“องครักษ์ฉินอวี่ นายน้อยของเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ที่‘ตายอย่างไม่ยุติธรรม’ เรื่องนี้เจ้าว่าอย่างไร?”ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกไป สีหน้าของมู่หว่านหรงก็ตะลึงงันไปทันที ในที่สุดก็มองไปทางฉินอวี่ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเสิ่นหรูโจวและในที่สุดฉินอวี่ก็อดเอาไว้ไม่ไหว ก้าวออกมาเอ่ยอย่างโมโห “พระชายารองเหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้? เห็นได้ชัดว่านายน้อยของข้าถูกพระชายาช่วยชีวิตกลับมาแล้ว ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ดี!”“พระชายารองพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่านายน้อยของข้าตายแล้ว ท่านปรารถนาให้นายน้อยของข้าตายอย่างนั้นหรือ? พระชายารองไม่เห็นนายท่านของข้าอยู่ในสายตาใช่หรือไม่?!”อะไรนะ?!สีหน้าของมู่หว่านหรงซีดขาว ตื่นตะลึงเกินคำบรรยาย “คุณชายน้อยของเจ้ายังไม่ตาย?!”เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ถ้าหากลู่หวายหนิงยังไม่ตาย เช่นนั้นกงฉางจื้อจะถูกพาออกมาจากคุกใต้ดินได้อย่างไร เหตุใดท่านอ๋องถึงได้โกรธจัด?บนลำคอของเสิ่นหรูโจว เหตุใดจึงมีรอยบีบ?!เสิ่นหรูโจวเหลือบมองสีหน้าของนาง ยิ้มเยาะหยันขึ้นมาทันที แน่นอนว่าลู่หวายหนิงยังไม่ตาย เป็นเพราะ กงฉางจื้อไม่มีโอกาสทำร้ายเขาเลยสักนิด“คิดไม่ถึงว่าเหตุใดเขายังไม่ตายใช่หรือไม่ ข้าจะเ
ยามนี้มู่หว่านหรงสีหน้าซีดขาว จับมือของหลิงเฟิงไว้แน่นไม่รู้จะทำเช่นใดเดิมนางคิดว่ากงฉางจื้อทำสำเร็จ เสิ่นหรูโจวจะจบเห่แล้ว ผลกลับเป็นกงฉางจื้อถูกเสิ่นหรูโจวจัดการจนตาย!นางยังแสดงละครที่กำกับเองเล่นเองอยู่ครึ่งวัน ยามนี้ถูกเสิ่นหรูโจวกดให้ดูศพ ราวกับมีฝ่ามือฉาดใหญ่ตบลงบนใบหน้าของนาง ตบจนทั่วทั้งร่างของนางงุนงงไปแล้วและการไต่ถามของเสิ่นหรูโจวและการยอมรับของเซียวเฉินเหยี่ยน ยิ่งทำให้นางหวาดหวั่นมากขึ้น มองเซียวเฉินเหยี่ยนด้วยดวงตาแดงระเรื่อยามนี้นางไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด ยิ่งไม่รู้ว่าเหตุใดกงฉางจื้อจึงตาย ทำได้เพียงดึงตนเองออกมาก่อน เพื่อไม่ให้พลอยติดร่างแหกับกงฉางจื้อไปด้วย“ท่านอ๋อง หว่านหรงผิดไปแล้วเจ้าค่ะ หว่านหรงได้ยินเพียงว่าท่านโมโหอย่างหนัก องค์รักษ์ฉินอวี่ก็มีโทสะอย่างรุนแรงเช่นกัน จึงคิดไปเองว่าคุณชายน้อยก็ถูกพระชายา….”“คิดไม่ถึงว่า จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นนี้ ขอ ขอท่านอ๋องและพระชายาโปรดลงโทษด้วย…”ยังไม่ทันกล่าวจบจบ เบื้องหน้าของนางก็มืดลง หมดสติลงไปบนพื้นอย่างกะทันหัน“พระชายารอง พระชายารอง” หลิงเฟิงกอดมู่หว่านหรง มองไปทางเซียวเฉินเหยี่ยนอย่างตื่นตระหนก “ท่าน
