หน้าหลัก / LGBTQ+ / เด็กดีของนลิน / CHAPTER 3.2 : อยากเจอก็ต้องได้เจอ

แชร์

CHAPTER 3.2 : อยากเจอก็ต้องได้เจอ

ผู้แต่ง: ป.ปลาอุ๋งอุ๋ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-03 17:01:03

ภาพข่าวขาวดำที่ถูกเก็บไว้อย่างดีในกล่องเหล็กถูกเปิดออกดูซ้ำมาหลายครั้งหลายหนร่วมยี่สิบปี ชายวัยห้าสิบต้นๆ ยังคงหยิบจับลูบไล้มันซ้ำๆ ก่อนจะดูภาพครอบครัวสีซีดของตัวเองที่ถ่ายเมื่อประมาณยี่สิบปีก่อน และนี่คงเป็นภาพสุดท้ายที่เขาได้ถ่ายร่วมกับภรรยาและลูกชาย

เสียงเคาะประตูทำให้เขาชะงัก มือที่กำลังเก็บความทรงจำทุกอย่างใส่กล่องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงจากด้านนอก นั่นทำให้เขารู้ว่าคนที่เคาะประตูคือคนสนิท จึงส่งเสียงอนุญาต

“ได้เรื่องบ้างไหมพระลพ”

คนที่ถูกเรียกว่าพระลพมองกล่องเหล็กแกะสลักลายซึ่งดูเก่ามากแล้ว ทว่าเจ้าของกลับยังคงรักษาทุกอย่างไว้อย่างดีก็ให้นึกสงสารชายตรงหน้าที่ใบหน้าดูอายุร่วงโรยมากกว่าวัยที่แท้จริง

“ได้มาไม่มากเท่าไหร่ครับ หลังการจัดฉากอุบัติเหตุและเพลิงไหม้ครั้งนั้น ทั้งสองหนีไปอยู่อเมริกาและมีเศรษฐีในซีแอตเทิลคอยดูแล”

“เจาะจงกว่านั้นได้ไหม คนที่พวกเขาไปอยู่ด้วยเป็นใคร แล้วพวกเขาเป็นยังไงบ้าง สุขสบายดีไหม”

“ยังสืบเรื่องนั้นไม่ได้ครับ เพราะคุณตฤนปิดบังตัวตนเปลี่ยนชื่อใหม่ด้วย แถมยังตามหาผู้ชายโอเมก้าวัยยี่สิบสี่ไม่เจอด้วย ไม่รู้ว่าคุณตฤนปกปิดตัวตนคุณหนูนลินด้วยหรือเปล่า อาจต้องใช้เวลาหน่อยนะครับ แล้วเรื่องที่คุณท่านให้ผมตามสืบก่อนหน้านี้จะให้ทำยังไงครับ”

“ฉันอยากจะจัดการ แต่ก็เป็นห่วงตาภัค ถึงจะยังไงตาภัคก็เป็นลูกชายฉัน ส่วนนั่นก็เป็นแม่ของเขา และถึงเธอคิดจะทำร้ายตฤนกับนลิน แต่ความจริงแล้วก็ไม่ได้ทันลงมือ ไม่มีหลักฐานโยงไปหาเธอเลย”

ลาภิณก้มมองรูปถ่ายในมืออีกครั้ง เขาพยายามมาหลายปีเพื่อตามหาภรรยาและลูกชายคนโต พยายามอย่างหนักมาหลายปี ทว่าสุดท้ายกลับไม่คืบหน้าเลยสักนิด เขาเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว...เขาอยากจะเจอตฤนและนลินก่อนจะจากโลกนี้ไป

“คุณท่านอย่าเพิ่งคิดมากเลยนะครับ พวกผมจะตามหาตัวคุณหนูนลินให้เร็วที่สุด”

“ขอบใจมากนะพระลพ”

“คุณท่านพักผ่อนก่อนดีไหมครับ”

“อยู่คุยกับฉันก่อนสิพระลพ มีแค่นายคนเดียวที่ฉันจะพูดเรื่องของตฤนและนลินได้”

“ทำไมคุณท่านไม่พูดเรื่องนี้กับคุณไตรล่ะครับ ถ้าคุณไตรรู้ความจริงจะต้องเข้าใจ”

“พี่ไตรไม่เปิดโอกาสให้ฉันเข้าไปพูดด้วยเลยสักนิด”

“ยี่สิบปีแล้วนะครับ คุณไตรไม่หายโกรธบ้างเหรอครับ”

“ถึงตฤนและนลินจะไม่ตาย แต่สำหรับพี่ไตรก็คงคิดว่าฉันเป็นคนฆ่าพวกเขาทั้งคู่ ถ้าสองคนนั่นไม่จัดฉากแกล้งตายก็คงตายไปแล้วจริงๆ แล้วทั้งหมดก็คงเป็นความผิดของฉัน”

“ไม่ใช่ความผิดของคุณท่านนะครับ”

“แกพูดแบบนั้นเพราะรู้ทุกอย่าง แต่ครอบครัวกิตติวรกานต์ไม่ได้รู้ความจริงพวกนั้น พวกเขาคิดว่าฉันไม่รักตฤน ไม่รักนลิน คิดว่าฉันจะทำตามที่พ่อบอก...คิดว่าฉันจะทอดทิ้งตฤนและนลิน ถ้าตอนนั้นฉันปฏิเสธไปตรงๆ ไม่ลังเล ไม่แบ่งรับแบ่งสู้ ถ้าฉันกล้าลุกขึ้นสู้ กล้าต่อต้านพ่อ ตฤนกับนลินก็คงยังอยู่กับฉัน ตอนนี้ฉันก็คงมีสองคนนั้นอยู่เคียงข้าง”

“คุณท่าน...” พระลพเรียกเจ้านายพลางกุมมือของคนที่เลี้ยงดูมาวางบนศีรษะของตัวเอง

“ขอบใจแกมากนะพระลพ ถ้าไม่มีแกฉันคงเชื่อที่ทุกคนบอกว่าตฤนและนลินตายไปแล้ว”

“ไม่จริงหรอกครับ คุณท่านเชื่อมาตลอดว่าคุณตฤนและคุณหนูนลินยังอยู่”

“แต่พวกเขาคงไม่อยากเจอฉัน ตฤนรักฉันมาก...แต่เพราะฉันเอง ทั้งที่ตอนนั้นตฤนก็กังวลเรื่องที่พ่อฉันคิดจะให้ฉันแต่งงานการเมือง และเพราะความลังเลของฉัน สุดท้ายเขาก็เข้าใจผิดแล้วไปจากฉัน”

“สุดท้ายคุณตฤณและคุณหนูนลินจะต้องเข้าใจคุณท่าน”

“มันอาจจะไม่ทันแล้วก็ได้นะพระลพ แกก็รู้ว่าฉันเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว”

“คุณท่านต้องอดทนนะครับ ผมจะตามหาทั้งคู่ให้เจอ ผมจะทำให้ทั้งสองคนเข้าใจคุณท่าน”

ลาภิณแค่นยิ้มออกมา เขารักตฤนมาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งได้กลิ่นฟีโรโมนดอกกล้วยไม้ครั้งแรก เขาก็รู้ได้ทันทีว่าตฤนคือคนที่เขาจะใช้ชีวิตด้วยจนกว่าจะตายจากกัน ตฤนคือคนคนเดียวที่เขาจะรักและอยู่เคียงข้าง ทว่าโชคชะตาก็เล่นตลกกับเขา

สภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ส่งผลกระทบกับธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตทั้งหมดในเครือธาดากรุ๊ป บิดาของเขาจึงคิดจะให้เขาแต่งงานการเมืองกับพราวรุ้งเพื่อพยุงธุรกิจ เขาไม่อยากแต่งงานกับใครอีก ไม่อยากมีภรรยาอีกคน สำหรับเขาแล้ว...ตฤนคือคนเดียวที่เป็นภรรยา คือคนเดียวที่เขาอยากให้เป็นแม่ของลูก

