แชร์

เนิ่นนาน

ผู้แต่ง: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-22 06:49:02

“เสด็จพ่อโปรดไตร่ตรอง พี่ใหญ่เที่ยวเล่นสนุกสนานอีกทั้ง ยังลุ่มหลงหญิงงาม พาตัวเองไปอยู่ในไร่ในสวนไม่ยอมกลับวังหลวง”

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าซงหยวนอยู่ในไร่”คิ้วของซงหยางขมวดเข้าหากัน

“เสด็จพ่อโปรดเมตตา”

“บัดซบที่สุด เจ้าทำเรื่องชั่วช้าได้ถึงเพียงนั้นเพียงแค่ตำแหน่งรัชทายาทถึงกับส่งมือสังหาร ไปทำร้ายซงหยวนเชียวหรือ”

“เสด็จพ่อ เรื่องแบบนี้ล้วนมีมาแต่โบราณอำนาจและการแย่งชิง”

“ข้าไม่เคยคิดว่าซงหลี่ผู้อ่อนน้อมจะกล้าทำเรื่องชั่วช้าเพื่อบัลลังก์ตำหนักบูรพา ทั้งๆที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกันเจ้ากับคิดให้ พี่น้องร่วมสายโลหิตต้องตายเพื่อบัลลังก์ องครักษ์นำตัว ซงหลี่ไปขังไว้ที่คุกหลวงรอการไต่สวนอีกครั้ง”

“เสด็จพ่อ ลูกสำนึกผิดแล้วลูกไม่อยากไปอยู่ในคุกหลวง”ก้มศีรษะลงกับพื้น

“สำนึกผิดเมื่อสายไปแล้วหากคนของเจ้า สังหารซงหยวนจนถึงแก่ความตาย รู้หรือไม่ว่าภายในใจของเจ้าจะต้องทนทรมานแบกรับความรู้สึกผิดนี้ไปเนิ่นนานแค่ไหน”

“ลูกผิดไปแล้ว”ไปสำนึกผิด ที่สุสานบรรพชนจนกว่าจะเข้าใจความสัมพันธ์พี่น้องว่ายิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด”เค้นเสียงพูดด้วยความาโมโหสุดขีด

“ซงหลี่ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”ซลี่ก้มหน้ายอมให้องครักษ์คลุมตัยไปโดยดีซ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   สองปีมันนานไป

    “เจ้าเล่า คนผู้นั้นเป็นใคร กุมมือกันในตลาดไม่เกรงสายตาใครข้ารึอุตส่าห์ให้คนคอยจับตาจูเจียเห็นว่าไม่เคยมีใคร วันนี้กับเห็นตำตาว่ามีบุรุษรูปงานข้างกาย”“เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย ท่านเองอาจมีหญิงอื่นข้างกายมากมาย”“ถึงเจ้าบอกว่าไม่เป็นแต่ข้า คิดอยู่เสมอว่าเจ้าคือ...คนที่ข้าหมายปอง และจะบอกอะไรให้ข้าไม่เคยมีใครในใจข้ามีแต่เจ้าคนเดียวตลอดเวลาสองปีมานี้”กระซิบเบาๆ ข้างหู“เป็นท่านทีคิดไปเพียงลำพัง ข้าไม่มีทางเชื่อท่านอีกแล้ว ท่านเป็นถึงฮ่องเต้สนมนางในสวยมากมายมีหรือจะไม่ไขว้เขว้กับหญิงใด”“ข้าจะทำให้เจ้าก็ต้องคิดเหมือนข้า และให้เจ้าเข้าไปดูในห้องบรรทมของข้าจะได้รู้ว่าข้าไม่เคยมีใครร่วมแท่นนอน”แป๋ม ถอนหายใจ“พี่ชายเสี่ยวซงท่านจะพาข้ากับพี่สาวจูเจียไปไหนกัน”จูจิ้นถามขึ้นเมื่อเห็นว่าบรรยากาศกำลังจะเสียไป ทางเดินทอดยาวเข้าสู่วังหลวง ช่างยิ่งใหญ่อลังการน่าทัศนามากกว่าจะมาทะเลาะกัน“พี่ชายเสี่ยวซงเป็นฮ่องเต้จูจิ้นน้อยคิดว่าพี่จะพาคนที่พี่รักที่สุดไปที่ไหนกันล่ะ”แป๋มหลบตาคม จูจิ้นอมยิ้มแก้มปริ“ข้าไปด้วย”ขันทีนางใน ล้วนลอบมองแป๋มที่มีมือของซงหยวนเกาะกุมไว้ด้วยความใคร่รู้และปนไปด้วยความอ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ปลาทอดราดซอสขิง

