หน้าหลัก / LGBTQ+ / เด็กดีของนลิน / CHAPTER 3.1 : อยากเจอก็ต้องได้เจอ

แชร์

CHAPTER 3.1 : อยากเจอก็ต้องได้เจอ

ผู้เขียน: ป.ปลาอุ๋งอุ๋ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-01 16:04:06

“หมายความว่ายังไงที่บอกว่ายังไม่ได้ข่าว”

“ทั้งสามคนเงียบหายไปเป็นเดือนแล้วครับ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนอยู่ที่โน่นรึเปล่าครับ คุณผู้หญิงจะให้พวกเราทำยังไงครับ”

มือขาวกำแน่นจนขึ้นข้อขาว ไม่คิดสักนิดว่าตัวเองที่นำหน้าสามี ตามหาคนที่หายไปร่วมยี่สิบปีเจอจะต้องคว้าน้ำเหลวอีกครั้ง นางได้ข่าวจากคนรู้จักว่าเคยเห็นอดีตภรรยาของสามีอยู่ในเมืองซีแอตเทิล ก็รีบส่งลูกน้องของบิดาให้ไปจับตัวผู้ชายที่คิดว่าน่าจะเป็นลูกชายของสามี

แต่แล้วข่าวคราวกลับเงียบหายไป

“เช็กเรื่องการเดินทางมันหรือยัง”

“ผมเช็กไปที่โรงแรม เขาว่ามีคนมาเช็กเอ้าท์ออกไปแล้ว แล้วก็มีการยกเลิกการจองเที่ยวบิน เงียบหายไปแบบนี้...ผมว่าอาจถูกเก็บไปแล้วก็ได้ครับ”

“แค่เด็กผู้ชายคนเดียวมันจะทำอะไรได้”

“ถ้าเป็นอย่างที่ไอ้พวกนั้นตามสืบ คนที่ดูแลผู้ชายคนนั้นก็ระดับบิ๊กของซีแอตเทิล เป็นผู้มีอิทธิพลคนนึงเลยนะครับ และคงใหญ่กว่าจิรพงศ์ธาดาเสียอีกครับ”

“ไร้สาระ! ถึงจะมีคนดูแลยังไงก็ทำตามอำเภอใจไม่ได้หรอกนะ กฎหมายที่นั่นจะไม่ทำอะไรเลยหรือไง”

“คงไม่ต่างกับที่นี่หรอกครับ ถ้าไม่มีใครรู้ใครเห็น และมีเงินมากพอ ก็ไม่มีหลักฐานโยงถึงผู้กระทำผิดจริงๆ”

หญิงวัยสี่สิบห้าได้แต่เม้มปากแน่น นางรู้เรื่องนี้ดีกว่าใคร เมื่อยี่สิบปีก่อนนางก็เป็นคนลงมือทำเรื่องเลวร้าย ทั้งที่แน่ใจว่าทั้งสองคนต้องตายไปในกองเพลิงจากอุบัติเหตุจนไฟลุกไหม้ทั้งคัน ทว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อน นางกลับพบว่าสามีของนางส่งคนไปตามหาทั้งคู่จนรู้ว่าทั้งคู่ยังมีชีวิตอยู่ นั่นทำให้นางต้องเร่งสืบเพื่อให้รู้เรื่องทั้งหมดก่อนสามี

“ถ้าพวกมันถูกเก็บจริงๆ ฉันก็เสียเงินเปล่าประโยชน์น่ะสิ”

“อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าพวกนั้นอยู่ในซีแอตเทิลนะครับ”

“ส่งคนไปใหม่ ไปสืบต่อจากตรงนั้น ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าพวกนั้นอยู่ที่ไหน ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งของของฉัน”

“ได้ครับคุณผู้หญิง”

คนถูกเรียกว่าคุณผู้หญิงเม้มปากแน่น นางทำทุกอย่างแม้แต่ยอมเป็นตัวแทนเพื่อตั้งครรภ์และให้กำเนิดทายาทจิรพงศ์ธาดา ทั้งยังต้องทนทุกข์ทรมานมายี่สิบปีเพื่อเป็นภรรยาที่ถูกสามีรังเกียจ นอนแยกห้อง จนกระทั่งบิดาของนางเสียชีวิต นางจึงแยกบ้านอยู่กับอีกฝ่ายเพราะไม่อยากเจ็บปวดอีก

แต่แล้วลาภิณก็ยังใจร้ายกับนางด้วยการส่งคนไปตามหาอดีตภรรยาและลูกชายที่ควรตายไปในกองเพลิงนั่น เขาไม่เคยรักนาง ไม่เคยรักลูกชายของนางเลย ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมาเอาแต่คิดถึงคนที่ควรตายไปแล้วตลอดเวลา

ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหจนได้แต่กำมือแน่น และหากนางเจอทั้งคู่ ครั้งนี้นางจะต้องเห็นกับตาและลงมือจัดการทั้งคู่ด้วยมือของนางเอง

ในเมื่อนางไม่มีความสุข...ใครก็อย่าหวังจะมีความสุข อย่าหวังมาแย่งของของนาง!

นลินจ้องโทรศัพท์ของตัวเองอยู่นานสองนาน สิ่งที่ได้รับรู้จากลูกน้องทั้งสองคนซึ่งติดตามมาจากซีแอตเทิลก็ให้ต้องกัดกระพุ้งแก้มเบาๆ แม้จะเป็นอย่างที่เขานึกสงสัย แต่เขาก็อยากแน่ใจมากกว่านี้

ชายหนุ่มหยิบล็อกเก็ตออกมาจากกระเป๋าเสื้อคาร์ดิแกน เปิดมันออกดูภาพถ่ายสีซีดด้านใน แม้เขาจะยังเด็กมาก แต่ความทรงจำเรื่องบิดาผู้ให้กำเนิดยังคงชัดเจน

รอยยิ้มใจดีอ่อนโยนที่มอบให้เขา จุมพิตอบอุ่นที่คอยจูบยามกลับมาถึงบ้าน อ้อมกอดที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ความรู้สึกเหล่านั้นยังชัดเจน และเขาตั้งใจจดจำมันมาตลอดยี่สิบปีราวกับกลัวว่าจะลืมเลือน

แม้มารดาจะไม่เคยโกหกเขา ไม่เคยปิดบังทุกเรื่องราวจากเขา แต่เขากลับเชื่อความรู้สึกของตัวเอง เขาเชื่อว่าความรู้สึกเหล่านั้นไม่โกหกเขาเช่นกัน และหากบิดาผู้ให้กำเนิดไม่ได้โกหกเขาก็ไม่มีวันทำเรื่องใจร้ายด้วยการสั่งฆ่าเขาและมารดาเป็นแน่

นลินถูกเทรนต์สอนมาตลอดว่าไม่ให้มองภาพมุมเดียว ไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ หากไม่ได้ยินกับหู ไม่ได้เห็นกับตา ตราบใดที่เป็นเรื่องมาจากบุคคลที่สาม เขาก็จะไม่ปักใจเชื่อเด็ดขาด

