[11]
พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่ ภพภูมิกลับมายังจุดนัดหมายพร้อมกับยาทาแก้ฟกช้ำ เขาบีบยาจากหลอดใส่ปลายนิ้วและป้ายลงบนแก้มแดงอย่างเบามือ "ยิ่งขี้เหร่อยู่ ระวังอย่าให้มีแผลสิ" "ฟ่าไม่ได้หาเรื่องนะ ก็ไอ้ลุงนั่นอยู่ดี ๆ ก็มาดึงแขนฟ่าไว้ เจ็บจะตาย" พอได้ยินว่าชายวัยกลางคนที่มีเรื่องกับฟีฟ่านอกจากตบหน้าแล้วยังจับแขนเอาไว้อีกก็ยิ่งโมโห อยากจะโทรหาลูกน้องคนสนิทให้ตัดมือมันทิ้งไปด้วยเลย "จะซื้ออะไรมั้ย?" "ไม่ล่ะ" ฟีฟ่าปฏิเสธเพราะราคาสินค้าของที่นี่แต่ละอย่างไอ้ฟ่าเอื้อมไม่ถึงจริง ๆ ไม่รู้ภพภูมิคิดยังไงถึงพาเขามาที่แบบนี้ "อยากได้อะไรก็ไปดู เดี๋ยวฉันซื้อให้เอง" ภพภูมิเหมือนจะรู้ความคิดของฟีฟ่า เขาจึงเสนอเป็นเจ้าภาพจ่ายเงินให้ คิดว่าเป็นค่าตอบแทนให้กับหมอนข้าง ทำเอาคนน้องตาโต คิดว่าตัวเองหูฝาดไปซะอีกจนต้องถามซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ "จริงเหรอ ได้ทุกอย่างเลยเหรอ!" "จริงสิ" ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเปย์ให้ขนาดนี้ มีเหรอที่ไอ้ฟ่าจะพลาดโอกาสทอง ที่นี่มีของที่เขาอยากได้ตั้งหลายอย่าง ตั้งใจจะถล่มให้กระเป๋าฉีกเลย "พูดเองนะ อย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน" ฟีฟ่าเดินนำหน้าเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่นโดยมีภพภูมิเดินตามไปรูดบัตรให้ จากถุงใบเดียวก็เริ่มเยอะขึ้นจนภพภูมิต้องช่วยถือ ลืมไปหรือเปล่านะว่ามารถมอเตอร์ไซค์ ของเยอะแบบนี้สงสัยต้องให้ส่งตามหลังแล้ว ช้อปปิ้งจนหนำใจฟีฟ่าจึงขอขึ้นไปเล่นเกมและร้องคาราโอเกะต่อ ภพภูมิเลือกห้องวีไอพีให้ เครื่องเสียงของที่นี่คุณภาพดีกว่าที่ฟีฟ่าเคยไปตามร้านทั่วไปซะอีก เขาทั้งร้องทั้งเต้นด้วยท่าพิลึกจนภพภูมิถึงกับต้องเบือนสายตาไปทางอื่น เพราะทนดูอีกฝ่ายส่ายสะโพกไปมาไม่ไหว หลังร้องเพลงจนเบื่อฟีฟ่าเกิดอยากขึ้นไปยังชั้นที่สูงกว่านี้แต่ภพภูมิไม่อนุญาต "เย็นมากแล้ว ไปหาอะไรกินแล้วกลับวัดเถอะ" เที่ยวเล่นจนเพลิน เวลาตอนนี้ก็ปาไปหกโมงเย็นแล้ว ภพภูมิเอาของที่ฟีฟ่าซื้อมาถือไว้บอกจะให้ขนส่งส่งตามไปให้ที่วัด แต่ที่จริงเขาได้เอาไปให้ชายหนุ่มคนหนึ่งจัดการ จากนั้นจึงได้พาฟีฟ่าซ้อนท้ายบิ๊กไบค์ไปยังร้านอาหารที่อยู่ริมแม่น้ำ แม้บริเวณโดยรอบจะเป็นท่าเรือและโกดังเก็บสินค้าแต่ไม่ได้บดบังวิวที่สวยงาม โดยเฉพาะโต๊ะที่ภพภูมิเลือกอยู่ในโซนที่ชมความงามได้มากที่สุด "นายกินไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา" ภพภูมิบอกกับฟีฟ่าหลังสั่งอาหารมาจนเต็มโต๊ะ มั่นใจว่าฟีฟ่ากินหมดแน่นอน "พี่จะไปไหน เล่นสั่งแต่ของแพงมาแบบนี้ ฟ่าไม่มีเงินจ่ายหรอกนะ" ฟีฟ่ากลัวอีกฝ่ายจะชิ่งหนีจึงพูดดักขึ้นมาก่อน ภพภูมิถอนหายใจก่อนล้วงเอาบัตรเครดิตมาวางไว้บนโต๊ะ แม้จะไม่ใช่แบล็กการ์ด แต่วงเงินพอให้ซื้อบ้านหลักสิบล้านได้เลยทีเดียว "อยากกินอะไรเพิ่มก็สั่งเอา เสร็จแล้วให้รอฉันอยู่ที่นี่ อย่าไปเพ่นพ่านที่ไหน เข้าใจมั้ย" เขาย้ำอีกครั้ง "รู้แล้วน่า พูดมากจริง ๆ และอีกอย่างฟ่าไม่ใช่หมาสักหน่อยจะได้เพ่นพ่านไปเรื่อย" ฟีฟ่าบ่นอุบพลางเอื้อมมือไปหยิบบัตรเครดิตมาใส่กระเป๋าไว้ กลัวอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจเอาคืน "ไปดีมาดีนะครับ" หลังภพภูมิไปแล้วฟีฟ่าจึงสั่งไวน์มาดื่ม เปรี้ยวปากมานานแล้วขอสักหน่อยเถอะ ยังไม่ทันเปิดขวดลูกค้าต่างทยอยพากันออกจากร้านไปทีละโต๊ะ ทีแรกก็ไม่ได้สนใจกระทั่งผู้จัดการร้านเดินมาที่โต๊ะของฟีฟ่าและบอกกับเขาว่ามีคนเหมาทั้งร้านไว้แล้วขอให้ฟีฟ่าออกไป โดยทางร้านจะไม่คิดค่าอาหารมื้อนี้ ฟีฟ่าไม่ได้สนใจเรื่องค่าอาหารเพราะภพภูมิให้บัตรเครดิตไว้แล้ว และพวกเขานัดกันไว้ที่นี่หากออกไปรอที่อื่นเดี๋ยวจะโดนโกรธเอาอีก "ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน ผมก็ลูกค้าเหมือนกันนะ" ฟีฟ่าลุกขึ้นยืนพลางต่อว่ากลับไป "ต้องขอประทานโทษคุณผู้ชายด้วยนะครับ แต่ทางร้านมีความจำเป็นต้องขอให้คุณออกไปจริง ๆ" "ถ้าเป็นคุณคนนี้อนุญาตให้อยู่ได้เป็นพิเศษครับ" เสียงทุ้มพูดขึ้นก่อนร่างสูงจะเดินยิ้มกรุ้มกริ่มมาที่โต๊ะของฟีฟ่า ด้านหลังมีชายฉกรรจ์สวมสูทผูกเนกไทเดินตามมากลุ่มหนึ่ง ฟีฟ่าจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับที่เขาเพิ่งเจอที่ตึกไนท์ไดมอนด์เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมานี้เอง "ครับ" ผู้จัดการร้านอาหารก้มศีรษะให้ร่างสูงและเดินปลีกตัวออกไป "ให้ผมดื่มเป็นเพื่อนนะครับ" มือเรียวผายออกเบื้องหน้าเพื่อเชิญให้ฟีฟ่านั่งลงตามเดิมก่อนเข้าไปนั่งตรงข้าม ชายฉกรรจ์ที่ติดตามมาแยกย้ายกันไปยืนรอบ ๆ เพื่ออารักขาชายหนุ่มโดยมีโต๊ะของฟีฟ่าเป็นศูนย์กลาง ทางด้านภพภูมิกำลังขี่รถด้วยความเร็ว เขาใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึงยังท่าเรือที่อยู่ตรงข้ามกับร้านอาหาร จากมุมนี้สามารถมองเห็นจุดที่ฟีฟ่ากำลังนั่งอยู่ทั้งยังได้ยินเสียงดนตรีบรรเลงแว่วมาแต่ไกล ร่างสูงยืนอยู่หน้าโกดังเก็บสินค้าแห่งหนึ่ง ด้านหน้ามีชายร่างกำยำเฝ้าอยู่สามคน พอเห็นภพภูมิทั้งหมดก็ทิ้งบุหรี่ในมือและออกมาต้อนรับทันทึ "ไอ้เท็นมะล่ะ?" เสียงทุ้มถามขึ้น "อยู่ข้างในครับ" ชายหนุ่มเดินไปเปิดประตูให้ หลังภพภูมิเข้าไปด้านในจึงปิดประตูตามเดิมและยืนเฝ้าด้านหน้าไว้ "ทำไมมาช้านักวะไอ้ภพ" เท็นมะเข้ามาโอบบ่าเพื่อนและพาไปยืนต่อหน้าชายฉกรรจ์ที่ถูกมัดไว้กับเสาในภาพสะบักสะบอม ไม่บอกก็รู้ว่าโดนซ้อมมาหนักแค่ไหน "เค้นพวกมันได้ความว่ายังไงบ้าง" "พวกแม่งปากหนักน่าดู ถ้าสารภาพช้ากว่านี้กูว่าจะถอดเล็บมันทีละนิ้วอยู่แล้ว" เท็นมะว่าพลางเล่าให้ฟังว่าพวกมันได้รับคำสั่งจากคนมีอำนาจในพรรคให้มาทำร้ายภพภูมิ พวกมันแค่จะขู่ไม่ได้กะให้ถึงตาย บังเอิญว่าวันนั้นเท็นมะเอารถของภพภูมิไปใช้พวกมันจึงเข้าใจผิดทำให้ทำร้ายผิดตัว ดีที่คนของเจย์เข้ามาช่วยไว้ทันและจับมาขังไว้ที่นี่เพื่อเค้นหาตัวบงการ กว่าจะยอมพูดก็โดนซ้อมจนมีสภาพอย่างที่เห็น "หน็อย.." มือหนากำแน่นจนเส้นเลือดปูด ไม่อยากเชื่อว่าสายเลือดเดียวกันจะคิดฆ่ากันเองได้ "ใจเย็นก่อนไอ้ภพ กูว่าอาจจะไม่ใช่พี่คินก็ได้นะ" ทุกคนในพรรคต่างรู้ว่าภพภูมิรอดจากอุบัติเหตุรถตกเหวแต่ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนยกเว้นเท็นมะและเจย์ เพราะหลังรักษาตัวจนอาการดีขึ้นเขาได้ออกจากบ้านโดยไม่ได้บอกใคร ภพภูมิเดินมองใบหน้าของชายฉกรรจ์ที่ถูกมัดอยู่กับเสาทีละคน คิดว่าคงเป็นพวกนักเลงปลายแถวที่เพิ่งเข้ามาทำงานในพรรคไม่นานเพราะไม่คุ้นหน้า อีกอย่างลูกน้องของภาคินก็มีไม่น้อย ไม่แปลกที่เขาจะจำไม่ได้ แต่จากพลังงานที่แผ่ออกมาจากตัวพวกมัน แม้จะเบาบางแต่ก็เป็นสีดำ "แล้วมึงจะเอายังไงกับพวกมันต่อวะ จะให้กูปล่อยไปเลยมั้ย เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์" "นั่งยางพวกมัน อย่าให้เหลือซาก" ดวงตาคู่คมฉายแววอำมหิตออกมาแวบหนึ่ง ทำเอาทุกคนที่อยู่ในโกดังเสียวสันหลังวาบ ภพภูมิจัดว่าเป็นคนที่นิ่งที่สุดในพรรคแล้ว แต่ถ้าโกรธขึ้นมาแม้แต่รุ่นอาวุโสก็ไม่เคยละเว้น "พูดอะไรของมึงวะไอ้ภพ ถ้าพวกมันตายก็เดือดร้อนกูอีก อย่าลืมสิว่าพ่อมึงต้องการทำให้พรรคขาวสะอาดนะโว้ย!" "กูรู้น่า!" สุดท้ายภพภูมิก็ให้เท็นมะใช้กฎหมายมาจัดการกับพวกมัน แต่ก่อนจะส่งตัวให้กับตำรวจ ขอเค้นข้อมูลจากพวกมันเพิ่มอีกสักหน่อยก็แล้วกัน "ว่าแต่สีหน้ามึงดีขึ้นมากเลยนะ ขอบตาก็ไม่ดำแล้ว มึงไปทำอะไรมาวะ" เท็นมะยื่นหน้าเข้าไปเพื่อเพ่งพินิจใบหน้าหล่อในระยะประชิด จึงโดนผลักศีรษะให้ออกห่าง "เรื่องของกู" ตัดกลับมาทางร้านอาหารริมแม่น้ำที่มองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากอีกฝั่ง ร่างสูงนั่งอยู่ตรงข้ามกับฟีฟ่าโดยมีคนสนิทรินไวน์ใส่แก้วให้ "ไม่ดื่มด้วยกันสักหน่อยหรือครับ" "ดื่มแอลกอฮอล์ตอนท้องว่างมันไม่ดีต่อกระเพาะ" ฟีฟ่าว่าพลางกินอาหารตรงหน้าด้วยความเสียดาย ภพภูมิอุตส่าห์สั่งแต่ของชอบของเขามาให้ตั้งเยอะ แทนที่จะโกรธอีกฝ่ายกลับยิ้มชอบใจ และดื่มไวน์ที่ฟีฟ่าสั่งมาจนหมดแก้ว "ผมชื่อภาคิน ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรหรือครับ" คุยกันมาตั้งนานยังไม่รู้จักชื่อกันเลย ชายหนุ่มจึงแนะนำตัวและถามชื่อของฟีฟ่ากลับไป "ฟีฟ่า" "ชื่อน่ารักจังเลยนะครับ" น่ารักกับผีนะสิ ชื่อของเขาออกจะแมน ฟีฟ่าเหลือกตามองบน ไม่สนใจคำชมของคนตรงหน้า พอเห็นว่าชายหนุ่มดื่มไวน์หมดแก้วแล้วก็เอ่ยปากไล่ทันที ที่ตรงนั้นเป็นของภพภูมิ ถ้าเขากลับมาเห็นว่ามีคนอื่นนั่งอยู่จะไม่พอใจ ฟีฟ่าไม่อยากมีปัญหาเพราะอีกฝ่ายยิ่งเป็นคนเรื่องมากอยู่ด้วย "ถ้าดื่มเสร็จแล้วก็ลุกไปได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจผมหรอก" ลูกน้องของภาคินได้ยินฟีฟ่าไล่เจ้านายของตนก็ไม่พอใจจึงเข้ามาต่อว่าและถูกตบจนหน้าหัน "อย่าเสียมารยาท!" ภาคินตำหนิลูกน้องเสียงเข้ม มองด้วยแววตาที่ทำให้ฟีฟ่าขนลุก สายตาแบบนี้เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ "นั่นคุณภาคินไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ" นี่มันใครอีกเนี่ย? ฟีฟ่าเหลือบมองชายวัยกลางคนที่เดินยิ้มเข้ามาทักทายภาคิน ด้านหลังก็มีชายฉกรรจ์ติดตามมาเช่นเดียวกัน ทำไมวันนี้ถึงเจอแต่คนแปลก ๆ นะ และยังเป็นคนที่เขาไม่รู้จักมาก่อนทั้งนั้น อยู่ ๆ มารวมตัวกันแบบนี้ชักรู้สึกไม่ปลอดภัยแล้วสิ ฟีฟ่าวางช้อนในมือและหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่มแก้ฝืดคอ ตั้งใจจะออกไปรอภพภูมิที่นอกร้านทั้งที่ตอนนี้ยังกินไม่อิ่ม