เมื่อเด็ก N ที่ถูกเรียกมาให้ดูแลเขา กลับกลายเป็นคนเดียวกันกับ ‘ลูกน้อง’ ที่ไนต์คลับ และเธอจะทำอย่างไร เมื่อผู้ชายที่ตัวเองเรียกว่า ‘เจ้านาย’ ต้องกลายมาเป็น…ผู้ชายคนแรกของเธอ
View More@Mar.L Club“เห็นคุณมาร์ลิกซ์ไหม?” ยูริเดินเข้าไปถามควินต์ที่เพิ่งคุยกับพนักงานในคาสิโนเสร็จ“นายอยู่กับคุณเซบาสเตียนที่ห้องVIPครับ”“ใครคือคุณเซบาสเตียนเหรอคะ?” “นักธุรกิจจากฮ่องกงครับ และเป็นลูกค้ารายใหญ่ของนาย วันนี้คุณเซบาสเตียนมาหานายที่คาสิโน นายเลยต้องไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนเขาน่ะครับ”“อ๋อ ขอบคุณนะคะ”“ครับ นายฝากให้ผมดูแลคุณยูริ ถ้าต้องการอะไรเรียกหาผมได้ตลอดเลยนะครับ”“ค่ะ” เธอตอบควินต์ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปสูดอากาศอยู่มุมหนึ่งของคาสิโนซึ่งเป็นจุดชมวิว สายลมที่พัดผ่านทำให้เธอรู้สึกเย็นสบายมากไม่น้อย ทว่าการมาของใครบางคนมันทำให้บรรยากาศดีๆ ตอนนี้เสียไปอย่างดื้อๆ“มุมนี้ก็เป็นมุมโปรดของฉันเหมือนกัน”“…” เธอไม่ได้พูดอะไรกับอีกฝ่าย แอบลอบถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ เมลดามาทำอะไรที่คาสิโนมาร์ลิกซ์อีกหมู่นี้เมลดามาหาแฟนของเธอบ่อยๆ โดยอ้างเสมอว่ามาคุยเรื่องธุรกิจ มาร์ลิกซ์ปฏิเสธไปหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ จะให้เขาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกับครอบครัวตัวเองให้ได้ หากเธอเป็นเมลดาคงไม่กล้ามาอีก เพราะโดนปฏิเสธครั้งเดียวมันก็ทำให้อายจนไม่กล้าสู้หน้าอีกแล้ว“ฉันมาหามาร์ทน่ะ แต่เขาดันติดแขกคนสำคั
“ทำข้าวต้มมาให้ค่ะ” เจย์สันนั่งพิงหัวเตียงมองแวนด้าที่ยกข้าวต้มมาให้ ตอนนี้กลับมารักษาตัวอยู่บ้านโดยมีแวนด้าตามมาดูแล ตอนแรกเธอไม่ยอมมา แต่เจย์สันขอยูริให้ช่วยพูดจนสุดท้ายแวนด้าก็ยอมมาดูแล หญิงสาวเดินไปเปิดผ้าม่านสีดำออกจนแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอน “ทำไมไม่กินล่ะคะ” เธอหันไปถามเจย์สันหลังจากเปิดผ้าม่านออกเสร็จแล้ว “ข้าวต้มนั่นแวนด้าทำเองนะคะ ไม่ได้บอกแม่ครัวทำ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะอร่อยถูกปากพี่ไหม”“พี่ยังไม่ค่อยหิว”“แต่พี่ต้องกินยานะคะ”“ไม่เป็นไร กินยาเลยก็ได้” เธอมองเขาอย่างรูัทัน เจย์สันมักใช้แผนการนี้เพื่อให้เธอป้อนข้าว อ้างทุกวันว่าไม่ค่อยหิว แต่พอเธอป้อนก็กินจนหมดเกลี้ยง วันนี้ก็คงอยากให้เธอป้อนข้าวอีกเช่นเคย“ถ้าแวนด้าป้อนพี่จะกินไหม?”“กิน” เขาตอบอย่างไม่ลังเล แวนด้าเดินมานั่งลงข้างๆ หยิบถาดที่มีถ้วยข้าวต้มมาวางไว้บนตักตัวเอง เจย์สันลอบยิ้มอย่างพอใจ เพราะอยากให้แวนด้าป้อนข้าวทุกวันจึงต้องใช้แผนการแบบนี้กับเธอ “พี่ชอบข้าวต้มฝีมือเรา ทำให้กินแบบนี้ทุกวันเลยได้ไหม”“ถ้าไม่อร่อยก็พูดมาตรงๆ เถอะค่ะ ไม่ต้องทำเหมือนอร่อย”“อร่อยจริงๆ อร่อยจนพี่…ติดใจ” หัวใจดวงน้อย