    “เสด็จพ่อ บอกกับข้าว่าเสด็จพ่อเคยทำผิดพลาดเมื่อครั้งหนึ่งที่เคยหนีออกไปเช่นข้าแล้วพบหญิงงามจิตใจดีนางหนึ่งแต่เสด็จพ่อก็จากนางมาปล่อยให้นางเป็นของคนอื่นนั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ยังเป็นตราบาปในใจของเสด็จพ่อจนถึงทุกวันนี้”“แล้วเสี่ยวซงเล่ากลัวว่าจะเป็นอย่างนั้นบ้างไหม”“กลัวอย่างที่สุด เช่นนั้นจึงต้องแสดงให้เสด็จพ่อเห็นว่าในใจข้ามีเพียงจูเจียคนเดียวไม่แต่งตั้งฮองเฮาไม่แต่งใครเข้ามาให้วุ่นวายสนมนางในไม่รับเข้ามาเพื่อรอวันนี้”กดริมฝีปากกับปากบางแนบแน่นหวานฉ่ำ แป๋มหัวใจพองโตหากปากไม่โดนปิดไว้ก็คงเผลอยิ้มอย่างลืมตัว“ไหนใครเขาบอกว่าแม่นางจูเจียสองปีมานี่เชี่ยวชาญเรื่อง อาหารและการถนอมอาการ ข้าอยากกินเกาลัดคั่วแล้วอยากกิน พะโล้หน่อไม้ แล้วก็อยากกิน..”จ้องหน้าหน้าหวาน“อยากกินอะไร”“อยากกิน หญิงงามบ้านเฉินคนนี้ ดูทีรึว่าจะหวานเหมือนลูกพลับตากแห้งที่ส่งเข้ามาในวังหลวงหรือไม่”แป๋มหลบตาอมยิ้ม“อือ ตอนนี้ข้าทำได้หลายอย่างฝ่าบาทเคยชิม ปลาทอดราดซอสขิงหรือไม่ ข้าทำอร่อยจริงๆนะท่านแม่ยังชมว่ารสดีกว่าท่านแม่ทำ ท่านพ่องี้ให้ข้าทำให้กินประจำ”เสี่ยวซง ถอนหายใจ“เมื่อไหร่จะรู้ว่าคนที่คิดถึงกันเขาจะต้องทำอะไรก

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   พาหญิงงามเข้าวัง

    แป๋ม เขย่งเท้าขึ้นจุมพิตที่ปากอุ่นเบาๆ“ขอบคุณที่ทำเพื่อข้า”ซงหยวนกดริมฝีปากกับปากบดขยี้อ่อนหวานก่อนจะถอนริมฝีปากออกช้าๆ“ขอบคุณเช่นกันที่รอข้า”แป๋มยิ้มห้องเครื่องเกาลัดเมล็ดใหญ่ถูกคั่วในเตาด้วยไฟกลาง กลิ่นหอมโชยไปทั่ว ซงหยวนจูงมือแป่มไว้พาเดินเข้าไปในห้องเครื่องขันทีนางกำนัลต่างประสานมือและย่อกายทำความเคารพ“พี่ชายเอ๊ยฝ่าบาท พี่สาวจูเจียข้าคั่วเกาลัดไว้รอพวกท่านกำลังร้อนๆ เนื้อนุ่มหวานอย่าบอกใคร”จูจิ้นวิ่งเข้ามาจับมือข้างที่ว่างของแป๋ม“ปลาสดวันนี้มีมาหรือไม่ ว่าที่ฮองเฮาของข้าตั้งใจจะทำปลาทอดราดซอสขิงทั้งขันทีและนางในห้องเครื่องต่างอมยิ้มกับคำเรียกขานที่ซงหยวนใช้กับแป๋ม“ปลาสดวันนี้ได้มาหลายตัว กระหม่อมทอดเตรียมยกเป็นเครื่องเสวยพอดี”หัวหน้าห้องเครื่องประสานมือพูดขึ้น“ดีมาก ปลาอะไรที่ได้มา”“ปลากะพง สดใหม่จึงทอดเพื่อยกเป็นเครื่องเสวย”“ดีเลย ข้าปรุงซอส ขิงราดคงดีไม่น้อย”ซงหยวนยิ้ม จูงมือ แป๋มให้นั่งลง“แค่เพียงบอกขั้นตอนพวกเขาเจ้าไม่ต้องลงมือให้เปรอะเปื้อน”“ไม่เป็นไรข้าเต็มใจทุกวันก็ทำประจำ”“ไม่ได้ เครื่องเสวยมีหลายสิบตำหนักเจ้าจะต้องเหนื่อยหนักเช่นนั้นนั่งอยู่ข้างข้า คอยสั่งการ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ขอบพระทัยเสี้ยนตี้

