แชร์

8. เพื่อนรักเพื่อนเลิฟ

ผู้เขียน: Badberry
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-20 17:54:46

[8]

เพื่อนรักเพื่อนเลิฟ

รถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดยังหน้าตึกสูงและได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก รปภ. ร่างสูงในชุดฉูดฉาดลงจากรถออกมายืนด้วยท่าทีสง่างาม มือหนาขยับแว่นตากันแดดให้เข้าที่พลางยกยิ้มด้วยความมั่นใจ ไม่สนว่าจะตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ช่วงขายาวก้าวเข้าไปในตึกอย่างมาดมั่นตรงไปยังลิฟต์สำหรับผู้บริหารเพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุด

"แต่งตัวอะไรของมึงวะไอ้เท็น ระหว่างทางหมาไม่เห่าบ้างหรือไงวะ"

ผู้บริหารหนุ่มถึงกับวางมือจากเอกสารที่กำลังเซ็นอยู่และลุกขึ้นมาหาชายหนุ่ม ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามมองอีกฝ่ายตั้งหัวจดเท้าอีกครั้ง

"ทำไม? กูก็แต่งธรรมดานี่ ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย"

"เออ..ไม่แปลกก็ไม่แปลก และมึงก็เลิกสูบบุหรี่ในห้องกูได้แล้ว แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดทีไรก็นึกว่ามีขโมยเข้ามาในห้องกูอยู่เรื่อย"

ดวงตาเรียวเหยียดมองสูทลำลองสีแดงเข้มเข้าชุดกับกางเกง และไหนจะเสื้อยืดคอกว้างและลึกโชว์ขนหยิกหย็อยบนกล้ามหน้าอกกับรอยสักบนร่างกายด้านซ้าย ใครเห็นต่างก็วิ่งหนีกันหมด ถ้าลูกค้ามาเห็นว่ามีคนแบบนี้ในบริษัทของเขามีหวังความน่าเชื่อถือคงไม่เหลือ

"เรื่องมากฉิบหาย ต่อให้กูไม่สูบบริษัทมึงก็ไม่น่าเชื่อถืออยู่แล้วมั้ยวะ" เท็นมะพ่นควันลอยสูงขึ้นก่อนขยี้บุหรี่ที่เพิ่งจุดลงบนที่เขี่ยด้านหน้า ร่างสูงนั่งกางขากว้าง เท้าแขนและเอนตัวพิงไปกับโซฟา ท่าทางอย่างกับนักเลงมาทวงหนี้แบบนี้ถึงว่าไม่มีบริษัทไหนกล้ารับเข้าทำงาน

ชายหนุ่มที่กล้าพูดเช่นนี้กับเท็นมะมีชื่อว่าเจย์ เขาเป็นถึงทายาทนักธุรกิจใหญ่ระดับโลก เบื้องหน้าที่ใครเห็นว่าขาวสะอาดนั้นย่อมมีเบื้องหลังที่เป็นสีเทาเช่นกัน พวกเขาคบเป็นเพื่อนกันมาเกินสิบปี จนแทบไม่มีเรื่องปิดบังกันแล้ว

"ว่าแต่ช่วงนี้ไอ้ภพเป็นไงบ้าง มึงได้เจอมันบ้างมั้ย"

"มันไปถือศีลที่วัดกูเลยไม่อยากไปรบกวน หนุ่มซิงก็แบบนี้แหละ เอาผู้หญิงไม่ได้เลยต้องไปนอนวัดแทน"

"มึงก็พูดไป ระวังนรกจะกินกระบาลเอาล่ะ"

นอกจากนายใหญ่ที่เสียชีวิตไปแล้วก็มีเท็นทะกับเจย์ที่รู้เรื่องความสามารถพิเศษของภพภูมิ และยังรู้ด้วยว่าหลังเกิดอุบัติเหตุรถตกเหวเมื่อตอนถูกไล่ยิงพลังนี้ก็ได้หายไปด้วย

"ใครจะรู้ ว่าคนหล่อเหี้ย ๆ แบบไอ้ภพจะยังเวอร์จิ้นวะ เสียทีที่เกิดเป็นผู้ชาย ฮ่า ๆ ๆ"

เท็นมะว่าพลางหัวเราะเสียงดังด้วยความสะใจ เพราะพลังพิเศษทำให้ภพภูมิต้องรักษาพรหมจรรย์มาจนถึงตอนนี้ มีที่ไหนที่ผู้ชายอายุจะสามสิบแต่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ถ้าถึงเวลาต้องเอากันจริง ๆ ไม่รู้จะทำเป็นหรือเปล่า ยิ่งคิดเท็นมะก็ยิ่งขำ

"ถ้าไอ้ภพหล่อเหี้ย ๆ มึงก็หล่อสัด ๆ แล้วล่ะไอ้เท็น ไม่งั้นจะคบกันมาได้นานขนาดนี้เหรอ" เจย์ว่ากลับไปเพราะรำคาญเสียงหัวเราะที่ดังจนปวดประสาท ก่อนจะถามถึงเรื่องที่ภพภูมิไหว้วานให้ช่วย

"เลิกพูดมากได้แล้ว เรื่องพี่ชายของไอ้ภพที่มึงให้กูช่วยสืบ เห็นว่าตอนนี้ไปร่วมมือกับคู่แข่งประมูลงานก่อสร้างทางเหนืออยู่"

"พี่ภีมนะเหรอ"

นินทาเพื่อนจนพอใจแล้วทั้งคู่จึงเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจังกันบ้าง นอกจากเท็นมะแล้วก็มีเจย์นี่แหละที่ช่วยสืบหาคนบงการฆ่าคุณพ่อของภพภูมิอยู่เงียบ ๆ

ขณะคุยกันเสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้นก่อนคนข้างนอกจะเปิดเข้ามา ทั้งคู่มองหน้ากันเครียดเพราะพนักงานที่นี่ต่างรู้กันว่าถ้าเท็นมะมาที่นี่ ห้ามทุกคนเข้ามารบกวนเด็ดขาด ทั้งคู่หันไปมองคนมาใหม่เป็นตาเดียว

"คุณเข้ามาทำไม ไม่มีใครบอกหรือว่าไงห้ามรบกวน!" น้ำเสียงขุ่นเคืองถามด้วยความไม่พอใจและมองอีกฝ่ายด้วยสายตาตำหนิ

"ขะ..ขอโทษครับ พอดีผมเห็นว่าคุณเจย์มีแขกแต่ไม่มีใครชงกาแฟมาให้ ผมก็เลย.."

ดวงตาเรียวเล็กภายใต้กรอบแว่นสีเงินก้มมองต่ำเพื่อหลบสายตาเฉียบคมที่จ้องเขม็งของผู้เป็นนาย แค่นี้มือไม้ก็อ่อนแรงจนแทบจะทำถาดในมือหล่นแล้ว ขาเจ้ากรรมยังจะสั่นอีก

"ออกไป!"

เพล้ง!!

