ภูดินและเพียงดาวนั่งคุยกันจนเวลาล่วงเลยมาจวนจะเที่ยงคืนแล้ว เพียงดาวเหลือบมองนาฬิกาในโทรศัพท์จึงเอ่ยกับชายหนุ่มว่า
“ดึกมากแล้วเราเข้าบ้านไปนอนกันเถอะค่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก”
“เผลอแป๊บเดียวจะเที่ยงคืนแล้วหรอเนี่ย ขอโทษนะครับชวนคุยยาวเลย”
“ดาวสิคะต้องขอบคุณที่อุตส่าห์นั่งคุยเป็นเพื่อนจนดึก ไปกันค่ะ เข้าบ้านกัน”
“เดี๋ยวครับ เอ่อ..คือผม...ขอไลน์ได้มั้ย”ภูดินพูดเสียงตะกุกตะกักด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจนัก
เพียงดาวมองหน้าเขาซักพักก็พูดขึ้นว่า
“ดาวจะถือว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะคะ” ก่อนจะบอกเบอร์โทรศัพท์ให้เขาแอดไลน์ จากนั้นภูดินก็ส่งข้อความเป็นเบอร์โทรศัพท์ของตนให้หญิงสาว
“ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรโทรหาผมเบอร์นี้ได้ตลอดเลยนะ ถือว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ต้องเกรงใจ”
ทั้งคู่ยิ้มให้กันและเดินตามกันเข้ามาในบ้านก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนตามห้องที่ผู้ใหญ่บ้านจัดเตรียมไว้ให้ บ้านของผู้ใหญ่เป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้สองชั้นหลังใหญ่พอสมควร ภายในบ้านมีห้องนอนสำหรับรับแขกทั้งชั้นบนและชั้นล่าง จึงไม่มีปัญหาเรื่องที่นอนเมื่อมีแขกมาเยือนทีละหลายคน
…เช้าวันถัดมา…
ทุกคนตื่นแต่เช้าจัดการธุระส่วนตัวและทานข้าวเช้าเรียบร้อย ในเวลาเกือบจะแปดโมงเช้าทุกคนก็พร้อมเดินทางไปสมทบกับชาวบ้านคนอื่นๆที่ไปรอที่ลำธารใกล้หมู่บ้าน ครั้งนี้ชาวบ้านช่วยกันทำฝายชะลอน้ำเพื่อกักเก็บน้ำให้มีน้ำอยู่ในลำธารตลอดปี เพื่อเอาไว้ใช้ในการทำการเกษตร
ขณะที่ภูดินและลูกน้องกำลังจะขึ้นรถไปนั้น สวยและเพียงดาวก็รีบวิ่งมาจากในบ้าน พร้อมกับสวยที่ส่งเสียงร้องว่า “เดี๋ยวก่อนจ้า ขอพวกเราไปด้วยนะจ๊ะ”
“มันจะดีหรอครับนาย มีแต่งานของผู้ชาย”วิทย์ลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามผู้เป็นนาย ขณะที่ภูดินกำลังจะอ้าปากพูด เพียงดาวก็รีบพูดขึ้นมาก่อนว่า
“ดีสิคะ ไปช่วยกันหลายๆคนงานจะได้เสร็จเร็วๆ จริงมั้ยคะคุณภู พวกเราไปช่วยทำกับข้าว เสิร์ฟน้ำก็ได้นะคะ”พูดจบเพียงดาวก็หันไปมองหน้าภูดินด้วยรอยยิ้มสดใส ทำให้ชายหนุ่มเผลอยิ้มตามและใจอ่อนให้เธอ ทั้งที่เดิมทีเขาจะบอให้รอที่บ้าน
“ไปขึ้นรถ ไปกันทั้งหมดนี่แหละ”เขาบอกทุกคน
“เย้” เพียงดาวและสวยพูดพร้อมกันพร้อมกับรีบวิ่งเข้าไปนั่งรอในรถ ภูดินได้แต่มองตามแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนเอ็นดูในความน่ารักของสาวๆ ส่วนทางด้านวิทย์ก็เอาแต่มองดูท่าทางของเจ้านายที่แปลกไปอย่างไม่กะพริบตา
“มองอะไรไอ้วิทย์ รีบไปขึ้นรถไป เดี๋ยวไม่ทันไปช่วยชาวบ้านกันพอดี” ภูดินทำท่าทางขึงขังใส่ก่อนจะรีบเข้าไปนั่งรอในรถ วิทย์ได้แต่ยิ้มกับท่าทีของเจ้านายก่อนจะรีบขึ้นรถประจำที่นั่งคนขับ
เมื่อพวกภูดินถึงที่หมายชาวบ้านที่มาถึงก่อนหน้านี้แล้วก็พากันแวะเวียนมาทักทายไม่ขาดสาย ก่อนที่เหล่าผู้ชายทั้งหลายจะช่วยกันขนอุปกรณ์ไปบริเวณที่จะทำฝาย ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ก็อยู่ภายใต้สายตาของเพียงดาว เธอได้เผลอยิ้มอ่อนพลางคิดไปว่าผู้ชายที่หล่อรวยขนาดนี้ยังอุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วยเหลือชาวบ้าน
“ดาว ดาว!!”สวยเรียกเพื่อนที่กำลังอยู่ในภวังค์
“คิดอะไรอยู่ ป่ะไปช่วยพวกแม่ๆด้านนู้นกัน”
สวยพูดพร้อมกับดึงแขนเพื่อนรักไปอีกด้านนึงที่มีบรรดาแม่บ้านกำลังช่วยกันขนวัตถุดิบสำหรับทำข้าวเที่ยงเลี้ยงทุกคนที่มาช่วยกันในวันนี้