เอาไว้ค่อยไปกินบะหมี่ถ้วยที่วัดก็ได้ "ผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถาม หัวหน้าพรรคระดับอาวุโสอย่างคุณธีร์ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ได้นะครับ" ภาคินลุกขึ้นยืนและพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่คำพูดฟังแหม่ง ๆ เหมือนกำลังประชดประชันอีกฝ่ายอยู่ "ทำไมพูดจาห่างเหินกันแบบนั้นล่ะครับ เมื่อก่อนพวกคุณสามพี่น้องยังเรียกอาว่าอาธีร์อยู่เลยนะ" ธีร์ เป็นหัวหน้าระดับอาวุโสที่เริ่มก่อตั้งพรรคร่วมมากับนายใหญ่หรือก็คือคุณพ่อของภาคิน เรียกได้ว่าเป็นมือขวาคนสนิทเลยทีเดียว ไม่ว่านายใหญ่จะทำอะไรเขามักสนับสนุนเต็มที่ ร่วมถึงการทำพรรคให้โปร่งใส ท่ามกลางเสียงคัดค้านของสมาชิกคนอื่น ๆ ธีร์ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าอยู่ข้างนายใหญ่ วันนี้เขาได้ยินมาว่าภาคินจะมาทานอาหารที่นี่จึงได้ตามมา นอกจากพูดคุยเรื่องพรรคที่กำลังขาดผู้นำแล้วก็เพื่อถามถึงที่อยู่ของภพภูมิ ภาคินกระตุกยิ้มมุมปากก่อนทิ้งตัวลงนั่งตามเดิม มองฟีฟ่าที่กำลังลุกขึ้น ฟีฟ่าได้แต่ยิ้มแหย ๆ และบอกว่าขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ที่จริงเขาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อหาทางหลบออกไปนอกร้านเท่านั้น "ผมว่าฟีฟ่าอย่าเพิ่งไปไหนดีกว่านะครับ เพราะแถวนี้ชักจะไม่ปลอดภัยแล้ว" "เอ๊ะ?" ปัง! ปัง! ปัง! พูดไม่ทันขาดคำเสียงปืนก็ดังขึ้นติดต่อกันหลายนัด ชายที่ยืนคุ้มกันภาคินต่างรีบเข้ามายืนบังเขาไว้และชักปืนออกมา ในขณะที่คนยืนปิดพื้นที่โดยรอบได้ยิงต่อสู้กับกลุ่มชายที่สวมหมวกไอ้โม่งที่กำลังบุกเข้ามา กะ..เกิดอะไรขึ้น!!? จู่ ๆ ทำไมถึงมีเสียงปืนล่ะ อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะอาถรรพ์เบญจเพส เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนในชีวิตจึงไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ร่างเล็กจึงมุดเข้าไปแอบใต้โต๊ะเพราะคิดว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว ระหว่างนั้นก็สวดมนต์ไปด้วย แต่เป็นเพราะตอนอยู่วัดไม่ตั้งใจสวดมนต์ทำให้สวดผิด ๆ ถูก ๆ "พะ..พุทโธ ธัมโม สังโฆ อะไรต่อวะ..อิติปิโส.." ..ถ้ารอดชีวิตกลับไปคราวนี้น้องฟ่าจะตั้งใจสวดมนต์นะครับหลวงปู่..ฟีฟ่าอธิษฐานในใจและสวดภาวนาให้ภพภูมิรีบมาช่วยไว ๆ "ระวังนะครับคุณคิน" ธีร์เข้ามายืนรวมกับภาคินในขณะที่ลูกน้องที่ติดตามมาได้ยิงปืนใส่ไอ้โม่งที่ลอบเข้ามาภายในร้าน เป้าหมายของมันไม่พ้นภาคินหรือธีร์หรือไม่ก็ทั้งสองคน เสียงปืนดังสนั่นทำเอาฟีฟ่าที่แอบอยู่ใต้โต๊ะสะดุ้งจนต้องใช้มือปิดหูทั้งสองข้างไว้ ด้วยความที่ร้านอาหารกับโกดังเก็บสินค้าอยู่ไม่ไกลกันทำให้เสียงปืนดังไปถึง ภพภูมิที่กำลังคุยกับเท็นมะอยู่จึงรีบวิ่งออกมาดู เท็นมะส่งกล้องส่องทางไกลเล็ก ๆ ที่เอาไว้สอดแนมให้กับภพภูมิ พอรับมาส่องไปทางร้านอาหารก็พบว่ามีการยิงกันที่นั่น "แม่งเอ๊ย!!" "เกิดอะไรขึ้นวะไอ้ภพ!" ภพภูมิส่งกล้องคืนให้เท็นมะและรีบวิ่งไปที่รถบิ๊กไบค์ ก่อนไปได้บอกกับเท็นมะให้จัดการกับไอ้คนที่จับตัวมาให้เรียบร้อย จากนั้นก็รีบบิดรถตรงไปยังร้านอาหารทันที โชคดีที่อยู่ไม่ไกลกัน ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง ร่างสูงในชุดหนังสีดำสวมหมวกกันน็อกเพื่อปิดบังใบหน้าจอดรถอยู่ด้านหน้าของร้านอาหาร ดวงตาคู่คมมองเข้าไปด้านในพลางขมวดคิ้วเพื่อใช้ความคิด บรึ้มม..บรึ้มม.. มือขาวกำคันเร่งแน่นและบิดเร่งเครื่องอยู่สองสามครั้งก่อนพุ่งตัวเข้าไปด้วยความเร็ว ดีที่ฟีฟ่าเลือกโต๊ะที่ชั้นล่างเพราะขี้เกียจเดินขึ้นบันได ทำให้ฝ่าทะลวงเข้าไปได้อย่างง่ายดาย ภพภูมิขี่รถบิ๊กไบค์ผ่าดงกระสุนเข้าไปยังจุดที่นัดกับฟีฟ่า ชนกลุ่มชายที่กำลังยิงต่อสู้กันโดยไม่สนว่าเป็นฝ่ายไหนจนแตกกระเจิง พอไปถึงกลับพบภาคินกับธีร์ยืนอยู่แต่ไม่เห็นฟีฟ่าตรงนั้น หายไปไหนนะหรือว่าจะออกไปแล้ว ดวงตาคู่คมมองไปรอบตัวและมาหยุดอยู่ที่ทั้งสองคนอีกครั้งเพราะไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่ อีกฝ่ายก็มองมาทางเขาไม่วางตาเช่นกัน "ฟีฟ่า นายอยู่หรือเปล่า!" ภพภูมิตะโกนขึ้นเสียงดัง อย่างน้อยก็ขอลองเรียกดูก่อนแล้วกัน เพื่อความชัวร์ ภพภูมิตะโกนเรียกชื่อฟีฟ่าอยู่สองสามครั้งแต่ไม่มีเสียงขานรับเพราะอีกฝ่ายปิดหูและซ่อนตัวอยู่ กำลังจะถอดใจบังเอิญว่าภพภูมิเห็นกลุ่มควันสีขาวจาง ๆ ลอยออกมาจากใต้โต๊ะ จึงบิดเร่งเครื่องเป็นจังหวะเพื่อให้ฟีฟ่าได้ยิน บรึ้มม..บรึ้มม.. เสียงเครื่องของรถบิ๊กไบค์ดังไปเข้าหูของฟีฟ่า เขาจำได้ว่าเป็นภพภูมิจึงรีบมุดออกมาจากใต้โต๊ะและตะโกนเรียกด้วยความดีใจ "พี่ภูมิ ฟ่าอยู่นี่!!"[12]บาร์ลึกลับแห่งหนึ่ง"พี่ภูมิ ฟ่าอยู่นี่!!"“อันตราย อย่าไป!!”