[4]
คนดวงตกสองคน เมื่อได้ยินว่าเป็นคำสั่งของหลวงปู่ภูมิก็ขัดไม่ได้ จำต้องให้ฟีฟ่าอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ในฐานะคนมาก่อนจึงออกกฎให้ฟีฟ่าปฏิบัติตาม มิฉะนั้นจะไม่ให้อยู่ด้วย "มึงชื่ออะไร" เสียงทุ้มถามขึ้น "ฟะ..ฟีฟ่า" "พูดกับคนอายุมากกว่าให้มันดี ๆ หน่อย ถ้าไม่เชื่อฟังก็กลับไปซะ" คนอะไรแม่งขู่เก่งชะมัด สงสัยจะมีญาติเป็นงูแน่ ๆ ฟีฟ่าบ่นอุบอิบก่อนแนะนำตัวเองอีกครั้ง แม้น้ำเสียงจะไม่ได้รื่นหูแต่ก็ใช้คำที่ฟังแล้วทำให้ปลายตีนของอีกฝ่ายกระตุกน้อยสุดเป็นพอ และยังบอกคนเป็นผู้ใหญ่ว่าถ้าอยากให้คนอื่นพูดดีด้วยตัวเองก็ต้องพูดก่อนสิ โดนตอกหน้ากลับคนเป็นผู้ใหญ่ถึงกับกัดฟันกรอด เถียงไม่ออกเพราะเด็กมันพูดจริง "ว่าแต่มึง เอ๊ย! ว่าแต่นายเถอะ ไม่คิดจะบอกชื่อตัวเองบ้างหรือไง เอาแค่ถามคนอื่นแต่ชื่อตัวเองกลับไม่ยอมบอกมันเสียมารยาทนะไม่รู้หรือไง" ฟีฟ่าถือโอกาสว่ากลับไปบ้าง "ฉันชื่อภูมิ ให้นายเรียกฉันว่าพี่ภูมิ เพราะถึงยังไงฉันก็อายุมากกว่านายหลายปี" พอคำพูดเปลี่ยนก็ทำให้คนตรงหน้าดูดีขึ้นมา น้ำเสียงห้วนไม่น่าฟังก็มีเสน่ห์ขึ้น เสียงทุ้มต่ำติดแหบนิดหน่อยทำให้ฟีฟ่านึกถึงเสียงกระซิบข้างใบหูเมื่อคืนนั้นก็เกิดหน้าแดงขึ้นมา "หยุดคิดลามกกับฉันเลยนะ ไอ้เด็กโรคจิต!" "คะ..ใครคิดลามกกับมึง..เอ๊ย..กะ..กับพี่ภูมิ.." ฟีฟ่ายิ้มแหย ๆ เมื่อถูกมองด้วยสายตาที่ดุดัน ยังไม่ทันไรเขาก็ลืมตัวพูดไม่ดีกับภูมิซะแล้ว "ที่นี่มีห้องนอนห้องเดียว ฉะนั้นนายต้องนอนนอกห้อง" นอกห้องก็คือชานหน้าบ้านที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ตอนนี้ มีโต๊ะหมู่ แท่นทำพิธี และเก้าอี้ไม้สักทองสองตัววางคู่กับโต๊ะเข้าชุดกันหันไปทางหน้าบ้าน รอบ ๆ ก็มีแต่ต้นไม้สูง ดึก ๆ คงแยกไม่ออกว่าไหนเปรตไหนต้นไม้ น่ากลัวแบบนี้จะนอนไปได้ยังไงกัน "เรื่องอะไร ทำไมผมต้องนอนข้างนอกด้วย" ฟีฟ่าประท้วงขึ้นเมื่อรู้ว่าตัวเองต้องนอนนอกห้อง "นายก็แหกตาดูสิ ห้องแค่นี้จะยัดตัวเองไว้ตรงไหน หรือนายอยากจะนอนในเสาตกน้ำมัน ฮะ!" นิ้วยาวชี้ไปยังเสากลางเรือนที่มีผ้าสามสีผูกไว้ ฟีฟ่ามองตามและกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ ไม่คิดมาก ฟีฟ่าตัดสินใจได้ทันทีว่าจะเลือกทางไหน ไม่ว่ายังไงไอ้ฟ่าคนนี้ก็จะไม่ยอมนอนข้างนอกเด็ดขาด "ถ้าพี่ไม่ให้ผมนอนในห้องด้วย ผมจะฟ้องหลวงปู่!" เขายืนกรานจะนอนในห้องด้วยกันให้ได้ โดยเอาหลวงปู่มาอ้างเพื่อให้อีกฝ่ายยินยอมและมันก็ได้ผลซะด้วย มือหนากำแน่นกัดฟันกรอด พยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นพร้อมถอนหายใจออกมา "ตามใจ แต่ฟูกมีแค่อันเดียว นายนอนพื้นไปละกัน" ฟีฟ่ามองพื้นบ้านที่เป็นแผ่นไม้กระดานนำมาวางเรียงกันไม่สนิททำให้เกิดร่องจนมองเห็นด้านล่างและยังมีลมลอดขึ้นมาตลอดเวลาทำให้อากาศด้านบนไม่ร้อน แต่กลับเย็นยะเยือกจนขนลุก แค่นอนพื้นไม่เห็นจะเป็นไรเลย เอาไว้ให้ป๊าส่งถุงนอนมาให้ก็ได้ ไม่ต้องง้อไอ้หัวหยิกนี่หรอก ฟีฟ่าบอกกับตัวเอง บนเรือนแม้แสงไฟไม่สว่างนักแต่ก็พอเห็นทุกอย่างชัดเจน ฟีฟ่าจึงฉวยโอกาสแอบมองคนตรงหน้าให้ชัด ๆ อีกครั้ง ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่แค่รูปร่างดีอย่างเดียวแม้แต่หน้าตายังจัดว่าหล่อเหลาเอาการ ถึงโหงวเฮ้งจะบ่งบอกว่าเป็นคนชั่วร้ายไปหน่อยก็ตาม แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมขอบตาถึงคล้ำเหมือนคนอดหลับอดนอนก็ไม่รู้ สงสัยจะเที่ยวกลางคืนบ่อยล่ะสิ "ทั้งที่หล่อขนาดนี้แต่ทำไมถึงชอบทำหน้าเหมือนโดนคนเหยียบตีนอยู่ตลอดเวลาก็ไม่รู้" ฟีฟ่าพึมพำพลางผลุบสายตาลงมายังหน้าอกกว้าง พานให้นึกถึงตอนที่อยู่ในอ้อมกอดแข็งแรง เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายถูกกอดด้วยท่อนแขนที่ใหญ่กว่า หลายครั้งที่แอบขยำหน้าอกแน่น ๆ จนกล้ามเนื้อทะลักออกมาตามซอกนิ้วและแอบเลียหัวนมที่ชูชันคู่นั้น แม่งเอ๊ย..ฟินฉิบหาย "เฮะ..เฮะ.." ฟีฟ่านึกถึงค่ำคืนที่แสนจะเร่าร้อนพลางจ้องหน้าอกแน่นตาเป็นมัน จนหลุดยิ้มหื่นออกมา "มองอะไร ขนลุก ถ้ามึงคิดไม่ดีกับกู คืนนี้มึงได้นอนข้างล่างแน่" "กะ..ก็บอกว่าไม่ได้มองไง อย่าหลงตัวเองให้มันมากนักเลย" เสียงทุ้มเรียกสติฟีฟ่าอีกครั้ง คนอะไรแม่งหล่อยันเสียงทำใจเต้นตุบ ๆ อยู่หลายครั้ง แต่ถึงจะหล่อแค่ไหนไอ้ฟ่าก็ไม่สน เพราะหุ่นแบบนี้ไม่ใช่สเปคของฟีฟ่าสักนิด จ๊อกกก.. กว่าจะตกลงกันได้เวลาก็ปาไปหนึ่งทุ่มและท้องฟีฟ่าก็เริ่มส่งเสียงประท้วงแล้ว "ฉันไม่กินมื้อเย็น" ภูมิพูดดักขึ้นเมื่อได้ยินเสียงท้องร้องของฟีฟ่า แต่คนมาปฏิบัติธรรมวันแรกยังไงก็ทนหิวไม่ไหวหรอก "แต่ผมหิวนี่ ตั้งแต่เที่ยงผมยังไม่ได้กินอะไรเลย พี่หาอะไรให้ผมกินหน่อยสิ นะ..