“ตามหมอหลวง ฝ่าบาท ทรง ต้องคมมีด"เป็นเสียงชินอ๋องอีกเหมือนเดิมเหมยหลิวจ้องมองที่แพรวาและฮ่องเต้ด้วยแววตาที่อยากจะคาดเดาความคิดของนางสนมฮุ่ยดิ้นสุดแรง เพื่อให้หลุดจากการควบคุมตัวเมื่อองครักษ์สองสามคนเข้ามาจับตัว“ฝ่าบาท อย่าจองจำฮุ่ยเหนียงเลย ฮุ่ยเหนียงไม่ได้ตั้งใจทำให้ฝ่าบาทต้องบาดเจ็บ เห็นแก่ความเป็นผัวเมียของเราด้วยเถิดฝ่าบาท...ฝ่าบาท..ฝ่าบาท”เสียงตะโกนดังห่างออกไปเรื่อยๆแพวาถลาเข้าจับท่อนแขนที่มีรอยเลือดเป็นด่างดวงน้ำตาไหลริน“อย่าร้องเลย ...ข้าไม่เจ็บ..ไม่เป็นไรไม่ต้องห่วง อย่าร้องไห้คนดีของข้า”น้ำเสียงอ่อนโยนแต่แพรวากลับติดลมเสียแล้วร้องไห้ขี้มูกโป่ง มือใหญ่บรรจงเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือแล้วก็สวมกอดเมื่อยังได้ยินเสียงสะอื้น หนักขึ้นกว่าเดิมชินอ๋องเบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้า เหมยหลิวกัดเม้มริมฝีปากแน่น“ปล่อยข้านะ ข้าจะขอความเป็นธรรมกับฝ่าบาทท่านพ่อช่วยข้าด้วยพวกเจ้าปล่อยข้านะไม่อย่างนั้นพ่อข้าใต้เท้าจางต้องไม่ปล่อยพวกเจ้าแน่”สนมฮุ่ยโวยวายเสียงดังจนถึงห้องขังหมอหลวงพันแผลให้ด้วยผ้าพันแผลสีขาวแพรวานั่งมองอยู่ใกล้ๆ“เพียงแค่เฉี่ยวๆแผลไม่ลึกนักไม่เหมือนคราวก่อน ข้าน้อยจะเฝ้าดูอากา
ฮ่องเต้ที่ยังอยู่ในอดีตจมปลักอยู่กับหญิงหนึ่งในดวงใจไม่คิดสร้างความมั่นคงไม่นำพาบ้านเมืองสู่ความยิ่งใหญ่ ไม่คิดการขยายแว่นแคว้นคิดแต่เพียง จะ ย่ำอยู่กับที่ จะให้ย่ามอง หน้า พระอัยกาของหลานได้อย่างไร”ชินอ๋องมองเหม่อไปไกล สิ่งที่ไทฮองไทเฮาอยากได้คืออะไรแน่ เป็นสิ่งเดียวกับที่เขาต้องการหรือไม่“ฝ่าบาท ทรงทำดีที่สุดแล้วแต่ยังดีไม่พอ”“ไม่พอ ให้ย่าพอใจ แม้กระทั่งการเลือกฮองเฮายังไม่สามารถทำให้สำเร็จและเป็นที่พอใจของหลายฝ่าย”“ตอนนี้เองที่หลานก็ไม่สามารถเดา พระทัยเสด็จพี่ได้ว่าจะทรงเลือกใครแม้จะยังโปรดปรานเฟยลี่แต่ก็ยังเหมือนประวิงเวลารออะไรบางอย่าง”“ความเหมาะสมย่าคิดว่า ฝ่าบาททรงรอสิ่งเดียวคือความเหมาะสม เท่านั้น”ชินอ๋องนึกถึงความเหมาะสมที่ว่านั้นเขาเองเหมาะสมกับเฟยลี่มากกว่าฮ่องเต้เสียด้วยซ้ำ แต่เหตุไฉนเล่าฮ่องเต้ต้องเป็นฝ่ายมีโอกาสทุกครั้งไป หากครั้งนี้เขาสามารถทำสำเร็จ หวังว่าเฟยลี่ อาจจะเปลี่ยนใจจากฮ่องเต้ดวงจันทร์บนฟากฟ้าเป็นพยาน สิ่งเดียวที่เขาต้องการตอนนี้คือ...เฟยลี่...นึกถึงภาพ ที่ฮ่องเต้เข้ารับคมมีดจากสนมฮุ่ย เพื่อปกป้องเฟยลี่กับดวงตาสวยที่มีแววเป็นห่วงเปี่ยมล้นของเฟยลี่ที่มอง
