มาร์ลิกซ์ลอบมองยูริที่เอาแต่นั่งเขี่ยข้าวในจานเล่นไม่ยอมตักกินมาแล้วสองนาน มาเฟียหนุ่มวางแก้วกาแฟดำในมือลง จากนั้นขยับเรียวปากหยักได้รูปพูดกับคนตรงหน้า“ทำไมไม่กินข้าวหืม”“หนูกินไม่ลง” เขาได้ฟังคำตอบของยูริก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอคงคิดมากเรื่องท้อง แม้เขาจะพยายามบอกให้เธอผ่อนคลายไม่ต้องคิดมาก ทว่าก็ไม่สามารถห้ามความคิดของเธอได้ เขาเข้าใจยูริ ถ้าหากเขาเป็นเธอก็คงตกอยู่ในอาการเดียวกัน “เครียดว่าจะบอกพ่อกับแม่ยังไงเหรอ?”“หนูทำใจเรื่องบอกพ่อกับแม่ได้สักพักแล้วล่ะค่ะ”“ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้แล้วเครียดเรื่องอะไร ระบายมาให้ฉันฟังได้นะ” เขาพร้อมรับฟังทุกเรื่องจากยูริ หากมันจะช่วยแบ่งเบาความเครียดของเธอให้ลดน้อยลง “หนูไม่เคยมีลูกมาก่อน แค่กลัวว่าจะเลี้ยงเขาได้ไม่ดีพอ อีกอย่างหนูยังไม่ได้เตรียมตัวเรื่องการมีลูก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนหนูตั้งรับไม่ทัน” “ฉันเองก็ไม่เคยมีลูกมาก่อนเหมือนกัน เรายังใหม่เรื่องนี้กันทั้งคู่ ฉันเชื่อว่าเราสองคนช่วยกันเลี้ยงดูเขาได้ดีแน่นอน พออยู่ในสถานการณ์จริง สัญชาตญาณความเป็นพ่อกับแม่มันจะแสดงออกมาเองโดยอัตโนมัติ” ก่อนหน้านี้เขาโทรไปบอกพ่อกับแม่ว่ายูริท้อง
หลายวันต่อมา @บ้านกรรณ์ตระกูลเกียรติ (บ้านยูริ)“ผมทำยูริท้องครับ” “…” หลังจากมาร์ลิกซ์สารภาพกับเรญาว่าทำยูริท้อง ความเงียบก็ได้เข้ามาปกคลุมโดยอัตโนมัติ ยูริเมื่อเห็นแม่ตัวเองเอาแต่นั่งเงียบพร้อมสีหน้านิ่งๆ ก็ทำให้เริ่มกังวลขึ้นมา และคิดไปเองต่างๆ นานาว่าแม่จะโกรธหรือเปล่า หรือผิดหวังในตัวเธอไหม มาร์ลิกซ์รู้ว่าคนรักเริ่มกังวลจึงเลื่อนมือไปกุมมืออีกฝ่ายเอาไว้ให้ผ่อนคลาย “ถ้าคุณน้าโกรธที่ผมทำยูริท้อง คุณน้าลงโทษผมก็ได้ แต่ผมขออย่างเดียว อย่าลงโทษยูริก็พอ” เรญาดึงสายตากลับมามองมาร์ลิกซ์แล้วยิ้มมุมปาก หากเธอต้องการลงโทษ เชื่อว่าอีกฝ่ายคงยอมให้ทำอย่างที่ลั่นปากพูดออกมา แววตาและน้ำเสียงหนักแน่นของแฟนลูกสาวทำให้เรญาสัมผัสได้ว่ามาร์ลิกซ์พร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปจริงๆ เรญาวางแก้วน้ำชาที่มักดื่มเป็นประจำลงโต๊ะตรงหน้า “รับผิดชอบโดยการออกไปจากชีวิตลูกสาวฉันดีไหม?”ยูริหน้าถอดสีเมื่อคนเป็นแม่พูดอย่างนั้น ส่วนมาร์ลิกซ์แอบใจแป๋วแต่ไม่ได้แสดงออกมาให้อีกฝ่ายได้เห็น “ถ้ารับผิดชอบด้วยวิธีนั้น ผมขอปฏิเสธ”“ทำไมล่ะ ก็นายบอกเอง ว่าพร้อมให้ฉันลงโทษ และนี่แหละคือบทลงโทษของฉัน”“ผมไม่มีวันเลิกกับยู
