แชร์

9. ชายปริศนาในป่าไผ่

ผู้เขียน: Badberry
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-20 17:56:51

[9]

ชายปริศนาในป่าไผ่

"เลิกทำหน้าแบบนั้นสักทีเถอะ เห็นแล้วกินข้าวไม่ลง"

เสียงทุ้มว่าคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกัน มองปากที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ แต่ตานี่ขวางเชียว ก็นะ..ลองมาถูกเหวี่ยงดูบ้างมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าเจ็บแค่ไหน นอนด้วยกันมาอาทิตย์กว่าแต่ทั้งตัวไอ้ฟ่านี่มีแต่รอยช้ำเต็มไปหมด

"ไม่รู้ล่ะ ก็ใครใช้ให้พี่มาทำร้ายฟ่าก่อนล่ะ!"

"ก็นายอยากคิดไม่ดีกับฉันก่อนทำไม หน็อย..คิดจะลักหลับฉันเป็นครั้งที่สองเหรอ เอาไว้ชาติหน้าเถอะ วันนั้นถ้านายไม่ใช้ยาปลุก บอกไว้เลยนะว่าขนสักเส้นของฉันนายก็ไม่มีทางได้เห็นหรอก!"

"แหวะ..อยากเห็นตายล่ะ" ฟีฟ่าพึมพำเบา ๆ เพราะกลัวถูกเหวี่ยงลงจากเรือน ขี้เกียจเถียงด้วย ทั้งที่เมื่อคืนตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนถอดกางเกงของเขาออกแท้ ๆ

แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ กะอีแค่มีเซ็กซ์ครั้งเดียวทำไมต้องอาฆาตกันขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ ฟ่าไม่เข้าใจจริง ๆ เป็นผู้ชายซะเปล่า ตัวก็ใหญ่อย่างกับควายแต่ใจแคบชะมัด ทั้งที่ตอนนั้นตัวเองก็เป็นฝ่ายได้เสียบแท้ ๆ ไอ้หัวหยิกเอ๊ย..

อ้อ..อีกอย่าง บอกไว้เลยนะถ้าคืนนั้นไม่เมาจนขาดสติคนอย่างฟีฟ่าไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้เด็ดขาด

ถึงจะงอนแต่ฟีฟ่าก็กินข้าวจนหมดเกลี้ยงแถมยังกินส่วนของภูมิไปด้วยเพื่อให้หายแค้น และพรุ่งนี้ยังขอของหวานเพิ่มอีกซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ขัดอะไร

วัน ๆ หนึ่งของฟีฟ่าแทบไม่มีอะไรทำ หลังไปบิณฑบาตกับหลวงปู่แล้วที่เหลือก็มีแต่สวดมนต์กับนั่งสมาธิซึ่งเป็นอะไรที่ฟีฟ่าไม่ถนัดเลย อย่างวันนี้ต้องนั่งสมาธิในตอนบ่าย ไม่ถึงสิบนาทีก็ฟุบลงบนตักแกร่งอีกตามเคย

ดวงตาคู่คมลืมขึ้นมองคนตัวเล็กที่นอนหนุนตักอย่างสบายใจ เสียงกรนน่ารำคาญจนอยากจะโยนตัวมันออกไปไกล ๆ เหมือนทุกครั้งแต่ก็ไม่ทำเพราะจู่ ๆ ก็เกิดง่วงขึ้นมาบ้าง สงสัยจะติดโรคขี้เกียจจากไอ้เด็กโรคจิตนี่แน่ ๆ

ร่างสูงเปลี่ยนอิริยาบถเพื่อพักสายตา วางศีรษะลงบนเบาะรองนั่ง ดึงร่างเล็กมากอดแทนหมอนข้างและหลับตาลง ไม่นานก็หลับตามไปอย่างง่ายดาย

ทั้งคู่นอนหลับอยู่ชานหน้าเรือน จนตะวันเริ่มคล้อยภพภูมิจึงได้ลืมตาขึ้นซึ่งเป็นเวลาผีตากผ้าอ้อมพอดีจึงปลุกฟีฟ่าให้ตื่น เกรงว่าถ้านอนตอนนี้ไอ้คนกลัวผีอาจได้เห็นผีเข้าจริง ๆ ก็ได้

"ฟ่า..ตื่นได้แล้ว"

มือหนาเขย่าร่างเล็กเพื่อปลุกให้ตื่น ฟีฟ่างัวเงียลุกขึ้นและมองไปทางเสาตกน้ำมัน เห็นเงาเลือนรางของหญิงสาวสวมสไบนั่งพับเพียบอยู่ตรงนั้นและส่งยิ้มหวานมาให้

..ไอ้หัวหยิกนี่ก็ร้ายเหมือนกันนะ ฉวยโอกาสตอนเขาหลับแอบพาผู้หญิงขึ้นมาบนเรือนซะด้วย

เขาคิดพลางมองหน้าภพภูมิทั้งที่ยังตื่นไม่เต็มตา

"มองอะไร ขนลุก! รีบตื่นและก็ลงไปกวาดลานหน้าบ้านได้แล้ว"

ภพภูมิสั่งเสียงเขียวและหันไปมองยังเสาตกน้ำมัน หญิงสาวในชุดสไบก็หายวับไปทันที

ใบไผ่ปลิดปลิวจนเต็มลานหน้าเรือนไม้สีขาว จะกวาดเท่าไรก็ไม่หมดสักที ไหนจะดอกลีลาวดีอีกขยันร่วงกันจริง ๆ

ฟีฟ่ายืนหาวหวอดใหญ่พลางกวาดลานไปด้วย จากใบไผ่กองเล็ก ๆ ก็เริ่มใหญ่ขึ้น

..เด็กคนนี้น่ารักจัง ฉันล่ะอยากพาไปอยู่ด้วยจริงๆ..

..ถ้าหล่อนไม่กลัวพ่อรูปหล่อคนนั้น ก็ลองดูสิ..

น้ำเสียงเยือกเย็นพูดคุยกันอยู่บนแคร่ใต้ต้นลีลาวดี พอเหลือบขึ้นไปบนเรือนก็ประสานเข้ากับดวงตาแข็งกร้าวที่มองลงมาจึงรีบสลายร่างไป

หลังพระอาทิตย์ตกดิน ก็เป็นเวลานั่งสมาธิก่อนเข้านอน แต่วันนี้หลังอาบน้ำเสร็จภพภูมิได้ให้ฟีฟ่าสวมชุดขาวและสะพายย่ามเอาไว้

"วันนี้ไม่ต้องนั่งสมาธิเหรอ?"

"คืนนี้เราจะเข้าไปในป่าช้ากัน" มือหนาส่งเทียนไขให้ฟีฟ่าถือไว้

"ป่าช้า!! ไม่เอาฟ่าไม่ไปเด็ดขาด พี่ก็รู้ว่าฟ่ากลัวผียังจะให้ไปหาผีอีกเหรอ!"