“นายเรียกหาผม มีธุระอะไรเหรอครับ” ควินต์เดินเข้ามาหาเจ้านายที่นั่งไขว้ห้างดูงานบนไอแพดอยู่โซฟาในห้องนั่งเล่น มาร์ลิกซ์ขยับริมฝีปากพูดโดยสายตายังคงมองงานตรงหน้า“เลื่อนประชุมของบ่ายวันนี้ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด”“ทำไมเหรอครับ?” ควินต์เลิกคิ้วขึ้นสูงและเอ่ยถาม ประชุมบ่ายนี้สำคัญมากแต่เจ้านายกลับเลื่อนออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด“เมียกูไม่สบาย กูไม่อยากทิ้งเธอไว้คนเดียว” เขาเงยหน้าตอบควินต์ เมื่อคืนยูริคลื่นไส้อาเจียนเกือบทั้งคืนจนไม่ได้นอน แถมเมื่อเช้ายังเป็นอีกตั้งหลายรอบ มิหนำซ้ำเมื่อเช้ายังกินอะไรไม่ได้ บอกว่าจะพาไปหาหมอก็ดื้อไม่ยอมไป พอโดนบังคับกลับงอนใส่จนป่านนี้ยังไม่คุยกับเขาเลย เป็นห่วงก็เป็นห่วง แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเธอไม่ยอม และเขาก็ไม่อยากบังคับเธอมากด้วย “ให้ผมเรียกหมอมาดูอาการไหมครับ?”“เมื่อเช้ากูบอกว่าจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไป ตอนนี้งอนกูหนักมากจนไม่ยอมคุยกับกู” รอบนี้งอนเขาหนักมาก เอาของกินไปง้อก็ไม่สำเร็จ พยายามง้อทุกวิถีทาง ขอโทษก็แล้ว แต่เธอไม่ยอมหายงอนง่ายๆ ตอนนี้เขาจนปัญญาแล้วจริงๆ“มึงเคยมีแฟนมาก่อน เวลาแฟนมึงงอนหนักๆ มึงง้อยังไง?”“ผมก็ไม่รู้ว่าวิธีของผมจะทำให้นายง้อค
วันต่อมา“อื้อ…” เจย์สันเริ่มส่งเสียงดังในลำคอออกมาเบาๆ หลังจากนอนไม่ได้สติมาหลายอาทิตย์ แวนด้าที่ฟุบหลับอยู่ข้างๆ ตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงครางในลำคอ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งด้วยความตื่นเต้น “พี่เจย์สัน…” เธอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างดีใจ ในที่สุดเขาก็ฟื้นสักที เจย์สันนอนมองแวนด้านิ่งๆ เพราะเธอคือคนแรกที่เขาฟื้นขึ้นมาแล้วเจอ ความรู้สึกแรกที่วิ่งปราดเข้ามาเล่นงานหลังจากฟื้นก็คือ ความปวดร้าวตามร่างกายและบาดแผลบริเวณที่ถูกยิง “แวนด้าจะไปบอกคุณมาร์ลิกซ์ตามหมอมาดูอาการพี่เจย์สันนะคะ”หมับ!เจย์สันคว้าแขนแวนด้าไว้ ทำให้หญิงสาวชะงักและหันกลับไปมองเจ้าของการกระทำดังกล่าว“คะ?”“เราอยู่เฝ้าพี่เหรอ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ “ใช่ค่ะ เดี๋ยวมานะคะ ขอไปบอกคุณมาร์ลิกซ์ก่อนว่าพี่เจย์สันฟื้นแล้ว” เธอดึงมือเขาออกและเดินออกไปจากห้องพักฟื้นของเจย์สัน เพื่อบอกมาร์ลิกซ์เรียกหมอมาดูอาการของเขา บอกตามตรงว่าเธอตื่นเต้นและดีใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ผ่านไปไม่นานหมอก็มาดูอาการเจย์สันโดยมีแวนด้า มาร์ลิกซ์ และยูริยืนดูอยู่ห่างๆ เมื่อหมอรายงานทุกอย่าง
