แชร์

บทที่ 9

บทที่ 9

แสงไฟจากหัวเตียงสาดส่องลงมายังสองร่างที่ฝ่ายหนึ่งนอนหงายอยู่เบื้องล่างโดยมีร่างกำยำนอนเกยทับอยู่ ธรินดามองหน้าปรัชญ์ได้ชัดกว่าตอนที่เขายืนอยู่หน้าประตู เช่นเดียวกับที่สายตาคมของเขาเองก็จ้องมองลงมาที่ใบหน้าเนียนละเอียดของเธอเช่นกัน ประกายตาของหญิงสาวฉายแววตื่นตระหนก ไม่คิดว่าแค่ชั่วเวลาไม่ถึงห้านาที ตอนนี้ตัวเองจะมานอนอยู่ใต้ร่างของผู้ชายที่เธออยากจะวิ่งหนีเขามากที่สุด

ชายหนุ่มเพ่งมองเจ้าของเตียงที่ตอนนี้สั่นเทาไปทั้งตัว สองมือเล็กๆ ยังพยายามบิดเพื่อให้พ้นจากมือเขา เช่นเดียวกับที่เรือนกายแสนนุ่มนิ่มก็ยังดิ้นรนอยู่ใต้ร่างของเขาเพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระ ปากอิ่มสีชมพูระเรื่ออย่างคนสุขภาพดีสั่นระริก สายตาฟ้องชัดว่าตื่นกลัวกับการมีเขาทาบทับอยู่บนร่างเล็กๆ และรวบมือน้อยๆ ของเธอเอาไว้แค่ไหน

...ให้ตายเถอะธรินดา เธอไม่รู้หรือไงว่ายิ่งทำแบบนั้นก็ยิ่งเป็นการยั่วยุ ให้เขาอยากจะทำอะไรตามใจตัวเองมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม...

“อย่ารังแกเล็กเลยนะคะ...” เสียงหวานร้องห้ามปรามเขาออกมา ทั้งๆ ที่ความหวังของตัวเองช่างน้อยนิด เพราะเธอรู้ดีว่าหากปรัชญ์คิดจะทำอะไรแล้วเขาไม่เคยเปลี่ยนใจ

“ถ้าเธอไม่คิดถึงฉันจริงๆ อย่างที่เธอสาบาน ก็ต่อต้านฉันให้ได้สิธรินดา ถ้าเธอบอกว่าหยุดเมื่อไหร่ ฉันรับรองว่าจะไม่ขืนใจเธอ” เสียงของเขานุ่มลง ปากหยักได้รูปยิ้มน้อยๆ ตาที่ฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์มองด้วยประกายร้อนแรงแต่แฝงด้วยความนัยบางอย่างที่ทำให้ธรินดาต้องเบือนหน้าหวานๆ นั้นหลบตาเขา

“เอียงหน้าให้ฉันแบบนี้ แสดงว่าเธออยากให้ฉันหอมแก้มเธอใช่ไหม”

“มะ...”

คำพูดเช่นนั้นของปรัชญ์ทำให้ธรินดาต้องหันหน้ากลับมาสบตากับเขาอีกครั้ง ก่อนจะรู้ตัวว่าเสียรู้คนเจ้าเล่ห์ที่ชอบพูดยั่ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะปรัชญ์ใช้เรียวปากฉกลงประกบกลีบปากอิ่มเต็มของเธออย่างรวดเร็ว ทำเอาร่างบางสะดุ้งเฮือกราวกับถูกไฟชอร์ตเมื่อถูกลิ้นสากหนาฉกชำแรกเข้ามาอย่างสุดชำนาญในโพรงปากไร้ประสบการณ์เป็นครั้งแรกในชีวิตสาว

มือขวาของชายหนุ่มยังคงตรึงข้อมือเล็กของเธอไว้ ส่วนมือซ้ายลูบไล้ลงไปตามเรือนกายอ้อนแอ้น บีบขยี้เคล้นทรวงสาวผ่านผ้าบางเบาของชุดนอน ธรินดาได้แต่ครางฮึมฮัมในลำคอเพราะปากถูกปิดสนิท การโดนรุกรานพร้อมกันเช่นนั้นทำให้เรี่ยวแรงของเธอที่จะใช้ต่อต้านเขาเหมือนเหือดหายไปหมด

ธรินดาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้มือตัวเองเป็นอิสระแล้ว เนื่องจากปรัชญ์ใช้มันปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากร่างของเธออย่างช่ำชองภายในชั่วพริบตา มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เขาหยุดจูบ เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย โลมเลียร่างงดงามด้วยสายตา และกระซิบด้วยเสียงยั่วเย้าต่างจากยามปกติราวกับเป็นคนละคน

“ฉันเพิ่งรู้ว่าผู้หญิงตัวบางๆ แบบเธอนี่ จริงๆ แล้วก็ซ่อนรูปแถมทั้งนุ่มทั้งหอมน่ากอดน่าจูบไปทั้งตัว”

