[12]
บาร์ลึกลับแห่งหนึ่ง "พี่ภูมิ ฟ่าอยู่นี่!!" “อันตราย อย่าไป!!” ฟี่ฟ่ามุดออกจากใต้โต๊ะตั้งท่าจะวิ่งไปหาภพภูมิแต่ถูกภาคินคว้าข้อมือไว้เพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นมิตรหรือศัตรู จังหวะนั้นได้มีของแข็งไม่รู้ที่มาปาเข้าใส่ทำให้ต้องปล่อยมือจากฟีฟ่า ฟีฟ่าจึงฉวยโอกาสวิ่งเข้าไปหาภพภูมิทันที ร่างเล็กถูกอุ้มขึ้นนั่งคร่อมบนตัวถังรถเพราะหากให้ซ้อนท้ายกลัวจะโดนลูกหลงจากกระสุนปืนเอาได้ ฟีฟ่านั่งหมอบโดยมีภพภูมิคร่อมอยู่ด้านหลัง มือหนาบิดเร่งเครื่องและขี่รถฝ่าดงกระสุนออกไปอย่างรวดเร็ว ช่วงที่ภาคินกำลังให้ความสนใจกับหนุ่มนิรนามที่เข้ามาช่วยฟีฟ่า ธีร์ได้หันไปพยักหน้าให้ชายคนสนิทที่ยืนคุ้มกันอยู่ข้าง ๆ อีกฝ่ายพยักหน้ารับทราบคำสั่งและแยกตัวออกไปจากตรงนั้นทันที รถบิ๊กไบค์คันสีดำสนิทขับขี่ด้วยความเร็วออกจากร้านอาหารริมแม่น้ำเข้าสู่ถนนสายหนึ่ง ฟีฟ่าถึงกับต้องหลับตาเพราะต้านแรงลมไม่ไหว ถ้าไม่มีภพภูมินั่งคร่อมเอาไว้ป่านนี้เขาคงปลิวลงข้างทางไปแล้ว ภพภูมิตั้งใจขี่รถกลับวัดแต่ดูจากเวลาแล้วคงจะไม่ทัน อีกอย่างเขารู้สึกเหมือนมีคนติดตามมาจึงเร่งความเร็วขึ้น อีกฝ่ายก็เร่งตาม เห็นท่าไม่ดีจึงเปลี่ยนเส้นทางไปยังย่านสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีผู้คนมาเที่ยวกันอย่างคับคั่งและถนนเส้นนี้ก็ค่อนข้างแคบทำให้รถยนต์เข้าได้ลำบาก ภพภูมิขี่รถเข้าไปจอดยังมุมลับตาของบาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ร่างสูงลงจากรถถอดเสื้อหนังกับหมวกกันน็อคทิ้งไว้ตรงนั้นพลางเสยผมที่หล่นปรกใบหน้าขึ้น อิริยาบถสบาย ๆ แต่กลับมีเสน่ห์สะกดให้ฟีฟ่ามองจนตาค้าง "มองอะไร แอบคิดไม่ดีกับฉันอีกล่ะสิ" เขาว่าฟีฟ่าเสียงเข้ม "มะ..มองที่ไหน ฟ่าแค่คิดว่าเพิ่งรอดตายมา พี่ยังมีอารมณ์มาเที่ยวบาร์อีกเหรอ" "ไม่รู้อะไรก็อย่าพูดมาก ตามฉันมา" ภพภูมิไม่ได้บอกกับฟีฟ่าว่ามีคนติดตามพวกเขามา แม้จะคลาดกันไปแล้วแต่เพื่อความปลอดภัยควรหาที่ซ่อนตัวเสียก่อน และบาร์ที่ไม่สะดุดตาแบบนี้นับว่าเหมาะสมที่สุด ฟีฟ่าเดินตามหลังภพภูมิเข้าไปด้านใน บาร์แห่งนี้ตกแต่งสไตล์คันทรี่แบบตะวันตก บรรยากาศต่างจากที่เขาเคยไปเที่ยวสิ้นเชิง นอกจากเสียงดนตรีจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงแล้ว ผู้คนต่างนั่งดื่มกินกันอย่างเงียบเชียบ เสียงพูดคุยเบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบทำเอาฟีฟ่าเผลอกลั้นหายใจตาม ร่างสูงเดินไปหยุดอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่กำลังชงเครื่องดื่มอยู่เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา จากนั้นจึงได้วางมือจากงานที่ทำอยู่และเชิญชายหนุ่มไปทางหลังร้าน เขาเดินนำภพภูมิขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง เมื่อถึงห้องห้องหนึ่งก็เคาะประตูและเปิดออก บาร์เทนเดอร์หนุ่มโน้มตัวลงและผายมือเชิญให้ทั้งคู่เข้าไปด้านใน "มาแล้วเหรอ เห็นหายไปนานกูนึกว่ามึงโดนมือปืนสอยไปแล้วซะอีก" เท็นมะทักขึ้นอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นเพื่อนที่เพิ่งแยกกันไปไม่นานเดินเข้ามาในห้อง ครั้นพอเห็นไอ้ตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังของภพภูมิก็หน้าตึงขึ้นมาจนบุหรี่ที่คาบไว้ในปากหล่นลงพื้น "นะ..นี่มันเด็กที่เต้นกวนตีนเหยียบตีนมึงนี่หว่า ทำไมมันถึงมากับมึงได้วะ" ฟีฟ่าเองก็รู้สึกคุ้นหน้าเท็นมะเช่นกัน แต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน คืนนั้นเขาเมามากและเต้นเหยียบตีนไปหลายคนซะด้วย แต่รูปร่างอย่างกับหมีควายและแต่งตัวฉูดฉาดแบบนี้เขาไม่น่าจะลืมได้นะ "ข่างกูเถอะน่า ฟ่ามานี่" "คะ..ครับ" ฟีฟ่าเดินตัวติดกับภพภูมิเข้าไปนั่งในห้อง นอกจากเท็นมะแล้วยังมีชายหนุ่มหน้าตาไม่รับแขกอยู่อีกหนึ่งคน ดวงตาคู่คมจ้องฟีฟ่าเขม็ง "มึงไม่ต้องจ้องขนาดนั้นหรอกไอ้เจย์ เด็กมันกลัวหมดแล้ว นี่ฟีฟ่า คนที่หลวงปู่ส่งมาให้กูดูแล" ภพภูมิบอกกับเจย์เมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องฟีฟ่าตาไม่กะพริบและแนะนำให้รู้จักกัน "สวัสดีครับ" เจย์ยังคงนิ่งแม้ว่าฟีฟ่าจะทักทายอย่างมีมารยาท ฟีฟ่าเองก็มองคนตรงหน้าไม่วางตาเช่นกัน หน้าตาก็หล่อแต่ทำไมถึงทำหน้าอย่างกับคนถูกเหยียบตีนและขยี้ซ้ำตลอดเวลานะ นิสัยเหมือนกันแบบนี้ มิน่า..ถึงคบกับภพภูมิได้ "มองอะไร นั่นเพื่อนฉัน อย่าได้คิดไม่ดีเชียว!" ภพภูมิว่าเข้าให้เมื่อเห็นฟีฟ่ามองเจย์จนตาค้าง "คิดไม่ดีอะไรกัน มีแต่พี่นั่นแหละที่คิดไม่ดี ฟ่าไม่ได้บ้าผู้ชายสักหน่อย" "แล้วที่นายตะครุบฉันล่ะ!" "ไม่ได้ตะครุบสักหน่อย!" เห็นทั้งคู่เถียงกันอย่างสนิทสนมทำเอาเท็นมะคิ้วพันกันยุ่งกว่าเดิม ไม่รู้ว่าแอบไปสนิทกันตอนไหน เขาล่ะไม่อยากเชื่อว่าเพื่อนจะตาต่ำได้ขนาดนี้ "อย่าบอกนะว่าที่มึงรีบเพราะจะไปช่วยไอ้เด็กนี่ แม่งเอ๊ย..