Share

ตอนที่ 4 ทำการค้าครั้งแรก

last update Last Updated: 2025-01-04 21:00:22

จางซิ่วอิงมารอขึ้นเกวียนก่อนเวลาราวสิบห้านาที ระหว่างนั้นเธอยืนรอเวลาอยู่เพียงเงียบ ๆ สายตารอบข้างที่มองมาราวกับพบเจอสิ่งแปลกประหลาด เสียงตินนินทาลอยแว่วมาตามลมเป็นระยะ หญิงสาวเพียงรับรู้ทว่าไม่ได้ให้ความสนใจเอาความแม้แต่น้อย

จากความทรงจำเดิม เจ้าของร่างมักจะถูกมองและนินทาซึ่งหน้าแบบนี้อยู่เป็นประจำ เธออ่อนแอเกินกว่าจะตอบโต้คนเหล่านั้น ในที่สุดจึงทำได้แค่เพียงเดินก้มหน้าอย่างยอมรับชะตากรรมเท่านั้น ต่างจากเธอคนนี้ที่เป็นวิญญาณจากยุคอนาคต แม้จะไม่ได้โต้ตอบแต่ก็ไม่ยอมจำนนอย่างที่แล้วมา

พลันดวงตาคู่เรียวตวัดมองเจ้าของเสียงนินทาเหล่านั้นอย่างไม่ยินยอม ก่อนจะเดินเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางมั่นใจ ไม่ต่างจากคุณหนูตระกูลใหญ่ในเมือง

หลังจากรอจนได้เวลา เกวียนสภาพกลางเก่ากลางใหม่ก็เคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายปลายทางทันที เธอสังเกตเห็นว่าเพื่อนร่วมทางมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับเธอในความทรงจำเดิมคนเหล่านี้นั้นไม่ได้น่าคบหาสักเท่าไหร่

“นี่ยายเฒ่าฟางแกจะเข้าไปซื้ออะไรล่ะวันนี้ เมื่อวานแกก็ไปไม่ใช่หรือ?”เสียงเว่ยซื่อเอ่ยถามสหายที่รู้จักซึ่งมาจากหมู่บ้านเดียวกัน ทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่สมัยสาว ๆ แม้ไม่ได้สนิทสนมกันนัก แต่ถึงอย่างไรคำตอบของสหายก็ไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับหล่อนอยู่แล้ว เพราะจุดประสงค์ของหล่อนคือหญิงสาวที่นั่งถัดยายเฒ่าฟางต่างหากล่ะ

“ฉันก็ไปซื้อเนื้อมาบำรุงลูกสะไภ้ฉันนะสิ นี่นะ! เมื่อวันก่อนหล่อนพึ่งคลอดหลานชายคนแรกของตระกูลออกมา หน้าตาน่าชัง ตัวนี่อวบขาวเชียวล่ะ”

ฟางซื่อที่อยากประกาศความดีใจที่มีอย่างท่วมท้นอยู่เป็นทุนเดิม เมื่อมีคนถามจึงไม่อาจกักเก็บคำพูดเหล่านี้ไว้ได้อีก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของหญิงชราที่ทำงานในแปลงนามาทั้งชีวิตยิ้มกว้างจนปากแทบฉีกถึงรูหู

จางซิ่วอิงที่นั่งฟังอยู่เงียบ ๆ เหมือนคนอื่นก็ไม่ได้คิดอะไร หากว่าน้ำเสียงนั้นไม่ดังจนกระทบเข้ามาในโสตประสาท พร้อมกับสายตาที่แฝงความหมายบางอย่างชำเลืองมองเธออยู่ตลอดเวลาสนทนา

“ดีจริง ๆ สะไภ้บ้านแกแต่งได้ปีกว่าก็คลอดหลานชายตัวอวบอ้วนออกมาแล้ว เหมือนสะไภ้บางบ้าน…”หญิงชราร่างใหญ่กล่าวปากยื่นปากยาว ระหว่างที่พูดไม่ลืมทิ้งสายตาไว้ที่สะไภ้คนเล็กของบ้านหยาง

เดิมทีเว่ยซื่อไม่ได้มีปัญหากับจางซิ่วอิงแม้แต่น้อย แต่ด้วยนิสัยที่ชอบติฉินนินทาคนอื่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเห็นคนที่มีจุดด่างพร้อยหรือด้อยกว่าเข้าหน่อยก็อดที่จะเหยียบย่ำด้วยคำพูดไม่ได้

จางซิ่วอิงเมื่อได้ฟังบทสนทนาของหญิงชราคู่นี้คุยกันก็เข้าใจได้ทันทีว่าตนกำลังถูกเหน็บแนมในระยะเผาขนอยู่ ทว่าในยุคนี้ไม่เหมือนยุคที่เธอจากมา ชื่อเสียงของหญิงสาวเป็นสิ่งสำคัญ แต่ในใจของเธอนั้นแอบลอบจำหน้ายายแก่สองคนนี้เอาไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว

ระหว่างเดินทางยังคงมีประโยคเสียดสีมากมายจากยายแก่สองคนนี้ให้เธอได้ยินอยู่เนือง ๆ จางซิ่วอิงทำเพียงแค่ทอดสายตามองไปยังข้างทาง ชื่นชมธรรมชาติอันแสนแร้งแค้นในยุคที่ไม่คุ้นเคย และไม่ได้ให้ความสนใจกับเสียงนกเสียงกาเหล่านี้มากนัก

ใช้เวลาเพียงสามสิบนาทีเกวียนก็พาเธอมาจนถึงอำเภอ จางซิ่วอิงจ่ายค่าโดยสารเสร็จเรียบร้อยจึงเดินออกมาจากจุดนั้นทันที

