แชร์

บทที่ 10

ผู้เขียน: เทียนธีรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-06 12:21:47

บทที่ 10

ธรินดาตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่เช่นเดียวกับทุกเช้า ทว่าเช้านี้หญิงสาวไม่ได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่นเหมือนเช่นเคย ความรู้สึกผิดและความเศร้าหมองเกาะกินหัวใจจนปวดร้าว ทำได้เพียงร้องไห้เงียบๆ กับสิ่งที่ต้องสูญเสียไปอย่างไม่อาจเรียกร้องกลับคืน ครั้นจะให้โทษว่าเธอถูกปรัชญ์ข่มเหงรังแกก็พูดได้ไม่เต็มปากเลยสักนิด เพราะเขาบอกแล้วว่าหากเธอปฏิเสธเขาก็พร้อมจะหยุด ธรินดาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่พูด ทำไมสมองถึงไม่สั่งการ ทำไมร่างกายมันถึงได้มีปฏิกิริยาสวนทางกับสิ่งที่ตัวเองรู้สึก ทำไมไม่ต่อต้านเขาให้ถึงที่สุด ทำไมเมื่อคืนนี้ตัวเองถึงได้เหมือนกับเนยเหลวโดนอังไฟ 

ปรัชญ์กลับห้องนอนของเขาหลังจากที่เธอเอาแต่นิ่งเงียบ แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่วายจูบแก้มซึ่งนองด้วยน้ำตาของเธอหนักๆ ก่อนจะลุกจากเตียงออกไปอย่างเฉยชา เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ธรินดาอยากจะคิดว่าทั้งหมดมันเป็นแค่ความฝัน หากร่างกายที่ยังคงปวดแปลบอย่างชัดเจนในบางส่วนก็ฟ้องชัดว่า...นับแต่นี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว!

ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะอาบน้ำชำระล้างราคีออกไปจากใจและกาย ทว่าดวงตาที่ฝ้าฟางไปด้วยม่านน้ำตานั้นก็สะดุดกับรอยเลือดบนผ้าปูที่นอนซึ่งเป็นหลักฐานได้อย่างดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง เธอไม่ได้ฝันไป หยดน้ำอุ่นๆ เอ่อล้นขึ้นมาคลอรอบดวงตาอีกครั้งด้วยความเจ็บใจที่ตัวเองไม่เข้มแข็งพอ เธอจะกล้าบอกเรื่องนี้กับใครได้ ในเมื่อส่วนหนึ่งมันเกิดจากความใจง่ายของเธอเอง ปรัชญ์แค่แตะนิดต้องหน่อยเธอก็อ่อนปวกเปียก ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าเขาไม่ได้ทำไปเพราะรัก แต่ทำเพราะอยากจะเอาชนะเธอ ที่สำคัญเขากำลังจะหมั้นในเร็ววันนี้ แต่เธอก็ยังปล่อยให้เหตุการณ์มันเลยตามเลย จนได้แต่มาเสียใจทีหลัง

มือเล็กรีบรื้อผ้าปูนั้นออกมาจากเตียง ยัดใส่ลงในตะกร้าเพื่อจะนำลงไปซัก ทว่ากลับยังมีหลักฐานอีกอย่างที่เธอคาดไม่ถึงตกอยู่ข้างเตียง นั่นก็คือห่อฟอยล์รูปสี่เหลี่ยมที่ถูกแกะใช้แล้ว ใช่...เมื่อคืนนี้ปรัชญ์หยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง เหมือนว่ามันคือสิ่งที่เขาพกพาเป็นประจำอยู่แล้ว และห่อฟอยล์ที่ตกอยู่อันนั้นเขาใช้มันกับเธอ

ร่างบางย่อตัวลงเก็บมันและกำแน่นไว้ในมือ มองซ้ายแลขวาเหมือนจะหาที่ทิ้ง แต่ก็ฉุกใจคิดว่าไม่สามารถทิ้งมันลงถังขยะในห้องได้ เพราะมันจะเป็นหลักฐานให้บัวคำหรือใครก็ตามที่ขึ้นมาทำความสะอาดห้องสงสัยว่าทำไมถึงมีของสิ่งนี้ในห้องของเธอ หากมีคนทราบเรื่องนี้เข้าเรื่องคงจะยุ่งยากแน่ๆ ปรัชญ์กำลังจะหมั้น และถึงแม้ว่าเขาจะไม่หมั้น เธอก็ตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวแล้วว่า จะเก็บงำเรื่องนี้ไว้เป็นความลับคนเดียวไปตลอดชีวิต และไม่แม้แต่จะคิดเรียกร้องอะไรหรือความรับผิดชอบใดๆ จากผู้ชายที่ทำทุกอย่างเพียงเพื่อต้องการรังแกเธอเท่านั้น

ธรินดารีบอาบน้ำ ยกตะกร้าผ้าปูที่นอนลงไปในห้องซักผ้า จัดการยัดมันใส่ลงไปในเครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติขนาดหลายกิโลกรัม ใส่น้ำยาซักผ้าที่มีคุณสมบัติขจัดคราบต่างๆ รวมถึงคราบเลือดได้เป็นอย่างดี จากนั้นก็เปิดน้ำและกดปุ่มให้เครื่องทำงาน

เสียงครืดๆ ของเครื่องเริ่มทำงานหลังจากที่เธอกดปุ่มสตาร์ต นั่นหมายถึงว่าหลักฐานบางส่วนได้เริ่มถูกทำลายไปแล้ว ทว่าหลักฐานอีกอย่างยังอยู่ในกระเป๋ากางเกงของเธอ 

“อ้าว...คุณหนูเล็ก ลงมาทำอะไรแต่เช้าคะ”