“อดีตรักแรกตามมาถึงที่ขนาดนี้ น่าจะอยู่คุยต่ออีกสักหน่อยนะคะ” คำพูดและน้ำเสียงเชิงประชดประชันทำให้มาร์ลิกซ์ที่กำลังยกเครื่องดื่มขึ้นดื่มชะงักและหันไปมองแฟนสาวซึ่งยืนกอดอกมองมายังตัวเองด้วยสายตาไม่พอใจ “เมลดามาคุยเรื่องธุรกิจ ฉันไม่ชอบ ฉันก็ปฏิเสธไปตรงๆ จะนั่งคุยกันยืดเยื้อให้เสียเวลาทำไม”“แต่ดูเหมือนคุณเมลดาเขาอยากคุยกับคุณมาร์ลิกซ์ต่อนะคะ”“หึงเหรอ?”“ลองมาเป็นหนูดูไหม ใครบ้างจะไม่หึง”มาร์ลิกซ์อมยิ้ม ก่อนจะวางแก้วเหล้าลงเคาน์เตอร์บาร์และเดินเข้าไปกอดแฟนสาวที่กำลังยืนทำหน้าบูดบึ้งอยู่ “เมลดาคืออดีตที่ผ่านมาแล้ว ส่วนคนนี้…คือปัจจุบัน และอนาคต” ฟอดด“อื๊อ!! มาหอมแก้มหนูทำไม” เธอยกมือขึ้นมากุมแก้มข้างที่โดนเขาหอมไปเมื่อกี้“เดี๋ยวนี้หวงตัวเหรอหืม หอมนิดหอมหน่อยไม่ได้?” “หนูไม่ได้หวงตัวสักหน่อย” “แต่ว่ากำลังงอน?”“เปล่า…” “โกหกผัวตัวเองมากๆ ระวังจมูกยื่นยาวออกมาเหมือนพีน็อคคีโอนะ”“หนูก็แค่ไม่ชอบที่คุณเมลดามาหาแฟนของหนู ยังไม่ไปเรียนต่อต่างประเทศยังมาหาถึงที่ขนาดนี้ ถ้าหนูไม่อยู่แล้วคงมาหาแฟนหนูทุกวัน!”“พบเด็กขึ้หึง1อัตรา”“ปล่อยหนูเลย ไม่อยากคุยกับคุณเล่า!” “อย่างอแงสิ ขอกอดหน่
“คุณมาร์ลิกซ์อยากมีลูกเหรอคะ?”“ใช่ ฉันอยากมีลูกกับเธอหรือเธอยังไม่พร้อมมีลูก?““หนูก็อยากมีค่ะ แต่ว่า…ยังไม่อยากมีตอนนี้”“ทำไม?” มาร์ลิกซ์ถามขึ้นหลังจากเงียบไปสองนาน “หนูเข้าใจคุณมาร์ลิกซ์นะคะ แต่ว่าหนูเองก็…อยากเรียนต่อเหมือนกัน” เธอเริ่มเปิดใจคุยกับเขาตรงๆ “แม่ของหนูถามว่า หนูอยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศไหม และหนูยังไม่ได้ให้คำตอบแม่ แต่ลึกๆ แล้วหนูก็อยากเรียนต่อเหมือนกัน หนูอยากลองสัมผัสชีวิตในรั้วมหา’ลัยดูสักครั้ง” ที่ผ่านมาเธอไม่เคยสัมผัสชีวิตของการเป็นนักศึกษาเลย เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว เธอก็ไม่อยากปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป “คุณมาร์ลิกซ์…”“งั้นก็หมายความว่าเราต้องห่างกันน่ะสิ” “ห่างไม่นานเดี๋ยวก็เจอกันค่ะ”มาร์ลิกซ์ถอนหายใจออกมาและเบือนหน้ามองไปทางอื่น แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากให้ยูริไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะมันทำให้ทั้งคู่ต้องห่างกัน“ฉันไม่อยากให้เธอไป เรียนที่ไทยก็ได้นิ”“หนูอยากลองไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อื่นดูบ้าง ไม่กี่ปีเอง ถ้าปิดเทอมแล้วหนูก็บินกลับมาหาคุณมาร์ลิกซ์ที่ไทยเหมือนเดิมไงคะ หรือถ้าคิดถึงหนู คุณมาร์ลิกซ์บินไปหาหนูที่นั่นก็ได้”เขาสัมผัสได้ว่ายูริอยากไปเรียนต่
