Share

บทที่ 7

บทที่ 7

วันนี้เป็นวันพระใหญ่ตรงกับแรมสิบห้าค่ำพอดี ธรินดาลุกขึ้นมาแต่เช้าทำกับข้าวเตรียมใส่บาตรช่วยบัวคำ เสร็จแล้วปั่นจักรยานไปตัดดอกกุหลาบสีขาวที่แปลงบนเนินหลังบ้าน ก่อนจะขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะออกไปใส่บาตรหน้าบ้านที่ตอนนี้สาวใช้ตั้งโต๊ะไว้รอเรียบร้อยแล้ว แม่เลี้ยงลักษิกาซึ่งแต่งตัวด้วยชุดสีขาวทั้งชุดลงมาพอดี เมื่อธรินดาเจอแม่บุญธรรมในชุดเช่นนั้นก็ยิ้มพร้อมกับเอ่ยถามด้วยเสียงนุ่มหู

“แม่ใหญ่จะไปวัดเหรอคะ”

“ใช่จ้ะหนูเล็ก แม่จะไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าสักสามสี่วัน พอดีแม่เลี้ยงแสงหล้าโทร.มาชวนไว้ตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว ตอนแรกแม่กะจะชวนหนูเล็กไปด้วย แต่เห็นว่าเพิ่งจะปิดเทอมก็เลยอยากให้พักผ่อนก่อน เอาไว้รอบหน้าค่อยไปด้วยกันนะลูก”

“ค่ะแม่ใหญ่”

“อ้อ...แม่ลืมบอก เมื่อวานนี้แม่ไปหาหลวงตาที่วัดมาแล้วนะ ได้ฤกษ์หมั้นของตาปรัชญ์กับหนูนัสรินแล้ว วันที่สิบเดือนหน้าเลย เร็วทันใจแม่จริงๆ แม่โทร.ปรึกษากับทางโน้นแล้วว่างานหมั้นจะจัดเล็กๆ ส่วนงานแต่งค่อยจัดแบบงานช้าง ว่าแต่ตอนงานหมั้นของตาปรัชญ์หนูเล็กเปิดเทอมหรือยัง”

“เปิดแล้วค่ะแม่ใหญ่ เล็กปิดเทอมแค่สองอาทิตย์เองค่ะ”

“งั้นหนูเล็กก็อยู่กรุงเทพฯ พอดี หนูเล็กต้องมางานหมั้นตาปรัชญ์กับหนูนัสให้ได้นะ แม่อยากให้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว เดี๋ยวแม่ใหญ่จะให้นายสอนไปรับที่หอพัก”

“ค่ะแม่ใหญ่”

ธรินดารับคำอย่างเด็กว่าง่ายเช่นเคย จากนั้นร่างบางจึงเดินตามแม่ใหญ่ออกไปใส่บาตรที่หน้าบ้าน กลับมาทานข้าวเช้าพร้อมกันสองคน เพราะปราณต์ออกไปทำงานแต่เช้า ส่วนปรัชญ์ไม่กลับบ้านมาหลายวันแล้ว

แม่บุญธรรมกับลูกสาวบุญธรรมคุยกันพลางทานข้าวไปพลาง พออิ่มธรินดาก็เดินออกมาส่งแม่เลี้ยงลักษิกาขึ้นรถเพื่อออกไปปฏิบัติธรรมตามที่บอกไว้แต่เช้า โดยมีอินแปงเป็นคนขับรถไปให้เช่นเคย

คุ้มลักษิกาอันกว้างใหญ่นั้นเงียบเหงาไปถนัดตาเมื่อสมาชิกในบ้านต่างพร้อมใจกันออกไปข้างนอกกันหมด เหลือเพียงธรินดา บัวคำกับสาวใช้อีกสี่คนและคนสวนเท่านั้น หญิงสาวจึงฆ่าเวลาโดยการไปปั่นจักรยานที่เนินเขาหลังบ้าน ตัดดอกกุหลาบสีขาวมาเพิ่ม แล้วเอาเข้าไปจัดแจกันในห้องพระเสียใหม่ จากนั้นก็นั่งสมาธิให้จิตใจสงบอยู่พักใหญ่ จึงค่อยออกไปนั่งเล่นที่สวนหย่อมมุมโปรดของตน

ร่างบางมุ่นคิ้วเรียวเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อถึงเวลาอาหารค่ำแล้วเห็นว่าที่โต๊ะอาหารมีกับข้าวและจานเปล่าวางบนที่นั่งประจำของตนเพียงที่เดียว ส่วนที่อื่นๆ ว่างทั้งหมด แม่ใหญ่นั้นเธอรู้อยู่แล้วว่าท่านไม่อยู่เพราะไปปฏิบัติธรรม ส่วนปรัชญ์ก็คงไม่กลับอีกเช่นเคย ทว่าพี่ชายคนโตอย่างปราณต์นี่สิ ทำไมเขาถึงยังไม่ลงมา

