@Mar.L Club
ก๊อก ก๊อก “เข้ามา” แอดด ยูริเปิดประตูห้องพักส่วนตัวของมาร์ลิกซ์เข้ามาอย่างกล้าๆ กลัวๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเข้ามาในสถานที่ส่วนตัวของเจ้านายหนุ่ม ตั้งแต่รู้ว่าเขาคือเจ้าหนี้ของพ่อ มันก็ทำให้เธอไม่กล้าสู้หน้าเขาอีกเลย มาร์ลิกซ์ไม่ได้เข้ามาที่นี่หลายวัน นี่เป็นสัปดาห์แรกที่เขาเข้ามาตรวจงาน และเธอรับหน้าที่เป็นคนนำเครื่องดื่มมาให้ทุกครั้งที่เขามาที่นี่ ตึกตัก ตึกตัก เสียงเต้นของหัวใจดังสะท้านภายในอกซ้ายจนแทบจะหลุดออกมา เธอก้มหน้าเดินตรงไปยังจุดที่มาร์ลิกซ์นั่ง ซึ่งเขากำลังสูบบุหรี่อยู่ด้วย “เครื่องดื่มค่ะคุณมาร์ลิกซ์” “…” ไม่มีเสียงตอบรับจากเจ้านายหนุ่ม มือเล็กหยิบขวดแอลกอฮอล์วางลงโต๊ะกระจกลายหินอ่อนสีดำตามด้วยแก้วเปล่า ระหว่างกำลังปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองมาร์ลิกซ์ และความเงียบของเขาพลอยทำให้เธอรู้สึก…อึดอัด “ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติม เรียกยูริได้ตลอดเลยนะคะ” “เทเหล้าให้ฉัน” “ได้ค่ะ” เธอกลับมานั่งคุกเข่าลงพื้นอีกครั้ง หยิบน้ำแข็งก้อนที่เป็นวงกลมใส่แก้วหนึ่งก้อน ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำสีเหลืองอำพันมาเปิดแล้วเทลงแก้วอย่างระมัดระวัง เพราะเหล้าขวดนี้…ราคาหลักแสน “เรียบร้อยแล้วค่ะ” “ส่งมา” เธอยื่นแก้วให้มาร์ลิกซ์ ในจังหวะเขาเอื้อมมือมาจับแก้วน้ำเมา มือของเขาได้สัมผัสลงมาที่มือของเธอจนพลอยทำให้หัวใจเธอกระตุกวูบขึ้นมา “ถ้าหมดธุระแล้ว ขอตัวไปทำงานต่อนะคะ” “ดื่มกับฉันสักแก้วก่อนสิ” “เอ่อ…มะ…ไม่เป็นไรค่ะ” “ฉันสั่ง” น้ำเสียงมาร์ลิกซ์เปลี่ยนไปจากเดิม จนพลอยทำให้ยูริเสียวสันหลังวาบ หญิงสาวจำใจทำตามคำสั่งของเจ้านายหนุ่มอย่างเลี่ยงไม่ได้ นอกจากคนๆ นี้จะอยู่ในสถานะ ‘เจ้านาย’ แล้ว เขายังเป็น…เจ้าหนี้ของพ่อเธอด้วย อะไรยอมได้ก็ยอมไปก่อน “ก็ได้ค่ะ” “นั่งสิ…นั่งลงข้างๆ ฉัน” “จะดีเหรอคะ?” ไม่มีเสียงโต้ตอบจากปากมาเฟียหนุ่ม มีเพียงแววตาคมเข้มที่กำลังจ้องมองนิ่งๆ จนยูริต้องเดินเข้าไปนั่งลงข้างกายมาร์ลิกซ์ด้วยความกล้าๆ กลัวๆ ภาพเหตุการณ์อาทิตย์ก่อนยังคงติดตาจนถึงวันนี้ พอรู้มาบ้างว่ามาร์ลิกซ์ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เพราะตระกูลเขาสืบเชื้อสายมาจากมาเฟียเก่าแก่ แล้วยิ่งวันนั้นเขาสั่งลูกน้อง ‘รุมกระทืบ’ พ่อเธอ มันยิ่งทำให้เธอ…กลัวจนไม่อยากเข้าใกล้เขา “คิดออกรึยังว่าจะหาเงินสองล้านเก้ามาจ่ายฉันยังไง?” “คิดมาแล้วค่ะ คุณมาร์ลิกซ์จะว่าอะไรไหม ถ้ายูริอยากขอผ่อนจ่าย หมายถึง ผ่อนจ่ายหนี้เป็นก้อน” “หึ ต่อรองเก่งเหลือเกินนะ” “แล้วได้รึเปล่าล่ะคะ?” “ไม่ได้” หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบอีกครั้ง เมื่อมาร์ลิกซ์บอกว่าไม่ให้เธอผ่อนจ่าย ตอนนี้เหลือเวลาแค่สองอาทิตย์เท่านั้น เธอจะหาเงินสองล้านเก้ามาจ่ายเขาหมดภายในระยะเวลาแค่นี้ได้ยังไง หากเขาไม่ยืดเวลาออกไปให้เธออีก แค่คิดก็เครียดแล้ว… “ฉันอาจจะใจดีที่เลื่อนเวลาจากสองอาทิตย์มาเป็นสามอาทิตย์ให้เธอหาเงินมาจ่ายหนี้ และอย่าคิดว่าฉันจะใจดีกับเธออีกครั้ง” “แต่ว่า…” “เมื่อกี้เธอรินเหล้าให้ฉัน เดี๋ยวรอบนี้จะฉันรินเหล้าให้เธอเอง” เขาหยิบขวดเหล้าตรงหน้ามาเทลงแก้วหลังจากหยิบก้อนน้ำแข็งใส่ลงแก้วแล้วเรียบร้อย กลิ่นหอมหวานจากตัวยูริทำเขาแทบเป็นบ้า ทุกครั้งที่เผลอสูดดมเข้ามา กลางกายก็พลอยรู้สึกปวดหนึบตามไปด้วย ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลต่อความรู้สึกปรารถนาของเขามากไม่น้อย ไม่เคยอยู่ใกล้ผู้หญิงคนไหนแล้วมีอารมณ์ง่ายขนาดนี้มาก่อน แม้กำลังมีความคิดชั่วร้าย แต่ก็ต้องข่มเอาไว้ เพราะมันยังไม่ถึงเวลา