เสียงของบัวคำดังขึ้น ขณะที่ธรินดากำลังจะออกจากห้องซักผ้า ทำเอาร่างบางสะดุ้งโหยง หัวใจหล่นวูบราวกับคนแอบทำความผิดแล้วมีคนจับได้ ทว่าหญิงสาวก็รีบปรับสีหน้าและแววตาให้เป็นปกติอย่างเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้บัวคำจับพิรุธความผิดปกติของตนได้

“เล็กเอาผ้าปูที่นอนมาซักค่ะพี่บัวคำ”

“ทำไมต้องทำเองล่ะคะ เดี๋ยวสายๆ พี่บัวคำทำให้ก็ได้ ปกติพี่ก็ให้เด็กเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้คุณๆ ทุกอาทิตย์อยู่แล้ว”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่บัวคำ พอดีเล็กตื่นเช้า ไม่มีอะไรทำก็เลยรื้อมันลงมา”

“ถ้างั้นก็ทิ้งไว้นี่ละนะคะ เดี๋ยวพอปั่นแห้งเสร็จพี่บัวคำจะเอาไปตากให้เอง”

“ขอบคุณค่ะพี่บัวคำ งั้นเล็กขอตัวไปปั่นจักรยานเล่นก่อนนะคะ”

“แล้ววันนี้คุณหนูเล็กไม่ใส่บาตรเหรอคะ” บัวคำถามอย่างสงสัยเพราะปกติธรินดาจะต้องใส่บาตรทุกเช้า

“คือเล็ก...เล็กขอเว้นวันหนึ่งนะคะพี่บัวคำ” ธรินดาไม่รู้จะตอบว่ายังไง เธอมัวแต่หมกมุ่นเรื่องที่ห่างไกลกับคำว่าบุญมาก จนทำให้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและลืมเรื่องที่ตัวเองทำเป็นประจำไปเสียสนิท

“ก็ตามใจคุณเล็กเถอะค่ะ เว้นวันเดียวคงไม่เป็นไรหรอก ปกติคุณเล็กก็ชอบทำบุญเป็นประจำอยู่แล้ว ตอนนี้น่าจะสะสมบุญได้มากโขแล้วมั้งคะ”

ธรินดาได้แค่ยิ้ม ก่อนจะออกจากห้องนั้นไปหลังจากจบการสนทนากับบัวคำแล้ว

จักรยานคันที่แม่ใหญ่ซื้อให้เมื่อหลายปีก่อนยังคงสภาพดีอยู่ มันถูกธรินดาใช้งานแทบจะทุกวันในช่วงที่กลับมาอยู่บ้าน เธอมักจะปั่นมันไปตัดดอกไม้ หรือไม่ก็ปั่นไปดูพระอาทิตย์ตกดินตอนเย็นที่เนินเขาหลังบ้านอยู่เป็นประจำ แต่วันนี้มันถูกใช้แต่เช้ากว่าทุกวัน เพื่อพาผู้เป็นเจ้าของไปยังหน้าบ้าน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมียคืนแรม   บทที่ 11

    บทที่ 11วันนี้หน้าคุ้มลักษิกาที่เคยมีโต๊ะใส่บาตรตั้งอยู่เป็นประจำ ปราศจากภาพอันคุ้นเคยตา เมื่อแม่เลี้ยงเจ้าของคุ้มไปปฏิบัติธรรมและลูกสาวคนเล็กก็ของดเว้นการทำบุญหนึ่งวันร่างบางปั่นจักรยานมาจอดข้างๆ ถังขยะใบใหญ่ ลมหายใจถูกระบายออกมาเบาๆ ขณะที่มือเล็กหย่อนห่อฟอยล์ที่พันด้วยกระดาษทิชชูอย่างแน่นหนาลงไปในนั้นจักรยานคันเดิมถูกปั่นกลับเข้าไปในบ้าน ตาคู่สวยมองเห็นรถกระบะสี่ประตูสีดำกำลังแล่นออกมาจากโรงรถ แม้จะมองเห็นแต่ไกล ก็รู้ว่าเป็นรถของปรัชญ์ ปรัชญ์ใช้รถกระบะเพราะช่วงนี้เขาต้องไปคุมไซต์งานโครงการบ้านจัดสรรซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่กำลังเริ่มก่อสร้าง แม้จะอยู่บนถนนคนละเลน แต่ธรินดาก็ไม่อยากจะปั่นจักรยานสวนกับเขาเลย หญิงสาวมองตรงอย่างเดียว ไม่แม้แต่จะเอียงหน้าไปยังถนนอีกเลนตอนที่รถของปรัชญ์แล่นใกล้เข้ามา ทว่าเสียงหวานก็ต้องร้องวี้ดออกมาด้วยความตกใจเมื่อคนที่ขับรถกระบะหักพวงมาลัยข้ามเลนมาจนเกือบชนกับรถจักรยานของเธอ สัญชาตญาณทำให้ธรินดารีบหักหลบเข้าข้างทางที่เป็นสนามหญ้า จักรยานของเธอเสียหลักจนเกือบล้มแต่ดีว่าเบรกทันปรัชญ์หยุดรถแล้วเปิดกระจกด้านข้างออกมามองคนที่กำลังประคองจักรยานอย่างทุลักทุเล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 12

