[6]
นายต้องเป็นหมอนข้างให้ฉัน ฟีฟ่าย่องขึ้นเรือนโดยมีเป้าหมายอยู่ที่กล่องแซนด์วิชบนโต๊ะไม้สักทอง เจ้าของนั่งหันหลังให้แบบนี้ยังไงก็ไม่มีทางเห็นแน่นอน เสร็จไอ้ฟ่าล่ะ มือเล็กคว้ากล่องแซนด์วิชได้สำเร็จ ตั้งใจจะเอาลงไปกินข้างล่างเป็นมื้อเที่ยง บังเอิญเหลือบไปเห็นเห็นอกไก่ไร้ไขมันชิ้นใหญ่ในกล่องอาหารคลีนก็เกิดอยากกินขึ้นมา คิดว่าเอาไปแค่ชิ้นเดียวอีกฝ่ายคงไม่รู้หรอก "เสร็จโจร อิอิ.." มัวแต่ย่ามใจค่อย ๆ เปิดกล่องจึงไม่รู้สึกตัวว่าร่างสูงได้มายืนอยู่ด้านหลังแล้ว และกำลังมองพฤติกรรมของเขาอยู่ "ทำอะไรน่ะ!" เสียงทุ้มดังขึ้นทำเอาฟีฟ่าตกใจจนแทบทำของในมือร่วง ดีที่ว่าคว้าเอาไว้ได้ทัน เขาหันกลับมามองร่างสูงและยิ้มแหย ๆ "นะ.. นั่งสมาธิเสร็จแล้วหรือครับ แฮะ ๆ" "ถ้ายังไม่เสร็จฉันจะจับขโมยได้เหรอ" ร่างสูงโน้มลงต่ำและยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ดวงตาคู่คมมองกล่องแซนด์วิชที่อยู่ในมือของฟีฟ่าและยิ้มเหี้ยม ..วิ่งสิครับจะรออะไร!! ฟีฟ่าถอยหลังหนีและรีบวิ่งลงจากเรือน ยังไม่พ้นบันไดขั้นแรกก็ถูกมือหนาคว้าคอเสื้อเอาไว้ได้ นี่สินะ..ข้อเสียเปรียบของคนขาสั้น ฟีฟ่าถูกคนตัวใหญ่กว่าเหวี่ยงกระเด็นกลับขึ้นไปบนเรือน แผ่นหลังบางกระแทกโดนเสาตกน้ำมันกลางบ้านดังแอ๊ก "จะ..เจ็บ ทำไมถึงชอบใช้ความรุนแรงนักนะ ไอ้คนป่าเถื่อน!" "ขี้ขโมยและยังปากดีอีกนะ!" ร่างสูงยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของฟีฟ่า ใบหน้าหล่อยามนี้ดูน่ากลัวยิ่งกว่าผีซะอีกเมื่อโดนคนอายุน้อยกว่าเข้าให้ ภพภูมิมองร่างเล็กนั่งกอดเสาตกน้ำมันตาขวาง ทำเอาไอ้ฟ่ากลัวจนแทบจะฉี่ราด "อยากกินทำไมไม่ขอดี ๆ" "ถ้าขอดี ๆ แล้วจะให้มั้ยล่ะ!" ฟีฟ่าถามกลับไปบ้าง "ไม่ให้" "เห็นมั้ยล่ะ พี่มันขี้งก" ฟีฟ่าเบะปาก มือที่กอดยังลูบไล้เสาตกน้ำมันไปมา เห็นดังนั้นภูมิจึงไปลากตัวฟีฟ่าให้ออกห่างและหิ้วเข้าเอวด้วยแขนข้างเดียวพาลงไปด้านล่างพร้อมกล่องอาหาร "อยากกินก็กิน ถ้ากินไม่หมดฉันจะผ่าท้องนายและยัดมันเข้าไปแทน!" "ให้กินดี ๆ แต่แรกก็จบมั้ย" ถึงปากจะบ่นแต่ฟีฟ่าก็จัดการกับอาหารตรงหน้าโดยไม่เกรงใจเจ้าของ ตัวก็แค่นี้ไม่รู้กินแล้วเอาไปเก็บไว้ไหนหมด ขณะฟีฟ่ากำลังหยิบแซนด์วิชใส่ปาก ภพภูมิได้มองขึ้นไปบนเรือนไม้ ปรากฏกลุ่มควันสีเทาปกคลุมอยู่รอบเสาตกน้ำมัน ดวงตาคู่คมถลึงใส่ กลุ่มควันนั้นก็หายวับไปทันที ดอกลีลาวดีสีขาวร่วงลงมาบนแคร่ใต้ต้น ตั้งใจหล่นมาตรงหน้าของสองหนุ่ม ภพภูมิแหงนหน้าขึ้นมอง ดอกไม้จึงได้ร่วงไปที่พื้นแทน "ทำไมผมต้องกวาดใบไม้ด้วยล่ะ ร่วงทั้งวันแบบนี้กวาดเท่าไรก็ไม่หมดหรอก" ฟีฟ่ารับไม้กวาดที่ภพภูมิส่งให้มาถือไว้ หลังทานอาหารเสร็จแทนที่จะได้นั่งพักกลับต้องมาทำงานอีก นอกจากดอกลีลาวดีแล้วรอบเรือนยังมีต้นไผ่สูงท่วมหัวปลูกอยู่ด้วย ใบก็ปลิดปลิวทั้งวัน ป่าช้าแห่งนี้มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นรกมาก ยิ่งด้านหลังหนาจนแทบมองไม่เห็นทางเดิน "ไม่ต้องบ่น กวาดไป" สั่งคนอื่นให้กวาดพื้นแต่ตัวเองกลับไปนั่งอ่านหนังสือเฉย ไม่คิดจะมาช่วยกันบ้างหรือไง ฟีฟ่ายืนกวาดใบไม้อยู่หน้าเรือนไม่กล้าไปไกลกว่านั้น สัญชาตญาณของเขาบอกว่ามันไม่ปลอดภัย ในขณะที่ฟีฟ่ากวาดพื้นอยู่นั้น ร่างสูงก็ถูกขนาบข้างด้วยสองหญิงงาม ต่างกำลังช่วยกันบีบนวดเอาใจ พลางพูดถึงฟีฟ่าไปด้วย ..เด็กคนนั้นน่ารักดีเนอะ ถ้าเขาไม่รอดเบญจเพส พวกเรารับเขามาอยู่ด้วยดีมั้ย.. ..นั่นสิ ฮิ..ฮิ..ฮิ.. "ถ้าแตะต้องเด็กคนนั้น พวกเธอไม่ได้ผุดได้เกิดแน่!" น้ำเสียงกร้าวดังอยู่ในห้วงจิต ผีสาวสองตนจึงรีบสลายร่างไป เพราะเกรงจะถูกทำให้เป็นเช่นนั้นจริง ๆ "โอ๊ย! กวาดเท่าไรก็ไม่หมดสักที ไม่ก่งไม่กวาดมันแล้ว" ฟีฟ่าโยนไม้กวาดทิ้งและเดินอาด ๆ เข้าไปนั่งข้างร่างสูงพร้อมทิ้งศีรษะลงบนตักแกร่ง อีกฝ่ายกลับลุกหนีจนหัวของฟีฟ่ากระแทกลงกับแคร่อย่างแรง "พี่ลุกหนีทำไมอะ!" "ใครใช้ให้นายมานอนตักฉัน ขยะแขยง!" "ขยะแขยงอะไรกัน คืนนั้นพี่อมของฟ่าเข้าไปทั้งพวงไม่เห็นจะบ่นขยะแขยงเลย" คืนนั้นถึงฟีฟ่าจะเมาแต่ตอนท้ายเขาก็พอมีสติอยู่บ้าง และรู้ว่าตัวเองโดนอีคนพี่ทำอะไรไว้บ้าง "นะ..