เมื่อได้ฟังคำกล่าวของโนแอล ไกอาก็คิดว่าเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ ของนอลข่าน เธอควรจะไปซื้อหนังสือมาอ่านทบทวนดูให้รู้แล้วรู้รอดไป
เพราะว่าคนไม่รู้กฎหมายเท่ากับคนโง่ และที่นี่มีกฎหมายแปลกๆ เยอะมากมายเกินกว่าที่เธอจะสามารถจินตนาการได้ทีเดียว “เช่นนั้นข้าจะต้องรู้เรื่องกฎหมายให้มากกว่านี้ซะแล้วโนแอล” โนแอลส่งยิ้มให้กับไกอา “เจ้าคือคนฉลาดอย่างที่ข้าคิดเอาไว้จริงๆ ด้วยสินะ เรื่องหนังสือข้อกฎหมายต่างๆ ในราชอาณาจักรของเรานั้น ข้าจะสั่งให้สาวใช้นำมันมาให้เจ้าในวันพรุ่งนี้ ส่วนเรื่องชุด..แน่นอนว่าชนชั้นสูงที่ดีไม่ควรจะสวมใส่เสื้อผ้าซ้ำกัน ข้าจะจัดหาชุดที่งดงามมากที่สุดในนอลข่านมาให้เจ้าก็แล้วกันสหาย..” หากพูดถึงเรื่องชุด ในตู้เสื้อผ้าของเธอนั้นมีชุดเดรสมากมายหลากหลายประเภทมากทีเดียว และในบางชุดเธอยังไม่เคยสวมใส่หรือว่าแตะต้องมันด้วยซ้ำ “เรื่องชุด..” “อย่าปฏิเสธสิ คิดซะว่านี่คือของขวัญการขอบคุณของข้า เพราะการที่เจ้ายินยอมเดินทางเข้าไปในพระราชวังและรับปากว่าจะยอมเปิดใจให้องค์รัชทายาทมันคือเรื่องที่ข้าจะต้องขอบคุณเจ้าอยู่แล้ว แต่ไกอา หากว่าเจ้าไม่รักเขาหรือว่าพระองค์ไม่ใช่บุรุษในแบบที่เจ้าชอบ เจ้าจะต้องบอกข้าอย่างตรงไปตรงมาเข้าใจไหม อย่าฝืนตัวเองเพื่อข้า อย่าลืมว่ากฎหมายของนอลข่านคือห้ามไม่ให้มีการหย่าร้างกันเกิดขึ้น” ไกอาเบนสายตามองแก้วสุราที่ตัวเองถือเอาไว้ เธอส่งยิ้มให้กับโนแอลอีกครั้งหนึ่งด้วยรอยยิ้มที่ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร หกเดือนนั้นจะมองว่านานก็นานอยู่ แต่จะมองว่าสั้นสำหรับการหาสามีก็นับว่าสั้นยิ่งนัก แต่เธอยังพอมีเวลา เพราะอย่างนั้นไกอาตั้งใจเอาไว้ว่าจะค่อยเป็นค่อยไปน่าจะดีกว่า แต่องค์รัชทายาท..หากว่าพระองค์เป็นคนไม่เลวร้ายมากจนเกินไป ไกอาก็พร้อมที่จะเปิดใจกับความรักครั้งใหม่ เธออยากมีความรัก.. อยากมีคนที่พร้อมจะร่วมแชร์ความสุขความทุกข์ในแต่ละวัน คนที่ร่วมทานข้าว ดื่มสุรา แย่งผ้าห่มกันและ..คนที่จะโอบกอดกันก่อนที่ความง่วงจะเข้าครอบงำเรา “รู้แล้วน่า เจ้าเองก็เถอะ อย่าลืมว่าตัวเจ้าเองก็จะต้องเปิดใจ..” เมื่อได้ฟังคำกล่าวของไกอา โนแอลก็สะอึกในทันที มันเหมือนกับมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอ เธอวางแก้วสุราที่ว่างเปล่าลงบนโต๊ะก่อนที่จะยกขวดสุราขึ้นมากรอกใส่ปาก ความร้อนและข่มปร่าไหลรินสู่ลำคอจนชั่วขณะทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับมึนงง แต่เมื่อสุราในขวดหมดแล้ว โนแอลกลับยังไม่รู้สึกว่าความกระหายลดลงจากเดิมเลย “อยากให้วันงานเดินทางมาถึงเร็วๆ จังเลย..” เธออยากให้วันเวลาใหลวนผ่านไป เพื่อที่ตัวเองจะได้มีความกล้ามากพอที่จะเริ่มต้นใหม่สักที .................. เคียนนั่งลงบนม้านั่งตัวยาวที่ปูด้วยผ้าไหมราคาแพง สายตาของเขาจ้องมองไปยังประตูทางเข้าบ้านไม้โทรมๆหลังนี้ “บางที..ในบางทีนางอาจจะมาช่วงเย็น” นี่พึ่งจะเที่ยงเอง เขาจะด่วนคิดมากไปทำไมกัน..เคียนยังคงนั่งรออยู่ตรงนั้น ตรงที่เดิมที่เขาและเธอแยกจากกัน ดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไปพร้อมกับอากาศที่เย็นลงอย่างชัดเจน เขาเงยหน้าขึ้นมามองท้องฟ้าที่มืดครึ้มด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวแบบสุดๆ “นายท่าน..ข้าพบเจอสตรีผิวขาวคนใหม่แล้วครับ ไม่ทราบว่านายท่านต้องการให้พานางมาที่นี่..” เคียนเบนสายตามองโจรกระจอกพวกนั้น “ไม่ต้องพาใครมา!!..หานางให้เจอ ตามหาสตรีคนเมื่อวานให้เจอ ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าไม่ต้องโผล่หน้ามาให้ข้าเห็นเข้าใจหรือไม่!!” เขาตวาดเสียงดังพร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยความเดือดดาล นางยิ้มให้เขา รอยยิ้มที่แสนละมุนละไมนั่นผลิบานราวกับดอกไม้ ดวงตาสีอัญมณีจ้องมองเขาด้วยความหลงใหล และก่อนเราจะจากกันนางส่งยิ้มให้เขา..