    “ขอบพระทัยเสี้ยนตี้”“อืม ปลาทอดราดซอสขิงรสชาติดีเสียจริง ข้าคงไม่กวนเจ้าแล้ว แต่รู้สึกคิดถึงจูจิ้นเหลือเกิน ไปคุยกับท่านลุงให้หายคิดถึงจะดีไหมที่ตำหนักของข้ามี ขนมหวานน่ากิน มากมาย”จูจิ้นยิ้มหันมองทั้งแป๋มและซงหยวน ซงหยวนพยักหน้ายิ้มๆ รีบลุกจากแท่นนั่งวิ่งเข้าเกาะแขนเสี้ยนตี้ฮองเฮามองด้วยสายตาอ่อนโยนแป๋มถอนหายใจเหมือนกับโล่งอกเสียเต็มทีซงหยวนอมยิ้ม“คืนนี้ จูจิ้นค้างที่ตำหนักเสี้ยนตี้”“ฝ่าบาทรู้ได้อย่างไร”“ก็เสี้ยนตี้จะต้องเห็นอกเห็นใจลูกชายคนนี้ที่นานปีเพิ่งจะได้ชิดใกล้คนที่เขารัก”“ข้า ...ข้า”“อย่าบอกนะว่าจะขอแยกห้อง”“ก็ฝ่าบาท จะรังแกกัน”“ใครกันเรียกว่ารังแก เรียกว่าทนคิดถึงไม่ไหว”ปลาทอดราดซอล ขิงวันนี้แป๋มรู้สึกว่ามันหวานไปหน่อยจะด้วยสายลมแสงจันทร์หรือว่าคำหวานกับสายตารักใคร่ของคนข้างหน้าไม่อาจทราบได้บ้านเฉิน“ท่านลุง จูเจียถูกจับตัวไป”ท่านเฉินลุกพลวดจากเก้าอี้“ใครกันทำเรื่องแบบนั้น”“ฮ่องเต้แคว้นฉิน”“หา ฮ่องเต้แคว้นฉิน แล้วเขาจะจับจูเจียไปทำไมกัน”“ฝ่าบาทคนของเราพร้อมแล้ว”องครักษ์ที่ซ่อนตัวอยู่ ปรากฏตัวออกมาประสานมือตรงหน้า ต้าปอหลันฮ่องเต้ ท่านเฉินกับ ฮูหยินเฉินตาค้างด้

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   จุดจบ

    เพียงครู่เดียวเหล่าทหารของแคว้นฉิน ก็เข้ามา ล้อมบ้านเฉินไปจนสิ้น“เฉินเจียจิ้นรับราชโองการรร” ท่านรเฉินกับฮูหยิน คุกเข่าลงกับพื้นต้าปอหลันเหลือบตามองด้วยความสงสัย“ตามที่บ้านตระกูลเฉินได้ส่งเกาลัดที่ฝ่าบาทโปรดปรานเป็นอย่างยิ่งเข้าไปในวังหลวงบัดนี้ฝ่าบาทได้ให้ข้ามาแจ้งแก่เฉินเจียจิ้นว่าส่งเกาลัดเข้าไปแต่ไม่ยอมส่งคนคั่วเกาลัดเข้าไปด้วยฝ่าบาทจึงจำต้องมาออกมาที่ตลาดมารับคนคั่วเกาลัดคือแม่นางจูเจียด้วยองค์เองเพื่อเป็นการลงทัณฑ์บ้านเฉิน ที่ยังความลำบากให้กับฝ่าบาทเช่นนั้นจึงได้ มีราชโองการ เชิญท่านเฉินและฮูหยินเฉิน ไปที่วังหลวง พร้อมกันนี้ให้นำผักในไร่ไปปรุงเครื่องเสวยถวายฝ่าบาท ทันที เฉินเจียจิ้น รับราชโองการรรร”“น้อมบัญชาฝ่าบาท”เอื้อมมือรับเอาราชโองการมาถือไว้ด้วยมืออันสั่นเทาหันมองหน้าฮูหยินดวงแววตาตื่นตระหนกแม้ข้อความในราชโองการจะฟังดูแปลกๆ แต่ก็อดหวั่นใจเสียไม่ได้เพราะเพิ่งจะเคยได้รับราชโองการจากฮ่องเต้เป็นครั้งแรก“ท่านลุง หากไม่อยากเข้าไปข้ายินดีปกป้องท่าน”ต้าปอหลันประสานมือกล่าวคำห่วงใย“ฝ่าบาท ข้าน้อย แม้จะกลัวเพียงใดแต่เชื่อว่าจะต้องไม่เกิดอันตรายในเมื่อตอนนี้ จูเจียกับจูจิ้นอยู

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   เรียบร้อย

    “เรื่องอัปยศเช่นนี้ข้าก็ไม่อยากจะรื้อฟื้นเอาเป็นว่าเราทั้งสอง ทำทีเป็นเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน อย่างที่ผ่านมาดีแล้ว”“ท่านก็ยังเหมือนเคย””ตัวท่านเองก็เช่นกัน รักในบัลลังก์มากกว่าสิ่งอื่นใด”ซงหยางยิ้ม“ท่านเองก้คงไม่ปรารถนาให้บุตรีต้องมา ผูกพันกับซงหยวนที่มีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ต้องรับผิดชอบข้ามองไม่เห็นทางว่า หากซงหยวนแต่งกับบุตรีของท่านเหมือนที่ข้ายอมแต่งกับ พี่รองของท่านแล้วจะนำพาแคว้นฉินให้รอดปลอดภัยจากแคว้นอื่นที่ต้องการรุกรานได้อย่างไรในเมื่อซงหยวนมีว่าที่ไท่จือเฟยเป็นองค์หญิงแคว้นใต้”เฉินเจียจิ้นยิ้มบางๆ แม้จะรู้สึกเจ็บแค้นแทนแป๋มเพียงใด แต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองชีวิตในวังหลวงล้วนแตกต่างแป๋มจะทนได้หรือซงหยางก้าวเท้าเข้ามาในตำหนักด้วยสีหน้าแช่มชื่น เฉินเจียจิ้นกลับมาสู่ความเป็นจริงตรงหน้า“ข้ายินดี ให้ฮ่องเต้แต่งบุตรีของท่านเป็นฮองเฮา แม้จะต้องกลับคำพูดจากที่เคยพูดไว้”“กลับคำ”“ในตอนนี้ข้าเห็นแล้วว่าแม้ฮ่องเต้ไม่แต่งองคืหญิงจากแคว้นอื่นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์แต่งฮ่องเต้ก็ทรงนำพาแคว้นฉินให้อยู่รอดปลอดภัย ซงหยวนเก่งกว่าข้าภายใต้ความเก่งกาจของเขา มีตระกูลเฉิน โดยเฉพาะเฉินจูเจี่ยเป็นแรงผลักดัน