แม้แต่เรื่องของบิดาผู้ให้กำเนิดที่ออกมาจากปากมารดาของเขาเองก็ตาม

เขาไม่คิดว่ามารดาจะกล่าวหาบิดาลอยๆ ไม่เคยนึกโทษที่มารดามองบิดาในแง่ร้าย แต่เพราะความรัก เพราะนวมิณทร์รักลาภิณมาก รักมากจึงเสียใจมากจนไม่ได้ฟังความจริงจากเจ้าตัว ด้วยตอนนั้นเป็นห่วงนลินยิ่งกว่าสิ่งใด จึงหวังเพียงแค่ขอให้นลินปลอดภัยเท่านั้น ไม่ได้สนใจว่าความจริงนั้นเป็นอย่างไรเลย

“นลินคิดอะไรอยู่”

คนถูกเรียกรีบเก็บล็อกเก็ตใส่กระเป๋าเสื้อคาร์ดิแกนก่อนจะส่งยิ้มให้คนที่ทรุดกายนั่งข้างๆ มือใหญ่ลูบเส้นผมนิ่มสีดำชาร์โคลพลางส่งยิ้มใจดีให้หลานชาย

“คุณลุงช่วยเล่าเรื่องเมื่อยี่สิบปีก่อนให้นลินฟังได้ไหมครับ”

“จะอยากรู้ไปทำไมเรื่องเลวๆ แบบนั้น นลินจำแค่...”

“คุณลุงคิดว่าพ่อของนลินจะทำแบบนั้นจริงๆ เหรอครับ เขาดูเป็นคนใจร้ายใจดำได้เหรอครับ คุณตาบอกว่าครอบครัวจิรพงศ์ธาดาและครอบครัวกิตติวรกานต์รู้จักกันตั้งแต่พวกคุณลุงยังเด็ก และเพราะรู้จักกันนี่แหละที่คุณแม่และคุณพ่อรักกันมาตลอดจนถึงขั้นแต่งงานกัน”

“ถ้าถามลุง...ลาภิณไม่ใช่คนที่ทำร้ายใครได้ เขาเป็นสุภาพบุรุษและอ่อนโยนมากโดยเฉพาะกับตฤน หลังจากตฤนเรียนจบจากต่างประเทศกลับมาทั้งคู่ก็แต่งงานกันเลย เพราะหมั้นหมายกันตั้งแต่ก่อนตฤนไปเรียนเมืองนอก และลาภิณก็รักษาสัญญามาตลอด ไม่เคยนอกใจตฤนเลย ขยันส่งจดหมายไปหา ลุงก็ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ลาภิณเปลี่ยนไป คงเพราะอยากนั่งเก้าอี้ซีอีโอนั่นแหละ”

“แล้วคุณลุงได้ข่าวคุณพ่อช่วงนี้ไหมล่ะครับ”

“เห็นว่าไม่สบาย อาจเพราะเหตุนี้มั้งถึงได้ตามหาตฤนกับนลิน”

ไตรทศพูดจบก็หันมองใบหน้าหลานชาย ดวงหน้าสวยหวานไม่ต่างจากผู้หญิงนั้นเต็มไปด้วยความคลางแคลงใจ นั่นทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าอีกฝ่ายไปรู้อะไรมา

“นลินอยากให้ลุงช่วยอะไรก็บอกลุงมาได้เลยนะ”

“นลินอยากให้ลุงไปหาคุณพ่อที่บ้านครับ”

“หมายความว่ายังไงน่ะนลิน”

“นลินให้คนตามสืบประวัติบ้านจิรพงศ์ธาดาหลังคุณแม่พานลินออกมา มีจุดน่าสงสัยหลายอย่าง”

“เรื่องอะไร”

“คุณพ่อมีลูกอีกคนชื่อภัคพลใช่ไหมครับ”

ไตรทศพยักหน้า “แม่เขาดูภาคภูมิใจมากตอนคลอดลูกออกมาแล้วเป็นอัลฟ่า ถึงขั้นจัดงานเลี้ยงฉลองเปิดตัวทายาทจิรพงศ์ธาดาเลยด้วยซ้ำ เรื่องนั้นตฤนก็รู้นะ”

“ครับ แม่เคยเล่า แม่เสียใจมาก ตอนนั้นแม่ยังไม่รู้จักกับแด๊ด แม่บอกว่าแม่หายมาจากพ่อไม่ถึงปีคุณพ่อก็มีลูกคนใหม่ แม่เข้าใจว่าคุณพ่อนอกใจคุณแม่มาตั้งแต่คุณแม่ยังอยู่กับคุณพ่อ แต่แม่ไม่ได้รู้ว่าคุณพ่อไม่ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้น”

“นลินหมายความว่ายังไง”

“คุณลุงคงไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกันใช่ไหมครับ”

“ไม่ ตั้งแต่ช่วยตฤนให้พานลินออกนอกประเทศ บ้านเรากับบ้านนั้นก็ตัดขาดกันเลย ไม่แม้แต่จะไปเผาศพตาแก่บ้านนั้น”

“หมายถึงคุณปู่น่ะเหรอครับ”

“ใช่ เพราะตาแก่นั่นเห็นแก่ผลประโยชน์ทางธุรกิจจึงดึงผู้หญิงนั่นเข้ามาในชีวิตของตฤนและลาภิณ ลุงก็พอจะรู้แหละว่าลาภิณไม่ได้เต็มใจนัก ตอนงานแต่งงานของลาภิณกับผู้หญิงคนนั้น หน้าตาเหมือนคนอมทุกข์”

“บางที...สิ่งที่คุณแม่และคุณลุงได้ยินอาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมดก็ได้นะครับ”

“นลินไปรู้อะไรมาจริงๆ ใช่ไหม”

“นลินสั่งเบนนี่และพาร์ดี้ตั้งแต่อยู่ซีแอตเทิลแล้วว่าให้สืบประวัติของจิรพงศ์ธาดาทั้งหมดหลังแม่กับนลินออกมา”

“แล้วเป็นยังไงบ้าง”

“มันย้อนแย้งกับสิ่งที่นลินรู้มาตลอดยี่สิบปีน่ะสิครับ”

“จะบอกว่าพวกเราเข้าใจลาภิณผิดเหรอ”

“ก็อาจจะครับ” นลินเม้มปากแน่น “เพราะนลินเองก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่รู้มาเป็นความจริงแค่ไหน เลยอยากให้คุณลุงไปพบคุณพ่อไงครับ นลินอยากรู้ว่าสิ่งที่นลินรู้มากับสิ่งที่ออกมาจากปากคุณพ่อน่ะตรงกันไหม”

“นลินรู้อะไรมา”

“คุณพ่อกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้นอนห้องเดียวกันครับ นลินไม่รู้ว่าเธอทำยังไงจึงได้ท้อง แต่เพราะเธอท้องคุณพ่อจึงยอมแต่งงานด้วย ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับคุณปู่ด้วยไหม แต่ถึงจะแต่งงานกันคุณพ่อก็ไม่ยอมนอนห้องเดียวกับเธอ ไม่ยอมทำพันธะ และพอพ่อของเธอตาย พ่อก็ไม่ห้ามที่เธอย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน แต่เธอก็ยังไปๆ มาๆ เพราะลูกของเธอยังอยู่ที่บ้านคุณพ่อ”