ยิ้มที่เหมือนกับเป็นการรับปากว่านางจะมาที่นี่ แต่นางกลับไม่มา..ไม่มาให้เห็นแม้แต่เงา ไม่มีวี่แววของนางเลยในถนนเส้นนี้ ราวกับว่านางได้หายตัวไปจากนอลข่าน เคียนหลับตาลงช้าๆ มันเหมือนกับทุกอย่างติดค้างอยู่ในใจ นางเป็นนักเดินทางและเขาไม่รู้ว่านางจะเดินทางออกไปจากที่นี่แล้วหรือไม่ เมื่อวานเขาน่าจะจับตัวนางเอาไว้ ไม่น่าปล่อยนางให้หลุดมือออกไปเลย “ฝ่าบาท..พระองค์จะต้องกลับไปที่พระราชวังเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงที่กำลังจะจัดขึ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ” งานเลี้ยงที่เสด็จพ่อทรงจัดขึ้นมา แน่ล่ะที่งานนั่นคงจะมีเลดี้ชนชั้นสูงมากมายที่เสด็จพ่อพยายามจะยัดเยียดให้เขา สิ่งเดียวที่เคียนไม่เชื่อมั่นนั่นคือความรัก..เพราะเสด็จพ่อของเขาทรงให้คำมั่นกับเสด็จแม่ว่าจะรักเพียงแค่เสด็จแม่ผู้เดียว แต่แล้วอย่างไรเล่า เสด็จพ่อกลับทรงมีพระสนมมากมายเต็มพระราชวัง เสด็จแม่ของเขาต้องทนอยู่อย่างอดสูในตำแหน่งขององค์ราชินี ไม่ว่าจะมองทางไหนก็ล้วนแล้วแต่น่าขยะแขยงทั้งนั้น “ทำไมช่วงนี้มีแต่อะไรที่มันไม่ได้ดั่งใจเต็มไปหมดเลย” อาบูก้มหน้าลงก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาองค์รัชทายาทเพื่อสวมเสื้อคลุมให้กับเจ้านายของเขา “เสด็จกลับที่พระราชวังกันเถิดพ่ะย่ะค่ะ” สตรีที่พระองค์กำลังรอคอย นางน่าจะไม่มาที่นี่แล้ว..อาบูได้แต่เก็บงำความคิดสุดท้ายเอาไว้ในใจ เพราะสีหน้าที่เจ็บปวดและผิดหวังขององค์รัชทายาททำให้เขาไม่กล้าที่จะพูดความคิดในใจออกไป เคียนลุกขึ้น เขาพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะเดินออกจากบ้านหลังโทรมๆ แห่งนี้ไปยังพระราชวังที่แสนหรูหรา.. และเมื่อเขาเดินทางกลับมาถึงที่พระราชวังเสด็จพ่อก็ยืนรอเขาอยู่ที่สวนด้านหน้า “เคียนลูกรัก มาคุยกันหน่อยสิ..” เขาเดินเข้าไปหาเสด็จพ่อพร้อมกับทำความเคารพอย่างเป็นทางการ “ไม่ต้องมากพิธีหรอก พ่อบอกเจ้าแล้วว่าในยามที่มีแค่เราไม่ต้องทำความเคารพพ่อก็ได้ เจ้าเองก็น่าจะรู้ว่าพ่อจัดงานเลี้ยงนี้ขึ้นมาก็เพื่อเจ้า เจ้าคือลูกชายที่พ่อรักมากที่สุดนะ..และตำแหน่งองค์ราชามันควรจะเป็นของเจ้า” มือของเคียนพลันกำแน่นขึ้นมาในทันที “ลูกทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ” คีนแนนตบบ่าของลูกชายเบาๆ “พ่อมีสตรีที่หมายตาเอาไว้ว่าจะให้นางเป็นพระชายาของเจ้าอยู่คนหนึ่ง แต่แน่นอนพ่อไม่ได้บังคับ พ่อแค่อยากให้เจ้าทำความรู้จักกับนางไปก่อน..เลดี้ไกอาแห่งอามิตี้ สตรีที่เดินทางมาจากจักรวรรดิ” เขาได้ยินชื่อนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว สตรีผู้งดงามที่เดินทางมาจากจักรวรรดิเพื่อแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ “พ่ออยากให้ลูก..ไปทำความรู้จักกับไกอานะเคียน หากเป็นสตรีผู้นั้นจะต้องทำให้เจ้าอยู่ในตำแหน่งขององค์ราชาแห่งนอลข่านได้เป็นแน่”คำสั่งของเสด็จพ่อยังคงดังก้องอยู่ในหัว แต่เคียนยังคงคิดถึงอามินอยู่เหมือนเดิม เพียงแค่หลับตาเขาก็สัมผัสได้ถึงเธอในยามนอน ริมฝีปากปากอ่อนนุ่มนั้นกำลังเผยอ ออกจากกันและกำลังจะตอบรับการจุมพิตจากเขา เธองดงาม..ใช่ สวยมากทีเดียวมันเป็นความสวยที่มาพร้อมกับความซ่านกระสันในทุกครั้งที่นึกถึงเลยริมฝีปากเล็กๆ คู่นั้นเข้าครอบครองส่วนที่แข็งตึงของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าที่เกลียวลิ้นร้อนไล้ไปตามเส้นเลือดที่ปูดโปน เธอดูดกลืนลาวาขาวขุ่นที่รินไหลออกมา พร้อมกับใช้ลิ้นปาดเลียลงไปบนส่วนปลายหัวบวมแดงย้ำๆ ซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นและมันหงุดหงิดทุกครั้งที่เขานึกถึง..