี่ขอโทษ พี่ไปทำงานก่อนนะ" เขารีบร้อนตัดบทอย่างไว ทั้งที่เมื่อกี้พะเน้าพะนอจะกอดเธออยู่แท้ ๆ "จะกอดก็กอด" เหนือฟ้ารีบตีปากตัวเองแล้วหมุนกายหนีภาคีที่เอี้ยวตัวกลับมา รอยยิ้มร่าเริงผุดพรายขึ้นบนใบหน้าของหนุ่มผมยาวประบ่า ปลายรองเท้าบู๊ทหนังก้าวเข้ามานิดเดียวก็ถึงแผ่นหลัง ดวงตาคมไล่มองหลังคอขาวเนียนไร้ที่ติที่โผล่พ้นจากเสื้อปาดไหล่สีเหลืองลายดอกไม้ "หันหน้ามาหาพี่หน่อยสิ นะครับ" เขาอ้อนเสียงเล็กเสียงน้อย หญิงสาวหมุนกายกลับมาเผชิญหน้าใบหน้าบูดบึ้งของเธอทำให้เขามันเขี้ยวจนอยากบีบแก้มสักครั้ง คิดแล้วก็ลงมือทำทันที แก้มป่อง ๆ อมชมพูของเหนือฟ้าถูกภาคีบีบเล่นเหมือนกับสกุ๊ชชี่ "จะกอดหรือจะบีบ เอาดี ๆ ได้คืบจะเอาศอกนะคะ" ภาคีรีบทิ้งมือลงแล้วเริ่มกิจกรรมหลักที่เขาเสนอไปเมื่อครู่ เขากางแขนกว้าง เหนือฟ้าทำตามแล้วโผเข้ากอด "เต็มกอดดีจัง" เขาพูดพึมพำอยู่ข้างหู แล้วลูบไล้แผ่นหลังเธอเพื่อปลอบขวัญ "เมื่อกี้เหนือเห็นพี่จูบกับคนอื่นใช่ไหม พี่ขอโทษนะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคู่นอนชั่วคราว พี่ต้องบอกตามตรงว่าพี่เบื่อ ๆ ก็ซื้อกิน" "แล้วบอกเหนือทำไม" "แค่ไม่อยากให้เข้าใจผิด พี่อยากให้เราเข้าใจตรงกัน" "พี่คีซื้อกินมานานหรือยังคะ แล้วทำไมถึงไม่มีแฟนสักที" คราวนี้เธอเป็นฝ่ายลูบแผ่นหลังกว้าง ภาคีอมยิ้มที่อีกฝ่ายเริ่มแสดงออก "หลังเรียนจบปริญญาตรีก็ซื้อมาตลอด" "พี่คีมักมาก พี่คีหื่น" เหนือฟ้าบ่นอุบ "พี่สนับสนุนอาชีพ Sex worker ต่างหาก ทุกอาชีพต่างก็มีคุณค่า ในเมื่อเขาทำด้วยความสุจริตพี่ก็แค่ช่วยซื้ออย่างสุจริตเท่านั้นเอง" "คนดีมีน้ำใจเหลือเกิน" มือหนาดันหัวไหล่ของคนที่ตัวเล็กกว่า "แล้วทำไมเหนือไม่มีน้ำใจกับพี่บ้างครับ" "เหนือดูเป็นคนโหดร้ายเหรอคะ" หญิงสาวมุ่นคิ้ว "ใช่ เหนือชอบไล่พี่ หนีพี่ ทั้งที่มีแต่คนอยากวิ่งหาพี่ มันก็เลยทำให้พี่สนใจเหนือขึ้นมา" เขาอธิบายพลางใช้ปลายนิ้วเรียวสวยเหมือนผู้หญิงสางไปตามเส้นผมที่ยุ่งเหยิงของเธอ "เหนือขอพูดตามตรงนะคะ เหนือไม่เคยได้รับการแสดงออกอย่างเท่าเทียมจากคนอื่นมาก่อน โดยเฉพาะเพศตรงข้าม ปกติเพื่อนที่มหาลัยทั้งชายและหญิง ส่วนใหญ่จะไม่อยากคบหาเหนือนักอาจจะเป็นเพราะหุ่นทรงตุ่มของเหนือ แต่เหนือก็มีเพื่อนสนิทสองคนนอกนั้นก็ปากหอยปากปูเหมือนกันหมด ไม่มีใครจริงใจสักคน" "ดังนั้นเหนือก็เลยตัดสินว่าพี่เป็นคนไม่จริงใจเหมือนคนพวกนั้นงั้นเหรอ" ภาคีเริ่มไม่สบอารมณ์ "เหนือยังบอกไม่ได้ว่าพี่คีจริงใจหรือเปล่า ของแบบนี้ต้องดูกันนาน ๆ เหนือเจ็บมาเยอะ เหนือเข็ด ตอนนี้เหนือไม่อยากเจ็บอีกแล้ว หวังว่าพี่คีจะเข้าใจนะคะ" เธอบอกแล้วปล่อยอ้อมกอด เดินออกไปที่ระเบียง "งั้นพี่จะพิสูจน์ให้เหนือเห็นเอง" เขาประกาศลั่นคิดจะทำทุกอย่างให้เธอเห็นถึงความจริงใจอีกวันเดียวครอบครัวเวหะชลการก็จะเดินทางกลับกรุงเทพ ภาคีจึงมายืนดักรอเหนือฟ้าหลังเธอกินมื้อเช้ากับครอบครัวเสร็จ วันนี้เหนือฟ้าใส่ชุดเอี๊ยมกางเกงขายาวสวมหมวกปีกกว้าง มองเผิน ๆ ดูน่ารักเหมือนสาวชาวไร่ ขณะที่เธอกำลังเดินมาถึงตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ หนุ่มผมยาวตัดสินใจคุกเข่าลงตรงหน้า "เหนือเป็นแฟนกับพี่นะ" ทั้งพ่อแม่พี่สาว ทุกคนมองเธอเป็นตาเดียวกันแล้วรีบซอยเท้าเดินหนีไปจากตรงนั้นเพื่อให้เธออยู่กับเขาสองคน "พี่คีอ่ะ...