ฟี่ฟ่ามุดออกจากใต้โต๊ะตั้งท่าจะวิ่งไปหาภพภูมิแต่ถูกภาคินคว้าข้อมือไว้เพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นมิตรหรือศัตรู จังหวะนั้นได้มีของแข็งไม่รู้ที่มาปาเข้าใส่ทำให้ต้องปล่อยมือจากฟีฟ่า ฟีฟ่าจึงฉวยโอกาสวิ่งเข้าไปหาภพภูมิทันทีร่างเล็กถูกอุ้มขึ้นนั่งคร่อมบนตัวถังรถเพราะหากให้ซ้อนท้ายกลัวจะโดนลูกหลงจากกระสุนปืนเอาได้ ฟีฟ่านั่งหมอบโดยมีภพภูมิคร่อมอยู่ด้านหลัง มือหนาบิดเร่งเครื่องและขี่รถฝ่าดงกระสุนออกไปอย่างรวดเร็วช่วงที่ภาคินกำลังให้ความสนใจกับหนุ่มนิรนามที่เข้ามาช่วยฟีฟ่า ธีร์ได้หันไปพยักหน้าให้ชายคนสนิทที่ยืนคุ้มกันอยู่ข้าง ๆ อีกฝ่ายพยักหน้ารับทราบคำสั่งและแยกตัวออกไปจากตรงนั้นทันทีรถบิ๊กไบค์คันสีดำสนิทขับขี่ด้วยความเร็วออกจากร้านอาหารริมแม่น้ำเข้าสู่ถนนสายหนึ่ง ฟีฟ่าถึงกับต้องหลับตาเพราะต้านแรงลมไม่ไหว ถ้าไม่มีภพภูมินั่งคร่อมเอาไว้ป่านนี้เขาคงปลิวลงข้างทางไปแล้วภพภูมิตั้งใจขี่รถกลับวัดแต่ดูจากเวลาแล้วคงจะไม่ทัน อีกอย่างเขารู้สึกเหมือนมีคนติดตามมาจึงเร่งความเร็วขึ้น อีกฝ่ายก็เร่งตาม เห็นท่าไม่ดีจึงเปลี่ยนเส้นทางไปยังย่านสถา
[13]หญิงสาวที่มาใส่บาตรในตอนเช้ามืด"พี่จะหลบทำไม เอาของพี่มาให้ฟ่าดูเดี๋ยวนี้นะ""บอกว่าอย่าเข้ามาไง!"ยิ่งไล่ฟีฟ่าก็ยิ่งแกล้งเข้าหา เขาต้องดูให้ได้ว่าภพภูมิก็แข็งตอนเช้าเหมือนกัน ฟีฟ่ามัวแต่ได้ใจคิดว่าเอาคืนคนพี่ได้สำเร็จ ที่ไหนได้รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับกดลงกับเตียงแล้ว"พะ..พี่จะทำอะไรน่ะ แหม..จริงจังไปได้ ฟ่าแค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง" ฟีฟ่าทำใจดีสู้เสือและพยายามดันตัวเองออกจากสองแขนที่กักขังตนไว้ แต่ดูท่าคงจะสู้แรงคนตัวใหญ่ไม่ไหว"อยากดูของฉันนักไม่ใช่เหรอ เอาสิ ฉันจะให้นายดูจนพอใจเลย!""มะ..ไม่เอา ฟ่าไม่ดูแล้ว"ภพภูมิไม่ได้แค่ให้ดูเต็มตา มือหนาได้ดึงกางเกงนอนลงไปไว้ใต้ก้นและงัดเอาเจ้าโลกออกมาสาวชักสองสามทีเพื่อให้ตื่นตัวเต็มที่ก่อนจะดึงมือของฟีฟ่ามาสัมผัสความแข็งแกร่งของมัน"เป็นไง แข็งพอที่ยัดใส่ก้นนายได้หรือยัง!""พี่ภูมิ..ฟ่าขอโทษ.."ฟีฟ่าหน้าแดงแปร๊ด แม้จะเคยเสียตัวให้กับภพภูมิแต่เรื่องก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วเขายังจำความใหญ่โตของภพภูมิได้เป็นอย่างดี มาสำนึกเอาตอนนี้ก็สายเสียแล้วฟีฟ่าหลับตาปี๋ นอกจากความร้อนที่ฝ่ามือแล้วก็รู้สึกถึงความนุ่มอุ่นที่ริมฝีปากจึงลืมตาขึ้นมองก็เห็นปากหยักทา
[14] ลูกน้องคนสนิทฟีฟ่าที่ปกติจะตื่นนอนเองไม่ได้วันนี้กลับลืมตาตั้งแต่ยังไม่ตีห้า ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดขาวและเตรียมย่ามเอาไว้ จากนั้นจึงได้ชวนภพภูมิลงไปล้างหน้าแปรงฟันด้วยกันเพราะข้างนอกฟ้ายังมืดอยู่เขากลัวโดนผีหลอก หลังเสร็จกิจวัตรก็พากันไปรอหลวงปู่ที่หลังวัด พอหลวงปู่มาถึงจึงติดตามออกไปบิณฑบาตฟีฟ่าเดินตามหลังหลวงปู่อย่างเคย วันนี้ดูเขาอารมณ์ดีต่างจากทุกครั้งจนเมื่อหันมาเห็นร่างสูงเดินอยู่ข้างหลัง ใบหน้าหวานก็บึ้งตึงขึ้นทันที"พี่จะไปไหนน่ะ วันนี้ไม่กลับไปรอที่เรือนเหรอ?""วันนี้ฉันจะไปกับหลวงปู่ด้วย""ว่าไงน่ะ?!!"ฟีฟ่าถามขึ้นด้วยความตกใจ ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะออกจากเรือนไปไหนนอกจากหลวงปู่สั่ง แต่ละวันไปไกลสุดก็แค่หลังป่าไผ่กับกุฏิของหลวงปู่เท่านั้น วันนี้ไม่รู้ไปโดนตัวไหนมาถึงได้ตามออกมาบิณฑบาตด้วย"นายจะตกใจทำไม ก่อนนายมาอยู่ที่นี่ฉันก็ช่วยหลวงปู่ถือของอยู่บ่อย ๆ"ภพภูมิว่าพลางขยับขึ้นมาเดินข้างกัน แต่คิดเหรอว่าคนอย่างฟีฟ่าจะกลัว ผัวก็ไม่ใช่? กระทั่งมาถึงบ้านหลังแรกก็พบหญิงสาววัยกลางคนกับลูกชายวัยมหาลัยสองคนมายืนรอใส่บาตร"นิมนต์เจ้าค่ะหลวงปู่"หญิงสาววัยกลางคนพนมมือเพื
[15] ฟีฟ่าถูกลักพาตัว เพิ่งผ่านเหตุการณ์เกือบถูกลักพาตัวมาหมาด ๆ ทำให้ฟีฟ่าไม่กล้าติดตามหลวงปู่ออกไปบิณฑบาตอีก ภพภูมิเองก็ไม่ได้บังคับเพราะหลวงปู่ยังมีลูกศิษย์อีกหลายคน ส่วนตัวเขาช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้อยู่กับเรือนและออกไปข้างนอกบ่อยกว่าปกติ พอฟีฟ่าถามว่าไปไหนก็ไม่ยอมบอก "วันนี้ก็ไปอีกแล้วเหรอ?" ฟีฟ่าถามขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงนั่งสวมถุงเท้าอยู่บนเก้าอี้ไม้สักทองตัวประจำ "อืม..ฉันจะกลับมาก่อนค่ำ นายอย่าออกไปไหนคนเดียวล่ะ" "รู้แล้วน่า อ้อ..เย็นนี้ฟ่าอยากกินพิซซ่ากับไก่ทอด พี่ซื้อมาฝากฟ่าด้วยนะ" ตอนนี้แค่ให้ลงจากเรือนฟีฟ่ายังไม่กล้าเลย ไปไกลสุดก็แค่ห้องน้ำและใต้ต้นลีลาวดีเท่านั้น "ได้สิ" หลังรับปากฟีฟ่าภพภูมิก็ลงจากเรือนไป ขณะเดินผ่านแคร่ใต้ต้นลีลาวดีก็ได้หันไปเห็นหญิงสาวในชุดสไบสองตนนั่งอยู่บนนั้นจึงเข้าไปหาพร้อมกำชับให้ดูแลฟีฟ่าให้ดีอย่าทำให้ตกใจกลัว และห้ามไม่ให้ใครเข้ามาในบริเวณเรือนไม้สีขาวแห่งนี้เด็ดขาด ...ไม่ต้องห่วง เราจะช่วยดูแลแฟนเจ้าให้เอง...นางตะเคียนพูดเสียงหวานพร้อมส่งสายตาให้ชายหนุ่ม ...นอกจากพวกเราสองตนแล้ว ยังมีท่านเทวดาสุดหล่อในป่าไผ่อีก ไม่ว่าผีหรือคนก็ไม่มีทางแตะต้อง