“นลินหมายความว่าทั้งหมดไม่ใช่เจตนาของลาภิณ แต่เป็นเพียงความรับผิดชอบเพราะเป็นพ่อของตาภัคเหรอ”

“พ่อคงคิดว่าเด็กคนนั้นไม่ผิดที่เกิดมา แม้พ่อจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็เกิดมาเพราะคุณพ่อ”

“นั่นก็สมกับที่เป็นลาภิณล่ะนะ”

“คุณลุงช่วยนลินหน่อยนะครับ นลินอยากรู้ความจริง”

“ได้สิ ลุงจะช่วย ถ้าเป็นอย่างที่นลินบอก เราอาจเข้าใจลาภิณผิดมาตลอดยี่สิบปี และคนที่เป็นทุกข์ไม่ต่างจากพวกเราก็คือลาภิณ อาจจะทุกข์ยิ่งกว่าก็ได้ เพราะเขาคงคิดโทษตัวเองมาตลอดว่าตฤนกับนลินตายไปแล้ว”

“ไม่ก็พยายามตามหาพวกเรามาตลอดยี่สิบปี” นลินเอ่ยเสียงเบา

แม้ชายหนุ่มจะพยายามพูดเสียงเบาเพียงใด ทว่าเพราะนั่งชิดติดกันไตรทศจึงได้ยินมันเต็มสองหู หากเป็นเช่นที่นลินคิดแล้วล่ะก็...เขาเองก็ผิดที่ไม่ไตร่ตรองสาส์นที่รับมาให้ดีแล้วก็ปักใจเชื่อ จนทำให้ครอบครัวของน้องชายต้องแตกและพังทลายขนาดนี้

หากเป็นจริงเช่นที่นลินพูด แล้วกิตติวรกานต์ทั้งหมดเข้าใจลาภิณผิด เขาไม่ทำร้ายแต่ลาภิณ แต่ยังทำร้ายทุกคนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตฤนและนลินที่ต้องห่างจากคนที่รักนับยี่สิบปี สร้างบาดแผลให้แก่ทุกคนจนถึงทุกวันนี้

“ไม่รู้ว่าถ้าคุณพ่อไม่ผิด คุณแม่จะเจ็บปวดแค่ไหน” นลินเอ่ยขึ้นพลางหยิบล็อกเก็ตต่างหน้าบิดาออกจากกระเป๋าเสื้ออีกครั้ง

“มันอาจเป็นชะตาลิขิตก็ได้นะนลิน” ไตรทศปลอบใจหลานชาย

“ชะตาเล่นตลกน่ะสิครับ ถ้าคุณพ่อไม่ผิด คุณแม่ก็คงโทษตัวเองที่ไปจากคุณพ่อ แล้วก็ต้องรู้สึกผิดที่ไม่เชื่อในความรักของคุณพ่อ แล้วกับแด๊ดเอง...คุณแม่เองก็รักเหมือนกัน ทั้งยังเป็นคนผ่าตัดเอารอยพันธะคุณพ่อออก ยอมให้แด๊ดทำรอยพันธะ แล้วหากเป็นอย่างนลินคิด คุณแม่จะทำยังไงล่ะครับ จะกลับมาอยู่กับคุณพ่อ หรือเลือกจะอยู่กับแด๊ด”

นลินแค่นหัวเราะ เขาเพียงแค่อยากตามล่าคนที่ทำร้ายเขา ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอสิ่งที่ไม่คาดคิดเช่นนี้ หากบิดาเป็นคนเลวร้ายคงจะดีเสียกว่า เพราะการที่มารดาหนีไปถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง แต่แบบนี้...

เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร

“ลุงจะไปหาลาภิณ จะต้องรู้ความจริงให้ได้”

“ขอบคุณครับคุณลุง”

ไตรทศลูบศีรษะหลานชาย ก่อนจะผุดลุกเพื่อเข้าไปปรึกษาบิดามารดาในเรื่องนี้ ทิ้งให้นลินนั่งในสวนเพียงลำพัง โดยไม่รู้แลยว่ามีคนแอบดูมาครู่หนึ่งแล้วด้วยความสงสัย

“ทำไมถึงดูสนิทสนมกับลุงไตรขนาดนั้นกันนะนลิน”

“อะแฮ่ม! มาแอบดูใครน่ะพยัคฆ์”

พยัคฆ์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปด้านหลังที่แฝดผู้พี่กำลังยืนยิ้มอย่างล้อเลียน แม้เขาจะไม่พูดอะไร แต่ท่าทางของเขาก็บอกพยนต์จนหมด

“พยนต์จะไม่ถามว่ารู้จักนลินมาก่อนไหม แต่จะถามพยัคฆ์ว่าช่วงนี้ที่แวะมาเกือบทุกวันเนี่ยไม่ใช่เพราะงาน ไม่ใช่เพราะคิดถึงหลาน แต่เพราะอยากเจอหน้านลินใช่ไหม”

“ก็รู้อยู่แล้วยังจะถามทำไม”

“พยัคฆ์จะมาทำเล่นๆ กับนลินไม่ได้หรอกนะรู้ไหม”

“ทำเล่นๆ อะไรล่ะ แค่เข้าใกล้ยังยากเลย แถมยังเอาแต่บอกพยัคฆ์ว่าเป็นเบต้า ไม่อยากยุ่งกับอัลฟ่า”

“ไม่มีเบต้าที่ไหนอยากยุ่งกับอัลฟ่าหรอกนะ”

“สวยๆ อย่างนลินไม่มีทางเป็นเบต้าหรอกนะพยนต์ พยัคฆ์ว่าเขาโกหกซะมากกว่า”

“พูดเหมือนรู้จักเขามาก่อนเลยนะ”

พยัคฆ์ไม่ตอบคำถาม ทว่าสายตายังคงจับจ้องแผ่นหลังบอบบางที่ก้มมองของบางอย่างในมือ ใช่ว่าเขาอยากจะทำเพียงเฝ้ามองเสียหน่อย แต่นลินไม่เปิดโอกาสให้เขาเอาเสียเลย

ก่อนหน้านี้เขาแค่ขอให้ได้เจอนลินอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าแค่เจออย่างเดียวคงไม่พอเสียแล้วสิ เขาอยากได้มากกว่านี้...อยากใกล้ชิดมากกว่านี้

และคนอย่างพยัคฆ์...อยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่ว่าต้องใช้วิธีใดก็ตาม!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 3.2 : อยากเจอก็ต้องได้เจอ

