[13]
หญิงสาวที่มาใส่บาตรในตอนเช้ามืด "พี่จะหลบทำไม เอาของพี่มาให้ฟ่าดูเดี๋ยวนี้นะ" "บอกว่าอย่าเข้ามาไง!" ยิ่งไล่ฟีฟ่าก็ยิ่งแกล้งเข้าหา เขาต้องดูให้ได้ว่าภพภูมิก็แข็งตอนเช้าเหมือนกัน ฟีฟ่ามัวแต่ได้ใจคิดว่าเอาคืนคนพี่ได้สำเร็จ ที่ไหนได้รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับกดลงกับเตียงแล้ว "พะ..พี่จะทำอะไรน่ะ แหม..จริงจังไปได้ ฟ่าแค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง" ฟีฟ่าทำใจดีสู้เสือและพยายามดันตัวเองออกจากสองแขนที่กักขังตนไว้ แต่ดูท่าคงจะสู้แรงคนตัวใหญ่ไม่ไหว "อยากดูของฉันนักไม่ใช่เหรอ เอาสิ ฉันจะให้นายดูจนพอใจเลย!" "มะ..ไม่เอา ฟ่าไม่ดูแล้ว" ภพภูมิไม่ได้แค่ให้ดูเต็มตา มือหนาได้ดึงกางเกงนอนลงไปไว้ใต้ก้นและงัดเอาเจ้าโลกออกมาสาวชักสองสามทีเพื่อให้ตื่นตัวเต็มที่ก่อนจะดึงมือของฟีฟ่ามาสัมผัสความแข็งแกร่งของมัน "เป็นไง แข็งพอที่ยัดใส่ก้นนายได้หรือยัง!" "พี่ภูมิ..ฟ่าขอโทษ.." ฟีฟ่าหน้าแดงแปร๊ด แม้จะเคยเสียตัวให้กับภพภูมิแต่เรื่องก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วเขายังจำความใหญ่โตของภพภูมิได้เป็นอย่างดี มาสำนึกเอาตอนนี้ก็สายเสียแล้ว ฟีฟ่าหลับตาปี๋ นอกจากความร้อนที่ฝ่ามือแล้วก็รู้สึกถึงความนุ่มอุ่นที่ริมฝีปากจึงลืมตาขึ้นมองก็เห็นปากหยักทาบอยู่บนนั้น ทั้งสองประสานสายตากันอยู่ครู่หนึ่งก่อนฟีฟ่าจะหลับตาลงอีกครั้ง "อืมม..พี่ภูมิ.." ฟีฟ่าครางชื่อภพภูมิเสียงหวานในขณะที่ยังกอบกุมลำเอ็นขนาดเขื่องที่ขยายขึ้นจนมือเล็กกุมไม่มิดเอาไว้ สัมผัสได้แม้กระทั่งจังหวะการเต้นของเส้นเลือดที่พาดผ่านยิ่งทำให้ใบหน้าหวานเห่อร้อนกว่าเก่า ซ้ำทั้งร่างขาวเนียนยังถูกภพภูมิทั้งจูบทั้งลูบคลำทำเอาฟีฟ่าแทบละลายคาอกแกร่ง "พะ..พี่..อืมม.." "ตอนจูบอย่าพูดมากสิ" ร่างเล็กท่อนล่างเปลือยเปล่าเพราะเสื้อยืดตัวใหญ่หล่นไปกองอยู่บนหน้าอก ฟีฟ่าบิดเร้าไปตามแรงอารมณ์ หลายครั้งที่ลืมตาขึ้นมองคนข้างบนทำเอาเขินจนเก็บอาการไม่อยู่ เพราะใบหน้าตอนมีอารมณ์ของภพภูมิช่างมีเสน่ห์เสียเหลือเกิน มองทีไรทำเอาเสียววูบที่ท้องน้อยและยังเผลอขมิบช่องทางด้านหลังโดยไม่รู้ตัว "ยะ..อย่าจับสิ.." มือหนากอบกุมแกนกายของฟีฟ่าเอาไว้ได้มิดทำเอาเจ้าตัวอายจนต้องเบือนหน้าหนี ความมั่นใจที่เคยมีแทบหดหายเมื่ออยู่ในอ้อมกอดที่แข็งแรงกว่า "ขนาดของฟ่าน่ะปกติ ของพี่นั่นแหละที่ใหญ่เกินไป" "ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่" ภพภูมิว่าพลางรูดรั้งแกนกายในมือช้า ๆ สร้างความเสียวซ่านให้กับฟีฟ่าไม่น้อย หลังจากมีอะไรกันครั้งนั้นก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วที่ฟีฟ่าไม่ได้ช่วยตัวเอง พอโดนเล้าโลมนิดหน่อยก็แตกออกมาซะแล้ว "เสร็จเร็วชะมัด" ภพภูมิกระตุกยิ้มมุมปากพลางมองของเหลวเข้มข้นในฝ่ามือและใช้สิ่งนั้นชโลมลงรอบรอยจีบ ไม่นาน..ภายในห้องที่ก็เหลือเพียงเสียงลมหายใจที่ดังประสานกันกับร่างเปลือยของสองคนที่บดเบียดกันอยู่บนเตียงนุ่ม กิจกรรมยามเช้าดำเนินไปอย่างไม่เร่งรีบ หลังเสร็จกิจทั้งคู่ได้แช่ร่างอยู่ในอ่างอาบน้ำใบเดียวกัน "ทำไมพี่ต้องมาอาบน้ำพร้อมฟ่าด้วยล่ะ" "ก็นายอาบน้ำนาน ฉันขี้เกียจรอ" ฟีฟ่านั่งอยู่กลางหว่างขายาวโดยมีร่างสูงซ้อนอยู่ด้านหลัง ดวงตากลมเหลือบมองหน้าอกที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้ออยู่หลายครั้ง มันหนั่นแน่นจนอยากขยำขยี้ สุดท้ายก็หักห้ามใจไม่ไหวทิ้งตัวพิงลงไปเพื่อสัมผัส "จะทำอะไรน่ะ!!" "จ๊าก!!" มือหนาจับหัวของฟีฟ่ากดลงในอ่างทำเอาคนตัวเล็กสำลักน้ำไปหลายอึก ถ้าอีกฝ่ายไม่ปล่อยมือเสียก่อนป่านนี้เขาคงจมน้ำตายไปแล้ว "แค่ก! แค่ก! ฟ่าต่างหากที่ต้องถาม โดนตัวนิดโดนตัวหน่อยจะเป็นไรไป เมื่อกี้พี่ยังเสียบฟ่าอยู่เลยนะ!" "นั่นเพราะนายตะครุบฉันก่อนต่างหาก คนอย่างฉันไม่ได้อยากแตะต้องตัวนายนักหรอก แค่คิดก็ขนลุกแล้ว" ภพภูมิว่าพลางใช้นิ้วดีดหน้าผากฟีฟ่าไปทีหนึ่ง คนน้องก็งอนจะลุกหนีจึงถูกดึงล้มลงในอ่างจนน้ำกระจาย ใบหน้าหวานแนบลงกับหน้าอกหนาที่คิดจะลวนลามอีกครั้ง "แช่ต่ออีกหน่อย จะได้สบายตัว" ให้จับแต่แรกก็สิ้นเรื่อง ฟีฟ่าคิดในใจและทำตัวว่าง่ายแช่น้ำต่อ หลังขึ้นจากน้ำ กางเกงในที่ตากไว้เมื่อคืนก็แห้งพอดี เดินไปหยิบก็พบกว่ามีอีกตัวตากอยู่ข้างกัน "หยิบออกมาให้ฉันด้วย" เสียงทุ้มออกคำสั่งก่อนเดินออกจากห้องน้ำไปก่อน หลังแต่งตัวเรียบร้อยทั้งคู่จึงพากันลงมาข้างล่าง แม้จะเป็นช่วงเช้าแต่บรรยากาศภายในร้านกลับน่ากลัวไม่ต่างจากบ้านผีสิง ฟีฟ่าเดินตามภพภูมิไปทางหลังร้าน พอเปิดประตูออกไปราวกับหลุดออกไปอีกโลกหนึ่ง แสงแดดตอนสิบโมงเช้าสว่างจ้าจนฟีฟ่าแสบตา ภพภูมิขี่รถพาฟี่ฟ่าซ้อนท้ายเพื่อกลับวัดโดยไร้เงาของคนที่สะกดรอยตามเมื่อคืน