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   จบ

    พิธีแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อลังการ จนแป๋มคิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นแล้วยังต้องมาสวมอาภรณ์สีแดงด้วยตัวเอง อาการตื่นเต้นจนทำให้ต้องนึกถึงเรื่องที่ผ่อนคลายกว่านี้จะได้ไม่ทำอะไรเงอะงะ ให้ขายหน้าทั้งๆ ที่เมื่อวานวุ่นวายกับการฝึกซ้อมพิธีการแต่….เมื่ออยู่ในห้องสองต่อสองเมื่อวันก่อน แป๋มนำเอาแครอทหั่นฝอยมาทำเป็นส้มตำให้ซงหยวนกินอดจะขำกับเสียงซุดปากที่ขันทียังตกใจเสียไม่ได้ส้มตำไทยรสเด็ดที่แป๋ม ปรุงเองกับมือ ไม่มีมะละกอก็ใช้แครอทซอย เป็นเส้น พริกสดสีแดงจัดจ้านกระเทียมสีม่วงกลีบเล็ก โขลกรวมกัน ใส่กุ้งแห้งที่ตัวใหญ่ไปหน่อย ถั่วลิสงคั่ว มะนาวซีก น้ำผึ้ง และเห็ดหอมสดต้ม ข้าวโพดหวานต้ม ลงไปคลุกเคล้า ตักยื่นส่งตรงหน้าซงหยวนที่ยืนชื่นชม ท่าทีคล่องแคล่วของแป๋ม แต่ก็แอบกลืนน้ำลาย“เจ้าไปนำวิธีการปรุง อาหารจานนี้มาจากไหน”“พูดไปฝ่าบาทก็คงไม่เชื่อแต่จะบอกอะไรให้ อาหารจานนี้จูเจียชอบที่สุด และหากฝ่าบาทได้ชิมจะต้องซี้ดปากด้วยความสะใจ”“ซุ๊ดด ซี็ดเผ็ดมาก แต่อร่อยลิ้น เสียจริงไม่น่าเชื่อแครอทเอามาทำอาหารแบบนี้ได้ วังหลวงของเราไม่เคยมีอาหารรสจัดจ้านเพียงนี้ ข้าเห็นทีจะจัดให้ห้องเครื่องเป้นอาหารที่ทำห้คนนวังหลวงได้ชิม

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   จบบริบูรณ์

    “ไม่ต้องห่วงนะข้า ไปศึกษาเคล็ดวิชา เกี่ยวกับ..เอ่ออการอุ่นเตียงที่เจ้าจะต้องติดใจ”รวบร่างบางให้อยู่ใต้ร่างเขาก่อนจะกดริมฝีปากอีกครั้งบรรจงจูบอ่อนหวานปลดแกะอาภรณ์ของตัวเองและของแป๋มออกช้าๆ อ่อนโยนจนแป๋มแทบจะล่องลอยโคมไฟหัวเตียงอ่อนแสงลงเมื่อคนทั้งคู่ กำลังมีความสุขภายใต้แสงไฟสลัว เนิ่นนาน ไม่สนใจเวลาที่หมุนผ่านจนโคมไฟอ่อนแสง (ตัดเข้าโคมไฟอย่าด่าไรท์น้าาา555)สามปีผ่านไป“แค้วนเหนือส่งบรรณาการมาที่แคว้นฉินแทนคำขอบคุณที่ ฝ่าบาทส่งท่านเฉินให้ไปเป็นผู้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาในการปลูกผักและถนอมอาหารบัดนี้แคว้นเหนือรุ่งเรือง เป็นบ้านพี่เมืองน้องฮ่องเต้าต้าปอหลันจึงได้มีบัญชาให้นำเครื่องบรรณาการมาที่นี่แทนคำขอบคุณ”ซงหยวนเอื้อมมือกุมมือแป๋มใต้บัลลังก์บีบมือเบาๆ มองสบตา คม อย่างมีความหมาย“กลยุทธ์ของเจ้า เข้าท่าดีไม่น้อยต่อไปบ้านใกล้เรือนเคียงจึงไม่ทะเลาะเบาะแว้งเแย่งชิง ทรัพยากรและดินแดนกันอีกในเมื่อทุกพื้นที่ล้วน ปลูกผักทำสวน พึ่งพาตัวเอง ท่านพ่อตาเก่งเรื่องทำสวน ช่วยดูแลให้ความรู้ชาวแคว้นเหนือได้ดี แม้อยากกลับก็ไม่ได้กลับ ฮ่องเต้แคว้นเหนือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งราชครูเลยทีเดียว“คิดถึงจูจิ้นเขาไม่อ