“มีอะไรให้พวกหนูช่วยมั้ยจ้ะ”สวยถามป้าเพียรหัวหน้าแม่ครัวประจำหมู่บ้าน เมื่อไหร่ก็ตามที่มีงานในหมู่บ้านก็จะมีป้าเพียรและเพื่อนๆมาช่วยกันทำกับข้าวให้ตลอด ชาวบ้านที่นี่อยู่กันแบบครอบครัวแบบพี่น้องมีงานอะไรที่ช่วยเหลือกันได้ก็จะไปช่วยกันโดยไม่ได้หวังค่าตอบแทน รวมถึงงานส่วนรวมของหมู่บ้านทุกคนก็จะมาช่วยกันด้วยความเต็มใจ นี่เองก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ภูดินรักที่นี่
“ดีเลย สาวๆแรงยังดีอยู่มาช่วยป้ายกของหน่อยเร็ว”
วันนี้สวยและเพียงดาวจึงได้ทำหน้าที่เป็นลูกมือของแม่ครัว ทุกคนต่างขะมักเขม้นทำหน้าที่ของตัวเองจนเวลาล่วงเลยมาถึงสิบโมงครึ่ง ป้าเพียรจึงบอกให้สาวๆนำน้ำใบเตยหอมๆเย็นๆที่พึ่งเตรียมเสร็จไปให้กลุ่มผู้ชายที่ทำฝายอยู่ให้ดื่มคลายร้อนกัน
“น้ำเย็นๆ หวานๆ หอมๆ มาแล้วจ้า คนเอามาเสิร์ฟก็ส๊วย..สวย”เสียงของสวยร้องดังมาก่อนตัว ทำให้พวกผู้ชายที่ช่วยกันทำงานอยู่ถึงกับหยุดงานและหันมามองพลางหัวเราะให้ความทะเล้นของเธอ เพียงดาวที่เดินตามหลังมาก็อดหัวเราะในความน่ารักของเพื่อนไม่ได้
“สวยมากเลย แต่เป็นคนข้างหลังนะ”วิทย์ตะโกนตอบสวยทุกคนต่างหัวเราะชอบใจ ผิดกับภูดินที่อยู่ใกล้ๆถึงกับหันไปมองลูกน้องคนสนิทด้วยสายตาดุเอาเรื่อง ทำเอาวิทย์สะดุ้งหุบยิ้มและทุบหัวตัวเองเบาๆที่ปากไวไปหน่อย
เมื่อสาวๆมาถึงก็นำน้ำหวานมาเสิร์ฟให้ทุกคนได้ดื่มคลายร้อนกันทุกคน จนเหลือแต่กลุ่มของภูดิน น้ำหวานในถาดของทุกคนที่ถือมาหมดแล้วเหลือแต่ในถาดของเพียงดาวเท่านั้น เธอจึงต้องเป็นคนนำน้ำไปเสิร์ฟให้ภูดินด้วยตนเอง
“น้ำค่ะคุณภู” เธอพูดพร้อมกับส่งแก้วน้ำให้ชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ” ภูดินรับน้ำมาดื่มพร้อมส่งยิ้มและกล่าวขอบคุณหญิงสาว
“น้ำหวานชื่นใจดีมั้ยครับนาย”วิทย์ที่เห็นผู้เป็นนายนั่งดื่มน้ำพลางมองเพียงดาวที่เดินเก็บแก้วน้ำที่ทุกคนดื่มเสร็จแล้วคืนแบบไม่ละสายตา
“หวานมาก”ภูดินพูดแบบลืมตัวทำเอาเหล่าลูกน้องแซวกันใหญ่
“แล้วแก้วของพวกมึงไม่หวานรึไง ไปทำงานกันต่อได้แล้วไป”ภูดินพูดเสียงเข้ม พร้อมส่งสายตาดุลูกน้อง
“รับทราบครับนาย”วิทย์และเพื่อนๆพูดพร้อมกันด้วยรอยยิ้มและลุกขึ้นไปทำงานต่อทันที
ทุกคนช่วยกันทำงานจนเวลาล่วงเลยมาถึงสี่โมงเย็นฝายชะลอน้ำที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของทุกคนก็เสร็จเรียบร้อย ผู้ใหญ่คงกล่าวขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือร่วมแรงกันจนงานสำเร็จ จากนั้นก็ช่วยกันเก็บข้าวของและอุปกรณ์ต่างๆขึ้นรถก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน
…เวลาหกโมงเย็น ที่บ้านผู้ใหญ่หลังจากภูดินและลูกน้องอาบน้ำอาบท่าและทานข้าวเย็นเรียบร้อยแล้วก็จะขอตัวกลับฟาร์ม
“ค่ำแล้วพวกเราขอตัวกลับก่อนนะครับ”
“ไม่ค้างที่นี่อีกคืนหรอครับคุณภู”
“พรุ่งนี้ยังมีงานต้องทำอีกครับ วันหลังจะแวะมาเยี่ยมใหม่นะครับ”
“สำหรับคุณภู พวกเราทุกคนที่นี่ยินดีต้อนรับเสมอครับ ขอบคุณมากๆเลยครับสำหรับวันนี้”
สวยและเพียงดาวที่เดินมาสบทบก็กล่าวขอบคุณและกล่าวลาทุกคน
“ไปนะครับ”ภูดินพูดพร้อมกับหันมองหน้าเพียงดาว
“ขับรถดีๆนะคะ เดินทางปลอดภัยค่ะ”เพียงดาวเอ่ย
ก่อนที่ทุกคนจะขึ้นรถเดินทางกลับฟาร์ม ระยะทางจากหมู่บ้านทิวไผ่ถึงฟาร์มใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมง หลังจากถึงฟาร์มภูดินและลูกน้องก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน
คืนนั้นภูดินนอนไม่หลับ เหลือบมองนาฬิกาที่ผนังตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว เขาตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งไลน์หาเพียงดาว
“ดาวสนใจมาทำงานด้วยกันมั้ย ผมอยากให้ดาวมาเป็นผู้ช่วยผม” เขารอหญิงสาวอ่านข้อความจนเผลอหลับไปในที่สุด