ฟีฟ่าจะวิ่งกลับขึ้นเรือนแต่ถูกคว้าคอเสื้อเอาไว้และดึงตัวกลับมายืนที่เดิม

"หลวงปู่สั่งมา คืนนี้ให้พวกเราไปนั่งสมาธิในป่าช้าเพื่อแผ่ส่วนบุญให้ผีไร้ญาติ"

ศพไร้ญาติที่ป่าช้าแห่งนี้มีจำนวนไม่น้อยและถูกฝังติด ๆ กันเหลือเพียงทางเดินเล็ก ๆ เท่านั้น ที่ผ่านมาฟีฟ่าเห็นแค่หลุมศพที่อยู่รอบเรือนไม้สีขาว เขายังไม่เคยเดินไปด้านหลังป่าไผ่ที่ทั้งมืดและน่ากลัวแม้จะเป็นในเวลากลางวันก็ตาม

"ไม่ต้องกลัว ฉันจะคอยอยู่ข้าง ๆ นายเอง"

ถึงจะพูดแบบนั้นแต่คนกลัวผียังไงก็กลัวอยู่ดี รู้ตัวอีกทีฟีฟ่าก็วิ่งหนีขึ้นเรือนไปแล้ว มือหนากำแน่นจนเส้นเลือดปูด เส้นเครียดผุดขึ้นตรงหน้าผากก่อนเดินตามขึ้นไป

"ถ้านายไม่ลงมาดี ๆ ฉันจะเอานายไปฝังที่หลังป่าไผ่ คอยดู!"

เพียงเท่านี้ร่างเล็กก็รีบวิ่งลงมาแทบไม่ทันและยอมไปด้วยกันแต่โดยดี

ฟีฟ่าเดินตัวติดกับภพภูมิ มือหนึ่งจับชายเสื้ออีกมือหนึ่งถือเทียนไขไว้ เปลวไฟจากแสงเทียนให้ความสว่างเพียงน้อยนิดแต่ให้ความน่ากลัวเต็มคาราเบล

"เดินดี ๆ สิ ไฟไหม้แขนฉันหมดแล้ว!"

ภพภูมิเสียงเขียวเมื่อถูกเปลวไฟจากเทียนไขลนเข้าที่ต้นแขนอยู่หลายครั้ง ถ้ามันไหม้โดนแขนเสื้อเขาคงโดนฌาปนกิจไปแล้ว

"ก็ฟ่ากลัวนี่ อีกอย่างทำไมพี่ถึงใช้ไฟฉายคนเดียวล่ะ"

ฟีฟ่าต้องสวมชุดขาวสะพายย่าม ใส่รองเท้าแตะคีบและถือเทียนไข ในขณะที่ภพภูมิสวมเสื้อเชิ้ตกางเกงอย่างเท่ สวมรองเท้าหนังสีดำและถือกระบอกไฟฉาย ส่วนข้าวของที่เตรียมมาด้วยก็ใส่ย่ามให้ฟีฟ่าสะพายไว้

"เป็นแค่คนอาศัยอย่าเรื่องมากนักเลย รีบเดินได้แล้วเดี๋ยวจะดึก"

ทั้งคู่เดินพ้นเขตอาคมของเรือนไม้สีขาวออกมาแล้ว ตอนนี้เบื้องหน้ามีเพียงหลุมศพจำนวนมากปรากฏอยู่ ฟีฟ่าอยากจะเป็นลมแต่กลัวถูกทิ้งไว้ จำต้องฝืนทำใจแข็งหยิบผ้าออกมาปูเพื่อนั่งสมาธิ มือเล็กสั่นจนผ้าที่ปูไม่เรียบ พอร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งขัดสมาธิเท่านั้น เขาก็กระโดดไปนั่งเบียดทันที อีกนิดก็จะนั่งบนตักแล้ว

"จะมานั่งเบียดทำไม ถอยออกไปหน่อย มันอึดอัดไม่รู้หรือไง!"

"มะ..ไม่เอา ฟ่ากลัว.." ตีให้ตายไอ้ฟ่าจะไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น มือเล็กคล้องแขนแกร่งไว้แนบแน่น

เป็นแบบนี้ใครจะนั่งสมาธิได้ ภพภูมิก็เช่นกัน ร่างสูงลุกขึ้นและบอกให้ฟีฟ่าตามมา เขาเดินไปทางหลุมศพหลุมหนึ่งที่เพิ่งถูกนำมาฝั่งเมื่อไม่กี่วัน ดินยังไม่ได้กลบจึงมองเห็นโลงไม้ชัดเจน ฟีฟ่ามองลงไปแล้วลมแทบจับ

"ไปเปิดฝาโลงออก!"

ภพภูมิออกคำสั่งเสียงเข้มโดยไม่สนใจใบหน้าไร้สีเลือดของคนกลัวผี ฟีฟ่ากลัวจนร้องไห้ออกมาและไม่ยอมทำตามที่อีกฝ่ายบอก ทั้งยังต่อว่าคนใจร้ายใจดำอีก

"ไม่เอา..ฟ่าไม่ไป..ไอ้คนเลือดเย็น รู้ว่าเค้ากลัวผียังจะแกล้งอีก คอยดูนะถ้าฟ่าหัวใจวายตายจะตามไปหักคอถึงบ้านเลย ฮือ.."

"ฉันบอกให้ไปไง ไม่งั้นฉันจะจับโยนลงไปนะ ของแบบนี้เห็นบ่อย ๆ จะได้ชิน"

"ใครจะชินวะไอ้พี่บ้า! ยังไงฟ่าไม่มีทางเปิดโลงดูเด็ดขาด"

ภพภูมิตั้งใจจะฝึกฟีฟ่าให้เลิกกลัวผี แต่คนกลัวยังไงก็กลัววันยังค่ำ ฟีฟ่าดิ้นหนีจนทำเทียนไขหลุดมือ ตอนนี้จึงเหลือเพียงแสงสว่างจากไฟฉายในมือของภูมิเท่านั้น

"ฟ่าอย่าวิ่ง มันอันตราย!"

คนตัวเล็กกลัวจะถูกจับโยนลงไปในหลุมจึงวิ่งหนีทั้งที่ไม่รู้ทาง ด้วยความกลัวทำให้ไม่ได้ยินเสียงตะโกนไล่หลัง ภพภูมิเห็นท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งตามไป ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและฟีฟ่าได้คลาดสายตาไปตอนไหนก็ไม่รู้

ฟีฟ่าแทบจะหลับตาวิ่งโดยไม่รู้ว่าทางในป่าช้าแห่งนี้เชื่อมถึงกันทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่บริเวณต้องห้ามอย่างป่าไผ่

"ทะ..ที่ไหนกันเนี่ย"

เขาเหมือนจะหลุดเข้ามาอีกโลกหนึ่ง พอหันหลังกลับก็พบว่าทางที่เพิ่งวิ่งมาได้หายไปเสียแล้ว รอบตัวแม้จะไม่มีหลุมศพให้เห็นแต่บรรยากาศกลับน่ากลัวยิ่งกว่าจุดที่ภพภูมิพาเขาไปนั่งสมาธิเสียอีก

เอี๊ยดดดด..อี๊ดดดด..

ร่างเล็กสะดุ้งทุกครั้งยามลมพัดกิ่งไผ่เสียดสีกันจนเกิดเป็นเสียงโหยหวน ต้นไผ่สูงท่วมหัวโยกไหวไปมามองเห็นเป็นรูปร่างคล้ายคน คนจิตอ่อนอย่างฟีฟ่าถึงกับแข้งขาอ่อนจะเป็นลมเสียให้ได้ เขาพาร่างที่สั่นเทาไปนั่งซุกอยู่ใต้กอไผ่ต้นใหญ่และหลับตาแน่นด้วยความกลัว

..นะ..นี่คือความฝัน ไอ้ฟ่ามึงตื่นสิ รีบตื่นเดี๋ยวนี้!..