มาร์ลิกซ์วิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้าคนเดียวในห้องออกกำลังกาย โดยท่อนบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องที่อัดแน่นเรียงตัวกันสวยงาม ส่วนท่อนล่างสวมใส่กางเกงขาสั้นประมาณเข่า มือหนาเอื้อมไปปิดลู่วิ่งไฟฟ้าหลังจากวิ่งมาได้สักพัก เขาก้าวลงจากลู่วิ่งและหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม จากนั้นเดินออกมาจากห้องออกกำลังกายและบังเอิญเห็นควินต์เดินมา จึงเอ่ยถามบางอย่างเกี่ยวกับยูริ“ยูริลงมากินข้าวรึยัง?”“ยังไม่เห็นไปห้องอาหารนะครับ แต่เห็นนั่งอ่านหนังสืออยู่แถวสระว่ายน้ำ”“บอกคนยกอาหารเช้าทั้งของกูและยูริมาให้กูที่สระว่ายน้ำ”“ได้ครับนาย” ควินต์ตอบรับคำสั่งเจ้านายเขาเดินตรงไปยังสระว่ายน้ำที่ควินต์บอกว่ายูริอยู่นั่น พอมาถึงก็เห็นเธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียว “ทำไมยังไม่กินข้าว” เสียงมาร์ลิกซ์ที่ดังขึ้นทำให้ยูริเงยหน้าขึ้นมอง“หนูรอเฮียออกกำลังกายเสร็จแล้วจะได้กินด้วยกัน”ร่างกายที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของมาร์ลิกซ์ทำให้เธออดเผลอมองไม่ได้ ทำไมแฟนเธอหุ่นดีแบบนี้ น่าลูบ น่าสัมผัสไปหมดเลย ช่วงนี้ยอมรับว่าเธอหลงเขามาก และก็งอนเขาบ่อยมากเช่นกัน “เด็กหื่น!” “อื้ออ มาดีดหน้าผากหนูทำไม” เธอลูบหน้าผากตร
(ฮัลโหลยูริ งานที่เราขอให้พี่ช่วยหาให้ พี่ได้แล้วนะ ตอนนี้ยังอยากรับงานนี้อยู่ไหม?)มือเล็กที่กำลังเช็ดทำความสะอาดโต๊ะในผับดังแห่งหนึ่งหยุดชะงักทันทีที่ปลายสายพูดในสิ่งที่ตัวเองเคยลั่นวาจาขอไว้เมื่ออาทิตย์ก่อน ยูริ เม้มริมฝีปากเข้าหากัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งราวกับกำลังจะหลุดออกมาจากขั้วเสียตอนนี้ แววตาหญิงสาวแสดงออกชัดเจนว่ากำลังกังวล มือเล็กเปลี่ยนเป็นกำผ้าในมือแน่น เพราะความจำเป็น ทำให้วันนั้นตัดสินใจไปขอให้ลี่จิน ช่วยหางานที่จะทำให้ได้เงินเยอะๆ ภายในคืนเดียว และการไปหาลี่จินวันนั้น เธอคิดมาดีแล้ว “จริงเหรอพี่ลี่จิน” (อือฮึ ว่าแต่เราเถอะ แน่ใจนะว่าจะรับงานนี้?)“ค่ะ ยูริคิดมาดีแล้ว”(รู้ใช่ไหม ว่างานที่พี่ให้เรา มันคืองานแบบไหน?)เธอเงียบไปพักหนึ่ง ใช่…เธอรู้ว่างานที่ลี่จินหาให้คืองานประเภทไหน งานบนเตียง ปรนเปรอความสุขให้แขกกระเป๋าหนัก สาเหตุที่ขอให้ลี่จินช่วยหางานแบบนี้ เพราะลี่จินรู้จักแขกกระเป๋าหนักหลายคน บางคนโชคดีหน่อยก็ถูกแขกเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นอย่างดี (ยูริแน่ใจนะว่าจะทำงานนี้จริงๆ?) “แน่ใจค่ะ”(รู้ใช่ไหมว่า ถ้าไปอยู่ตรงนั้นแล้ว จะถอยออกมากลางคันไม่ได้จนกว่างาน
