Share

5. มาเฟียหนุ่ม

Author: Badberry
last update Last Updated: 2024-12-20 16:39:57

[5]

มาเฟียหนุ่ม

"ไอ้โรคจิต ทำไมถึงไม่ใส่กางเกงใน ฮะ!"

ภูมิพูดขึ้นเสียงดังพลางชี้นิ้วไปยังร่างเล็กที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงข้ามกัน ทั้งพยายามละสายตาจากสิ่งตรงหน้าด้วยการมองเลยไปทางด้านหลังของฟีฟ่า

"แล้วพี่จะตกใจทำไมล่ะ ก็เมื่อคืนพี่เป็นคนเร่งฟ่าให้เร็ว ๆ เองนี่ ฟ่าก็ใส่ไม่ทันนะสิ แต่โล่ง ๆ แบบนี้ก็สบายดีนะ" ฟีฟ่าสวมกางเกงวิ่งขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโคร่งซึ่งเจ้าตัวมองยังไงก็เรียบร้อย เขาลุกถกขากางเกงขึ้นจนแก้มก้นขาวโผล่ คนพี่ทนดูไม่ไหวต้องสั่งให้รีบเอาลง

"อย่าถก เอาลงเดี๋ยวนี้!"

เมื่อคืนฟีฟ่ากลัวโดนทิ้งจึงรีบแต่งตัวเลยไม่ทันได้สวมกางเกงชั้นใน และกางเกงวิ่งสมัยนี้ก็สั้นเหลือเกิน ขนาดไข่เล็ก ๆ ของไอ้ฟ่าก็ปิดแทบไม่มิด ไหนจะด้านข้างก็เป็นเพียงผ้าซ้อนทับกันไว้เพื่อความคล่องตัวของนักวิ่ง ตัวหนึ่งก็ไม่ใช่ถูก ๆ ซับในก็เสือกไม่มีอีก นั่งทีก็เปิดจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

"ที่จริงมันมีกางเกงซับในนะ แต่ฟ่ารำคาญมันสีกับไข่เลยไปเอาออก"

"ฉันไม่ได้ถาม ถ้านายจะใส่ไอ้กางเกงขาสั้นแบบนี้ก็สู้แก้ผ้าไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ ไข่เล็ก ๆ ยังปิดไม่มิดเลย"

"เสียมารยาท ไข่ฟ่าไม่ได้เล็ก ๆ สักหน่อย และอีกอย่างชุดนี้ก็ของมียี่ห้อไม่ใช่ถูก ๆ"

ฟีฟ่าโชว์เสื้อยืดราคาหลักพันปลาย ๆ และกางเกงขาสั้นให้ดูด้วยความภูมิใจ ภูมิถึงกับกุมขมับก่อนเดินกลับเข้าไปในห้องและหยิบชุดขาวออกมาโยนให้ฟีฟ่า

"ไปเปลี่ยนเป็นชุดนั้น"

ฟีฟ่าคลี่ชุดในมือออกก็ทำหน้ายี้ นะ..นี่มันเป็นเสื้อและกางเกงขายาวสีขาวเข้าชุดกันสำหรับใส่ปฏิบัติธรรมไม่ใช่เหรอ

"นี่มันชุดกินเจนี่นา ไม่เห็นจะเท่เลย ไม่เอาฟ่าไม่ใส่"

ทำท่าจะโยนทิ้งพอเจอใบหน้าถมึงทึงของอีกฝ่ายก็รีบเปลี่ยนทันที

ฟีฟ่าตั้งใจแก้ผ้าต่อหน้าภูมิเพราะข้างนอกฟ้ายังมืดจึงไม่กล้าลงไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำ และเป็นผู้ชายเหมือนกันจึงไม่อาย แต่ดันลืมไปว่าไอ้ผู้ชายคนนี้น่ะเคยเป็นผัวตัวเองมาก่อน

กางเกงขาสั้นถูกถอดออกจากร่างเล็กเผยสะโพกกลมกลึงต่อสายตาจึงถูกมือหนาฟาดไปทีหนึ่งจนขึ้นเป็นรอยแดงรูปฝ่ามือ ฟีฟ่าหันกลับไปมองภูมิตาเขียวปั๊ด

"ใส่กางเกงในด้วย!" ภูมิสั่งเสียงเข้ม คิดว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะอ่อยเขาเหมือนคืนวันนั้น ฮี่ม..ไม่มีทางซะหรอก อย่าหวังว่าจะเห็นหุ่นอันแสนเพอร์เฟกต์ของเขาอีกเป็นครั้งที่สองเลย

"ทีตัวเองยังแต่งตัวหล่อได้เลย เอาเปรียบกันชะมัด" ฟีฟ่ามองร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตสีเข้มกางเกงสแลคและรองเท้าหนัง มองตัวเองในชุดสีขาวก็ไม่พอใจ อีกฝ่ายยังส่งย่ามให้อีก

"นายคิดจะอ่อยฉันล่ะสิ อย่าหวังว่าคราวนี้จะสำเร็จเลย ถ้าคืนนั้นนายไม่วางยาปลุก รับรองขนสักเส้นของฉันนายไม่มีทางได้เห็นหรอก"

พูดจบร่างสูงก็ลากตัวฟีฟ่าลงจากเรือนเพราะตอนนี้ไม่มีใจจะนั่งสมาธิแล้ว สัมผัสจากก้อนเนื้อเด้งดึ๋งยังติดปลายนิ้วอยู่เลย ทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืนนั้นขึ้นมาอีกจนได้ จึงสะบัดศีรษะเพื่อไล่ความทรงจำบ้า ๆ นั้นออกไป

"พะ..พี่จะพาฟ่าไปไหนเหรอ?"

"ไม่ต้องถามมาก ตามมาเดี๋ยวก็รู้เองแหละ"

ภูมิพาฟีฟ่าเดินผ่านหลุมศพไร้ญาติเพื่อลัดเลาะไปยังหลังวัด ทางที่ภูมิใช้เป็นคนละทางกับที่หลวงปู่พาฟีฟ่าไปเรือนไม้สีขาว ทั้งสั้นและใช้เวลาน้อยกว่า

ตลอดทางฟีฟ่าเดินหลับตาตัวติดกับภูมิไม่ยอมห่างเพราะกลัวจะเห็นบางอย่างเข้า ทั้งที่เกิดมายังไม่เคยเห็นผีสักครั้งแต่เพราะประสบการณ์วัยเด็กที่เคยถูกเพื่อนแกล้งทำให้กลัวจนฝังใจมาทุกวันนี้ ตอนนี้ถ้าขี่คออีกฝ่ายได้ไอ้ฟ่าคงทำไปแล้ว

พอมาถึงที่หมายภูมิก็ยืนรออยู่ตรงนั้นกระทั่งเห็นชายผ้าเหลืองมาแต่ไกลจึงดันตัวฟีฟ่าออกและก้มลงกราบ ฟีฟ่าเห็นก็ทำตาม

"มากันนานแล้วเหรอ" หลวงปู่ทักขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น สายตาทอดมองทั้งสองคนสลับไปมา พร้อมรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากเล็กน้อย

"เพิ่งมาครับหลวงปู่" ภูมิตอบกลับไปก่อนลุกขึ้นยืนและฉุดร่างเล็กให้ลุกขึ้นด้วย

"สีหน้าดีขึ้นนะโยม"

"ครับ" ภูมิตอบรับ เป็นเพราะเมื่อคืนหลับสนิท แม้จะไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม

"ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะ" พูดกับภูมิเสร็จหลวงปู่จึงหันไปบอกกับฟีฟ่า ในขณะอีกฝ่ายยังไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องไปไหนและทำอะไรต่อ

"ไปไหนหรือครับ?"

