พยัคฆ์เดินไปเดินมาพลางชะเง้อดูแฝดผู้พี่ที่บอกว่าจะช่วยพูดกับนลินให้ ทว่าผ่านไปตั้งหลายนาทีแล้วกลับยังไม่เห็นวี่แววของทั้งคู่ เป็นเหตุให้ตรีวิทย์ที่กำลังเล่นต่อจิ๊กซอว์กับลูกชายลอบอมยิ้มขำ
“คุณพ่อครับ ทำไมน้ายักษ์เดินไม่หยุด”
“น้าพยัคฆ์รออานลินครับ”
“รอทำไมครับ อานลินไปไหน อานลินทิ้งน้องพูห์เหรอ”
“ไม่ใช่ครับ อานลินคุยอยู่กับคุณแม่ครับ”
ภูวนัยเอียงคอก่อนจะผุดลุกเดินไปหาพยัคฆ์ แล้วจับมือใหญ่ของอีกฝ่าย เป็นเหตุให้พยัคฆ์ต้องหันมองหลานชายด้วยความฉงนใจ
“น้องพูห์มีอะไรครับ”
“ต่อจิ๊กซอว์กันครับ”
“เดี๋ยวน้าไปต่อด้วยนะ น้าพยัคฆ์รออานลินของน้องพูห์อยู่”
“น้ายักษ์เป็นเด็กไม่ดี ถ้าน้ายักษ์ดื้ออานลินจะไม่รักนะครับ”
“หือ? น้องพูห์บอกว่าถ้าน้าพยัคฆ์ดื้อ อานลินจะไม่รักเหรอครับ”
“ครับ อานลินบอกว่าอานลินรักน้องพูห์ น้องพูห์เป็นเด็กดี ไม่ดื้อ”
พยัคฆ์ขมวดคิ้วเข้มจนระหว่างคิ้วเป็นร่องลึก เขายอมเดินตามแรงน้อยๆ ของโอเมก้าวัยสามขวบไปนั่งบนพรมข้างพี่เขยที่ยังคงยิ้มกริ่ม
“พี่ว่าพยัคฆ์คงไม่ได้แค่สนใจนลินแล้วล่ะ ถ้าชอบก็ลุยเลย ไม่งั้นนลินไปสนใจคนอื่นแน่”
“พี่ตรีกับนลินไม่ได้...”
“ไม่ใช่อย่างที่พยัคฆ์คิดหรอก พี่รู้จักกับนลินมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยสนิทสนมกัน รักแบบพี่น้องน่ะ”
“ถ้ารู้จักกันมานานแล้ว งั้นพี่ตรีก็ต้องรู้สิว่านลินไม่ใช่เบต้า”
“นลินบอกว่าเป็นเบต้า พี่ก็เชื่อว่าเป็นเบต้า”
พยัคฆ์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นใบหน้าของตรีวิทย์นั้นกรุ้มกริ่ม ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัยว่าตรีวิทย์จะต้องรู้จักนลินดีกว่าที่พูดเป็นแน่ และนั่นทำให้เขายิ่งไม่ไว้ใจว่าทั้งคู่รู้จักและสนิทสนมกันในฐานะพี่น้องจริงไหม
“พี่ตรีไม่ได้นอกใจพยนต์แน่นะ”
“เห็นพี่เป็นคนแบบไหนเนี่ยพยัคฆ์ พี่มีน้องพูห์แล้วนะ แล้วพี่ก็รักพยนต์มาก ไม่ทำเรื่องให้พยนต์กับน้องพูห์เสียใจหรอก สำหรับพี่แล้ว...พยนต์คือคู่แห่งโชคชะตาเลยนะ”
“เดี๋ยวนี้ใครเขาเชื่อเรื่องคู่แห่งโชคชะตากันล่ะครับ” พยัคฆ์เอ่ยเสียงหงุดหงิด “มีแต่คู่เวรคู่กรรมกันทั้งนั้นแหละ”
“พยัคฆ์ไม่เชื่อเพราะไม่เจอน่ะสิ ถ้าพยัคฆ์เจออย่างพี่ก็คงเชื่อเอง บางทีกับนลิน...อาจเป็นคู่แห่งโชคชะตาก็ได้”
“งั้นก็คงต้องพิสูจน์แล้วล่ะครับ แต่เขาเกลียดหน้าผมออกนะครับ”
“แล้วพยัคฆ์ไปทำอะไรนลินล่ะ พี่จะบอกอะไรพยัคฆ์ไว้นะ แต่พยัคฆ์อย่าไปบอกใครล่ะว่าได้ยินจากพี่มา”
“ครับ ผมรับปาก”
“นลินเป็นคนเข้มแข็ง ไม่ยอมคนมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยชอบคนที่ตัวเองควบคุมได้ พวกที่ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ จับหมุนซ้ายหมุนขวาได้ ว่านอนสอนง่าย คนที่นลินคบมาก่อนนี้จึงเป็นคนที่นลินสามารถควบคุมได้ ถ้าใครที่คิดจะออกนอกกรอบที่ตั้งไว้เลยเป็นคนที่นลินไม่คิดชายตาแล พยัคฆ์ต้องระวังเรื่องนี้ไว้”
“ทำตัวเป็นราชินีเลยนะครับ”
“ใช่ นั่นแหละนลิน”
“ถ้าแบบนั้นผมก็ไม่ได้ต่างกับผู้ชายคนอื่นของนลินน่ะสิ สุดท้ายก็จะถูกนลินเขี่ยทิ้งอยู่ดี”
“งั้นพยัคฆ์ก็ต้องทำให้ตัวเองต่างกับคนอื่น แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่นลินชอบด้วยสิ”
“เกณฑ์การเป็นเด็กดีของนลินสินะครับ”
“พี่ก็แนะนำพยัคฆ์ได้แค่นี้แหละ ที่เหลือก็แล้วแต่เลยว่าพยัคฆ์จะทำยังไง”
“ขอบคุณครับพี่ตรี”
“คุณแม่มาแล้ว อานลินล่ะครับ”
“อานลินออกไปข้างนอกครับ น้องพูห์เป็นเด็กดี ไม่โกรธอานลินใช่ไหม”
“ไม่ครับ น้องพูห์รักอานลิน เป็นเด็กดี”
“พี่ตรีครับ นลินบอกว่าวันนี้อาจจะกลับดึก หรือไม่ก็ไม่กลับ”
“ปล่อยน้องไปเถอะ มีเรื่องให้คิดขนาดนั้น ปล่อยให้พักผ่อนเถอะ”
พยัคฆ์ขมวดคิ้วมุ่น เขารู้สึกได้ว่าทั้งสองคนรู้เรื่องนลินที่เขาไม่รู้ และเขาจะต้องหาคำตอบให้ได้ ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน ตั้งใจจะตามนลินไป ทว่ากลับถูกพยนต์เบรกไว้ก่อน
“จะไปไหนน่ะพยัคฆ์ เราต้องคุยกันเรื่องนลิน”
“ไม่มีอะไรจะคุยด้วย”
“แต่พยัคฆ์หึงนลินกับพี่ตรีนะ”
“ไม่ได้หึง ก็แค่หงุดหงิด ทีกับพยัคฆ์ล่ะรังเกียจ พอกับพี่ตรีล่ะกอดไม่ปล่อยเลย แต่ตอนนี้พยัคฆ์เข้าใจแล้วว่านลินรู้จักกับพี่ตรีมาตั้งแต่เด็ก”
“แล้วนั่นจะไปไหน”