ลุกเถอะค่ะเหนืออาย" "ไม่ลุก จนกว่าเหนือจะตกลง" "ก็ได้ค่ะ เหนือจะเป็นแฟนกับพี่คี" สาวอวบอมยิ้มแล้วฉุดแขนภาคีขึ้นมา "นี่ดอกไม้ที่พี่ปลูกเอง" ดอกไม้สารพัดสายพันธุ์ช่อใหญ่อยู่ในมือของเขา เหนือฟ้ารีบดึงช่อดอกไม้ดังกล่าวมาอย่างว่องไว พราะไม่อยากยืนเป็นเป้าสายตาของใครต่อใคร "ขอบคุณค่ะ" "พรุ่งนี้จะกลับกรุงเทพแล้วใช่ไหม พี่แวะไปหาได้เปล่า" "เหนือปิดเทอมแค่สองอาทิตย์ก็ต้องกลับไปเรียนต่อแล้วค่ะ พี่คีจะไปหาก็ไปหาที่บ้านแทนได้ไหม คือเหนือไม่อยากให้คนอื่น ๆ นินทาพี่คี" "ใครเขาจะพูดอะไรก็ปล่อยให้พูดไปสิ พี่ไม่แคร์" ความจริงแล้วเธอหวงเขาต่างหากไม่อยากให้ใครเ
นิสิตสาวเดินลงมาจากตึกคณะโบกมือลาเพื่อน ๆ ในกลุ่มจากนั้นตรงไปที่ร้านน้ำปั่นเจ้าโปรดเพื่อสั่งข้าวโพดนมสดปั่น แต่ขาเจ้ากรรมกลับสะดุดกึก เพราะห่างจากเธอไม่กี่เมตรคือ สารถีรูปหล่อสุดฮ็อตที่กำลังยืนกินหม่าล่าอยู่ข้าง ๆ ร้านน้ำปั่น โดยที่รอบตัวเขามีแต่นักศึกษาชายหญิงที่กำลังยืนห้อมล้อมราวกับพบดาราดัง "ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ ผมขอแสกนจ่ายนะ" ภาคีล้วงหาโทรศัพท์เพื่อแสกนจ่าย แต่ทันใดนั้นดาวมหาลัยอย่างลินินก็เสนอตัวด้วยการยื่นแบงค์พันส่งให้ชายหนุ่ม"หนึ่งร้อยบาทจ้ะพ่อหนุ่ม นี่จ้ะ" ป้าแม่ค้าบอกพลางหยิบคิวอาร์โค้ดให้ลูกค้าหนุ่มแสกนจ่าย"เดี๋ยวลิเลี้ยงมื้อนี้เองค่ะ" นิสิตคนสวยกล่าวด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ เหนือฟ้าที่ยืนมองดูอยู่นั้นได้แต่ลอบถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ แล้วรีบยกกระเป๋าปิดหน้าเดินไปสั่งน้ำข้าวโพดแก้วโปรดโดยไม่สนใจภาคี"ไม่เป็นไรครับ ผมมีเงิน" ภาคีตัดบทแล้วหยิบโทรศัพท์มาแสกนจ่าย สายตาที่เขาตวัดมองลินินนั้นดูเย็นชาและแฝงด้วยความน่ากลัว โชคดีที่เธอแชตมาสั่งมาน้ำปั่นกับแม่ค้าก่อน พอไปถึงก็ได้รับน้ำข้าวโพดปั่นกลิ่นหอมพอดี ทำให้เธอสามารถหลบหลีกการปะทะกับผู้ห
เหนือฟ้านั่งบิดขี้เกียจอยู่ใต้โคมไฟสีส้มสลัว ดวงตากลมเริ่มพร่าเลือนจนภาคีที่กำลังจัดวางกับข้าวถึงต้องชะเง้อคอมองดูด้วยความกังวล "เสร็จแล้วครับ มากินได้เลย" หนุ่มมาดเซอร์ในชุดผ้ากันเปื้อนมัดจุกรวบเก็บผมไว้ครึ่งหัวเดินมาตามนิสิตแสนขยันในห้อง สาวอวบกลั้นยิ้มเพราะเธอโคตรโชคดีที่ได้เห็นหนุ่มฮ็อตขวัญใจสาวค่อนประเทศในสภาพพ่อบ้านกล้ามโต "รับทราบค่ะ" เหนือฟ้าเดินตรงไปที่โต๊ะกินข้าว มองข้าวซอยไก่ชามใหญ่และน้ำข้าวโพดปั่นนมสดฮอกไกโดกลิ่นหอมสองชุด ภาคีนั่งลงฝั่งตรงข้าม แล้วรินน้ำเปล่าเพิ่มให้เธออีกหนึ่งแก้ว