[10]
คนหน้าคล้าย จากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฟีฟ่าไม่อยากมองหน้าภพภูมิอีกเลย คนใจดำ รู้ทั้งรู้ว่าเขากลัวผียังบังคับให้เปิดโลงดูศพและยังถีบตกฟูกอีก คิดแล้วน่าโมโหจริง ๆ คนตัวเล็กนั่งหันหลังให้ ในมือถือแซนด์วิชไข่ ปากก็เคี้ยวตุ้ย ๆ ไปด้วย "ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว คิดว่าน่ารักมากหรือไง" คนถูกว่าเพียงแค่เหลือกตามองและหันกลับไปกินแซนด์วิชต่อ คิดซะว่าได้ยินเสียงหมาเห่าหมาหอนละกัน ภพภูมินั่งไขว่ห้างพลางจิบกาแฟ มืออีกข้างก็ไถมือถือไปด้วย เห็นข้อความจากเท็นมะเข้ามา เมื่อคืนเพราะมีเรื่องวุ่นวายจึงไม่ทันสังเกตเห็น พอกดเข้าไปดูก็ขมวดคิ้วแน่น "ทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ" ร่างสูงลุกขึ้นและสั่งให้ฟีฟ่าไปเปลี่ยนชุดเพราะจะไปกราบหลวงปู่ด้วยกัน ฟีฟ่าดูดนิ้วหลังกินทุกอย่างหมดแล้ว แกล้งไปเช็ดมือกับเสื้อของภพภูมิและรีบวิ่งเข้าห้องก่อนโดนต่อย เขากลับออกมาในชุดขาวเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่คราวนี้ภพภูมิกลับบอกให้เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาแทน "แล้วไม่บอกแต่แรก เสียเวลาชะมัด" ฟีฟ่าบ่นอุบและกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง คราวนี้ออกมาในชุดทันสมัย ยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูเด็กกว่าเก่า จากนั้นจึงตามภพภูมิไปยังกุฏิของหลวงปู่ ซึ่งท่านได้นั่งรออยู่แล้วทั้งคู่จึงเข้าไปก้มลงกราบ น่าแปลกที่อยู่ตรงนี้แล้วกลับรู้สึกจิตใจสงบอย่างบอกไม่ถูก "เป็นยังไง ชินกับที่นี่บ้างหรือยัง" หลวงปู่ถามฟีฟ่า "ครับ ถ้าไม่ติดว่า.." กำลังจะฟ้องหลวงปู่ว่าตัวเองโดนแกล้งสารพัดและโดนทำร้ายร่างกายอย่างแสนสาหัส ครั้นพอหันเห็นสายตาราวกับจะฆ่ากันให้ตายที่อีกฝ่ายจ้องมาฟีฟ่าถึงกับไม่กล้าพูดต่อ "ชะ..ชินแล้วครับ พี่ภูมิดูแลผมดีมากเลยครับ" "ถ้าอย่างนั้นก็ดี" หลวงปู่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ในสายตาของฟีฟ่าหลวงปู่ต่างจากพระที่เขาเคยพบ อิริยาบถที่สำรวมทำให้ผู้คนเลื่อมใสศรัทธาแต่แฝงไว้ซึ่งความน่ายำเกรงอย่างบอกไม่ถูก ทั้งยังรอยสักบนร่างกายที่มีลวดลายต่างจากผู้มีวิชาทั้งหลายโดยสิ้นเชิง ถ้าไม่ห่มจีวรเขาคงคิดว่าหลวงปู่เป็นพวกยากูซ่าแน่ ๆ พระอาวุโสสังเกตเห็นท่าทางของฟีฟ่าแล้วเผยยิ้มขึ้นอีกทำเอาภพภูมิถึงกับทำหน้าฉงน เขาอยู่กับหลวงปู่มานานยังไม่เคยเห็นท่านยิ้มบ่อยแบบนี้มาก่อน "สีหน้าโยมดีขึ้นมากเลยนะ" หลวงปู่หันมาพูดกับภพภูมิบ้าง ดวงตาจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่บัดนี้ภายใต้ขอบตาที่เคยดำคล้ำกลับหายสนิท คนที่นอนไม่หลับมาหลายเดือน ตอนนี้คงหลับสบายแล้วสินะ "ครับหลวงปู่" ถึงหมอนข้างจะนุ่มนิ่มไปหน่อยแต่ก็กอดสบายอยู่ ภพภูมิสนทนาธรรมกับหลวงปู่ ในขณะที่คนนั่งฟังเฉย ๆ กลับง่วงนอนเพราะฟังภาษาธรรมไม่เข้าใจ จึงทิ้งตัวพิงร่างสูงไว้ "สำรวมหน่อย" เสียงทุ้มตำหนิ เพราะอยู่ต่อหน้าหลวงปู่หรือไงนะน้ำเสียงถึงฟังนุ่มนวลขึ้น ฟีฟ่าคิดเช่นนั้น "ก็ฟ่าง่วงนี่" ฟีฟ่าลุกขึ้นนั่งเพราะโดนมือหนายันหัวออก "เด็กสมัยนี้ก็แบบนี้แหละ แต่อดทนอยู่วัดมาได้ถึงครึ่งเดือนนี่ก็นับว่าเก่งมากแล้ว" ฟีฟ่าอยากจะบอกหลวงปู่เสียเหลือเกินว่าไม่ได้ทนอยู่ แต่ที่ต้องอยู่ก็เพราะโดนบังคับต่างหาก เขาถูกภพภูมิบังคับให้เป็นหมอนข้างและใช้กอดนอนทุกคืน พอตื่นก็เขวี้ยงเขาทิ้งอย่างไม่ไยดี "อยู่แต่วัดคงเบื่อแย่ วันนี้โยมภูมิพาโยมน้องออกไปเที่ยวข้างนอกสักวันก็ได้นะ" "จริงหรือครับหลวงปู่" ฟีฟ่าหูผึ่งเมื่อได้ยินหลวงปู่อนุญาตให้ออกจากวัดได้ มิน่าวันนี้ไอ้หัวหยิกถึงยอมให้เขาใส่ชุดธรรมดาไม่ใช่ชุดขาวเหมือนทุกวัน หลังเสร็จธุระทั้งคู่ก้มลงกราบลาหลวงปู่ ขณะเดินลงจากกุฏิหลวงปู่ได้เรียกภพภูมิเอาไว้และพูดบางอย่างกับเขา "คืนนี้ถ้ากลับไม่ทันก็ค้างข้างนอกไปเลยนะ" "ครับหลวงปู่" ภพภูมิพนมมือขึ้นไหว้ลาหลวงปู่อีกครั้ง ก่อนจะรีบเดินลงจากกุฏิเพราะไอ้คนที่รออยู่ด้านล่างแหกปากเรียกแล้ว ไม่รู้จักเกรงใจพระเกรงใจเจ้าบ้างเลย "พี่ภูมิเร็วหน่อย ฟ่าอยากกินไห่ตี้เหลาแล้วน้าาา.." "หนวกหูน่า กำลังจะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ หัดเกรงใจคนอื่นเขาบ้างสิ!" เสียงทุ้มตะโกนตอบกลับไป วันนี้ภพภูมิไม่ได้ใช้รถสปอร์ตคันหรูเพราะเท็นมะเอาไปขับ เขาใช้รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ราคาเฉียดสิบล้านแทน มือหนาส่งหมวกกันน็อกที่สั่งคนสนิทให้เตรียมไว้สำหรับฟีฟ่าก่อนตวัดเท้าขึ้นคร่อมตัวรถด้วยท่วงท่าทะมัดทะแมง "หนักชะมัด" ฟีฟ่าบ่นอุบเมื่อสวมหมวกกันน็อกลงบนศีรษะ กลัวว่าลำคอเล็กจะหักจริง ๆ ดวงตากลมมองร่างสูงสวมแจ็กเกตหนังสีดำและกำลังสวมหมวกกันน็อกแบบเดียวกัน ภพภูมิในตอนนี้ดูเท่จนฟีฟ่าละสายตาไม่ได้ กระทั่งอีกฝ่ายเปิดหน้ากากออกและเรียกให้เขาขึ้นซ้อนท้าย "จะยืนซื่อบื้ออีกนานมั้ย ขึ้นมาเร็ว" "ชิ!" ฟีฟ่าจิ๊ปากพร้อมตั้งท่าจะปีนขึ้นท้ายรถ ขุ่นพระ!! รถมันจะสูงไปไหนวะเนี่ย เขามองเรียวขายาวที่เหยียบบนพื้นอย่างสบายและก้มมองขาตัวเอง สั้นขนาดนี้จะปีนท่าไหนดีวะ เจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดจุดหนึ่งเซนติเมตรมองที่วางเท้าด้านหลังก่อนขึ้นไปเหยียบโดยอาศัยบ่ากว้างเป็นที่ยึดเหวี่ยงปลายเท้าขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายได้อย่างสวยงาม ยังไม่ทันตั้งตัวรถคันใหญ่ก็พุ่งตัวออกไปทันที ทำเอาฟีฟ่าเกือบหงายเงิบ ดีกว่าคว้าเอวแกร่งไว้ได้ทัน "หึ!" รอยยิ้มร้ายกาจผุดขึ้นภายใต้หมวกกันน็อกก่อนจะลดความเร็วลง ขับขี่ช้า ๆ ออกจากพื้นที่วัดและไปตามทาง พอพ้นเขตหมู่บ้านออกสู่ถนนใหญ่เท่านั้น รถบิ๊กไบค์คันงามก็ถูกขับขี่ด้วยความเร็วที่มากขึ้น เข้าโค้งแต่ละทีทำเอาหัวใจไอ้ฟ่าจะวายให้ได้ ภพภูมิขี่รถเข้าสู่กรุงเทพฯ นอกจากจะพาฟีฟ่ามาเที่ยวแล้วเขายังมีภารกิจอื่นที่ต้องทำอีก บิ๊กไบค์คันสีดำสนิทเลี้ยวเข้ามาในตึกสูง หลังเข้าจอดเรียบร้อยจึงพากันขึ้นไปด้านบน ฟีฟ่าเพิ่งรู้ว่าภายในตึกที่เหมือนกับสำนักงานแห่งนี้ไม่ได้ต่างจากห้างสรรพสินค้าเลยและยังมีผู้คนเดินช้อปปิ้งกันอย่างหนาแน่น เขาไม่รู้ว่านอกจากที่เห็นอยู่ตอนนี้แล้วด้านบนยังเป็นสถานบันเทิงที่คาดไม่ถึงอีกด้วย "ฟ่าหิวแล้ว เราไปหาอะไรกินกันก่อนนะ" ซ้อนท้ายมาตั้งนานโดยไม่แวะพัก ลงมาเดินต่อได้นี่ก็นับว่าเก่งแล้ว แม้ขาของฟีฟ่าจะออกอาการสั่นให้เห็นก็ตาม ภพภูมิถอดเสื้อหนังทิ้งไว้ที่รถและหยิบแว่นตาขึ้นมาสวมเพื่อพรางตัว เพราะแว่นเด็กเนิร์ดทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมาไม่ค่อยสนใจเขามากนัก ซ้ำยังทำให้บุคลิกที่ดูน่ากลัวลดลงอีกด้วย ทำเอาฟีฟ่าใจเต้นตึกตักอีกครั้งทั้งที่เคยบอกอีกฝ่ายไม่ใช่สเปค แต่เป็นเพราะฟีฟ่าชอบแนวสาวเนิร์ดสวมแว่นตานั่นเอง พออยู่ที่นี่ภพภูมิดูต่างจากตอนอยู่วัดนิดหน่อย เขาไม่ดุและยังตามใจฟีฟ่าอีกด้วย พอฟีฟ่าบอกว่าหิวก็พาไปร้านอาหารทันทีและยังให้เลือกร้านที่ชอบอีกต่างหาก "ไม่ต้องรีบกินก็ได้ ใช่ว่าจะกลับตอนนี้ซะที่ไหน" เขาบอกกับฟีฟ่าเมื่อเห็นอีกฝ่ายคีบอาหารใส่ปากแบบไม่พัก กลัวจะติดคอเอาเสียก่อน คิดว่าถ้าฟีฟ่าชอบกินขนาดนี้ไว้จะสั่งให้คนสนิทเอามาส่งให้ที่เรือนไม้ดีมั้ยนะ "ไม่ได้หรอก นาน ๆ จะได้ออกมาที กินเร็ว ๆ จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะ ๆ ไง" ฟีฟ่ารีบกินเพราะอยากขึ้นไปช้อปปิ้งและไปที่เกมเซนเตอร์ ตั้งใจจะร้องคาราโอเกะด้วย เขาเห็นป้ายโฆษณาตอนเดินเข้ามาในตึก เวลาตอนนี้ก็จะบ่ายสองโมงถ้าไม่รีบเดี๋ยวก็ต้องกลับวัดแล้ว โอกาสแบบนี้ไม่รู้จะมีอีกเมื่อไหร่ ไอ้ฟ่าจะไม่ยอมพลาดเด็ดขาด ที่คิดเช่นนั้นเพราะเขาไม่รู้ว่าวันนี้หลวงปู่อนุญาตให้ค้างข้างนอกได้ "ฟ่าขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ฟีฟ่าพูดขึ้นหลังทานอาหารเรียบร้อย พอดีกินน้ำเยอะไปหน่อยก็เลยปวดฉี่ "นายนี่มันเรื่องมากจริง ๆ ฉันรออยู่ตรงนี้ รีบไปรีบมาล่ะ" "ครับ ๆ" ฟีฟ่าวิ่งจู้ดเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ขณะยืนทำธุระส่วนตัวอย่างสบายอารมณ์ โถติดกันได้มีชายวัยกลางคนเข้ามาใช้ ทีแรกก็ไม่ได้สนใจแต่กลิ่นแอลกอออล์ที่ตีเข้าจมูกทำให้เขาต้องหันกลับไปมองทำให้สบตากับอีกฝ่ายเข้าพอดี ดวงตาแดงก่ำมองเขาด้วยความไม่พอใจ ฟีฟ่าหลบสายตาแทบไม่ทันดีที่ทำธุระเสร็จพอดีจึงรีบเก็บอาวุธ รูดซิปกางเกงและเดินหนีกลับถูกชายคนนั้นคว้าแขนเอาไว้ "เฮ้ย..มองหน้าแล้วเดินหนีอยากมีเรื่องมากหรือวะ" ฟีฟ่ามองมือที่เพิ่งจับหนอนตัวอวบแล้วมาจับแขนตนด้วยความขยะแขยง แม่ง..สกปรกฉิบหาย จึงพยายามสะบัดออกแต่อีกฝ่ายกลับบีบแน่นขึ้น "ปล่อยผมเถอะครับ พี่เมาแล้วผมว่าพี่กลับบ้านไปนอนดีกว่านะ" ฟีฟ่าไม่อยากมีเรื่องกับคนเมาจึงพูดดีด้วย แต่ทำให้อีกฝ่ายโมโหกว่าเก่า "ใครบอกกูเมา กูไม่ได้เมาสักหน่อย!" ชายวัยกลางคนตวาดเสียงดังใส่หน้าฟีฟ่า มือที่จับท่อนแขนอยู่บีบแน่นก่อนจะเหวี่ยงร่างเล็กกระเด็นไปกองอยู่กับพื้น ทำเอาผู้คนในห้องน้ำแตกตื่นรีบพากันวิ่งออกมา "เข้าห้องน้ำแค่นี้ทำไมนานนักนะ" ภพภูมิที่ยืนรออยู่ด้านนอกมองนาฬิกาอยู่หลายรอบฟีฟ่าก็ยังไม่ออกมาสักทีจึงจะเข้าไปตามข้างใน จังหวะนั้นหางตาได้เหลือบไปเห็นชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทอย่างดีเดินอยู่อีกฝั่ง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย "..มาทำอะไรที่นี่นะ?" กำลังจะเดินข้ามไปอีกฝั่งก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากทางห้องน้ำชายและผู้คนต่างพากันวิ่งออกมาจึงหันไปดู เห็นร่างเล็กถูกเหวี่ยงกระเด็นออกมากระแทกผนังด้านนอกและมีชายวัยกลางคนตามออกมาด้วยท่าทางโมโหสุดขีด เขาหันกลับไปมองชายสวมสูทคนนั้นอีกครั้งและหันกลับมามองฟีฟ่า และตัดสินใจเข้าไปช่วยฟีฟ่าก่อน "แม่งเอ๊ย..หาแต่เรื่องเก่งจริง ๆ" เสียงดังโวยวายและผู้คนที่วิ่งแตกตื่นออกมาจากห้องน้ำดังไปถึงฝั่งตรงข้าม ชายหนุ่มในชุดสูทราคาแพงได้หันกลับมามองเหตุการณ์ชุลมุนนั้นและสะดุดเข้ากับภพภูมิพอดี เห็นอีกฝ่ายกำลังวิ่งสวนผู้คนเข้าไปด้านใน "มีอะไรหรือครับคุณ..." "ไม่มีอะไร" ร่างสูงหมุนตัวหันหลังเดินไปยังลิฟต์ส่วนตัวเพื่อขึ้นไปยังชั้นสูงสุดของตึก "มองหน้าหาเรื่องหรือวะ มึงไม่รู้เหรอว่ากูเป็นใคร!" โครม!! "มึงจะเป็นใครก็เรื่องของมึง แต่ไอ้นี่คนของกู" ชายวัยกลางคนถูกถีบกระเด็นออกจากฟีฟ่าก่อนที่หมัดจะต่อยถูกใบหน้าหวาน เป็นเพราะไอ้ขี้เมาทำให้เขาพลาดเรื่องสำคัญอยากจะกระทืบให้ตายคาตีนนัก แต่ในที่ชุมชนถ้ามีการทำร้ายร่างกายมันคงดูไม่ดี ภพภูมิจึงต่อยมันไปหมัดหนึ่งเพื่อให้หายโมโห เพียงเท่านี้ก็ทำเอาชายวัยกลางคนถึงกับสลบเหมือด "ลุกขึ้นได้แล้ว" เสียงทุ้มออกคำสั่งพลางมองรอยแดงบนแก้มของฟีฟ่า ฟันขาวขบกันดังกรอดและเหลือบไปมองชายวัยกลางคนที่นอนอยู่บนพื้น บังอาจทำหมอนข้างของเขาเป็นรอย ต่อยแค่หมัดเดียวคงไม่พอละมั้ง ฟีฟ่าลุกขึ้นและรีบเดินตามร่างสูงออกไปก่อนพนักงานรักษาความปลอดภัยจะมาถึง เจอแบบนี้เข้าไปก็ถึงกับหมดอารมณ์เดินเที่ยวเลยทีเดียว "อยากไปเล่นเกมมั้ย" ภพภูมิถามขึ้นเมื่อเห็นฟีฟ่าทำหน้าจ๋อย เพราะมันดูไม่เหมาะกับเขาเลย ฟีฟ่าส่ายหน้าพลางเอามือลูบแก้ม โดนตบแค่ทีเดียวทำเอาแก้มขาวขึ้นเป็นรอยแดง ถ้าเป็นทุกครั้งคงโดนสมน้ำหน้าไปแล้ว แต่ครั้งนี้กลับดูน่าสงสารอย่างบอกไม่ถูก "รอฉันอยู่ตรงนี้ก่อน อย่าไปเดินเพ่นพานล่ะ" ภพภูมิบอกกับฟีฟ่าก่อนเดินแยกไป ระหว่างนั้นก็ได้หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาคนสนิทไปด้วย [ครับคุณภพ] "นายไปดูกล้องวงจรปิดที่หน้าห้องน้ำชั้น 7 ของตึกไนท์ไดมอนด์ แล้วจัดการไอ้ขี้เมาที่มาก่อเรื่อง เอาให้หนักแต่อย่าให้ถึงตายนะ" [ครับ] หลังวางสายภพภูมิก็เดินไปทางร้านขายยาเพราะกลัวแก้มแดงจะอักเสบขึ้นมาเสียก่อน นอนกอดทุกคืนมีหรือที่จะไม่รู้ว่าไอ้ตัวแสบผิวบางแค่ไหน ขนาดยุงสักตัวเขายังไม่ยอมให้บินเข้ามาในห้องได้เลย ไอ้แก่นั่นเป็นใครบังอาจมาทำให้คนของเขาเป็นรอยได้ ทางด้านฟีฟ่าก็นั่งรอตามคำสั่งอย่างเรียบร้อยต่างจากทุกครั้ง ระหว่างนั้นก็มองสำรวจร้านค้าที่เปิดอยู่ภายในตึกไปด้วย เพิ่งสังเกตว่ามีแต่แบรนด์ไฮเอนด์ที่คนฐานะอย่างเขาจะซื้อสักชิ้นยังต้องเก็บเงินอยู่หลายเดือน ทำให้แผนที่จะช้อปปิ้งให้สนุกต้องพับเก็บเอาไว้ทันที "นั่นมันพี่ภูมินี่ หน็อย..คิดจะทิ้งเราไว้ที่นี่คนเดียวเหรอ ไม่มีทางซะหรอก ฟีฟ่าบังเอิญหันไปเห็นร่างสูงกำลังเดินออกไปทางลานจอดรถ บอกให้คนอื่นรอแต่ตัวเองกลับไปเปลี่ยนเป็นสูทอย่างหล่อและคิดจะหนีกลับคนเดียวเหรอ ไอ้ฟ่าไม่ยอมหรอกนะ เขารีบลุกขึ้นและเข้าไปยืนขวางร่างสูงเอาไว้ พลางต่อว่าที่อีกฝ่ายจะทิ้งตัวเองไว้และกลับไปคนเดียว "จะไปไหนน่ะ คิดจะทิ้งฟ่าเหรอ!" คนตัวสูงรู้สึกแปลกใจที่จู่ ๆ ฟีฟ่าเข้ามาขวางและยังทำหน้าจริงจังใส่อีก คนที่ติดตามมาด้วยเข้าไปต่อว่าฟีฟ่าที่มาขวางทางเจ้านายของตนและทำท่าจะเอาเรื่องแต่ถูกห้ามไว้และถูกตำหนิด้วยสายตาจึงรีบหลบไปอยู่ด้านหลังตามเดิม "เรารู้จักกันด้วยหรือครับ" น้ำเสียงที่สุภาพแฝงความขี้เล่นถามขึ้น ฟีฟ่าแหงนขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้าให้เต็มตาอีกครั้ง ส่วนสูงที่ไม่ต่างจากเปรตนอกจากภพภูมิแล้วยังมีคนอื่นอีกเหรอ นอกจากส่วนสูงแล้วหน้าตายังละม้ายคล้ายกันราวกับฝาแฝด แต่สายตากรุ้มกริ่มแบบนี้ไม่มีทางใช่ภพภูมิแน่ ๆ "ขะ..