ไอ้ชนเผ่าเดมิซาพวกนั้นจะมาให้ถึงช้ากว่านั้นสักสิบนาทีก็ไม่ได้รึไงวะ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะปล่อยตัวปล่อยใจ และเสร็จสมไปในริมฝีปากสีเชอร์รี่ของเธอไปแล้ว“ฝ่าบาท..ได้เวลาเตรียมตัวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”อาบูเดินเข้ามาพร้อมกับข้าหลวงที่จัดการเตรียมน้ำเอาไว้ให้องค์รัชทายาททรงอาบ“วันนี้ข้าจะอาบน้ำเอง..ออกไปให้หมด”อาบูสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาเบนสายตามองหน้าของข้าหลวงทั้งหมดพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ เพื่อให้ข้าหลวงพวกนั้นออกไปก่อน“เช่นนั้นกระหม่อมจะคอยช่วย..”“ไม่อาบู เจ้าเองก็จ
ไกอาคลี่ยิ้มบางที่แสนอ่อนโยนให้กับสตรีที่เดินเข้ามาทักทายเธอ“ขออภัยที่เสียมารยาทค่ะ ข้าชื่อว่านาญาค่ะ นาญาแห่งอิลบา ลูกสาวของท่านเคาน์อิลบาผู้ปกครองเหมืองทองของราชอาณาจักร”นั่นคือการแนะนำตัวหรือว่าการประกาศออกมาเพื่อโอ้อวดกันแน่ เรื่องนั้นไกอาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะเลดี้นาญา”นาญาส่งยิ้มกับไกอาด้วยรอยยิ้มที่ว่างเปล่า แน่นอน..มันว่างเปล่าเพราะไม่ได้มีความยินดีอยู่ในนั้นเลย“ข้าทอดทิ้งโนแอลมานานพอสมควรแล้ว เช่นนั้นข้าไม่รบกวนเวลาของเลดี้นาญาแล้วค่ะ”นาญากระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยพร้อมกับก้มหน้าลงเพื่อเป็นการกล่าวอำลาแก่สตรีจากจักรวรรดิ“ให้ตายเถอะเลดี้ไกอานั้นงดงามเสียยิ่งกว่าคำบอกเล่าของพี่ชายข้าอีก”สตรีคนหนึ่งในกลุ่มพูดออกมาและเมื่อนาญาได้ยินคำกล่าวนั้นเธอก็กลั้วหัวเราะในลำคอทันที“นั่นเรียกว่างดงามอย่างนั้นหรือ ผอมแห้งเกินไปแถมใบหน้านั้นก็นับว่าจืดชืด ที่โดดเด่นเพราะว่านางพึ่งมาอยู่ที่นอลข่านต่างหาก แต่หากอยู่ไประยะหนึ่งข้าคิดว่านางจะต้องหมดความนิยมจากเหล่าบุรุษของที่นี่..พวกเขาก็แค่ชื่นชอบของใหม่เท่านั้น มีอะไรให้เราใส่ใจกัน”นาญายกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม
“เป็นอย่างไรเล่า ข้าบอกไปแล้วว่าพระพักตร์ขององค์รัชทายาทนั้นทรงหล่อเหลาและงดงามประดุจพระเจ้าทรงปั้น..”เสียงของโนแอลนั้นดังไปไม่ถึงไกอาเลยดวงตาสีอัญมณีจับจ้องมองไปยังใบหน้าที่มันน่าเหลือเชื่อมากทีเดียว คราแรกเธอคิดว่าตัวเองตาฝาด แน่นอนว่าเธออาจจะคิดถึงโจรผู้นั้นมากเกินไป และทำให้เกิดภาพหลอนขึ้นมา เหมือนกับว่ามองบุรุษคนไหนก็เป็นเขาแต่ไม่ใช่เลย เธอหยิกแขนตัวเองไปแล้วสองรอบ แน่นอนมันเจ็บและยังคงเป็นรอยแดงอยู่ไม่จางหายไปไหนโจรผู้นั้นที่เธอพบเจอเขาในย่านการค้าจนเราเกือบจะทำอะไรที่มันเกินเลยกันไปคือองค์รัชทายาทของนอลข่านนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย เรื่องตลกร้ายประเภทใดกันแล้วเธอดันเสนอหน้ามานั่งด้านหน้าสุดและนั่งตรงข้ามกับเขาด้วย อากาศในยามค่ำคืนถึงแม้ว่าจะอยู่ในห้องโถงจัดเลี้ยงนะพระราชวังแต่ทว่าก็ยังคงรู้สึกเหน็บหนาวไม่น้อย แต่ทว่าไกอารู้สึกได้ถึงเม็ดเหงื่อเย็นๆ ที่กำลังชุ่มไปตามแผ่นหลังและมือทั้งสองข้างของเธอเมื่อได้ลองค้นเข้าไปในลิ้นชักแห่งความทรงจำ ก่อนจากลาเธอจำได้ว่าเขานัดให้เธอไปพบเขาอีกครั้ง ในวันรุ่งขึ้น และเพราะว่าร่างกายของเธอมันเต็มไปด้วยรอยแดงเต็มไปหมด ทำให้โรสไม่ยินยอมใ