“มีเรื่องต้องพิสูจน์”
“พิสูจน์เรื่องอะไรน่ะพยัคฆ์”
“การเป็นเด็กดี”
พยนต์เลิกคิ้วงุนงง ก่อนจะได้แต่มองตามแผ่นหลังของคนที่เดินออกจากบ้านไปโดยไม่ร่ำลา แม้พยัคฆ์จะเป็นคนอารมณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่นี่มันไม่ลมเพลมพัดเกินไปหน่อยหรือไง พยนต์ได้แต่โคลงศีรษะ ก่อนจะหันไปหาสามีราวกับจะหารือ
ตรีวิทย์เพียงส่งยิ้มให้ภรรยาพลางสนใจลูกชายที่พยายามต่อจิ๊กซอว์ นั่นทำให้พยนต์วางเรื่องของนลินและพยัคฆ์ แล้วใช้เวลากับภูวนัยและสามีที่เพิ่งเลิกงานมา
พยัคฆ์คลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นเจ้าของร่างบอบบางเดินเข้ามาในไนต์คลับ ‘ริทซ์’ ของนริศรณ์เพื่อนรักของพยัคฆ์ ใครจะคิดว่าโชคชะตาจะนำพาราชินีมาหาเด็กดีอย่างเขา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏมุมปากขณะใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงกับขอบแก้วเครื่องดื่มในมือ
“พี่พยัคฆ์ครับมายืนอะไรตรงนี้ครับ”
พยัคฆ์ปรายตามองคนที่เข้ามาทักทายอย่างไม่ชอบใจ ทำอารมณ์ดีๆ ของเขาเมื่อครู่เสียหมด ซึ่งท่าทางของพยัคฆ์ทำให้นับสิบที่ถูกเรียกให้มาเจอกันต้องรีบลากตัวอีกฝ่ายออกมา
“น้องเพชรครับ อย่าไปยุ่งกับไอ้พยัคฆ์เลยนะครับ เดี๋ยวมันเอาแก้วเขวี้ยงหัวแตกจะเสียโฉมหมด”
“พี่พยัคฆ์ไม่ทำร้ายเพชรหรอกครับ ยังไงเพชรก็เป็นหลานคุณตา”
กึก!
“อย่าเอาสายเลือดชั่วๆ ของเธอมานับญาติกับฉัน ฉันไม่นับเธอเป็นญาติ” พยัคฆ์ตวาดพลางมองด้วยหางตาอย่างขุ่นเคืองใจ
“พี่พยัคฆ์...ทำไมพี่พยัคฆ์พูดกับเพชรแบบนี้ล่ะครับ ยังไงคุณตาก็เลี้ยงดูคุณแม่ของเพชรมา”
“ออกไปให้พ้นหน้าฉัน!”
นับสิบและนริศรณ์มองหน้ากัน ก่อนที่นับสิบจะรีบดึงเพชรอันดาให้ออกไปจากสายตาของพยัคฆ์ ไม่เช่นนั้นพยัคฆ์คงได้คว้าแก้วเครื่องดื่มปาใส่เพชรอันดาจนหัวแตกเป็นแน่
“ใจเย็นสิวะไอ้พยัคฆ์ มึงก็พูดกับน้องเขาแรงไป น้องเขาไม่ได้มีส่วนกับเรื่องที่แม่เขาทำซะหน่อย”
“มึงเงียบไปเลยไอ้ไนน์ ทำอารมณ์ดีๆ กูเสียหมด แม่งมาขัดจังหวะกู กูด่าแค่นี้ยังน้อยไป”
“ขัดจังหวะ? ขัดจังหวะอะไรของมึงวะไอ้พยัคฆ์” นริศรณ์เอ่ยถามพลางยืนเกาะขอบที่กั้นชั้นสอง
พยัคฆ์หมุนกายกลับไปมองชั้นล่างบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ซึ่งมีชายหนุ่มหน้าสวยนั่งบนเก้าอี้บาร์สั่งเครื่องดื่ม ยิ่งเห็นว่าเรียวเล็บเคลือบสีส้มจนเด่น ยามเกี่ยวผมเหน็บกับใบหูนั้นดึงดูดสายตาอัลฟ่ามากหน้าหลายตาให้เข้าหาก็ให้พยัคฆ์ต้องเดาะลิ้น
“มีเสน่ห์ขนาดนี้ไม่ใช่โอเมก้าก็แปลกแล้ว”
“งานพรีเมียมเลยนี่หว่าพยัคฆ์ รู้จักเหรอ” นับสิบที่เพิ่งกลับมาสมทบเอ่ยถามทันที
“อือ โอเมก้าที่กูเจอบนเรือที่เคยเล่าไงวะ”
“สวยขนาดนี้นี่เองก็ว่าทำไมมึงถึงได้ติดใจขนาดนั้น”
“แล้วมึงจะจัดเลยไหมไอ้พยัคฆ์” นริศรณ์เอ่ยถาม
“กูมีแผนอยู่ กูบอกเด็กของมึงไปแล้ว”
“อะไร? นี่มึงจะวางยาเขาเหรอวะ” นริศรณ์เอ่ยถามด้วยเสียงไม่อยากเชื่อ “ปกติแล้วคนอย่างคุณพยัคฆ์ ศตาวุทธิพงศ์ไม่เคยวางยาใครเลยนะครับ นี่ถึงขั้นวางยากระตุ้นเลยเหรอวะ”
“กูเพิ่งเจอกับเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน แล้วเขาบอกกูว่าเขาเป็นเบต้า”
“ฮะ? ก็ไหนมึงบอกว่าเป็นโอเมก้าไง” นับสิบเอ่ยถามอย่างงงงวยก่อนจะจิบเครื่องดื่มในมือ
“ก็ใช่ไง กูจำหน้าโอเมก้าสวยๆ ที่กูติดใจได้แม่น แต่พอมาเจอที่เมืองไทยเมื่อวันก่อน เขาดันทำเป็นไม่รู้จักกู แล้วบอกว่าเป็นเบต้าหน้าตาเฉย”
“มึงก็เลยจะพิสูจน์งี้” นริศรณ์เอ่ยอย่างรู้ทันความคิดเพื่อนรัก
“อือ กูไปเตรียมตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวก่อนดีกว่า”
“นี่มึงไปเตรียมแผนตอนไหนวะ”
“ตั้งแต่ก่อนขึ้นมาชั้นสองแล้ว”
“ให้พวกกูช่วยไหมวะพยัคฆ์”
“มึงอยู่กับไนน์เหอะไอ้นับ กูจัดการเองได้”
“งานนี้พ่อเขาออกโรงเองเลยเว้ย กูว่าไม่แค่ติดใจแล้ว งานนี้ไอ้พยัคฆ์เอาจริง”
“มันรู้ใจตัวเองหรือยังก่อนเถอะ” นับสิบเอ่ยก่อนจะจิบเครื่องดื่มแล้วมองไปยังชั้นล่าง
นริศรณ์เห็นด้วยกับเพื่อนรัก ขณะที่ยังไม่ละสายตาจากคนสวยของเพื่อนรักที่พาตัวเองไปชั้นล่าง ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องสนุกๆ ให้พวกเขาดูเสียแล้วสิ
นลินขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะมองรอบกายที่เขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ความรู้สึกร้อนวูบวาบราวกับจับไข้ รู้สึกมึนศีรษะจนแทบทรงตัวไม่อยู่ ชายหนุ่มกัดฟันทน รู้ได้ทันทีว่าเขาโดนวางยาเข้าให้แล้ว
“กลิ่นหอมจังเลยนะคนสวย ไปกับพี่ไหม”
นลินกัดริมฝีปากตัวเองเมื่ออีกฝ่ายลูบต้นแขนเปลือยเปล่าของตัวเอง ชายหนุ่มสะบัดตัวก่อนจะพยายามเดินหนี ทว่าเพราะปริมาณคนที่เบียดเสียด ทำให้เขาต้องพยายามพาตัวเองหนีไปจากผู้ชายที่เดินตามอย่างย่ามใจ
แม้นลินจะรู้สึกร้อนรุ่มและปรารถนาเพราะถูกวางยาแค่ไหน แต่นลินก็เป็นคนเลือกกิน ไอ้ที่จะมั่วโดยไม่เลือกนี่ไม่ใช่นิสัยของเขาเสียด้วยสิ ชายหนุ่มกัดฟันก่อนจะพาตัวเองออกจากริทซ์
เขายันกายด้วยกำแพงนอกร้าน ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อลมหายใจร้อนๆ เป่ารดอยู่ด้านหลัง ชายหนุ่มกำลังจะออกวิ่ง กลับถูกอีกฝ่ายผลักจนแผ่นหลังติดกับกำแพง
“จะหนีพวกพี่ไปไหนเล่า พวกพี่เล็งน้องคนสวยไว้ตั้งแต่เข้ามาในร้านเลยนะ ดูท่าว่ายาที่พี่ให้จะได้ผลแล้วด้วยนี่ เราไปขึ้นสวรรค์ด้วยกันดีกว่านะ”
“ปล่อย! หน้าแบบนี้ดูก็รู้ว่ากินไม่อร่อย”
แม้นลินจะยืนแทบไม่อยู่ แต่ก็ไม่วายปากกล้าตามนิสัย ทว่าก่อนจะถูกชายหนุ่มทั้งสองคนฉุดกระชากลากถูไป กลิ่นโบตั๋นก็ลอยมาแตะจมูกของนลิน ตามมาด้วยเสียงตุบตับ นลินทรุดกายลงนั่งกับพื้นทันที
“นลิน...เป็นอะไรหรือเปล่า”
“พี่พยัคฆ์จริงๆ ด้วย กลิ่นของพี่จริงๆ ด้วย”
พยัคฆ์กลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อนลินคล้องแขนกับลำคอแกร่งของเขา ชายหนุ่มจึงปล่อยฟีโรโมนปลอบประโลมขณะอุ้มอีกฝ่ายราวกับเด็กๆ ขณะที่นลินเกี่ยวขากับเอวสอบของอีกฝ่าย
“พี่พยัคฆ์...นลินร้อน...ไปโรงแรมกันเถอะ”
พยัคฆ์ยกมุมปากขึ้นยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที ก่อนจะหันมองชายสองคนที่นั่งบนพื้นพลางยักคิ้วให้ทั้งคู่ แล้วพยักพเยิดให้อีกฝ่ายกลับไปสนุกด้านในได้แล้ว ทั้งคู่จึงโบกมือให้พยัคฆ์ที่อุ้มคนสวยไปที่รถ
ชายหนุ่มอยากรู้นักว่าคนปากแข็งจะยังยืนกระต่ายขาเดียวอีกไหม ในเมื่อเขาพิสูจน์แล้วว่านลินคือโอเมก้าเจ้าของกลิ่นดอกลาเวนเดอร์
“นลินคือโอเมก้าจริงๆ ใช่ไหม”
นลินไม่ตอบคำถาม เขาเพียงกดจมูกกับหลังคอของพยัคฆ์ เพื่อสูดกลิ่นฟีโรโมนของพยัคฆ์ แม้นลินจะรู้สึกว่าสติเลือนลางแค่ไหน แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่สามารถปกปิดเพศรองที่แท้จริงได้แล้ว ทั้งยังไม่สามารถโกหกพยัคฆ์ได้อีกต่อไป แต่เรื่องนั้น...ช่างมันก่อนเถอะ ตอนนี้เขาต้องการให้พยัคฆ์เข้ามาในตัวเขามากกว่า
“อย่าถามมาก รีบช่วยนลินก่อน”
“พี่ช่วยก็ได้ ถ้านลินจะเลิกปฏิเสธพี่”
“อือ อยากทำอะไรก็ทำ เร็วๆ”
“พี่จะถือว่านลินยอมตกลงมาเป็นของพี่แล้วนะ”
พยัคฆ์เอ่ยจบก็พานลินเข้าไปนั่งในรถ แล้วพารถคูเป้สองประตูของตัวเองไปยังเพ้นต์เฮ้าส์ที่อยู่ห่างจากไนต์คลับไม่ไกลนักทันที
ประตูห้องนอนเพ้นต์เฮ้าส์เปิดออกขณะที่มือใหญ่ยังคงกอดเกี่ยวเอวบอบบางไว้ เช่นเดียวกับที่ริมฝีปากของทั้งคู่แนบสนิทกันไม่ยอมผละออกห่าง ราวกับโหยหากันและกัน กลิ่นฟีโรโมนของทั้งคู่ผสมผสานกันจนอบอวลไปทั่วห้อง นลินถูกไล่ต้อนจุมพิตพลางก้าวถอยหลังกระทั่งชนเข้ากับเตียงจนทรุดตัวลงนั่งบนเตียงกว้างกลางห้องริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกห่างกัน ลิ้นเล็กมีน้ำลายสีใสยืดเยิ้ม ดวงตาคู่สวยฉ่ำหวานด้วยแรงปรารถนาที่ขับเคลื่อนจากการกระตุ้นฟีโรโมน มองตามมือใหญ่ที่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด...ทีละเม็ด...ทว่าท่าทางอ้อยอิ่งเชื่องช้าของพยัคฆ์นั้นดูเหมือนจะไม่ทันใจของนลิน มือขาวจึงดึงอีกฝ่ายให้นอนอยู่ใต้ร่าง พยัคฆ์กึ่งนั่งกึ่งนอนขณะที่ร่างบอบบางคร่อมอยู่บนกายแกร่ง มือเรียวปลดกระดุมออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปลดเสื้อเชิ้ตออกจากบ่าแกร่ง แล้วโน้มหน้าลงจูบต้นคอแกร่ง ดูดเม้มจนขึ้นสีเข้มพยัคฆ์ปลดแขนเสื้อแล้วปล่อยให้เสื้อหล่นข้างเตียงขณะยันกายด้วยแขนข้างหนึ่งเพื่อเอนกาย อำนวยความสะดวกให้นลินที่ซุกไซ้ไปตามลำคอและลาดไหล่ เพราะรู้สึกอารมณ์ดีจึงทำให้กลิ่นฟีโรโมนดอกโบตั๋นนั้นหอมหวานไปด้วย เป็นเหตุให้นลินยังมัวเมาไปกลับกลิ่นนั้น“อืม.