…เช้าวันรุ่งขึ้น เพียงดาวตื่นนอนแต่เช้ารีบเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับบ้าน ผู้ใหญ่จะเข้าไปในเมืองพอดีเธอเลยขอติดรถกลับบ้านด้วย โดยมีสวยเพื่อนรักตามไปส่งด้วย ตลอดเช้านี้เธอเลยไม่มีเวลาดูโทรศัพท์เลยฝั่งของภูดินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแทบจะทุกห้านาที จนไม่เป็นอันทำงาน เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่คนที่เฝ้ารอจะอ่านข้อความซักที ยิ่งเพียงดาวไม่อ่านข้อความนานเท่าไรก็ยิ่งทำให้เขากระวนกระวายใจ จนคิดไปต่างๆนาๆว่าตัวเองทำอะไรผิดมั้ยหรือเค้าไม่อยากคุยกับเราแล้ว ไม่นานความคิดฟุ้งซ่านของภูดินก็สงบลงเมื่อคนที่เฝ้ารอตอบข้อความกลับมา“ขอโทษนะคะคุณภู เมื่อเช้าดาววุ่นๆพึ่งกลับถึงบ้านค่ะ”“ดาวกลับบ้านแล้วหรอ กลับยังไง ใครไปส่ง”“ลุงผู้ใหญ่กับสวยมาส่งในเมืองค่ะ ดาวต่อรถสองแถวเข้าบ้านอีกที”“เอ่อ….แล้วสนใจข้อเสนอของผมมั้ย ที่ชวนมาทำงานด้วยกัน”“ดาวขอทราบรายละเอียดงานมากกว่านี้หน่อยได้มั้ยคะ ค่อยตัดสินใจอีกที”“ได้ๆๆ แล้วดาวจะให้ผมส่งรายละเอียดให้ทางไหน หรือว่าเอาอย่างนี้ดีมั้ยผมไปหาดาวที่บ้าน เผื่อติดขัดตรงไหนจะได้ถามได้เลย”เพียงดาวนิ่งคิดซักพักก่อนตอบ“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ คุณภูสะดวกวันไหนคะ”“วันเสาร์ได้มั้ยครับ”“ได้ค่ะ
คืนนั้นเพียงดาวนอนไม่หลับพลิกตัวไปมา จนนวลผู้เป็นแม่ตื่น“นอนไม่หลับหรอลูก”“จ่ะแม่ คิดอะไรนิดหน่อย แม่จ้ะเดี๋ยวดาวลงไปดูหนังข้างล่างนะจ๊ะ”“จ้า อย่าให้ดึกมากนะเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย”“ค่ะแม่”นวลเองก็พอจะเข้าใจสาเหตุที่ลูกสาวนอนไม่หลับจึงไม่ได้ห้ามอะไร พลางนึกย้อนไปว่าตั้งแต่เด็กเพียงดาวไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนเข้าบ้านเลย ภูดินเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอพามาพบแม่ ถึงแม้จะเป็นในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ตาม เธอเองก็พอจะมองออกว่าสายตาที่ทั้งคู่มองกันไม่ใช่ในฐานะของเพื่อนร่วมงาน สิ่งที่ห่วงมีแค่อย่างเดียวว่าครอบครัวของเธอต่างจากของภูดินมากจนมองไม่เห็นว่าสุดท้ายจะลงเอยได้อย่างไร แต่เธอก็ไม่อยากกีดกันเด็กๆ เธอจึงเลือกที่จะให้พวกเขาเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเอง หากวันไหนเจ็บหรือไม่เป็นดังหวังเธอก็พร้อมจะดูแลลูกสาวคนเดียวอย่างเต็มที่…ทางด้านของภูดินเองคืนนี้ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน จึงลงมาข้างล่างหาน้ำดื่มและนั่งเล่นซักหน่อย บังเอิญไปเห็นแสงสว่างจากหน้าจอทีวีจึงเดินไปดู พบว่าเพียงดาวนั่งดูหนังอยู่“ดาวทำไมมานั่งดูหนังคนเดียวล่ะครับ”“ดาวนอนไม่หลับค่ะ”“ผมก็เหมือนกัน ขอดูด้วยคนได้มั้ย”“เอ่อ….เชิญนั่งสิคะ”เพียงด
“นมครับ” ภูดินเรียกหาแม่นมของเขา“ว่าไงคะคุณภู”นมแย้มหญิงชราในวัยหกสิบขานรับชายหนุ่ม“นมช่วยให้คนจัดห้องนอนข้างบนสำหรับผู้ช่วยคนใหม่ของผมด้วยนะครับ เธอจะมาเริ่มงานอาทิตย์หน้าครับ”“เธอหรอคะ งั้นก็เป็นผู้หญิงน่ะสิ ผู้ช่วยคนใหม่คุณภูเป็นผู้หญิงหรอคะ”นมแย้มขมวดคิ้วถามเขาด้วยความประหลาดใจ“ครับ เธอชื่อเพียงดาว อายุน้อยกว่าผมประมาณ 4 ปีครับ ช่วงแรกๆที่เธอมาอาจจะต้องรบกวนนมดูแลเธอด้วยนะครับ”“ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ ว่าแต่สาวน้อยคนนั้นเป็นคนยังไงกันนะถึงทำให้คุณภูของนมรับมาทำงานด้วย ชักอยากเจอหน้าซะแล้วสิ”“ก็คนธรรมดานี่แหละครับนม ความสามารถของเธอตรงกับที่ผมกำลังต้องการอยู่พอดีก็แค่นั้นครับ”“ค่ะ คงเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ”นมพูดเชิงไม่เชื่อที่ชายหนุ่มพูดซักเท่าไหร่ ผู้ชายคนนี้เธอเลี้ยงมาเองกับมือ เธอรู้จักนิสัยเขาเป็นอย่างดี ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นสนใจผู้หญิงที่ไหน ยิ่งเวลามีสาวๆมาเกาะแกะยิ่งทำตัวเย็นชา อยู่ดีๆพาผู้หญิงมาทำงานด้วยแถมยังให้มาอยู่ในบ้านหลังเดียวกันอีก เธอคนนั้นคงต้องไม่ใช่ลูกน้องธรรมดาแน่นอนตลอดทั้งสัปดาห์นั้นนมแย้มวุ่นกับการจัดห้องใหม่ให้ผู้ช่วยสาว ข้าวของเครื่องใช้อะไรที่ผู้หญิงควรมี