เสียงตวาดทำเอาชายหนุ่มตกใจจนถาดหลุดจากมือ ทำให้แก้วเครื่องดื่มที่อยู่บนนั้นหล่นกระแทกพื้นแตกกระจาย

"ขะ..ขอโทษครับ"

เขารีบก้มลงเก็บเศษแก้วบนพื้นใส่ถาดก่อนที่เจย์จะโมโหไปมากกว่านี้

"เสียงดังแบบนี้เขาก็ตกใจหมดสิวะไอ้เจย์ ดูสิสั่นไปทั้งตัวแล้ว"

เท็นมะลุกขึ้นไปนั่งยอง ๆ เบื้องหน้าเลขาหนุ่ม รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดดูน่ากลัว แต่ไม่เท่ารอยสักบนหน้าอกด้านซ้ายที่มีขนหยิกหย็อยขึ้นอยู่ ดวงตาเรียวเล็กมองจากข้างล่างไล่ขึ้นมาถึงใบหน้าหล่อเกลี้ยงเกลาขัดกับรูปร่างและสะดุดเข้ากับรอยยิ้มแสยะน่าขนลุก เจอแบบนี้เป็นใครก็กลัววะ เลขาหนุ่มถึงกับตกใจจนต้องทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น

"คะ..คะ..คุณ.."

มะ..มะ..ไม่จริงใช่มั้ย นี่ก็แค่คนหน้าเหมือน ไม่ใช่ไอ้บ้ากามที่เขาเจอที่คลับเมื่อคืนนั้นหรอก!!

"ใครวะ?" เท็นมะหันกลับไปถามเจย์ แสร้งทำเป็นไม่เคยพบเลขาหนุ่มมาก่อน

"เลขาใหม่ เพิ่งมาทำงานได้สองเดือน ทำไม..มึงรู้จักเหรอ?"

"เปล่า..บังเอิญว่าวันนี้กูอยากได้คนมาดูแลนิดหน่อย มึงคงไม่ว่าอะไรนะ"

เจย์เงียบไปชั่วครู่ ไม่รู้ว่าไอ้เพื่อนบ้าคิดอะไรอยู่ ที่ผ่านมาไม่เห็นจะเคยสนใจพนักงานของเขาสักคน ที่สั่งห้ามใครรบกวนก็มันนี่แหละ

"ตามใจ"

เมื่อได้รับอนุญาตเท็นมะจึงพาเลขาหนุ่มมานั่งบนโซฟาด้วยกัน ท่อนแขนแกร่งโอบบ่าบางไว้ ทำเหมือนออฟฟิศเป็นบาร์โฮสต์ก็ไม่ปาน

"น้องชื่ออะไรหรือครับ" มือหนาอยู่ไม่สุขหยิบบัตรคล้องคอขึ้นมาอ่านชื่อเองโดยไม่รอให้เจ้าตัวแนะนำ

"นายทศวรรษ วรางค์นิธิธรรม ชื่อน่าเลิฟจังเลยนะครับ"

เลขาหนุ่มสะดุ้ง เริ่มมั่นใจแล้วว่าไอ้ยักษ์คนนี้คือคนเดียวกับที่เจอคืนนั้นแน่ ๆ

เท็นมะและเจย์เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทนเพราะมีบุคคลที่สามอยู่ร่วมห้องด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นเท็นทะที่แกล้งพนักงานใหม่ของเจย์มากกว่า ทั้งขู่ว่าถ้าไม่ให้ความร่วมมือจะไม่ให้ผ่านโปร งานดีเงินเดือนสูงแบบนี้ใครจะกล้าปล่อยให้หลุดมือกัน เขาใช้เวลาถึงสองปีเชียวนะกว่าจะถูกเรียกตัว คิดว่าเป็นโชคดีในวัยเบญจเพสแต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้ว

"วันนี้กูไม่ได้เอารถมา ให้เลขามึงขับรถไปส่งกูหน่อยได้มั้ยวะ"

เจย์เงียบไปอีกครั้งก่อนจะบอกให้เลขาของตนขับรถไปส่งเท็นมะและอนุญาตให้เลิกงานก่อนเวลาได้ เขารู้อยู่แล้วว่าเท็นมะขับรถมาจอดไว้ด้านหน้าตึก ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ถึงอยากให้เลขาคนใหม่ไปส่ง

ส่วนเลิฟแม้ไม่อยากไปส่งไอ้บ้านี่แต่ก็ไม่อยากหางานใหม่ ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ด้วย จำต้องยอมทำตามคำสั่งของเจ้านาย

เลิฟกลับไปเอากระเป๋าที่แผนก ออกมาก็เห็นร่างสูงยืนรออยู่หน้าลิฟต์ เขาไม่อยากอยู่ใกล้คนแบบนี้เลย เพราะนอกจากจะน่ากลัวแล้วแค่ยืนใกล้ก็รู้สึกอาย กล้าแต่งตัวแบบนี้ออกจากบ้านได้ยังไงกัน ไม่รู้ว่ามั่นใจหรือมั่นหน้ากันแน่

ติ๊ง!

ประตูลิฟต์เปิดออก ร่างสูงหลีกทางให้เลิฟเข้าไปด้านในก่อน หนุ่มแว่นหลบเข้าไปยืนชิดมุมเพื่อให้อยู่ห่างจากเท็นทะมากที่สุด บรรยากาศโคตรจะอึดอัดเพราะอีกคนเอาแต่จ้องเขาด้วยสายตาน่าขนลุก

"ทำไมยืนห่างขนาดนั้นล่ะ ขยับมานี่หน่อยสิ!" เสียงทุ้มออกคำสั่งทำให้เลิฟต้องขยับออกจากมุมมาก้าวหนึ่ง

"จะกลัวอะไรฉันนักหนา ขยับเข้ามาอีก ถ้านายไม่เชื่อฟังฉันจะบอกให้ไอ้เจย์ไล่ออก ไม่รู้หรือไงว่ามีคนจ้องจะเสียบตำแหน่งนายตั้งเยอะ"

โดนขู่จะไล่ออกเลิฟจำต้องเข้าไปยืนใกล้กับร่างสูง รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏบนใบหน้าหล่อเกลี้ยงเกลาทำเอาเขิน แต่พอเห็นลายสักบนหน้าอกหนาที่มีขนยุบยับก็เกิดกลัวขึ้นมา ไอ้หมอนี่มันหล่อแบบควรตัดหัวทิ้งจริง ๆ

"ว่าง่าย ๆ จะได้อายุยืน ฮ่า ๆ ๆ" ท่อนแขนแกร่งวางลงบ่าไว้ทำเอาคนตัวบางกว่าบ่าแทบทรุด ยิ่งเสียงหัวเราะที่ชวนปวดประสาททำให้เลิฟอยากจะบ้าตาย

เท็นมะเดินตามหลังเลิฟไปที่รถ สายตาเอาแต่จับจ้องสะโพกกลมกลึงที่ขยับตอนก้าวเท้า ถึงจะผอมแต่ก้นนี่สวยใช้ได้เลย

"ละ..เลิกมองสักทีได้มั้ย.." มือเรียวเอื้อมมาปิดที่ก้นเมื่อรู้สึกถึงสายตาคุกคาม

"ก็ตูดนายสวย ฉันชอบ"

"สะ..สวยอะไรกัน อย่ามาพูดจาแบบนี้กับผมนะ" ใบหน้าขาวแดงฉานและรีบเดินไปที่รถ พอเปิดประตูก็ถูกแย่งกุญแจไป เท็นมะบอกจะเป็นคนขับให้เอง

"ฉันขับเอง"

"ผมขับให้ดีกว่าครับ"