เสียเวลาชะมัด!" เท็นมะกลับมานั่งรวมกลุ่มพูดขึ้นพลางชี้ไปที่ฟีฟ่า "เสียเวลาที่ไหนกัน และอีกอย่างผมก็ไม่ใช่เด็กแล้วด้วย" ถือว่ามีภพภูมิให้ท้ายฟีฟ่าจึงกล้าต่อปากต่อคำกับเท็นมะ ทั้งที่ตอนเข้ามาในห้องยังขาสั่นอยู่เลย ดีที่เจย์ปรามขึ้นเพราะความรำคาญ ทั้งสองคนจึงยอมหุบปาก จากนั้นถึงได้เริ่มคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้สักที "เดี๋ยวก่อน!" เจย์หันไปมองฟีฟ่าอีกครั้ง "ไม่เป็นไร ให้เขาอยู่ตรงนี้แหละ" ภพภูมิบอกกับเจย์ เพราะยังไงฟีฟ่าก็ไม่เข้าใจเรื่องที่พวกเขาคุยกันหรอก เท็นมะเริ่มต้นพูดขึ้นก่อน เขาเล่าเรื่องเมื่อตอนที่ถูกดักทำร้ายเพราะโดนเข้าใจผิดว่าเป็นภพภูมิให้ฟัง ทั้งที่ตอนออกจากตึกเขาได้เปลี่ยนไปนั่งรถเลขาของเจย์พวกมันยังตามมาถูก เป็นไปได้ว่าพวกมันต้องสะกดรอยตามเขามาสักพักหนึ่งแล้ว ทุกคนคาดเดากันว่าอาจเป็นฝีมือของคนที่เท็นมะกำลังตามสืบอยู่ และพวกมันคงจะรู้ตัวถึงจึงได้ส่งคนตามมาตลบหลังอีกที "และเรื่องยิงถล่มที่ร้านอาหารล่ะ พวกมึงคิดว่าเป็นฝีมือของใคร" ภพภูมิถามขึ้น "กูว่าไม่น่าจะใช่พี่คิน ใครจะเอาตัวเองไปเสี่ยงในดงกระสุนแบบนั้น" เจย์พูดขึ้นและทุกคนก็เห็นด้วย แม้คนที่เท็นมะจับตัวเอาไว้ได้จะสารภาพว่าเป็นคำสั่งของภาคินก็ตาม แต่คงไม่มีใครกล้าเสี่ยงทำเรื่องให้โดนจับได้ติดต่อกันภายในวันเดียวแบบนี้หรอก ตอนนี้ทุกคนต่างพุ่งเป้าไปที่ภีมพี่ชายอีกคนของภพภูมิ เพราะเขาแสดงท่าทีว่าไม่เห็นด้วยกับการทำพรรคให้โปร่งใสและพยายามคัดค้านมาตลอด "แล้วมึงจะเอายังไงต่อวะไอ้ภพ" "พวกมึงทำตามแผนเดิมต่อไป กูขอเวลาอีกสักพัก ไม่นานหรอกกูจะลากตัวไอ้คนบงการฆ่าคุณพ่อออกมาให้ได้" ภพภูมิบอกกับเท็นมะ เพราะตอนนี้เขาเริ่มมองเห็นพลังงานที่แผ่ออกมาของแต่ละคนแล้ว แม้จะแค่จาง ๆ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาก็รู้เจตนาของอีกฝ่ายได้ อย่างตอนนี้เขาก็สามารถมองเห็นพลังงานที่แผ่ออกมาจากร่างของเจย์และเท็นมะเช่นกัน "วันนี้กูจะค้างที่นี่สักคืน พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับวัด" ภพภูมิบอกกับทั้งสองคน เพื่อความปลอดภัยทั้งเขาและฟีฟ่าไม่ควรออกจากร้านเวลานี้ เพราะคืนนี้คนที่สะกดรอยตามมาจากร้านอาหารคงจะไม่หยุดตามหาพวกเขาแน่ ๆ การอยู่ในที่ลับนับว่าดีที่สุดแล้ว และบาร์แห่งนี้ก็ไม่เป็นที่น่าสนใจ พวกมันคงมองข้ามไปอย่างแน่นอน "เดี๋ยวกูให้เด็กเปิดห้องไว้สองห้องนะ" "ห้องเดียวก็พอ" เจย์ถึงกับประหลาดใจเมื่อได้ยินว่าภพภูมิให้เปิดห้องแค่ห้องเดียว เพื่อนที่เขารู้จักมาเกือบยี่สิบปีที่มีนิสัยถือตัวและไม่ชอบนอนกับคนอื่นอย่างภพภูมินะเหรอจะนอนห้องเดียวกับคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน "ว่าไงนะ?" เขาถามย้ำอีกครั้งให้แน่ใจ "กูบอกว่าให้เปิดแค่ห้องเดียวก็พอ" "..ถ้างั้นเดี๋ยวกูลงไปบอกเด็กให้" ได้ยินชัดเต็มสองหูเจย์จึงพยักหน้ารับก่อนเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเท็นมะ "มึงเป็นอะไรวะไอ้เจย์" เท็นมะถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าครุ่นคิดของเจย์ "กูว่าไอ้ภพมันแปลก ๆ สงสัยว่ามันจะโดนของหรือเปล่า ไม่รู้ไปถูกใจเด็กคนนั้นท่าไหนถึงยอมให้นอนด้วยกันได้" คำตอบของเจย์ทำเท็นมะหัวเราะก๊าก นี่มันปีไหนกันแล้ว ยังจะมีคนทำเรื่องแบบนี้อีกเหรอ "มึงน่ะคิดมากไปแล้วเจย์ กลับบ้านไปสวดมนต์แล้วรีบเข้านอนเถอะว่ะ" เท็นมะว่าก่อนแยกตัวจากเจย์ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้พวกนี้ ทั้งเขาและเจย์ก็เคยสัมผัสมาแล้ว อย่างที่บาร์แห่งนี้ไง ที่ไม่คึกคักเหมือนที่อื่นเพราะตั้งอยู่บนทางสามแพร่งและถูกคาถาบังตาไว้ ลูกค้าที่เข้ามาส่วนใหญ่จะมีสัมผัสที่หกที่ค่อนข้างรุนแรงและยังมีลูกค้าบางส่วนที่ไม่ใช่มนุษย์อีกด้วย "ทำไมพวกนั้นถึงเรียกพี่ว่าภพล่ะ พี่ชื่อภูมิไม่ใช่เหรอ?" ฟีฟ่าถามขึ้นเมื่อเข้ามาในห้องพัก ก่อนหน้าเขาได้ขอลงไปดื่มเหล้าที่บาร์ด้านล่างแต่ภพภูมิไม่อนุญาตและรีบลากตัวฟีฟ่าเข้าห้องเพราะกลัวไอ้ตัวแสบจะแอบหนีลงไป หากเจอกับไอ้พวกนั้นเข้าจะแย่เอา "จะชื่อไหนก็เหมือนกันแหละ ไม่ต้องถามมาก ไปอาบน้ำและออกมาสวดมนต์นอนได้แล้ว" "ถามแค่นี้ทำเป็นหวง ชิ!" ฟีฟ่าเบะปากก่อนคว้าผ้าขนหนูและเข้าไปอาบน้ำคนเดียว ไม่ร้องโวยวายให้ภพภูมิตามไปเฝ้าเพราะที่นี่ไฟสว่างไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่เรือนไม้สีขาว แถมยังมีอ่างน้ำอุ่นให้แช่อีก ถูกใจไอ้ฟ่านักล่ะ คนตัวเล็กนอนแช่น้ำอย่างสบายอารมณ์และทำท่าจะเคลิ้มหลับ เพราะเหนื่อยมาทั้งวันหรือไงนะถึงทำให้หนังตาหนักขนาดนี้ ก๊อก ๆ ก่อนจะหลับไปจริง ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเสียก่อน ตามมาด้วยเสียงเรียกจากหน้าห้อง "จะแช่ให้ตัวเปื่อยเลยหรือไง ออกมาได้แล้ว" ภพภูมิเคาะประตูเรียกเพราะเห็นว่าฟีฟ่าเงียบไป ยิ่งซื่อบื้ออยู่ด้วยกลัวจะเผลอหลับในอ่างน้ำ ถ้าจมน้ำตายขึ้นมาเดี๋ยวก็ได้เป็นผีเฝ้าที่นี่หรอก "ได้ยินแล้ว จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ" ฟีฟ่าขานรับและลุกจากอ่างขึ้นมาเช็ดตัว นึกขึ้นมาได้ว่าไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน ของที่ซื้อวันนี้ภพภูมิก็ให้ขนส่งนำไปส่งให้ที่วัดแล้วด้วย แล้วคืนนี้ฟ่าจะใส่อะไรล่ะ แต่สำหรับฟีฟ่าทุกปัญหามีทางออกเสมอ ร่างเล็กห่อด้วยผ้าเช็ดตัวผืนสีขาวยืนซักกางเกงชั้นในในอ่างล้างหน้า ตากไว้พรุ่งนี้คงจะแห้งจะได้มีใส่ เพราะให้ใส่กลับด้านไอ้ฟ่าไม่เอาด้วยหรอกนะ ไข่เค็มกันพอดี หลังซักเสร็จเขาก็ผึ่งมันไว้บนขอบอ่าง "กว่าจะออกมาได้ ตัวแค่นี้จะอาบอะไรนักหนา" ภพภูมิว่าก่อนเดินไปหยิบเสื้อยืดในตู้โยนให้ฟีฟ่าเปลี่ยนแทนกระโจมอกผ้าขนหนูที่สวมอยู่ เห็นแล้วมันอุจาดตายังไงก็ไม่รู้ "ทำไมมีเสื้อยืดด้วยล่ะ อย่าบอกนะว่าพี่แอบซื้อมา" ฟีฟ่าชูเสื้อยืดของภพภูมิขึ้น ถ้ามันอยู่บนตัวเขาคงกลายเป็นเสื้อโอเวอร์ไซซ์แน่ ๆ "ใช่ที่ไหน! อย่าพูดมากนักเลย รีบ ๆ เปลี่ยนเสื้อได้แล้ว" ห้องนี้เมื่อก่อนภพภูมิเคยมาพักอยู่ จึงมีเสื้อผ้าติดตู้อยู่บ้าง หลังส่งเสื้อให้ฟีฟ่าแล้วจึงเข้าไปอาบน้ำต่อ ร่างสูงเดินไปที่อ่างล้างหน้าเพื่อแปรงฟัน พอเห็นกางเกงในของฟีฟ่าตากอยู่ที่ขอบอ่างก็โมโหจนหน้าดำหน้าแดง อยากจะเอากางเกงในไปยัดก้นคืนเจ้าของจริง ๆ ที่ตั้งเยอะ ทำไมต้องมาตากตรงนี้ด้วยว่ะ!! มือหนากำกางเกงชั้นในของฟีฟ่าแน่นและปาลงพื้นอย่างแรง ยืนมองมันอยู่สักพักก่อนก้มลงไปหยิบขึ้นมาสะบัดให้คืนทรงและนำไปตากให้ใหม่ที่ราว กางเกงในเมียก็ไม่ใช่ ทำไมเขาต้องมาตากให้ด้วยนะ หลังอาบน้ำเสร็จก็เดินเช็ดผมออกมาเหมือนทุกครั้ง เห็นไอ้ตัวแสบนอนหลับไปแล้ว ทั้งที่บอกให้สวดมนต์ก่อนนอนแท้ ๆ แต่เห็นว่าวันนี้เพิ่งผ่านเหตุการณ์ลอบยิงมาจะยอมให้สักวันก็แล้วกัน ร่างสูงเดินไปปิดไฟและกลับมาที่เตียง ทิ้งตัวลงข้างคนตัวเล็กและสวมกอดไว้ ความเครียดที่สะสมมาทั้งวันก็ถูกแทนที่ด้วยความผ่อนคลาย ไม่นานก็หลับไปโดยมีฟีฟ่าอยู่ในอ้อมอก ในขณะที่สถานบันเทิงรอบ ๆ ต่างเริ่มทยอยกันปิด มีเพียงบาร์แห่งนี้ที่ยังคงเปิดให้บริการอยู่ ลูกค้าที่มีสัมผัสที่หกทยอยกันกลับไปจนหมดแล้วเหลือเพียงลูกค้าที่ไร้กายหยาบที่ยังคงดื่มกินและพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา เสียงดนตรีคลาสสิกที่บรรเลงอย่างไพเราะบัดนี้กลับมีท่วงทำนองคล้ายเสียงสวดมนต์ไปเสียแล้ว จวบจนเมื่อถึงเวลาเหล่าลูกค้าในยามราตรีก็ค่อย ๆ หายไปทีละคน จนในที่สุดร้านก็เหลือเพียงความว่างเปล่า บาร์เทนเดอร์หนุ่มทยอยยกเก้าอี้ขึ้นวางบนโต๊ะเพื่อเตรียมปิดร้าน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจึงออกจากร้านไปเป็นคนสุดท้ายและทุกอย่างก็กลับเข้าสู่ความมืดอีกครั้ง กระทั่งราตรีได้ผ่านไป.. ภพภูมิตื่นนอนตอนตีสี่เหมือนอย่างทุกวัน แต่ที่ต่างออกไปคือวันนี้ไม่ต้องปลุกฟีฟ่าให้ตื่นเพื่อติดตามหลวงปู่ไปบิณฑบาต คนตัวเล็กนอนกอดก่ายร่างกำยำไว้ ขาข้างหนึ่งยกขึ้นพาดสะโพกแกร่งทำให้เสื้อยืดตัวโคร่งหล่นลงไปกองอยู่ที่เอวบาง ดวงตาคู่คมเบิกกว้างมองก้นขาวที่โผล่ออกมา เรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอัตโนมัติเมื่อเห็นไข่เต่งตึงสองใบแนบอยู่กับต้นขาของตน "อะ..ไอ้.." ภพภูมิโกรธจนควันออกหู หลังดันตัวฟีฟ่าออกก็ถีบลงจากเตียงทันที ร่างเล็กหล่นกระแทกพื้นดังแอ๊ก เจ็บจนน้ำตามันไหลออกมาเอง "ฮืออ..พี่ภูมิถีบฟ่าทำไมอะ..มันเจ็บนะ.." "นายคิดจะทำอะไรฉัน หน็อย..คิดจะเอาของแบบนั้นมาถูต้นขาฉันเพื่อช่วยตัวเองเหรอ อย่าหวังเลย!!" ฟีฟ่ามองที่หว่างขาตัวเองก่อนรีบหุบเข้า "มันก็ตั้งทุกเช้านั่นแหละ สมัยเรียนครูไม่ได้สอนหรือไง ว่าแต่ฟ่าดูของตัวเองก่อนเถอะก็ตั้งเหมือนกันแหละน่า!" ฟีฟ่าว่ากลับไปก่อนค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้นจากพื้นและกลับไปที่เตียง ร่างสูงถอยห่างจากฟีฟ่าและใช้สองมือกุมเป้าของตัวเองไว้ เขาไม่ได้แค่แข็ง แต่ตรงหัวนี่เยิ้มจนซึมกางเกงนอนออกมา "ไม่ต้องมาซ่อนเลย เอามาให้ฟ่าดูเดี๋ยวนี้นะ!" "เฮ้ย..จะทำอะไรน่ะ อย่านะ!!"[13]หญิงสาวที่มาใส่บาตรในตอนเช้ามืด"พี่จะหลบทำไม เอาของพี่มาให้ฟ่าดูเดี๋ยวนี้นะ""บอกว่าอย่าเข้ามาไง!"ยิ่งไล่ฟีฟ่าก็ยิ่งแกล้งเข้าหา เขาต้องดูให้ได้ว่าภพภูมิก็แข็งตอนเช้าเหมือนกัน ฟีฟ่ามัวแต่ได้ใจคิดว่าเอาคืนคนพี่ได้สำเร็จ ที่ไหนได้รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับกดลงกับเตียงแล้ว"พะ..