ขอโทษครับ ผมจำคนผิด" ฟีฟ่ารีบหลีกทางให้ทันที คิดว่าต้องถูกต่อว่าแน่ ๆ แต่ไม่เป็นเช่นนั้น แทนที่จะโกรธชายหนุ่มกลับเผยยิ้มออกมา มือหนาวางลงบนบ่าของฟีฟ่าและโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ สอดประสานสายตาเข้าด้วยกัน ทำเอาฟีฟ่าขนลุกซู่ "ไม่เป็นไรครับ ผมคงหน้าโหลไปหน่อย เอาไว้ถ้าเจอกันคราวหน้าหวังว่าจะไม่ทักผิดคนอีกนะครับ" พูดจบชายหนุ่มก็เดินจากไปพร้อมกับผู้ติดตามทั้งสองคนทิ้งฟีฟ่าให้ยืนงงอยู่ตรงนั้น เจอกันคราวหน้าอะไรกัน คงไม่มีครั้งที่สองหรอก "คนอะไรสายตาเจ้าชู้ชะมัด" ฟีฟ่าพึมพำกับตัวเองและหันไปเห็นภพภูมิเดินกลับมาพอดี[11]พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่ภพภูมิกลับมายังจุดนัดหมายพร้อมกับยาทาแก้ฟกช้ำ เขาบีบยาจากหลอดใส่ปลายนิ้วและป้ายลงบนแก้มแดงอย่างเบามือ"ยิ่งขี้เหร่อยู่ ระวังอย่าให้มีแผลสิ""ฟ่าไม่ได้หาเรื่องนะ ก็ไอ้ลุงนั่นอยู่ดี ๆ ก็มาดึงแขนฟ่าไว้ เจ็บจะตาย"พอได้ยินว่าชายวัยกลางคนที่มีเรื่องกับฟีฟ่านอกจากตบหน้าแล้วยังจับแขนเอาไว้อีกก็ยิ่งโมโห อยากจะโทรหาลูกน้องคนสนิทให้ตัดมือมันทิ้งไปด้วยเลย"จะซื้ออะไรมั้ย?""ไม่ล่ะ"ฟีฟ่าปฏิเสธเพราะราคาสินค้าของที่นี่แต่ละอย่างไอ้ฟ่าเอื้อมไม่ถึงจริง ๆ ไม่รู้ภพภูมิคิดยังไงถึงพาเขามาที่แบบนี้"อยากได้อะไรก็ไปดู เดี๋ยวฉันซื้อให้เอง"ภพภูมิเหมือนจะรู้ความคิดของฟีฟ่า เขาจึงเสนอเป็นเจ้าภาพจ่ายเงินให้ คิดว่าเป็นค่าตอบแทนให้กับหมอนข้าง ทำเอาคนน้องตาโต คิดว่าตัวเองหูฝาดไปซะอีกจนต้องถามซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ"จริงเหรอ ได้ทุกอย่างเลยเหรอ!""จริงสิ"ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเปย์ให้ขนาดนี้ มีเหรอที่ไอ้ฟ่าจะพลาดโอกาสทอง ที่นี่มีของที่เขาอยากได้ตั้งหลายอย่าง ตั้งใจจะถล่มให้กระเป๋าฉีกเลย"พูดเองนะ อย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน"ฟีฟ่าเดินนำหน้าเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่นโดยมีภพภูมิเดินตามไปรูด
[1] บทนำ ณ สถานบันเทิงที่ลักลอบเปิดให้บริการจนถึงเช้า ภายในเต็มไปด้วยแสงสีและเสียงเพลงดังกระหึ่มจนต้องแหกปากตะโกนคุยกัน กลิ่นเหล้าและควันบุหรี่ลอยคละคลุ้ง แต่เหล่าบรรดานักท่องราตรียังคงสนุกกับการดื่มกินจนลืมเวลา รวมถึงฟีฟ่าที่อยู่ในอาการเมามายจนแทบจำชื่อตัวเองไม่ได้ เขากำลังวาดลีลาอยู่บนฟลอร์ด้วยท่าทางที่ดูจะแรดเกินชายไปหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรักนวลสงวนตัวไม่ยอมให้ผู้ชายที่ไหนลากไปง่าย ๆ ฟีฟ่า ชายหนุ่มผู้มีอายุย่างจะเข้าสู่เบญจเพสในไม่ช้า คิดว่าตัวเองจะรอดจากอาถรรพ์แล้ว ที่ไหนได้ พอยิ่งใกล้วันเกิดความซวยก็ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งตกงาน รถจอดอยู่เฉย ๆ ก็ถูกชนจนพังยับ ไหนจะถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกเงินไปเป็นแสนอีก ที่หนักสุดคือถูกแฟนสาวที่คบมาครึ่งปีบอกเลิกด้วยเหตุผลที่ว่าเข้ากันไม่ได้ มันไม่ได้ตรงไหนวะ! ก็ตอนเอาโคยเสียบเข้าเสียบออกหล่อนยังร้องครวญครางว่าเสียวอย่างกับจะขาดใจตายอยู่เลย แต่นั่นไม่น่าเจ็บใจเท่าตอนไปหล่อนยังขโมยของมีค่าของเขาไปอีก เจอแบบนี้จะไม่เจ็บยังไงไหว ยิ่งคิดก็ยิ่งคลุ้มคลั่งจากท่าเต้นยั่วยวนก็กลายเป็นเต้นยั่วตีนไปเสียแล้ว หลายครั้งที่ฟีฟ่าเหยียบเข้ากับเท้าข
[3] คนดวงตก "ว่าไงนะป๊า..ไม่! ฟ่าไม่ไปเด็ดขาด!" เสียงฟีฟ่าโวยวายลั่นบ้านเมื่อรู้ว่าผู้เป็นพ่อและพี่ชายจะส่งตนไปอยู่วัด เพราะเห็นว่ายิ่งใกล้เบญจเพสดวงของฟีฟ่าไม่ดีเอาเสียเลย พวกเขาจึงเอาดวงของฟีฟ่าไปให้ซินแสที่นับถือช่วยตรวจดูให้ ปรากฏว่าชะตาของฟีฟ่ากำลังจะขาด แต่ถ้าผ่านไปได้เขาจะได้โชคอันใหญ่อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว "อย่าดื้อกับป๊านะฟ่า!" เสียงดุของพี่ชายทำฟีฟ่าสะดุ้ง และเงียบปากลงอัตโนมัติ ครอบครัวของฟีฟ่ามีกันสามคนพ่อลูก คุณแม่เสียไปตั้งแต่เขายังแบเบาะผู้เป็นพ่อจึงรักและตามใจเขามากเพื่อชดเชยที่ขาดแม่ไป ยูโร คือพี่ชายของฟีฟ่าและมีอายุห่างกันถึงห้าปี เขามีนิสัยตรงกันข้ามกับฟีฟ่าแทบจะทุกอย่างและเป็นคนเดียวในบ้านที่ฟีฟ่ากลัว เฮียยูโรทำงานอยู่บริษัทเอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งและส่งฟีฟ่าเรียนจนจบมหาลัย ส่วนป๊าเกษียณออกมาอยู่บ้านแล้ว นอกจากเงินผู้สูงอายุก็มีรายได้เล็ก ๆ น้อยจากการปลูกต้นไม้ขาย ทั้งที่อยู่เฉย ๆ ก็ไม่ลำบาก "เชื่อป๊านะฟ่า ที่ป๊ากับเฮียทำไปทั้งหมดก็เพราะหวังดีกับฟ่านะ" "ไม่นะป๊า! ไม่นะเฮีย! ทั้งสองคนก็รู้นี่ว่าฟ่ากลัวผี ป๊ากับเฮียยังจะให้ฟ่าไปอยู่วัดอีกเหรอ ถ้าป๊ากั