บทล่าสุด

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   จบบริบูรณ์

    “ไม่ต้องห่วงนะข้า ไปศึกษาเคล็ดวิชา เกี่ยวกับ..เอ่ออการอุ่นเตียงที่เจ้าจะต้องติดใจ”รวบร่างบางให้อยู่ใต้ร่างเขาก่อนจะกดริมฝีปากอีกครั้งบรรจงจูบอ่อนหวานปลดแกะอาภรณ์ของตัวเองและของแป๋มออกช้าๆ อ่อนโยนจนแป๋มแทบจะล่องลอยโคมไฟหัวเตียงอ่อนแสงลงเมื่อคนทั้งคู่ กำลังมีความสุขภายใต้แสงไฟสลัว เนิ่นนาน ไม่สนใจเวลาที่หมุนผ่านจนโคมไฟอ่อนแสง (ตัดเข้าโคมไฟอย่าด่าไรท์น้าาา555)สามปีผ่านไป“แค้วนเหนือส่งบรรณาการมาที่แคว้นฉินแทนคำขอบคุณที่ ฝ่าบาทส่งท่านเฉินให้ไปเป็นผู้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาในการปลูกผักและถนอมอาหารบัดนี้แคว้นเหนือรุ่งเรือง เป็นบ้านพี่เมืองน้องฮ่องเต้าต้าปอหลันจึงได้มีบัญชาให้นำเครื่องบรรณาการมาที่นี่แทนคำขอบคุณ”ซงหยวนเอื้อมมือกุมมือแป๋มใต้บัลลังก์บีบมือเบาๆ มองสบตา คม อย่างมีความหมาย“กลยุทธ์ของเจ้า เข้าท่าดีไม่น้อยต่อไปบ้านใกล้เรือนเคียงจึงไม่ทะเลาะเบาะแว้งเแย่งชิง ทรัพยากรและดินแดนกันอีกในเมื่อทุกพื้นที่ล้วน ปลูกผักทำสวน พึ่งพาตัวเอง ท่านพ่อตาเก่งเรื่องทำสวน ช่วยดูแลให้ความรู้ชาวแคว้นเหนือได้ดี แม้อยากกลับก็ไม่ได้กลับ ฮ่องเต้แคว้นเหนือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งราชครูเลยทีเดียว“คิดถึงจูจิ้นเขาไม่อ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   จบ

    พิธีแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อลังการ จนแป๋มคิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นแล้วยังต้องมาสวมอาภรณ์สีแดงด้วยตัวเอง อาการตื่นเต้นจนทำให้ต้องนึกถึงเรื่องที่ผ่อนคลายกว่านี้จะได้ไม่ทำอะไรเงอะงะ ให้ขายหน้าทั้งๆ ที่เมื่อวานวุ่นวายกับการฝึกซ้อมพิธีการแต่….เมื่ออยู่ในห้องสองต่อสองเมื่อวันก่อน แป๋มนำเอาแครอทหั่นฝอยมาทำเป็นส้มตำให้ซงหยวนกินอดจะขำกับเสียงซุดปากที่ขันทียังตกใจเสียไม่ได้ส้มตำไทยรสเด็ดที่แป๋ม ปรุงเองกับมือ ไม่มีมะละกอก็ใช้แครอทซอย เป็นเส้น พริกสดสีแดงจัดจ้านกระเทียมสีม่วงกลีบเล็ก โขลกรวมกัน ใส่กุ้งแห้งที่ตัวใหญ่ไปหน่อย ถั่วลิสงคั่ว มะนาวซีก น้ำผึ้ง และเห็ดหอมสดต้ม ข้าวโพดหวานต้ม ลงไปคลุกเคล้า ตักยื่นส่งตรงหน้าซงหยวนที่ยืนชื่นชม ท่าทีคล่องแคล่วของแป๋ม แต่ก็แอบกลืนน้ำลาย“เจ้าไปนำวิธีการปรุง อาหารจานนี้มาจากไหน”“พูดไปฝ่าบาทก็คงไม่เชื่อแต่จะบอกอะไรให้ อาหารจานนี้จูเจียชอบที่สุด และหากฝ่าบาทได้ชิมจะต้องซี้ดปากด้วยความสะใจ”“ซุ๊ดด ซี็ดเผ็ดมาก แต่อร่อยลิ้น เสียจริงไม่น่าเชื่อแครอทเอามาทำอาหารแบบนี้ได้ วังหลวงของเราไม่เคยมีอาหารรสจัดจ้านเพียงนี้ ข้าเห็นทีจะจัดให้ห้องเครื่องเป้นอาหารที่ทำห้คนนวังหลวงได้ชิม