    ภาพข่าวขาวดำที่ถูกเก็บไว้อย่างดีในกล่องเหล็กถูกเปิดออกดูซ้ำมาหลายครั้งหลายหนร่วมยี่สิบปี ชายวัยห้าสิบต้นๆ ยังคงหยิบจับลูบไล้มันซ้ำๆ ก่อนจะดูภาพครอบครัวสีซีดของตัวเองที่ถ่ายเมื่อประมาณยี่สิบปีก่อน และนี่คงเป็นภาพสุดท้ายที่เขาได้ถ่ายร่วมกับภรรยาและลูกชายเสียงเคาะประตูทำให้เขาชะงัก มือที่กำลังเก็บความทรงจำทุกอย่างใส่กล่องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงจากด้านนอก นั่นทำให้เขารู้ว่าคนที่เคาะประตูคือคนสนิท จึงส่งเสียงอนุญาต“ได้เรื่องบ้างไหมพระลพ”คนที่ถูกเรียกว่าพระลพมองกล่องเหล็กแกะสลักลายซึ่งดูเก่ามากแล้ว ทว่าเจ้าของกลับยังคงรักษาทุกอย่างไว้อย่างดีก็ให้นึกสงสารชายตรงหน้าที่ใบหน้าดูอายุร่วงโรยมากกว่าวัยที่แท้จริง“ได้มาไม่มากเท่าไหร่ครับ หลังการจัดฉากอุบัติเหตุและเพลิงไหม้ครั้งนั้น ทั้งสองหนีไปอยู่อเมริกาและมีเศรษฐีในซีแอตเทิลคอยดูแล”“เจาะจงกว่านั้นได้ไหม คนที่พวกเขาไปอยู่ด้วยเป็นใคร แล้วพวกเขาเป็นยังไงบ้าง สุขสบายดีไหม”“ยังสืบเรื่องนั้นไม่ได้ครับ เพราะคุณตฤนปิดบังตัวตนเปลี่ยนชื่อใหม่ด้วย แถมยังต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 4.1 : ผมเป็นเบต้า!

    รถคูเป้สองประตูสีดำสัญชาติยุโรปเลี้ยวผ่านบ้านหลังใหญ่มาจอดหน้าบ้านของตรีวิทย์และพยนต์ นั่นทำให้เจ้าของบ้านที่วันนี้ไม่ไปทำงานต้องเลิกคิ้วประหลาดใจ จริงอยู่ที่เป็นเรื่องปกติที่พยัคฆ์จะแวะมาหาพยนต์และภูวนัย ทว่าช่วงนี้จะแวะมาบ่อยเกินไปหรือเปล่านะ“ใครมาเหรอครับพี่ตรี”“พยัคฆ์น่ะสิ ช่วงนี้มาเกือบทุกวันเลยนะ ที่บ้านมีอะไรรึเปล่า”“ไม่มีหรอกครับ พยัคฆ์ไม่ได้มาหาพยนต์ด้วย”“หือ? ไม่ได้มาหาพยนต์แล้วมาหาใคร” ตรีวิทย์เอ่ยถามภรรยาด้วยความฉงนใจ“พี่ตรีลองสังเกตดูละกันนะครับว่าพยัคฆ์มาหาใคร”ตรีวิทย์เลิกคิ้วมองคนที่สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำพับแขนขึ้นถึงข้อศอก กระดุมเสื้อเชิ้ตปลดจนเห็นแผ่นอกอย่างเซ็กซี่ กับกางเกงยีนส์เข้ารูปก็ให้นึกสงสัยว่าแต่งตัวล่อเหยื่อขนาดนี้ เหตุใดจึงไม่ไปเที่ยวกับเหล่าโอเมก้าของเจ้าตัว กลับเลือกมาบ้านของเขาในวันหยุดเช่นนี้หรือว่า...ตรีวิทย์หันกลับไปมองในห้องนั่งเล่นที่มีอาหลานกำลังต่อรางรถไฟเหาะตีลังกาซึ่งนลินหอบหิ้วมาจากอเมริกา นั่นทำให้เขาสบตาภรรยาราวกับจะถาม“พี่เข้าใจถูกใช่ไหมพยนต์”“ครับ แต่นลินดูไม่อยากยุ่งด้วยเท่าไหร่”“พี่เคยได้ยินอาเทรนต์กับอาตฤนเล่าว่าตอนอยู่โน่นนล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 4.2 : ผมเป็นเบต้า!

    “จริงเหรอครับคุณลุง พวกเราเข้าใจคุณพ่อผิดมาตลอดจริงๆ สินะครับ”“ใช่ เป็นอย่างที่นลินบอกลุงเลย แต่...มีเรื่องสำคัญที่ลุงต้องบอกนลิน”“ครับ มีอะไรเหรอครับ”“พ่อของนลินไม่ได้เพิ่งตามหานลินหรอกนะ เขาตามหามาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ปู่ของนลินตาย พ่อของนลินก็เริ่มส่งคนให้ออกตามหาโดยไม่ให้พราวรุ้งรู้ แต่ที่เขาเร่งหาตอนนี้เพราะเขาเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว”“ครับ? คุณพ่อเป็นอะไรครับ”“มะเร็งกระดูกน่ะ ลุงใช้เส้นสายไปลองสืบที่โรงพยาบาลที่ลาภิณรักษาตัว เขาพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งกระดูกมาตั้งแต่สองปีก่อน แล้วก็รักษามาโดยตลอด แต่เมื่อเดือนก่อนพบว่ามันลุกลาม ลาภิณจึงตัดสินใจร่วมกับหมอว่าจะหยุดการรักษา และเขาตั้งใจใช้ช่วงเวลาสุดท้ายนี้เพื่อตามหาตฤนกับนลิน”นลินขบกรามแน่นกลั้นความรู้สึกวูบโหวง ทั้งที่ความทรงจำวัยเยาว์ที่มีบิดานั้นเป็นเพียงระยะสั้นๆ แต่เขากลับรู้สึกแย่ รู้สึกเสียใจที่บิดาเหลือเวลาน้อยนิดเสียเหลือเกิน เขาข่มอารมณ์ที่ไม่ปกติของตัวเองไว้“คุณพ่อเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ครับ”“เร็วสุดคือหกเดือน ช้าสุดคือหนึ่งปี”“น้อยเหลือเกิน”“นลินจะไปเจอพ่อเขาไหม”“ครับ แต่ถ้านลินไปเจอคุณพ่อ คนที่ส่งคนไปทำร้ายนลินก็ต้องร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 5.1 : บทพิสูจน์