ลูกกลอนจินสุย?เสิ่นหรูโจวเลิกคิ้ว มู่หว่านหรงถึงกลับให้นางกินยาประเภทนี้?ลูกกลอนจินสุยเป็นยาต้องห้าม บรรเทาอาการเจ็บปวดได้ดีมาก ในช่วงเวลาสั้นๆเส้นประสาทจะถูกทำให้ด้านชา แต่มิได้หมายความว่าร่างกายจะหายดี อีกทั้งเนื่องจากมีฤทธิ์ที่เย็นเกินไป หลังจากรับประทานแล้วก็ยากจะมีทายาทได้อีกเหอะ หลิงเฟิงถือเป็นสุนัขรับใช้ชั้นดีตัวหนึ่งที่อยู่ข้างกายมู่หว่านหรง ทั้งวางแผนออกอุบาย และเชี่ยวชาญในการเป็นแพะรับบาป ชาติก่อนตอนที่มู่หว่านหรงใส่ร้ายนางแล้วถูกนางเปิดโปง สาวใช้นางนี้ยังเคยช่วยรับเคราะห์ตายแทนมู่หว่านหรงด้วยและด้วยเหตุนี้ ชาติก่อนนางจึงไม่มีโอกาสลงมือกับมู่หว่านหรงอีก การที่ศัตรูใช้ชีวิตอย่างสุขเสรีเช่นนี้ ทุกคราที่ยิ้มออกมา ล้วนแต่เป็นการหยามหมิ่นนางทั้งสิ้นภายในก้นบึงของดวงตามีประกายแข็งกร้าววาบผ่าน เสิ่นหรูโจวพลันยื่นมือออกไป นิ้วขาวราวหยกจิ้มลงบริเวณใต้กระดูกไหปลาร้าของหลิงเฟิงอย่างแรง กดลงบนจุดชีพจรความเจ็บปวดโจมตีเข้ามาอย่างฉับพลัน หลิงเฟิงเงยหน้ามองนางอย่างตื่นตระหนก “พระชายา นี่ทรงทำสิ่งใดเพคะ?”ฉินอวี่ที่มองดูอยู่ด้านข้างก็ไม่เข้าใจเช่นกันที่เสิ่นหรูโจวสกัดจุดชีพจรก็
ข่าวลือนั้นเชื่อถือไม่ได้จริงๆ!เสิ่นหรูโจวเหลือบมองซากศพบนพื้นที่เย็นสนิทแล้วครั้งหนึ่ง ในดวงตาสาดประกายเย็นยะเยียบสายหนึ่งกงฉางจื้อตายแล้ว มูหว่านหรงก็เหมือนปีกขาดไปข้างหนึ่ง หลินเฟิงซึ่งเป็นคนสนิทก็ล้มลงแล้วเช่นกัน ผลลัพธ์เช่นนี้นับว่าทำให้คนพอใจนักหลังการเกิดใหม่ แม้จะมีหลายเรื่องที่ในชาติก่อนไม่เคยเกิดขึ้น แต่ก็มิได้ขัดขวางโอกาสในการเอาชนะของนาง ค่อยๆบีบบังคับให้ศัตรูตายไปทีละคนนางเดินมุ่งหน้าออกไปด้านนอก ก็เห็นองครักษ์ที่อยู่ด้านนอก “ไปเก็บศพเถอะ”เหล่าองครักษ์พลันรับคำด้วยความเคารพ “พ่ะย่ะค่ะ พระชายา”พวกเขาเป็นคนที่เซียวเฉินเหยี่ยนเรียกตัวมา ยามปกติฟังเพียงคำสั่งของเซียวเฉินเหยี่ยนเท่านั้นทว่าหลังจากวันนี้ พวกเขาก็ไม่กล้าไม่เคารพไม่เชื่อฟังเสิ่นหรูโจวแล้วพระชายาไม่เพียงกำราบชายารองได้ ทั้งยังกล้าลงมือกับท่านอ๋องอีก!กล้าลงมือกับรัชทายาท แล้วยังอยู่รอดปลอดภัยได้ เช่นนี้ผู้ใดจะกล้าล่วงเกินกัน?!มีองครักษ์จัดการเก็บศพ เสิ่นหรูโจวจึงจากไปพร้อมกับฉินอวี่ก่อนกลับไปที่เรือน เสิ่นหรูโจวแวะไปพบลู่หวายหนิงก่อน ลู่หวายหนิงฟื้นขึ้นมาแล้ว คาดว่าคงจะอยู่ในจวนอ๋องต่อได้อีกไม่