แต่ก็ไม่รู้จะทนได้นานแค่ไหนเพราะผู้หญิงคนนี้…ช่างน่ากินเหลือเกิน เธอตรงสเปกเขาทุกอย่าง “ของเธอ” พรึ่บ! จังหวะยูริเอื้อมมือไปหมายจะรับแก้วเหล้ามา มาร์ลิกซ์ก็ชักมือข้างที่ถือแก้วอยู่กลับและกระดกหนึ่งอึก จากนั้น… หมับ! “อ๊ะ!” เธอร้องเสียงหลง มาร์ลิกซ์ผลักเธอให้นอนราบลงเบาะโซฟาโดยไม่ทันตั้งตัว และเขากำลังคร่อมเธออยู่บนตัวเธอ หัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งกับการกระทำอุกอาจ สองมือพยายามดันไหล่เขาออกแต่ทำไม่สำเร็จ เพราะเขารวบแขนทั้งสองข้างของเธอขึ้นไปไว้เหนือศีรษะ และพันธนาการไว้ด้วยมือข้างเดียวของเขา “คุณจะทำ…อื๊อ!!!” ริมฝีปากหยักได้รูปประกบลงปากสีระเรื่อ ของเหลวเย็นฉ่ำไหลซึมไปในโพรงปากของหญิงสาว และไหลลงสู่ลำคอในที่สุด กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ตีตื้นขึ้นมาบวกกับแรงบดคลึงของจูบจากคนเป็น ‘เจ้านาย’ พานทำหัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง มาร์ลิกซ์จูบคนใต้ร่างอย่างดูดดื่มพลางสูดดมกลิ่นหอมเย้ายวน กลางกายปวดหนึบเพราะกลิ่นตัวที่หอมน่าหลงใหลจากยูริ มือหนาอีกข้างเลื่อนขึ้นมาบีบหน้าอกขนาดพอดีมือ ตอนนี้คนตัวโตไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกแล้ว เริ่มไหลไปตามความรู้สึกปรารถนาที่กำลังครอบงำจิตใจ “อื๊อ!” เธอพยายามดิ้นไปมาเพื่อให้เขาปล่อย ทว่ากลับไม่เป็นผล นี่เป็นจูบแรกที่ได้จากผู้ชาย มาร์ลิกซ์จูบเก่งราวกับผู้เชี่ยวชาญ แต่คงไม่แปลก ระดับเขาคงผ่านเรื่องบนเตียงกับผู้หญิงมานับไม่ถ้วน และการจูบก็เช่นกัน… จูบแสนร้อนแรงจากเขาทำสติเธอหลุดลอยไปไหนต่อไหนแล้วไม่รู้ สมองขาวโพลนไปหมด จากเคยต่อต้าน ตอนนี้กลับค่อยๆ สงบนิ่งลงและเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบของเขา มือที่กำลังบีบหน้าอกปลุกปั่นอารมณ์ที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนขึ้นมา มันรู้สึกดีมาก เธอรู้สึกเสียววูบวาบบริเวณท้องน้อย วินาทีที่มาร์ลิกซ์เลื่อนใบหน้าลงมายังลำคอ เธอสะดุ้งเฮือกขึ้นมาราวกับถูกกระแสไฟฟ้าวิ่งเข้าร่างกาย เผลอส่งเสียงดังอืออึงในลำคอออกมาโดยไม่รู้ตัวพลางกัดริมฝีปากไว้แน่นเพื่อระบายอารมณ์ต่างๆ ที่วิ่งประเดประดังเข้ามาเล่นงาน ในขณะคนที่เธอเรียกว่า ‘เจ้านาย’ กำลังใช้ลิ้นสากเลียไปมาตรงคอ ลากขึ้นสูงมาจนถึงใบหูพร้อมกัดเบาๆ จนเธอรู้สึกจั๊กจี้ และสยิวในเวลาเดียวกัน “อื้อ~” ยูริเริ่มเคลิ้มตามสัมผัสจากมาร์ลิกซ์ ยิ่งคนตัวโตได้ลิ้มลองอาหารอันโอชะมากเท่าไร ยิ่งรู้สึกติดใจ จนไม่อยากหยุด ริมฝีปากหยักได้รูปเลื่อนมาขบเม้มลำคอระหงอีกครั้ง กลิ่นหอมจากตัวเธอทำเขาแทบบ้าคลั่ง ไม่เคยอยู่ใกล้ผู้หญิงคนไหนแล้วมีอารมณ์มากขนาดนี้มาก่อน ก๊อก ก๊อก! เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำมาร์ลิกซ์หัวเสียเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาหันขวับไปมองประตู ก่อนจะหันกลับมาสนใจยูริต่อ ก๊อก ก๊อก! “นายครับ แย่แล้วครับ!” เสียงลูกน้องคนสนิทดังผ่านประตูเข้ามาพร้อมกับประโยคที่พูดเหมือนเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น จึงทำให้มาร์ลิกซ์ยอมหยุดการกระทำของตนเองลง “เธอไปได้แล้ว” เขากระซิบบอกยูริข้างใบหู แม้จะรู้สึกเสียดาย แต่ก็ต้องจำใจปล่อยเธอไป สายตาคมเข้มมองตามร่างบางที่รีบออกไป “หึ ถือว่าครั้งนี้เธอรอดตัวไปนะ…ยูริ”“มีเรื่องอะไร?” เขาเอ่ยถามควินต์ คนสนิทที่เข้ามาขัดจังหวะด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก “คุณเซบที่เคยดีลธุรกิจกับนาย ตอนนี้ได้ขอยุติการดีลธุรกิจทั้งหมดไปแล้วครับ”“งั้นเหรอ?” เขาไม่ได้ตกใจที่เซบขอยกเลิกการทำธุรกิจร่วมกัน เพราะไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ใครจะอยู่หรือไปก็ช่างหัวมัน