    “ปล่อย! ลากมาทำอะไรของคุณเนี่ย”พยัคฆ์ขบกรามแน่นนึกโมโหนลินจนแทบคลั่งที่อีกฝ่ายมายืนกอดกับตรีวิทย์ ก็ไหนว่าเป็นเบต้า ไม่สนใจอัลฟ่าอย่างไรเล่า ที่แท้ก็แอบมาเป็นชู้กับพี่เขยของเขานี่เอง ทำเป็นรังเกียจเขา ทว่าความจริงคือตั้งใจจะจับตรีวิทย์ชัดๆปึก!ใบหน้าของนลินกระแทกเข้ากับแผ่นหลังของคนที่ถูลู่ถูกังมาตลอดทาง ชายหนุ่มถูกกระแทกจนกระเด้งแล้วล้มลงกับพื้นนลินกัดริมฝีปากของตัวเองที่รู้สึกเจ็บ นี่มันวันบ้าอะไรของเขากันที่ต้องมาเจ็บทั้งตัวมาเจ็บทั้งใจ แค่เรื่องบิดาเขาก็เสียใจมากพอแล้ว ตั้งแต่จำความได้...นอกจากเสียใจเพราะคิดถึงบิดาครั้งที่ไปอยู่อเมริกาใหม่ๆ ก็ครั้งนี้นี่แหละที่เขาร้องไห้หนักขนาดนี้แล้วนี่อะไรกัน? เขายังต้องมาเจ็บตัวอีก“ไม่ต้องมาทำสำออย ลุกขึ้นมา!”นลินเงยหน้าขึ้นมองคนพาลอย่างหงุดหงิด เขาไม่ได้สำออยเสียหน่อย แต่เขาเบื่อหน่ายจนไม่อยากลุกไปต่อล้อต่อเถียงด้วยต่างหากชายหนุ่มนั่งขัดสมาธิก่อนจะปัดเศษต่างๆ ออกจากมือและแขนราวกับไม่สนใจท่าทางเกรี้ยวกราด ปกติเขาก็ไม่ชอบคนไร้เหตุผล ไม่ชอบคนใช้อารมณ์แบบนี้อยู่แล้ว และยิ่งไม่ชอบคนที่เอาความโกรธมาลงกับเขาเพราะฉะนั้น...พยัคฆ์ไม่ใช่สเปกของเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 5.2 : บทพิสูจน์

    พยัคฆ์เดินไปเดินมาพลางชะเง้อดูแฝดผู้พี่ที่บอกว่าจะช่วยพูดกับนลินให้ ทว่าผ่านไปตั้งหลายนาทีแล้วกลับยังไม่เห็นวี่แววของทั้งคู่ เป็นเหตุให้ตรีวิทย์ที่กำลังเล่นต่อจิ๊กซอว์กับลูกชายลอบอมยิ้มขำ“คุณพ่อครับ ทำไมน้ายักษ์เดินไม่หยุด”“น้าพยัคฆ์รออานลินครับ”“รอทำไมครับ อานลินไปไหน อานลินทิ้งน้องพูห์เหรอ”“ไม่ใช่ครับ อานลินคุยอยู่กับคุณแม่ครับ”ภูวนัยเอียงคอก่อนจะผุดลุกเดินไปหาพยัคฆ์ แล้วจับมือใหญ่ของอีกฝ่าย เป็นเหตุให้พยัคฆ์ต้องหันมองหลานชายด้วยความฉงนใจ“น้องพูห์มีอะไรครับ”“ต่อจิ๊กซอว์กันครับ”“เดี๋ยวน้าไปต่อด้วยนะ น้าพยัคฆ์รออานลินของน้องพูห์อยู่”“น้ายักษ์เป็นเด็กไม่ดี ถ้าน้ายักษ์ดื้ออานลินจะไม่รักนะครับ”“หือ? น้องพูห์บอกว่าถ้าน้าพยัคฆ์ดื้อ อานลินจะไม่รักเหรอครับ”“ครับ อานลินบอกว่าอานลินรักน้องพูห์ น้องพูห์เป็นเด็กดี ไม่ดื้อ”พยัคฆ์ขมวดคิ้วเข้มจนระหว่างคิ้วเป็นร่องลึก เขายอมเดินตามแรงน้อยๆ ของโอเมก้าวัยสามขวบไปนั่งบนพรมข้างพี่เขยที่ยังคงยิ้มกริ่ม“พี่ว่าพยัคฆ์คงไม่ได้แค่สนใจนลินแล้วล่ะ ถ้าชอบก็ลุยเลย ไม่งั้นนลินไปสนใจคนอื่นแน่”“พี่ตรีกับนลินไม่ได้...”“ไม่ใช่อย่างที่พยัคฆ์คิดหรอก พี่รู้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 6.1 : ได้แล้วห้ามทิ้ง!

    ประตูห้องนอนเพ้นต์เฮ้าส์เปิดออกขณะที่มือใหญ่ยังคงกอดเกี่ยวเอวบอบบางไว้ เช่นเดียวกับที่ริมฝีปากของทั้งคู่แนบสนิทกันไม่ยอมผละออกห่าง ราวกับโหยหากันและกัน กลิ่นฟีโรโมนของทั้งคู่ผสมผสานกันจนอบอวลไปทั่วห้อง นลินถูกไล่ต้อนจุมพิตพลางก้าวถอยหลังกระทั่งชนเข้ากับเตียงจนทรุดตัวลงนั่งบนเตียงกว้างกลางห้องริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกห่างกัน ลิ้นเล็กมีน้ำลายสีใสยืดเยิ้ม ดวงตาคู่สวยฉ่ำหวานด้วยแรงปรารถนาที่ขับเคลื่อนจากการกระตุ้นฟีโรโมน มองตามมือใหญ่ที่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด...ทีละเม็ด...ทว่าท่าทางอ้อยอิ่งเชื่องช้าของพยัคฆ์นั้นดูเหมือนจะไม่ทันใจของนลิน มือขาวจึงดึงอีกฝ่ายให้นอนอยู่ใต้ร่าง พยัคฆ์กึ่งนั่งกึ่งนอนขณะที่ร่างบอบบางคร่อมอยู่บนกายแกร่ง มือเรียวปลดกระดุมออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปลดเสื้อเชิ้ตออกจากบ่าแกร่ง แล้วโน้มหน้าลงจูบต้นคอแกร่ง ดูดเม้มจนขึ้นสีเข้มพยัคฆ์ปลดแขนเสื้อแล้วปล่อยให้เสื้อหล่นข้างเตียงขณะยันกายด้วยแขนข้างหนึ่งเพื่อเอนกาย อำนวยความสะดวกให้นลินที่ซุกไซ้ไปตามลำคอและลาดไหล่ เพราะรู้สึกอารมณ์ดีจึงทำให้กลิ่นฟีโรโมนดอกโบตั๋นนั้นหอมหวานไปด้วย เป็นเหตุให้นลินยังมัวเมาไปกลับกลิ่นนั้น“อืม.

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 6.2 : ได้แล้วห้ามทิ้ง!

    นลินไม่ได้อยากจะยอมนั่งนิ่งๆ แบบนี้ แต่เพราะไม่มีแรงแม้แต่กระดิกนิ้ว ราวกับว่าพยัคฆ์กลัวจะซ้ำรอยเดิมจึงไม่ยอมให้เขาพัก ไม่ว่าจะโอดครวญว่าไม่ไหวแค่ไหน อีกฝ่ายก็ยังเอาแต่กระแทกจนเขาแทบจะสลบ เป็นครั้งแรกในชีวิตของนลินที่ต้องเจอเซ็กซ์ดุเดือดและยาวนานขนาดนี้ชายหนุ่มยังคงหลับตา ปล่อยให้พยัคฆ์นวดศีรษะสระผม และปล่อยให้อีกฝ่ายล้างแชมพูออกจากเส้นผม ก่อนจะยอมให้พยัคฆ์มานั่งด้วยกันในอ่างอาบน้ำ ยอมนั่งนิ่งๆ ในอ้อมกอดอีกฝ่าย“วันนี้ไม่หนีพี่แล้วใช่ไหม”“เอาแรงไหนไปหนี คุณ...อ๊ะ!”นลินสะดุ้งเมื่อพยัคฆ์กัดหมับบนบ่าของเขา แม้จะไม่แรงนักแต่ก็คงเป็นรอยฟันจนเขาต้องหันมองตาขวางอย่างไม่ชอบใจพยัคฆ์ลูบบนรอยฟันเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงอ้อน “พี่บอกแล้วไงว่าไม่ให้เรียกว่าคุณ เรียกว่าพี่พยัคฆ์นะครับ”“ถ้ากัดอีกทีนลินจะไม่พูดด้วยอีก”“นลินได้พี่แล้วจะทิ้งเหรอ ใช่สิ! นลินเคยทิ้งพี่ไปครั้งนึงแล้วนี่”“พูดไร้สาระอะไรเนี่ย”“จะปฏิเสธอีกเหรอว่าไม่ใช่โอเมก้าที่พี่เคยก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 7.1 : เด็กผีในคราบเด็กดี

    “อย่านะคะคุณมุกรวี!”ปึง!ประตูบานหนักเปิดออก ทุกคนในห้องประชุมพากันหันไปมองคนที่ขัดการประชุมสำคัญทันที ขณะที่ประธานการประชุมกลับนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้อย่างไม่รู้สึกรู้สา ไม่แม้แต่จะปรายตามองด้วยซ้ำ นั่นทำให้ทุกคนในที่ประชุมรู้ดีว่าควรทำตัวเช่นไร“ประชุมบอร์ดผู้บริหารแต่ทำไมถึงประชุมโดยไม่เรียกฉันล่ะ”“คุณมุกรวีคะ ออกไปเถอะค่ะ”“ใครปล่อยคนนอกเข้ามาในห้องประชุมทั้งที่บอร์ดผู้บริหารเขาประชุมกันอยู่ ถ้าความลับของสตาร์ไลท์หลุดรอดออกไป ใครจะรับผิดชอบกับเรื่องนี้” พยัคฆ์เอ่ยถามเสียงเย็นเยียบ“พวกเราพยายามห้ามแล้วค่ะคุณพยัคฆ์”“รปภ. คนไหนปล่อยขึ้นมา ให้รับผิดชอบในเรื่องนี้ซะ ฉันสั่งลงไปแล้วว่าถ้าผู้หญิงคนนี้ก้าวเข้ามาในบริษัท แล้วใครปล่อยเข้ามาจะไล่ออกทันที”“พยัคฆ์! นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันก็เป็นลูกคุณพ่อ เป็นป้าของแก”ดวงตาคมปลาบหันมองคนที่อ้างตัวว่าเป็นลูกของคุณปู่ และเป็นป้าของเขาทันที นั่นเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-08

บทล่าสุด

  • เด็กดีของนลิน   SPECIAL 4 : นลิน...และเด็กดีของเขา

    เสียงเข้มที่กำลังโวยวายอยู่ในห้องทำงานชั้นล่างของคฤหาสน์ศตาวุทธิพงศ์ทำให้คนที่เพิ่งกลับมาถึงต้องชะงัก ไม่ได้ชะงักเพราะเสียงด้านใน แต่ชะงักเพราะเด็กทั้งหกคนที่กำลังยืนออกันหน้าห้อง เป็นเหตุให้ซีอีโอแห่งศตาวุทธิพงศ์กรุ๊ปในวัยเกือบสี่สิบกระแอมเรียกเจ้าเด็กทั้งหก“อะแฮ่ม! มาแอบฟังอะไรตรงนี้” พยัคฆ์แกล้งเอ่ยเสียงเข้ม“คุณพ่อ! กลับมาแล้วเหรอครับ” พลินทร์เอ่ยถามก่อนจะมองหน้าน้องๆ พลางย่นคอด้วยกลัวว่าจะถูกตำหนิ“กลับมาแล้วครับ มามะ! มาหาพ่อนี่มา”เด็กแฝดสามคู่วิ่งเข้าหาบิดาพลางยืนล้อมรอบ ก่อนพยัคฆ์จะถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินเสียงของคุณนายแห่งศตาวุทธิพงศ์ยังคงอาละวาดลูกน้องคนสนิทในฐานะซีอีโอแห่งแม็กมารีนาซ ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งรับตำแหน่งนี้ไปเมื่อสี่ปีก่อน“คุณแม่โกรธลุงเบนนี่มากเลยฮะ” พริษฐ์เอ่ยพลางทำสีหน้าแหยงๆ“แม่เรากลับมานานแล้วเหรอ”“คุณแม่ไปรับพวกเราครับ ลุงเบนนี่เพิ่งมาเมื่อกี้ แล้วก็ระเบิดลงตู้มๆ เลยครับ”พยัคฆ์มองดวงตากลมโตของโอเม

  • เด็กดีของนลิน   SPECIAL 3 : นลิน...และเจ้าก้อนของเขา

    เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของคนที่บ่นว่านอนหลับไม่สนิททำให้ซีอีโอหนุ่มแห่งสตาร์ไลท์คลี่ยิ้ม ค่อยๆ ปิดหนังสือนิทานที่เขาไม่แน่ใจว่าอ่านให้ลูกหรือแม่ฟังกันแน่ ทว่าหากมันทำให้นลินหลับได้นานขึ้นสักนิดก็คงจะดีไม่น้อย เขารู้ว่าช่วงนี้นลินลำบากไม่น้อย หลังจากที่นลินเริ่มสร้างรังเมื่อเกือบเจ็ดเดือนก่อน ตอนนี้เข้าสู่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนกำหนดคลอด นลินก็ยิ่งทั้งกลัว ทั้งกังวล กอปรกับเจ้าก้อนตัวยักษ์ในท้องนลินที่แข็งแรงจนพากันดิ้นถี่ขึ้นทำให้นลินแทบไม่ได้พักผ่อนเลยพยัคฆ์ค่อยๆ ประคองศีรษะของนลินเพื่อให้หนุนหมอนดีๆ เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูเปิดออกเบาๆ ชายหนุ่มส่งยิ้มให้คนที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาช่วยเขาดูแลนลินตั้งแต่นลินท้องเข้าสู่เดือนที่เจ็ด‘หลับแล้วเหรอ’นวมิณทร์เอ่ยถามพยัคฆ์โดยไม่มีเสียง พยัคฆ์พยักหน้ารับก่อนจะใช้หมอนสำหรับคนท้องช่วยประคองให้นลินได้หลับสบายขึ้น จากนั้นจึงค่อยๆ ผุดลุกจากเตียงทั้งสองค่อยๆ ย่องออกจากห้องนอนใหญ่แห่งศตาวุทธิพงศ์ พยัคฆ์ปิดประตูห้องอย่างเบามือ ก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างโล่งใจที่นลินหลับได้เสียที“นลินหลับนาน