บัวคำยิ้มให้พร้อมกับขยับไปหยิบเอาโถข้าวเพื่อจะตักให้ เมื่อเห็นว่าลูกสาวบุญธรรมของเจ้านายเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหารแล้ว

“คุณหนูเล็กหิวหรือยังคะ”

“หิวแล้วค่ะ ว่าแต่พี่ปราณต์ยังอาบน้ำไม่เสร็จเหรอคะพี่บัวคำ ทำไมไม่เห็นลงมาเสียทีล่ะ” หญิงสาวถามถึงพี่ชายคนโตซึ่งปกติจะกลับมาทานข้าวเย็นที่บ้านทุกวัน ไม่เหมือนปรัชญ์ที่แทบจะไม่กลับจนกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว

“อ๋อ...วันนี้คุณหมอปราณต์เข้าเวรค่ะคุณหนูเล็ก”

“วันนี้พี่ปราณต์เข้าเวรหรอกเหรอคะพี่บัวคำ ถึงว่าไม่ได้ยินเสียงรถของพี่ปราณต์เลย สงสัยเมื่อเช้าแม่ใหญ่จะลืมบอกเล็ก” ประโยคหลังเจ้าของเสียงหวานนุ่มคล้ายจะรำพึงกับตัวเองมากกว่า พอรู้ว่าวันนี้ตัวเองต้องกินข้าวคนเดียว ธรินดาจึงให้บัวคำตักข้าวแค่ครึ่งทัพพี เพราะเธอคงกินได้ไม่เยอะเท่าใดนัก

แม้จะไม่อบอุ่นเหมือนทุกวัน แต่มือเล็กก็จับช้อนและค่อยๆ ตักข้าวใส่ปากทีละคำจนหมดเกลี้ยงจาน จึงค่อยรวบช้อนแล้วยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่ม ธรินดาเป็นเช่นนี้เสมอ รู้ตัวว่าจะกินมากน้อยเท่าไหร่ก็ตักเท่านั้น และข้าวในจานจะถูกตักกินทุกเม็ดเสมอ แม้เธอจะไม่เคยทำนา แต่ก็รู้ดีว่ากว่าที่ชาวนาจะได้ข้าวมาแต่ละเม็ดนั้นต้องเหนื่อยยากเพียงใด

ปกติหลังจากกินข้าวเย็นอิ่มแล้ว ธรินดาจะนั่งคุยกับแม่เลี้ยงลักษิกาก่อน แต่วันนี้แม่ใหญ่ของเธอไม่อยู่หญิงสาวจึงตรงขึ้นห้องตัวเองเลย

มือเล็กหยิบรีโมตโทรทัศน์มาเปิดดูเพื่อรอเวลานอน วันนี้อากาศค่อนข้างจะร้อนอบอ้าว ธรินดานึกอยากออกไปรับลมด้านล่างอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากพาตัวเองลงไปเสี่ยงเพราะถึงแม้หลายวันมานี้ปรัชญ์จะไม่กลับบ้าน แต่เขาอาจจะกลับมาคืนนี้ก็ได้ ตั้งแต่ที่เจอปรัชญ์ในสวนคืนนั้น เธอก็ไม่กล้าลงไปเดินเล่นตอนกลางคืนอีก เพราะกลัวว่าจะปะทะกับปรัชญ์ ซึ่งเธอยอมรับกับตัวเองว่ากลัวการเผชิญหน้ากับคนร้ายกาจอย่างปรัชญ์มาก 

เวลาผ่านไปจนกระทั่งสี่ทุ่ม ตาคู่สวยที่ประดับด้วยแพขนตางอนยาวก็เริ่มปรือปรอยลง มือเรียวเล็กจึงหยิบรีโมตที่วางอยู่ข้างๆ ตัวมาปิดหน้าจอโทรทัศน์ ลุกไปถอดปลั๊ก ปิดไฟในห้องจนมืดสนิท แล้วจึงกลับมานอนที่เตียงหนานุ่มขนาดหกฟุตซึ่งนอนมาหลายปีตั้งแต่เริ่มโตเป็นสาว

คืนนี้เป็นคืนเดือนแรมที่พระจันทร์มืดดับ แต่ท้องฟ้าก็ยังไม่ไร้ซึ่งแสงดาว ธรรมชาติยังทำหน้าที่ของมันเช่นเดิม  เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องขับขานในยามค่ำคืนท่ามกลางบรรยากาศอันแสนเงียบสงบ ขับกล่อมให้คนในคุ้มลักษิการวมทั้งธรินดาหลับไปอย่างง่ายดาย

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status