ย้อนกลับไปเมื่ออาทิตย์ก่อน (พี่ยูริ ตอนนี้พี่อย่าเพิ่งกลับบ้านนะ)“ทำไม เกิดอะไรขึ้น!” เธอเอ่ยถามโรมัน น้องชายด้วยความร้อนใจ เพียงวินาทีแรกที่น้องชายบอกว่า ‘อย่าเพิ่งกลับบ้านตอนนี้’ นั่นทำให้เธอเริ่มรู้สึกเป็นห่วงคนทางบ้าน ตอนนี้เธอเลิกงานแล้ว และก็กำลังกลับบ้าน (พวกมันมาอีกแล้ว พ่อบอกให้ผมโทรหาพี่ แล้วบอกให้พี่อย่าเพิ่งกลับบ้าน)“ละ…แล้วตอนนี้พ่ออยู่ไหน?”(พ่อกำลังคุยกับพวกมัน แต่วันนี้หัวหน้ามันมาด้วย น่าจะจบยากอยู่อะ)“ตอนนี้ฉันถึงหน้าปากซอยทางเข้าบ้านแล้ว ฉันจะคุยกับพวกมันเอง”(ห๊ะ? พี่อย่าเพิ่งเข้าบ้านนะ พ่อกลัวว่าพี่จะไม่ปลอดภัย เลยบอกให้ผมโทรหาพี่เนี่ย)“เห็นฉันเป็นคนรักตัวกลัวตายมากรึไง ฉันก็เป็นห่วงพ่อ ห่วงแกนะโรมัน” (แต่ว่า…)“แค่นี้นะ ถึงบ้านแล้ว” เธอตัดสายจากน้องชาย ฝีเท้าชะลอความเร็วลงเมื่อเห็นรถหรูสีดำจอดอยู่หน้าบ้านสามคัน และมีชายชุดดำท่าทางน่ากลัวยืนมองเธออยู่นิ่งๆ แม้กลัว แต่ก็ต้องทำใจดีสู้เสือไว้ก่อน เคร้ง!!เสียงสิ่งของกระแทกพื้น ทำให้เธอรีบวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างไม่คิดชีวิต ทันทีที่เข้าไปในตัวบ้าน ก็เห็นพ่อตัวเองกำลังถูกชายชุดดำรุมกระทืบ ส่วนโรมันที่พยายามเข้าไปช
“อะไรนะ? กะ…แกรับงานอย่างว่าเหรอยูริ!” แวนด้า เพื่อนสนิทยูริตะโกนดังลั่นของคอนโดตัวเองทันทีที่ยูริบอกว่ารับงานอย่างว่ากับลี่จินไปแล้ว ทั้งตกใจและช็อคในเวลาเดียวกัน ยูริเคยบอกว่าไม่ชอบงานแบบนี้ และจะไม่มีวันรับงานที่เอาร่างกายเข้าแลกเงินอย่างเด็ดขาด หากแต่วันนี้ กลับกลายกลืนน้ำลายตัวเองเสียอย่างนั้น“ใช่”“…เหตุผล?” แวนด้าตั้งสติ ก่อนจะเริ่มถามยูริถึงเหตุผลที่รับงานแบบนี้“ฉันต้องการใช้เงินด่วน”“แค่นั้น?”เธอไม่กล้ามองหน้าแวนด้า แม้เป็นเพื่อนสนิทกัน หากแต่แวนด้าไม่เคยรู้ว่าบ้านเธอ ‘เป็นหนี้’ เพราะเธอไม่เคยเล่าให้ฟัง แวนด้ารู้แค่ฐานะทางบ้านเธอไม่ได้ดีอะไร ทำงานตั้งแต่อายุสิบหก ส่งน้องชายเรียนหนังสือ และเป็นเสาหลักของบ้าน ครอบครัวเธอ(เคย)มีกันสี่คน แต่ปัจจุบันเหลือเพียงสามคนเท่านั้น อีกทั้งแวนด้ายังเคยเตือนเธอหลายครั้งเรื่องของงาน ‘ปรนเปรอผู้ชายบนเตียง’ และยังห้ามไม่ให้เธอทำ ซึ่งเธอก็เชื่อฟังแวนด้าเสมอมา แต่ตอนนี้…เธอคงต้องเลือกปกป้องคนในครอบครัวของเธอก่อน “พูดมาให้หมดยูริ” น้ำเสียงแวนด้าเริ่มนิ่ง แววตาจ้องเพื่อนสนิทเพื่อรอคำตอบ “ฉัน…”“เหตุผลที่ทำให้แกต้องใช้เงินด่วน พูด!”“ก็ได้ ฉัน
@Mar.L Clubก๊อก ก๊อก“เข้ามา”แอดดยูริเปิดประตูห้องพักส่วนตัวของมาร์ลิกซ์เข้ามาอย่างกล้าๆ กลัวๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเข้ามาในสถานที่ส่วนตัวของเจ้านายหนุ่ม ตั้งแต่รู้ว่าเขาคือเจ้าหนี้ของพ่อ มันก็ทำให้เธอไม่กล้าสู้หน้าเขาอีกเลย มาร์ลิกซ์ไม่ได้เข้ามาที่นี่หลายวัน นี่เป็นสัปดาห์แรกที่เขาเข้ามาตรวจงาน และเธอรับหน้าที่เป็นคนนำเครื่องดื่มมาให้ทุกครั้งที่เขามาที่นี่ ตึกตัก ตึกตัก เสียงเต้นของหัวใจดังสะท้านภายในอกซ้ายจนแทบจะหลุดออกมา เธอก้มหน้าเดินตรงไปยังจุดที่มาร์ลิกซ์นั่ง ซึ่งเขากำลังสูบบุหรี่อยู่ด้วย “เครื่องดื่มค่ะคุณมาร์ลิกซ์” “…” ไม่มีเสียงตอบรับจากเจ้านายหนุ่ม