พี่จะทำอะไรน่ะ แหม..จริงจังไปได้ ฟ่าแค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง" ฟีฟ่าทำใจดีสู้เสือและพยายามดันตัวเองออกจากสองแขนที่กักขังตนไว้ แต่ดูท่าคงจะสู้แรงคนตัวใหญ่ไม่ไหว"อยากดูของฉันนักไม่ใช่เหรอ เอาสิ ฉันจะให้นายดูจนพอใจเลย!""มะ..ไม่เอา ฟ่าไม่ดูแล้ว"ภพภูมิไม่ได้แค่ให้ดูเต็มตา มือหนาได้ดึงกางเกงนอนลงไปไว้ใต้ก้นและงัดเอาเจ้าโลกออกมาสาวชักสองสามทีเพื่อให้ตื่นตัวเต็มที่ก่อนจะดึงมือของฟีฟ่ามาสัมผัสความแข็งแกร่งของมัน"เป็นไง แข็งพอที่ยัดใส่ก้นนายได้หรือยัง!""พี่ภูมิ..ฟ่าขอโทษ.."ฟีฟ่าหน้าแดงแปร๊ด แม้จะเคยเสียตัวให้กับภพภูมิแต่เรื่องก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วเขายังจำความใหญ่โตของภพภูมิได้เป็นอย่างดี มาสำนึกเอาตอนนี้ก็สายเสียแล้วฟีฟ่าหลับตาปี๋ นอกจากความร้อนที่ฝ่ามือแล้วก็รู้สึกถึงความนุ่มอุ่นที่ริมฝีปากจึงลืมตาขึ้นมองก็เห็นปากหยักทา
[14] ลูกน้องคนสนิทฟีฟ่าที่ปกติจะตื่นนอนเองไม่ได้วันนี้กลับลืมตาตั้งแต่ยังไม่ตีห้า ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดขาวและเตรียมย่ามเอาไว้ จากนั้นจึงได้ชวนภพภูมิลงไปล้างหน้าแปรงฟันด้วยกันเพราะข้างนอกฟ้ายังมืดอยู่เขากลัวโดนผีหลอก หลังเสร็จกิจวัตรก็พากันไปรอหลวงปู่ที่หลังวัด พอหลวงปู่มาถึงจึงติดตามออกไปบิณฑบาตฟีฟ่าเดินตามหลังหลวงปู่อย่างเคย วันนี้ดูเขาอารมณ์ดีต่างจากทุกครั้งจนเมื่อหันมาเห็นร่างสูงเดินอยู่ข้างหลัง ใบหน้าหวานก็บึ้งตึงขึ้นทันที"พี่จะไปไหนน่ะ วันนี้ไม่กลับไปรอที่เรือนเหรอ?""วันนี้ฉันจะไปกับหลวงปู่ด้วย""ว่าไงน่ะ?!!"ฟีฟ่าถามขึ้นด้วยความตกใจ ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะออกจากเรือนไปไหนนอกจากหลวงปู่สั่ง แต่ละวันไปไกลสุดก็แค่หลังป่าไผ่กับกุฏิของหลวงปู่เท่านั้น วันนี้ไม่รู้ไปโดนตัวไหนมาถึงได้ตามออกมาบิณฑบาตด้วย"นายจะตกใจทำไม ก่อนนายมาอยู่ที่นี่ฉันก็ช่วยหลวงปู่ถือของอยู่บ่อย ๆ"ภพภูมิว่าพลางขยับขึ้นมาเดินข้างกัน แต่คิดเหรอว่าคนอย่างฟีฟ่าจะกลัว ผัวก็ไม่ใช่? กระทั่งมาถึงบ้านหลังแรกก็พบหญิงสาววัยกลางคนกับลูกชายวัยมหาลัยสองคนมายืนรอใส่บาตร"นิมนต์เจ้าค่ะหลวงปู่"หญิงสาววัยกลางคนพนมมือเพื
[15] ฟีฟ่าถูกลักพาตัว เพิ่งผ่านเหตุการณ์เกือบถูกลักพาตัวมาหมาด ๆ ทำให้ฟีฟ่าไม่กล้าติดตามหลวงปู่ออกไปบิณฑบาตอีก ภพภูมิเองก็ไม่ได้บังคับเพราะหลวงปู่ยังมีลูกศิษย์อีกหลายคน ส่วนตัวเขาช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้อยู่กับเรือนและออกไปข้างนอกบ่อยกว่าปกติ พอฟีฟ่าถามว่าไปไหนก็ไม่ยอมบอก "วันนี้ก็ไปอีกแล้วเหรอ?" ฟีฟ่าถามขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงนั่งสวมถุงเท้าอยู่บนเก้าอี้ไม้สักทองตัวประจำ "อืม..ฉันจะกลับมาก่อนค่ำ นายอย่าออกไปไหนคนเดียวล่ะ" "รู้แล้วน่า อ้อ..เย็นนี้ฟ่าอยากกินพิซซ่ากับไก่ทอด พี่ซื้อมาฝากฟ่าด้วยนะ" ตอนนี้แค่ให้ลงจากเรือนฟีฟ่ายังไม่กล้าเลย ไปไกลสุดก็แค่ห้องน้ำและใต้ต้นลีลาวดีเท่านั้น "ได้สิ" หลังรับปากฟีฟ่าภพภูมิก็ลงจากเรือนไป ขณะเดินผ่านแคร่ใต้ต้นลีลาวดีก็ได้หันไปเห็นหญิงสาวในชุดสไบสองตนนั่งอยู่บนนั้นจึงเข้าไปหาพร้อมกำชับให้ดูแลฟีฟ่าให้ดีอย่าทำให้ตกใจกลัว และห้ามไม่ให้ใครเข้ามาในบริเวณเรือนไม้สีขาวแห่งนี้เด็ดขาด ...ไม่ต้องห่วง เราจะช่วยดูแลแฟนเจ้าให้เอง...นางตะเคียนพูดเสียงหวานพร้อมส่งสายตาให้ชายหนุ่ม ...นอกจากพวกเราสองตนแล้ว ยังมีท่านเทวดาสุดหล่อในป่าไผ่อีก ไม่ว่าผีหรือคนก็ไม่มีทางแตะต้อง
[16] ภีม และ ภาคินเวลาล่วงไปหลังตีสามภพภูมิก็ยังข่มตาไม่ลงแต่ก็พยายามจะนอนให้หลับสุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จจึงนอนลืมตาอยู่ในความมืดไปทั้งอย่างนั้น มือหนาวางลงข้างกายที่ว่างเปล่าอดที่จะคิดถึงหมอนข้างที่กอดนอนทุกคืนและเผลอเหวี่ยงเข้ามุมในตอนเช้าเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะลักหลับไม่ได้..พี่ภูมิ ช่วยฟ่าด้วย ฟ่าเข้าบ้านไม่ได้.."ฟีฟ่า!!?"ภพภูมิดีดตัวขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงเรียกของฟีฟ่าดังแว่วเข้ามา ตั้งใจฟังอีกครั้งให้แน่ใจก่อนลุกออกไปนอกห้องอย่างรีบเร่ง เปิดประตูออกไปก็พบคิรินกำลังยืนมองลงไปด้านล่างเพื่อหาที่มาของเสียงนั้น"นั่นเสียงของฟีฟ่า""คุณภพก็ได้ยินหรือครับ"..พี่ภูมิ พี่คิริน มารับฟ่าที ตรงนี้มันมืด ฟ่ากลัว..คิรินได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองจึงชะเง้อมองลงไปหาต้นเสียง เห็นเป็นเงาคนเดินไปมาอยู่นอกลาน ที่ไม่ลงไปดูเพราะภพภูมิสั่งไว้ว่าถ้าได้ยินเสียงแปลก ๆ ห้ามขานรับและถ้ายังไม่ถึงเวลาเช้าห้ามลงจากเรือนเด็ดขาด"ผมจะลงไปดูนะครับ""ไม่ต้อง"ภพภูมิห้ามคิรินเอาไว้และยืนมองฟีฟ่าตะโกนเรียกให้ช่วยอย่างน่าสงสาร ฟีฟ่าส่งเสียงเรียกอยู่พักใหญ่ พอเห็นว่าไม่มีใครลงจากเรือนก็ตวาดลั่นและด่าทอภพภูมิด้วยความไม