  • เด็กดีของนลิน   SPECIAL 2 : นลิน...และรังของเขา

    “ไหวแน่นะครับคุณหนู”“อือ ไปจัดการที่เหลือเถอะไป มีปัญหาอะไรก็โทร. มาละกัน”“อยู่คนเดียวได้แน่นะครับ วันนี้คุณพยัคฆ์ไม่อยู่ใช่ไหมครับ หรือว่าจะไปโรงพยาบาล”“ก็บอกว่าไม่เป็นไรไงล่ะพาร์ดี้ ไปได้แล้ว เดี๋ยวก็โดนเบนนี่บ่นอีกหรอก”“แต่ว่าคุณหนูดูไม่ดีเลยนะครับ”เสียงพูดคุยของเจ้านายหนุ่มและลูกน้องทำให้หญิงสูงวัยที่ควบตำแหน่งหัวหน้าแม่บ้านและพี่เลี้ยงของสองหลานชายแห่งศตาวุทธิพงศ์รีบเดินออกมา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“เกิดอะไรขึ้นคะคุณนลิน ทำไมวันนี้กลับเร็วจังล่ะคะ”“ปวดหัวนิดหน่อยครับ ว่าจะกลับมานอนพักหน่อย ป้าเปลวไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” นลินตอบคำถามพลางยิ้มอ่อน ก่อนจะหันกลับไปสั่งงานลูกน้องคนสนิท “ไปได้แล้วพาร์ดี้ ตรวจสอบทุกอย่างให้ดีด้วย”“ครับคุณหนู” พาร์ดี้รับคำทว่าไม่วายละล้าละลังด้วยความเป็นห่วง“ไปเดี๋ยวนี้เลยพาร์ดี้” นลินออกคำสั่งอีกครั้งพาร์ดี้จึงได้แต่หมุนกายออกวิ่งไปที่รถ

  • เด็กดีของนลิน   SPECIAL 1 : นลิน...และฮันนีมูนของเขา

    กลิ่นอากาศสดชื่น บรรยากาศเงียบสงบ มีเพียงเสียงกิ่งไม้เสียดสี ต้นไม้สูงล้อมรอบบ้านทำให้คนที่ต้องการพักกายพักใจยอมรับว่าที่นี่เหมาะเป็นบ้านพักตากอากาศจริงๆ ทว่า...หัวใจของเขาตอนนี้มันยังไม่สามารถกลับมาสดชื่นได้เลยสักนิดดวงตาเรียวสวย หางตายกขึ้นเล็กน้อยขณะหลับตาเพื่อสูดอากาศเย็นยามเช้าตรู่ ก่อนจะลืมตาขึ้นขณะกอดอก สายตาเหลือบเห็นกำไลหินโกเมนสีแดงดำบนข้อมือก็ต้องเม้มปากอีกครั้งการจากไปของลาภิณ...บิดาผู้ให้กำเนิดอย่างไม่มีวันกลับนั้นไม่ได้ผิดไปจากที่ทุกคนคาดสักนิด หลังงานแต่งงานของนลินและพยัคฆ์เพียงสามวัน วันที่สี่ในช่วงเช้าตรู่นวมิณทร์ก็เป็นคนโทร. มาบอกนลินว่าบิดาของเขาจากไปอย่างสงบ เพียงหลับไปในช่วงกลางคืนแล้วไม่ตื่นอีกเลยนลินไม่รู้ว่ามารดาของเขาต้องเจ็บปวดแค่ไหน ที่ต้องพบว่าคนที่พูดคุยด้วยก่อนเข้านอนจะหลับไปแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกในเช้าตรู่วันถัดมา ตลอดการจัดงานศพเจ็ดวันนั้น มารดาของเขามักจะแอบร้องไห้อยู่เงียบๆ ดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าซีดเซียวที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ามารดาของเขาเสียใจแค่ไหน และเป็นเรื่องดีแล้วที่หลังจากเสร็จสิ้นงานไม่กี่วันเทรนต์ก็พานวมิณท

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 22.2 : ร่วมสุข...ผ่านทุกข์

    เมื่อพิธีกรประกาศให้บ่าวสาวลงจากเวทีได้ ทั้งคู่จึงเลือกจะเดินไปหาคนที่ได้รับช่อดอกไม้ก่อน ซึ่งอีกฝ่ายก็ผุดลุกจากเก้าอี้ด้วยสีหน้าแตกตื่น“พี่ไม่คิดว่าเพชรกับคุณลุงจะมาร่วมงานด้วย เพราะพี่กับนลินทำให้แม่ของเพชร...”“ไม่ครับ” เพชรอันดารีบค้านพลางส่ายหน้าปฏิเสธ “พี่พยัคฆ์กับคุณนลินไม่ผิดนี่ครับ”“เรียกนลินเฉยๆ หรือจะเรียกว่าน้องนลินก็ได้ครับ ยังไงเราก็ถือว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน” นลินเอ่ยพลางระบายยิ้ม“ขอบคุณนะครับที่ยอมรับเพชรเป็นคนในครอบครัว ทั้งที่คุณแม่ของเพชรทำเรื่องเลวร้ายกับพี่พยัคฆ์และน้องนลินไปเยอะเลย เพชรเองก็เคยทำไม่ดีกับนลินด้วย”“นลินเข้าใจพี่เพชรนะครับ ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอกครับ ทุกคนมีข้อด้อยและเคยผิดพลาดกันทั้งนั้น นลินกับพี่พยัคฆ์เองก็เคยทำเรื่องไม่ดีมาเยอะ แต่พี่เพชรก็ยังคิดได้ ยังคิดกลับตัว ตอนนี้พี่เพชรก็เข้าไปช่วยงานคุณลุง แล้วก็พยายามดูแลตัวเองกับลูก นลินเชื่อว่าพี่เพชรจะเป็นแม่ที่ดีแน่ๆ ครับ”“และพี่ก็เชื่อว่าสักวันหนึ่ง เพชรคงไ

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 22.1 : ร่วมสุข...ผ่านทุกข์

    งานแต่งงานกลางแจ้งถูกเนรมิตขึ้นที่คฤหาสน์จิรพงศ์ธาดา ซึ่งเป็นความคิดของนวมิณทร์ที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้ลาภิณมากที่สุด แม้คราแรกพยัคฆ์ต้องการจะให้มีการแต่งงานใหญ่โตในโรงแรม ทว่าเมื่อนลินบอกความต้องการ พยัคฆ์ก็พร้อมจะเปลี่ยนให้ แต่พยัคฆ์ก็ยังคงเป็นพยัคฆ์ แม้จะเป็นการจัดงานในคฤหาสน์จิรพงศ์ธาดา ก็ไม่วายเชิญนักข่าวและแขกเหรื่อเกือบห้าร้อยคนมาร่วมงาน โดยใช้พื้นที่หน้าคฤหาสน์ได้อย่างคุ้มค่ารั้วคฤหาสน์ถูกแต่งด้วยดอกโบตั๋นหลากสีอันเป็นกลิ่นฟีโรโมนของพยัคฆ์ บริเวณหน้าคฤหาสต์ตกแต่งด้วยทางเดินพุ่มลาเวนเดอร์ และมีโต๊ะจีนกว่าห้าสิบโต๊ะซึ่งกลางโต๊ะประดับแจกันดอกโบตั๋นแซมดอกลาเวนเดอร์อันเป็นฟีโรโมนของคู่บ่าวสาวในวันนี้พิธีแบบไทยถูกจัดขึ้นภายในห้องโถงของคฤหาสน์จิรพงศ์ธาดา ซึ่งทางเจ้าภาพขอจัดแบบส่วนตัวเฉพาะคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดร่างสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรผิวสองสีที่อยู่ในชุดแต่งงาน เสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยสูทหรูสามชิ้นสีครีมเข้มและโบหูกระต่ายสีเดียวกัน ผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตจัดแต่งทรงอย่างดี เปิดหน้าผากให้เห็นใบหน้าคม คิ้วเข้มหนา ดวงตาคมปลาบ เสริมให้พยัคฆ์ยิ่งดูห