มือเล็กหยิบขวดแอลกอฮอล์วางลงโต๊ะกระจกลายหินอ่อนสีดำตามด้วยแก้วเปล่า ระหว่างกำลังปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองมาร์ลิกซ์ และความเงียบของเขาพลอยทำให้เธอรู้สึก…อึดอัด “ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติม เรียกยูริได้ตลอดเลยนะคะ” “เทเหล้าให้ฉัน” “ได้ค่ะ” เธอกลับมานั่งคุกเข่าลงพื้นอีกครั้ง หยิบน้ำแข็งก้อนที่เป็นวงกลมใส่แก้วหนึ่งก้อน ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำสีเหลืองอำพันมาเปิดแล้วเทลงแก้วอย่างระมัดระวัง เพราะเหล้าขวดนี้…ราคาหล
“มีเรื่องอะไร?” เขาเอ่ยถามควินต์ คนสนิทที่เข้ามาขัดจังหวะด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก “คุณเซบที่เคยดีลธุรกิจกับนาย ตอนนี้ได้ขอยุติการดีลธุรกิจทั้งหมดไปแล้วครับ”“งั้นเหรอ?” เขาไม่ได้ตกใจที่เซบขอยกเลิกการทำธุรกิจร่วมกัน เพราะไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ใครจะอยู่หรือไปก็ช่างหัวมัน เขาไม่เคยอ้อนวอนขอให้ใครอยู่ ถ้าให้เดา เซบ คงถูก เจย์สัน ดึงตัวไปอย่างแน่นอน อะไรที่เป็นของเขา…เจย์สันมันชอบแย่ง ไม่ต่างจากหมาจรจัดหิวโซที่ชอบแย่งข้าวคนอื่นกินเจย์สัน คือศัตรูหมายเลขหนึ่งของเขา มันเจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากจิ้งจอก เรื่องแสดงละครสวมหน้ากากเป็นคนดีและโยนบทตัวร้ายให้เขา นั่นแหละคือสิ่งที่มันถนัด “ดูเหมือนคุณเซบ ก็น่าจะถูกเจย์สันดึงตัวไปอีกเหมือนคนอื่นๆ”“ถ้ามันอยากได้ก็ให้มันไป” เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะเสียดายอะไรแบบนี้ เจย์สันมันทำแบบนั้นเพราะอยากเอาชนะเขา “นิสัยชอบแย่งของคนอื่นแบบมัน ก็ได้แค่แย่งเท่านั้นแหละ” พูดจบ เขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นมาดื่ม หวังให้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ช่วยขจัดอารมณ์หงุดหงิดที่คนสนิททำเสียไปก่อนหน้านี้ให้ลดน้อยลง จมูกยังคงจดจำกลิ่นหอมหวานของยูริ แม้เธอจะไม่ได้
มาร์ลิกซ์วิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้าคนเดียวในห้องออกกำลังกาย โดยท่อนบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องที่อัดแน่นเรียงตัวกันสวยงาม ส่วนท่อนล่างสวมใส่กางเกงขาสั้นประมาณเข่า มือหนาเอื้อมไปปิดลู่วิ่งไฟฟ้าหลังจากวิ่งมาได้สักพัก เขาก้าวลงจากลู่วิ่งและหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม จากนั้นเดินออกมาจากห้องออกกำลังกายและบังเอิญเห็นควินต์เดินมา จึงเอ่ยถามบางอย่างเกี่ยวกับยูริ“ยูริลงมากินข้าวรึยัง?”