ประตูห้องนอนเพ้นต์เฮ้าส์เปิดออกขณะที่มือใหญ่ยังคงกอดเกี่ยวเอวบอบบางไว้ เช่นเดียวกับที่ริมฝีปากของทั้งคู่แนบสนิทกันไม่ยอมผละออกห่าง ราวกับโหยหากันและกัน กลิ่นฟีโรโมนของทั้งคู่ผสมผสานกันจนอบอวลไปทั่วห้อง นลินถูกไล่ต้อนจุมพิตพลางก้าวถอยหลังกระทั่งชนเข้ากับเตียงจนทรุดตัวลงนั่งบนเตียงกว้างกลางห้อง
ริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกห่างกัน ลิ้นเล็กมีน้ำลายสีใสยืดเยิ้ม ดวงตาคู่สวยฉ่ำหวานด้วยแรงปรารถนาที่ขับเคลื่อนจากการกระตุ้นฟีโรโมน มองตามมือใหญ่ที่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด...ทีละเม็ด...
ทว่าท่าทางอ้อยอิ่งเชื่องช้าของพยัคฆ์นั้นดูเหมือนจะไม่ทันใจของนลิน มือขาวจึงดึงอีกฝ่ายให้นอนอยู่ใต้ร่าง พยัคฆ์กึ่งนั่งกึ่งนอนขณะที่ร่างบอบบางคร่อมอยู่บนกายแกร่ง มือเรียวปลดกระดุมออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปลดเสื้อเชิ้ตออกจากบ่าแกร่ง แล้วโน้มหน้าลงจูบต้นคอแกร่ง ดูดเม้มจนขึ้นสีเข้ม
พยัคฆ์ปลดแขนเสื้อแล้วปล่อยให้เสื้อหล่นข้างเตียงขณะยันกายด้วยแขนข้างหนึ่งเพื่อเอนกาย อำนวยความสะดวกให้นลินที่ซุกไซ้ไปตามลำคอและลาดไหล่ เพราะรู้สึกอารมณ์ดีจึงทำให้กลิ่นฟีโรโมนดอกโบตั๋นนั้นหอมหวานไปด้วย เป็นเหตุให้นลินยังมัวเมาไปกลับกลิ่นนั้น
“อืม...นลิน...เบาหน่อย...ซี้ด...”
พยัคฆ์ก้มมองคนที่กัดหมับบนบ่าแกร่งของตนอย่างไม่เบาแรง ขณะที่มือใหญ่สัมผัสขอบกางเกงยีนส์พอดีตัว ปลดกระดุมกางเกง ดึงมันออกจากสะโพกนุ่มนิ่มของนลิน แล้วล้วงมือผ่านกางเกงในสีขาวสัมผัสช่องทางด้านหลัง ก่อนจะลอบยิ้มเมื่อสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะของช่องทางด้านหลังเพราะถูกยากระตุ้นฮีท
“อึก! อื้อ...ดีจัง...”
เสียงครางหวานพร่าของนลินทำให้พยัคฆ์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ เขาจึงจับอีกฝ่ายลงนอนใต้ร่าง แล้วปลดเปลื้องอาภรณ์ที่เหลือของนลิน จนร่างขาวนั้นเปลือยเปล่า ก่อนจะก้มลงครอบครองแท่งเนื้อที่กำลังสั่นระริก พร้อมกับสอดนิ้วเข้าสู่ช่องทางด้านหลังที่ชื้นแฉะ
นลินแยกเรียวขาออกตั้งฉากกับเตียงเพื่ออำนวยความสะดวกให้พยัคฆ์ นั่นทำให้พยัคฆ์ยกมุมปากขึ้นยิ้มถูกใจ ก่อนจะเหลือบมองดวงหน้าขึ้นสีเรื่อเพราะแรงปรารถนาจากยากระตุ้น และสัมผัสของพยัคฆ์ที่กระตุ้นไม่หยุด
ความเสียวซ่านได้รับการปรนเปรออย่างถูกใจ เป็นเหตุให้นลินส่งเสียงครางพลางกดศีรษะของพยัคฆ์ที่เลียไล้สลับดูดรั้ง ครอบครองส่วนอ่อนไหว
“อีก...แรงอีก...”