[16] ภีม และ ภาคินเวลาล่วงไปหลังตีสามภพภูมิก็ยังข่มตาไม่ลงแต่ก็พยายามจะนอนให้หลับสุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จจึงนอนลืมตาอยู่ในความมืดไปทั้งอย่างนั้น มือหนาวางลงข้างกายที่ว่างเปล่าอดที่จะคิดถึงหมอนข้างที่กอดนอนทุกคืนและเผลอเหวี่ยงเข้ามุมในตอนเช้าเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะลักหลับไม่ได้..พี่ภูมิ ช่วยฟ่าด้วย ฟ่าเข้าบ้านไม่ได้.."ฟีฟ่า!!?"ภพภูมิดีดตัวขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงเรียกของฟีฟ่าดังแว่วเข้ามา ตั้งใจฟังอีกครั้งให้แน่ใจก่อนลุกออกไปนอกห้องอย่างรีบเร่ง เปิดประตูออกไปก็พบคิรินกำลังยืนมองลงไปด้านล่างเพื่อหาที่มาของเสียงนั้น"นั่นเสียงของฟีฟ่า""คุณภพก็ได้ยินหรือครับ"..พี่ภูมิ พี่คิริน มารับฟ่าที ตรงนี้มันมืด ฟ่ากลัว..คิรินได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองจึงชะเง้อมองลงไปหาต้นเสียง เห็นเป็นเงาคนเดินไปมาอยู่นอกลาน ที่ไม่ลงไปดูเพราะภพภูมิสั่งไว้ว่าถ้าได้ยินเสียงแปลก ๆ ห้ามขานรับและถ้ายังไม่ถึงเวลาเช้าห้ามลงจากเรือนเด็ดขาด"ผมจะลงไปดูนะครับ""ไม่ต้อง"ภพภูมิห้ามคิรินเอาไว้และยืนมองฟีฟ่าตะโกนเรียกให้ช่วยอย่างน่าสงสาร ฟีฟ่าส่งเสียงเรียกอยู่พักใหญ่ พอเห็นว่าไม่มีใครลงจากเรือนก็ตวาดลั่นและด่าทอภพภูมิด้วยความไม
[17] คนที่ถูกจับตามองภพภูมิพาฟีฟ่าขึ้นมาบนห้องส่วนตัว ไม่ได้กลับมาหลายเดือนภายในห้องยังคงสะอาดและเป็นระเบียบเพราะคิรินคอยมาทำความสะอาดให้อยู่เรื่อย ๆฟีฟ่าเดินตามหลังเข้ามา ลอบสำรวจภายในห้องที่แทบไม่มีการตกแต่งอะไร เห็นใช้ชีวิตที่เรือนไม้แล้วคิดว่าอีกฝ่ายจะติดหรูมากกว่านี้เสียอีก"นายไปอยู่กับพี่ภีมได้ยังไง" ภพภูมิถามขึ้นเมื่ออยู่ลำพังภายในห้อง พลางมองเด็กแสบที่กำลังจับโน่นเล่นนี้ด้วยความอยากรู้โดยไม่ว่าอะไร"คะ..คือว่าฟ่า.."ฟีฟ่าอึกอักพร้อมวางภาพถ่ายสามพี่น้องที่อยู่ในมือลงที่เดิมก่อนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ภพภูมิฟังด้วยท่าทีสำนึกผิด เป็นเพราะเขาแอบหนีออกมาจากเรือนไม้สีขาวและโบกรถที่ผ่านมาด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชาวบ้านแถวนั้นเพื่อขอให้พาไปส่งยังท่ารถ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกที่ตั้งใจมาลักพาตัวเขา"ตอนที่ถูกจับขึ้นรถกระบะฟ่าคิดว่าจะไม่รอดแล้ว" ฟีฟ่าเล่าต่อขณะที่รถกระบะกำลังวิ่งไปตามถนน จู่ ๆ ได้มีรถยนต์หรูคันหนึ่งขับปาดเข้ามาจอดขวางด้านหน้าไว้ ตอนนั้นฟีฟ่าคิดว่ามีกลุ่มที่สามมาชิงตัวและคราวนี้คงได้ตายจริง ๆ แน่กระทั่งมีชายหนุ่มหน่วยก้านดีก้าวลงมาจากรถและเข้าเผชิญหน้ากับชายฉกรรจ์กล
[18] ไล่ล่ารถยนต์หรูขับอยู่ลำพังบนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาใช้เส้นทางนี้ แต่วันนี้กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลยและตลอดทางก็ไม่มีรถขับสวนมาสักคันทั้งที่เป็นขาเข้ากรุงเทพฯร่างสูงนั่งอยู่เบาะด้านหลัง ใบหน้าเรียบเฉยแม้ในใจจะขุ่นเคืองเพราะถูกยกเลิกนัดกะทันหัน เล่นมาบอกเอาตอนใกล้ถึงที่หมายแล้วนี่นะ ไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคงได้มีเรื่องกันไปแล้วขณะพยายามสงบใจดวงตาคู่คมได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เขาใช้ถนนเส้นนี้ในเวลากลางคืนอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เงียบและวังเวงเท่านี้มาก่อน"มีอะไรเหรอมังกร?"เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นคนสนิทที่รับหน้าที่ขับรถสอดส่ายสายตาไปมารอบตัวอยู่หลายครั้ง สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดกว่าปกติ เหงื่อแตกเต็มใบหน้าทั้งที่แอร์ภายในรถเย็นเยียบ"ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลก ๆ ยังไงคุณภีมระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะครับ"มังกรบอกกับผู้เป็นนายและใช้ความเร็วลดลงเพราะไฟส่องทางที่สว่างมาตลอดจู่ ๆ ได้ดับลงทีละดวงจนในที่สุดรอบตัวของทั้งสองก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงจากไฟหน้ารถที่สาดไปด้านหน้าเท่า