[2] ค่ำคืนที่แสนเร่าร้อน รถสปอร์ตคันหรูขับด้วยความเร็วกว่าปกติ ในขณะที่ดวงตาคู่คมก็มองหาโรงแรมที่อยู่ใกล้ที่สุดไปด้วย ครั้นพอเจอที่หมายก็เลี้ยวเข้าไปโดยไม่ลังเล ถึงจะเป็นแค่ม่านรูดแต่สมัยนี้ก็ตกแต่งอย่างดี ทั้งยังมีของเล่นและอุปกรณ์ครบครันแถมยังสะอาดอีกด้วย เอี๊ยดดดด!!! เสียงเหยียบเบรกดังสนั่นไปแปดห้องสิบห้องจนคนข้างในต้องแง้มประตูออกมาดูว่าใครมันมาทำให้ตกใจจนเกือบแทงผิดรู แม้แต่ฟีฟ่ายังตกใจจนนั่งอ้าปากค้าง ยาที่เขากรอกใส่ปากไอ้กล้ามโตออกฤทธิ์เร็วอย่างที่เพื่อนเลิฟบอกไว้จริง ๆ หลังม่านถูกรูดปิดสนิทฟีฟ่าก็ถูกท่อนแขนกล้ามเป็นมัดแบกเข้าเอวกระเตงลงจากรถและพาเข้าไปในห้องทันที ร่างเล็กผอมบางถูกโยนลงบนเตียงสปริงจนกระเด้งกระดอนไปสามสี่ตลบถึงหยุดอยู่ในท่าขาชี้ฟ้า ทำเอาคนเมาแทบอ้วกออกมาดีที่กลืนลงคอไปได้ทัน ฟีฟ่ามองใบหน้าที่เริ่มไร้สติของอีกฝ่าย ขอบตาดำคล้ำราวคนอดนอนทำให้ดวงตาคู่คมดูน่ากลัว ลมหายใจหอบเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย จ้องมองเขาด้วยสายตาที่ราวกับจะกลืนกินลงคอซะเดี๋ยวนั้น ทำเอาฟีฟ่ากลัวจนจู๋แทบหด "จะ..ใจเย็นก่อน เดี๋ยวกูจะพามึงไปสวรรค์เองนะ" เขาพยายามพูดอย่างใจเย็นแต่ดูเหม
[4] คนดวงตกสองคน เมื่อได้ยินว่าเป็นคำสั่งของหลวงปู่ภูมิก็ขัดไม่ได้ จำต้องให้ฟีฟ่าอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ในฐานะคนมาก่อนจึงออกกฎให้ฟีฟ่าปฏิบัติตาม มิฉะนั้นจะไม่ให้อยู่ด้วย "มึงชื่ออะไร" เสียงทุ้มถามขึ้น "ฟะ..ฟีฟ่า" "พูดกับคนอายุมากกว่าให้มันดี ๆ หน่อย ถ้าไม่เชื่อฟังก็กลับไปซะ" คนอะไรแม่งขู่เก่งชะมัด สงสัยจะมีญาติเป็นงูแน่ ๆ ฟีฟ่าบ่นอุบอิบก่อนแนะนำตัวเองอีกครั้ง แม้น้ำเสียงจะไม่ได้รื่นหูแต่ก็ใช้คำที่ฟังแล้วทำให้ปลายตีนของอีกฝ่ายกระตุกน้อยสุดเป็นพอ และยังบอกคนเป็นผู้ใหญ่ว่าถ้าอยากให้คนอื่นพูดดีด้วยตัวเองก็ต้องพูดก่อนสิ โดนตอกหน้ากลับคนเป็นผู้ใหญ่ถึงกับกัดฟันกรอด เถียงไม่ออกเพราะเด็กมันพูดจริง "ว่าแต่มึง เอ๊ย! ว่าแต่นายเถอะ ไม่คิดจะบอกชื่อตัวเองบ้างหรือไง เอาแค่ถามคนอื่นแต่ชื่อตัวเองกลับไม่ยอมบอกมันเสียมารยาทนะไม่รู้หรือไง" ฟีฟ่าถือโอกาสว่ากลับไปบ้าง "ฉันชื่อภูมิ ให้นายเรียกฉันว่าพี่ภูมิ เพราะถึงยังไงฉันก็อายุมากกว่านายหลายปี" พอคำพูดเปลี่ยนก็ทำให้คนตรงหน้าดูดีขึ้นมา น้ำเสียงห้วนไม่น่าฟังก็มีเสน่ห์ขึ้น เสียงทุ้มต่ำติดแหบนิดหน่อยทำให้ฟีฟ่านึกถึงเสียงกระซิบข้างใบหูเมื่อคืนนั้นก็เกิดหน
[5] มาเฟียหนุ่ม "ไอ้โรคจิต ทำไมถึงไม่ใส่กางเกงใน ฮะ!" ภูมิพูดขึ้นเสียงดังพลางชี้นิ้วไปยังร่างเล็กที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงข้ามกัน ทั้งพยายามละสายตาจากสิ่งตรงหน้าด้วยการมองเลยไปทางด้านหลังของฟีฟ่า "แล้วพี่จะตกใจทำไมล่ะ ก็เมื่อคืนพี่เป็นคนเร่งฟ่าให้เร็ว ๆ เองนี่ ฟ่าก็ใส่ไม่ทันนะสิ แต่โล่ง ๆ แบบนี้ก็สบายดีนะ" ฟีฟ่าสวมกางเกงวิ่งขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโคร่งซึ่งเจ้าตัวมองยังไงก็เรียบร้อย เขาลุกถกขากางเกงขึ้นจนแก้มก้นขาวโผล่ คนพี่ทนดูไม่ไหวต้องสั่งให้รีบเอาลง "อย่าถก เอาลงเดี๋ยวนี้!" เมื่อคืนฟีฟ่ากลัวโดนทิ้งจึงรีบแต่งตัวเลยไม่ทันได้สวมกางเกงชั้นใน และกางเกงวิ่งสมัยนี้ก็สั้นเหลือเกิน ขนาดไข่เล็ก ๆ ของไอ้ฟ่าก็ปิดแทบไม่มิด ไหนจะด้านข้างก็เป็นเพียงผ้าซ้อนทับกันไว้เพื่อความคล่องตัวของนักวิ่ง ตัวหนึ่งก็ไม่ใช่ถูก ๆ ซับในก็เสือกไม่มีอีก นั่งทีก็เปิดจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว "ที่จริงมันมีกางเกงซับในนะ แต่ฟ่ารำคาญมันสีกับไข่เลยไปเอาออก" "ฉันไม่ได้ถาม ถ้านายจะใส่ไอ้กางเกงขาสั้นแบบนี้ก็สู้แก้ผ้าไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ ไข่เล็ก ๆ ยังปิดไม่มิดเลย" "เสียมารยาท ไข่ฟ่าไม่ได้เล็ก ๆ สักหน่อย และอีกอย่างชุดนี้ก็ของ
[6]นายต้องเป็นหมอนข้างให้ฉันฟีฟ่าย่องขึ้นเรือนโดยมีเป้าหมายอยู่ที่กล่องแซนด์วิชบนโต๊ะไม้สักทอง เจ้าของนั่งหันหลังให้แบบนี้ยังไงก็ไม่มีทางเห็นแน่นอน เสร็จไอ้ฟ่าล่ะมือเล็กคว้ากล่องแซนด์วิชได้สำเร็จ ตั้งใจจะเอาลงไปกินข้างล่างเป็นมื้อเที่ยง บังเอิญเหลือบไปเห็นเห็นอกไก่ไร้ไขมันชิ้นใหญ่ในกล่องอาหารคลีนก็เกิดอยากกินขึ้นมา คิดว่าเอาไปแค่ชิ้นเดียวอีกฝ่ายคงไม่รู้หรอก "เสร็จโจร อิอิ.."มัวแต่ย่ามใจค่อย ๆ เปิดกล่องจึงไม่รู้สึกตัวว่าร่างสูงได้มายืนอยู่ด้านหลังแล้ว และกำลังมองพฤติกรรมของเขาอยู่"ทำอะไรน่ะ!"เสียงทุ้มดังขึ้นทำเอาฟีฟ่าตกใจจนแทบทำของในมือร่วง ดีที่ว่าคว้าเอาไว้ได้ทัน เขาหันกลับมามองร่างสูงและยิ้มแหย ๆ"นะ.. นั่งสมาธิเสร็จแล้วหรือครับ แฮะ ๆ""ถ้ายังไม่เสร็จฉันจะจับขโมยได้เหรอ"ร่างสูงโน้มลงต่ำและยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ดวงตาคู่คมมองกล่องแซนด์วิชที่อยู่ในมือของฟีฟ่าและยิ้มเหี้ยม..วิ่งสิครับจะรออะไร!!ฟีฟ่าถอยหลังหนีและรีบวิ่งลงจากเรือน ยังไม่พ้นบันไดขั้นแรกก็ถูกมือหนาคว้าคอเสื้อเอาไว้ได้ นี่สินะ..ข้อเสียเปรียบของคนขาสั้น ฟีฟ่าถูกคนตัวใหญ่กว่าเหวี่ยงกระเด็นกลับขึ้นไปบนเรือน แผ่นหลังบาง