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   เรียบร้อย

    “เรื่องอัปยศเช่นนี้ข้าก็ไม่อยากจะรื้อฟื้นเอาเป็นว่าเราทั้งสอง ทำทีเป็นเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน อย่างที่ผ่านมาดีแล้ว”“ท่านก็ยังเหมือนเคย””ตัวท่านเองก็เช่นกัน รักในบัลลังก์มากกว่าสิ่งอื่นใด”ซงหยางยิ้ม“ท่านเองก้คงไม่ปรารถนาให้บุตรีต้องมา ผูกพันกับซงหยวนที่มีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ต้องรับผิดชอบข้ามองไม่เห็นทางว่า หากซงหยวนแต่งกับบุตรีของท่านเหมือนที่ข้ายอมแต่งกับ พี่รองของท่านแล้วจะนำพาแคว้นฉินให้รอดปลอดภัยจากแคว้นอื่นที่ต้องการรุกรานได้อย่างไรในเมื่อซงหยวนมีว่าที่ไท่จือเฟยเป็นองค์หญิงแคว้นใต้”เฉินเจียจิ้นยิ้มบางๆ แม้จะรู้สึกเจ็บแค้นแทนแป๋มเพียงใด แต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองชีวิตในวังหลวงล้วนแตกต่างแป๋มจะทนได้หรือซงหยางก้าวเท้าเข้ามาในตำหนักด้วยสีหน้าแช่มชื่น เฉินเจียจิ้นกลับมาสู่ความเป็นจริงตรงหน้า“ข้ายินดี ให้ฮ่องเต้แต่งบุตรีของท่านเป็นฮองเฮา แม้จะต้องกลับคำพูดจากที่เคยพูดไว้”“กลับคำ”“ในตอนนี้ข้าเห็นแล้วว่าแม้ฮ่องเต้ไม่แต่งองคืหญิงจากแคว้นอื่นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์แต่งฮ่องเต้ก็ทรงนำพาแคว้นฉินให้อยู่รอดปลอดภัย ซงหยวนเก่งกว่าข้าภายใต้ความเก่งกาจของเขา มีตระกูลเฉิน โดยเฉพาะเฉินจูเจี่ยเป็นแรงผลักดัน

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   จุดจบ

    เพียงครู่เดียวเหล่าทหารของแคว้นฉิน ก็เข้ามา ล้อมบ้านเฉินไปจนสิ้น“เฉินเจียจิ้นรับราชโองการรร” ท่านรเฉินกับฮูหยิน คุกเข่าลงกับพื้นต้าปอหลันเหลือบตามองด้วยความสงสัย“ตามที่บ้านตระกูลเฉินได้ส่งเกาลัดที่ฝ่าบาทโปรดปรานเป็นอย่างยิ่งเข้าไปในวังหลวงบัดนี้ฝ่าบาทได้ให้ข้ามาแจ้งแก่เฉินเจียจิ้นว่าส่งเกาลัดเข้าไปแต่ไม่ยอมส่งคนคั่วเกาลัดเข้าไปด้วยฝ่าบาทจึงจำต้องมาออกมาที่ตลาดมารับคนคั่วเกาลัดคือแม่นางจูเจียด้วยองค์เองเพื่อเป็นการลงทัณฑ์บ้านเฉิน ที่ยังความลำบากให้กับฝ่าบาทเช่นนั้นจึงได้ มีราชโองการ เชิญท่านเฉินและฮูหยินเฉิน ไปที่วังหลวง พร้อมกันนี้ให้นำผักในไร่ไปปรุงเครื่องเสวยถวายฝ่าบาท ทันที เฉินเจียจิ้น รับราชโองการรรร”“น้อมบัญชาฝ่าบาท”เอื้อมมือรับเอาราชโองการมาถือไว้ด้วยมืออันสั่นเทาหันมองหน้าฮูหยินดวงแววตาตื่นตระหนกแม้ข้อความในราชโองการจะฟังดูแปลกๆ แต่ก็อดหวั่นใจเสียไม่ได้เพราะเพิ่งจะเคยได้รับราชโองการจากฮ่องเต้เป็นครั้งแรก“ท่านลุง หากไม่อยากเข้าไปข้ายินดีปกป้องท่าน”ต้าปอหลันประสานมือกล่าวคำห่วงใย“ฝ่าบาท ข้าน้อย แม้จะกลัวเพียงใดแต่เชื่อว่าจะต้องไม่เกิดอันตรายในเมื่อตอนนี้ จูเจียกับจูจิ้นอยู

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ขอบพระทัยเสี้ยนตี้

    “ขอบพระทัยเสี้ยนตี้”“อืม ปลาทอดราดซอสขิงรสชาติดีเสียจริง ข้าคงไม่กวนเจ้าแล้ว แต่รู้สึกคิดถึงจูจิ้นเหลือเกิน ไปคุยกับท่านลุงให้หายคิดถึงจะดีไหมที่ตำหนักของข้ามี ขนมหวานน่ากิน มากมาย”จูจิ้นยิ้มหันมองทั้งแป๋มและซงหยวน ซงหยวนพยักหน้ายิ้มๆ รีบลุกจากแท่นนั่งวิ่งเข้าเกาะแขนเสี้ยนตี้ฮองเฮามองด้วยสายตาอ่อนโยนแป๋มถอนหายใจเหมือนกับโล่งอกเสียเต็มทีซงหยวนอมยิ้ม“คืนนี้ จูจิ้นค้างที่ตำหนักเสี้ยนตี้”“ฝ่าบาทรู้ได้อย่างไร”“ก็เสี้ยนตี้จะต้องเห็นอกเห็นใจลูกชายคนนี้ที่นานปีเพิ่งจะได้ชิดใกล้คนที่เขารัก”“ข้า ...ข้า”“อย่าบอกนะว่าจะขอแยกห้อง”“ก็ฝ่าบาท จะรังแกกัน”“ใครกันเรียกว่ารังแก เรียกว่าทนคิดถึงไม่ไหว”ปลาทอดราดซอล ขิงวันนี้แป๋มรู้สึกว่ามันหวานไปหน่อยจะด้วยสายลมแสงจันทร์หรือว่าคำหวานกับสายตารักใคร่ของคนข้างหน้าไม่อาจทราบได้บ้านเฉิน“ท่านลุง จูเจียถูกจับตัวไป”ท่านเฉินลุกพลวดจากเก้าอี้“ใครกันทำเรื่องแบบนั้น”“ฮ่องเต้แคว้นฉิน”“หา ฮ่องเต้แคว้นฉิน แล้วเขาจะจับจูเจียไปทำไมกัน”“ฝ่าบาทคนของเราพร้อมแล้ว”องครักษ์ที่ซ่อนตัวอยู่ ปรากฏตัวออกมาประสานมือตรงหน้า ต้าปอหลันฮ่องเต้ ท่านเฉินกับ ฮูหยินเฉินตาค้างด้