[19] แมวไม่อยู่หนู(ฟ่า)ร่าเริงผัว เอ๊ย! แมวไม่อยู่หนูฟ่าก็ร่าเริงเลยสิคะหลังรถของภพภูมิขับพ้นประตูรั้วออกไปแล้วฟีฟ่าก็ขอให้คิรินพาไปที่สระว่ายน้ำ ถึงเขาจะไม่ชอบออกกำลังกายแต่การว่ายน้ำก็เป็นกีฬาที่เขาโปรดปรานที่สุด ฟีฟ่าว่ายน้ำมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมทำให้มีกล้ามเนื้อที่สวยงาม ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นต่างตัวสูงกันหมด มีเพียงเขาที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดจุดหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น"มึงเป็นใครวะ นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ถ้าไม่อยากตายก็ออกไป!!"พอมาถึงสระว่ายน้ำชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหน้าก็เข้ามาขวางไม่ให้ฟีฟ่าเข้าไปด้านใน และยังมองด้วยสายตาน่ากลัว ดีที่คิรินตามมาถึงพอดี"คุณฟีฟ่าเป็นแขกของคุณภพ ถ้าพวกแกไม่อยากโดนทำโทษก็หลบไป!" คิรินที่แสนจะสุภาพพออยู่ต่อหน้าคนพวกนี้ก็เปลี่ยนไปราวคนละคน น้ำเสียงและบุคลิกน่ายำเกรงทำให้ใบหน้าราวนายเอกซีรีส์วายดูสมชายขึ้น"ขอโทษครับคุณคิริน ขอโทษครับคุณฟีฟ่า เชิญด้านในเลยครับ"ชายฉกรรจ์ร่างกำยำรีบก้มศีรษะขอโทษฟีฟ่า นอกจากผู้เป็นนายแล้วคนสนิทของพวกเขาก็มีฐานะที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ ภายในพรรคเช่นกันเป็นคนพิเศษนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง ฟีฟ่ายิ้มเหนือเดินนำหน้าคิรินเข้าไปด้านใ
ตอนพิเศษ - เจย์ - ภาคินแสงสียามค่ำคืนบนถนนบันเทิงเป็นสิ่งที่คนอย่างผมโปรดปรานมากที่สุด แม้อายุจะยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ผมก็สามารถตะลอนหาความสนุกได้โดยอาศัยเส้นสายของภูวเดชเดชานอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาเหนือมนุษย์แล้วด้วยความที่เป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูลทำให้ผมเป็นที่หมายปองของนักเที่ยวราตรีอย่างล้นหลาม สเปคของผมไม่ใช่สาวสวยหรือน่ารักแต่เป็นหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งผมไม่เคยขาดแคลนเลย แต่ที่โปรดปรานที่สุดก็คือคนสวยขาที่ร้อนแรงและพร้อมจะถ่างขาให้ผมตลอดเวลา"อื้มม..อ๊าา..คุณคิน แรง ๆ กระแทกผมให้แรงกว่านี้อีก อ๊าา.."ทุกครั้งหลังดีลกันในผับเรียบร้อยแล้วผมจะพาพวกเขาไปเริงรักต่อยังโรงแรมระดับห้าดาว ผมเปิดห้องที่มีราคาแพงที่สุดให้กับพวกเขาเพราะเสียงครางด้วยความเสียวซ่านจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ผมจนกระเจิง บ่อยครั้งที่ผมขยับโยกอย่างรุนแรงพวกหนุ่มหน้าหวานถึงกับเข่าทรุดไม่เป็นท่า และทุกครั้งหลังเสร็จกิจผมจะมีค่าตอบแทนให้จำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันความยุ่งยากที่จะตามมาผมจะไม่ยุ่งกับคนเดิมซ้ำเป็นหนที่สองเว้นเสียแต่ว่าเด็ดจริง ๆ ดังนั้นจึงมีหลายคนไม่พอใจกับการถูกผมเอาและทิ้งในครั้งเดียว ฉะนั้นผมจึงค่อนข้างระวังตัวเองเป
ตอนพิเศษ - มังกร - ภีมเมื่ออายุครบสิบสองปีทายาทของภูวเดชเดชาจะต้องเลือกคนคุ้มกันขึ้นมาหนึ่งคน โดยคนผู้นี้จะอยู่ข้างกายเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิตก๊อก ๆ"เข้ามา""ขออนุญาตครับ ท่านผู้นำเชิญคุณภีมให้ไปพบที่ห้องทำงานครับ" ร่างสูงก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมผมปิดหนังสือในมือลงเมื่อคนของคุณพ่อเข้ามาภายในห้องก่อนลุกขึ้นและเดินนำเขาออกไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อไปถึงก็พบคุณพ่อ อาธีร์ นั่งอยู่บนโซฟา ภายในห้องนั้นยังมีเด็กชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมอยู่อีกหนึ่งคน"คุณพ่อต้องการพบผม มีอะไรหรือเปล่าครับ"?"นั่งก่อนสิ"ผมเข้าไปนั่งข้างคุณพ่อ มือหนาวางลงบนศีรษะอย่างอ่อนโยนก่อนหันไปเรียกเด็กชายคนนั้นเพื่อมาแนะนำให้ผมรู้จัก"นี่คือมังกร เขาจะมาเป็นผู้คุ้มกันของลูก ลูกคิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ"ผมมองสำรวจเด็กชายที่มีอายุเท่ากันตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนลุกขึ้นประจันหน้า ส่วนสูงของเขาทำให้ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมน้อยคนนักที่จะมีส่วนสูงมากกว่า ไหนจะกล้ามเนื้อที่โตเกินวัยและผิวที่คล้ำแดดนั่นอีก"ผมยังไงก็ได้ครับ" ผมตอบคุณพ่อไปมังกรไม่ใช่เด็กคนแรกที่คุณพ่อพามาให้ผมเลือก ก่อนห
ตอนพิเศษ - เรือนไม้สีขาว..พ่อยอดขวัญยอดดวงใจของพี่แก้ว พี่จะรอพ่ออยู่ ณ ที่แห่งนี้ ตลอดไป..สายลมพัดเอื่อยผ่านมาทางเรือนไม้สีขาว กระทบกระดิ่งลมเกิดเป็นเสียงกังวานฟังเพราะเสนาะหูเรือนไม้สีขาวหลังน้อยปลูกอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะแก้วเจ้าจอมที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว ด้านหลังเป็นป่าไผ่ต้นสูงท่วมหัว ถัดออกไปมีบึงน้ำขนาดใหญ่ผ่านอยู่ไหลสายหนึ่งด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงทำให้ผมต้องมาอาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพียงลำพัง อากาศที่บริสุทธิ์จะช่วยให้อาการป่วยของผมไม่หนักหนาเหมือนตอนอยู่พระนครในแต่ละวันของผมผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเงียบเหงานอกจากอ่านตำราและวาดภาพ การไปเดินเล่นริมบึงหลังป่าไผ่ยังไม่สามารถคลายความเบื่อหน่ายนี้ลงไปได้ทิวาผันผ่านล่วงเข้าสู่รัตติกาลแห่งวัน ณ ที่แห่งนี้ยังคงมีเพียงผมเช่นเดิม ผมเคยคิดอยู่บ่อยครั้งว่าจะต้องจบชีวิตอยู่ที่เรือนสีขาวแห่งนี้เพียงลำพัง แต่อย่างน้อยก่อนจะถึงวันนั้นขอให้ความอ้างว้างในใจผมได้เบาบางลงสักนิดก็ยังดีและในที่สุดคำขอก็เป็นจริง เมื่อวันหนึ่งสายลมได้พัดพาคนผู้นั้นเข้ามาในชีวิตของผม"เห็นเดินมาทางนี้นี่นา หายไปไหนแล้วล่ะ""ทางนั้
