แชร์

เพียงชั่ววูบ 40

ผู้เขียน: DILEMMA 28
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-21 09:17:10

“ฉันเป็นห่วงเกิดพวกมันกลับมาทำร้ายนายอีกจะทำยังไงฉันไม่ทำอะไรนายหรอกน่าอีกอย่างนายก็ไม่ใช่สเปก” หลุบตามองฝ่ามือที่กุมกันอยู่อย่างนั้นปากพูดไปงั้นแต่ใบหูกลับแดงระเรื่อ

“อ้อ” วินตราขานรับโลกที่มืดมนของเขาเปิดแง้มให้คนตรงหน้าทีละน้อยโดยที่ไม่รู้ตัวเหมือนกันตอนที่เขาหันหลังจะวิ่งหนีความจริงเขาอย่างจะตะโกนเรียกชื่ออีกฝ่ายดังๆแต่ทำได้เพียงร้องเรียกอย่างอื่น

ท่านประธานเฮงซวยและไม่เอาไหนในตอนแรกอาจเป็นคนเดียวกับที่วินตราเรียกร้องขอความช่วยเหลือแต่อีกใจหนึ่งเขาก็อยากให้ความลับอันโสมมนี้มันตายไปกับตัวเองการบอกเล่าเรื่องราวที่ประสบพบเจอมาใช่ว่าจะเป็นการระบายของเสียภายในจิตใจเสียอย่างเดียวซะเมื่อไหร่

ไม่แน่ว่าอาจเป็นการเปิดแผลใจให้อีกฝ่ายไว้ใช้เพื่อทิ่มแทงตัวเขาเองอีกครั้งในวันหน้าวินตราหวาดกลัวและอยากจะลืมมลทินพวกนั้นไปให้สิ้นแต่ภายในหัวสมองเหมือนไม่ยอม

แม้อยากจะลืมให้สิ้นแต่กลับจดจำได้ทุกสิ่งและเป็นสิ่งที่ทำให้เขาถามคำถามย้ำๆกับตัวเอง

เขาเกิดมาเพื่ออะไร?

บางครั้งความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแต่การอยู่ด้วยความหวาดกลัวและระแวงอย่างนี้มากกว่าที่น่ากลัวมากกว่าความตาย

กลิ่นตัวที่คลื่นเหียนกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ที่คละคลุ้งร่องรอยแผลเป็นที่เกิดจากคนที่เรารักมากที่สุดพ่อแม่ไม่ได้เป็นอรหันต์ของลูกทุกคนตอนโตวินตราถึงได้เข้าใจประโยคนี้และมันก็เป็นฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนเขาตลอดมาหลายปีจนเขาสลัดคำถามพวกนั้นไม่หลุด

เขาเกิดมาทำไม? เกิดมาเพื่ออะไร? เพราะอะไรเด็กน้อยที่ไม่ประสีประสาแบบเขาต้องพบเจอชะตากรรมแบบนั้นชดใช้กรรม? หรือเป็นเพียงผลผลิตที่เกิดจากความใคร่ของสองสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ไม่เข้าใจหน้าที่ของพ่อแม่ภาระเลี้ยงดูบุตรที่ให้กำเนิดครอบครัวคืออะไรสายสัมพันธ์พ่อแม่ลูกทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนฝันร้ายไม่น่าจดจำและทิ้งร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์ให้เด็กน้อยคนหนึ่งจนเติบใหญ่

กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีแผลใจหวาดกลัวต่อการสัมผัสไม่กล้าจะสานสัมพันธ์ใหม่ๆกับใครเป็นบุคคลที่ไม่น่าคบหาเพียงเพราะบาดแผลในวัยเด็กบาดแผลที่ผู้ใหญ่สร้างเอาไว้ให้แต่ละวันแต่ละคืนกว่าจะผ่านพ้นขุมนรกพวกนั้น…มันช่างทรมาน

และบางครั้งการทอดมองวิวจากที่สูงก็สวยเสียจนชวนให้คิด…ถ้าเขากางสองแขนเหมือนนกโผบินไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้าจะเป็นยังไงบ้างนะสายลมจะโอบอุ้มเขาเหมือนลมใต้ปีกที่พยุงตัวให้นกน้อยตัวหนึ่งล่องลอยท่ามกลางตึกรามบ้านช่องพวกนี้หรือเปล่า

แต่โชคดีที่ทำได้เพียงแค่คิดและหลงลืมเรื่องบ้าบอพวกนี้ไปเมื่อเจอท่านประธานเฮงซวยโลกที่อึมครึมของเขาเหมือนถูกแง้มออกด้วยภาพลักษณ์กวนๆของอีกฝ่ายหนักไม่เอาเบาไม่สู้เรื่องงานไม่รู้แต่เรื่องกอสสิปนี่สู้ตายพูดต่อยหอยได้เป็นวันและการต้องคอยหาวิธีรับมือกับลูกเล่นเด็กๆพวกนั้นทำให้หัวสมองมีเรื่องอื่นให้คิดแทนพื้นที่ด้านลบการแก้ปัญหาการรับมือกับคนตรงหน้าที่เหมือนผีเข้าผีออกวันดีคืนดีก็หาเรื่องแกล้งเขาสารพัด…แต่อีกใจหนึ่งวินตราก็อยากจะขอบคุณ

วินตราไม่มีบ้านไม่มีครอบครัวมีเพียงตัวเองเป็นที่พึ่งแต่วินาทีที่อยู่ในอ้อมกอดใครสักคนคนที่เป็นห่วงเขาด้วยใจจริงไม่ใช่แสดงออกไปส่งๆเพื่อหวังผลไม่ว่าจะสีหน้าหรือแววตาที่ทอดมองมาทำให้กำแพงหนาทึบที่ตัวเองก่อและขังตัวเองเอาไว้นั้นค่อยๆร่วงหล่นลงมาทีละก้อนๆกำแพงหินทรายที่ก่อขึ้นเพื่อขังตัวเองเอาไว้ในนั้นบัดนี้ถูกกระแสความห่วงหาอาทรค่อยๆแทรกซึมเข้ามาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หากวินตราไม่คิดอคติและเข้าข้างตัวเองมากเกินไปเขาจะเห็นว่าอีกฟากหนึ่งของกำแพงมีใครบางคนพยายามที่จะตะเกียกตะกายปีนป่ายกำแพงนั้นเพื่อเข้าไปหาและไม่อยากให้เจ้าตัวต้องขังตัวเองเอาไว้กับโลกใบเดิมๆโลกที่เปล่าเปลี่ยวปราศจากผู้คนรอบข้าง