ทว่าเพราะธุรกิจย่ำแย่งลงเรื่อยๆ เขาจึงไม่สามารถตัดสินใจได้เด็ดขาด หากวันนั้นเขายอมลำบาก ยอมจับมือผ่านอุปสรรคไปกับตฤน ปฏิเสธบิดาอย่างเด็ดขาด เขาก็คงจะยังรักษาคนรักของตัวเองได้

เขาไม่โทษเลยหากตอนนี้ตฤนเลือกคนอื่น ไม่โทษเลยหากนลินจะมีคนอื่นทำหน้าที่บิดาแทนเขา ความผิดทั้งหมดเป็นเพราะความอ่อนแอของเขา เป็นเพราะความลังเลของเขา ทั้งหมดนั่นเป็นเพราะเขาคนเดียว

ลาภิณได้แต่หวังว่าเขาจะยังมีเวลาเหลือมากพอที่จะทันได้เห็นหน้าภรรยาที่เขารักและลูกชายที่เขาแสนคิดถึง ทว่าหากมันสายเกินไป เขาคงได้แต่ตั้งจิตอธิษฐานให้ชาติหน้ามีจริง เขาจะขอชดใช้ให้ทั้งคู่ในชาติหน้า จะขอเฝ้ารักตฤนไปทุกชาติ...

เสียงเคาะประตูดังขัดภวังค์ของลาภิณ เขาพยักหน้าให้พระลพเปิดประตูห้องนอน ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนที่มาหาคือแขกที่เขาไม่เจอหน้าถึงยี่สิบปี

“พี่ไตร...”

ไตรทศขมวดคิ้วมุ่น แม้จะได้ยินข่าวลือว่าลาภิณไม่สบาย เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น แต่เขาไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะโทรมถึงขนาดนี้ ใบหน้าที่อดีตเคยเป็นหนุ่มหล่อ ตอนนี้กลับไม่เหลือเค้าเดิมสักนิด ทั้งยังดูแก่กว่าวัยไปอีกหลายปี นี่คงไม่ใช่ผลจากการอมทุกข์เพียงอย่างเดียวเสียแล้วสิ

“ไม่เจอกันมายี่สิบปี นายดูแก่ไปเยอะมากนะลาภิณ ข่าวลือนั่นคงเป็นจริงสินะ”

“รอสักครู่นะครับพี่ไตร พระลพไปบอกแม่บ้านให้เตรียมของว่างมาไป เดี๋ยวฉันกับพี่ไตรจะลงไปกินข้างล่าง”

“ครับคุณท่าน”

ไตรทศมองกล่องเหล็กสลักลายที่เขาจำได้ดีว่าเป็นของน้องชายของเขา และมันมีอายุมากกว่ายี่สิบปี ด้วยเป็นกล่องที่ตฤนเคยบรรจุของขวัญส่งข้ามน้ำข้ามทะเล ฝากให้เขานำมาให้ลาภิณเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อราวสามสิบปีก่อน

“นายยังเก็บกล่องนั่นไว้อีกเหรอ คิดว่าทิ้งไปพร้อมกับตอนที่ทิ้งตฤนซะอีก”

“ผมไม่เคยทิ้งตฤนนะครับ ไม่เคยเลย...”

น้ำเสียงสั่นเล็กน้อยราวกับกำลังกลั้นสะอื้นทำให้ไตรทศขบกรามแน่น ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่าลาภิณบรรจุความทรงจำทั้งหมดนั่นใส่กล่องอย่างดี และยิ่งไม่อยากเชื่อเมื่อเห็นลาภิณเก็บกล่องเหล็กนั้นใส่ตู้เซฟฝังผนังราวกับเป็นของล้ำค่า

หรือสิ่งที่นลินเล่าจะเป็นความจริง?

ไตรทศไม่อยากจะคาดเดาเองอีกต่อไป แม้เขาจะยังไม่คลายความขุ่นเคืองใจที่สั่งสมมาถึงยี่สิบปี แต่เขาจะไม่ใช้อารมณ์เป็นใหญ่อีก เขาสัญญากับนลินไว้แล้วว่าจะหาคำตอบที่แท้จริงไปให้ เขาก็จะไม่ทำให้หลานชายผิดหวังเด็ดขาด

“ออกไปข้างนอกกันเถอะครับ ห้องนอนของผมมีแต่กลิ่นยา แล้วก็อุดอู้ด้วย”

“นายไม่ได้อยู่กับพราวรุ้งเหรอ”

“ไม่ครับ เดิมทีผมก็ไม่ได้นอนห้องเดียวกับรุ้งอยู่แล้ว”

“ไม่นอนห้องเดียวกันแล้วภัคพลโผล่มาได้ยังไง ออกมาจากกระบอกไม้ไผ่หรือไง”

“เรื่องนั้นผมไม่แก้ตัวครับ แต่มันไม่ใช่ความตั้งใจของผม”

ไตรทศยอมเดินตามลาภิณที่เดินนำเขาไปยังศาลาซึ่งตั้งในสวนด้านหลัง และนั่นทำให้ไตรทศต้องตะลึงยิ่งขึ้น เมื่อรอบศาลาประดับด้วยกล้วยไม้นานาพันธุ์จนเต็มไปด้วยกลิ่นกล้วยไม้...กลิ่นเดียวกับฟีโรโมนของตฤน

“นี่มัน...”

“นั่งก่อนสิครับพี่ไตร เดี๋ยวเด็กก็คงนำของว่างมาให้”

“นายตั้งใจพาฉันมาที่นี่ เพราะอยากให้ฉันยกโทษให้เหรอไงลาภิณ” ไตรทศถามเสียงลอดไรฟัน

“ไม่ครับ แต่ที่นี่คือที่ที่ผมอยู่บ่อยๆ และเป็นสวนที่ตฤนสร้างไว้ตั้งแต่เราแต่งงานกัน ผมพยายามรักษามันให้ดีที่สุด”

“นายทำเหมือนว่ายังรักตฤนเลยนะ ทั้งที่นายเป็นคนฆ่าตฤนแท้ๆ”

ลาภิณสบตาไตรทศ เขารู้ว่าที่ไตรทศมาวันนี้คงไม่ได้เพียงเพื่อต่อว่าต่อขาน เขาเชื่อว่าไตรทศมีสาเหตุที่มาหาถึงนี่ หากไม่มีธุระสำคัญคงไม่มีวันเหยียบบ้านจิรพงศ์ธาดา และคงไม่ยอมมานั่งพูดคุยกับเขาแน่ เพราะตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมาเขาเพียรพยายามเข้าไปพูดคุยกับอีกฝ่าย แม้แต่ยามออกงานไปเจอกัน ไตรทศยังไม่แม้แต่จะมองหน้าเขา นั่นทำให้ลาภิณนึกหวั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตฤนหรือนลิน

“ตฤนกับนลินเป็นอะไรรึเปล่าครับพี่ไตรถึงมานี่”

“ถามแบบนี้แสดงว่ารู้แล้วว่าตฤนกับนลินยังมีชีวิตอยู่”

“ครับ ผมรู้มาหลายปีแล้วว่าอุบัติเหตุนั่นเป็นการจัดฉาก แต่พวกพี่ก็ปกปิดตัวตนของตฤนและนลินดีมาก ผมเพิ่งรู้ไม่กี่วันนี่เองว่าทั้งสองคนหนีไปอยู่อเมริกา และเพิ่งรู้วันนี้เองว่ามีเศรษฐีซีแอตเทิลช่วยดูแล ตฤนแต่งงานใหม่แล้วใช่ไหมครับ”