ฟีฟ่าพยายามบอกตัวเองว่านี่คือความฝัน ถ้าตื่นขึ้นมาเขาคงนอนอยู่ในอ้อมกอดของภพภูมิเหมือนทุกวัน

หนุ่มวัยเบญจเพสส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งป่าช้า ท่ามกลางความมืดมิดฟีฟ่าได้ตกเป็นเป้าสายตาของสิ่งที่ไร้ชีวิตบริเวณนั้น พวกมันต่างต้องการผู้ที่จะมาเป็นตัวตายตัวแทนเพื่อจะได้ไปผุดไปเกิดสักที โดยเฉพาะวิญญาณร้ายที่มีดวงตาสีแดงก่ำ มันแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าต้องการชีวิตคนตรงหน้านี้ และด้วยมนต์ดำที่แกร่งกล้าเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ทำให้วิญญาณชั้นต่ำทั้งหลายต่างไม่กล้าเข้ามาแย่งเหยื่อกับมัน สายตามุ่งร้ายจับจ้องไปยังร่างเล็กและพร้อมพุ่งออกไปยังเป้าหมายทุกเวลา

"ดึก ๆ ดื่น ๆ มาทำอะไรแถวนี้ ไม่กลัวผีหลอกเอารึ?" น้ำเสียงทุ้มต่ำฟังนุ่มนวลถามขึ้น

ฟีฟ่าหรี่ตาขึ้นเพียงเล็กน้อยเพื่อดูว่าใครกำลังพูดกับตน พอเห็นว่าเป็นคนจึงค่อยโล่งใจ คิดว่าเป็นชาวบ้านแถวนี้มาหาหน่อไม้ตอนกลางคืน

"กะ..กลัวสิ.."

ร่างที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของฟีฟ่าเป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้น แต่บรรเหล่าวิญญาณร้ายรวมถึงวิญญาณชั้นต่ำที่จับจ้องฟีฟ่าอยู่ต่างไม่กล้าย่างกรายเข้ามาใกล้รัศมีของเขา พวกมันมีทีท่าหวาดกลัวต่อชายผู้นี้และรีบสลายร่างไปอย่างรวดเร็ว

ร่างเล็กลุกขึ้นยืนพลางใช้มือปัดฝุ่นที่ติดอยู่บนชุดขาวออก ถ้าทำเลอะมันจะซักยาก ไอ้หัวหยิกก็งก ต้องอยู่ด้วยกันถึงสองเดือนกลับให้มาแค่สองชุดเท่านั้น

"แล้วเจ้า เอ่อ..แล้วเธอมาทำอะไรอยู่แถวนี้ล่ะ กลางค่ำกลางคืนมันอันตรายนะ บิดามารดาของเธอไม่บอกรึ"

"ฮะ.."

คำพูดของคนตรงหน้าฟังแปร่ง ๆ ยังไงก็ไม่รู้ ฟีฟ่าคิดว่าเป็นภาษาท้องถิ่นของคนแถวนี้จึงไม่ได้สงสัยอะไร คิดแต่ว่าผู้ชายหมู่บ้านนี้หน้าตาผิวพรรณช่างผุดผ่องเสียเหลือเกิน ราวกับกินหลอดแอลอีดีเข้าไปยังไงยังนั้น เพราะในความมืดยังมองเห็นชัดเจนราวกับเปล่งแสงได้ สงสัยจะเป็นญาติกับหิ่งห้อยแน่ ๆ

ฟีฟ่าเพียงแค่คิดในใจ แต่ชายหนุ่มตรงหน้ากลับหลุดหัวเราะออกมาในทันที

"ฮ่า ๆ ๆ เราไม่ได้เป็นญาติกับหิ่งห้อยหรอกนะ"

"เอ๊ะ?"

"ไม่มีอะไร เธอพูดต่อเถิด"

"ผมโดนเพื่อนแกล้ง พี่เป็นคนแถวนี้เหรอ รู้จักเรือนไม้สีขาวมั้ย ช่วยพาผมไปส่งที่นั่นทีสิ"

พูดแล้วโมโห ถ้าไอ้หัวหยิกไม่บังคับให้ไปเปิดโลงดูศพในนั้นเขาคงไม่ตกใจกลัวจนต้องวิ่งเตลิดมาแบบนี้ และสุดท้ายก็หลงทางจนได้

"เราว่าเธอรออยู่ตรงนี้จะดีกว่า สหายของเธอกำลังเดินทางมารับ นี่ก็คงใกล้ถึงแล้ว"

"พี่รู้ได้ไง ป่านนี้กลับคงกลับเรือนไปนอนตีพุงแล้ว"

คนใจดำแบบนั้นคงไม่มาตามหาเขาหรอก ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่ฟีฟ่ากลับได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงตะโกนเรียกชื่อตนดังแว่วมาในความมืด สักพักร่างสูงก็มายืนอยู่ต่อหน้า เนื้อตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งที่อากาศเย็นจัด เห็นแบบนั้นแล้วก็อดดีใจไม่ได้ ไม่คาดคิดว่าภพภูมิจะมาตามหาตนจึงรีบวิ่งเข้าไปหา

"พะ..พี่ภูมิ ฟ่าอยู่นี่ โอ๊ย!!"

ฟีฟ่าวิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจกลับถูกเขกกะโหลกไปโป๊กใหญ่ ทำเอาร้องจนป่าช้าแทบแตก

"ฉันบอกให้หยุดไม่ได้ยินหรือไง ซี้ซั้ววิ่งแบบนี้มันอันตรายนะ นายนี่มันโง่จริง ๆ"

"กะ..ก็ฟ่ากลัวนี่"

มือเล็กลูบหัวป่อย ๆ ในขณะที่ภพภูมิถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ดวงตาคู่คมมองไปรอบตัวที่เป็นป่าไผ่พร้อมกับเงียบเสียงลงชั่วครู่

"นายมาที่นี่ได้ยังไง?"

"ฟ่าก็ไม่รู้เหมือนกัน"

ฟีฟ่าวิ่งมาตามทางที่มีใครบางคนตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อชักนำให้เขามายังจุดนี้ ระหว่างที่วิ่งฟีฟ่ารู้สึกถึงอันตรายที่อยู่รอบตัวตลอดเวลา กระทั่งผู้ชายคนนี้ปรากฏตัวขึ้นแรงกดดันและความอึดอัดทั้งหลายก็หายไปทันที

"จริงสิ..พี่คนนี้เขามาอยู่เป็นเพื่อนฟ่าด้วยนะ"

หันมาอีกทีชายหนุ่มร่างเรืองแสงที่เป็นญาติกับหิ่งห้อยก็หายไปซะแล้ว ฟีฟ่าคิดว่าอีกฝ่ายคงจะกลัวภพภูมิจึงแอบหนีไปก่อน

"หายไปไหนแล้วล่ะ?"

"ใคร?" ภูมิถามเสียงเครียด

"คงเป็นชาวบ้านแถวนี้ละมั้ง"

ภพภูมิเงียบลงอีกครั้ง รอบ ๆ ป่าช้าแห่งนี้ไม่มีบ้านคนอาศัยอยู่สักหลัง เขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับฟีฟ่าแต่บอกให้คนตัวเล็กรีบกลับเรือนเพราะยิ่งดึกกลิ่นอายของวิญญาณก็ยิ่งรุนแรงขึ้นซึ่งถ้าได้รับเข้าไปมาก ๆ จะไม่เป็นผลดีต่อร่างกายของมนุษย์ ยิ่งคนจิตอ่อนอย่างฟีฟ่าอาจได้รับผลกระทบได้

"ทำไมไม่รีบตามมาล่ะ ชักช้าเดี๋ยวก็ทิ้งไว้ตรงนี้เลย"

"ฟ่าเดินไม่ไหว พี่ภูมิให้ฟ่าขี่หลังออกไปหน่อยนะ"

"ห๊า! ทำไมฉันต้องให้นายขี่หลังด้วยล่ะ นี่นายกำลังหาเรื่องกอดฉันใช่มั้ย ไอ้เด็กโรคจิต!"