นาย.." "ก็พี่เล่นปลุกฟ่าให้ไปช่วยหลวงปู่บิณฑบาตตั้งแต่ตีสี่ ใช้ให้ทำงานทั้งวัน ฟ่าก็ต้องง่วงน่ะสิ" ฟีฟ่าไม่กล้านอนคนเดียว มีเพื่อนอยู่ด้วยอุ่นใจกว่าเยอะ แต่ดูเหมือนภพภูมิจะไม่ยอมให้ทำแบบนั้น เขาหิ้วตัวฟีฟ่าจนลอยพากลับขึ้นไปบนเรือนและไปโยนไว้หน้าโต๊ะทำพิธี ก่อนปาเบาะรองนั่งใส่หน้า ดีที่รับไว้ได้ทันไม่งั้นดั้งจมูกโด่ง ๆ ของไอ้ฟ่าบี้แน่ "นั่งสมาธิจะช่วยให้หายง่วง" "ฮะ! นั่งสมาธิเนี่ยนะ มีแต่จะหลับนะสิ" ภูมิโยนเบาะรองนั่งอีกใบลงข้างฟีฟ่าและเข้าไปนั่งข้างกัน เปลือกตาสีอ่อนปิดลงเพื่อทำสมาธิและสั่งให้อีกคนทำตาม ฟีฟ่าหลับตาได้ไม่ถึงห้านาทีก็เริ่มสัปหงก ร่างเล็กโอนเอนไปมาอยู่หลายรอบก่อนมาหยุดอยู่ที่ไหล่หนา อยู่นิ่งได้สักพักก็ค่อย ๆ ทิ้งตัวลงจนศีรษะอยู่บนตักแกร่งอีกครั้ง "นั่งสมาธิแค่นี้ก็ทำไม่ได้ ไม่ได้เรื่องจริง ๆ" ภพภูมิอุ้มร่างเล็กและลุกขึ้นเต็มความสูงเพื่อพาเข้าไปในห้อง ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาผีตากผ้าอ้อมพอดี "ห้ามกวนเขา" เสียงทุ้มพูดขึ้นพลางวางตัวลงบนฟูกและห่มผ้าให้ก่อนเดินออกมา คนตัวเล็กนอนหลับสนิทจึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายลงจากเรือนไปแล้ว หลังป่าไผ่.. "ปกติคุณภพไม่ทานมื้อเย็นนี่ครับ" "อย่าถามมาก ส่งของมา" "ขะ..ขอโทษครับ" เสียงทุ้มตำหนิคนสอดรู้และยื่นมือไปรับถุงใส่กล่องอาหารที่โทรสั่งให้ลูกน้องคนสนิทนำมาส่ง ปกติจะสั่งให้มาแค่ตอนเช้า แต่วันนี้จู่ ๆ กลับเรียกให้มาตอนเย็นอีกรอบก็เลยสงสัย "อ้อ..พรุ่งนี้ขอกาแฟเพิ่มอีกแก้วนะ" "เอ๊ะ..อ๋อ..ครับ ได้ครับ" ยิ่งได้รับคำสั่งให้ซื้อกาแฟเพิ่มก็ยิ่งแปลกใจ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมากเพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย ก่อนกลับนึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงรีบบอกกับภพภูมิก่อนจะลืม "คุณธีร์ถามว่าเมื่อไหร่คุณภพจะกลับบ้านครับ" "ไม่ใช่ตอนนี้" "ครับ" ธีร์เป็นสมาชิกคนหนึ่งของพรรคและเป็นคนที่เห็นด้วยทุกอย่างกับนายใหญ่ เขายังรู้ด้วยว่าภพภูมิสามารถมองเห็นพลังงานลี้ลับได้ แต่ไม่รู้ว่าความสามารถนี้ได้หายไปเมื่อตอนเกิดอุบัติเหตุแล้ว "เฮ้ย..ตื่นได้แล้ว จะนอนไปถึงไหนกัน เดี๋ยวคืนนี้ก็นอนไม่หลับหรอก!" ฟีฟ่าถูกปลุกด้วยฝ่าเท้าของคนตัวสูง ร่างเล็กงัวเงียตื่นและลุกขึ้นมานั่งทั้งที่ยังเมาขี้ตาอยู่ แต่จมูกกลับได้กลิ่นหอมลอยเข้ามาในห้อง "กลิ่นอะไรน่ะ หอมจัง" ฟีฟ่าเดินตามหลังภูมิออกมาที่ชานบ้าน ตรงโต๊ะไม้สักทองตัวเดิมมีถุงใส่กล่องอาหารร้านดังวางอยู่จีงปรี่เข้าไปแกะดูด้วยความตื่นเต้น "นี่มันไก่ย่างซอสเกาหลีไม่ใช่เหรอ พี่ไปซื้อมาตอนไหนน่ะ" เด็กหิวโหยเปิดกล่องหยิบไก่ย่างชุ่มซอสขึ้นมากินโดยไม่รอให้เจ้าของอนุญาต ของเข้าปากแล้ว อยากได้คืนก็รอพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ไอ้ฟ่าจะไปเอาออกมาให้เอง "ตายอดตายอยากมาจากไหนกัน ไม่ต้องรีบกินก็ได้ เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก" ร่างสูงว่าพลางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ ใช้นิ้วเช็ดพวงแก้มที่เปื้อนซอสสีแดงออกให้ ทำเอาฟีฟ่าขนลุก อ้าปากค้างจนไก่ในปากหลุดออกมาจึงรีบเก็บใส่ปากไปอีกครั้ง เคี้ยวตุ้ย ๆ และกลืนลงคอ "ผีเข้าปะเนี่ย!" จู่ ๆ มาใจดีด้วยไอ้ฟ่าก็ตกใจหมดนะสิ เพิ่งคิดได้ว่าเอาของกินมาล่อแบบนี้ต้องมีเจตนาไม่ดีแน่ ฟีฟ่ารีบวางไก่ย่างในมือลงและยื่นคืนให้ทันที "อะ..เอาคืนไป" "ทำไม? หรือนายอยากกินข้าววัดมากกว่า" "มะ..ไม่ใช่สักหน่อย จู่ ๆ มาทำดีแบบนี้ พี่ต้องการอะไรก็พูดมาตรง ๆ เลย" ฟีฟ่าเริ่มไม่ไว้ใจคนตรงหน้าแล้ว แต่เมื่อถามมาภพภูมิจึงบอกจุดประสงค์ที่แท้จริงออกไป "คืนนี้ฉันอยากให้นายมาเป็นหมอนข้างให้ฉัน" "อะ..อะไรนะ หมอนข้างเหรอ?" ปกติหวงเนื้อหวงตัวจะตาย จู่ ๆ จะมาขอกอดนอนนี่นะ ฟีฟ่าไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลย หรือว่าเขาจะฟังผิดไป "ที่จริงฉันก็ไม่ได้อยากจะแตะต้องตัวนายเท่าไรหรอกนะ ตัวก็ลื่น ๆ หยึย ๆ แค่คิดก็ขนลุก น่าขยะแขยงจะตาย" "นี่พี่หลอกด่าฟ่าเหรอ ถ้าขยะแขยงนักก็ไม่ร้องมาโดนตัวฟ่าสิ!" "ถ้าไม่ยอม คืนนี้และคืนต่อไปนายต้องไปนอนข้างล่าง และฉันจะไม่ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้นายด้วย" "ฮะ?!!" ให้นอนชานหน้าบ้านฟีฟ่าก็กลัวจนฉี่จะราดแล้ว ให้ไปนอนข้างล่างซึ่งก็คือตรงแคร่ใต้ต้นลีลาวดีมันน่ากลัวกว่าอีก แบบนี้ไอ้ฟ่าไม่หัวใจวายตายก่อนเหรอ "ก็ได้..