ลิ้นร้อนวนแท่งเนื้อพอดีตัวราวกับจะหยอกเย้า ปลุกเร้าอารมณ์คนที่อยู่ภายใต้อาการฮีท ขณะที่พยัคฆ์เพิ่มนิ้วในช่องทางด้านหลังเป็นสองนิ้ว...และสามนิ้วตามลำดับ
นลินเชิดหน้าขึ้นเมื่อด้านในถูกกระตุ้นซ้ำๆ ไม่หยุด ทั้งลิ้นร้อนยังเอาแต่ดูดรั้งและสัมผัสแต่จุดไวสัมผัส ความเสียวซ่านถูกกระตุ้นพร้อมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลังจนนลินยิ่งกดศีรษะของพยัคฆ์สลับกับดึงให้อีกฝ่ายออกห่าง สลับไปมาขณะบิดกายด้วยความเสียวซ่าน นั่นเป็นสัญญาณให้พยัคฆ์รับรู้ว่านลินกำลังต้องการปลดปล่อย
พยัคฆ์ขยับศีรษะตามจังหวะของนลินที่ขยับสะโพกอย่างไม่รู้ตัว ขณะที่พยายามกดศีรษะของเขาอย่างเอาแต่ใจ ทว่าเขายินดีทำให้ทุกอย่าง เพราะหวังจะได้กินร่างบอบบางนี้อย่างอร่อย และอย่าหวังว่าคราวนี้จะหนีเขาได้เช่นครั้งก่อน
“เร็วๆ อือ...นลินจะออก...อย่าหยุด...เร็วสิ...อื้อ...”
พรวด!
นลินเลียริมฝีปากขณะมองคนที่ยังคงครอบครองแท่งเนื้อของตน ซึ่งเหลือบมองราวกับจะถามว่านลินพอใจไหมที่ได้รับการปรนนิบัติเช่นนี้
แน่ล่ะ! เซ็กซ์กับพยัคฆ์มันดีสุดๆ จนนลินไม่อยากให้มันจบลงแค่ครั้งเดียว
นลินเหลือบมองท่อนเนื้อที่นูนเด่นชัดอยู่ในกางเกงของอีกฝ่าย เขาก็เลียริมฝีปากขณะขยับเท้าไปลูบมันผ่านกางเกง นั่นทำให้พยัคฆ์ปล่อยแท่งเนื้อที่เพิ่งปลดปล่อย ก่อนจะกลืนน้ำรักของนลินลงคอ
“ของนลินอร่อยไหม”
“อือ แล้วนลินอยากกินของพี่บ้างไหม”
นลินยกมุมปากขึ้นยิ้มก่อนจะส่ายศีรษะ ตอนนี้เขาคันยุบยิบข้างในจนไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป เขาหมุนกายคุกเข่าแล้วยกสะโพกขึ้นให้พยัคฆ์ได้เห็นรอยจีบที่มีน้ำซึมออกมาบ่งบอกความปรารถนา
ท่าทางอ้อยอิ่งยั่วยวนของนลินทำให้พยัคฆ์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ รู้สึกได้ถึงแท่งเนื้อที่กำลังกระตุกพร้อม เขาไม่รอช้าปลดกางเกงของตนออกก่อนจะตรึงสะโพกขาวแล้วจ่อแก่นกาย
“แน่ใจแล้วใช่ไหมนลิน”
“เร็วๆ นลินอยากกินของพี่พยัคฆ์แล้ว อ๊ะ!”
นลินอุทานเมื่อพยัคฆ์กระแทกเข้าหา เขารู้สึกจุกจนเหมือนจะหายใจไม่ออก นลินรีบอ้าปากเพื่อบรรเทาอาการจุก แท่งเนื้อร้อนของพยัคฆ์นั้นคับแน่นอยู่ภายใน ก่อนอีกฝ่ายจะพยายามดันเข้ามาจนนลินซุกซบใบหน้ากับหมอนพลางขยำผ้าปูที่นอนเพื่อยึดไว้
“ไหวไหมนลิน” พยัคฆ์เอ่ยถามพลางกดริมฝีปากไปกับใบหูและต้นคอขาว ทิ้งรอยแดงไปบนผิวขาว ก่อนจะแค่นเอ่ยเสียงพร่า “พี่ไม่ไหวแล้วนลิน ของนลินแน่นเกินไปแล้ว”
“อึก! ขยับสักที...มันอึดอัดนะ...ใหญ่ขนาดนี้ได้...อื้อ!”
นลินครางลั่นเมื่อพยัคฆ์เริ่มขยับขึ้นมาจริงๆ ทุกการขยับนั้นครูดไปกับผนังด้านในจนนลินไม่สามารถห้ามเสียงตัวเองได้เลย
พยัคฆ์กอบกุมเอวเล็กที่เพียงใช้สองมือก็รวบได้หมด เขาขยับกายเข้าออกช่องทางคับแคบอย่างพึงพอใจ และทุกครั้งที่แท่งเนื้อของเขาควงวนนลินก็ยิ่งครางหนักกว่าเดิม นั่นยิ่งทำให้พยัคฆ์ย่ามใจ กระแทกแรงขึ้น...เร็วขึ้น...จนนลินหัวสั่นหัวคลอน ทว่านลินกลับตอบรับเขาอย่างไม่ยอมแพ้
“อ๊ะ...อ๊า...ดะ...อือ...ดี...แรง...แรงอีก...”