“ถ้ายังไม่เข็ดกับการท้าทาย เดี๋ยวคืนนี้จะทำให้จำไม่ลืม” น้ำเสียงเย็นเยียบที่เปล่งออกมาพลอยทำให้คนฟังรู้สึกขนลุกซู่ ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนออกจากกกหูหญิงสาวมายังซอกคอระหง กลิ่นหอมหวานคุ้นเคยที่สูดดมเข้ามาเริ่มปลุกปั่นอารมณ์กำหนัด ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดลงต้นคอทำหัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นส่ำ “จะทำตอนนี้เลยเหรอคะ?”“ฉันไม่ไหวแล้ว…” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้น ตรงกลางกายมันปวดหนึบจนรู้สึกทรมาน ทางเดียวที่จะช่วยทำให้ดีขึ้นก็คือต้องปลดปล่อยเท่านั้น“ไว้วันหลังได้ไหมคะ วันนี้คุณมาร์ลิกซ์เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว หนูอยากให้…” คำพูดของเธอกลืนหายไปกับรสจูบแสนร้อนแรง เขาไม่รอให้เธอพูดจบ บดคลึงจูบลงมาโดยไม่เว้นช่องว่างให้เธอได้หายใจหายคอกันเลย“ฉันไม่สน เพราะฉันจะเอาเธอวันนี้” เขาลากยูริเดินไปยังโซฟาสีดำ ก่อนจะผลักเธอลงแล้วทำการถอดกางเกงสีเข้มออก เหลือไว้เพียงเสื้อเชิ้ตสีดำตัวเดียว มือใหญ่เลื่อนลงไปชัดรูดแก่นกายขนาดใหญ่ผองขยายเต็มแน่นเตรียมพร้อมสำหรับการมีเซ็กซ์สองสามครั้ง จากนั้นโน้มตัวลงไปถอดกางเกงยูริออกจนส่วนล่างเปลือยเปล่า จากนั้นสอดใส่ความใหญ่โตเข้าไปอย่างรวดเร็ว สวบบบ “อื๊อ!!!” ความเสียวซ่านวิ่งปรา
“แม่ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกความจริงอะไรให้ลูกฟังเลย แม่เองก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่ต้องปิดบังลูกกับโรมัน” สีหน้าเรญาแสดงอย่างเห็นได้ชัดว่ารู้สึกผิดที่ต้องปิดบังความจริงจากลูกสาวว่าตัวเองคือแม่แท้ๆ “แม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปิดบังหนูกับน้องคะ?” เธออยากรู้เหตุผลของแม่มาก ว่าปิดบังเรื่องใหญ่แบบนี้ไว้ทำไม“เพราะความปลอดภัยของลูกกับโรมันไง แม่ถึงเลือกทำแบบนี้ แม่ปิดบังตัวตนของพวกลูกให้พ้นจากนาธาร์ แม่อยากรอให้เรื่องทุกอย่างมันผ่านพ้นไปด้วยดีก่อน แล้วค่อยเข้ามาสารภาพความจริงกับลูกทีหลัง แต่ลูกดันรู้ความจริงซะก่อน”“…” ถ้าถามว่าโกรธแม่ไหม บอกตรงๆ ว่าไม่โกรธ ที่แม่ทำไปทั้งหมดเพราะมีเหตุผล และทำลงไปก็เพื่อความปลอดภัยของเธอกับโรมัน แม้หลายปีที่ผ่านมาถูกพ่อปลูกฝังมาโดยตลอดว่าแม่ตายแล้ว ทว่าตอนนี้เหมือนเธอได้เกิดใหม่มาเจอแม่อีกครั้ง ไม่โกรธที่แม่ทำแบบนี้ แต่ดีใจมากกว่าที่แม่กลับมา“โกรธแม่มากไหมยูริ” เรญาเลื่อนมือไปวางมือลูกสาวพร้อมเอ่ยถาม“ดีใจมากกว่าอีกที่ได้แม่คืนมา” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มองคนเป็นแม่ผ่านม่านน้ำตาคลอ“หนูคิดถึงแม่มากเลยรู้ไหมคะ ฝันถึงแม่ทุกคืน คิดถึงอ้อมกอดอุ่นๆ ของแม่ด้วยเหมือน