น้าา.." ฟีฟ่าเซ้าซี้จนชายหนุ่มทนไม่ไหวลุกเข้าไปหยิบบะหมี่ถ้วยในห้องมาต้มให้ ถึงจะอยู่ในที่ห่างไกลผู้คนแต่ยังดีที่มีไฟฟ้าประปาให้ใช้ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้านอกจากหลอดไฟสีส้มในโคมเปลือยเชย ๆ แล้วยังมีกระติกน้ำร้อนกับพัดลมเก่า ๆ เท่านั้น แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย "ไหนว่าไม่กินข้าวเย็นไง ทำไมพี่ถึงมีบะหมี่ถ้วยเก็บไว้ด้วยล่ะ?" ฟีฟ่าถามขึ้นขณะรอสามนาที คิดในใจว่าภูมิคงเอาไว้ต้มกินตอนดึกแน่ ๆ "กิน ๆ เข้าไปเถอะ ถามมากจะเอาไปเทให้หมากินให้หมด" ถามนิดถามหน่อยทำเป็นโมโหไปได้ ฟีฟ่าเบ้ปากใส่คนหน้าดุ ก่อนสาวเส้นเข้าปากและซดน้ำตาม กินต่อจนหมดถ้วย หลังทำให้ท้องอิ่มแล้วฟีฟ่าก็ร้องอยากจะอาบน้ำขึ้นมา เขาไม่กล้าไปคนเดียวเพราะห้องน้ำสร้างอยู่นอกตัวเรือนจึงอ้อนวอนขอร้องให้พาไปจนภูมิเริ่มหงุดหงิด "โตแล้วอาบน้ำคนเดียวไม่เป็นหรือไงวะ วันนี้ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว จะนอน!" "พะ..พี่ภูมิ ไปกับฟ่าหน่อยนะ นะ นะ" "ไม่ไปโว๊ย! ปล่อยแขนกูเดี๋ยวนี้เลยนะ!" ฟีฟ่าติดเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อ ฟังดูน่ารักเหมาะกับเจ้าตัวดี คนส่วนใหญ่ได้ฟังก็อดที่จะตามใจไม่ได้ ยกเว้นไอ้คนตรงหน้า ฟีฟ่าเข้าไปเกาะแขนเกาะขาร่างสูง ปัดไล่ยังไงก็ไม่ยอมปล่อย เหลืออย่างเดียวคงต้องปัดรังควานแล้วสินะ "นี่มึงเป็นตุ๊กแกหรือไงวะ มือเหนียวฉิบหาย บอกไว้เลยนะ ยังไงกูก็ไม่มีทางไปเฝ้ามึงอาบน้ำเด็ดขาด!" ชายหนุ่มประกาศกร้าว ห้านาทีต่อมา.. ร่างสูงยืนอยู่หน้าประตูไม้เก่า ๆ ภายในมีไม้ไว้ขัดล็อกกันคนภายนอกเปิดเท่านั้น ร่องไม้ก็กว้างพอที่จะเห็นคนข้างในชัดเจน "เร็ว ๆ หน่อย ฉันให้เวลาแค่ห้านาทีเท่านั้นนะ ถ้าชักช้าจะทิ้งไว้ตรงนี้แหละ!" "รู้แล้วน่า!" ฟีฟ่าอาบน้ำอย่างรีบเร่ง แปรงฟันอย่างลวก ๆ น้ำแม่งก็เย็นอย่างกับแช่น้ำแข็ง อาบไปตัวสั่นไป รู้งี้ซักแห้งซะก็ดี ปัง! ปัง! "ครบห้านาทีแล้วนะ!" "ใส่กางเกงอยู่ อย่าเร่งนักสิ!" มือหนาเคาะประตูเร่งคนข้างในเมื่อครบเวลา เจ้ากรรม ดวงตาคู่คมดันมองลอดช่องเข้าไปเห็นก้นกลมกลึงเต็มสองตา ตัวแค่นี้ทำไมตูดใหญ่นักวะ เกิดหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาจนต้องรีบยืนหันหลังให้ ไม่นานคนตัวเล็กก็เปิดประตูออกมา "พี่เป็นอะไรไปน่ะ?" ฟีฟ่าถามขึ้นเมื่อร่างสูงยืนหันหลังให้และไม่ต่อว่าที่ตนเลยเวลา ซ้ำยังเร่งฝีเท้าเดินกลับขึ้นเรือนเฉย "พะ..พี่จะไปไหน รอฟ่าก่อนสิ" ฟีฟ่ารีบวิ่งตามขึ้นไป โดยไม่ทันสังเกตเห็นใบหูแดงฉ่าของอีกฝ่าย ฟีฟ่าตัวหอมฟุ้งหลังอาบน้ำเสร็จ เหนื่อยมาทั้งวันแล้วตั้งใจจะหลับให้สบายสักหน่อย ไม่รู้ว่าที่นี่ไม่ได้เตรียมที่นอนไว้สำหรับตน มีเพียงฟูกยัดนุ่นแน่น ๆ ขนาดสามฟุตปูอยู่บนพื้นเท่านั้น "ถ้าพี่ไม่อยากให้ฟ่านอนด้วย ก็เอาผ้าห่มมาให้ยืมปูนอนหน่อย พรุ่งนี้ฟ่าจะให้เพื่อนมันเอาที่นอนมาให้" มือเล็กดึงปลายผ้าห่มที่อีกด้านมีมือหนายื้อเอาไว้แน่น "ไม่ได้ กลางคืนอากาศมันเย็น ฉันไม่ชอบ!" ตัวโตอย่างกับควายยังจะขี้หนาวอีกนะ แค่ยืมผ้าห่มมาปูนอนแค่นี้ยังงกอีก ทั้งคู่ยื้อแย่งผ้าห่มกันไปมาสุดท้ายฟีฟ่าก็สูงแรงคนตัวใหญ่กว่าไม่ไหว อีกฝ่ายเพียงแค่สะบัดผ้าห่มร่างของฟีฟ่าก็กลิ้งไปอยู่มุมห้องแล้ว "ไอ้ขี้งกจำไว้เลยนะ โอ๊ย!" หมอนยัดนุ่นถูปาใส่เต็มหน้าของฟีฟ่าก่อนร่างสูงจะทิ้งตัวลงบนฟูกและนอนหันหลังให้ ภูมิมีร่างกายที่กำยำ ขนาดนอนตะแคงแผ่นฟูกยังเหลือพื้นที่แค่นิดเดียว วางหมอนข้างยังไม่ได้เลย ฟีฟ่านำหมอนที่ถูกปาใส่หน้ามาวางข้างฟูกของภูมิและนอนหันหลังให้กัน ตั้งใจจะไปนอนมุมห้องก็กลัวผี มีคนอยู่ข้าง ๆ อุ่นใจกว่าเยอะ ภาวนาให้มันไม่กลิ้งลงมาทับก็พอแล้ว "ปิดไฟด้วย!" "ปะ..เปิดไว้ไม่ได้เหรอ" ฟีฟ่าตกใจเมื่อต้องนอนปิดไฟในที่ไม่คุ้นเคย ขนาดที่บ้านเขายังต้องเปิดไฟทิ้งไว้ดวงหนึ่งเสมอ "ฉันบอกให้ปิด ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง!" โดนเสียงดังตะคอกใส่ฟีฟ่าจึงยอมลุกขึ้น เดินบ่นอุบอิบไปปิดไฟตรงหน้าประตูและรีบวิ่งกลับมานอนยังที่เดิมอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมลืมขึ้นในความมืดและมองไปทางหน้าต่างที่มีผ้าม่านปิดเพียงครึ่งปลิวไปมาเพราะถูกลมพัด เขาไม่กล้ามองออกไปข้างนอกเพราะกลัวจะเจออะไรดี ๆ เข้า พรุ่งนี้ปิดหน้าต่างด้วยดีกว่า ฟีฟ่านอนจินตนาการไปต่างๆ นานา ก็เกิดกลัวหนักกว่าเก่าจึงซุกหน้าลงกับหมอน หลับตาปี๋ ที่น่ากลัวแบบนี้เขาคงนอนไม่หลับแน่ ๆ คร่อกกกก...