จุมพิตอ่อนโยนที่ริมฝีปากบางทำเอาใจสาวสั่นไหว ช่างอ่อนโยนจนจิตใจของแพรวาล่องลอยไปสู่ดินแดนที่อบอวลไปด้วยหมู่มวลดอกไม้ รอยจุมพิตของหนุ่มหล่อช่างวาบวามชวนฝันนี้เองกระมังที่เขาเรียกว่ารสจูบแห่งรัก ที่มักจะหวานหอมกว่ารสจูบในแบบอื่นๆจูบหวานนั้นไม่หยุดหย่อนไล่เรื่อยไปจนเกือบทั่วทั้งใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากบางเปลือกตาสวยแก้มทั้งสองข้างแพรวาใจสั่นไหวอากาศกลายเป็นร้อนอบอ้าวทั้งที่หิมะโปรยปราย หยางหลงฮ่องเต้ รวบร่างบางอุ้มไปวางบนที่นอนนุ่มแพรวาไม่ปฏิเสธทั้งที่รู้ว่าไม่ควรแพรวาปล่อยตัวปล่อยใจ จนคิดว่าไม่อาจฝืนได้อีกแล้ว ฮ่องเต้หนุ่มกับผละออกจากร่างสวยทันทีทั้งที่แสนจะเสียดาย“ข้า ไม่อยากให้เจ้าต้องลำบากใจรอก่อนเฟยลี่รอทุกอย่างคลี่คลายรอให้ข้าสามารถบอกกับทุกคนได้เต็มปากว่าเจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ในใจของข้าและเป็นเพียงคนเดียว ที่ข้าต้องการให้เป็นฮองเฮาคู่บัลลังก์แห่งนี้"สนมฮุ่ยร้องไห้ฟูมฟาย จนเผลอหลับไปชินอ๋องเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องขังจ้องมองสนมฮุ่ยแล้วก็เดินจากไปยามสายของอีกวัน ชินอ๋องนั่งบนแท่นสูงกวาดตามองรอบบริเวณ ทหารคุมตัวสนมฮุ่ยมาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทีอิดโรย"บอกมา ใครอยู่เบ
"ข้าหลวงหญิงเฟยลี่ขอได้รับการคารวะจากข้าใต้เท้าจาง"แพรวาทรุดตัวลงนั่งด้วยคาดไม่ถึงว่าใต้เท้าจางจะยอมลงทุนถึงขนาดนี้"ลุกขึ้นเถิดใต้เท้า ข้าน้อยเพียงแต่ทำในสิ่งที่สมควรทำ""ภายหน้าหากมีสิ่งใดให้ข้าใต้เท้าจางรับใช้โปรดบอกข้าจะไม่ปฏิเสธท่านแน่นอน"แพวายิ้มชินอ๋องส่ายหัวไปมา"นางล้ำเส้นเกินไปแล้ว""เสด็จย่าอย่ากังวลนางเป็นคนที่ค่อนข้างเถรตรงสักหน่อยแต่ไม่มีพิษภัยกับเรานางไม่รู้แผนการของเราแน่"ไทฮองไทเฮาขมวดคิ้วเข้าหากัน"ดูว่าหลานย่าเข้าข้างข้าหลวงหญิงผู้นั้นเหลือเกิน