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   พาหญิงงามเข้าวัง

    แป๋ม เขย่งเท้าขึ้นจุมพิตที่ปากอุ่นเบาๆ“ขอบคุณที่ทำเพื่อข้า”ซงหยวนกดริมฝีปากกับปากบดขยี้อ่อนหวานก่อนจะถอนริมฝีปากออกช้าๆ“ขอบคุณเช่นกันที่รอข้า”แป๋มยิ้มห้องเครื่องเกาลัดเมล็ดใหญ่ถูกคั่วในเตาด้วยไฟกลาง กลิ่นหอมโชยไปทั่ว ซงหยวนจูงมือแป่มไว้พาเดินเข้าไปในห้องเครื่องขันทีนางกำนัลต่างประสานมือและย่อกายทำความเคารพ“พี่ชายเอ๊ยฝ่าบาท พี่สาวจูเจียข้าคั่วเกาลัดไว้รอพวกท่านกำลังร้อนๆ เนื้อนุ่มหวานอย่าบอกใคร”จูจิ้นวิ่งเข้ามาจับมือข้างที่ว่างของแป๋ม“ปลาสดวันนี้มีมาหรือไม่ ว่าที่ฮองเฮาของข้าตั้งใจจะทำปลาทอดราดซอสขิงทั้งขันทีและนางในห้องเครื่องต่างอมยิ้มกับคำเรียกขานที่ซงหยวนใช้กับแป๋ม“ปลาสดวันนี้ได้มาหลายตัว กระหม่อมทอดเตรียมยกเป็นเครื่องเสวยพอดี”หัวหน้าห้องเครื่องประสานมือพูดขึ้น“ดีมาก ปลาอะไรที่ได้มา”“ปลากะพง สดใหม่จึงทอดเพื่อยกเป็นเครื่องเสวย”“ดีเลย ข้าปรุงซอส ขิงราดคงดีไม่น้อย”ซงหยวนยิ้ม จูงมือ แป๋มให้นั่งลง“แค่เพียงบอกขั้นตอนพวกเขาเจ้าไม่ต้องลงมือให้เปรอะเปื้อน”“ไม่เป็นไรข้าเต็มใจทุกวันก็ทำประจำ”“ไม่ได้ เครื่องเสวยมีหลายสิบตำหนักเจ้าจะต้องเหนื่อยหนักเช่นนั้นนั่งอยู่ข้างข้า คอยสั่งการ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ปลาทอดราดซอสขิง

    “เสด็จพ่อ บอกกับข้าว่าเสด็จพ่อเคยทำผิดพลาดเมื่อครั้งหนึ่งที่เคยหนีออกไปเช่นข้าแล้วพบหญิงงามจิตใจดีนางหนึ่งแต่เสด็จพ่อก็จากนางมาปล่อยให้นางเป็นของคนอื่นนั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ยังเป็นตราบาปในใจของเสด็จพ่อจนถึงทุกวันนี้”“แล้วเสี่ยวซงเล่ากลัวว่าจะเป็นอย่างนั้นบ้างไหม”“กลัวอย่างที่สุด เช่นนั้นจึงต้องแสดงให้เสด็จพ่อเห็นว่าในใจข้ามีเพียงจูเจียคนเดียวไม่แต่งตั้งฮองเฮาไม่แต่งใครเข้ามาให้วุ่นวายสนมนางในไม่รับเข้ามาเพื่อรอวันนี้”กดริมฝีปากกับปากบางแนบแน่นหวานฉ่ำ แป๋มหัวใจพองโตหากปากไม่โดนปิดไว้ก็คงเผลอยิ้มอย่างลืมตัว“ไหนใครเขาบอกว่าแม่นางจูเจียสองปีมานี่เชี่ยวชาญเรื่อง อาหารและการถนอมอาการ ข้าอยากกินเกาลัดคั่วแล้วอยากกิน พะโล้หน่อไม้ แล้วก็อยากกิน..”จ้องหน้าหน้าหวาน“อยากกินอะไร”“อยากกิน หญิงงามบ้านเฉินคนนี้ ดูทีรึว่าจะหวานเหมือนลูกพลับตากแห้งที่ส่งเข้ามาในวังหลวงหรือไม่”แป๋มหลบตาอมยิ้ม“อือ ตอนนี้ข้าทำได้หลายอย่างฝ่าบาทเคยชิม ปลาทอดราดซอสขิงหรือไม่ ข้าทำอร่อยจริงๆนะท่านแม่ยังชมว่ารสดีกว่าท่านแม่ทำ ท่านพ่องี้ให้ข้าทำให้กินประจำ”เสี่ยวซง ถอนหายใจ“เมื่อไหร่จะรู้ว่าคนที่คิดถึงกันเขาจะต้องทำอะไรก