[23] คิดถึงนะ "มองอะไรอยู่ไอ้ฟ่า ไปกันได้แล้ว" เลิฟเรียกฟีฟ่าที่เอาแต่ยืนมองไปรอบกุฏิของหลวงปู่ ทั้งที่คนอื่น ๆ นั่งรออยู่ในรถกันหมดแล้ว หลังกราบลาหลวงปู่และได้รับพรมาชุดใหญ่ทุกคนจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ คิดว่าฟีฟ่าจะกระดี๊กระด๊ารีบไปให้ไว ที่ไหนได้กลับอิดออดไม่ยอมขึ้นรถสักที "จะไม่มาส่งจริง ๆ เหรอเนี่ย" ฟีฟ่าเริ่มถอดใจเมื่อไม่เห็นเงาหัวของภพภูมิโผล่ออกมาให้เห็น จนได้ยินเสียงเพื่อนเลิฟตะโกนเรียกอีกครั้งจึงรีบเดินไปขึ้นรถ เพราะหากมีครั้งที่สามจะต้องเป็นเสียงเฮียยูโรแน่ "ไอ้คนใจดำ จำไว้เลย ถ้ามาง้อทีหลังไอ้ฟ่าจะไม่ให้ยกโทษให้แน่ คอยดูสิ!!" เขาต่อว่าภพภูมิก่อนมุดตัวเข้าไปในรถและยังแช่งให้คนพี่นอนไม่หลับ ตั้งใจว่าต่อไปจะไม่เป็นหมอนข้างให้อีกแล้ว ยูโรขับรถพาทุกคนมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ตลอดทางราบรื่นไร้อุปสรรค ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านสวนบรรยากาศร่มรื่นที่มีพื้นที่เล็ก ๆ ไว้สำหรับปลูกต้นไม้ขาย ฟีฟ่าฝากให้ป๊าช่วยปลูกต้นไผ่ที่ได้รับมาไว้ที่หลังบ้าน ซึ่งจุดนั้นตรงกับระเบียงห้องของยูโรพอดี ราวกับถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แม้ไม่ชอบใจแต่ยูโรก็ไม่ได้ขัดอะไร "วันนี้ไม่ออกไปสมัครงานเหรอ
[22] ลาก่อนเรือนไม้สีขาว ภพภูมิยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของกลุ่มมือปืนที่ต่างกำลังจดจ่อวัตถุสีดำมาทางเขา มือหนากำแน่นจนสั่นด้วยความเจ็บใจที่มองไม่เห็นหนทางที่จะช่วยฟีฟ่าเพราะตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย "เจอกันชาติหน้านะครับคุณภพ ป่านนี้คุณพ่อคุณคงรอจนเมื่อยแล้ว" รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธีร์ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องกระหน่ำยิงคนตรงหน้า เมื่อตอนรถตกเหวไปพร้อมกับอดีตนายใหญ่ยังอุตส่าห์รอดชีวิตมาได้ คราวนี้ถ้าไม่ตายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว "อย่ายิงนะ..พี่ภูมิ!!" ฟีฟ่าตะโกนห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว สมุนของธีร์ลั่นไกแทบจะพร้อมกัน โดยมีเป้านิ่งคือภพภูมิ ปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยดดดดด!! เสียงปืนรัวขึ้นดังจนหูแทบดับแต่ช้ากว่ารถยนต์ติดกระจกกันกระสุนที่ขับพุ่งเข้ามาขวางด้านหน้าของภพภูมิเอาไว้ ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อหลบคมกระสุนที่ยิงเลยหลังคารถมาได้อย่างหวุดหวิด "รอพี่นานมั้ยจ๊ะที่รัก" คนในรถลดกระจกลงพลางยักคิ้วข้างหนึ่งทักทายภพภูมิ มือหนาดันแว่นตากันแดดขึ้นพลางขยิบตาให้ "เงียบปากไปเลยไอ้เท็นมะ แล้วไอ้เจย์ล่ะ!" "ไอ้เจย์ไปจัดการข้างบนแล้ว เห็นมันว่าจะไปดูหน้าเมียมันด้วย ช่วงนี้ได้ข่าวว่าติดเ
[21] คนบงการ"ผมขอเสนอให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนต่อไป"เสียงทุ้มพูดชัดเจนทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ธีร์แสดงท่าทีลำบากใจเมื่อถูกคะยั้นคะยอให้ยอมรับ ฝ่ายที่สนับสนุนธีร์ต่างแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดทางด้านฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายใหญ่ต่างหันมองกันด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเสนอชื่อธีร์ให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป แต่เสียงของผู้ที่สนับสนุนเขาก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง"ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนใหม่""ผมก็เหมือนกัน""ทุกท่านกรุณาคิดให้ดี ๆ ก่อนนะครับ ผมคิดว่าตัวผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกนะครับ" ธีร์ลุกขึ้นยืนและบอกทุกคนในห้องอย่างถ่อมตนในขณะที่หลายคนพยายามผลักดันให้เขาขึ้นรับตำแหน่งให้ได้"คุณธีร์ติดตามอดีตนายใหญ่มานาน ฝีไม้ลายมือย่อมดีกว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนเยอะ เพื่อความก้าวหน้าของพรรค ผมขอสนับสนุนคุณธีร์อีกเสียงครับ""ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่คุณธีร์ก็ไม่มีใครเหมาะสมแล้ว"ฝ่ายที่เชียร์ธีร์ต่างส่งเสียงสนับสนุนเขาเต็มที่ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมีจำนวนมากกว่าทำให้ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายใหญ่ต้องนั่งเงียบ อยากจะลุกจากเก้าอี้แต่ก็อยากรู้ข้อความ
