ขณะเดียวกันบ้านใหญ่แห่งกิตติวรกานต์กำลังวุ่นวายเพราะข่าวของนลิน โดยเจ้าของหัวข้อกำลังร้อนใจไม่ต่างจากตรีวิทย์ที่เพิ่งมาสมทบด้วย
“ไม่น่าจะปิดข่าวทันแล้วแน่เลยครับคุณพ่อ ทางโน้นเองก็คงเห็นแล้ว”
“นลินก็คิดเหมือนพี่ตรี นลินก็ไม่ได้นึกว่าจะมีคนถ่ายคลิปถ่ายรูปเอาไปลงแบบนี้”
“แล้วน้องนลินโทร. คุยกับอาเทรนต์หรือยัง”
“ยังครับ ตอนนี้ทางโน้นน่าจะเพิ่งตีสี่ตีห้า เดี๋ยวเที่ยงๆ นลินคงต้องโทร. ไปคุยกับแด๊ดกับคุณแม่”
“แล้วนลินจะเอายังไงล่ะลูก อยากให้ลุงช่วยอะไรก็บอกเลย”
“ถ้าพวกนั้นรู้ว่านลินมาเมืองไทยแล้ว ที่นี่ก็จะไม่ปลอดภัยสำหรับนลิน นลินควรไปอยู่ที่อื่น”
“นลินไปอยู่กับพยัคฆ์ไหม ยังไงนลินกับพยัคฆ์ก็สนิทกัน” ตรีวิทย์เสนอ
“สนิทกัน? ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่” สุกฤตาเอ่ยถามหลานชายทันที
“คุณย่าอย่าเพิ่งหวงนลินสิครับ ตอนนี้ความปลอดภัยของนลินสำคัญที่สุด”
“แต่ตาพยัคฆ์เจ้าชู้ เสือผู้หญิงดีๆ นี่เอง”
“ไม่จริงนะครับคุณยาย พี่พยัคฆ์น่ารักมากนะครับ”
สายตาสี่คู่หันไปจ้องนลินอย่างพร้อมเพรียง ทุกคนในบ้านกิตติวรกานต์ร
“เมื่อกี้พี่พยัคฆ์บอกว่าหึงนลิน”“ใช่ พี่หึงนลิน พี่ก็ไม่รู้ว่าทำไม รู้แค่ว่าหึง”“แต่พี่ตรีเป็นพี่ชายของนลินนะ”“ก็แค่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก”“ไม่ครับ นลินหมายถึงพี่ชายจริงๆ คุณแม่ของนลินเป็นน้องชายของลุงไตรครับ”“น้องชายลุงไตรเหรอ”“ครับ น้องชายแท้ๆ คุณปู่คุณย่าของพี่ตรีเป็นคุณตาคุณยายของนลิน”พยัคฆ์จับจ้องดวงตาเรียวสวยได้รูปตรงหน้าที่จับจ้องเขาด้วยสายตาจริงจัง บ่งบอกว่าเป็นจริงทุกคำที่เจ้าตัวพูดออกมา นั่นทำให้เขาต้องทบทวนความทรงจำของตัวเองเกี่ยวกับครอบครัวกิตติวรกานต์แม้ในอดีตครอบครัวกิตติวรกานต์ไม่ใช่ครอบครัวยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลนัก ทว่าในช่วงยี่สิบปีมานี้ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นตระกูลที่ครอบครองธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในนามบริษัท เควีเค บิวเดอร์ ที่มีกำไรต่อปีเก้าถึงสิบหลัก ซึ่งทั้งหมดก็ต้องยกความดีความชอบให้กับทายาทรุ่นสองและสามอย่างไตรทศและตรีวิทย์ทว่านอกจากความสามารถของทายาททั้งสองรุ่นแล้ว ยังมีชื่อเสียงจากเ
