แชร์

บทที่ 235

ผู้เขียน: มู่มู่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-06-24 17:00:00
เสิ่นหรูโจวมองเขาอย่างคาดไม่ถึงทีหนึ่ง การกระทำที่ใจกว้างและมีมารยาทเช่นนี้ ทำให้ความประหม่าตลอดทางเมื่อครู่ของนางดูเหมือนจะเป็นพวกคิดเล็กคิดน้อยไปแล้ว นางมิได้จับมือของเขาโดยตรง ทว่าจับข้อมือของเขาไว้แล้วลงจากม้า

“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ” นางค้อมศีรษะยิ้มบางๆ

ในเวลานี้ ลู่หวายหนิงก็ตามกลับมาที่ด้านหลังเช่นกัน

เขาลงจากม้า เดินเข้ามาอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอาจารย์ พี่สาว พวกท่านควบม้าเร็วเกินไปแล้ว ข้าตามไม่ทันเลย”

ดวงตาใสกระจ่างของเขามีความเจ้าเล่ห์สายหนึ่งวาบผ่าน ที่จริงแล้วเขาตามอยู่ด้านหลังคอยดูพวกเขาอยู่ตลอด แต่เขาจงใจรักษาระยะห่าง เพื่อไม่ไปรบกวนภาพแสนสวยงามนั่น

เป่ยซิวเยี่ยนมิได้กล่าวสิ่งใด เดินตรงเข้าไปในจวนอุปราช

ลู่หวายหนิงก็รีบดึงเสิ่นหรูโจวตามไปเช่นกัน

ในห้องหนังสือ เป่ยซิวเยี่ยนถอดเสื้อคลุมออก พาดไว้บนราวแขวน

“ยาของเจ้าข้าได้เห็นแล้ว ไม่เลวจริงๆ ยาแก้ปวดแก้อักเสบเป็นสิ่งจำเป็นในสนามรบจริงๆ ข้าสามารถร่วมมือกับเจ้าได้ ข้าออกเงินเจ้าออกแรง”

เขานั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ หยิบน้ำชาที่เตรียมไว้เรียบร้อยก่อนแล้วบนโต๊ะขึ้นมา หลังจิบเบาๆ ไปคำหนึ่ง สายตาก็มองไปที่เสิ่นหรูโจว “เจ้ามีเท่าไห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 236

    ในที่สุด ความร่วมมืออันน่ายินดีก็บรรลุผลแล้ว ลู่หวายหนิงก็มีความสุขอย่างมาก เขากล่าวอย่างร่าเริงว่า“ดีเหลือเกิน แบบนี้พวกทหารก็มีทางรอดแล้ว โชคดีที่ได้พี่สาวช่วย หากเหล่าทหารรู้ว่าเป็นพี่สาวจัดหายาให้พวกเขา จะต้องรู้สึกขอบคุณท่านมากอย่างแน่นอน” “ควรขอบคุณท่านผู้สำเร็จราชการแทนมากกว่า” นางมองไปที่เป่ยซิวเยี่ยนด้วยแววตาชื่นชม “ผู้สำเร็จราชการแทนห่วงใยราษฎร คอยทำเพื่อพวกเขาอย่างเงียบๆ มาโดยตลอด” ในมุมมองของนาง เป่ยซิวเยี่ยนมิใช่ขุนนางทรงอำนาจที่คนเพียงพูดถึงก็หน้าถอดสีด้วยความหวาดกลัวนานแล้ว แต่เป็นขุนนางน้ำดีที่ทำเพื่อปวงประชาแม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดหลายปีต่อจากนี้เขาต้องก่อกบฏ แต่เขาก็เป็นขุนนางที่ดีจริงๆเป่ยซิวเยี่ยนมองสบสายตาชื่นชมของนาง สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า “เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว ไม่มีอะไรให้ควรค่าแก่การพูดถึง” “ไม่ใช่เพียงแค่นี้” เสิ่นหรูโจวหัวเราะเบาๆ ทีหนึ่ง แววตาของนางอ่อนโยนและจริงใจ“ท่านผู้สำเร็จราชการแทนให้ความเท่าเทียมต่อชายหญิง ไม่ดูแคลนอิสตรี และยังมีมารยาทอย่างมาก เต็มใจที่จะช่วยเหลือผู้คน สรุปแล้ว เมื่อได้สัมผัสกับท่านผู้สำเร็จรา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-25
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 237