ฟ่ายอมเป็นหมอนข้างก็ได้ แต่พี่ต้องสัญญาก่อนนะว่าจะไม่ทำอะไรฟ่า" "ฉันต่างหากที่ต้องเป็นคนพูดคำนั้นไม่ใช่นาย ลองนายคิดเกินเลยกับฉัน รับรองถูกฝังทั้งเป็นแน่!" ภพภูมิอยากทดสอบว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง หลังจากได้กอดฟีฟ่าแม้จะแค่ไม่มีกี่ชั่วโมงเขากลับนอนหลับสนิท คืนนี้ตั้งใจจะนอนตั้งแต่หัวค่ำเพราะอีกฝ่ายต้องตื่นตีสี่เพื่อติดตามหลวงปู่ไปบิณฑบาต หลังเฝ้าฟีฟ่าอาบน้ำแล้วภพภูมิจึงอาบต่อ เดินขึ้นเรือนมาพร้อมกับเช็ดผมที่เปียกไปด้วย เห็นร่างเล็กกำลังปูที่นอนอยู่จึงเรียกให้ออกมาสวดมนต์และนั่งสมาธิก่อนนอน "นายไม่มีชุดที่มันดีกว่านี้แล้วหรือไง!" เขาละเกลียดไอ้กางเกงวิ่งตัวนี้ของไอ้ฟ่าจริง ๆ อีกฝ่ายก็ชอบใส่เสียเหลือเกิน "ก็มันใส่สบายนี่ แต่พี่ภูมิไม่ต้องห่วงนะ คราวนี้ฟ่าใส่กางเกงในเรียบร้อยแล้ว" ฟีฟ่าว่าพลางถกกางเกงขึ้นให้ดู "บอกว่าไม่ต้องถกไง!" เหนื่อยใจที่จะพูดภพภูมิจึงเขี่ยเบาะนั่งให้ฟีฟ่า คนตัวเล็กนั่งขัดสมาธิและสวดมนต์ตามคนนำจึงจะท่องได้ พอนั่งสมาธิเท่านั้นแหละไม่ถึงห้านาทีก็เกิดง่วงขึ้นมา "ละ..แล้วผมต้องนอนตรงไหนเหรอ?" ที่นอนสามฟุตแคบจะตาย แค่ภพภูมิคนเดียวก็เต็มแล้ว "ไปปิดไฟแล้วมานี่" ฟีฟ่าเดินไปปิดไฟที่หน้าประตูและรีบวิ่งกลับไปยังที่นอน คราวนี้ไม่ถามว่าให้นอนตรงไหน เขากระโดดทิ้งตัวทับร่างสูงที่นอนเหยียดยาวอยู่บนฟูกทันที ดีนะที่อีกฝ่ายรับไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นมีคนจุกแน่ "เดินมาดี ๆ ไม่ได้หรือไง!" "ก็มันมืด ฟ่ากลัวนี่นา" "กลัวบ้าอะไร มานอนตรงนี้" มือหนายกร่างฟีฟ่าข้ามกายแกร่งมานอนด้านในเพราะกลัวไอ้ตัวแสบจะกลิ้งหล่นลงไป อ้อมแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกอดคนตัวเล็กและดึงแผ่นหลังบางเข้ามาแนบชิด ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าไม่ถึงห้านาทีเปลือกตาของภพภูมิก็รู้สึกหนัก ความรู้สึกผ่อนคลายทำให้ร่างกายที่สะสมความเหนื่อยล้ามาแรมเดือนเกิดอยากพักขึ้นมาทันที เขานอนหลับก่อนฟีฟ่าซะอีก ครั้นพออีกฝ่ายยุกยิกเพราะความอึดอัดก็จะถูกท่อนแขนแกร่งกอดแน่นขึ้นทำให้สะโพกกลมกลึงเบียดไปกับลำท่อนที่อยู่ภายใต้กางเกงวอร์มขายาว "แอ๊ก!" กลางดึกฟีฟ่าต้องสะดุ้งตื่นเพราะถูกท่อนขาแกร่งยกพาดเข้าที่กลางลำตัว ซ้ำยังถูกกดศีรษะจนใบหน้าจมหายไปในอกแกร่ง ดิ้นอยู่นานกว่าจะหลุดออกได้ "นึกว่าจะขาดอากาศตายซะแล้ว ผู้ชายอะไร นมใหญ่ฉิบหาย" ก็ไม่อยากจะเปรียบเทียบหรอกนะ ฟีฟ่าคิดว่านมแฟนสาวคนล่าสุดของเขายังใหญ่สู้ของภูมิไม่ได้เลย แม้สัมผัสจะต่างกันก็ตาม ทั้งที่ภายในห้องมีเพียงพัดลมเก่า ๆ พัดส่ายไปมาพร้อมส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด แต่อากาศกลับเย็นยะเยือกจนฟีฟ่าขนลุก ตัวฟีฟ่าเองก็ไม่ได้พิศวาสไอ้คนนอนข้าง ๆ เท่าไรแต่เพราะร่างกายที่มีแต่กล้ามเนื้อมันทำให้อุ่น เขาจึงต้องนอนเบียดกายเข้าหา ติ๊ด ๆ ๆ เสียงมือถือที่ตั้งปลุกไว้ดังขึ้นตอนตีสี่ เปลือกตาสีอ่อนเปิดขึ้นช้า ๆ พลางเอื้อมมือไปหยิบเพื่อเอามาปิดเสียง จู่ ๆ ก็เกิดขยับตัวไม่ได้และรู้สึกหายใจไม่ออก คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน อยู่ที่นี่มาเป็นเดือนนี่เป็นครั้งแรกที่โดนผีอำ "หน็อย.." ไอ้ผีตัวไหนนะที่กล้ามาอำเขา ดูท่าจะไม่อยากไปผุดไปเกิดสินะ มือหนาจับเงาดำที่ทับอยู่บนกายแกร่งและเหวี่ยงไปที่มุมห้อง เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังก้องทำให้เขาต้องลุกขึ้นไปเปิดไฟเพื่อดูว่ามันคือผีตนไหน ยังไม่ทันได้สวดมนต์ขับไล่ทำไมมันถึงได้ร้องโหยหวนขนาดนี้ล่ะ ทันทีที่ภายในห้องสว่างขึ้น ภพภูมิถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ "ไอ้ฟ่า!" "ฮือออ..พี่ภูมิเหวี่ยงฟ่าทำไมอะ ฟ่าเจ็บนะ.." "ใครใช้ให้นายมานอนทับบนตัวฉันล่ะ ตัวก็ไม่ใช่เล็ก ๆ ฉันก็นึกว่าผีอำนะสิ!" ร่างสูงปรี่เข้าไปอุ้มฟีฟ่ากลับมานอนบนฟูกตามเดิม คนโดนทุ่มน้ำตาไหลพราก กว่าจะครบสองเดือนไอ้ฟ่าคงไม่ครบสามสิบสองแล้วมั้ง[7]สิ่งที่ติดตามมาในความมืด"วันนี้ผมคงไปช่วยหลวงปู่บิณฑบาตไม่ไหวแล้วล่ะ"ฟีฟ่าเดินเดี้ยงออกมายังชานหน้าบ้านทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนตัวเก่ง เวลาตีห้ากว่าแล้วแต่ท้องฟ้ายังคงมืดสนิทและไม่มีวี่แววว่าพระอาทิตย์จะขึ้นสักนิด ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เหมือนเวลากลางคืนจะยาวนานกว่าปกติ"ไม่ไหวก็ไม่ต้องไป ไม่มีนายหลวงปู่ยังมีลูกศิษย์อีกเยอะ""ชิ!"ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้สักทองและมองออกไปรอบตัวบ้าน กิ่งไผ่สูงท่วมหัวโอนเอนไปตามสายลมดูน่ากลัวจนต้องลุกไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ กับภพภูมิ"เป็นอะไรอีกล่ะ""ตะ..ต้นไผ่มันโยกไปโยกมา น่ากลัวยังไงก็ไม่รู้"ดวงตาคู่คมมองออกไปตามที่ฟีฟ่าบอก แม้ไม่เห็นเป็นตัวเป็นตนแต่ก็รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ในเมื่อต่างคนต่างอยู่เขาจึงไม่ทำอะไร และบริเวณเรือนไม้สีขาวก็ได้ทำการลงอาคมเพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้เอาไว้แล้ว"ถ้ากลัวแล้วจะมองทำไม กลัวมากก็มานั่งสมาธินี่"เอะอะก็จะให้นั่งสมาธิอยู่เรื่อย ไอ้ฟ่าไม่เอาด้วยหรอก แต่อีกคนไม่สนใจหลังก้มกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าสู่สมาธิโดยมีฟีฟ่านั่งอยู่ข้าง ๆ คนไม่มีอะไรทำก็เริ่มง่วงขึ้นมาสุดท้ายก็ฟุบหลับไปบนตักของภพภูมิเ