พยัคฆ์ทำตามที่ตกลงกับนลินไว้ เขาไปพูดคุยกับคุณปู่เรื่องของนลิน และส่งอลันไปหาภัคพล ซึ่งเพียงได้ยินว่าอีกฝ่ายมีข่าวจากนลิน ภัคพลก็ยินดีไปพบโดยไม่เสียเวลาคิด ให้นลินนัดแนะเวลาและสถานที่มาได้เลย เขาพร้อมไปพบนลินทันทีการนัดพบระหว่างนลินและภัคพลนั้นไม่มีใครรู้นอกจากพยัคฆ์ที่เป็นคนเตรียมสถานที่และเป็นคนกลางติดต่อให้ ทั้งยังเป็นคนพานลินมายังร้านอาหารหรูซึ่งมีห้องส่วนตัว ไม่เป็นที่สังเกตของใคร ทั้งยังให้นับสิบมาเป็นหูเป็นตาอีกด้วย“พยัคฆ์...คนของเรารายงานมาว่าภัคพลมาถึงแล้ว”พยัคฆ์พยักหน้า ก่อนจะหันมาสบตากับนลิน “พี่ออกไปก่อนนะ ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เลยนะ พี่จะอยู่แถวนี้นี่แหละ”นลินพยักหน้า ก่อนจะปล่อยมือพยัคฆ์“คุยคนเดียวได้แน่ใช่ไหม หรืออยากให้พี่อยู่ด้วย”“ไม่เป็นไรครับ นลินอยากสังเกตน้องด้วยตัวเอง นลินแน่ใจว่าอ่านคนไม่ผิด”“ก็ได้ครับ” พยัคฆ์จุมพิตหน้าผากเนียนอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะผุดลุกแล้วพยักหน้าให้เพื่อนรัก “ไปข้างนอกกันไอ้นับ”นับสิบเดินนำพยัคฆ์ไปยังด้านนอกห
พยัคฆ์จับตามองนลินหลังจากเขาบอกเล่าแผนการที่ได้ปรึกษากับนับสิบมาก่อนแล้ว ซึ่งเขาไม่อยากให้นลินมารู้ทีหลังแล้วเข้าใจเขาผิดๆ คนที่ฟังแผนการทั้งหมดของเขายังคงนั่งนิ่งจนพยัคฆ์หายใจไม่ทั่วท้อง หากนลินไม่ชอบใจแผนการนี้ เขาคงต้องหาวิธีใหม่คนอื่นอาจสงสัยว่าทำไมเขาต้องยอมนลินขนาดนี้ ทำไมเขาต้องเกรงใจนลินทั้งที่เขาและนลินไม่ใช่คนรักกัน นั่นก็เพราะเขาคาดหวัง...คาดหวังให้ความสัมพันธ์นี้ได้พัฒนา ได้เปลี่ยนความสัมพันธ์จากคู่นอนเป็นคู่ชีวิต“พี่พยัคฆ์มั่นใจแผนนี้จริงๆ ใช่มั้ยครับว่าได้ผล”“มันเป็นแค่แผนจริงๆ เพราะพี่ไม่มีวันสนใจเพชรอันดา”“นลินรู้ว่าพี่พยัคฆ์ไม่สนใจเขา เพราะพี่พยัคฆ์สนใจกลิ่นลาเวนเดอร์ของนลิน ไม่สนใจกลิ่นบรั่นดีชวนอ้วกแบบนั้นหรอก”พยัคฆ์คลี่ยิ้มทันทีที่เห็นรอยยิ้มมั่นอกมั่นใจของนลิน ชายหนุ่มจึงสอดมือผ่านเส้นผมสีดำชาร์โคลประบ่าเพื่อจับต้นคอของอีกฝ่าย“นลินอนุญาตไหมครับ”นลินจ้องหน้าคนถามนิ่ง “ทำไมพี่พยัคฆ์ต้องขออนุญาตนลินด้วยล่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”
นลินเม้มปากแน่นขณะมองกระจกมองข้างด้วยความฉงนใจ เขาอยากคิดว่าตัวเองคิดมากที่เห็นรถคันนี้บ่อยเกินไปในช่วงนี้ หลังจากเขาพบกับภัคพลก็ดูเหมือนมีคนตามเขาไปทุกที่ รวมถึงบ้านกิตติวรกานต์ ก่อนนี้เขาคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกต่อไปแล้วสิชายหนุ่มกดโทรศัพท์หาพยัคฆ์ทันที เขาไม่ต้องรอสายนานนักอีกฝ่ายก็กดรับสาย“นลินมีอะไรรึเปล่า ไหนบอกว่าจะมาหาพี่แล้วไปกินมื้อเที่ยงด้วยกันไง”“ขอเปลี่ยนแผนก่อนครับ มีคนตามนลิน”“อะไรนะ! ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมนลินไม่บอกพี่”“นลินผิดเองครับที่ไม่สังเกตให้ดี นลินจะกลับบ้านก่อน พี่พยัคฆ์มาเจอนลินที่บ้านนะครับ นลินจะยอมย้ายไปอยู่เพ้นต์เฮ้าส์พี่พยัคฆ์ครับ แต่เราต้องบอกเรื่องนี้กับคุณตาคุณยายก่อน เรื่องของเราก็ด้วย”“นลินจะเปิดเผยเรื่องของเราเหรอ”“พี่พยัคฆ์ไม่ได้อยากให้เปิดเผยหรือไง”“อยากครับ แต่แอบน้อยใจนิดๆ นะที่นลินยอมเปิดเผยเพราะอันตรายถึงตัว”“นลินไม่ได้ปิดบังซะหน่อย นลินพ