[20] ผู้นำคนใหม่เช้าวันใหม่มาถึงนานแล้วแต่ทั้งภพภูมิและฟีฟ่าก็ยังไม่ลุกจากเตียง จนเมื่อเวลาล่วงไปใกล้เที่ยงฟีฟ่าจึงได้ลืมตาตื่นเพราะท้องร้องเสียงดังจนนอนไม่หลับ ตั้งใจจะลงไปหาอะไรกินข้างล่าง พอขยับตัวเท่านั้นแหละความปวดร้าวก็แล่นไปทั้งร่าง"อ๊ะ..โอ๊ย!' ทำไมปวดไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ?"มือเล็กจับลงที่สะโพก ครั้นพอเหลือบไปเห็นท่อนแขนแกร่งพาดอยู่ที่เอวก็ขมวดคิ้วแน่น สงสัยว่าภพภูมิกลับบ้านมาตอนไหนและตัวเองขึ้นมานอนบนห้องได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายจำได้ว่ากำลังดื่มกินอยู่กับลูกน้องของภพภูมิอยู่ที่หน้าหอพักนี่นา"ฉิบหายแล้ว"ฟีฟ่าทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้งและจำทุกอย่างได้ทั้งหมด ตายแน่ไอ้ฟ่าคราวนี้เอ็งไม่รอดแน่ ๆ คิดพลางยกแขนแกร่งที่ทับอยู่ออกและค่อย ๆ ย่องลงจากเตียงก่อนถูกถีบลงมา"จะไปไหน!""พี่ภูมิฟ่าขอโทษ ฟ่าไม่ได้ตั้งใจ"ฟีฟ่าทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม ก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษด้วยความสำนึกผิด เผื่อว่าโทษหนักจะเบาบางลง นิดหน่อยก็ยังดี"ลุกขึ้น ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ"มือหนาฉุดฟีฟ่าให้ยืนขึ้นและเปลี่ยนเป็นอุ้มในท่าเจ้าสาว ไม่ต่อว่าอะไรสักคำทำเอาระแวงไปหมดจู่ ๆ มาท
[19] แมวไม่อยู่หนู(ฟ่า)ร่าเริงผัว เอ๊ย! แมวไม่อยู่หนูฟ่าก็ร่าเริงเลยสิคะหลังรถของภพภูมิขับพ้นประตูรั้วออกไปแล้วฟีฟ่าก็ขอให้คิรินพาไปที่สระว่ายน้ำ ถึงเขาจะไม่ชอบออกกำลังกายแต่การว่ายน้ำก็เป็นกีฬาที่เขาโปรดปรานที่สุด ฟีฟ่าว่ายน้ำมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมทำให้มีกล้ามเนื้อที่สวยงาม ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นต่างตัวสูงกันหมด มีเพียงเขาที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดจุดหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น"มึงเป็นใครวะ นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ถ้าไม่อยากตายก็ออกไป!!"พอมาถึงสระว่ายน้ำชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหน้าก็เข้ามาขวางไม่ให้ฟีฟ่าเข้าไปด้านใน และยังมองด้วยสายตาน่ากลัว ดีที่คิรินตามมาถึงพอดี"คุณฟีฟ่าเป็นแขกของคุณภพ ถ้าพวกแกไม่อยากโดนทำโทษก็หลบไป!" คิรินที่แสนจะสุภาพพออยู่ต่อหน้าคนพวกนี้ก็เปลี่ยนไปราวคนละคน น้ำเสียงและบุคลิกน่ายำเกรงทำให้ใบหน้าราวนายเอกซีรีส์วายดูสมชายขึ้น"ขอโทษครับคุณคิริน ขอโทษครับคุณฟีฟ่า เชิญด้านในเลยครับ"ชายฉกรรจ์ร่างกำยำรีบก้มศีรษะขอโทษฟีฟ่า นอกจากผู้เป็นนายแล้วคนสนิทของพวกเขาก็มีฐานะที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ ภายในพรรคเช่นกันเป็นคนพิเศษนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง ฟีฟ่ายิ้มเหนือเดินนำหน้าคิรินเข้าไปด้านใ
[18] ไล่ล่ารถยนต์หรูขับอยู่ลำพังบนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาใช้เส้นทางนี้ แต่วันนี้กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลยและตลอดทางก็ไม่มีรถขับสวนมาสักคันทั้งที่เป็นขาเข้ากรุงเทพฯร่างสูงนั่งอยู่เบาะด้านหลัง ใบหน้าเรียบเฉยแม้ในใจจะขุ่นเคืองเพราะถูกยกเลิกนัดกะทันหัน เล่นมาบอกเอาตอนใกล้ถึงที่หมายแล้วนี่นะ ไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคงได้มีเรื่องกันไปแล้วขณะพยายามสงบใจดวงตาคู่คมได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เขาใช้ถนนเส้นนี้ในเวลากลางคืนอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เงียบและวังเวงเท่านี้มาก่อน"มีอะไรเหรอมังกร?"เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นคนสนิทที่รับหน้าที่ขับรถสอดส่ายสายตาไปมารอบตัวอยู่หลายครั้ง สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดกว่าปกติ เหงื่อแตกเต็มใบหน้าทั้งที่แอร์ภายในรถเย็นเยียบ"ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลก ๆ ยังไงคุณภีมระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะครับ"มังกรบอกกับผู้เป็นนายและใช้ความเร็วลดลงเพราะไฟส่องทางที่สว่างมาตลอดจู่ ๆ ได้ดับลงทีละดวงจนในที่สุดรอบตัวของทั้งสองก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงจากไฟหน้ารถที่สาดไปด้านหน้าเท่า