เขาไม่เคยอ้อนวอนขอให้ใครอยู่ ถ้าให้เดา เซบ คงถูก เจย์สัน ดึงตัวไปอย่างแน่นอน อะไรที่เป็นของเขา…เจย์สันมันชอบแย่ง ไม่ต่างจากหมาจรจัดหิวโซที่ชอบแย่งข้าวคนอื่นกินเจย์สัน คือศัตรูหมายเลขหนึ่งของเขา มันเจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากจิ้งจอก เรื่องแสดงละครสวมหน้ากากเป็นคนดีและโยนบทตัวร้ายให้เขา นั่นแหละคือสิ่งที่มันถนัด “ดูเหมือนคุณเซบ ก็น่าจะถูกเจย์สันดึงตัวไปอีกเหมือนคนอื่นๆ”“ถ้ามันอยากได้ก็ให้มันไป” เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะเสียดายอะไรแบบนี้ เจย์สันมันทำแบบนั้นเพราะอยากเอาชนะเขา “นิสัยชอบแย่งของคนอื่นแบบมัน ก็ได้แค่แย่งเท่านั้นแหละ” พูดจบ เขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นมาดื่ม หวังให้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ช่วยขจัดอารมณ์หงุดหงิดที่คนสนิททำเสียไปก่อนหน้านี้ให้ลดน้อยลง จมูกยังคงจดจำกลิ่นหอมหวานของยูริ แม้เธอจะไม่ได้
“นั่งสิ…นั่งลงข้างๆ ฉัน” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยกับหญิงสาว ในขณะที่สายตาจ้องมองปานจะกลืนกิน ยูริยิ้ม และหย่อนตัวนั่งลงข้างกายมาร์ลิกซ์โดยเว้นระยะห่างเอาไว้เล็กน้อย มือเล็กวางไว้บนหน้าตักตัวเอง ด้วยความที่กระโปรงสั้นอยู่แล้ว เวลานั่งชายกระโปรงจึงเลิกขึ้นจนเกือบมองเห็นชั้นในที่สวมใส่ โชคดีที่ใส่ถุงน่องสีดำทับเอาไว้จึงยากที่จะมองเห็น และอีกทั้งห้องนี้ก็ไม่ได้สว่างมากด้วยพรึ่บ“???” เธอทำหน้างง เมื่อมาร์ลิกซ์นำสูทสีดำของเขาที่พาดอยู่ข้างหลังมาวางบนตักเธอ พอเงยหน้าขึ้นมองเขา เขาก็ไม่พูดอะไร หันไปพูดคุยกับผู้ชายที่นั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกันต่อ ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจว่าพวกเขาคุยอะไรกัน เพราะภาษาที่ใช้เป็นภาษาอังกฤษผสมกับจีน พอเข้าใจภาษาอังกฤษอยู่บ้างแต่ไม่ทั้งหมด“ไม่ดื่มเหรอ?” เสียงเข้มเอ่ยถามข้างใบหู ยูริที่นั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวก็สะดุ้งโหยงและหันไปมองเจ้าของประโยคเมื่อครู่ ใบหน้าอยู่ใกล้กันมาก ใกล้จนสามารถมองเห็นกันและกันผ่านนัยน์ตาของอีกฝั่ง “ดื่มสิ” มาร์ลิกซ์ยื่นแก้วเครื่องดื่มให้หญิงสาว เธอรับมาและยิ้มขอบคุณ ไม่กล้าพูดออกเสียงเพราะกลัวมาร์ลิกซ์จำเธอได้ แววตาที่เขามองเธอไม่ต่างอะไรจากสัตว์ป่าดุร้า
“ที่นี่บ้านคุณเหรอคะ?” เธอเอ่ยถามมาร์ลิกซ์ที่เดินนำอยู่ข้างหน้า สายตาพลางกวาดมองไปรอบๆ สถานที่แปลกใหม่สวยงามดูหรูหรา แต่ในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายของความมีอำนาจแฝงอยู่ เดาว่าคงเป็นบ้านเขาแหละ เพราะมีรูปเขาและครอบครัวติดบนผนัง “ใช่” เขาตอบสั้นๆ ก่อนจะก้าวขาเข้าไปในลิฟต์ที่ใช้ขึ้นไปข้างบนชั้นสาม ซึ่งเป็นโซนส่วนตัวของเขาโดยเฉพาะ บอกตามตรงว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวยูริ ปั่นป่วนอารมณ์ปรารถนาของเขาได้ดีไม่น้อย แถมชุดที่เธอสวมใส่ยังมีส่วนทำให้อารมณ์ความต้องการในกายเขาเพิ่มขึ้นอีกด้วย คืนนี้เธอไม่โชคดีเหมือนคืนนั้นแน่!“บ้านคุณมาร์ลิกซ์สวยจังเลยนะคะ” บ้านเขาสวยจนเธออดชมออกมาตรงๆ ไม่ได้ “ไปหยิบเหล้าที่อยู่ตรงนั้นมาให้ฉัน” “ดะ…ได้ค่ะ” เธอเดินไปหยิบเครื่องดื่มตามที่เขาบอกมา โดยมีหลายยี่ห้อมาก ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งนั้น เขาไม่ได้บอกว่าต้องการแบบไหน เธอจึงหยิบยี่ห้อที่เขาชอบดื่มเป็นประจำมา และเดินกลับไปหาเขาซึ่งนั่งรออยู่ตรงโซฟา เบื้องหน้าเขาคือประตูเชื่อมออกไปยังสระว่ายน้ำ “ให้ยูริรินให้เลยไหมคะ?”“นั่นมันหน้าที่ ที่เธอต้องทำอยู่แล้ว” ยูริไม่พูดอะไร เริ่มเทแอลกอฮอล์ลงแก้วให้มาร์ลิกซ์หล