[8]เพื่อนรักเพื่อนเลิฟรถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดยังหน้าตึกสูงและได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก รปภ. ร่างสูงในชุดฉูดฉาดลงจากรถออกมายืนด้วยท่าทีสง่างาม มือหนาขยับแว่นตากันแดดให้เข้าที่พลางยกยิ้มด้วยความมั่นใจ ไม่สนว่าจะตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ช่วงขายาวก้าวเข้าไปในตึกอย่างมาดมั่นตรงไปยังลิฟต์สำหรับผู้บริหารเพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุด"แต่งตัวอะไรของมึงวะไอ้เท็น ระหว่างทางหมาไม่เห่าบ้างหรือไงวะ"ผู้บริหารหนุ่มถึงกับวางมือจากเอกสารที่กำลังเซ็นอยู่และลุกขึ้นมาหาชายหนุ่ม ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามมองอีกฝ่ายตั้งหัวจดเท้าอีกครั้ง"ทำไม? กูก็แต่งธรรมดานี่ ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย""เออ..ไม่แปลกก็ไม่แปลก และมึงก็เลิกสูบบุหรี่ในห้องกูได้แล้ว แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดทีไรก็นึกว่ามีขโมยเข้ามาในห้องกูอยู่เรื่อย"ดวงตาเรียวเหยียดมองสูทลำลองสีแดงเข้มเข้าชุดกับกางเกง และไหนจะเสื้อยืดคอกว้างและลึกโชว์ขนหยิกหย็อยบนกล้ามหน้าอกกับรอยสักบนร่างกายด้านซ้าย ใครเห็นต่างก็วิ่งหนีกันหมด ถ้าลูกค้ามาเห็นว่ามีคนแบบนี้ในบริษัทของเขามีหวังความน่าเชื่อถือคงไม่เหลือ"เรื่องมากฉิบหาย ต่อให้กูไม่สูบบริษัทมึงก็ไม่น่าเ
[9]ชายปริศนาในป่าไผ่"เลิกทำหน้าแบบนั้นสักทีเถอะ เห็นแล้วกินข้าวไม่ลง"เสียงทุ้มว่าคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกัน มองปากที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ แต่ตานี่ขวางเชียว ก็นะ..ลองมาถูกเหวี่ยงดูบ้างมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าเจ็บแค่ไหน นอนด้วยกันมาอาทิตย์กว่าแต่ทั้งตัวไอ้ฟ่านี่มีแต่รอยช้ำเต็มไปหมด"ไม่รู้ล่ะ ก็ใครใช้ให้พี่มาทำร้ายฟ่าก่อนล่ะ!""ก็นายอยากคิดไม่ดีกับฉันก่อนทำไม หน็อย..คิดจะลักหลับฉันเป็นครั้งที่สองเหรอ เอาไว้ชาติหน้าเถอะ วันนั้นถ้านายไม่ใช้ยาปลุก บอกไว้เลยนะว่าขนสักเส้นของฉันนายก็ไม่มีทางได้เห็นหรอก!""แหวะ..อยากเห็นตายล่ะ" ฟีฟ่าพึมพำเบา ๆ เพราะกลัวถูกเหวี่ยงลงจากเรือน ขี้เกียจเถียงด้วย ทั้งที่เมื่อคืนตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนถอดกางเกงของเขาออกแท้ ๆแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ กะอีแค่มีเซ็กซ์ครั้งเดียวทำไมต้องอาฆาตกันขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ ฟ่าไม่เข้าใจจริง ๆ เป็นผู้ชายซะเปล่า ตัวก็ใหญ่อย่างกับควายแต่ใจแคบชะมัด ทั้งที่ตอนนั้นตัวเองก็เป็นฝ่ายได้เสียบแท้ ๆ ไอ้หัวหยิกเอ๊ย..อ้อ..อีกอย่าง บอกไว้เลยนะถ้าคืนนั้นไม่เมาจนขาดสติคนอย่างฟีฟ่าไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้เด็ดขาดถึงจะงอนแต่ฟีฟ่าก็กินข้าวจนหมดเกลี้ยง
[10]คนหน้าคล้ายจากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฟีฟ่าไม่อยากมองหน้าภพภูมิอีกเลย คนใจดำ รู้ทั้งรู้ว่าเขากลัวผียังบังคับให้เปิดโลงดูศพและยังถีบตกฟูกอีก คิดแล้วน่าโมโหจริง ๆ คนตัวเล็กนั่งหันหลังให้ ในมือถือแซนด์วิชไข่ ปากก็เคี้ยวตุ้ย ๆ ไปด้วย"ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว คิดว่าน่ารักมากหรือไง"คนถูกว่าเพียงแค่เหลือกตามองและหันกลับไปกินแซนด์วิชต่อ คิดซะว่าได้ยินเสียงหมาเห่าหมาหอนละกันภพภูมินั่งไขว่ห้างพลางจิบกาแฟ มืออีกข้างก็ไถมือถือไปด้วย เห็นข้อความจากเท็นมะเข้ามา เมื่อคืนเพราะมีเรื่องวุ่นวายจึงไม่ทันสังเกตเห็น พอกดเข้าไปดูก็ขมวดคิ้วแน่น"ทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ"ร่างสูงลุกขึ้นและสั่งให้ฟีฟ่าไปเปลี่ยนชุดเพราะจะไปกราบหลวงปู่ด้วยกันฟีฟ่าดูดนิ้วหลังกินทุกอย่างหมดแล้ว แกล้งไปเช็ดมือกับเสื้อของภพภูมิและรีบวิ่งเข้าห้องก่อนโดนต่อย เขากลับออกมาในชุดขาวเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่คราวนี้ภพภูมิกลับบอกให้เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาแทน"แล้วไม่บอกแต่แรก เสียเวลาชะมัด"ฟีฟ่าบ่นอุบและกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง คราวนี้ออกมาในชุดทันสมัย ยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูเด็กกว่าเก่า จากนั้นจึงตามภพภูมิไปยังกุฏิของหลวงปู่ ซึ่งท่านได้นั่งรออยู่แ