แต่ไม่พ้นดวงตาแดงก่ำของคนที่มองผ่านขันน้ำมนต์จากอีกที่หนึ่ง พวกเขาเห็นรถบิ๊กไบค์เลี้ยวเข้าไปในวัดแห่งหนึ่ง จากนั้นภาพก็เริ่มเลือนรางและหายไปในที่สุด "ทำไมมองไม่เห็นแล้วล่ะครับอาจารย์" "ที่นั่นมีคนมีวิชาอยู่ ดูท่ามันจะร่ายมนตร์บังตาไว้ พวกมึงถึงมองไม่เห็น" เสียงแหบเพราะสูบบุหรี่จัดพูดขึ้น ชายร่างใหญ่ผิวดำแดงละสายตาจากขันน้ำมนต์ ลายสักและอักขระบนร่างกายกำยำทำให้ใบหน้าที่ปกคลุมด้วยหนวดเคราดูน่าหวาดกลัว เบื้องหน้าเป็นชายที่ดูภูมิฐานและมีลูกน้องติดตามมาจำนวนหนึ่ง "แต่พวกมึงไม่ต้องห่วง ถึงมันจะพรางตาคนทั่วไปได้แต่กับทาสรับใช้ของกูไม่มีทางหลบพ้นหรอก ฮึ!" เจ้าของอวิชชาพูดด้วยความมั่นใจ พลางมองผีตายโหงทาสรับใช้ที่วนเวียนอยู่ในตำหนัก สักพักมันก็หายวับไปเหมือนรู้หน้าที่ ชายแต่งตัวภูมิฐานหันไปสบตากับผู้ติดตาม อีกฝ่ายพยักหน้ารับทราบคำสั่งพร้อมยกกระเป๋าเจมส์บอนด์ออกมาวางต่อหน้าและเปิดออก เงินสดจำนวนไม่น้อยทำเอาหมอผีหน้าตากักขฬะตาวาว มือหยาบรีบดึงมาเก็บไว้ข้างกายทันที "ถ้าอาจารย์จัดการกับมันได้เมื่อไหร่ รับรองอาจารย์จะได้มากกว่านี้อีกเท่าตัว" "มึงไม่ต้องห่วง อีกไม่นานกูจะเอาวิญญาณมันมาให้มึงแน่ ๆ" "ฮึ!" ผู้ว่าจ้างยิ้มด้วยความพอใจก่อนลงจากตำหนัก สู้กับคนมีวิชาก็ต้องใช้คนประเภทเดียวกันถึงจะเหมาะ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่วางใจ นอกจากใช้ของต่ำแล้ว ปืนยังเป็นทางเลือกหนึ่งที่เชื่อใจได้มากที่สุด ทางด้านฟีฟ่าเริ่มชินกับการใช้ชีวิตอยู่ที่เรือนไม้สีขาวแล้ว อาหารการกินก็ไม่ลำบากเพราะภพภูมิสรรหาแต่ของที่เขาชอบมาให้ทุกวันและไม่บังคับให้เขาเข้าไปในป่าช้าเพื่อแผ่ส่วนบุญให้ผีไร้ญาติอีก แต่หน้าที่ที่ต้องทำและขาดไม่ได้นั่นก็คือเป็นหมอนข้างให้กับภพภูมิ วันไหนถ้าเผลอไปล่วงเกินท่านเข้าก็จะถูกเหวี่ยงกระแทกพื้นทุกครั้ง กว่าจะครบสองเดือนไอ้ฟ่าคงต้องพิการก่อนแน่ ๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกวันหรอกนะ อย่างวันนี้ฟีฟ่าถูกปลุกขึ้นมาตั้งแต่ตีสี่เพราะนอนละเมอไปจับบ้องข้าวหลามของอีกฝ่ายเข้าและเผลอปลุกมันให้ตื่นอย่างไม่ตั้งใจจึงถูกบ้องข้าวหลามกระแทกเข้าออกจนน้ำแตก "อ๊าา..พี่ภูมิ ฟ่าเสียว ช้าลงหน่อยสิ อ๊า..อ๊า.." "ร้องเสียงดังแบบนี้ไม่กลัวผีสางนางไม้ได้ยินเหรอ" ฟีฟ่ารีบใช้มืออุดปากไว้กลัวเสียงจะเล็ดลอดออกไปและกลัวสิ่งที่อยู่รอบเรือนไม้สีขาวจะได้ยินและมาแอบดู จนทั้งคู่เสร็จสมไปพร้อมกันจึงคลายมือออกและรีบหายใจโกยเอาอากาศเข้าปอด "นอนต่อสักหน่อยแล้วค่อยตื่นไปช่วยหลวงปู่บิณฑบาตนะ" ภพภูมิบอกกับฟีฟ่าที่นอนหมดแรงอยู่บนฟูก ส่วนตัวเขาเองลงไปล้างหน้าล้างตาข้างล่าง เปิดประตูห้องออกมาก็พบนางตะเคียนกำลังคุยกับนางไม้อยู่ตรงเสาตกน้ำมัน ...ทำกันตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นแบบนี้ ผีที่ไหนจะหลับลงล่ะ... ...ทำไงได้ ก็เด็กมันน่ารัก ฉันเองยังอยากได้มาอยู่ด้วยกันเลย... "แฮ่ม!!" ...ว๊าย!!... เสียงกระแอมดังขึ้น ทำผีสาวสะดุ้งเมื่อมีคนได้ยินสิ่งที่ตนกำลังนินทา ทั้งสองหันมายิ้มแห้งให้ภพภูมิก่อนสลายร่างหายวับไปต่อหน้าชายหนุ่ม "ดูท่าคงไม่อยากไปผุดไปเกิดกันสินะ" เสียงทุ้มพูดลอย ๆ ขึ้นก่อนลงจากเรือนไป ฟีฟ่าตื่นขึ้นอีกครั้งในตอนตีห้าและให้ภพภูมิเดินไปส่งที่หลังวัดเพื่อติดตามไปช่วยหลวงปู่ถือของ ร่างเล็กสะพายย่ามใบเก่งเดิมตามชายผ้าเหลืองไปบนถนนของหมู่บ้าน พอถึงบ้านหลังที่เตรียมของไว้ใส่บาตรก็หยุดยืนรอจนทุกคนถวายของเสร็จ จากนั้นจึงเก็บใส่ถุง ส่วนซองปัจจัยก็ใส่ย่ามไว้ รอจนหลวงปู่ให้พรจบจึงเดินไปหลังถัดไป "ตาหนูมาเอาขนมนี่ไปกินสิ ย่าทำเองเลยนะ" "ขอบคุณครับคุณย่า" ฟีฟ่ายกมือไหว้และรับขนมมาถือไว้ ภาพฟีฟ่าติดตามหลวงปู่มาบิณฑบาตเป็นที่ชินตาของชาวบ้านละแวกนั้นไปเสียแล้ว วันไหนไม่เห็นหน้าก็จะถามถึง เขาเป็นที่เอ็นดูของคนที่มาใส่บาตรเพราะนอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังพูดจาเอาใจเก่ง บางครั้งพวกเขาก็จะมีขนมมาฝาก ซึ่งหลวงปู่ก็อนุญาตให้ฟีฟ่ารับไว้ได้ "ถ้าย่ามีหลานสาว คงยกให้หนูฟ่าแล้ว" ถึงจะไม่มีหลานสาวแต่หลานชายของคุณย่าจ้องฟีฟ่าตาเป็นมันเชียว จนหลวงปู่ต้องกระแอมเสียงดังเพื่อเรียกสติ ฟีฟ่าเดินตามหลังหลวงปู่มาถึงบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งโต๊ะเตรียมอาหารคาวหวานไว้สำหรับใส่บาตร ปกติบ้านหลังนี้ไม่เคยมาใส่บาตรในตอนเช้า คิดว่าคงจะเป็นวันสำคัญอย่างวันเกิดคนในบ้านจึงอยากทำบุญละมั้ง ฟีฟ่ายืนก้มหน้าอยู่ข้างหลวงปู่แต่สายตาคอยมองมือที่กำลังหยิบของใส่บาตร กระทั่งไปสะดุดเข้ากับมือคู่สวยที่กำลังหยิบดอกไม้วางลงบนฝาบาตรจึงเงยหน้าขึ้นมอง