    บทที่ 12“ปล่อยเล็กค่ะคุณปรัชญ์” ธรินดาดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดของคนชอบหาเรื่อง“เธอโผเข้ามาให้ฉันกอดเองนะ ช่วยไม่ได้”“คนกักขฬะ ออกไปจากห้องเล็กนะคะคุณปรัชญ์ ไม่งั้นแม่ใหญ่กลับมาเล็กจะฟ้องแม่ใหญ่” ธรินดาไม่รู้จะช่วยตัวเองให้หลุดพ้นจากสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร จึงได้แต่หยิบยกเอาคนที่คิดว่าปรัชญ์จะเกรงใจที่สุดมาอ้าง“ฟ้องว่าไง” คิ้วหนาดกดำเป็นปื้นเลิกขึ้นขณะถามอย่างยียวนแกมท้าทาย“ฟ้องว่าคุณปรัชญ์เข้ามารังแกเล็ก”“รังแกยังไง” ปรัชญ์ถามต่ออีก“เล็กจะบอกแม่ใหญ่ว่าคุณปรัชญ์ขืนใจเล็ก” เธอขู่เขาไปเช่นนั้นทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเธอคงไม่กล้าจะบอกเรื่องนี้กับใคร“ขืนใจงั้นเหรอ แน่ใจนะธรินดา เมื่อคืนฉันบอกเธอแล้วนี่ ว่าถ้าไม่เต็มใจให้บอกฉันให้หยุด แต่ฉันจำได้ว่าไม่ได้ยินเธอพูดคำว่าหยุดสักคำนะ มีแต่บอกว่า อย่าค่ะ...อื้อ...คุณปรัชญ์ขาเล็กเสียว...” ปรัชญ์ยกคำพูดของเธอมาล้อเลียนแบบหน้าตาย ทำเอาธรินดาร้อนวาบไปทั้งหน้า“คนบ้า! หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ! เล็กไม่ได้พูดอะไรบ้าๆ แบบนั้น เล็กจะฟ้องแม่ใหญ่! เล็กเกลียดคุณ!”“แม่ใหญ่ของเธอรู้อยู่แล้วมั้งว่าเธอเกลียดฉัน คงไม่ต้องบอกซ้ำหรอก”แม่ใหญ่น่ะเหรอที่รู้...วันนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 13

    บทที่ 13แม่เลี้ยงลักษิกากลับมาจากปฏิบัติธรรมแล้ว แต่ก็ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติใดๆ ของลูกสาวบุญธรรมเลยแม้แต่น้อย เพราะธรินดาเก็บงำทุกอย่างไว้เป็นความลับและพยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุดยามอยู่ต่อหน้าทุกคน อีกทั้งช่วงนี้ปรัชญ์เองก็ไม่ค่อยจะกลับบ้าน ทำให้เธอไม่ต้องเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ พักหลังๆ ธรินดาจึงสบายใจและเข้มแข็งขึ้นมากพระอาทิตย์เริ่มจะเคลื่อนคล้อยลงต่ำ หญิงสาวหยิบเอาตะกร้าหวายเพื่อจะไปตัดกุหลาบที่ปลูกอยู่ในแปลงบนเนินเขาหลังบ้านมาจัดแจกันในห้องพระและห้องรับแขก แต่วันนี้จักรยานที่เคยจอดอยู่ในโรงรถหายไป ธรินดาจึงเดินถือตะกร้าไปยังแปลงกุหลาบแทนร่างบางย่อตัวลงตัดกุหลาบใส่ในตะกร้า ซึ่งส่วนใหญ่เธอจะเลือกตัดสีขาวเพื่อใส่ในห้องพระและสีชมพูสำหรับห้องรับแขก กระทั่งได้กุหลาบสวยๆ จนเกือบเต็มตะกร้า หญิงสาวจึงนั่งลงและทอดสายตาไปยังพระอาทิตย์ดวงโตที่ตอนนี้กำลังทอดตัวลงลับเหลี่ยมเขา ก่อนที่แสงสุดท้ายของวันจะหมดลงในที่สุดความมืดคืบคลานเข้ามาพร้อมๆ กับไอหมอกสีขาวจางๆ ที่แผ่ขยายไปทั่วอาณาบริเวณอย่างรวดเร็ว ธรินดาถอนหายใจเล็กน้อยที่ความงดงามของธรรมชาติยามเย็นเลือนหายไปอีกวัน ร่างบางลุกขึ้นแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 14

    บทที่ 14วันนี้เป็นวันหยุด...ร่างสูงจึงยังคงนอนเอื่อยเฉื่อยอยู่บนเตียงทั้งที่ตื่นนานแล้ว อาหารเช้าเขาก็ไม่คิดจะลงไปกิน แต่กระนั้นบัวคำก็ยังอุตส่าห์ยกขึ้นมาเสิร์ฟให้ถึงห้อง ซึ่งก็คงไม่แคล้วเป็นคำสั่งของแม่เลี้ยงลักษิกาอีกตามเคยปรัชญ์ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวหลังจากนอนจนฉ่ำใจ จากนั้นก็ลงมาชั้นล่าง ตรงเข้าไปในห้องนั่งเล่นซึ่งตอนนี้ทั้งแม่ทั้งพี่ชายต่างอยู่พร้อมหน้า แต่แปลกที่เขาคิดว่าบ้านเงียบผิดปกติ หรือขาดอะไรบางอย่างไป เพราะไม่เห็นเจ้าของใบหน้าที่เขาชอบค่อนแคะว่าจืดชืดนั่งอยู่กับแม่ของเขาอย่างที่เคยเห็นอยู่เป็นประจำ ครั้นจะเอ่ยปากถามหาก็ผิดปกติวิสัยของตัวเอง จึงได้แต่เดาสุ่มว่าธรินดาชอบไปไหนบ้าง“ตื่นแล้วเหรอตาปรัชญ์ แล้วนั่นจะไปไหน” แม่เลี้ยงลักษิกาทักลูกชายเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาแล้วก็จะกลับออกไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้นั่งลงเลย“ไปเดินเล่นครับ”ตอบแม่แค่นั้นร่างสูงก็พาตัวเองไปหาเป้าหมาย และเขาคาดไม่ผิดจริงๆ เมื่อไปที่ห้องพระแล้วเห็นว่าคนที่ตัวเองตามหากำลังนั่งสมาธิอยู่ในนั้นปรัชญ์แทรกตัวเข้าไปข้างใน ปิดประตูห้องพระ แล้วเดินไปล้มตัวลงนอนหนุนตักคนที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ ทำให้ธรินดาต้องลืมตาออกจา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 15