“อื้อ! อา...แรงกว่านี้อีก...”เสียงกระเส่าเร่งคนด้านล่างที่สวนแท่งร้อนเข้ามาในกาย กลิ่นดอกลาเวนเดอร์อบอวลไปทั่วห้องจนคนที่ถูกขย่มจับเอวเล็กขาวที่เอาแต่บดเร่าเพื่อชะลอจังหวะที่เจ้าตัวเร่งเร้าไม่หยุดริมฝีปากสีพีชยามส่งเสียงครางนั้นเซ็กซี่จนคนมองตาพร่า เขายกกายขึ้นเพื่อซบใบหน้ากับบ่าบอบบางขาวหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ที่แม้จะทำให้ผ่อนคลาย แต่ก็ปลุกอารมณ์ปรารถนาของเขายิ่งขึ้นชายหนุ่มผิวสองสีไม่รู้ว่าโอเมก้าคนสวยคนนี้เป็นใคร แต่เพียงได้กลิ่น เพียงได้เห็นใบหน้าสวยนี่เขาก็อดใจไม่ไหว จนยอมตามแรงอีกฝ่ายที่ผลักเขาเข้าห้องนอน ดึงทึ้งเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่าแล้วมาอยู่ในท่านี้ริมฝีปากหนาแตะไล่ไปตามปลายคางที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อขณะที่สะโพกก็กระแทกสวนร่างที่ขยับขย่มบนกายเขาอย่างเอาแต่ใจเพื่อให้ตัวเองได้ปลดปล่อย และบรรเทาอาการฮีทของตัวเอง“คนสวย...ใจเย็นหน่อย...ของผมจะหักเอานะครับ”“อย่ามาทำตัวไก่อ่อน ผมไม่ชอบ!”เพียงได้ยินคำดูถูก...เจ้าของดวงหน้าคมเข้มก็ผลักร่างขาวอ้อนแอ้นลงกับเตียง แล้วยกมุมปากขึ้นยิ้มเจ้าเล่ห์ ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าดูถูกเขาขนาดนี้ เขาคงต้องแสดงให้เห็นเสียหน่อยแล้วว่าหากเขาเอาจริงจะเป็นอย่างไร
ร่างสูงใหญ่ก้าวเท้าเข้าสู่คฤหาสน์ตระกูลแม็กมารีนาซ ก่อนจะเลิกคิ้วเมื่อเห็นรถคูเป้สองประตูของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน นั่นแสดงว่าอีกฝ่ายกลับมาถึงบ้านแล้ว ชายวัยเกือบหกสิบเร่งสืบเท้าเข้าบ้านก่อนจะส่งกระเป๋าเอกสารให้แม่บ้าน“นลินกลับมาแล้วเหรอ”“ค่ะคุณท่าน คุณหนูกลับมาตั้งแต่เที่ยงแล้วค่ะ แต่เก็บตัวอยู่ในห้องทำงานของคุณท่านไม่ยอมให้ใครเข้าไปเลยค่ะ”“หือ? ห้องทำงานฉันเหรอ? นลินก็มีห้องทำงานตัวเองนี่”“ใช่ค่ะ เอ่อ...คุณเบนนี่บอกว่ามีเรื่องเกิดขึ้นบนเรือเมื่อสัปดาห์ก่อน มีเรื่องอะไรร้ายแรงรึเปล่าคะ”“ไม่มีอะไรมากหรอก เรื่องนั้นนลินโทร. มาบอกแล้ว แต่ไม่ได้เล่ารายละเอียด” เทรนต์เอ่ยก่อนจะมองหาภรรยา “มินนี่อยู่ไหนครับ”“เพิ่งออกจากห้องทำงานคุณท่านเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน แต่หน้าตาไม่ค่อยดีเลยค่ะ ไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกับคุณหนูรึเปล่า”“ทะเลาะกัน? คู่นี้ทะเลาะกันแค่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละ”พูดจบเทรนต์ก็สาวเท้าไวๆ ก้าวขึ้นชั้นสองตรงไปยังห้องทำงานของตัวเอง แล้วเปิดประตูเข้าไปเห็นใบหน้าขาวกำลังขมวดมุ่นเคร่งเครียด ดวงตาคู่สวยจับจ้องหน้าจอแท็บเล็ตอย่างจดจ่อ“นลิน”“แด๊ด! กลับมาแล้วเหรอครับ”“เพิ่งกลับนี่ล่ะ โ