[7]สิ่งที่ติดตามมาในความมืด"วันนี้ผมคงไปช่วยหลวงปู่บิณฑบาตไม่ไหวแล้วล่ะ"ฟีฟ่าเดินเดี้ยงออกมายังชานหน้าบ้านทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนตัวเก่ง เวลาตีห้ากว่าแล้วแต่ท้องฟ้ายังคงมืดสนิทและไม่มีวี่แววว่าพระอาทิตย์จะขึ้นสักนิด ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เหมือนเวลากลางคืนจะยาวนานกว่าปกติ"ไม่ไหวก็ไม่ต้องไป ไม่มีนายหลวงปู่ยังมีลูกศิษย์อีกเยอะ""ชิ!"ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้สักทองและมองออกไปรอบตัวบ้าน กิ่งไผ่สูงท่วมหัวโอนเอนไปตามสายลมดูน่ากลัวจนต้องลุกไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ กับภพภูมิ"เป็นอะไรอีกล่ะ""ตะ..ต้นไผ่มันโยกไปโยกมา น่ากลัวยังไงก็ไม่รู้"ดวงตาคู่คมมองออกไปตามที่ฟีฟ่าบอก แม้ไม่เห็นเป็นตัวเป็นตนแต่ก็รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ในเมื่อต่างคนต่างอยู่เขาจึงไม่ทำอะไร และบริเวณเรือนไม้สีขาวก็ได้ทำการลงอาคมเพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้เอาไว้แล้ว"ถ้ากลัวแล้วจะมองทำไม กลัวมากก็มานั่งสมาธินี่"เอะอะก็จะให้นั่งสมาธิอยู่เรื่อย ไอ้ฟ่าไม่เอาด้วยหรอก แต่อีกคนไม่สนใจหลังก้มกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าสู่สมาธิโดยมีฟีฟ่านั่งอยู่ข้าง ๆ คนไม่มีอะไรทำก็เริ่มง่วงขึ้นมาสุดท้ายก็ฟุบหลับไปบนตักของภพภูมิเ
[11]พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่ภพภูมิกลับมายังจุดนัดหมายพร้อมกับยาทาแก้ฟกช้ำ เขาบีบยาจากหลอดใส่ปลายนิ้วและป้ายลงบนแก้มแดงอย่างเบามือ"ยิ่งขี้เหร่อยู่ ระวังอย่าให้มีแผลสิ""ฟ่าไม่ได้หาเรื่องนะ ก็ไอ้ลุงนั่นอยู่ดี ๆ ก็มาดึงแขนฟ่าไว้ เจ็บจะตาย"พอได้ยินว่าชายวัยกลางคนที่มีเรื่องกับฟีฟ่านอกจากตบหน้าแล้วยังจับแขนเอาไว้อีกก็ยิ่งโมโห อยากจะโทรหาลูกน้องคนสนิทให้ตัดมือมันทิ้งไปด้วยเลย"จะซื้ออะไรมั้ย?""ไม่ล่ะ"ฟีฟ่าปฏิเสธเพราะราคาสินค้าของที่นี่แต่ละอย่างไอ้ฟ่าเอื้อมไม่ถึงจริง ๆ ไม่รู้ภพภูมิคิดยังไงถึงพาเขามาที่แบบนี้"อยากได้อะไรก็ไปดู เดี๋ยวฉันซื้อให้เอง"ภพภูมิเหมือนจะรู้ความคิดของฟีฟ่า เขาจึงเสนอเป็นเจ้าภาพจ่ายเงินให้ คิดว่าเป็นค่าตอบแทนให้กับหมอนข้าง ทำเอาคนน้องตาโต คิดว่าตัวเองหูฝาดไปซะอีกจนต้องถามซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ"จริงเหรอ ได้ทุกอย่างเลยเหรอ!""จริงสิ"ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเปย์ให้ขนาดนี้ มีเหรอที่ไอ้ฟ่าจะพลาดโอกาสทอง ที่นี่มีของที่เขาอยากได้ตั้งหลายอย่าง ตั้งใจจะถล่มให้กระเป๋าฉีกเลย"พูดเองนะ อย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน"ฟีฟ่าเดินนำหน้าเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่นโดยมีภพภูมิเดินตามไปรูด
[10]คนหน้าคล้ายจากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฟีฟ่าไม่อยากมองหน้าภพภูมิอีกเลย คนใจดำ รู้ทั้งรู้ว่าเขากลัวผียังบังคับให้เปิดโลงดูศพและยังถีบตกฟูกอีก คิดแล้วน่าโมโหจริง ๆ คนตัวเล็กนั่งหันหลังให้ ในมือถือแซนด์วิชไข่ ปากก็เคี้ยวตุ้ย ๆ ไปด้วย"ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว คิดว่าน่ารักมากหรือไง"คนถูกว่าเพียงแค่เหลือกตามองและหันกลับไปกินแซนด์วิชต่อ คิดซะว่าได้ยินเสียงหมาเห่าหมาหอนละกันภพภูมินั่งไขว่ห้างพลางจิบกาแฟ มืออีกข้างก็ไถมือถือไปด้วย เห็นข้อความจากเท็นมะเข้ามา เมื่อคืนเพราะมีเรื่องวุ่นวายจึงไม่ทันสังเกตเห็น พอกดเข้าไปดูก็ขมวดคิ้วแน่น"ทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ"ร่างสูงลุกขึ้นและสั่งให้ฟีฟ่าไปเปลี่ยนชุดเพราะจะไปกราบหลวงปู่ด้วยกันฟีฟ่าดูดนิ้วหลังกินทุกอย่างหมดแล้ว แกล้งไปเช็ดมือกับเสื้อของภพภูมิและรีบวิ่งเข้าห้องก่อนโดนต่อย เขากลับออกมาในชุดขาวเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่คราวนี้ภพภูมิกลับบอกให้เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาแทน"แล้วไม่บอกแต่แรก เสียเวลาชะมัด"ฟีฟ่าบ่นอุบและกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง คราวนี้ออกมาในชุดทันสมัย ยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูเด็กกว่าเก่า จากนั้นจึงตามภพภูมิไปยังกุฏิของหลวงปู่ ซึ่งท่านได้นั่งรออยู่แ