ฟรี้... เวลาล่วงไปหลังเที่ยงคืน คิดว่าจะนอนไม่หลับ ที่ไหนได้ฟีฟ่าดันหลับตั้งแต่หัวถึงหมอนแม้ว่าจะกลัวผีก็ตาม คงเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน ต่างกับอีกคนยิ่งดึกก็ยิ่งตาสว่าง จึงทำได้แค่นอนลืมตาอยู่ในความมืดเท่านั้น "อืมม.." "จะดิ้นอะไรนักหนาวะ!" คนนอนดิ้นกลิ้งไปมาและมาหยุดอยู่ด้านหลัง หลายครั้งที่ละเมอเตะใส่ร่างสูงที่นอนอยู่บนฟูกทำให้อีกฝ่ายต้องขยับตัวหนีไปเรื่อย ๆ จนชิดผนัง ยิ่งดึกอากาศก็เริ่มเย็นขึ้นทำให้ฟีฟ่าหนาวจนต้องหาที่อบอุ่นซุกตัว ยามมีลมพัดผ่านร่องไม้ขึ้นมาทำเอาคนตัวเล็กสั่นสะท้านไปทั้งร่าง จากที่นอนกลิ้งฟีฟ่าก็เริ่มนอนขดตัว แผ่นหลังบางชนเข้ากับฟูกจึงปีนขึ้นไปด้านบนและสัมผัสเข้ากับแผ่นหลังกว้างรู้สึกถึงไออุ่นที่แผ่มาจากร่างกำยำจึงสวมกอดไว้ "เฮ้ย! ใครใช้ให้นายขึ้นมา ลงไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!!" คนโดนเข้าข้างหลังถึงกับสะดุ้งหันมาดันตัวฟีฟ่าออกกลับถูกอีกฝ่ายกอดรัดเอาไว้แน่น ขนาดตอนตื่นยังสะบัดไม่หลุดตอนนอนหลับแทบไม่ต้องพูดถึง ฟีฟ่ากอดแน่นกว่าเก่าเสียอีก ภูมิถึงกับถอนหายใจด้วยความระอา อยู่มาจนอายุสามสิบไม่เคยมีใครกล้าทำกับเขาแบบนี้มาก่อน แต่เมื่อทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้เขาจึงยอมปล่อยอีกฝ่ายไปก่อน เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยจัดการกับไอ้เด็กโรคจิตที่คิดลวนลามเขาอีกที พ่อจะให้นอนด้านนอกซะให้เข็ด วูบ~ ไม่รู้ว่าตอนไหนที่จู่ ๆ ดวงตาคู่คมเริ่มหนักขึ้น ความรู้สึกผ่อนคลายที่ไม่ได้สัมผัสมานานทำให้ความอ่อนล้าที่สะสมมาแรมเดือนออกอาการ เปลือกตาสีอ่อนค่อย ๆ ปิดลงและผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว เช้าวันใหม่มาเยือนอย่างรวดเร็วสำหรับคนไม่ได้หลับได้นอนมาเป็นแรมเดือนอย่างภูมิ ครั้งสุดท้ายที่เขานอนหลับสนิทก็คือก่อนคุณพ่อจะเสียไปไปเมื่อครึ่งปีก่อน ดวงตาคู่คมปรือขึ้นช้า ๆ แม้แสงแดดยังไม่สาดเข้ามาในห้อง "นี่ฉันหลับไปเหรอ?" พอขยับตัวจะลุกขึ้นก็พบว่ามีร่างเล็กนอนทับอยู่บนกายแกร่ง ใบหน้าหวานหลับสบาย น้ำลายไหลเยิ้มจนชุ่มอกเสื้อ เพียงเท่านั้นเส้นแห่งความตึงเครียดผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อทันที "อะ..ไอ้โรคจิต นี่นายคิดจะลักหลับฉันเหรอ!" มือหนาจับคอเสื้อฟีฟ่าด้วยมือเดียวและเหวี่ยงออกอย่างแรง ร่างเล็กกระเด็นไปหยุดที่มุมห้องจุดเดิมกับเมื่อคืนเป๊ะ ฟีฟ่าร้องโอดครวญด้วยความเจ็บ เอะอะจับโยน เอะอะจับเหวี่ยง กว่าจะครบสองเดือนเขาได้ช้ำในตายก่อนเบญจเพสแน่ ๆ "ฮืออ..พี่ทำอะไรน่ะ ฟ่าเจ็บนะ!" "ฉันต้องถามนายมากกว่า นี่นายคิดจะลักหลับฉันใช่มั้ย!" ร่างสูงลุกขึ้นชี้หน้าฟีฟ่าด้วยความโกรธ "ลักหลับบ้าอะไร อย่าหลงตัวเองนักเลย พี่ต่างหากที่เป็นคนกอดฟ่าทั้งคืน" "ว่าไงนะ คนอย่างฉันนี่นะกอดนาย.." "ก็ใช่นะสิ!" หนึ่งชั่วโมงก่อนฟีฟ่าตื่นขึ้นเพราะปวดฉี่ ตั้งใจจะไปเอาขวดเปล่ามาฉี่เก็บไว้เพราะไม่กล้าลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่าง พอจะลุกขึ้นเท่านั้นแหละก็ถูกแขนแกร่งกอดไว้แน่นและยังบังคับจูบปากเขาอีก "ไม่จริง! แค่คิดก็จะอ้วกแล้ว คนอย่างฉันเนี่ยนะจะกอดนาย อย่ามาโกหก" ชายหนุ่มว่าพลางทำท่าขยะแขยงฟีฟ่าเสียเต็มประดา เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างเขาจะกอดจูบฟีฟ่าลง "ครับ ครับ พี่ไม่ได้กอด ไม่ได้จูบผมหรอกครับ เป็นผมที่ละเมอปล้ำพี่เองก็ได้" ฟีฟ่าขี้เกียจจะเถียงด้วยเพราะกลัวจะถูกส่งไปนอนคุยกับรากมะม่วงหลังบ้าน ร่างเล็กลุกขึ้นเพื่อจะลงไปเข้าห้องน้ำเพราะอั้นมานานแล้ว พอเดินไปถึงประตูก็ต้องวิ่งกลับเข้ามาอีกครั้ง "พี่ภูมิ ฟ่าปวดฉี่" "ปวดฉี่ก็ไปฉี่สิ จะมาบอกฉันทำไม!" "ก็ข้างล่างมันมืด ฟ่ากลัวผี" อยากจะถีบมันออกไปจริง ๆ แต่ก็กลัวไอ้มือตุ๊กแกจะกระโดดเกาะเอาอีก จำต้องพาลงไปห้องน้ำข้างล่าง เริ่มสงสัยว่าไอ้คนตรงหน้าใช่คนใกล้เบญจเพสจริงหรือเปล่า หรือพ่อมันจะแจ้งเกิดเร็วไปยี่สิบปีนะ "มึงนี่ภาระจริง ๆ" ถึงปากจะบ่นแต่ก็ภูมิก็ยอมพาคนกลัวผีลงไปแต่โดยดี เวลาตีสี่ท้องฟ้ายังมืดอยู่ แต่ที่นี่กลับมืดกว่าที่อื่นมากนัก ฟีฟ่าตัวติดกับภูมิไปจนถึงห้องน้ำ ซ้ำยังยืนฉี่โดยไม่ปิดประตูอีก ฉี่เสร็จมือก็ไม่ล้างและยังไปเกาะท่อนแขนแกร่งไว้ตามเดิม ถึงจะถูกมองจนตาแทบถลนแต่ก็ไม่สนใจ สำหรับเขาถึงไอ้หมอนี่จะน่ากลัวแต่ก็ไม่เท่าผีหรอก ฟีฟ่าตั้งใจจะขึ้นไปนอนต่อแต่ถูกสั่งให้ไปนั่งสมาธิ คนนอนไม่พอก็โวยวายขึ้นทันที "ผมง่วงจะตาย เอาไว้ตื่นแล้วค่อยนั่งก็ได้นี่ ไอ้สมาธิเนี่ย" "นายมาปฏิบัติธรรมนะ ไม่ได้มาเข้าค่ายลูกเสือ ถ้าไม่ทำก็กลับไปซะ!" พอโดนไล่ฟีฟ่าก็เบ้ปากใส่และยกเท้าขึ้นมานั่งขัดสมาธิอย่างเสียไม่ได้ ร่างสูงเดินไปนั่งตรงข้าม ยังไม่ทันหลับตาก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งเข้าเต็มสองตา "ไอ้เด็กโรคจิต ทำไมถึงไม่ใส่กางเกงใน ฮะ!"