ทันทีที่รถของภูดินวิ่งมาจอดที่หน้าบ้าน เพียงดาวสังเกตเห็นว่ามีคนยืนอยู่หลายกลุ่ม เธอจึงเอ่ยถามภูดินด้วยขณะที่ยังนั่งอยู่ในรถ“พวกเขามาทำอะไรกันคะ”“ด้านนี้คือคุณนมและพี่จันทร์ พี่จวงทั้งสามคนทำงานและพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ ส่วนคนอื่นๆด้านโน้นน่าจะมารอดูหน้าคุณผู้ช่วยคนใหม่”เขาพูดพลางอมยิ้มและชี้มือไปที่กลุ่มของคนงานที่ยืนจับกลุ่มซุบซิบกันอยู่“มารอดูดาวหรอคะ”หญิงสาวทำหน้างง“พวกเขาคงอยากทำความรู้จักน่ะ ป่ะเข้าบ้านกัน”จบบทสนทนาทั้งคู่ก็เดินลงมาจากรถ ภูดินเอามือแตะที่หลังของหญิงสาวเบาๆเพื่อให้เดินไปหานมแย้มที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน“ดาวนี่นมแย้ม พี่จันทร์ พี่จวง ทุกคนนี่เพียงดาวผู้ช่วยคนใหม่ของผมครับ””“สวัสดีค่ะทุกคน หนูชื่อเพียงดาวนะคะ เรียกดาวเฉยๆก็ได้ค่ะฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”หญิงสาวพูดพร้อมกับยกมือไหว้คนทั้งสาม“สวัสดีจ้ะหนูดาว ยินดีต้อนรับจ้า”นมแย้มเอ่ยและยิ้มให้หญิงสาว“สวัสดีค่ะคุณดาว ยินดีต้อนรับเช่นกันค่ะ คุณดาวสวยจังนะคะ”จันทร์และจวงเอ่ยพร้อมกันด้วยรอยยิ้มด้วยใบหน้าที่สวยน่ารัก ดวงตากลมโต ปากนิด จมูกหน่อยและผมสีน้ำตาลยาวเป็นลอนสวยของหญิงสาวผู้มาใหม่ทำให้เหล่าคนงานที่ยืนดูอยู่ต่างก
….เช้าวันใหม่ที่ภูดินฟาร์ม ….กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง…เสียงนาฬิกาปลุกที่เพียงดาวตั้งไว้ตอนหกโมงเช้าดังบอกเวลาให้เธอลุกจากที่นอน เธอพยุงตัวลุกขึ้นมาด้วยความงัวเงียเพราะเมื่อคืนกว่าจะนอนหลับได้ก็ปาเข้าไปเกือบตีสองแล้ว ด้วยความที่ยังไม่ชินกับสถานที่ทำให้นอนไม่หลับพลิกตัวไปมาทั้งคืน แต่พอเธอลุกออกไปยืนสูดอากาศที่ริมระเบียงก็ทำให้เพียงดาวสดชื่นขึ้นมา ด้วยวิวทิวทัศน์ที่เขียวชะอุ่ม มองไปทางไหนก็สบายตา ประกอบกับอากาศตอนเช้าที่เย็นสบาย เพียงดาวยืนมองบรรยากาศโดยรอบซักพักก็ไปอาบน้ำแต่งตัว เช้านี้เธอมีนัดกับภูดินไปดูพื้นที่รอบฟาร์มหรือที่ทำงานแห่งใหม่ของเธอนั่นเอง เพียงดาวจึงเลือกชุดเอี๊ยมที่แม่ตัดให้ใหม่มาใส่เพื่อให้ดูทะมัดทะแมง“มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ”เพียงดาวถามพี่ๆทำกำลังเตรียมกับข้าวอยู่ในครัว“ไม่มีหรอกค่ะ คุณดาวเข้ามาทำไมคะเดี๋ยวตัวเหม็นไปนั่งรอที่โต๊ะทานข้าวเลยค่ะ”จันทร์บอกหญิงสาว“ก็ดาวอยากช่วยนี่คะ อีกอย่างพวกพี่เรียกดาวว่าดาวเฉยๆก็ได้ค่ะ ไม่เห็นต้องเรียกคุณเลย”“ไม่ได้ค่ะ ให้พวกพี่เรียกคุณน่ะดีแล้ว เอาอย่างนี้ถ้าคุณดาวอยากช่วยจริงๆ ช่วยชงกาแฟให้คุณภูทีค่ะ”“ชง..กาแฟให้คุณภูหรอคะ เอ่อ...ก็ได้ค่ะ
ภูดินขับรถมาอีกประมาณสิบห้านาทีก็ถึงโรงเรือนที่มีแม่วัวอยู่นับร้อย และเช่นเคยเพียงดาวก็ตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นตรงหน้ามาก“โห….ดาวไม่เคยเห็นแม่วัวเยอะขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ ใหญ่มาก”เธอพูดพลางวิ่งไปดูแม่วัวและเดินลูบหัวทักทายวัวทีละตัว“ยัยบ๊องเอ้ย เห็นอะไรก็ตื่นเต้นไปหมด”เขาพึมพำเบาๆ พลางยิ้มแล้วส่ายหัวก่อนจะเดินตามไปอธิบายรายละเอียดของแต่ละโรงเรือนให้หญิงสาวฟัง บริเวณนี้นอกจากโรงเรือน โรงรีดนมแล้วยังมีที่เก็บน้ำนมดิบด้วย“นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ จะมาทำไมไม่บอกล่ะครับ”เสียงของวิทย์ผู้ช่วยคนสนิทดังมาจากด้านหลังของคนทั้งคู่“ผมได้ข่าวว่านายพึ่งรับผู้ช่วยคนใหม่มา ได้ข่าวว่าเป็นสาวสวย…….”