เลิฟว่าพลางจับมือหนาที่ตะบปก้นและบีบเล่นอย่างสนุกมือออก รีบเข้าไปนั่งในรถและสตาร์ทเครื่องทันที ถ้าอยู่ใกล้หมอนี่มีแต่จะยิ่งอันตราย รีบไปส่งและรีบกลับบ้านดีกว่า

เท็นมะไหวไหล่และเบะปากก่อนเดินอ้อมไปนั่งอีกฝั่ง ช่วงขาที่ยาวกว่าชาวบ้านทำให้เขาต้องถอยเบาะไปจนสุดและบ่นไปด้วย

"รถนายแคบชะมัด"

ก็รถอีโคคาร์ราคาไม่กี่ถึงล้าน จะเอาที่ไหนมากว้างล่ะ เขากับฟีฟ่ายังนั่งกันได้สบายเลย เลิฟเพียงแค่คิดในใจและรีบขับรถไปส่งเท็นมะโดยไม่ถามทางเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายพักอยู่ที่ไหน

"นี่!" เท็นมะพูดขึ้นขณะรถติดไฟแดงและเลิฟก็เอาแต่นั่งเงียบตลอดทาง

"ครับ"

"แวะโรงแรมกันเถอะ เห็นก้นนายแล้วฉันเกิดอารมณ์ว่ะ"

"คะ..คุณ!!"

เลิฟทั้งโกรธทั้งอายจนอยากถอนเท้าที่เหยียบเบรกขึ้นมาถีบยอดหน้าคนข้าง ๆ มันไม่ได้พูดหน้าตาเฉยยังแอ่นเป้าให้เลิฟดูอีก กลัวไม่เชื่อว่ามันแข็งขึ้นมาแล้ว ดีที่ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวซะก่อนเลิฟจึงเปลี่ยนมาเหยียบคันเร่งแทน รีบไปส่งหมอนี่ให้เสร็จ ๆ จะได้กลับบ้านไปพักสมองสักที งานนี้พาราต้องเข้าแล้ว

เพราะเคยมาส่งเท็นมะที่คอนโดเลิฟจึงไม่ต้องถามทาง เขามุ่งหน้าไปยังที่หมายโดยไม่สนใจเสียงเร้าหรือของคนตัวใหญ่ ถ้ามันไม่ฉวยโอกาสลวนลามเขาก่อน อีกไม่เกินสิบกิโลก็จะถึงแล้ว อดทนไว้นะไอ้เลิฟ

เอี๊ยดดด..โครม!!

เสียงเบรกยาวดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงชนท้ายโครมใหญ่ รถคันเล็กพุ่งไปด้านหน้าทั้งที่คนขับเหยียบเบรกอยู่ รถคันหลังตั้งใจดันรถของเขาให้ไปชนกับเสาไฟข้างทาง ดีที่เท็นมะเอื้อมมือไปช่วยบังคับพวงมาลัยทำให้หักหลบได้ทัน

"กะ..เกิดอะไรขึ้น!"

"ใจเย็น คอยดูข้างหน้าเอาไว้นะ!"

ด้วยความตกใจทำให้เลิฟบังคับรถไม่อยู่ เท็นมะจึงช่วยบังคับพวงมาลัยให้แทน ส่วนสายตาก็คอยมองไปยังรถที่อยู่ข้างหลังอยู่เป็นระยะ

สีดำซีรีส์เจ็ด..ของพวกไหนกันนะ

เท็นมะบังคับรถให้จอดเข้าข้างทางได้อย่างปลอดภัย ในขณะที่รถหรูชนยังชนท้ายอยู่ พวกมันใช้โอกาสที่ถนนโล่งตั้งใจขับเข้ามาชน สถานการณ์ตอนนี้ดูท่าจะไม่ดีซะแล้ว

ร่างสูงเปิดประตูลงมาพร้อมกับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ลงมาจากรถคู่กรณี ในมือของพวกมันมีท่อเหล็กและไม้เบสบอลแต่ไม่มีปืน หมายความว่าพวกมันแค่มาขู่ให้กลัวไม่ได้กะให้ถึงตาย

ไม่พูดพร่ำให้เสียเวลา เปิดก่อนย่อมได้เปรียบ เท็นมะพุ่งเข้าแลกหมัดกับพวกมันที่มีอาวุธครบมือ อาศัยเพียงร่างกายที่กำยำกับฝีมือก็เป็นต่อแล้ว

เลิฟตั้งใจจะฉวยโอกาสที่พวกมันกำลังต่อสู่กับเท็นมะหลบหนี แต่ก็เป็นห่วงเพื่อนเจ้านาย ถ้าเจ้านายรู้ว่าเขาปล่อยให้เพื่อนถูกกระทืบตายข้างถนนมีหวังโดนไล่ออกจากงานแน่ ๆ จึงเปลี่ยนมาโทรแจ้งตำรวจแทน

เจ้ากรรม..ยังไม่ทันกดตัวเลขครบพวกมันดันหันมาเห็นเข้าเสียก่อน หนึ่งในสี่คนตรงมาทางเขาใบหน้าถมึงทึง ด้วยความกลัวทำให้เลิฟก้าวขาไม่ออกและทรุดลงกับพื้น

ตาย..ตายแน่ ๆ ไอ้เลิฟ นี่มันคราวซวยรับเบญจเพสหรือไงวะ รู้แบบนี้เขาเข้าวัดไปปฏิบัติธรรมเพื่อต่อชะตากับไอ้ฟ่าดีกว่า

"ลุกขึ้น!"

มือหนาฉุดแขนเลิฟให้ยืนขึ้นหลังใช้เท้าถีบชายที่ถือท่อเหล็กจะเข้ามาฟาดจนกระเด็นออกไปและดันตัวเลิฟให้ไปอยู่ด้านหลังเพื่อรับมือกับอีกสามคนที่พุ่งเข้ามาพร้อมกัน

"นายไปมีเรื่องกับคนพวกนี้ได้ยังไงกัน" เท็นมะถามขึ้นในขณะปล่อยหมัดใส่หน้าชายฉกรรจ์อย่างแรง

"ใช่ผมที่ไหนกัน คุณต่างหากล่ะ!"

กล้าถาม..เด็กเนิร์ดอย่างเขาจะไปมีศัตรูที่ไหนได้ พวกมันคงตั้งใจมากระทืบนักเลงอย่างเท็นมะมากกว่า

"ฮะ ๆ ๆ ๆ"

เท็นมะหัวเราะด้วยน้ำเสียงเสียดแทงประสาท ดูเขาสนุกกับการต่อสู้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ตั้งใจมาหาเรื่อง ยิ่งเห็นเลือดก็ดูจะยิ่งคลุ้มคลั่งเหมือนหมาบ้า ทั้งที่ใช้แค่มือเปล่ากลับสู้กับพวกมันได้อย่างสูสี

กระทั่งมีรถตู้อัลพาร์ตสีดำติดฟิล์มมืดทั้งคันขับเข้ามาจอด และมีชายฉกรรจ์อีกกลุ่มลงมาล้อมเท็นมะไว้ เลิฟถึงกับจะเป็นลม คนเยอะขนาดนี้ไอ้ยักษ์นี่ไม่รอดแน่ ๆ แต่ไม่ใช่อย่างที่เลิฟเข้าใจ

"เป็นยังไงบ้างครับคุณเท็นมะ"

"ฉันไม่เป็นไร"