[5] มาเฟียหนุ่ม "ไอ้โรคจิต ทำไมถึงไม่ใส่กางเกงใน ฮะ!" ภูมิพูดขึ้นเสียงดังพลางชี้นิ้วไปยังร่างเล็กที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงข้ามกัน ทั้งพยายามละสายตาจากสิ่งตรงหน้าด้วยการมองเลยไปทางด้านหลังของฟีฟ่า "แล้วพี่จะตกใจทำไมล่ะ ก็เมื่อคืนพี่เป็นคนเร่งฟ่าให้เร็ว ๆ เองนี่ ฟ่าก็ใส่ไม่ทันนะสิ แต่โล่ง ๆ แบบนี้ก็สบายดีนะ" ฟีฟ่าสวมกางเกงวิ่งขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโคร่งซึ่งเจ้าตัวมองยังไงก็เรียบร้อย เขาลุกถกขากางเกงขึ้นจนแก้มก้นขาวโผล่ คนพี่ทนดูไม่ไหวต้องสั่งให้รีบเอาลง "อย่าถก เอาลงเดี๋ยวนี้!" เมื่อคืนฟีฟ่ากลัวโดนทิ้งจึงรีบแต่งตัวเลยไม่ทันได้สวมกางเกงชั้นใน และกางเกงวิ่งสมัยนี้ก็สั้นเหลือเกิน ขนาดไข่เล็ก ๆ ของไอ้ฟ่าก็ปิดแทบไม่มิด ไหนจะด้านข้างก็เป็นเพียงผ้าซ้อนทับกันไว้เพื่อความคล่องตัวของนักวิ่ง ตัวหนึ่งก็ไม่ใช่ถูก ๆ ซับในก็เสือกไม่มีอีก นั่งทีก็เปิดจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว "ที่จริงมันมีกางเกงซับในนะ แต่ฟ่ารำคาญมันสีกับไข่เลยไปเอาออก" "ฉันไม่ได้ถาม ถ้านายจะใส่ไอ้กางเกงขาสั้นแบบนี้ก็สู้แก้ผ้าไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ ไข่เล็ก ๆ ยังปิดไม่มิดเลย" "เสียมารยาท ไข่ฟ่าไม่ได้เล็ก ๆ สักหน่อย และอีกอย่างชุด
[6] นายต้องเป็นหมอนข้างให้ฉัน ฟีฟ่าย่องขึ้นเรือนโดยมีเป้าหมายอยู่ที่กล่องแซนด์วิชบนโต๊ะไม้สักทอง เจ้าของนั่งหันหลังให้แบบนี้ยังไงก็ไม่มีทางเห็นแน่นอน เสร็จไอ้ฟ่าล่ะ มือเล็กคว้ากล่องแซนด์วิชได้สำเร็จ ตั้งใจจะเอาลงไปกินข้างล่างเป็นมื้อเที่ยง บังเอิญเหลือบไปเห็นเห็นอกไก่ไร้ไขมันชิ้นใหญ่ในกล่องอาหารคลีนก็เกิดอยากกินขึ้นมา คิดว่าเอาไปแค่ชิ้นเดียวอีกฝ่ายคงไม่รู้หรอก "เสร็จโจร อิอิ.." มัวแต่ย่ามใจค่อย ๆ เปิดกล่องจึงไม่รู้สึกตัวว่าร่างสูงได้มายืนอยู่ด้านหลังแล้ว และกำลังมองพฤติกรรมของเขาอยู่ "ทำอะไรน่ะ!" เสียงทุ้มดังขึ้นทำเอาฟีฟ่าตกใจจนแทบทำของในมือร่วง ดีที่ว่าคว้าเอาไว้ได้ทัน เขาหันกลับมามองร่างสูงและยิ้มแหย ๆ "นะ.. นั่งสมาธิเสร็จแล้วหรือครับ แฮะ ๆ" "ถ้ายังไม่เสร็จฉันจะจับขโมยได้เหรอ" ร่างสูงโน้มลงต่ำและยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ดวงตาคู่คมมองกล่องแซนด์วิชที่อยู่ในมือของฟีฟ่าและยิ้มเหี้ยม ..วิ่งสิครับจะรออะไร!! ฟีฟ่าถอยหลังหนีและรีบวิ่งลงจากเรือน ยังไม่พ้นบันไดขั้นแรกก็ถูกมือหนาคว้าคอเสื้อเอาไว้ได้ นี่สินะ..ข้อเสียเปรียบของคนขาสั้น ฟีฟ่าถูกคนตัวใหญ่กว่าเหวี่ยงกระเด็นกลับขึ
[7] สิ่งที่ติดตามมาในความมืด "วันนี้ผมคงไปช่วยหลวงปู่บิณฑบาตไม่ไหวแล้วล่ะ" ฟีฟ่าเดินเดี้ยงออกมายังชานหน้าบ้านทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนตัวเก่ง เวลาตีห้ากว่าแล้วแต่ท้องฟ้ายังคงมืดสนิทและไม่มีวี่แววว่าพระอาทิตย์จะขึ้นสักนิด ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เหมือนเวลากลางคืนจะยาวนานกว่าปกติ "ไม่ไหวก็ไม่ต้องไป ไม่มีนายหลวงปู่ยังมีลูกศิษย์อีกเยอะ" "ชิ!" ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้สักทองและมองออกไปรอบตัวบ้าน กิ่งไผ่สูงท่วมหัวโอนเอนไปตามสายลมดูน่ากลัวจนต้องลุกไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ กับภพภูมิ "เป็นอะไรอีกล่ะ" "ตะ..ต้นไผ่มันโยกไปโยกมา น่ากลัวยังไงก็ไม่รู้" ดวงตาคู่คมมองออกไปตามที่ฟีฟ่าบอก แม้ไม่เห็นเป็นตัวเป็นตนแต่ก็รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ในเมื่อต่างคนต่างอยู่เขาจึงไม่ทำอะไร และบริเวณเรือนไม้สีขาวก็ได้ทำการลงอาคมเพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้เอาไว้แล้ว "ถ้ากลัวแล้วจะมองทำไม กลัวมากก็มานั่งสมาธินี่" เอะอะก็จะให้นั่งสมาธิอยู่เรื่อย ไอ้ฟ่าไม่เอาด้วยหรอก แต่อีกคนไม่สนใจหลังก้มกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าสู่สมาธิโดยมีฟีฟ่านั่งอยู่ข้าง ๆ คนไม่มีอะไรทำก็เริ่มง่วงขึ้นมาสุดท้ายก็ฟุบห
[8] เพื่อนรักเพื่อนเลิฟ รถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดยังหน้าตึกสูงและได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก รปภ. ร่างสูงในชุดฉูดฉาดลงจากรถออกมายืนด้วยท่าทีสง่างาม มือหนาขยับแว่นตากันแดดให้เข้าที่พลางยกยิ้มด้วยความมั่นใจ ไม่สนว่าจะตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ช่วงขายาวก้าวเข้าไปในตึกอย่างมาดมั่นตรงไปยังลิฟต์สำหรับผู้บริหารเพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุด "แต่งตัวอะไรของมึงวะไอ้เท็น ระหว่างทางหมาไม่เห่าบ้างหรือไงวะ" ผู้บริหารหนุ่มถึงกับวางมือจากเอกสารที่กำลังเซ็นอยู่และลุกขึ้นมาหาชายหนุ่ม ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามมองอีกฝ่ายตั้งหัวจดเท้าอีกครั้ง "ทำไม? กูก็แต่งธรรมดานี่ ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย" "เออ..ไม่แปลกก็ไม่แปลก และมึงก็เลิกสูบบุหรี่ในห้องกูได้แล้ว แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดทีไรก็นึกว่ามีขโมยเข้ามาในห้องกูอยู่เรื่อย" ดวงตาเรียวเหยียดมองสูทลำลองสีแดงเข้มเข้าชุดกับกางเกง และไหนจะเสื้อยืดคอกว้างและลึกโชว์ขนหยิกหย็อยบนกล้ามหน้าอกกับรอยสักบนร่างกายด้านซ้าย ใครเห็นต่างก็วิ่งหนีกันหมด ถ้าลูกค้ามาเห็นว่ามีคนแบบนี้ในบริษัทของเขามีหวังความน่าเชื่อถือคงไม่เหลือ "เรื่องมากฉิบหาย ต่อให้กูไม่สูบบริ