เป็นอีกครั้งที่ไกอาอาจจะต้องถามตัวเองว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เพราะท่านดยุคคาเรนที่เราไม่ได้สนิทกันเลยกำลังยืนโอบเอวของเธอราวกับเราสนิทสนมกันมากเธอเงยหน้ามองหน้าของท่านดยุคด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย“ก็ครั้งที่แล้ว ก่อนที่เราแยกจากกันเจ้าเป็นคนเอ่ยปากนัดข้าเองว่างานในครั้งหน้า เราค่อยมาสานต่อจากครั้งที่แล้ว..ลืมแล้วงั้นหรือเจ้ากวางน้อย”กวางน้อยกวางใหญ่อะไรกันวะ! เธอพูดตอนไหนก่อนว่าจะมาสานต่ออะไรนั่น ในวันนั้นเท่าที่จำได้เป็นเขาด้วยซ้ำที่หนีออกไปก่อนที่เธอจะตื่น!!“ท่านดยุคคะ..”“หมับ!!”ไวกว่าคำพูดของเธอคือมือขององค์รัชทายาทที่ยื่นมากำข้อมือของเธอเอาไว้แน่นมากพอสมควร พระองค์ทรงจ้องมองเธอด้วยความโกรธในแบบที่คูณสองจากตอนแรกที่เราพบเจอกันเคียนกัดกรามแน่น เขานอนไม่หลับ ทุกครั้งที่หลับตาภาพของเธอก็จะฉายชัดขึ้นมาในทันที และที่เขาเป็นเช่นนั้นเขาคิดว่าความทรมานทั้งหมดของเขามันเกิดจากเธอ เกิดจากความน่ารักที่แสนไร้เดียงสานั่นของเธอ แต่ทว่ามันกลับกลายเป็นเหมือนเขาเป็นคนโง่ เธอเก่งกาจเรื่องการปั่นหัวคนอื่นและหลอกลวงอย่างนั้นหรือ เธอมองเขาเป็นอะไรกัน ของเล่น? หรือคนหน้าโง่ที่มาหลงเสน่ห์เธ
นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่คาเรนพึ่งรู้สึกว่าเขาเอาตัวเองไปเล่นกับไฟ และผลลัพธ์ที่ได้ดูเหมือนว่ามันจะได้ไม่คุ้มเสียสักเท่าไหร่นัก แต่เขาเดินทางมาไกลมากเกินกว่าจะถอยหลังกลับเพราะอย่างนั้นเขายังคงยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไป โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น“แน่นอนเลดี้ไกอา ข้าพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว”ไกอาหยักยิ้มขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เหนือกว่า อันที่จริงเธอแทบจะหลุดขำออกมาด้วยซ้ำ เขาเป็นพวกฆ่าได้แต่หยามไม่ได้งั้นสินะ“ข้าไม่สนใจว่าระหว่างพวกเจ้าสองคนนั้นมันยังไงกัน แต่ในยามนี้ข้าอยากจะพูดคุยกับไกอา..แบบเป็นการส่วนตัว ในเมื่อดยุคมีนัดกับเลดี้นาญา เช่นนั้นในวันนี้ท่านก็ควรจะปล่อยมือของไกอาซะ”เคียนปัดมือของคาเรนออกในทันที ไกอายังไม่ทันจะได้ตั้งตัวเธอก็ถูกเขาลากไปอีกทางแล้วคาเรนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ตรงที่องค์รัชทายาทแย่งชิงยัยไกอาตัวร้ายไปจากเขา แน่นอนว่าเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากมาย นอกการเสียหน้านิดหน่อย และ..ไม่ว่ามองจากทางไหน เลดี้ไกอาและองค์รัชทายาทจะต้องมีอะไรที่มันพิเศษมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้ และเขาต้องแย่งชิงนางมาจากองค์รัชทายาทให้ได้เลยคอยดู..รู้สึกสูญเสียบ้างสิคาเบเรียน ไม่อย่างนั้นจะเป็นองค์รั
รอยยิ้มแสนหวานฉายชัดอยู่บนใบหน้าของไกอา เธอก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อที่จะมองใบหน้าที่กำลังเขินอายอยู่“ในเมื่อเราพูดคุยและทำความเข้าใจเรื่องราวในวันนั้นกันเสร็จสิ้นแล้ว ข้าควรจะ..ขออนุญาตกลับก่อน”ในวินาทีที่ไกอาพูดว่าเธอจะกลับ มือของเคียนก็เอื้อมมือมาจับที่ข้อมือของเธอเอาไว้แน่นมากพอสมควร“ใครอนุญาตให้เจ้าไป”“อ่า..เรื่องนั้นข้าอนุญาตตัวเองได้ค่ะ”ดวงตาสีอำพันของเขาฉายแววไม่พอใจอีกครั้ง เคียนก้มหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหูของไกอาด้วยความแผ่วเบา“ข้าคิดว่าเราทั้งสองคนจะสานต่อเรื่องในวันนั้นซะอีก..เจ้าไม่คิดเหมือนกับที่ข้าคิดอย่างนั้นหรือ?”เรื่องราวมันติดค้างอยู่ในใจ ความรู้สึกวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาในทันทีที่เขาคิดถึงใบหน้างามของเธอ ส่วนนั้นแข็งตึงขึ้นมาแบบที่ไม่ต้องรอคอยการปลุกเร้าใดๆ ความปรารถนาฉายชัดออกมาจากเบื้องลึกในหัวใจเขาต้องการเธอ..ต้องการทุกสิ่งทุกอย่างของเธอมาครอบครองหรือไม่ก็ยึดครองเอาไว้ เพราะในใจของเคียนรู้สึกได้ถึงความไม่ยุติธรรม เขารู้ดีว่าความรู้สึกของคนสองคนมันย่อมไม่เท่าเทียมกัน แต่นี่เหมือนกับนัยน์ตาสีอัญมณีของเธอไม่คิดอะไรเลย และมีเพียงเขาแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้นที่คิดไปไกลมา
