Share

เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ
เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ
ผู้แต่ง: จันทร์ส่องแสง

เกิดใหม่

แสงแดดสว่างแยงทะลุม่านตาที่กะพริบ ไล่ความแสบร้อนที่เปลือกตา อะไรกันเมื่อคืนรู้สึกเหมือนเพิ่งขับรถกลับบ้าน ทำไมวันนี้ถึงตื่นสายได้ขนาดนี้นี่นอนไปนานขนาดนั้นเลยหรือ เฮ้ย ขยับตัวเบาๆ เปิดปากหาวเปิดเปลือกตา

“จูเจี่ยแอบมานอน หลับใหลที่นี่อีกแล้วงานในไร่รอเจ้าอยู่ แล้วยังมานอนสบาย”ใครวะมาเสียงดังข้างหู

“ตื่นได้แล้วจูเจี่ย”ลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบๆ

“ฮาวววว”บิดขี้เกียจไปรอบตัว

“จูเจี่ย วันนี้ต้องส่งผักเข้าวังหลวง ยังไม่ได้ตามที่กำหนดเจ้ายังกล้ามานอน”เถียงนาน้อย เอ้ย ...ไม่ใช่ ที่นี่มันที่ไหน สวนผักกว้างใหญ่ แล้วยังมีเพิง ไม่สิแถวบ้านเรียกเถียงนา เคยสงสัยไหมไปเถียงทำไมนา

“เจ้านี่แย่จริงๆ นอนจนน้ำลายไหลแล้วยังหลับสนิทจนงุนงง”

“เอ่อๆๆ คือๆๆๆ ”

“ไปโกยขี้หมูใส่ผักเดี๋ยวนี้เลย” หญิงวัยกลางคนมองอย่างไงอย่างไงก็น่าจะเป็นคนที่มีพาวเวอร์ที่สุดในที่นี้ ชี้มือไปที่กองขี้หมูกองมหึมาข้างเถียงนา

“ต้องไปใช่ไหม”

“หญิงบ้านป่าเกียจคร้านเช่นเจ้า ใครกันจะรับเป็นภรรยา ไร้คนสู่ขอข้ามิต้องเลี้ยงเจ้าจนตายหรือไร” ร่างอ้วนตุ๊ต๊ะของแป๋ม ขยับตัวอืดอาด วันๆเคยทำอะไรกันนอกจากนั่งกดแป้นพิมพ์พิมพ์นิยายกับขนมและของว่างข้างโต๊ะคอม แล้วนี่ฉันมาที่นี่ได้อย่างไรกัน

“จูเจี่ย อย่าลืมยกผักพวกนั้นไปรวมกันไว้ด้วย เจ้าแข็งแรงที่สุดในบ้าน”แป๋มเหลือบตามองคนสามคน ที่มีชายวัยกลางคนหญิงกลางคนและเด็กชายตัวกระเปี๊ยกนั่งลงช่วยกันขุดมันในร่อง

“ข้ามภพ ข้ามภพแน่นๆ เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ในเมื่อเมื่อคืนขับรถมาจากห้างสรรพสินค้าเพื่อหอบเสบียงกลับบ้าน ช่วงนี้เกิดโรคระบาดการออกมาจับจ่ายจึงค่อนข้างลำบาก แล้วจะนั่งกินก็ต้องกดแอลกอฮอลล์ที่มีกลิ่นน้ำหอม ทำเอารสชาติอาหาร

ด้อยลงไปเพราะฉะนั้นทำกินเองดีที่สุด สะอาดปลอดภัยว่าแต่ย้อนอดีตมาทำไมกลางไร่ผักแบบนี้ แล้วนี่เขาพูดภาษาจีนกัน ตายล่ะย้อนมาเสียไกลเลย แล้วมาเป็นชาวไร่ชาวสวนนี่นะ จะบ้าเหรอฉันจะทำอะไรเป็น ยายป้านั่นก็คงรู้ว่าแป๋มทำอะไรไม่เป็นเลยใช้ให้ไปโกยขี้หมูใส่แปลงผัก