    เมื่อกล่าวจบ เขายังขยิบตาให้เป่ยซิวเยี่ยนด้วยเป่ยซิวเยี่ยนขมวดคิ้วมองเขาทีหนึ่ง “กินข้าวก็กินข้าว เหตุใดจึงได้พูดมากถึงเพียงนี้” ลู่หวายหนิงมุ่ยปากน้อยๆ ของตน ก้มลงเคี้ยวข้าวอย่างไม่สบอารมณ์อาจารย์ช่างไม่เข้าใจความพยายามของเขาเลยเห็นเขาถูกดุ เสิ่นหรูโจวก็รู้สึกสงสารอยู่บ้าง จึงหันหน้าไปพูดกับเขาว่า “หวายหนิงช่างต้อนรับแขกอย่างกระตือรือร้นจริงๆ” พึ่งพูดจบ เมื่อหันกลับมา นางก็เห็นผัดหน่อไม้อ่อนสะดุ้งไฟจานนั้นวางอยู่เบื้องหน้าของตนเสิ่นหรูโจวมองเป่ยซิวเยี่ยนด้วยดวงตาที่เบิกขึ้นเล็กน้อยอย่างงุนงง เป่ยซิวเยี่ยนชักมือกลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วกินข้าวต่อราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นลู่หวายหนิงเมื่อเห็นเช่นนั้นก็แย้มยิ้มอย่างเบิกบาน อาจารย์ช่างรู้ความเหลือเกิน!เขารีบพูดกับเสิ่นหรูโจวทันทีว่า “พี่สาว อาจารย์ตั้งใจสละของดีให้ท่านโดยเฉพาะเลยนะ ดูสิว่าเขารู้จักรักถนอมคนเพียงใด! ท่านก็อย่าได้ผิดต่อความตั้งใจของเขา รีบกินให้มากหน่อย” มือที่ถือตะเกียบของเป่ยซิวเยี่ยนชะงักเล็กน้อย ส่งสายตาอันยากอธิบายไปที่ลู่หวายหนิงเหตุใดเรื่องต่างๆ เมื่อถูกเขาพูดออกมาก็จะให้อารมณ์ที่แตกต่างออกไป?

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-26
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 238

    ลู่หวายหนิงมีท่าทีแบบ ‘ข้าเข้าใจทุกอย่าง’ จากนั้นก็หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์“อาจารย์ ท่านก็อย่าได้ปิดบังอีกเลย วันนี้ท่านถึงขนาดให้พี่สาวอยู่กินข้าวด้วยแล้ว ท่านจะต้องชอบนางอย่างแน่นอน คิดจะแต่งนางกลับมาเป็นอาจารย์หญิงของข้า ใช่ไหมขอรับ!” ดวงตาของเป่ยซิวเยี่ยนหรี่ลง ถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่ง จากนั้นยื่นมือไปดีดหน้าผากของลู่หวายหนิงอย่างแรงครั้งหนึ่ง“หุบปาก เจ้าอายุยังน้อยเช่นนี้ ทั้งวันในหัวเอาแต่คิดสิ่งใดกันนะ?” ลู่หวายหนิงถูหน้าผากของตน บ่นพึมพำอย่างไม่ยินยอมว่า “แม้หวายหนิงอายุยังน้อย แต่สิ่งที่ควรรู้ก็รู้หมดแล้วนะขอรับ!” “พอแล้ว” เป่ยซิวเยี่ยนเหลือบมองเขาอย่างเยียบเย็นทีหนึ่ง กล่าวอย่างโหดร้ายว่า “ในเมื่ออยู่ว่างไม่มีอะไรทำ เช่นนั้นก็ไปคัดตำราพิชัยสงครามของซุนวู[footnoteRef:1]ห้ารอบ เจ้าจะได้ไม่เอาแต่คิดเรื่องไร้สาระทั้งวัน”  [1: พิชัยสงครามซุนวู หรือ พิชัยสงครามซุนจื่อ เป็นตำรายุทธศาสตร์การทหารหรือตำราพิชัยสงครามของจีน ซึ่งเขียนขึ้นเมื่อราวหกร้อยปีก่อนคริสตกาลโดยซุนจื่อ นักยุทธศาสตร์คนสำคัญในยุครณรัฐของจีน เนื้อหาในตำราพิชัยสงครามฉบับนี้มี 13 บท แต่ละบทเน้นถึงแต่ละแง่มุมของกา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-27
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 239