“ยังไม่เห็นไปห้องอาหารนะครับ แต่เห็นนั่งอ่านหนังสืออยู่แถวสระว่ายน้ำ”“บอกคนยกอาหารเช้าทั้งของกูและยูริมาให้กูที่สระว่ายน้ำ”“ได้ครับนาย” ควินต์ตอบรับคำสั่งเจ้านายเขาเดินตรงไปยังสระว่ายน้ำที่ควินต์บอกว่ายูริอยู่นั่น พอมาถึงก็เห็นเธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียว “ทำไมยังไม่กินข้าว” เสียงมาร์ลิกซ์ที่ดังขึ้นทำให้ยูริเงยหน้าขึ้นมอง“หนูรอเฮียออกกำลังกายเสร็จแล้วจะได้กินด้วยกัน”ร่างกายที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของมาร์ลิกซ์ทำให้เธออดเผลอมองไม่ได้ ทำไมแฟนเธอหุ่นดีแบบนี้ น่าลูบ น่าสัมผัสไปหมดเลย ช่วงนี้ยอมรับว่าเธอหลงเขามาก และก็งอนเขาบ่อยมากเช่นกัน “เด็กหื่น!” “อื้ออ มาดีดหน้าผากหนูทำไม” เธอลูบหน้าผากตร
หลายวันต่อมา @บ้านกรรณ์ตระกูลเกียรติ (บ้านยูริ)“ผมทำยูริท้องครับ” “…” หลังจากมาร์ลิกซ์สารภาพกับเรญาว่าทำยูริท้อง ความเงียบก็ได้เข้ามาปกคลุมโดยอัตโนมัติ ยูริเมื่อเห็นแม่ตัวเองเอาแต่นั่งเงียบพร้อมสีหน้านิ่งๆ ก็ทำให้เริ่มกังวลขึ้นมา และคิดไปเองต่างๆ นานาว่าแม่จะโกรธหรือเปล่า หรือผิดหวังในตัวเธอไหม มาร์ลิกซ์รู้ว่าคนรักเริ่มกังวลจึงเลื่อนมือไปกุมมืออีกฝ่ายเอาไว้ให้ผ่อนคลาย “ถ้าคุณน้าโกรธที่ผมทำยูริท้อง คุณน้าลงโทษผมก็ได้ แต่ผมขออย่างเดียว อย่าลงโทษยูริก็พอ” เรญาดึงสายตากลับมามองมาร์ลิกซ์แล้วยิ้มมุมปาก หากเธอต้องการลงโทษ เชื่อว่าอีกฝ่ายคงยอมให้ทำอย่างที่ลั่นปากพูดออกมา แววตาและน้ำเสียงหนักแน่นของแฟนลูกสาวทำให้เรญาสัมผัสได้ว่ามาร์ลิกซ์พร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปจริงๆ เรญาวางแก้วน้ำชาที่มักดื่มเป็นประจำลงโต๊ะตรงหน้า “รับผิดชอบโดยการออกไปจากชีวิตลูกสาวฉันดีไหม?”ยูริหน้าถอดสีเมื่อคนเป็นแม่พูดอย่างนั้น ส่วนมาร์ลิกซ์แอบใจแป๋วแต่ไม่ได้แสดงออกมาให้อีกฝ่ายได้เห็น “ถ้ารับผิดชอบด้วยวิธีนั้น ผมขอปฏิเสธ”“ทำไมล่ะ ก็นายบอกเอง ว่าพร้อมให้ฉันลงโทษ และนี่แหละคือบทลงโทษของฉัน”“ผมไม่มีวันเลิกกับยู
มาร์ลิกซ์ลอบมองยูริที่เอาแต่นั่งเขี่ยข้าวในจานเล่นไม่ยอมตักกินมาแล้วสองนาน มาเฟียหนุ่มวางแก้วกาแฟดำในมือลง จากนั้นขยับเรียวปากหยักได้รูปพูดกับคนตรงหน้า“ทำไมไม่กินข้าวหืม”“หนูกินไม่ลง” เขาได้ฟังคำตอบของยูริก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอคงคิดมากเรื่องท้อง แม้เขาจะพยายามบอกให้เธอผ่อนคลายไม่ต้องคิดมาก ทว่าก็ไม่สามารถห้ามความคิดของเธอได้ เขาเข้าใจยูริ ถ้าหากเขาเป็นเธอก็คงตกอยู่ในอาการเดียวกัน “เครียดว่าจะบอกพ่อกับแม่ยังไงเหรอ?”“หนูทำใจเรื่องบอกพ่อกับแม่ได้สักพักแล้วล่ะค่ะ”“ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้แล้วเครียดเรื่องอะไร ระบายมาให้ฉันฟังได้นะ” เขาพร้อมรับฟังทุกเรื่องจากยูริ หากมันจะช่วยแบ่งเบาความเครียดของเธอให้ลดน้อยลง “หนูไม่เคยมีลูกมาก่อน แค่กลัวว่าจะเลี้ยงเขาได้ไม่ดีพอ อีกอย่างหนูยังไม่ได้เตรียมตัวเรื่องการมีลูก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนหนูตั้งรับไม่ทัน” “ฉันเองก็ไม่เคยมีลูกมาก่อนเหมือนกัน เรายังใหม่เรื่องนี้กันทั้งคู่ ฉันเชื่อว่าเราสองคนช่วยกันเลี้ยงดูเขาได้ดีแน่นอน พออยู่ในสถานการณ์จริง สัญชาตญาณความเป็นพ่อกับแม่มันจะแสดงออกมาเองโดยอัตโนมัติ” ก่อนหน้านี้เขาโทรไปบอกพ่อกับแม่ว่ายูริท้อง