วิทย์ที่พูดยังไม่ทันจบประโยคก็หยุดชะงัก เห็นหน้าของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเจ้านายของตน“คุณเพียงดาว คุณเพียงดาวจริงๆด้วย อย่าบอกนะครับว่าผู้ช่วยคนใหม่ที่เขาลือกันคือคุณเพียงดาว”“สวัสดีค่ะ ใช่ค่ะ ดาวเองค่ะ”“นี่คุณเพียงดาวเป็นผู้ช่วยคนใหม่ของนายจริงๆหรอครับ เฮ้ย..พวกเรามาทางนี้เร็วนายพาผู้ช่วยคนใหม่มา”วิทย์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจจนเผลอร้องเสียงดังเรียกเพื่อนที่อยู่ในห้องพักให้ออกมาข้างนอก“แกจะเสียงดังทำไมไอ้วิทย์
ตั้งแต่วันแรกที่เพียงดาวเริ่มทำงาน ภูดินก็อยู่ที่ออฟฟิศเกือบทุกวันเพื่อสอนงานเธอ ทั้งสองคนใช้เวลาด้วยกันตั้งแต่เช้ายันเย็นหรือบางวันก็ทำงานจนถึงดึกดื่น เพียงดาวเรียนรู้งานได้ค่อนข้างเร็ว ประกอบกับความมุ่งมั่น ตั้งใจและขยันจึงทำให้เธอเข้าใจกระบวนการทำงานได้ภายในเวลาแค่เดือนเดียว ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาที่ภูดินได้ใช้เวลาอยู่กับเพียงดาวนอกจากเรื่องของการทำงานแล้วทั้งสองคนก็ได้เรียนรู้นิสัยส่วนตัวของกันและกันเพิ่มมากขึ้นด้วยเพียงดาวเมื่อได้เมื่อได้อยู่กับชายหนุ่มก็เห็นว่าเขานอกจากจะเป็นคนที่ทำงานเก่ง ละเอียด รอบคอบจนบางครั้งดูเหมือนจะดุและเคร่งครัดแล้ว อีกสิ่งที่เขามีและตรงข้ามกับภาพลักษณ์การทำงานของเขาคือความรัก มีน้ำใจและเอาใจใส่ต่อพนักงานของเขาทุกคน ไม่เคยเอาเปรียบลูกน้อง เธอจึงไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนที่นี่รักและเคารพเขาทั้งที่อายุแค่สามสิบส่วนภูดินเองเมื่อได้ทำงานใกล้ชิดและใช้เวลากับเพียงดาวมากขึ้น ก็ทำให้เขายิ่งอยากรู้จักและเรียนรู้เธอมากขึ้นไปอีกเพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้คนบ้างานอย่างเขานับวันยิ่งสนใจในตัวเธอเพราะผู้หญิงคนนี้มีสิ่งที่ทำให้เขาเซอร์ไพรส์ได้ทุกวัน จากตอนแรกที่เขาแค่อยาก
หลังจากที่สมาชิกในฟาร์มรู้ว่าจะมีงานเลี้ยงปีใหม่ ทุกคนก็ตื่นเต้นและต่างเฝ้ารอให้ถึงวันงานเร็วๆ ทางด้านของภูดินและเพียงดาวช่วงเดือนสุดท้ายของปีก็ยุ่งมาก ทั้งคู่รีบเร่งเคลียร์งานให้เสร็จก่อนวันคริสมาสต์ ส่วนฝั่งของนมแย้มและพี่จันทร์พี่จวงก็กำลังวุ่นวายกับการจัดหาอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีกลุ่มของวิทย์และน้าเสริมเป็นลูกมือช่วยเรื่องการจัดสถานที่ จนเวลาล่วงเลยมาถึงอาทิตย์สุดท้ายก่อนถึงวันจัดงาน“คุณภูกับคุณดาวจะให้พวกพี่ไปซื้อของขวัญให้มั้ยคะ ดูคุณๆยุ่งๆ”พี่จวงถามทั้งคู่หลังทานอาหารเย็นเสร็จ“พรุ่งนี้เดี๋ยวผมไปเองครับ”“สักเก้าโมงเช้าตื่นไหวมั้ยดาว ขอโทษนะช่วงนี้ไม่ค่อยได้ให้คุณพักผ่อนเลย”ภูดินหันไปถามเพียงดาว“ไหวค่ะ ไม่มีปัญหาแค่นี้สบายมากค่ะ”“พวกพี่จะเข้าไปในเมืองพร้อมกันมั้ยคะ”เพียงดาวถามจันทร์จวง“เดี๋ยวไปกับน้าเสริมกับเจ้าวิทย์ค่ะ ไปหาซื้อของหลายอย่างแยกกันไปน่าจะสะดวกกว่า”“เอางั้นก็ได้ค่ะ ตังค์ที่ดาวให้ไปรอบที่แล้วพอมั้ยคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ดาวเอาให้เผื่อไว้ให้อีก เผื่อขาดเหลืออะไร”ภูดินนั่งมองหญิงสาวคุยกับแม่บ้านของตนด้วยท่าทางคล่องแคล่ว จนเขาเผลอคิดไปว่าเหมือนนายหญิงกำลังคุยกับลูกน