    ชุนซิ่ววางมือบนหัวใจแล้วตบเบาๆ “ช่วงบ่ายตอนที่คนของจวนอุปราชมารับของไป บอกว่าท่านไม่เป็นอะไร และยังสร้างผลงานใหญ่ในวังด้วย พวกเราถึงได้วางใจเจ้าค่ะ” เมี่ยวตงเดินเข้ามาจับแขนของเสิ่นหรูโจว แล้วกล่าวอย่างเป็นห่วงว่า “คุณหนู ท่านอ๋องพาท่านไปที่ใดกัน? ได้รังแกท่านหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวหัวเราะเบาๆ ทีหนึ่ง “เปล่าหรอก พวกเจ้าก็เห็นแล้วว่าข้ายังสบายดีอยู่ไม่ใช่หรือ?”นางหมุนกายรอบหนึ่งแล้วกล่าวว่า “คุณหนูของพวกเจ้าก็ไม่ใช่คนที่ถูกรังแกง่ายๆ เหมือนลูกพลับนิ่มเสียหน่อย แล้วจะถูกเขารังแกได้อย่างไร?”“เป็นเยี่ยงนั้นก็ดีเจ้าค่ะ” ซุนซิ่วถอนใจอย่างโล่งอกทีหนึ่ง แล้วกล่าวต่ออย่างไม่พอใจนักว่า “ท่านอ๋องทำกับท่านเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ พวกบ่าวเห็นกับตาว่า คนของพระองค์ตีท่านจนสลบแล้วยัดใส่รถม้าไป ช่างทำเกินไปแล้ว!”เมี่ยวตงมองสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโมโหของชุนซิ่ว กัดริมฝีปาก แต่ยังคงไม่กล้าบอกนางว่า ตอนที่คุณหนูอยู่ที่จวนอ๋องยังต้องเผชิญกับเรื่องที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้อีก“เอาเถอะ เรื่องในวันนี้ก็อย่าได้พูดออกไปแล้ว” เสิ่นหรูโจวยิ้มปลอบพวกนางครั้งหนึ่ง จากนั้นยื่นนิ้วออกไปโบกที่เบื้องหน้าของพวกนาง “ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-28
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 240

    “ห้ามลูบนะ!” เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหัน จากนั้นไม้ปัดขนไก่ด้ามหนึ่งก็ฟาดไปที่หลังมือของเมี่ยวตงเมี่ยวตงร้องอุทานเสียงต่ำทีหนึ่ง โชคดีที่ตอบสนองได้ไว ดึงมือกลับมาในทันที ไม่เช่นนั้นหลังมือคงถูกตีจนบวมแล้วแววตาของเสิ่นหรูโจวเย็นลงทันที ขมวดคิ้วมองไปอย่างไม่พอใจในมือเสี่ยวเอ้อร์ของร้านถือไม้ขนไก่อยู่ด้ามหนึ่ง สายตาดูแคลนกวาดตามองพวกเสิ่นหรูโจวทั้งสองตั้งแต่หัวจรดเท้าไปรอบหนึ่ง จากนั้นแค่นเสียงออกจากจมูกทีหนึ่ง “ไม่ซื้อก็อย่าเที่ยวจับ!” กล่าวจบ ไม้ปัดขนไก่ในมือด้ามนั้นของเขาก็ปัดไปบนชุดเบาๆน้ำเสียงของเสิ่นหรูโจวเย็นชาดุจน้ำแข็ง “พวกเจ้าปฏิบัติต่อแขกเช่นนี้หรือ?” เมี่ยวตงกำฝ่ามือแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโหเสี่ยวเอ้อร์ในร้านมีท่าทีเย่อหยิ่งอย่างมาก ไม่แม้แต่จะมองพวกนางตรงๆ “แขกทั้งสองท่านโปรดอภัย ที่ข้าทำเช่นนี้ก็เพราะปรารถนาดีต่อพวกท่าน เสื้อผ้าชุดนี้แพงอย่างมาก หากลูบจนเสียหายขึ้นมาพวกท่านอาจชดใช้ไม่ไหว” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันครั้งหนึ่ง “เสื้อผ้าอะไรกันลูบเพียงครั้งเดียวก็พังแล้ว ร้านของพวกเจ้าช่างไม่เหมือนใครจริงๆ” “ร้านของพวกเราไม่เหมาะกับทั้งสองท่านจริงๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 241