ร่างบางเดินสำรวจตามท้องถนนมาเรื่อย ๆ ซึ่งที่นี่มีโรงเรียนประจำอำเภอขนาดใหญ่ โรงงานยาสูบที่พ่อเธอทำงานอยู่และโรงงานทอผ้า ซึ่งช่วงเช้าและช่วงเย็นที่พนักงานเลิกงานคนค่อนข้างพลุกพล่าน ตอนที่เธอมาถึงที่นี่ยังเป็นช่วงบ่ายซึ่งอีกเกือบสามชั่วโมงกว่าที่คนงานจะเลิกงาน

จางซิ่วอิงเลือกเดินสำรวจร้านรวงต่าง ๆ  รอบบริเวณ เธอสังเกตเห็นแผงลอยที่ขายอาหารเป็นส่วนใหญ่ที่มีเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น ร้านขายข้าวสารอาหารแห้งร้านใหญ่ที่มีลูกค้าเข้าออกตลอดไม่ขาดสาย ร้านเสื้อผ้าสองร้านตั้งอยู่คนละฝั่งมุมถนนก็ไม่ได้มีแบบให้เลือกมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าสีพื้นเรียบ ๆ เน้นไปทางสีเขียวเข้ม และสีกรมท่า

เมื่อเดินสำรวจอยู่สักพักเธอยังคิดไม่ออกว่าจะทำอาชีพอะไรในยุคนี้ดี พลันนึกขึ้นมาได้จากความทรงจำว่าที่นี่มีสถานที่หนึ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้า ซึ่งเรียกว่า “ตลาดมืด” และในยุคนี้ก็ไม่ได้มีทางการควบคุมเข้มงวดอย่างเช่นหลายปีที่ผ่านมา หญิงสาวจึงพาตัวเองไปที่แห่งนั้นทันที

เพียงเวลาไม่นานจางซิ่วอิงเดินมาหยุดอยู่ที่ที่เรียกว่า ตลาดมืด โดยใช้ความทรงจำที่ติดตัวมา ดวงตาคู่เรียวสอดส่ายไปทั่วพลางลอบสำรวจวิถีชีวิตของคนในยุคนี้ เท่าที่เธอเข้าใจปีนี้ทางการได้ลดบทบาทหน้าที่ของคูปองต่าง ๆ ลงบ้างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นทรัพยาการที่มีอย่างจำกัดก็ไม่ได้เพียงพอต่อความต้องการขนาดนั้น เนื้อสัตว์ยังเป็นสิ่งขาดแคลน รวมถึงอาหารอย่างอื่นด้วยเช่นกัน ยิ่งใกล้เข้าฤดูหนาวอาหารยิ่งเป็นที่ต้องการ

ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มพร้อมประกายวาววับในดวงตา เมื่อนึกถึงหนทางหาเงินต่อจากนี้ขึ้นมาได้แล้ว

มือเรียวกระชับกระเป๋าผ้าข้างกายที่พกติดตัวไว้แน่น จากนั้นจึงพาตัวเองเดินเข้าไปสำรวจภายในสถานที่แห่งนี้ทันที การซื้อขายเป็นไปอย่างเงียบเชียบ ไม่ได้เอิกเกริกแต่อย่างใด โดยตลอดทางที่ผ่านมาจะมีทั้งแบบยืนเร่ขายและวางแผงขาย ดูแล้วเจ้าของตลาดมืดคงมีเส้นสายพอสมควรเลยล่ะ

ดวงตาคู่สวยสอดส่องไปทั่วทุกมุมที่ตนเองเดินผ่าน ก่อนจะไปสะดุดกับแผงขายของขนาดเล็กที่มีเนื้อวางอยู่หนึ่งชิ้น มีพ่อค้าที่ยืนทำสีหน้าลำบากใจ และตรงข้ามมีหญิงวัยกลางคนกับชายหนุ่มอายุราวยี่สิบปลาย ๆ กำลังพูดคุยกันด้วยบรรยากาศตึงเครียด

หลังจากนั้นไม่นานชายหนุ่มเป็นผู้หยิบเนื้อชิ้นนั้นขึ้นมาจ่ายเงินแล้วเดินจากไปในทันที ส่วนหญิงวัยกลางคนเมื่อไม่ได้เนื้อที่ต้องการก็เดินหันหลังไหล่ตกออกมาจากแผงขายเช่นกัน

เห็นดังนั้นจางซิ่วอิงรู้สึกได้ถึงโอกาสอันพอเหมาะพอดี ไม่รอช้าหญิงสาวรีบเดินตรงไปหาหญิงวัยกลางคนนั้นทันที

“สวัสดีค่ะคุณป้า มีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่าคะ?”หญิงสาวถามออกไปด้วยท่าทีเป็นมิตร ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มเบาบางอยู่ตลอด

“เธอเป็นแม่ค้าหรือเปล่า? พอดีฉันอยากได้เนื้อ แต่วันนี้ฉันมาช้าเลยไม่ทันแผงขายเนื้อ ไม่รู้วันนี้จะมีแผงอื่นมาขายอีกหรือเปล่า”ความกังวลฉายชัดอยู่ในน้ำเสียงของหญิงชรา

วันนี้ลูกสาวของเธอกับสามีจะมาเยี่ยมบ้านหลังจากแต่งออกไปเกือบครึ่งเดือนแล้ว หากที่บ้านไม่มีอาหารจานเนื้อสักจาน เกรงว่าจะทำลูกสาวขายหน้าเอาได้ ซึ่งโดยปกติที่บ้านจะทำอาหารจานเนื้อหนึ่งจานขึ้นโต๊ะอยู่แล้ว ทว่าวันนี้เนื้อที่ซื้อไว้หมดเกลี้ยง อีกทั้งที่ร้านยังมีลูกค้าเข้ามาเนืองแน่นตั้งแต่เช้า กว่าจะปลีกตัวออกมาได้ก็เลยเวลาไปมากแล้ว