ขุ่นพระ!! นี่มันนางฟ้าหรือไงนะ ไม่ว่าจะมองตรงไหนก็สเปคของไอ้ฟ่าทุกตรงเลย ฟีฟ่ายืนเหม่อจ้องสาวสวยตรงหน้าตาไม่กะพริบ ราวตกอยู่ในภวังค์ และดูเหมือนหญิงสาวจะรู้ตัว เธอหันมายิ้มตอบให้กับฟีฟ่า จนเมื่อหลวงปู่ให้พรจบและออกเดินต่อ ฟีฟ่าก็ยังไม่เดินตามทำให้ท่านต้องหันกลับมาเรียกอีกครั้ง "โยมฟ่า ไปกันได้แล้ว" "ครับ" ฟีฟ่าขานรับและรีบเดินตามหลวงปู่แต่ยังเหลียวหลังกลับไปมองหญิงสาวจนอีกฝ่ายถือของกลับเข้าไปในบ้าน ครั้นพอถึงเวลากลับต้องวัดหลวงปู่ได้เส้นทางคนละเส้นกับตอนขามาเพราะใช้เวลาสั้นกว่า ท่านเดินนำหน้าโดยมีฟีฟ่าเดินตามหลังเหมือนเคย และข้าวของส่วนใหญ่ก็จะเป็นหลวงปู่ถือเองเสียมากกว่าเพราะฟีฟ่ามีแรงไม่พอ ตกลงนี่มาทำบุญหรือมาเป็นภาระพระกันแน่นะ "โยมฟ่ามาเดินข้างอาตมาสิ" เดินไปได้ระยะหนึ่งหลวงปู่ได้หันกลับมาเรียกฟีฟ่าให้มาเดินใกล้ ๆ ชายผ้าเหลือง ดวงตาที่นิ่งเฉยมองไปยังป่าข้างทางก่อนเดินต่อด้วยกิริยาที่สำรวมต่างกับคนที่อยู่ข้าง ๆ สิ่งที่ตาเนื้อของมนุษย์มองไม่เห็นต่างพยายามพุ่งเข้าทำร้ายผู้ทรงศีลแต่ถูกเกราะแก้วกระแทกออกไป ไม่ว่าจะทำอย่างไรพวกมันไม่สามารถเข้าใกล้ชายผ้าเหลืองได้เลย จนเมื่อเข้าสู่เขตวัดสิ่งเหล่านั้นจึงได้สลายไป ภพภูมิมารอรับฟีฟ่ากลับเรือนยังจุดเดิม วันนี้ไอ้ตัวแสบดูร่าเริงจนผิดปกติ หลังทานข้าวเช้าก็ไปนั่งเล่นบนแคร่ใต้ต้นลีลาวดีและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว หรือจะเป็นอย่างที่ซินแสว่า ถ้าพ้นเบญจเพสไปแล้วเขาจะได้เจอกับเนื้อคู่ คงไม่พ้นหญิงสาวที่เขาได้เจอเมื่อตอนตามหลวงปู่ไปบิณฑบาตแน่ ๆ "สงสัยอยู่ที่นี่นานจนเป็นบ้าไปแล้วล่ะมั้ง" ร่างสูงยืนมองจากบนเรือนส่ายศีรษะเบา ๆ เมื่อเห็นอาการของฟีฟ่า สงสัยคงต้องให้ฝึกสมาธิมากกว่านี้แล้วสิ ขณะกำลังจะกลับเข้าไปด้านในเสียงมือถือได้ดังขึ้นครั้งหนึ่ง มือหนาหยิบขึ้นมาดูก่อนลงจากเรือนและเดินหายเข้าไปในป่าไผ่ตรงไปยังจุดนัดพบ ซึ่งลูกน้องคนสนิทได้มายืนรออยู่แล้ว "มีเรื่องด่วนอะไรเหรอ?" เสียงทุ้มถามขึ้น ชายหนุ่มคนสนิทหันกลับมาทำความเคารพก่อนรายงานเรื่องสำคัญให้ฟัง "กลางเดือนนี้ที่พรรคจะจัดประชุมใหญ่ มีข่าวหลุดมาว่าถ้าคุณภพไม่เข้าร่วมพวกเขาจะเลือกหัวหน้าใหม่กันเองครับ" การประชุมถูกเลื่อนขึ้นมาโดยเหล่าผู้อาวุโสในพรรคทั้งที่ในพินัยกรรมฉบับแรกได้ระบุเอาไว้ว่าให้ภพภูมิเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำคนต่อไป ส่วนพินัยกรรมฉบับที่สองจะสามารถเปิดได้หลังมีการประชุมใหญ่เท่านั้น ขาดผู้นำมาแค่ครึ่งปีพวกนั้นก็เริ่มทนไม่ไหวกันแล้ว ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อบีบให้ภพภูมิปรากฏตัว หากภพภูมิไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมและรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการได้ ผู้อาวุโสพวกนั้นจะสามารถเปิดพินัยกรรมฉบับที่สองได้ทันที "จริงสิ..ตอนฟีฟ่าตามหลวงปู่ไปบิณฑบาตเป็นยังไงบ้าง" นอกเหนือจากตามสืบข่าวในพรรคแล้ว ลูกน้องคนสนิทของภพภูมิยังต้องคอยตามคุ้มครองฟีฟ่า เพราะหลังเกิดเหตุลอบยิงที่ร้านอาหารเขาเกรงว่าฟีฟ่าจะตกเป็นเป้าหมายของผู้ไม่หวังดีไปอีกคน "เอ่อ..คือ.." ลูกน้องคนสนิทมีท่าทีลำบากในที่จะพูด และปกติภพภูมิก็ไม่เคยถามถึงด้วย วันนี้เกิดอะไรขึ้นนะ "พูดมา!" "คะ..ครับ.." ชายหนุ่มเล่าให้ฟังว่าฟีฟ่าเป็นขวัญใจของชาวบ้านที่มารอใส่บาตร โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่ลงทุนตื่นแต่เข้าเพื่อมารอเจอเขา แต่วันนี้ได้มีหญิงสาวหน้าตาน่ารักมาใส่บาตรและดูเหมือนฟีฟ่าจะถูกใจเธออย่างมาก "ปกติก็มีผู้หญิงมารอใส่บาตรกันเยอะ แต่คุณฟีฟ่าก็ไม่ค่อยสนใจ มีแต่คนนี้ล่ะครับ" ได้ยินแบบนี้แล้วมือหนาก็กำแน่น หน็อย..ให้ไปช่วยหลวงปู่ถือของกลับไปเที่ยวหว่านเสน่ห์ซะได้ คอยดูนะ..คืนนี้พ่อจะให้นอนข้างเสาตกน้ำมันซะให้เข็ด[14] ลูกน้องคนสนิทฟีฟ่าที่ปกติจะตื่นนอนเองไม่ได้วันนี้กลับลืมตาตั้งแต่ยังไม่ตีห้า ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดขาวและเตรียมย่ามเอาไว้ จากนั้นจึงได้ชวนภพภูมิลงไปล้างหน้าแปรงฟันด้วยกันเพราะข้างนอกฟ้ายังมืดอยู่เขากลัวโดนผีหลอก หลังเสร็จกิจวัตรก็พากันไปรอหลวงปู่ที่หลังวัด พอหลวงปู่มาถึงจึงติดตามออกไปบิณฑบาตฟีฟ่าเดินตามหลังหลวงปู่อย่างเคย วันนี้ดูเขาอารมณ์ดีต่างจากทุกครั้งจนเมื่อหันมาเห็นร่างสูงเดินอยู่ข้างหลัง ใบหน้าหวานก็บึ้งตึงขึ้นทันที"พี่จะไปไหนน่ะ วันนี้ไม่กลับไปรอที่เรือนเหรอ?""วันนี้ฉันจะไปกับหลวงปู่ด้วย""ว่าไงน่ะ?!!"ฟีฟ่าถามขึ้นด้วยความตกใจ ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะออกจากเรือนไปไหนนอกจากหลวงปู่สั่ง แต่ละวันไปไกลสุดก็แค่หลังป่าไผ่กับกุฏิของหลวงปู่เท่านั้น วันนี้ไม่รู้ไปโดนตัวไหนมาถึงได้ตามออกมาบิณฑบาตด้วย"นายจะตกใจทำไม ก่อนนายมาอยู่ที่นี่ฉันก็ช่วยหลวงปู่ถือของอยู่บ่อย ๆ"ภพภูมิว่าพลางขยับขึ้นมาเดินข้างกัน แต่คิดเหรอว่าคนอย่างฟีฟ่าจะกลัว ผัวก็ไม่ใช่? กระทั่งมาถึงบ้านหลังแรกก็พบหญิงสาววัยกลางคนกับลูกชายวัยมหาลัยสองคนมายืนรอใส่บาตร"นิมนต์เจ้าค่ะหลวงปู่"หญิงสาววัยกลางคนพนมมือเพื