วินตราไม่เคยคิดเลยว่าอ้อมกอดมนุษย์จะอบอุ่นถึงเพียงนี้แถมยังเป็นคนแปลกหน้าอีกต่างหากตั้งแต่จำความได้ก็ไม่เคยได้รับอ้อมกอดแม้กระทั่งพ่อแม่ของตัวเองภาพจำมีแต่บาดแผลและความหวาดกลัวที่ท่านทั้งสองมอบให้วินตราไม่เคยสวมเสื้อและกางเกงขาสั้นไม่ว่าจะอยู่บ้านตามลำพังก็ตามนั่นเพราะซ่อนบาดแผลตามร่างกายที่เคยได้รับในสมัยเด็กเอาไว้แต่ชุดคนไข้ที่สวมอยู่ตอนนี้เดนีสที่นั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้มาค่อนคืนแม้ร่องรอยจะจืดจางไปตามกาลเวลาแต่ทว่าภาพจำที่ได้บาดแผลนี้มาคงจะติดอยู่ในใจเจ้าตัวไปตลอดกาลต่างคนต่างมีเรื่องให้ขบคิดอยู่ในหัวความเป็นปรปักษ์ก่อนหน้าระหว่างเจ้านายและเลขาเหมือนน้ำกับไฟที่ไม่ถูกกันกลับทลายกำแพงในใจที่มีช้าๆค่อยๆอิงแอบเข้าหากันไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกันที่ท่านประธานอย่างเขามักจะคอยสังเกตสีหน้าและท่าทางของคุณเลขาหน้าตึงอยู่เสมอแม้ใบหน้าจะราบเรียบไร้อารมณ์แต่บางครั้งแววตากลับวูบไหวคล้ายซุกซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ในนั้นไม่อยากให้ใครได้เห็นและพบเจอ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรละเอียดอ่อนมากแค่ไหนหากอีกฝ่ายเอ่ยปากเขาจะไม่อิดออดแม้แต่น้อยต่อให้ต้องลุยโคลนเหยียบย่ำอยู่บนกองไฟเขาก็จะไปหาเดนีสไม่เคยอยากครอบครองอำนาจในมือขนาดนี้มาก่อนเขาอยากจะเป็นภูเขาลูกใหญ่เป็นกันชนเป็นมุมหลบภัยให้กับคนตรงหน้าภายนอกที่แข็งกร้าวกลับซุกซ่อนบาดแผลเอาไว้มากมาย

ไม่ว่าผู้บงการตัวจริงจะเป็นใครใหญ่มาจากไหนมีอำนาจมากแค่ไหนก็ตามหากเขายังไม่ตายก็อย่าหวังว่าอีกฝ่ายจะแตะต้องวินตราแม้เพียงปลายเล็บไฟลุกโชนในดวงตาของเดนีสทางเดียวที่เขาจะสร้างบารมีได้ก็คือในทางธุรกิจเหมือนอย่างท่านเจ้าสัวเดรโกที่เพียงเอ่ยชื่อก็รับรู้ว่าอีกฝ่ายมีฐานะและทรงอำนาจมากแค่ไหนในแวดวงธุรกิจเขาจะฉีกภาพจำลูกคนรวยหัวกรวยพวกนั้นลบภาพจำที่เขาคือลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัวเขาจะเป็นคนใหม่ที่แข็งแกร่งเฉียบแหลมทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงธุรกิจที่สำคัญต้องมี ‘ล็อบบี้ยิสต์’ (Lobbyist) ที่ไว้ใจได้ในมือหลังจากนั้นฝ่ายที่จะถูกทุบเป็นอันดับแรกคือดารากรสตุลยา!

แม้วินตราจะเปิดเผยความอ่อนแอให้อีกฝ่ายเห็นเพียงเสี้ยววินาทีโดยที่ไม่ตั้งใจแต่เขาเองก็เพิ่งค้นพบว่าอ้อมกอดจากใครสักคนในวันที่อับจนหนทางมันเหมือนพบเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ไม่เพียงร่างกายแต่ยังอบอุ่นไปจนถึงหัวใจที่เคยร้าวรานอบอุ่นจนกลัวว่าหากวันหนึ่งมันหายไป…จะอยู่ไม่ได้

“หมอให้งดน้ำน่ะอดทนหน่อยนะ” น้ำเสียงที่อ่อนโยนแววตาที่มองมาอย่างห่วงใยเปลือกนอกที่แข็งกร้าวและเย็นชาของคุณเลขาถูกกะเทาะออกช้าๆกระบอกตาเริ่มร้อนผ่าวจนต้องผินหน้าไปอีกทางหางตาชื้นเป็นแพน้ำตาสายหนึ่งไหลกลิ้งหายไปกับปลอกหมอนต่างฝ่ายต่างไม่มีปริปากพูดอะไรออกมาอีกความเงียบโอบล้อมพวกเขาเอาไว้ตรงกลางแต่ความเงียบก็ทำให้ต่างฝ่ายต่างรับรู้เสียงลมหายใจของกันและกันแม้ไม่มีคำพูดใดแต่หัวใจที่เย็นเยียบเต้นไปวันๆกลับอบอุ่นกว่าที่เคย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 41

    วินตรานอนสังเกตอาการอยู่ที่โรงพยาบาลเพียงสองวันแต่เดนีสให้คุณเลขาหยุดอีกสามวันเพราะเกิดเหตุในเวลาทำงานพอดีตำรวจเข้ามาสอบสวนอยู่สองสามครั้งก่อนจะขอตัวไปสืบหาผู้ว่าจ้างอีกอย่างลูกกระจ๊อกที่ส่งมาก็เป็นเพียงไอ้ขี้คุกเดนตายที่เข้าออกคุกเหมือนอยู่บ้านไม่สลดและรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไปเท่าไหร่อีกอย่างในคุกเองก็มีหัวโจ๊กให้ความคุ้มครองเป็นไอ้สวะขี้คุกดีๆที่เอาแต่กินนอนท่ามกลางภาษีของคนไทยวินตราเองก็ไม่ได้คาดหวังกับระบอบยุติธรรมสักเท่าไหร่อีกอย่างการจะสาวไปหาผู้บงการตัวจริงก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เจ้าพนักงานเอ่ยปากบางครั้งวงการสีกากีเองก็ไม่สามารถจะทวงความยุติธรรมให้กับเหยื่อได้ง่ายๆเมื่อเจอตอใหญ่ต้องดูด้วยว่าอีกฝ่ายเป็นคนของใคร เดนีสไปรับวินตราที่โรงพยาบาลด้วยตัวเองแถมยังจ้างบอดีการ์ดมือดีมาเฝ้าสันหมัดที่พันผ้าพันแผลไว้หลุดลุ่ยเดนีสไม่ได้ใส่ใจมากนักในขณะที่นั่งรอรับยาอยู่ที่เก้าอี้วินตราก็ดึงเศษผ้าที่หลุดลุ่ยนั้นมาวางที่หน้าตักของตัวเองโดยมีกระเป๋าสะพายวางอยู่ก่อนแล้วเดนีสที่มือซ้ายกดยิกๆที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองชะงัก“มีอะไรเหรอ” วินตราไม่ตอบเพียงแต่แกะแถบผ้าออกช้าๆก่อนจะถาม“ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 42

    “ฉันกอดนายได้หรือเปล่า” วินตราตัวแข็งค้างแต่ยังถามคำถามที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยากได้คำตอบแบบไหน“กอดในฐานะอะไรครับ” “กอดในฐานะเพื่อนมนุษย์เพื่อนร่วมโลกกอดเพื่อแบ่งปันความอบอุ่น—” เดนีสที่ยังพูดไม่จบประโยควินตราก็หันหน้ามาเผชิญหน้า“ฉันไม่ต้องการความสงสาร” ​สรรพนามเปลี่ยนไปไม่ใช่ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องแต่เป็นเพียงวินตรากับเดนีสไม่มียศถาอะไรมาเกี่ยวข้องเป็นเพียงคนสองคนที่ยืนประจันหน้ากันอยู่ตรงนี้วินตราหลุบตาลงแพขนตาเหมือนใบพัดนั้นสั่นระริกแทบจะซ่อนความอ่อนแอเอาไว้ไม่มิดและคนตรงหน้าเป็นเพียงคนเดียวที่ได้เห็นความอ่อนแอความไม่เอาไหนของวินตราเป็นการเปิดเปลือยให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ผ่านมา“ฉันรู้นายเป็นคนเก่งอย่าลืมว่านายเป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่งต่อหน้าคนอื่นนายจะแสร้งทำตัวเข้มแข็งแข็งแกร่งยังไงก็ได้แต่อย่างน้อยเวลาอยู่ต่อหน้าฉันอย่าฝืนเลย…ฉันอาจไม่ใช่คนที่ดีพร้อมแต่อย่างน้อยขอให้ฉันได้เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้นายนายไม่ได้อยู่และต่อสู้ปัญหาเพียงลำพังเพียงแค่นายเอ่ยปาก…ไม่ว่าปัญหาจะเล็กใหญ่แค่นั้นฉันจะช่วยนายแบกเอง” เดนีสเกลี่ยผมที่ปรกหน้าผากของวินตราเบาๆวินตราเองก็ไม่หลีกเลี่ยงสั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 43

    แป๊บๆก็เกือบจะขึ้นปีใหม่วินตราทำงานที่นี่มาเกือบปีปีหน้าเดือนมกราคมก็ครบรอบหนึ่งปีพอดีจากท่านประธานที่เอาแต่ใจทำงานเช้าชามเย็นชามเมื่อเทียบกับตอนแรกที่เจอกันตอนนี้ดีกว่ามากวินตรามองท่านประธานที่สั่งงานกับเลขาหน้าห้องอย่างเป็นระบบตอนประชุมก็ตอบคำถามลับฝีปากกับบอร์ดบริหารได้เป็นอย่างดีความจริงวินตราวางแผนเอาไว้แล้วว่าหากท่านประธานของเขาเติบโตได้อย่างสง่างามเมื่อไหร่วินตราจะลาออกและไปใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการแต่เหมือนโชคชะตาไม่เป็นใจชีวิตเขาที่ไม่รู้เมื่อไหร่พัวพันกับท่านประธานจนเหมือนเงาติดตามตัวแบบนี้ มีท่านประธานที่ไหนมีคุณเลขามือทองที่นั่น งานเลี้ยงพบปะห้าสิงห์เองก็เช่นกันคุณเลขาก็มาส่งและมารอรับเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือมีบอดีการ์ดคอยคุ้มกันห่างๆสองคนวินตราอ่านรายงานรออีกฝ่ายที่ร้านกาแฟข้างๆเช่นเดิม“ไงไอ้นีสการงานไปได้สวยนี่หว่าเห็นว่าแก้ปัญหาใหญ่ได้แล้ว” เวคินเอ่ยถามในขณะที่มืออีกข้างก็แกว่งของเหลวสีอำพันไปด้วย“เออกว่าจะผ่านไปได้เกือบตาย” เดนีสทำหน้าเหม็นเบื่อ“ฮ่าๆ” สานิชหัวเราะเยาะอย่างไม่ไว้หน้า “มึงใจร้อนไอ้นีสต้องเชือดนิ่มๆอย่างคุณชายกิตติกร” สานิชเย้ากิตติกรที่กอดอกอยู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 44

    เดนีสเลิกปาร์ตี้เร็วกว่าที่วินตราคิดไว้เพียงสี่ทุ่ม ปกติต้องเกือบเช้าวันใหม่ ออกจากคลับมาใส่บาตรต่อได้เลยทำนองนั้น เขาเดินเข้ามายังร้านกาแฟที่อีกฝ่ายบอกกล่าว เดนีสกวาดสายตามองไปทั่วร้านก่อนจะมองเห็นแผ่นหลังที่คุ้นตา ยิ่งเห็น ยิ่งอยากโทษตัวเอง ไม่แปลกที่ภายในคอนโดของวินตราจะมีกองขยะสุมกันเต็มห้องหากเขาผ่านเหตุการณ์เลวร้ายขนาดนั้นป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วไม่อาจฝืนทนกล้ำกลืนมาทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้ได้ยิ่งรู้เบื้องหลังอีกฝ่ายเดนีสเองก็ยิ่งตำหนิตัวเองหากเขารู้…จะทำตัวดีกับอีกฝ่ายมากกว่านี้สักหน่อยแต่เรื่องละเอียดอ่อนและน่าอายแบบนี้ใครอยากจะเปิดปากเล่ากันเล่าแล้วใครจะเชื่อความคิดมากมายวิ่งวนในหัวของเดนีส‘อยู่ที่วินตรา’ เดนีสเข้าใจประโยคที่พ่อเขาพูดอ้อมๆแล้วอีกทั้งสื่อยังเลือกที่จะประจานเหยื่อโดยโชว์หน้าหราบนสื่อออนไลน์และปกป้องผู้กระทำผิดที่มีสีมียศตำแหน่งพวกนั้นระยำ! หากเปิดหน้าเผชิญเหยื่อจะต้องใช้ความเข้มแข็งมากแค่ไหนวะสภาพจิตใจไหนจะคอมเมนท์ที่รับสารฝั่งเดียวบางทีโลกใบนี้มันก็โหดร้ายไม่มีพื้นที่ปลอดภัยให้เหยื่อเลยแม้แต่คอมเมนท์สงสารเห็นใจยังไม่มีได้แต่คอมเมนท์ไปตามลมแห่ขึ้นรถท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 45

    เดนีสซบหน้าที่ไหล่มนก่อนจะจุมพิตแผ่วเบา และกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ทำเอาวินตราปั้นสีหน้าไม่ถูก เหมือนมีผีเสื้อนับร้อยบินวนอยู่ในท้อง ไหนจะจุมพิตที่ลาดไหล่เมื่อครู่ แม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้น และลมหายใจร้อนที่รดอยู่ตรงต้นคอทำเอาวินตราร่างกายแข็งค้าง…แม้จะเปิดใจให้แต่ทว่าร่างกายยังไม่คุ้นชิน มีบางครั้งที่รู้สึกต่อต้านอยู่บ้าง “ฉันไม่ทำอะไรนายจริงๆแค่อยากจะกอดอยากจะโอบกอดนายไว้อยากจะส่งต่อความสุขที่ฉันมีให้นายจนหมด” ​ไม่รู้เพราะแอลกอฮอล์หรือเพราะเรื่องสะเทือนใจที่ได้ยินมาทำให้เดนีสเปิดปากเอ่ยถึงความในใจ“ฉันอยากจะทะนุถนอมนายให้มากกว่านี้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงไม่รู้ว่าจะต้องทำแบบไหนนายถึงจะไม่กลัวฉันและไว้ใจฉันฉัน…อยากจะปกป้องนายอยากจะอมนายไว้ในปากไม่ให้ใครได้เห็น” ประโยคหลังรู้สึกแปลกๆเดนีสพูดพลางสูดน้ำมูกไปด้วย“นายรังเกียจคนอื่นได้แต่อย่ารังเกียจสัมผัสจากฉันเลย” น้ำเสียงเจือความเว้าวอนอยู่ในนั้น“ฉันไม่เคยอยากมีอำนาจในมือเท่านี้มาก่อนเมื่อก่อนฉันไม่รู้จะมีมันไว้เพื่ออะไรแต่ตอนนี้ฉันจะมีมันไว้เพื่อปกป้องคนที่ฉันรัก” เสียงประโยคท้ายๆเริ่มยานคางวินตราตัวแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 46

    วินตราตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นอีกฝ่ายแล้วเขาเข้าไปจัดการตัวเองก่อนจะออกมาพบท่านประธานที่นั่งอ่านไอแพดของเขาตรงหน้ามีอาหารเช้าเรียงรายเอาไว้สองสามอย่าง“ท่านประธานทำ?”“ไม่ใช่ฉันแล้วจะใครนั่งลงแล้วกินให้หมด” วินตรากวาดมองอาหารเช้าที่วางเรียงรายตรงหน้าไม่น่าเชื่อว่าท่านประธานเฮงซวยจะทำกับข้าวเก่งขนาดนี้ “มากไป”“น้อยไปต่างหากนายอยู่ได้ยังไงกินแต่อาหารขยะพวกนั้น” “ก็มันสะดวก”“แต่ไม่ดีต่อสุขภาพ” วินตราไม่พูดอะไรก้มทานโจ๊กสีขาวกับเครื่องเคียงสองสามอย่างมีน้ำเต้าหู้ด้วย “ต่อไปเรื่องอาหารการกินฉันจะดูแลเอง” วินตราเงยหน้าขึ้นมาถาม“จะอยู่ที่นี่?” เดนีสทำทียกกาแฟขึ้นมาจิบ “ฉันทนที่จะเห็นห้องรกไม่ได้ต่างหาก”“อ้อ”“และอย่าคิดจะไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาดการจัดการตัวเองเป็นศูนย์ขนาดนี้”“เผด็จการ” วินตรากัดปาท่องโก๋พลางยิ้มที่มุมปากไปด้วยเดนีสตีหน้านิ่งไม่ตอบโต้อะไรอีกวินตราไม่เคยได้รับความอบอุ่นการเอาใจใส่อย่างนี้มาก่อนการตระเตรียมอาหารเช้าให้โดยที่ไม่ต้องร้องขอไม่เหมือนอย่างที่ศูนย์เลี้ยงเด็กเขาเติบโตมาเพียงลำพังมีแต่ความใฝ่ดีที่ทำให้เขาไม่เฉาตายไปเสียก่อนกอบโกยความหวังที่ส่องแสงริบหรี่วิ่งตรงไปข้างห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 47

    การมาทำงานพร้อมกันของคุณเลขาและท่านประธานในทุกๆเช้าไม่ใช่เรื่องแปลกแต่บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองมากกว่าที่ปรียานุชสามารถสัมผัสได้ว่า…มันดีแบบแปลกๆมีโมเมนต์เล็กๆที่บางครั้งเหมือนจะเห็นสายตาท่านประธานทอดมองคุณเลขาด้วยสายตาอ่อนโยนเหมือนทาสแมวที่ไม่ว่าจะโดนข่วนกี่สิบครั้งก็มีความรักให้เหมือนเดิมคุณเลขาเองก็ไม่ได้หน้าตึงเหมือนโมโหอยู่ตลอดเวลาอย่างตอนที่เข้ามาทำงานแรกๆตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนเลขาหน้าห้องกับเลขาส่วนตัวสามารถประสานงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพบรรยากาศรอบๆตัวคุณเลขาเองก็ไม่ได้แผ่รังสีอำมหิตใส่ท่านประธานเหมือนช่วงแรกๆ หรือว่าเธอจะคิดมากไปจนฟุ้งซ่านปรียานุชโคลงศีรษะก่อนจะเคาะพิมพ์รายงานในหน้าจอโดยไม่สนใจเรื่องกอสสิปพวกนี้อีก “ตีมหน้ากาก?” วินตราถามขณะอ่านรายละเอียดภายในงานรวมไปถึงเงินรางวัลการประกวดการแต่งกายส่วนใหญ่งานแบบนี้พวกบอร์ดบริหารไม่ค่อยมากันเดนีสเองปีที่แล้วเขาก็ไม่ได้เข้าร่วมอีกอย่างหากมีพวกบริหารนั่งกันสลอนลูกจ้างคงจะเกร็งๆกันหมดไม่มีเรื่องสุรามึนเมาปีนี้เดนีสทุ่มเป็นหม้อไฟชื่อดังเพราะเขารู้ดีเรื่องปัญหาที่เคยก่อเอาไว้เลยอยากจะชดเชยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้อีกอย่างเรื่อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 48

    ตกเย็นเดนีสก็พาวินตราไปเลือกชุดเสื้อกั๊กสูทมาหนึ่งชุดโดยมีเดนิมเป็นคนจัดแจงให้ “เหมาะมากเลยครับ” ​เดนิมที่กลับมาอยู่บ้านหลังจากขอเลิกรากับอดีตสามีอย่างพิพัฒน์นานๆถึงจะเข้าร้านทีอีกอย่างเป็นงานสำคัญของพี่ชายเขาเลยออกมาร้านมาช่วยเลือกให้ตัวเองแต่เหมือนอีกฝ่ายจะให้เขาช่วยเลือกชุดให้คุณเลขาส่วนตัวมากกว่า“ขอบคุณครับ” วินตราตอบเสียงเรียบแววตาของเดนิมทำเอาวินตราประหม่าอย่างบอกไม่ถูกสายตากลมสุกใสเหมือนตากวางเวลามองมาที่เขาและท่านประธานเหมือนมีอะไรแฝงอยู่ในนั้น“ขอบคุณนะน้องรัก” “ยินดีครับ” ก็จะไม่ให้น้องชายอย่างเดนิมยิ้มได้อย่างไรบัตรเครดิตวงเงินเยอะขนาดนั้นพี่เดนีสไม่เคยให้เขายืมด้วยซ้ำแต่กลับอยู่กระเป๋าสตางค์ของคุณเลขาส่วนตัวจะไม่ให้เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่คนทั้งคู่ได้อย่างไร แถมร้าน JeansShore ยังมีหน้ากากขนนกหลากหลายให้เลือกอีกโจชัวร์พาร์ทเนอร์ร้านที่สวมกางเกงยีนแฟชั่นเปิดหน้าขาจนเหมือนเศษผ้าในความคิดของเดนีสเดินเข้ามาหาพร้อมกับแนะนำหน้ากากแต่ละชิ้นให้คุณเลขาได้ฟังและเลือกอีกฝ่ายพูดน้ำไหลไฟดับจนวินตราเวียนหัวไปหมดเลยหยิบมาสักอันเพื่อตัดรำคาญ “อันนี้แหละครับ”“เหมาะมากเลยครับ” โจชัวร์ด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21

บทล่าสุด

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 80

    “ถอยไปเลยไป” “ด่าฉันด้วยสายตาอีกแล้ว” วินตรารีบคลุมสาบเสื้อชุดคลุมของตัวเองรัดสายคาดเอวอย่างแน่นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นเคืองในกระจกเดนีสก็หอมกระหม่อมคุณเขาซ้ำๆอยู่นั่นไม่สนใจสายตาที่อยากจะสับเขาเป็นชิ้นๆของคุณเลขาในกระจกสักนิดวินตราหวานไปทั้งตัวเหมือนช็อกโกแลตที่ข้างนอกแข็งขึ้นเป็นรูปต่างๆได้แต่พอวางอยู่ในอุ้งมือหรือในโพรงปากก็ละลายออกมาหวานละมุนกลิ่นโกโก้ชั้นดีตีขึ้นในโพรงจมูกจนอยากจะอมไว้ในปากทั้งวันไม่อยากให้ใครได้เห็นได้กลิ่นวินตราเป็นของเขาของเขาคนเดียวเท่านั้นสภาพท่านประธานในตอนนี้เหมือนอยากจะอมหัวเขาเหมือนหมาโกลเด้นที่ออดอ้อนออเซาะเจ้าของไม่รู้จักเบื่อนี่นะเหรอ…ข้าวใหม่ปลามันที่หลายคนพูดถึงแต่วินตราก็ยังเป็นวินตราคนเดิมเขาเป็นคนแสดงออกไม่เก่งแต่ก็ไม่ได้รังเกียจสัมผัสของอีกฝ่ายคนในกระจกเป็นคนแรกและคนเดียวที่วินตราค่อยๆแง้มประตูที่ปิดตายเอาไว้ให้รู้จักตัวตนที่แท้จริงความไม่สมประดีของตัวเองแผลใจไหนจะขยะที่ซุกซ่อนไว้ในใจรวมไปถึงในห้องคอนโดของตัวเองผู้ชายคนนี้ได้รับความรักความอบอุ่นจากครอบครัวจนมันแผ่มาถึงคนนอกอย่างเขาได้ง่ายๆวินตราคิดว่าการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้แย่เพราะเขากลัวว่า

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 79

    “รเร็วกว่านี้” เดนีสยันแขนแต่เอวก็เคลื่อนไหวเนิบช้าแต่ออกสุดตอกจนสุดเช่นกันวินตราแหงนหน้าเมื่อส่วนล่างถูกบดขยี้บี้ซ้ำๆจนสุดโคนจนรู้สึกถึงเส้นขนหยาบแข็งๆกระทบแก้มก้น“เรียกที่รักก่อนสิ” เดนีสซุกที่ซอกคอวินตราพร้อมกับขมเม้มเบาๆก่อนจะงับติ่งหูขาวนั้นดูดดึงจนวินตราครางไม่เป็นภาษาจะหนีไปไหนก็ไม่ได้เดนีสยกยิ้มมุมปาก ‘ติ่งหู’ เป็นอีกจุดที่ไวต่อสัมผัสของคุณเลขาคนสวยวินตราเม้มปากแน่นจนเอื้อมมือไปกำผมของไอ้ประธานเฮงซวยที่ทำตัวขบถแม้กระทั่งจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มอย่างนี้“อึก” เดนีสหัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงกระชาก“แม่งนี่นายเล่นกระชากหัวผัวตัวเองเลยเหรอฉันก็ปรนเปรออยู่นี่ไงที่รัก…อย่าใจร้อน” แถมยังแลบเลียริมฝีปากอย่างมาดร้ายเขาสะบัดหัวจากการกอบกุมจัดท่าขาสองข้างพาดบ่าวินตราตอนนี้ตัวจะม้วนกลับหลังอยู่แล้ว “เอาล่ะทำใจดีๆฉันจะแทงไปจนถึงแกนโลกเลยล่ะ” “อะไอ้!” เดนีสเหมือนนั่งยองแทงซ้ำๆดั่งปากว่าจุดกระสันถูกแทงซ้ำๆอย่างนั้นวินตรากัดปากตัวเองอย่างแรงความเสียวตีรื้นขึ้นมาอีกระลอก “มะไม่ไหว” วินตราส่ายหน้าสะบัดไปมาจนผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมดจังหวะที่เร็วและแรงขึ้นส่งทั้งตัวเองและวินตราไปถึงฝั่งฝันอย่างรวดเร็

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 78

    หรือไม่…อาจไม่เคยเดินสวนทางกันด้วยซ้ำไปเมื่อเห็นวินตราไม่ตอบเดนีสเลยพูดต่ออีกอย่างเขาไม่เชื่อคำสัญญาของวินตราสักเท่าไหร่คุณเลขาของเขาน่ะใจร้ายได้เสมอ“สัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างกันไปจนกว่าจะแก่เฒ่า”“นายเอาจริง?” วินตราถามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเชื่อถืออีกฝ่ายสักเท่าไหร่ตลอดกาลมีจริงๆเหรอแต่ตอนนี้ไม่มีเวลาให้คิดมากนัก “อือฉันเอาจริงและจริงจังถ้านายกล้าทิ้งฉัน…ฉันจะออกตามหานายสุดล่าฟ้าเขียวจะทิ้งทุกสิ่งไปตามหานายไหนๆฉันก็เป็นคุณชายหัวขบถอยู่แล้ว” วินตราดึงแก้มเขาอย่างแรง“ท่านประธานเอาแต่ใจเกินไปแล้ว”“แล้วรักหรือเปล่าล่ะ” วินตราไม่ตอบได้แต่จ้องมองไปยังนัยน์ตานั้นมองภาพใบหน้าตัวเองที่ฉายชัดอยู่ในนัยน์ตาสองคู่นี้“ต้องคิดด้วยเหรอ” เดนีสเย้าแหย่ วินตรายกหัวจุมพิตข้างริมฝีปากนั้นเบาๆก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “ฉันไม่รู้ว่าความรักเป็นยังไงแต่…กับนายมันพิเศษกว่าคนอื่นและสองมือนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดมันทั้งอบอุ่นและปลอดภัยอ้อมอกนี้ก็เช่นกัน” เดนีสมองวินตราอึ้งๆก่อนจะยิ้มโค้งจนตาหยี“นายรักฉันแหละฉันดูออกมาตั้งนานแล้ว” ริมฝีปากประกบกันอีกครั้งครั้งนี้วินตราโอนอ่อนผ่อนตามเปิดเปลือยให้อีกฝ่ายได้ชักนำแ

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 77

    “ฉันปวดไหล่” “นายจ่ายไหวเหรอฉันคิดค่าบริการแพงนะ”“จะเท่าไหร่กันเชียวอย่าลืมฉันถือแบล็กการ์ด”“ฮ่าๆ” เดนีสหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมจุมพิตที่แผ่นหลังขาวเนียนนั้นหนึ่งทีเบาๆ “แสบจริงๆใครไม่รู้คงคิดว่านายเป็นเมียฉัน” “ฝันไปเถอะ” “ใจร้าย”​ นิ้วมือลงน้ำหนักนวดโดยผ่อนแรงลากขึ้นลงเดนีสชอบนวดสปาน้ำมันเขาจึงรู้วิธีการนวดมาบ้าง วินตรานอนใบหน้าข้างหนึ่งแนบที่ท่อนแขนจ้องมองเงาในกระจกที่คุณชายหัวขบถตั้งใจนวดแผ่นหลังให้เขาอย่างมุ่งมั่นวินตรายกยิ้มที่มุมปากบางครั้งท่านประธานของเขาก็ซื่อบื้อของแท้…“สบายหรือเปล่า”​“อือ” “ฉันจะบอกให้ไม่มีใครกล้าใช้ฉันนอกจากนาย…วินตราเพราะฉะนั้นเป็นแฟนฉันได้แล้ว”​“ไม่”“นี่ฉันจริงจังนะ”“ไม่” เดนีสพลิกร่างวินตราให้นอนหงายโดยที่เขาคร่อมทับเค้นเอาคำตอบอย่างเอาเป็นเอาตายหัวคิ้วขมวดจนเป็นปม“ทำไมเป็นแฟนฉันไม่ดีตรงไหน”“ทุกตรง” “หา…อย่างฉันเนี่ยนะไม่ดีฉันดีมากเลยขอบอก” โอ้อวดตัวเองเก่งเป็นที่หนึ่ง“แล้ว” เดนีสก้มหน้าต่ำกระซิบเสียงแหบต่ำข้างหูคุณเลขา“ฉันก็รักนายอย่างสุดหัวใจ” พร้อมจุมพิตไหล่เปลือยเปล่านั้นแผ่วเบา เดนีสพยายามจ้องหน้าคุณเลขาไม่หลุบตามองต่ำไปมากกว่าน

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 76

    “นี่ลองชิมดูเป็นไวน์ตัวใหม่ของ ONLY U แอลฯเพียง 6% น้องชายฉันคิดค้นและปรับปรุงมาตลอดจนได้ไวน์รสชาตินี้ออกมาดื่มง่ายลองสิ” วินตรารับไวน์มาจิบอย่างว่าง่ายตอนนี้เขาไม่ได้กินยารักษาสภาพจิตใจแล้วพร้อมกับเข้าตรวจร่างกายชุดใหญ่ตามคำสั่งของท่านประธานวินตราเป็น (New Male) ที่สามารถตั้งครรภ์ได้ก็จริงแต่เพราะปัญหาทางใจที่รุมเร้ามาตลอดเขาเลยมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนเรียกได้ว่าฮอร์โมนทำงานได้ไม่เต็มที่มดลูกเลยไม่สามารถพัฒนาได้เต็มที่เหมือนคนเป็นหมันแต่ในอนาคตก็ไม่แน่เรื่องราวภายในของคนเรานั้นซับซ้อนวินตราและเดนีสต่างก็นั่งฟังหมออธิบายรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างเดนีสเองก็เข้าตรวจสุขภาพร่างกายประจำปีด้วยเช่นกัน แม้จะมีแอลกอฮอล์ผสมเพียง 6% แต่ดื่มเองไปเกือบขวดวินตราเองก็มึนๆเหมือนกันนานเท่าไหร่แล้วที่เขาทำตัวอยู่ในกรอบไม่ได้ปล่อยตัวปล่อยใจให้แตะต้องของพวกนี้อีกทั้งยังกินยาต่อเนื่องมาหลายปีทำให้ไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พวกนี้ได้บางครั้งชีวิตคนเราก็ต้องการรสชาติที่หลากหลายการพบเจอผู้คนเดิมๆงานเดิมๆก็ทำให้ชีวิตซ้ำซากจำเจอยู่เหมือนกัน โลกของเขาที่คับแคบก็เริ่มเปิดกว้างขึ้นมาเมื่อได้เจอกับเดนีสเด

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 75

    “นายโกหก” น้ำเสียงแผ่วเบาจนสัมผัสถึงของเหลวอุ่นๆที่หยดตรงลาดไหล่ของตัวเองเพราะเดนีสรู้จักวินตราเกินไปต่างหากหากเขายอมปล่อยมือตอนนี้อีกฝ่ายคงหลุดลอยไปไกลอาจไกลเสียจนเขาไม่มีทางตามอีกฝ่ายพบวินตรายังคงเป็นวินตราที่เข้มแข็งโดดเดี่ยวจนถึงขั้นใจดำที่จะหันหลังให้เขาอย่างเลือดเย็นแต่ทว่าเดนีสเองไม่สามารถปล่อยวินตราไปได้ แล้วเขาก็เป็นลูกคนรวยหัวกรวยหัวขบถที่อยากได้อะไรต้องได้ยังไงต้องมีคุณเลขามือทองคนนี้คอยกำราบ! สองแขนของวินตรายกโอบกอดกลับไปเช่นกัน ต่างคนต่างร้องไห้เงียบ ๆ ลูบหลังปลอบประโลมกันอยู่อย่างนั้น“ไปกับฉันที่หนึ่งสิ” เดนีสพูดพลางสูดจมูกไปด้วยเขาไม่อายเลยสักนิดที่จะร้องไห้ออดอ้อนต่อหน้าวินตราวินตราไม่ตอบแต่พยักหน้าเป็นอันว่าตกลงเดนีสยกยิ้มมาดร้ายที่มุมปากคิดจะหนีไปจากเขางั้นเหรอ…ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกวินตรา!เดนีนสบถอย่างหัวเสียเมื่อคุณนิติพลรายงานเรื่องประธานตัวจริงที่ยังมีชีวิตอยู่ขอลาต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ตอนนี้ที่บริษัทก็ผ่านช่วงวิกฤตมาได้พร้อมกับกำจัดเห็บไรไปได้หลายตัวแถมยังดำเนินการภายใต้แฝดน้องอย่างเดนีนที่แสร้งตีหน้าขรึมเป็นเดนีสแฝดพี่เพราะความเป็นแฝดที่เหมือนกันจนแทบจะโคลนกัน

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 74

    “ผมว่าจะขอลาออกครับ” ท่านเจ้าสัวเอนพนักพิงเก้าอี้จ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ก้มหน้าเอ่ยบอกความต้องการ“แล้วเดนีสล่ะ” วินตราเม้มปากแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป “วินตราฉันเห็นเธอเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่งอดีตก็คืออดีตฉันยอมรับที่ความสามารถของเธอมากกว่าเรื่องอื่นเป็นรอง” “ผมทราบครับ”​“วันไหนที่เธอเปลี่ยนใจกลับมาที่นี่ได้เสมอ” “ครับ” วินตรายกมือไหว้ท่านเจ้าสัวอย่างนอบน้อมตั้งแต่เกิดเรื่องเขาก็เก็บตัวอยู่ที่บ้านท่านเจ้าสัวตลอดตอนนี้เหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายแล้วเขาเองก็ควรจะมีชีวิตของตัวเองสักที ตอนนั้นที่เขาหนีกบดานเอาชีวิตรอดจากสาสินก็นึกถึงท่านเจ้าสัวเป็นคนแรกตอนแรกก็กล้าๆกลัวเพราะหลักฐานที่มีนอกจากจะไม่สามารถรักษาชีวิตตัวเองได้แล้วหลักฐานพวกนี้อาจจะเป็นเถ้าถ่านในกองไฟก็เป็นได้แต่แล้ววินตราก็ไม่ผิดหวังนึกถึงคำถามนั้นที่ท่านเจ้าสัวได้ให้ไว้กับตัวเอง“ฉันรู้ว่าเธอเองก็ลำบากใจแต่วันไหนที่เธอเข้มแข็งและสามารถหยัดยืนเผชิญหน้ากับเรื่องพวกนี้ได้เมื่อไหร่ขอเพียงเธอเอ่ยปากฉันจะช่วยเธออย่างสุดความสามารถ” ตอนนั้นวินตรายังคิดไม่ตกอย่างที่เคยบอกเหตุการณ์เหล่านั้นกัดกินใจเขาจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคนวินตราเด็

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 73

    การออกมาปรากฏตัวและให้สัมภาษณ์สื่อของวินตราในฐานะเหยื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคมอย่างมหาศาลเด็กทุนที่ลังเลที่เคยตกเป็นเหยื่อไม่กล้าเปิดเผยตัวและผู้คนที่ถูกคุกคามทางเพศไม่ว่าจะเป็นบ้านที่ทำงานสถานศึกษาต่างก็ตบเท้าเข้ามาให้ปากคำอย่างไม่ขาดสาย ต่างก็แชร์เรื่องราวของตัวเองผ่านโลกออนไลน์สร้างความตื่นตัวและตระหนักรู้ในสังคมเป็นอย่างมากอย่าอายจนลืมที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหนก็ไม่มีใครควรถูกคุกคามทางเพศ!วินตรายืนอยู่ตรงหน้าช่องบรรจุอัฐของวัดแห่งหนึ่งย่านปริมณฑลก่อนตายจินตะได้พูดว่าอยากจะบวชสักครั้งก่อนตายแต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างใจนึกวินตราจึงตัดสินใจควักเงินเก็บตัวเองก้อนใหญ่ออกมาซื้อสถานที่จัดเก็บอิฐเอาไว้ตามปรารถนาสุดท้ายของจินตะตอนนั้นวินตราเป็นเพียงนักศึกษาปริญญาตรีปีหนึ่งคนหนึ่งไม่รู้เลยว่าในโลกนี้มีการจัดเก็บอัฐิไว้ 4 รูปแบบด้วยกันคือ1.) ช่องจัดเก็บอิฐตามกำแพงวัด2.) จัดเก็บตามเสาไฟของวัด3.) จัดเก็บตามอาคารศาลาหรือกุฏิซึ่งจะเตรียมช่องจัดเก็บอัฐิไว้บนขื่อหรือหน้าประตูตามความเหมาะสมของสถานที่4.) ห้องไว้สำหรับจัดเก็บอัฐิโดยเฉพาะซึ่งสถานที่จะเป็นที่จัดเก

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 72

    ก้องการุณย์ลั่นไกโดยที่ไม่ต้องคิดเมื่อเจนจัดหันปลายกระบอกปืนมายังผู้บริสุทธิ์ที่ด้านล่างแม้จะเล็งที่ข้อมือข้างที่ถือปืนแต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจนจัดจะถนัดยิงปืนทั้งสองข้างอีกฝ่ายตะเกียกตะกายพลิกร่างกายอย่างรวดเร็วจ่อปากกระบอกปืนที่ขมับของตัวเองคนอย่างเจนจัดไม่มีทางจนตรอกหากจะตายก็ต้องตายด้วยน้ำมือตัวเองเท่านั้น…ปัง! แต่ทว่าสวรรค์คงมีตาไม่อยากให้คนชั่วได้ตายง่ายๆแม้ว่าจะเล็งที่ขมับของตัวเองแต่ก็พลาดเฉียดไปเท่านั้นงานนี้เจนจัดได้นอนทรมานติดเตียงยาวนานพอที่จะลิ้มรสความทุกข์และบาปกรรมที่ได้ทำลงไปอย่างเต็มที่แม้อยากจะตายก็ตายไม่ได้อยู่ฟังเสียงผู้คนก่นด่าสาปแช่งและประณามจนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง ศิราณีเองก็ร่ำไห้ปานจะขาดใจเธอไม่ได้ร้องไห้ให้กับไอ้สามีเฮงซวยนั้นแต่ร้องไห้ให้กับความขี้ขลาดของตัวเองหากเธอกล้ายืนหยัดและเชื่อในคำพูดของลูกชายตั้งแต่เนิ่นๆเรื่องราวคงไม่บานปลายจนมาถึงขั้นนี้ไอ้เจนจัดทำลูกคนอื่นไม่พอยังทำลูกตัวเองด้วยสารเลว! แม้จะไม่ใช่การล่วงละเมิดทางเพศแต่การลูบคลำก็ทำให้ลูกชายและลูกสาวมีแผลใจและรังเกียจพ่อตัวเองหมามันยังไม่คิดอกุศลกับลูกตัวเองศิราณีปิดหน้าร่ำไห้กับพื้นอย่าง

บางทีคุณอาจจะชอบ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status