“ครางชื่อฉันแบบนี้ สงสัยอยากโดนฉันเอาแรงๆ”ปึก! ปึก! ปึก!!“อ๊ะๆๆๆ ระ…แรงเกินไปรึเปล่าคะ อึก! อื๊อๆ!” แรงกระแทกจากมาร์ลิกซ์ทำให้ประโยคที่ยูริพูดออกมาดังอย่างกระท่อนกระแท่น เสียงเนื้อกระทบกันดังระงมไปทั่วห้องนอนประสานเสียงครางทั้งสองคน “ซี๊ดดด เสียวฉิบ”เพี๊ยะ!“อ๊ะ!!” เธอสะดุ้งและร้องเสียงหลงทันทีที่ฝ่ามือหนาของเขาปะทะลงแก้มก้นจนรู้สึกแสบคัน เธอกำหมอนใบใหญ่แน่นเพื่อระบายความรู้สึกทรมาน ความเสียวซ่านแผ่ขยายไปทั่วร่างกาย นี่เป็นครั้งแรกที่มีเซ็กซ์กับผู้ชาย แถมผู้ชายคนนั้นยังเป็น…เจ้านายเธออีกด้วย แก่นกายขนาดใหญ่ครูดเสียดไปมากับร่องรักคับแคบจนหญิงสาวรู้สึกแสบคัน จุก และเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน แม้พยายามบอกเขาเบาลงกว่านี้ แต่เหมือนยิ่งบอก เขาก็ยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ปึก! ปึก! ปึก!“อ๊ะ อ๊า~” “ครางออกมาซี๊ดดด อย่างนั้นแหละ ฉันชอบเสียงครางหวานๆ ของเธอยูริ” เสียงกระเส่าดังคลอเคลียร์ข้างใบหูยูริ ริมฝีปากหยักได้รูปขบเม้มตามต้นคอจนเป็นรอยรักสีช้ำ ปกติเขาไม่เคยฝากรอยพวกนี้ไว้บนร่างกายผู้หญิง แต่สำหรับยูริ เขาไม่อาจห้ามใจให้ทำไว้ไม่ได้จริงๆ เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขา…แทบเป็นบ้า
เธอเดินกะเผลกออกมาจากห้องน้ำในเสื้อคลุมสีดำตัวเดิมหลังจากอาบน้ำเสร็จ ส่วนมาร์ลิกซ์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เธอถือโอกาสที่เขาไม่อยู่เดินสำรวจห้องนอน โดยมีผ้าม่านสีดำบดบังแสงแดดจากข้างนอกเพื่อไม่ให้ส่องเข้ามาภายในได้ และมันอดทำให้เธอนึกถึงแวมไพร์ไม่ได้ เพราะว่าแวมไพร์กลัวแสงแดด“คุณมาร์ลิกซ์ตอนเด็กเหรอเนี่ย…” ปากเล็กพึมพำคนเดียว หลังจากหยิบกรอบรูปที่วางอยู่มุมหนึ่ง ซึ่งเป็นรูปเด็กผู้ชายในชุดโรงเรียนนานาชาติยืนทำท่าเก๊กหล่ออยู่ขึ้นมาดู เขามีรังสีความอันตรายฉายออกมาตั้งเด็กเลยเหรอเนี่ย เพราะขนาดเธอดูรูปเขาตอนเด็กๆ ยังรู้สึกเลยว่าเขาดูน่ากลัวไม่ต่างจากปัจจุบัน “แต่ว่าตอนเด็กดูเป็นคนดีมากกว่าตอนนี้เยอะ “กำลังนินทาฉันอยู่เหรอ” เฮือก! เธอสะดุ้งเฮือก เมื่อเสียงเข้มของมาร์ลิกซ์ดังขึ้นมาจากข้างหลัง รีบวางกรอบรูปเขาตอนเด็กลงที่เดิมและหมุนตัวกลับไปหาเขาพร้อมยิ้มแห้งให้ “มาเงียบๆ ไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยนะคะ” ดีนะไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเขาออกไปเยอะ “มะ…มาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอคะ ทำไมหนูไม่ได้ยินเสียงปิดประตูเลย” เขาเดินผ่านประตูเข้ามาเหรอ? หรือหายตัวเข้ามา? เพราะเธอไม่ได้ยินเสียงเปิดหรือปิดประตูจริงๆ หรือมั
เธอนั่งถอนหายใจออกมาเบาๆ บนรถหรูราคาแพงหลายล้านของมาร์ลิกซ์ ซึ่งเขาให้คนขับรถของเขามาส่งเธอที่บ้าน ระหว่างทางกลับก็พลางนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปด้วย เธอก้มมองเช็คเงินสดในมือที่มาร์ลิกซ์เขียนให้จำนวนหนึ่งล้านบาท เงินจำนวนนี้ถือว่าเยอะมากสำหรับเธอ หากแต่มันกลับน้อยนิดสำหรับเขา ‘เธอต้องย้ายมาอยู่กับฉันที่นี่ เป็นเวลา3เดือน’เรื่องนี้เธอคิดหนักมากว่าจะเอายังไงดี เพราะมาร์ลิกซ์ต้องการให้เธอย้ายไปอยู่ด้วยในระหว่างทำหน้าที่ ‘ผู้หญิงบนเตียง’ ให้เขาเป็นเวลาสามเดือน เธอจะบอกครอบครัวยังไง เขาไม่ยอมให้เธอคิดและตัดสินใจเอง เพราะเขาพูดและตัดสินใจแทนเธอเองหมดทุกอย่างแล้ว“จอดหน้าปากซอยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเดินเข้าไปเอง” เธอบอกคนขับรถของมาร์ลิกซ์ ขืนให้ขับไปส่งถึงหน้าบ้าน มีหวังพ่อกับน้องแตกตื่นแน่ “นายให้ส่งถึงบ้าน”“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่อยากทุกคนที่บ้านสงสัย” เธอบอกเหตุผลเขา สุดท้ายคนขับรถของมาร์ลิกซ์ก็ยอมจอดให้ แต่ขับเข้ามาแล้วเกือบถึงหน้าบ้านเธอ เธอกล่าวขอบคุณก่อนจะเปิดประตูรถแล้วก้าวลงมา ทว่าตอนนั้นกลับเป็นจังหวะที่โรมันเดินเอาขยะออกมาทิ้งหน้าบ้านและเห็นเธอเข้าพอดี แบบนี้เธอจะอธิบายกับน้องชายยังไง “นั่
