Share

ตอนที่ 4 ทำการค้าครั้งแรก

last update Last Updated: 2025-01-04 21:00:22

จางซิ่วอิงมารอขึ้นเกวียนก่อนเวลาราวสิบห้านาที ระหว่างนั้นเธอยืนรอเวลาอยู่เพียงเงียบ ๆ สายตารอบข้างที่มองมาราวกับพบเจอสิ่งแปลกประหลาด เสียงตินนินทาลอยแว่วมาตามลมเป็นระยะ หญิงสาวเพียงรับรู้ทว่าไม่ได้ให้ความสนใจเอาความแม้แต่น้อย

จากความทรงจำเดิม เจ้าของร่างมักจะถูกมองและนินทาซึ่งหน้าแบบนี้อยู่เป็นประจำ เธออ่อนแอเกินกว่าจะตอบโต้คนเหล่านั้น ในที่สุดจึงทำได้แค่เพียงเดินก้มหน้าอย่างยอมรับชะตากรรมเท่านั้น ต่างจากเธอคนนี้ที่เป็นวิญญาณจากยุคอนาคต แม้จะไม่ได้โต้ตอบแต่ก็ไม่ยอมจำนนอย่างที่แล้วมา

พลันดวงตาคู่เรียวตวัดมองเจ้าของเสียงนินทาเหล่านั้นอย่างไม่ยินยอม ก่อนจะเดินเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางมั่นใจ ไม่ต่างจากคุณหนูตระกูลใหญ่ในเมือง

หลังจากรอจนได้เวลา เกวียนสภาพกลางเก่ากลางใหม่ก็เคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายปลายทางทันที เธอสังเกตเห็นว่าเพื่อนร่วมทางมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับเธอในความทรงจำเดิมคนเหล่านี้นั้นไม่ได้น่าคบหาสักเท่าไหร่

“นี่ยายเฒ่าฟางแกจะเข้าไปซื้ออะไรล่ะวันนี้ เมื่อวานแกก็ไปไม่ใช่หรือ?”เสียงเว่ยซื่อเอ่ยถามสหายที่รู้จักซึ่งมาจากหมู่บ้านเดียวกัน ทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่สมัยสาว ๆ แม้ไม่ได้สนิทสนมกันนัก แต่ถึงอย่างไรคำตอบของสหายก็ไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับหล่อนอยู่แล้ว เพราะจุดประสงค์ของหล่อนคือหญิงสาวที่นั่งถัดยายเฒ่าฟางต่างหากล่ะ

“ฉันก็ไปซื้อเนื้อมาบำรุงลูกสะไภ้ฉันนะสิ นี่นะ! เมื่อวันก่อนหล่อนพึ่งคลอดหลานชายคนแรกของตระกูลออกมา หน้าตาน่าชัง ตัวนี่อวบขาวเชียวล่ะ”

ฟางซื่อที่อยากประกาศความดีใจที่มีอย่างท่วมท้นอยู่เป็นทุนเดิม เมื่อมีคนถามจึงไม่อาจกักเก็บคำพูดเหล่านี้ไว้ได้อีก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของหญิงชราที่ทำงานในแปลงนามาทั้งชีวิตยิ้มกว้างจนปากแทบฉีกถึงรูหู

จางซิ่วอิงที่นั่งฟังอยู่เงียบ ๆ เหมือนคนอื่นก็ไม่ได้คิดอะไร หากว่าน้ำเสียงนั้นไม่ดังจนกระทบเข้ามาในโสตประสาท พร้อมกับสายตาที่แฝงความหมายบางอย่างชำเลืองมองเธออยู่ตลอดเวลาสนทนา

“ดีจริง ๆ สะไภ้บ้านแกแต่งได้ปีกว่าก็คลอดหลานชายตัวอวบอ้วนออกมาแล้ว เหมือนสะไภ้บางบ้าน…”หญิงชราร่างใหญ่กล่าวปากยื่นปากยาว ระหว่างที่พูดไม่ลืมทิ้งสายตาไว้ที่สะไภ้คนเล็กของบ้านหยาง

เดิมทีเว่ยซื่อไม่ได้มีปัญหากับจางซิ่วอิงแม้แต่น้อย แต่ด้วยนิสัยที่ชอบติฉินนินทาคนอื่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเห็นคนที่มีจุดด่างพร้อยหรือด้อยกว่าเข้าหน่อยก็อดที่จะเหยียบย่ำด้วยคำพูดไม่ได้

จางซิ่วอิงเมื่อได้ฟังบทสนทนาของหญิงชราคู่นี้คุยกันก็เข้าใจได้ทันทีว่าตนกำลังถูกเหน็บแนมในระยะเผาขนอยู่ ทว่าในยุคนี้ไม่เหมือนยุคที่เธอจากมา ชื่อเสียงของหญิงสาวเป็นสิ่งสำคัญ แต่ในใจของเธอนั้นแอบลอบจำหน้ายายแก่สองคนนี้เอาไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว

ระหว่างเดินทางยังคงมีประโยคเสียดสีมากมายจากยายแก่สองคนนี้ให้เธอได้ยินอยู่เนือง ๆ จางซิ่วอิงทำเพียงแค่ทอดสายตามองไปยังข้างทาง ชื่นชมธรรมชาติอันแสนแร้งแค้นในยุคที่ไม่คุ้นเคย และไม่ได้ให้ความสนใจกับเสียงนกเสียงกาเหล่านี้มากนัก