[11]พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่ภพภูมิกลับมายังจุดนัดหมายพร้อมกับยาทาแก้ฟกช้ำ เขาบีบยาจากหลอดใส่ปลายนิ้วและป้ายลงบนแก้มแดงอย่างเบามือ"ยิ่งขี้เหร่อยู่ ระวังอย่าให้มีแผลสิ""ฟ่าไม่ได้หาเรื่องนะ ก็ไอ้ลุงนั่นอยู่ดี ๆ ก็มาดึงแขนฟ่าไว้ เจ็บจะตาย"พอได้ยินว่าชายวัยกลางคนที่มีเรื่องกับฟีฟ่านอกจากตบหน้าแล้วยังจับแขนเอาไว้อีกก็ยิ่งโมโห อยากจะโทรหาลูกน้องคนสนิทให้ตัดมือมันทิ้งไปด้วยเลย"จะซื้ออะไรมั้ย?""ไม่ล่ะ"ฟีฟ่าปฏิเสธเพราะราคาสินค้าของที่นี่แต่ละอย่างไอ้ฟ่าเอื้อมไม่ถึงจริง ๆ ไม่รู้ภพภูมิคิดยังไงถึงพาเขามาที่แบบนี้"อยากได้อะไรก็ไปดู เดี๋ยวฉันซื้อให้เอง"ภพภูมิเหมือนจะรู้ความคิดของฟีฟ่า เขาจึงเสนอเป็นเจ้าภาพจ่ายเงินให้ คิดว่าเป็นค่าตอบแทนให้กับหมอนข้าง ทำเอาคนน้องตาโต คิดว่าตัวเองหูฝาดไปซะอีกจนต้องถามซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ"จริงเหรอ ได้ทุกอย่างเลยเหรอ!""จริงสิ"ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเปย์ให้ขนาดนี้ มีเหรอที่ไอ้ฟ่าจะพลาดโอกาสทอง ที่นี่มีของที่เขาอยากได้ตั้งหลายอย่าง ตั้งใจจะถล่มให้กระเป๋าฉีกเลย"พูดเองนะ อย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน"ฟีฟ่าเดินนำหน้าเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่นโดยมีภพภูมิเดินตามไปรูด
[1] บทนำ ณ สถานบันเทิงที่ลักลอบเปิดให้บริการจนถึงเช้า ภายในเต็มไปด้วยแสงสีและเสียงเพลงดังกระหึ่มจนต้องแหกปากตะโกนคุยกัน กลิ่นเหล้าและควันบุหรี่ลอยคละคลุ้ง แต่เหล่าบรรดานักท่องราตรียังคงสนุกกับการดื่มกินจนลืมเวลา รวมถึงฟีฟ่าที่อยู่ในอาการเมามายจนแทบจำชื่อตัวเองไม่ได้ เขากำลังวาดลีลาอยู่บนฟลอร์ด้วยท่าทางที่ดูจะแรดเกินชายไปหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรักนวลสงวนตัวไม่ยอมให้ผู้ชายที่ไหนลากไปง่าย ๆ ฟีฟ่า ชายหนุ่มผู้มีอายุย่างจะเข้าสู่เบญจเพสในไม่ช้า คิดว่าตัวเองจะรอดจากอาถรรพ์แล้ว ที่ไหนได้ พอยิ่งใกล้วันเกิดความซวยก็ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งตกงาน รถจอดอยู่เฉย ๆ ก็ถูกชนจนพังยับ ไหนจะถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกเงินไปเป็นแสนอีก ที่หนักสุดคือถูกแฟนสาวที่คบมาครึ่งปีบอกเลิกด้วยเหตุผลที่ว่าเข้ากันไม่ได้ มันไม่ได้ตรงไหนวะ! ก็ตอนเอาโคยเสียบเข้าเสียบออกหล่อนยังร้องครวญครางว่าเสียวอย่างกับจะขาดใจตายอยู่เลย แต่นั่นไม่น่าเจ็บใจเท่าตอนไปหล่อนยังขโมยของมีค่าของเขาไปอีก เจอแบบนี้จะไม่เจ็บยังไงไหว ยิ่งคิดก็ยิ่งคลุ้มคลั่งจากท่าเต้นยั่วยวนก็กลายเป็นเต้นยั่วตีนไปเสียแล้ว หลายครั้งที่ฟีฟ่าเหยียบเข้ากับเท้าข
[3] คนดวงตก "ว่าไงนะป๊า..ไม่! ฟ่าไม่ไปเด็ดขาด!" เสียงฟีฟ่าโวยวายลั่นบ้านเมื่อรู้ว่าผู้เป็นพ่อและพี่ชายจะส่งตนไปอยู่วัด เพราะเห็นว่ายิ่งใกล้เบญจเพสดวงของฟีฟ่าไม่ดีเอาเสียเลย พวกเขาจึงเอาดวงของฟีฟ่าไปให้ซินแสที่นับถือช่วยตรวจดูให้ ปรากฏว่าชะตาของฟีฟ่ากำลังจะขาด แต่ถ้าผ่านไปได้เขาจะได้โชคอันใหญ่อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว "อย่าดื้อกับป๊านะฟ่า!" เสียงดุของพี่ชายทำฟีฟ่าสะดุ้ง และเงียบปากลงอัตโนมัติ ครอบครัวของฟีฟ่ามีกันสามคนพ่อลูก คุณแม่เสียไปตั้งแต่เขายังแบเบาะผู้เป็นพ่อจึงรักและตามใจเขามากเพื่อชดเชยที่ขาดแม่ไป ยูโร คือพี่ชายของฟีฟ่าและมีอายุห่างกันถึงห้าปี เขามีนิสัยตรงกันข้ามกับฟีฟ่าแทบจะทุกอย่างและเป็นคนเดียวในบ้านที่ฟีฟ่ากลัว เฮียยูโรทำงานอยู่บริษัทเอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งและส่งฟีฟ่าเรียนจนจบมหาลัย ส่วนป๊าเกษียณออกมาอยู่บ้านแล้ว นอกจากเงินผู้สูงอายุก็มีรายได้เล็ก ๆ น้อยจากการปลูกต้นไม้ขาย ทั้งที่อยู่เฉย ๆ ก็ไม่ลำบาก "เชื่อป๊านะฟ่า ที่ป๊ากับเฮียทำไปทั้งหมดก็เพราะหวังดีกับฟ่านะ" "ไม่นะป๊า! ไม่นะเฮีย! ทั้งสองคนก็รู้นี่ว่าฟ่ากลัวผี ป๊ากับเฮียยังจะให้ฟ่าไปอยู่วัดอีกเหรอ ถ้าป๊ากั