แล้วจะกลับอย่างไรวะนั่นจะโวยวายก็ใช่ที่ ที่นี่ที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วยังมาปลูกผักอิหยังวะ เป็นเรื่องแน่คราวนี้ จะอยู่อย่างไรกันต้องมีสตอรี่แน่ต่อจากนี้ กลิ่นขี้หมูเหม็นจนจะอ้วก เบ้ปากมองมือตัวเอง

“ยี้”

“จูเจี่ย อย่าอ้อยอิ่ง ข้าหิวข้าวแล้วเสร็จจากใส่ปุ๋ยจะได้มากินข้าวกัน”เจ้าเด็กชายตัวกระเปี๊ยกส่งเสียงมาจากข้างหลัง

“เรียกพี่..ได้ยินไหมเจ้าตัวกระเปี๊ยก”เบ้ปากใบหน้าเชิดหยิ่ง

“จูเจี่ย จูเจี่ย จูเจี่ย”วิ่งหันหน้าหันหลัง

“นี่เจ้า เจ้า “วิ่งไล่เด็กชายตัวน้อยอายุคงไม่เกินหกขวบจนหอบแฮ่กๆ ก็ไม่เคยออกกำลังกาย

“จูเจี่ย โตแล้วยังทำตัวเหมือนเด็ก ใส่ปุ๋ยเสร็จหรือยัง”เจ้าน้องชายแลบลิ้นใส่ก่อจะวิ่งไปหามารดา

“ท่านแม่พี่สาวจูเจี่ยรังแกข้า”ฟ้องฟ้อง เจ้าบ้า!

“เจ้าบ้า”

“จูเจี่ย น้องยังเด็กห้ามพูดจาหยาบคาย”หานี่ยังเด็กเหรอ บอกตามตรงดิฉันไม่ชอบเด็กค่ะ โดยเฉพาะเด็กนรก

“ไม่ต้องแล้วบ่ายค่อยไปโกย มากินข้าวก่อน”เสียงชายกลางคนที่ไม่มีปากเสียงคงเป็นพ่อ อ๋อนี่คือครอบครัวใหม่เหมือนกับมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เลยมีพ่อแม่แล้วก็น้องนรก พาร่างตุ๊ต๊ะตุ้มตุ๊ยเดินกลับไปยังเถียงนา

หิวตาลาย แต่เมื่อขยับตัวเข้าไปบนเถียงนา สิ่งที่เห็น ผัดผัก ผักต้ม ผักดองผักสด

“ไม่กิน”

“บ้านเจ้าคิดว่าเลือกได้หรือไร หลายวันมานี้บ่นแต่เรื่องกินทั้งที่ตัวเองอ้วนจนจะกลิ้งลงจากเขาเหลี่ยงซานได้อยู่แล้ว”เจ็บจี๊ด ยัยป้าพูดแทงใจดำ

“ไม่หิว”

“เช่นนั้นก็ไปโกยขี้หมูต่อได้แล้ว พ่อเจ้าจะได้ไปต้องลำบากเพียงลำพัง แต่เดิม จูเจี่ยก็มักจะแอบขโมยไก่ในเล้าไปย่างกินอยู่แล้วนี่คงแอบกินไปแล้วจึงไม่หิว ไก่ในเล้ากลับไป นี่ข้าต้องไปนับว่าหายไปหรือไม่”ขโมยไก่เลยหรือจูเจี่ย เฮ้อร้ายกาจเสียจริง

“ท่านเจ้าบ้านวันนี้ข้านำ คนงานใหม่มาให้ท่านใช้งานฟรี เขาเป็นคนจรที่ข้าพบเขาระหว่างทาง แค่อาศัยได้ข้าวกินในแต่ละวันเขาก็พอใจแล้ว” แป๋มเหลือบตามองคนอะไรแค่ขอข้าวกิน มองเลยผ่านไปยัง ร่างสูงทว่าผอมบางใบหน้าขะมุกขะมอม หากเป็นสมัยใหม่ก็คงเป็นนายแบบได้สบายๆ แต่เป็นสมัยนี้ 

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status