    บทที่ 15“แล้วแม่เลี้ยงมีอะไรกับผมอีกหรือเปล่า” ปรัชญ์ถามแม่คล้ายกับอยากสะสางเรื่องให้จบๆ ไปทีเดียว “มี...แม่อยากให้ปรัชญ์เลิกเรียกหนูนัสว่านัสรินแล้วเรียกชื่อเล่นน้องแทน ส่วนปรัชญ์เวลาพูดกับน้องก็ให้แทนตัวเองว่าพี่ แม่ขอแค่นี้ได้หรือเปล่า” “เพื่ออะไร?” “ก็แกกับน้องจะแต่งงานกัน ควรจะต้องทำตัวให้สนิทสนมกันเข้าไว้สิ อีกอย่างเรียกน้องแบบนั้นมันฟังดูห่างเหินและเหมือนเราไว้ตัว” “งั้นผมต้องเรียกธรินดาว่าน้องเล็กด้วยหรือเปล่า จะได้ฟังดูไม่ห่างเหิน” เขาเน้นประโยคหลังเป็นพิเศษ คนถูกพาดพิงร้อนใจจนต้องเงยหน้าขึ้นมองคนหาเรื่อง และเขาก็ตวัดมองมาพอดี ตาที่เหมือนจะเรียบเฉยคู่นั้นแฝงไว้ด้วยความนัยที่รู้กันสองคน ทำเอาธรินดาถึงกับวุ่นวายใจไปชั่วขณะเลยทีเดียว “แม่ก็บอกให้เรียกตั้งนานแล้ว แต่เราไม่ยอมเรียกเองนี่” แม่เลี้ยงลักษิกาย้อนลูกชาย และไม่ได้สังเกตเห็นสายตาระหว่างคนทั้งคู่ที่มองกันแปลกๆ เพราะปรัชญ์ชอบหาเรื่องรวนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว “ก็แต่ก่อนไม่สนิท แต่ตอนนี้ ‘สนิท’ กันแล้วนี่ครับแม่เลี้ยง”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 16

    บทที่ 16เทอมสุดท้ายของการเรียนปีสี่และการเป็นนักศึกษาเริ่มขึ้นแล้ว ธรินดารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก เพราะการเรียนและงานสารนิพนธ์ที่ทำคู่กับชนิศาทำให้เธอยุ่งจนแทบไม่มีเวลาคิดเรื่องส่วนตัว ร่างบางนั่งตรงข้ามกับคู่บัดดี้ทำสารนิพนธ์และต่างก็กำลังจ้องจอแล็ปท็อปอย่างตั้งอกตั้งใจ ก่อนที่ธรินดาจะเป็นฝ่ายสะดุ้งเบาๆ เมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ในกระเป๋าสะพายดังขึ้น มือเล็กรีบเปิดกระเป๋าและหยิบเอาโทรศัพท์ออกมากดรับ เพราะเกรงใจชนิศาที่เสียงโทรศัพท์ของตนรบกวนสมาธิของเพื่อน “สวัสดีค่ะแม่ใหญ่” เสียงหวานเอ่ยตอบต้นสายอย่างนุ่มนวลและไม่ใช้เสียงที่ดังเกินไป “แม่จองตั๋วให้เรียบร้อยแล้วนะหนูเล็ก” “จองตั๋วไปไหนคะแม่ใหญ่” ธรินดาถามแบบงงๆ เล็กน้อย “ก็กลับบ้านไงลูก วันเสาร์นี้ก็เป็นวันหมั้นของตาปรัชญ์กับหนูนัสแล้ว หนูเล็กลืมเหรอลูก” แม่เลี้ยงลักษิกาถามกลับแต่ไม่มีความโกรธหรือหงุดหงิดเจืออยู่ เพราะเข้าใจดีว่าธรินดาคงจะยุ่งจนลืมวัน “ตายจริง ขอโทษนะคะแม่ใหญ่ เล็กลืมไปเลยค่ะ” “ไม่เป็นไรหรอกลูก แม่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 17

    บทที่ 17รถกระบะสีดำแบบสี่ประตูแล่นเข้ามาจอดที่โรงรถอย่างไม่ค่อยนุ่มนวลนักเช่นเดียวกับบุคลิกของคนขับ ธรินดาลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อถึงบ้านเสียที มือเล็กจัดการปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยแล้วเอี้ยวตัวเพื่อจะเปิดประตูรถ แต่เสียงของปรัชญ์ดังขึ้นห้ามอย่างดุๆ เสียก่อน “เดี๋ยวก่อนธรินดา” “มีอะไรคะ” แม้จะไม่อยากพูดด้วยเลยสักนิด แต่ครั้งนี้ธรินดาก็ยอมฝืนใจตัวเอง เพราะตอนนี้รถจอดแล้ว ปรัชญ์สามารถเล่นงานเธอได้เต็มที่ “เธอขอบคุณฉันหรือยังที่ฉันอุตส่าห์ไปรับถึงสนามบิน” “ขอบคุณค่ะ” มือเล็กยกขึ้นไหว้เขา ถึงแม้จะแอบคิดว่าเธอไม่ได้อยากให้เขาไปรับสักนิด และอยากจะบอกเขาไปว่าถ้าคนที่บ้านไม่ว่างจริงๆ เธอเรียกแท็กซี่กลับเองก็ได้ แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดเพราะกลัวว่าจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเปล่าๆ ธรินดาคิดว่าไหว้ขอบคุณแล้วปรัชญ์จะจบ แต่เขาไม่ยอมจบ เพราะตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลานั้นโฉบเข้ามาใกล้หน้าหวานใสของเธอแล้วฉวยโอกาสกดจมูกโด่งลงบนพวงแก้มซีกขวาหนักๆ โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว “คุณปรัชญ์!” ธรินดาอุทานเสียงเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 18