“กลับบ้านดีๆ นะยูริ” “พี่โอปอลล์เหมือนกันนะคะ” เธอบอกโอปอล์เพื่อนร่วมงานกลับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะตั้งท่าเตรียมเดินออกจากไนต์คลับ ทว่าสองเท้ากลับหยุดชะงักลงเมื่อมีความรู้สึกว่า เหมือนเธอลืมอะไรบางอย่าง “รู้สึกเหมือนลืมอะไรสักอย่าง…” ปากเล็กพึมพำเบาๆ พยายามนึกแต่นึกไม่ออกจริงๆ ว่าเธอลืมอะไร เธอเลิกคิดแล้วเดินออกจากไนต์คลับเพื่อกลับบ้าน ตอนนี้ดึกแล้ว และเธอก็เหนื่อยมากด้วย กึกก!ทันทีที่เดินออกมาข้างนอกไนต์คลับ เธอก็หยุดชะงักลงอีกครั้งเมื่อสายตาปะทะเข้ากับมาร์ลิกซ์ที่กำลังยืนกอดอกพิงรถหรูสีดำอยู่เบื้องหน้า แค่เห็นเขาเท่านั้นแหละ ก็เริ่มนึกออกว่าไอ้ความรู้สึกที่เหมือนลืมอะไรสักอย่างคืออะไรมาหาฉันที่ห้องทำงาน ตอนนี้ ใช่! ก่อนหน้านี้มาร์ลิกซ์บอกให้เธอไปหาเขาอยู่ห้องทำงาน แต่เธอไม่ได้ไปเพราะโดนเพื่อนร่วมงานลากตัวไปช่วยงานทางอื่นก่อน ตอนนี้เขายืนมองเธอด้วยแววตาไร้อารมณ์และยากคาดเดาว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมเขาดูน่ากลัวจัง เธอพูดคนเดียวในใจ เขาคงไม่พอใจเรื่องที่เธอไม่ได้ไปหา เธอแกล้งทำเมินเฉยใส่เขา เดินเลี่ยงออกไปทางอื่น อีกอย่างไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองด้วยว่าเขามาดักรอเธอ เดินไปได้เพียงไม่กี่
“เธอจะได้จำ ว่าอย่ามาดื้อกับฉัน”“อะ อื้อ~” ยูรินอนบิดเร่าร่างกายไปมาใต้ร่างมาร์ลิกซ์ มาเฟียหนุ่มจ้องมองใบหน้าหวานละมุนที่กำลังแสดงความทรมานเพราะถูกมือหนาลูบไล้จุดอ่อนไหวผ่านแพนตี้ตัวจิ๋วเธอพยายามใช้มือผลักอกมาร์ลิกซ์ออก ทว่าไม่รู้เลยว่าเรี่ยวแรงมันหายไปไหนหมด ระหว่างเขากำลังใช้มือลูบตรงนั้น เธอรู้สึกเจ็บและเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน “น้ำเธอเลอะเต็มกางเกงในหมดแล้ว” เสียงทุ้มต่ำดังอยู่ข้างใบหู มาร์ลิกซ์เริ่มสอดมือเข้าไปใต้แพนตี้ตัวจิ๋วของยูริเพื่อสัมผัสกายสาวโดยตรง ทันทีที่มือหนาแตะลงจุดอ่อนไหว หญิงสาวก็พลันสะดุ้งโหยงขึ้นมาทันที “อื๊อ!” เธอกำเสื้อเชิ้ตสีแดงเข้มของมาร์ลิกซ์แน่นเพื่อระบายความรู้สึกต่างๆ ที่วิ่งเข้ามาเล่นงาน สายตาพลางช้อนมองเขาอย่างเว้าวอน “คิดว่ามองฉันด้วยแววตาน่าสงสารแบบนั้น แล้วฉันจะยอมปล่อยเธอไปเหรอ?” “หนูขอโทษที่ดื้อ…” เธอบอกเสียงแผ่ว“ขอโทษตอนนี้มันสายไปแล้ว”“หนูยังไม่พร้อมให้อันนั้นของคุณเข้ามาในตัวหนู”‘อันนั้น’ ที่เธอหมายถึงคือสิ่งที่อยู่กลางกายของเขา มันมีขนาดใหญ่ แถมตรงนั้นของเธอยังเล็กนิดเดียว อีกทั้งยังเจ็บอยู่จากการร่วมรักกับเขาเมื่อคืน ถ้าหากเขาสอดใส่เข้
@Mar.L Club“เห็นคุณมาร์ลิกซ์ไหม?” ยูริเดินเข้าไปถามควินต์ที่เพิ่งคุยกับพนักงานในคาสิโนเสร็จ“นายอยู่กับคุณเซบาสเตียนที่ห้องVIPครับ”“ใครคือคุณเซบาสเตียนเหรอคะ?” “นักธุรกิจจากฮ่องกงครับ และเป็นลูกค้ารายใหญ่ของนาย วันนี้คุณเซบาสเตียนมาหานายที่คาสิโน นายเลยต้องไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนเขาน่ะครับ”“อ๋อ ขอบคุณนะคะ”“ครับ นายฝากให้ผมดูแลคุณยูริ ถ้าต้องการอะไรเรียกหาผมได้ตลอดเลยนะครับ”“ค่ะ” เธอตอบควินต์ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปสูดอากาศอยู่มุมหนึ่งของคาสิโนซึ่งเป็นจุดชมวิว สายลมที่พัดผ่านทำให้เธอรู้สึกเย็นสบายมากไม่น้อย ทว่าการมาของใครบางคนมันทำให้บรรยากาศดีๆ ตอนนี้เสียไปอย่างดื้อๆ“มุมนี้ก็เป็นมุมโปรดของฉันเหมือนกัน”“…” เธอไม่ได้พูดอะไรกับอีกฝ่าย แอบลอบถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ เมลดามาทำอะไรที่คาสิโนมาร์ลิกซ์อีกหมู่นี้เมลดามาหาแฟนของเธอบ่อยๆ โดยอ้างเสมอว่ามาคุยเรื่องธุรกิจ มาร์ลิกซ์ปฏิเสธไปหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ จะให้เขาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกับครอบครัวตัวเองให้ได้ หากเธอเป็นเมลดาคงไม่กล้ามาอีก เพราะโดนปฏิเสธครั้งเดียวมันก็ทำให้อายจนไม่กล้าสู้หน้าอีกแล้ว“ฉันมาหามาร์ทน่ะ แต่เขาดันติดแขกคนสำคั