[17] คนที่ถูกจับตามองภพภูมิพาฟีฟ่าขึ้นมาบนห้องส่วนตัว ไม่ได้กลับมาหลายเดือนภายในห้องยังคงสะอาดและเป็นระเบียบเพราะคิรินคอยมาทำความสะอาดให้อยู่เรื่อย ๆฟีฟ่าเดินตามหลังเข้ามา ลอบสำรวจภายในห้องที่แทบไม่มีการตกแต่งอะไร เห็นใช้ชีวิตที่เรือนไม้แล้วคิดว่าอีกฝ่ายจะติดหรูมากกว่านี้เสียอีก"นายไปอยู่กับพี่ภีมได้ยังไง" ภพภูมิถามขึ้นเมื่ออยู่ลำพังภายในห้อง พลางมองเด็กแสบที่กำลังจับโน่นเล่นนี้ด้วยความอยากรู้โดยไม่ว่าอะไร"คะ..คือว่าฟ่า.."ฟีฟ่าอึกอักพร้อมวางภาพถ่ายสามพี่น้องที่อยู่ในมือลงที่เดิมก่อนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ภพภูมิฟังด้วยท่าทีสำนึกผิด เป็นเพราะเขาแอบหนีออกมาจากเรือนไม้สีขาวและโบกรถที่ผ่านมาด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชาวบ้านแถวนั้นเพื่อขอให้พาไปส่งยังท่ารถ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกที่ตั้งใจมาลักพาตัวเขา"ตอนที่ถูกจับขึ้นรถกระบะฟ่าคิดว่าจะไม่รอดแล้ว" ฟีฟ่าเล่าต่อขณะที่รถกระบะกำลังวิ่งไปตามถนน จู่ ๆ ได้มีรถยนต์หรูคันหนึ่งขับปาดเข้ามาจอดขวางด้านหน้าไว้ ตอนนั้นฟีฟ่าคิดว่ามีกลุ่มที่สามมาชิงตัวและคราวนี้คงได้ตายจริง ๆ แน่กระทั่งมีชายหนุ่มหน่วยก้านดีก้าวลงมาจากรถและเข้าเผชิญหน้ากับชายฉกรรจ์กล
[18] ไล่ล่ารถยนต์หรูขับอยู่ลำพังบนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาใช้เส้นทางนี้ แต่วันนี้กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลยและตลอดทางก็ไม่มีรถขับสวนมาสักคันทั้งที่เป็นขาเข้ากรุงเทพฯร่างสูงนั่งอยู่เบาะด้านหลัง ใบหน้าเรียบเฉยแม้ในใจจะขุ่นเคืองเพราะถูกยกเลิกนัดกะทันหัน เล่นมาบอกเอาตอนใกล้ถึงที่หมายแล้วนี่นะ ไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคงได้มีเรื่องกันไปแล้วขณะพยายามสงบใจดวงตาคู่คมได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เขาใช้ถนนเส้นนี้ในเวลากลางคืนอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เงียบและวังเวงเท่านี้มาก่อน"มีอะไรเหรอมังกร?"เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นคนสนิทที่รับหน้าที่ขับรถสอดส่ายสายตาไปมารอบตัวอยู่หลายครั้ง สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดกว่าปกติ เหงื่อแตกเต็มใบหน้าทั้งที่แอร์ภายในรถเย็นเยียบ"ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลก ๆ ยังไงคุณภีมระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะครับ"มังกรบอกกับผู้เป็นนายและใช้ความเร็วลดลงเพราะไฟส่องทางที่สว่างมาตลอดจู่ ๆ ได้ดับลงทีละดวงจนในที่สุดรอบตัวของทั้งสองก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงจากไฟหน้ารถที่สาดไปด้านหน้าเท่า
[19] แมวไม่อยู่หนู(ฟ่า)ร่าเริงผัว เอ๊ย! แมวไม่อยู่หนูฟ่าก็ร่าเริงเลยสิคะหลังรถของภพภูมิขับพ้นประตูรั้วออกไปแล้วฟีฟ่าก็ขอให้คิรินพาไปที่สระว่ายน้ำ ถึงเขาจะไม่ชอบออกกำลังกายแต่การว่ายน้ำก็เป็นกีฬาที่เขาโปรดปรานที่สุด ฟีฟ่าว่ายน้ำมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมทำให้มีกล้ามเนื้อที่สวยงาม ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นต่างตัวสูงกันหมด มีเพียงเขาที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดจุดหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น"มึงเป็นใครวะ นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ถ้าไม่อยากตายก็ออกไป!!"พอมาถึงสระว่ายน้ำชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหน้าก็เข้ามาขวางไม่ให้ฟีฟ่าเข้าไปด้านใน และยังมองด้วยสายตาน่ากลัว ดีที่คิรินตามมาถึงพอดี"คุณฟีฟ่าเป็นแขกของคุณภพ ถ้าพวกแกไม่อยากโดนทำโทษก็หลบไป!" คิรินที่แสนจะสุภาพพออยู่ต่อหน้าคนพวกนี้ก็เปลี่ยนไปราวคนละคน น้ำเสียงและบุคลิกน่ายำเกรงทำให้ใบหน้าราวนายเอกซีรีส์วายดูสมชายขึ้น"ขอโทษครับคุณคิริน ขอโทษครับคุณฟีฟ่า เชิญด้านในเลยครับ"ชายฉกรรจ์ร่างกำยำรีบก้มศีรษะขอโทษฟีฟ่า นอกจากผู้เป็นนายแล้วคนสนิทของพวกเขาก็มีฐานะที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ ภายในพรรคเช่นกันเป็นคนพิเศษนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง ฟีฟ่ายิ้มเหนือเดินนำหน้าคิรินเข้าไปด้านใ