[15] ฟีฟ่าถูกลักพาตัว เพิ่งผ่านเหตุการณ์เกือบถูกลักพาตัวมาหมาด ๆ ทำให้ฟีฟ่าไม่กล้าติดตามหลวงปู่ออกไปบิณฑบาตอีก ภพภูมิเองก็ไม่ได้บังคับเพราะหลวงปู่ยังมีลูกศิษย์อีกหลายคน ส่วนตัวเขาช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้อยู่กับเรือนและออกไปข้างนอกบ่อยกว่าปกติ พอฟีฟ่าถามว่าไปไหนก็ไม่ยอมบอก "วันนี้ก็ไปอีกแล้วเหรอ?" ฟีฟ่าถามขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงนั่งสวมถุงเท้าอยู่บนเก้าอี้ไม้สักทองตัวประจำ "อืม..ฉันจะกลับมาก่อนค่ำ นายอย่าออกไปไหนคนเดียวล่ะ" "รู้แล้วน่า อ้อ..เย็นนี้ฟ่าอยากกินพิซซ่ากับไก่ทอด พี่ซื้อมาฝากฟ่าด้วยนะ" ตอนนี้แค่ให้ลงจากเรือนฟีฟ่ายังไม่กล้าเลย ไปไกลสุดก็แค่ห้องน้ำและใต้ต้นลีลาวดีเท่านั้น "ได้สิ" หลังรับปากฟีฟ่าภพภูมิก็ลงจากเรือนไป ขณะเดินผ่านแคร่ใต้ต้นลีลาวดีก็ได้หันไปเห็นหญิงสาวในชุดสไบสองตนนั่งอยู่บนนั้นจึงเข้าไปหาพร้อมกำชับให้ดูแลฟีฟ่าให้ดีอย่าทำให้ตกใจกลัว และห้ามไม่ให้ใครเข้ามาในบริเวณเรือนไม้สีขาวแห่งนี้เด็ดขาด ...ไม่ต้องห่วง เราจะช่วยดูแลแฟนเจ้าให้เอง...นางตะเคียนพูดเสียงหวานพร้อมส่งสายตาให้ชายหนุ่ม ...นอกจากพวกเราสองตนแล้ว ยังมีท่านเทวดาสุดหล่อในป่าไผ่อีก ไม่ว่าผีหรือคนก็ไม่มีทางแตะต้อง
[16] ภีม และ ภาคินเวลาล่วงไปหลังตีสามภพภูมิก็ยังข่มตาไม่ลงแต่ก็พยายามจะนอนให้หลับสุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จจึงนอนลืมตาอยู่ในความมืดไปทั้งอย่างนั้น มือหนาวางลงข้างกายที่ว่างเปล่าอดที่จะคิดถึงหมอนข้างที่กอดนอนทุกคืนและเผลอเหวี่ยงเข้ามุมในตอนเช้าเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะลักหลับไม่ได้..พี่ภูมิ ช่วยฟ่าด้วย ฟ่าเข้าบ้านไม่ได้.."ฟีฟ่า!!?"ภพภูมิดีดตัวขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงเรียกของฟีฟ่าดังแว่วเข้ามา ตั้งใจฟังอีกครั้งให้แน่ใจก่อนลุกออกไปนอกห้องอย่างรีบเร่ง เปิดประตูออกไปก็พบคิรินกำลังยืนมองลงไปด้านล่างเพื่อหาที่มาของเสียงนั้น"นั่นเสียงของฟีฟ่า""คุณภพก็ได้ยินหรือครับ"..พี่ภูมิ พี่คิริน มารับฟ่าที ตรงนี้มันมืด ฟ่ากลัว..คิรินได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองจึงชะเง้อมองลงไปหาต้นเสียง เห็นเป็นเงาคนเดินไปมาอยู่นอกลาน ที่ไม่ลงไปดูเพราะภพภูมิสั่งไว้ว่าถ้าได้ยินเสียงแปลก ๆ ห้ามขานรับและถ้ายังไม่ถึงเวลาเช้าห้ามลงจากเรือนเด็ดขาด"ผมจะลงไปดูนะครับ""ไม่ต้อง"ภพภูมิห้ามคิรินเอาไว้และยืนมองฟีฟ่าตะโกนเรียกให้ช่วยอย่างน่าสงสาร ฟีฟ่าส่งเสียงเรียกอยู่พักใหญ่ พอเห็นว่าไม่มีใครลงจากเรือนก็ตวาดลั่นและด่าทอภพภูมิด้วยความไม
[17] คนที่ถูกจับตามองภพภูมิพาฟีฟ่าขึ้นมาบนห้องส่วนตัว ไม่ได้กลับมาหลายเดือนภายในห้องยังคงสะอาดและเป็นระเบียบเพราะคิรินคอยมาทำความสะอาดให้อยู่เรื่อย ๆฟีฟ่าเดินตามหลังเข้ามา ลอบสำรวจภายในห้องที่แทบไม่มีการตกแต่งอะไร เห็นใช้ชีวิตที่เรือนไม้แล้วคิดว่าอีกฝ่ายจะติดหรูมากกว่านี้เสียอีก"นายไปอยู่กับพี่ภีมได้ยังไง" ภพภูมิถามขึ้นเมื่ออยู่ลำพังภายในห้อง พลางมองเด็กแสบที่กำลังจับโน่นเล่นนี้ด้วยความอยากรู้โดยไม่ว่าอะไร"คะ..คือว่าฟ่า.."ฟีฟ่าอึกอักพร้อมวางภาพถ่ายสามพี่น้องที่อยู่ในมือลงที่เดิมก่อนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ภพภูมิฟังด้วยท่าทีสำนึกผิด เป็นเพราะเขาแอบหนีออกมาจากเรือนไม้สีขาวและโบกรถที่ผ่านมาด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชาวบ้านแถวนั้นเพื่อขอให้พาไปส่งยังท่ารถ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกที่ตั้งใจมาลักพาตัวเขา"ตอนที่ถูกจับขึ้นรถกระบะฟ่าคิดว่าจะไม่รอดแล้ว" ฟีฟ่าเล่าต่อขณะที่รถกระบะกำลังวิ่งไปตามถนน จู่ ๆ ได้มีรถยนต์หรูคันหนึ่งขับปาดเข้ามาจอดขวางด้านหน้าไว้ ตอนนั้นฟีฟ่าคิดว่ามีกลุ่มที่สามมาชิงตัวและคราวนี้คงได้ตายจริง ๆ แน่กระทั่งมีชายหนุ่มหน่วยก้านดีก้าวลงมาจากรถและเข้าเผชิญหน้ากับชายฉกรรจ์กล