“หนูพอจะหาให้คุณป้าได้นะคะ ว่าแต่คุณป้าต้องการเนื้อส่วนไหน เท่าไหร่บ้างเหรอคะ?”จางซิ่วอิงถามขึ้นอย่างตื่นเต้น นี่คือโอกาสทำการค้าครั้งแรกของเธอในโลกนี้ เธอไม่ปล่อยให้โอกาสนี้สูญเปล่ารีบถามความต้องการของลูกค้ารายแรกในทันที

พอได้ยินว่าหญิงสาวรุ่นลูกสามารถหาเนื้อให้เธอได้ ใบหน้าที่เริ่มมีริ้วรอยจึงคลายความกังวลลงได้หลายส่วน จากนั้นไม่ลืมที่จะถามหาของอย่างอื่นจากเธออีกด้วย “นอกจากเนื้อเธอมีอย่างอื่นขายอีกหรือเปล่าล่ะ?”

“ก็มีหลายอย่างค่ะคุณป้า พอดีว่าสามีของฉันพอจะมีเส้นสายอยู่บ้างน่ะค่ะ” จางซิ่วอิงรีบตอบรับด้วยความดีใจ ใบหน้าสวยยิ้งกว้างจนตาแทบปิด

“อย่างนั้นฉันเอาตามรายการนี้ เธอพอจะหาได้หรือไม่ล่ะ?”

มือเรียวรับกระดาษใบเล็กที่มีรายการสินค้านับสิบอย่างมาอ่านเพียงครู่เดียว ก่อนจะตอบรับไป “อ่า ได้ค่ะ แต่ต้องใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมง ไม่ทราบว่าคุณป้าจะไปเดินดูอย่างอื่นก่อน หรือจะรออยู่ที่นี่ก่อนก็ได้นะคะ”

จากรายการที่เธอถืออยู่ในมือ คร่าว ๆ จะมีขาหมูห้าขา เนื้ออย่างดีราวแปดชั่ง เครื่องเทศและผักสดอีกหลายรายการ

จางซิ่วอิงไม่ได้มีปัญหากับรายการสินค้าแต่อย่างใด เพราะในมิติของเธอมีของพวกนี้เพียงพออยู่แล้ว แถมยังเป็นวัตถุดิบอย่างดีอีกต่างหาก แต่ทว่าจะให้ควักออกมามากมายขนาดนี้ในชั่วพริบตาก็เกรงว่าคุณป้าจะตกใจเอาได้

“อย่างนั้นเธอเอาไปส่งฉันที่ร้านขายของแห้งที่มุมถนนฝั่งนู้นก็แล้วกัน ส่วนเรื่องราคาเธอจะคิดอย่างไร?”เรื่องราคาเป็นสิ่งสำคัญมากที่แม่ค้าอย่างเธอต้องตกลงให้ชัดเจนทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน

จางซิ่วอิงหยุดคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“เรื่องราคาหนูคิดตามที่คุณป้าเคยซื้อก่อนหน้านี้เลยค่ะ แล้วอีกครึ่งชั่วโมงหนูเอาไปส่งคุณป้าที่ร้านนะคะ”

ถึงอย่างไรสินค้าทุกรายการก็ไม่ได้มีต้นทุนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะขายราคาไหนเธอก็ไม่มีวันขาดทุนอย่างแน่นอน

“ได้ ฉันชื่อหลี่ฟางอิง เป็นเจ้าของร้านนั้น”

“ค่ะ หนูชื่อจางซิ่วอิงนะคะ”หญิงสาวกล่าวแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะแยกตัวจากคุณป้าฟางอิงหลังจากนั้น

เธอเดินตรงไปยังมุมตึกที่ค่อนข้างไร้ผู้คน ก่อนจะเลี้ยวขวาไปยังซอกตึกที่ลับตาคนมากพอที่จะหยิบของหายรายการออกมาตามคำสั่งซื้อ

ไม่นานจางซิ่วอิงพร้อมสินค้าพะรุงพะรังก็มาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายอาหารแห้งตระกูลเฉิง ภายในร้านมีสินค้าข้าวสาร และอาหารแห้งให้เลือกสรรละลานตา ลูกค้าเดินเข้าออกกันขวักไขว่ไม่ขาดสาย ดูแล้วกิจการคงรุ่งเรืองมากทีเดียว เห็นอย่างนั้นหญิงสาวยิ่งรู้สึกถึงไฟในกายกำลังลุกโชนขึ้นมา ในหัวสมองเริ่มวาดฝันถึงธุรกิจในอนาคตของครอบครัว

“อ้าว! เธอนี่เอง เข้ามาก่อนสิ!!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 5 ตั้งแผงขายในตลาดมืด

    เสียงเรียกของเถ้าแก่เนี๊ยของร้านช่วยฉุดรั้งเธอออกจากภาพฝันในอนาคต จางซิ่วอิงเดินเข้าไปหาลูกค้ารายแรกของเธอทันทีอย่างไม่ลังเล ก่อนจะวางสินค้าตามรายการสั่งซื้อลงบนโต๊ะตรงหน้าให้คุณป้าฟางอิงได้ตรวจสอบ“ดี ๆ ของดีทั้งนั้น นี่ค่าของนับดูก่อนสิ!”หลังจากตรวจนับของที่สั่งไปจนครบถ้วนแล้ว หญิงวัยกลางคนจึงกล่าวขึ้นอย่างพึงพอใจ ในมือนั้นถือขาหมูที่แพ็คมาอย่างดีดูสะอาดน่าทำอาหารมากกว่าหลายร้านที่ซื้อมาก่อนหน้าเป็นอย่างมาก พลันยื่นถุงเงินใบเล็กที่มีเงินอัดแน่นอยู่ในนั้นให้กับหญิงสาวตรงหน้าจางซิ่วอิงรับถุงเงินใบเล็กมา ก่อนจะโยนไว้ในกระเป๋าผ้าคู่กายอย่างไม่คิดมาก แล้วตอบคุณป้าไปด้วยรอยยิ้มใสซื่อ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าว่าเท่าไหร่ก็ตามนั้น”“เธอนี่นะ ไม่กลัวฉันโกงหรืออย่างไร?”แม้จะพูดไปอย่างนั้น แต่แววตาที่มองหญิงสาวคราวลูกก็อ่อนลงไม่น้อย พลันเกิดความรู้สึกเอ็นดูอยู่เล็ก ๆ หลังจากได้เห็นรอยยิ้มใสซื่อนั่นแม้จะไม่อยากเช