[9]ชายปริศนาในป่าไผ่"เลิกทำหน้าแบบนั้นสักทีเถอะ เห็นแล้วกินข้าวไม่ลง"เสียงทุ้มว่าคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกัน มองปากที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ แต่ตานี่ขวางเชียว ก็นะ..ลองมาถูกเหวี่ยงดูบ้างมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าเจ็บแค่ไหน นอนด้วยกันมาอาทิตย์กว่าแต่ทั้งตัวไอ้ฟ่านี่มีแต่รอยช้ำเต็มไปหมด"ไม่รู้ล่ะ ก็ใครใช้ให้พี่มาทำร้ายฟ่าก่อนล่ะ!""ก็นายอยากคิดไม่ดีกับฉันก่อนทำไม หน็อย..คิดจะลักหลับฉันเป็นครั้งที่สองเหรอ เอาไว้ชาติหน้าเถอะ วันนั้นถ้านายไม่ใช้ยาปลุก บอกไว้เลยนะว่าขนสักเส้นของฉันนายก็ไม่มีทางได้เห็นหรอก!""แหวะ..อยากเห็นตายล่ะ" ฟีฟ่าพึมพำเบา ๆ เพราะกลัวถูกเหวี่ยงลงจากเรือน ขี้เกียจเถียงด้วย ทั้งที่เมื่อคืนตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนถอดกางเกงของเขาออกแท้ ๆแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ กะอีแค่มีเซ็กซ์ครั้งเดียวทำไมต้องอาฆาตกันขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ ฟ่าไม่เข้าใจจริง ๆ เป็นผู้ชายซะเปล่า ตัวก็ใหญ่อย่างกับควายแต่ใจแคบชะมัด ทั้งที่ตอนนั้นตัวเองก็เป็นฝ่ายได้เสียบแท้ ๆ ไอ้หัวหยิกเอ๊ย..อ้อ..อีกอย่าง บอกไว้เลยนะถ้าคืนนั้นไม่เมาจนขาดสติคนอย่างฟีฟ่าไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้เด็ดขาดถึงจะงอนแต่ฟีฟ่าก็กินข้าวจนหมดเกลี้ยง
[8]เพื่อนรักเพื่อนเลิฟรถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดยังหน้าตึกสูงและได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก รปภ. ร่างสูงในชุดฉูดฉาดลงจากรถออกมายืนด้วยท่าทีสง่างาม มือหนาขยับแว่นตากันแดดให้เข้าที่พลางยกยิ้มด้วยความมั่นใจ ไม่สนว่าจะตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ช่วงขายาวก้าวเข้าไปในตึกอย่างมาดมั่นตรงไปยังลิฟต์สำหรับผู้บริหารเพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุด"แต่งตัวอะไรของมึงวะไอ้เท็น ระหว่างทางหมาไม่เห่าบ้างหรือไงวะ"ผู้บริหารหนุ่มถึงกับวางมือจากเอกสารที่กำลังเซ็นอยู่และลุกขึ้นมาหาชายหนุ่ม ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามมองอีกฝ่ายตั้งหัวจดเท้าอีกครั้ง"ทำไม? กูก็แต่งธรรมดานี่ ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย""เออ..ไม่แปลกก็ไม่แปลก และมึงก็เลิกสูบบุหรี่ในห้องกูได้แล้ว แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดทีไรก็นึกว่ามีขโมยเข้ามาในห้องกูอยู่เรื่อย"ดวงตาเรียวเหยียดมองสูทลำลองสีแดงเข้มเข้าชุดกับกางเกง และไหนจะเสื้อยืดคอกว้างและลึกโชว์ขนหยิกหย็อยบนกล้ามหน้าอกกับรอยสักบนร่างกายด้านซ้าย ใครเห็นต่างก็วิ่งหนีกันหมด ถ้าลูกค้ามาเห็นว่ามีคนแบบนี้ในบริษัทของเขามีหวังความน่าเชื่อถือคงไม่เหลือ"เรื่องมากฉิบหาย ต่อให้กูไม่สูบบริษัทมึงก็ไม่น่าเ
[7]สิ่งที่ติดตามมาในความมืด"วันนี้ผมคงไปช่วยหลวงปู่บิณฑบาตไม่ไหวแล้วล่ะ"ฟีฟ่าเดินเดี้ยงออกมายังชานหน้าบ้านทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนตัวเก่ง เวลาตีห้ากว่าแล้วแต่ท้องฟ้ายังคงมืดสนิทและไม่มีวี่แววว่าพระอาทิตย์จะขึ้นสักนิด ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เหมือนเวลากลางคืนจะยาวนานกว่าปกติ"ไม่ไหวก็ไม่ต้องไป ไม่มีนายหลวงปู่ยังมีลูกศิษย์อีกเยอะ""ชิ!"ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้สักทองและมองออกไปรอบตัวบ้าน กิ่งไผ่สูงท่วมหัวโอนเอนไปตามสายลมดูน่ากลัวจนต้องลุกไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ กับภพภูมิ"เป็นอะไรอีกล่ะ""ตะ..ต้นไผ่มันโยกไปโยกมา น่ากลัวยังไงก็ไม่รู้"ดวงตาคู่คมมองออกไปตามที่ฟีฟ่าบอก แม้ไม่เห็นเป็นตัวเป็นตนแต่ก็รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ในเมื่อต่างคนต่างอยู่เขาจึงไม่ทำอะไร และบริเวณเรือนไม้สีขาวก็ได้ทำการลงอาคมเพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้เอาไว้แล้ว"ถ้ากลัวแล้วจะมองทำไม กลัวมากก็มานั่งสมาธินี่"เอะอะก็จะให้นั่งสมาธิอยู่เรื่อย ไอ้ฟ่าไม่เอาด้วยหรอก แต่อีกคนไม่สนใจหลังก้มกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าสู่สมาธิโดยมีฟีฟ่านั่งอยู่ข้าง ๆ คนไม่มีอะไรทำก็เริ่มง่วงขึ้นมาสุดท้ายก็ฟุบหลับไปบนตักของภพภูมิเ