[2] ค่ำคืนที่แสนเร่าร้อน รถสปอร์ตคันหรูขับด้วยความเร็วกว่าปกติ ในขณะที่ดวงตาคู่คมก็มองหาโรงแรมที่อยู่ใกล้ที่สุดไปด้วย ครั้นพอเจอที่หมายก็เลี้ยวเข้าไปโดยไม่ลังเล ถึงจะเป็นแค่ม่านรูดแต่สมัยนี้ก็ตกแต่งอย่างดี ทั้งยังมีของเล่นและอุปกรณ์ครบครันแถมยังสะอาดอีกด้วย เอี๊ยดดดด!!! เสียงเหยียบเบรกดังสนั่นไปแปดห้องสิบห้องจนคนข้างในต้องแง้มประตูออกมาดูว่าใครมันมาทำให้ตกใจจนเกือบแทงผิดรู แม้แต่ฟีฟ่ายังตกใจจนนั่งอ้าปากค้าง ยาที่เขากรอกใส่ปากไอ้กล้ามโตออกฤทธิ์เร็วอย่างที่เพื่อนเลิฟบอกไว้จริง ๆ หลังม่านถูกรูดปิดสนิทฟีฟ่าก็ถูกท่อนแขนกล้ามเป็นมัดแบกเข้าเอวกระเตงลงจากรถและพาเข้าไปในห้องทันที ร่างเล็กผอมบางถูกโยนลงบนเตียงสปริงจนกระเด้งกระดอนไปสามสี่ตลบถึงหยุดอยู่ในท่าขาชี้ฟ้า ทำเอาคนเมาแทบอ้วกออกมาดีที่กลืนลงคอไปได้ทัน ฟีฟ่ามองใบหน้าที่เริ่มไร้สติของอีกฝ่าย ขอบตาดำคล้ำราวคนอดนอนทำให้ดวงตาคู่คมดูน่ากลัว ลมหายใจหอบเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย จ้องมองเขาด้วยสายตาที่ราวกับจะกลืนกินลงคอซะเดี๋ยวนั้น ทำเอาฟีฟ่ากลัวจนจู๋แทบหด "จะ..ใจเย็นก่อน เดี๋ยวกูจะพามึงไปสวรรค์เองนะ" เขาพยายามพูดอย่างใจเย็นแต่ดูเหม
[11]พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่ภพภูมิกลับมายังจุดนัดหมายพร้อมกับยาทาแก้ฟกช้ำ เขาบีบยาจากหลอดใส่ปลายนิ้วและป้ายลงบนแก้มแดงอย่างเบามือ"ยิ่งขี้เหร่อยู่ ระวังอย่าให้มีแผลสิ""ฟ่าไม่ได้หาเรื่องนะ ก็ไอ้ลุงนั่นอยู่ดี ๆ ก็มาดึงแขนฟ่าไว้ เจ็บจะตาย"พอได้ยินว่าชายวัยกลางคนที่มีเรื่องกับฟีฟ่านอกจากตบหน้าแล้วยังจับแขนเอาไว้อีกก็ยิ่งโมโห อยากจะโทรหาลูกน้องคนสนิทให้ตัดมือมันทิ้งไปด้วยเลย"จะซื้ออะไรมั้ย?""ไม่ล่ะ"ฟีฟ่าปฏิเสธเพราะราคาสินค้าของที่นี่แต่ละอย่างไอ้ฟ่าเอื้อมไม่ถึงจริง ๆ ไม่รู้ภพภูมิคิดยังไงถึงพาเขามาที่แบบนี้"อยากได้อะไรก็ไปดู เดี๋ยวฉันซื้อให้เอง"ภพภูมิเหมือนจะรู้ความคิดของฟีฟ่า เขาจึงเสนอเป็นเจ้าภาพจ่ายเงินให้ คิดว่าเป็นค่าตอบแทนให้กับหมอนข้าง ทำเอาคนน้องตาโต คิดว่าตัวเองหูฝาดไปซะอีกจนต้องถามซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ"จริงเหรอ ได้ทุกอย่างเลยเหรอ!""จริงสิ"ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเปย์ให้ขนาดนี้ มีเหรอที่ไอ้ฟ่าจะพลาดโอกาสทอง ที่นี่มีของที่เขาอยากได้ตั้งหลายอย่าง ตั้งใจจะถล่มให้กระเป๋าฉีกเลย"พูดเองนะ อย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน"ฟีฟ่าเดินนำหน้าเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่นโดยมีภพภูมิเดินตามไปรูด
[10]คนหน้าคล้ายจากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฟีฟ่าไม่อยากมองหน้าภพภูมิอีกเลย คนใจดำ รู้ทั้งรู้ว่าเขากลัวผียังบังคับให้เปิดโลงดูศพและยังถีบตกฟูกอีก คิดแล้วน่าโมโหจริง ๆ คนตัวเล็กนั่งหันหลังให้ ในมือถือแซนด์วิชไข่ ปากก็เคี้ยวตุ้ย ๆ ไปด้วย"ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว คิดว่าน่ารักมากหรือไง"คนถูกว่าเพียงแค่เหลือกตามองและหันกลับไปกินแซนด์วิชต่อ คิดซะว่าได้ยินเสียงหมาเห่าหมาหอนละกันภพภูมินั่งไขว่ห้างพลางจิบกาแฟ มืออีกข้างก็ไถมือถือไปด้วย เห็นข้อความจากเท็นมะเข้ามา เมื่อคืนเพราะมีเรื่องวุ่นวายจึงไม่ทันสังเกตเห็น พอกดเข้าไปดูก็ขมวดคิ้วแน่น"ทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ"ร่างสูงลุกขึ้นและสั่งให้ฟีฟ่าไปเปลี่ยนชุดเพราะจะไปกราบหลวงปู่ด้วยกันฟีฟ่าดูดนิ้วหลังกินทุกอย่างหมดแล้ว แกล้งไปเช็ดมือกับเสื้อของภพภูมิและรีบวิ่งเข้าห้องก่อนโดนต่อย เขากลับออกมาในชุดขาวเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่คราวนี้ภพภูมิกลับบอกให้เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาแทน"แล้วไม่บอกแต่แรก เสียเวลาชะมัด"ฟีฟ่าบ่นอุบและกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง คราวนี้ออกมาในชุดทันสมัย ยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูเด็กกว่าเก่า จากนั้นจึงตามภพภูมิไปยังกุฏิของหลวงปู่ ซึ่งท่านได้นั่งรออยู่แ