ทำไมเขาช่างดีกับเธอมากมายขนาดนี้ ทั้งที่เธอทำตัวเย็นชากับเขาสารพัด แต่เขาก็ไม่โกรธเลยสักครั้ง "พี่คีทำอาหารน่ากินจัง" เหนือฟ้าบอกแล้วตักข้าวซอยไก่ร้อน ๆ คำแรกใส่ปาก ดวงตากลมถลึงมองเมนูดังกล่าวในชามตัวเอง แล้วเริ่มจ้วงกินคำใหญ่อย่างลืมตัว จนพ่อครัวหัวเราะร่วน "อร่อยใช่ไหม กินเยอะ ๆ นะเดี๋ยวจะผอมไป" เขาแซว "อร่อยมากค่ะ ไก่ก็เปื่อยมาก น้ำซุปก็จัดจ้าน กดไลก์ให้เลย" เหนือฟ้าฉีกยิ้มเคี้ยวแก้มตุ่ย ภาคีรู้สึกภูมิใจที่ทำให้สาวที่เขาลงท
เมื่อคืนเหนือฟ้านอนไม่ค่อยหลับเพราะอดคิดไม่ตกเรื่องที่เขาบอกมีแพลนจะเดินทางเร็ว ๆ นี้ วันนี้ก็เลยตื่นตั้งตีห้าครึ่ง ทั้งที่มีคาบเรียนแรกตอนแปดโมงเช้า นิสิตสาวอาบน้ำแต่งตัวมองหาชุดนักศึกษาที่เธอแขวนไว้กับตู้ กะว่าจะขอเตารีดของภาคีมาใช้รีดชุดตอนเช้า ทว่าชุดของเธอกลับไม่ได้แขวนไว้ที่เดิม เพราะมันถูกแขวนไว้ที่โต๊ะยืนรีดผ้ายิ่งไปกว่านั้นทั้งเสื้อและกระโปรงของเธอก็ถูกรีดจนเนี๊ยบไม่มีรอยยับรอยพับใด ๆ"ฝีมือพี่คีเหรอ" หญิงสาวพูดพึมพำพลางหยิบชุดนักศึกษามาใส่ แล้วคิดว่าจะทำมื้อเช้าให้เขารับประทาน เขาจะได้รู้ว่าเธอเองก็มีเสน่ห์ปลายจวักอยู่เหมือนกันผ่านไปเพียงสิบกว่านาทีไข่กระทะกับนมจืดก็ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะกินข้าว แต่รอจนหกโมงครึ่งภาคีก็ยังไม่ตื่น เหนือฟ้าจึงเดินไปเคาะห้องทำงาน"พี่คีคะ พี่คีตื่นหรือยัง"เพราะเขาไม่ตอบเธอจึงค่อย ๆ บิดกลอนประตูเข้าไปแล้วเดินให้เงียบที่สุด แต่พอเห็นว่าเขานอนหลับฟุบอยู่หน้าจอคอม จึงเข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังไม่ตื่น เหนือฟ้าหยุดที่หน้าจอคอม มองดูบางสิ่งที่เขาทำค้างไว้ ผลปรากฏว่ามันคือเอกสารภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ ซึ่งเธออ่านไม่ออกเลยสักตัว"พี่คี เหนือมาปลุกไปกินมื้อเช้าค่ะ"
เหนือฟ้านอนร้องไห้ตาบวมจนถึงสามทุ่ม จึงลุกเดินไปอาบน้ำแล้วกลับมาอ่านชีตสรุปสำหรับการสอบเก็บคะแนนในสัปดาห์หน้า"เหนือ พี่จะเอาเสื้อผ้าไปซักให้ เปิดประตูให้พี่หน่อยครับ"คนด้านในแง้มประตูออกเพียงเล็กน้อย "เหนือซักเองได้ค่ะ พี่คีป่วยอยู่ก็ไปพักเถอะ"จังหวะที่กำลังจะปิดประตู ภาคีสังเกตเห็นดวงตาที่บวมช้ำ เขาจึงจับขอบประตูไว้ไม่ให้เหนือฟ้าปิด "เป็นอะไรรึเปล่า""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เหนือจะอ่านหนังสือสอบ" เหนือฟ้าพยายามดึงประตูที่ภาคีกำลังง้างออก แต่ด้วยสู้แรงคนตัวใหญ่กว่าไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องยอมให้เขาเปิดประตูเข้ามาคนที่กำลังเสียใจรีบเดินหนีไปโต๊ะทรงกลมริมหน้าต่างห้องนอน พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล "เหนือ หันมาหาพี่หน่อย""พี่คีจะไปญี่ปุ่นเหรอคะ"ภาคีอึ้งคิ้วเข้มขมวดเข้ามากัน นึกย้อนไปถึงตอนที่เขาให้เธอไปหยิบยาในลิ้นชัก สงสัยคงจะไปเจอเอกสารมหาลัยที่ญี่ปุ่นกับพาสปอตที่เขาแอบเก็บไว้"ใช่ พี่จะไปเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น""แล้วพี่คีคิดจะบอกเหนือเมื่อไหร่ หรือคิดจะบอกตอนที่เหนือถลำลึกไปมากกว่านี้" เหนือฟ้าเถียงเสียงสั่นพยายามเดินหนีไปที่อื่นไม่ให้เขาเห็น ภาคีรีบเดินไปดักหน้า ทำให้พบว่าดวงหน้าจิ้มลิ้ม