[9] ชายปริศนาในป่าไผ่ "เลิกทำหน้าแบบนั้นสักทีเถอะ เห็นแล้วกินข้าวไม่ลง" เสียงทุ้มว่าคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกัน มองปากที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ แต่ตานี่ขวางเชียว ก็นะ..ลองมาถูกเหวี่ยงดูบ้างมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าเจ็บแค่ไหน นอนด้วยกันมาอาทิตย์กว่าแต่ทั้งตัวไอ้ฟ่านี่มีแต่รอยช้ำเต็มไปหมด "ไม่รู้ล่ะ ก็ใครใช้ให้พี่มาทำร้ายฟ่าก่อนล่ะ!" "ก็นายอยากคิดไม่ดีกับฉันก่อนทำไม หน็อย..คิดจะลักหลับฉันเป็นครั้งที่สองเหรอ เอาไว้ชาติหน้าเถอะ วันนั้นถ้านายไม่ใช้ยาปลุก บอกไว้เลยนะว่าขนสักเส้นของฉันนายก็ไม่มีทางได้เห็นหรอก!" "แหวะ..อยากเห็นตายล่ะ" ฟีฟ่าพึมพำเบา ๆ เพราะกลัวถูกเหวี่ยงลงจากเรือน ขี้เกียจเถียงด้วย ทั้งที่เมื่อคืนตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนถอดกางเกงของเขาออกแท้ ๆ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ กะอีแค่มีเซ็กซ์ครั้งเดียวทำไมต้องอาฆาตกันขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ ฟ่าไม่เข้าใจจริง ๆ เป็นผู้ชายซะเปล่า ตัวก็ใหญ่อย่างกับควายแต่ใจแคบชะมัด ทั้งที่ตอนนั้นตัวเองก็เป็นฝ่ายได้เสียบแท้ ๆ ไอ้หัวหยิกเอ๊ย.. อ้อ..อีกอย่าง บอกไว้เลยนะถ้าคืนนั้นไม่เมาจนขาดสติคนอย่างฟีฟ่าไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้เด็ดขาด ถึงจะงอนแต่ฟีฟ่าก็กิ
[10] คนหน้าคล้าย จากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฟีฟ่าไม่อยากมองหน้าภพภูมิอีกเลย คนใจดำ รู้ทั้งรู้ว่าเขากลัวผียังบังคับให้เปิดโลงดูศพและยังถีบตกฟูกอีก คิดแล้วน่าโมโหจริง ๆ คนตัวเล็กนั่งหันหลังให้ ในมือถือแซนด์วิชไข่ ปากก็เคี้ยวตุ้ย ๆ ไปด้วย "ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว คิดว่าน่ารักมากหรือไง" คนถูกว่าเพียงแค่เหลือกตามองและหันกลับไปกินแซนด์วิชต่อ คิดซะว่าได้ยินเสียงหมาเห่าหมาหอนละกัน ภพภูมินั่งไขว่ห้างพลางจิบกาแฟ มืออีกข้างก็ไถมือถือไปด้วย เห็นข้อความจากเท็นมะเข้ามา เมื่อคืนเพราะมีเรื่องวุ่นวายจึงไม่ทันสังเกตเห็น พอกดเข้าไปดูก็ขมวดคิ้วแน่น "ทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ" ร่างสูงลุกขึ้นและสั่งให้ฟีฟ่าไปเปลี่ยนชุดเพราะจะไปกราบหลวงปู่ด้วยกัน ฟีฟ่าดูดนิ้วหลังกินทุกอย่างหมดแล้ว แกล้งไปเช็ดมือกับเสื้อของภพภูมิและรีบวิ่งเข้าห้องก่อนโดนต่อย เขากลับออกมาในชุดขาวเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่คราวนี้ภพภูมิกลับบอกให้เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาแทน "แล้วไม่บอกแต่แรก เสียเวลาชะมัด" ฟีฟ่าบ่นอุบและกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง คราวนี้ออกมาในชุดทันสมัย ยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูเด็กกว่าเก่า จากนั้นจึงตามภพภูมิไปยังกุฏิของหลวงปู่ ซึ่
[11] พี่ภูมิ..ฟ่าอยู่นี่ ภพภูมิกลับมายังจุดนัดหมายพร้อมกับยาทาแก้ฟกช้ำ เขาบีบยาจากหลอดใส่ปลายนิ้วและป้ายลงบนแก้มแดงอย่างเบามือ "ยิ่งขี้เหร่อยู่ ระวังอย่าให้มีแผลสิ" "ฟ่าไม่ได้หาเรื่องนะ ก็ไอ้ลุงนั่นอยู่ดี ๆ ก็มาดึงแขนฟ่าไว้ เจ็บจะตาย" พอได้ยินว่าชายวัยกลางคนที่มีเรื่องกับฟีฟ่านอกจากตบหน้าแล้วยังจับแขนเอาไว้อีกก็ยิ่งโมโห อยากจะโทรหาลูกน้องคนสนิทให้ตัดมือมันทิ้งไปด้วยเลย "จะซื้ออะไรมั้ย?" "ไม่ล่ะ" ฟีฟ่าปฏิเสธเพราะราคาสินค้าของที่นี่แต่ละอย่างไอ้ฟ่าเอื้อมไม่ถึงจริง ๆ ไม่รู้ภพภูมิคิดยังไงถึงพาเขามาที่แบบนี้ "อยากได้อะไรก็ไปดู เดี๋ยวฉันซื้อให้เอง" ภพภูมิเหมือนจะรู้ความคิดของฟีฟ่า เขาจึงเสนอเป็นเจ้าภาพจ่ายเงินให้ คิดว่าเป็นค่าตอบแทนให้กับหมอนข้าง ทำเอาคนน้องตาโต คิดว่าตัวเองหูฝาดไปซะอีกจนต้องถามซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ "จริงเหรอ ได้ทุกอย่างเลยเหรอ!" "จริงสิ" ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเปย์ให้ขนาดนี้ มีเหรอที่ไอ้ฟ่าจะพลาดโอกาสทอง ที่นี่มีของที่เขาอยากได้ตั้งหลายอย่าง ตั้งใจจะถล่มให้กระเป๋าฉีกเลย "พูดเองนะ อย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน" ฟีฟ่าเดินนำหน้าเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่