สองสามีภรรยาวัยแปดสิบชะเง้อรอคนที่ทุกคนเฝ้ารอ รอแล้วรอเล่าก็ยังมาไม่ถึงเสียทีจนนึกหงุดหงิดเป็นเหตุให้ลูกชายและหลานชายที่เฝ้ารอผู้มาถึงต้องคอยปรามให้ใจเย็น“คุณพ่อคุณแม่ใจเย็นหน่อยเถอะครับ เดี๋ยวหลานก็มาแล้ว”“ไหนบอกว่าเครื่องแลนด์ดิ้งตั้งแต่สายไง นี่จะเที่ยงแล้วยังไม่เห็นหน้าเลย ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม แม่บอกแล้วว่าให้ไปรับหลานเอง ให้มาเองแบบนี้จะมาถูกไหม หลานไม่อยู่เมืองไทยมายี่สิบปีแล้วนะตาไตร”“คุณย่าก็ใจเย็นหน่อยสิครับ คุณอาเองก็บอกแล้วว่าน้องนลินไม่ได้มาคนเดียว ถ้าเราไปรับเกิดมีใครสงสัย น้องนลินคงเป็นอันตราย ที่น้องกลับมาเมืองไทยก็เพราะคิดทำเรื่องอันตราย คุณย่าคงไม่อยากให้น้องมีอันตรายใช่ไหมครับ”“ใจเย็นก่อนนะคุณ” ป้องเกียรติเตือนภรรยาพลางกุมมือเสียงรถยนต์และเสียงฝีเท้าของแม่บ้านทำให้ผู้ใหญ่ทั้งห้าคนยิ้มกว้างทันที ด้วยวันนี้บ้านกิตติวรกานต์ไม่ต้อนรับแขกคนไหนทั้งนั้น นั่นทำให้พวกเขารู้ได้ทันทีว่าคนที่มาเยือนจะต้องเป็นคนที่พวกเขาเฝ้ารออย่างแน่นอน“คุณหนูนลินมาแล้วค่ะคุณท่าน” เสียงตื่นเต้นของแม่บ้านวัยเกือบเจ็ดสิบทำให้ทุกคนตื่นเต้นร่างบอบบางร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรที่สวมเสื้อยืดสีขาว
“ช่วยส่งเอกสารนี่ไปให้ฝ่ายการตลาด บอกพวกเขาด้วยว่าให้เตรียมแผนโปรโมตไตรมาสหน้า สัปดาห์หน้าประชุมนำเสนอผมด้วย”“ครับคุณพยัคฆ์”“เดี๋ยวคุณวิทวัสช่วยเรียกอลันมาให้ผมด้วยนะ”“ได้ครับ”คล้อยหลังหัวหน้าเลขานุการ ซีอีโอแห่งศตาวุทธิพงศ์กรุ๊ปก็เอนกายกับพนักพิง ก่อนจะหมุนเก้าอี้ออกไปมองนอกอาคารซึ่งเป็นผนังกระจก จนมองออกไปเห็นห้างสรรพสินค้าสตาร์ไลท์ที่ชื่อห้างฯ เด่นเป็นสง่าแม้จะเห็นตึกเพียงลิบๆเขานั่งตำแหน่งซีอีโอเป็นเดือนที่สามแล้ว และช่วงที่เขานั่งตำแหน่งนี้ผลประกอบการก็เติบโตขึ้นจากเดิมเกือบสี่เท่า แม้คนอื่นจะมองว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่สำหรับพยัคฆ์แล้วยังไม่พอใจนัก“หงุดหงิดอะไรวะพยัคฆ์ ตั้งแต่กลับจากล่องเรือเมื่อเดือนที่แล้วก็ดูขัดหูขัดตาไปหมดเลยนะ” นับสิบที่นั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวเอ่ยถามทันทีพยัคฆ์หมุนเก้าอี้กลับมาจ้องหน้าเพื่อนรักที่ควบตำแหน่งบอดี้การ์ด พลางถลึงตามองอย่างนึกขวางหูขวางตา จริงอย่างที่นับสิบพูดนั่นแหละ เขาได้รับของขวัญจากคุณปู่ด้วยทริปล่องเรือสำราญที่ซีแอตเทิล ซึ่งเป็นทริปที่เขาอยากไปมากจนน่าประหลาด ทว่าเมื่อสิ้นสุดทริปเขากลับหงุดหงิดไม่ใช่เขาไม่รู้เหตุผล แต่เขาไม่รู้วิธีแก
นลินเม้มปากแน่นขณะมองกระจกมองข้างด้วยความฉงนใจ เขาอยากคิดว่าตัวเองคิดมากที่เห็นรถคันนี้บ่อยเกินไปในช่วงนี้ หลังจากเขาพบกับภัคพลก็ดูเหมือนมีคนตามเขาไปทุกที่ รวมถึงบ้านกิตติวรกานต์ ก่อนนี้เขาคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกต่อไปแล้วสิชายหนุ่มกดโทรศัพท์หาพยัคฆ์ทันที เขาไม่ต้องรอสายนานนักอีกฝ่ายก็กดรับสาย“นลินมีอะไรรึเปล่า ไหนบอกว่าจะมาหาพี่แล้วไปกินมื้อเที่ยงด้วยกันไง”“ขอเปลี่ยนแผนก่อนครับ มีคนตามนลิน”“อะไรนะ! ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมนลินไม่บอกพี่”“นลินผิดเองครับที่ไม่สังเกตให้ดี นลินจะกลับบ้านก่อน พี่พยัคฆ์มาเจอนลินที่บ้านนะครับ นลินจะยอมย้ายไปอยู่เพ้นต์เฮ้าส์พี่พยัคฆ์ครับ แต่เราต้องบอกเรื่องนี้กับคุณตาคุณยายก่อน เรื่องของเราก็ด้วย”“นลินจะเปิดเผยเรื่องของเราเหรอ”“พี่พยัคฆ์ไม่ได้อยากให้เปิดเผยหรือไง”“อยากครับ แต่แอบน้อยใจนิดๆ นะที่นลินยอมเปิดเผยเพราะอันตรายถึงตัว”“นลินไม่ได้ปิดบังซะหน่อย นลินพ
พยัคฆ์จับตามองนลินหลังจากเขาบอกเล่าแผนการที่ได้ปรึกษากับนับสิบมาก่อนแล้ว ซึ่งเขาไม่อยากให้นลินมารู้ทีหลังแล้วเข้าใจเขาผิดๆ คนที่ฟังแผนการทั้งหมดของเขายังคงนั่งนิ่งจนพยัคฆ์หายใจไม่ทั่วท้อง หากนลินไม่ชอบใจแผนการนี้ เขาคงต้องหาวิธีใหม่คนอื่นอาจสงสัยว่าทำไมเขาต้องยอมนลินขนาดนี้ ทำไมเขาต้องเกรงใจนลินทั้งที่เขาและนลินไม่ใช่คนรักกัน นั่นก็เพราะเขาคาดหวัง...คาดหวังให้ความสัมพันธ์นี้ได้พัฒนา ได้เปลี่ยนความสัมพันธ์จากคู่นอนเป็นคู่ชีวิต“พี่พยัคฆ์มั่นใจแผนนี้จริงๆ ใช่มั้ยครับว่าได้ผล”“มันเป็นแค่แผนจริงๆ เพราะพี่ไม่มีวันสนใจเพชรอันดา”“นลินรู้ว่าพี่พยัคฆ์ไม่สนใจเขา เพราะพี่พยัคฆ์สนใจกลิ่นลาเวนเดอร์ของนลิน ไม่สนใจกลิ่นบรั่นดีชวนอ้วกแบบนั้นหรอก”พยัคฆ์คลี่ยิ้มทันทีที่เห็นรอยยิ้มมั่นอกมั่นใจของนลิน ชายหนุ่มจึงสอดมือผ่านเส้นผมสีดำชาร์โคลประบ่าเพื่อจับต้นคอของอีกฝ่าย“นลินอนุญาตไหมครับ”นลินจ้องหน้าคนถามนิ่ง “ทำไมพี่พยัคฆ์ต้องขออนุญาตนลินด้วยล่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”
พยัคฆ์ทำตามที่ตกลงกับนลินไว้ เขาไปพูดคุยกับคุณปู่เรื่องของนลิน และส่งอลันไปหาภัคพล ซึ่งเพียงได้ยินว่าอีกฝ่ายมีข่าวจากนลิน ภัคพลก็ยินดีไปพบโดยไม่เสียเวลาคิด ให้นลินนัดแนะเวลาและสถานที่มาได้เลย เขาพร้อมไปพบนลินทันทีการนัดพบระหว่างนลินและภัคพลนั้นไม่มีใครรู้นอกจากพยัคฆ์ที่เป็นคนเตรียมสถานที่และเป็นคนกลางติดต่อให้ ทั้งยังเป็นคนพานลินมายังร้านอาหารหรูซึ่งมีห้องส่วนตัว ไม่เป็นที่สังเกตของใคร ทั้งยังให้นับสิบมาเป็นหูเป็นตาอีกด้วย“พยัคฆ์...คนของเรารายงานมาว่าภัคพลมาถึงแล้ว”พยัคฆ์พยักหน้า ก่อนจะหันมาสบตากับนลิน “พี่ออกไปก่อนนะ ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เลยนะ พี่จะอยู่แถวนี้นี่แหละ”นลินพยักหน้า ก่อนจะปล่อยมือพยัคฆ์“คุยคนเดียวได้แน่ใช่ไหม หรืออยากให้พี่อยู่ด้วย”“ไม่เป็นไรครับ นลินอยากสังเกตน้องด้วยตัวเอง นลินแน่ใจว่าอ่านคนไม่ผิด”“ก็ได้ครับ” พยัคฆ์จุมพิตหน้าผากเนียนอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะผุดลุกแล้วพยักหน้าให้เพื่อนรัก “ไปข้างนอกกันไอ้นับ”นับสิบเดินนำพยัคฆ์ไปยังด้านนอกห
“เมื่อกี้พี่พยัคฆ์บอกว่าหึงนลิน”“ใช่ พี่หึงนลิน พี่ก็ไม่รู้ว่าทำไม รู้แค่ว่าหึง”“แต่พี่ตรีเป็นพี่ชายของนลินนะ”“ก็แค่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก”“ไม่ครับ นลินหมายถึงพี่ชายจริงๆ คุณแม่ของนลินเป็นน้องชายของลุงไตรครับ”“น้องชายลุงไตรเหรอ”“ครับ น้องชายแท้ๆ คุณปู่คุณย่าของพี่ตรีเป็นคุณตาคุณยายของนลิน”พยัคฆ์จับจ้องดวงตาเรียวสวยได้รูปตรงหน้าที่จับจ้องเขาด้วยสายตาจริงจัง บ่งบอกว่าเป็นจริงทุกคำที่เจ้าตัวพูดออกมา นั่นทำให้เขาต้องทบทวนความทรงจำของตัวเองเกี่ยวกับครอบครัวกิตติวรกานต์แม้ในอดีตครอบครัวกิตติวรกานต์ไม่ใช่ครอบครัวยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลนัก ทว่าในช่วงยี่สิบปีมานี้ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นตระกูลที่ครอบครองธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในนามบริษัท เควีเค บิวเดอร์ ที่มีกำไรต่อปีเก้าถึงสิบหลัก ซึ่งทั้งหมดก็ต้องยกความดีความชอบให้กับทายาทรุ่นสองและสามอย่างไตรทศและตรีวิทย์ทว่านอกจากความสามารถของทายาททั้งสองรุ่นแล้ว ยังมีชื่อเสียงจากเ
ขณะเดียวกันบ้านใหญ่แห่งกิตติวรกานต์กำลังวุ่นวายเพราะข่าวของนลิน โดยเจ้าของหัวข้อกำลังร้อนใจไม่ต่างจากตรีวิทย์ที่เพิ่งมาสมทบด้วย“ไม่น่าจะปิดข่าวทันแล้วแน่เลยครับคุณพ่อ ทางโน้นเองก็คงเห็นแล้ว”“นลินก็คิดเหมือนพี่ตรี นลินก็ไม่ได้นึกว่าจะมีคนถ่ายคลิปถ่ายรูปเอาไปลงแบบนี้”“แล้วน้องนลินโทร. คุยกับอาเทรนต์หรือยัง”“ยังครับ ตอนนี้ทางโน้นน่าจะเพิ่งตีสี่ตีห้า เดี๋ยวเที่ยงๆ นลินคงต้องโทร. ไปคุยกับแด๊ดกับคุณแม่”“แล้วนลินจะเอายังไงล่ะลูก อยากให้ลุงช่วยอะไรก็บอกเลย”“ถ้าพวกนั้นรู้ว่านลินมาเมืองไทยแล้ว ที่นี่ก็จะไม่ปลอดภัยสำหรับนลิน นลินควรไปอยู่ที่อื่น”“นลินไปอยู่กับพยัคฆ์ไหม ยังไงนลินกับพยัคฆ์ก็สนิทกัน” ตรีวิทย์เสนอ“สนิทกัน? ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่” สุกฤตาเอ่ยถามหลานชายทันที“คุณย่าอย่าเพิ่งหวงนลินสิครับ ตอนนี้ความปลอดภัยของนลินสำคัญที่สุด”“แต่ตาพยัคฆ์เจ้าชู้ เสือผู้หญิงดีๆ นี่เอง”“ไม่จริงนะครับคุณยาย พี่พยัคฆ์น่ารักมากนะครับ”สายตาสี่คู่หันไปจ้องนลินอย่างพร้อมเพรียง ทุกคนในบ้านกิตติวรกานต์ร
พราวรุ้งถือกระเป๋าเดินลงบันไดมายังห้องครัว ทรุดกายลงนั่งซึ่งน้องชายของนางนั่งอยู่ก่อนแล้ว แม่บ้านนำกาแฟมาเสิร์ฟให้ก่อนที่นางจะตักน้ำตาลก้อนมาใส่แล้วคนอย่างใจเย็น“พี่รุ้งเห็นข่าวที่ริทซ์เมื่อคืนหรือยัง” คนเป็นน้องเอ่ยถามเมื่อเห็นพี่สาวไม่เอ่ยถึง“ข่าวอะไรหมอก พี่ยังไม่ได้ดูข่าวอะไรเลย” พราวรุ้งเอ่ยถามพลางจิบกาแฟ“พี่ก็ไปหาอ่านซะบ้างสิ ไม่ใช่อะไรก็พึ่งหมอกกับพี่พายุตลอด”พราวรุ้งตวัดหางตามองน้องชายที่ผุดลุกจากโต๊ะอาหารอย่างหงุดหงิด เป็นเหตุให้พราวรุ้งหยิบแท็บเล็ตของตัวเองมาเปิดหาข่าวที่ว่า ซึ่งเป็นข่าวซุบซิบว่อนไปทั่วอินเตอร์เน็ต ทั้งยังติดหนึ่งในสิบแฮชแท็กที่คนโพสต์อีกด้วยทายาทแม็กมารีนาซท้าทายกฎหมายไทย จับทายาทวรพิศิษฐ์กดกับพื้นกลางไนต์คลับหรูชื่อดังภาพประกอบเป็นชายหนุ่มหน้าสวยที่ทำให้พราวรุ้งเม้มปากแน่น แม้จะไม่เคยเห็นอีกฝ่ายมาก่อน แต่ใบหน้าแบบนี้...นางจำได้ไม่ลืม ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายกับคนที่นางเกลียดเข้ากระดูกดำ...ตฤน...ใครจะนึกว่าคนที่นางตามหานั้นอยู่ใต้จมูกขนาด
ร่างสูงโปร่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรเดินเข้าบ้านพลางกระชับกระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นร่างของผู้หญิงนั่งอยู่ท่ามกลางความมืด“คุณแม่! ทำไมมานั่งมืดๆ ล่ะครับ ภัคตกใจหมด”“เพิ่งเลิกเรียนเหรอภัค”“เปล่าครับ ภัคไปเที่ยวกับพวกเพื่อนมาหลังพรีเซ้นต์งานน่ะครับ แล้ววันนี้คุณแม่มาค้างที่นี่เหรอครับ”“ว่าจะมาดูพ่อเราน่ะสิ เห็นมีข่าวลือว่าไม่สบาย ภัคอยู่กับพ่อ เขาเป็นยังไงบ้างล่ะ”“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ เชื่ออะไรกับข่าวลือล่ะครับคุณแม่”“แม่ได้ยินว่าพ่อเราตามหาเมียเก่ากับพี่ชายเรา ก็เลยคิดว่าเขาป่วยหนักหรือเปล่า”“พี่ชายของภัคเหรอ ไหนคุณปู่กับคุณแม่บอกว่าพี่เขาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุพร้อมกับแม่ของเขาไงครับ”“ก็ใช่ แต่อยู่ดีๆ พ่อเราตามหา แม่ก็เลยคิดว่า...”“ถ้าพี่เขายังรอดชีวิตก็ดีสิครับ เขาจะได้มาช่วยคุณพ่อ ตอนนี้งานของคุณพ่อหนักมากนะครับ ภัคเองก็อยากเรียนจบไวๆ จะได้ออกมาช่วยคุณพ่อ แต่ภัคยังต้องรียนอีกตั้งปีสองปีแน่ะ”“ถ้าภัคบอกว่าคุณพ่อสบายดี งั้นแม่ก็คงคิดมากไปเอง ข่าวที่ว่าพ่อเราไม่สบายคงเป็นข่าวลือ”“ภัคว่าแม่อย่าไปเชื่อข่าวลือมากเลยจะดีกว่า ข่าวพวกนี้บางทีก็เชื่อไม่ได้”“แม่เข้าใจแล้ว งั้น