    บทที่ 18ในห้องโถงสำหรับจัดงานของโรงแรมถูกจัดตกแต่งสถานที่ด้วยโซฟาสุดหรูนำเข้าจากฝรั่งเศส ด้านหลังเป็นฉากสีชมพู มีดอกไม้สีขาวและสีชมพูประดับอย่างสวยงามลงตัวและไม่มากจนเกินไป เหมาะกับงานหมั้นเล็กๆ ที่จัดขึ้นภายในครอบครัวเท่านั้น และที่นั่นธรินดาถูกแม่เลี้ยงลักษิกาแนะนำให้รู้จักกับนัสรินว่าที่สะใภ้ของครอบครัวเป็นครั้งแรก นัสรินสวยสง่าในชุดเดรสสีขาวแบบเปิดไหล่เล็กน้อย แขนยาว ตัดเย็บอย่างประณีตด้วยผ้าลูกไม้สีขาวทั้งชุด ธรินดาเป็นฝ่ายยกมือขึ้นไหว้ก่อนเพราะอีกฝ่ายอายุมากกว่า“สวัสดีค่ะคุณนัสริน”“สวัสดีจ้ะน้องเล็ก ไม่ต้องเรียกพี่ว่าคุณนัสรินก็ได้ เรียกว่าพี่นัสดีกว่านะจะได้กันเอง” นัสรินบอกอย่างเป็นกันเองพลางยิ้มให้บางๆ“หนูนัสพูดถูก เดี๋ยวต่อไปก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เรียกว่าพี่นัสดีกว่านะหนูเล็ก” แม่เลี้ยงลักษิกาเสริมขึ้นอีกแรงทำให้ธรินดารับคำอย่างว่าง่าย“ได้ค่ะแม่ใหญ่ ต่อไปเล็กจะเรียกคุณนัสรินว่าพี่นัสค่ะ”“แล้วนี่ตาปรัชญ์ยังไม่มาเหรอคะแม่เลี้ยง” คุณนิภามารดาของนัสรินถามพลางมองหาว่าที่ลูกเขยซึ่งไม่ได้มาพร้อมกับครอบครัว“ไม่ได้มาพร้อมกันค่ะคุณนิภา มัวแต่เสริมหล่ออยู่นั่นแหละ แต่ยังไง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06

บทล่าสุด

  • เมียคืนแรม   บทที่ 98

    บทที่ 98“ฉันไม่อยากดื่มนมอย่างอื่น ฉันเก็บปากของฉันไว้ดื่มนมอร่อยๆ จากเต้าของเธอก็พอแล้ว ว่าแล้วก็หิว เล็กจ๋า...ให้ฉันกินนะ” แววตาของคนที่ประท้วงอยู่เมื่อครู่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นวิบวับและเปล่งประกายความปรารถนาที่มีต่อเธอออกมาอย่างเปิดเผย “ไม่เอาค่ะคุณปรัชญ์” ธรินดาปฏิเสธเสียงเบา เพราะกลัวลูกสาวจะตื่นมาเห็น “แต่ฉันจะ ‘เอา’ นะเล็กจ๋า ตามใจผัวนะครับหนูเล็กคนดี” “โธ่...คุณปรัชญ์” “ไม่โธ่จ้ะที่รัก...ฉันหิว อยากดื่มนม” ปรัชญ์กระซิบบอกความต้องการของตัวเอง พร้อมกับที่ธรินดารับรู้ถึงความตื่นตัวของเขาที่ตอนนี้บดเบียดเธออยู่ไม่ห่าง “ถ้าอย่างนั้นเล็กไปดับไฟก่อนนะคะ” ธรินดาบอกอย่างอายๆ แต่คำตอบนั้นบ่งบอกชัดว่าเธอยอมตามใจเขาแล้ว ปรัชญ์จึงยอมปล่อยให้ร่างเล็กลุกจากตักไปปิดไฟ ส่วนตัวเองขยับขึ้นไปนอนรออยู่บนเตียง ห้องทั้งห้องมืดสนิทเมื่อธรินดายื่นมือไปกดสวิตช์ไฟให้ดับลง เธออาศัยความเคยชินเดินกลับมายังเตียง และค่อยๆ เอนกายลงนอนเคียงข้างสามี ปรัชญ์รีบขยับเข้ามาแนบชิดพร้อมกับกระซิบเรียกเสียงพร่า ท