รุ่งเช้าของวันเสาร์เหนือฟ้าเก็บเสื้อผ้าและของสำคัญลงกระเป๋าสะพายใบย่อม ส่วนที่เหลือกะว่าจะไปเอาเพิ่มเติมที่บ้าน หญิงสาวออกมานั่งรอภาคีที่หน้าทีวี พักหนึ่งเขาก็เดินตัวหอมฉุยจนกลิ่นกายตีขึ้นจมูก"กลิ่นเซ็กซี่จัง" เหนือฟ้านั่งเขินบิดแล้วลอบมองภาคีที่กำลังกดโทรศัพท์คุยกับแม่ของเขา ขณะที่เหนือฟ้าได้โอกาสหยิบโทรศัพท์มาส่องโซเชียลเพื่อเช็กเรตติ้งของแฟนหนุ่ม โดยใช้โปรไฟล์ชื่อ 'สาวน้อยข้าวโพด' ตามกดไลก์รูปภาพในแอป ๆ หนึ่งของเขา แล้วยังคอมเมนต์ให้กำลังใจภาคีอยู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Pakee Kritkratanadorn บ้าน ถูกใจ 188,920 คน
รถแวนของผอ.ทัพฟ้าจอดยังโรงรถบริเวณบ้านไม้ของภาคี แฟนหนุ่มอนาคตไกลของลูกสาวจึงเดินมาต้อนรับอีกครั้ง"ผมจะพาไปดูห้องนอนครับ""อืม บ้านสวยมากเลยภาคี แล้วนี่เธอปลูกเองเหรอ" ผอ.ทัพฟ้ามองความใหญ่โตของบ้านไม้สไตล์แปลกตาที่เหมือนกับบ้านฝรั่งในต่างประเทศ"ครับ ผมเป็นคนออกแบบเองแล้วก็ควบคุมการก่อสร้างเอง""โห คนเก่ง เก่งสุดยอด" ครูนับเก้าชมไม่ขาดปาก แต่สามีด้านข้างกลับทำหน้าจ๋อยใส่ "ไม่ต้องเลยค่ะ พี่ฟ้าต้องง้อนับ เชอะงอนแล้ว""อ้าวเดี๋ยวค่ะแม่" เหนือฟ้าวิ่งตามแม่เข้าไปในบ้าน จึงเหลือเพียงลูกผู้ชายต่างวัยทั้งสองคนที่กำลังยืนจ้องตาทำสงครามเย็นกันอยู่"ผมช่วยให้อาคืนดีกับคุณแม่ได้นะครับ ถ้าอยากให้ผมช่วยจัดดินเนอร์พิเศษให้ ผมก็ทำให้ได้หมด" ภาคียื่นข้อเสนอเอาใจพ่อของแฟนสาว"งั้นจัดดินเนอร์กับหานักสีไวโอลินให้ให้ฉันหน่อย" ผอ.ทัพฟ้ายิ้มแล้วตบไหล่เจ้าของไร่"แค่นี้เองเหรอครับ ผมนึกว่าจริง ๆ แล้วอาจะมาจับผิดผมซะอีก""อาไม่กล้าขออะไรเธอมากหรอกภาคี แล้วที่เดินทางมาด้วยก็ไม่ได้จะมาจับผิดอะไรเธอกับยัยเหนือ แค่หาที่เหมาะ ๆ ง้อแม่นับเขาเท่านั้นเอง แต่จะทำอะไรกันก็อย่าลืมป้องกันให้ดี แล้วก็เรียกพ่อเธอไม่ต้องเร
เช้าวันอาทิตย์ผอ.ทัพฟ้าและครูนับเก้าเดินทางกลับกรุงเทพก่อน โชคดีที่ได้ภาคีจัดดินเนอร์พร้อมกับดนตรีหวานชื่นให้ทำให้พ่อแม่ของเหนือฟ้ากลับมาคืนดีกระหนุงกระหนิงกันดังเดิมหลังมื้อเช้าภาคีขับรถกอล์ฟพาแฟนสาวไปชมวิวทิวทัศน์ในไร่ แล้วหยุดรถที่โรงเรือนปลูกวนิลาด้านข้างมีแปลงผักที่ยังไม่ได้เพาะปลูกปล่อยโล่งอยู่"พี่คีกำลังจะปลูกอะไรเพิ่มเติมเหรอคะ""ยังไม่รู้เหมือนกันครับ คงจะปลูกผักอายุสั้นเก็บเกี่ยวได้เร็ว แล้วเหนืออยากปลูกอะไรล่ะ พี่มีเมล็ดให้เลือก" ภาคีบอกแล้วหายเข้าไปในโรงนาหลังเล็กข้างโรงวนิลา แล้วกลับออกมาพร้อมกับซองเมล็ดปลูกผักเหนือฟ้าก้มดูผักแต่ละชนิดในตะกร้าและสะดุดตาไปที่ผักของโปรดอย่าง แตงกวา "ปลูกอันนี้ค่ะ""ทำไมปลูกแตงกวาล่ะ พี่นึกว่าเหนือจะปลูกพวกคะน้า กวางตุ้งอะไรแบบนี้ซะอีก""เหนือไม่ค่อยชอบกินคะน้าค่ะ มันเหม็นเขียว แต่เหนือชอบแตงกวามาก ๆ""มีผักอะไรที่เหนือไม่ชอบอีกไหม""ไม่ชอบกินหอมแดงกับต้นหอมค่ะ ต่อให้ทำให้เละหรือเปื่อยก็ไม่ชอบอยู่ดี""อย่างน้อยก็กินผักอย่างอื่นได้ ไปเถอะเดี๋ยวพี่จะพาไปปลูกแตงกวา" เขาบอกแล้วเดินหายเข้าไปในโรงนาหลังเล็กอีกรอบแล้วกลับออกมาพร้อมกับถุงดำหยอดเม