นลินรู้สึกเสียวซ่านมากยิ่งขึ้นเมื่อพยัคฆ์ขยับเข้าออกแรงขึ้น จนแขนที่พยุงกายนั้นสั่นระริก จึงต้องซบใบหน้ากับหมอนแล้วส่งเสียงครางบอกความต้องการอย่างเอาแต่ใจ
ดวงหน้าขาวแดงจัดเมื่อพยายามอ้าปากหายใจ ปรับลมหายใจของตัวเองให้ทันกับจังหวะที่กระแทกเข้ามา ก่อนจะตื่นตระหนกที่พยัคฆ์ยกขาข้างหนึ่งลอยจากฟูกจนเหมือนตะแคง ซึ่งนั่นทำให้พยัคฆ์กระแทกจุดกระสันหนักหน่วงขึ้น และเข้าไปลึกขึ้น
“อ๊ะ! เดี๋ยว...อ๊า!”
ความเสียวซ่านทำให้นลินปลดปล่อยอีกครั้ง ขณะที่พยัคฆ์ยกมุมปากขึ้น แล้วกดแท่งเนื้อของตัวเองแช่ไว้ ขณะจุมพิตข้อเท้าที่พยัคฆ์จับพาดบ่าไว้
พยัคฆ์เลียข้อเท้าอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะกัดหมับอย่างมันเขี้ยว และนั่นทำให้น้ำขาวขุ่นพ่นเปรอะเปื้อนผ้าปูที่นอนอีกครั้งทั้งที่ปลดปล่อยไปถึงสองรอบแล้ว พยัคฆ์จับร่างที่หอบแฮ่กพลิกนอนหงาย
“นลินเสร็จอีกแล้ว พี่ยังไม่เสร็จเลย”
นลินใช้ขาเกี่ยวเอวแกร่งไว้ก่อนจะกลั้นเสียงเมื่อความแข็งขืนด้านในกระแทกกับด้านในทุกการขยับ แม้จะรู้สึกอึดอัด แต่มันก็รู้สึกดีมากจนเขาอยากจะโดนกระแทกอีก
“เอาสิครับ เอานลินอีก”
พยัคฆ์ยกมุมปากขึ้นยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะโน้มหน้าลงจุมพิตปิดเรียวปากหวานสีพีชขณะขยับสะโพกเข้าหาอีกครั้ง ในเมื่อนลินทำตัวเป็นราชินีเอาแต่ใจขนาดนี้ เขาก็ยิ่งหลง ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่น่ะสิ
นลินผลักกายแกร่งให้ออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อจะได้ส่งเสียงครางลดทอนความเสียวซ่าน ก่อนจะเกี่ยวต้นคอของพยัคฆ์เอาไว้เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวเมื่ออีกฝ่ายกระแทกกระทั้นแต่จุดเสียวซ่านไม่หยุด
“อือ...นลินจะออก...”
“เอาสินลิน จะออกกี่ครั้งก็ได้”
“ไม่...พี่พยัคฆ์ต้อง...อือ...ออกด้วย...อา...”
คำสั่งของนลินไม่ต่างจากคำสั่งของราชินีผู้กุมอำนาจ พยัคฆ์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ขณะกระแทกกระทั้นกายแกร่งเข้าสู่กายบอบบางที่รัดเขาแน่นขึ้นราวกับต้องการจะรีดน้ำออกจากพยัคฆ์
อึก!
เล็บของนลินจิกกับแผ่นหลังของพยัคฆ์ นั่นทำให้พยัคฆ์รีบขยับสะโพกเร็วขึ้นเพื่อทำให้นลินปลดปล่อยไปพร้อมกับเขาที่ใกล้จะปลดปล่อยเต็มที
พยัคฆ์ขยับซอยถี่ขึ้น เร็วขึ้น ก่อนจะซบใบหน้ากับบ่าบอบบางเพื่อปลดปล่อยน้ำรัก แล้วแช่ไว้อีกครู่ใหญ่ก่อนจะดึงออกแล้วถอดถุงยางออก ทว่าไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรก็ต้องนอนราบไปกับเตียงเมื่อนลินขึ้นนั่งคร่อมบนกายแกร่ง
“ต่อได้ไหมครับ” นลินเอ่ยถามก่อนจะเลียริมฝีปากอย่างยั่วเย้า
“นลินเซ็กซี่มากรู้ไหม”
“รู้ครับ แล้วพี่พยัคฆ์ชอบด้วยใช่ไหม”
“อือ ชอบมาก”
“งั้นก็แข็งเพื่อนลินได้ใช่ไหม”
คำตอบชัดเจนเมื่อมันดุนสะโพกของนลิน เจ้าของเรียวปากสีพีชยกขึ้นยิ้มพึงพอใจ ก่อนจะเลื่อนกายไปยังกลางกายใหญ่โตที่ทิ่มแทงเขาไม่หยุดยั้ง และตอนนี้ถึงคราวของเขาบ้างแล้ว มือขาวกอบกุมแท่งเนื้อร้อนผ่าว ก่อนจะแลบลิ้นเลียอย่างหยอกเย้า
“อึก! นลิน...อา...”