  • เมียคืนแรม   บทที่ 97

    บทที่ 97“ป๋าก็คิดถึงนิล คิดถึงแม่เล็กของนิลใจแทบขาด” ปรัชญ์ตอบลูกสาวและถือโอกาสอ้อนไปถึงแม่ของลูกด้วย เพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้โทรศัพท์น่าจะเปิดลำโพงอยู่ “งั้นก็รีบกลับบ้านสิคะป๋า หมีพูกับแม่เล็กก็รอป๋าเหมือนกันค่ะ” ปรัชญ์ยิ้มออกมาอีกคราเมื่อลูกบอกว่าธรินดาเองก็รอเขาอยู่ ใบหน้าอันหวานซึ้งนั้นลอยเข้ามาในห้วงความคิด ทำให้เขาจำต้องพับหน้าจอแล็ปท็อปลงพร้อมกับปิดแฟ้มเอกสารที่กางอยู่หลายอันบนโต๊ะ“โอเคครับคนดีของป๋า ป๋าจะกลับเดี๋ยวนี้ละ” “งั้นนิลจะรอจนกว่าป๋าจะมานะคะ นิลถึงจะนอน” “ครับ อีกยี่สิบนาทีเจอกันนะครับ” “ค่ะป๋า เย้ๆ” หลังจากวางสายจากลูกสาว ปรัชญ์ก็ไม่รอช้า รีบขับรถตรงดิ่งกลับบ้านอย่างปราศจากความลังเลใดๆ ทันที งานเอาไว้ก่อนตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือลูก เมีย แม่ และหมีพู ซึ่งกำลังรอเขาอยู่ที่บ้านทันทีที่ร่างสูงเดินเข้าบ้าน หมีพูกับเด็กหญิงตัวน้อยที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูก็วิ่งมาหาพร้อมกับเรียกผู้เป็นพ่อด้วยความดีใจ โดยมีหมีพูวิ่งตามมาไม่ห่างพร้อมกับกระดิกหางไปมาอย่างดีใจเช่นกัน

  • เมียคืนแรม   บทที่ 96

    บทที่ 96นัสรินเดินเข้าบ้านด้วยอาการของคนที่มีเรื่องครุ่นคิดอยู่ในใจ ทำให้ไม่เห็นว่าพ่อกับแม่นั่งรออยู่ที่โซฟาในห้องโถงชั้นล่าง พลตรีชยุตกับคุณนิภาหันไปมองหน้ากันครู่หนึ่ง จากนั้นคุณนิภาก็เป็นฝ่ายส่งเสียงทักลูกสาว“ไงยัยนัส ไปบ้านพี่ปรัชญ์มาโอเคหรือเปล่าลูก”“อ้าว...คุณพ่อคุณแม่ อยู่นี่เองเหรอคะ” นัสรินเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าบิดามารดาของตนนั่งอยู่ตรงนั้น เธอมัวแต่คิดเรื่องที่ปรัชญ์เพิ่งคุยด้วย ทำให้ประสาทการรับรู้ต่างๆ รวนไปเสียหมด“เป็นอะไรไปลูก ทำไมดูหน้าเครียดๆ แบบนั้น ทะเลาะกับตาปรัชญ์มาเหรอ”“เปล่าค่ะคุณแม่ นัสแค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะค่ะ” นัสรินตอบมารดาเสียงนุ่ม ก่อนจะขยับไปนั่งลงข้างๆ“มีอะไรเล่าให้พ่อกับแม่ฟังได้หรือเปล่า” พลตรีชยุตพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงลูกสาวคนเดียว เพราะปกตินัสรินไม่ค่อยมีท่าทีเหม่อลอยให้เห็นบ่อยนักนัสรินมองหน้าบุพการีทั้งสองอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจขอคำปรึกษาเพราะเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับเธอคนเดียว มันเกี่ยวข้องกับบิดามารดาของเธอด้วย“เมื่อกี้นี้พี่ปรัชญ์เพิ่งจะบอกว่าพี่ปรัชญ์มีคนรักอยู่แล้ว และอยากให้นัสแต่งงานกับคุณปราณต์แทนค่ะ”“ว่าไงนะลูก!” คุณนิภาอุทา

  • เมียคืนแรม   บทที่ 95

    บทที่ 95“แต่คุณปราณต์ไม่ได้ชอบนัสนะคะ อีกอย่างคุณปราณต์อาจจะมีคนรักอยู่แล้วเหมือนที่พี่ปรัชญ์มี” น่าแปลกที่คราวนี้เธอกลับแคร์ความรู้สึกของปราณต์ขึ้นมาเสียมากมาย เดือดเนื้อร้อนใจไปหมดกับความจริงที่ว่าเขาอาจมีคนรักอยู่แล้วก็ได้ ทั้งๆ ที่ตอนถูกพ่อแม่บังคับให้หมั้นกับปรัชญ์เธอกลับไม่ตระหนักเลยว่าปรัชญ์อาจจะมีคนรักอยู่แล้ว คิดแต่ว่าหากปรัชญ์ยอมหมั้นเธอก็ยอมหมั้นตามที่ผู้ใหญ่ต้องการเท่านั้นก็พอ“พี่ปราณต์ยังไม่มีใครหรอก ถ้านัสอยากแต่งกับพี่ปราณต์พี่จัดการให้ได้” “แต่ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับมัดมือชกคุณปราณต์เลยนะคะพี่ปรัชญ์” “ก็เหมือนกับที่แม่บังคับพี่ให้แต่งงานกับนัสนั่นละ แม่ก็คิดแค่ว่าพี่ยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตน ที่พี่พูดอย่างนี้นัสอย่าคิดว่าตัวเองไม่มีค่าหรือถูกโยนให้คนนั้นทีคนนี้ทีนะ แต่พี่ไม่อยากทรยศหัวใจตัวเองและไม่อยากให้ธรินดาต้องเจ็บปวดกับเรื่องนี้” “นัสเข้าใจค่ะและขอบคุณที่พี่ปรัชญ์บอกนัสตรงๆ แต่นัสขอถามอะไรตรงๆ บ้างได้มั้ยคะ” นัสรินยังหนักอึ้งในเรื่องที่ปรัชญ์เสนอมา แต่เธอก็ยังอยากจะรู้ความจริงจากใจเขาให้หมดเปลือกเสียก่อน“ได้ส