โนแอลเดินออกมาจากงานเลี้ยงเพื่อตรวจดูภาพรวมของงานที่เธอจัดขึ้นด้วยความตั้งใจ แน่นอนว่าเธอคือนักจัดงานเลี้ยงตัวยงและโนแอลไม่อยากให้งานเลี้ยงของเธอมันมีความผิดพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว“เจ้ายังคงจัดงานเลี้ยงได้ดีเหมือนเดิมเลยนะ..”เมื่อหันไปตามเสียงโนแอลก็พบเจอกับท่านอาของเธอ อันที่จริงเธอจะต้องเรียกท่านดยุคว่าท่านพี่ แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างท่านยายจึงสั่งให้เธอเรียกขานท่านดยุคว่าท่านอา..“นี่คงเป็นครั้งแรกที่ท่านอายอมถอยออกมาก่อน..วันนี้พ่ายแพ้ให้กับองค์รัชทายาทเหรอคะ”มันต้องขยี้สักหน่อยสิ เพราะว่าครั้งที่แล้ว เป็นท่านอาที่ทอดทิ้งไกอาแล้วออกมาจากห้องตั้งแต่ยังไม่รุ่งสาง ถึงแม้ว่าจะเป็นท่านอาแต่เธอก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้หรอกนะหากว่าท่านอามาทำร้ายเพื่อนของเพื่อนน่ะ“ฮะ..ฮ่า คงงั้น วันนี้อาคงจะพ่ายแพ้ให้กับองค์รัชทายาทแล้ว แต่ครั้งหน้ารับรองได้เลยว่าอาจะไม่แพ้ เพราะว่าอามีเจ้าที่จะคอยเป็นผู้ช่วยของอายังไงล่ะ”โนแอลมองท่าทางของท่านอาที่ดูเหมือนกับว่าท่านอาของเธอจะจริงจังกับเรื่องนี้ไม่น้อยเลยทีเดียวแต่เพื่อการแก้แค้นองค์รัชทายาทอย่างนั้นหรือ ทำไมไม่ไปแก้แค้นองค์ราชาแทนล่ะ หรือท่านอาของเธอเชื่อจริงๆ
นัยน์ตาสีอำพันของเคียนจ้องมองดวงหน้างามที่เขาไม่อาจละสายตาไปได้ของไกอา เธอกำลังมองสบตาเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ..เรื่องราวของเรามันไม่ได้เกิดจากความรัก แต่มันเกิดมาจากการที่เขาต้องการร่างกายของเธอและเธอเองก็ต้องการสามี จุดประสงค์ของเราแตกต่าง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีความมั่นคงใดๆ อยู่ในความสัมพันธ์นี้ของเราเลยแม้แต่นิดเดียว เขาไม่กล้าให้ความหวังและยิ่งไม่อาจคาดหวังได้ด้วยแต่ถึงอย่างนั้นในยามนี้เขาต้องการเธอมากจริงๆ ความต้องการที่กลั่นกรองออกมาจากเบื้องลึกในหัวใจ และเคียนตั้งใจเอาไว้แล้วว่าวันนี้เขาจะเป็นบุรุษที่เอาแต่ใจเท่านั้น“อย่าพึ่งกล่าวถึงวันพรุ่งนี้สิ เพราะมันยังมาไม่ถึงเลย แต่หากจะเอ่ยถามข้าเรื่องชีวิตของเจ้าในวันพรุ่งนี้ แน่นอนว่ามันจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอนเพราะว่าคนที่เจ้านอนด้วยคือองค์รัชทายาทนะไกอา..”เขายังคงบ่ายเบี่ยงจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยสินะ ยังไม่มีการรับปากหรือว่าให้ความแน่ใจกับเธอได้เลยแต่ก็ช่างมันเถอะ หากว่าเขาไม่ต้องการเธอแล้วละก็ ชีวิตคู่หากเกิดมาจากการบังคับก็ดูจะไม่ยืนยาวสักเท่าไหร่นัก เธอยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน และไกอากำลังบอกกล่าวกับตัวเองว
ฝีเท้าของโนแอลก้าวเดินตามหลังขององค์ราชามายังพระราชวังหลักที่เธอไม่เคยมาที่นี่เลยสักครั้ง ในสวนหน้าพระราชวังนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้และพันธ์ุไม้หายากทั้งนั้นเลย แล้วน้ำพุที่อยู่ตรงกลางสวนก็ทำมาจาก..ทองคำใช่ไหมนั่นเรื่องความร่ำรวยของราชวงศ์นั้นทุกคนในนอลข่านต่างรู้ดีทั้งนั้น แต่เธอไม่คาดคิดว่าพระราชวังขององค์ราชาจะหรูหราถึงเพียงนี้คีนแนนนั่งลงบนม้านั่งด้านในสวน เขาผายมือเพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้โนแอลนั่งลงตรงข้ามเขาแน่นอนว่าเธอมองหน้าขององค์ราชาอีกครั้งเพื่อที่จะถามให้แน่ใจว่าเธอนั้นสามารถนั่งลงตรงข้ามพระองค์ได้จริงๆ ใช่ไหม?“นั่งเถิดเลดี้โนแอล เจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนี่”เมื่อได้ยินคำยืนยันจากปากของพระองค์เธอจึงยินยอมนั่งลงตรงข้ามกับองค์ราชา โนแอลยกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเองที่มันกำลังเต้นแรงเอาไว้เธอหวังอย่างยิ่งว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ยินเสียงหัวใจของเธอที่มันเต้นแรงจนผิดปกติ“ข้าหลวงมารายงานกับข้าว่าเคียนพาเลดี้ไกอาไปที่พระราชวังของเขา ท่าทางทั้งสองคนจะไปได้สวยมากกว่าที่ข้าคาดคิดเอาไว้ ในวันพรุ่งนี้บางทีลูกชายของข้าอาจจะประกาศข่าวดีเรื่องการแต่งงานออกมา”โนแอลก้มหน้าลงเล็กน้อย“หากเป็นเช