ภพภูมิทำหน้าตาขยะแขยงเสียเต็มประดาเมื่อต้องถูกเนื้อต้องตัวฟีฟ่า แต่เพราะความรู้สึกผิดที่บังคับให้ไปเปิดโลงศพจึงยอมให้อีกฝ่ายขึ้นหลังแต่โดยดี

ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อให้คนตัวเล็กขี่หลังและแบกพากลับเรือน เขาใช้เส้นทางที่อ้อมไปทางด้านหลังที่ทั้งมืดและมีแต่ต้นไผ่สูงท่วมหัว

ตลอดทางกลับเรือนได้มีดวงจิตชั่วร้ายติดตามพวกเขากลับมาด้วย หลายครั้งที่มันพยายามพุ่งเข้ามาทำร้ายแต่ถูกพลังงานบางอย่างซัดกระเด็นออกไป ทำให้ไม่สามารถเข้าใกล้ทั้งสองคนได้

"รีบไปเปลี่ยนชุดแล้วรีบมานอนได้แล้ว" ภพภูมิพูดขึ้นเมื่อกลับถึงเรือน ดวงตาคู่คมมองชุดขาวที่เปื้อนดินพลางถอนหายใจออกมา

ทั้งที่ออกจากเรือนไปตอนหัวค่ำ แต่เวลาตอนนี้กลับปาไปหลังเที่ยงคืน เป็นเพราะติดอยู่ในอีกห้วงเวลาหนึ่งนานเกินไปนั่นเอง

ฟีฟ่ากลับออกมาในชุดเก่ง ซึ่งภพภูมิดูเหมือนจะชินแล้วเพราะไม่ได้บ่นอะไร หลังปิดไฟก็ได้ดึงตัวฟีฟ่าเข้ามากอดไว้ ร่างเล็กนุ่มนิ่มและอบอุ่นทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม กำลังจะหลับอีกฝ่ายดันพลิกตัวเข้าหาและใช้ขากอดก่ายไว้ ทำให้ไข่เล็ก ๆ ของฟีฟ่าแนบเข้ากับหน้าขาแกร่ง เท่านั้นแหละ ภพภูมิถึงกับหายง่วงทันที

โครม!!

"โอ๊ย!!"

"ทำไมถึงไม่ใส่กางใน นี่นายคิดจะลักหลับฉันอีกแล้วใช่มั้ย!"

"ใช่ที่ไหนกันเล่า ฟ่ายังไม่ได้ซักผ้าต่างหาก"

ร่างเล็กถูกถีบลงจากฟูกและค่อย ๆ คลานกลับขึ้นมานอนตามเดิม ในความมืดทำให้เขาไม่ทันได้เห็นใบหน้าแดงฉานของภพภูมิและส่วนกลางของร่างกายที่แข็งขึ้น

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   10. คนหน้าคล้าย

    [10] คนหน้าคล้าย จากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฟีฟ่าไม่อยากมองหน้าภพภูมิอีกเลย คนใจดำ รู้ทั้งรู้ว่าเขากลัวผียังบังคับให้เปิดโลงดูศพและยังถีบตกฟูกอีก คิดแล้วน่าโมโหจริง ๆ คนตัวเล็กนั่งหันหลังให้ ในมือถือแซนด์วิชไข่ ปากก็เคี้ยวตุ้ย ๆ ไปด้วย "ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว คิดว่าน่ารักมากหรือไง" คนถูกว่าเพียงแค่เหลือกตามองและหันกลับไปกินแซนด์วิชต่อ คิดซะว่าได้ยินเสียงหมาเห่าหมาหอนละกัน ภพภูมินั่งไขว่ห้างพลางจิบกาแฟ มืออีกข้างก็ไถมือถือไปด้วย เห็นข้อความจากเท็นมะเข้ามา เมื่อคืนเพราะมีเรื่องวุ่นวายจึงไม่ทันสังเกตเห็น พอกดเข้าไปดูก็ขมวดคิ้วแน่น "ทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ" ร่างสูงลุกขึ้นและสั่งให้ฟีฟ่าไปเปลี่ยนชุดเพราะจะไปกราบหลวงปู่ด้วยกัน ฟีฟ่าดูดนิ้วหลังกินทุกอย่างหมดแล้ว แกล้งไปเช็ดมือกับเสื้อของภพภูมิและรีบวิ่งเข้าห้องก่อนโดนต่อย เขากลับออกมาในชุดขาวเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่คราวนี้ภพภูมิกลับบอกให้เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาแทน "แล้วไม่บอกแต่แรก เสียเวลาชะมัด" ฟีฟ่าบ่นอุบและกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง คราวนี้ออกมาในชุดทันสมัย ยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูเด็กกว่าเก่า จากนั้นจึงตามภพภูมิไปยังกุฏิของหลวงปู่ ซึ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   11. พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่

    [11] พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่ ภพภูมิกลับมายังจุดนัดหมายพร้อมกับยาทาแก้ฟกช้ำ เขาบีบยาจากหลอดใส่ปลายนิ้วและป้ายลงบนแก้มแดงอย่างเบามือ "ยิ่งขี้เหร่อยู่ ระวังอย่าให้มีแผลสิ" "ฟ่าไม่ได้หาเรื่องนะ ก็ไอ้ลุงนั่นอยู่ดี ๆ ก็มาดึงแขนฟ่าไว้ เจ็บจะตาย" พอได้ยินว่าชายวัยกลางคนที่มีเรื่องกับฟีฟ่านอกจากตบหน้าแล้วยังจับแขนเอาไว้อีกก็ยิ่งโมโห อยากจะโทรหาลูกน้องคนสนิทให้ตัดมือมันทิ้งไปด้วยเลย "จะซื้ออะไรมั้ย?" "ไม่ล่ะ" ฟีฟ่าปฏิเสธเพราะราคาสินค้าของที่นี่แต่ละอย่างไอ้ฟ่าเอื้อมไม่ถึงจริง ๆ ไม่รู้ภพภูมิคิดยังไงถึงพาเขามาที่แบบนี้ "อยากได้อะไรก็ไปดู เดี๋ยวฉันซื้อให้เอง" ภพภูมิเหมือนจะรู้ความคิดของฟีฟ่า เขาจึงเสนอเป็นเจ้าภาพจ่ายเงินให้ คิดว่าเป็นค่าตอบแทนให้กับหมอนข้าง ทำเอาคนน้องตาโต คิดว่าตัวเองหูฝาดไปซะอีกจนต้องถามซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ "จริงเหรอ ได้ทุกอย่างเลยเหรอ!" "จริงสิ" ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเปย์ให้ขนาดนี้ มีเหรอที่ไอ้ฟ่าจะพลาดโอกาสทอง ที่นี่มีของที่เขาอยากได้ตั้งหลายอย่าง ตั้งใจจะถล่มให้กระเป๋าฉีกเลย "พูดเองนะ อย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน" ฟีฟ่าเดินนำหน้าเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   12. บาร์ลึกลับแห่งหนึ่ง