คำถามของลาภิณเหมือนไม้หน้าสามตีแสกกลางหน้าไตรทศ แม้คำถามจะสะเทือนใจแค่ไหน แต่ใบหน้าของลาภิณกลับไม่มีแววเสียใจเลยสักนิด

“เขาดูแลตฤนกับนลินดีไหมครับ”

“ก็ดี เขาแต่งงานอยู่ด้วยกันมาสิบเจ็ดปีแล้ว เขารักนลินมาก แล้วก็เลี้ยงดูนลินมาอย่างดี”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะครับ นลินคงมีความสุขที่มีพ่อแบบนั้น และตฤนก็คงไม่ต้องทุกข์ใจที่ได้สามีที่รักเขา ไม่อ่อนแอแบบผม”

“นายรักตฤนจริงๆ นี่ แล้วทำไมตอนนั้น...” ไตรทศหยุดคำพูดเมื่อแม่บ้านวัยกลางคนนำเครื่องดื่มและของว่างมาวางบนโต๊ะระหว่างตฤนและลาภิณ

“ตอนนั้นทำไมเหรอครับ” ลาภิณเอ่ยถามเมื่อคล้อยหลังแม่บ้านไปแล้ว

“ก่อนฉันจะถาม นายรับปากมาก่อนว่าจะเล่าทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง จะไม่ปกป้องคนผิด”

ลาภิณเม้มปากจนเป็นเส้นตรง ก่อนจะยอมพยักหน้าตกลง อย่างไรเสีย...บ้านกิตติวรกานต์ก็คงรู้ความจริงอยู่บ้างแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่มาหาเขา และชีวิตอันแสนสั้นของเขาก็ใกล้จะจบลงอยู่แล้ว ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย จะวันนี้หรือวันไหน สักวันหนึ่งก็คงถูกเปิดเผยอยู่ดี

“จริงๆ แล้ว แค่ผมรู้ว่าตฤนกับนลินมีความสุขดีแล้ว ผมก็คงไม่อยากได้อะไรอีก”

“แล้วนายจะปล่อยให้ตฤนเข้าใจนายผิดไปแบบนี้เหรอ”

“แต่ตอนนี้เขามีความสุขดีแล้ว มีครอบครัวใหม่แล้ว มีคนที่รักตฤนและนลินมากกว่าผม ผมก็คงตายตาหลับแล้ว”

“พูดอะไรแบบนั้นน่ะลาภิณ นายไม่รู้หรอกว่าเขาจะรักตฤนกับนลินมากกว่านายไหม ยังไงนายก็เป็นคนที่ตฤนรักมาก และนายก็เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดนลิน นายไม่คิดว่านลินจะอยากรู้ความจริงหรือไง”

“มันเป็นความผิดของผมจริงๆ นี่พี่ไตร ถ้าตอนนั้นผมไม่ลังเล ไม่อ่อนแอ แล้วตัดสินใจเด็ดขาด ตฤนก็คงไม่เข้าใจผิด เรื่องทุกอย่างก็ไม่เกิดขึ้น”

“แต่พี่เข้าใจนายนะ มันไม่ใช่เรื่องของนายคนเดียว ถ้าธุรกิจนายล้ม มีคนได้รับผลกระทบนับพันนับหมื่นคน ลูกน้องนายทั้งหมดจะถูกลอยแพ ว่างงาน แล้วไหนจะครอบครัวนายอีก ตอนนั้นครอบครัวพี่ก็ซัพพอร์ตนายไม่ได้ ไม่ผิดที่พ่อนายอยากให้นายแต่งพราวรุ้งเข้ามาอีกคน”

“แต่เธอไม่ได้อยากเป็นอีกคน เธออยากเป็นคนเดียว อยากแทนที่ตฤนจนถึงขั้นวางยาผมให้รัท ใช้น้ำหอมกลิ่นฟีโรโมนของตฤนให้ผมเข้าใจผิด ฉวยโอกาสที่ผมเข้าใจว่าตฤนกับนลินตายเพื่อมาแทนที่”

“นายจะบอกว่าที่เธอท้องเพราะตั้งใจวางยานายเหรอ”

“ใช่ครับ ผมพยายามอธิบายกับพี่มาตลอด”

“แล้วที่พี่ได้ยินมาว่านายส่งคนไปตัดสายเบรกรถของตฤนล่ะ”

“ผมไม่เคยทำนะครับพี่ไตร ผมสาบานเลยว่าต่อให้ผมลังเลเรื่องรุ้งแค่ไหน ผมก็ไม่เคยคิดทำร้ายตฤนกับนลิน ผมรักตฤนกับนลินมากนะครับ รักมาก...รักมาตลอด ผมไม่เคยลืมทั้งสองคนเลย ไม่มีวันไหนที่ผมจะลืมพวกเขาเลยนะครับ”

ไตรทศเม้มปากแน่น หากลาภิณพูดความจริง แผนทั้งหมดก็คงมาจากพราวรุ้ง และคนที่คิดร้ายกับนลินและตฤนมาตลอดก็คงเป็นผู้หญิงจิตใจชั่วร้ายคนนั้น คนที่ทำให้ตฤนต้องเปลี่ยนมาเป็นนวมิณทร์ก็คือผู้หญิงที่ชื่อพราวรุ้ง เรื่องทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวกับลาภิณเลย เป็นอย่างที่นลินคิดไว้จริงๆ เสียด้วยสิ

ไตรทศมองหน้าคนที่นั่งตรงข้ามก็ให้รู้สึกผิดเสียเหลือเกิน หากวันนั้นเขาไม่ใช้อารมณ์ หากวันนั้นเขามีสติเช่นวันนี้ เรื่องทั้งหมดคงไม่เกิดขึ้น

“ลาภิณ...พี่ขอโทษนะ ถ้าวันนั้นที่พี่ได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้วมาถามนาย นายก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้”

“ผมคงบุญน้อยเองล่ะครับจึงอยู่กับคนที่ผมรักไม่ได้”

“พี่จะบอกความจริงกับตฤน”

“อย่าเลยครับพี่ไตร ตฤนมีความสุขดีแล้ว จากนี้ผมจะไม่ตามหาเขาอีก จะไม่...” ลาภิณกลืนก้อนสะอื้นที่แล่นมาจุกอก

“ลาภิณ...นายทรมานมามากพอแล้วนะ นายทุกข์มาพอแล้ว นายควรมีความสุขได้แล้ว พี่จะเล่าให้ตฤนฟัง แล้วก็ขึ้นอยู่กับตฤนแล้วว่าจะตัดสินใจยังไง”

“ไม่ครับพี่ไตร อย่าให้เรื่องในอดีตทำให้ตฤนต้องทุกข์เลยนะครับพี่ไตร ถ้าตฤนเลือกผมมันก็ไม่เปลี่ยนอะไรอยู่ดี ผมเหลือเวลาไม่มากแล้ว ผมให้คนตามสืบเพราะอยากรู้ว่าทั้งคู่มีความสุขดีไหม แค่พี่ยืนยันว่าชีวิตทั้งคู่อยู่ดีมีสุข ผมก็พอใจแล้ว”

“นายจะมาตัดสินใจแทนคนอื่นไม่ได้นะลาภิณ ฉันเคยตัดสินใจแทนคนอื่นแล้วทำให้ทุกคนมีแต่ความทุกข์ นายก็อย่าทำซ้ำรอยพี่เลยนะ”

“ไม่ครับพี่ไตร ตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกัน ผมมีเวลาอยู่แค่ครึ่งปี ถ้าตฤนกลับมาหาผม ตฤนก็จะทุกข์อีก ตอนนี้เขาไม่ต้องทุกข์แล้ว ให้เขามีความสุขแบบนั้นก็ดีแล้วครับ ถ้าชาติหน้ามีจริง...ผมก็จะยังคงรักตฤนอีกครั้ง และหวังว่าครั้งหน้าตฤนจะยังรักผม ให้ผมได้อยู่กับตฤนมากกว่าชาตินี้”

“นายป่วยเป็นอะไรกันแน่น่ะลาภิณ ทำไมถึงบอกว่าเหลือเวลาอีกไม่นาน”

“มะเร็งกระดูกครับ คงเป็นเวรกรรมที่ผมทำให้ตฤนทุกข์ใจ” ลาภิณยิ้มอ่อนอย่างยอมรับชะตากรรม “ผมได้ยินว่าตฤนและนลินมีความสุขผมก็ตายตาหลับแล้วล่ะครับ อย่าบอกพวกเขาเลยนะครับ ถือว่าผมขอร้อง”

“แต่...”