    เสี่ยวเอ้อร์ร้านมองหยวนเป่าทองคำก้อนนั้น ดวงตาก็สว่างวาบขึ้นมา จากนั้นก็มองไปทางเสิ่นหรูโจว เผยสีหน้าลำบากใจออกมา“นี่เกรงว่า…”บนใบหน้าของเสิ่นหรูโจวกลับไม่ปรากฏความขุ่นเคือง แววตาของนางมืดสลัวเห็นได้ชัดว่าเจียหนิงจงใจหาเรื่อง หากนางทะเลาะกับเจียหนิงขึ้นมา นางก็จะยิ่งกระตือรือร้น ดังนั้นนางจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยง“ท่านหญิงช่างร่ำรวยนัก แค่เสื้อผ้าไม่กี่ตัวท่านั้น ในเมื่อท่านอยากได้ ข้าสละให้ท่านก็แล้วกัน” กล่าวจบ นางก็หมุนกายไปเลือกตัวอื่นกับเมี่ยวตงเจียหนิงสีหน้าตะลึงไป คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเสิ่นหรูโจวจะยกให้นางทันทีเช่นนี้ดุจดั่งชกหมัดลงบนปุยนุ่น ไม่สบอารมณ์อย่างมากนางเดินเข้าไปคว้าไหล่ของเสิ่นหรูโจว แล้วดึงนางให้หมุนกลับมา “เจ้าหยุดนะ!”เสิ่นหรูโจวเหลือบตามองนางทีหนึ่ง ยื่นมือไปปัดไหล่ของตน “นี่ท่านหญิงหมายความเช่นไร?”“ท่านหญิงเช่นข้าก็ต้องการจะบอกเจ้าว่า อย่าได้คิดว่าเจ้าช่วยกุ้ยเฟยไว้ก็จะลำพองได้” เจียหนิงแค่นเสียงอย่างไม่พอใจทีหนึ่ง เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านหญิงเช่นข้า เจ้าก็ไม่นับเป็นตัวอะไรทั้งสิ้น!“คำนี้กล่าวผิดไปแล้ว” เสิ่นหรูโจวหัวเราะเบาๆ ในสีหน้าจริงจังมีการเยาะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-30
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 242

    “แน่นอนว่าเป็นข้า!” เจียหนิงชี้นิ้วไปยังเสิ่นหรูโจวอย่างลำพอง ส่งสายตาดั่งใบมีดอันทิ่มแทงไป และกล่าวเสียงดังว่า “วันนี้นางเลือกสิ่งใด ข้าก็จะซื้อสิ่งนั้น!” ในเมื่อมิให้นางได้สมหวัง เช่นนั้นเสิ่นหรูโจวก็อย่าหวังจะได้เป็นสุขเลย!เสิ่นหรูโจวเลิกคิ้ว มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเมี่ยวตงขมวดคิ้วกล่าว “คุณหนู ไม่เช่นนั้นพวกเราไปดูที่ร้านอื่นดีหรือไม่เจ้าคะ?” “ไม่ต้องหรอก เสื้อผ้าของที่นี่คุณภาพดีจริงๆ พวกเราก็ซื้อที่นี่แหละ” เสิ่นหรูโจวจงใจเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น “ท่านหญิงคงไม่อาจซื้อเสื้อผ้าไปหมดทุกชุด ถึงอย่างไรก็คงเหลือให้พวกเราสักชุดสองชุดละนะ” นางลูบกระโปรงแสงจันทร์ [1] ตัวหนึ่ง บนในหน้าแสดงรอยยิ้มตื่นเต้นยินดีออกมา “ตัวนี้สวยเหลือเกิน เสี่ยวเอ้อร์ ราคาเท่าใด?”เสี่ยวเอ้อร์ร้านกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นายหญิงท่านนี้สายตาดีมากขอรับ กระโปรงตัวนี้ทำจากผ้าไหมหางโจว ราคาสี่สิบตำลึงเงินขอรับ” “ข้าเอาแล้ว!” เจียหนิงไม่รอให้เสิ่นหรูโจวเอ่ยปากก็แย่งไปก่อนทันที “หยินซวง จ่ายเงิน” หยินซวงหยิบหยวนเป่าทองคำออกมาหนึ่งก้อนทันที ท่าทีดูมือเติบอย่างมากเสี่ยวเอ้อร์ของร้านมองสีหน้าของเสิ่นหรูโจวสองครั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-01
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 243