เท็นมะว่าพลางปล่อยให้ชายฉกรรจ์อีกกลุ่มเข้าไปจัดการกับพวกที่มาดักทำร้ายและจับกุมตัวเอาไว้ได้ทั้งหมด

"แล้วจะให้ทำยังไงกับพวกนี้ดีครับ"

"เอาไปขังไว้ที่โกดัง แล้วค่อยจัดการอีกที"

"ครับ" ชายหนุ่มรับคำสั่งและสั่งให้ลูกน้องพาตัวทั้งสี่คนใส่รถไป

หลังจบเรื่องเลิฟถึงกับยืนไม่อยู่ คนตัวบางทรุดลงกับพื้นอย่างคนหมดแรง นะ..นี่มันเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์แบบนี้เคยเห็นแต่ในหนังเท่านั้น ไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเองมาก่อน

"เฮ้ย ๆ ๆ เป็นอะไรไป แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ" เท็นมะดึงตัวเลิฟขึ้นมาอีกครั้ง

"คะ..คุณเป็นใครกันแน่ นะ..นี่มันเกิดอะไรขึ้น"

ทรงโจรแบบนี้ไม่แคล้วโดนคู่อริตามเก็บแน่ ๆ แค่คิดเลิฟก็รู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัยซะแล้ว

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   9. ชายปริศนาในป่าไผ่

    [9] ชายปริศนาในป่าไผ่ "เลิกทำหน้าแบบนั้นสักทีเถอะ เห็นแล้วกินข้าวไม่ลง" เสียงทุ้มว่าคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกัน มองปากที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ แต่ตานี่ขวางเชียว ก็นะ..ลองมาถูกเหวี่ยงดูบ้างมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าเจ็บแค่ไหน นอนด้วยกันมาอาทิตย์กว่าแต่ทั้งตัวไอ้ฟ่านี่มีแต่รอยช้ำเต็มไปหมด "ไม่รู้ล่ะ ก็ใครใช้ให้พี่มาทำร้ายฟ่าก่อนล่ะ!" "ก็นายอยากคิดไม่ดีกับฉันก่อนทำไม หน็อย..คิดจะลักหลับฉันเป็นครั้งที่สองเหรอ เอาไว้ชาติหน้าเถอะ วันนั้นถ้านายไม่ใช้ยาปลุก บอกไว้เลยนะว่าขนสักเส้นของฉันนายก็ไม่มีทางได้เห็นหรอก!" "แหวะ..อยากเห็นตายล่ะ" ฟีฟ่าพึมพำเบา ๆ เพราะกลัวถูกเหวี่ยงลงจากเรือน ขี้เกียจเถียงด้วย ทั้งที่เมื่อคืนตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนถอดกางเกงของเขาออกแท้ ๆ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ กะอีแค่มีเซ็กซ์ครั้งเดียวทำไมต้องอาฆาตกันขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ ฟ่าไม่เข้าใจจริง ๆ เป็นผู้ชายซะเปล่า ตัวก็ใหญ่อย่างกับควายแต่ใจแคบชะมัด ทั้งที่ตอนนั้นตัวเองก็เป็นฝ่ายได้เสียบแท้ ๆ ไอ้หัวหยิกเอ๊ย.. อ้อ..อีกอย่าง บอกไว้เลยนะถ้าคืนนั้นไม่เมาจนขาดสติคนอย่างฟีฟ่าไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้เด็ดขาด ถึงจะงอนแต่ฟีฟ่าก็กิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   10. คนหน้าคล้าย

    [10] คนหน้าคล้าย จากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฟีฟ่าไม่อยากมองหน้าภพภูมิอีกเลย คนใจดำ รู้ทั้งรู้ว่าเขากลัวผียังบังคับให้เปิดโลงดูศพและยังถีบตกฟูกอีก คิดแล้วน่าโมโหจริง ๆ คนตัวเล็กนั่งหันหลังให้ ในมือถือแซนด์วิชไข่ ปากก็เคี้ยวตุ้ย ๆ ไปด้วย "ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว คิดว่าน่ารักมากหรือไง" คนถูกว่าเพียงแค่เหลือกตามองและหันกลับไปกินแซนด์วิชต่อ คิดซะว่าได้ยินเสียงหมาเห่าหมาหอนละกัน ภพภูมินั่งไขว่ห้างพลางจิบกาแฟ มืออีกข้างก็ไถมือถือไปด้วย เห็นข้อความจากเท็นมะเข้ามา เมื่อคืนเพราะมีเรื่องวุ่นวายจึงไม่ทันสังเกตเห็น พอกดเข้าไปดูก็ขมวดคิ้วแน่น "ทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ" ร่างสูงลุกขึ้นและสั่งให้ฟีฟ่าไปเปลี่ยนชุดเพราะจะไปกราบหลวงปู่ด้วยกัน ฟีฟ่าดูดนิ้วหลังกินทุกอย่างหมดแล้ว แกล้งไปเช็ดมือกับเสื้อของภพภูมิและรีบวิ่งเข้าห้องก่อนโดนต่อย เขากลับออกมาในชุดขาวเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่คราวนี้ภพภูมิกลับบอกให้เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาแทน "แล้วไม่บอกแต่แรก เสียเวลาชะมัด" ฟีฟ่าบ่นอุบและกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง คราวนี้ออกมาในชุดทันสมัย ยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูเด็กกว่าเก่า จากนั้นจึงตามภพภูมิไปยังกุฏิของหลวงปู่ ซึ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   11. พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่

    [11] พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่ ภพภูมิกลับมายังจุดนัดหมายพร้อมกับยาทาแก้ฟกช้ำ เขาบีบยาจากหลอดใส่ปลายนิ้วและป้ายลงบนแก้มแดงอย่างเบามือ "ยิ่งขี้เหร่อยู่ ระวังอย่าให้มีแผลสิ" "ฟ่าไม่ได้หาเรื่องนะ ก็ไอ้ลุงนั่นอยู่ดี ๆ ก็มาดึงแขนฟ่าไว้ เจ็บจะตาย" พอได้ยินว่าชายวัยกลางคนที่มีเรื่องกับฟีฟ่านอกจากตบหน้าแล้วยังจับแขนเอาไว้อีกก็ยิ่งโมโห อยากจะโทรหาลูกน้องคนสนิทให้ตัดมือมันทิ้งไปด้วยเลย "จะซื้ออะไรมั้ย?" "ไม่ล่ะ" ฟีฟ่าปฏิเสธเพราะราคาสินค้าของที่นี่แต่ละอย่างไอ้ฟ่าเอื้อมไม่ถึงจริง ๆ ไม่รู้ภพภูมิคิดยังไงถึงพาเขามาที่แบบนี้ "อยากได้อะไรก็ไปดู เดี๋ยวฉันซื้อให้เอง" ภพภูมิเหมือนจะรู้ความคิดของฟีฟ่า เขาจึงเสนอเป็นเจ้าภาพจ่ายเงินให้ คิดว่าเป็นค่าตอบแทนให้กับหมอนข้าง ทำเอาคนน้องตาโต คิดว่าตัวเองหูฝาดไปซะอีกจนต้องถามซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ "จริงเหรอ ได้ทุกอย่างเลยเหรอ!" "จริงสิ" ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเปย์ให้ขนาดนี้ มีเหรอที่ไอ้ฟ่าจะพลาดโอกาสทอง ที่นี่มีของที่เขาอยากได้ตั้งหลายอย่าง ตั้งใจจะถล่มให้กระเป๋าฉีกเลย "พูดเองนะ อย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน" ฟีฟ่าเดินนำหน้าเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   12. บาร์ลึกลับแห่งหนึ่ง