บทเพลงบรรเลงรักยามรัตติกาลโหมกระหน่ำดั่งพายุร้อนที่พัดผ่านในช่วงปลายฝนต้นหนาวเสียงหอบกระชั้นของชายหญิงคลอประสานเกิดเป็นท่วงทำนองขับขานอันแสนไพเราะผสานด้วยเสียงคราง เสียงกระแทกกระทั้นที่เคลื่อนเข้าออกเป็นจังหวะภายในตัวเหนือฟ้านั้นเกิดเป็นเมโลดี้ที่ระรื่นหู"อ๊ะ อ๊า" ขาอวบสองข้างถูกงอชิดจนถึงอก ความเป็นชายอัดแน่นของภาคีกระซวกแทงเข้าออกจนเนื้อตัวของคนใต้ล่างเขย่าไปมาอย่างรุนแรง หน้าอกภูเขาไฟสะบัดไปมาคล้ายกับเครื่องดื่มมิลค์เชครสละมุนลิ้น"พี่รักเหนือนะ รักที่สุดเลย" ภาคีพร่ำบอกคำหวานแล้วตอกตัวตนเข้าไปอย่างต่อเนื่อง"อ๊า เหนือก็รักพี่คีค่ะ อ๊ะ" เหนือฟ้าขานรับด้วยใบหน้าแดงก่ำ"โบ๋ววววว" หอมบั่วและลูกชุบที่นอนอยู่ชั้นล่างช่วยกันเป็นคอรัส"ฮ่าฮ่า เหนือร้องจนหมาหอนเลย" เขาแซวด้วยเสียงหอบ"ก็พี่คีซอยขนาดนี้ เหนือก็เสียวน่ะสิคะ" มือนุ่มฟาดเบา ๆ ลงมาที่ซิกซ์แพคเซ็กซี่ ค้อนมองด้วยความหมั่นไส้"เหนือรัดพี่จนปวดร้าวไปหมด พี่ก็ต้องเร่งจังหวะสิครับ" เถียงฉอด ๆ ตามด้วยการขยำหน้าอกสองข้างเล่นถึงแม้เบื้องล่างของเธอกับเขาจะดูดกลืนกันอยู่ แต่ปากคมที่เพิ่งเถียงเมื่อครู่ก็ไม่ยอมเว้นว่าง โน้มต่ำลงมาเพื่อตะ
ภาคีนั่งจิกเกร็งอยู่บนเก้าอี้ไม้เมื่อตรงหน้าขาของเขามีดวงหน้าหวานจ่อเกยแนบเข่า คอยละเลียดเล็มแทะกินส่วนลำร้อนที่กำลังปูดโปนด้วยเส้นเลือดตอนนี้เขามิอาจห้ามปรามหรือเอ่ยปากขอสิ่งใด เพราะนักนวดสรรพาวุธกำลังสวาปามท่อนเนื้อของเขาอย่างเอร็ดอร่อย"อ่า...." กายแกร่งกระตุกเมื่อน้ำขาวขุ่นถูกฉีดพ่นออกไปทางปากปล่องทว่ากลับไม่มีร่องรอยเหลือไว้ให้เห็น เพราะโพรงปากอุ่นสูบกลืนผ่านลำคอลงไปจนแห้งเหือดเมื่อตัวตนของความเป็นชายชาตรีถูกปลดปล่อยออกมา แม่คุณขาก็ตามมาโลมเลียเก็บกวาดจนสะอาดหมดจด"พี่คีขา อีกรอบไหมคะ"คุณพระคุณเจ้าช่วยอ้ายโตย เดี๋ยวนี้เมียติดใจไอ้ปืนใหญ่กลางลำตัวเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วหรือ"อีกรอบเป็นของพี่ต่างหาก" ภาคีรั้งหัวไหล่มนขึ้น ดึงเข้ามากอดกดจมูกสูดดมความหอมขอกลิ่นน้ำนมที่เคลือบอยู่บนผิวนุ่ม มือข้างหนึ่งเอื้อมไปปลดกิ๊บหนีบผมออก แล้ววางลงกับเก้าอี้ ใช้ปลายนิ้วทั้งสิบช่วยสางเส้นผมให้เข้าทรง บรรจงทัดเก็บไว้หลังหู"นี่เลย ผมยุ่ง ๆ ของเหนือในวันนั้นที่เพื่อนพี่ถ่ายรูปส่งมาให้" เขาย้ำถึงเหตุการณ์ในความทรงจำ จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าตนเองนั้นพร้อมจะหยุดที่ผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียว"