    “ท่านหญิง ท่านแน่ใจว่าจะรับกระโปรงหม่าเมี่ยนตัวนี้ด้วยหรือขอรับ? เสี่ยวเอ้อร์ร้านประคองกระโปรงไว้ในมือ บนในหน้าประดับด้วยรอยยิ้มสุภาพ “ตัวนี้ห้าสิบตำลึงขอรับ” เสิ่นหรูโจวยิ้มบางพลางกอดอก ท่าทีราวกำลังชมงิ้วเจียหนิงลอบกัดฟัน พูดกับเสี่ยวเอ้อร์ร้านว่า “ลงบัญชีของข้าไว้ก่อน” เสี่ยวเอ้อร์ร้านเผยรอยยิ้มลำบากใจออกมา “ทางร้านของเราไม่มีระเบียบนี้ หากท่านหญิงต้องการค้างชำระไว้ก่อนจริงๆ ผู้น้อยต้องไปขออนุญาตจากเถ้าแก่ก่อนขอรับ โอ้ เถ้าแก่ของร้านเรามาพอดีขอรับ” เจียหนิงหันกลับไปมอง ชายหนุ่มที่มีใบหน้าสง่างามผู้หนึ่งสาวเท้าเข้ามาอย่างช้าๆหนิงซวงกระซิบที่ข้างหูของเจียหนิงว่า “ท่านหญิง เขาคือเจียงรุ่ย เดิมเป็นแม่ทัพใหญ่ใต้สังกัดของท่านผู้สำเร็จราชการ ต่อมาลาออกมาทำกิจการขอรับ” เจียงรุ่ยก้าวเข้ามาประสานมือแสดงความเคารพ ยิ้มบางๆ ว่า “พระชายาของท่านอ๋องอู่เฉิงและท่านหญิงเจียหนิงมาเยือนด้วยตนเอง ข้าไม่ได้ต้อนรับให้ดี เสียมารยาทแล้วขอรับ” เสิ่นหรูโจวเห็นเขามีท่าทีสุภาพ ไม่มีเจตนาร้าย จึงได้พยักหน้าเสี่ยวเอ้อร์ร้านเดินไปที่ข้างกายของเจียงรุ่ย “นายท่าน ท่านหญิงชื่นชอบกระโปรงตัวนี้ ประสงค์จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-02

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 270

    เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 269

    เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 268

    เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 267

    เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 266

    สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 265

    ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 264

    ฉินหมิงตะลึงไป ถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ท่านอ๋องไม่เป็นอะไร? คำพูดนี้ของนายน้อยหมายความว่าอย่างไร?”ลู่หวายหนิงดึงฉินหมิงเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด พยายามระงับความตื่นเต้น ลดเสียงเบาลงแล้วกล่าวว่า “ความหมายก็คือบนร่างของอาจารย์ไม่มีผื่นขึ้น อาจารย์อาการภูมิแพ้ไม่กำเริบตอนอยู่กับพี่สาวน่ะสิ” ดวงตาทั้งคู่ของฉินหมิงเบิกกว้าง พูดอย่างตกใจว่า “จริงหรือขอรับ?”ลู่หวายหนิงหัวเราะออกมา “จริงแท้แน่นอน ข้าทำการยืนยันแล้ว” ฉินหมิงรู้สึกไม่อยากเชื่อ “หลายปีมานี้ ไม่ว่าสตรีนางใดสัมผัสท่านอ๋อง ก็ล้วนทำให้ท่านอ๋องเกินอาการแพ้ มีเพียงหญิงที่นายท่านพบในปีที่แล้วนางนั้นที่ไม่เป็นไร” “พูดไปแล้ว ตามหาสตรีนางนั้นไม่เจอเสียที ช่างน่าเสียดายนัก คิดไม่ถึงว่าพระชายาของอ๋องอู่เฉิงก็ไม่ทำให้นายท่านเกิดอาการแพ้เช่นกัน ช่างเป็นเรื่องดีจริงๆ ราวสวรรค์ได้สรรค์สร้างมา” “นั่นสิ!” ลู่หวายหนิงเห็นด้วยอย่างมาก “อาจารย์หาผู้หญิงคนนั้นไม่เจอสักที อย่างนั้นพี่สาวก็เป็นคู่ชะตาที่สวรรค์ลิขิตมาให้อาจารย์แล้ว! ถ้าพวกเขามาอยู่ด้วยกันเร็วหน่อยก็ดี ข้าแทบรอวันนั้นไม่ไหวแล้ว!”ฉินหมิงพยักหน้า จากนั้นก็รีบส่ายหน้าอย่างรุนแรงทันที “