    [12]บาร์ลึกลับแห่งหนึ่ง"พี่ภูมิ ฟ่าอยู่นี่!!"“อันตราย อย่าไป!!”ฟี่ฟ่ามุดออกจากใต้โต๊ะตั้งท่าจะวิ่งไปหาภพภูมิแต่ถูกภาคินคว้าข้อมือไว้เพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นมิตรหรือศัตรู จังหวะนั้นได้มีของแข็งไม่รู้ที่มาปาเข้าใส่ทำให้ต้องปล่อยมือจากฟีฟ่า ฟีฟ่าจึงฉวยโอกาสวิ่งเข้าไปหาภพภูมิทันทีร่างเล็กถูกอุ้มขึ้นนั่งคร่อมบนตัวถังรถเพราะหากให้ซ้อนท้ายกลัวจะโดนลูกหลงจากกระสุนปืนเอาได้ ฟีฟ่านั่งหมอบโดยมีภพภูมิคร่อมอยู่ด้านหลัง มือหนาบิดเร่งเครื่องและขี่รถฝ่าดงกระสุนออกไปอย่างรวดเร็วช่วงที่ภาคินกำลังให้ความสนใจกับหนุ่มนิรนามที่เข้ามาช่วยฟีฟ่า ธีร์ได้หันไปพยักหน้าให้ชายคนสนิทที่ยืนคุ้มกันอยู่ข้าง ๆ อีกฝ่ายพยักหน้ารับทราบคำสั่งและแยกตัวออกไปจากตรงนั้นทันทีรถบิ๊กไบค์คันสีดำสนิทขับขี่ด้วยความเร็วออกจากร้านอาหารริมแม่น้ำเข้าสู่ถนนสายหนึ่ง ฟีฟ่าถึงกับต้องหลับตาเพราะต้านแรงลมไม่ไหว ถ้าไม่มีภพภูมินั่งคร่อมเอาไว้ป่านนี้เขาคงปลิวลงข้างทางไปแล้วภพภูมิตั้งใจขี่รถกลับวัดแต่ดูจากเวลาแล้วคงจะไม่ทัน อีกอย่างเขารู้สึกเหมือนมีคนติดตามมาจึงเร่งความเร็วขึ้น อีกฝ่ายก็เร่งตาม เห็นท่าไม่ดีจึงเปลี่ยนเส้นทางไปยังย่านสถา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   13. หญิงสาวที่มาใส่บาตรในตอนเช้ามืด

    [13]หญิงสาวที่มาใส่บาตรในตอนเช้ามืด"พี่จะหลบทำไม เอาของพี่มาให้ฟ่าดูเดี๋ยวนี้นะ""บอกว่าอย่าเข้ามาไง!"ยิ่งไล่ฟีฟ่าก็ยิ่งแกล้งเข้าหา เขาต้องดูให้ได้ว่าภพภูมิก็แข็งตอนเช้าเหมือนกัน ฟีฟ่ามัวแต่ได้ใจคิดว่าเอาคืนคนพี่ได้สำเร็จ ที่ไหนได้รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับกดลงกับเตียงแล้ว"พะ..พี่จะทำอะไรน่ะ แหม..จริงจังไปได้ ฟ่าแค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง" ฟีฟ่าทำใจดีสู้เสือและพยายามดันตัวเองออกจากสองแขนที่กักขังตนไว้ แต่ดูท่าคงจะสู้แรงคนตัวใหญ่ไม่ไหว"อยากดูของฉันนักไม่ใช่เหรอ เอาสิ ฉันจะให้นายดูจนพอใจเลย!""มะ..ไม่เอา ฟ่าไม่ดูแล้ว"ภพภูมิไม่ได้แค่ให้ดูเต็มตา มือหนาได้ดึงกางเกงนอนลงไปไว้ใต้ก้นและงัดเอาเจ้าโลกออกมาสาวชักสองสามทีเพื่อให้ตื่นตัวเต็มที่ก่อนจะดึงมือของฟีฟ่ามาสัมผัสความแข็งแกร่งของมัน"เป็นไง แข็งพอที่ยัดใส่ก้นนายได้หรือยัง!""พี่ภูมิ..ฟ่าขอโทษ.."ฟีฟ่าหน้าแดงแปร๊ด แม้จะเคยเสียตัวให้กับภพภูมิแต่เรื่องก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วเขายังจำความใหญ่โตของภพภูมิได้เป็นอย่างดี มาสำนึกเอาตอนนี้ก็สายเสียแล้วฟีฟ่าหลับตาปี๋ นอกจากความร้อนที่ฝ่ามือแล้วก็รู้สึกถึงความนุ่มอุ่นที่ริมฝีปากจึงลืมตาขึ้นมองก็เห็นปากหยักทา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   14. ลูกน้องคนสนิท

    [14] ลูกน้องคนสนิทฟีฟ่าที่ปกติจะตื่นนอนเองไม่ได้วันนี้กลับลืมตาตั้งแต่ยังไม่ตีห้า ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดขาวและเตรียมย่ามเอาไว้ จากนั้นจึงได้ชวนภพภูมิลงไปล้างหน้าแปรงฟันด้วยกันเพราะข้างนอกฟ้ายังมืดอยู่เขากลัวโดนผีหลอก หลังเสร็จกิจวัตรก็พากันไปรอหลวงปู่ที่หลังวัด พอหลวงปู่มาถึงจึงติดตามออกไปบิณฑบาตฟีฟ่าเดินตามหลังหลวงปู่อย่างเคย วันนี้ดูเขาอารมณ์ดีต่างจากทุกครั้งจนเมื่อหันมาเห็นร่างสูงเดินอยู่ข้างหลัง ใบหน้าหวานก็บึ้งตึงขึ้นทันที"พี่จะไปไหนน่ะ วันนี้ไม่กลับไปรอที่เรือนเหรอ?""วันนี้ฉันจะไปกับหลวงปู่ด้วย""ว่าไงน่ะ?!!"ฟีฟ่าถามขึ้นด้วยความตกใจ ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะออกจากเรือนไปไหนนอกจากหลวงปู่สั่ง แต่ละวันไปไกลสุดก็แค่หลังป่าไผ่กับกุฏิของหลวงปู่เท่านั้น วันนี้ไม่รู้ไปโดนตัวไหนมาถึงได้ตามออกมาบิณฑบาตด้วย"นายจะตกใจทำไม ก่อนนายมาอยู่ที่นี่ฉันก็ช่วยหลวงปู่ถือของอยู่บ่อย ๆ"ภพภูมิว่าพลางขยับขึ้นมาเดินข้างกัน แต่คิดเหรอว่าคนอย่างฟีฟ่าจะกลัว ผัวก็ไม่ใช่? กระทั่งมาถึงบ้านหลังแรกก็พบหญิงสาววัยกลางคนกับลูกชายวัยมหาลัยสองคนมายืนรอใส่บาตร"นิมนต์เจ้าค่ะหลวงปู่"หญิงสาววัยกลางคนพนมมือเพื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   15. ฟีฟ่าถูกลักพาตัว