พยัคฆ์ครางเมื่อนลินไม่เพียงไล้เลียแต่รับแท่งเนื้อของเขาเข้าไปในปาก ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่ออีกฝ่ายเกี่ยวผมกับใบหูขณะขยับศีรษะชักรูดแท่งร้อนพลางใช้ลิ้นโลมเล้าไปทั่วแท่งเนื้อจนเขาเสียวซ่านไปหมด
ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีโอเมก้ามาทำให้แบบนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้พยัคฆ์รู้สึกดีขนาดนี้ ราวกับคุ้นเคยกับนลินมานาน ทั้งที่ครั้งก่อน...นลินไม่ยอมอมให้เขาสักนิด แต่ครั้งนี้กลับยอมอมให้เขา ยอมเลียให้ มันเป็นภาพที่เขาได้แต่มโนไปเอง
ทว่าเมื่อนลินทำให้จริงๆ มันรู้สึกดีกว่าเยอะ ทั้งยังเซ็กซี่กว่าจินตนาการของเขาเสียอีก ริมฝีปากเล็กๆ นั่นรับเขาเข้าไปจนเกือบหมด เป็นภาพที่ชวนมองและน่าตื่นเต้นเสียเหลือเกิน
มือใหญ่เคลื่อนไปจับใบหน้าขาวอย่างเผลอไผล เมื่อเห็นว่าผมสีดำชาร์โคลประบ่าเอาแต่หล่นจนนลินต้องคอยจับทัดใบหูบ่อยครั้ง เขาจึงสอดนิ้วไปกับเส้นผมแล้วรวบไว้หลวมๆ เพื่อไม่ให้มันหล่นมาเกะกะอีก นลินเหลือบมองเขาอย่างขอบคุณก่อนจะขยับริมฝีปากเร็วขึ้น
“อือ...อึก...นลินดี...เก่งมาก...อือ...”
นลินขยับลิ้นรอบแท่งเนื้อร้อนเต็มปากของตัวเอง แม้เขาจะไม่ชอบอมให้ใครนัก แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงอยากเอาใจพยัคฆ์ ทั้งยังไม่รู้สึกรังเกียจอย่างที่เคยรู้สึกกับของคนอื่น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลิ่นฟีโรโมนหอมหวานตามอารมณ์ของพยัคฆ์ไหม แต่มันถูกใจเขาเสียเลยเกิน
กลิ่นดอกโบตั๋นหอมหวานนั้นยิ่งเย้ายวนและกระตุ้นนลินมากขึ้นทุกขณะ ทั้งที่ยากระตุ้นฮีทนั้นหมดฤทธิ์ไปแล้ว แต่ภายในร่างกายของนลินกลับยังปรารถนาที่จะให้แท่งร้อนนี้เข้าไปในกายอีกหลายครั้งหลายหนราวกับกระหายมัน
พยัคฆ์จับตามองการเคลื่อนไหวของนลิน ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อนลินเอื้อมมือไปยังด้านหลัง ก่อนจะแทรกสองนิ้วเข้าสู่ช่องทางรัก เสียงน้ำจากความชื้นแฉะของโอเมก้าทำให้พยัคฆ์อยากทำด้วยเช่นกัน จึงขยับมืออีกข้างที่ว่างสอดนิ้วเข้าสู่ช่องทางฉ่ำชื้นของนลิน
นลินสะดุ้งเมื่อนิ้วใหญ่สอดเข้าสู่ช่องทางรักจนเกือบจะเผลอกัดแท่งร้อนในปาก ชายหนุ่มรีบปล่อยแท่งเนื้อออกจากปาก ก่อนจะเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจนัก นั่นทำให้พยัคฆ์ยอมถอนนิ้วออกแล้วเอ่ยถามด้วยใบหน้าใสซื่อ
“อยากให้พี่ใส่เข้าไปเลยไหม”
นลินกลืนน้ำลายเมื่อท่อนเนื้อร้อนที่แข็งขืนลอยเด่นตรงหน้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันพร้อมแค่ไหน ชายหนุ่มจึงใช้ปากฉีกซองถุงยางอนามัยแล้วใช้ปากของตัวเองสวมให้อีกฝ่าย ซึ่งนั่นทำให้พยัคฆ์ประหลาดใจ ไม่คิดว่านลินจะทำให้เขาตื่นเต้นได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