“ผมขอล่ะครับพี่ไตร เดิมทีผมก็อยากเจอพวกเขาอีกครั้งก่อนตาย แต่พอรู้ว่าพวกเขามีความสุขดีแล้ว ผมก็ไม่อยากให้เขาต้องทุกข์ใจอีก ให้เขาคิดว่าผมเป็นคนเลวร้ายแบบนี้ต่อไปเถอะครับ”

“แบบนั้นมัน...”

ลาภิณผุดลุกขัดคำพูดของไตรทศ “วันนี้ผมเหนื่อยแล้ว ผมขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับพี่ไตร ผมดีใจนะครับที่ได้พูดสิ่งที่ผมอยากพูดกับพี่ไตรมาตลอด”

ไตรทศผุดลุกขึ้นยืนมองตามแผ่นหลังงองุ้มที่ก้าวเดินช้าๆ เข้าไปในบ้านก็ให้นึกสะท้อนในอก ได้แต่ตั้งคำถามว่าลาภิณต้องทุกข์ทรมานขนาดไหน ต้องอยู่คนเดียวโดยไร้คนที่รักข้างกาย เมื่อครั้งยังมีบิดาท่านก็ไม่เข้าใจความปรารถนาของลาภิณ เห็นแก่ผลประโยชน์และธุรกิจจนไม่ได้นึกถึงจิตใจของลาภิณ จนทำให้ลาภิณต้องพรากจากคนรักมานานถึงยี่สิบปี

แล้วตอนนี้โชคชะตายังมาเล่นตลกให้ลาภิณมีอายุสั้นจนไม่อาจได้เจอคนที่รักสุดหัวใจทั้งสองคน ยินดีเป็นคนทุกข์และตายจากโลกนี้ไปเพียงลำพัง แบบนี้มันช่างไม่ยุติธรรมเลย

ไตรทศเม้มปากแน่น เขาจะไปบอกนลินอย่างไรดี จะไปบอกว่าบิดาบังเกิดเกล้าของนลินกำลังจะตาย ไปบอกว่าเรื่องทั้งหมดลุงคนนี้เข้าใจผิดไปเอง แต่จะให้เขาทำตามลาภิณบอกก็เห็นจะไม่ได้ เขาทำผิดต่อนวมิณทร์และนลินมาถึงยี่สิบปี เขาจะไม่ทำเช่นนั้นอีก และนี่อาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำให้ลาภิณได้ เขาจะทำให้ทั้งสามได้เจอกันอีกครั้งหนึ่ง

...เขาสัญญา!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 4.1 : ผมเป็นเบต้า!

    รถคูเป้สองประตูสีดำสัญชาติยุโรปเลี้ยวผ่านบ้านหลังใหญ่มาจอดหน้าบ้านของตรีวิทย์และพยนต์ นั่นทำให้เจ้าของบ้านที่วันนี้ไม่ไปทำงานต้องเลิกคิ้วประหลาดใจ จริงอยู่ที่เป็นเรื่องปกติที่พยัคฆ์จะแวะมาหาพยนต์และภูวนัย ทว่าช่วงนี้จะแวะมาบ่อยเกินไปหรือเปล่านะ“ใครมาเหรอครับพี่ตรี”“พยัคฆ์น่ะสิ ช่วงนี้มาเกือบทุกวันเลยนะ ที่บ้านมีอะไรรึเปล่า”“ไม่มีหรอกครับ พยัคฆ์ไม่ได้มาหาพยนต์ด้วย”“หือ? ไม่ได้มาหาพยนต์แล้วมาหาใคร” ตรีวิทย์เอ่ยถามภรรยาด้วยความฉงนใจ“พี่ตรีลองสังเกตดูละกันนะครับว่าพยัคฆ์มาหาใคร”ตรีวิทย์เลิกคิ้วมองคนที่สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำพับแขนขึ้นถึงข้อศอก กระดุมเสื้อเชิ้ตปลดจนเห็นแผ่นอกอย่างเซ็กซี่ กับกางเกงยีนส์เข้ารูปก็ให้นึกสงสัยว่าแต่งตัวล่อเหยื่อขนาดนี้ เหตุใดจึงไม่ไปเที่ยวกับเหล่าโอเมก้าของเจ้าตัว กลับเลือกมาบ้านของเขาในวันหยุดเช่นนี้หรือว่า...ตรีวิทย์หันกลับไปมองในห้องนั่งเล่นที่มีอาหลานกำลังต่อรางรถไฟเหาะตีลังกาซึ่งนลินหอบหิ้วมาจากอเมริกา นั่นทำให้เขาสบตาภรรยาราวกับจะถาม“พี่เข้าใจถูกใช่ไหมพยนต์”“ครับ แต่นลินดูไม่อยากยุ่งด้วยเท่าไหร่”“พี่เคยได้ยินอาเทรนต์กับอาตฤนเล่าว่าตอนอยู่โน่นนล

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 4.2 : ผมเป็นเบต้า!

    “จริงเหรอครับคุณลุง พวกเราเข้าใจคุณพ่อผิดมาตลอดจริงๆ สินะครับ”“ใช่ เป็นอย่างที่นลินบอกลุงเลย แต่...มีเรื่องสำคัญที่ลุงต้องบอกนลิน”“ครับ มีอะไรเหรอครับ”“พ่อของนลินไม่ได้เพิ่งตามหานลินหรอกนะ เขาตามหามาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ปู่ของนลินตาย พ่อของนลินก็เริ่มส่งคนให้ออกตามหาโดยไม่ให้พราวรุ้งรู้ แต่ที่เขาเร่งหาตอนนี้เพราะเขาเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว”“ครับ? คุณพ่อเป็นอะไรครับ”“มะเร็งกระดูกน่ะ ลุงใช้เส้นสายไปลองสืบที่โรงพยาบาลที่ลาภิณรักษาตัว เขาพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งกระดูกมาตั้งแต่สองปีก่อน แล้วก็รักษามาโดยตลอด แต่เมื่อเดือนก่อนพบว่ามันลุกลาม ลาภิณจึงตัดสินใจร่วมกับหมอว่าจะหยุดการรักษา และเขาตั้งใจใช้ช่วงเวลาสุดท้ายนี้เพื่อตามหาตฤนกับนลิน”นลินขบกรามแน่นกลั้นความรู้สึกวูบโหวง ทั้งที่ความทรงจำวัยเยาว์ที่มีบิดานั้นเป็นเพียงระยะสั้นๆ แต่เขากลับรู้สึกแย่ รู้สึกเสียใจที่บิดาเหลือเวลาน้อยนิดเสียเหลือเกิน เขาข่มอารมณ์ที่ไม่ปกติของตัวเองไว้“คุณพ่อเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ครับ”“เร็วสุดคือหกเดือน ช้าสุดคือหนึ่งปี”“น้อยเหลือเกิน”“นลินจะไปเจอพ่อเขาไหม”“ครับ แต่ถ้านลินไปเจอคุณพ่อ คนที่ส่งคนไปทำร้ายนลินก็ต้องร