นิ้วมือของเคียนกดเข้าที่กลางลำแกร่ง เขาขยับเอวเบาๆ เพื่อให้ส่วนนั้นของเราเสียดสีไปมาอยู่ที่ภายนอก เพราะหยาดน้ำหวานที่รินไหลออกมาจากกลีบดอกไม้ทำให้ทุกการขยับเอวของเคียนมันรู้สึกเสียดเสียวจนไกอาขบกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น“อ่า..คะ..เคียน”เขาจับมือของเธอขึ้นมาจุมพิตลงไปบนหลังฝ่ามือด้วยความอ่อนโยน“ว่าอย่างไรไกอา รู้สึกดีจนอยากจะได้มากกว่านี้อย่างนั้นหรือ?”ทั่วร่างกายราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน เธอกำลังรู้สึกซ่านกระสันและอยากให้เขากระทำมากกว่านี้จนแทบควบคุมร่างกายเอาไว้ไม่อยู่ความรู้สึกวูบไหวก่อตัวขึ้นมาในช่องท้อง ขนาดแค่เขาถูไถที่ด้านนอกยังสามารถทำให้เธอรู้สึกดีถึงเพียงนี้..ดวงตาสีอำพันกำลังจ้องมองใบหน้านั้น..ดวงหน้าของเธอนั้นให้ความรู้สึกเย้ายวนจนเขาแทบคลั่งเลย เป็นความงดงามที่ร้อนแรงและแผดเผาผู้ที่พบเห็นจนรู้สึกด้อยค่าตัวเอง เธอทำให้ผู้อื่นมองเธอด้วยสายตาที่เจือปนไปด้วยความอิจฉาเคียนรู้สึกได้เลยว่าขีดจำกัดของเขามันหมดลงแล้ว และเขาควรจะได้ครอบครองสตรีผู้นี้เสียที เขากดแทรกแก่นกายฝ่าความคับแคบเข้าไปด้านใน และเพียงแค่ส่วนปลายหัวบวมแดงที่สอดแทรกเข้าไปส่วนนั้น ไกอาก็บีบรัดแท่งร้อนของเขาแน่น
นัยน์ตาสีอำพันของเคียนจ้องมองดวงหน้างามที่เขาไม่อาจละสายตาไปได้ของไกอา เธอกำลังมองสบตาเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ..เรื่องราวของเรามันไม่ได้เกิดจากความรัก แต่มันเกิดมาจากการที่เขาต้องการร่างกายของเธอและเธอเองก็ต้องการสามี จุดประสงค์ของเราแตกต่าง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีความมั่นคงใดๆ อยู่ในความสัมพันธ์นี้ของเราเลยแม้แต่นิดเดียว เขาไม่กล้าให้ความหวังและยิ่งไม่อาจคาดหวังได้ด้วยแต่ถึงอย่างนั้นในยามนี้เขาต้องการเธอมากจริงๆ ความต้องการที่กลั่นกรองออกมาจากเบื้องลึกในหัวใจ และเคียนตั้งใจเอาไว้แล้วว่าวันนี้เขาจะเป็นบุรุษที่เอาแต่ใจเท่านั้น“อย่าพึ่งกล่าวถึงวันพรุ่งนี้สิ เพราะมันยังมาไม่ถึงเลย แต่หากจะเอ่ยถามข้าเรื่องชีวิตของเจ้าในวันพรุ่งนี้ แน่นอนว่ามันจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอนเพราะว่าคนที่เจ้านอนด้วยคือองค์รัชทายาทนะไกอา..”เขายังคงบ่ายเบี่ยงจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยสินะ ยังไม่มีการรับปากหรือว่าให้ความแน่ใจกับเธอได้เลยแต่ก็ช่างมันเถอะ หากว่าเขาไม่ต้องการเธอแล้วละก็ ชีวิตคู่หากเกิดมาจากการบังคับก็ดูจะไม่ยืนยาวสักเท่าไหร่นัก เธอยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน และไกอากำลังบอกกล่าวกับตัวเองว
โนแอลเดินออกมาจากงานเลี้ยงเพื่อตรวจดูภาพรวมของงานที่เธอจัดขึ้นด้วยความตั้งใจ แน่นอนว่าเธอคือนักจัดงานเลี้ยงตัวยงและโนแอลไม่อยากให้งานเลี้ยงของเธอมันมีความผิดพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว“เจ้ายังคงจัดงานเลี้ยงได้ดีเหมือนเดิมเลยนะ..”เมื่อหันไปตามเสียงโนแอลก็พบเจอกับท่านอาของเธอ อันที่จริงเธอจะต้องเรียกท่านดยุคว่าท่านพี่ แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างท่านยายจึงสั่งให้เธอเรียกขานท่านดยุคว่าท่านอา..“นี่คงเป็นครั้งแรกที่ท่านอายอมถอยออกมาก่อน..