  • เมียคืนแรม   บทที่ 94

    บทที่ 94 สี่เดือนก่อน... รถซีดานแบรนด์ยุโรปราคาสองล้านกว่าๆ แล่นออกจากอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่ หลังจากที่ปรัชญ์บอกว่าจะพาคู่หมั้นสาวไปส่ง นัสรินหันไปมองเสี้ยวหน้าของคนขับที่เมื่อครู่นี้ยังพูดจากวนประสาทแม่ของเขาอย่างมีสีสันอยู่เลย ทว่าบัดนี้เขาอยู่ในอิริยาบถที่เงียบขรึมราวกับเป็นคนละคน แม้จะไม่ถึงกับทำให้อึดอัด แต่คนคุยไม่เก่งแบบเธอก็ไม่กล้าชวนคุย นี่เป็นครั้งที่สองที่เขากับเธอได้พบกัน หลังจากหมั้นเสร็จปรัชญ์ก็ไม่เคยติดต่อหรือมาเยี่ยมเยือนในฐานะคู่หมั้นเลยสักครั้ง นัสรินรู้ดีว่าปรัชญ์เองก็คงจะถูกบังคับให้หมั้นเช่นเดียวกับเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจหากเขาจะไม่ใส่ใจหรือทำตัวไม่เหมือนกับคู่หมั้นคู่อื่นๆ “นัสรีบกลับบ้านหรือเปล่า” ปรัชญ์หันมาถามเป็นประโยคแรกหลังจากที่รถแล่นออกมาพ้นอาณาเขตบ้านได้พักใหญ่ “เปล่าค่ะ นัสว่างทั้งวันค่ะพี่ปรัชญ์” “งั้นแวะดื่มกาแฟกับพี่ก่อนนะ ข้างหน้ามีร้านบรรยากาศดี กาแฟก็อร่อย” ปรัชญ์ชวนด้วยท่าทีเป็นกันเองทำให้นัสรินรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น “ได้ค่ะ” หญิงสาวรับคำและยิ้มบางๆ

  • เมียคืนแรม   บทที่ 93

    บทที่ 93“เปิดดูสิ เปิดตอนนี้เลยนะเล็ก” ปรัชญ์เชียร์ทั้งปาก ทั้งสายตา ทั้งสีหน้าที่เหมือนอยากจะให้เธอได้เห็นเหลือเกินว่าของที่อยู่ในกล่องคืออะไร ซึ่งตอนแรกธรินดากะว่าจะเก็บไว้เปิดพรุ่งนี้เช้า แต่เมื่อสามีคะยั้นคะยอเช่นนั้น เธอจึงต้องค่อยๆ แกะโบที่ผูกอย่างสวยงามนั้นออก ก่อนจะเปิดฝากล่องเป็นลำดับสุดท้าย และแล้วสิ่งที่อยู่ในกล่องนั้นก็ทำให้แก้มนวลแดงซ่าน เธอหยิบมันขึ้นมาดูสลับกับมองคนให้อย่างเขินอายสุดกำลัง“นี่มันอะไรกันคะคุณปรัชญ์”“ก็ชุดนอนไง มีหลายชุดด้วย ผ้าดีๆ ทั้งนั้นเลยนะ” ปรัชญ์ตอบอย่างรื่นรมย์“แล้วทำไมมันโป๊แบบนี้ล่ะคะ” ธรินดาถามเพราะถึงแม้ว่าชุดนอนแต่ละชุดที่อยู่ในกล่องนั้นมันสวยและผ้านิ่มมากก็จริง แต่มันกลับเซ็กซี่สุดๆ ทุกตัวล้วนแต่คอเว้าลึกอย่างไม่ต้องสงสัยว่าเวลาใส่จะต้องโชว์เนินอกแน่ๆ แถมยังสั้นเต่อจนเกือบถึงโคนขา บางชุดก็เป็นแบบสองชิ้น ชิ้นบนเป็นเสื้อสายเดี่ยวในลักษณะอวดโชว์เนินเนื้อ ชิ้นล่างเป็นแค่กางเกงชิ้นน้อย เหมือนกับออกแบบมาเพื่อขยี้ใจชายโดยเฉพาะ แล้วเธอจะกล้าใส่ได้อย่างไร“โป๊ที่ไหน เขาเรียกว่าเซ็กซี่ต่างหาก ฉันอยากเห็นเมียเซ็กซี่บ้างไม่ได้เหรอ”“ถ้าชอบผู้หญิงเซ็ก

  • เมียคืนแรม   บทที่ 92

    บทที่ 92แม่เลี้ยงลักษิกายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับธรินดาหญิงสาวที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กและรักเหมือนลูก ซึ่งบัดนี้ได้กลายมาเป็นลูกสะใภ้ของตนอย่างที่หวังไว้จริงๆ แล้ว แม้จะไม่ใช่กับลูกชายคนที่ตัวเองตั้งใจจะให้คู่ด้วยแต่แรกก็ตามที แต่ธรินดาก็ได้แต่งงานกับคนที่เธอรักซึ่งก็เป็นลูกชายของตนเหมือนกัน“แม่ให้เป็นของขวัญแต่งงานนะหนูเล็ก” ธรินดายกมือขึ้นไหว้และรับมาโดยที่ไม่รู้ว่ากระดาษแผ่นนั้นคืออะไร“แล้วของผมล่ะครับ” ปรัชญ์ทวงอย่างไม่จริงจัง เขาไม่ได้ต้องการอะไรอยู่แล้ว เพราะเขาได้ของขวัญที่ดีและมีค่ามากที่สุดในชีวิตซึ่งก็คือผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ตอนนี้นั่นเอง เขาจึงไม่ต้องการอะไรอีก อีกทั้งนับจากนี้ของสิ่งใดที่เป็นของเขาก็จะเป็นของธรินดาด้วยอยู่แล้ว “ไม่มีย่ะ ฉันยกให้ลูกสะใภ้ฉันหมดแล้ว”“เอ...ชักอยากรู้แล้วสิว่าแม่ยกอะไรให้เมียผม”“ก็มรดกทุกอย่างที่เป็นส่วนของแกน่ะสิ”“โหแม่...นี่รักลูกสะใภ้มากกว่าลูกชายตัวเองอีกนะ” ปรัชญ์แกล้งโวยวายเล่นพอเป็นสีสัน“ย่ะ ฉันรักมากกว่ามาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว”“แล้วอย่างนี้ผมจะมีสมบัติอะไรเหลือไว้ให้เมียน้อยบ้างล่ะ” ปรัชญ์ยังมิวายกวนประสาทคนเป็นแม่แม้แต่ในช่วง