[12]บาร์ลึกลับแห่งหนึ่ง"พี่ภูมิ ฟ่าอยู่นี่!!"“อันตราย อย่าไป!!”ฟี่ฟ่ามุดออกจากใต้โต๊ะตั้งท่าจะวิ่งไปหาภพภูมิแต่ถูกภาคินคว้าข้อมือไว้เพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นมิตรหรือศัตรู จังหวะนั้นได้มีของแข็งไม่รู้ที่มาปาเข้าใส่ทำให้ต้องปล่อยมือจากฟีฟ่า ฟีฟ่าจึงฉวยโอกาสวิ่งเข้าไปหาภพภูมิทันทีร่างเล็กถูกอุ้มขึ้นนั่งคร่อมบนตัวถังรถเพราะหากให้ซ้อนท้ายกลัวจะโดนลูกหลงจากกระสุนปืนเอาได้ ฟีฟ่านั่งหมอบโดยมีภพภูมิคร่อมอยู่ด้านหลัง มือหนาบิดเร่งเครื่องและขี่รถฝ่าดงกระสุนออกไปอย่างรวดเร็วช่วงที่ภาคินกำลังให้ความสนใจกับหนุ่มนิรนามที่เข้ามาช่วยฟีฟ่า ธีร์ได้หันไปพยักหน้าให้ชายคนสนิทที่ยืนคุ้มกันอยู่ข้าง ๆ อีกฝ่ายพยักหน้ารับทราบคำสั่งและแยกตัวออกไปจากตรงนั้นทันทีรถบิ๊กไบค์คันสีดำสนิทขับขี่ด้วยความเร็วออกจากร้านอาหารริมแม่น้ำเข้าสู่ถนนสายหนึ่ง ฟีฟ่าถึงกับต้องหลับตาเพราะต้านแรงลมไม่ไหว ถ้าไม่มีภพภูมินั่งคร่อมเอาไว้ป่านนี้เขาคงปลิวลงข้างทางไปแล้วภพภูมิตั้งใจขี่รถกลับวัดแต่ดูจากเวลาแล้วคงจะไม่ทัน อีกอย่างเขารู้สึกเหมือนมีคนติดตามมาจึงเร่งความเร็วขึ้น อีกฝ่ายก็เร่งตาม เห็นท่าไม่ดีจึงเปลี่ยนเส้นทางไปยังย่านสถา
ตอนพิเศษ - เจย์ - ภาคินแสงสียามค่ำคืนบนถนนบันเทิงเป็นสิ่งที่คนอย่างผมโปรดปรานมากที่สุด แม้อายุจะยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ผมก็สามารถตะลอนหาความสนุกได้โดยอาศัยเส้นสายของภูวเดชเดชานอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาเหนือมนุษย์แล้วด้วยความที่เป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูลทำให้ผมเป็นที่หมายปองของนักเที่ยวราตรีอย่างล้นหลาม สเปคของผมไม่ใช่สาวสวยหรือน่ารักแต่เป็นหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งผมไม่เคยขาดแคลนเลย แต่ที่โปรดปรานที่สุดก็คือคนสวยขาที่ร้อนแรงและพร้อมจะถ่างขาให้ผมตลอดเวลา"อื้มม..อ๊าา..คุณคิน แรง ๆ กระแทกผมให้แรงกว่านี้อีก อ๊าา.."ทุกครั้งหลังดีลกันในผับเรียบร้อยแล้วผมจะพาพวกเขาไปเริงรักต่อยังโรงแรมระดับห้าดาว ผมเปิดห้องที่มีราคาแพงที่สุดให้กับพวกเขาเพราะเสียงครางด้วยความเสียวซ่านจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ผมจนกระเจิง บ่อยครั้งที่ผมขยับโยกอย่างรุนแรงพวกหนุ่มหน้าหวานถึงกับเข่าทรุดไม่เป็นท่า และทุกครั้งหลังเสร็จกิจผมจะมีค่าตอบแทนให้จำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันความยุ่งยากที่จะตามมาผมจะไม่ยุ่งกับคนเดิมซ้ำเป็นหนที่สองเว้นเสียแต่ว่าเด็ดจริง ๆ ดังนั้นจึงมีหลายคนไม่พอใจกับการถูกผมเอาและทิ้งในครั้งเดียว ฉะนั้นผมจึงค่อนข้างระวังตัวเองเป
ตอนพิเศษ - มังกร - ภีมเมื่ออายุครบสิบสองปีทายาทของภูวเดชเดชาจะต้องเลือกคนคุ้มกันขึ้นมาหนึ่งคน โดยคนผู้นี้จะอยู่ข้างกายเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิตก๊อก ๆ"เข้ามา""ขออนุญาตครับ ท่านผู้นำเชิญคุณภีมให้ไปพบที่ห้องทำงานครับ" ร่างสูงก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมผมปิดหนังสือในมือลงเมื่อคนของคุณพ่อเข้ามาภายในห้องก่อนลุกขึ้นและเดินนำเขาออกไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อไปถึงก็พบคุณพ่อ อาธีร์ นั่งอยู่บนโซฟา ภายในห้องนั้นยังมีเด็กชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมอยู่อีกหนึ่งคน"คุณพ่อต้องการพบผม มีอะไรหรือเปล่าครับ"?"นั่งก่อนสิ"ผมเข้าไปนั่งข้างคุณพ่อ มือหนาวางลงบนศีรษะอย่างอ่อนโยนก่อนหันไปเรียกเด็กชายคนนั้นเพื่อมาแนะนำให้ผมรู้จัก"นี่คือมังกร เขาจะมาเป็นผู้คุ้มกันของลูก ลูกคิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ"ผมมองสำรวจเด็กชายที่มีอายุเท่ากันตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนลุกขึ้นประจันหน้า ส่วนสูงของเขาทำให้ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมน้อยคนนักที่จะมีส่วนสูงมากกว่า ไหนจะกล้ามเนื้อที่โตเกินวัยและผิวที่คล้ำแดดนั่นอีก"ผมยังไงก็ได้ครับ" ผมตอบคุณพ่อไปมังกรไม่ใช่เด็กคนแรกที่คุณพ่อพามาให้ผมเลือก ก่อนห