"หลวงปู่ต้องไปบิณฑบาต ส่วนนายมีหน้าที่เดินตามและช่วยท่านถือของ เสร็จแล้วให้กลับมารอตรงนี้ ไว้ฉันจะมารับ" เสียงทุ้มบอกกับฟีฟ่า

"อะ..อะไรนะ บิณฑบาตเหรอ"

ที่ให้ฟีฟ่าใส่ชุดขาวสะพายย่ามก็เพื่อให้ไปช่วยหลวงปู่ถือของที่ชาวบ้านนำมาใส่บาตร หลวงปู่จะเดินเท้าไปตามถนนไม่ได้ยืนนิ่ง ๆ รับบาตร ระยะทางไม่ใช่ใกล้ ๆ จึงต้องมีคนตามไปช่วยถือของทุกครั้ง

ถ้าเบญจเพสมันจะลำบากขนาดนี้ ไอ้ฟ่าขอว้าปไปตอนอายุยี่สิบหกเลยได้มั้ย รู้ว่าทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้และเพื่อจะให้มีชีวิตรอดฟีฟ่าจำต้องตามหลวงปู่ไป ดีนะที่ไอ้หัวหยิกยังให้เขาสวมรองเท้าไม่ต้องเดินเท้าเปล่าเหมือนหลวงปู่

หลังฟีฟ่าไปแล้วภูมิไม่ได้กลับเรือนไม้สีขาวแต่กลับเดินลึกเข้าไปยังป่าช้าด้านในสุดที่มีศพที่มีจำนวนไม่น้อยถูกฝังอยู่แทบจะทุกตารางนิ้ว บรรยากาศรอบตัวชวนให้ขนหัวลุก แต่ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกลัวสักนิด ร่างสูงเดินตรงไปยังตะเคียนต้นใหญ่และยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น กระทั่งมีเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้

"มาแล้วเหรอ?"

"ครับ ขอโทษที่ให้รอนะครับคุณภพ"

ร่างสูงในชุดสูทสีเข้มดูไม่เข้ากับสถานที่ทักทายภูมิด้วยอีกชื่อหนึ่ง พลางก้มศีรษะเล็กน้อยแสดงความเคารพ

"เอาของไปเก็บที่เรือนไม้แล้วใช่มั้ย"

"เรียบร้อยแล้วครับ"

ภูมิ หรือ ภพ คือชื่อของชายหนุ่มร่างสูงสง่าคนนี้ ชื่อเต็มของเขาคือ ภพภูมิ ภูวเดชเดชา แม้จะเป็นลูกชายคนเล็กแต่ก็เป็นถึงทายาทอันดับหนึ่งของมาเฟียตระกูลใหญ่เลยทีเดียว

"เรื่องที่ให้สืบไปถึงไหนแล้ว"

"ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยครับ ผมส่งคนไปจับตาดูศัตรูของนายใหญ่ที่เข้าข่ายน่าสงสัยทั้งหมดแล้ว หลังตรวจสอบข้อมูลที่ได้มาก็พบว่าพวกมันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบยิงนายใหญ่สักคน ตอนนี้พวกมันก็เริ่มรู้ตัวกันแล้ว ช่วงนี้เลยไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร" ชายหนุ่มรายงานให้ภพภูมิฟัง

"จับตาดูมันต่อไป"

"ครับ"

นายใหญ่หรือคุณพ่อของภพภูมิถูกรถขับไล่ตามประกบยิงจนรถที่นั่งมาตกหน้าผาและเสียชีวิตคาที่ ซึ่งตอนนั้นภพภูมิก็อยู่ในรถคันเดียวกันแต่ก็รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด

ฟังเช่นนี้แล้วเขาก็พอจะเดาเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ มันเป็นอย่างที่เขาคิดจริง ๆ ที่คุณพ่อของเขาตายไม่ใช่ฝีมือของคนนอกแค่เป็นคนในพรรค เพราะตั้งแต่ท่านคิดจะวางมือจากงานสีเทาและทำทุกอย่างให้โปร่งใสก็มีหัวหน้าพรรคบางส่วนไม่เห็นด้วยและพยายามขัดขวางมาตลอด กระทั้งมาเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น ถึงตอนนี้ก็ยังหาตัวคนบงการไม่ได้เลย

ขณะถามถึงความคืบหน้า ดวงตาคู่คมได้มองไปรอบตัวด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ท่ามกลางหลุมฝังศพจำนวนมากภพภูมิมองเห็นกลุ่มควันที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ สีขาวบ้างสีดำบ้างลอยผ่านหน้าไปมา

ภพภูมิมองเห็นพลังงานเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก และสิ่งนี้แหละที่ทำให้เขารอดชีวิตจากอุบัติเหตุมาได้แต่ก็ได้รับผลกระทบที่คาดไม่ถึงเช่นกัน เพราะนอกจากเขาจะกลายเป็นโรคนอนไม่หลับแล้วยังไม่สามารถมองเห็นพลังงานเหล่านี้ได้อีก น่าเจ็บใจที่ดันมาหายไปในเวลาสำคัญแบบนี้ มิเช่นนั้นป่านนี้เขาคงรู้ตัวคนบงการฆ่าคุณพ่อแล้วว่าคือใคร

และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ภพภูมิต้องมาปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดกับหลวงปู่ นอกจากเพื่อความปลอดภัยแล้วก็เพื่อจะกลับไปมองเห็นพลังงานเหล่านั้นได้อีกครั้ง ทั้งที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่เพราะฟีฟ่าทำให้ทุกอย่างที่ทำมาล้มเหลวทั้งหมด

"คุณภพสีหน้าดูดีขึ้นนะครับ"

ชายหนุ่มทักขึ้นเมื่อสังเกตเห็นขอบตาที่ดำคล้ำของภพภูมิดูสดใสขึ้นแม้จะแค่นิดหน่อยก็ตาม อารมณ์ก็เสถียรขึ้นไม่หงุดหงิดง่ายเหมือนช่วงก่อน

พอถูกทักเป็นครั้งที่สองทำให้ภพภูมิอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ ได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงจะเปลี่ยนแปลงจนเห็นได้ชัดขนาดนี้เชียวเหรอ ทั้งที่ตัวเขาเองไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองนอนมากกว่าเดิมเท่าไหร่เลย ที่ผ่านมาในแต่ละวันเขานอนไม่เคยเกินหนึ่งชั่วโมง ซ้ำยังหลับไม่สนิทอีกด้วย

"คงเพราะอยู่ที่นี่แล้วนอนได้มากขึ้นล่ะมั้ง"

ลูกน้องคนสนิททอดสายตามองไปรอบบริเวณที่มีแต่หลุมศพและซากสัตว์จำนวนไม่น้อยด้วยหัวใจที่เต้นระทึก บรรยากาศชวนหลอนแบบนี้เจ้านายยังหลับลงไปได้เขาล่ะนับถือจริง ๆ เป็นเขาคงนอนไม่หลับแน่ ๆ

"แล้วไอ้เท็นล่ะ ช่วงนี้มันหายหัวไปไหน" เขาถามถึงพันธมิตรในวงการหรือก็คือเพื่อนสนิทที่คบกันมาแต่เด็ก หลังประสบอุบัติเหตุเขาได้เท็นมะช่วยเหลือไว้ไม่น้อย

"คุณเท็นมะตามดูพฤติกรรมของคุณคินกับคุณภีมอยู่ครับ"

"งั้นเหรอ"

พอรู้ข่าวคราวของคนในพรรคแล้วภพภูมิจึงให้ลูกน้องคนสนิทกลับไปก่อน ส่วนตัวเขาต้องไปรับฟีฟ่าที่หลังวัดเพราะใกล้เวลาที่หลวงปู่จะกลับจากบิณฑบาตแล้ว ร่างสูงเดินลัดเลาะกลับไปตามทางเดิมที่สั้นกว่า พอมาถึงก็พบฟีฟ่ายืนรออยู่พร้อมถุงอาหารที่หลวงปู่แบ่งมาให้กินกับเขา