    Last Updated : 2025-01-05
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 6 พี่สาวเยว่

    หลังจากสินค้าถูกขายหมดเกลี้ยงแผงภายในเวลาอันรวดเร็ว จางซิ่วอิงจึงพับเก็บผ้าปูไว้ในกระเป๋าผ้าอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินดูสินค้าอื่นที่ขายอยู่ภายในตลาดมืดแห่งนี้สักเล็กน้อยแล้วเดินออกมาร่างบางเดินตรงไปยังร้านขายผ้าที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ เสื้อผ้าสำเร็จรูปรวมถึงผ้าม้วนมากมายวางเรียงรายละลานตาเต็มไปหมด“สวัสดีค่ะ ฉันมาดูชุดสำเร็จรูปสักสองชุด พอจะแนะนำให้ได้หรือไม่คะ?”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เปล่งออกไปไม่ดังไม่เบา ทั้งใบหน้าของหญิงสาวยังค่อนข้างเป็นมิตรไม่ต่างจากตอนขายของในตลาดมืด ไม่มีคำไหนที่เธอพูดไม่ดีกับพนักงานคนนี้ด้วยซ้ำ เธอมั่นใจแต่ทว่าคำตอบที่ได้รับจากพนักงานของร้านและท่าทางเหยียดหยามของพนักงานที่มีต่อเธอนั้นทำให้จางซิ่วอิงกรุ่นโกรธจนแทบพ่นไฟออกมาเผาหญิงร่างใหญ่ตรงหน้าให้มอดไหม้“นั่นน่ะ! ดูเอาสิ!!!”พนักงานร่างท้วมตอบค่อนข้างห้วน ขณะนิ้วเรียวชี้มั่ว ๆ ไปยังกองผ

    Last Updated : 2025-01-06
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 7 ทำสัญญาการค้า

    จางซิ่วอิงกลับมาถึงบ้านก็ใกล้เวลาอาหารเย็นเต็มที หญิงสาวเลยเลือกทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ได้จากในมิติมาต้มใส่ผักและเนื้อง่าย ๆ เพื่อเพิ่มสารอาหาร ก่อนจะทานจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาทีร่างบอบบางอาบน้ำชำระร่างกายด้วยด้วยของใช้ที่นำมาจากในมิติ ซึ่งทำให้ห้องน้ำนั้นหอมฟุ้งไม่ต่างจากกลิ่นกายก่อนนอนไม่ลืมตรวจตราความเรียบร้อยรอบบ้านเช่นเคย ก่อนจะนำเงินที่ขายสินค้าในวันนี้ออกมานับ ซึ่งจำนวนที่ได้ในวันนี้ก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจนัก อย่างนี้ความฝันเรื่องบ้านหลังใหม่คงอีกไม่ไกลแล้วในคืนนี้จึงเป็นอีกคืนที่สาวสองในร่างของจางซิ่วอิงหลับไปด้วยความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ แม้จะเหนื่อยยากลำบากไปสักหน่อยกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ด้วยหนึ่งสมองและสองมือนี้ลมหนาวจะทำให้ชีวิตของจางซิ่วอิงดีขึ้นให้ได้ ในหัวนั้นวาดฝันอนาคตไปพลาง กระทั่งปิดเปลือกตาลงมุมปากยังคงมีรอยยิ้มเบาบางเช้าวันต่อมาจางซิ่วอิงยังคงทำอาหารง่าย ๆ ทาน ก่อนจะออกจากบ้า

    Last Updated : 2025-01-07
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 8 วางแผนซื้อบ้าน

    จางซิ่วอิงเดินออกมาจากร้านขายผ้าด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ภายในกระเป๋าผ้ามีสัญญาการค้าที่พึ่งเซ็นไป โดยหลังจากนี้เธอจำต้องนำกิ๊บติดผมในมิติออกมารอไว้ทุกวัน เพื่อรวบรวมส่งให้กับพี่สาวเยว่ทุกเจ็ดวันระหว่างทางเดินไปขึ้นเกวียนหญิงสาวเดินผ่านสำนักงานขายที่ดินพอดีพอคำนวนเวลาที่เหลือแล้วคิดว่าพอมีเวลาอยู่นิดหน่อยกว่าเกวียนรอบหน้าจะออก จึงตัดสินใจเข้าไปติดต่อสอบถามเพื่อจะได้รู้ว่าหากต้องการบ้านดี ๆ สักหลังเธอจำต้องทำงานเก็บเงินอีกเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการซื้อที่ดิน บ้าน หรือร้านค้าคะ?”พนักงานสาวที่ยืนรอต้อนรับอยู่ประตูเอ่ยทักทันทีที่จางซิ่วอิงเดินเข้ามา โดยไม่ลืมสอบถามความต้องการของลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ฉันต้องการดูราคาบ้านพร้อมที่ดินค่ะ ขอสอบถามราคาก่อนได้ไหมคะ?”เธอตั้งใจบอกเจตนาของการมาในครั้งนี้ให้กับพนักงานได้ทราบต้งแต่เนิ่น ๆ เพราะวันนี้เธอยังไม่พร้อมจะซื้อจริง ๆ เพียงแค่ต้องการสอบถามราคาไว้ก่อนเพื่อประกอบการตัด