“เมื่อยใช่มั้ย ไปนั่งที่โซฟาก่อน”เมื่อประคองหญิงสาวมานั่งที่โซฟาแล้วเขาจึงนั่งลงตรงหน้าเธอพร้อมกับถอดรองเท้าส้นสูงออกให้หญิงสาว“คุณภูไม่ต้องค่ะดาวทำเอง”เธอพูดกับเขาด้วยความตกใจไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้“พี่ดินครับ ไม่ใช่คุณภู แล้วก็นั่งเฉยๆ พี่จัดการเอง”พูดจบเขาก็ยกเท้าของเธอวางพาดที่ต้นขาตัวเองและใช้มือนวดเท้าของเธอช้าๆทีละข้าง“พอแล้วค่ะดาวหายเมื่อยแล้ว พี่ดินไปล้างมือก่อนนะคะเดี๋ยวดาวไปเอาขนมมาให้ทาน ดูหนังสักเรื่องดีมั้ยคะ อีกตั้งชั่วโมงกว่า กว่าจะถึงเที่ยงคืน”“อืม….เป็นความคิดที่ดี”“ขอบคุณนะคะวันนี้ดาวมีความสุขมากค่ะ”เธอกล่าวขอบคุณเขาระหว่างที่นั่งดูหนังกัน“พี่สิที่ต้องขอบคุณดาว ที่ยอมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตพี่และเข้ามาช่วยเติมเต็มสิ่งที่พี่ขาดหายไป พี่ดีใจมากรู้มั้ยที่ดาวยอมรับรักพี่”ทั้งคู่มองประสานสายตากันด้วยแววตาลึกซึ้ง ก่อนที่ภูดินจะดึงเธอเข้าไปซุกในอ้อมอกเขาและใช้มือโอบกอดเธอเอาไว้ เพียงดาวเองครั้งนี้ก็ทำตามความรู้สึกของตัวเองซุกตัวเข้าไปในอ้อมอกเขาให้แนบชิดขึ้น เอาหัวแนบที่อกแกร่งของชายหนุ่ม ภูดินเมื่อเห็นการกระทำของเธอก็อมยิ้มอย่างมีความสุข เอามือลูบผมเธอเบาๆ“พี่
“โอ้โห!! คุณภูทำเองหมดเลยหรอคะ”หญิงสาวตาโตมองที่เห็นตรงหน้าทั้งอาหาร และการตกแต่งห้องแบบไม่เชื่อสายตาว่าเขาจะทำเองคนเดียวในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง อาหารที่วางเรียงรายเต็มโต๊ะทั้งสเต๊ก กุ้งแม่น้ำอบชีส สปาเก็ตตี้ ซุป และอาหารทานเล่นอีกหลายอย่างถูกตกแต่งจานอย่างสวยงามไม่แพ้ในภัตตาคารหรู รวมถึงบรรยากาศภายในห้องที่เขาตกแต่งให้เหมือนอยู่ท่ามกลางแสงดาว“ชอบมั้ย”“ชอบมากเลยค่ะ เหนื่อยมั้ยคะ”เธอตอบเขาและถามเขาด้วยความเป็นห่วง“ไม่เหนื่อยเลยครับ ผมอยากทำให้ที่รักมีความสุข”เขาตอบเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง“วันนี้เราจะทานข้าวใต้แสงเทียนนะครับคุณผู้หญิง เชิญครับ”เขาพูดพลางเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งและเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาว“ขอบคุณนะคะ”“ขอบคุณอย่างเดียวหรอ มีรางวัลอย่างอื่นให้มั้ยครับ”“ทานข้าว….ค่ะ”เธอพูดอมยิ้มและลากเสียงยาวพร้อมท่าทางเขินอาย“……” ชายหนุ่มยิ้มกับความน่ารักของเธอ“อร่อยจังเลยค่ะ นี่ก็อร่อย นี่ก็อร่อย อร่อยทุกอย่างเลย”หญิงสาวกล่าวชมเขาหลังชิมอาหารบนโต๊ะ“อร่อยก็ทานเยอะๆถ้าดาวชอบเดี๋ยวทำให้ ทานบ่อยๆ คุณเป็นผู้หญิงคนแรกเลยนะที่ผมทำอาหารให้ทาน”“เชื่อได้มั้ยคะเนี่ย”“ร้อยเปอร์เซ็นคร
ภูดินลงมาข้างล่างหลังตื่นนอนตอนเช้า เพื่อมาเดินเล่นสูดอากาศในยามเช้า เมื่อเดินผ่านห้องครัวก็เหลือบไปเห็นเพียงดาวกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว“อรุณสวัสดิ์ครับ”เขาเดินเข้ามากอดหญิงสาวจากด้านหลัง พร้อมกับหอมแก้มเธอฟอดใหญ่“คุณภูปล่อยก่อนค่ะ ดาวจะทำกับข้าว”เธอบ่นเขาแต่ก็เริ่มชินกับการกระทำของชายหนุ่มแล้ว“ก็ทำไปสิครับ ไม่ได้ห้ามซักหน่อย”พูดพร้อมทั้งเอาคางเกยไหล่เธอ ในขณะที่มือยังกอดเอวเธอไม่ยอมปล่อย“งั้นช่วยเอาอาหารที่เสร็จแล้วไปวางที่โต๊ะทานข้าวได้มั้ยคะ”“ได้ครับ แต่มีข้อแม้ว่าดาวต้องหอมแก้มผมก่อน”“คุณภู!!!”“เอาไงจะหอมหรือจะให้กอดอยู่แบบนี้เลือกเอา”เพียงดาวได้แต่ถอนหายใจในความเอาแต่ใจของเขา ก่อนจะตัดสินใจหันหน้าไปเพื่อจุ๊บแก้มเขา แต่เป็นจังหวะที่ภูดินหันหน้ามาเพื่อจุ๊บเธอพอดี จึงทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกัน เพียงดาวรีบหันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แต่ภูดินจับแก้มเธอให้หันมาก่อนประกบริมฝีปากจูบเธออยู่เนิ่นนานถึงยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ“อร่อยจัง”“เลิกพูดได้แล้วค่ะเอาอาหารออกไปเลย”เธอรีบไล่ให้เขาเอาอาหารไปไว้บนโต๊ะทานข้าว ภูดินยิ้มอย่างพอใจพร้อมกับยกอาหารออกไปอย่างว่าง่าย“นั่งรออยู่ตรงนั