"ทำไมมาช้าจัง ฟ่ารอตั้งนานแล้วเนี่ย"

พอเห็นร่างสูงเดินออกมาจากหลังเจดีย์เก็บอัฐิฟีฟ่าก็ตรงเข้าไปต่อว่าทันที

เขาเพิ่งเคยเดินตามพระบิณฑบาตเป็นครั้งแรกหลวงปู่จึงไม่ได้พาไปไกลนักเพราะกลัวจะเดินไม่ไหว แต่ถึงอย่างนั้นก็มีชาวบ้านที่นับถือท่านต่างมายืนรอใส่บาตรกันไม่น้อย แค่นี้มือของฟีฟ่าก็ถือของแทบไม่ไหวแล้ว พูดแล้วจะหาว่าบาปของส่วนใหญ่หลวงปู่จะเป็นคนถือเองมากกว่า เห็นท่านอายุเกือบเจ็ดสิบแต่ร่างกายยังแข็งแรงไม่ต่างจากพระหนุ่มเลยทีเดียว กล้ามแขนนี่แน่นกว่าของเขาเสียอีก

"มารับก็ดีเท่าไหร่แล้ว พูดมากเดี๋ยวก็ให้กลับเองหรอก"

"อ๊ะ..พี่ภูมิจะไปไหน รอฟ่าก่อนสิ เห็นมั้ยว่าของมันหนักไม่คิดจะช่วยถือบ้างเหรอ ถ้าไม่ช่วยเดี๋ยวก็ไม่แบ่งให้กินหรอก"

ฟีฟ่าเร่งฝีเท้าเดินตามร่างสูงกลับเข้าไปในป่าช้า แม้จะเป็นเวลาเช้าแต่บรรยากาศก็ยังน่ากลัวไม่ต่างกับตอนกลางคืน ทั้งที่ตอนอยู่ในบริเวณวัดทุกอย่างก็ดูปกติ แต่พอย่างเท้ากลับเข้ามาที่ตรงนี้ทีไรเหมือนหลุดเข้ามาอีกโลกหนึ่งทุกที

กลับมาถึงเรือนไม้สีขาวฟีฟ่าก็วางถุงอาหารลงบนแคร่ใต้ต้นไม้ใหญ่ มีดอกไม้สีขาวปลิวจากต้นหล่นลงมาบนพื้นจึงแหงนหน้าขึ้นไปดู พบเป็นลีลาวดีต้นใหญ่ปลูกอยู่ เมื่อวานด้วยความตกใจจึงไม่ทันได้สังเกต

"จานชามอยู่ตรงนั้น ไปหยิบเอานะ"

ภพภูมิชี้ไปยังใต้ถุนเรือนที่มีครัวแบบเปิดอยู่ ตรงนั้นมีจานชามที่ล้างและคว่ำอยู่ในกะละมังเรียบร้อย หลังบอกฟีฟ่าแล้วร่างสูงก็เดินขึ้นเรือนไป ไม่ช่วยแกะถุงอาหาร ฟีฟ่าเข้าไปหยิบจานชามมาแกะอาหารที่หลวงปู่แบ่งมาให้เทใส่ลงไป ปากก็บ่นอุบอิบไปด้วย ไม่ช่วยถือของไม่พอยังไม่ช่วยแกะอีก

"คนไม่ทำงานก็ไม่มีข้าวกิน เชอะ!"

ฟีฟ่ามองอาหารตรงหน้าแล้วเบ้ปาก ที่เขากินได้มีแค่ไข่เจียวกับแกงจืดใส่หมูสับเท่านั้น ที่เหลือมีแต่กับข้าวที่เขาไม่รู้จัก

กำลังจะตักข้าวเข้าปาก ดวงตากลมได้มองขึ้นไปบนเรือนก่อนวางช้อนลงและลุกขึ้นไปตามภูมิให้ลงมาทานด้วยกัน เพราะต้องอยู่ด้วยกันอีกหลายวันผูกมิตรไว้ก่อนดีกว่า

เดินขึ้นบันไดไปได้ไม่เท่าไรก็ได้กลิ่นหอมลอยมาแตะจมูกจึงรีบขึ้นไปดู พบชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟยี่ห้อดังอยู่อย่างสบายอารมณ์ ถึงกับเข้าไปถามทันที

"ทำไมพี่ภูมิมีกาแฟกินด้วยล่ะ"

"แล้วทำไมฉันจะมีไม่ได้ล่ะ"

ชายหนุ่มตอบฟีฟ่าด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ บนโต๊ะไม้สักทองยังมีกล่องใส่อาหารคลีนอย่างหรูวางอยู่ด้วย

"ตัวเองได้กินของดี ๆ แต่ให้ฟ่ากินข้าววัดเหรอ จะเอาเปรียบกันไปแล้วนะ ฟ่าเองก็อยากดื่มกาแฟเหมือนกันนะ"

ฟีฟ่าบ่นอุบพลางกลืนน้ำลายลงคอเพราะอยากกินอาหารที่อยู่บนโต๊ะมากกว่าอาหารที่หลวงปู่ให้มา จะโทรให้ป๊าเอามาให้ก็ไม่ได้เพราะมือถือแบตหมดไปแล้ว ที่สำคัญเขาดันลืมเอาที่ชาร์ตมาด้วยนะสิ

ชายหนุ่มไม่สนใจที่ฟีฟ่าประท้วง ปล่อยให้คนตัวเล็กยืนมองด้วยความเจ็บใจก่อนอีกฝ่ายสะบัดหน้าเดินลงจากเรือนไปด้วยความโมโห ฟีฟ่าลงไปกินข้าววัดต่อและยังต้องแบ่งบางส่วนไว้เป็นมื้อเย็นอีกด้วย คอยดูนะถ้ามาขอจะไม่แบ่งให้สักคำเลย

หลังอาหารเช้าฟีฟ่าก็ไม่มีอะไรทำอีก ร่างเล็กจึงนอนเหยียดยาวอยู่บนแคร่ มองดอกลีลาวดีร่วงลงมาจนเต็มพื้นพลางคิดเพ้อเจ้อ ถ้าเป็นคน ผมร่วงแบบนี้คงหัวล้านไปแล้ว แต่ต้นไม้ต้นนี้กลับยังมีดอกบานอยู่เต็มไปหมด

เวลาในป่าช้าผ่านไปอย่างเชื่องช้า คนกลัวผีอย่างฟีฟ่าไม่กล้าเดินไปไหนไกลจากบริเวณเรือนไม้สีขาวเพราะกลัวสิ่งที่นอนอยู่ใต้พื้นดินจะลุกขึ้นมาจ๊ะเอ๋

ถึงอย่างนั้นบนเรือนก็ยังมีไอ้หัวหยิกอยู่พอให้อุ่นใจได้บ้าง แม้จะไม่ได้ช่วยอะไรเขามากนอกจากคอยกวนตีนก็เถอะ ขนาดตัวเขาเองยังนอนจนเบื่อและอีกฝ่ายจะไม่เบื่อบ้างหรือไงนะ

ยิ่งคิดก็อดสงสัยไม่ได้ว่าอีกฝ่ายหมกตัวทำอะไรอยู่ข้างบน นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วยังไม่เห็นลงมาเลย อดใจไม่ไหวจึงต้องขึ้นไปแอบดูสักหน่อย