[18] ไล่ล่ารถยนต์หรูขับอยู่ลำพังบนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาใช้เส้นทางนี้ แต่วันนี้กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลยและตลอดทางก็ไม่มีรถขับสวนมาสักคันทั้งที่เป็นขาเข้ากรุงเทพฯร่างสูงนั่งอยู่เบาะด้านหลัง ใบหน้าเรียบเฉยแม้ในใจจะขุ่นเคืองเพราะถูกยกเลิกนัดกะทันหัน เล่นมาบอกเอาตอนใกล้ถึงที่หมายแล้วนี่นะ ไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคงได้มีเรื่องกันไปแล้วขณะพยายามสงบใจดวงตาคู่คมได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เขาใช้ถนนเส้นนี้ในเวลากลางคืนอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เงียบและวังเวงเท่านี้มาก่อน"มีอะไรเหรอมังกร?"เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นคนสนิทที่รับหน้าที่ขับรถสอดส่ายสายตาไปมารอบตัวอยู่หลายครั้ง สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดกว่าปกติ เหงื่อแตกเต็มใบหน้าทั้งที่แอร์ภายในรถเย็นเยียบ"ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลก ๆ ยังไงคุณภีมระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะครับ"มังกรบอกกับผู้เป็นนายและใช้ความเร็วลดลงเพราะไฟส่องทางที่สว่างมาตลอดจู่ ๆ ได้ดับลงทีละดวงจนในที่สุดรอบตัวของทั้งสองก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงจากไฟหน้ารถที่สาดไปด้านหน้าเท่า
[19] แมวไม่อยู่หนู(ฟ่า)ร่าเริงผัว เอ๊ย! แมวไม่อยู่หนูฟ่าก็ร่าเริงเลยสิคะหลังรถของภพภูมิขับพ้นประตูรั้วออกไปแล้วฟีฟ่าก็ขอให้คิรินพาไปที่สระว่ายน้ำ ถึงเขาจะไม่ชอบออกกำลังกายแต่การว่ายน้ำก็เป็นกีฬาที่เขาโปรดปรานที่สุด ฟีฟ่าว่ายน้ำมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมทำให้มีกล้ามเนื้อที่สวยงาม ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นต่างตัวสูงกันหมด มีเพียงเขาที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดจุดหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น"มึงเป็นใครวะ นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ถ้าไม่อยากตายก็ออกไป!!"พอมาถึงสระว่ายน้ำชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหน้าก็เข้ามาขวางไม่ให้ฟีฟ่าเข้าไปด้านใน และยังมองด้วยสายตาน่ากลัว ดีที่คิรินตามมาถึงพอดี"คุณฟีฟ่าเป็นแขกของคุณภพ ถ้าพวกแกไม่อยากโดนทำโทษก็หลบไป!" คิรินที่แสนจะสุภาพพออยู่ต่อหน้าคนพวกนี้ก็เปลี่ยนไปราวคนละคน น้ำเสียงและบุคลิกน่ายำเกรงทำให้ใบหน้าราวนายเอกซีรีส์วายดูสมชายขึ้น"ขอโทษครับคุณคิริน ขอโทษครับคุณฟีฟ่า เชิญด้านในเลยครับ"ชายฉกรรจ์ร่างกำยำรีบก้มศีรษะขอโทษฟีฟ่า นอกจากผู้เป็นนายแล้วคนสนิทของพวกเขาก็มีฐานะที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ ภายในพรรคเช่นกันเป็นคนพิเศษนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง ฟีฟ่ายิ้มเหนือเดินนำหน้าคิรินเข้าไปด้านใ
[20] ผู้นำคนใหม่เช้าวันใหม่มาถึงนานแล้วแต่ทั้งภพภูมิและฟีฟ่าก็ยังไม่ลุกจากเตียง จนเมื่อเวลาล่วงไปใกล้เที่ยงฟีฟ่าจึงได้ลืมตาตื่นเพราะท้องร้องเสียงดังจนนอนไม่หลับ ตั้งใจจะลงไปหาอะไรกินข้างล่าง พอขยับตัวเท่านั้นแหละความปวดร้าวก็แล่นไปทั้งร่าง"อ๊ะ..โอ๊ย!' ทำไมปวดไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ?"มือเล็กจับลงที่สะโพก ครั้นพอเหลือบไปเห็นท่อนแขนแกร่งพาดอยู่ที่เอวก็ขมวดคิ้วแน่น สงสัยว่าภพภูมิกลับบ้านมาตอนไหนและตัวเองขึ้นมานอนบนห้องได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายจำได้ว่ากำลังดื่มกินอยู่กับลูกน้องของภพภูมิอยู่ที่หน้าหอพักนี่นา"ฉิบหายแล้ว"ฟีฟ่าทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้งและจำทุกอย่างได้ทั้งหมด ตายแน่ไอ้ฟ่าคราวนี้เอ็งไม่รอดแน่ ๆ คิดพลางยกแขนแกร่งที่ทับอยู่ออกและค่อย ๆ ย่องลงจากเตียงก่อนถูกถีบลงมา"จะไปไหน!""พี่ภูมิฟ่าขอโทษ ฟ่าไม่ได้ตั้งใจ"ฟีฟ่าทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม ก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษด้วยความสำนึกผิด เผื่อว่าโทษหนักจะเบาบางลง นิดหน่อยก็ยังดี"ลุกขึ้น ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ"มือหนาฉุดฟีฟ่าให้ยืนขึ้นและเปลี่ยนเป็นอุ้มในท่าเจ้าสาว ไม่ต่อว่าอะไรสักคำทำเอาระแวงไปหมดจู่ ๆ มาท