ตอนพิเศษ - เรือนไม้สีขาว..พ่อยอดขวัญยอดดวงใจของพี่แก้ว พี่จะรอพ่ออยู่ ณ ที่แห่งนี้ ตลอดไป..สายลมพัดเอื่อยผ่านมาทางเรือนไม้สีขาว กระทบกระดิ่งลมเกิดเป็นเสียงกังวานฟังเพราะเสนาะหูเรือนไม้สีขาวหลังน้อยปลูกอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะแก้วเจ้าจอมที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว ด้านหลังเป็นป่าไผ่ต้นสูงท่วมหัว ถัดออกไปมีบึงน้ำขนาดใหญ่ผ่านอยู่ไหลสายหนึ่งด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงทำให้ผมต้องมาอาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพียงลำพัง อากาศที่บริสุทธิ์จะช่วยให้อาการป่วยของผมไม่หนักหนาเหมือนตอนอยู่พระนครในแต่ละวันของผมผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเงียบเหงานอกจากอ่านตำราและวาดภาพ การไปเดินเล่นริมบึงหลังป่าไผ่ยังไม่สามารถคลายความเบื่อหน่ายนี้ลงไปได้ทิวาผันผ่านล่วงเข้าสู่รัตติกาลแห่งวัน ณ ที่แห่งนี้ยังคงมีเพียงผมเช่นเดิม ผมเคยคิดอยู่บ่อยครั้งว่าจะต้องจบชีวิตอยู่ที่เรือนสีขาวแห่งนี้เพียงลำพัง แต่อย่างน้อยก่อนจะถึงวันนั้นขอให้ความอ้างว้างในใจผมได้เบาบางลงสักนิดก็ยังดีและในที่สุดคำขอก็เป็นจริง เมื่อวันหนึ่งสายลมได้พัดพาคนผู้นั้นเข้ามาในชีวิตของผม"เห็นเดินมาทางนี้นี่นา หายไปไหนแล้วล่ะ""ทางนั้
[23] คิดถึงนะ "มองอะไรอยู่ไอ้ฟ่า ไปกันได้แล้ว" เลิฟเรียกฟีฟ่าที่เอาแต่ยืนมองไปรอบกุฏิของหลวงปู่ ทั้งที่คนอื่น ๆ นั่งรออยู่ในรถกันหมดแล้ว หลังกราบลาหลวงปู่และได้รับพรมาชุดใหญ่ทุกคนจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ คิดว่าฟีฟ่าจะกระดี๊กระด๊ารีบไปให้ไว ที่ไหนได้กลับอิดออดไม่ยอมขึ้นรถสักที "จะไม่มาส่งจริง ๆ เหรอเนี่ย" ฟีฟ่าเริ่มถอดใจเมื่อไม่เห็นเงาหัวของภพภูมิโผล่ออกมาให้เห็น จนได้ยินเสียงเพื่อนเลิฟตะโกนเรียกอีกครั้งจึงรีบเดินไปขึ้นรถ เพราะหากมีครั้งที่สามจะต้องเป็นเสียงเฮียยูโรแน่ "ไอ้คนใจดำ จำไว้เลย ถ้ามาง้อทีหลังไอ้ฟ่าจะไม่ให้ยกโทษให้แน่ คอยดูสิ!!" เขาต่อว่าภพภูมิก่อนมุดตัวเข้าไปในรถและยังแช่งให้คนพี่นอนไม่หลับ ตั้งใจว่าต่อไปจะไม่เป็นหมอนข้างให้อีกแล้ว ยูโรขับรถพาทุกคนมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ตลอดทางราบรื่นไร้อุปสรรค ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านสวนบรรยากาศร่มรื่นที่มีพื้นที่เล็ก ๆ ไว้สำหรับปลูกต้นไม้ขาย ฟีฟ่าฝากให้ป๊าช่วยปลูกต้นไผ่ที่ได้รับมาไว้ที่หลังบ้าน ซึ่งจุดนั้นตรงกับระเบียงห้องของยูโรพอดี ราวกับถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แม้ไม่ชอบใจแต่ยูโรก็ไม่ได้ขัดอะไร "วันนี้ไม่ออกไปสมัครงานเหรอ
[22] ลาก่อนเรือนไม้สีขาว ภพภูมิยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของกลุ่มมือปืนที่ต่างกำลังจดจ่อวัตถุสีดำมาทางเขา มือหนากำแน่นจนสั่นด้วยความเจ็บใจที่มองไม่เห็นหนทางที่จะช่วยฟีฟ่าเพราะตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย "เจอกันชาติหน้านะครับคุณภพ ป่านนี้คุณพ่อคุณคงรอจนเมื่อยแล้ว" รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธีร์ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องกระหน่ำยิงคนตรงหน้า เมื่อตอนรถตกเหวไปพร้อมกับอดีตนายใหญ่ยังอุตส่าห์รอดชีวิตมาได้ คราวนี้ถ้าไม่ตายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว "อย่ายิงนะ..พี่ภูมิ!!" ฟีฟ่าตะโกนห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว สมุนของธีร์ลั่นไกแทบจะพร้อมกัน โดยมีเป้านิ่งคือภพภูมิ ปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยดดดดด!! เสียงปืนรัวขึ้นดังจนหูแทบดับแต่ช้ากว่ารถยนต์ติดกระจกกันกระสุนที่ขับพุ่งเข้ามาขวางด้านหน้าของภพภูมิเอาไว้ ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อหลบคมกระสุนที่ยิงเลยหลังคารถมาได้อย่างหวุดหวิด "รอพี่นานมั้ยจ๊ะที่รัก" คนในรถลดกระจกลงพลางยักคิ้วข้างหนึ่งทักทายภพภูมิ มือหนาดันแว่นตากันแดดขึ้นพลางขยิบตาให้ "เงียบปากไปเลยไอ้เท็นมะ แล้วไอ้เจย์ล่ะ!" "ไอ้เจย์ไปจัดการข้างบนแล้ว เห็นมันว่าจะไปดูหน้าเมียมันด้วย ช่วงนี้ได้ข่าวว่าติดเ
[21] คนบงการ"ผมขอเสนอให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนต่อไป"เสียงทุ้มพูดชัดเจนทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ธีร์แสดงท่าทีลำบากใจเมื่อถูกคะยั้นคะยอให้ยอมรับ ฝ่ายที่สนับสนุนธีร์ต่างแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดทางด้านฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายใหญ่ต่างหันมองกันด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเสนอชื่อธีร์ให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป แต่เสียงของผู้ที่สนับสนุนเขาก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง"ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนใหม่""ผมก็เหมือนกัน""ทุกท่านกรุณาคิดให้ดี ๆ ก่อนนะครับ ผมคิดว่าตัวผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกนะครับ" ธีร์ลุกขึ้นยืนและบอกทุกคนในห้องอย่างถ่อมตนในขณะที่หลายคนพยายามผลักดันให้เขาขึ้นรับตำแหน่งให้ได้"คุณธีร์ติดตามอดีตนายใหญ่มานาน ฝีไม้ลายมือย่อมดีกว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนเยอะ เพื่อความก้าวหน้าของพรรค ผมขอสนับสนุนคุณธีร์อีกเสียงครับ""ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่คุณธีร์ก็ไม่มีใครเหมาะสมแล้ว"ฝ่ายที่เชียร์ธีร์ต่างส่งเสียงสนับสนุนเขาเต็มที่ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมีจำนวนมากกว่าทำให้ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายใหญ่ต้องนั่งเงียบ อยากจะลุกจากเก้าอี้แต่ก็อยากรู้ข้อความ