    Last Updated : 2025-01-08
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 9 สามีไร้ประโยชน์

    หยางซีห่าวมองภรรยาที่ทรุดกายร่ำไห้อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ก่อนนี้เขาตัดสินใจเข้ากรมเพื่อเป็นทหารก็เพราะอยากให้ภรรยาอยู่อย่างสุขสบาย ไม่ต้องไปทนลำบากทำงานตากแดดในแปลงนาแต่ดูสภาพเขาตอนนี้สิ แม้หมอที่ค่ายจะไม่ได้วินิจฉัยว่าเขาจะพิการเสียทีเดียว แต่ก็ไม่แน่ว่าจะกลับมาเดินได้เหมือนเดิม จางซิ่วอิงคงเสียใจมากที่สุดท้ายแล้วสามีอย่างเขาก็ไม่อาจทำให้ชีวิตของเธอนั้นสุขสบายได้ตลอด แถมยังเจ็บหนักเข้าขั้นพิการกลับมาให้เธอดูแลต่อ สามีเช่นเขานี่มันไร้ประโยชน์เสียจริงเสียงเอะอะโวยวายและถ้อยคำด่าทอรุนแรงของย่าสามีนั้นเรียกสติในตัวเธอให้กลับมาได้ทันเวลา มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาบนแก้มออก พลางตวัดตามองย่าของสามีด้วยความไม่พอใจ“ซีห่าว!! แก!! แกมันตัวไร้ประโยชน์!”เหยียนเพ่ยแสดงท่าทีเกรี้ยวกราดตีอกชกหัวทันทีที่ได้เห็นสภาพหลานชายที่เคยเป็นคนหาเงินเข้าบ้านมากที่สุด ตอนนี้หยางซีห่าวไม่ใช่ว่าคนไร้ประโยชน์ไปแล้วหรือ

    Last Updated : 2025-01-09
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 10 ตัดขาดเสียที

    น้ำเสียงตวาดกร้าวของผู้เป็นย่าเรียกร้องให้ตัดขาดจากหลานชายดังขึ้นจนทุกคนที่ยืนห้อมล้อมเหตุการณ์อยู่ได้ยินและรับรู้ถึงความใจดำของย่าที่มีต่อหลานชายได้อย่างชัดเจนจางซิ่วอิงเหยียดยิ้มเมื่อสิ่งที่เธอต้องการนั้นได้หลุดออกมาจากปากของหญิงชราเห็นแก่ตัวอย่างง่ายดาย ก่อนจะหันไปสบตากับสามีอีกครั้งหยางซีห่าวสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างอดกลั้น สถานการณ์ตรงหน้าไม่ได้กำลังตอกย้ำความสำคัญของเขาที่มีต่อครอบครัวนี้หรอกหรือ เมื่อหาเงินเขาบ้านไม่ได้แล้ว หลานชังอย่างเขานับเป็นตัวอะไรกัน“จัดการตามที่ย่าว่าเถอะครับ ผมรบกวนด้วย”เสียงทุ้มกล่าวกับผู้นำหมู่บ้านในทันที ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีกต่อไปแล้ว เท่านี้ก็ชัดเจนมากพอแล้วโจวเหวินมองชายหนุ่มที่เขาเห็นมาแต่เด็กด้วยแววตาเวทนาสงสาร เขาค่อนข้างสนิทกับพ่อของซีห่าว ฉะนั้นลูกของสหายก็ไม่ต่างจากลูกหลานที่เขาจะต้องให้ความช่วยเหลือเท่าที่พอจะทำได้

    Last Updated : 2025-01-10
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 11 ทานข้าวกับสามีครั้งแรก

    จางซิ่วอิงหายไปในครัวไม่นานอย่างที่เธอว่าไว้ ก่อนจะกลับมาพร้อมข้าวขาวเรียงเม็ดสวยร้อน ๆ สองจาน กับอาหารจานผัดหนึ่งจาน และต้มอีกหนึ่ง วันนี้เธออยากกินหมูสามชั้นต้มพร้อมน้ำจิ้มแซ่บซี๊ดเหมือนโลกก่อนจึงทำเพิ่มขึ้นมาอีกจาน เมื่ออาหารพร้อมสรรพบนโต๊ะแล้ว ร่างบางจึงเดินไปเข็นรถให้สามีที่นั่งอยู่ภายในห้องโถงให้มาทานข้าวด้วยกันกลิ่นอาหารลอยคลุ้งเต็มบ้านจนกระทบเข้ากับจมูกของหยางซีห่าว กลิ่นหอมที่ไม่คุ้นเคยช่วยเรียกน้ำย่อยในกระเพาะชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี“ฉันมีเวลาทำอาหารไม่มาก เลยมีแต่อาหารง่าย ๆ คุณลองทานดูนะคะ ว่าถูกปากหรือเปล่า?”เสียงใสกล่าวกับสามีขณะที่พาเขาไปยังโต๊ะอาหารแม้จะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยไปบ้างเพราะต้องออกแรงมาก รถเข็นในยุคนี้ไม่ได้สะดวกหรือเข็นเองได้เหมือนยุคที่เธอจากมา การเคลื่อนย้ายจึงต้องออกแรงมากหน่อย แต่ก็ไม่ได้ปริปากบ่นเพราะเธอเต็มใจ สำหรับสาวสองที่ตายมาแล้วชาติหนึ่ง การได้อยู่ร่วมบ้าน ได้ดูแลคนรักเช่นนี้เป็นสิ่งที่เธอเต็มใจทำ

    Last Updated : 2025-01-11
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 12 สามีภรรยาปรับความเข้าใจ