[9]ชายปริศนาในป่าไผ่"เลิกทำหน้าแบบนั้นสักทีเถอะ เห็นแล้วกินข้าวไม่ลง"เสียงทุ้มว่าคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกัน มองปากที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ แต่ตานี่ขวางเชียว ก็นะ..ลองมาถูกเหวี่ยงดูบ้างมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าเจ็บแค่ไหน นอนด้วยกันมาอาทิตย์กว่าแต่ทั้งตัวไอ้ฟ่านี่มีแต่รอยช้ำเต็มไปหมด"ไม่รู้ล่ะ ก็ใครใช้ให้พี่มาทำร้ายฟ่าก่อนล่ะ!""ก็นายอยากคิดไม่ดีกับฉันก่อนทำไม หน็อย..คิดจะลักหลับฉันเป็นครั้งที่สองเหรอ เอาไว้ชาติหน้าเถอะ วันนั้นถ้านายไม่ใช้ยาปลุก บอกไว้เลยนะว่าขนสักเส้นของฉันนายก็ไม่มีทางได้เห็นหรอก!""แหวะ..อยากเห็นตายล่ะ" ฟีฟ่าพึมพำเบา ๆ เพราะกลัวถูกเหวี่ยงลงจากเรือน ขี้เกียจเถียงด้วย ทั้งที่เมื่อคืนตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนถอดกางเกงของเขาออกแท้ ๆแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ กะอีแค่มีเซ็กซ์ครั้งเดียวทำไมต้องอาฆาตกันขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ ฟ่าไม่เข้าใจจริง ๆ เป็นผู้ชายซะเปล่า ตัวก็ใหญ่อย่างกับควายแต่ใจแคบชะมัด ทั้งที่ตอนนั้นตัวเองก็เป็นฝ่ายได้เสียบแท้ ๆ ไอ้หัวหยิกเอ๊ย..อ้อ..อีกอย่าง บอกไว้เลยนะถ้าคืนนั้นไม่เมาจนขาดสติคนอย่างฟีฟ่าไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้เด็ดขาดถึงจะงอนแต่ฟีฟ่าก็กินข้าวจนหมดเกลี้ยง
[8]เพื่อนรักเพื่อนเลิฟรถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดยังหน้าตึกสูงและได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก รปภ. ร่างสูงในชุดฉูดฉาดลงจากรถออกมายืนด้วยท่าทีสง่างาม มือหนาขยับแว่นตากันแดดให้เข้าที่พลางยกยิ้มด้วยความมั่นใจ ไม่สนว่าจะตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ช่วงขายาวก้าวเข้าไปในตึกอย่างมาดมั่นตรงไปยังลิฟต์สำหรับผู้บริหารเพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุด"แต่งตัวอะไรของมึงวะไอ้เท็น ระหว่างทางหมาไม่เห่าบ้างหรือไงวะ"ผู้บริหารหนุ่มถึงกับวางมือจากเอกสารที่กำลังเซ็นอยู่และลุกขึ้นมาหาชายหนุ่ม ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามมองอีกฝ่ายตั้งหัวจดเท้าอีกครั้ง"ทำไม? กูก็แต่งธรรมดานี่ ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย""เออ..ไม่แปลกก็ไม่แปลก และมึงก็เลิกสูบบุหรี่ในห้องกูได้แล้ว แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดทีไรก็นึกว่ามีขโมยเข้ามาในห้องกูอยู่เรื่อย"ดวงตาเรียวเหยียดมองสูทลำลองสีแดงเข้มเข้าชุดกับกางเกง และไหนจะเสื้อยืดคอกว้างและลึกโชว์ขนหยิกหย็อยบนกล้ามหน้าอกกับรอยสักบนร่างกายด้านซ้าย ใครเห็นต่างก็วิ่งหนีกันหมด ถ้าลูกค้ามาเห็นว่ามีคนแบบนี้ในบริษัทของเขามีหวังความน่าเชื่อถือคงไม่เหลือ"เรื่องมากฉิบหาย ต่อให้กูไม่สูบบริษัทมึงก็ไม่น่าเ
[7]สิ่งที่ติดตามมาในความมืด"วันนี้ผมคงไปช่วยหลวงปู่บิณฑบาตไม่ไหวแล้วล่ะ"ฟีฟ่าเดินเดี้ยงออกมายังชานหน้าบ้านทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนตัวเก่ง เวลาตีห้ากว่าแล้วแต่ท้องฟ้ายังคงมืดสนิทและไม่มีวี่แววว่าพระอาทิตย์จะขึ้นสักนิด ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เหมือนเวลากลางคืนจะยาวนานกว่าปกติ"ไม่ไหวก็ไม่ต้องไป ไม่มีนายหลวงปู่ยังมีลูกศิษย์อีกเยอะ""ชิ!"ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้สักทองและมองออกไปรอบตัวบ้าน กิ่งไผ่สูงท่วมหัวโอนเอนไปตามสายลมดูน่ากลัวจนต้องลุกไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ กับภพภูมิ"เป็นอะไรอีกล่ะ""ตะ..ต้นไผ่มันโยกไปโยกมา น่ากลัวยังไงก็ไม่รู้"ดวงตาคู่คมมองออกไปตามที่ฟีฟ่าบอก แม้ไม่เห็นเป็นตัวเป็นตนแต่ก็รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ในเมื่อต่างคนต่างอยู่เขาจึงไม่ทำอะไร และบริเวณเรือนไม้สีขาวก็ได้ทำการลงอาคมเพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้เอาไว้แล้ว"ถ้ากลัวแล้วจะมองทำไม กลัวมากก็มานั่งสมาธินี่"เอะอะก็จะให้นั่งสมาธิอยู่เรื่อย ไอ้ฟ่าไม่เอาด้วยหรอก แต่อีกคนไม่สนใจหลังก้มกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าสู่สมาธิโดยมีฟีฟ่านั่งอยู่ข้าง ๆ คนไม่มีอะไรทำก็เริ่มง่วงขึ้นมาสุดท้ายก็ฟุบหลับไปบนตักของภพภูมิเ