นลินถอนนิ้วของตัวเองแล้วขยับขึ้นคร่อมกายแกร่ง จับแท่งร้อนจ่อกับช่องทางของตัวเองขณะแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว นลินใช้มือหนึ่งแหวกรอยจีบของตัวเอง มือหนึ่งจับแท่งร้อนก่อนจะหย่อนสะโพกของตัวเองช้าๆ
แม้ท่าทางเชื่องช้าเหล่านั้นจะไม่ทันใจพยัคฆ์นัก ทว่าเขาก็ยินดีรออย่างใจเย็น กระทั่งแท่งเนื้อเข้าไปด้านในจนหมด พยัคฆ์จึงยกกายขึ้นนั่งแล้วโอบเอวเล็กไว้ให้อยู่นิ่งๆ ขณะที่โน้มหน้าลงปิดเรียวปากหวานสีพีชนั่น
นลินพยายามขยับสะโพกด้วยรู้สึกอึดอัด ทว่าลิ้นร้อนที่สอดแทรกเข้ามาในปากดูดรั้งหยอกเย้าอยู่นานสองนาน ก่อนพยัคฆ์จะผละออกแล้วช่วยนลินขยับท่อนล่าง นลินซบใบหน้ากับบ่าแกร่งพลางขบเม้มลำคอและลาดไหล่ได้รูปเพื่อบรรเทาความเสียวซ่านขณะขยับสะโพกตอบรับคนที่สวนขึ้นมาอย่างไม่ผ่อนแรง
พยัคฆ์ไม่สนใจเวลาที่เคลื่อนผ่าน เขาหลงใหลมัวเมาไปกับผิวขาวแสนเซ็กซี่ที่ไม่ยอมแพ้เขาเลยสักครั้ง ไม่ว่านลินจะปลดปล่อยไปอีกกี่ครั้ง และทำให้พยัคฆ์ปลดปล่อยอีกกี่หน แต่นลินก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงขยับสะโพกสู้ความปรารถนาที่ยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุด และคงยังไม่จบง่ายๆ
“อื้อ! อา...แรงกว่านี้อีก...”เสียงกระเส่าเร่งคนด้านล่างที่สวนแท่งร้อนเข้ามาในกาย กลิ่นดอกลาเวนเดอร์อบอวลไปทั่วห้องจนคนที่ถูกขย่มจับเอวเล็กขาวที่เอาแต่บดเร่าเพื่อชะลอจังหวะที่เจ้าตัวเร่งเร้าไม่หยุดริมฝีปากสีพีชยามส่งเสียงครางนั้นเซ็กซี่จนคนมองตาพร่า เขายกกายขึ้นเพื่อซบใบหน้ากับบ่าบอบบางขาวหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ที่แม้จะทำให้ผ่อนคลาย แต่ก็ปลุกอารมณ์ปรารถนาของเขายิ่งขึ้นชายหนุ่มผิวสองสีไม่รู้ว่าโอเมก้าคนสวยคนนี้เป็นใคร แต่เพียงได้กลิ่น เพียงได้เห็นใบหน้าสวยนี่เขาก็อดใจไม่ไหว จนยอมตามแรงอีกฝ่ายที่ผลักเขาเข้าห้องนอน ดึงทึ้งเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่าแล้วมาอยู่ในท่านี้ริมฝีปากหนาแตะไล่ไปตามปลายคางที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อขณะที่สะโพกก็กระแทกสวนร่างที่ขยับขย่มบนกายเขาอย่างเอาแต่ใจเพื่อให้ตัวเองได้ปลดปล่อย และบรรเทาอาการฮีทของตัวเอง“คนสวย...ใจเย็นหน่อย...ของผมจะหักเอานะครับ”“อย่ามาทำตัวไก่อ่อน ผมไม่ชอบ!”เพียงได้ยินคำดูถูก...เจ้าของดวงหน้าคมเข้มก็ผลักร่างขาวอ้อนแอ้นลงกับเตียง แล้วยกมุมปากขึ้นยิ้มเจ้าเล่ห์ ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าดูถูกเขาขนาดนี้ เขาคงต้องแสดงให้เห็นเสียหน่อยแล้วว่าหากเขาเอาจริงจะเป็นอย่างไร