มือไม้ที่เต็มด้วยฟองสีขาวควานหาหัวก๊อก เพราะตอนนี้ฟองของยาสระผมกำลังไหลลงมาเคลือบดวงตาจนรู้สึกแสบไปหมด เหนือฟ้าพยายามคลำหา"พี่คีคะ พี่คี" ร่างเปลือยเปล่าตะโกนขอความช่วยเหลือ"ว่าไงเหนือ" ภาคีตื่นตระหนกรีบหากุญแจห้องน้ำแล้วไขเข้าไป เขาสีหน้าแดงระเรื่อทันทีเมื่อเห็นทรวดทรงที่มีน้ำมีนวลปรากฏอยู่ตรงหน้า"ล้างผมให้เหนือหน่อยค่ะ แชมพูเข้าตา" เหนือฟ้าหรี่ตามองพยายามเดินตรงมาหาสามี"อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวพี่ล้างให้"ภาคีจูงมือเหนือฟ้าไปนอนแล้วบังคับให้เธอแหงนศีรษะพาดขอบอ่างช่วงเวลาที่เขากำลังละเมียดละไมกับการล้างคราบยาสระผม จึงเริ่มพูดบางสิ่งที่เหนือฟ้าหลงลืมมานาน"เหนือจำได้ไหมที่เราบอกว่ากลับจากจีนแล้วจะไปขุดไทม์แคปซูลขึ้นมา แล้วพวกเราก็ลืมสนิท""จริงด้วยค่ะ เหนือลืมไปแล้วนะเนี่ย งั้นพรุ่งนี้เราพาลูก ๆ ไปขุดกันดีไหมคะ""พี่วานให้เตียวไปขุดมาให้แล้ว" เขาบอกแล้วหยิบผ้าขนหนูมาซับเส้นผมที่เริ่มยาวจนถึงกลางหลัง"จริงเหรอคะ" เหนือฟ้ารีบร้อนดันตัวเองขึ้นจากอ่างก้าวขาออกแล้วเตรียมคว้าผ้าขนหนูมาพันตัว เดินออกจากห้องน้ำ ทว่าภายในห้องนอนกลับเต็มด้วยดอกกุหลาบสีแดง และเทียนไฟฟ้าที่ส่องไสว"เนื่องในโอกาสพิเศ
เสร็จสิ้นงานทำบุญของไร่ภาคีจึงสั่งให้ลูกน้องทุกคนตรวจสอบบริเวณพื้นที่สวนส้มซ่ายี่สิบไล่ไปจนถึงบริเวณแปลงปลูกอ้อยไข่ปลาอีกจำนวนสามสิบไร่วันนี้เหนือฟ้าจึงมาให้กำลังใจสามีกับคนงานโดยการพาลูก ๆ มาปิ๊กนิคนอกสถานที่และมองดูอยู่ห่าง ๆ ใต้เต้นท์ผ้าใบฟลายชีทที่ปักขึงกับพื้นดินรวมทั้งยังมีของกินมากมายที่เดือนเพ็ญ อินเหลาช่วยกันหอบหิ้วมาจากโรงครัวประจำไร่เพื่อเลี้ยงคนงานระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบ"นี่กืออะหยังจ้าว" น่านฟ้านั่งยอง ๆ มองดูแม่กำลังย่างอ้อยไข่ปลาบนเตาถ่าน""อ้อยไข่ หรืออ้อยไข่ปลาครับ อ่ะ เดี๋ยวแม่ให้น่านชิมนะ" เหนือฟ้าคีบอ้อยกลิ่นหอมย่างเนยลักษณะคล้ายไข่ปลาขึ้นมาจากเตาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ มีน้ำจิ้มให้เลือกสามอย่าง คือ น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มบาร์บีคิว และน้ำจิ้มแจ่ว"กอบกุนจ้าว" น่านฟ้าใช้นิ้วหยิบอ้อยไข่ชิ้มพอดีคำเปล่าพ่นความร้อนเล็กน้อยแล้วจุ่มลงไปในถ้วยน้ำจิ้มบาร์บีคิวแล้วโยนใส่ปาก"เป็นไงชอบไหมครับ" เหนือฟ้าลูบหัวลูกชายคนเล็ก"ฮักเลย กิ่นโหมกะหนาด น่านจ้วยเน้อหนุนเหนือ" เด็กชายตัดสินใจหยิบเก้าอี้มานั่งดูแม่ย่างอ้อยไข่ เพื่อรอกินรอบต่อไปส่วนนิ่มฟ้ากำลังช่วยพี่ชายย่างหมูปิ้ง โดยมีอินเหล