    [12]บาร์ลึกลับแห่งหนึ่ง"พี่ภูมิ ฟ่าอยู่นี่!!"“อันตราย อย่าไป!!”ฟี่ฟ่ามุดออกจากใต้โต๊ะตั้งท่าจะวิ่งไปหาภพภูมิแต่ถูกภาคินคว้าข้อมือไว้เพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นมิตรหรือศัตรู จังหวะนั้นได้มีของแข็งไม่รู้ที่มาปาเข้าใส่ทำให้ต้องปล่อยมือจากฟีฟ่า ฟีฟ่าจึงฉวยโอกาสวิ่งเข้าไปหาภพภูมิทันทีร่างเล็กถูกอุ้มขึ้นนั่งคร่อมบนตัวถังรถเพราะหากให้ซ้อนท้ายกลัวจะโดนลูกหลงจากกระสุนปืนเอาได้ ฟีฟ่านั่งหมอบโดยมีภพภูมิคร่อมอยู่ด้านหลัง มือหนาบิดเร่งเครื่องและขี่รถฝ่าดงกระสุนออกไปอย่างรวดเร็วช่วงที่ภาคินกำลังให้ความสนใจกับหนุ่มนิรนามที่เข้ามาช่วยฟีฟ่า ธีร์ได้หันไปพยักหน้าให้ชายคนสนิทที่ยืนคุ้มกันอยู่ข้าง ๆ อีกฝ่ายพยักหน้ารับทราบคำสั่งและแยกตัวออกไปจากตรงนั้นทันทีรถบิ๊กไบค์คันสีดำสนิทขับขี่ด้วยความเร็วออกจากร้านอาหารริมแม่น้ำเข้าสู่ถนนสายหนึ่ง ฟีฟ่าถึงกับต้องหลับตาเพราะต้านแรงลมไม่ไหว ถ้าไม่มีภพภูมินั่งคร่อมเอาไว้ป่านนี้เขาคงปลิวลงข้างทางไปแล้วภพภูมิตั้งใจขี่รถกลับวัดแต่ดูจากเวลาแล้วคงจะไม่ทัน อีกอย่างเขารู้สึกเหมือนมีคนติดตามมาจึงเร่งความเร็วขึ้น อีกฝ่ายก็เร่งตาม เห็นท่าไม่ดีจึงเปลี่ยนเส้นทางไปยังย่านสถา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   13. หญิงสาวที่มาใส่บาตรในตอนเช้ามืด

    [13]หญิงสาวที่มาใส่บาตรในตอนเช้ามืด"พี่จะหลบทำไม เอาของพี่มาให้ฟ่าดูเดี๋ยวนี้นะ""บอกว่าอย่าเข้ามาไง!"ยิ่งไล่ฟีฟ่าก็ยิ่งแกล้งเข้าหา เขาต้องดูให้ได้ว่าภพภูมิก็แข็งตอนเช้าเหมือนกัน ฟีฟ่ามัวแต่ได้ใจคิดว่าเอาคืนคนพี่ได้สำเร็จ ที่ไหนได้รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับกดลงกับเตียงแล้ว"พะ..พี่จะทำอะไรน่ะ แหม..จริงจังไปได้ ฟ่าแค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง" ฟีฟ่าทำใจดีสู้เสือและพยายามดันตัวเองออกจากสองแขนที่กักขังตนไว้ แต่ดูท่าคงจะสู้แรงคนตัวใหญ่ไม่ไหว"อยากดูของฉันนักไม่ใช่เหรอ เอาสิ ฉันจะให้นายดูจนพอใจเลย!""มะ..ไม่เอา ฟ่าไม่ดูแล้ว"ภพภูมิไม่ได้แค่ให้ดูเต็มตา มือหนาได้ดึงกางเกงนอนลงไปไว้ใต้ก้นและงัดเอาเจ้าโลกออกมาสาวชักสองสามทีเพื่อให้ตื่นตัวเต็มที่ก่อนจะดึงมือของฟีฟ่ามาสัมผัสความแข็งแกร่งของมัน"เป็นไง แข็งพอที่ยัดใส่ก้นนายได้หรือยัง!""พี่ภูมิ..ฟ่าขอโทษ.."ฟีฟ่าหน้าแดงแปร๊ด แม้จะเคยเสียตัวให้กับภพภูมิแต่เรื่องก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วเขายังจำความใหญ่โตของภพภูมิได้เป็นอย่างดี มาสำนึกเอาตอนนี้ก็สายเสียแล้วฟีฟ่าหลับตาปี๋ นอกจากความร้อนที่ฝ่ามือแล้วก็รู้สึกถึงความนุ่มอุ่นที่ริมฝีปากจึงลืมตาขึ้นมองก็เห็นปากหยักทา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   14. ลูกน้องคนสนิท

    [14] ลูกน้องคนสนิทฟีฟ่าที่ปกติจะตื่นนอนเองไม่ได้วันนี้กลับลืมตาตั้งแต่ยังไม่ตีห้า ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดขาวและเตรียมย่ามเอาไว้ จากนั้นจึงได้ชวนภพภูมิลงไปล้างหน้าแปรงฟันด้วยกันเพราะข้างนอกฟ้ายังมืดอยู่เขากลัวโดนผีหลอก หลังเสร็จกิจวัตรก็พากันไปรอหลวงปู่ที่หลังวัด พอหลวงปู่มาถึงจึงติดตามออกไปบิณฑบาตฟีฟ่าเดินตามหลังหลวงปู่อย่างเคย วันนี้ดูเขาอารมณ์ดีต่างจากทุกครั้งจนเมื่อหันมาเห็นร่างสูงเดินอยู่ข้างหลัง ใบหน้าหวานก็บึ้งตึงขึ้นทันที"พี่จะไปไหนน่ะ วันนี้ไม่กลับไปรอที่เรือนเหรอ?""วันนี้ฉันจะไปกับหลวงปู่ด้วย""ว่าไงน่ะ?!!"ฟีฟ่าถามขึ้นด้วยความตกใจ ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะออกจากเรือนไปไหนนอกจากหลวงปู่สั่ง แต่ละวันไปไกลสุดก็แค่หลังป่าไผ่กับกุฏิของหลวงปู่เท่านั้น วันนี้ไม่รู้ไปโดนตัวไหนมาถึงได้ตามออกมาบิณฑบาตด้วย"นายจะตกใจทำไม ก่อนนายมาอยู่ที่นี่ฉันก็ช่วยหลวงปู่ถือของอยู่บ่อย ๆ"ภพภูมิว่าพลางขยับขึ้นมาเดินข้างกัน แต่คิดเหรอว่าคนอย่างฟีฟ่าจะกลัว ผัวก็ไม่ใช่? กระทั่งมาถึงบ้านหลังแรกก็พบหญิงสาววัยกลางคนกับลูกชายวัยมหาลัยสองคนมายืนรอใส่บาตร"นิมนต์เจ้าค่ะหลวงปู่"หญิงสาววัยกลางคนพนมมือเพื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   15. ฟีฟ่าถูกลักพาตัว

    [15] ฟีฟ่าถูกลักพาตัว เพิ่งผ่านเหตุการณ์เกือบถูกลักพาตัวมาหมาด ๆ ทำให้ฟีฟ่าไม่กล้าติดตามหลวงปู่ออกไปบิณฑบาตอีก ภพภูมิเองก็ไม่ได้บังคับเพราะหลวงปู่ยังมีลูกศิษย์อีกหลายคน ส่วนตัวเขาช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้อยู่กับเรือนและออกไปข้างนอกบ่อยกว่าปกติ พอฟีฟ่าถามว่าไปไหนก็ไม่ยอมบอก "วันนี้ก็ไปอีกแล้วเหรอ?" ฟีฟ่าถามขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงนั่งสวมถุงเท้าอยู่บนเก้าอี้ไม้สักทองตัวประจำ "อืม..ฉันจะกลับมาก่อนค่ำ นายอย่าออกไปไหนคนเดียวล่ะ" "รู้แล้วน่า อ้อ..เย็นนี้ฟ่าอยากกินพิซซ่ากับไก่ทอด พี่ซื้อมาฝากฟ่าด้วยนะ" ตอนนี้แค่ให้ลงจากเรือนฟีฟ่ายังไม่กล้าเลย ไปไกลสุดก็แค่ห้องน้ำและใต้ต้นลีลาวดีเท่านั้น "ได้สิ" หลังรับปากฟีฟ่าภพภูมิก็ลงจากเรือนไป ขณะเดินผ่านแคร่ใต้ต้นลีลาวดีก็ได้หันไปเห็นหญิงสาวในชุดสไบสองตนนั่งอยู่บนนั้นจึงเข้าไปหาพร้อมกำชับให้ดูแลฟีฟ่าให้ดีอย่าทำให้ตกใจกลัว และห้ามไม่ให้ใครเข้ามาในบริเวณเรือนไม้สีขาวแห่งนี้เด็ดขาด ...ไม่ต้องห่วง เราจะช่วยดูแลแฟนเจ้าให้เอง...นางตะเคียนพูดเสียงหวานพร้อมส่งสายตาให้ชายหนุ่ม ...นอกจากพวกเราสองตนแล้ว ยังมีท่านเทวดาสุดหล่อในป่าไผ่อีก ไม่ว่าผีหรือคนก็ไม่มีทางแตะต้อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   16. ภีม และ ภาคิน