“ทำข้าวต้มมาให้ค่ะ” เจย์สันนั่งพิงหัวเตียงมองแวนด้าที่ยกข้าวต้มมาให้ ตอนนี้กลับมารักษาตัวอยู่บ้านโดยมีแวนด้าตามมาดูแล ตอนแรกเธอไม่ยอมมา แต่เจย์สันขอยูริให้ช่วยพูดจนสุดท้ายแวนด้าก็ยอมมาดูแล หญิงสาวเดินไปเปิดผ้าม่านสีดำออกจนแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอน “ทำไมไม่กินล่ะคะ” เธอหันไปถามเจย์สันหลังจากเปิดผ้าม่านออกเสร็จแล้ว “ข้าวต้มนั่นแวนด้าทำเองนะคะ ไม่ได้บอกแม่ครัวทำ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะอร่อยถูกปากพี่ไหม”“พี่ยังไม่ค่อยหิว”“แต่พี่ต้องกินยานะคะ”“ไม่เป็นไร กินยาเลยก็ได้” เธอมองเขาอย่างรูัทัน เจย์สันมักใช้แผนการนี้เพื่อให้เธอป้อนข้าว อ้างทุกวันว่าไม่ค่อยหิว แต่พอเธอป้อนก็กินจนหมดเกลี้ยง วันนี้ก็คงอยากให้เธอป้อนข้าวอีกเช่นเคย“ถ้าแวนด้าป้อนพี่จะกินไหม?”“กิน” เขาตอบอย่างไม่ลังเล แวนด้าเดินมานั่งลงข้างๆ หยิบถาดที่มีถ้วยข้าวต้มมาวางไว้บนตักตัวเอง เจย์สันลอบยิ้มอย่างพอใจ เพราะอยากให้แวนด้าป้อนข้าวทุกวันจึงต้องใช้แผนการแบบนี้กับเธอ “พี่ชอบข้าวต้มฝีมือเรา ทำให้กินแบบนี้ทุกวันเลยได้ไหม”“ถ้าไม่อร่อยก็พูดมาตรงๆ เถอะค่ะ ไม่ต้องทำเหมือนอร่อย”“อร่อยจริงๆ อร่อยจนพี่…ติดใจ” หัวใจดวงน้อย
“นายเรียกหาผม มีธุระอะไรเหรอครับ” ควินต์เดินเข้ามาหาเจ้านายที่นั่งไขว้ห้างดูงานบนไอแพดอยู่โซฟาในห้องนั่งเล่น มาร์ลิกซ์ขยับริมฝีปากพูดโดยสายตายังคงมองงานตรงหน้า“เลื่อนประชุมของบ่ายวันนี้ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด”“ทำไมเหรอครับ?” ควินต์เลิกคิ้วขึ้นสูงและเอ่ยถาม ประชุมบ่ายนี้สำคัญมากแต่เจ้านายกลับเลื่อนออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด“เมียกูไม่สบาย กูไม่อยากทิ้งเธอไว้คนเดียว” เขาเงยหน้าตอบควินต์ เมื่อคืนยูริคลื่นไส้อาเจียนเกือบทั้งคืนจนไม่ได้นอน แถมเมื่อเช้ายังเป็นอีกตั้งหลายรอบ มิหนำซ้ำเมื่อเช้ายังกินอะไรไม่ได้ บอกว่าจะพาไปหาหมอก็ดื้อไม่ยอมไป พอโดนบังคับกลับงอนใส่จนป่านนี้ยังไม่คุยกับเขาเลย เป็นห่วงก็เป็นห่วง แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเธอไม่ยอม และเขาก็ไม่อยากบังคับเธอมากด้วย “ให้ผมเรียกหมอมาดูอาการไหมครับ?”“เมื่อเช้ากูบอกว่าจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไป ตอนนี้งอนกูหนักมากจนไม่ยอมคุยกับกู” รอบนี้งอนเขาหนักมาก เอาของกินไปง้อก็ไม่สำเร็จ พยายามง้อทุกวิถีทาง ขอโทษก็แล้ว แต่เธอไม่ยอมหายงอนง่ายๆ ตอนนี้เขาจนปัญญาแล้วจริงๆ“มึงเคยมีแฟนมาก่อน เวลาแฟนมึงงอนหนักๆ มึงง้อยังไง?”“ผมก็ไม่รู้ว่าวิธีของผมจะทำให้นายง้อค
วันต่อมา“อื้อ…” เจย์สันเริ่มส่งเสียงดังในลำคอออกมาเบาๆ หลังจากนอนไม่ได้สติมาหลายอาทิตย์ แวนด้าที่ฟุบหลับอยู่ข้างๆ ตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงครางในลำคอ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งด้วยความตื่นเต้น “พี่เจย์สัน…” เธอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างดีใจ ในที่สุดเขาก็ฟื้นสักที เจย์สันนอนมองแวนด้านิ่งๆ เพราะเธอคือคนแรกที่เขาฟื้นขึ้นมาแล้วเจอ ความรู้สึกแรกที่วิ่งปราดเข้ามาเล่นงานหลังจากฟื้นก็คือ ความปวดร้าวตามร่างกายและบาดแผลบริเวณที่ถูกยิง “แวนด้าจะไปบอกคุณมาร์ลิกซ์ตามหมอมาดูอาการพี่เจย์สันนะคะ”หมับ!