[20] ผู้นำคนใหม่เช้าวันใหม่มาถึงนานแล้วแต่ทั้งภพภูมิและฟีฟ่าก็ยังไม่ลุกจากเตียง จนเมื่อเวลาล่วงไปใกล้เที่ยงฟีฟ่าจึงได้ลืมตาตื่นเพราะท้องร้องเสียงดังจนนอนไม่หลับ ตั้งใจจะลงไปหาอะไรกินข้างล่าง พอขยับตัวเท่านั้นแหละความปวดร้าวก็แล่นไปทั้งร่าง"อ๊ะ..โอ๊ย!' ทำไมปวดไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ?"มือเล็กจับลงที่สะโพก ครั้นพอเหลือบไปเห็นท่อนแขนแกร่งพาดอยู่ที่เอวก็ขมวดคิ้วแน่น สงสัยว่าภพภูมิกลับบ้านมาตอนไหนและตัวเองขึ้นมานอนบนห้องได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายจำได้ว่ากำลังดื่มกินอยู่กับลูกน้องของภพภูมิอยู่ที่หน้าหอพักนี่นา"ฉิบหายแล้ว"ฟีฟ่าทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้งและจำทุกอย่างได้ทั้งหมด ตายแน่ไอ้ฟ่าคราวนี้เอ็งไม่รอดแน่ ๆ คิดพลางยกแขนแกร่งที่ทับอยู่ออกและค่อย ๆ ย่องลงจากเตียงก่อนถูกถีบลงมา"จะไปไหน!""พี่ภูมิฟ่าขอโทษ ฟ่าไม่ได้ตั้งใจ"ฟีฟ่าทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม ก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษด้วยความสำนึกผิด เผื่อว่าโทษหนักจะเบาบางลง นิดหน่อยก็ยังดี"ลุกขึ้น ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ"มือหนาฉุดฟีฟ่าให้ยืนขึ้นและเปลี่ยนเป็นอุ้มในท่าเจ้าสาว ไม่ต่อว่าอะไรสักคำทำเอาระแวงไปหมดจู่ ๆ มาท
[19] แมวไม่อยู่หนู(ฟ่า)ร่าเริงผัว เอ๊ย! แมวไม่อยู่หนูฟ่าก็ร่าเริงเลยสิคะหลังรถของภพภูมิขับพ้นประตูรั้วออกไปแล้วฟีฟ่าก็ขอให้คิรินพาไปที่สระว่ายน้ำ ถึงเขาจะไม่ชอบออกกำลังกายแต่การว่ายน้ำก็เป็นกีฬาที่เขาโปรดปรานที่สุด ฟีฟ่าว่ายน้ำมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมทำให้มีกล้ามเนื้อที่สวยงาม ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นต่างตัวสูงกันหมด มีเพียงเขาที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดจุดหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น"มึงเป็นใครวะ นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ถ้าไม่อยากตายก็ออกไป!!"พอมาถึงสระว่ายน้ำชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหน้าก็เข้ามาขวางไม่ให้ฟีฟ่าเข้าไปด้านใน และยังมองด้วยสายตาน่ากลัว ดีที่คิรินตามมาถึงพอดี"คุณฟีฟ่าเป็นแขกของคุณภพ ถ้าพวกแกไม่อยากโดนทำโทษก็หลบไป!" คิรินที่แสนจะสุภาพพออยู่ต่อหน้าคนพวกนี้ก็เปลี่ยนไปราวคนละคน น้ำเสียงและบุคลิกน่ายำเกรงทำให้ใบหน้าราวนายเอกซีรีส์วายดูสมชายขึ้น"ขอโทษครับคุณคิริน ขอโทษครับคุณฟีฟ่า เชิญด้านในเลยครับ"ชายฉกรรจ์ร่างกำยำรีบก้มศีรษะขอโทษฟีฟ่า นอกจากผู้เป็นนายแล้วคนสนิทของพวกเขาก็มีฐานะที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ ภายในพรรคเช่นกันเป็นคนพิเศษนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง ฟีฟ่ายิ้มเหนือเดินนำหน้าคิรินเข้าไปด้านใ
[18] ไล่ล่ารถยนต์หรูขับอยู่ลำพังบนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาใช้เส้นทางนี้ แต่วันนี้กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลยและตลอดทางก็ไม่มีรถขับสวนมาสักคันทั้งที่เป็นขาเข้ากรุงเทพฯร่างสูงนั่งอยู่เบาะด้านหลัง ใบหน้าเรียบเฉยแม้ในใจจะขุ่นเคืองเพราะถูกยกเลิกนัดกะทันหัน เล่นมาบอกเอาตอนใกล้ถึงที่หมายแล้วนี่นะ ไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคงได้มีเรื่องกันไปแล้วขณะพยายามสงบใจดวงตาคู่คมได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เขาใช้ถนนเส้นนี้ในเวลากลางคืนอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เงียบและวังเวงเท่านี้มาก่อน"มีอะไรเหรอมังกร?"เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นคนสนิทที่รับหน้าที่ขับรถสอดส่ายสายตาไปมารอบตัวอยู่หลายครั้ง สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดกว่าปกติ เหงื่อแตกเต็มใบหน้าทั้งที่แอร์ภายในรถเย็นเยียบ"ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลก ๆ ยังไงคุณภีมระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะครับ"มังกรบอกกับผู้เป็นนายและใช้ความเร็วลดลงเพราะไฟส่องทางที่สว่างมาตลอดจู่ ๆ ได้ดับลงทีละดวงจนในที่สุดรอบตัวของทั้งสองก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงจากไฟหน้ารถที่สาดไปด้านหน้าเท่า