ข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดของนายน้อย นายท่านล้วนต้องเข้ามาตรวจสอบ แม้ตัวเขาจะเชื่อใจพระชายา ทว่าภาพจำที่ผู้อื่นมีต่อพระชายายังคงหยุดอยู่ในอดีต ดังนั้น เขายังคงมีความจำเป็นที่จะต้องถามให้ละเอียด เพื่อเลี่ยงไม่ให้มิอาจตอบคำถามในยามที่นายท่านถามได้เสิ่นหรูโจวรู้ว่าฉินอวี่กังวลเรื่องใด จึงกล่าวอย่างเปิดเผยว่า “ตอนเป็นเด็กข้าศึกษาตำราแพทย์โบราณไม่น้อย สะสมไว้ก็ไม่น้อย ยามที่ยังไม่ได้ออกเรือน ชอบนำคนในจวนแม่ทัพมาฝึกฝนฝีมือ ข้ารู้วิชาแพทย์มาตลอด เพียงแต่คนนอกไม่รู้เท่านั้น”วิชาแพทย์ของนางศึกษาในชาติก่อน ชาตินี้เป็นวิชาอย่างไม่มีที่ไปที่มา ยากจะเลี่ยงมิให้ผู้คนคาดเดาไปต่างๆนานา มิสู้มอบเหตุผลให้สักข้อดีกว่าลู่หวายหนิงเชื่อเสิ่นหรูโจว ไม่ว่านางกล่าวสิ่งใดเขาล้วนเชื่อทั้งสิ้น กระทั่งตอนนี้เพียงแค่มองเสิ่นหรูโจว ในใจของเขาก็บังเกิดความปิติขึ้นมาพี่สาวคนสวยงดงามสะกดสายตาผู้คน ช่างคู่ควรกับท่านอาจารย์ยิ่งนัก!บนใบหน้าของเด็กหนุ่มปรากฏความจริงจังขึ้นมา “พี่สาว ท่านทั้งงดงามทั้งชาญฉลาด หากอาจารย์ของข้าได้พบท่าน จะต้องชมชอบท่านอย่างแน่นอน”“โอ๋?” คิ้วงามของเสิ่นหรูโจวเลิกขึ้นเล็กน้อย ทว่ามิได้
ท่านหมอชราประสานมือคำนับเขา กล่าวพร้อมเคราแพะสีเทาที่สั่นไหวว่า “ท่านอ๋องมิต้องทรงกังวลพ่ะย่ะค่ะ พระชายารองเพียงแค่เพลิงโทสะจู่โจมหัวใจ จึงหมดสติไปเท่านั้น ผู้น้อยจะสั่งยาให้พระชายารองเสวยลงไปก่อน จากนั้นค่อยดูอาการพ่ะย่ะค่ะ”เพลิงโทสะจู่โจมจิตใจ?หัวคิ้วของเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดเข้าหากัน แม้จะบอกว่ากงฉางจื้อเป็นหมอของนาง แต่ก็เป็นเพียงหมอผู้หนึ่งเท่านั้น จำจะต้องโกรธกริ้วร้อนใจเช่นนี้ด้วยหรือ?“เช่นนั้นก็รีบสั่งยาเถิด”หลังจากท่านหมอชราคำนับเสร็จก็จากไป เซียวเฉินเหยี่ยนร้องเรียกคนว่า “เด็ก ๆ ดูแลพระชายารองให้ดี”“บ่าวน้อมรับคำสั่งเพคะ” สาวใช้ในอาภรณ์สีเขียวนางหนึ่งก้าวออกมาเซียวเฉินเหยี่ยนกวาดตามองนางครั้งหนึ่ง “เหตุใดจึงเป็นเจ้า?”สาวใช้นางนี้ก็เป็นผู้ที่คอยปรนนิบัติอยู่เบื้องหน้าหว่านโหรวเช่นกัน เพียงแต่ดูแล้วไม่หัวไวเท่าหลิงเฟิงเท่านั้นถงอวิ๋นก้มศีรษะ ตอบตามตรงว่า “ทูลท่านอ๋อง เมื่อครู่พี่หลิงเฟิงเป็นลมไปแล้วเพคะ คิดว่าเป็นเพราะก่อนหน้าถูกโบย ยังไม่หายดีเพคะ”เซียวเฉินเหยี่ยนจึงพึ่งนึกขึ้นได้ว่า หลิงเฟิงยังถูกโบยด้วยเขามิได้กล่าวสิ่งใดอีก สาวเท้าจากไป กลับไปที่เรือนของตน