เจย์สันคว้าแขนแวนด้าไว้ ทำให้หญิงสาวชะงักและหันกลับไปมองเจ้าของการกระทำดังกล่าว“คะ?”“เราอยู่เฝ้าพี่เหรอ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ “ใช่ค่ะ เดี๋ยวมานะคะ ขอไปบอกคุณมาร์ลิกซ์ก่อนว่าพี่เจย์สันฟื้นแล้ว” เธอดึงมือเขาออกและเดินออกไปจากห้องพักฟื้นของเจย์สัน เพื่อบอกมาร์ลิกซ์เรียกหมอมาดูอาการของเขา บอกตามตรงว่าเธอตื่นเต้นและดีใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ผ่านไปไม่นานหมอก็มาดูอาการเจย์สันโดยมีแวนด้า มาร์ลิกซ์ และยูริยืนดูอยู่ห่างๆ เมื่อหมอรายงานทุกอย่าง
“อดีตรักแรกตามมาถึงที่ขนาดนี้ น่าจะอยู่คุยต่ออีกสักหน่อยนะคะ” คำพูดและน้ำเสียงเชิงประชดประชันทำให้มาร์ลิกซ์ที่กำลังยกเครื่องดื่มขึ้นดื่มชะงักและหันไปมองแฟนสาวซึ่งยืนกอดอกมองมายังตัวเองด้วยสายตาไม่พอใจ “เมลดามาคุยเรื่องธุรกิจ ฉันไม่ชอบ ฉันก็ปฏิเสธไปตรงๆ จะนั่งคุยกันยืดเยื้อให้เสียเวลาทำไม”“แต่ดูเหมือนคุณเมลดาเขาอยากคุยกับคุณมาร์ลิกซ์ต่อนะคะ”“หึงเหรอ?”“ลองมาเป็นหนูดูไหม ใครบ้างจะไม่หึง”มาร์ลิกซ์อมยิ้ม ก่อนจะวางแก้วเหล้าลงเคาน์เตอร์บาร์และเดินเข้าไปกอดแฟนสาวที่กำลังยืนทำหน้าบูดบึ้งอยู่ “เมลดาคืออดีตที่ผ่านมาแล้ว ส่วนคนนี้…คือปัจจุบัน และอนาคต” ฟอดด“อื๊อ!! มาหอมแก้มหนูทำไม” เธอยกมือขึ้นมากุมแก้มข้างที่โดนเขาหอมไปเมื่อกี้“เดี๋ยวนี้หวงตัวเหรอหืม หอมนิดหอมหน่อยไม่ได้?” “หนูไม่ได้หวงตัวสักหน่อย” “แต่ว่ากำลังงอน?”“เปล่า…” “โกหกผัวตัวเองมากๆ ระวังจมูกยื่นยาวออกมาเหมือนพีน็อคคีโอนะ”“หนูก็แค่ไม่ชอบที่คุณเมลดามาหาแฟนของหนู ยังไม่ไปเรียนต่อต่างประเทศยังมาหาถึงที่ขนาดนี้ ถ้าหนูไม่อยู่แล้วคงมาหาแฟนหนูทุกวัน!”“พบเด็กขึ้หึง1อัตรา”“ปล่อยหนูเลย ไม่อยากคุยกับคุณเล่า!” “อย่างอแงสิ ขอกอดหน่
“คุณมาร์ลิกซ์อยากมีลูกเหรอคะ?”“ใช่ ฉันอยากมีลูกกับเธอหรือเธอยังไม่พร้อมมีลูก?““หนูก็อยากมีค่ะ แต่ว่า…ยังไม่อยากมีตอนนี้”“ทำไม?” มาร์ลิกซ์ถามขึ้นหลังจากเงียบไปสองนาน “หนูเข้าใจคุณมาร์ลิกซ์นะคะ แต่ว่าหนูเองก็…อยากเรียนต่อเหมือนกัน” เธอเริ่มเปิดใจคุยกับเขาตรงๆ “แม่ของหนูถามว่า หนูอยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศไหม และหนูยังไม่ได้ให้คำตอบแม่ แต่ลึกๆ แล้วหนูก็อยากเรียนต่อเหมือนกัน หนูอยากลองสัมผัสชีวิตในรั้วมหา’ลัยดูสักครั้ง” ที่ผ่านมาเธอไม่เคยสัมผัสชีวิตของการเป็นนักศึกษาเลย เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว เธอก็ไม่อยากปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป “คุณมาร์ลิกซ์…”“งั้นก็หมายความว่าเราต้องห่างกันน่ะสิ” “ห่างไม่นานเดี๋ยวก็เจอกันค่ะ”มาร์ลิกซ์ถอนหายใจออกมาและเบือนหน้ามองไปทางอื่น แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากให้ยูริไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะมันทำให้ทั้งคู่ต้องห่างกัน“ฉันไม่อยากให้เธอไป เรียนที่ไทยก็ได้นิ”“หนูอยากลองไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อื่นดูบ้าง ไม่กี่ปีเอง ถ้าปิดเทอมแล้วหนูก็บินกลับมาหาคุณมาร์ลิกซ์ที่ไทยเหมือนเดิมไงคะ หรือถ้าคิดถึงหนู คุณมาร์ลิกซ์บินไปหาหนูที่นั่นก็ได้”เขาสัมผัสได้ว่ายูริอยากไปเรียนต่