ฟีฟ่าค่อย ๆ ย่องขึ้นไปเพื่อแอบดูว่าภพภูมิกำลังทำอะไรอยู่บนเรือนถึงได้เงียบเชียบนัก เห็นอีกฝ่ายกำลังนั่งสมาธิอยู่หน้าโต๊ะทำพิธีก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ ไม่อยากเชื่อว่าคนแบบนี้จะนั่งสมาธิเป็นด้วย เห็นแบบนี้แล้วก็อยากเอามีดไปโกนผมให้จริง ๆ

ขณะคิดบาป ฟีฟ่าบังเอิญเหลือบไปเห็นกล่องใส่อาหารคลีนบนโต๊ะไม้สักทองยังไม่ถูกเปิดกิน มองให้ดีก็เห็นแซนด์วิชไข่ของโปรดของตนอยู่ในถุงด้วย ดวงตากลมหันกลับไปมองร่างสูงที่นั่งหันหลังให้ก่อนเดินเขย่งปลายเท้าขึ้นไปเพื่อแอบหยิบของบนโต๊ะ

Related chapters

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   6. นายต้องเป็นหมอนข้างให้ฉัน

    [6]นายต้องเป็นหมอนข้างให้ฉันฟีฟ่าย่องขึ้นเรือนโดยมีเป้าหมายอยู่ที่กล่องแซนด์วิชบนโต๊ะไม้สักทอง เจ้าของนั่งหันหลังให้แบบนี้ยังไงก็ไม่มีทางเห็นแน่นอน เสร็จไอ้ฟ่าล่ะมือเล็กคว้ากล่องแซนด์วิชได้สำเร็จ ตั้งใจจะเอาลงไปกินข้างล่างเป็นมื้อเที่ยง บังเอิญเหลือบไปเห็นเห็นอกไก่ไร้ไขมันชิ้นใหญ่ในกล่องอาหารคลีนก็เกิดอยากกินขึ้นมา คิดว่าเอาไปแค่ชิ้นเดียวอีกฝ่ายคงไม่รู้หรอก "เสร็จโจร อิอิ.."มัวแต่ย่ามใจค่อย ๆ เปิดกล่องจึงไม่รู้สึกตัวว่าร่างสูงได้มายืนอยู่ด้านหลังแล้ว และกำลังมองพฤติกรรมของเขาอยู่"ทำอะไรน่ะ!"เสียงทุ้มดังขึ้นทำเอาฟีฟ่าตกใจจนแทบทำของในมือร่วง ดีที่ว่าคว้าเอาไว้ได้ทัน เขาหันกลับมามองร่างสูงและยิ้มแหย ๆ"นะ.. นั่งสมาธิเสร็จแล้วหรือครับ แฮะ ๆ""ถ้ายังไม่เสร็จฉันจะจับขโมยได้เหรอ"ร่างสูงโน้มลงต่ำและยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ดวงตาคู่คมมองกล่องแซนด์วิชที่อยู่ในมือของฟีฟ่าและยิ้มเหี้ยม..วิ่งสิครับจะรออะไร!!ฟีฟ่าถอยหลังหนีและรีบวิ่งลงจากเรือน ยังไม่พ้นบันไดขั้นแรกก็ถูกมือหนาคว้าคอเสื้อเอาไว้ได้ นี่สินะ..ข้อเสียเปรียบของคนขาสั้น ฟีฟ่าถูกคนตัวใหญ่กว่าเหวี่ยงกระเด็นกลับขึ้นไปบนเรือน แผ่นหลังบาง

    Last Updated : 2024-12-20
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   7. สิ่งที่ติดตามมาในความมืด

    [7]สิ่งที่ติดตามมาในความมืด"วันนี้ผมคงไปช่วยหลวงปู่บิณฑบาตไม่ไหวแล้วล่ะ"ฟีฟ่าเดินเดี้ยงออกมายังชานหน้าบ้านทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนตัวเก่ง เวลาตีห้ากว่าแล้วแต่ท้องฟ้ายังคงมืดสนิทและไม่มีวี่แววว่าพระอาทิตย์จะขึ้นสักนิด ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เหมือนเวลากลางคืนจะยาวนานกว่าปกติ"ไม่ไหวก็ไม่ต้องไป ไม่มีนายหลวงปู่ยังมีลูกศิษย์อีกเยอะ""ชิ!"ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้สักทองและมองออกไปรอบตัวบ้าน กิ่งไผ่สูงท่วมหัวโอนเอนไปตามสายลมดูน่ากลัวจนต้องลุกไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ กับภพภูมิ"เป็นอะไรอีกล่ะ""ตะ..ต้นไผ่มันโยกไปโยกมา น่ากลัวยังไงก็ไม่รู้"ดวงตาคู่คมมองออกไปตามที่ฟีฟ่าบอก แม้ไม่เห็นเป็นตัวเป็นตนแต่ก็รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ในเมื่อต่างคนต่างอยู่เขาจึงไม่ทำอะไร และบริเวณเรือนไม้สีขาวก็ได้ทำการลงอาคมเพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้เอาไว้แล้ว"ถ้ากลัวแล้วจะมองทำไม กลัวมากก็มานั่งสมาธินี่"เอะอะก็จะให้นั่งสมาธิอยู่เรื่อย ไอ้ฟ่าไม่เอาด้วยหรอก แต่อีกคนไม่สนใจหลังก้มกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าสู่สมาธิโดยมีฟีฟ่านั่งอยู่ข้าง ๆ คนไม่มีอะไรทำก็เริ่มง่วงขึ้นมาสุดท้ายก็ฟุบหลับไปบนตักของภพภูมิเ

    Last Updated : 2024-12-20
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   8. เพื่อนรักเพื่อนเลิฟ

    [8]เพื่อนรักเพื่อนเลิฟรถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดยังหน้าตึกสูงและได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก รปภ. ร่างสูงในชุดฉูดฉาดลงจากรถออกมายืนด้วยท่าทีสง่างาม มือหนาขยับแว่นตากันแดดให้เข้าที่พลางยกยิ้มด้วยความมั่นใจ ไม่สนว่าจะตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ช่วงขายาวก้าวเข้าไปในตึกอย่างมาดมั่นตรงไปยังลิฟต์สำหรับผู้บริหารเพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุด"แต่งตัวอะไรของมึงวะไอ้เท็น ระหว่างทางหมาไม่เห่าบ้างหรือไงวะ"ผู้บริหารหนุ่มถึงกับวางมือจากเอกสารที่กำลังเซ็นอยู่และลุกขึ้นมาหาชายหนุ่ม ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามมองอีกฝ่ายตั้งหัวจดเท้าอีกครั้ง"ทำไม? กูก็แต่งธรรมดานี่ ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย""เออ..ไม่แปลกก็ไม่แปลก และมึงก็เลิกสูบบุหรี่ในห้องกูได้แล้ว แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดทีไรก็นึกว่ามีขโมยเข้ามาในห้องกูอยู่เรื่อย"ดวงตาเรียวเหยียดมองสูทลำลองสีแดงเข้มเข้าชุดกับกางเกง และไหนจะเสื้อยืดคอกว้างและลึกโชว์ขนหยิกหย็อยบนกล้ามหน้าอกกับรอยสักบนร่างกายด้านซ้าย ใครเห็นต่างก็วิ่งหนีกันหมด ถ้าลูกค้ามาเห็นว่ามีคนแบบนี้ในบริษัทของเขามีหวังความน่าเชื่อถือคงไม่เหลือ"เรื่องมากฉิบหาย ต่อให้กูไม่สูบบริษัทมึงก็ไม่น่าเ

    Last Updated : 2024-12-20
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   9. ชายปริศนาในป่าไผ่