มาร์ลิกซ์จับมือพายูริวิ่งออกจากโกดังทะลุมาถึงท่าเรือโดยมีนาธาร์และลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งตามมาติดๆ ปัง!นาธาร์ยกปืนยิงสะกัดเพื่อไม่ให้มาร์ลิกซ์หนีไปได้ มาเฟียหนุ่มจับยูริไปไว้หลังตัวเอง ถึงแม้ตอนนี้กระสุนปืนจะหมดแล้วแต่ใจยังสู้อยู่ สายตาคมเข้มมองนาธาร์ที่กำลังยกปืนเล็งมายังตัวเองพร้อมกับสาวเท้าเดินเข้ามาหาเรื่อยๆ“มึงคิดว่าจะหนีพ้นเหรอ” นาธาร์ยิ้มเหี้ยม ตอนนี้มาร์ลิกซ์กำลังจนมุมไม่มีทางหนีรวมถึงไม่มีอาวุธในมือด้วย นั่นจึงทำให้นาธาร์มองว่าตัวเองกำลังได้เปรียบอีกฝ่าย“ทางเดียวที่มึงกับคนรักจะหนีจากที่นี่ไปได้ ก็คือความตายเท่านั้น”ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นห่วงตัวเองเลยสักนิด เพราะคนที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดก็คือยูริ “ถ้าอยากฆ่ากูก็ปล่อยยูริไป และฆ่ากูแค่คนเดียวพอ”“หึ คงจะรักกันมากสินะ ถึงขนาดยอมตายแทนกันได้ ก็ดี จะได้ส่งไปลงนรกพร้อมกันทั้งมึง แฟนมึง แล้วก็…แม่ของแฟนมึง!”สิ้นคำพูดของนาธาร์ เจย์สันก็จับเรญาโยนลงพื้นอย่างไม่มีคำว่าอ่อนโยน ยูริเห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งไปประคองคนเป็นแม่ด้วยความเป็นห่วง “แม่เจ็บตรงไหนไหม…” เพราะความเป็นห่วงแม่มาก จึงทำให้เธอเผลอหลุดปากเรียกเรญาว่า ‘แม่’ และดูเหมือนอีกฝ่
(ฮัลโหลยูริ งานที่เราขอให้พี่ช่วยหาให้ พี่ได้แล้วนะ ตอนนี้ยังอยากรับงานนี้อยู่ไหม?)มือเล็กที่กำลังเช็ดทำความสะอาดโต๊ะในผับดังแห่งหนึ่งหยุดชะงักทันทีที่ปลายสายพูดในสิ่งที่ตัวเองเคยลั่นวาจาขอไว้เมื่ออาทิตย์ก่อน ยูริ เม้มริมฝีปากเข้าหากัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งราวกับกำลังจะหลุดออกมาจากขั้วเสียตอนนี้ แววตาหญิงสาวแสดงออกชัดเจนว่ากำลังกังวล มือเล็กเปลี่ยนเป็นกำผ้าในมือแน่น เพราะความจำเป็น ทำให้วันนั้นตัดสินใจไปขอให้ลี่จิน ช่วยหางานที่จะทำให้ได้เงินเยอะๆ ภายในคืนเดียว และการไปหาลี่จินวันนั้น เธอคิดมาดีแล้ว “จริงเหรอพี่ลี่จิน” (อือฮึ ว่าแต่เราเถอะ แน่ใจนะว่าจะรับงานนี้?)“ค่ะ ยูริคิดมาดีแล้ว”(รู้ใช่ไหม ว่างานที่พี่ให้เรา มันคืองานแบบไหน?)เธอเงียบไปพักหนึ่ง ใช่…เธอรู้ว่างานที่ลี่จินหาให้คืองานประเภทไหน งานบนเตียง ปรนเปรอความสุขให้แขกกระเป๋าหนัก สาเหตุที่ขอให้ลี่จินช่วยหางานแบบนี้ เพราะลี่จินรู้จักแขกกระเป๋าหนักหลายคน บางคนโชคดีหน่อยก็ถูกแขกเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นอย่างดี (ยูริแน่ใจนะว่าจะทำงานนี้จริงๆ?) “แน่ใจค่ะ”(รู้ใช่ไหมว่า ถ้าไปอยู่ตรงนั้นแล้ว จะถอยออกมากลางคันไม่ได้จนกว่างาน...
Comments