    [15] ฟีฟ่าถูกลักพาตัว เพิ่งผ่านเหตุการณ์เกือบถูกลักพาตัวมาหมาด ๆ ทำให้ฟีฟ่าไม่กล้าติดตามหลวงปู่ออกไปบิณฑบาตอีก ภพภูมิเองก็ไม่ได้บังคับเพราะหลวงปู่ยังมีลูกศิษย์อีกหลายคน ส่วนตัวเขาช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้อยู่กับเรือนและออกไปข้างนอกบ่อยกว่าปกติ พอฟีฟ่าถามว่าไปไหนก็ไม่ยอมบอก "วันนี้ก็ไปอีกแล้วเหรอ?" ฟีฟ่าถามขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงนั่งสวมถุงเท้าอยู่บนเก้าอี้ไม้สักทองตัวประจำ "อืม..ฉันจะกลับมาก่อนค่ำ นายอย่าออกไปไหนคนเดียวล่ะ" "รู้แล้วน่า อ้อ..เย็นนี้ฟ่าอยากกินพิซซ่ากับไก่ทอด พี่ซื้อมาฝากฟ่าด้วยนะ" ตอนนี้แค่ให้ลงจากเรือนฟีฟ่ายังไม่กล้าเลย ไปไกลสุดก็แค่ห้องน้ำและใต้ต้นลีลาวดีเท่านั้น "ได้สิ" หลังรับปากฟีฟ่าภพภูมิก็ลงจากเรือนไป ขณะเดินผ่านแคร่ใต้ต้นลีลาวดีก็ได้หันไปเห็นหญิงสาวในชุดสไบสองตนนั่งอยู่บนนั้นจึงเข้าไปหาพร้อมกำชับให้ดูแลฟีฟ่าให้ดีอย่าทำให้ตกใจกลัว และห้ามไม่ให้ใครเข้ามาในบริเวณเรือนไม้สีขาวแห่งนี้เด็ดขาด ...ไม่ต้องห่วง เราจะช่วยดูแลแฟนเจ้าให้เอง...นางตะเคียนพูดเสียงหวานพร้อมส่งสายตาให้ชายหนุ่ม ...นอกจากพวกเราสองตนแล้ว ยังมีท่านเทวดาสุดหล่อในป่าไผ่อีก ไม่ว่าผีหรือคนก็ไม่มีทางแตะต้อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   16. ภีม และ ภาคิน

    [16] ภีม และ ภาคินเวลาล่วงไปหลังตีสามภพภูมิก็ยังข่มตาไม่ลงแต่ก็พยายามจะนอนให้หลับสุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จจึงนอนลืมตาอยู่ในความมืดไปทั้งอย่างนั้น มือหนาวางลงข้างกายที่ว่างเปล่าอดที่จะคิดถึงหมอนข้างที่กอดนอนทุกคืนและเผลอเหวี่ยงเข้ามุมในตอนเช้าเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะลักหลับไม่ได้..พี่ภูมิ ช่วยฟ่าด้วย ฟ่าเข้าบ้านไม่ได้.."ฟีฟ่า!!?"ภพภูมิดีดตัวขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงเรียกของฟีฟ่าดังแว่วเข้ามา ตั้งใจฟังอีกครั้งให้แน่ใจก่อนลุกออกไปนอกห้องอย่างรีบเร่ง เปิดประตูออกไปก็พบคิรินกำลังยืนมองลงไปด้านล่างเพื่อหาที่มาของเสียงนั้น"นั่นเสียงของฟีฟ่า""คุณภพก็ได้ยินหรือครับ"..พี่ภูมิ พี่คิริน มารับฟ่าที ตรงนี้มันมืด ฟ่ากลัว..คิรินได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองจึงชะเง้อมองลงไปหาต้นเสียง เห็นเป็นเงาคนเดินไปมาอยู่นอกลาน ที่ไม่ลงไปดูเพราะภพภูมิสั่งไว้ว่าถ้าได้ยินเสียงแปลก ๆ ห้ามขานรับและถ้ายังไม่ถึงเวลาเช้าห้ามลงจากเรือนเด็ดขาด"ผมจะลงไปดูนะครับ""ไม่ต้อง"ภพภูมิห้ามคิรินเอาไว้และยืนมองฟีฟ่าตะโกนเรียกให้ช่วยอย่างน่าสงสาร ฟีฟ่าส่งเสียงเรียกอยู่พักใหญ่ พอเห็นว่าไม่มีใครลงจากเรือนก็ตวาดลั่นและด่าทอภพภูมิด้วยความไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02

บทล่าสุด

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   ตอนพิเศษ - เจย์ - ภาคิน

    ตอนพิเศษ - เจย์ - ภาคินแสงสียามค่ำคืนบนถนนบันเทิงเป็นสิ่งที่คนอย่างผมโปรดปรานมากที่สุด แม้อายุจะยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ผมก็สามารถตะลอนหาความสนุกได้โดยอาศัยเส้นสายของภูวเดชเดชานอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาเหนือมนุษย์แล้วด้วยความที่เป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูลทำให้ผมเป็นที่หมายปองของนักเที่ยวราตรีอย่างล้นหลาม สเปคของผมไม่ใช่สาวสวยหรือน่ารักแต่เป็นหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งผมไม่เคยขาดแคลนเลย แต่ที่โปรดปรานที่สุดก็คือคนสวยขาที่ร้อนแรงและพร้อมจะถ่างขาให้ผมตลอดเวลา"อื้มม..อ๊าา..คุณคิน แรง ๆ กระแทกผมให้แรงกว่านี้อีก อ๊าา.."ทุกครั้งหลังดีลกันในผับเรียบร้อยแล้วผมจะพาพวกเขาไปเริงรักต่อยังโรงแรมระดับห้าดาว ผมเปิดห้องที่มีราคาแพงที่สุดให้กับพวกเขาเพราะเสียงครางด้วยความเสียวซ่านจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ผมจนกระเจิง บ่อยครั้งที่ผมขยับโยกอย่างรุนแรงพวกหนุ่มหน้าหวานถึงกับเข่าทรุดไม่เป็นท่า และทุกครั้งหลังเสร็จกิจผมจะมีค่าตอบแทนให้จำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันความยุ่งยากที่จะตามมาผมจะไม่ยุ่งกับคนเดิมซ้ำเป็นหนที่สองเว้นเสียแต่ว่าเด็ดจริง ๆ ดังนั้นจึงมีหลายคนไม่พอใจกับการถูกผมเอาและทิ้งในครั้งเดียว ฉะนั้นผมจึงค่อนข้างระวังตัวเองเป