    [9]ชายปริศนาในป่าไผ่"เลิกทำหน้าแบบนั้นสักทีเถอะ เห็นแล้วกินข้าวไม่ลง"เสียงทุ้มว่าคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกัน มองปากที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ แต่ตานี่ขวางเชียว ก็นะ..ลองมาถูกเหวี่ยงดูบ้างมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าเจ็บแค่ไหน นอนด้วยกันมาอาทิตย์กว่าแต่ทั้งตัวไอ้ฟ่านี่มีแต่รอยช้ำเต็มไปหมด"ไม่รู้ล่ะ ก็ใครใช้ให้พี่มาทำร้ายฟ่าก่อนล่ะ!""ก็นายอยากคิดไม่ดีกับฉันก่อนทำไม หน็อย..คิดจะลักหลับฉันเป็นครั้งที่สองเหรอ เอาไว้ชาติหน้าเถอะ วันนั้นถ้านายไม่ใช้ยาปลุก บอกไว้เลยนะว่าขนสักเส้นของฉันนายก็ไม่มีทางได้เห็นหรอก!""แหวะ..อยากเห็นตายล่ะ" ฟีฟ่าพึมพำเบา ๆ เพราะกลัวถูกเหวี่ยงลงจากเรือน ขี้เกียจเถียงด้วย ทั้งที่เมื่อคืนตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนถอดกางเกงของเขาออกแท้ ๆแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ กะอีแค่มีเซ็กซ์ครั้งเดียวทำไมต้องอาฆาตกันขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ ฟ่าไม่เข้าใจจริง ๆ เป็นผู้ชายซะเปล่า ตัวก็ใหญ่อย่างกับควายแต่ใจแคบชะมัด ทั้งที่ตอนนั้นตัวเองก็เป็นฝ่ายได้เสียบแท้ ๆ ไอ้หัวหยิกเอ๊ย..อ้อ..อีกอย่าง บอกไว้เลยนะถ้าคืนนั้นไม่เมาจนขาดสติคนอย่างฟีฟ่าไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้เด็ดขาดถึงจะงอนแต่ฟีฟ่าก็กินข้าวจนหมดเกลี้ยง

    Last Updated : 2024-12-20
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   10. คนหน้าคล้าย

    [10]คนหน้าคล้ายจากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฟีฟ่าไม่อยากมองหน้าภพภูมิอีกเลย คนใจดำ รู้ทั้งรู้ว่าเขากลัวผียังบังคับให้เปิดโลงดูศพและยังถีบตกฟูกอีก คิดแล้วน่าโมโหจริง ๆ คนตัวเล็กนั่งหันหลังให้ ในมือถือแซนด์วิชไข่ ปากก็เคี้ยวตุ้ย ๆ ไปด้วย"ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว คิดว่าน่ารักมากหรือไง"คนถูกว่าเพียงแค่เหลือกตามองและหันกลับไปกินแซนด์วิชต่อ คิดซะว่าได้ยินเสียงหมาเห่าหมาหอนละกันภพภูมินั่งไขว่ห้างพลางจิบกาแฟ มืออีกข้างก็ไถมือถือไปด้วย เห็นข้อความจากเท็นมะเข้ามา เมื่อคืนเพราะมีเรื่องวุ่นวายจึงไม่ทันสังเกตเห็น พอกดเข้าไปดูก็ขมวดคิ้วแน่น"ทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ"ร่างสูงลุกขึ้นและสั่งให้ฟีฟ่าไปเปลี่ยนชุดเพราะจะไปกราบหลวงปู่ด้วยกันฟีฟ่าดูดนิ้วหลังกินทุกอย่างหมดแล้ว แกล้งไปเช็ดมือกับเสื้อของภพภูมิและรีบวิ่งเข้าห้องก่อนโดนต่อย เขากลับออกมาในชุดขาวเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่คราวนี้ภพภูมิกลับบอกให้เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาแทน"แล้วไม่บอกแต่แรก เสียเวลาชะมัด"ฟีฟ่าบ่นอุบและกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง คราวนี้ออกมาในชุดทันสมัย ยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูเด็กกว่าเก่า จากนั้นจึงตามภพภูมิไปยังกุฏิของหลวงปู่ ซึ่งท่านได้นั่งรออยู่แ

    Last Updated : 2024-12-20
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   11 พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่

    [11]พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่ภพภูมิกลับมายังจุดนัดหมายพร้อมกับยาทาแก้ฟกช้ำ เขาบีบยาจากหลอดใส่ปลายนิ้วและป้ายลงบนแก้มแดงอย่างเบามือ"ยิ่งขี้เหร่อยู่ ระวังอย่าให้มีแผลสิ""ฟ่าไม่ได้หาเรื่องนะ ก็ไอ้ลุงนั่นอยู่ดี ๆ ก็มาดึงแขนฟ่าไว้ เจ็บจะตาย"พอได้ยินว่าชายวัยกลางคนที่มีเรื่องกับฟีฟ่านอกจากตบหน้าแล้วยังจับแขนเอาไว้อีกก็ยิ่งโมโห อยากจะโทรหาลูกน้องคนสนิทให้ตัดมือมันทิ้งไปด้วยเลย"จะซื้ออะไรมั้ย?""ไม่ล่ะ"ฟีฟ่าปฏิเสธเพราะราคาสินค้าของที่นี่แต่ละอย่างไอ้ฟ่าเอื้อมไม่ถึงจริง ๆ ไม่รู้ภพภูมิคิดยังไงถึงพาเขามาที่แบบนี้"อยากได้อะไรก็ไปดู เดี๋ยวฉันซื้อให้เอง"ภพภูมิเหมือนจะรู้ความคิดของฟีฟ่า เขาจึงเสนอเป็นเจ้าภาพจ่ายเงินให้ คิดว่าเป็นค่าตอบแทนให้กับหมอนข้าง ทำเอาคนน้องตาโต คิดว่าตัวเองหูฝาดไปซะอีกจนต้องถามซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ"จริงเหรอ ได้ทุกอย่างเลยเหรอ!""จริงสิ"ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเปย์ให้ขนาดนี้ มีเหรอที่ไอ้ฟ่าจะพลาดโอกาสทอง ที่นี่มีของที่เขาอยากได้ตั้งหลายอย่าง ตั้งใจจะถล่มให้กระเป๋าฉีกเลย"พูดเองนะ อย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน"ฟีฟ่าเดินนำหน้าเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่นโดยมีภพภูมิเดินตามไปรูด

    Last Updated : 2024-12-25
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   1. บทนำ

    [1] บทนำ ณ สถานบันเทิงที่ลักลอบเปิดให้บริการจนถึงเช้า ภายในเต็มไปด้วยแสงสีและเสียงเพลงดังกระหึ่มจนต้องแหกปากตะโกนคุยกัน กลิ่นเหล้าและควันบุหรี่ลอยคละคลุ้ง แต่เหล่าบรรดานักท่องราตรียังคงสนุกกับการดื่มกินจนลืมเวลา รวมถึงฟีฟ่าที่อยู่ในอาการเมามายจนแทบจำชื่อตัวเองไม่ได้ เขากำลังวาดลีลาอยู่บนฟลอร์ด้วยท่าทางที่ดูจะแรดเกินชายไปหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรักนวลสงวนตัวไม่ยอมให้ผู้ชายที่ไหนลากไปง่าย ๆ ฟีฟ่า ชายหนุ่มผู้มีอายุย่างจะเข้าสู่เบญจเพสในไม่ช้า คิดว่าตัวเองจะรอดจากอาถรรพ์แล้ว ที่ไหนได้ พอยิ่งใกล้วันเกิดความซวยก็ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งตกงาน รถจอดอยู่เฉย ๆ ก็ถูกชนจนพังยับ ไหนจะถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกเงินไปเป็นแสนอีก ที่หนักสุดคือถูกแฟนสาวที่คบมาครึ่งปีบอกเลิกด้วยเหตุผลที่ว่าเข้ากันไม่ได้ มันไม่ได้ตรงไหนวะ! ก็ตอนเอาโคยเสียบเข้าเสียบออกหล่อนยังร้องครวญครางว่าเสียวอย่างกับจะขาดใจตายอยู่เลย แต่นั่นไม่น่าเจ็บใจเท่าตอนไปหล่อนยังขโมยของมีค่าของเขาไปอีก เจอแบบนี้จะไม่เจ็บยังไงไหว ยิ่งคิดก็ยิ่งคลุ้มคลั่งจากท่าเต้นยั่วยวนก็กลายเป็นเต้นยั่วตีนไปเสียแล้ว หลายครั้งที่ฟีฟ่าเหยียบเข้ากับเท้าข