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 263

    ในขณะที่พูด เขาก็ยื่นศีรษะเข้าไป มองซ้ายมองขวาเป่ยซิวเยี่ยนยื่นมือออกไปผลักหัวของเขาเบาๆ “ไม่ต้องดูแล้ว ไม่มีหรอก” ลู่หวายหนิงตกใจอย่างมาก ดวงตาเบิกจนกลมโตมองไปที่เป่ยซิวเยี่ยนบนใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของเป่ยซิวเยี่ยน ก็มีความประหลาดใจอยู่อย่างเลือนรางเช่นกันลู่หวายหนิงยังคงรู้สึกไม่ยากที่จะเชื่ออยู่บ้าง จึงทำการยืนยันอีกครั้ง “อาจารย์ขอรับ เมื่อครู่พี่สาวสัมผัสถูกท่านแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?” เป่ยซิวเยี่ยนเอนกายไปด้านหลัง พิงลงบนพนักเก้าอี้ ดวงตาล้ำลึกดุจบึงน้ำอันเยือกเย็นหรี่ลงเล็กน้อยเรื่องที่เขาเป็นภูมิแพ้ผู้หญิงมีน้อยคนนักที่จะรู้ เมื่อครู่คิดจะหยุดนางเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง แต่กลับทำให้เรื่องกลับตาลปัตรไปกุมมือของนางเข้าโดยบังเอิญ จนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ เขามั่นใจว่าอีกครู่อาการของตนต้องกำเริบ จึงปล่อยให้นางเปลี่ยนยาให้ตนเสียเลย คิดไม่ถึงว่า จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการผิดปกติอะไรอาการคันชาบริเวณเอวคล้ายจะยังไม่จางหายไป ปลายนิ้วที่เย็นเล็กน้อยตกลงบนหน้าท้องของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับการยั่วเย้า เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่หวายหนิงร้อ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 262

    เป่ยซิวเยี่ยนมองดวงหน้าที่งดงามดั่งหยกของนาง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง หัวใจของเขาก็อ่อนลงอย่างน่าประหลาด “ในเมื่อข้ารับปากเจ้าแล้ว ก็ไม่มีทางผิดคำสัญญา เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็ต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน”เสิ่นหรูโจวพลันหัวเราะออกมาแล้ว มองเป่ยซิวเยี่ยนอย่างซาบซึ้ง “ท่านผู้สำเร็จราชการ ท่านเป็นคนดีจริงๆ ข้าจะต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อรักษาท่านให้ได้แน่” ไม่ว่าในชาติก่อนเขาจะก่อกบฏ เพราะเหตุใด เหตุใดจึงถูกคนขนานนามว่าเป็นพญามัจจุราชที่มีชีวิต แต่สำหรับนางแล้ว เขาก็คือคนดีคนหนึ่งเป่ยซิวเยี่ยนตะลึงไปเล็กน้อย เมื่อเห็นรอยยิ้มที่แย้มบานราวบุปผาของนาง ริมฝีปากบางก็อดโค้งขึ้นเล็กน้อยไม่ได้เช่นกัน “คำชมของพระชายาช่างแปลกใหม่เหลือเกิน” นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนพูดว่าเขาเป็นคนดีแปลกใหม่? แปลกใหม่ตรงที่ใดกัน?เสิ่นหรูโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าบาดแผลของเขาได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว นางจึงถือกล่องยาขึ้นมา“ท่านผู้สำเร็จราชการ สองสามวันนี้บาดแผลของท่านกำลังสมานตัว จะคันอย่างมาก เพียงระวังอย่าไปเกาก็จะหายดีแล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว” เป่ยซิวเยี่ยนพยักหน้าเบาๆ รอจนเสิ่

DMCA.com Protection Status