นลินไม่ได้อยากจะยอมนั่งนิ่งๆ แบบนี้ แต่เพราะไม่มีแรงแม้แต่กระดิกนิ้ว ราวกับว่าพยัคฆ์กลัวจะซ้ำรอยเดิมจึงไม่ยอมให้เขาพัก ไม่ว่าจะโอดครวญว่าไม่ไหวแค่ไหน อีกฝ่ายก็ยังเอาแต่กระแทกจนเขาแทบจะสลบ เป็นครั้งแรกในชีวิตของนลินที่ต้องเจอเซ็กซ์ดุเดือดและยาวนานขนาดนี้ชายหนุ่มยังคงหลับตา ปล่อยให้พยัคฆ์นวดศีรษะสระผม และปล่อยให้อีกฝ่ายล้างแชมพูออกจากเส้นผม ก่อนจะยอมให้พยัคฆ์มานั่งด้วยกันในอ่างอาบน้ำ ยอมนั่งนิ่งๆ ในอ้อมกอดอีกฝ่าย“วันนี้ไม่หนีพี่แล้วใช่ไหม”“เอาแรงไหนไปหนี คุณ...อ๊ะ!”นลินสะดุ้งเมื่อพยัคฆ์กัดหมับบนบ่าของเขา แม้จะไม่แรงนักแต่ก็คงเป็นรอยฟันจนเขาต้องหันมองตาขวางอย่างไม่ชอบใจพยัคฆ์ลูบบนรอยฟันเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงอ้อน “พี่บอกแล้วไงว่าไม่ให้เรียกว่าคุณ เรียกว่าพี่พยัคฆ์นะครับ”“ถ้ากัดอีกทีนลินจะไม่พูดด้วยอีก”“นลินได้พี่แล้วจะทิ้งเหรอ ใช่สิ! นลินเคยทิ้งพี่ไปครั้งนึงแล้วนี่”“พูดไร้สาระอะไรเนี่ย”“จะปฏิเสธอีกเหรอว่าไม่ใช่โอเมก้าที่พี่เคยก
“อย่านะคะคุณมุกรวี!”ปึง!ประตูบานหนักเปิดออก ทุกคนในห้องประชุมพากันหันไปมองคนที่ขัดการประชุมสำคัญทันที ขณะที่ประธานการประชุมกลับนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้อย่างไม่รู้สึกรู้สา ไม่แม้แต่จะปรายตามองด้วยซ้ำ นั่นทำให้ทุกคนในที่ประชุมรู้ดีว่าควรทำตัวเช่นไร“ประชุมบอร์ดผู้บริหารแต่ทำไมถึงประชุมโดยไม่เรียกฉันล่ะ”“คุณมุกรวีคะ ออกไปเถอะค่ะ”“ใครปล่อยคนนอกเข้ามาในห้องประชุมทั้งที่บอร์ดผู้บริหารเขาประชุมกันอยู่ ถ้าความลับของสตาร์ไลท์หลุดรอดออกไป ใครจะรับผิดชอบกับเรื่องนี้” พยัคฆ์เอ่ยถามเสียงเย็นเยียบ“พวกเราพยายามห้ามแล้วค่ะคุณพยัคฆ์”“รปภ. คนไหนปล่อยขึ้นมา ให้รับผิดชอบในเรื่องนี้ซะ ฉันสั่งลงไปแล้วว่าถ้าผู้หญิงคนนี้ก้าวเข้ามาในบริษัท แล้วใครปล่อยเข้ามาจะไล่ออกทันที”“พยัคฆ์! นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันก็เป็นลูกคุณพ่อ เป็นป้าของแก”ดวงตาคมปลาบหันมองคนที่อ้างตัวว่าเป็นลูกของคุณปู่ และเป็นป้าของเขาทันที นั่นเป
ร่างอวบเดินเข้ามาในบ้านพลางมองหาแม่บ้านคนสนิท เมื่อไม่เห็นคนที่ควรจะออกมาต้อนรับจึงตะโกนเรียกด้วยความหงุดหงิด“นางจิ๋ว! จิ๋ว! แกอยู่ไหนเนี่ย”“ค่าคุณนาย จิ๋วมาแล้วค่ะ”ร่างผอมบางตัวเล็กวิ่งออกมาจากห้องครัวทันที ก่อนจะส่งแก้วน้ำให้คุณนายของบ้าน แล้วรับกระเป๋าถือของอีกฝ่ายวางบนโต๊ะในห้องนั่งเล่น“ตาเพชรไปไหนล่ะ”“ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวข้างบนค่ะ”“อาบน้ำแต่งตัว? นี่มันจะออกไปเที่ยวข้างนอกอีกแล้วเหรอ”“ค่ะ คุณหนูก็ไปเที่ยวเกือบทุกวันเป็นเรื่องปกตินะคะ”“ปกติบ้านแกสินางจิ๋ว นี่ลูกชายฉันวันๆ เอาแต่เที่ยวมันปกติที่ไหนกัน สัปดาห์นึงแวะไปบริษัทกี่ครั้งกัน”“ไม่กี่ครั้ง แต่คุณหนูก็ช่วยงานคุณท่านได้ดีนะคะ”คุณนายของบ้านได้แต่หงุดหงิดเมื่อได้ยินคำพูดของคนสนิท นางยื่นแก้วน้ำให้อีกฝ่าย ก่อนจะหยิบกระเป๋าถือของตัวเองก้าวขึ้นชั้นบนของบ้าน เคาะประตูห้องนอนของลูกชายทันที“ใครครับ”“แม่เองตาเพชร เ
เสื้อเชิ้ตซิลเวอร์กลิตเตอร์จั๊มแขนบนร่างบางสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรล้อแสงไฟในไนต์คลับนั้นยิ่งดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น กอปรกับดวงหน้าสวยและแผ่นอกขาวที่เจ้าตัวปลดกระดุมสามเม็ดบนยิ่งดึงดูดสายตาเหล่าอัลฟ่าให้จับจ้อง ติดที่ว่าโอเมก้าหนุ่มนั้นมีอัลฟ่าสูงด้านหลังที่คอยส่งสายตาหวงแหน“นี่ถ้านลินไม่ฝังยาจนไม่มีฟีโรโมน พวกอัลฟ่าคงวิ่งเข้าหาแล้ว”นลินเงยหน้ามองคนพูดที่วางมือแตะแผ่นหลังอย่างหวงแหน ชายหนุ่มจึงหมุนกายแล้วโอบรอบลำคอแกร่งของอีกฝ่าย ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าพยัคฆ์หวงเขาแค่ไหน ก็ดูสายตารอบกายที่จับจ้องมาที่เขาสิ...