[6]นายต้องเป็นหมอนข้างให้ฉันฟีฟ่าย่องขึ้นเรือนโดยมีเป้าหมายอยู่ที่กล่องแซนด์วิชบนโต๊ะไม้สักทอง เจ้าของนั่งหันหลังให้แบบนี้ยังไงก็ไม่มีทางเห็นแน่นอน เสร็จไอ้ฟ่าล่ะมือเล็กคว้ากล่องแซนด์วิชได้สำเร็จ ตั้งใจจะเอาลงไปกินข้างล่างเป็นมื้อเที่ยง บังเอิญเหลือบไปเห็นเห็นอกไก่ไร้ไขมันชิ้นใหญ่ในกล่องอาหารคลีนก็เกิดอยากกินขึ้นมา คิดว่าเอาไปแค่ชิ้นเดียวอีกฝ่ายคงไม่รู้หรอก "เสร็จโจร อิอิ.."มัวแต่ย่ามใจค่อย ๆ เปิดกล่องจึงไม่รู้สึกตัวว่าร่างสูงได้มายืนอยู่ด้านหลังแล้ว และกำลังมองพฤติกรรมของเขาอยู่"ทำอะไรน่ะ!"เสียงทุ้มดังขึ้นทำเอาฟีฟ่าตกใจจนแทบทำของในมือร่วง ดีที่ว่าคว้าเอาไว้ได้ทัน เขาหันกลับมามองร่างสูงและยิ้มแหย ๆ"นะ.. นั่งสมาธิเสร็จแล้วหรือครับ แฮะ ๆ""ถ้ายังไม่เสร็จฉันจะจับขโมยได้เหรอ"ร่างสูงโน้มลงต่ำและยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ดวงตาคู่คมมองกล่องแซนด์วิชที่อยู่ในมือของฟีฟ่าและยิ้มเหี้ยม..วิ่งสิครับจะรออะไร!!ฟีฟ่าถอยหลังหนีและรีบวิ่งลงจากเรือน ยังไม่พ้นบันไดขั้นแรกก็ถูกมือหนาคว้าคอเสื้อเอาไว้ได้ นี่สินะ..ข้อเสียเปรียบของคนขาสั้น ฟีฟ่าถูกคนตัวใหญ่กว่าเหวี่ยงกระเด็นกลับขึ้นไปบนเรือน แผ่นหลังบาง
[5] มาเฟียหนุ่ม "ไอ้โรคจิต ทำไมถึงไม่ใส่กางเกงใน ฮะ!" ภูมิพูดขึ้นเสียงดังพลางชี้นิ้วไปยังร่างเล็กที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงข้ามกัน ทั้งพยายามละสายตาจากสิ่งตรงหน้าด้วยการมองเลยไปทางด้านหลังของฟีฟ่า "แล้วพี่จะตกใจทำไมล่ะ ก็เมื่อคืนพี่เป็นคนเร่งฟ่าให้เร็ว ๆ เองนี่ ฟ่าก็ใส่ไม่ทันนะสิ แต่โล่ง ๆ แบบนี้ก็สบายดีนะ" ฟีฟ่าสวมกางเกงวิ่งขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโคร่งซึ่งเจ้าตัวมองยังไงก็เรียบร้อย เขาลุกถกขากางเกงขึ้นจนแก้มก้นขาวโผล่ คนพี่ทนดูไม่ไหวต้องสั่งให้รีบเอาลง "อย่าถก เอาลงเดี๋ยวนี้!" เมื่อคืนฟีฟ่ากลัวโดนทิ้งจึงรีบแต่งตัวเลยไม่ทันได้สวมกางเกงชั้นใน และกางเกงวิ่งสมัยนี้ก็สั้นเหลือเกิน ขนาดไข่เล็ก ๆ ของไอ้ฟ่าก็ปิดแทบไม่มิด ไหนจะด้านข้างก็เป็นเพียงผ้าซ้อนทับกันไว้เพื่อความคล่องตัวของนักวิ่ง ตัวหนึ่งก็ไม่ใช่ถูก ๆ ซับในก็เสือกไม่มีอีก นั่งทีก็เปิดจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว "ที่จริงมันมีกางเกงซับในนะ แต่ฟ่ารำคาญมันสีกับไข่เลยไปเอาออก" "ฉันไม่ได้ถาม ถ้านายจะใส่ไอ้กางเกงขาสั้นแบบนี้ก็สู้แก้ผ้าไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ ไข่เล็ก ๆ ยังปิดไม่มิดเลย" "เสียมารยาท ไข่ฟ่าไม่ได้เล็ก ๆ สักหน่อย และอีกอย่างชุดนี้ก็ของ
[4] คนดวงตกสองคน เมื่อได้ยินว่าเป็นคำสั่งของหลวงปู่ภูมิก็ขัดไม่ได้ จำต้องให้ฟีฟ่าอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ในฐานะคนมาก่อนจึงออกกฎให้ฟีฟ่าปฏิบัติตาม มิฉะนั้นจะไม่ให้อยู่ด้วย "มึงชื่ออะไร" เสียงทุ้มถามขึ้น "ฟะ..ฟีฟ่า" "พูดกับคนอายุมากกว่าให้มันดี ๆ หน่อย ถ้าไม่เชื่อฟังก็กลับไปซะ" คนอะไรแม่งขู่เก่งชะมัด สงสัยจะมีญาติเป็นงูแน่ ๆ ฟีฟ่าบ่นอุบอิบก่อนแนะนำตัวเองอีกครั้ง แม้น้ำเสียงจะไม่ได้รื่นหูแต่ก็ใช้คำที่ฟังแล้วทำให้ปลายตีนของอีกฝ่ายกระตุกน้อยสุดเป็นพอ และยังบอกคนเป็นผู้ใหญ่ว่าถ้าอยากให้คนอื่นพูดดีด้วยตัวเองก็ต้องพูดก่อนสิ โดนตอกหน้ากลับคนเป็นผู้ใหญ่ถึงกับกัดฟันกรอด เถียงไม่ออกเพราะเด็กมันพูดจริง "ว่าแต่มึง เอ๊ย! ว่าแต่นายเถอะ ไม่คิดจะบอกชื่อตัวเองบ้างหรือไง เอาแค่ถามคนอื่นแต่ชื่อตัวเองกลับไม่ยอมบอกมันเสียมารยาทนะไม่รู้หรือไง" ฟีฟ่าถือโอกาสว่ากลับไปบ้าง "ฉันชื่อภูมิ ให้นายเรียกฉันว่าพี่ภูมิ เพราะถึงยังไงฉันก็อายุมากกว่านายหลายปี" พอคำพูดเปลี่ยนก็ทำให้คนตรงหน้าดูดีขึ้นมา น้ำเสียงห้วนไม่น่าฟังก็มีเสน่ห์ขึ้น เสียงทุ้มต่ำติดแหบนิดหน่อยทำให้ฟีฟ่านึกถึงเสียงกระซิบข้างใบหูเมื่อคืนนั้นก็เกิดหน
[2] ค่ำคืนที่แสนเร่าร้อน รถสปอร์ตคันหรูขับด้วยความเร็วกว่าปกติ ในขณะที่ดวงตาคู่คมก็มองหาโรงแรมที่อยู่ใกล้ที่สุดไปด้วย ครั้นพอเจอที่หมายก็เลี้ยวเข้าไปโดยไม่ลังเล ถึงจะเป็นแค่ม่านรูดแต่สมัยนี้ก็ตกแต่งอย่างดี ทั้งยังมีของเล่นและอุปกรณ์ครบครันแถมยังสะอาดอีกด้วย เอี๊ยดดดด!!! เสียงเหยียบเบรกดังสนั่นไปแปดห้องสิบห้องจนคนข้างในต้องแง้มประตูออกมาดูว่าใครมันมาทำให้ตกใจจนเกือบแทงผิดรู แม้แต่ฟีฟ่ายังตกใจจนนั่งอ้าปากค้าง ยาที่เขากรอกใส่ปากไอ้กล้ามโตออกฤทธิ์เร็วอย่างที่เพื่อนเลิฟบอกไว้จริง ๆ หลังม่านถูกรูดปิดสนิทฟีฟ่าก็ถูกท่อนแขนกล้ามเป็นมัดแบกเข้าเอวกระเตงลงจากรถและพาเข้าไปในห้องทันที ร่างเล็กผอมบางถูกโยนลงบนเตียงสปริงจนกระเด้งกระดอนไปสามสี่ตลบถึงหยุดอยู่ในท่าขาชี้ฟ้า ทำเอาคนเมาแทบอ้วกออกมาดีที่กลืนลงคอไปได้ทัน ฟีฟ่ามองใบหน้าที่เริ่มไร้สติของอีกฝ่าย ขอบตาดำคล้ำราวคนอดนอนทำให้ดวงตาคู่คมดูน่ากลัว ลมหายใจหอบเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย จ้องมองเขาด้วยสายตาที่ราวกับจะกลืนกินลงคอซะเดี๋ยวนั้น ทำเอาฟีฟ่ากลัวจนจู๋แทบหด "จะ..ใจเย็นก่อน เดี๋ยวกูจะพามึงไปสวรรค์เองนะ" เขาพยายามพูดอย่างใจเย็นแต่ดูเหม