“ที่ก่อเรื่องหลังแต่งงาน ก็เป็นเพียงการเปลี่ยนวิธีแย่งความโปรดปรานเท่านั้น อยากให้พระองค์ทรงมองนางมากขึ้นอีกสักครั้ง แม้ผลลัพธ์จะมิได้ดีนัก แต่ท่านอ๋องก็ทรงสนพระทัยพระชายาอย่างมากแล้วจริงๆ ภายในสองวันสั้นๆ จำนวนครั้งที่พบพระชายา นึกถึงพระชายา เทียบกับเมื่อก่อนแล้วเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่าพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนแปลกไปเล็กน้อย “ข้าถึงกับให้ความสนใจนางเพียงนี้?”เห็นจวินอู่พยักหน้า ริมฝีปากบางของเซียวเฉินเหยี่ยนเม้มเล็กน้อย ในใจกลับรู้สึกอธิบายไม่ถูกว่า การที่เสิ่นหรูโจวใช้ลูกไม้แย่งชิงความโปรดปราน เทียบกับการที่นางคิดจะไต่เต้าขึ้นที่สูงแล้ว ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาก และสบายใจกว่ามากก็ใช่ หากในใจนางไม่มีเขา แล้วจะฝืนแต่งกับให้ได้เขาด้วยเหตุใดจวินอู่เห็นว่าเซียวเฉินเหยี่ยนไม่กล่าวสิ่งใด ก็อดถามไม่ได้ว่า “ท่านอ๋อง พรุ่งนี้พระชายากลับบ้านเดิม จะทรงเสด็จไปด้วยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ไม่เช่นนั้นหากไม่มีสวามีกลับไปด้วย นางจะถูกคนหัวเราะเยาะเอาได้?”เซียวเฉินเหยี่ยนหลุบขนตายาวลง ราวกับกำลังครุ่นคิดสิ่งใด ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบก็มิได้กล่าวแม้เพียงคำเดียว ……อาการป่วยของลู่หวายหนิงคงที่แล้ว
“อะไรนะ?” บนใบหน้าของเสิ่นหรูโจวมีความประหลาดใจวาบผ่าน “ไม่ใช่เสียหน่อย เหตุใดเจ้าจึงได้คิดเช่นนี้?”เมี่ยวตงคิดว่าที่นางพยายามช่วยลู่หวายหนิงอย่างยากลำบาก เป็นเพราะคิดอยากจะได้รับความโปรดปรานจากเซียวเฉินเหยี่ยน? นี่มันมาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร?เมี่ยวตงเบิกตากลมโต กล่าวตอบอย่างจริงจังว่า “แม้อุปนิสัยของพระองค์จะเปลี่ยนไปมาก แต่ข้าน้อยรู้ว่า ทรงรักท่านอ๋องอย่างลึกซึ้ง หัวใจรักที่มีต่อท่านอ๋องไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเพคะ”“ก่อนหน้านี้ พระชายาทรงอ่อนโยน มีเมตตาและคุณธรรม แต่ท่านอ๋องไม่ทรงโปรด ยามนี้พระชายาทรงกระทำสิ่งต่างๆอย่างห้าวหาญ ไม่ยึดติดกับกฎระเบียบ คนทั้งคนเข้มแข็งขึ้นมา กลับกลายเป็นดึงดูดความสนใจของท่านอ๋อง จนแม้แต่พระชายารองก็ทรงสนพระทัยน้อยลง นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ว่า นี่ทำให้ทรงได้รับความน้อยใจมากเกินไปหรือเปล่าเพคะ”คุณหนูเพื่อช่วยลู่หวายหนิงแล้ว สถานการณ์พลิกผันไปมา ได้รับความยากลำบากมากมายเริ่มจากถูกคนเข้าใจผิด ท่านอ๋องไม่สอบถามเรื่องราวให้กระจ่างก็ลงมือทำร้ายคน ตีจนคุณหนูกระอักเลือดแล้ว! จากนั้นก็นำคุณหนูไปขังไว้ในคุกใต้ดินที่ทั้งหนาวทั้งชื้นนั่นอีก ในยามที่คุณหนูออกม