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   สองปีมันนานไป

    “เจ้าเล่า คนผู้นั้นเป็นใคร กุมมือกันในตลาดไม่เกรงสายตาใครข้ารึอุตส่าห์ให้คนคอยจับตาจูเจียเห็นว่าไม่เคยมีใคร วันนี้กับเห็นตำตาว่ามีบุรุษรูปงานข้างกาย”“เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย ท่านเองอาจมีหญิงอื่นข้างกายมากมาย”“ถึงเจ้าบอกว่าไม่เป็นแต่ข้า คิดอยู่เสมอว่าเจ้าคือ...คนที่ข้าหมายปอง และจะบอกอะไรให้ข้าไม่เคยมีใครในใจข้ามีแต่เจ้าคนเดียวตลอดเวลาสองปีมานี้”กระซิบเบาๆ ข้างหู“เป็นท่านทีคิดไปเพียงลำพัง ข้าไม่มีทางเชื่อท่านอีกแล้ว ท่านเป็นถึงฮ่องเต้สนมนางในสวยมากมายมีหรือจะไม่ไขว้เขว้กับหญิงใด”“ข้าจะทำให้เจ้าก็ต้องคิดเหมือนข้า และให้เจ้าเข้าไปดูในห้องบรรทมของข้าจะได้รู้ว่าข้าไม่เคยมีใครร่วมแท่นนอน”แป๋ม ถอนหายใจ“พี่ชายเสี่ยวซงท่านจะพาข้ากับพี่สาวจูเจียไปไหนกัน”จูจิ้นถามขึ้นเมื่อเห็นว่าบรรยากาศกำลังจะเสียไป ทางเดินทอดยาวเข้าสู่วังหลวง ช่างยิ่งใหญ่อลังการน่าทัศนามากกว่าจะมาทะเลาะกัน“พี่ชายเสี่ยวซงเป็นฮ่องเต้จูจิ้นน้อยคิดว่าพี่จะพาคนที่พี่รักที่สุดไปที่ไหนกันล่ะ”แป๋มหลบตาคม จูจิ้นอมยิ้มแก้มปริ“ข้าไปด้วย”ขันทีนางใน ล้วนลอบมองแป๋มที่มีมือของซงหยวนเกาะกุมไว้ด้วยความใคร่รู้และปนไปด้วยความอ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   เนิ่นนาน

    “เสด็จพ่อโปรดไตร่ตรอง พี่ใหญ่เที่ยวเล่นสนุกสนานอีกทั้ง ยังลุ่มหลงหญิงงาม พาตัวเองไปอยู่ในไร่ในสวนไม่ยอมกลับวังหลวง”“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าซงหยวนอยู่ในไร่”คิ้วของซงหยางขมวดเข้าหากัน“เสด็จพ่อโปรดเมตตา”“บัดซบที่สุด เจ้าทำเรื่องชั่วช้าได้ถึงเพียงนั้นเพียงแค่ตำแหน่งรัชทายาทถึงกับส่งมือสังหาร ไปทำร้ายซงหยวนเชียวหรือ”“เสด็จพ่อ เรื่องแบบนี้ล้วนมีมาแต่โบราณอำนาจและการแย่งชิง”“ข้าไม่เคยคิดว่าซงหลี่ผู้อ่อนน้อมจะกล้าทำเรื่องชั่วช้าเพื่อบัลลังก์ตำหนักบูรพา ทั้งๆที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกันเจ้ากับคิดให้ พี่น้องร่วมสายโลหิตต้องตายเพื่อบัลลังก์ องครักษ์นำตัว ซงหลี่ไปขังไว้ที่คุกหลวงรอการไต่สวนอีกครั้ง”“เสด็จพ่อ ลูกสำนึกผิดแล้วลูกไม่อยากไปอยู่ในคุกหลวง”ก้มศีรษะลงกับพื้น“สำนึกผิดเมื่อสายไปแล้วหากคนของเจ้า สังหารซงหยวนจนถึงแก่ความตาย รู้หรือไม่ว่าภายในใจของเจ้าจะต้องทนทรมานแบกรับความรู้สึกผิดนี้ไปเนิ่นนานแค่ไหน”“ลูกผิดไปแล้ว”ไปสำนึกผิด ที่สุสานบรรพชนจนกว่าจะเข้าใจความสัมพันธ์พี่น้องว่ายิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด”เค้นเสียงพูดด้วยความาโมโหสุดขีด“ซงหลี่ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”ซลี่ก้มหน้ายอมให้องครักษ์คลุมตัยไปโดยดีซ

DMCA.com Protection Status