    Last Updated : 2024-12-13
  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   2. คนดวงตก

    [3] คนดวงตก "ว่าไงนะป๊า..ไม่! ฟ่าไม่ไปเด็ดขาด!" เสียงฟีฟ่าโวยวายลั่นบ้านเมื่อรู้ว่าผู้เป็นพ่อและพี่ชายจะส่งตนไปอยู่วัด เพราะเห็นว่ายิ่งใกล้เบญจเพสดวงของฟีฟ่าไม่ดีเอาเสียเลย พวกเขาจึงเอาดวงของฟีฟ่าไปให้ซินแสที่นับถือช่วยตรวจดูให้ ปรากฏว่าชะตาของฟีฟ่ากำลังจะขาด แต่ถ้าผ่านไปได้เขาจะได้โชคอันใหญ่อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว "อย่าดื้อกับป๊านะฟ่า!" เสียงดุของพี่ชายทำฟีฟ่าสะดุ้ง และเงียบปากลงอัตโนมัติ ครอบครัวของฟีฟ่ามีกันสามคนพ่อลูก คุณแม่เสียไปตั้งแต่เขายังแบเบาะผู้เป็นพ่อจึงรักและตามใจเขามากเพื่อชดเชยที่ขาดแม่ไป ยูโร คือพี่ชายของฟีฟ่าและมีอายุห่างกันถึงห้าปี เขามีนิสัยตรงกันข้ามกับฟีฟ่าแทบจะทุกอย่างและเป็นคนเดียวในบ้านที่ฟีฟ่ากลัว เฮียยูโรทำงานอยู่บริษัทเอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งและส่งฟีฟ่าเรียนจนจบมหาลัย ส่วนป๊าเกษียณออกมาอยู่บ้านแล้ว นอกจากเงินผู้สูงอายุก็มีรายได้เล็ก ๆ น้อยจากการปลูกต้นไม้ขาย ทั้งที่อยู่เฉย ๆ ก็ไม่ลำบาก "เชื่อป๊านะฟ่า ที่ป๊ากับเฮียทำไปทั้งหมดก็เพราะหวังดีกับฟ่านะ" "ไม่นะป๊า! ไม่นะเฮีย! ทั้งสองคนก็รู้นี่ว่าฟ่ากลัวผี ป๊ากับเฮียยังจะให้ฟ่าไปอยู่วัดอีกเหรอ ถ้าป๊ากั

    Last Updated : 2024-12-13

Latest chapter

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   11 พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่

    [11]พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่ภพภูมิกลับมายังจุดนัดหมายพร้อมกับยาทาแก้ฟกช้ำ เขาบีบยาจากหลอดใส่ปลายนิ้วและป้ายลงบนแก้มแดงอย่างเบามือ"ยิ่งขี้เหร่อยู่ ระวังอย่าให้มีแผลสิ""ฟ่าไม่ได้หาเรื่องนะ ก็ไอ้ลุงนั่นอยู่ดี ๆ ก็มาดึงแขนฟ่าไว้ เจ็บจะตาย"พอได้ยินว่าชายวัยกลางคนที่มีเรื่องกับฟีฟ่านอกจากตบหน้าแล้วยังจับแขนเอาไว้อีกก็ยิ่งโมโห อยากจะโทรหาลูกน้องคนสนิทให้ตัดมือมันทิ้งไปด้วยเลย"จะซื้ออะไรมั้ย?""ไม่ล่ะ"ฟีฟ่าปฏิเสธเพราะราคาสินค้าของที่นี่แต่ละอย่างไอ้ฟ่าเอื้อมไม่ถึงจริง ๆ ไม่รู้ภพภูมิคิดยังไงถึงพาเขามาที่แบบนี้"อยากได้อะไรก็ไปดู เดี๋ยวฉันซื้อให้เอง"ภพภูมิเหมือนจะรู้ความคิดของฟีฟ่า เขาจึงเสนอเป็นเจ้าภาพจ่ายเงินให้ คิดว่าเป็นค่าตอบแทนให้กับหมอนข้าง ทำเอาคนน้องตาโต คิดว่าตัวเองหูฝาดไปซะอีกจนต้องถามซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ"จริงเหรอ ได้ทุกอย่างเลยเหรอ!""จริงสิ"ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเปย์ให้ขนาดนี้ มีเหรอที่ไอ้ฟ่าจะพลาดโอกาสทอง ที่นี่มีของที่เขาอยากได้ตั้งหลายอย่าง ตั้งใจจะถล่มให้กระเป๋าฉีกเลย"พูดเองนะ อย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน"ฟีฟ่าเดินนำหน้าเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่นโดยมีภพภูมิเดินตามไปรูด

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   10. คนหน้าคล้าย

    [10]คนหน้าคล้ายจากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฟีฟ่าไม่อยากมองหน้าภพภูมิอีกเลย คนใจดำ รู้ทั้งรู้ว่าเขากลัวผียังบังคับให้เปิดโลงดูศพและยังถีบตกฟูกอีก คิดแล้วน่าโมโหจริง ๆ คนตัวเล็กนั่งหันหลังให้ ในมือถือแซนด์วิชไข่ ปากก็เคี้ยวตุ้ย ๆ ไปด้วย"ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว คิดว่าน่ารักมากหรือไง"คนถูกว่าเพียงแค่เหลือกตามองและหันกลับไปกินแซนด์วิชต่อ คิดซะว่าได้ยินเสียงหมาเห่าหมาหอนละกันภพภูมินั่งไขว่ห้างพลางจิบกาแฟ มืออีกข้างก็ไถมือถือไปด้วย เห็นข้อความจากเท็นมะเข้ามา เมื่อคืนเพราะมีเรื่องวุ่นวายจึงไม่ทันสังเกตเห็น พอกดเข้าไปดูก็ขมวดคิ้วแน่น"ทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ"ร่างสูงลุกขึ้นและสั่งให้ฟีฟ่าไปเปลี่ยนชุดเพราะจะไปกราบหลวงปู่ด้วยกันฟีฟ่าดูดนิ้วหลังกินทุกอย่างหมดแล้ว แกล้งไปเช็ดมือกับเสื้อของภพภูมิและรีบวิ่งเข้าห้องก่อนโดนต่อย เขากลับออกมาในชุดขาวเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่คราวนี้ภพภูมิกลับบอกให้เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาแทน"แล้วไม่บอกแต่แรก เสียเวลาชะมัด"ฟีฟ่าบ่นอุบและกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง คราวนี้ออกมาในชุดทันสมัย ยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูเด็กกว่าเก่า จากนั้นจึงตามภพภูมิไปยังกุฏิของหลวงปู่ ซึ่งท่านได้นั่งรออยู่แ