[21] คนบงการ"ผมขอเสนอให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนต่อไป"เสียงทุ้มพูดชัดเจนทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ธีร์แสดงท่าทีลำบากใจเมื่อถูกคะยั้นคะยอให้ยอมรับ ฝ่ายที่สนับสนุนธีร์ต่างแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดทางด้านฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายใหญ่ต่างหันมองกันด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเสนอชื่อธีร์ให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป แต่เสียงของผู้ที่สนับสนุนเขาก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง"ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนใหม่""ผมก็เหมือนกัน""ทุกท่านกรุณาคิดให้ดี ๆ ก่อนนะครับ ผมคิดว่าตัวผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกนะครับ" ธีร์ลุกขึ้นยืนและบอกทุกคนในห้องอย่างถ่อมตนในขณะที่หลายคนพยายามผลักดันให้เขาขึ้นรับตำแหน่งให้ได้"คุณธีร์ติดตามอดีตนายใหญ่มานาน ฝีไม้ลายมือย่อมดีกว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนเยอะ เพื่อความก้าวหน้าของพรรค ผมขอสนับสนุนคุณธีร์อีกเสียงครับ""ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่คุณธีร์ก็ไม่มีใครเหมาะสมแล้ว"ฝ่ายที่เชียร์ธีร์ต่างส่งเสียงสนับสนุนเขาเต็มที่ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมีจำนวนมากกว่าทำให้ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายใหญ่ต้องนั่งเงียบ อยากจะลุกจากเก้าอี้แต่ก็อยากรู้ข้อความ
ตอนพิเศษ - เจย์ - ภาคินแสงสียามค่ำคืนบนถนนบันเทิงเป็นสิ่งที่คนอย่างผมโปรดปรานมากที่สุด แม้อายุจะยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ผมก็สามารถตะลอนหาความสนุกได้โดยอาศัยเส้นสายของภูวเดชเดชานอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาเหนือมนุษย์แล้วด้วยความที่เป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูลทำให้ผมเป็นที่หมายปองของนักเที่ยวราตรีอย่างล้นหลาม สเปคของผมไม่ใช่สาวสวยหรือน่ารักแต่เป็นหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งผมไม่เคยขาดแคลนเลย แต่ที่โปรดปรานที่สุดก็คือคนสวยขาที่ร้อนแรงและพร้อมจะถ่างขาให้ผมตลอดเวลา"อื้มม..อ๊าา..คุณคิน แรง ๆ กระแทกผมให้แรงกว่านี้อีก อ๊าา.."ทุกครั้งหลังดีลกันในผับเรียบร้อยแล้วผมจะพาพวกเขาไปเริงรักต่อยังโรงแรมระดับห้าดาว ผมเปิดห้องที่มีราคาแพงที่สุดให้กับพวกเขาเพราะเสียงครางด้วยความเสียวซ่านจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ผมจนกระเจิง บ่อยครั้งที่ผมขยับโยกอย่างรุนแรงพวกหนุ่มหน้าหวานถึงกับเข่าทรุดไม่เป็นท่า และทุกครั้งหลังเสร็จกิจผมจะมีค่าตอบแทนให้จำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันความยุ่งยากที่จะตามมาผมจะไม่ยุ่งกับคนเดิมซ้ำเป็นหนที่สองเว้นเสียแต่ว่าเด็ดจริง ๆ ดังนั้นจึงมีหลายคนไม่พอใจกับการถูกผมเอาและทิ้งในครั้งเดียว ฉะนั้นผมจึงค่อนข้างระวังตัวเองเป
ตอนพิเศษ - มังกร - ภีมเมื่ออายุครบสิบสองปีทายาทของภูวเดชเดชาจะต้องเลือกคนคุ้มกันขึ้นมาหนึ่งคน โดยคนผู้นี้จะอยู่ข้างกายเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิตก๊อก ๆ"เข้ามา""ขออนุญาตครับ ท่านผู้นำเชิญคุณภีมให้ไปพบที่ห้องทำงานครับ" ร่างสูงก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมผมปิดหนังสือในมือลงเมื่อคนของคุณพ่อเข้ามาภายในห้องก่อนลุกขึ้นและเดินนำเขาออกไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อไปถึงก็พบคุณพ่อ อาธีร์ นั่งอยู่บนโซฟา ภายในห้องนั้นยังมีเด็กชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมอยู่อีกหนึ่งคน"คุณพ่อต้องการพบผม มีอะไรหรือเปล่าครับ"?"นั่งก่อนสิ"ผมเข้าไปนั่งข้างคุณพ่อ มือหนาวางลงบนศีรษะอย่างอ่อนโยนก่อนหันไปเรียกเด็กชายคนนั้นเพื่อมาแนะนำให้ผมรู้จัก"นี่คือมังกร เขาจะมาเป็นผู้คุ้มกันของลูก ลูกคิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ"ผมมองสำรวจเด็กชายที่มีอายุเท่ากันตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนลุกขึ้นประจันหน้า ส่วนสูงของเขาทำให้ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมน้อยคนนักที่จะมีส่วนสูงมากกว่า ไหนจะกล้ามเนื้อที่โตเกินวัยและผิวที่คล้ำแดดนั่นอีก"ผมยังไงก็ได้ครับ" ผมตอบคุณพ่อไปมังกรไม่ใช่เด็กคนแรกที่คุณพ่อพามาให้ผมเลือก ก่อนห
ตอนพิเศษ - เรือนไม้สีขาว..พ่อยอดขวัญยอดดวงใจของพี่แก้ว พี่จะรอพ่ออยู่ ณ ที่แห่งนี้ ตลอดไป..สายลมพัดเอื่อยผ่านมาทางเรือนไม้สีขาว กระทบกระดิ่งลมเกิดเป็นเสียงกังวานฟังเพราะเสนาะหูเรือนไม้สีขาวหลังน้อยปลูกอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะแก้วเจ้าจอมที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว ด้านหลังเป็นป่าไผ่ต้นสูงท่วมหัว ถัดออกไปมีบึงน้ำขนาดใหญ่ผ่านอยู่ไหลสายหนึ่งด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงทำให้ผมต้องมาอาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพียงลำพัง อากาศที่บริสุทธิ์จะช่วยให้อาการป่วยของผมไม่หนักหนาเหมือนตอนอยู่พระนครในแต่ละวันของผมผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเงียบเหงานอกจากอ่านตำราและวาดภาพ การไปเดินเล่นริมบึงหลังป่าไผ่ยังไม่สามารถคลายความเบื่อหน่ายนี้ลงไปได้ทิวาผันผ่านล่วงเข้าสู่รัตติกาลแห่งวัน ณ ที่แห่งนี้ยังคงมีเพียงผมเช่นเดิม ผมเคยคิดอยู่บ่อยครั้งว่าจะต้องจบชีวิตอยู่ที่เรือนสีขาวแห่งนี้เพียงลำพัง แต่อย่างน้อยก่อนจะถึงวันนั้นขอให้ความอ้างว้างในใจผมได้เบาบางลงสักนิดก็ยังดีและในที่สุดคำขอก็เป็นจริง เมื่อวันหนึ่งสายลมได้พัดพาคนผู้นั้นเข้ามาในชีวิตของผม"เห็นเดินมาทางนี้นี่นา หายไปไหนแล้วล่ะ""ทางนั้