ร่างสูงใหญ่ก้าวเท้าเข้าสู่คฤหาสน์ตระกูลแม็กมารีนาซ ก่อนจะเลิกคิ้วเมื่อเห็นรถคูเป้สองประตูของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน นั่นแสดงว่าอีกฝ่ายกลับมาถึงบ้านแล้ว ชายวัยเกือบหกสิบเร่งสืบเท้าเข้าบ้านก่อนจะส่งกระเป๋าเอกสารให้แม่บ้าน“นลินกลับมาแล้วเหรอ”“ค่ะคุณท่าน คุณหนูกลับมาตั้งแต่เที่ยงแล้วค่ะ แต่เก็บตัวอยู่ในห้องทำงานของคุณท่านไม่ยอมให้ใครเข้าไปเลยค่ะ”“หือ? ห้องทำงานฉันเหรอ? นลินก็มีห้องทำงานตัวเองนี่”“ใช่ค่ะ เอ่อ...คุณเบนนี่บอกว่ามีเรื่องเกิดขึ้นบนเรือเมื่อสัปดาห์ก่อน มีเรื่องอะไรร้ายแรงรึเปล่าคะ”“ไม่มีอะไรมากหรอก เรื่องนั้นนลินโทร. มาบอกแล้ว แต่ไม่ได้เล่ารายละเอียด” เทรนต์เอ่ยก่อนจะมองหาภรรยา “มินนี่อยู่ไหนครับ”“เพิ่งออกจากห้องทำงานคุณท่านเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน แต่หน้าตาไม่ค่อยดีเลยค่ะ ไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกับคุณหนูรึเปล่า”“ทะเลาะกัน? คู่นี้ทะเลาะกันแค่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละ”พูดจบเทรนต์ก็สาวเท้าไวๆ ก้าวขึ้นชั้นสองตรงไปยังห้องทำงานของตัวเอง แล้วเปิดประตูเข้าไปเห็นใบหน้าขาวกำลังขมวดมุ่นเคร่งเครียด ดวงตาคู่สวยจับจ้องหน้าจอแท็บเล็ตอย่างจดจ่อ“นลิน”“แด๊ด! กลับมาแล้วเหรอครับ”“เพิ่งกลับนี่ล่ะ โ
สองสามีภรรยาวัยแปดสิบชะเง้อรอคนที่ทุกคนเฝ้ารอ รอแล้วรอเล่าก็ยังมาไม่ถึงเสียทีจนนึกหงุดหงิดเป็นเหตุให้ลูกชายและหลานชายที่เฝ้ารอผู้มาถึงต้องคอยปรามให้ใจเย็น“คุณพ่อคุณแม่ใจเย็นหน่อยเถอะครับ เดี๋ยวหลานก็มาแล้ว”“ไหนบอกว่าเครื่องแลนด์ดิ้งตั้งแต่สายไง นี่จะเที่ยงแล้วยังไม่เห็นหน้าเลย ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม แม่บอกแล้วว่าให้ไปรับหลานเอง ให้มาเองแบบนี้จะมาถูกไหม หลานไม่อยู่เมืองไทยมายี่สิบปีแล้วนะตาไตร”“คุณย่าก็ใจเย็นหน่อยสิครับ คุณอาเองก็บอกแล้วว่าน้องนลินไม่ได้มาคนเดียว ถ้าเราไปรับเกิดมีใครสงสัย น้องนลินคงเป็นอันตราย ที่น้องกลับมาเมืองไทยก็เพราะคิดทำเรื่องอันตราย คุณย่าคงไม่อยากให้น้องมีอันตรายใช่ไหมครับ”“ใจเย็นก่อนนะคุณ” ป้องเกียรติเตือนภรรยาพลางกุมมือเสียงรถยนต์และเสียงฝีเท้าของแม่บ้านทำให้ผู้ใหญ่ทั้งห้าคนยิ้มกว้างทันที ด้วยวันนี้บ้านกิตติวรกานต์ไม่ต้อนรับแขกคนไหนทั้งนั้น นั่นทำให้พวกเขารู้ได้ทันทีว่าคนที่มาเยือนจะต้องเป็นคนที่พวกเขาเฝ้ารออย่างแน่นอน“คุณหนูนลินมาแล้วค่ะคุณท่าน” เสียงตื่นเต้นของแม่บ้านวัยเกือบเจ็ดสิบทำให้ทุกคนตื่นเต้นร่างบอบบางร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรที่สวมเสื้อยืดสีขาว
“ช่วยส่งเอกสารนี่ไปให้ฝ่ายการตลาด บอกพวกเขาด้วยว่าให้เตรียมแผนโปรโมตไตรมาสหน้า สัปดาห์หน้าประชุมนำเสนอผมด้วย”“ครับคุณพยัคฆ์”“เดี๋ยวคุณวิทวัสช่วยเรียกอลันมาให้ผมด้วยนะ”“ได้ครับ”คล้อยหลังหัวหน้าเลขานุการ ซีอีโอแห่งศตาวุทธิพงศ์กรุ๊ปก็เอนกายกับพนักพิง ก่อนจะหมุนเก้าอี้ออกไปมองนอกอาคารซึ่งเป็นผนังกระจก จนมองออกไปเห็นห้างสรรพสินค้าสตาร์ไลท์ที่ชื่อห้างฯ เด่นเป็นสง่าแม้จะเห็นตึกเพียงลิบๆเขานั่งตำแหน่งซีอีโอเป็นเดือนที่สามแล้ว