วันนี้พ่ายแพ้ให้กับองค์รัชทายาทเหรอคะ”มันต้องขยี้สักหน่อยสิ เพราะว่าครั้งที่แล้ว เป็นท่านอาที่ทอดทิ้งไกอาแล้วออกมาจากห้องตั้งแต่ยังไม่รุ่งสาง ถึงแม้ว่าจะเป็นท่านอาแต่เธอก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้หรอกนะหากว่าท่านอามาทำร้ายเพื่อนของเพื่อนน่ะ“ฮะ..ฮ่า คงงั้น วันนี้อาคงจะพ่ายแพ้ให้กับองค์รัชทายาทแล้ว แต่ครั้งหน้ารับรองได้เลยว่าอาจะไม่แพ้ เพราะว่าอามีเจ้าที่จะคอยเป็นผู้ช่วยของอายังไงล่ะ”โนแอลมองท่าทางของท่านอาที่ดูเหมือนกับว่าท่านอาของเธอจะจริงจังกับเรื่องนี้ไม่น้อยเลยทีเดียวแต่เพื่อการแก้แค้นองค์รัชทายาทอย่างนั้นหรือ ทำไมไม่ไปแก้แค้นองค์ราชาแทนล่ะ หรือท่านอาของเธอเชื่อจริงๆ
รอยยิ้มแสนหวานฉายชัดอยู่บนใบหน้าของไกอา เธอก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อที่จะมองใบหน้าที่กำลังเขินอายอยู่“ในเมื่อเราพูดคุยและทำความเข้าใจเรื่องราวในวันนั้นกันเสร็จสิ้นแล้ว ข้าควรจะ..ขออนุญาตกลับก่อน”ในวินาทีที่ไกอาพูดว่าเธอจะกลับ มือของเคียนก็เอื้อมมือมาจับที่ข้อมือของเธอเอาไว้แน่นมากพอสมควร“ใครอนุญาตให้เจ้าไป”“อ่า..เรื่องนั้นข้าอนุญาตตัวเองได้ค่ะ”ดวงตาสีอำพันของเขาฉายแววไม่พอใจอีกครั้ง เคียนก้มหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหูของไกอาด้วยความแผ่วเบา“ข้าคิดว่าเราทั้งสองคนจะสานต่อเรื่องในวันนั้นซะอีก..เจ้าไม่คิดเหมือนกับที่ข้าคิดอย่างนั้นหรือ?”เรื่องราวมันติดค้างอยู่ในใจ ความรู้สึกวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาในทันทีที่เขาคิดถึงใบหน้างามของเธอ ส่วนนั้นแข็งตึงขึ้นมาแบบที่ไม่ต้องรอคอยการปลุกเร้าใดๆ ความปรารถนาฉายชัดออกมาจากเบื้องลึกในหัวใจเขาต้องการเธอ..ต้องการทุกสิ่งทุกอย่างของเธอมาครอบครองหรือไม่ก็ยึดครองเอาไว้ เพราะในใจของเคียนรู้สึกได้ถึงความไม่ยุติธรรม เขารู้ดีว่าความรู้สึกของคนสองคนมันย่อมไม่เท่าเทียมกัน แต่นี่เหมือนกับนัยน์ตาสีอัญมณีของเธอไม่คิดอะไรเลย และมีเพียงเขาแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้นที่คิดไปไกลมา
นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่คาเรนพึ่งรู้สึกว่าเขาเอาตัวเองไปเล่นกับไฟ และผลลัพธ์ที่ได้ดูเหมือนว่ามันจะได้ไม่คุ้มเสียสักเท่าไหร่นัก แต่เขาเดินทางมาไกลมากเกินกว่าจะถอยหลังกลับเพราะอย่างนั้นเขายังคงยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไป โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น“แน่นอนเลดี้ไกอา ข้าพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว”ไกอาหยักยิ้มขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เหนือกว่า อันที่จริงเธอแทบจะหลุดขำออกมาด้วยซ้ำ เขาเป็นพวกฆ่าได้แต่หยามไม่ได้งั้นสินะ“ข้าไม่สนใจว่าระหว่างพวกเจ้าสองคนนั้นมันยังไงกัน แต่ในยามนี้ข้าอยากจะพูดคุยกับไกอา..แบบเป็นการส่วนตัว ในเมื่อดยุคมีนัดกับเลดี้นาญา เช่นนั้นในวันนี้ท่านก็ควรจะปล่อยมือของไกอาซะ”เคียนปัดมือของคาเรนออกในทันที ไกอายังไม่ทันจะได้ตั้งตัวเธอก็ถูกเขาลากไปอีกทางแล้วคาเรนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ตรงที่องค์รัชทายาทแย่งชิงยัยไกอาตัวร้ายไปจากเขา แน่นอนว่าเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากมาย นอกการเสียหน้านิดหน่อย และ..ไม่ว่ามองจากทางไหน เลดี้ไกอาและองค์รัชทายาทจะต้องมีอะไรที่มันพิเศษมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้ และเขาต้องแย่งชิงนางมาจากองค์รัชทายาทให้ได้เลยคอยดู..รู้สึกสูญเสียบ้างสิคาเบเรียน ไม่อย่างนั้นจะเป็นองค์รั