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 5.1 : บทพิสูจน์

    “ปล่อย! ลากมาทำอะไรของคุณเนี่ย”พยัคฆ์ขบกรามแน่นนึกโมโหนลินจนแทบคลั่งที่อีกฝ่ายมายืนกอดกับตรีวิทย์ ก็ไหนว่าเป็นเบต้า ไม่สนใจอัลฟ่าอย่างไรเล่า ที่แท้ก็แอบมาเป็นชู้กับพี่เขยของเขานี่เอง ทำเป็นรังเกียจเขา ทว่าความจริงคือตั้งใจจะจับตรีวิทย์ชัดๆปึก!ใบหน้าของนลินกระแทกเข้ากับแผ่นหลังของคนที่ถูลู่ถูกังมาตลอดทาง ชายหนุ่มถูกกระแทกจนกระเด้งแล้วล้มลงกับพื้นนลินกัดริมฝีปากของตัวเองที่รู้สึกเจ็บ นี่มันวันบ้าอะไรของเขากันที่ต้องมาเจ็บทั้งตัวมาเจ็บทั้งใจ แค่เรื่องบิดาเขาก็เสียใจมากพอแล้ว ตั้งแต่จำความได้...นอกจากเสียใจเพราะคิดถึงบิดาครั้งที่ไปอยู่อเมริกาใหม่ๆ ก็ครั้งนี้นี่แหละที่เขาร้องไห้หนักขนาดนี้แล้วนี่อะไรกัน? เขายังต้องมาเจ็บตัวอีก“ไม่ต้องมาทำสำออย ลุกขึ้นมา!”นลินเงยหน้าขึ้นมองคนพาลอย่างหงุดหงิด เขาไม่ได้สำออยเสียหน่อย แต่เขาเบื่อหน่ายจนไม่อยากลุกไปต่อล้อต่อเถียงด้วยต่างหากชายหนุ่มนั่งขัดสมาธิก่อนจะปัดเศษต่างๆ ออกจากมือและแขนราวกับไม่สนใจท่าทางเกรี้ยวกราด ปกติเขาก็ไม่ชอบคนไร้เหตุผล ไม่ชอบคนใช้อารมณ์แบบนี้อยู่แล้ว และยิ่งไม่ชอบคนที่เอาความโกรธมาลงกับเขาเพราะฉะนั้น...พยัคฆ์ไม่ใช่สเปกของเ

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 5.2 : บทพิสูจน์

    พยัคฆ์เดินไปเดินมาพลางชะเง้อดูแฝดผู้พี่ที่บอกว่าจะช่วยพูดกับนลินให้ ทว่าผ่านไปตั้งหลายนาทีแล้วกลับยังไม่เห็นวี่แววของทั้งคู่ เป็นเหตุให้ตรีวิทย์ที่กำลังเล่นต่อจิ๊กซอว์กับลูกชายลอบอมยิ้มขำ“คุณพ่อครับ ทำไมน้ายักษ์เดินไม่หยุด”“น้าพยัคฆ์รออานลินครับ”“รอทำไมครับ อานลินไปไหน อานลินทิ้งน้องพูห์เหรอ”“ไม่ใช่ครับ อานลินคุยอยู่กับคุณแม่ครับ”ภูวนัยเอียงคอก่อนจะผุดลุกเดินไปหาพยัคฆ์ แล้วจับมือใหญ่ของอีกฝ่าย เป็นเหตุให้พยัคฆ์ต้องหันมองหลานชายด้วยความฉงนใจ“น้องพูห์มีอะไรครับ”“ต่อจิ๊กซอว์กันครับ”“เดี๋ยวน้าไปต่อด้วยนะ น้าพยัคฆ์รออานลินของน้องพูห์อยู่”“น้ายักษ์เป็นเด็กไม่ดี ถ้าน้ายักษ์ดื้ออานลินจะไม่รักนะครับ”“หือ? น้องพูห์บอกว่าถ้าน้าพยัคฆ์ดื้อ อานลินจะไม่รักเหรอครับ”“ครับ อานลินบอกว่าอานลินรักน้องพูห์ น้องพูห์เป็นเด็กดี ไม่ดื้อ”พยัคฆ์ขมวดคิ้วเข้มจนระหว่างคิ้วเป็นร่องลึก เขายอมเดินตามแรงน้อยๆ ของโอเมก้าวัยสามขวบไปนั่งบนพรมข้างพี่เขยที่ยังคงยิ้มกริ่ม“พี่ว่าพยัคฆ์คงไม่ได้แค่สนใจนลินแล้วล่ะ ถ้าชอบก็ลุยเลย ไม่งั้นนลินไปสนใจคนอื่นแน่”“พี่ตรีกับนลินไม่ได้...”“ไม่ใช่อย่างที่พยัคฆ์คิดหรอก พี่รู้

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 6.1 : ได้แล้วห้ามทิ้ง!

    ประตูห้องนอนเพ้นต์เฮ้าส์เปิดออกขณะที่มือใหญ่ยังคงกอดเกี่ยวเอวบอบบางไว้ เช่นเดียวกับที่ริมฝีปากของทั้งคู่แนบสนิทกันไม่ยอมผละออกห่าง ราวกับโหยหากันและกัน กลิ่นฟีโรโมนของทั้งคู่ผสมผสานกันจนอบอวลไปทั่วห้อง นลินถูกไล่ต้อนจุมพิตพลางก้าวถอยหลังกระทั่งชนเข้ากับเตียงจนทรุดตัวลงนั่งบนเตียงกว้างกลางห้องริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกห่างกัน ลิ้นเล็กมีน้ำลายสีใสยืดเยิ้ม ดวงตาคู่สวยฉ่ำหวานด้วยแรงปรารถนาที่ขับเคลื่อนจากการกระตุ้นฟีโรโมน มองตามมือใหญ่ที่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด...ทีละเม็ด...ทว่าท่าทางอ้อยอิ่งเชื่องช้าของพยัคฆ์นั้นดูเหมือนจะไม่ทันใจของนลิน มือขาวจึงดึงอีกฝ่ายให้นอนอยู่ใต้ร่าง พยัคฆ์กึ่งนั่งกึ่งนอนขณะที่ร่างบอบบางคร่อมอยู่บนกายแกร่ง มือเรียวปลดกระดุมออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปลดเสื้อเชิ้ตออกจากบ่าแกร่ง แล้วโน้มหน้าลงจูบต้นคอแกร่ง ดูดเม้มจนขึ้นสีเข้มพยัคฆ์ปลดแขนเสื้อแล้วปล่อยให้เสื้อหล่นข้างเตียงขณะยันกายด้วยแขนข้างหนึ่งเพื่อเอนกาย อำนวยความสะดวกให้นลินที่ซุกไซ้ไปตามลำคอและลาดไหล่ เพราะรู้สึกอารมณ์ดีจึงทำให้กลิ่นฟีโรโมนดอกโบตั๋นนั้นหอมหวานไปด้วย เป็นเหตุให้นลินยังมัวเมาไปกลับกลิ่นนั้น“อืม.

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 6.2 : ได้แล้วห้ามทิ้ง!