วันที่สามของการกลับมาอยู่ที่ไร่พิทักษ์มหิงสาตามเดิม เหนือฟ้าตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าแต่กลับมีคนไวกว่า บุคคลที่ว่าก็คือภาคี บะแต๋ง สองคนพ่อลูกที่กำลังช่วยกันเตรียมมื้อเช้าอย่างพิถีพิถันเหนือฟ้ายิ้มกริ่มประทับใจพ่อบ้านกับแก๊งลูกขนุนของตนเอง คุณแม่สายเที่ยวจึงได้โอกาสย่องเบาออกไปจากบ้านพร้อมกับลูกชุบ คุณแม่หมาคู่ขาของเจ้านาย แต่ทว่ากลับมีมือเล็ก ๆ ยื่นมาเกาะข้อเท้ายื้อยุดเอาไว้สาวอวบสะดุ้งเฮือกค่อย ๆ ก้มดูผลปรากฏว่าเป็นลูกแฝดของตนนั่นเอง"หมู่เหาไปโตยเน้อ" นิ่มฟ้าพูดกระซิบ น่านฟ้ายิ้มกว้างช่วยพี่สาวอ้อนวอนแม่"เงียบ ๆ นะจ๊ะ"สามคนแม่ลูกและหมาอีกหนึ่งตัวขับซาเล้งตรงไปที่ไร่ลิ้นจี่ ขับผ่านโรงวนิลาที่เหล่าคนงามกำลังเดินไปมากวักไกว่รอบ ๆ โรงเรือนตั้งแต่เช้าตรู่"หวัดดีครับคุณนาย คุณแฝดตื่นเช้าจังเลยค่า" เสียงคนงานในไร่ตะโกนทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส"ซาหวัดดีจ้าว ไผจานอนคุ่มคาลุ่มอยู่ละจ้าว" นิ่มฟ้าตะโกนตอบกลับไป"คุ่มคาลุ่มเหรอจ๊ะ ใช่กุ้มกาลุม ที่แปลว่านอนคลุมโปงหรือเปล่า" คุณแม่ทวนถามเพื่อความแน่ใจว่าเธอกับลูกเข้าใจตรงกันุ"แม่นแล้วอี่แม่" สาวน้อยมัดแกะสองข้างพยักหน้า"แล้วหมู่เหาจาไปตี้ได ปายเข๋
การใช้ชีวิตอยู่ที่แม่ฮ่องสอนดำเนินมาเกือบสามปีเต็ม น่านฟ้ากับนิ่มฟ้าก็เริ่มคุยจ้อและเดินเตาะแตะไปมาทั่วไร่ชา ด้วยพัฒนาการอันแสนรวดเร็วทำให้แฝดคู่แสบสามารถคุยได้คล่องแคล่ว หยิบจับ ชี้สิ่งของได้ถูกต้อง แม้จะพูดไม่ชัดและไม่เป็นภาษาเท่าไหร่นัก"ปาขี้ หาหนุนกันเต๊อะ" น่านฟ้าจะไปหาแม่ที่กำลังรับนักท่องเที่ยวจีนอยู่กลางไร่ แม้อากาศบนดอยนี้จะเย็นแต่ช่วงเที่ยงวันกลับมีแดดจ้า ภาคีจึงไม่อยากให้ลูกไปเล่นซน"เรียกป้อเฉย ๆ ได้ก่อ ป้อไม่อยากเป็นป้อขี้เลยจ้าว" ภาคีอุ้มลูกชายตัวสูงเท่าหัวเข่าใส่คอกกั้น"ป้อบ่าใช่ปาขี้ แล้วป้อกืออายัย" นิ่มฟ้ากำลังนั่งเล่นบล็อกไม้ในคอก เอ่ยปากถามพ่ออย่างชาญฉลาด"ภาคี ภาคีครับลูก เฮ้อ...เอาเถอะอยากเรียกอะไรก็เรียกไป" ภาคีต้องทำหน้าที่พ่อนมเลี้ยงลูก เพราะทั้งสัปดาห์นี้ทัวร์จีนเข้าไม่หยุด นาน ๆ จะมีกรุ๊ปทัวร์ญี่ปุ่นหลงมาสักสองสามคณะ แต่ก็นานทีปีหนทำให้หน้าที่เลี้ยงลูกตกเป็นของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โชคดีหน่อยที่ช่วงปิดเทอมบะแต๋งจะแวะมาอยู่ที่แม่ฮ่องสอนเพื่อแบ่งเบาภาระช่วยพ่อกับแม่เลี้ยงน้อง"ตายแล้ว ๆ คุณคีคะอีนางชมออนมันมาเกาะแกะเซ้าซี้คุณนายค่ะ" จู่ ๆ ผู้จัดการดู
บะแต๋งเดินไปเดินมารอพ่อที่เข้าไปในห้องผ่าคลอดกับแม่ ในมือมีตุ๊กตาหุยหุยมาสคอตควายเผือกสีชมพูสองตัว เพื่อรอมอบให้น้องที่กำลังจะลืมตาดูโลก"แต๋งครับมานั่งรอกับย่าก่อนเถอะลูก ย่าซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ชอบมาฝากด้วยนะ" เจ๊ต่ายกุมไหล่เล็กของหลานชายที่กำลังจดจ่อรอคอยน้องกับพ่อแม่โดยไม่ละสายตา"แต๋งกินไม่ลงจ้าว แต๋งเป็นห่วงอี่แม่กับน้อง" บะแต๋งกอดตุ๊กตาควายสองตัวแน่น หัวใจเต้นตึกตัก อยากพบหน้าน้องใจแทบขาด"งั้นป้ออุ้ยกิ๋นเน้อ" หม่อมเจ้าภูวสินอาสากินแทนหลาน บะแต๋งพยักหน้ารับแล้วหันกลับไปมองบานประตูห้องคลอดดังเดิมกี่นาที หรือกี่ชั่วโมงผ่านไปแล้วไม่รู้ ตอนนี้บะแต๋งเริ่มหิวข้าวจนตาลายแต่วินาทีที่กำลังจะไปขอหมูปิ้งจากย่ามากิน ประตูห้องคลอดก็เปิดออก พ่อเดินนำออกมาก่อนตามด้วยเตียงของแม่"ป้อ อี่แม่ เป็นอะหยังบ้างจ้าว โอเคก่อ"บะแต๋งปรี่เข้าไปเกาะขาพ่อที่น้ำตาท่วมหน้า ภาคีคุกเข่าลง"โอเคจ้าว น้องอ้วนท้วนสมบูรณ์ลูก ปะเราไปเจอน้องกันดีกว่า"ครอบครัวกฤตกล้าธนาดรนั่งรอทารกน้อยที่นางพยาบาลกำลังเข็นมาส่งให้ที่ห้องพักฟื้น "แต๋งมาหาแม่สิครับ"เหนือฟ้ากวักมือเรียกลูกชายที่เริ่มกินนั่นกินนี่ได้เพราะสบายใจที