    “เชื่อสิครับ ก็คุณคือภรรยาคนเดียวของผม”และตอนนี้ชีวิตชายพิการเช่นเขาก็มีเพียงเธอเท่านั้น ซ้ำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเย็นยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของภรรยาที่มีต่อเขาอย่างชัดเจนแม้เธอไม่เคยพูดออกมาว่ารักสามีอย่างเขาหรือไม่ แต่ไหล่เล็กที่พยายามปกป้องเขาในตอนนั้น รวมถึงท่าทีเอาเรื่องกับคนคิดร้ายต่อสามีของเธอก็ทำให้เขารู้สึกโชคดีที่มีภรรยาเช่นจางซิ่วอิง“แล้วเคยคิดจะหย่ากับภรรยาขี้โรคแบบฉันหรือเปล่าคะ?”เธอถามออกไปตามตรง ในขณะที่มือยังคงแกะผ้าพันแผลของเขาออกอย่างตั้งใจหยางซีห่าวอายุเพียงยี่สิบปี หากเขาสามารถรักษาแผลที่ขาหายและเดินได้ปกติ เมื่อกลับเข้ากรมอนาคตของเขาคงไปได้อีกไกล และสามารถเลือกผู้หญิงมาอยู่เคียงข้างที่ดีกว่าหญิงสาวหน้าตาขลาดเขลา แถมยังดูอมโรคแบบเธอได้“ไม่เคย! และไม่มีวันนั้นเด็ดขาด”หยางซีห่าวปฎิเสธขึ้นในทันทีโดยไม่ต้องคิด แม้จะแต่งงานกันโดยไร้รัก แต่เขาก็ไม่เคยคิดเห

    Last Updated : 2025-01-12

Latest chapter

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 65 ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ (จบ)

    ภายในบ้านหลังสีขาวขนาดกลางในย่านการค้าสำคัญ เสียงหัวเราะพูดคุยของคนที่อาศัยอยู่ในบ้าน ช่วยทำให้บรรยาของบ้านหลังนี้ดูอบอุ่นไม่น้อยในช่วงเช้าอากาศสดใสจางซิ่วยืนมองหน้าท้องที่เริ่มนูนเล็กน้อยของตนเองผ่านกระจกเงาบานใหญ่ ใบหน้าเอิบอิ่มของคุณแม่ยังสาวนับวันยิ่งสวยขึ้นจนผิดหูผิดตาตอนนี้เธอตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว หลังจากที่เจ้าสองแสบเข้าโรงเรียนได้ไม่นาน สามีอย่างหยางซีห่าวที่ขยันบอกรักภรรยาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ขยันมากขึ้นอีกหลายเท่า จนผ่านไปสองเดือนเจ้าหัวผักกาดหัวที่สามก็ถือกำเนิดขึ้นมาในท้องของเธอในที่สุด“ผมต้องไปแล้วครับ คุณก็อย่าหักโหมนะครับ ผมเป็นห่วง”ชายหนุ่มเอ่ยเตือนภรรยาประโยคเดิมเช่นทุกวัน น้ำเสียงนุ่มทุ้มฟังดูอบอุ่น ทั้งแววตาที่มองภรรยานั้นอ่อนโยนกว่าตอนที่อยู่ต่อหน้าผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นไหน ๆเพราะภรรยาของเขานั้นขึ้นชื่อเรื่องความขยันขันแข็ง ในแต่ละวันเธอทั้งทำงานนอกบ้าน ทำอาหาร เลี้ยงลูก

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 64 สะสางความแค้น

    จางซิ่วอิงยังต้องอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งก็ทำให้ลูกน้อยทั้งสองต้องอยู่กับเธอด้วย หยางซีห่าวก็เช่นกัน เขาทำเรื่องลางานถึงหนึ่งเดือนเพื่อมาดูแลภรรยาและลูกน้อยทั้งสองด้วยตนเอง“เด็ก ๆ ป้ามาแล้ววววว!!”เยว่ผิงอันส่งเสียงเรียกหลานทั้งสองก่อนที่ตัวเองจะเข้ามาในห้องเสียอีก เธอเข้ามาเยี่ยมหลาน ๆ พร้อมกับสามีที่ถือของพะรุงพะรังตามหลังมาจางซิ่วอิงยิ้มให้กับคนเห่อหลานทั้งสองเล็กน้อย ก่อนจะให้สามีรับข้าวของเหล่านั้นและนำไปเก็บไว้ก่อน“ผมฝากดูแลเธอและเด็ก ๆ ด้วยนะครับ แล้วผมจะรีบกลับมา”หยางซีห่าวพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล วันนี้เขากับพี่ภรรยามีธุระที่ต้องไปสะสางจึงต้องฝากเธอกับลูกไว้กับพี่สะไภ้เสียก่อนจางซิ่วอิงยังไม่หายดีนัก ส่วนลูกทั้งสองแม้จะเป็นเด็กเลี้ยงง่ายแต่การมีคนคอยช่วยเหลือย่อมดีกว่า เขาไม่อยากให้ภรรยาเหนื่อยจนเกินไป“ไปจัดการ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 63 พรข้อสุดท้าย