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   ตอนพิเศษ - มังกร - ภีม

    ตอนพิเศษ - มังกร - ภีมเมื่ออายุครบสิบสองปีทายาทของภูวเดชเดชาจะต้องเลือกคนคุ้มกันขึ้นมาหนึ่งคน โดยคนผู้นี้จะอยู่ข้างกายเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิตก๊อก ๆ"เข้ามา""ขออนุญาตครับ ท่านผู้นำเชิญคุณภีมให้ไปพบที่ห้องทำงานครับ" ร่างสูงก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมผมปิดหนังสือในมือลงเมื่อคนของคุณพ่อเข้ามาภายในห้องก่อนลุกขึ้นและเดินนำเขาออกไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อไปถึงก็พบคุณพ่อ อาธีร์ นั่งอยู่บนโซฟา ภายในห้องนั้นยังมีเด็กชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมอยู่อีกหนึ่งคน"คุณพ่อต้องการพบผม มีอะไรหรือเปล่าครับ"?"นั่งก่อนสิ"ผมเข้าไปนั่งข้างคุณพ่อ มือหนาวางลงบนศีรษะอย่างอ่อนโยนก่อนหันไปเรียกเด็กชายคนนั้นเพื่อมาแนะนำให้ผมรู้จัก"นี่คือมังกร เขาจะมาเป็นผู้คุ้มกันของลูก ลูกคิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ"ผมมองสำรวจเด็กชายที่มีอายุเท่ากันตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนลุกขึ้นประจันหน้า ส่วนสูงของเขาทำให้ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมน้อยคนนักที่จะมีส่วนสูงมากกว่า ไหนจะกล้ามเนื้อที่โตเกินวัยและผิวที่คล้ำแดดนั่นอีก"ผมยังไงก็ได้ครับ" ผมตอบคุณพ่อไปมังกรไม่ใช่เด็กคนแรกที่คุณพ่อพามาให้ผมเลือก ก่อนห

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   ตอนพิเศษ - เรือนไม้สีขาว

    ตอนพิเศษ - เรือนไม้สีขาว..พ่อยอดขวัญยอดดวงใจของพี่แก้ว พี่จะรอพ่ออยู่ ณ ที่แห่งนี้ ตลอดไป..สายลมพัดเอื่อยผ่านมาทางเรือนไม้สีขาว กระทบกระดิ่งลมเกิดเป็นเสียงกังวานฟังเพราะเสนาะหูเรือนไม้สีขาวหลังน้อยปลูกอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะแก้วเจ้าจอมที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว ด้านหลังเป็นป่าไผ่ต้นสูงท่วมหัว ถัดออกไปมีบึงน้ำขนาดใหญ่ผ่านอยู่ไหลสายหนึ่งด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงทำให้ผมต้องมาอาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพียงลำพัง อากาศที่บริสุทธิ์จะช่วยให้อาการป่วยของผมไม่หนักหนาเหมือนตอนอยู่พระนครในแต่ละวันของผมผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเงียบเหงานอกจากอ่านตำราและวาดภาพ การไปเดินเล่นริมบึงหลังป่าไผ่ยังไม่สามารถคลายความเบื่อหน่ายนี้ลงไปได้ทิวาผันผ่านล่วงเข้าสู่รัตติกาลแห่งวัน ณ ที่แห่งนี้ยังคงมีเพียงผมเช่นเดิม ผมเคยคิดอยู่บ่อยครั้งว่าจะต้องจบชีวิตอยู่ที่เรือนสีขาวแห่งนี้เพียงลำพัง แต่อย่างน้อยก่อนจะถึงวันนั้นขอให้ความอ้างว้างในใจผมได้เบาบางลงสักนิดก็ยังดีและในที่สุดคำขอก็เป็นจริง เมื่อวันหนึ่งสายลมได้พัดพาคนผู้นั้นเข้ามาในชีวิตของผม"เห็นเดินมาทางนี้นี่นา หายไปไหนแล้วล่ะ""ทางนั้

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   23. คิดถึงนะ |END.|

    [23] คิดถึงนะ "มองอะไรอยู่ไอ้ฟ่า ไปกันได้แล้ว" เลิฟเรียกฟีฟ่าที่เอาแต่ยืนมองไปรอบกุฏิของหลวงปู่ ทั้งที่คนอื่น ๆ นั่งรออยู่ในรถกันหมดแล้ว หลังกราบลาหลวงปู่และได้รับพรมาชุดใหญ่ทุกคนจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ คิดว่าฟีฟ่าจะกระดี๊กระด๊ารีบไปให้ไว ที่ไหนได้กลับอิดออดไม่ยอมขึ้นรถสักที "จะไม่มาส่งจริง ๆ เหรอเนี่ย" ฟีฟ่าเริ่มถอดใจเมื่อไม่เห็นเงาหัวของภพภูมิโผล่ออกมาให้เห็น จนได้ยินเสียงเพื่อนเลิฟตะโกนเรียกอีกครั้งจึงรีบเดินไปขึ้นรถ เพราะหากมีครั้งที่สามจะต้องเป็นเสียงเฮียยูโรแน่ "ไอ้คนใจดำ จำไว้เลย ถ้ามาง้อทีหลังไอ้ฟ่าจะไม่ให้ยกโทษให้แน่ คอยดูสิ!!" เขาต่อว่าภพภูมิก่อนมุดตัวเข้าไปในรถและยังแช่งให้คนพี่นอนไม่หลับ ตั้งใจว่าต่อไปจะไม่เป็นหมอนข้างให้อีกแล้ว ยูโรขับรถพาทุกคนมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ตลอดทางราบรื่นไร้อุปสรรค ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านสวนบรรยากาศร่มรื่นที่มีพื้นที่เล็ก ๆ ไว้สำหรับปลูกต้นไม้ขาย ฟีฟ่าฝากให้ป๊าช่วยปลูกต้นไผ่ที่ได้รับมาไว้ที่หลังบ้าน ซึ่งจุดนั้นตรงกับระเบียงห้องของยูโรพอดี ราวกับถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แม้ไม่ชอบใจแต่ยูโรก็ไม่ได้ขัดอะไร "วันนี้ไม่ออกไปสมัครงานเหรอ

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   22. ลาก่อนเรือนไม้สีขาว

    [22] ลาก่อนเรือนไม้สีขาว ภพภูมิยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของกลุ่มมือปืนที่ต่างกำลังจดจ่อวัตถุสีดำมาทางเขา มือหนากำแน่นจนสั่นด้วยความเจ็บใจที่มองไม่เห็นหนทางที่จะช่วยฟีฟ่าเพราะตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย "เจอกันชาติหน้านะครับคุณภพ ป่านนี้คุณพ่อคุณคงรอจนเมื่อยแล้ว" รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธีร์ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องกระหน่ำยิงคนตรงหน้า เมื่อตอนรถตกเหวไปพร้อมกับอดีตนายใหญ่ยังอุตส่าห์รอดชีวิตมาได้ คราวนี้ถ้าไม่ตายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว "อย่ายิงนะ..พี่ภูมิ!!" ฟีฟ่าตะโกนห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว สมุนของธีร์ลั่นไกแทบจะพร้อมกัน โดยมีเป้านิ่งคือภพภูมิ ปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยดดดดด!! เสียงปืนรัวขึ้นดังจนหูแทบดับแต่ช้ากว่ารถยนต์ติดกระจกกันกระสุนที่ขับพุ่งเข้ามาขวางด้านหน้าของภพภูมิเอาไว้ ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อหลบคมกระสุนที่ยิงเลยหลังคารถมาได้อย่างหวุดหวิด "รอพี่นานมั้ยจ๊ะที่รัก" คนในรถลดกระจกลงพลางยักคิ้วข้างหนึ่งทักทายภพภูมิ มือหนาดันแว่นตากันแดดขึ้นพลางขยิบตาให้ "เงียบปากไปเลยไอ้เท็นมะ แล้วไอ้เจย์ล่ะ!" "ไอ้เจย์ไปจัดการข้างบนแล้ว เห็นมันว่าจะไปดูหน้าเมียมันด้วย ช่วงนี้ได้ข่าวว่าติดเ