    นลินไม่ได้อยากจะยอมนั่งนิ่งๆ แบบนี้ แต่เพราะไม่มีแรงแม้แต่กระดิกนิ้ว ราวกับว่าพยัคฆ์กลัวจะซ้ำรอยเดิมจึงไม่ยอมให้เขาพัก ไม่ว่าจะโอดครวญว่าไม่ไหวแค่ไหน อีกฝ่ายก็ยังเอาแต่กระแทกจนเขาแทบจะสลบ เป็นครั้งแรกในชีวิตของนลินที่ต้องเจอเซ็กซ์ดุเดือดและยาวนานขนาดนี้ชายหนุ่มยังคงหลับตา ปล่อยให้พยัคฆ์นวดศีรษะสระผม และปล่อยให้อีกฝ่ายล้างแชมพูออกจากเส้นผม ก่อนจะยอมให้พยัคฆ์มานั่งด้วยกันในอ่างอาบน้ำ ยอมนั่งนิ่งๆ ในอ้อมกอดอีกฝ่าย“วันนี้ไม่หนีพี่แล้วใช่ไหม”“เอาแรงไหนไปหนี คุณ...อ๊ะ!”นลินสะดุ้งเมื่อพยัคฆ์กัดหมับบนบ่าของเขา แม้จะไม่แรงนักแต่ก็คงเป็นรอยฟันจนเขาต้องหันมองตาขวางอย่างไม่ชอบใจพยัคฆ์ลูบบนรอยฟันเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงอ้อน “พี่บอกแล้วไงว่าไม่ให้เรียกว่าคุณ เรียกว่าพี่พยัคฆ์นะครับ”“ถ้ากัดอีกทีนลินจะไม่พูดด้วยอีก”“นลินได้พี่แล้วจะทิ้งเหรอ ใช่สิ! นลินเคยทิ้งพี่ไปครั้งนึงแล้วนี่”“พูดไร้สาระอะไรเนี่ย”“จะปฏิเสธอีกเหรอว่าไม่ใช่โอเมก้าที่พี่เคยก

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 7.1 : เด็กผีในคราบเด็กดี

    “อย่านะคะคุณมุกรวี!”ปึง!ประตูบานหนักเปิดออก ทุกคนในห้องประชุมพากันหันไปมองคนที่ขัดการประชุมสำคัญทันที ขณะที่ประธานการประชุมกลับนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้อย่างไม่รู้สึกรู้สา ไม่แม้แต่จะปรายตามองด้วยซ้ำ นั่นทำให้ทุกคนในที่ประชุมรู้ดีว่าควรทำตัวเช่นไร“ประชุมบอร์ดผู้บริหารแต่ทำไมถึงประชุมโดยไม่เรียกฉันล่ะ”“คุณมุกรวีคะ ออกไปเถอะค่ะ”“ใครปล่อยคนนอกเข้ามาในห้องประชุมทั้งที่บอร์ดผู้บริหารเขาประชุมกันอยู่ ถ้าความลับของสตาร์ไลท์หลุดรอดออกไป ใครจะรับผิดชอบกับเรื่องนี้” พยัคฆ์เอ่ยถามเสียงเย็นเยียบ“พวกเราพยายามห้ามแล้วค่ะคุณพยัคฆ์”“รปภ. คนไหนปล่อยขึ้นมา ให้รับผิดชอบในเรื่องนี้ซะ ฉันสั่งลงไปแล้วว่าถ้าผู้หญิงคนนี้ก้าวเข้ามาในบริษัท แล้วใครปล่อยเข้ามาจะไล่ออกทันที”“พยัคฆ์! นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันก็เป็นลูกคุณพ่อ เป็นป้าของแก”ดวงตาคมปลาบหันมองคนที่อ้างตัวว่าเป็นลูกของคุณปู่ และเป็นป้าของเขาทันที นั่นเป

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 7.2 : เด็กผีในคราบเด็กดี

    ร่างอวบเดินเข้ามาในบ้านพลางมองหาแม่บ้านคนสนิท เมื่อไม่เห็นคนที่ควรจะออกมาต้อนรับจึงตะโกนเรียกด้วยความหงุดหงิด“นางจิ๋ว! จิ๋ว! แกอยู่ไหนเนี่ย”“ค่าคุณนาย จิ๋วมาแล้วค่ะ”ร่างผอมบางตัวเล็กวิ่งออกมาจากห้องครัวทันที ก่อนจะส่งแก้วน้ำให้คุณนายของบ้าน แล้วรับกระเป๋าถือของอีกฝ่ายวางบนโต๊ะในห้องนั่งเล่น“ตาเพชรไปไหนล่ะ”“ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวข้างบนค่ะ”“อาบน้ำแต่งตัว? นี่มันจะออกไปเที่ยวข้างนอกอีกแล้วเหรอ”“ค่ะ คุณหนูก็ไปเที่ยวเกือบทุกวันเป็นเรื่องปกตินะคะ”“ปกติบ้านแกสินางจิ๋ว นี่ลูกชายฉันวันๆ เอาแต่เที่ยวมันปกติที่ไหนกัน สัปดาห์นึงแวะไปบริษัทกี่ครั้งกัน”“ไม่กี่ครั้ง แต่คุณหนูก็ช่วยงานคุณท่านได้ดีนะคะ”คุณนายของบ้านได้แต่หงุดหงิดเมื่อได้ยินคำพูดของคนสนิท นางยื่นแก้วน้ำให้อีกฝ่าย ก่อนจะหยิบกระเป๋าถือของตัวเองก้าวขึ้นชั้นบนของบ้าน เคาะประตูห้องนอนของลูกชายทันที“ใครครับ”“แม่เองตาเพชร เ

บทล่าสุด

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 11.2 : เริ่มแผนการ

    นลินเม้มปากแน่นขณะมองกระจกมองข้างด้วยความฉงนใจ เขาอยากคิดว่าตัวเองคิดมากที่เห็นรถคันนี้บ่อยเกินไปในช่วงนี้ หลังจากเขาพบกับภัคพลก็ดูเหมือนมีคนตามเขาไปทุกที่ รวมถึงบ้านกิตติวรกานต์ ก่อนนี้เขาคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกต่อไปแล้วสิชายหนุ่มกดโทรศัพท์หาพยัคฆ์ทันที เขาไม่ต้องรอสายนานนักอีกฝ่ายก็กดรับสาย“นลินมีอะไรรึเปล่า ไหนบอกว่าจะมาหาพี่แล้วไปกินมื้อเที่ยงด้วยกันไง”“ขอเปลี่ยนแผนก่อนครับ มีคนตามนลิน”“อะไรนะ! ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมนลินไม่บอกพี่”“นลินผิดเองครับที่ไม่สังเกตให้ดี นลินจะกลับบ้านก่อน พี่พยัคฆ์มาเจอนลินที่บ้านนะครับ นลินจะยอมย้ายไปอยู่เพ้นต์เฮ้าส์พี่พยัคฆ์ครับ แต่เราต้องบอกเรื่องนี้กับคุณตาคุณยายก่อน เรื่องของเราก็ด้วย”“นลินจะเปิดเผยเรื่องของเราเหรอ”“พี่พยัคฆ์ไม่ได้อยากให้เปิดเผยหรือไง”“อยากครับ แต่แอบน้อยใจนิดๆ นะที่นลินยอมเปิดเผยเพราะอันตรายถึงตัว”“นลินไม่ได้ปิดบังซะหน่อย นลินพ