[23] คิดถึงนะ "มองอะไรอยู่ไอ้ฟ่า ไปกันได้แล้ว" เลิฟเรียกฟีฟ่าที่เอาแต่ยืนมองไปรอบกุฏิของหลวงปู่ ทั้งที่คนอื่น ๆ นั่งรออยู่ในรถกันหมดแล้ว หลังกราบลาหลวงปู่และได้รับพรมาชุดใหญ่ทุกคนจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ คิดว่าฟีฟ่าจะกระดี๊กระด๊ารีบไปให้ไว ที่ไหนได้กลับอิดออดไม่ยอมขึ้นรถสักที "จะไม่มาส่งจริง ๆ เหรอเนี่ย" ฟีฟ่าเริ่มถอดใจเมื่อไม่เห็นเงาหัวของภพภูมิโผล่ออกมาให้เห็น จนได้ยินเสียงเพื่อนเลิฟตะโกนเรียกอีกครั้งจึงรีบเดินไปขึ้นรถ เพราะหากมีครั้งที่สามจะต้องเป็นเสียงเฮียยูโรแน่ "ไอ้คนใจดำ จำไว้เลย ถ้ามาง้อทีหลังไอ้ฟ่าจะไม่ให้ยกโทษให้แน่ คอยดูสิ!!" เขาต่อว่าภพภูมิก่อนมุดตัวเข้าไปในรถและยังแช่งให้คนพี่นอนไม่หลับ ตั้งใจว่าต่อไปจะไม่เป็นหมอนข้างให้อีกแล้ว ยูโรขับรถพาทุกคนมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ตลอดทางราบรื่นไร้อุปสรรค ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านสวนบรรยากาศร่มรื่นที่มีพื้นที่เล็ก ๆ ไว้สำหรับปลูกต้นไม้ขาย ฟีฟ่าฝากให้ป๊าช่วยปลูกต้นไผ่ที่ได้รับมาไว้ที่หลังบ้าน ซึ่งจุดนั้นตรงกับระเบียงห้องของยูโรพอดี ราวกับถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แม้ไม่ชอบใจแต่ยูโรก็ไม่ได้ขัดอะไร "วันนี้ไม่ออกไปสมัครงานเหรอ
[22] ลาก่อนเรือนไม้สีขาว ภพภูมิยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของกลุ่มมือปืนที่ต่างกำลังจดจ่อวัตถุสีดำมาทางเขา มือหนากำแน่นจนสั่นด้วยความเจ็บใจที่มองไม่เห็นหนทางที่จะช่วยฟีฟ่าเพราะตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย "เจอกันชาติหน้านะครับคุณภพ ป่านนี้คุณพ่อคุณคงรอจนเมื่อยแล้ว" รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธีร์ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องกระหน่ำยิงคนตรงหน้า เมื่อตอนรถตกเหวไปพร้อมกับอดีตนายใหญ่ยังอุตส่าห์รอดชีวิตมาได้ คราวนี้ถ้าไม่ตายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว "อย่ายิงนะ..พี่ภูมิ!!" ฟีฟ่าตะโกนห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว สมุนของธีร์ลั่นไกแทบจะพร้อมกัน โดยมีเป้านิ่งคือภพภูมิ ปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยดดดดด!! เสียงปืนรัวขึ้นดังจนหูแทบดับแต่ช้ากว่ารถยนต์ติดกระจกกันกระสุนที่ขับพุ่งเข้ามาขวางด้านหน้าของภพภูมิเอาไว้ ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อหลบคมกระสุนที่ยิงเลยหลังคารถมาได้อย่างหวุดหวิด "รอพี่นานมั้ยจ๊ะที่รัก" คนในรถลดกระจกลงพลางยักคิ้วข้างหนึ่งทักทายภพภูมิ มือหนาดันแว่นตากันแดดขึ้นพลางขยิบตาให้ "เงียบปากไปเลยไอ้เท็นมะ แล้วไอ้เจย์ล่ะ!" "ไอ้เจย์ไปจัดการข้างบนแล้ว เห็นมันว่าจะไปดูหน้าเมียมันด้วย ช่วงนี้ได้ข่าวว่าติดเ
[21] คนบงการ"ผมขอเสนอให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนต่อไป"เสียงทุ้มพูดชัดเจนทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ธีร์แสดงท่าทีลำบากใจเมื่อถูกคะยั้นคะยอให้ยอมรับ ฝ่ายที่สนับสนุนธีร์ต่างแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดทางด้านฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายใหญ่ต่างหันมองกันด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเสนอชื่อธีร์ให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป แต่เสียงของผู้ที่สนับสนุนเขาก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง"ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนใหม่""ผมก็เหมือนกัน""ทุกท่านกรุณาคิดให้ดี ๆ ก่อนนะครับ ผมคิดว่าตัวผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกนะครับ" ธีร์ลุกขึ้นยืนและบอกทุกคนในห้องอย่างถ่อมตนในขณะที่หลายคนพยายามผลักดันให้เขาขึ้นรับตำแหน่งให้ได้"คุณธีร์ติดตามอดีตนายใหญ่มานาน ฝีไม้ลายมือย่อมดีกว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนเยอะ เพื่อความก้าวหน้าของพรรค ผมขอสนับสนุนคุณธีร์อีกเสียงครับ""ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่คุณธีร์ก็ไม่มีใครเหมาะสมแล้ว"ฝ่ายที่เชียร์ธีร์ต่างส่งเสียงสนับสนุนเขาเต็มที่ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมีจำนวนมากกว่าทำให้ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายใหญ่ต้องนั่งเงียบ อยากจะลุกจากเก้าอี้แต่ก็อยากรู้ข้อความ