ภายในห้องพักพิเศษแอร์เย็นเฉียบ รอบห้องมีทั้งกระเช้าดอกไม้ ตะกร้าผลไม้และของบำรุงสุขภาพของเหนือฟ้าที่แวะเวียนมาเยี่ยม เนื่องจากคุณแม่ลูกแฝดได้รับการวินิจฉัยว่าอาจเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ เพราะตลอดแปดเดือนที่ผ่านมาหญิงสาวยังคงแพ้ท้องหนัก แม้จะกินได้บ้างแต่ก็กินได้น้อยภาคีเป็นห่วงลูกกับเมียในท้องจึงตัดสินใจให้เหนือฟ้านอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจนกว่าจะคลอดก๊อก ๆด้านนอกประตูห้องมีสองสามเงากำลังยืนตะคุ่ม ๆ คนตัวสูงที่กำลังนั่งเช็คออเดอร์ผลไม้อบแห้งระหว่าเฝ้าเหนือฟ้ารีบวางแล๊ปท็อบลงข้างโซฟา แล้วเดินออกไปรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนหลังบานประตูห้องผู้ป่วย มีใบหน้าเล็กยื่นทำตาแป๋วส่งให้ พร้อมกับบะแต๋ง เตียวหุยและเปาะเปี๊ยะที่แวะมาส่งอาหารให้คนเฝ้าไข้กับคนท้องรับประทาน"ซาหวัดดีจ้าวยุงคี" ปังเนย วัยห้าขวบมัดผมทรงหางม้ายกมือยกไม้สวัสดี"สวัสดีครับปังเนยหลานลุง" ภาคีโค้งตัวลงอุ้มปังเนยขึ้นมาแล้วฟัดแก้มหลานสองสามที"ป้อ แต๋งรู้แล้วนะว่าอี่แม่ไม่สบาย แต๋งจะมาอยู่ดูแลด้วย" บะแต๋งโผเข้ามาจับข้อมือพ่อ ภาคีเหลือบตามองลูกชายของตนอย่างชั่งใจ เพราะเขาไม่อยากให้ลูกรู้สึกหดหู่ใจเมื่อต้องเห็นว่าแม่มีอาการยังไง"ใ
บะแต๋งเปิดเทอมสองจึงกลับไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาลเวหะชลการสาขาในกรุงเทพใกล้กับร้านปลาเผาพุงพุ้ย และย้ายไปนอนที่บ้านเตียวหุยเป็นหลัก กลายเป็นลูกอีกคนของน้องชายไปเรียบร้อยที่สำคัญที่บะแต๋งไม่ค่อยอยากแยกจากอา เพราะตัวติดกับปังเนย ลูกสาวคนโตของเตียวหุยที่กำลังอยู่ในวัยหัดจ้อและก็แก่นแก้วเป็นที่สุดอีกอย่างช่วงนี้เหนือฟ้าเพิ่งท้องลูกแฝดได้เพียงสี่เดือน ภาคีจึงอยากให้เตียวหุยช่วยดูแลลูกชายไปก่อนจนกว่าภรรยาจะคลอดเพราะถ้าบะแต๋งอยู่บ้านก็คงจะตามวอแวแม่ และหาเรื่องชวนกันไปซุกซนยิ่งท้องแฝดรอบนี้ค่อนข้างอ่อนไหว จะเดินเหินอะไรก็ลำบาก จะกินจะอยู่ก็ต้องระมัดระวังให้มาก"แหวะ!" ใบหน้ากลมปุ๊กก้มงุดลงไปในชักโครก ภาคีวิ่งเข้าไปลูบหลัง พร้อมแกว่งยาดมให้เมียที่มีอาการแพ้ท้องหนัก"ไหวไหมเหนือ หมอบอกว่าถ้าไม่ไหวให้ไปนอนโรงพยาบาล พี่จ่ายไหวเหนือไม่ต้องเป็นห่วง""เหนือเกรงใจค่ะ ยังไงขอคิดดูก่อนนะคะ แต่ตอนนี้เหนืออยากเยอะแยะไปหมดเลย" เหนือฟ้าค่อย ๆ ลุกขึ้นโดยมีภาคีช่วยพยุง"อยากอะไรมั่งครับ พี่จะไปหามาให้" พ่อเลี้ยงหนุ่มรปะคองภรรยามายังเก้าอี้แบบปรับนอนได้ ภายในห้องนั่งเล่นนี้เขาได้เตรียมการทุกอย่างพร้อม ทั้