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 11.1 : เริ่มแผนการ

    พยัคฆ์จับตามองนลินหลังจากเขาบอกเล่าแผนการที่ได้ปรึกษากับนับสิบมาก่อนแล้ว ซึ่งเขาไม่อยากให้นลินมารู้ทีหลังแล้วเข้าใจเขาผิดๆ คนที่ฟังแผนการทั้งหมดของเขายังคงนั่งนิ่งจนพยัคฆ์หายใจไม่ทั่วท้อง หากนลินไม่ชอบใจแผนการนี้ เขาคงต้องหาวิธีใหม่คนอื่นอาจสงสัยว่าทำไมเขาต้องยอมนลินขนาดนี้ ทำไมเขาต้องเกรงใจนลินทั้งที่เขาและนลินไม่ใช่คนรักกัน นั่นก็เพราะเขาคาดหวัง...คาดหวังให้ความสัมพันธ์นี้ได้พัฒนา ได้เปลี่ยนความสัมพันธ์จากคู่นอนเป็นคู่ชีวิต“พี่พยัคฆ์มั่นใจแผนนี้จริงๆ ใช่มั้ยครับว่าได้ผล”“มันเป็นแค่แผนจริงๆ เพราะพี่ไม่มีวันสนใจเพชรอันดา”“นลินรู้ว่าพี่พยัคฆ์ไม่สนใจเขา เพราะพี่พยัคฆ์สนใจกลิ่นลาเวนเดอร์ของนลิน ไม่สนใจกลิ่นบรั่นดีชวนอ้วกแบบนั้นหรอก”พยัคฆ์คลี่ยิ้มทันทีที่เห็นรอยยิ้มมั่นอกมั่นใจของนลิน ชายหนุ่มจึงสอดมือผ่านเส้นผมสีดำชาร์โคลประบ่าเพื่อจับต้นคอของอีกฝ่าย“นลินอนุญาตไหมครับ”นลินจ้องหน้าคนถามนิ่ง “ทำไมพี่พยัคฆ์ต้องขออนุญาตนลินด้วยล่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 10.2 : พี่น้องจิรพงศ์ธาดา

    พยัคฆ์ทำตามที่ตกลงกับนลินไว้ เขาไปพูดคุยกับคุณปู่เรื่องของนลิน และส่งอลันไปหาภัคพล ซึ่งเพียงได้ยินว่าอีกฝ่ายมีข่าวจากนลิน ภัคพลก็ยินดีไปพบโดยไม่เสียเวลาคิด ให้นลินนัดแนะเวลาและสถานที่มาได้เลย เขาพร้อมไปพบนลินทันทีการนัดพบระหว่างนลินและภัคพลนั้นไม่มีใครรู้นอกจากพยัคฆ์ที่เป็นคนเตรียมสถานที่และเป็นคนกลางติดต่อให้ ทั้งยังเป็นคนพานลินมายังร้านอาหารหรูซึ่งมีห้องส่วนตัว ไม่เป็นที่สังเกตของใคร ทั้งยังให้นับสิบมาเป็นหูเป็นตาอีกด้วย“พยัคฆ์...คนของเรารายงานมาว่าภัคพลมาถึงแล้ว”พยัคฆ์พยักหน้า ก่อนจะหันมาสบตากับนลิน “พี่ออกไปก่อนนะ ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เลยนะ พี่จะอยู่แถวนี้นี่แหละ”นลินพยักหน้า ก่อนจะปล่อยมือพยัคฆ์“คุยคนเดียวได้แน่ใช่ไหม หรืออยากให้พี่อยู่ด้วย”“ไม่เป็นไรครับ นลินอยากสังเกตน้องด้วยตัวเอง นลินแน่ใจว่าอ่านคนไม่ผิด”“ก็ได้ครับ” พยัคฆ์จุมพิตหน้าผากเนียนอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะผุดลุกแล้วพยักหน้าให้เพื่อนรัก “ไปข้างนอกกันไอ้นับ”นับสิบเดินนำพยัคฆ์ไปยังด้านนอกห

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 10.1 : พี่น้องจิรพงศ์ธาดา

    “เมื่อกี้พี่พยัคฆ์บอกว่าหึงนลิน”“ใช่ พี่หึงนลิน พี่ก็ไม่รู้ว่าทำไม รู้แค่ว่าหึง”“แต่พี่ตรีเป็นพี่ชายของนลินนะ”“ก็แค่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก”“ไม่ครับ นลินหมายถึงพี่ชายจริงๆ คุณแม่ของนลินเป็นน้องชายของลุงไตรครับ”“น้องชายลุงไตรเหรอ”“ครับ น้องชายแท้ๆ คุณปู่คุณย่าของพี่ตรีเป็นคุณตาคุณยายของนลิน”พยัคฆ์จับจ้องดวงตาเรียวสวยได้รูปตรงหน้าที่จับจ้องเขาด้วยสายตาจริงจัง บ่งบอกว่าเป็นจริงทุกคำที่เจ้าตัวพูดออกมา นั่นทำให้เขาต้องทบทวนความทรงจำของตัวเองเกี่ยวกับครอบครัวกิตติวรกานต์แม้ในอดีตครอบครัวกิตติวรกานต์ไม่ใช่ครอบครัวยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลนัก ทว่าในช่วงยี่สิบปีมานี้ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นตระกูลที่ครอบครองธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในนามบริษัท เควีเค บิวเดอร์ ที่มีกำไรต่อปีเก้าถึงสิบหลัก ซึ่งทั้งหมดก็ต้องยกความดีความชอบให้กับทายาทรุ่นสองและสามอย่างไตรทศและตรีวิทย์ทว่านอกจากความสามารถของทายาททั้งสองรุ่นแล้ว ยังมีชื่อเสียงจากเ

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 9.2 : เด็กดีขี้หึง

    ขณะเดียวกันบ้านใหญ่แห่งกิตติวรกานต์กำลังวุ่นวายเพราะข่าวของนลิน โดยเจ้าของหัวข้อกำลังร้อนใจไม่ต่างจากตรีวิทย์ที่เพิ่งมาสมทบด้วย“ไม่น่าจะปิดข่าวทันแล้วแน่เลยครับคุณพ่อ ทางโน้นเองก็คงเห็นแล้ว”“นลินก็คิดเหมือนพี่ตรี นลินก็ไม่ได้นึกว่าจะมีคนถ่ายคลิปถ่ายรูปเอาไปลงแบบนี้”“แล้วน้องนลินโทร. คุยกับอาเทรนต์หรือยัง”“ยังครับ ตอนนี้ทางโน้นน่าจะเพิ่งตีสี่ตีห้า เดี๋ยวเที่ยงๆ นลินคงต้องโทร. ไปคุยกับแด๊ดกับคุณแม่”“แล้วนลินจะเอายังไงล่ะลูก อยากให้ลุงช่วยอะไรก็บอกเลย”“ถ้าพวกนั้นรู้ว่านลินมาเมืองไทยแล้ว ที่นี่ก็จะไม่ปลอดภัยสำหรับนลิน นลินควรไปอยู่ที่อื่น”“นลินไปอยู่กับพยัคฆ์ไหม ยังไงนลินกับพยัคฆ์ก็สนิทกัน” ตรีวิทย์เสนอ“สนิทกัน? ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่” สุกฤตาเอ่ยถามหลานชายทันที“คุณย่าอย่าเพิ่งหวงนลินสิครับ ตอนนี้ความปลอดภัยของนลินสำคัญที่สุด”“แต่ตาพยัคฆ์เจ้าชู้ เสือผู้หญิงดีๆ นี่เอง”“ไม่จริงนะครับคุณยาย พี่พยัคฆ์น่ารักมากนะครับ”สายตาสี่คู่หันไปจ้องนลินอย่างพร้อมเพรียง ทุกคนในบ้านกิตติวรกานต์ร