“ถ้ายังไม่เข็ดกับการท้าทาย เดี๋ยวคืนนี้จะทำให้จำไม่ลืม” น้ำเสียงเย็นเยียบที่เปล่งออกมาพลอยทำให้คนฟังรู้สึกขนลุกซู่ ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนออกจากกกหูหญิงสาวมายังซอกคอระหง กลิ่นหอมหวานคุ้นเคยที่สูดดมเข้ามาเริ่มปลุกปั่นอารมณ์กำหนัด ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดลงต้นคอทำหัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นส่ำ “จะทำตอนนี้เลยเหรอคะ?”“ฉันไม่ไหวแล้ว…” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้น ตรงกลางกายมันปวดหนึบจนรู้สึกทรมาน ทางเดียวที่จะช่วยทำให้ดีขึ้นก็คือต้องปลดปล่อยเท่านั้น“ไว้วันหลังได้ไหมคะ วันนี้คุณมาร์ลิกซ์เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว หนูอยากให้…” คำพูดของเธอกลืนหายไปกับรสจูบแสนร้อนแรง เขาไม่รอให้เธอพูดจบ บดคลึงจูบลงมาโดยไม่เว้นช่องว่างให้เธอได้หายใจหายคอกันเลย“ฉันไม่สน เพราะฉันจะเอาเธอวันนี้” เขาลากยูริเดินไปยังโซฟาสีดำ ก่อนจะผลักเธอลงแล้วทำการถอดกางเกงสีเข้มออก เหลือไว้เพียงเสื้อเชิ้ตสีดำตัวเดียว มือใหญ่เลื่อนลงไปชัดรูดแก่นกายขนาดใหญ่ผองขยายเต็มแน่นเตรียมพร้อมสำหรับการมีเซ็กซ์สองสามครั้ง จากนั้นโน้มตัวลงไปถอดกางเกงยูริออกจนส่วนล่างเปลือยเปล่า จากนั้นสอดใส่ความใหญ่โตเข้าไปอย่างรวดเร็ว สวบบบ “อื๊อ!!!” ความเสียวซ่านวิ่งปรา
“แม่ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกความจริงอะไรให้ลูกฟังเลย แม่เองก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่ต้องปิดบังลูกกับโรมัน” สีหน้าเรญาแสดงอย่างเห็นได้ชัดว่ารู้สึกผิดที่ต้องปิดบังความจริงจากลูกสาวว่าตัวเองคือแม่แท้ๆ “แม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปิดบังหนูกับน้องคะ?” เธออยากรู้เหตุผลของแม่มาก ว่าปิดบังเรื่องใหญ่แบบนี้ไว้ทำไม“เพราะความปลอดภัยของลูกกับโรมันไง แม่ถึงเลือกทำแบบนี้ แม่ปิดบังตัวตนของพวกลูกให้พ้นจากนาธาร์ แม่อยากรอให้เรื่องทุกอย่างมันผ่านพ้นไปด้วยดีก่อน แล้วค่อยเข้ามาสารภาพความจริงกับลูกทีหลัง แต่ลูกดันรู้ความจริงซะก่อน”“…” ถ้าถามว่าโกรธแม่ไหม บอกตรงๆ ว่าไม่โกรธ ที่แม่ทำไปทั้งหมดเพราะมีเหตุผล และทำลงไปก็เพื่อความปลอดภัยของเธอกับโรมัน แม้หลายปีที่ผ่านมาถูกพ่อปลูกฝังมาโดยตลอดว่าแม่ตายแล้ว ทว่าตอนนี้เหมือนเธอได้เกิดใหม่มาเจอแม่อีกครั้ง ไม่โกรธที่แม่ทำแบบนี้ แต่ดีใจมากกว่าที่แม่กลับมา“โกรธแม่มากไหมยูริ” เรญาเลื่อนมือไปวางมือลูกสาวพร้อมเอ่ยถาม“ดีใจมากกว่าอีกที่ได้แม่คืนมา” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มองคนเป็นแม่ผ่านม่านน้ำตาคลอ“หนูคิดถึงแม่มากเลยรู้ไหมคะ ฝันถึงแม่ทุกคืน คิดถึงอ้อมกอดอุ่นๆ ของแม่ด้วยเหมือน
มาร์ลิกซ์จับมือพายูริวิ่งออกจากโกดังทะลุมาถึงท่าเรือโดยมีนาธาร์และลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งตามมาติดๆ ปัง!นาธาร์ยกปืนยิงสะกัดเพื่อไม่ให้มาร์ลิกซ์หนีไปได้ มาเฟียหนุ่มจับยูริไปไว้หลังตัวเอง ถึงแม้ตอนนี้กระสุนปืนจะหมดแล้วแต่ใจยังสู้อยู่ สายตาคมเข้มมองนาธาร์ที่กำลังยกปืนเล็งมายังตัวเองพร้อมกับสาวเท้าเดินเข้ามาหาเรื่อยๆ“มึงคิดว่าจะหนีพ้นเหรอ” นาธาร์ยิ้มเหี้ยม ตอนนี้มาร์ลิกซ์กำลังจนมุมไม่มีทางหนีรวมถึงไม่มีอาวุธในมือด้วย นั่นจึงทำให้นาธาร์มองว่าตัวเองกำลังได้เปรียบอีกฝ่าย“ทางเดียวที่มึงกับคนรักจะหนีจากที่นี่ไปได้ ก็คือความตายเท่านั้น”ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นห่วงตัวเองเลยสักนิด เพราะคนที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดก็คือยูริ “ถ้าอยากฆ่ากูก็ปล่อยยูริไป และฆ่ากูแค่คนเดียวพอ”“หึ คงจะรักกันมากสินะ ถึงขนาดยอมตายแทนกันได้ ก็ดี จะได้ส่งไปลงนรกพร้อมกันทั้งมึง แฟนมึง แล้วก็…แม่ของแฟนมึง!”สิ้นคำพูดของนาธาร์ เจย์สันก็จับเรญาโยนลงพื้นอย่างไม่มีคำว่าอ่อนโยน ยูริเห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งไปประคองคนเป็นแม่ด้วยความเป็นห่วง “แม่เจ็บตรงไหนไหม…” เพราะความเป็นห่วงแม่มาก จึงทำให้เธอเผลอหลุดปากเรียกเรญาว่า ‘แม่’ และดูเหมือนอีกฝ่