[6]นายต้องเป็นหมอนข้างให้ฉันฟีฟ่าย่องขึ้นเรือนโดยมีเป้าหมายอยู่ที่กล่องแซนด์วิชบนโต๊ะไม้สักทอง เจ้าของนั่งหันหลังให้แบบนี้ยังไงก็ไม่มีทางเห็นแน่นอน เสร็จไอ้ฟ่าล่ะมือเล็กคว้ากล่องแซนด์วิชได้สำเร็จ ตั้งใจจะเอาลงไปกินข้างล่างเป็นมื้อเที่ยง บังเอิญเหลือบไปเห็นเห็นอกไก่ไร้ไขมันชิ้นใหญ่ในกล่องอาหารคลีนก็เกิดอยากกินขึ้นมา คิดว่าเอาไปแค่ชิ้นเดียวอีกฝ่ายคงไม่รู้หรอก "เสร็จโจร อิอิ.."มัวแต่ย่ามใจค่อย ๆ เปิดกล่องจึงไม่รู้สึกตัวว่าร่างสูงได้มายืนอยู่ด้านหลังแล้ว และกำลังมองพฤติกรรมของเขาอยู่"ทำอะไรน่ะ!"เสียงทุ้มดังขึ้นทำเอาฟีฟ่าตกใจจนแทบทำของในมือร่วง ดีที่ว่าคว้าเอาไว้ได้ทัน เขาหันกลับมามองร่างสูงและยิ้มแหย ๆ"นะ.. นั่งสมาธิเสร็จแล้วหรือครับ แฮะ ๆ""ถ้ายังไม่เสร็จฉันจะจับขโมยได้เหรอ"ร่างสูงโน้มลงต่ำและยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ดวงตาคู่คมมองกล่องแซนด์วิชที่อยู่ในมือของฟีฟ่าและยิ้มเหี้ยม..วิ่งสิครับจะรออะไร!!ฟีฟ่าถอยหลังหนีและรีบวิ่งลงจากเรือน ยังไม่พ้นบันไดขั้นแรกก็ถูกมือหนาคว้าคอเสื้อเอาไว้ได้ นี่สินะ..ข้อเสียเปรียบของคนขาสั้น ฟีฟ่าถูกคนตัวใหญ่กว่าเหวี่ยงกระเด็นกลับขึ้นไปบนเรือน แผ่นหลังบาง
[5] มาเฟียหนุ่ม "ไอ้โรคจิต ทำไมถึงไม่ใส่กางเกงใน ฮะ!" ภูมิพูดขึ้นเสียงดังพลางชี้นิ้วไปยังร่างเล็กที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงข้ามกัน ทั้งพยายามละสายตาจากสิ่งตรงหน้าด้วยการมองเลยไปทางด้านหลังของฟีฟ่า "แล้วพี่จะตกใจทำไมล่ะ ก็เมื่อคืนพี่เป็นคนเร่งฟ่าให้เร็ว ๆ เองนี่ ฟ่าก็ใส่ไม่ทันนะสิ แต่โล่ง ๆ แบบนี้ก็สบายดีนะ" ฟีฟ่าสวมกางเกงวิ่งขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโคร่งซึ่งเจ้าตัวมองยังไงก็เรียบร้อย เขาลุกถกขากางเกงขึ้นจนแก้มก้นขาวโผล่ คนพี่ทนดูไม่ไหวต้องสั่งให้รีบเอาลง "อย่าถก เอาลงเดี๋ยวนี้!" เมื่อคืนฟีฟ่ากลัวโดนทิ้งจึงรีบแต่งตัวเลยไม่ทันได้สวมกางเกงชั้นใน และกางเกงวิ่งสมัยนี้ก็สั้นเหลือเกิน ขนาดไข่เล็ก ๆ ของไอ้ฟ่าก็ปิดแทบไม่มิด ไหนจะด้านข้างก็เป็นเพียงผ้าซ้อนทับกันไว้เพื่อความคล่องตัวของนักวิ่ง ตัวหนึ่งก็ไม่ใช่ถูก ๆ ซับในก็เสือกไม่มีอีก นั่งทีก็เปิดจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว "ที่จริงมันมีกางเกงซับในนะ แต่ฟ่ารำคาญมันสีกับไข่เลยไปเอาออก" "ฉันไม่ได้ถาม ถ้านายจะใส่ไอ้กางเกงขาสั้นแบบนี้ก็สู้แก้ผ้าไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ ไข่เล็ก ๆ ยังปิดไม่มิดเลย" "เสียมารยาท ไข่ฟ่าไม่ได้เล็ก ๆ สักหน่อย และอีกอย่างชุดนี้ก็ของ
[4] คนดวงตกสองคน เมื่อได้ยินว่าเป็นคำสั่งของหลวงปู่ภูมิก็ขัดไม่ได้ จำต้องให้ฟีฟ่าอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ในฐานะคนมาก่อนจึงออกกฎให้ฟีฟ่าปฏิบัติตาม มิฉะนั้นจะไม่ให้อยู่ด้วย "มึงชื่ออะไร" เสียงทุ้มถามขึ้น "ฟะ..ฟีฟ่า" "พูดกับคนอายุมากกว่าให้มันดี ๆ หน่อย ถ้าไม่เชื่อฟังก็กลับไปซะ" คนอะไรแม่งขู่เก่งชะมัด สงสัยจะมีญาติเป็นงูแน่ ๆ ฟีฟ่าบ่นอุบอิบก่อนแนะนำตัวเองอีกครั้ง แม้น้ำเสียงจะไม่ได้รื่นหูแต่ก็ใช้คำที่ฟังแล้วทำให้ปลายตีนของอีกฝ่ายกระตุกน้อยสุดเป็นพอ และยังบอกคนเป็นผู้ใหญ่ว่าถ้าอยากให้คนอื่นพูดดีด้วยตัวเองก็ต้องพูดก่อนสิ โดนตอกหน้ากลับคนเป็นผู้ใหญ่ถึงกับกัดฟันกรอด เถียงไม่ออกเพราะเด็กมันพูดจริง "ว่าแต่มึง เอ๊ย! ว่าแต่นายเถอะ ไม่คิดจะบอกชื่อตัวเองบ้างหรือไง เอาแค่ถามคนอื่นแต่ชื่อตัวเองกลับไม่ยอมบอกมันเสียมารยาทนะไม่รู้หรือไง" ฟีฟ่าถือโอกาสว่ากลับไปบ้าง "ฉันชื่อภูมิ ให้นายเรียกฉันว่าพี่ภูมิ เพราะถึงยังไงฉันก็อายุมากกว่านายหลายปี" พอคำพูดเปลี่ยนก็ทำให้คนตรงหน้าดูดีขึ้นมา น้ำเสียงห้วนไม่น่าฟังก็มีเสน่ห์ขึ้น เสียงทุ้มต่ำติดแหบนิดหน่อยทำให้ฟีฟ่านึกถึงเสียงกระซิบข้างใบหูเมื่อคืนนั้นก็เกิดหน
[2] ค่ำคืนที่แสนเร่าร้อน รถสปอร์ตคันหรูขับด้วยความเร็วกว่าปกติ ในขณะที่ดวงตาคู่คมก็มองหาโรงแรมที่อยู่ใกล้ที่สุดไปด้วย ครั้นพอเจอที่หมายก็เลี้ยวเข้าไปโดยไม่ลังเล ถึงจะเป็นแค่ม่านรูดแต่สมัยนี้ก็ตกแต่งอย่างดี ทั้งยังมีของเล่นและอุปกรณ์ครบครันแถมยังสะอาดอีกด้วย เอี๊ยดดดด!!! เสียงเหยียบเบรกดังสนั่นไปแปดห้องสิบห้องจนคนข้างในต้องแง้มประตูออกมาดูว่าใครมันมาทำให้ตกใจจนเกือบแทงผิดรู แม้แต่ฟีฟ่ายังตกใจจนนั่งอ้าปากค้าง ยาที่เขากรอกใส่ปากไอ้กล้ามโตออกฤทธิ์เร็วอย่างที่เพื่อนเลิฟบอกไว้จริง ๆ หลังม่านถูกรูดปิดสนิทฟีฟ่าก็ถูกท่อนแขนกล้ามเป็นมัดแบกเข้าเอวกระเตงลงจากรถและพาเข้าไปในห้องทันที ร่างเล็กผอมบางถูกโยนลงบนเตียงสปริงจนกระเด้งกระดอนไปสามสี่ตลบถึงหยุดอยู่ในท่าขาชี้ฟ้า ทำเอาคนเมาแทบอ้วกออกมาดีที่กลืนลงคอไปได้ทัน ฟีฟ่ามองใบหน้าที่เริ่มไร้สติของอีกฝ่าย ขอบตาดำคล้ำราวคนอดนอนทำให้ดวงตาคู่คมดูน่ากลัว ลมหายใจหอบเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย จ้องมองเขาด้วยสายตาที่ราวกับจะกลืนกินลงคอซะเดี๋ยวนั้น ทำเอาฟีฟ่ากลัวจนจู๋แทบหด "จะ..ใจเย็นก่อน เดี๋ยวกูจะพามึงไปสวรรค์เองนะ" เขาพยายามพูดอย่างใจเย็นแต่ดูเหม