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   9. ชายปริศนาในป่าไผ่

    [9]ชายปริศนาในป่าไผ่"เลิกทำหน้าแบบนั้นสักทีเถอะ เห็นแล้วกินข้าวไม่ลง"เสียงทุ้มว่าคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกัน มองปากที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ แต่ตานี่ขวางเชียว ก็นะ..ลองมาถูกเหวี่ยงดูบ้างมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าเจ็บแค่ไหน นอนด้วยกันมาอาทิตย์กว่าแต่ทั้งตัวไอ้ฟ่านี่มีแต่รอยช้ำเต็มไปหมด"ไม่รู้ล่ะ ก็ใครใช้ให้พี่มาทำร้ายฟ่าก่อนล่ะ!""ก็นายอยากคิดไม่ดีกับฉันก่อนทำไม หน็อย..คิดจะลักหลับฉันเป็นครั้งที่สองเหรอ เอาไว้ชาติหน้าเถอะ วันนั้นถ้านายไม่ใช้ยาปลุก บอกไว้เลยนะว่าขนสักเส้นของฉันนายก็ไม่มีทางได้เห็นหรอก!""แหวะ..อยากเห็นตายล่ะ" ฟีฟ่าพึมพำเบา ๆ เพราะกลัวถูกเหวี่ยงลงจากเรือน ขี้เกียจเถียงด้วย ทั้งที่เมื่อคืนตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนถอดกางเกงของเขาออกแท้ ๆแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ กะอีแค่มีเซ็กซ์ครั้งเดียวทำไมต้องอาฆาตกันขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ ฟ่าไม่เข้าใจจริง ๆ เป็นผู้ชายซะเปล่า ตัวก็ใหญ่อย่างกับควายแต่ใจแคบชะมัด ทั้งที่ตอนนั้นตัวเองก็เป็นฝ่ายได้เสียบแท้ ๆ ไอ้หัวหยิกเอ๊ย..อ้อ..อีกอย่าง บอกไว้เลยนะถ้าคืนนั้นไม่เมาจนขาดสติคนอย่างฟีฟ่าไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้เด็ดขาดถึงจะงอนแต่ฟีฟ่าก็กินข้าวจนหมดเกลี้ยง

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   8. เพื่อนรักเพื่อนเลิฟ

    [8]เพื่อนรักเพื่อนเลิฟรถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดยังหน้าตึกสูงและได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก รปภ. ร่างสูงในชุดฉูดฉาดลงจากรถออกมายืนด้วยท่าทีสง่างาม มือหนาขยับแว่นตากันแดดให้เข้าที่พลางยกยิ้มด้วยความมั่นใจ ไม่สนว่าจะตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ช่วงขายาวก้าวเข้าไปในตึกอย่างมาดมั่นตรงไปยังลิฟต์สำหรับผู้บริหารเพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุด"แต่งตัวอะไรของมึงวะไอ้เท็น ระหว่างทางหมาไม่เห่าบ้างหรือไงวะ"ผู้บริหารหนุ่มถึงกับวางมือจากเอกสารที่กำลังเซ็นอยู่และลุกขึ้นมาหาชายหนุ่ม ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามมองอีกฝ่ายตั้งหัวจดเท้าอีกครั้ง"ทำไม? กูก็แต่งธรรมดานี่ ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย""เออ..ไม่แปลกก็ไม่แปลก และมึงก็เลิกสูบบุหรี่ในห้องกูได้แล้ว แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดทีไรก็นึกว่ามีขโมยเข้ามาในห้องกูอยู่เรื่อย"ดวงตาเรียวเหยียดมองสูทลำลองสีแดงเข้มเข้าชุดกับกางเกง และไหนจะเสื้อยืดคอกว้างและลึกโชว์ขนหยิกหย็อยบนกล้ามหน้าอกกับรอยสักบนร่างกายด้านซ้าย ใครเห็นต่างก็วิ่งหนีกันหมด ถ้าลูกค้ามาเห็นว่ามีคนแบบนี้ในบริษัทของเขามีหวังความน่าเชื่อถือคงไม่เหลือ"เรื่องมากฉิบหาย ต่อให้กูไม่สูบบริษัทมึงก็ไม่น่าเ

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   7. สิ่งที่ติดตามมาในความมืด

    [7]สิ่งที่ติดตามมาในความมืด"วันนี้ผมคงไปช่วยหลวงปู่บิณฑบาตไม่ไหวแล้วล่ะ"ฟีฟ่าเดินเดี้ยงออกมายังชานหน้าบ้านทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนตัวเก่ง เวลาตีห้ากว่าแล้วแต่ท้องฟ้ายังคงมืดสนิทและไม่มีวี่แววว่าพระอาทิตย์จะขึ้นสักนิด ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เหมือนเวลากลางคืนจะยาวนานกว่าปกติ"ไม่ไหวก็ไม่ต้องไป ไม่มีนายหลวงปู่ยังมีลูกศิษย์อีกเยอะ""ชิ!"ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้สักทองและมองออกไปรอบตัวบ้าน กิ่งไผ่สูงท่วมหัวโอนเอนไปตามสายลมดูน่ากลัวจนต้องลุกไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ กับภพภูมิ"เป็นอะไรอีกล่ะ""ตะ..ต้นไผ่มันโยกไปโยกมา น่ากลัวยังไงก็ไม่รู้"ดวงตาคู่คมมองออกไปตามที่ฟีฟ่าบอก แม้ไม่เห็นเป็นตัวเป็นตนแต่ก็รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ในเมื่อต่างคนต่างอยู่เขาจึงไม่ทำอะไร และบริเวณเรือนไม้สีขาวก็ได้ทำการลงอาคมเพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้เอาไว้แล้ว"ถ้ากลัวแล้วจะมองทำไม กลัวมากก็มานั่งสมาธินี่"เอะอะก็จะให้นั่งสมาธิอยู่เรื่อย ไอ้ฟ่าไม่เอาด้วยหรอก แต่อีกคนไม่สนใจหลังก้มกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าสู่สมาธิโดยมีฟีฟ่านั่งอยู่ข้าง ๆ คนไม่มีอะไรทำก็เริ่มง่วงขึ้นมาสุดท้ายก็ฟุบหลับไปบนตักของภพภูมิเ

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   6. นายต้องเป็นหมอนข้างให้ฉัน

    [6]นายต้องเป็นหมอนข้างให้ฉันฟีฟ่าย่องขึ้นเรือนโดยมีเป้าหมายอยู่ที่กล่องแซนด์วิชบนโต๊ะไม้สักทอง เจ้าของนั่งหันหลังให้แบบนี้ยังไงก็ไม่มีทางเห็นแน่นอน เสร็จไอ้ฟ่าล่ะมือเล็กคว้ากล่องแซนด์วิชได้สำเร็จ ตั้งใจจะเอาลงไปกินข้างล่างเป็นมื้อเที่ยง บังเอิญเหลือบไปเห็นเห็นอกไก่ไร้ไขมันชิ้นใหญ่ในกล่องอาหารคลีนก็เกิดอยากกินขึ้นมา คิดว่าเอาไปแค่ชิ้นเดียวอีกฝ่ายคงไม่รู้หรอก "เสร็จโจร อิอิ.."มัวแต่ย่ามใจค่อย ๆ เปิดกล่องจึงไม่รู้สึกตัวว่าร่างสูงได้มายืนอยู่ด้านหลังแล้ว และกำลังมองพฤติกรรมของเขาอยู่"ทำอะไรน่ะ!"เสียงทุ้มดังขึ้นทำเอาฟีฟ่าตกใจจนแทบทำของในมือร่วง ดีที่ว่าคว้าเอาไว้ได้ทัน เขาหันกลับมามองร่างสูงและยิ้มแหย ๆ"นะ.. นั่งสมาธิเสร็จแล้วหรือครับ แฮะ ๆ""ถ้ายังไม่เสร็จฉันจะจับขโมยได้เหรอ"ร่างสูงโน้มลงต่ำและยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ดวงตาคู่คมมองกล่องแซนด์วิชที่อยู่ในมือของฟีฟ่าและยิ้มเหี้ยม..วิ่งสิครับจะรออะไร!!ฟีฟ่าถอยหลังหนีและรีบวิ่งลงจากเรือน ยังไม่พ้นบันไดขั้นแรกก็ถูกมือหนาคว้าคอเสื้อเอาไว้ได้ นี่สินะ..ข้อเสียเปรียบของคนขาสั้น ฟีฟ่าถูกคนตัวใหญ่กว่าเหวี่ยงกระเด็นกลับขึ้นไปบนเรือน แผ่นหลังบาง