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 21.2 : เด็กผีคนนี้คือเด็กดีของนลิน

    นวมิณทร์คลี่ยิ้มเมื่อเห็นลาภิณยังคงนั่งหลับตาในศาลาแปดเหลี่ยมที่ล้อมรอบด้วยกล้วยไม้นานาพันธุ์ ซึ่งครึ่งหนึ่งนั้นเขาเป็นคนดูแลเมื่อในอดีต เขาคิดว่าที่นี่จะถูกทำลายหรือรื้อไปจนหมด กระทั่งได้กลับมาเห็นอีกครั้ง จึงได้รู้ว่าที่นี่ถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี“น้องตฤนกลับมาแล้วเหรอ” ลาภิณทักทั้งที่ยังไม่ลืมตา“รู้ได้ไงครับว่าเป็นตฤน”“พี่จำเสียงฝีเท้าตฤนได้”นวมิณทร์ทรุดกายนั่งบนม้านั่งข้างรถเข็นของลาภิณก่อนจะกุมมืออีกฝ่ายไว้ นั่นทำให้ลาภิณลืมตาขึ้นมองพลางวาดยิ้ม ทุกครั้งที่ลืมตามาแล้วเห็นนวมิณทร์ ลาภิณมักคิดเสมอว่าเขากำลังอยู่ในห้วงฝันดี“พี่ลาภิณมีความสุขไหมครับ”ลาภิณพยักหน้า “พี่มีความสุขสิ มีความสุขที่ตฤนยังอยู่ตรงนี้ มีความสุขที่ลูกของเราเองก็มีความสุข”“ตฤนก็มีความสุขครับ”“สำหรับพี่แล้ว...แค่ตฤนกับนลินมีความสุข พี่ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”“แน่นอนครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...ตฤนจะจดจำช่วงเวลานี้ไว้ไปตลอดชีวิต และตฤนจะรักษาสั

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 21.1 : เด็กผีคนนี้คือเด็กดีของนลิน

    นลินลอบยิ้มขำเมื่อเห็นท่าทางของคนรักที่อยู่ไม่นิ่ง ตั้งแต่วันที่พยัคฆ์วิดีโอคอลหาเทรนต์ ก็ดูขยาดยามพูดถึงจนเขานึกอยากรู้เสียเหลือเกินว่าพูดคุยกันอีท่าไหน ทว่าทุกครั้งที่พยายามถามพยัคฆ์ก็เอาแต่บ่ายเบี่ยง ไม่ก็เปลี่ยนเรื่องพูดเสียจนเขาขี้เกียจจะซักไซ้ ทว่าวันนี้บิดาของเขาบินมาแล้ว หากถามจากพยัคฆ์ไม่ได้ เขาก็แค่ถามเอากับบิดา“พี่พยัคฆ์ทำตัวเหมือนเด็กเลยนะครับ แด๊ดไม่ได้จะมาฆ่าพี่พยัคฆ์ซะหน่อย”“น้อยไปน่ะสินลิน”“ตกลงว่าพี่พยัคฆ์ได้คุยกับแด๊ดจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”“ก็เพราะคุยแล้วไง อาเทรนต์คาดโทษพี่ไว้ พี่ต้องตายแน่ๆ เลยนลิน นลินต้องช่วยพี่นะครับ”น้ำเสียงออดอ้อนของคนรักทั้งสายตาเหมือนหมาน้อยก็ทำให้นลินนึกสงสารตามไปด้วย มือใหญ่ดึงมือเล็กมาแนบกับแก้ม ก่อนจะเอียงหน้าเข้าหา นลินจึงลูบแก้มอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มอย่างนึกเอ็นดู“นลินจะช่วยพี่พยัคฆ์เองครับ พี่พยัคฆ์เป็นของนลิน คนอื่นห้ามรังแก นลินรังแกได้คนเดียว”“พี่จะยอมให้นลินรังแกคนเดียว”นับสิบที่ติดตามมาด้ว

  • เด็กดีของนลิน   CHAPTER 20.2 : หวน...กลับคืน

    พยัคฆ์นอนมองเพดานสีขาวด้วยความรู้สึกหงุดหงิด นลินเงียบหายไปตั้งแต่วันที่เขาได้สติ เขาได้รับข้อความตอบกลับสั้นๆ ในวันนั้นเพียงว่าดูแลตัวเองดีๆ และนับแต่นั้นมาอีกฝ่ายก็เงียบหายไป ไม่ว่าเขาจะเพียรส่งข้อความแค่ไหน หรือโทร. หาอย่างไรก็ไม่มีการตอบรับ ยอมแม้กระทั่งถ่างตารอดึกดื่น ด้วยรู้ว่าเวลาที่แตกต่างกันถึงสิบห้าชั่วโมง ทว่าจนแล้วจนรอดอีกฝ่ายก็ยังไม่ติดต่อกลับมา“ห้าวันแล้วนะนลิน ทำไมนลินใจร้ายกับพี่จังเลย โทร. หาก็ไม่รับ ส่งข้อความไปก็ไม่อ่าน”“เลิกบ่นเถอะไอ้พยัคฆ์ มึงบ่นตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ นี่กูมาเฝ้ามึงสามวัน มึงก็บ่นสามวัน กูจะไม่มาเฝ้ามึงแล้วนะ”“ก็ดี กูอยากกลับบ้านแล้ว กูจะบินไปหานลิน”“คลั่งรักเหลือเกินนะพ่อ ใจเย็นหน่อยสิวะไอ้พยัคฆ์ ยังไงน้องนลินของมึงก็ต้องกลับมา พ่อเขาอยู่นี่ ยังไงเขาก็ต้องพาแม่เขามา”“แล้วทำไมเขาไม่ติดต่อกูมาล่ะ แค่ตอบข้อความกูนี่มันยุ่งยากขนาดนั้นเลยเหรอวะ ส่งมาสักคำก็ยังดี นี่อะไรเงียบหายไปเลยตั้งแต่วันนั้น หรือว่านลินจะทิ้งกูวะไอ้นับ”&ldquo

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status