เป็นอีกครั้งที่ไกอาอาจจะต้องถามตัวเองว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เพราะท่านดยุคคาเรนที่เราไม่ได้สนิทกันเลยกำลังยืนโอบเอวของเธอราวกับเราสนิทสนมกันมากเธอเงยหน้ามองหน้าของท่านดยุคด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย“ก็ครั้งที่แล้ว ก่อนที่เราแยกจากกันเจ้าเป็นคนเอ่ยปากนัดข้าเองว่างานในครั้งหน้า เราค่อยมาสานต่อจากครั้งที่แล้ว..ลืมแล้วงั้นหรือเจ้ากวางน้อย”กวางน้อยกวางใหญ่อะไรกันวะ! เธอพูดตอนไหนก่อนว่าจะมาสานต่ออะไรนั่น ในวันนั้นเท่าที่จำได้เป็นเขาด้วยซ้ำที่หนีออกไปก่อนที่เธอจะตื่น!!“ท่านดยุคคะ..”“หมับ!!”ไวกว่าคำพูดของเธอคือมือขององค์รัชทายาทที่ยื่นมากำข้อมือของเธอเอาไว้แน่นมากพอสมควร พระองค์ทรงจ้องมองเธอด้วยความโกรธในแบบที่คูณสองจากตอนแรกที่เราพบเจอกันเคียนกัดกรามแน่น เขานอนไม่หลับ ทุกครั้งที่หลับตาภาพของเธอก็จะฉายชัดขึ้นมาในทันที และที่เขาเป็นเช่นนั้นเขาคิดว่าความทรมานทั้งหมดของเขามันเกิดจากเธอ เกิดจากความน่ารักที่แสนไร้เดียงสานั่นของเธอ แต่ทว่ามันกลับกลายเป็นเหมือนเขาเป็นคนโง่ เธอเก่งกาจเรื่องการปั่นหัวคนอื่นและหลอกลวงอย่างนั้นหรือ เธอมองเขาเป็นอะไรกัน ของเล่น? หรือคนหน้าโง่ที่มาหลงเสน่ห์เธ
“เป็นอย่างไรเล่า ข้าบอกไปแล้วว่าพระพักตร์ขององค์รัชทายาทนั้นทรงหล่อเหลาและงดงามประดุจพระเจ้าทรงปั้น..”เสียงของโนแอลนั้นดังไปไม่ถึงไกอาเลยดวงตาสีอัญมณีจับจ้องมองไปยังใบหน้าที่มันน่าเหลือเชื่อมากทีเดียว คราแรกเธอคิดว่าตัวเองตาฝาด แน่นอนว่าเธออาจจะคิดถึงโจรผู้นั้นมากเกินไป และทำให้เกิดภาพหลอนขึ้นมา เหมือนกับว่ามองบุรุษคนไหนก็เป็นเขาแต่ไม่ใช่เลย เธอหยิกแขนตัวเองไปแล้วสองรอบ แน่นอนมันเจ็บและยังคงเป็นรอยแดงอยู่ไม่จางหายไปไหนโจรผู้นั้นที่เธอพบเจอเขาในย่านการค้าจนเราเกือบจะทำอะไรที่มันเกินเลยกันไปคือองค์รัชทายาทของนอลข่านนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย เรื่องตลกร้ายประเภทใดกันแล้วเธอดันเสนอหน้ามานั่งด้านหน้าสุดและนั่งตรงข้ามกับเขาด้วย อากาศในยามค่ำคืนถึงแม้ว่าจะอยู่ในห้องโถงจัดเลี้ยงนะพระราชวังแต่ทว่าก็ยังคงรู้สึกเหน็บหนาวไม่น้อย แต่ทว่าไกอารู้สึกได้ถึงเม็ดเหงื่อเย็นๆ ที่กำลังชุ่มไปตามแผ่นหลังและมือทั้งสองข้างของเธอเมื่อได้ลองค้นเข้าไปในลิ้นชักแห่งความทรงจำ ก่อนจากลาเธอจำได้ว่าเขานัดให้เธอไปพบเขาอีกครั้ง ในวันรุ่งขึ้น และเพราะว่าร่างกายของเธอมันเต็มไปด้วยรอยแดงเต็มไปหมด ทำให้โรสไม่ยินยอมใ
ไกอาคลี่ยิ้มบางที่แสนอ่อนโยนให้กับสตรีที่เดินเข้ามาทักทายเธอ“ขออภัยที่เสียมารยาทค่ะ ข้าชื่อว่านาญาค่ะ นาญาแห่งอิลบา ลูกสาวของท่านเคาน์อิลบาผู้ปกครองเหมืองทองของราชอาณาจักร”นั่นคือการแนะนำตัวหรือว่าการประกาศออกมาเพื่อโอ้อวดกันแน่ เรื่องนั้นไกอาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะเลดี้นาญา”นาญาส่งยิ้มกับไกอาด้วยรอยยิ้มที่ว่างเปล่า แน่นอน..มันว่างเปล่าเพราะไม่ได้มีความยินดีอยู่ในนั้นเลย“ข้าทอดทิ้งโนแอลมานานพอสมควรแล้ว เช่นนั้นข้าไม่รบกวนเวลาของเลดี้นาญาแล้วค่ะ”นาญากระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยพร้อมกับก้มหน้าลงเพื่อเป็นการกล่าวอำลาแก่สตรีจากจักรวรรดิ“ให้ตายเถอะเลดี้ไกอานั้นงดงามเสียยิ่งกว่าคำบอกเล่าของพี่ชายข้าอีก”สตรีคนหนึ่งในกลุ่มพูดออกมาและเมื่อนาญาได้ยินคำกล่าวนั้นเธอก็กลั้วหัวเราะในลำคอทันที“นั่นเรียกว่างดงามอย่างนั้นหรือ ผอมแห้งเกินไปแถมใบหน้านั้นก็นับว่าจืดชืด ที่โดดเด่นเพราะว่านางพึ่งมาอยู่ที่นอลข่านต่างหาก แต่หากอยู่ไประยะหนึ่งข้าคิดว่านางจะต้องหมดความนิยมจากเหล่าบุรุษของที่นี่..พวกเขาก็แค่ชื่นชอบของใหม่เท่านั้น มีอะไรให้เราใส่ใจกัน”นาญายกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม