แต่ไม่จำเป็นต้องตื่นตกใจ แค่ให้เสิ่นหรูโจวกินก่อน ถ้านางตายก็ยืนยันได้ว่านางโกหกและกล่าวหาผู้อื่นและเขาชนะโดยไม่ต้องสู้ ได้เป็นหมอเทวดาเหมือนเดิมและเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตศิษย์รักผู้สำเร็จราชการแทนด้วย!ที่สำคัญกว่านั้น หากเสิ่นหรูโจวตายแบบนี้ เขายังสามารถไปขอรับรางวัลที่พระชายารองได้แค่นึกถึงรอยยิ้มของมู่หว่านหรง กระดูกของเขาก็อ่อนระทวยลงและภายในใจมีความกล้าเพิ่มขึ้นไม่น้อย “ได้! ทำตามที่พระชายากล่าว!”เสิ่นหรูโจวฉีกยิ้ม “เช่นนั้นก็มาเริ่มกันเลย”ลู่หวายหนิงเทยาสลายจิตออกมาสองเม็ดมอบให้ทั้งสองคนพร้อมกล่าว: “ยาพิษนี้ต้องแก้พิษภายในธูปหนึ่งดอก ไม่เช่นนั้นยาพิษจะเริ่มออกฤทธิ์และเจ็บปวดจนตายทั้งเป็น”เขาพูดพร้อมส่งสายตาอันแหลมคมดุจใบมีดน้ำแข็งให้กับกงฉางจื้อคน ๆ นี้ต่ำช้าไร้ยางอาย กล้าสวมรอยเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเขาและยังกล่าวหาพี่คนสวย ควรให้เขาลิ้มลองความทุกข์สักหน่อยกงฉางจื้อมองยาพิษในมือแล้วใจเต้นเล็กน้อยเสิ่นหรูโจวเห็นท่ากลัวหัวหดของเขาแล้วฉีกยิ้มกว้างราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งอยู่ริมหน้าผา“กินสิ หมอเทวดากง”กงฉางจื้อถลึงตาใส่นางทันทีและถามกลับ: “ทำไมพระชายาถึงไม่กิน
ชาติก่อนในฐานะที่กงฉางจื้อเป็นหมอประจำของมู่หว่านหรง ชื่อเสียงของเขาโด่งดังมาก แต่ทว่าเขากลับไม่รู้วิชาหมอเลยตอนอยู่ในจวนก็รวมหัวกับมู่หว่านหรงกลั่นแกล้งเฟิงอวิ๋น คอยคิดจะทำร้ายนางตลอด ตอนอยู่นอกจวน เพราะชื่อเสียงโด่งดังมากเกินไปจึงหลีกเลี่ยงที่จะแสดงฝีมือไม่ได้ในบางครั้ง ทำให้รักษาคนไข้อาการไม่หนักจนถึงแก่ความตาย มิหนำซ้ำยังโยนความผิดให้กับคนไข้ด้วย อำมหิตชั่วร้ายที่สุด!คนเช่นนี้กลับมีชีวิตที่ดีมากในชาติก่อน ให้อภัยไม่ได้จริงๆสีหน้าของกงฉางจื้อมืดทมึงราวกับเถ้าถ่าน เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเสิ่นหรูโจวจะรู้วิชาหมอจริง!นี่นางหลอกเขาเสียจนมุม! เขาจ้องมองยาพิษในมือเม็ดนั้น นิ้วมือสั่นเทาไม่ยอมกลืนลงไปสักที“ในเมื่อพระชายาถอนพิษได้แล้ว แสดงว่าพระชายารู้วิชาหมอจริง เช่นนั้นก็ถือว่าพระชายาเป็นคนช่วยชีวิตนายน้อยลู่ไว้แล้วกัน ความดีความชอบนี้ ข้าไม่เอาก็ได้” ดูท่าแล้ว เขาวางแผนจะไม่กินเป็นแน่? ฉินอวี่คับแค้นใจที่หมอเถื่อนคนนี้ฝังเข็มให้กับนายน้อยของเขามั่วซั่วมาก เมื่อเห็นว่ากงฉางจื้อไม่ยอมกินยาเข้าไป เขาพลันเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจทันทีว่า “เจ้าทำเช่นนี้ขี้โกงกันชัดๆ แม้แต่พระชายายังก
“ใบสั่งยาที่หมอเถื่อนจ่ายให้ สามารถฆ่าคนได้ไม่ใช่หรือ เหตุใดพระชายารองถึงไม่เป็นอะไร มิหนำซ้ำอาการป่วยยังดีขึ้นด้วย ช่างน่าประหลาดใจจริง ๆ ”สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนยิ่งดูไม่สบอารมณ์ แววตาดุดันอาการป่วยของหว่านหรงนั้นร้ายแรง ทว่ากงฉางจื้อที่แม้แต่พิษธรรมดา ๆ ก็ถอนไม่เป็นจะรักษาให้หายได้หรือหรือว่าหว่านหรงไม่ได้ป่วยแต่แรก นางเพียงแค่ร่วมมือกับกงฉางจื้อ เพื่อแสดงละครให้เขาดูเท่านั้นกงฉางจื้อเจ็บปวดจนน้ำตาน้ำเหงื่อไหลรวมกัน แต่ก็ไม่วายที่จะพูดแก้ตัวให้กับมู่หว่านหรงว่า“ไม่ ท่านอ๋อง ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของพระชายา ยาเม็ดนี้ไม่เหมือนกัน ดังนั้นข้าจึงถอนไม่เป็น!”“พระชายารองไม่ได้หลอกลวงท่าน ท่านอย่าคล้อยตามพระชายา! พระชายาเป็นคนชั่ว!”“ท่านอย่าลืมว่านางใช้วิธีชั่วร้ายบังคับให้ท่านสู่ขอนาง! พระชายารองเป็นผู้ช่วยชีวิตของท่าน นางจริงใจต่อท่านมากจะหลอกท่านได้อย่างไร”คำพูดนี้กระทบหัวใจของเซียวเฉินเหยี่ยน คิ้วที่ขมวดย่นของเขาคลายออกเล็กน้อยจริงด้วย หว่านหรงเสียสละชีวิตเพื่อช่วยเขา แล้วจะหลอกเขาได้อย่างไร…กงฉางจื้อเจ็บปวดราวกับตับไตไส้พุงถูกตัดเป็นท่อน ๆ เสียงที่พูดอ่อนแรงลงไม่
เขาจะให้เสิ่นหรูโจวชดใช้ในสิ่งที่ทำ ด้วยความสัมพันธ์ของเขากับพระชายารอง พระชายารองไม่มีทางวางมือและต้องแก้แค้นให้เขาแน่!เสิ่นหรูโจวอ่านปากที่ขยับของเขาออกและขมวดคิ้วทันทีหมายความว่าอย่างไร เขายังมีแผนสำรอง?ทันใดนั้น ร่างกายของกงฉางจื้อพลันชักและลมหายใจก็หยุดทันทีเซียวเฉินเหยี่ยนมองกงฉางจื้อที่ตายตาไม่หลับแวบหนึ่ง จากนั้นถึงขยับสายตามองไปที่เสิ่นหรูโจวฝีมือโหดเหี้ยมจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าทำคนตายจริง ๆแม้ว่าเมื่อก่อนเสิ่นหรูโจวเป็นคนเด็ดเดี่ยวแต่ไม่ถึงขั้นทำให้จนตรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาอยู่ต่อหน้าเขา นางไม่เคยประพฤติตนเป็นคนแข็งแกร่งเช่นนี้ ราวกับว่านางในตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นอีกคนแล้วเขาหรี่ตาที่เรียวยาวลง นัยน์ตาที่ดำดิ่งลุ่มลึกจ้องไปที่ใบหน้าอันงดงามของเสิ่นหรูโจวเหตุใด เขาถึงรู้สึกว่าคนที่อยู่ภายใต้ผิวหน้านี้ไม่ใช่คนเดียวกันกับเมื่อก่อน……กงฉางจื้อตายแล้ว ใบหน้าของลู่หวายหนิงกับฉินอวี่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ราวกับไม่มีความเห็นใจแม้แต่เสี้ยวเดียวคนเราทำอะไร สวรรค์ล้วนจับตามองอยู่ ทำความชั่วมากย่อมพิฆาตตนเอง!และการแก้แค้นอย่างฉับไวของเสิ่นหรูโจวก็ชวนให้รู้สึกน่าชื่
แม้ว่า แต่ว่า พระชายาอ๋องอู่เฉิงผู้นี้ มีบุคลิกของแม่ทัพจริง ๆ !ต้องเข้าใจว่า นี่เป็นความผิดที่ไม่ให้การเคารพ อย่าว่าแต่อ๋องอู่เฉิงผู้มีสถานะสูงส่งเช่นนี้ ต่อให้เป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไป ก็มีส่วนน้อยมากที่สตรีจะกล้าตบหน้าสามี!แต่ว่า อ๋องอู่เฉิงเข้าใจพระชายาผิด ทั้งด่าทั้งตี ถูกตบไปสองฉาด ก็สมน้ำหน้า!มือขวาของฉินอวี่แอบวางบนฝักกระบี่ที่บริเวณเอว ถ้าหากอ๋องอู่เฉิงกล้าทำอะไรไม่ดีต่อพระชายา เขาจะชักดาบทันทีอย่างไรก็เป็นผู้มีพระคุณของนายน้อยเห็นได้ชัดว่าเซียวเฉินเหยี่ยนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ บนใบหน้าของเสิ่นหรูโจวกลับมีรอยยิ้มที่ราวกับดอกไม้ผลิบาน น้ำเสียงแฝงไปด้วยความไม่ให้เกียรติ“ท่านอ๋องอย่าร้อนใจ เงื่อนไขข้อแรกของข้าก็คือ จะตีจนท่านอ๋องลงจากเตียงไม่ได้ การตบหน้าสองฉาดเป็นเพียงแค่การเรียกน้ำย่อย นี่ยังไม่เพียงพอหรอก”สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนแข็งทื่อไปทันที คิดไม่ถึงว่าเสิ่นหรูโจวยังอยากจะตีจนเขาลงจากเตียงไม่ได้? จิตใจอำมหิตเสียจริง!เพลิงโกรธใกล้จะระเบิดขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่กลับไม่สามารถระบายออกมาได้ ทำได้แค่เพียงกล้ำกลืนฝืนทนเขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่งด้วยสีหน้าอึมครึม หลังจาก
“สตรีคนอื่นต่างก็อ่อนโยนราวกับน้ำ เคารพนอบน้อมต่อสามี แต่เจ้าล่ะ? ในฐานะที่เป็นภรรยา ไม่เพียงไม่ช่วยเหลือสามีรักษาหน้า ยังทำให้ข้าต้องอับอายขายขี้หน้า เป็นสตรีที่ไร้ซึ่งเหตุผล!”เขาผู้เป็นท่านอ๋องผู้สง่าผ่าเผยถูกตบหน้าสองฉาดต่อหน้าทุกคน เรียกได้ว่าเป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง!เสิ่นหรูโจวถูกเขาตะคอกใส่จนเจ็บแก้วหู นางพลางนวดหู พลางจ้องเซียวเฉินเหยี่ยนนางหัวเราะพรวดเบา ๆ เอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่เสแสร้ง “ถ้าหากท่านอยากได้สตรีที่อ่อนโยน ไปหามู่หว่านหรงได้ ข้าไม่มีทางทำตัวเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด”“เฮอะ ข้าก็คิดว่าเจ้าทำเช่นนั้นไม่ได้เช่นกัน” ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวเฉินเหยี่ยนตึงเครียด เหลือบตามองฉินอวี่แวบหนึ่ง ฉินอวี่หน้านิ่ง ราวกับตัดขาดจากทางโลกไม่อยากขายขี้หน้าต่อหน้าคนนอก เซียวเฉินเหยี่ยนกำลังจะก้าวขาเดินจากไป เสิ่นหรูโจวเรียกเขาเอาไว้ “ท่านห้ามลืมว่า ยังติดค้างคำสัญญากับข้าอยู่สามข้อ”เซียวเฉินเหยี่ยนชะงักฝีเท้าลง หันหน้ากลับมามอง เผยให้เห็นใบหน้าด้านข้างที่สมบูรณ์แบบ “จะเสนอเงื่อนไขย่อมได้ มาหารือกันในห้องของข้า”พูดจบ เขาก็เดินออกจากคุกเสิ่นหรูโจวลงมือหนักจริง แก้มทั้งสองข้างของเขา
จากนั้นมู่หว่านหรงจึงฉวยโอกาสราดน้ำมันลงไปบนกองไฟ เช่นเดียวกันกับตอนนี้ ที่ร้องไห้อย่างเสแสร้ง ตัดสินโทษนาง ถึงเวลา เซียวเฉินเหยี่ยนจะต้องโยนนางออกไปแน่ ถึงเวลานั้น นางจะต้องตายแน่นอนเสิ่นหรูโจวหัวเราะเยาะหยัน “เฮอะ”เพื่อจัดการนาง ถึงขนาดไม่สนใจชีวิตของคนอื่น! มู่หว่านหรงเสียสติไปแล้วจริง ๆ!แต่มู่หว่านหรงคิดถึงไม่แน่นอนว่า ตอนที่นางทำการรักษาให้แก่ลู่หวายหนิง ยาที่ให้เขากินนั้นสามารถถอนได้ร้อยพิษ ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีการอะไร ยาพิษหรือว่าเข็มพิษ ก็ไม่สามารถเป็นภัยต่อชีวิตของลู่หวายหนิงได้น่าเสียดายที่ตอนนี้ลู่หวายหนิงไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นอยากจะเห็นเสียจริงว่าตอนที่มู่หว่านหรงเห็นว่าลู่หวายหนิงยังมีชีวิตอยู่ จะมีสีหน้าอย่างไร...“การแสดงนี้จบมาจากที่ใดกัน?”เสิ่นหรูโจวเดินออกมาจากคุกอย่างช้า ๆ ฉินอวี่เดินตามด้านหลังของนางด้านนอกห้องขัง มู่หว่านหรงร้องไห้อย่างจริงจัง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตาเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสิ่นหรูโจวเห็นท่าทางนี้ของนาง เกือบจะหัวเราะออกมา ศิลปะการแสดงใหญ่โตเช่นนี้ อยู่ที่จวนอ๋องแห่งนี้ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่เสียจริงแต่ว่าร้องไห้ตอน
บนใบหน้าของมู่หว่านหรงเต็มไปด้วยความจริงใจ ภายในใจกลับกำลังยิ้มเยาะแน่นอนว่าคำพูดพวกนี้แค่พูดไปอย่างนั้น ท่านอ๋องเอ็นดูนางมาตลอด รังเกียจเสิ่นหรูโจว ไม่มีทางให้นางรับผิดชอบจริง ๆเสิ่นหรูโจวจ้องมองมู่หว่านหรงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน่าขัน สีหน้าเรียบเฉย ราวกับมองเรื่องทั้งหมดได้อย่างทะลุปรุโปร่งตั้งแต่แรกมู่หว่านหรงเหยียบนางก่อน แล้วค่อยเป็นฝ่ายออกมายอมรับ ก็คืออยากจะแสดงความรู้ความและมีน้ำใจไม้ตายนี้ ชาติที่แล้วมู่หว่านหรงมักจะใช้อยู่บ่อย ๆ พูดได้ว่าทดลองหลายครั้งแล้วอย่างไรก็ไม่พลาด ได้รับความเมตตาจากเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น้อย ทำให้นางถูกเพ่งเล็งไม่น้อยแต่ว่า ท่าไม้ตายในวันนี้ เกรงว่าจำให้มู่หว่านหรงผิดหวังแล้วเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ดวงตาดำขลับของเซียวเฉินเหยี่ยนมืดครึ้มลงทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงหมดความอดทน “หว่านหรง ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะได้ข่าวมาได้อย่างไร เรื่องก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า อย่าได้สอด กลับไปพักผ่อนเถิด”หว่านหรงกำลังทำอะไรกันแน่ ทันทีที่มาก็ตำหนิเสิ่นหรูโจวด้วยเรื่องที่ปั้นแต่งขึ้น ทั้งยังยอมรับผิดแทนเสิ่นหรูโจว ยอมรับผิดอะไร?เสิ่นหรูโจวยิ้มเยาะ ขอบริมฝีปากมีรอ
เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก
เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ
เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก
เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้
สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้
ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห
ฉินหมิงตะลึงไป ถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ท่านอ๋องไม่เป็นอะไร? คำพูดนี้ของนายน้อยหมายความว่าอย่างไร?”ลู่หวายหนิงดึงฉินหมิงเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด พยายามระงับความตื่นเต้น ลดเสียงเบาลงแล้วกล่าวว่า “ความหมายก็คือบนร่างของอาจารย์ไม่มีผื่นขึ้น อาจารย์อาการภูมิแพ้ไม่กำเริบตอนอยู่กับพี่สาวน่ะสิ” ดวงตาทั้งคู่ของฉินหมิงเบิกกว้าง พูดอย่างตกใจว่า “จริงหรือขอรับ?”ลู่หวายหนิงหัวเราะออกมา “จริงแท้แน่นอน ข้าทำการยืนยันแล้ว” ฉินหมิงรู้สึกไม่อยากเชื่อ “หลายปีมานี้ ไม่ว่าสตรีนางใดสัมผัสท่านอ๋อง ก็ล้วนทำให้ท่านอ๋องเกินอาการแพ้ มีเพียงหญิงที่นายท่านพบในปีที่แล้วนางนั้นที่ไม่เป็นไร” “พูดไปแล้ว ตามหาสตรีนางนั้นไม่เจอเสียที ช่างน่าเสียดายนัก คิดไม่ถึงว่าพระชายาของอ๋องอู่เฉิงก็ไม่ทำให้นายท่านเกิดอาการแพ้เช่นกัน ช่างเป็นเรื่องดีจริงๆ ราวสวรรค์ได้สรรค์สร้างมา” “นั่นสิ!” ลู่หวายหนิงเห็นด้วยอย่างมาก “อาจารย์หาผู้หญิงคนนั้นไม่เจอสักที อย่างนั้นพี่สาวก็เป็นคู่ชะตาที่สวรรค์ลิขิตมาให้อาจารย์แล้ว! ถ้าพวกเขามาอยู่ด้วยกันเร็วหน่อยก็ดี ข้าแทบรอวันนั้นไม่ไหวแล้ว!”ฉินหมิงพยักหน้า จากนั้นก็รีบส่ายหน้าอย่างรุนแรงทันที “
ในขณะที่พูด เขาก็ยื่นศีรษะเข้าไป มองซ้ายมองขวาเป่ยซิวเยี่ยนยื่นมือออกไปผลักหัวของเขาเบาๆ “ไม่ต้องดูแล้ว ไม่มีหรอก” ลู่หวายหนิงตกใจอย่างมาก ดวงตาเบิกจนกลมโตมองไปที่เป่ยซิวเยี่ยนบนใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของเป่ยซิวเยี่ยน ก็มีความประหลาดใจอยู่อย่างเลือนรางเช่นกันลู่หวายหนิงยังคงรู้สึกไม่ยากที่จะเชื่ออยู่บ้าง จึงทำการยืนยันอีกครั้ง “อาจารย์ขอรับ เมื่อครู่พี่สาวสัมผัสถูกท่านแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?” เป่ยซิวเยี่ยนเอนกายไปด้านหลัง พิงลงบนพนักเก้าอี้ ดวงตาล้ำลึกดุจบึงน้ำอันเยือกเย็นหรี่ลงเล็กน้อยเรื่องที่เขาเป็นภูมิแพ้ผู้หญิงมีน้อยคนนักที่จะรู้ เมื่อครู่คิดจะหยุดนางเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง แต่กลับทำให้เรื่องกลับตาลปัตรไปกุมมือของนางเข้าโดยบังเอิญ จนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ เขามั่นใจว่าอีกครู่อาการของตนต้องกำเริบ จึงปล่อยให้นางเปลี่ยนยาให้ตนเสียเลย คิดไม่ถึงว่า จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการผิดปกติอะไรอาการคันชาบริเวณเอวคล้ายจะยังไม่จางหายไป ปลายนิ้วที่เย็นเล็กน้อยตกลงบนหน้าท้องของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับการยั่วเย้า เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่หวายหนิงร้อ
เป่ยซิวเยี่ยนมองดวงหน้าที่งดงามดั่งหยกของนาง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง หัวใจของเขาก็อ่อนลงอย่างน่าประหลาด “ในเมื่อข้ารับปากเจ้าแล้ว ก็ไม่มีทางผิดคำสัญญา เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็ต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน”เสิ่นหรูโจวพลันหัวเราะออกมาแล้ว มองเป่ยซิวเยี่ยนอย่างซาบซึ้ง “ท่านผู้สำเร็จราชการ ท่านเป็นคนดีจริงๆ ข้าจะต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อรักษาท่านให้ได้แน่” ไม่ว่าในชาติก่อนเขาจะก่อกบฏ เพราะเหตุใด เหตุใดจึงถูกคนขนานนามว่าเป็นพญามัจจุราชที่มีชีวิต แต่สำหรับนางแล้ว เขาก็คือคนดีคนหนึ่งเป่ยซิวเยี่ยนตะลึงไปเล็กน้อย เมื่อเห็นรอยยิ้มที่แย้มบานราวบุปผาของนาง ริมฝีปากบางก็อดโค้งขึ้นเล็กน้อยไม่ได้เช่นกัน “คำชมของพระชายาช่างแปลกใหม่เหลือเกิน” นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนพูดว่าเขาเป็นคนดีแปลกใหม่? แปลกใหม่ตรงที่ใดกัน?เสิ่นหรูโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าบาดแผลของเขาได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว นางจึงถือกล่องยาขึ้นมา“ท่านผู้สำเร็จราชการ สองสามวันนี้บาดแผลของท่านกำลังสมานตัว จะคันอย่างมาก เพียงระวังอย่าไปเกาก็จะหายดีแล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว” เป่ยซิวเยี่ยนพยักหน้าเบาๆ รอจนเสิ่