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 9.1 : เด็กดีขี้หึง

    พราวรุ้งถือกระเป๋าเดินลงบันไดมายังห้องครัว ทรุดกายลงนั่งซึ่งน้องชายของนางนั่งอยู่ก่อนแล้ว แม่บ้านนำกาแฟมาเสิร์ฟให้ก่อนที่นางจะตักน้ำตาลก้อนมาใส่แล้วคนอย่างใจเย็น“พี่รุ้งเห็นข่าวที่ริทซ์เมื่อคืนหรือยัง” คนเป็นน้องเอ่ยถามเมื่อเห็นพี่สาวไม่เอ่ยถึง“ข่าวอะไรหมอก พี่ยังไม่ได้ดูข่าวอะไรเลย” พราวรุ้งเอ่ยถามพลางจิบกาแฟ“พี่ก็ไปหาอ่านซะบ้างสิ ไม่ใช่อะไรก็พึ่งหมอกกับพี่พายุตลอด”พราวรุ้งตวัดหางตามองน้องชายที่ผุดลุกจากโต๊ะอาหารอย่างหงุดหงิด เป็นเหตุให้พราวรุ้งหยิบแท็บเล็ตของตัวเองมาเปิดหาข่าวที่ว่า ซึ่งเป็นข่าวซุบซิบว่อนไปทั่วอินเตอร์เน็ต ทั้งยังติดหนึ่งในสิบแฮชแท็กที่คนโพสต์อีกด้วยทายาทแม็กมารีนาซท้าทายกฎหมายไทย จับทายาทวรพิศิษฐ์กดกับพื้นกลางไนต์คลับหรูชื่อดังภาพประกอบเป็นชายหนุ่มหน้าสวยที่ทำให้พราวรุ้งเม้มปากแน่น แม้จะไม่เคยเห็นอีกฝ่ายมาก่อน แต่ใบหน้าแบบนี้...นางจำได้ไม่ลืม ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายกับคนที่นางเกลียดเข้ากระดูกดำ...ตฤน...ใครจะนึกว่าคนที่นางตามหานั้นอยู่ใต้จมูกขนาด

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 8.2 : ตัวตนของนลิน

    ร่างสูงโปร่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรเดินเข้าบ้านพลางกระชับกระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นร่างของผู้หญิงนั่งอยู่ท่ามกลางความมืด“คุณแม่! ทำไมมานั่งมืดๆ ล่ะครับ ภัคตกใจหมด”“เพิ่งเลิกเรียนเหรอภัค”“เปล่าครับ ภัคไปเที่ยวกับพวกเพื่อนมาหลังพรีเซ้นต์งานน่ะครับ แล้ววันนี้คุณแม่มาค้างที่นี่เหรอครับ”“ว่าจะมาดูพ่อเราน่ะสิ เห็นมีข่าวลือว่าไม่สบาย ภัคอยู่กับพ่อ เขาเป็นยังไงบ้างล่ะ”“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ เชื่ออะไรกับข่าวลือล่ะครับคุณแม่”“แม่ได้ยินว่าพ่อเราตามหาเมียเก่ากับพี่ชายเรา ก็เลยคิดว่าเขาป่วยหนักหรือเปล่า”“พี่ชายของภัคเหรอ ไหนคุณปู่กับคุณแม่บอกว่าพี่เขาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุพร้อมกับแม่ของเขาไงครับ”“ก็ใช่ แต่อยู่ดีๆ พ่อเราตามหา แม่ก็เลยคิดว่า...”“ถ้าพี่เขายังรอดชีวิตก็ดีสิครับ เขาจะได้มาช่วยคุณพ่อ ตอนนี้งานของคุณพ่อหนักมากนะครับ ภัคเองก็อยากเรียนจบไวๆ จะได้ออกมาช่วยคุณพ่อ แต่ภัคยังต้องรียนอีกตั้งปีสองปีแน่ะ”“ถ้าภัคบอกว่าคุณพ่อสบายดี งั้นแม่ก็คงคิดมากไปเอง ข่าวที่ว่าพ่อเราไม่สบายคงเป็นข่าวลือ”“ภัคว่าแม่อย่าไปเชื่อข่าวลือมากเลยจะดีกว่า ข่าวพวกนี้บางทีก็เชื่อไม่ได้”“แม่เข้าใจแล้ว งั้น

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 8.1 : ตัวตนของนลิน

    เสื้อเชิ้ตซิลเวอร์กลิตเตอร์จั๊มแขนบนร่างบางสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรล้อแสงไฟในไนต์คลับนั้นยิ่งดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น กอปรกับดวงหน้าสวยและแผ่นอกขาวที่เจ้าตัวปลดกระดุมสามเม็ดบนยิ่งดึงดูดสายตาเหล่าอัลฟ่าให้จับจ้อง ติดที่ว่าโอเมก้าหนุ่มนั้นมีอัลฟ่าสูงด้านหลังที่คอยส่งสายตาหวงแหน“นี่ถ้านลินไม่ฝังยาจนไม่มีฟีโรโมน พวกอัลฟ่าคงวิ่งเข้าหาแล้ว”นลินเงยหน้ามองคนพูดที่วางมือแตะแผ่นหลังอย่างหวงแหน ชายหนุ่มจึงหมุนกายแล้วโอบรอบลำคอแกร่งของอีกฝ่าย ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าพยัคฆ์หวงเขาแค่ไหน ก็ดูสายตารอบกายที่จับจ้องมาที่เขาสิ...ถ้าพยัคฆ์ไม่หวงก็คงไม่ตามประกบเช่นนี้“ถ้าไม่มีพี่พยัคฆ์ พวกอัลฟ่าก็คงเข้ามาหานลินทันที ไม่เห็นต้องพึ่งฟีโรโมนเลย”“ทำไมช่างยั่วขนาดนี้นะ”“ไม่ชอบเหรอครับ”“ไม่เห็นต้องให้พี่บอกเลยว่าชอบไหม ถ้าไม่ชอบจะมายุ่งด้วยหรือไง”“ก็นั่นสิครับ ไม่งั้นพี่พยัคฆ์จะวอแวขนาดนี้เหรอ ไม่ต้องห่วงนะครับ ตอนนี้นลินจะเป็นโอเมก้าของพี่พยัคฆ์คนเดียว ตราบใดที่พี่พยัคฆ์เป็นเด็กดีของนลิน”พยัคฆ์ลอบยกมุมปากขึ้นยิ้มร้าย ก็แน่ล่ะ! เขาตั้งใจจะเป็นเด็กดีของนลินนี่ ชายหนุ่มประคองเอวเล็กที่ยังคงเต้นเลื้อยกับตัวเขาสลับก

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 7.2 : เด็กผีในคราบเด็กดี

    ร่างอวบเดินเข้ามาในบ้านพลางมองหาแม่บ้านคนสนิท เมื่อไม่เห็นคนที่ควรจะออกมาต้อนรับจึงตะโกนเรียกด้วยความหงุดหงิด“นางจิ๋ว! จิ๋ว! แกอยู่ไหนเนี่ย”“ค่าคุณนาย จิ๋วมาแล้วค่ะ”ร่างผอมบางตัวเล็กวิ่งออกมาจากห้องครัวทันที ก่อนจะส่งแก้วน้ำให้คุณนายของบ้าน แล้วรับกระเป๋าถือของอีกฝ่ายวางบนโต๊ะในห้องนั่งเล่น“ตาเพชรไปไหนล่ะ”“ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวข้างบนค่ะ”“อาบน้ำแต่งตัว? นี่มันจะออกไปเที่ยวข้างนอกอีกแล้วเหรอ”“ค่ะ คุณหนูก็ไปเที่ยวเกือบทุกวันเป็นเรื่องปกตินะคะ”“ปกติบ้านแกสินางจิ๋ว นี่ลูกชายฉันวันๆ เอาแต่เที่ยวมันปกติที่ไหนกัน สัปดาห์นึงแวะไปบริษัทกี่ครั้งกัน”“ไม่กี่ครั้ง แต่คุณหนูก็ช่วยงานคุณท่านได้ดีนะคะ”คุณนายของบ้านได้แต่หงุดหงิดเมื่อได้ยินคำพูดของคนสนิท นางยื่นแก้วน้ำให้อีกฝ่าย ก่อนจะหยิบกระเป๋าถือของตัวเองก้าวขึ้นชั้นบนของบ้าน เคาะประตูห้องนอนของลูกชายทันที“ใครครับ”“แม่เองตาเพชร เ

DMCA.com Protection Status