ถ้าพยัคฆ์ไม่หวงก็คงไม่ตามประกบเช่นนี้“ถ้าไม่มีพี่พยัคฆ์ พวกอัลฟ่าก็คงเข้ามาหานลินทันที ไม่เห็นต้องพึ่งฟีโรโมนเลย”“ทำไมช่างยั่วขนาดนี้นะ”“ไม่ชอบเหรอครับ”“ไม่เห็นต้องให้พี่บอกเลยว่าชอบไหม ถ้าไม่ชอบจะมายุ่งด้วยหรือไง”“ก็นั่นสิครับ ไม่งั้นพี่พยัคฆ์จะวอแวขนาดนี้เหรอ ไม่ต้องห่วงนะครับ ตอนนี้นลินจะเป็นโอเมก้าของพี่พยัคฆ์คนเดียว ตราบใดที่พี่พยัคฆ์เป็นเด็กดีของนลิน”พยัคฆ์ลอบยกมุมปากขึ้นยิ้มร้าย ก็แน่ล่ะ! เขาตั้งใจจะเป็นเด็กดีของนลินนี่ ชายหนุ่มประคองเอวเล็กที่ยังคงเต้นเลื้อยกับตัวเขาสลับก
ร่างสูงโปร่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรเดินเข้าบ้านพลางกระชับกระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นร่างของผู้หญิงนั่งอยู่ท่ามกลางความมืด“คุณแม่! ทำไมมานั่งมืดๆ ล่ะครับ ภัคตกใจหมด”“เพิ่งเลิกเรียนเหรอภัค”“เปล่าครับ ภัคไปเที่ยวกับพวกเพื่อนมาหลังพรีเซ้นต์งานน่ะครับ แล้ววันนี้คุณแม่มาค้างที่นี่เหรอครับ”“ว่าจะมาดูพ่อเราน่ะสิ เห็นมีข่าวลือว่าไม่สบาย ภัคอยู่กับพ่อ เขาเป็นยังไงบ้างล่ะ”“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ เชื่ออะไรกับข่าวลือล่ะครับคุณแม่”“แม่ได้ยินว่าพ่อเราตามหาเมียเก่ากับพี่ชายเรา ก็เลยคิดว่าเขาป่วยหนักหรือเปล่า”“พี่ชายของภัคเหรอ ไหนคุณปู่กับคุณแม่บอกว่าพี่เขาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุพร้อมกับแม่ของเขาไงครับ”“ก็ใช่ แต่อยู่ดีๆ พ่อเราตามหา แม่ก็เลยคิดว่า...”“ถ้าพี่เขายังรอดชีวิตก็ดีสิครับ เขาจะได้มาช่วยคุณพ่อ ตอนนี้งานของคุณพ่อหนักมากนะครับ ภัคเองก็อยากเรียนจบไวๆ จะได้ออกมาช่วยคุณพ่อ แต่ภัคยังต้องรียนอีกตั้งปีสองปีแน่ะ”“ถ้าภัคบอกว่าคุณพ่อสบายดี งั้นแม่ก็คงคิดมากไปเอง ข่าวที่ว่าพ่อเราไม่สบายคงเป็นข่าวลือ”“ภัคว่าแม่อย่าไปเชื่อข่าวลือมากเลยจะดีกว่า ข่าวพวกนี้บางทีก็เชื่อไม่ได้”“แม่เข้าใจแล้ว งั้น
พราวรุ้งถือกระเป๋าเดินลงบันไดมายังห้องครัว ทรุดกายลงนั่งซึ่งน้องชายของนางนั่งอยู่ก่อนแล้ว แม่บ้านนำกาแฟมาเสิร์ฟให้ก่อนที่นางจะตักน้ำตาลก้อนมาใส่แล้วคนอย่างใจเย็น“พี่รุ้งเห็นข่าวที่ริทซ์เมื่อคืนหรือยัง” คนเป็นน้องเอ่ยถามเมื่อเห็นพี่สาวไม่เอ่ยถึง“ข่าวอะไรหมอก พี่ยังไม่ได้ดูข่าวอะไรเลย” พราวรุ้งเอ่ยถามพลางจิบกาแฟ“พี่ก็ไปหาอ่านซะบ้างสิ ไม่ใช่อะไรก็พึ่งหมอกกับพี่พายุตลอด”พราวรุ้งตวัดหางตามองน้องชายที่ผุดลุกจากโต๊ะอาหารอย่างหงุดหงิด เป็นเหตุให้พราวรุ้งหยิบแท็บเล็ตของตัวเองมาเปิดหาข่าวที่ว่า ซึ่งเป็นข่าวซุบซิบว่อนไปทั่วอินเตอร์เน็ต ทั้งยังติดหนึ่งในสิบแฮชแท็กที่คนโพสต์อีกด้วยทายาทแม็กมารีนาซท้าทายกฎหมายไทย จับทายาทวรพิศิษฐ์กดกับพื้นกลางไนต์คลับหรูชื่อดังภาพประกอบเป็นชายหนุ่มหน้าสวยที่ทำให้พราวรุ้งเม้มปากแน่น แม้จะไม่เคยเห็นอีกฝ่ายมาก่อน แต่ใบหน้าแบบนี้...นางจำได้ไม่ลืม ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายกับคนที่นางเกลียดเข้ากระดูกดำ...ตฤน...ใครจะนึกว่าคนที่นางตามหานั้นอยู่ใต้จมูกขนาด
