…เช้าวันรุ่งขึ้น เพียงดาวตื่นนอนแต่เช้ารีบเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับบ้าน ผู้ใหญ่จะเข้าไปในเมืองพอดีเธอเลยขอติดรถกลับบ้านด้วย โดยมีสวยเพื่อนรักตามไปส่งด้วย ตลอดเช้านี้เธอเลยไม่มีเวลาดูโทรศัพท์เลย
ฝั่งของภูดินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแทบจะทุกห้านาที จนไม่เป็นอันทำงาน เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่คนที่เฝ้ารอจะอ่านข้อความซักที ยิ่งเพียงดาวไม่อ่านข้อความนานเท่าไรก็ยิ่งทำให้เขากระวนกระวายใจ จนคิดไปต่างๆนาๆว่าตัวเองทำอะไรผิดมั้ยหรือเค้าไม่อยากคุยกับเราแล้ว ไม่นานความคิดฟุ้งซ่านของภูดินก็สงบลงเมื่อคนที่เฝ้ารอตอบข้อความกลับมา
“ขอโทษนะคะคุณภู เมื่อเช้าดาววุ่นๆพึ่งกลับถึงบ้านค่ะ”
“ดาวกลับบ้านแล้วหรอ กลับยังไง ใครไปส่ง”
“ลุงผู้ใหญ่กับสวยมาส่งในเมืองค่ะ ดาวต่อรถสองแถวเข้าบ้านอีกที”
“เอ่อ….แล้วสนใจข้อเสนอของผมมั้ย ที่ชวนมาทำงานด้วยกัน”
“ดาวขอทราบรายละเอียดงานมากกว่านี้หน่อยได้มั้ยคะ ค่อยตัดสินใจอีกที”
“ได้ๆๆ แล้วดาวจะให้ผมส่งรายละเอียดให้ทางไหน หรือว่าเอาอย่างนี้ดีมั้ยผมไปหาดาวที่บ้าน เผื่อติดขัดตรงไหนจะได้ถามได้เลย”
เพียงดาวนิ่งคิดซักพักก่อนตอบ
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ คุณภูสะดวกวันไหนคะ”
“วันเสาร์ได้มั้ยครับ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวดาวส่งโลเคชั่นไปให้นะคะ”
“ดาวมาช่วยแม่ทางนี้หน่อยลูก”เสียงนวลแม่ของเพียงดาวเรียกลูกสาว
“งั้นแค่นี้ก่อนนะคะไว้เจอกันวันเสาร์ค่ะ แม่เรียกแล้ว”
“เจอกันครับ”
จบบทสนทนาเพียงดาวก็รีบลุกขึ้นเดินไปหามารดา
“จ้าแม่ ดาวมาแล้ว”
“ช่วยแม่เก็บชุดที่ซ่อมเสร็จแล้วไว้ส่งคืนให้ลูกค้าหน่อยลูก เดี๋ยวซักพักน่าจะมารับชุดกันแล้ว”
“ได้จ่ะแม่”
…เย็นวันนั้นระหว่างทานข้าวเย็น เพียงดาวบอกนวลผู้เป็นแม่ว่า
“แม่จ้ะ วันเสาร์นี้คุณภูดินเจ้าของภูดินฟาร์มเขาจะมาที่บ้านเรานะจ๊ะ”
“มาทำไมล่ะลูก เขามีธุระอะไร แล้วที่สำคัญเราไปรู้จักเขาตอนไหน ไม่เคยเล่าให้แม่ฟังเลย”นวลถามลูกด้วยความสงสัย
“เราเคยเจอกันผ่านๆค่ะ มารู้จักกันจริงๆตอนหนูไปเที่ยวที่บ้านสวย เขามาช่วยชาวบ้านทำฝายน่ะค่ะแม่ เค้าเห็นหนูว่างงานอยู่เลยจะชวนไปทำงานด้วยเป็นผู้ช่วยเค้าที่ฟาร์มค่ะ แต่หนูยังไม่ได้ตอบตกลงนะคะ คุณภูเลยบอกว่าวันเสาร์จะขอมาคุยรายละเอียดงานให้ฟังก่อน”
“แล้วลูกสนใจมั้ย ถ้าสนใจแม่ก็ไม่ว่าอะไร แม่ขอให้มั่นใจว่าเขาเป็นคนดี ไม่เอาเปรียบลูกของแม่ก็พอ”
“เดี๋ยวเราค่อยว่ากันอีกทีตอนที่คุยรายละเอียดงานเสร็จก็ได้ค่ะ” จบบทสนทนาแม่ลูกก็ทานข้าวเย็นกันต่ออย่างมีความสุข
…เย็นวันศุกร์ ขณะที่เพียงดาวกำลังนั่งเล่นอยู่น่าบ้านนั้นเสียงข้อความในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อเปิดอ่านก็พบว่าเป็นข้อความของคนที่นัดเจอกันในวันพรุ่งนี้
“ดาวพรุ่งนี้ผมอาจจะไปถึงบ่ายๆนะ ช่วงเช้ามีประชุมนิดหน่อย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ดาวไม่รีบ ถ้าไม่สะดวกเป็นวันหลังก็ได้ค่ะ”
“งั้นพรุ่งนี้บ่ายๆเดี๋ยวผมโทรหานะ”
“ค่ะ”
…และแล้ววันนัดก็มาถึง ในช่วงเช้าภูดินมีเข้าประชุมตรวจดูความเรียบร้อยของโรงแรม AA ร่วมกับหุ้นส่วนของเขา โรงแรมแห่งนี้ภูดินลงทุนร่วมกับเพื่อนรักอีกสองคนคือเอกกับวัชร เช้านี้เขาดูรีบเร่งจนเอกหนึ่งในหุ้นส่วนและยังพ่วงด้วยตำแหน่งเพื่อนรักของเขาถามขึ้น
“นี่มึงรีบไปไหนของมึงวะไอ้ดิน ดูเร่งรีบผิดปกติ”
“หรือว่าจะรีบไปหาสาวที่ไหน”วัชรแซวเพื่อน
“คนบ้างานอย่างมันจะเอาเวลาที่ไหนไปสนใจสาวๆ ขนาดเขามาทอดสะพานให้ถึงที่มันยังไม่สนใจเขาเลย”
“เออก็จริงของมึงไอ้เอก แต่ไม่แน่นะโว้ยมันอาจจะเป็นเสือซุ่มก็ได้ เหมือนที่มันมองสาวน้อยคนนั้น”
“พวกมึงเลิกพูดเพ้อเจ้อกันได้ละ กูแค่มีธุระต่อ เลยต้องรีบทำเวลา ถ้าพวกมึงไม่มีอะไรจะคุยแล้วก็ขอตัวก่อน”
“เออ รีบไปไกลๆเลยไป”เพื่อนรักทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
“มันแปลกจริงๆนะโว้ยไอ้วัชร ปกติมันเคยรีบแบบนี้ที่ไหน คนอย่างมันจะมีธุระอะไรสำคัญไปกว่างาน”
“เออ เดี๋ยวถ้ามันมีอะไรอยากเล่าเดี๋ยวมันก็เล่าให้ฟังเองแหละ ป่ะหาข้าวเที่ยงกินกัน” เพื่อนรักทั้งสองคุยกันหลังจากภูดินเดินออกจากห้องประชุมไปแล้ว
…ฝั่งของภูดินหลังจากประชุมเสร็จก็รีบแวะมาที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อผลไม้และของกินไปฝากคนที่นัดไว้
หลังจากนั้นก็ขับรถมาตามแผนที่ที่เพียงดาวให้ไว้ ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงเศษๆ ภูดินก็ถึงที่หมายเขาเงยหน้ามองป้ายร้านตัดเย็บขนาดเล็กที่เขียนว่า “ศรีนวลตัดเย็บ” ก่อนโทรศัพท์หาเพียงดาวว่าเขาถึงหน้าบ้านแล้ว บ้านของเพียงดาวเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ภายในบ้านร่มรื่นมากเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ หน้าบ้านเปิดเป็นร้านตัดเย็บเสื้อผ้าเล็กๆของแม่ ถึงร้านจะไม่ใหญ่โตหรูหราแต่ก็มีลูกค้าแวะเวียนมาไม่ขาดสาย เพราะฝีมือการตัดเย็บของนวลละเอียดและประณีตแถมยังใจดีกับลูกค้ามาก
“ทางนี้ค่ะคุณภู บ้านดาวหายากมั้ยคะ เดินทางลำบากหน่อยนะคะ ไปค่ะไปสวัสดีคุณแม่ก่อน”
“คุณน้าสวัสดีครับ ผมภูดินนะครับ”
“สวัสดีค่ะ เชิญเข้าบ้านก่อนนะคะ ดาวพาคุณเค้าไปดื่มน้ำดื่มท่านั่งคุยกันให้หายเหนื่อยก่อนไปลูก”
“จ้าแม่ เชิญทางนี้ค่ะคุณภู”
“แป๊บนะครับผมไปเอาของฝากในรถมาให้ก่อน”
พูดจบชายหนุ่มก็รีบเดินไปเอาของในรถ เดินตามเพียงดาวเข้าบ้านไปพร้อมของฝากเต็มมือทั้งสองข้าง
“คุณภูไม่เห็นต้องซื้ออะไรมาเลยค่ะ ลำบากเปล่าๆ”
“ไม่ลำบากเลย ผมเต็มใจครับ”
“ดื่มน้ำกับผลไม้ก่อนนะคะ พักให้หายเหนื่อยก่อน”
“บ้านดาวร่มรื่นดีจังนะ น่าอยู่มาก”เขาบอกเธอด้วความจริงใจ
“ผมเตรียมเอกสารรายละเอียดงานมาให้แล้วดาวลองอ่านดูก่อนนะ” ภูดินพูดพร้อมกับยื่นเอกสารให้หญิงสาว
“หน้าที่หลักๆก็คือช่วยผมตวจสอบบัญชีกับบริหารจัดการงานในฟาร์ม ตอนนี้งานผมล้นมือเลยอยากหาคนมาช่วยดูแล วันหยุดผมให้หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ หรือถ้าช่วงไหนงานยุ่งอาจจะขอให้ช่วยงานในวันเสาร์บ้าง ส่วนเรื่องที่พักดาวสามารถพักที่บ้านผมได้เลย ที่นั่นมีแค่ผม คุณนมกับคนงานอีกแค่สองสามคน กินฟรีอยู่ฟรี ส่วนเงินเดือนผมให้เดือนละ 50,000 บาท”
“มันจะไม่มากไปหรอคะ ดาวเองยังไม่มั่นใจเลยว่าจะสามารถทำงานได้ดีคุ้มค่ากับที่คุณจ่ายให้ดาวรึป่าว”
“ไม่มากเลยครับ ขอแค่ดาวตกลง เรื่องงานเราผมจะค่อยๆสอนเอง”
ทั้งสองใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายพูดคุยรายละเอียดงานกันจนเวลาล่วงเลยมาถึงห้าโมงเย็น นวลผู้เป็นแม่ที่ปิดร้านเรียบร้อยแล้วก็เดินมาหาทั้งสองคนที่นั่งคุยกันอยู่
“เป็นยังไงกันบ้างจ้ะ หิวมั้ยเดี๋ยวแม่ไปทำข้าวเย็นให้ทานดีกว่า คุณภูอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ยจ๊ะ เดี๋ยวน้าทำให้”
“ไม่มีครับ ผมทานได้หมดทุกอย่างเลยครับ”
“งั้นเดี๋ยวดาวไปช่วยแม่ในครัว คุณภูนั่งเล่นไปก่อนนะคะ”
“ครับ”
เวลาผ่านไปพักใหญ่สองแม่ลูกก็นำกับข้าวออกจากครัวมาวางที่โต๊ะสามสี่อย่าง
“มีแต่กับข้าวบ้านๆคุณภูพอจะทานได้มั้ยจ้ะ”
“น่ากินมากเลยครับคุณน้า หอมมาก”
“ดาวตักข้าวให้คุณเค้าสิลูก”
“จ้ะแม่”
ทั้งสามนั่งทานข้าวเย็นจนเสร็จเรียบร้อย นวลผู้เป็นแม่จึงเอ่ยถามขึ้น
“เป็นไงบ้างตกลงจะไปทำงานที่ฟาร์มมั้ยลูก”
“เริ่มงานอาทิตย์หน้าค่ะแม่”
“อย่างนั้นหรอ ดีๆ น้าฝากดาวด้วยนะคะคุณภู งานไหนยากหรือยังทำไม่ได้ก็ค่อยๆสอนไปนะคะ”
“คุณน้าไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลลูกสาวคุณน้าอย่างดีเลยครับ”
“ได้ยินอย่างนั้นน้าก็สบายใจค่ะ”
“ค่ำแล้วไม่รบกวนคุณน้าแล้วครับ ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
สิ้นเสียงของภูดินฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะตกมาก่อน ก็ตกลงมาอย่างหนัก อีกทั้งลมยังแรงมากอีกด้วย
“อ้าว ฝนฟ้าดูสิจะตกก็ตกไม่มีปี่มีขลุ่ยเลย”นวลบ่น
“ฝนตกแรงขนาดนี้ท่าจะกลับลำบากแล้วนะคุณภู ถนนหนทางแถวนี้ก็ไม่ค่อยดี น้าว่าคืนนี้ก็นอนซะที่นี่พรุ่งนี้ค่อยกลับดีกว่ามันอันตราย”
“แม่แต่เรามีห้องนอนแค่สองห้องนะจ้ะ”
“ผมนอนโซฟาข้างล่างก็ได้ครับ”ภูดินรีบพูด
“ไม่ได้ๆ คุณภูไปนอนห้องของดาว ส่วนดาวก็มานอนกับแม่ เอาตามนี้นะ แม่จะไปสวดมนต์ไหว้พระก่อน ดาวก็พาคุณเค้าไปดูห้องจะได้รีบอาบน้ำเข้านอน”
ดาวได้แต่ก้มหน้ารับคำแม่เบาๆก่อนจะเดินนำชายหนุ่มไปที่ห้อง “ถึงแล้วค่ะ เดี๋ยวดาวไปเอาผ้าเช็ดตัวให้ ส่วนเสื้อผ้า........”
“ผมมีชุดสำรองในกระเป๋าครับ ขอแค่ผ้าเช็ดตัวก็พอ”
หญิงสาวเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ชายหนุ่ม ก่อนจะบอกลาแยกย้ายกันเข้าห้อง
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ อาจจะคับแคบหน่อยนะคะ”
“ราตรีสวัสดิ์ครับ”
คืนนั้นเพียงดาวนอนไม่หลับพลิกตัวไปมา จนนวลผู้เป็นแม่ตื่น“นอนไม่หลับหรอลูก”“จ่ะแม่ คิดอะไรนิดหน่อย แม่จ้ะเดี๋ยวดาวลงไปดูหนังข้างล่างนะจ๊ะ”“จ้า อย่าให้ดึกมากนะเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย”“ค่ะแม่”นวลเองก็พอจะเข้าใจสาเหตุที่ลูกสาวนอนไม่หลับจึงไม่ได้ห้ามอะไร พลางนึกย้อนไปว่าตั้งแต่เด็กเพียงดาวไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนเข้าบ้านเลย ภูดินเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอพามาพบแม่ ถึงแม้จะเป็นในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ตาม เธอเองก็พอจะมองออกว่าสายตาที่ทั้งคู่มองกันไม่ใช่ในฐานะของเพื่อนร่วมงาน สิ่งที่ห่วงมีแค่อย่างเดียวว่าครอบครัวของเธอต่างจากของภูดินมากจนมองไม่เห็นว่าสุดท้ายจะลงเอยได้อย่างไร แต่เธอก็ไม่อยากกีดกันเด็กๆ เธอจึงเลือกที่จะให้พวกเขาเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเอง หากวันไหนเจ็บหรือไม่เป็นดังหวังเธอก็พร้อมจะดูแลลูกสาวคนเดียวอย่างเต็มที่…ทางด้านของภูดินเองคืนนี้ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน จึงลงมาข้างล่างหาน้ำดื่มและนั่งเล่นซักหน่อย บังเอิญไปเห็นแสงสว่างจากหน้าจอทีวีจึงเดินไปดู พบว่าเพียงดาวนั่งดูหนังอยู่“ดาวทำไมมานั่งดูหนังคนเดียวล่ะครับ”“ดาวนอนไม่หลับค่ะ”“ผมก็เหมือนกัน ขอดูด้วยคนได้มั้ย”“เอ่อ….เชิญนั่งสิคะ”เพียงด
“นมครับ” ภูดินเรียกหาแม่นมของเขา“ว่าไงคะคุณภู”นมแย้มหญิงชราในวัยหกสิบขานรับชายหนุ่ม“นมช่วยให้คนจัดห้องนอนข้างบนสำหรับผู้ช่วยคนใหม่ของผมด้วยนะครับ เธอจะมาเริ่มงานอาทิตย์หน้าครับ”“เธอหรอคะ งั้นก็เป็นผู้หญิงน่ะสิ ผู้ช่วยคนใหม่คุณภูเป็นผู้หญิงหรอคะ”นมแย้มขมวดคิ้วถามเขาด้วยความประหลาดใจ“ครับ เธอชื่อเพียงดาว อายุน้อยกว่าผมประมาณ 4 ปีครับ ช่วงแรกๆที่เธอมาอาจจะต้องรบกวนนมดูแลเธอด้วยนะครับ”“ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ ว่าแต่สาวน้อยคนนั้นเป็นคนยังไงกันนะถึงทำให้คุณภูของนมรับมาทำงานด้วย ชักอยากเจอหน้าซะแล้วสิ”“ก็คนธรรมดานี่แหละครับนม ความสามารถของเธอตรงกับที่ผมกำลังต้องการอยู่พอดีก็แค่นั้นครับ”“ค่ะ คงเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ”นมพูดเชิงไม่เชื่อที่ชายหนุ่มพูดซักเท่าไหร่ ผู้ชายคนนี้เธอเลี้ยงมาเองกับมือ เธอรู้จักนิสัยเขาเป็นอย่างดี ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นสนใจผู้หญิงที่ไหน ยิ่งเวลามีสาวๆมาเกาะแกะยิ่งทำตัวเย็นชา อยู่ดีๆพาผู้หญิงมาทำงานด้วยแถมยังให้มาอยู่ในบ้านหลังเดียวกันอีก เธอคนนั้นคงต้องไม่ใช่ลูกน้องธรรมดาแน่นอนตลอดทั้งสัปดาห์นั้นนมแย้มวุ่นกับการจัดห้องใหม่ให้ผู้ช่วยสาว ข้าวของเครื่องใช้อะไรที่ผู้หญิงควรมี
ทันทีที่รถของภูดินวิ่งมาจอดที่หน้าบ้าน เพียงดาวสังเกตเห็นว่ามีคนยืนอยู่หลายกลุ่ม เธอจึงเอ่ยถามภูดินด้วยขณะที่ยังนั่งอยู่ในรถ“พวกเขามาทำอะไรกันคะ”“ด้านนี้คือคุณนมและพี่จันทร์ พี่จวงทั้งสามคนทำงานและพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ ส่วนคนอื่นๆด้านโน้นน่าจะมารอดูหน้าคุณผู้ช่วยคนใหม่”เขาพูดพลางอมยิ้มและชี้มือไปที่กลุ่มของคนงานที่ยืนจับกลุ่มซุบซิบกันอยู่“มารอดูดาวหรอคะ”หญิงสาวทำหน้างง“พวกเขาคงอยากทำความรู้จักน่ะ ป่ะเข้าบ้านกัน”จบบทสนทนาทั้งคู่ก็เดินลงมาจากรถ ภูดินเอามือแตะที่หลังของหญิงสาวเบาๆเพื่อให้เดินไปหานมแย้มที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน“ดาวนี่นมแย้ม พี่จันทร์ พี่จวง ทุกคนนี่เพียงดาวผู้ช่วยคนใหม่ของผมครับ””“สวัสดีค่ะทุกคน หนูชื่อเพียงดาวนะคะ เรียกดาวเฉยๆก็ได้ค่ะฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”หญิงสาวพูดพร้อมกับยกมือไหว้คนทั้งสาม“สวัสดีจ้ะหนูดาว ยินดีต้อนรับจ้า”นมแย้มเอ่ยและยิ้มให้หญิงสาว“สวัสดีค่ะคุณดาว ยินดีต้อนรับเช่นกันค่ะ คุณดาวสวยจังนะคะ”จันทร์และจวงเอ่ยพร้อมกันด้วยรอยยิ้มด้วยใบหน้าที่สวยน่ารัก ดวงตากลมโต ปากนิด จมูกหน่อยและผมสีน้ำตาลยาวเป็นลอนสวยของหญิงสาวผู้มาใหม่ทำให้เหล่าคนงานที่ยืนดูอยู่ต่างก
….เช้าวันใหม่ที่ภูดินฟาร์ม ….กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง…เสียงนาฬิกาปลุกที่เพียงดาวตั้งไว้ตอนหกโมงเช้าดังบอกเวลาให้เธอลุกจากที่นอน เธอพยุงตัวลุกขึ้นมาด้วยความงัวเงียเพราะเมื่อคืนกว่าจะนอนหลับได้ก็ปาเข้าไปเกือบตีสองแล้ว ด้วยความที่ยังไม่ชินกับสถานที่ทำให้นอนไม่หลับพลิกตัวไปมาทั้งคืน แต่พอเธอลุกออกไปยืนสูดอากาศที่ริมระเบียงก็ทำให้เพียงดาวสดชื่นขึ้นมา ด้วยวิวทิวทัศน์ที่เขียวชะอุ่ม มองไปทางไหนก็สบายตา ประกอบกับอากาศตอนเช้าที่เย็นสบาย เพียงดาวยืนมองบรรยากาศโดยรอบซักพักก็ไปอาบน้ำแต่งตัว เช้านี้เธอมีนัดกับภูดินไปดูพื้นที่รอบฟาร์มหรือที่ทำงานแห่งใหม่ของเธอนั่นเอง เพียงดาวจึงเลือกชุดเอี๊ยมที่แม่ตัดให้ใหม่มาใส่เพื่อให้ดูทะมัดทะแมง“มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ”เพียงดาวถามพี่ๆทำกำลังเตรียมกับข้าวอยู่ในครัว“ไม่มีหรอกค่ะ คุณดาวเข้ามาทำไมคะเดี๋ยวตัวเหม็นไปนั่งรอที่โต๊ะทานข้าวเลยค่ะ”จันทร์บอกหญิงสาว“ก็ดาวอยากช่วยนี่คะ อีกอย่างพวกพี่เรียกดาวว่าดาวเฉยๆก็ได้ค่ะ ไม่เห็นต้องเรียกคุณเลย”“ไม่ได้ค่ะ ให้พวกพี่เรียกคุณน่ะดีแล้ว เอาอย่างนี้ถ้าคุณดาวอยากช่วยจริงๆ ช่วยชงกาแฟให้คุณภูทีค่ะ”“ชง..กาแฟให้คุณภูหรอคะ เอ่อ...ก็ได้ค่ะ
ภูดินขับรถมาอีกประมาณสิบห้านาทีก็ถึงโรงเรือนที่มีแม่วัวอยู่นับร้อย และเช่นเคยเพียงดาวก็ตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นตรงหน้ามาก“โห….ดาวไม่เคยเห็นแม่วัวเยอะขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ ใหญ่มาก”เธอพูดพลางวิ่งไปดูแม่วัวและเดินลูบหัวทักทายวัวทีละตัว“ยัยบ๊องเอ้ย เห็นอะไรก็ตื่นเต้นไปหมด”เขาพึมพำเบาๆ พลางยิ้มแล้วส่ายหัวก่อนจะเดินตามไปอธิบายรายละเอียดของแต่ละโรงเรือนให้หญิงสาวฟัง บริเวณนี้นอกจากโรงเรือน โรงรีดนมแล้วยังมีที่เก็บน้ำนมดิบด้วย“นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ จะมาทำไมไม่บอกล่ะครับ”เสียงของวิทย์ผู้ช่วยคนสนิทดังมาจากด้านหลังของคนทั้งคู่“ผมได้ข่าวว่านายพึ่งรับผู้ช่วยคนใหม่มา ได้ข่าวว่าเป็นสาวสวย…….”วิทย์ที่พูดยังไม่ทันจบประโยคก็หยุดชะงัก เห็นหน้าของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเจ้านายของตน“คุณเพียงดาว คุณเพียงดาวจริงๆด้วย อย่าบอกนะครับว่าผู้ช่วยคนใหม่ที่เขาลือกันคือคุณเพียงดาว”“สวัสดีค่ะ ใช่ค่ะ ดาวเองค่ะ”“นี่คุณเพียงดาวเป็นผู้ช่วยคนใหม่ของนายจริงๆหรอครับ เฮ้ย..พวกเรามาทางนี้เร็วนายพาผู้ช่วยคนใหม่มา”วิทย์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจจนเผลอร้องเสียงดังเรียกเพื่อนที่อยู่ในห้องพักให้ออกมาข้างนอก“แกจะเสียงดังทำไมไอ้วิทย์
ตั้งแต่วันแรกที่เพียงดาวเริ่มทำงาน ภูดินก็อยู่ที่ออฟฟิศเกือบทุกวันเพื่อสอนงานเธอ ทั้งสองคนใช้เวลาด้วยกันตั้งแต่เช้ายันเย็นหรือบางวันก็ทำงานจนถึงดึกดื่น เพียงดาวเรียนรู้งานได้ค่อนข้างเร็ว ประกอบกับความมุ่งมั่น ตั้งใจและขยันจึงทำให้เธอเข้าใจกระบวนการทำงานได้ภายในเวลาแค่เดือนเดียว ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาที่ภูดินได้ใช้เวลาอยู่กับเพียงดาวนอกจากเรื่องของการทำงานแล้วทั้งสองคนก็ได้เรียนรู้นิสัยส่วนตัวของกันและกันเพิ่มมากขึ้นด้วยเพียงดาวเมื่อได้เมื่อได้อยู่กับชายหนุ่มก็เห็นว่าเขานอกจากจะเป็นคนที่ทำงานเก่ง ละเอียด รอบคอบจนบางครั้งดูเหมือนจะดุและเคร่งครัดแล้ว อีกสิ่งที่เขามีและตรงข้ามกับภาพลักษณ์การทำงานของเขาคือความรัก มีน้ำใจและเอาใจใส่ต่อพนักงานของเขาทุกคน ไม่เคยเอาเปรียบลูกน้อง เธอจึงไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนที่นี่รักและเคารพเขาทั้งที่อายุแค่สามสิบส่วนภูดินเองเมื่อได้ทำงานใกล้ชิดและใช้เวลากับเพียงดาวมากขึ้น ก็ทำให้เขายิ่งอยากรู้จักและเรียนรู้เธอมากขึ้นไปอีกเพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้คนบ้างานอย่างเขานับวันยิ่งสนใจในตัวเธอเพราะผู้หญิงคนนี้มีสิ่งที่ทำให้เขาเซอร์ไพรส์ได้ทุกวัน จากตอนแรกที่เขาแค่อยาก
หลังจากที่สมาชิกในฟาร์มรู้ว่าจะมีงานเลี้ยงปีใหม่ ทุกคนก็ตื่นเต้นและต่างเฝ้ารอให้ถึงวันงานเร็วๆ ทางด้านของภูดินและเพียงดาวช่วงเดือนสุดท้ายของปีก็ยุ่งมาก ทั้งคู่รีบเร่งเคลียร์งานให้เสร็จก่อนวันคริสมาสต์ ส่วนฝั่งของนมแย้มและพี่จันทร์พี่จวงก็กำลังวุ่นวายกับการจัดหาอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีกลุ่มของวิทย์และน้าเสริมเป็นลูกมือช่วยเรื่องการจัดสถานที่ จนเวลาล่วงเลยมาถึงอาทิตย์สุดท้ายก่อนถึงวันจัดงาน“คุณภูกับคุณดาวจะให้พวกพี่ไปซื้อของขวัญให้มั้ยคะ ดูคุณๆยุ่งๆ”พี่จวงถามทั้งคู่หลังทานอาหารเย็นเสร็จ“พรุ่งนี้เดี๋ยวผมไปเองครับ”“สักเก้าโมงเช้าตื่นไหวมั้ยดาว ขอโทษนะช่วงนี้ไม่ค่อยได้ให้คุณพักผ่อนเลย”ภูดินหันไปถามเพียงดาว“ไหวค่ะ ไม่มีปัญหาแค่นี้สบายมากค่ะ”“พวกพี่จะเข้าไปในเมืองพร้อมกันมั้ยคะ”เพียงดาวถามจันทร์จวง“เดี๋ยวไปกับน้าเสริมกับเจ้าวิทย์ค่ะ ไปหาซื้อของหลายอย่างแยกกันไปน่าจะสะดวกกว่า”“เอางั้นก็ได้ค่ะ ตังค์ที่ดาวให้ไปรอบที่แล้วพอมั้ยคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ดาวเอาให้เผื่อไว้ให้อีก เผื่อขาดเหลืออะไร”ภูดินนั่งมองหญิงสาวคุยกับแม่บ้านของตนด้วยท่าทางคล่องแคล่ว จนเขาเผลอคิดไปว่าเหมือนนายหญิงกำลังคุยกับลูกน
ในที่สุดก็ถึงวันจัดงานเลี้ยง วันนี้ภูดินให้ทุกคนทำงานแค่ครึ่งวันเพื่อให้เตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ เหลือแค่เขากับเพียงดาวที่ยังทำงานกันอยู่ณ ลานจัดกิจกรรมของฟาร์มซึ่งเป็นที่จัดงานเลี้ยงในวันนี้ ได้ถูกเนรมิตและประดับประดาด้วยไฟแสงสีอย่างสวยงาม อาหารคาวหวานรวมทั้งเครื่องดื่มมากมายถูกวางเรียงไว้บนโต๊ะ และยังมีเวทีเล็กๆสำหรับจัดกิจกรรมด้วย งานเลี้ยงวันนี้มีแค่พนักภายในภูดินฟาร์มเท่านั้นบรรยากาศจึงดูอบอุ่น เป็นกันเอง ช่วงหัวค่ำเหล่าผู้มาร่วมงานทั้งหลายเริ่มทยอยกันเข้างาน แต่ละคนต่างแต่งตัวจัดเต็มไม่มีใครน้อยหน้าใครกันเลย เริ่มมืดผู้มาร่วมงานก็มาเกือบครบขาดเพียงภูดินและเพียงดาวที่เพิ่งเสร็จจากงานช่วงเย็นจึงมาช้ากว่าเพื่อน เขาจึงให้ทุกคนทานอาหารไปก่อนเพราะกลัวทุกคนหิว˜˜ก๊อกๆๆๆ˜˜”ดาวเสร็จรึยังครับ”ภูดินที่อยู่ในชุดคาวบอยย้อนยุคเคาะประตูเรียกหญิงสาว“เสร็จแล่วค่ะ”เพียงดาวเปิดประตูออกมาพร้อมชุดเดรสกระโปรงสั้น คอวี ผ้าชีฟอง แต่งลูกไม้สีขาว มีเสื้อกั๊กสีน้ำตาลคลุมทับด้านนอก พร้อมกับรองเท้าคอมแบทสีน้ำตาล พร้อมกับผมยาวลอนรวบไปข้างหลัง ดูสวยเท่ห์ มีเสน่ห์ แอบเซ็กซี่นิดๆ ทั้งคู่เมื่อมองชุดที่ส
“พี่ดินปล่อยดาวลงได้แล้วค่ะ เดี๋ยวตก”“ตัวเล็กแค่นี้พี่อุ้มทั้งวันก็ยังไหว ไม่เชื่อคืนนี้ลองดูมั้ยล่ะ”“คนทะลึ่ง ลูกสามขวบแล้วนะคะ”“ดีเลยน้องแดนโตแล้ว เลี้ยงน้องได้แล้ววันนี้พี่อยากได้ลูกเพิ่มอีกซักคน”“พี่ดิน!!!.”“ไม่ต้องพูดแล้วตั้งใจหน่อย”ภูดินวางเมียรักลงบนเตียงนอนและบรรจงจูบปิดปากเธออย่างดูดดื่ม ทำเอาเพียงดาวเคลิ้มกับรสจูบของสามีเผยอปากให้เขาเอาลิ้นเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นของเธออย่างสะดวก เขาดูดกินเธอทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าและมาหยุดอยู่ที่หน้าอกทั้งสองข้างของเมียรักภูดินทั้งดูดกินและบีบคลึงจนเพียงดาวเสียวซ่านร้องครางออกมาไม่ขาดสาย ยิ่งได้ยินเสียงครางของเมียรักยิ่งทำให้ภูดินมีความสุข ปรนเปรอภรรยาสุดที่รักอย่างหนำใจ“เมียจ๋า คืนนี้ขอผัวกินเมียให้หนำใจเลยนะ อ่า” เขาไล่เลียทั่วร่างกายของเธอจนมาหยุดที่จุดสงวนใช้ลิ้นเลียไปรอบๆจุดสงวนก่อนจะแหวกลิ้นเข้าไปดูดกินกลีบกุหลาบงามอย่างหิวกระหาย“อ๊า ผัวขาเมียเสียว”เพียงดาวใช้สองมือดึงทึ้งผมของสามีด้วยความเสียว บางจังหวะก็เผลอกดหน้าเขาลงไปซุกไซร้ภายในกลีบกุหลาบงามให้ดูดกินน้ำหวานที่ไหลจากกายเธอด้วยความเสียว…จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ…“อ๊ะๆๆๆๆอ๊า อ๊า”เสียง
....เกือบสามปีผ่านไป....“แม่ค้าบคุณพ่อยังไม่กลับมาหรอค้าบ แล้วคุณแม่กำลังทำอะไรอยู่ค้าบ”น้องแดนลูกชายวัยย่างสามขวบถามเพียงดาวผู้เป็นแม่ที่กำลังง่วนกับการทำกับข้าวอยู่ในครัวกับพี่ๆแม่บ้าน“วันนี้พ่อมีประชุมกำลังกลับมาแล้วครับ น้องแดนไปเล่นกับคุณยายที่ห้องนั่งเล่นก่อนนะ แม่กำลังช่วยพี่ๆเขาทำอาหารอยู่เดี๋ยวแม่ออกไปหานะครับ”เพียงดาวหันมาบอกลูกชายในวัยที่กำลังซนและอยากรู้อยากเห็นทุกอย่าง“ก็ได้ค้าบ แม่รีบออกมาหาน้องแดนนะค้าบ”“จ้า แป๊บเดียวเดี๋ยวแม่ออกไป”“นายน้อยพูดเก่งจังเลยนะคะ รู้เรื่องทุกอย่างเลย”พี่จันทร์ยิ้มเอ็นดูนายน้อยของตน“นั่นน่ะสิคะไม่รู้เหมือนใคร”“เหมือนคุณภูตอนเด็กเลยค่ะ”นมแย้มพูดเสริมด้วยสีหน้ามีความสุขวันนี้เพียงดาวเข้าครัวเองเพราะเชิญเพื่อนๆมาทานข้าวเย็นที่บ้านเนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิดอายุสามขวบของลูกชายสุดที่รักในวันพรุ่งนี้ ภูดินและเพียงดาวจึงเชิญญาติสนิทมิตรสหายมาทานข้าวที่บ้านก่อนจะพาลูกชายไปเที่ยวในวันเกิดของเขาพรุ่งนี้ เหล่าน้าๆอาๆเมื่อรู้ว่าเป็นวันเกิดหลานชายสุดที่รักก็ตื่นเต้นเตรียมของขวัญมาให้หลานรักชนิดไม่มีใครยอมใคร“คุณพ่อกลับมาแล้ว”แดนเด็กชายตัวน้อยรีบวิ
...แปดเดือนผ่านไป...“ลูกพ่อวันนี้เป็นยังไงบ้าง กวนแม่เค้ารึป่าว”ภูดินเอียงหูและแนบหน้าที่ท้องของเพียงดาวเพื่อคุยกับลูกหลังกลับจากทำงาน“หนูเป็นเด็กดีมากไม่กวนแม่เลย บอกพ่อเค้าไปสิลูก แต่ตอนนี้คุณพ่อไปอาบน้ำก่อนดีมั้ยคะ”“ก็ได้ครับ รอพ่อแป๊บเดียวนะเดี๋ยวกลับมาเล่นด้วยใหม่”ทุกวันหลังเลิกงานภูดินจะต้องมาทักทายลูกน้อยในท้องภรรยาสุดที่รักเสมอ ตั้งแต่เขาหายแพ้ท้องกลับไปทำงานได้ตามปกติก็ไม่ยอมให้เพียงดาวไปทำงานในฟาร์มเลย มีแต่เพียงดาวที่เบื่อขอไปช่วยงานเล็กๆน้อยๆ แต่ส่วนใหญ่ก็ทำที่บ้าน ภูดินดูแลเอาใจใส่ภรรยาดีทุกอย่าง ดีจนบางครั้งเพียงดาวก็เพลียกับความเยอะของสามีตน“พี่ดินดาวปวดท้อง ไปตามคุณนมทีค่ะ”เพียงดาวร้องบอกสามีขณะที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง“ดาว ดาวเป็นอะไร”ภูดินที่นังทำงานอยู่รีบวิ่งมาดูอาการของภรรยาสุดที่รัก“เหมือนจะคลอด โอ๊ย!!พี่ดินดาวจะไม่ไหวแล้ว”“คลอดก่อนวันนัดหรอ รอพี่แป๊บเดียวนะที่รัก พี่จะพาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ นม พี่จันทร์พี่จวง น้าเสริมออกรถเร็วดาวจะคลอดแล้ว”ทุกคนต่างวิ่งวุ่นลนลาน ตกใจระคนดีใจกันใหญ่จนทำตัวไม่ถูก มีเพียงนมแย้มที่มีสติคอยสั่งการทุกคนให้ทำตาม“เรากำลังถึ
“ที่รัก ขอยาดมหน่อยพี่เวียนหัวไม่ไหวแล้ว”“เป็นไงบ้างคะ ไปหาหมอดีมั้ยสีหน้าพี่ดินดูไม่ค่อยดีเลย”เพียงดาวเป็นห่วงสามีหลังเห็นเขาหน้ามืด เวียนหัว ทานข้าวไม่ได้ตั้งแต่เช้า ด้านนมแย้มที่เห็นอาการของภูดินก็นึกสงสัย อาการแบบนี้เหมือนกับ.................“หนูดาวนมขอถามอะไรซักหน่อยนะคะ”“คะนม”“ประจำเดือนไม่มานานแค่ไหนแล้วคะ”“ก็......เดือนกว่าแล้วค่ะ”“เดือนกว่า!!!”นมแย้มอุทานเสียงดังพร้อมยิ้มกว้าง“พาหนูดาวไปหาหมอเลยค่ะ”นมแย้มบอกทั้งคู่“นมคะคนที่ป่วยไม่ใช่ดาวนะคะ แต่เป็นพี่ภู”เพียงดาวบอกนมแย้มด้วยความงุนงง“นั่นน่ะสิครับนม ผมเวียนหัว อาเจียนจนไม่มีแรงแล้วนะครับ ยังจะให้ดาวไปหาหมออีก”ภูดินพูดเสียงอ่อยด้วยความน้อยใจผิดกับนมแย้มที่ยิ้มและหัวเราะด้วยท่าทางมีความสุขก่อนจะบอกคนทั้งคู่ที่นั่งทำหน้างงกันอยู่“ก็นมสงสัยว่าหนูดาวจะ....ท้อง”“ท้อง!!!!”ภูดินและเพียงดาวร้องพร้อมกัน“ไม่ต้องเสียงดังกันค่ะ นมสงสัยว่าคุณภูจะแพ้ท้องแทนภรรยาน่ะค่ะ”ทั้งคู่แต่งงานกันได้สามเดือนแล้ว ภูดินขยันทำการบ้านแทบทุกวันการมีเจ้าตัวน้อยเป็นหนึ่งในเป้าหมายของชีวิตหลังแต่งงานกับภรรยาสุดที่รัก เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็
เพียงดาวขอตัวมาซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆร้านตัดชุดแต่งงาน ระหว่างรอภูดินคุยงานกับเพื่อนรักทั้งสองต่อนิดหน่อยหลังทั้งคู่ลองชุดแต่งงานเสร็จ ขณะที่เธอกำลังเดินข้ามถนนเพื่อกลับมาหาภูดินมีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งตรงมาจะพุ่งชนเธอ เพียงดาวตกใจร้องลั่นยืนหลับตาปี๋ด้วยความกลัว ภูดินที่ตามภรรยามาและเหตุการณ์ทั้งหมดรีบวิ่งไปดึงแขนภรรยาให้หลบรถจนทั้งคู่ล้มลงไปนอนกองกับพื้นทันเวลาก่อนที่รถจะพุ่งเข้ามาชนเธอพอดี“อ๊าย”เพียงดาวกรีดร้องด้วยความตกใจ“ดาวเป็นอะไรมั้ย”ภูดินถามภรรยาด้วยความตกใจและเป็นห่วง“ดาวไม่เป็นไรแค่ตกใจ พี่ดินเป็นอะไรมั้ยคะ”เพียงดาวรีบถามสามีหลังได้สติจากเหตุการณ์เมื่อซักครู่“พี่ไม่เป็นไรดาวโอเคมั้ย”“เฮ้ย ไอ้ดิน น้องดาวเป็นอะไรมั้ย”เอกและวัชรรีบวิ่งมาดูคนทั้งคู่“กูไม่เป็นไร แต่ใครกันมันกล้ามาทำกับเมียกูแบบนี้ พวกมึงช่วยกูสืบหน่อย ใครทำเมียกู กูไม่ปล่อยมันไว้แน่”ภูดินบอกเพื่อนด้วยความโมโหและแววตาโกรธแค้น“พี่ดินดาวไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องตามสืบก็ได้ค่ะ”เธอบอกเขาด้วยท่าทีกังวลใจเพราะไม่เคยเห็นท่าทางดุดันและสายตาน่ากลัวของเขาแบบนี้มาก่อน“ไม่ได้ พี่จะให้คนมาทำร้ายเมียพี่แบบนี้ไม่ได้เด็ดข
“เมียจ๋าเซ็กซี่เป็นบ้าเลย เอาเก่งขึ้นตั้งเยอะ”เขากอดและชมเธอ ขณะที่ท่อนเอ็นยังคาอยู่ในรูสวาทเธออยู่“ก็ดาวอยากทำให้พี่มีความสุขนี่คะ พี่ดินชอบมั้ย”“ชอบที่สุด ยิ่งเวลาเมียเรียกผัวขายิ่งชอบ ปลุกเร้าอารมณ์เป็นบ้า ยิ่งตอนทำหน้ายั่วยวนยิ่งอยากจับกระแทรกให้ร้องครางลั่นบ้านไปเลย”“ถ้าชอบจะจัดให้บ่อยๆเลย”“จริงหรอ แต่ตอนนี้ขอพี่จัดก่อนได้ป่ะ ตรงนั้นมันแข็งอีกแล้ว”….อ๊า….ภูดินกระแทกสะโพกใส่ช่องทางรักของเมียเพื่อปลุกเร้าอารมณ์เธออีกครั้ง“อ๊ะ…อ๊า..อ๊า ผัวขาเมียเสียว”“อืม เสียวหรอ ลองเล่นท่าใหม่ดูมั้ย”เขาพลิกตัวขึ้นและอุ้มเธอขึ้นมากระแทกในท่าลิงอุ้มแตง เขาอุ้มเธอเดินร่วมรักกันทั่วห้อง“อ๊าย ผัวขาเมียเสียว อ๊า”เธอครางลั่นห้องกอดคอเขาแน่น“อื้อ ผัวก็เสียว รูฟิตเป็นบ้าเลยขนาดโดนเอาทุกวันยังแน่นอยู่เลย”“อื้ม”เธอก้มลงจูบปากแลกลิ้นกับเขาเพื่อระบายความเสียว“เมียจ๋าขอผัวเปลี่ยนท่าหน่อยนะ ยืนขึ้นหันก้นมาให้ผัวหน่อย”เพียงดาวทำตามสามีอย่างว่าง่าย หันก้นงามไปให้เขากระแทกจากด้านหลัง…ตั๊บ ตั๊บ ตั๊บ ตั๊บ ตั๊บ…เสียงเนื้อกระทบกันเมื่อภูกระแทกท่อนเอ็นเข้าออกด้วยความเร็วและแรง จนเพียงดาวทั้งเสียวและจุกในเวลา
“พรุ่งนี้วันหยุดพี่พาไปดูชุดแต่งงานนะ”เขาบอกภรรยาขณะนั่งอ่านหนังสืออยู่บนที่นอน โดยมีภรรยานั่งเล่นมือถือข้างๆ“ดาวยังไม่ได้คิดเรื่องจัดงานแต่งเลยนะคะ”“แต่พี่คิด นี่เราก็จดทะเบียนกันมาซักพักแล้วนะ เดี๋ยวมีเจ้าตัวเล็กก่อนไม่รู้ด้วยน๊า”เขาปิดหนังสือและหันมาคุยกับภรรยา“นะครับ ดาวอยากจัดที่โรงแรมหรือที่บ้านก็ได้ ตีมงานอะไร งานใหญ่ งานเล็กพี่ตามใจเมียหมดเลย ส่วนฤกษ์พี่ให้คุณแม่นวลหาให้แล้ว”“อะไรนะคะ นี่คุยกับแม่แล้วด้วย”“ครับ”ภูดินวางแผนเรื่องงานแต่งมาตั้งแต่จดทะเบียนสมรสกันที่บ้านของเพียงดาว เขาให้ผู้ใหญ่หาฤกษ์ไว้เรียบร้อยแล้ว รอแค่ภรรยาเขาเลือกสถานที่เท่านั้น“พี่ดินขอบคุณนะคะที่ทำเพื่อดาวขนาดนี้”เพียงดาวโผเข้ากอดเขาน้ำตาซึมด้วยความซาบซึ้งใจ เพราะเธอไม่เคยคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนที่ทำเพื่อเธอได้ขนาดนี้“เด็กโง่จะมาขอบคุณทำไมกัน พี่สิต้องขอบคุณดาวที่ยอมมาเป็นเมียพี่”เขาขยี้ผมและจูบหน้าผากเธอ“ถ้าไม่มีดาวป่านนี้พี่ก็ยังคงเป็นคนไม่มีหัวใจในสายตาคนอื่น ทำงานแต่อย่างเดียว ขอบคุณนะที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตพี่”“ดาวมีคำถามจะถามพี่ดินหนี่งข้อค่ะ พี่ดินไม่เคยมีแฟนมาก่อนจริงๆหรอคะ”“จริงครับ”“เป็นไ
“พี่ภูคะกำไลข้อมือเพชรของลินดาหายไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ”ลินดาโวยวายเสียงดังตามหาสร้อยข้อมือของตนเองที่หายไป ทำให้ทุกคนที่อยู่ในโรงครัวที่กำลังนั่งพักทานข้าวเที่ยงกันอยู่ตกอกตกใจกันใหญ่“ถอดออกหรอครับถึงหายได้”ภูดินถามเธอด้วยความสงสัย เพราะเขามั่นใจว่าคนในฟาร์มไม่มีทางขโมยของของใครแน่นอน“ค่ะลินดาถอดออกตอนที่มาช่วยคุณผู้ช่วยเขาทำอาหารให้ทุกคนค่ะ ลินจำได้ว่าวางไว้บนโต๊ะนี้ค่ะ พี่ภูต้องช่วยลินหานะคะ สร้อยข้อมือเส้นนี้คุณแม่ท่านซื้อให้ราคาแพงมากด้วย ถ้าเอาไปขายน่าจะได้หลายแสนเลยค่ะ”“น้องลินดามั่นใจนะครับว่าไม่ได้ไปลืมไว้ที่ไหน แล้วตอนนั้นมีใครอยู่ตรงนั้นบ้างครับ”“ก็มีลิน ดาวแล้วก็แม่ครัวอีกสามคนค่ะ ลินแน่ใจว่าไม่ได้ลืมไว้ที่ไหนแน่นอนค่ะต้องมีคนเอาไปแน่ๆ”เธอพูดด้วยท่าทางมั่นใจ“พวกเราไม่ได้เอาไปนะคะ”แม่ครัวทุกคนพูดพร้อมกัน“ดาวก็ไม่เห็นมีอะไรวางอยู่บนโต๊ะนะคะ”“เพื่อความสบายใจของทุกคนลินขอค้นกระเป๋าและค้นตัวคนที่อยู่ตรงนั้นได้มั้ยคะ”เธอเสนอ“ก็ดีเหมือนกันนะคะดาวเชื่อว่าทุกคนที่นี่ไม่มีใครเอาไปแน่นอน”เพียงดาวพูดเสริม“เอาตามนั้นก็ได้ครับ”ภูดินรับคำเพียงดาวแต่ก็ยังไม่ค่อยไว้ใจลินดาเท่าไหร่เพราะเ
“มาแล้วค่ะขอโทษที่ทำให้รอนะคะ”ลินดาในชุดกางเกงยีนส์รัดรูปและเสื้อสายเดี๋ยวคอเว้าลงมาจนเห็นร่องอกรีบเดินตรงมาหาภูดินเมื่อดูนาฬิกาเห็นว่าเลยเวลานัดมาสิบห้านาทีแล้ว แต่ก็ต้องชงักเมื่อเห็นเพียงดาวยืนรออยู่กับภูดิน เพราะเธอนึกว่าจะได้ไปสองต่อสองกับเขา“คุณผู้ช่วยจะไปด้วยหรอคะ”ลินดาทำน้ำเสียงไม่พอใจ“ครับเรามีงานที่ฟาร์มพอดี พร้อมแล้วก็ไปกันเลยครับสายแล้ว”เมื่อภูดินเดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับ ลินดาก็รีบขึ้นไปนั่งข้างคนขับทันที เพียงดาวจึงทำได้เพียงเดินตามไปนั่งเบาะด้านหลังคนขับ ทำให้ภูดินหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อย ระหว่างทางลินดาชวนภูดินคุยตลอดทางและยังแสดงท่าทางเหมือนสนิทสนมกับชายหนุ่มมาก ทำเอาภูดินอึดอัดจนอยากไล่ให้เธอกลับบ้านซะตั้งแต่วันนี้“ถึงแล้วหรอคะตื่นเต้นจังเลยค่ะ ลินดาไม่เคยทำมาก่อนไม่รู้จะทำได้มั้ย”เธอทำเสียงออดอ้อนเขา“ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกครับ เดี๋ยวมีคนสอนให้ วิทย์มาทางนี้หน่อย”“ครับนาย วันนี้ทำไมมาแต่เช้าล่ะครับ”“พาคุณลินดามารีดนมวัว ช่วยสอนเธอหน่อยนะ”“เอ่อ ได้ครับเชิญทางนี้ครับคุณลินดา”วิทย์รับคำเจ้านายด้วยความงุนงงเพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร“ไปครับคุณลินดาเชิญทางนี้ครับ”“แต่