[20] ผู้นำคนใหม่เช้าวันใหม่มาถึงนานแล้วแต่ทั้งภพภูมิและฟีฟ่าก็ยังไม่ลุกจากเตียง จนเมื่อเวลาล่วงไปใกล้เที่ยงฟีฟ่าจึงได้ลืมตาตื่นเพราะท้องร้องเสียงดังจนนอนไม่หลับ ตั้งใจจะลงไปหาอะไรกินข้างล่าง พอขยับตัวเท่านั้นแหละความปวดร้าวก็แล่นไปทั้งร่าง"อ๊ะ..โอ๊ย!' ทำไมปวดไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ?"มือเล็กจับลงที่สะโพก ครั้นพอเหลือบไปเห็นท่อนแขนแกร่งพาดอยู่ที่เอวก็ขมวดคิ้วแน่น สงสัยว่าภพภูมิกลับบ้านมาตอนไหนและตัวเองขึ้นมานอนบนห้องได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายจำได้ว่ากำลังดื่มกินอยู่กับลูกน้องของภพภูมิอยู่ที่หน้าหอพักนี่นา"ฉิบหายแล้ว"ฟีฟ่าทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้งและจำทุกอย่างได้ทั้งหมด ตายแน่ไอ้ฟ่าคราวนี้เอ็งไม่รอดแน่ ๆ คิดพลางยกแขนแกร่งที่ทับอยู่ออกและค่อย ๆ ย่องลงจากเตียงก่อนถูกถีบลงมา"จะไปไหน!""พี่ภูมิฟ่าขอโทษ ฟ่าไม่ได้ตั้งใจ"ฟีฟ่าทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม ก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษด้วยความสำนึกผิด เผื่อว่าโทษหนักจะเบาบางลง นิดหน่อยก็ยังดี"ลุกขึ้น ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ"มือหนาฉุดฟีฟ่าให้ยืนขึ้นและเปลี่ยนเป็นอุ้มในท่าเจ้าสาว ไม่ต่อว่าอะไรสักคำทำเอาระแวงไปหมดจู่ ๆ มาท
[19] แมวไม่อยู่หนู(ฟ่า)ร่าเริงผัว เอ๊ย! แมวไม่อยู่หนูฟ่าก็ร่าเริงเลยสิคะหลังรถของภพภูมิขับพ้นประตูรั้วออกไปแล้วฟีฟ่าก็ขอให้คิรินพาไปที่สระว่ายน้ำ ถึงเขาจะไม่ชอบออกกำลังกายแต่การว่ายน้ำก็เป็นกีฬาที่เขาโปรดปรานที่สุด ฟีฟ่าว่ายน้ำมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมทำให้มีกล้ามเนื้อที่สวยงาม ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นต่างตัวสูงกันหมด มีเพียงเขาที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดจุดหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น"มึงเป็นใครวะ นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ถ้าไม่อยากตายก็ออกไป!!"พอมาถึงสระว่ายน้ำชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหน้าก็เข้ามาขวางไม่ให้ฟีฟ่าเข้าไปด้านใน และยังมองด้วยสายตาน่ากลัว ดีที่คิรินตามมาถึงพอดี"คุณฟีฟ่าเป็นแขกของคุณภพ ถ้าพวกแกไม่อยากโดนทำโทษก็หลบไป!" คิรินที่แสนจะสุภาพพออยู่ต่อหน้าคนพวกนี้ก็เปลี่ยนไปราวคนละคน น้ำเสียงและบุคลิกน่ายำเกรงทำให้ใบหน้าราวนายเอกซีรีส์วายดูสมชายขึ้น"ขอโทษครับคุณคิริน ขอโทษครับคุณฟีฟ่า เชิญด้านในเลยครับ"ชายฉกรรจ์ร่างกำยำรีบก้มศีรษะขอโทษฟีฟ่า นอกจากผู้เป็นนายแล้วคนสนิทของพวกเขาก็มีฐานะที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ ภายในพรรคเช่นกันเป็นคนพิเศษนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง ฟีฟ่ายิ้มเหนือเดินนำหน้าคิรินเข้าไปด้านใ
[18] ไล่ล่ารถยนต์หรูขับอยู่ลำพังบนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาใช้เส้นทางนี้ แต่วันนี้กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลยและตลอดทางก็ไม่มีรถขับสวนมาสักคันทั้งที่เป็นขาเข้ากรุงเทพฯร่างสูงนั่งอยู่เบาะด้านหลัง ใบหน้าเรียบเฉยแม้ในใจจะขุ่นเคืองเพราะถูกยกเลิกนัดกะทันหัน เล่นมาบอกเอาตอนใกล้ถึงที่หมายแล้วนี่นะ ไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคงได้มีเรื่องกันไปแล้วขณะพยายามสงบใจดวงตาคู่คมได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เขาใช้ถนนเส้นนี้ในเวลากลางคืนอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เงียบและวังเวงเท่านี้มาก่อน"มีอะไรเหรอมังกร?"เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นคนสนิทที่รับหน้าที่ขับรถสอดส่ายสายตาไปมารอบตัวอยู่หลายครั้ง สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดกว่าปกติ เหงื่อแตกเต็มใบหน้าทั้งที่แอร์ภายในรถเย็นเยียบ"ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลก ๆ ยังไงคุณภีมระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะครับ"มังกรบอกกับผู้เป็นนายและใช้ความเร็วลดลงเพราะไฟส่องทางที่สว่างมาตลอดจู่ ๆ ได้ดับลงทีละดวงจนในที่สุดรอบตัวของทั้งสองก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงจากไฟหน้ารถที่สาดไปด้านหน้าเท่า