ขณะเดียวกันบ้านใหญ่แห่งกิตติวรกานต์กำลังวุ่นวายเพราะข่าวของนลิน โดยเจ้าของหัวข้อกำลังร้อนใจไม่ต่างจากตรีวิทย์ที่เพิ่งมาสมทบด้วย“ไม่น่าจะปิดข่าวทันแล้วแน่เลยครับคุณพ่อ ทางโน้นเองก็คงเห็นแล้ว”“นลินก็คิดเหมือนพี่ตรี นลินก็ไม่ได้นึกว่าจะมีคนถ่ายคลิปถ่ายรูปเอาไปลงแบบนี้”“แล้วน้องนลินโทร. คุยกับอาเทรนต์หรือยัง”“ยังครับ ตอนนี้ทางโน้นน่าจะเพิ่งตีสี่ตีห้า เดี๋ยวเที่ยงๆ นลินคงต้องโทร. ไปคุยกับแด๊ดกับคุณแม่”“แล้วนลินจะเอายังไงล่ะลูก อยากให้ลุงช่วยอะไรก็บอกเลย”“ถ้าพวกนั้นรู้ว่านลินมาเมืองไทยแล้ว ที่นี่ก็จะไม่ปลอดภัยสำหรับนลิน นลินควรไปอยู่ที่อื่น”“นลินไปอยู่กับพยัคฆ์ไหม ยังไงนลินกับพยัคฆ์ก็สนิทกัน” ตรีวิทย์เสนอ“สนิทกัน? ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่” สุกฤตาเอ่ยถามหลานชายทันที“คุณย่าอย่าเพิ่งหวงนลินสิครับ ตอนนี้ความปลอดภัยของนลินสำคัญที่สุด”“แต่ตาพยัคฆ์เจ้าชู้ เสือผู้หญิงดีๆ นี่เอง”“ไม่จริงนะครับคุณยาย พี่พยัคฆ์น่ารักมากนะครับ”สายตาสี่คู่หันไปจ้องนลินอย่างพร้อมเพรียง ทุกคนในบ้านกิตติวรกานต์ร
นลินเม้มปากแน่นขณะมองกระจกมองข้างด้วยความฉงนใจ เขาอยากคิดว่าตัวเองคิดมากที่เห็นรถคันนี้บ่อยเกินไปในช่วงนี้ หลังจากเขาพบกับภัคพลก็ดูเหมือนมีคนตามเขาไปทุกที่ รวมถึงบ้านกิตติวรกานต์ ก่อนนี้เขาคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกต่อไปแล้วสิชายหนุ่มกดโทรศัพท์หาพยัคฆ์ทันที เขาไม่ต้องรอสายนานนักอีกฝ่ายก็กดรับสาย“นลินมีอะไรรึเปล่า ไหนบอกว่าจะมาหาพี่แล้วไปกินมื้อเที่ยงด้วยกันไง”“ขอเปลี่ยนแผนก่อนครับ มีคนตามนลิน”“อะไรนะ! ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมนลินไม่บอกพี่”“นลินผิดเองครับที่ไม่สังเกตให้ดี นลินจะกลับบ้านก่อน พี่พยัคฆ์มาเจอนลินที่บ้านนะครับ นลินจะยอมย้ายไปอยู่เพ้นต์เฮ้าส์พี่พยัคฆ์ครับ แต่เราต้องบอกเรื่องนี้กับคุณตาคุณยายก่อน เรื่องของเราก็ด้วย”“นลินจะเปิดเผยเรื่องของเราเหรอ”“พี่พยัคฆ์ไม่ได้อยากให้เปิดเผยหรือไง”“อยากครับ แต่แอบน้อยใจนิดๆ นะที่นลินยอมเปิดเผยเพราะอันตรายถึงตัว”“นลินไม่ได้ปิดบังซะหน่อย นลินพ
พยัคฆ์จับตามองนลินหลังจากเขาบอกเล่าแผนการที่ได้ปรึกษากับนับสิบมาก่อนแล้ว ซึ่งเขาไม่อยากให้นลินมารู้ทีหลังแล้วเข้าใจเขาผิดๆ คนที่ฟังแผนการทั้งหมดของเขายังคงนั่งนิ่งจนพยัคฆ์หายใจไม่ทั่วท้อง หากนลินไม่ชอบใจแผนการนี้ เขาคงต้องหาวิธีใหม่คนอื่นอาจสงสัยว่าทำไมเขาต้องยอมนลินขนาดนี้ ทำไมเขาต้องเกรงใจนลินทั้งที่เขาและนลินไม่ใช่คนรักกัน นั่นก็เพราะเขาคาดหวัง...คาดหวังให้ความสัมพันธ์นี้ได้พัฒนา ได้เปลี่ยนความสัมพันธ์จากคู่นอนเป็นคู่ชีวิต“พี่พยัคฆ์มั่นใจแผนนี้จริงๆ ใช่มั้ยครับว่าได้ผล”“มันเป็นแค่แผนจริงๆ เพราะพี่ไม่มีวันสนใจเพชรอันดา”“นลินรู้ว่าพี่พยัคฆ์ไม่สนใจเขา เพราะพี่พยัคฆ์สนใจกลิ่นลาเวนเดอร์ของนลิน ไม่สนใจกลิ่นบรั่นดีชวนอ้วกแบบนั้นหรอก”พยัคฆ์คลี่ยิ้มทันทีที่เห็นรอยยิ้มมั่นอกมั่นใจของนลิน ชายหนุ่มจึงสอดมือผ่านเส้นผมสีดำชาร์โคลประบ่าเพื่อจับต้นคอของอีกฝ่าย“นลินอนุญาตไหมครับ”นลินจ้องหน้าคนถามนิ่ง “ทำไมพี่พยัคฆ์ต้องขออนุญาตนลินด้วยล่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”
พยัคฆ์ทำตามที่ตกลงกับนลินไว้ เขาไปพูดคุยกับคุณปู่เรื่องของนลิน และส่งอลันไปหาภัคพล ซึ่งเพียงได้ยินว่าอีกฝ่ายมีข่าวจากนลิน ภัคพลก็ยินดีไปพบโดยไม่เสียเวลาคิด ให้นลินนัดแนะเวลาและสถานที่มาได้เลย เขาพร้อมไปพบนลินทันทีการนัดพบระหว่างนลินและภัคพลนั้นไม่มีใครรู้นอกจากพยัคฆ์ที่เป็นคนเตรียมสถานที่และเป็นคนกลางติดต่อให้ ทั้งยังเป็นคนพานลินมายังร้านอาหารหรูซึ่งมีห้องส่วนตัว ไม่เป็นที่สังเกตของใคร ทั้งยังให้นับสิบมาเป็นหูเป็นตาอีกด้วย“พยัคฆ์...คนของเรารายงานมาว่าภัคพลมาถึงแล้ว”พยัคฆ์พยักหน้า ก่อนจะหันมาสบตากับนลิน “พี่ออกไปก่อนนะ ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เลยนะ พี่จะอยู่แถวนี้นี่แหละ”นลินพยักหน้า ก่อนจะปล่อยมือพยัคฆ์“คุยคนเดียวได้แน่ใช่ไหม หรืออยากให้พี่อยู่ด้วย”“ไม่เป็นไรครับ นลินอยากสังเกตน้องด้วยตัวเอง นลินแน่ใจว่าอ่านคนไม่ผิด”“ก็ได้ครับ” พยัคฆ์จุมพิตหน้าผากเนียนอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะผุดลุกแล้วพยักหน้าให้เพื่อนรัก “ไปข้างนอกกันไอ้นับ”นับสิบเดินนำพยัคฆ์ไปยังด้านนอกห
“เมื่อกี้พี่พยัคฆ์บอกว่าหึงนลิน”“ใช่ พี่หึงนลิน พี่ก็ไม่รู้ว่าทำไม รู้แค่ว่าหึง”“แต่พี่ตรีเป็นพี่ชายของนลินนะ”“ก็แค่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก”“ไม่ครับ นลินหมายถึงพี่ชายจริงๆ คุณแม่ของนลินเป็นน้องชายของลุงไตรครับ”“น้องชายลุงไตรเหรอ”“ครับ น้องชายแท้ๆ คุณปู่คุณย่าของพี่ตรีเป็นคุณตาคุณยายของนลิน”พยัคฆ์จับจ้องดวงตาเรียวสวยได้รูปตรงหน้าที่จับจ้องเขาด้วยสายตาจริงจัง บ่งบอกว่าเป็นจริงทุกคำที่เจ้าตัวพูดออกมา นั่นทำให้เขาต้องทบทวนความทรงจำของตัวเองเกี่ยวกับครอบครัวกิตติวรกานต์แม้ในอดีตครอบครัวกิตติวรกานต์ไม่ใช่ครอบครัวยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลนัก ทว่าในช่วงยี่สิบปีมานี้ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นตระกูลที่ครอบครองธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในนามบริษัท เควีเค บิวเดอร์ ที่มีกำไรต่อปีเก้าถึงสิบหลัก ซึ่งทั้งหมดก็ต้องยกความดีความชอบให้กับทายาทรุ่นสองและสามอย่างไตรทศและตรีวิทย์ทว่านอกจากความสามารถของทายาททั้งสองรุ่นแล้ว ยังมีชื่อเสียงจากเ
ขณะเดียวกันบ้านใหญ่แห่งกิตติวรกานต์กำลังวุ่นวายเพราะข่าวของนลิน โดยเจ้าของหัวข้อกำลังร้อนใจไม่ต่างจากตรีวิทย์ที่เพิ่งมาสมทบด้วย“ไม่น่าจะปิดข่าวทันแล้วแน่เลยครับคุณพ่อ ทางโน้นเองก็คงเห็นแล้ว”“นลินก็คิดเหมือนพี่ตรี นลินก็ไม่ได้นึกว่าจะมีคนถ่ายคลิปถ่ายรูปเอาไปลงแบบนี้”“แล้วน้องนลินโทร. คุยกับอาเทรนต์หรือยัง”“ยังครับ ตอนนี้ทางโน้นน่าจะเพิ่งตีสี่ตีห้า เดี๋ยวเที่ยงๆ นลินคงต้องโทร. ไปคุยกับแด๊ดกับคุณแม่”“แล้วนลินจะเอายังไงล่ะลูก อยากให้ลุงช่วยอะไรก็บอกเลย”“ถ้าพวกนั้นรู้ว่านลินมาเมืองไทยแล้ว ที่นี่ก็จะไม่ปลอดภัยสำหรับนลิน นลินควรไปอยู่ที่อื่น”“นลินไปอยู่กับพยัคฆ์ไหม ยังไงนลินกับพยัคฆ์ก็สนิทกัน” ตรีวิทย์เสนอ“สนิทกัน? ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่” สุกฤตาเอ่ยถามหลานชายทันที“คุณย่าอย่าเพิ่งหวงนลินสิครับ ตอนนี้ความปลอดภัยของนลินสำคัญที่สุด”“แต่ตาพยัคฆ์เจ้าชู้ เสือผู้หญิงดีๆ นี่เอง”“ไม่จริงนะครับคุณยาย พี่พยัคฆ์น่ารักมากนะครับ”สายตาสี่คู่หันไปจ้องนลินอย่างพร้อมเพรียง ทุกคนในบ้านกิตติวรกานต์ร
พราวรุ้งถือกระเป๋าเดินลงบันไดมายังห้องครัว ทรุดกายลงนั่งซึ่งน้องชายของนางนั่งอยู่ก่อนแล้ว แม่บ้านนำกาแฟมาเสิร์ฟให้ก่อนที่นางจะตักน้ำตาลก้อนมาใส่แล้วคนอย่างใจเย็น“พี่รุ้งเห็นข่าวที่ริทซ์เมื่อคืนหรือยัง” คนเป็นน้องเอ่ยถามเมื่อเห็นพี่สาวไม่เอ่ยถึง“ข่าวอะไรหมอก พี่ยังไม่ได้ดูข่าวอะไรเลย” พราวรุ้งเอ่ยถามพลางจิบกาแฟ“พี่ก็ไปหาอ่านซะบ้างสิ ไม่ใช่อะไรก็พึ่งหมอกกับพี่พายุตลอด”พราวรุ้งตวัดหางตามองน้องชายที่ผุดลุกจากโต๊ะอาหารอย่างหงุดหงิด เป็นเหตุให้พราวรุ้งหยิบแท็บเล็ตของตัวเองมาเปิดหาข่าวที่ว่า ซึ่งเป็นข่าวซุบซิบว่อนไปทั่วอินเตอร์เน็ต ทั้งยังติดหนึ่งในสิบแฮชแท็กที่คนโพสต์อีกด้วยทายาทแม็กมารีนาซท้าทายกฎหมายไทย จับทายาทวรพิศิษฐ์กดกับพื้นกลางไนต์คลับหรูชื่อดังภาพประกอบเป็นชายหนุ่มหน้าสวยที่ทำให้พราวรุ้งเม้มปากแน่น แม้จะไม่เคยเห็นอีกฝ่ายมาก่อน แต่ใบหน้าแบบนี้...นางจำได้ไม่ลืม ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายกับคนที่นางเกลียดเข้ากระดูกดำ...ตฤน...ใครจะนึกว่าคนที่นางตามหานั้นอยู่ใต้จมูกขนาด