เมื่อรถมาจอดที่ลานจอดรถของโรงแรม เพียงดาวก็ลังเลไม่กล้าลงจากรถ“ดาวไม่ไปแล้วได้มั้ยคะ”“ทำไมล่ะ ตื่นเต้น กลัวหรอ”“ดาวทำตัวไม่ถูกค่ะ ไม่รู้จะทำตัวยังไง”“อยู่กับผมกลัวอะไร”“นั่นแหละค่ะที่ทำให้กลัว ถ้าดาวลงไปด้วยคุณภูแนะนำดาวว่าเป็นผู้ช่วยส่วนตัวได้มั้ยคะ”“แต่คุณเป็นผู้หญิงของผม….ก็ได้ครับถ้าคุณยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร”ภูดินตอบหญิงสาว เขาคิดอยู่ครู่นึงก่อนจะยอมรับปากเธอ เพราะเขาไม่อยากปิดบังใครและอยากให้เกียรติเธอด้วย“เข้างานได้แล้วครับ” เขาเดินลงรถพร้อมอ้อมมาเปิดประตูรถให้เธอ และยื่นแขนไปให้เธอคล้องเดินเข้างาน“คุณภูดิน…คุณผู้หญิงสวัสดีค่ะ เชิญด้านในเลยค่ะ”พนักงานต้อนรับหน้างานกล่าวทักทายเจ้านายและผู้หญิงข้างกายเขาด้วยสีหน้าท่าทางประหลาดใจ ก่อนจะมีผู้ชายอีกคนมารับช่วงต่อพาเจ้านายเดินไปที่โต๊ะที่มีเอก วัชรและภรรยาของพวกเขานั่งอยู่ก่อนแล้ว ระหว่างทางก็มีสายตาหลายคู่จ้องมองมาที่ภูดินและเพียงดาวเป็นระยะ ด้วยความที่ภูดินไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนออกงานเลยทุกคนที่พบเห็นเขาในวันนี้จึงรู้สึกแปลกใจ อดที่จะมองผู้หญิงข้างกายเขาไม่ได้ ไม่เว้นแม้แต่เอกและวัชรเพื่อนรักของเขาที่ตอนนี้นั่งอ้าปากค้างกับภา
ตกเย็นเพียงดาวแวะเข้าไปดูภูดินในห้องอีกรอบเธอเห็นเขายังนอนหลับอยู่จึงนั่งลงบนเตียงข้างๆเขาก่อนจะเอามือไปอังหน้าผากเพื่อดูว่าตัวยังร้อนอยู่มั้ย จังหวะนั้นภูดินก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับดึงตัวเธอลงไปกอด“คุณภูทำอะไรคะ ปล่อยดาวได้แล้วค่ะ”“ไม่ปล่อย ขอผมอยู่แบบนี้ซักพักได้มั้ยครับ”“ไม่ปล่อยใช่มั้ยคะ ได้”เพียงดาวพูดจบก็กัดไปที่แขนของเขาอย่างแรง เพื่อหวังให้ชายหนุ่มปล่อยตัวเธอ“โอ้ยดาวผมเจ็บ” แต่สิ่งที่เธอได้กลับมาคือนอกจากเสียงร้องของเขาแล้ว เขาก็ยิ่งกอดเธอแน่นกว่าเดิม ก่อนจะพลิกตัวให้เพียงดาวลงไปอยู่ใต้ร่างเขา“ดาวอย่าดื้อ ไม่งั้นผมไม่หยุดแค่กอดนะ”ชายหนุ่มพูดเสียงต่ำ โน้มหน้าลงไปใกล้เธอจนปลายจมูกติดกัน ริมฝีปากห่างกันแค่นิดเดียว“คุณภูปล่อยดาวเถอะค่ะ เราไม่ได้เป็น….”เธอพูดยังไม่ทันจบประโยคก็โดนคนด้านบนประกบริมฝีปากจูบเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะถอนริมฝีปากออกและบอกกับเธอ“อย่าพูดแบบนี้อีกนะดาว ขอให้คุณจำไว้ว่าคุณคือผู้หญิงของผมนายภูดิน ผมรักคุณนะดาว รักมากด้วย หลงใหลคุณตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรก เริ่มรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อได้รู้จักคุณ จนตอนนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ ผมมั่นใจแล้วว่า ผมรักคุณ” เขาพูดกับเธอ
...เช้าวันถัดมา…“ตายแล้วคุณภูของนมมานอนทำไมตรงนี้คะ ดูซิเนี่ยกลิ่นเหล้าหึ่งเลย ลุกไปนอนข้างบนดีๆค่ะ”นมแย้มเรียกภูดินพร้อมกับเขย่าแขนชายหนุ่มให้ตื่น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพียงดาวลงมาข้างล่างพอดี“หนูดาวมาพอดีเลย ช่วยพาคุณภูไปอาบน้ำอาบท่าหน่อยลูก ทำไมถึงดื่มหนักขนาดนี้นะ”“คุณภูมานอนทำไมตรงนี้คะตื่นได้แล้วค่ะ”ภูดินลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบเพียงดาวยืนอยู่หน้าตน“ดาวผมบอกว่าไม่ให้ออกมาไง”“เช้าแล้วค่ะ ตอนนี้จะสายแล้วด้วย”ภูดินขยี้ตาพร้อมลุกขึ้นนั่ง“นี่ผมเผลอหลับไปหรอ”“ทีนมเรียกตั้งนานไม่ยอมตื่นนะคะ แล้วเมื่อคืนมีเรื่องอะไรกันรึป่าวคะ”นมแย้มถามทั้งสองคน“ไม่มีอะไรค่ะคุณนม นมพักผ่อนนะคะเดี๋ยวดาวพาคุณภูขึ้นไปข้างบนเองค่ะ”เพียงดาวรีบตอบ“งั้นนมฝากด้วยนะคะ เดี๋ยวจะไปสั่งเด็กๆทำอาหารแก้เมาค้างให้คุณภูซักหน่อย”“ไปค่ะคุณภู เป็นยังไงบ้างคะ”“ผมปวดหัว ช่วยพยุงหน่อยได้มั้ย”ชายหนุ่มอ้อนหญิงสาว“เดินเองค่ะ โตป่านนี้แล้วทำไมต้องให้พยุงด้วย”เธอดุเขา“ผมปวดหัวจริงๆนะไม่เชื่อจับดูสิ”ภูดินพูดพร้อมดึงมือหญิงสาวให้ไปแตะที่หน้าผากของเขา“ตัวรุมๆจริงด้วย”“ทีนี้พาขึ้นห้องได้ยัง”“ก็ได้ค่ะ”ภูดินรีบลุกพร้อม