[20] ผู้นำคนใหม่เช้าวันใหม่มาถึงนานแล้วแต่ทั้งภพภูมิและฟีฟ่าก็ยังไม่ลุกจากเตียง จนเมื่อเวลาล่วงไปใกล้เที่ยงฟีฟ่าจึงได้ลืมตาตื่นเพราะท้องร้องเสียงดังจนนอนไม่หลับ ตั้งใจจะลงไปหาอะไรกินข้างล่าง พอขยับตัวเท่านั้นแหละความปวดร้าวก็แล่นไปทั้งร่าง"อ๊ะ..โอ๊ย!' ทำไมปวดไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ?"มือเล็กจับลงที่สะโพก ครั้นพอเหลือบไปเห็นท่อนแขนแกร่งพาดอยู่ที่เอวก็ขมวดคิ้วแน่น สงสัยว่าภพภูมิกลับบ้านมาตอนไหนและตัวเองขึ้นมานอนบนห้องได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายจำได้ว่ากำลังดื่มกินอยู่กับลูกน้องของภพภูมิอยู่ที่หน้าหอพักนี่นา"ฉิบหายแล้ว"ฟีฟ่าทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้งและจำทุกอย่างได้ทั้งหมด ตายแน่ไอ้ฟ่าคราวนี้เอ็งไม่รอดแน่ ๆ คิดพลางยกแขนแกร่งที่ทับอยู่ออกและค่อย ๆ ย่องลงจากเตียงก่อนถูกถีบลงมา"จะไปไหน!""พี่ภูมิฟ่าขอโทษ ฟ่าไม่ได้ตั้งใจ"ฟีฟ่าทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม ก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษด้วยความสำนึกผิด เผื่อว่าโทษหนักจะเบาบางลง นิดหน่อยก็ยังดี"ลุกขึ้น ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ"มือหนาฉุดฟีฟ่าให้ยืนขึ้นและเปลี่ยนเป็นอุ้มในท่าเจ้าสาว ไม่ต่อว่าอะไรสักคำทำเอาระแวงไปหมดจู่ ๆ มาท
ตอนพิเศษ - เจย์ - ภาคินแสงสียามค่ำคืนบนถนนบันเทิงเป็นสิ่งที่คนอย่างผมโปรดปรานมากที่สุด แม้อายุจะยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ผมก็สามารถตะลอนหาความสนุกได้โดยอาศัยเส้นสายของภูวเดชเดชานอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาเหนือมนุษย์แล้วด้วยความที่เป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูลทำให้ผมเป็นที่หมายปองของนักเที่ยวราตรีอย่างล้นหลาม สเปคของผมไม่ใช่สาวสวยหรือน่ารักแต่เป็นหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งผมไม่เคยขาดแคลนเลย แต่ที่โปรดปรานที่สุดก็คือคนสวยขาที่ร้อนแรงและพร้อมจะถ่างขาให้ผมตลอดเวลา"อื้มม..อ๊าา..คุณคิน แรง ๆ กระแทกผมให้แรงกว่านี้อีก อ๊าา.."ทุกครั้งหลังดีลกันในผับเรียบร้อยแล้วผมจะพาพวกเขาไปเริงรักต่อยังโรงแรมระดับห้าดาว ผมเปิดห้องที่มีราคาแพงที่สุดให้กับพวกเขาเพราะเสียงครางด้วยความเสียวซ่านจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ผมจนกระเจิง บ่อยครั้งที่ผมขยับโยกอย่างรุนแรงพวกหนุ่มหน้าหวานถึงกับเข่าทรุดไม่เป็นท่า และทุกครั้งหลังเสร็จกิจผมจะมีค่าตอบแทนให้จำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันความยุ่งยากที่จะตามมาผมจะไม่ยุ่งกับคนเดิมซ้ำเป็นหนที่สองเว้นเสียแต่ว่าเด็ดจริง ๆ ดังนั้นจึงมีหลายคนไม่พอใจกับการถูกผมเอาและทิ้งในครั้งเดียว ฉะนั้นผมจึงค่อนข้างระวังตัวเองเป
ตอนพิเศษ - มังกร - ภีมเมื่ออายุครบสิบสองปีทายาทของภูวเดชเดชาจะต้องเลือกคนคุ้มกันขึ้นมาหนึ่งคน โดยคนผู้นี้จะอยู่ข้างกายเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิตก๊อก ๆ"เข้ามา""ขออนุญาตครับ ท่านผู้นำเชิญคุณภีมให้ไปพบที่ห้องทำงานครับ" ร่างสูงก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมผมปิดหนังสือในมือลงเมื่อคนของคุณพ่อเข้ามาภายในห้องก่อนลุกขึ้นและเดินนำเขาออกไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อไปถึงก็พบคุณพ่อ อาธีร์ นั่งอยู่บนโซฟา ภายในห้องนั้นยังมีเด็กชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมอยู่อีกหนึ่งคน"คุณพ่อต้องการพบผม มีอะไรหรือเปล่าครับ"?"นั่งก่อนสิ"ผมเข้าไปนั่งข้างคุณพ่อ มือหนาวางลงบนศีรษะอย่างอ่อนโยนก่อนหันไปเรียกเด็กชายคนนั้นเพื่อมาแนะนำให้ผมรู้จัก"นี่คือมังกร เขาจะมาเป็นผู้คุ้มกันของลูก ลูกคิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ"ผมมองสำรวจเด็กชายที่มีอายุเท่ากันตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนลุกขึ้นประจันหน้า ส่วนสูงของเขาทำให้ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมน้อยคนนักที่จะมีส่วนสูงมากกว่า ไหนจะกล้ามเนื้อที่โตเกินวัยและผิวที่คล้ำแดดนั่นอีก"ผมยังไงก็ได้ครับ" ผมตอบคุณพ่อไปมังกรไม่ใช่เด็กคนแรกที่คุณพ่อพามาให้ผมเลือก ก่อนห
ตอนพิเศษ - เรือนไม้สีขาว..พ่อยอดขวัญยอดดวงใจของพี่แก้ว พี่จะรอพ่ออยู่ ณ ที่แห่งนี้ ตลอดไป..สายลมพัดเอื่อยผ่านมาทางเรือนไม้สีขาว กระทบกระดิ่งลมเกิดเป็นเสียงกังวานฟังเพราะเสนาะหูเรือนไม้สีขาวหลังน้อยปลูกอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะแก้วเจ้าจอมที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว ด้านหลังเป็นป่าไผ่ต้นสูงท่วมหัว ถัดออกไปมีบึงน้ำขนาดใหญ่ผ่านอยู่ไหลสายหนึ่งด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงทำให้ผมต้องมาอาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพียงลำพัง อากาศที่บริสุทธิ์จะช่วยให้อาการป่วยของผมไม่หนักหนาเหมือนตอนอยู่พระนครในแต่ละวันของผมผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเงียบเหงานอกจากอ่านตำราและวาดภาพ การไปเดินเล่นริมบึงหลังป่าไผ่ยังไม่สามารถคลายความเบื่อหน่ายนี้ลงไปได้ทิวาผันผ่านล่วงเข้าสู่รัตติกาลแห่งวัน ณ ที่แห่งนี้ยังคงมีเพียงผมเช่นเดิม ผมเคยคิดอยู่บ่อยครั้งว่าจะต้องจบชีวิตอยู่ที่เรือนสีขาวแห่งนี้เพียงลำพัง แต่อย่างน้อยก่อนจะถึงวันนั้นขอให้ความอ้างว้างในใจผมได้เบาบางลงสักนิดก็ยังดีและในที่สุดคำขอก็เป็นจริง เมื่อวันหนึ่งสายลมได้พัดพาคนผู้นั้นเข้ามาในชีวิตของผม"เห็นเดินมาทางนี้นี่นา หายไปไหนแล้วล่ะ""ทางนั้
[23] คิดถึงนะ "มองอะไรอยู่ไอ้ฟ่า ไปกันได้แล้ว" เลิฟเรียกฟีฟ่าที่เอาแต่ยืนมองไปรอบกุฏิของหลวงปู่ ทั้งที่คนอื่น ๆ นั่งรออยู่ในรถกันหมดแล้ว หลังกราบลาหลวงปู่และได้รับพรมาชุดใหญ่ทุกคนจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ คิดว่าฟีฟ่าจะกระดี๊กระด๊ารีบไปให้ไว ที่ไหนได้กลับอิดออดไม่ยอมขึ้นรถสักที "จะไม่มาส่งจริง ๆ เหรอเนี่ย" ฟีฟ่าเริ่มถอดใจเมื่อไม่เห็นเงาหัวของภพภูมิโผล่ออกมาให้เห็น จนได้ยินเสียงเพื่อนเลิฟตะโกนเรียกอีกครั้งจึงรีบเดินไปขึ้นรถ เพราะหากมีครั้งที่สามจะต้องเป็นเสียงเฮียยูโรแน่ "ไอ้คนใจดำ จำไว้เลย ถ้ามาง้อทีหลังไอ้ฟ่าจะไม่ให้ยกโทษให้แน่ คอยดูสิ!!" เขาต่อว่าภพภูมิก่อนมุดตัวเข้าไปในรถและยังแช่งให้คนพี่นอนไม่หลับ ตั้งใจว่าต่อไปจะไม่เป็นหมอนข้างให้อีกแล้ว ยูโรขับรถพาทุกคนมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ตลอดทางราบรื่นไร้อุปสรรค ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านสวนบรรยากาศร่มรื่นที่มีพื้นที่เล็ก ๆ ไว้สำหรับปลูกต้นไม้ขาย ฟีฟ่าฝากให้ป๊าช่วยปลูกต้นไผ่ที่ได้รับมาไว้ที่หลังบ้าน ซึ่งจุดนั้นตรงกับระเบียงห้องของยูโรพอดี ราวกับถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แม้ไม่ชอบใจแต่ยูโรก็ไม่ได้ขัดอะไร "วันนี้ไม่ออกไปสมัครงานเหรอ
[22] ลาก่อนเรือนไม้สีขาว ภพภูมิยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของกลุ่มมือปืนที่ต่างกำลังจดจ่อวัตถุสีดำมาทางเขา มือหนากำแน่นจนสั่นด้วยความเจ็บใจที่มองไม่เห็นหนทางที่จะช่วยฟีฟ่าเพราะตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย "เจอกันชาติหน้านะครับคุณภพ ป่านนี้คุณพ่อคุณคงรอจนเมื่อยแล้ว" รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธีร์ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องกระหน่ำยิงคนตรงหน้า เมื่อตอนรถตกเหวไปพร้อมกับอดีตนายใหญ่ยังอุตส่าห์รอดชีวิตมาได้ คราวนี้ถ้าไม่ตายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว "อย่ายิงนะ..พี่ภูมิ!!" ฟีฟ่าตะโกนห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว สมุนของธีร์ลั่นไกแทบจะพร้อมกัน โดยมีเป้านิ่งคือภพภูมิ ปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยดดดดด!! เสียงปืนรัวขึ้นดังจนหูแทบดับแต่ช้ากว่ารถยนต์ติดกระจกกันกระสุนที่ขับพุ่งเข้ามาขวางด้านหน้าของภพภูมิเอาไว้ ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อหลบคมกระสุนที่ยิงเลยหลังคารถมาได้อย่างหวุดหวิด "รอพี่นานมั้ยจ๊ะที่รัก" คนในรถลดกระจกลงพลางยักคิ้วข้างหนึ่งทักทายภพภูมิ มือหนาดันแว่นตากันแดดขึ้นพลางขยิบตาให้ "เงียบปากไปเลยไอ้เท็นมะ แล้วไอ้เจย์ล่ะ!" "ไอ้เจย์ไปจัดการข้างบนแล้ว เห็นมันว่าจะไปดูหน้าเมียมันด้วย ช่วงนี้ได้ข่าวว่าติดเ
[21] คนบงการ"ผมขอเสนอให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนต่อไป"เสียงทุ้มพูดชัดเจนทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ธีร์แสดงท่าทีลำบากใจเมื่อถูกคะยั้นคะยอให้ยอมรับ ฝ่ายที่สนับสนุนธีร์ต่างแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดทางด้านฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายใหญ่ต่างหันมองกันด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเสนอชื่อธีร์ให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป แต่เสียงของผู้ที่สนับสนุนเขาก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง"ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนใหม่""ผมก็เหมือนกัน""ทุกท่านกรุณาคิดให้ดี ๆ ก่อนนะครับ ผมคิดว่าตัวผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกนะครับ" ธีร์ลุกขึ้นยืนและบอกทุกคนในห้องอย่างถ่อมตนในขณะที่หลายคนพยายามผลักดันให้เขาขึ้นรับตำแหน่งให้ได้"คุณธีร์ติดตามอดีตนายใหญ่มานาน ฝีไม้ลายมือย่อมดีกว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนเยอะ เพื่อความก้าวหน้าของพรรค ผมขอสนับสนุนคุณธีร์อีกเสียงครับ""ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่คุณธีร์ก็ไม่มีใครเหมาะสมแล้ว"ฝ่ายที่เชียร์ธีร์ต่างส่งเสียงสนับสนุนเขาเต็มที่ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมีจำนวนมากกว่าทำให้ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายใหญ่ต้องนั่งเงียบ อยากจะลุกจากเก้าอี้แต่ก็อยากรู้ข้อความ