    สายลมวูบหนึ่งพัดผ่านร่างโปร่งแสงไปอย่างแรงจนผมยาวพลิ้วไสวไปตามแรงลม จางซิ่วอิงเผยรอยยิ้มยินดีออกมาในทันที เธอเข้าใจว่าคุณยายรับรู้ความปรารถนาของเธอแล้วจึงเอ่ยพรข้อที่สามออกไป“พรข้อสุดท้ายฉันขอให้ฉันและลูก ๆ ปลอดภัยค่ะ ขอโอกาสให้ฉันได้คลอดพวกเขา ให้พวกเขาได้ออกมาใช้ชีวิตบนโลกอย่างปลอดภัยด้วยนะคะ”คำอ้อนวอนปนเสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวลอยหายไปตามสายลม ก่อนจะได้รับรู้ได้ถึงลมอีกระลอกหนึ่งพัดผ่านร่างของเธอไปอย่างรวดเร็ว สายลมแรงนี้ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกหนาวเหน็บ แต่ทว่ากลับทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบรอบตัวเธอเอาไว้ต่างหาก“พรของหล่อนถูกใช้หมดแล้วนะ ต่อจากนี้ยายขอให้หล่อนมีชีวิตที่ดี”เสียงของหญิงชราดังแว่วอยู่ไกล ๆ จางซิ่วอิงพยายามมองหาเจ้าของเสียงแต่ก็ไม่พบ ทว่าเมื่อมองไปยังหน้าห้องคลอดที่มีร่างของเธอนอนนิ่งอยู่ กลับเห็นเด็กชายหญิงหน้าตาน่ารักยืนยิ้มแฉ่งให้เธออยู่

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 62 คลอดฉุกเฉิน

    ซ่งเฟยหลงประกาศกร้าวพร้อมยกปืนขึ้นเล็งไปยังผู้ก่อเหตุทั้งหมด อันธพาลสี่คนที่ถูกจ้างมาให้คอยช่วยเหลือหวงไฉ่หง เมื่อเห็นชายในชุดเครื่องแบบทหารพร้อมปืนก็หวาดกลัวจนต้องยกมือขึ้นเหนือหัว ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นตามคำสั่ง แม้แต่หวงไฉ่หงเองที่เป็นเพียงชาวบ้านชนบทมีหรือจะกล้าขัดขืนพันโทซ่งเฟยหลงย้ายมาประจำการที่นี่ในวันนี้ซึ่งเขาไปรายงานตัววันแรก พอเรียบร้อยแล้วก็เจอเข้ากับลูกน้องเก่าอย่างหยางซีห่าวกำลังออกจากค่ายพอดี เขาจึงขอติดรถออกมาด้วยเพื่อหาบ้านพักชั่วคราว ระหว่างรอทำเรื่องขอบ้านพักสวัสดิการ ซึ่งหยางซีห่าวก็รับปากว่าจะพาไปดูบ้านพัก แต่ขอไปรับภรรยาที่กำลังท้องแก่เสียก่อน แต่เมื่อรถเข้ามาจอดภาพเหตุการณ์อุกฉกรรจ์นี้ก็ทำให้เขาต้องเร่งฝีเท้าวิ่งมาจากรถที่จอดอยู่อีกด้านทว่าจากที่ซ่งเฟยหลงคิดว่าเป็นเหตุการณ์ของชาวบ้านธรรมดาทั่วไปคงไม่ใช่แล้ว เพราะลูกน้องอย่างหยางซีห่าวรีบวิ่งไปประคองหญิงท้องแก่ พร้อมตะโกนเรียกชื่อภรรยาดังลั่น“ซิ่วอิง ภรรยา!”

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 61 เรื่องราววิ่งเข้าหา

    กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรจางซิ่วอิงก็อุ้มท้องเจ้าหัวผักกาดมาได้จนถึงแปดเดือนแล้ว เพราะขนาดท้องที่ใหญ่กว่าปกติของคุณแม่ลูกแฝดทำให้การเดินเหินค่อนข้างเป็นไปอย่างยากลำบากโดยปกติแล้วการมาทำงานของจางซิ่วอิงจะต้องมีพี่ชายหรือสามีอยู่ด้วยเพื่อคอยระมัดระวังหากเกิดเหตุไม่คาดคิด แต่ทว่าเมื่อวานโรงงานผลไม้กระป๋องของเธอที่อยู่ต่างเมืองมีปัญหาพี่ชายอย่างจ้าวคุนจึงรับอาสาไปดูแทนส่วนสามีนั้นติดภารกิจตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอันที่จริงเขาทำภารกิจนี้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวาน แต่ต้องอยู่ต่ออีกนิดเพื่อทำเรื่องลาหยุดงานมาดูแลเธอจนกระทั่งคลอด ซึ่งคนเป็นภรรยาเองก็เข้าใจและไม่ได้เร่งรัดอะไรจากคนเป็นสามี เพราะอย่างไรวันนี้เธอก็ตั้งใจจะมาทำงานวันสุดท้ายอยู่แล้ว ท้องเธอโตมากและใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว การเดินทางไปทำงานคงไม่สะดวกนัก หลังจากนี้จึงตั้งใจว่าจะให้พี่สะไภ้เอางานส่วนของเธอมาให้ที่บ้านแทนจางซิ่วอิงเดินไปยังลานจอดรถโดยมีพี่สะไภ้คอยประคองอย

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 60 เจ้าหัวผักกาดมาแล้ว

    “ฉุนเหรอคะ?” คำพูดของเจ้านายสาวทำเอาแม่บ้านซุนคิดหนัก หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นปม พยายามนึกถึงอาหารแต่ล่ะจานว่าเธอทำผิดพลาดที่ตรงไหนกัน มีส่วนผสมอะไรที่ผิดแปลกหรือพิศดารจึงได้ทำให้เจ้านายอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุงเช่นนี้“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้ว่าอาหารของป้าซุนไม่ดี แต่ว่าฉันได้กลิ่นแล้วรู้สึกเวียนหัวมากจริง ๆ”หญิงสาวกล่าวขอโทษแม่บ้านทั้งน้ำตาคลอหน่วย เธอเห็นแก่ความทุ่มเทของป้าซุนที่พยายามรังสรรอาหารหลากหลายอย่างเพื่อเอาใจเธอ แต่กลิ่นแบบนั้นเธอไม่สามารถทนได้จริง ๆแม่บ้านวัยกลางคนได้รับคำยืนยันเช่นนั้นก็คิดหนัก แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เห็นทีฝีมือการทำอาหารของเธอคงตกเสียแล้ว พลันวิ่งเข้าไปเตรียมยาดมและยาหอมมาให้กับเจ้านายเพื่อบรรเทาอาการเยว่ผิงอันที่ยืนอยู่ข้างกันกับคู่หมั้นหนุ่มพอฟังอยู่ไม่ไกลนั้นรู้สึกแปลกใจกับน้องสาวขึ้นมาในทันที อาหารบนโต๊ะนั้นแน่นอนว่าล้วนเป็นอาหารอย่างดี ถูกรังสรรขึ้นมาจนหน

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 59 ก่อนวันรวมญาติ

    เพียงชั่วพริบตาเวลาก็เวียนผ่านมาราวสามเดือนแล้ว ตอนนี้จางซิ่วอิงค่อนข้างสนุกกับการใช้ชีวิตไม่น้อย ในวันที่สามีไม่มีภารกิจยามเช้าเธอก็จะตื่นมาในอ้อมกอดของสามี ทานมื้อเช้าร่วมกัน ออกไปทำงานพร้อมกัน ช่วงเย็นก็กลับมาเจอกันที่บ้าน ทานอาหารแล้วเข้านอนพร้อมกันตามประสาคนรักนับว่าชีวิตของเธอในชาตินี้ค่อนข้างลงตัว เธอมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตครอบครัวที่ดี มีหน้าที่การงานมั่นคง แถมยังร่ำรวยมากอีกด้วย แต่ความรู้สึกของเธอกลับรู้สึกขาดบางสิ่งไป นั่นคือเจ้าหัวผักกาดที่เธอกับสามีตั้งตารออยู่ตลอด“คิดอะไรอยู่ครับ”เขาเห็นภรรยายืนเหม่ออยู่หน้ากระจกได้สักพักแล้ว ก่อนใบหน้างามจะค่อย ๆ หม่นหมองลงราวกับมีเรื่องไม่สบายใจ เขาจึงเดินเข้ามาโอบกอดเธอไว้แล้วถามออกมาด้วยความเป็นห่วง“ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วค่ะ ว่าฉันยังจะมีลูกให้คุณได้จริง ๆ”จางซิ่วอิงตอบสามีอย่างเป็นกังวล แม้เขาจะพูดมาตลอดว่าไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่หลายครั้งเธอแอบเห็นสายตาของเขาเวลามองเด็กเล

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 58 เธอคือพี่สะไภ้ของน้อง

    เช้าวันต่อมาจ้าวคุนขับรถมารอรับคุณหนูเยว่ไปทำงานอย่างที่ได้พูดเอาไว้ และทันทีที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เยว่ผิงอันก็ออกมาจากบ้านทันทีชายหนุ่มออกมายืนรอด้านข้างรถ ก่อนจะเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่ง จากนั้นจึงกลับไปนั่งประจำที่คนขับรถ ตลอดทางไปยังห้างสรรพสินค้าจ้าวคุนไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมาสักประโยค เขาเพียงแต่นั่งรออยู่เงียบ ๆ เท่านั้นแต่หารู้ไม่ว่าการที่เขาไม่พูดอะไรออกมาเลยมันกำลังทำให้หญิงสาวที่นั่งมาด้วยรู้สึกอึดอัดจนแผ่นหลังนั้นหลั่งเหงื่อออกมาเป็นจำนวนมากผ่านไปราวยี่สิบนาทีรถยนต์คันหรูก็เข้าจอดยังตำแหน่งที่เตรียมไว้สำหรับผู้บริหาร ก่อนชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายหันมาสบตากับหญิงสาวที่เขานั่งรอคำตอบมาตลอดทาง “คำตอบคืออะไรครับ?”เยว่ผิงอันลังเลเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เกรงกลัวหากจะถามออกไป“ฉันขอถามได้ไหมคะ?” เสียงใสพูดจบก็เหลือบมองใบหน้าของคุณชายจ้าวเล็กน้อย เมื่

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 57 คุณควรรับผิดชอบผม

    จ้าวคุนที่ไปคุยธุระด้านนอกตั้งแต่เช้าเมื่อกลับมาในสำนักงานชั้นบนของห้างสรรพสินค้าก็ได้ยินเรื่องที่พนักงานกำลังพูดถึงกันอย่างออกรส ไม่รอช้าความร้อนใจทำให้เขาเร่งฝีเท้าลงมาหาน้องสาวยังร้านอ้ายเหม่ยในทันทีร่างหนาในชุดสูทเรียบหรูสีกรมท่าผลักประตูห้องทำงานน้องสาวเข้าไปด้วยความเป็นห่วง ทว่าภาพที่เขาเห็นกลับเป็นน้องสาวที่กำลังนั่งทำงานอย่างขมักเขม้นโดยมีน้องเขยที่ไม่รู้กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่นั่งเฝ้าอยู่บรรยากาศเงียบสงบภายในห้องทำงานทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจ“เป็นอย่างไรบ้าง?”เสียงทุ้มปนหอบเหนื่อยถามออกไป ก่อนจะทรุดกายนั่งข้างน้องเขย หยางซีห่าวเห็นพี่ภรรยาก็รีบลุกขึ้นทักทายในทันที แต่จ้าวคุนไม่ได้สนใจเรื่องมารยาทในตอนนี้เท่าใดนัก นัยน์ตาคมเพ่งสำรวจไปยังร่างกายน้องสาวเพียงคนเดียวไม่วางตา“สบายมากค่ะ”จางซิ่วอิงเพียงตอบออกไปด้วยน้ำเสียงปกติ ไหล่สองข้างยกขึ้นเพียงเล็กน้อย ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มกว้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status