“โห มีแต่อาหารน่าทานทั้งนั้นเลย”“ใช่มั้ยล่ะชั้นบอกแกแล้ว แกอยากกินอะไรอีกสั่งเพิ่มได้เลยส่วนชั้นขอจิบค็อกเทลซักนิ๊ดก่อน”“เดี๋ยวก็เมาก่อนหรอก”“ไม่เมาแน่นอนชั้นคอแข็งจะตาย ชั้นสั่งให้แกแก้วนึงด้วยนะ ดื่มเป็นเพื่อนชั้นหน่อย นะๆๆๆๆ”“ก็ได้ๆ แก้วเดียวพอนะ”“โอเค๊”“ขอโทษนะครับขอดื่มด้วยซักแก้วได้มั้ยครับ”ชายคนหนึ่งเดินถือแก้วมาหยุดอยู่ข้างเพียงดาว“ขอโทษนะคะไม่ค่อยถนัดดื่มค่ะ”“งั้นขอแอดไลน์ได้มั้ยครับ”“ขอโทษจริงๆนะคะ ไม่สะดวกจริงๆค่ะ”เพียงดาวปฏิเสธไปอย่างสุภาพ ก่อนชายคนนั้นจะเดินกลับโต๊ะไป“ชั้นบอกแล้วว่าแกสวยสะดุดตาจริงๆวันนี้”“พอเลยรีบทานจะได้รีบกลับ”ฟากฝั่งของภูดินที่เห็นเกตุการณ์ทุกอย่าง ก็นึกโมโหอยู่ในใจที่ปล่อยให้เธออกมากทานข้าวนอกบ้าน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งกระดกเหล้ามองหญิงสาวด้วยแววตาเข้ม“เฮ้ยไอ้ดินเป็นไรวะนั่งเงียบไม่พูดไม่จา เอาแต่ดื่มอย่างเดียว”วัชรพูดกับเพื่อนรัก“เออเก็บกดรึไงวะ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นเดี๋ยวก็เมาก่อน”เอกพูดบ้างแต่ก็ไม่มีการตอบกลับจากเพื่อนของตน“ปล่อยมันๆ มันคงเหนื่อยจากงานมั๊ง หรือว่ามึงไปอกหักจากสาวที่ไหนแล้วไม่บอกเพื่อนรึป่าววะ”“อย่างมันเนี่ยนะจะ
เพียงดาวตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนๆ และปวดหัว“ไม่น่าดื่มเยอะเลยเรา”เธอบ่นให้ตัวเองก่อนจะหยิบมือถือมาดูเวลา “นี่จะแปดโมงแล้วหรอ ตายแล้ว….”เมื่อเห็นว่าสายมากแล้วเพียงดาวจึงดีดตัวลุกออกจากที่นอนทันที รีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อลงไปข้างล่าง เมื่อเธอลงมาเกือบเก้าโมงเช้าก็เห็นภูดินนั่งอ่านหนังสือพร้อมจิบกาแฟอยู่ที่โซฟา“ขอโทษนะคะ ที่ลงมาช้า”“ไม่เห็นไร ก็วันนี้วันหยุดหนิ ทานข้าวเสร็จไปค่อยนอนพักต่อก็ได้”“นี่น้ำผึ้งมะนาวมาดื่มสิจะได้หายเมาค้าง”“คุณภูรู้ได้ไงคะว่าดาวจะเมาค้าง”“คออ่อนขนาดนั้น”“ขอโทษค่ะ เมื่อคืนดาวไม่ได้สร้างความวุ่นวายให้ใช่มั้ยคะ”เขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน พลางคิดว่าวุ่นวายใจ️ผมนี่แหละ ก่อนจะตอบหญิงสาว”ก็ไม่นะ”“ถ้างั้นดาวก็โล่งใจค่ะ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยดื่มเยอะขนาดนี้มาก่อน”“แต่ก็อย่าไปดื่มเยอะแบบนี้ที่อื่นแล้วกัน นี่ยังดีนะที่อยู่ที่บ้าน”คำพูดของชายหนุ่มทำให้เพียงดาวใจเต้นแรงเพียงแค่เขาพูดคำว่า บ้าน ทำไมถึงทำให้ใจเธอเต้นแรงและดูอบอุ่นได้ขนาดนี้“หิวรึยัง”ภูดินเอ่ยถาม“นิดหน่อยค่ะ”“พี่จันทร์ตั้งโต๊ะให้หน่อยครับ”“ค่า…คุณภู”เสียงพี่จันทร์ดังมาจากในครัว“มื้อนี้เป็นข้าวต้มก
ในที่สุดก็ถึงวันจัดงานเลี้ยง วันนี้ภูดินให้ทุกคนทำงานแค่ครึ่งวันเพื่อให้เตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ เหลือแค่เขากับเพียงดาวที่ยังทำงานกันอยู่ณ ลานจัดกิจกรรมของฟาร์มซึ่งเป็นที่จัดงานเลี้ยงในวันนี้ ได้ถูกเนรมิตและประดับประดาด้วยไฟแสงสีอย่างสวยงาม อาหารคาวหวานรวมทั้งเครื่องดื่มมากมายถูกวางเรียงไว้บนโต๊ะ และยังมีเวทีเล็กๆสำหรับจัดกิจกรรมด้วย งานเลี้ยงวันนี้มีแค่พนักภายในภูดินฟาร์มเท่านั้นบรรยากาศจึงดูอบอุ่น เป็นกันเอง ช่วงหัวค่ำเหล่าผู้มาร่วมงานทั้งหลายเริ่มทยอยกันเข้างาน แต่ละคนต่างแต่งตัวจัดเต็มไม่มีใครน้อยหน้าใครกันเลย เริ่มมืดผู้มาร่วมงานก็มาเกือบครบขาดเพียงภูดินและเพียงดาวที่เพิ่งเสร็จจากงานช่วงเย็นจึงมาช้ากว่าเพื่อน เขาจึงให้ทุกคนทานอาหารไปก่อนเพราะกลัวทุกคนหิว˜˜ก๊อกๆๆๆ˜˜”ดาวเสร็จรึยังครับ”ภูดินที่อยู่ในชุดคาวบอยย้อนยุคเคาะประตูเรียกหญิงสาว“เสร็จแล่วค่ะ”เพียงดาวเปิดประตูออกมาพร้อมชุดเดรสกระโปรงสั้น คอวี ผ้าชีฟอง แต่งลูกไม้สีขาว มีเสื้อกั๊กสีน้ำตาลคลุมทับด้านนอก พร้อมกับรองเท้าคอมแบทสีน้ำตาล พร้อมกับผมยาวลอนรวบไปข้างหลัง ดูสวยเท่ห์ มีเสน่ห์ แอบเซ็กซี่นิดๆ ทั้งคู่เมื่อมองชุดที่ส