ร่างสูงโปร่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรเดินเข้าบ้านพลางกระชับกระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นร่างของผู้หญิงนั่งอยู่ท่ามกลางความมืด“คุณแม่! ทำไมมานั่งมืดๆ ล่ะครับ ภัคตกใจหมด”“เพิ่งเลิกเรียนเหรอภัค”“เปล่าครับ ภัคไปเที่ยวกับพวกเพื่อนมาหลังพรีเซ้นต์งานน่ะครับ แล้ววันนี้คุณแม่มาค้างที่นี่เหรอครับ”“ว่าจะมาดูพ่อเราน่ะสิ เห็นมีข่าวลือว่าไม่สบาย ภัคอยู่กับพ่อ เขาเป็นยังไงบ้างล่ะ”“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ เชื่ออะไรกับข่าวลือล่ะครับคุณแม่”“แม่ได้ยินว่าพ่อเราตามหาเมียเก่ากับพี่ชายเรา ก็เลยคิดว่าเขาป่วยหนักหรือเปล่า”“พี่ชายของภัคเหรอ ไหนคุณปู่กับคุณแม่บอกว่าพี่เขาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุพร้อมกับแม่ของเขาไงครับ”“ก็ใช่ แต่อยู่ดีๆ พ่อเราตามหา แม่ก็เลยคิดว่า...”“ถ้าพี่เขายังรอดชีวิตก็ดีสิครับ เขาจะได้มาช่วยคุณพ่อ ตอนนี้งานของคุณพ่อหนักมากนะครับ ภัคเองก็อยากเรียนจบไวๆ จะได้ออกมาช่วยคุณพ่อ แต่ภัคยังต้องรียนอีกตั้งปีสองปีแน่ะ”“ถ้าภัคบอกว่าคุณพ่อสบายดี งั้นแม่ก็คงคิดมากไปเอง ข่าวที่ว่าพ่อเราไม่สบายคงเป็นข่าวลือ”“ภัคว่าแม่อย่าไปเชื่อข่าวลือมากเลยจะดีกว่า ข่าวพวกนี้บางทีก็เชื่อไม่ได้”“แม่เข้าใจแล้ว งั้น
เสื้อเชิ้ตซิลเวอร์กลิตเตอร์จั๊มแขนบนร่างบางสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรล้อแสงไฟในไนต์คลับนั้นยิ่งดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น กอปรกับดวงหน้าสวยและแผ่นอกขาวที่เจ้าตัวปลดกระดุมสามเม็ดบนยิ่งดึงดูดสายตาเหล่าอัลฟ่าให้จับจ้อง ติดที่ว่าโอเมก้าหนุ่มนั้นมีอัลฟ่าสูงด้านหลังที่คอยส่งสายตาหวงแหน“นี่ถ้านลินไม่ฝังยาจนไม่มีฟีโรโมน พวกอัลฟ่าคงวิ่งเข้าหาแล้ว”นลินเงยหน้ามองคนพูดที่วางมือแตะแผ่นหลังอย่างหวงแหน ชายหนุ่มจึงหมุนกายแล้วโอบรอบลำคอแกร่งของอีกฝ่าย ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าพยัคฆ์หวงเขาแค่ไหน ก็ดูสายตารอบกายที่จับจ้องมาที่เขาสิ...ถ้าพยัคฆ์ไม่หวงก็คงไม่ตามประกบเช่นนี้“ถ้าไม่มีพี่พยัคฆ์ พวกอัลฟ่าก็คงเข้ามาหานลินทันที ไม่เห็นต้องพึ่งฟีโรโมนเลย”“ทำไมช่างยั่วขนาดนี้นะ”“ไม่ชอบเหรอครับ”“ไม่เห็นต้องให้พี่บอกเลยว่าชอบไหม ถ้าไม่ชอบจะมายุ่งด้วยหรือไง”“ก็นั่นสิครับ ไม่งั้นพี่พยัคฆ์จะวอแวขนาดนี้เหรอ ไม่ต้องห่วงนะครับ ตอนนี้นลินจะเป็นโอเมก้าของพี่พยัคฆ์คนเดียว ตราบใดที่พี่พยัคฆ์เป็นเด็กดีของนลิน”พยัคฆ์ลอบยกมุมปากขึ้นยิ้มร้าย ก็แน่ล่ะ! เขาตั้งใจจะเป็นเด็กดีของนลินนี่ ชายหนุ่มประคองเอวเล็กที่ยังคงเต้นเลื้อยกับตัวเขาสลับก
ร่างอวบเดินเข้ามาในบ้านพลางมองหาแม่บ้านคนสนิท เมื่อไม่เห็นคนที่ควรจะออกมาต้อนรับจึงตะโกนเรียกด้วยความหงุดหงิด“นางจิ๋ว! จิ๋ว! แกอยู่ไหนเนี่ย”“ค่าคุณนาย จิ๋วมาแล้วค่ะ”ร่างผอมบางตัวเล็กวิ่งออกมาจากห้องครัวทันที ก่อนจะส่งแก้วน้ำให้คุณนายของบ้าน แล้วรับกระเป๋าถือของอีกฝ่ายวางบนโต๊ะในห้องนั่งเล่น“ตาเพชรไปไหนล่ะ”“ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวข้างบนค่ะ”“อาบน้ำแต่งตัว? นี่มันจะออกไปเที่ยวข้างนอกอีกแล้วเหรอ”“ค่ะ คุณหนูก็ไปเที่ยวเกือบทุกวันเป็นเรื่องปกตินะคะ”“ปกติบ้านแกสินางจิ๋ว นี่ลูกชายฉันวันๆ เอาแต่เที่ยวมันปกติที่ไหนกัน สัปดาห์นึงแวะไปบริษัทกี่ครั้งกัน”“ไม่กี่ครั้ง แต่คุณหนูก็ช่วยงานคุณท่านได้ดีนะคะ”คุณนายของบ้านได้แต่หงุดหงิดเมื่อได้ยินคำพูดของคนสนิท นางยื่นแก้วน้ำให้อีกฝ่าย ก่อนจะหยิบกระเป๋าถือของตัวเองก้าวขึ้นชั้นบนของบ้าน เคาะประตูห้องนอนของลูกชายทันที“ใครครับ”“แม่เองตาเพชร เ