ใช้เวลาเพียงสามสิบนาทีเกวียนก็พาเธอมาจนถึงอำเภอ จางซิ่วอิงจ่ายค่าโดยสารเสร็จเรียบร้อยจึงเดินออกมาจากจุดนั้นทันที

ร่างบางเดินสำรวจตามท้องถนนมาเรื่อย ๆ ซึ่งที่นี่มีโรงเรียนประจำอำเภอขนาดใหญ่ โรงงานยาสูบที่พ่อเธอทำงานอยู่และโรงงานทอผ้า ซึ่งช่วงเช้าและช่วงเย็นที่พนักงานเลิกงานคนค่อนข้างพลุกพล่าน ตอนที่เธอมาถึงที่นี่ยังเป็นช่วงบ่ายซึ่งอีกเกือบสามชั่วโมงกว่าที่คนงานจะเลิกงาน

จางซิ่วอิงเลือกเดินสำรวจร้านรวงต่าง ๆ  รอบบริเวณ เธอสังเกตเห็นแผงลอยที่ขายอาหารเป็นส่วนใหญ่ที่มีเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น ร้านขายข้าวสารอาหารแห้งร้านใหญ่ที่มีลูกค้าเข้าออกตลอดไม่ขาดสาย ร้านเสื้อผ้าสองร้านตั้งอยู่คนละฝั่งมุมถนนก็ไม่ได้มีแบบให้เลือกมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าสีพื้นเรียบ ๆ เน้นไปทางสีเขียวเข้ม และสีกรมท่า

เมื่อเดินสำรวจอยู่สักพักเธอยังคิดไม่ออกว่าจะทำอาชีพอะไรในยุคนี้ดี พลันนึกขึ้นมาได้จากความทรงจำว่าที่นี่มีสถานที่หนึ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้า ซึ่งเรียกว่า “ตลาดมืด” และในยุคนี้ก็ไม่ได้มีทางการควบคุมเข้มงวดอย่างเช่นหลายปีที่ผ่านมา หญิงสาวจึงพาตัวเองไปที่แห่งนั้นทันที

เพียงเวลาไม่นานจางซิ่วอิงเดินมาหยุดอยู่ที่ที่เรียกว่า ตลาดมืด โดยใช้ความทรงจำที่ติดตัวมา ดวงตาคู่เรียวสอดส่ายไปทั่วพลางลอบสำรวจวิถีชีวิตของคนในยุคนี้ เท่าที่เธอเข้าใจปีนี้ทางการได้ลดบทบาทหน้าที่ของคูปองต่าง ๆ ลงบ้างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นทรัพยาการที่มีอย่างจำกัดก็ไม่ได้เพียงพอต่อความต้องการขนาดนั้น เนื้อสัตว์ยังเป็นสิ่งขาดแคลน รวมถึงอาหารอย่างอื่นด้วยเช่นกัน ยิ่งใกล้เข้าฤดูหนาวอาหารยิ่งเป็นที่ต้องการ

ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มพร้อมประกายวาววับในดวงตา เมื่อนึกถึงหนทางหาเงินต่อจากนี้ขึ้นมาได้แล้ว

มือเรียวกระชับกระเป๋าผ้าข้างกายที่พกติดตัวไว้แน่น จากนั้นจึงพาตัวเองเดินเข้าไปสำรวจภายในสถานที่แห่งนี้ทันที การซื้อขายเป็นไปอย่างเงียบเชียบ ไม่ได้เอิกเกริกแต่อย่างใด โดยตลอดทางที่ผ่านมาจะมีทั้งแบบยืนเร่ขายและวางแผงขาย ดูแล้วเจ้าของตลาดมืดคงมีเส้นสายพอสมควรเลยล่ะ

ดวงตาคู่สวยสอดส่องไปทั่วทุกมุมที่ตนเองเดินผ่าน ก่อนจะไปสะดุดกับแผงขายของขนาดเล็กที่มีเนื้อวางอยู่หนึ่งชิ้น มีพ่อค้าที่ยืนทำสีหน้าลำบากใจ และตรงข้ามมีหญิงวัยกลางคนกับชายหนุ่มอายุราวยี่สิบปลาย ๆ กำลังพูดคุยกันด้วยบรรยากาศตึงเครียด

หลังจากนั้นไม่นานชายหนุ่มเป็นผู้หยิบเนื้อชิ้นนั้นขึ้นมาจ่ายเงินแล้วเดินจากไปในทันที ส่วนหญิงวัยกลางคนเมื่อไม่ได้เนื้อที่ต้องการก็เดินหันหลังไหล่ตกออกมาจากแผงขายเช่นกัน

เห็นดังนั้นจางซิ่วอิงรู้สึกได้ถึงโอกาสอันพอเหมาะพอดี ไม่รอช้าหญิงสาวรีบเดินตรงไปหาหญิงวัยกลางคนนั้นทันที

“สวัสดีค่ะคุณป้า มีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่าคะ?”หญิงสาวถามออกไปด้วยท่าทีเป็นมิตร ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มเบาบางอยู่ตลอด

“เธอเป็นแม่ค้าหรือเปล่า? พอดีฉันอยากได้เนื้อ แต่วันนี้ฉันมาช้าเลยไม่ทันแผงขายเนื้อ ไม่รู้วันนี้จะมีแผงอื่นมาขายอีกหรือเปล่า”ความกังวลฉายชัดอยู่ในน้ำเสียงของหญิงชรา

วันนี้ลูกสาวของเธอกับสามีจะมาเยี่ยมบ้านหลังจากแต่งออกไปเกือบครึ่งเดือนแล้ว หากที่บ้านไม่มีอาหารจานเนื้อสักจาน เกรงว่าจะทำลูกสาวขายหน้าเอาได้ ซึ่งโดยปกติที่บ้านจะทำอาหารจานเนื้อหนึ่งจานขึ้นโต๊ะอยู่แล้ว ทว่าวันนี้เนื้อที่ซื้อไว้หมดเกลี้ยง อีกทั้งที่ร้านยังมีลูกค้าเข้ามาเนืองแน่นตั้งแต่เช้า กว่าจะปลีกตัวออกมาได้ก็เลยเวลาไปมากแล้ว

“หนูพอจะหาให้คุณป้าได้นะคะ ว่าแต่คุณป้าต้องการเนื้อส่วนไหน เท่าไหร่บ้างเหรอคะ?”จางซิ่วอิงถามขึ้นอย่างตื่นเต้น นี่คือโอกาสทำการค้าครั้งแรกของเธอในโลกนี้ เธอไม่ปล่อยให้โอกาสนี้สูญเปล่ารีบถามความต้องการของลูกค้ารายแรกในทันที

พอได้ยินว่าหญิงสาวรุ่นลูกสามารถหาเนื้อให้เธอได้ ใบหน้าที่เริ่มมีริ้วรอยจึงคลายความกังวลลงได้หลายส่วน จากนั้นไม่ลืมที่จะถามหาของอย่างอื่นจากเธออีกด้วย “นอกจากเนื้อเธอมีอย่างอื่นขายอีกหรือเปล่าล่ะ?”

“ก็มีหลายอย่างค่ะคุณป้า พอดีว่าสามีของฉันพอจะมีเส้นสายอยู่บ้างน่ะค่ะ” จางซิ่วอิงรีบตอบรับด้วยความดีใจ ใบหน้าสวยยิ้งกว้างจนตาแทบปิด

“อย่างนั้นฉันเอาตามรายการนี้ เธอพอจะหาได้หรือไม่ล่ะ?”

มือเรียวรับกระดาษใบเล็กที่มีรายการสินค้านับสิบอย่างมาอ่านเพียงครู่เดียว ก่อนจะตอบรับไป “อ่า ได้ค่ะ แต่ต้องใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมง ไม่ทราบว่าคุณป้าจะไปเดินดูอย่างอื่นก่อน หรือจะรออยู่ที่นี่ก่อนก็ได้นะคะ”

จากรายการที่เธอถืออยู่ในมือ คร่าว ๆ จะมีขาหมูห้าขา เนื้ออย่างดีราวแปดชั่ง เครื่องเทศและผักสดอีกหลายรายการ

จางซิ่วอิงไม่ได้มีปัญหากับรายการสินค้าแต่อย่างใด เพราะในมิติของเธอมีของพวกนี้เพียงพออยู่แล้ว แถมยังเป็นวัตถุดิบอย่างดีอีกต่างหาก แต่ทว่าจะให้ควักออกมามากมายขนาดนี้ในชั่วพริบตาก็เกรงว่าคุณป้าจะตกใจเอาได้

“อย่างนั้นเธอเอาไปส่งฉันที่ร้านขายของแห้งที่มุมถนนฝั่งนู้นก็แล้วกัน ส่วนเรื่องราคาเธอจะคิดอย่างไร?”เรื่องราคาเป็นสิ่งสำคัญมากที่แม่ค้าอย่างเธอต้องตกลงให้ชัดเจนทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน

จางซิ่วอิงหยุดคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“เรื่องราคาหนูคิดตามที่คุณป้าเคยซื้อก่อนหน้านี้เลยค่ะ แล้วอีกครึ่งชั่วโมงหนูเอาไปส่งคุณป้าที่ร้านนะคะ”

ถึงอย่างไรสินค้าทุกรายการก็ไม่ได้มีต้นทุนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะขายราคาไหนเธอก็ไม่มีวันขาดทุนอย่างแน่นอน

“ได้ ฉันชื่อหลี่ฟางอิง เป็นเจ้าของร้านนั้น”

“ค่ะ หนูชื่อจางซิ่วอิงนะคะ”หญิงสาวกล่าวแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะแยกตัวจากคุณป้าฟางอิงหลังจากนั้น

เธอเดินตรงไปยังมุมตึกที่ค่อนข้างไร้ผู้คน ก่อนจะเลี้ยวขวาไปยังซอกตึกที่ลับตาคนมากพอที่จะหยิบของหายรายการออกมาตามคำสั่งซื้อ

ไม่นานจางซิ่วอิงพร้อมสินค้าพะรุงพะรังก็มาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายอาหารแห้งตระกูลเฉิง ภายในร้านมีสินค้าข้าวสาร และอาหารแห้งให้เลือกสรรละลานตา ลูกค้าเดินเข้าออกกันขวักไขว่ไม่ขาดสาย ดูแล้วกิจการคงรุ่งเรืองมากทีเดียว เห็นอย่างนั้นหญิงสาวยิ่งรู้สึกถึงไฟในกายกำลังลุกโชนขึ้นมา ในหัวสมองเริ่มวาดฝันถึงธุรกิจในอนาคตของครอบครัว

“อ้าว! เธอนี่เอง เข้ามาก่อนสิ!!”

Related chapters

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 5 ตั้งแผงขายในตลาดมืด

    เสียงเรียกของเถ้าแก่เนี๊ยของร้านช่วยฉุดรั้งเธอออกจากภาพฝันในอนาคต จางซิ่วอิงเดินเข้าไปหาลูกค้ารายแรกของเธอทันทีอย่างไม่ลังเล ก่อนจะวางสินค้าตามรายการสั่งซื้อลงบนโต๊ะตรงหน้าให้คุณป้าฟางอิงได้ตรวจสอบ“ดี ๆ ของดีทั้งนั้น นี่ค่าของนับดูก่อนสิ!”หลังจากตรวจนับของที่สั่งไปจนครบถ้วนแล้ว หญิงวัยกลางคนจึงกล่าวขึ้นอย่างพึงพอใจ ในมือนั้นถือขาหมูที่แพ็คมาอย่างดีดูสะอาดน่าทำอาหารมากกว่าหลายร้านที่ซื้อมาก่อนหน้าเป็นอย่างมาก พลันยื่นถุงเงินใบเล็กที่มีเงินอัดแน่นอยู่ในนั้นให้กับหญิงสาวตรงหน้าจางซิ่วอิงรับถุงเงินใบเล็กมา ก่อนจะโยนไว้ในกระเป๋าผ้าคู่กายอย่างไม่คิดมาก แล้วตอบคุณป้าไปด้วยรอยยิ้มใสซื่อ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าว่าเท่าไหร่ก็ตามนั้น”“เธอนี่นะ ไม่กลัวฉันโกงหรืออย่างไร?”แม้จะพูดไปอย่างนั้น แต่แววตาที่มองหญิงสาวคราวลูกก็อ่อนลงไม่น้อย พลันเกิดความรู้สึกเอ็นดูอยู่เล็ก ๆ หลังจากได้เห็นรอยยิ้มใสซื่อนั่นแม้จะไม่อยากเช

    Last Updated : 2025-01-05
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 6 พี่สาวเยว่

    หลังจากสินค้าถูกขายหมดเกลี้ยงแผงภายในเวลาอันรวดเร็ว จางซิ่วอิงจึงพับเก็บผ้าปูไว้ในกระเป๋าผ้าอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินดูสินค้าอื่นที่ขายอยู่ภายในตลาดมืดแห่งนี้สักเล็กน้อยแล้วเดินออกมาร่างบางเดินตรงไปยังร้านขายผ้าที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ เสื้อผ้าสำเร็จรูปรวมถึงผ้าม้วนมากมายวางเรียงรายละลานตาเต็มไปหมด“สวัสดีค่ะ ฉันมาดูชุดสำเร็จรูปสักสองชุด พอจะแนะนำให้ได้หรือไม่คะ?”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เปล่งออกไปไม่ดังไม่เบา ทั้งใบหน้าของหญิงสาวยังค่อนข้างเป็นมิตรไม่ต่างจากตอนขายของในตลาดมืด ไม่มีคำไหนที่เธอพูดไม่ดีกับพนักงานคนนี้ด้วยซ้ำ เธอมั่นใจแต่ทว่าคำตอบที่ได้รับจากพนักงานของร้านและท่าทางเหยียดหยามของพนักงานที่มีต่อเธอนั้นทำให้จางซิ่วอิงกรุ่นโกรธจนแทบพ่นไฟออกมาเผาหญิงร่างใหญ่ตรงหน้าให้มอดไหม้“นั่นน่ะ! ดูเอาสิ!!!”พนักงานร่างท้วมตอบค่อนข้างห้วน ขณะนิ้วเรียวชี้มั่ว ๆ ไปยังกองผ

    Last Updated : 2025-01-06
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 7 ทำสัญญาการค้า

    จางซิ่วอิงกลับมาถึงบ้านก็ใกล้เวลาอาหารเย็นเต็มที หญิงสาวเลยเลือกทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ได้จากในมิติมาต้มใส่ผักและเนื้อง่าย ๆ เพื่อเพิ่มสารอาหาร ก่อนจะทานจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาทีร่างบอบบางอาบน้ำชำระร่างกายด้วยด้วยของใช้ที่นำมาจากในมิติ ซึ่งทำให้ห้องน้ำนั้นหอมฟุ้งไม่ต่างจากกลิ่นกายก่อนนอนไม่ลืมตรวจตราความเรียบร้อยรอบบ้านเช่นเคย ก่อนจะนำเงินที่ขายสินค้าในวันนี้ออกมานับ ซึ่งจำนวนที่ได้ในวันนี้ก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจนัก อย่างนี้ความฝันเรื่องบ้านหลังใหม่คงอีกไม่ไกลแล้วในคืนนี้จึงเป็นอีกคืนที่สาวสองในร่างของจางซิ่วอิงหลับไปด้วยความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ แม้จะเหนื่อยยากลำบากไปสักหน่อยกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ด้วยหนึ่งสมองและสองมือนี้ลมหนาวจะทำให้ชีวิตของจางซิ่วอิงดีขึ้นให้ได้ ในหัวนั้นวาดฝันอนาคตไปพลาง กระทั่งปิดเปลือกตาลงมุมปากยังคงมีรอยยิ้มเบาบางเช้าวันต่อมาจางซิ่วอิงยังคงทำอาหารง่าย ๆ ทาน ก่อนจะออกจากบ้า

    Last Updated : 2025-01-07
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 8 วางแผนซื้อบ้าน

    จางซิ่วอิงเดินออกมาจากร้านขายผ้าด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ภายในกระเป๋าผ้ามีสัญญาการค้าที่พึ่งเซ็นไป โดยหลังจากนี้เธอจำต้องนำกิ๊บติดผมในมิติออกมารอไว้ทุกวัน เพื่อรวบรวมส่งให้กับพี่สาวเยว่ทุกเจ็ดวันระหว่างทางเดินไปขึ้นเกวียนหญิงสาวเดินผ่านสำนักงานขายที่ดินพอดีพอคำนวนเวลาที่เหลือแล้วคิดว่าพอมีเวลาอยู่นิดหน่อยกว่าเกวียนรอบหน้าจะออก จึงตัดสินใจเข้าไปติดต่อสอบถามเพื่อจะได้รู้ว่าหากต้องการบ้านดี ๆ สักหลังเธอจำต้องทำงานเก็บเงินอีกเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการซื้อที่ดิน บ้าน หรือร้านค้าคะ?”พนักงานสาวที่ยืนรอต้อนรับอยู่ประตูเอ่ยทักทันทีที่จางซิ่วอิงเดินเข้ามา โดยไม่ลืมสอบถามความต้องการของลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ฉันต้องการดูราคาบ้านพร้อมที่ดินค่ะ ขอสอบถามราคาก่อนได้ไหมคะ?”เธอตั้งใจบอกเจตนาของการมาในครั้งนี้ให้กับพนักงานได้ทราบต้งแต่เนิ่น ๆ เพราะวันนี้เธอยังไม่พร้อมจะซื้อจริง ๆ เพียงแค่ต้องการสอบถามราคาไว้ก่อนเพื่อประกอบการตัด

    Last Updated : 2025-01-08
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 1 เกิดใหม่ในร่างหญิงแท้

    “ผมตามหาคุณ แต่คุณกลับเดินหนีผมแบบนี้ ช่วยบอกผมหน่อยเถอะว่าระหว่างเรามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม นัยน์ตาคู่คมมองจ้องแฟนสาวนั้นฉายแววเจ็บปวดอย่างไม่ปิดบังหยางซีห่าวบินจากประเทศจีนอย่างเร่งด่วนเพื่อมาตามหาคนรักที่นับจากวันที่พาเธอไปพบกับครอบครัวเธอก็เปลี่ยนไปจนผิดสังเกต ครั้นเมื่อเธอบินกลับบ้านที่ประเทศไทยก็ขาดการติดต่อไปราวกับต้องการหลบหน้าเสียอย่างนั้น“ฉันขอบคุณนะคะสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ตลอดเวลาเกือบสองปีคุณดีกับฉันมากจริง ๆ”ลมหนาวแกะมือหนาที่กำลังจับรั้งข้อมือเธออยู่ให้ปล่อยออก ใบหน้าสวยหวานอาบย้อมไปด้วยหยาดน้ำตาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วแก้มขาวเธอจำต้องตัดสัมพันธ์ในครั้งนี้ทั้งที่ยังรัก เพราะเธอไม่อาจเห็นแก่ตัวครอบครองเขาได้อีกต่อไป หลังจากกลับมาจากประเทศจีนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาเธอก็ตระหนักรู้แล้วว่า สิ่งที่ฝ่ายญาติของแฟนหนุ่มต้องการเธอไม่อาจมอบให้เขาได้“ผมไม่เลิก คุณตอบผมมาส

    Last Updated : 2025-01-01
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 2 พรข้อที่สอง

    ระหว่างที่ลมหนาวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอนเก่าผุพัง ลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอในทีแรกเริ่มติดขัดรุนแรงขึ้นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นภายใต้ความฝันอันยาวนานเปลือกตาบางปิดแน่น คิ้วคู่งามขมวดเข้าหากัน เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายตามกรอบหน้ารูปไข่ ภาพในความฝันที่ยาวนานราวกับกำลังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของใครบางคนให้เธอได้รับรู้…ในความฝันลมหนาวเห็นวิถีชีวิตของเด็กสาวที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับแกะ แม้ในตอนเด็กเธอจะยังคงรูปลักษณ์ของเด็กชาย แต่ผิวพรรณและใบหน้าหวานที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีนั้นไม่ได้ทำให้เธอแตกต่างจากเด็กผู้หญิงมากนักภาพในฝันการแต่งกายย้อนยุคและสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นตา ราวกับว่านั่นเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตของตนเองอย่างไรอย่างนั้นหญิงสาวเฝ้ามองเหตุการณ์ต่าง ๆ ในความฝันอย่างตั้งใจ ภาพตรงหน้าฉายชัดเป็นฉาก ๆ ราวกับกำลังอยู่ในโรงภาพยนตร์ มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายถูกถ่ายทอดออกมา มันชัดเจนเสียจนเธออดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นตัวเธอเอง แต่จะเป็นไปได้อย่างไร ความรู้สึกนึกคิดในฝันนั้นขัดแย้งกันไปมาจนยุ่งเหยิงร่างบางกระสับกระส่ายอยู่นานในที่สุดเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ

    Last Updated : 2025-01-02
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 3 กล่องเหล็กใบน้อย

    จางซิ่วอิงง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อแรกของวัน เครื่องปรุงหลากหลายชนิดที่เธอสามารถหยิบใช้ได้เท่าที่ต้องการทำให้เธออารมณ์ดีที่ไม่ต้องทนกินอาหารรสชาติจืดชืดหลังจากนี้ริมฝีปากอิ่มปรากฏรอยยิ้มเบาบาง มือเรียวควงตะหลิวไปพลาง ปากก็ฮัมเพลงในยุคอนาคตไปพลาง เพียงไม่นานกลิ่นหอมฉุยของอาหารจานเนื้อหนึ่งจานและผัดผักก็อบอวลชวนให้น้ำย่อยในกระเพาะทำงานหลังจากมื้อเช้าจบลงด้วยความเอร็ดอร่อย หญิงสาวเก็บจานชามไปล้างทำความสะอาด ก่อนจะเริ่มเก็บกวาดบ้านเก่าหลังน้อยให้อยู่ในสภาพที่สบายตาและน่าอยู่โดยเริ่มจากห้องครัวที่เธอเดาไม่ออกจริง ๆ ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เก็บกวาดห้องนี้คือกี่ปีมาแล้วมือเล็กปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายตามกรอบหน้าครั้งหนึ่ง ก่อนจะมองห้องครัวที่ผ่านการเก็บกวาดจนเป็นระเบียบอย่างพึงพอใจ ตู้หลังน้อยที่เดิมมีเพียงแค่ไข่ไก่ฟองเดียวก็ถูกเติมจนเต็มโดยสินค้าจากห้างสรรพสินค้ายุค 2024 รวมถึงถังข้าวสาร แป้ง เครื่องปรุง และอุปกรณ์ทำครัวด้วยเช่นกันห้องนอนเป็นพื้นที่ต่อไปที่จะได้รับการเก็บกวาด จางซิ่วอิงรื้อเครื่องนอนเก่าทิ้งทั้งหมด ซึ่งจากที่สำรวจอย่างถี่ถ้วนแล้วมันเก่ามากจริง ๆ แถมผ้าห่มก็เบาบางจนตอนห่มนั้น

    Last Updated : 2025-01-02

Latest chapter

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 8 วางแผนซื้อบ้าน

    จางซิ่วอิงเดินออกมาจากร้านขายผ้าด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ภายในกระเป๋าผ้ามีสัญญาการค้าที่พึ่งเซ็นไป โดยหลังจากนี้เธอจำต้องนำกิ๊บติดผมในมิติออกมารอไว้ทุกวัน เพื่อรวบรวมส่งให้กับพี่สาวเยว่ทุกเจ็ดวันระหว่างทางเดินไปขึ้นเกวียนหญิงสาวเดินผ่านสำนักงานขายที่ดินพอดีพอคำนวนเวลาที่เหลือแล้วคิดว่าพอมีเวลาอยู่นิดหน่อยกว่าเกวียนรอบหน้าจะออก จึงตัดสินใจเข้าไปติดต่อสอบถามเพื่อจะได้รู้ว่าหากต้องการบ้านดี ๆ สักหลังเธอจำต้องทำงานเก็บเงินอีกเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการซื้อที่ดิน บ้าน หรือร้านค้าคะ?”พนักงานสาวที่ยืนรอต้อนรับอยู่ประตูเอ่ยทักทันทีที่จางซิ่วอิงเดินเข้ามา โดยไม่ลืมสอบถามความต้องการของลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ฉันต้องการดูราคาบ้านพร้อมที่ดินค่ะ ขอสอบถามราคาก่อนได้ไหมคะ?”เธอตั้งใจบอกเจตนาของการมาในครั้งนี้ให้กับพนักงานได้ทราบต้งแต่เนิ่น ๆ เพราะวันนี้เธอยังไม่พร้อมจะซื้อจริง ๆ เพียงแค่ต้องการสอบถามราคาไว้ก่อนเพื่อประกอบการตัด

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 7 ทำสัญญาการค้า

    จางซิ่วอิงกลับมาถึงบ้านก็ใกล้เวลาอาหารเย็นเต็มที หญิงสาวเลยเลือกทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ได้จากในมิติมาต้มใส่ผักและเนื้อง่าย ๆ เพื่อเพิ่มสารอาหาร ก่อนจะทานจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาทีร่างบอบบางอาบน้ำชำระร่างกายด้วยด้วยของใช้ที่นำมาจากในมิติ ซึ่งทำให้ห้องน้ำนั้นหอมฟุ้งไม่ต่างจากกลิ่นกายก่อนนอนไม่ลืมตรวจตราความเรียบร้อยรอบบ้านเช่นเคย ก่อนจะนำเงินที่ขายสินค้าในวันนี้ออกมานับ ซึ่งจำนวนที่ได้ในวันนี้ก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจนัก อย่างนี้ความฝันเรื่องบ้านหลังใหม่คงอีกไม่ไกลแล้วในคืนนี้จึงเป็นอีกคืนที่สาวสองในร่างของจางซิ่วอิงหลับไปด้วยความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ แม้จะเหนื่อยยากลำบากไปสักหน่อยกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ด้วยหนึ่งสมองและสองมือนี้ลมหนาวจะทำให้ชีวิตของจางซิ่วอิงดีขึ้นให้ได้ ในหัวนั้นวาดฝันอนาคตไปพลาง กระทั่งปิดเปลือกตาลงมุมปากยังคงมีรอยยิ้มเบาบางเช้าวันต่อมาจางซิ่วอิงยังคงทำอาหารง่าย ๆ ทาน ก่อนจะออกจากบ้า

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 6 พี่สาวเยว่

    หลังจากสินค้าถูกขายหมดเกลี้ยงแผงภายในเวลาอันรวดเร็ว จางซิ่วอิงจึงพับเก็บผ้าปูไว้ในกระเป๋าผ้าอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินดูสินค้าอื่นที่ขายอยู่ภายในตลาดมืดแห่งนี้สักเล็กน้อยแล้วเดินออกมาร่างบางเดินตรงไปยังร้านขายผ้าที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ เสื้อผ้าสำเร็จรูปรวมถึงผ้าม้วนมากมายวางเรียงรายละลานตาเต็มไปหมด“สวัสดีค่ะ ฉันมาดูชุดสำเร็จรูปสักสองชุด พอจะแนะนำให้ได้หรือไม่คะ?”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เปล่งออกไปไม่ดังไม่เบา ทั้งใบหน้าของหญิงสาวยังค่อนข้างเป็นมิตรไม่ต่างจากตอนขายของในตลาดมืด ไม่มีคำไหนที่เธอพูดไม่ดีกับพนักงานคนนี้ด้วยซ้ำ เธอมั่นใจแต่ทว่าคำตอบที่ได้รับจากพนักงานของร้านและท่าทางเหยียดหยามของพนักงานที่มีต่อเธอนั้นทำให้จางซิ่วอิงกรุ่นโกรธจนแทบพ่นไฟออกมาเผาหญิงร่างใหญ่ตรงหน้าให้มอดไหม้“นั่นน่ะ! ดูเอาสิ!!!”พนักงานร่างท้วมตอบค่อนข้างห้วน ขณะนิ้วเรียวชี้มั่ว ๆ ไปยังกองผ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 5 ตั้งแผงขายในตลาดมืด

    เสียงเรียกของเถ้าแก่เนี๊ยของร้านช่วยฉุดรั้งเธอออกจากภาพฝันในอนาคต จางซิ่วอิงเดินเข้าไปหาลูกค้ารายแรกของเธอทันทีอย่างไม่ลังเล ก่อนจะวางสินค้าตามรายการสั่งซื้อลงบนโต๊ะตรงหน้าให้คุณป้าฟางอิงได้ตรวจสอบ“ดี ๆ ของดีทั้งนั้น นี่ค่าของนับดูก่อนสิ!”หลังจากตรวจนับของที่สั่งไปจนครบถ้วนแล้ว หญิงวัยกลางคนจึงกล่าวขึ้นอย่างพึงพอใจ ในมือนั้นถือขาหมูที่แพ็คมาอย่างดีดูสะอาดน่าทำอาหารมากกว่าหลายร้านที่ซื้อมาก่อนหน้าเป็นอย่างมาก พลันยื่นถุงเงินใบเล็กที่มีเงินอัดแน่นอยู่ในนั้นให้กับหญิงสาวตรงหน้าจางซิ่วอิงรับถุงเงินใบเล็กมา ก่อนจะโยนไว้ในกระเป๋าผ้าคู่กายอย่างไม่คิดมาก แล้วตอบคุณป้าไปด้วยรอยยิ้มใสซื่อ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าว่าเท่าไหร่ก็ตามนั้น”“เธอนี่นะ ไม่กลัวฉันโกงหรืออย่างไร?”แม้จะพูดไปอย่างนั้น แต่แววตาที่มองหญิงสาวคราวลูกก็อ่อนลงไม่น้อย พลันเกิดความรู้สึกเอ็นดูอยู่เล็ก ๆ หลังจากได้เห็นรอยยิ้มใสซื่อนั่นแม้จะไม่อยากเช

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 4 ทำการค้าครั้งแรก

    จางซิ่วอิงมารอขึ้นเกวียนก่อนเวลาราวสิบห้านาที ระหว่างนั้นเธอยืนรอเวลาอยู่เพียงเงียบ ๆ สายตารอบข้างที่มองมาราวกับพบเจอสิ่งแปลกประหลาด เสียงตินนินทาลอยแว่วมาตามลมเป็นระยะ หญิงสาวเพียงรับรู้ทว่าไม่ได้ให้ความสนใจเอาความแม้แต่น้อยจากความทรงจำเดิม เจ้าของร่างมักจะถูกมองและนินทาซึ่งหน้าแบบนี้อยู่เป็นประจำ เธออ่อนแอเกินกว่าจะตอบโต้คนเหล่านั้น ในที่สุดจึงทำได้แค่เพียงเดินก้มหน้าอย่างยอมรับชะตากรรมเท่านั้น ต่างจากเธอคนนี้ที่เป็นวิญญาณจากยุคอนาคต แม้จะไม่ได้โต้ตอบแต่ก็ไม่ยอมจำนนอย่างที่แล้วมาพลันดวงตาคู่เรียวตวัดมองเจ้าของเสียงนินทาเหล่านั้นอย่างไม่ยินยอม ก่อนจะเดินเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางมั่นใจ ไม่ต่างจากคุณหนูตระกูลใหญ่ในเมืองหลังจากรอจนได้เวลา เกวียนสภาพกลางเก่ากลางใหม่ก็เคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายปลายทางทันที เธอสังเกตเห็นว่าเพื่อนร่วมทางมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับเธอในความทรงจำเดิมคนเหล่านี้นั้นไม่ได้น่าคบหาสักเท่

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 3 กล่องเหล็กใบน้อย

    จางซิ่วอิงง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อแรกของวัน เครื่องปรุงหลากหลายชนิดที่เธอสามารถหยิบใช้ได้เท่าที่ต้องการทำให้เธออารมณ์ดีที่ไม่ต้องทนกินอาหารรสชาติจืดชืดหลังจากนี้ริมฝีปากอิ่มปรากฏรอยยิ้มเบาบาง มือเรียวควงตะหลิวไปพลาง ปากก็ฮัมเพลงในยุคอนาคตไปพลาง เพียงไม่นานกลิ่นหอมฉุยของอาหารจานเนื้อหนึ่งจานและผัดผักก็อบอวลชวนให้น้ำย่อยในกระเพาะทำงานหลังจากมื้อเช้าจบลงด้วยความเอร็ดอร่อย หญิงสาวเก็บจานชามไปล้างทำความสะอาด ก่อนจะเริ่มเก็บกวาดบ้านเก่าหลังน้อยให้อยู่ในสภาพที่สบายตาและน่าอยู่โดยเริ่มจากห้องครัวที่เธอเดาไม่ออกจริง ๆ ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เก็บกวาดห้องนี้คือกี่ปีมาแล้วมือเล็กปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายตามกรอบหน้าครั้งหนึ่ง ก่อนจะมองห้องครัวที่ผ่านการเก็บกวาดจนเป็นระเบียบอย่างพึงพอใจ ตู้หลังน้อยที่เดิมมีเพียงแค่ไข่ไก่ฟองเดียวก็ถูกเติมจนเต็มโดยสินค้าจากห้างสรรพสินค้ายุค 2024 รวมถึงถังข้าวสาร แป้ง เครื่องปรุง และอุปกรณ์ทำครัวด้วยเช่นกันห้องนอนเป็นพื้นที่ต่อไปที่จะได้รับการเก็บกวาด จางซิ่วอิงรื้อเครื่องนอนเก่าทิ้งทั้งหมด ซึ่งจากที่สำรวจอย่างถี่ถ้วนแล้วมันเก่ามากจริง ๆ แถมผ้าห่มก็เบาบางจนตอนห่มนั้น

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 2 พรข้อที่สอง

    ระหว่างที่ลมหนาวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอนเก่าผุพัง ลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอในทีแรกเริ่มติดขัดรุนแรงขึ้นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นภายใต้ความฝันอันยาวนานเปลือกตาบางปิดแน่น คิ้วคู่งามขมวดเข้าหากัน เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายตามกรอบหน้ารูปไข่ ภาพในความฝันที่ยาวนานราวกับกำลังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของใครบางคนให้เธอได้รับรู้…ในความฝันลมหนาวเห็นวิถีชีวิตของเด็กสาวที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับแกะ แม้ในตอนเด็กเธอจะยังคงรูปลักษณ์ของเด็กชาย แต่ผิวพรรณและใบหน้าหวานที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีนั้นไม่ได้ทำให้เธอแตกต่างจากเด็กผู้หญิงมากนักภาพในฝันการแต่งกายย้อนยุคและสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นตา ราวกับว่านั่นเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตของตนเองอย่างไรอย่างนั้นหญิงสาวเฝ้ามองเหตุการณ์ต่าง ๆ ในความฝันอย่างตั้งใจ ภาพตรงหน้าฉายชัดเป็นฉาก ๆ ราวกับกำลังอยู่ในโรงภาพยนตร์ มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายถูกถ่ายทอดออกมา มันชัดเจนเสียจนเธออดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นตัวเธอเอง แต่จะเป็นไปได้อย่างไร ความรู้สึกนึกคิดในฝันนั้นขัดแย้งกันไปมาจนยุ่งเหยิงร่างบางกระสับกระส่ายอยู่นานในที่สุดเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 1 เกิดใหม่ในร่างหญิงแท้

    “ผมตามหาคุณ แต่คุณกลับเดินหนีผมแบบนี้ ช่วยบอกผมหน่อยเถอะว่าระหว่างเรามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม นัยน์ตาคู่คมมองจ้องแฟนสาวนั้นฉายแววเจ็บปวดอย่างไม่ปิดบังหยางซีห่าวบินจากประเทศจีนอย่างเร่งด่วนเพื่อมาตามหาคนรักที่นับจากวันที่พาเธอไปพบกับครอบครัวเธอก็เปลี่ยนไปจนผิดสังเกต ครั้นเมื่อเธอบินกลับบ้านที่ประเทศไทยก็ขาดการติดต่อไปราวกับต้องการหลบหน้าเสียอย่างนั้น“ฉันขอบคุณนะคะสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ตลอดเวลาเกือบสองปีคุณดีกับฉันมากจริง ๆ”ลมหนาวแกะมือหนาที่กำลังจับรั้งข้อมือเธออยู่ให้ปล่อยออก ใบหน้าสวยหวานอาบย้อมไปด้วยหยาดน้ำตาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วแก้มขาวเธอจำต้องตัดสัมพันธ์ในครั้งนี้ทั้งที่ยังรัก เพราะเธอไม่อาจเห็นแก่ตัวครอบครองเขาได้อีกต่อไป หลังจากกลับมาจากประเทศจีนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาเธอก็ตระหนักรู้แล้วว่า สิ่งที่ฝ่ายญาติของแฟนหนุ่มต้องการเธอไม่อาจมอบให้เขาได้“ผมไม่เลิก คุณตอบผมมาส

DMCA.com Protection Status