    [16] ภีม และ ภาคินเวลาล่วงไปหลังตีสามภพภูมิก็ยังข่มตาไม่ลงแต่ก็พยายามจะนอนให้หลับสุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จจึงนอนลืมตาอยู่ในความมืดไปทั้งอย่างนั้น มือหนาวางลงข้างกายที่ว่างเปล่าอดที่จะคิดถึงหมอนข้างที่กอดนอนทุกคืนและเผลอเหวี่ยงเข้ามุมในตอนเช้าเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะลักหลับไม่ได้..พี่ภูมิ ช่วยฟ่าด้วย ฟ่าเข้าบ้านไม่ได้.."ฟีฟ่า!!?"ภพภูมิดีดตัวขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงเรียกของฟีฟ่าดังแว่วเข้ามา ตั้งใจฟังอีกครั้งให้แน่ใจก่อนลุกออกไปนอกห้องอย่างรีบเร่ง เปิดประตูออกไปก็พบคิรินกำลังยืนมองลงไปด้านล่างเพื่อหาที่มาของเสียงนั้น"นั่นเสียงของฟีฟ่า""คุณภพก็ได้ยินหรือครับ"..พี่ภูมิ พี่คิริน มารับฟ่าที ตรงนี้มันมืด ฟ่ากลัว..คิรินได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองจึงชะเง้อมองลงไปหาต้นเสียง เห็นเป็นเงาคนเดินไปมาอยู่นอกลาน ที่ไม่ลงไปดูเพราะภพภูมิสั่งไว้ว่าถ้าได้ยินเสียงแปลก ๆ ห้ามขานรับและถ้ายังไม่ถึงเวลาเช้าห้ามลงจากเรือนเด็ดขาด"ผมจะลงไปดูนะครับ""ไม่ต้อง"ภพภูมิห้ามคิรินเอาไว้และยืนมองฟีฟ่าตะโกนเรียกให้ช่วยอย่างน่าสงสาร ฟีฟ่าส่งเสียงเรียกอยู่พักใหญ่ พอเห็นว่าไม่มีใครลงจากเรือนก็ตวาดลั่นและด่าทอภพภูมิด้วยความไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   17. คนที่ถูกจับตามอง

    [17] คนที่ถูกจับตามองภพภูมิพาฟีฟ่าขึ้นมาบนห้องส่วนตัว ไม่ได้กลับมาหลายเดือนภายในห้องยังคงสะอาดและเป็นระเบียบเพราะคิรินคอยมาทำความสะอาดให้อยู่เรื่อย ๆฟีฟ่าเดินตามหลังเข้ามา ลอบสำรวจภายในห้องที่แทบไม่มีการตกแต่งอะไร เห็นใช้ชีวิตที่เรือนไม้แล้วคิดว่าอีกฝ่ายจะติดหรูมากกว่านี้เสียอีก"นายไปอยู่กับพี่ภีมได้ยังไง" ภพภูมิถามขึ้นเมื่ออยู่ลำพังภายในห้อง พลางมองเด็กแสบที่กำลังจับโน่นเล่นนี้ด้วยความอยากรู้โดยไม่ว่าอะไร"คะ..คือว่าฟ่า.."ฟีฟ่าอึกอักพร้อมวางภาพถ่ายสามพี่น้องที่อยู่ในมือลงที่เดิมก่อนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ภพภูมิฟังด้วยท่าทีสำนึกผิด เป็นเพราะเขาแอบหนีออกมาจากเรือนไม้สีขาวและโบกรถที่ผ่านมาด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชาวบ้านแถวนั้นเพื่อขอให้พาไปส่งยังท่ารถ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกที่ตั้งใจมาลักพาตัวเขา"ตอนที่ถูกจับขึ้นรถกระบะฟ่าคิดว่าจะไม่รอดแล้ว" ฟีฟ่าเล่าต่อขณะที่รถกระบะกำลังวิ่งไปตามถนน จู่ ๆ ได้มีรถยนต์หรูคันหนึ่งขับปาดเข้ามาจอดขวางด้านหน้าไว้ ตอนนั้นฟีฟ่าคิดว่ามีกลุ่มที่สามมาชิงตัวและคราวนี้คงได้ตายจริง ๆ แน่กระทั่งมีชายหนุ่มหน่วยก้านดีก้าวลงมาจากรถและเข้าเผชิญหน้ากับชายฉกรรจ์กล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03

บทล่าสุด

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   ตอนพิเศษ - เจย์ - ภาคิน

    ตอนพิเศษ - เจย์ - ภาคินแสงสียามค่ำคืนบนถนนบันเทิงเป็นสิ่งที่คนอย่างผมโปรดปรานมากที่สุด แม้อายุจะยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ผมก็สามารถตะลอนหาความสนุกได้โดยอาศัยเส้นสายของภูวเดชเดชานอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาเหนือมนุษย์แล้วด้วยความที่เป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูลทำให้ผมเป็นที่หมายปองของนักเที่ยวราตรีอย่างล้นหลาม สเปคของผมไม่ใช่สาวสวยหรือน่ารักแต่เป็นหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งผมไม่เคยขาดแคลนเลย แต่ที่โปรดปรานที่สุดก็คือคนสวยขาที่ร้อนแรงและพร้อมจะถ่างขาให้ผมตลอดเวลา"อื้มม..อ๊าา..คุณคิน แรง ๆ กระแทกผมให้แรงกว่านี้อีก อ๊าา.."ทุกครั้งหลังดีลกันในผับเรียบร้อยแล้วผมจะพาพวกเขาไปเริงรักต่อยังโรงแรมระดับห้าดาว ผมเปิดห้องที่มีราคาแพงที่สุดให้กับพวกเขาเพราะเสียงครางด้วยความเสียวซ่านจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ผมจนกระเจิง บ่อยครั้งที่ผมขยับโยกอย่างรุนแรงพวกหนุ่มหน้าหวานถึงกับเข่าทรุดไม่เป็นท่า และทุกครั้งหลังเสร็จกิจผมจะมีค่าตอบแทนให้จำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันความยุ่งยากที่จะตามมาผมจะไม่ยุ่งกับคนเดิมซ้ำเป็นหนที่สองเว้นเสียแต่ว่าเด็ดจริง ๆ ดังนั้นจึงมีหลายคนไม่พอใจกับการถูกผมเอาและทิ้งในครั้งเดียว ฉะนั้นผมจึงค่อนข้างระวังตัวเองเป