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   21. คนบงการ

    [21] คนบงการ"ผมขอเสนอให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนต่อไป"เสียงทุ้มพูดชัดเจนทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ธีร์แสดงท่าทีลำบากใจเมื่อถูกคะยั้นคะยอให้ยอมรับ ฝ่ายที่สนับสนุนธีร์ต่างแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดทางด้านฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายใหญ่ต่างหันมองกันด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเสนอชื่อธีร์ให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป แต่เสียงของผู้ที่สนับสนุนเขาก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง"ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนใหม่""ผมก็เหมือนกัน""ทุกท่านกรุณาคิดให้ดี ๆ ก่อนนะครับ ผมคิดว่าตัวผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกนะครับ" ธีร์ลุกขึ้นยืนและบอกทุกคนในห้องอย่างถ่อมตนในขณะที่หลายคนพยายามผลักดันให้เขาขึ้นรับตำแหน่งให้ได้"คุณธีร์ติดตามอดีตนายใหญ่มานาน ฝีไม้ลายมือย่อมดีกว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนเยอะ เพื่อความก้าวหน้าของพรรค ผมขอสนับสนุนคุณธีร์อีกเสียงครับ""ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่คุณธีร์ก็ไม่มีใครเหมาะสมแล้ว"ฝ่ายที่เชียร์ธีร์ต่างส่งเสียงสนับสนุนเขาเต็มที่ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมีจำนวนมากกว่าทำให้ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายใหญ่ต้องนั่งเงียบ อยากจะลุกจากเก้าอี้แต่ก็อยากรู้ข้อความ

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   20. ผู้นำคนใหม่

    [20] ผู้นำคนใหม่เช้าวันใหม่มาถึงนานแล้วแต่ทั้งภพภูมิและฟีฟ่าก็ยังไม่ลุกจากเตียง จนเมื่อเวลาล่วงไปใกล้เที่ยงฟีฟ่าจึงได้ลืมตาตื่นเพราะท้องร้องเสียงดังจนนอนไม่หลับ ตั้งใจจะลงไปหาอะไรกินข้างล่าง พอขยับตัวเท่านั้นแหละความปวดร้าวก็แล่นไปทั้งร่าง"อ๊ะ..โอ๊ย!' ทำไมปวดไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ?"มือเล็กจับลงที่สะโพก ครั้นพอเหลือบไปเห็นท่อนแขนแกร่งพาดอยู่ที่เอวก็ขมวดคิ้วแน่น สงสัยว่าภพภูมิกลับบ้านมาตอนไหนและตัวเองขึ้นมานอนบนห้องได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายจำได้ว่ากำลังดื่มกินอยู่กับลูกน้องของภพภูมิอยู่ที่หน้าหอพักนี่นา"ฉิบหายแล้ว"ฟีฟ่าทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้งและจำทุกอย่างได้ทั้งหมด ตายแน่ไอ้ฟ่าคราวนี้เอ็งไม่รอดแน่ ๆ คิดพลางยกแขนแกร่งที่ทับอยู่ออกและค่อย ๆ ย่องลงจากเตียงก่อนถูกถีบลงมา"จะไปไหน!""พี่ภูมิฟ่าขอโทษ ฟ่าไม่ได้ตั้งใจ"ฟีฟ่าทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม ก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษด้วยความสำนึกผิด เผื่อว่าโทษหนักจะเบาบางลง นิดหน่อยก็ยังดี"ลุกขึ้น ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ"มือหนาฉุดฟีฟ่าให้ยืนขึ้นและเปลี่ยนเป็นอุ้มในท่าเจ้าสาว ไม่ต่อว่าอะไรสักคำทำเอาระแวงไปหมดจู่ ๆ มาท

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   19. แมวไม่อยู่หนู(ฟ่า)ร่าเริง

    [19] แมวไม่อยู่หนู(ฟ่า)ร่าเริงผัว เอ๊ย! แมวไม่อยู่หนูฟ่าก็ร่าเริงเลยสิคะหลังรถของภพภูมิขับพ้นประตูรั้วออกไปแล้วฟีฟ่าก็ขอให้คิรินพาไปที่สระว่ายน้ำ ถึงเขาจะไม่ชอบออกกำลังกายแต่การว่ายน้ำก็เป็นกีฬาที่เขาโปรดปรานที่สุด ฟีฟ่าว่ายน้ำมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมทำให้มีกล้ามเนื้อที่สวยงาม ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นต่างตัวสูงกันหมด มีเพียงเขาที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดจุดหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น"มึงเป็นใครวะ นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ถ้าไม่อยากตายก็ออกไป!!"พอมาถึงสระว่ายน้ำชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหน้าก็เข้ามาขวางไม่ให้ฟีฟ่าเข้าไปด้านใน และยังมองด้วยสายตาน่ากลัว ดีที่คิรินตามมาถึงพอดี"คุณฟีฟ่าเป็นแขกของคุณภพ ถ้าพวกแกไม่อยากโดนทำโทษก็หลบไป!" คิรินที่แสนจะสุภาพพออยู่ต่อหน้าคนพวกนี้ก็เปลี่ยนไปราวคนละคน น้ำเสียงและบุคลิกน่ายำเกรงทำให้ใบหน้าราวนายเอกซีรีส์วายดูสมชายขึ้น"ขอโทษครับคุณคิริน ขอโทษครับคุณฟีฟ่า เชิญด้านในเลยครับ"ชายฉกรรจ์ร่างกำยำรีบก้มศีรษะขอโทษฟีฟ่า นอกจากผู้เป็นนายแล้วคนสนิทของพวกเขาก็มีฐานะที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ ภายในพรรคเช่นกันเป็นคนพิเศษนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง ฟีฟ่ายิ้มเหนือเดินนำหน้าคิรินเข้าไปด้านใ

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   18. ไล่ล่า

    [18] ไล่ล่ารถยนต์หรูขับอยู่ลำพังบนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาใช้เส้นทางนี้ แต่วันนี้กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลยและตลอดทางก็ไม่มีรถขับสวนมาสักคันทั้งที่เป็นขาเข้ากรุงเทพฯร่างสูงนั่งอยู่เบาะด้านหลัง ใบหน้าเรียบเฉยแม้ในใจจะขุ่นเคืองเพราะถูกยกเลิกนัดกะทันหัน เล่นมาบอกเอาตอนใกล้ถึงที่หมายแล้วนี่นะ ไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคงได้มีเรื่องกันไปแล้วขณะพยายามสงบใจดวงตาคู่คมได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เขาใช้ถนนเส้นนี้ในเวลากลางคืนอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เงียบและวังเวงเท่านี้มาก่อน"มีอะไรเหรอมังกร?"เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นคนสนิทที่รับหน้าที่ขับรถสอดส่ายสายตาไปมารอบตัวอยู่หลายครั้ง สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดกว่าปกติ เหงื่อแตกเต็มใบหน้าทั้งที่แอร์ภายในรถเย็นเยียบ"ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลก ๆ ยังไงคุณภีมระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะครับ"มังกรบอกกับผู้เป็นนายและใช้ความเร็วลดลงเพราะไฟส่องทางที่สว่างมาตลอดจู่ ๆ ได้ดับลงทีละดวงจนในที่สุดรอบตัวของทั้งสองก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงจากไฟหน้ารถที่สาดไปด้านหน้าเท่า

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status