“อ้วกก~” เสียงดังโอ้กอ้ากในช่วงเวลาเช้ามืดปลุกให้มาร์ลิกซ์ซึ่งนอนหลับอยู่ตื่นขึ้น มาเฟียหนุ่มในสภาพเปลือยท่อนบนสวมเพียงกางเกงวอร์มสีเทาตัวเดียวเดินตรงไปยังห้องน้ำและเห็นยูริกำลังนั่งเกาะขอบชักโครกอาเจียนอย่างหนัก “ไหวไหม” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามคนรักสาวด้วยความห่วงใยพลางเดินเข้าไปลูบหลังให้ ยูริเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้ว และดูเหมือนจะหนักขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย จะพาไปหาหมอก็ไม่ยอม เข้าประเด็นนี้ทีไรเป็นต้องโดนเธองอนใส่ทุกที “อึก! อ้วกก~” ยูริไม่ทันตอบในสิ่งที่มาร์ลิกซ์ถาม ก็ต้องหันกลับไปโก่งคออาเจียนอีกครั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน กลัวว่าถ้าไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้วเป็นอย่างอื่นขึ้นมาจะทำให้เธอวิตกกังวล อีกประเด็นหนึ่งที่กำลังสงสัยตัวเองก็คือ หรือเธออาจจะท้องตอนนี้ยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น แต่อาการของเธอมันเข้าข่าย ‘ท้อง’ มากกว่า เธอลองโทรไปเล่าให้แวนด้าฟัง แวนด้าก็บอกว่าลองซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจจะได้แน่ใจ เธอยังไม่กล้าบอกมาร์ลิกซ์เรื่องนี้ อยากรอให้แน่ใจก่อนถึงจะบอก“ไปหาหมอเถอะ เธอเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วนะ ฉันเป็นห่วง”“ไม่เอา~” “ทำไมดื้อแบบนี้ ครั้
@Mar.L Club“เห็นคุณมาร์ลิกซ์ไหม?” ยูริเดินเข้าไปถามควินต์ที่เพิ่งคุยกับพนักงานในคาสิโนเสร็จ“นายอยู่กับคุณเซบาสเตียนที่ห้องVIPครับ”“ใครคือคุณเซบาสเตียนเหรอคะ?” “นักธุรกิจจากฮ่องกงครับ และเป็นลูกค้ารายใหญ่ของนาย วันนี้คุณเซบาสเตียนมาหานายที่คาสิโน นายเลยต้องไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนเขาน่ะครับ”“อ๋อ ขอบคุณนะคะ”“ครับ นายฝากให้ผมดูแลคุณยูริ ถ้าต้องการอะไรเรียกหาผมได้ตลอดเลยนะครับ”“ค่ะ” เธอตอบควินต์ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปสูดอากาศอยู่มุมหนึ่งของคาสิโนซึ่งเป็นจุดชมวิว สายลมที่พัดผ่านทำให้เธอรู้สึกเย็นสบายมากไม่น้อย ทว่าการมาของใครบางคนมันทำให้บรรยากาศดีๆ ตอนนี้เสียไปอย่างดื้อๆ“มุมนี้ก็เป็นมุมโปรดของฉันเหมือนกัน”“…” เธอไม่ได้พูดอะไรกับอีกฝ่าย แอบลอบถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ เมลดามาทำอะไรที่คาสิโนมาร์ลิกซ์อีกหมู่นี้เมลดามาหาแฟนของเธอบ่อยๆ โดยอ้างเสมอว่ามาคุยเรื่องธุรกิจ มาร์ลิกซ์ปฏิเสธไปหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ จะให้เขาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกับครอบครัวตัวเองให้ได้ หากเธอเป็นเมลดาคงไม่กล้ามาอีก เพราะโดนปฏิเสธครั้งเดียวมันก็ทำให้อายจนไม่กล้าสู้หน้าอีกแล้ว“ฉันมาหามาร์ทน่ะ แต่เขาดันติดแขกคนสำคั
“ทำข้าวต้มมาให้ค่ะ” เจย์สันนั่งพิงหัวเตียงมองแวนด้าที่ยกข้าวต้มมาให้ ตอนนี้กลับมารักษาตัวอยู่บ้านโดยมีแวนด้าตามมาดูแล ตอนแรกเธอไม่ยอมมา แต่เจย์สันขอยูริให้ช่วยพูดจนสุดท้ายแวนด้าก็ยอมมาดูแล หญิงสาวเดินไปเปิดผ้าม่านสีดำออกจนแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอน “ทำไมไม่กินล่ะคะ” เธอหันไปถามเจย์สันหลังจากเปิดผ้าม่านออกเสร็จแล้ว “ข้าวต้มนั่นแวนด้าทำเองนะคะ ไม่ได้บอกแม่ครัวทำ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะอร่อยถูกปากพี่ไหม”“พี่ยังไม่ค่อยหิว”“แต่พี่ต้องกินยานะคะ”“ไม่เป็นไร กินยาเลยก็ได้” เธอมองเขาอย่างรูัทัน เจย์สันมักใช้แผนการนี้เพื่อให้เธอป้อนข้าว อ้างทุกวันว่าไม่ค่อยหิว แต่พอเธอป้อนก็กินจนหมดเกลี้ยง วันนี้ก็คงอยากให้เธอป้อนข้าวอีกเช่นเคย“ถ้าแวนด้าป้อนพี่จะกินไหม?”“กิน” เขาตอบอย่างไม่ลังเล แวนด้าเดินมานั่งลงข้างๆ หยิบถาดที่มีถ้วยข้าวต้มมาวางไว้บนตักตัวเอง เจย์สันลอบยิ้มอย่างพอใจ เพราะอยากให้แวนด้าป้อนข้าวทุกวันจึงต้องใช้แผนการแบบนี้กับเธอ “พี่ชอบข้าวต้มฝีมือเรา ทำให้กินแบบนี้ทุกวันเลยได้ไหม”“ถ้าไม่อร่อยก็พูดมาตรงๆ เถอะค่ะ ไม่ต้องทำเหมือนอร่อย”“อร่อยจริงๆ อร่อยจนพี่…ติดใจ” หัวใจดวงน้อย
“นายเรียกหาผม มีธุระอะไรเหรอครับ” ควินต์เดินเข้ามาหาเจ้านายที่นั่งไขว้ห้างดูงานบนไอแพดอยู่โซฟาในห้องนั่งเล่น มาร์ลิกซ์ขยับริมฝีปากพูดโดยสายตายังคงมองงานตรงหน้า“เลื่อนประชุมของบ่ายวันนี้ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด”“ทำไมเหรอครับ?” ควินต์เลิกคิ้วขึ้นสูงและเอ่ยถาม ประชุมบ่ายนี้สำคัญมากแต่เจ้านายกลับเลื่อนออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด“เมียกูไม่สบาย กูไม่อยากทิ้งเธอไว้คนเดียว” เขาเงยหน้าตอบควินต์ เมื่อคืนยูริคลื่นไส้อาเจียนเกือบทั้งคืนจนไม่ได้นอน แถมเมื่อเช้ายังเป็นอีกตั้งหลายรอบ มิหนำซ้ำเมื่อเช้ายังกินอะไรไม่ได้ บอกว่าจะพาไปหาหมอก็ดื้อไม่ยอมไป พอโดนบังคับกลับงอนใส่จนป่านนี้ยังไม่คุยกับเขาเลย เป็นห่วงก็เป็นห่วง แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเธอไม่ยอม และเขาก็ไม่อยากบังคับเธอมากด้วย “ให้ผมเรียกหมอมาดูอาการไหมครับ?”“เมื่อเช้ากูบอกว่าจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไป ตอนนี้งอนกูหนักมากจนไม่ยอมคุยกับกู” รอบนี้งอนเขาหนักมาก เอาของกินไปง้อก็ไม่สำเร็จ พยายามง้อทุกวิถีทาง ขอโทษก็แล้ว แต่เธอไม่ยอมหายงอนง่ายๆ ตอนนี้เขาจนปัญญาแล้วจริงๆ“มึงเคยมีแฟนมาก่อน เวลาแฟนมึงงอนหนักๆ มึงง้อยังไง?”“ผมก็ไม่รู้ว่าวิธีของผมจะทำให้นายง้อค