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   ตอนพิเศษ - มังกร - ภีม

    ตอนพิเศษ - มังกร - ภีมเมื่ออายุครบสิบสองปีทายาทของภูวเดชเดชาจะต้องเลือกคนคุ้มกันขึ้นมาหนึ่งคน โดยคนผู้นี้จะอยู่ข้างกายเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิตก๊อก ๆ"เข้ามา""ขออนุญาตครับ ท่านผู้นำเชิญคุณภีมให้ไปพบที่ห้องทำงานครับ" ร่างสูงก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมผมปิดหนังสือในมือลงเมื่อคนของคุณพ่อเข้ามาภายในห้องก่อนลุกขึ้นและเดินนำเขาออกไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อไปถึงก็พบคุณพ่อ อาธีร์ นั่งอยู่บนโซฟา ภายในห้องนั้นยังมีเด็กชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมอยู่อีกหนึ่งคน"คุณพ่อต้องการพบผม มีอะไรหรือเปล่าครับ"?"นั่งก่อนสิ"ผมเข้าไปนั่งข้างคุณพ่อ มือหนาวางลงบนศีรษะอย่างอ่อนโยนก่อนหันไปเรียกเด็กชายคนนั้นเพื่อมาแนะนำให้ผมรู้จัก"นี่คือมังกร เขาจะมาเป็นผู้คุ้มกันของลูก ลูกคิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ"ผมมองสำรวจเด็กชายที่มีอายุเท่ากันตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนลุกขึ้นประจันหน้า ส่วนสูงของเขาทำให้ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมน้อยคนนักที่จะมีส่วนสูงมากกว่า ไหนจะกล้ามเนื้อที่โตเกินวัยและผิวที่คล้ำแดดนั่นอีก"ผมยังไงก็ได้ครับ" ผมตอบคุณพ่อไปมังกรไม่ใช่เด็กคนแรกที่คุณพ่อพามาให้ผมเลือก ก่อนห

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   ตอนพิเศษ - เรือนไม้สีขาว

    ตอนพิเศษ - เรือนไม้สีขาว..พ่อยอดขวัญยอดดวงใจของพี่แก้ว พี่จะรอพ่ออยู่ ณ ที่แห่งนี้ ตลอดไป..สายลมพัดเอื่อยผ่านมาทางเรือนไม้สีขาว กระทบกระดิ่งลมเกิดเป็นเสียงกังวานฟังเพราะเสนาะหูเรือนไม้สีขาวหลังน้อยปลูกอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะแก้วเจ้าจอมที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว ด้านหลังเป็นป่าไผ่ต้นสูงท่วมหัว ถัดออกไปมีบึงน้ำขนาดใหญ่ผ่านอยู่ไหลสายหนึ่งด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงทำให้ผมต้องมาอาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพียงลำพัง อากาศที่บริสุทธิ์จะช่วยให้อาการป่วยของผมไม่หนักหนาเหมือนตอนอยู่พระนครในแต่ละวันของผมผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเงียบเหงานอกจากอ่านตำราและวาดภาพ การไปเดินเล่นริมบึงหลังป่าไผ่ยังไม่สามารถคลายความเบื่อหน่ายนี้ลงไปได้ทิวาผันผ่านล่วงเข้าสู่รัตติกาลแห่งวัน ณ ที่แห่งนี้ยังคงมีเพียงผมเช่นเดิม ผมเคยคิดอยู่บ่อยครั้งว่าจะต้องจบชีวิตอยู่ที่เรือนสีขาวแห่งนี้เพียงลำพัง แต่อย่างน้อยก่อนจะถึงวันนั้นขอให้ความอ้างว้างในใจผมได้เบาบางลงสักนิดก็ยังดีและในที่สุดคำขอก็เป็นจริง เมื่อวันหนึ่งสายลมได้พัดพาคนผู้นั้นเข้ามาในชีวิตของผม"เห็นเดินมาทางนี้นี่นา หายไปไหนแล้วล่ะ""ทางนั้

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   23. คิดถึงนะ |END.|

    [23] คิดถึงนะ "มองอะไรอยู่ไอ้ฟ่า ไปกันได้แล้ว" เลิฟเรียกฟีฟ่าที่เอาแต่ยืนมองไปรอบกุฏิของหลวงปู่ ทั้งที่คนอื่น ๆ นั่งรออยู่ในรถกันหมดแล้ว หลังกราบลาหลวงปู่และได้รับพรมาชุดใหญ่ทุกคนจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ คิดว่าฟีฟ่าจะกระดี๊กระด๊ารีบไปให้ไว ที่ไหนได้กลับอิดออดไม่ยอมขึ้นรถสักที "จะไม่มาส่งจริง ๆ เหรอเนี่ย" ฟีฟ่าเริ่มถอดใจเมื่อไม่เห็นเงาหัวของภพภูมิโผล่ออกมาให้เห็น จนได้ยินเสียงเพื่อนเลิฟตะโกนเรียกอีกครั้งจึงรีบเดินไปขึ้นรถ เพราะหากมีครั้งที่สามจะต้องเป็นเสียงเฮียยูโรแน่ "ไอ้คนใจดำ จำไว้เลย ถ้ามาง้อทีหลังไอ้ฟ่าจะไม่ให้ยกโทษให้แน่ คอยดูสิ!!" เขาต่อว่าภพภูมิก่อนมุดตัวเข้าไปในรถและยังแช่งให้คนพี่นอนไม่หลับ ตั้งใจว่าต่อไปจะไม่เป็นหมอนข้างให้อีกแล้ว ยูโรขับรถพาทุกคนมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ตลอดทางราบรื่นไร้อุปสรรค ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านสวนบรรยากาศร่มรื่นที่มีพื้นที่เล็ก ๆ ไว้สำหรับปลูกต้นไม้ขาย ฟีฟ่าฝากให้ป๊าช่วยปลูกต้นไผ่ที่ได้รับมาไว้ที่หลังบ้าน ซึ่งจุดนั้นตรงกับระเบียงห้องของยูโรพอดี ราวกับถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แม้ไม่ชอบใจแต่ยูโรก็ไม่ได้ขัดอะไร "วันนี้ไม่ออกไปสมัครงานเหรอ

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   22. ลาก่อนเรือนไม้สีขาว

    [22] ลาก่อนเรือนไม้สีขาว ภพภูมิยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของกลุ่มมือปืนที่ต่างกำลังจดจ่อวัตถุสีดำมาทางเขา มือหนากำแน่นจนสั่นด้วยความเจ็บใจที่มองไม่เห็นหนทางที่จะช่วยฟีฟ่าเพราะตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย "เจอกันชาติหน้านะครับคุณภพ ป่านนี้คุณพ่อคุณคงรอจนเมื่อยแล้ว" รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธีร์ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องกระหน่ำยิงคนตรงหน้า เมื่อตอนรถตกเหวไปพร้อมกับอดีตนายใหญ่ยังอุตส่าห์รอดชีวิตมาได้ คราวนี้ถ้าไม่ตายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว "อย่ายิงนะ..พี่ภูมิ!!" ฟีฟ่าตะโกนห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว สมุนของธีร์ลั่นไกแทบจะพร้อมกัน โดยมีเป้านิ่งคือภพภูมิ ปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยดดดดด!! เสียงปืนรัวขึ้นดังจนหูแทบดับแต่ช้ากว่ารถยนต์ติดกระจกกันกระสุนที่ขับพุ่งเข้ามาขวางด้านหน้าของภพภูมิเอาไว้ ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อหลบคมกระสุนที่ยิงเลยหลังคารถมาได้อย่างหวุดหวิด "รอพี่นานมั้ยจ๊ะที่รัก" คนในรถลดกระจกลงพลางยักคิ้วข้างหนึ่งทักทายภพภูมิ มือหนาดันแว่นตากันแดดขึ้นพลางขยิบตาให้ "เงียบปากไปเลยไอ้เท็นมะ แล้วไอ้เจย์ล่ะ!" "ไอ้เจย์ไปจัดการข้างบนแล้ว เห็นมันว่าจะไปดูหน้าเมียมันด้วย ช่วงนี้ได้ข่าวว่าติดเ