เขาใช้ปากพูดแค่นั้นก็ใช้มันทำอย่างอื่นต่อทันที ใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยไรหนวดไรเครากับลมหายใจที่กรุ่นไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ซุกไซ้ที่ซอกคอขาวละมุนอีกครั้ง ลิ้นตวัดเลียติ่งหูของเธอจนสยิว มือใหญ่ปะป่ายเล้าโลมไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งนวลเนียนทั่วเรือนกาย ก่อนจะละปากตามลงไปทำในสิ่งที่หญิงสาวถึงกับต้องหลับตาและกัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางอันเกิดจากความเสียวสยิวของสัมผัสมากประสบการณ์ของเขา  

“ทำไมคุณปรัชญ์ใจร้ายกับเล็กแบบนี้...” ธรินดาพึมพำถามสิ่งที่ค้างคาใจด้วยเสียงที่เบาเท่าสายลมกระซิบ และสะบัดหน้าไปมาเบาๆ อย่างคนที่ฝืนความรู้สึกตัวเองเอาไว้เต็มที่

“เธอเป็นคนทำให้ฉันอยากจะใจร้ายกับเธอตลอดเวลา...ธรินดา”

เขาตอบโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองเธอสักนิด เพราะตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลานั้นคลุกเคล้าอยู่บนความอวบนุ่มขาวละมุนของทรวงสาวที่ไม่เคยต้องสัมผัสจากชายใดมาก่อน 

“อย่าค่ะ...อย่า...” เสียงของธรินดาแผ่วเบาลงเรื่อยๆ สวนทางกับไฟเสน่หาที่ยิ่งลุกโชนจนร่างบางเร่าร้อนราวกับถูกแผดเผา เมื่อปากของปรัชญ์ปะพรมไปทั่วทุกอณูบนเรือนกายเปลือยเปล่าของเธอ

ธรินดาจำได้เลือนๆ ว่าตัวเองไม่ได้พูดคำว่าหยุด...นอกจากคำว่าอย่า...ที่พูดอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอไม่เข้าใจตัวเองสักนิดทำไมถึงไม่พูดคำนั้น ทั้งๆ ที่ปรัชญ์บอกว่าหากเธอพูดมันเมื่อไหร่เขาก็จะหยุดทันที

หรือว่าสมองของเธอพิการไปชั่วขณะถึงไม่สั่งการให้ปากพูดคำนั้น

หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่กรุ่นมาจากลมหายใจและปลายลิ้นของเขา

หรือเพราะรสจุมพิตที่สุดจะช่ำชองเชี่ยวชาญ

หรือเพราะถูกความวาบหวามรัญจวนที่เล่นงานไปทั่วทุกอณูกายอันไร้ประสบการณ์ใดๆ ในลักษณะเช่นนี้มาก่อน

เธอยังดิ้นต่อต้านในอ้อมกอดของคนที่ทำการทวงคำสาบาน ร่างบางรู้สึกชัดเจนมากที่สุดว่าสัมผัสจากปาก จมูก ลิ้น และมือใหญ่ที่แตะต้องลงบนเรือนกายของเธอนั้นร้อนซ่านแค่ไหน แต่ธรินดาไม่รู้ตัวสักนิดว่าการเคลื่อนไหวของตัวเองในตอนนี้มันห่างไกลกับคำว่าดิ้นรนเป็นอย่างมาก เพราะเรือนกายอ้อนแอ้นนั้นบิดส่ายโอนอ่อนระทดระทวยไปตามสัมผัสที่ปรัชญ์อยากให้เป็น

“โอย...คุณปรัชญ์...”

ปากอิ่มหลุดเสียงออกมาสุดเสียง มือเล็กที่ตอนนี้เป็นอิสระแล้วขยับมาวางที่ไหล่หนาเช่นเดิม หากแต่มันไม่ใช่เพื่อผลักเขาออกห่างแล้ว เล็บซึ่งถูกตัดสั้นอยู่เสมอจิกลงบนไหล่เปลือยเปล่าเต็มแรง ตอนที่เขาทะยานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเธอ  จากนั้นเสียงหวานก็เงียบไปอีก เมื่อปากของปรัชญ์ปิดปากอิ่มแล้วมอบจุมพิตชวนมึนเมาให้จนเธอลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างนอกจากเขา

จากนั้นธรินดาก็เหมือนดำดิ่งสู่หุบเหวแห่งอารมณ์ที่เต็มไปด้วยฤทธิ์ร้ายของดำฤษณาอันสุดหฤหรรษ์รัญจวน จนกระทั่งถึงปลายทางอันเต็มไปด้วยความหลากล้นของอารมณ์ ที่เธอก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะเรียกมันว่าอะไร...

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status