[20] ผู้นำคนใหม่เช้าวันใหม่มาถึงนานแล้วแต่ทั้งภพภูมิและฟีฟ่าก็ยังไม่ลุกจากเตียง จนเมื่อเวลาล่วงไปใกล้เที่ยงฟีฟ่าจึงได้ลืมตาตื่นเพราะท้องร้องเสียงดังจนนอนไม่หลับ ตั้งใจจะลงไปหาอะไรกินข้างล่าง พอขยับตัวเท่านั้นแหละความปวดร้าวก็แล่นไปทั้งร่าง"อ๊ะ..โอ๊ย!' ทำไมปวดไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ?"มือเล็กจับลงที่สะโพก ครั้นพอเหลือบไปเห็นท่อนแขนแกร่งพาดอยู่ที่เอวก็ขมวดคิ้วแน่น สงสัยว่าภพภูมิกลับบ้านมาตอนไหนและตัวเองขึ้นมานอนบนห้องได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายจำได้ว่ากำลังดื่มกินอยู่กับลูกน้องของภพภูมิอยู่ที่หน้าหอพักนี่นา"ฉิบหายแล้ว"ฟีฟ่าทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้งและจำทุกอย่างได้ทั้งหมด ตายแน่ไอ้ฟ่าคราวนี้เอ็งไม่รอดแน่ ๆ คิดพลางยกแขนแกร่งที่ทับอยู่ออกและค่อย ๆ ย่องลงจากเตียงก่อนถูกถีบลงมา"จะไปไหน!""พี่ภูมิฟ่าขอโทษ ฟ่าไม่ได้ตั้งใจ"ฟีฟ่าทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม ก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษด้วยความสำนึกผิด เผื่อว่าโทษหนักจะเบาบางลง นิดหน่อยก็ยังดี"ลุกขึ้น ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ"มือหนาฉุดฟีฟ่าให้ยืนขึ้นและเปลี่ยนเป็นอุ้มในท่าเจ้าสาว ไม่ต่อว่าอะไรสักคำทำเอาระแวงไปหมดจู่ ๆ มาท
[19] แมวไม่อยู่หนู(ฟ่า)ร่าเริงผัว เอ๊ย! แมวไม่อยู่หนูฟ่าก็ร่าเริงเลยสิคะหลังรถของภพภูมิขับพ้นประตูรั้วออกไปแล้วฟีฟ่าก็ขอให้คิรินพาไปที่สระว่ายน้ำ ถึงเขาจะไม่ชอบออกกำลังกายแต่การว่ายน้ำก็เป็นกีฬาที่เขาโปรดปรานที่สุด ฟีฟ่าว่ายน้ำมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมทำให้มีกล้ามเนื้อที่สวยงาม ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นต่างตัวสูงกันหมด มีเพียงเขาที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดจุดหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น"มึงเป็นใครวะ นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ถ้าไม่อยากตายก็ออกไป!!"พอมาถึงสระว่ายน้ำชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหน้าก็เข้ามาขวางไม่ให้ฟีฟ่าเข้าไปด้านใน และยังมองด้วยสายตาน่ากลัว ดีที่คิรินตามมาถึงพอดี"คุณฟีฟ่าเป็นแขกของคุณภพ ถ้าพวกแกไม่อยากโดนทำโทษก็หลบไป!" คิรินที่แสนจะสุภาพพออยู่ต่อหน้าคนพวกนี้ก็เปลี่ยนไปราวคนละคน น้ำเสียงและบุคลิกน่ายำเกรงทำให้ใบหน้าราวนายเอกซีรีส์วายดูสมชายขึ้น"ขอโทษครับคุณคิริน ขอโทษครับคุณฟีฟ่า เชิญด้านในเลยครับ"ชายฉกรรจ์ร่างกำยำรีบก้มศีรษะขอโทษฟีฟ่า นอกจากผู้เป็นนายแล้วคนสนิทของพวกเขาก็มีฐานะที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ ภายในพรรคเช่นกันเป็นคนพิเศษนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง ฟีฟ่ายิ้มเหนือเดินนำหน้าคิรินเข้าไปด้านใ
[18] ไล่ล่ารถยนต์หรูขับอยู่ลำพังบนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาใช้เส้นทางนี้ แต่วันนี้กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลยและตลอดทางก็ไม่มีรถขับสวนมาสักคันทั้งที่เป็นขาเข้ากรุงเทพฯร่างสูงนั่งอยู่เบาะด้านหลัง ใบหน้าเรียบเฉยแม้ในใจจะขุ่นเคืองเพราะถูกยกเลิกนัดกะทันหัน เล่นมาบอกเอาตอนใกล้ถึงที่หมายแล้วนี่นะ ไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคงได้มีเรื่องกันไปแล้วขณะพยายามสงบใจดวงตาคู่คมได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เขาใช้ถนนเส้นนี้ในเวลากลางคืนอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เงียบและวังเวงเท่านี้มาก่อน"มีอะไรเหรอมังกร?"เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นคนสนิทที่รับหน้าที่ขับรถสอดส่ายสายตาไปมารอบตัวอยู่หลายครั้ง สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดกว่าปกติ เหงื่อแตกเต็มใบหน้าทั้งที่แอร์ภายในรถเย็นเยียบ"ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลก ๆ ยังไงคุณภีมระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะครับ"มังกรบอกกับผู้เป็นนายและใช้ความเร็วลดลงเพราะไฟส่องทางที่สว่างมาตลอดจู่ ๆ ได้ดับลงทีละดวงจนในที่สุดรอบตัวของทั้งสองก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงจากไฟหน้ารถที่สาดไปด้านหน้าเท่า