เสื้อเชิ้ตซิลเวอร์กลิตเตอร์จั๊มแขนบนร่างบางสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรล้อแสงไฟในไนต์คลับนั้นยิ่งดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น กอปรกับดวงหน้าสวยและแผ่นอกขาวที่เจ้าตัวปลดกระดุมสามเม็ดบนยิ่งดึงดูดสายตาเหล่าอัลฟ่าให้จับจ้อง ติดที่ว่าโอเมก้าหนุ่มนั้นมีอัลฟ่าสูงด้านหลังที่คอยส่งสายตาหวงแหน“นี่ถ้านลินไม่ฝังยาจนไม่มีฟีโรโมน พวกอัลฟ่าคงวิ่งเข้าหาแล้ว”นลินเงยหน้ามองคนพูดที่วางมือแตะแผ่นหลังอย่างหวงแหน ชายหนุ่มจึงหมุนกายแล้วโอบรอบลำคอแกร่งของอีกฝ่าย ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าพยัคฆ์หวงเขาแค่ไหน ก็ดูสายตารอบกายที่จับจ้องมาที่เขาสิ...ถ้าพยัคฆ์ไม่หวงก็คงไม่ตามประกบเช่นนี้“ถ้าไม่มีพี่พยัคฆ์ พวกอัลฟ่าก็คงเข้ามาหานลินทันที ไม่เห็นต้องพึ่งฟีโรโมนเลย”“ทำไมช่างยั่วขนาดนี้นะ”“ไม่ชอบเหรอครับ”“ไม่เห็นต้องให้พี่บอกเลยว่าชอบไหม ถ้าไม่ชอบจะมายุ่งด้วยหรือไง”“ก็นั่นสิครับ ไม่งั้นพี่พยัคฆ์จะวอแวขนาดนี้เหรอ ไม่ต้องห่วงนะครับ ตอนนี้นลินจะเป็นโอเมก้าของพี่พยัคฆ์คนเดียว ตราบใดที่พี่พยัคฆ์เป็นเด็กดีของนลิน”พยัคฆ์ลอบยกมุมปากขึ้นยิ้มร้าย ก็แน่ล่ะ! เขาตั้งใจจะเป็นเด็กดีของนลินนี่ ชายหนุ่มประคองเอวเล็กที่ยังคงเต้นเลื้อยกับตัวเขาสลับก
ร่างอวบเดินเข้ามาในบ้านพลางมองหาแม่บ้านคนสนิท เมื่อไม่เห็นคนที่ควรจะออกมาต้อนรับจึงตะโกนเรียกด้วยความหงุดหงิด“นางจิ๋ว! จิ๋ว! แกอยู่ไหนเนี่ย”“ค่าคุณนาย จิ๋วมาแล้วค่ะ”ร่างผอมบางตัวเล็กวิ่งออกมาจากห้องครัวทันที ก่อนจะส่งแก้วน้ำให้คุณนายของบ้าน แล้วรับกระเป๋าถือของอีกฝ่ายวางบนโต๊ะในห้องนั่งเล่น“ตาเพชรไปไหนล่ะ”“ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวข้างบนค่ะ”“อาบน้ำแต่งตัว? นี่มันจะออกไปเที่ยวข้างนอกอีกแล้วเหรอ”“ค่ะ คุณหนูก็ไปเที่ยวเกือบทุกวันเป็นเรื่องปกตินะคะ”“ปกติบ้านแกสินางจิ๋ว นี่ลูกชายฉันวันๆ เอาแต่เที่ยวมันปกติที่ไหนกัน สัปดาห์นึงแวะไปบริษัทกี่ครั้งกัน”“ไม่กี่ครั้ง แต่คุณหนูก็ช่วยงานคุณท่านได้ดีนะคะ”คุณนายของบ้านได้แต่หงุดหงิดเมื่อได้ยินคำพูดของคนสนิท นางยื่นแก้วน้ำให้อีกฝ่าย ก่อนจะหยิบกระเป๋าถือของตัวเองก้าวขึ้นชั้นบนของบ้าน เคาะประตูห้องนอนของลูกชายทันที“ใครครับ”“แม่เองตาเพชร เ