  • เมียคืนแรม   บทที่ 91

    บทที่ 91ปรัชญ์พาธรินดาลงมาจากเวที หญิงสาวขอตัวกับเจ้าบ่าวเมื่อเหลือบไปเห็นสาวน้อยรุ่นน้องผู้ทำหน้าที่เล่นเปียโนให้ปรัชญ์ร้องเพลงเป็นของขวัญวันแต่งงานให้เธอเมื่อครู่นี้ ตอนนั้นจันทริกายืนอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่คนเดียวที่มุมห้องคล้ายกับว่ากำลังรอใคร ธรินดาจึงตรงดิ่งเข้าไปหาทันที“จันทร์...”“พี่เล็ก...”“ทำไมมายืนอยู่คนเดียวตรงนี้ล่ะ”“จันทร์ไม่รู้จะคุยกับใครน่ะค่ะ จันทร์ไม่รู้จักใครเลย” สาวรุ่นน้องยิ้มแหยๆ แววตาดูอ้างว้างและตื่นๆ จนคนมองนึกสงสาร“อยากกลับบ้านเหรอ เดี๋ยวพี่ให้คนขับรถไปส่งมั้ย” ธรินดาบอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นใจดีแต่ก็ได้รับการปฏิเสธด้วยการส่ายหน้า“ไม่เป็นไรค่ะ จันทร์ยังกลับตอนนี้ไม่ได้ คุณตะวันสั่งไว้ว่าให้จันทร์รอ”“อ๋อ...จะกลับพร้อมพี่ตะวันใช่มั้ย”“ค่ะพี่เล็ก พี่เล็กไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ จันทร์อยู่ได้ค่ะ”“งั้นพี่ค่อยสบายใจหน่อย พี่ขอบใจจันทร์มากนะสำหรับทุกๆ อย่างในวันนี้”“จันทร์ยินดีค่ะ เสียดายนะคะพี่ขิมมาไม่ได้ ไม่งั้นจันทร์จะบอกให้พี่ขิมสีไวโอลินให้ด้วย เพลงของคุณปรัชญ์คงเพราะกว่านี้” จันทริกาเอ่ยถึงภัคธีมารุ่นพี่ที่เคยอยู่ชมรมดนตรีด้วยกันซึ่งเป็นคนที่มีทักษะทางด้

  • เมียคืนแรม   บทที่ 90

    บทที่ 90“ก็แล้วทำไมคุณปรัชญ์จะต้องล้อเล็กด้วยล่ะคะว่าเสียงครางเล็กเป็นยังไง” เสียงหวานเอ่ยต่อว่าเขาทั้งที่แก้มนวลแดงก่ำ แต่ก็แปลกใจตัวเองที่กล้าตอบโต้เขาแบบนั้น หรือว่าเธอจะซึมซับความเป็นเขาจนเคยชินเข้าแล้วจริงๆ“ล้อที่ไหน ฉันพูดความจริงต่างหาก นะเล็กจ๋านะ ฉันอยากได้ยินเสียงแบบนั้นอีก นี่กี่วันแล้วที่ฉันไม่ได้ยิน จะลงแดงตายอยู่แล้วนะที่รัก” ปรัชญ์ยังทำตัวเป็นผู้ใหญ่ขี้อ้อนที่เรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ธรินดาแทบไปไม่เป็นเหมือนกัน จึงได้แต่ตอบเขาไปด้วยกลอนของวรรณคดีในเรื่องขุนช้างขุนแผน“อดข้าวดอกนะเจ้าชีวาวาย ไม่ตายดอกเพราะอดเสน่หา”“ฉันขอเถียงว่าไม่จริง”“อย่ามัวแต่เถียงกับเล็กอยู่เลยค่ะ มาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำพักผ่อนได้แล้ว” หญิงสาวเอ่ยตัดบท เพราะยิ่งคุยกันนานก็ยิ่งดูเหมือนว่าเธอจะต้านทานลูกล่อลูกชนของเขาไม่ไหว“นี่ฉันกำลังถูกเมียสั่งอยู่ใช่มั้ย” ปรัชญ์เอ่ยสัพยอกอีกพลางลอบถอนหายใจเบาๆ“ไม่ได้สั่งค่ะ แค่เป็นห่วงอยากให้สบายตัว”“จริงเหรอ”“ค่ะ”“ถ้าอยากให้ฉันสบายตัวจริงๆ เธอก็ต้องไปด้วยกัน”ว่าแล้วปรัชญ์ก็ย่อตัวลงช้อนเอาร่างเล็กขึ้นอุ้มทันที“ปล่อยเล็กลงนะคะคุณปรัชญ์...ทำไมจ้องจะเอาเปรี

DMCA.com Protection Status