Share

CHAPTER 1.1 : คุณหนูแห่งแม็กมารีนาซ

ร่างสูงใหญ่ก้าวเท้าเข้าสู่คฤหาสน์ตระกูลแม็กมารีนาซ ก่อนจะเลิกคิ้วเมื่อเห็นรถคูเป้สองประตูของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน นั่นแสดงว่าอีกฝ่ายกลับมาถึงบ้านแล้ว ชายวัยเกือบหกสิบเร่งสืบเท้าเข้าบ้านก่อนจะส่งกระเป๋าเอกสารให้แม่บ้าน

“นลินกลับมาแล้วเหรอ”

“ค่ะคุณท่าน คุณหนูกลับมาตั้งแต่เที่ยงแล้วค่ะ แต่เก็บตัวอยู่ในห้องทำงานของคุณท่านไม่ยอมให้ใครเข้าไปเลยค่ะ”

“หือ? ห้องทำงานฉันเหรอ? นลินก็มีห้องทำงานตัวเองนี่”

“ใช่ค่ะ เอ่อ...คุณเบนนี่บอกว่ามีเรื่องเกิดขึ้นบนเรือเมื่อสัปดาห์ก่อน มีเรื่องอะไรร้ายแรงรึเปล่าคะ”

“ไม่มีอะไรมากหรอก เรื่องนั้นนลินโทร. มาบอกแล้ว แต่ไม่ได้เล่ารายละเอียด” เทรนต์เอ่ยก่อนจะมองหาภรรยา “มินนี่อยู่ไหนครับ”

“เพิ่งออกจากห้องทำงานคุณท่านเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน แต่หน้าตาไม่ค่อยดีเลยค่ะ ไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกับคุณหนูรึเปล่า”

“ทะเลาะกัน? คู่นี้ทะเลาะกันแค่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละ”

พูดจบเทรนต์ก็สาวเท้าไวๆ ก้าวขึ้นชั้นสองตรงไปยังห้องทำงานของตัวเอง แล้วเปิดประตูเข้าไปเห็นใบหน้าขาวกำลังขมวดมุ่นเคร่งเครียด ดวงตาคู่สวยจับจ้องหน้าจอแท็บเล็ตอย่างจดจ่อ

“นลิน”

“แด๊ด! กลับมาแล้วเหรอครับ”

“เพิ่งกลับนี่ล่ะ โรซี่บอกนลินกลับมาตั้งแต่เมื่อเที่ยง กินอะไรหรือยัง” เอ่ยถามพลางทรุดกายนั่งบนโซฟาตัวยาว

“ครับ นลินกินแล้ว เอ่อ...นลินมีเรื่องจะปรึกษาแด๊ดหน่อยน่ะครับ”

“ใช่เรื่องที่ทะเลากับมินนี่หรือเปล่า”

“ไม่ได้ทะเลาะครับ คุณแม่เป็นห่วงมากเกินไป”

“เรื่องอะไรที่ทำให้มินนี่ห่วงนลินขนาดนี้กันล่ะ? ใช่เรื่องจากเมืองไทยรึเปล่า”

“คุณแม่ก็ห่วงแค่เรื่องนั้นนี่ครับ”

“เพราะงั้น...นลินถึงต้องทำตัวเป็นเบต้าไงล่ะ”

“ก็ใช่ครับ แต่ไม่น่าจะทันแล้วล่ะครับแด๊ด”

เทรนต์หรี่ตามองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทันที แม้ไม่อยากจะยอมรับนัก แต่นลินนั้นฉลาดเกินวัย ทั้งยังอ่านคนออก และเป็นคนความจำดีเสียด้วยสิ

“ใช่เรื่องที่เกิดบนเรือไหม”

“ครับ ชาวเอเชีย...ไม่สิ! เจาะจงกว่านั้นก็คือคนไทย เขาแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวมาขึ้นเรือของเรา แล้วเขาก็แอบวางยานลิน แต่นลินจัดการแล้ว”

“ยังไง? บอกแด๊ดมาซิ”

นลินหรี่ตาก่อนจะกอดอก “แด๊ดไม่รู้น่าจะดีกว่านะครับ”

“แล้วตกลงจะเอายังไง”

“นลินอยากรู้ความจริง นลินจะบินไปเมืองไทย”

“มันอันตรายมากนะนลิน นลินก็รู้ว่าแม่ของนลินต้องลำบากแค่ไหนเพื่อจะพานลินหนีมานี่”

“เพราะรู้นี่แหละ นลินเลยต้องไป นลินจะต้องรู้ให้ได้ว่าคนที่ตามล่าคือพ่อผู้ให้กำเนิดจริงไหม”

“นลินไม่เชื่อที่มินนี่พูดเหรอ”

“ไม่เกี่ยวกับเรื่องเชื่อไม่เชื่อ แต่นลินมีเซ้นส์ครับแด๊ด ขนาดแด๊ดที่ไม่ได้เป็นพ่อแท้ๆ ของนลิน ไม่เคยเห็นตอนนลินเกิดยังรักนลินขนาดนี้ แล้วพ่อจะฆ่านลินได้ลงจริงๆ เหรอ นลินจะต้องหาคำตอบให้ได้”

“แล้วนลินจะไปเมื่อไหร่”

“เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ แด๊ดช่วยนลินได้ไหม”

“ได้สิ แต่แน่ใจแล้วใช่ไหมที่จะไป”

“ครับ” นลินรับคำอย่างหนักแน่น

“แด๊ดคงห้ามนลินไม่ได้ใช่ไหม” เทรนต์เอ่ยถามพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

“แด๊ดก็รู้จักนลินนี่ครับ ถ้ามันคาใจ...นลินคงไม่ชอบเท่าไหร่ อีกอย่าง...ถ้าพวกนั้นตามนลินได้ คุณแม่ก็คงไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ นลินจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายแม่เด็ดขาด”

“งั้นแด๊ดจะเป็นคนติดต่อครอบครัวของมินนี่เอง”

“จะให้นลินไปอยู่กับคุณตาคุณยายเหรอครับ”

“ใช่สิ ที่นั่นนลินอยู่ได้อย่างปลอดภัยแน่นอน และระหว่างอยู่เมืองไทยแด๊ดจะให้เบนนี่กับพาร์ดี้ไปคอยตามดูแลด้วย”

“แต่ว่า...”

“ถ้ามีข้อโต้แย้ง แด๊ดจะไม่ยอมให้ไป ต่อให้ต้องขังนลิน...แด๊ดก็จะทำ”

นลินสบตาบิดาผู้เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เจ็ดขวบ นัยน์ตาสีฟ้าเคร่งขรึมเอาจริงจนคนที่รู้จักอีกฝ่ายมาถึงสิบเจ็ดปีต้องยอมแพ้ แม้เทรนต์จะตามใจเขาแค่ไหน คอยสปอยล์เขาเพียงใด แต่ก็ยังทำหน้าที่บิดาคอยสั่งสอนเขาเป็นอย่างดีเสมอมา

นลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะยกมือยอมแพ้ “ก็ได้ครับ นลินยอมครับ”

“ก่อนไปก็ไปฝังยาฝังด้วยนะนลิน แด๊ดจะนัดหมอไว้ให้ น่าจะใกล้เวลาต้องไปฝังซ้ำแล้วด้วย”

“ขอบคุณนะครับแด๊ด”

“ไปอยู่เมืองไทยก็ระวังตัวด้วย อย่าได้เผลอไว้ใจอะไรใครง่ายๆ ระวังเรื่องฟีโรโมนด้วยนะ ถ้าคนพวกนั้นสงสัยก็คงต้องรู้ว่ากลิ่นฟีโรโมนของนลินเป็นยังไง”

“นลินรู้ครับแด๊ด ขอบคุณนะครับที่แด๊ดทำให้ทุกอย่างเลย”

“แน่นอนสิ จำไว้นะ...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นลินยังมีแด๊ดกับแม่ที่นี่ และแด๊ดก็รักนลินมากนะ”

“นลินก็รักแด๊ดครับ” นลินเอ่ยพลางผุดลุกมาโอบเอวของบิดาไว้ “แม้แด๊ดจะไม่ได้เป็นพ่อแท้ๆ แต่นลินก็รัก...รักเหมือนที่รักคุณแม่”

“นลินของแด๊ดเป็นเด็กดีจริงๆ เลยนะ เอาล่ะ! ถ้านลินตัดสินใจจะไปก็ไปพูดกับมินนี่ให้เข้าใจ อย่าทำให้มินนี่เป็นห่วงรู้ไหม แม่ของนลินรักนลินมากที่สุดในโลก สำหรับมินนี่แล้ว...นลินสำคัญที่สุด”

“นลินรู้ครับแด๊ด”

“แล้วถ้าเจอปัญหาอะไรที่เมืองไทย ก็รีบติดต่อแด๊ดทันทีนะรู้ไหม ต้องติดต่อแด๊ดบ่อยๆ ด้วยนะ”

“ครับแด๊ด นลินสัญญา”

“แด๊ดเชื่อที่นลินสัญญา เพราะนลินไม่เคยผิดสัญญาสักครั้ง”

นลินหอมแก้มบิดาทันที ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของบิดาไปยังห้องพักผ่อน ซึ่งเป็นห้องประจำของมารดา ขณะที่เทรนต์ตัดสินใจกดโทรศัพท์ติดต่อญาติของภรรยาในประเทศไทย

เสียงเคาะประตูและเสียงใสที่คุ้นเคยทำให้คนด้านในหันมองยังประตูห้อง ร่างบอบบางสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรซึ่งเป็นเจ้าของเรือนผมสีดำชาร์โคลตัดสไลด์ประบ่าที่ดัดปลายงุ้มเข้าหาต้นคอเดินเข้ามาแล้วทรุดกายนั่งกอดมารดาอย่างออดอ้อน

“แม่ครับ...นลินขอโทษนะครับ แต่นลินอยากไปเมืองไทยจริงๆ”

“นลินบอกแม่เองไม่ใช่เหรอว่าเขาจ้างคนมาวางยานลินจนฮีท แบบนั้น...เขาก็ต้องรู้แล้วว่าคือนลิน”

“และนั่นก็ทำให้คุณแม่ตกอยู่ในอันตรายไงครับ นลินต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม”

“มันอันตรายนะนลิน”

มือเรียวขาวลูบเส้นผมสีดำชาร์โคลของลูกชาย ขณะสบดวงตาลักษณะเดียวกันบนดวงหน้าขาว นวมิณทร์จับปอยผมบุตรชายทัดกับใบหู แล้วจุมพิตหน้าผากอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง

“แต่ถ้านลินไม่จัดการ มันจะอันตรายกว่านี้นะครับ”

“แม่รู้ครับ” นวมิณทร์ตอบพลางลูบเส้นผมนุ่ม “แต่แม่เป็นห่วงนลินนะรู้ไหม”

“นลินรู้ว่าแม่เป็นห่วง แต่นลินไม่ได้ไปทำคนเดียว ไม่ได้ไปคนเดียวด้วยครับ”

“หือ? นลินไปกับใครน่ะลูก”

“เบนนี่กับพาร์ดี้ครับ แด๊ดไม่ยอมให้นลินไปคนเดียว แล้วก็ยังให้นลินไปอยู่กับคุณตาคุณยายด้วย”

“จริงเหรอ? เทรนต์ทำแบบนั้นเหรอ”

“ครับ ผมทำเพื่อนลินและมินนี่ไงครับ”

นลินยิ้มกว้างให้ชายผมบลอนด์ที่เดินเข้ามาในห้องพักผ่อน เทรนต์ทรุดกายนั่งข้างนวมิณทร์พลางจุมพิตขมับของภรรยาอย่างรักใคร่

“ผมขอบคุณนะครับเทรนต์ คุณทำเพื่อพวกเรามาตลอด”

“พูดแบบนี้อีกแล้วนะมินนี่ เราอยู่กันมาเกือบยี่สิบปี...ผมน่ะรักคุณมากกว่าที่คิดนะมินนี่ และเพราะผมรักคุณ ผมก็เลยรักนลินมากเหมือนกัน ผมอยากให้คุณสองคนปลอดภัยและมีความสุขที่สุด”

“เพราะงั้น...คุณแม่ต้องให้นลินไปจัดการทุกอย่างที่เมืองไทยนะครับ”

“ก็ได้ครับคุณลูก เพราะคุณแท้ๆ เลยเทรนต์ นลินถูกตามใจจนเอาแต่ใจแบบนี้ไงล่ะ”

“ก็นลินเป็นลูกของเรานี่ครับ ผมก็อยากให้นลินมีอิสระคิด มีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ที่เขาอยากทำ และผมเชื่อว่าเราสองคนเลี้ยงนลินมาให้เป็นเด็กดี นลินก็เลยคิดถึงมินนี่ตอนที่รู้ว่าตกอยู่ในอันตราย”

“ผมเข้าใจแล้วครับเทรนต์ ยังไงก็ต้องระวังตัวนะนลิน ถ้าเกิดอะไรขึ้นรีบโทร. หาแด๊ดกับแม่นะ อยู่ที่นั่นก็อย่าดื้อกับคนที่บ้านกิตติวรกานต์นะ”

“สัญญาเลยครับ” นลินคลี่ยิ้มรับทันที

นวมิณทร์เอนกายพิงกับอกแกร่งของสามีขณะรั้งร่างของบุตรชายเข้าสู่อ้อมกอด พลางโอบกอดเอวเล็กของนลินที่กอดมารดาทั้งตัว แล้วถูใบหน้ากับอกแบนราบของโอเมก้าชายวัยเกือบห้าสิบ ใช้เวลาทั้งหมดตอนนี้ซึมซับความอบอุ่นจากคนที่นลินเรียกได้ว่าคนในครอบครัว

ดวงตาเรียวสีดำวาววับเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบนเรือแม็กมารีนาซเมื่อสัปดาห์ก่อน นลินไม่รู้ว่าถูกวางยาตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ถูกอัลฟ่าชาวไทยกลุ่มหนึ่งไล่ตาม เขาวิ่งหนีเอาตัวรอดจนไปชนกับอัลฟ่าหน้าคมที่เพิ่งออกจากห้องพัก เขาจึงผลักอีกฝ่ายเข้าห้องแล้วใช้เป็นเครื่องมือลดอาการฮีท

แม้อยากจะนึกขอโทษผู้ชายคนนั้นที่เขาหนีมาเสียก่อนทั้งที่เขาเองก็ติดใจอีกฝ่ายไม่น้อย ทว่าเพราะเขาคือคุณหนูแห่งแม็กมารีนาซ เขาย่อมต้องจัดการคนที่กล้ามาหยามเขาถึงถิ่นเพื่อจัดการผู้ชายทั้งสามคนที่กล้าไล่ต้อนเขาด้วยมือของเขาเอง

และแน่นอนว่า...ทุกคนที่อยู่บนเรือของเขาไม่หลุดรอดสายตาของเขาอย่างแน่นอน

แม้นลินจะเป็นโอเมก้าในคราบเบต้าอย่างไรก็ยังคงเป็นโอเมก้าที่ไม่สามารถต้านยากระตุ้นฮีทได้ ทว่าการถูกวางยากระตุ้นก็เหมือนการหยามศักดิ์ศรีคุณหนูแห่งมารีนาซ และเขาไม่ปล่อยคนพวกนั้นให้รอดมือเป็นอันขาด หากแค่ฟีโรโมนอัลฟ่าคงทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาฝังยาป้องกันการกระตุ้นฮีทด้วยฟีโรโมน ทั้งยังป้องกันการเกิดฮีทและระงับฟีโรโมนของเขาด้วย แต่เพราะคนพวกนั้นตั้งใจวางยา ไม่ใช่เพื่อจะได้นอนกับโอเมก้า แต่มีจุดประสงค์อย่างอื่น

นัยน์ตาสีดำเรืองรองอย่างไม่รู้ตัวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์บนเรือแม็กมารีนาซ นลินยังขุ่นเคืองไม่หาย แม้เขาจะจัดการวายร้ายพวกนั้นด้วยมือของตัวเองแล้ว แต่นลินก็รู้ดีว่ามีคนที่อยู่เบื้องหลัง และเขาจะไม่ยอมถูกเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาต้องเดินทางข้ามมหาสมุทรเพื่อจัดการปัญหานั้นด้วยมือของตัวเอง

...และอย่าหวังว่าเขาจะยอมรามือง่ายๆ

ไม่มีทาง!

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status