และช่วงที่เขานั่งตำแหน่งนี้ผลประกอบการก็เติบโตขึ้นจากเดิมเกือบสี่เท่า แม้คนอื่นจะมองว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่สำหรับพยัคฆ์แล้วยังไม่พอใจนัก“หงุดหงิดอะไรวะพยัคฆ์ ตั้งแต่กลับจากล่องเรือเมื่อเดือนที่แล้วก็ดูขัดหูขัดตาไปหมดเลยนะ” นับสิบที่นั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวเอ่ยถามทันทีพยัคฆ์หมุนเก้าอี้กลับมาจ้องหน้าเพื่อนรักที่ควบตำแหน่งบอดี้การ์ด พลางถลึงตามองอย่างนึกขวางหูขวางตา จริงอย่างที่นับสิบพูดนั่นแหละ เขาได้รับของขวัญจากคุณปู่ด้วยทริปล่องเรือสำราญที่ซีแอตเทิล ซึ่งเป็นทริปที่เขาอยากไปมากจนน่าประหลาด ทว่าเมื่อสิ้นสุดทริปเขากลับหงุดหงิดไม่ใช่เขาไม่รู้เหตุผล แต่เขาไม่รู้วิธีแก
นลินเหลือบมองร่างสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรที่มายืนซ้อนด้านหลัง เขาแน่ใจว่าอีกฝ่ายคงตั้งใจแน่ๆ ชายหนุ่มจึงรีบเช็ดมือกับผ้าขนหนู แล้วหมุนกายมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย“พี่พยัคฆ์มีธุระอะไรจะพูดกับนลินรึเปล่าครับ”“พี่ไม่ใช่เซ็กซ์ทอยของนลินนะครับ คิดจะใช้พี่แก้อาการฮีทแล้วก็ทิ้งกันแบบนั้น นลินไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ”“เซ็กซ์ทอยอะไร นลินไม่เคยรู้จักพี่พยัคฆ์มาก่อน” นลินตอบหน้าตายพลางกอดอก“หือ? จะบอกว่าคนที่ลากพี่เข้าห้องแล้วขึ้นขย่มคนนั้นไม่ใช่นลินเหรอ”“พี่พยัคฆ์จำสลับกับใครรึเปล่าครับ นลินเพิ่งเจอพี่พยัคฆ์นี่ล่ะครับ”“ถ้ายืนยันขนาดนี้พี่ก็คงต้องพิสูจน์หน่อยแล้วล่ะ”นลินเลิกคิ้วพลางเอียงคอสงสัย ก่อนจะชะงักเล็กน้อยเมื่อได้กลิ่นดอกพีโอนีหรือดอกโบตั๋นจากพยัคฆ์ อยากจะต่อยคนตรงหน้าให้ล้มกองตรงนี้เสียจริงๆ กล้าดีอย่างไรมาปล่อยฟีโรโมนในบ้านที่มีแต่โอเมก้าแม้นลินจะชอบกลิ่นฟีโรโมนของพยัคฆ์แค่ไหน และอยากสูดดมมันมากเพียงใด แต่เขาก็จะอดทนไม่แสดงออกว่าได้กลิ่นมัน เขาต้องเป็นเบต้าที่ไม่รับรู้ถึงกลิ่นฟีโรโมนนี่พยัคฆ์ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นคนตรงหน้ายังยืนกอดอกนิ่ง เขาใช้ฟีโรโมนอัลฟ่าข่มขนาดนี้แล้ว แต่นลินกลับไม่แ
“หมายความว่ายังไงที่บอกว่ายังไม่ได้ข่าว”“ทั้งสามคนเงียบหายไปเป็นเดือนแล้วครับ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนอยู่ที่โน่นรึเปล่าครับ คุณผู้หญิงจะให้พวกเราทำยังไงครับ”มือขาวกำแน่นจนขึ้นข้อขาว ไม่คิดสักนิดว่าตัวเองที่นำหน้าสามี ตามหาคนที่หายไปร่วมยี่สิบปีเจอจะต้องคว้าน้ำเหลวอีกครั้ง นางได้ข่าวจากคนรู้จักว่าเคยเห็นอดีตภรรยาของสามีอยู่ในเมืองซีแอตเทิล ก็รีบส่งลูกน้องของบิดาให้ไปจับตัวผู้ชายที่คิดว่าน่าจะเป็นลูกชายของสามีแต่แล้วข่าวคราวกลับเงียบหายไป“เช็กเรื่องการเดินทางมันหรือยัง”“ผมเช็กไปที่โรงแรม เขาว่ามีคนมาเช็กเอ้าท์ออกไปแล้ว แล้วก็มีการยกเลิกการจองเที่ยวบิน เงียบหายไปแบบนี้...ผมว่าอาจถูกเก็บไปแล้วก็ได้ครับ”“แค่เด็กผู้ชายคนเดียวมันจะทำอะไรได้”“ถ้าเป็นอย่างที่ไอ้พวกนั้นตามสืบ คนที่ดูแลผู้ชายคนนั้นก็ระดับบิ๊กของซีแอตเทิล เป็นผู้มีอิทธิพลคนนึงเลยนะครับ และคงใหญ่กว่าจิรพงศ์ธาดาเสียอีกครับ”“ไร้สาระ! ถึงจะมีคนดูแลยังไงก็ทำตามอำเภอใจไม่ได้หรอกนะ กฎหมายที่นั่นจะไม่ทำอะไรเลยหรือไง”“คงไม่ต่างกับที่นี่หรอกครับ ถ้าไม่มีใครรู้ใครเห็น และมีเงินมากพอ ก็ไม่มีหลักฐานโยงถึงผู้กระทำผิดจริงๆ”หญิงวัยสี่
ภาพข่าวขาวดำที่ถูกเก็บไว้อย่างดีในกล่องเหล็กถูกเปิดออกดูซ้ำมาหลายครั้งหลายหนร่วมยี่สิบปี ชายวัยห้าสิบต้นๆ ยังคงหยิบจับลูบไล้มันซ้ำๆ ก่อนจะดูภาพครอบครัวสีซีดของตัวเองที่ถ่ายเมื่อประมาณยี่สิบปีก่อน และนี่คงเป็นภาพสุดท้ายที่เขาได้ถ่ายร่วมกับภรรยาและลูกชายเสียงเคาะประตูทำให้เขาชะงัก มือที่กำลังเก็บความทรงจำทุกอย่างใส่กล่องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงจากด้านนอก นั่นทำให้เขารู้ว่าคนที่เคาะประตูคือคนสนิท จึงส่งเสียงอนุญาต“ได้เรื่องบ้างไหมพระลพ”คนที่ถูกเรียกว่าพระลพมองกล่องเหล็กแกะสลักลายซึ่งดูเก่ามากแล้ว ทว่าเจ้าของกลับยังคงรักษาทุกอย่างไว้อย่างดีก็ให้นึกสงสารชายตรงหน้าที่ใบหน้าดูอายุร่วงโรยมากกว่าวัยที่แท้จริง“ได้มาไม่มากเท่าไหร่ครับ หลังการจัดฉากอุบัติเหตุและเพลิงไหม้ครั้งนั้น ทั้งสองหนีไปอยู่อเมริกาและมีเศรษฐีในซีแอตเทิลคอยดูแล”“เจาะจงกว่านั้นได้ไหม คนที่พวกเขาไปอยู่ด้วยเป็นใคร แล้วพวกเขาเป็นยังไงบ้าง สุขสบายดีไหม”“ยังสืบเรื่องนั้นไม่ได้ครับ เพราะคุณตฤนปิดบังตัวตนเปลี่ยนชื่อใหม่ด้วย แถมยังต
รถคูเป้สองประตูสีดำสัญชาติยุโรปเลี้ยวผ่านบ้านหลังใหญ่มาจอดหน้าบ้านของตรีวิทย์และพยนต์ นั่นทำให้เจ้าของบ้านที่วันนี้ไม่ไปทำงานต้องเลิกคิ้วประหลาดใจ จริงอยู่ที่เป็นเรื่องปกติที่พยัคฆ์จะแวะมาหาพยนต์และภูวนัย ทว่าช่วงนี้จะแวะมาบ่อยเกินไปหรือเปล่านะ“ใครมาเหรอครับพี่ตรี”“พยัคฆ์น่ะสิ ช่วงนี้มาเกือบทุกวันเลยนะ ที่บ้านมีอะไรรึเปล่า”“ไม่มีหรอกครับ พยัคฆ์ไม่ได้มาหาพยนต์ด้วย”“หือ? ไม่ได้มาหาพยนต์แล้วมาหาใคร” ตรีวิทย์เอ่ยถามภรรยาด้วยความฉงนใจ“พี่ตรีลองสังเกตดูละกันนะครับว่าพยัคฆ์มาหาใคร”ตรีวิทย์เลิกคิ้วมองคนที่สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำพับแขนขึ้นถึงข้อศอก กระดุมเสื้อเชิ้ตปลดจนเห็นแผ่นอกอย่างเซ็กซี่ กับกางเกงยีนส์เข้ารูปก็ให้นึกสงสัยว่าแต่งตัวล่อเหยื่อขนาดนี้ เหตุใดจึงไม่ไปเที่ยวกับเหล่าโอเมก้าของเจ้าตัว กลับเลือกมาบ้านของเขาในวันหยุดเช่นนี้หรือว่า...ตรีวิทย์หันกลับไปมองในห้องนั่งเล่นที่มีอาหลานกำลังต่อรางรถไฟเหาะตีลังกาซึ่งนลินหอบหิ้วมาจากอเมริกา นั่นทำให้เขาสบตาภรรยาราวกับจะถาม“พี่เข้าใจถูกใช่ไหมพยนต์”“ครับ แต่นลินดูไม่อยากยุ่งด้วยเท่าไหร่”“พี่เคยได้ยินอาเทรนต์กับอาตฤนเล่าว่าตอนอยู่โน่นนล