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   21. คนบงการ

    [21] คนบงการ"ผมขอเสนอให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนต่อไป"เสียงทุ้มพูดชัดเจนทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ธีร์แสดงท่าทีลำบากใจเมื่อถูกคะยั้นคะยอให้ยอมรับ ฝ่ายที่สนับสนุนธีร์ต่างแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดทางด้านฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายใหญ่ต่างหันมองกันด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเสนอชื่อธีร์ให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป แต่เสียงของผู้ที่สนับสนุนเขาก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง"ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนใหม่""ผมก็เหมือนกัน""ทุกท่านกรุณาคิดให้ดี ๆ ก่อนนะครับ ผมคิดว่าตัวผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกนะครับ" ธีร์ลุกขึ้นยืนและบอกทุกคนในห้องอย่างถ่อมตนในขณะที่หลายคนพยายามผลักดันให้เขาขึ้นรับตำแหน่งให้ได้"คุณธีร์ติดตามอดีตนายใหญ่มานาน ฝีไม้ลายมือย่อมดีกว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนเยอะ เพื่อความก้าวหน้าของพรรค ผมขอสนับสนุนคุณธีร์อีกเสียงครับ""ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่คุณธีร์ก็ไม่มีใครเหมาะสมแล้ว"ฝ่ายที่เชียร์ธีร์ต่างส่งเสียงสนับสนุนเขาเต็มที่ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมีจำนวนมากกว่าทำให้ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายใหญ่ต้องนั่งเงียบ อยากจะลุกจากเก้าอี้แต่ก็อยากรู้ข้อความ

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   20. ผู้นำคนใหม่

    [20] ผู้นำคนใหม่เช้าวันใหม่มาถึงนานแล้วแต่ทั้งภพภูมิและฟีฟ่าก็ยังไม่ลุกจากเตียง จนเมื่อเวลาล่วงไปใกล้เที่ยงฟีฟ่าจึงได้ลืมตาตื่นเพราะท้องร้องเสียงดังจนนอนไม่หลับ ตั้งใจจะลงไปหาอะไรกินข้างล่าง พอขยับตัวเท่านั้นแหละความปวดร้าวก็แล่นไปทั้งร่าง"อ๊ะ..โอ๊ย!' ทำไมปวดไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ?"มือเล็กจับลงที่สะโพก ครั้นพอเหลือบไปเห็นท่อนแขนแกร่งพาดอยู่ที่เอวก็ขมวดคิ้วแน่น สงสัยว่าภพภูมิกลับบ้านมาตอนไหนและตัวเองขึ้นมานอนบนห้องได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายจำได้ว่ากำลังดื่มกินอยู่กับลูกน้องของภพภูมิอยู่ที่หน้าหอพักนี่นา"ฉิบหายแล้ว"ฟีฟ่าทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้งและจำทุกอย่างได้ทั้งหมด ตายแน่ไอ้ฟ่าคราวนี้เอ็งไม่รอดแน่ ๆ คิดพลางยกแขนแกร่งที่ทับอยู่ออกและค่อย ๆ ย่องลงจากเตียงก่อนถูกถีบลงมา"จะไปไหน!""พี่ภูมิฟ่าขอโทษ ฟ่าไม่ได้ตั้งใจ"ฟีฟ่าทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม ก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษด้วยความสำนึกผิด เผื่อว่าโทษหนักจะเบาบางลง นิดหน่อยก็ยังดี"ลุกขึ้น ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ"มือหนาฉุดฟีฟ่าให้ยืนขึ้นและเปลี่ยนเป็นอุ้มในท่าเจ้าสาว ไม่ต่อว่าอะไรสักคำทำเอาระแวงไปหมดจู่ ๆ มาท

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   19. แมวไม่อยู่หนู(ฟ่า)ร่าเริง

    [19] แมวไม่อยู่หนู(ฟ่า)ร่าเริงผัว เอ๊ย! แมวไม่อยู่หนูฟ่าก็ร่าเริงเลยสิคะหลังรถของภพภูมิขับพ้นประตูรั้วออกไปแล้วฟีฟ่าก็ขอให้คิรินพาไปที่สระว่ายน้ำ ถึงเขาจะไม่ชอบออกกำลังกายแต่การว่ายน้ำก็เป็นกีฬาที่เขาโปรดปรานที่สุด ฟีฟ่าว่ายน้ำมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมทำให้มีกล้ามเนื้อที่สวยงาม ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นต่างตัวสูงกันหมด มีเพียงเขาที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดจุดหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น"มึงเป็นใครวะ นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ถ้าไม่อยากตายก็ออกไป!!"พอมาถึงสระว่ายน้ำชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหน้าก็เข้ามาขวางไม่ให้ฟีฟ่าเข้าไปด้านใน และยังมองด้วยสายตาน่ากลัว ดีที่คิรินตามมาถึงพอดี"คุณฟีฟ่าเป็นแขกของคุณภพ ถ้าพวกแกไม่อยากโดนทำโทษก็หลบไป!" คิรินที่แสนจะสุภาพพออยู่ต่อหน้าคนพวกนี้ก็เปลี่ยนไปราวคนละคน น้ำเสียงและบุคลิกน่ายำเกรงทำให้ใบหน้าราวนายเอกซีรีส์วายดูสมชายขึ้น"ขอโทษครับคุณคิริน ขอโทษครับคุณฟีฟ่า เชิญด้านในเลยครับ"ชายฉกรรจ์ร่างกำยำรีบก้มศีรษะขอโทษฟีฟ่า นอกจากผู้เป็นนายแล้วคนสนิทของพวกเขาก็มีฐานะที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ ภายในพรรคเช่นกันเป็นคนพิเศษนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง ฟีฟ่ายิ้มเหนือเดินนำหน้าคิรินเข้าไปด้านใ

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   18. ไล่ล่า

    [18] ไล่ล่ารถยนต์หรูขับอยู่ลำพังบนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาใช้เส้นทางนี้ แต่วันนี้กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลยและตลอดทางก็ไม่มีรถขับสวนมาสักคันทั้งที่เป็นขาเข้ากรุงเทพฯร่างสูงนั่งอยู่เบาะด้านหลัง ใบหน้าเรียบเฉยแม้ในใจจะขุ่นเคืองเพราะถูกยกเลิกนัดกะทันหัน เล่นมาบอกเอาตอนใกล้ถึงที่หมายแล้วนี่นะ ไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคงได้มีเรื่องกันไปแล้วขณะพยายามสงบใจดวงตาคู่คมได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เขาใช้ถนนเส้นนี้ในเวลากลางคืนอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เงียบและวังเวงเท่านี้มาก่อน"มีอะไรเหรอมังกร?"เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นคนสนิทที่รับหน้าที่ขับรถสอดส่ายสายตาไปมารอบตัวอยู่หลายครั้ง สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดกว่าปกติ เหงื่อแตกเต็มใบหน้าทั้งที่แอร์ภายในรถเย็นเยียบ"ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลก ๆ ยังไงคุณภีมระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะครับ"มังกรบอกกับผู้เป็นนายและใช้ความเร็วลดลงเพราะไฟส่องทางที่สว่างมาตลอดจู่ ๆ ได้ดับลงทีละดวงจนในที่สุดรอบตัวของทั้งสองก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงจากไฟหน้ารถที่สาดไปด้านหน้าเท่า

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status