วันต่อมา“อื้อ…” เจย์สันเริ่มส่งเสียงดังในลำคอออกมาเบาๆ หลังจากนอนไม่ได้สติมาหลายอาทิตย์ แวนด้าที่ฟุบหลับอยู่ข้างๆ ตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงครางในลำคอ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งด้วยความตื่นเต้น “พี่เจย์สัน…” เธอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างดีใจ ในที่สุดเขาก็ฟื้นสักที เจย์สันนอนมองแวนด้านิ่งๆ เพราะเธอคือคนแรกที่เขาฟื้นขึ้นมาแล้วเจอ ความรู้สึกแรกที่วิ่งปราดเข้ามาเล่นงานหลังจากฟื้นก็คือ ความปวดร้าวตามร่างกายและบาดแผลบริเวณที่ถูกยิง “แวนด้าจะไปบอกคุณมาร์ลิกซ์ตามหมอมาดูอาการพี่เจย์สันนะคะ”หมับ!เจย์สันคว้าแขนแวนด้าไว้ ทำให้หญิงสาวชะงักและหันกลับไปมองเจ้าของการกระทำดังกล่าว“คะ?”“เราอยู่เฝ้าพี่เหรอ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ “ใช่ค่ะ เดี๋ยวมานะคะ ขอไปบอกคุณมาร์ลิกซ์ก่อนว่าพี่เจย์สันฟื้นแล้ว” เธอดึงมือเขาออกและเดินออกไปจากห้องพักฟื้นของเจย์สัน เพื่อบอกมาร์ลิกซ์เรียกหมอมาดูอาการของเขา บอกตามตรงว่าเธอตื่นเต้นและดีใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ผ่านไปไม่นานหมอก็มาดูอาการเจย์สันโดยมีแวนด้า มาร์ลิกซ์ และยูริยืนดูอยู่ห่างๆ เมื่อหมอรายงานทุกอย่าง
“อดีตรักแรกตามมาถึงที่ขนาดนี้ น่าจะอยู่คุยต่ออีกสักหน่อยนะคะ” คำพูดและน้ำเสียงเชิงประชดประชันทำให้มาร์ลิกซ์ที่กำลังยกเครื่องดื่มขึ้นดื่มชะงักและหันไปมองแฟนสาวซึ่งยืนกอดอกมองมายังตัวเองด้วยสายตาไม่พอใจ “เมลดามาคุยเรื่องธุรกิจ ฉันไม่ชอบ ฉันก็ปฏิเสธไปตรงๆ จะนั่งคุยกันยืดเยื้อให้เสียเวลาทำไม”“แต่ดูเหมือนคุณเมลดาเขาอยากคุยกับคุณมาร์ลิกซ์ต่อนะคะ”“หึงเหรอ?”“ลองมาเป็นหนูดูไหม ใครบ้างจะไม่หึง”มาร์ลิกซ์อมยิ้ม ก่อนจะวางแก้วเหล้าลงเคาน์เตอร์บาร์และเดินเข้าไปกอดแฟนสาวที่กำลังยืนทำหน้าบูดบึ้งอยู่ “เมลดาคืออดีตที่ผ่านมาแล้ว ส่วนคนนี้…คือปัจจุบัน และอนาคต” ฟอดด“อื๊อ!! มาหอมแก้มหนูทำไม” เธอยกมือขึ้นมากุมแก้มข้างที่โดนเขาหอมไปเมื่อกี้“เดี๋ยวนี้หวงตัวเหรอหืม หอมนิดหอมหน่อยไม่ได้?” “หนูไม่ได้หวงตัวสักหน่อย” “แต่ว่ากำลังงอน?”“เปล่า…” “โกหกผัวตัวเองมากๆ ระวังจมูกยื่นยาวออกมาเหมือนพีน็อคคีโอนะ”“หนูก็แค่ไม่ชอบที่คุณเมลดามาหาแฟนของหนู ยังไม่ไปเรียนต่อต่างประเทศยังมาหาถึงที่ขนาดนี้ ถ้าหนูไม่อยู่แล้วคงมาหาแฟนหนูทุกวัน!”“พบเด็กขึ้หึง1อัตรา”“ปล่อยหนูเลย ไม่อยากคุยกับคุณเล่า!” “อย่างอแงสิ ขอกอดหน่