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   5. มาเฟียหนุ่ม

    [5] มาเฟียหนุ่ม "ไอ้โรคจิต ทำไมถึงไม่ใส่กางเกงใน ฮะ!" ภูมิพูดขึ้นเสียงดังพลางชี้นิ้วไปยังร่างเล็กที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงข้ามกัน ทั้งพยายามละสายตาจากสิ่งตรงหน้าด้วยการมองเลยไปทางด้านหลังของฟีฟ่า "แล้วพี่จะตกใจทำไมล่ะ ก็เมื่อคืนพี่เป็นคนเร่งฟ่าให้เร็ว ๆ เองนี่ ฟ่าก็ใส่ไม่ทันนะสิ แต่โล่ง ๆ แบบนี้ก็สบายดีนะ" ฟีฟ่าสวมกางเกงวิ่งขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโคร่งซึ่งเจ้าตัวมองยังไงก็เรียบร้อย เขาลุกถกขากางเกงขึ้นจนแก้มก้นขาวโผล่ คนพี่ทนดูไม่ไหวต้องสั่งให้รีบเอาลง "อย่าถก เอาลงเดี๋ยวนี้!" เมื่อคืนฟีฟ่ากลัวโดนทิ้งจึงรีบแต่งตัวเลยไม่ทันได้สวมกางเกงชั้นใน และกางเกงวิ่งสมัยนี้ก็สั้นเหลือเกิน ขนาดไข่เล็ก ๆ ของไอ้ฟ่าก็ปิดแทบไม่มิด ไหนจะด้านข้างก็เป็นเพียงผ้าซ้อนทับกันไว้เพื่อความคล่องตัวของนักวิ่ง ตัวหนึ่งก็ไม่ใช่ถูก ๆ ซับในก็เสือกไม่มีอีก นั่งทีก็เปิดจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว "ที่จริงมันมีกางเกงซับในนะ แต่ฟ่ารำคาญมันสีกับไข่เลยไปเอาออก" "ฉันไม่ได้ถาม ถ้านายจะใส่ไอ้กางเกงขาสั้นแบบนี้ก็สู้แก้ผ้าไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ ไข่เล็ก ๆ ยังปิดไม่มิดเลย" "เสียมารยาท ไข่ฟ่าไม่ได้เล็ก ๆ สักหน่อย และอีกอย่างชุดนี้ก็ของ

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   4. คนดวงตกสองคน

    [4] คนดวงตกสองคน เมื่อได้ยินว่าเป็นคำสั่งของหลวงปู่ภูมิก็ขัดไม่ได้ จำต้องให้ฟีฟ่าอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ในฐานะคนมาก่อนจึงออกกฎให้ฟีฟ่าปฏิบัติตาม มิฉะนั้นจะไม่ให้อยู่ด้วย "มึงชื่ออะไร" เสียงทุ้มถามขึ้น "ฟะ..ฟีฟ่า" "พูดกับคนอายุมากกว่าให้มันดี ๆ หน่อย ถ้าไม่เชื่อฟังก็กลับไปซะ" คนอะไรแม่งขู่เก่งชะมัด สงสัยจะมีญาติเป็นงูแน่ ๆ ฟีฟ่าบ่นอุบอิบก่อนแนะนำตัวเองอีกครั้ง แม้น้ำเสียงจะไม่ได้รื่นหูแต่ก็ใช้คำที่ฟังแล้วทำให้ปลายตีนของอีกฝ่ายกระตุกน้อยสุดเป็นพอ และยังบอกคนเป็นผู้ใหญ่ว่าถ้าอยากให้คนอื่นพูดดีด้วยตัวเองก็ต้องพูดก่อนสิ โดนตอกหน้ากลับคนเป็นผู้ใหญ่ถึงกับกัดฟันกรอด เถียงไม่ออกเพราะเด็กมันพูดจริง "ว่าแต่มึง เอ๊ย! ว่าแต่นายเถอะ ไม่คิดจะบอกชื่อตัวเองบ้างหรือไง เอาแค่ถามคนอื่นแต่ชื่อตัวเองกลับไม่ยอมบอกมันเสียมารยาทนะไม่รู้หรือไง" ฟีฟ่าถือโอกาสว่ากลับไปบ้าง "ฉันชื่อภูมิ ให้นายเรียกฉันว่าพี่ภูมิ เพราะถึงยังไงฉันก็อายุมากกว่านายหลายปี" พอคำพูดเปลี่ยนก็ทำให้คนตรงหน้าดูดีขึ้นมา น้ำเสียงห้วนไม่น่าฟังก็มีเสน่ห์ขึ้น เสียงทุ้มต่ำติดแหบนิดหน่อยทำให้ฟีฟ่านึกถึงเสียงกระซิบข้างใบหูเมื่อคืนนั้นก็เกิดหน

  • เมื่อผมต้องกลายเป็นหมอนข้างของมาเฟียหนุ่ม   3. ค่ำคืนที่แสนเร่าร้อน

    [2] ค่ำคืนที่แสนเร่าร้อน รถสปอร์ตคันหรูขับด้วยความเร็วกว่าปกติ ในขณะที่ดวงตาคู่คมก็มองหาโรงแรมที่อยู่ใกล้ที่สุดไปด้วย ครั้นพอเจอที่หมายก็เลี้ยวเข้าไปโดยไม่ลังเล ถึงจะเป็นแค่ม่านรูดแต่สมัยนี้ก็ตกแต่งอย่างดี ทั้งยังมีของเล่นและอุปกรณ์ครบครันแถมยังสะอาดอีกด้วย เอี๊ยดดดด!!! เสียงเหยียบเบรกดังสนั่นไปแปดห้องสิบห้องจนคนข้างในต้องแง้มประตูออกมาดูว่าใครมันมาทำให้ตกใจจนเกือบแทงผิดรู แม้แต่ฟีฟ่ายังตกใจจนนั่งอ้าปากค้าง ยาที่เขากรอกใส่ปากไอ้กล้ามโตออกฤทธิ์เร็วอย่างที่เพื่อนเลิฟบอกไว้จริง ๆ หลังม่านถูกรูดปิดสนิทฟีฟ่าก็ถูกท่อนแขนกล้ามเป็นมัดแบกเข้าเอวกระเตงลงจากรถและพาเข้าไปในห้องทันที ร่างเล็กผอมบางถูกโยนลงบนเตียงสปริงจนกระเด้งกระดอนไปสามสี่ตลบถึงหยุดอยู่ในท่าขาชี้ฟ้า ทำเอาคนเมาแทบอ้วกออกมาดีที่กลืนลงคอไปได้ทัน ฟีฟ่ามองใบหน้าที่เริ่มไร้สติของอีกฝ่าย ขอบตาดำคล้ำราวคนอดนอนทำให้ดวงตาคู่คมดูน่ากลัว ลมหายใจหอบเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย จ้องมองเขาด้วยสายตาที่ราวกับจะกลืนกินลงคอซะเดี๋ยวนั้น ทำเอาฟีฟ่ากลัวจนจู๋แทบหด "จะ..ใจเย็นก่อน เดี๋ยวกูจะพามึงไปสวรรค์เองนะ" เขาพยายามพูดอย่างใจเย็นแต่ดูเหม

DMCA.com Protection Status