ถ้าไม่มีนางเราก็เกือบจะกำจัดสนมฮุ่ยและดึงใต้เท้าจางมาสวามิภักดิ์ได้แล้วแท้ๆ หากใต้เท้าจางไม่พอใจฝ่าบาทหาว่าละเลยสนมฮุ่ย เมื่อนั้นตระกูลใหญ่ทั้งสี่ต้องมาอยู่ข้างเราแต่เฟยลี่กลับทำให้แผนการของเรายุ่งเหยิง"ชินอ๋องก้มหน้านิ่งหมดคำแก้ตัว"ฝ่าบาททรงนิ่งเฉยเกินไปหรือเปล่าเรื่องสนมฮุ่ยอย่างไรเสียนางก็....เป็นเมีย"แพรวารู้สึกหงุดหงิดเมื่อฮ่องเต้มัวแต่นั่งดีดพิณไม่สนใจสิ่งใด"ฝ่าบาท...ได้ยินไหม"ทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ เอามาบังสายพิณไว้จนฮ่องเต้ไม่สามารถดีดพิณได้ใบหน้าหล่อหันมาสบตาแพรวาแลบลิ้นใส่ด้วยความหมั่นไส้ แขนใหญ่รวบร่างบางหงายลง
"ตอนนี้ ยอดบริจาคสามารถนำไปช่วยเหลือชาวบ้านได้บ้างแล้ว บางส่วนที่เหลือได้เก็บไว้หากมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นอีกครั้ง"โหวหยางจื้อรายงานฉะฉานหยางหลงฮ่องเต้ยื่นรายชื่อขุนนางทั้งหมดให้แพรวา"เจ้าคิดว่าสมควรจัดการอย่างไรต่อไปในเมื่อได้รายชื่อมาแล้ว""ไม่ยากไม่ยาก คราวนี้ถึงคิวฝ่าบาทแล้วต้องแสดงความจริงจริงให้พวกเขาเห็น โดยการจัดงานแถลงข่าวไม่ใช่สิเรียกว่าอะไรนะอ๋อนึกออกแล้วเรียกว่าป่าวประกาศให้ทราบทั่วกัน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการที่พวกเขาได้ร่วมบริจาคในครั้งนี้ ตอนนี้เองฝ่าบาทต้องมอบของกำนัลที่ผู้ได้รับไม่อาจลืมเลือนเพื่อว่าหากมีคราวหน้าคราวหลังใครที่อยากได้ของล้ำค่าก็จะพากันบริจาคเยอะขึ้น"โหวหยางจื้อตบเข่าฉาดใหญ่"เฉียบคบยิ่งนัก แม่นางเฟยลี่ ข้าไม่คิดเลยว่าหญิงท่าทางธรรมดาเช่นท่านจะมีกลยุทธ์ที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ แบบนี้ชาวบ้านก็จะซาบซึ้งในน้ำใจของขุนนางและฝ่าบาทก็จะเป็นที่โจษขานกันว่าฮ่องเต้และขุนนางไม่ทิ้งประชาชนส่วนขุนนางทั้งหลายก็ จะรู้สึกว่าตัวว่าต้องช่วยเหลือชาวบ้าน ไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันไปเป็นสิ่งดีๆ ที่น่ายกย่อง""ไม่เท่าไหร่ไม่เท่าไหร่ ลูกเป็ดขี้เหร่สุดท้า
แพรวาลืมตาตื่นขึ้นมาบนแท่นบรรทมในตำหนักของฮ่องเต้ ข้างกายมีลี่มี่บีบนวดอยู่ข้างๆถัดไปเป็นหมอหลวงที่จับชีพจรด้วยใบหน้าเคร่งเครียด"ลี่มี่ หิวน้ำขอน้ำหน่อย"ลี่มี่ท่าทางตื่นเต้นรีบกุลีกุจอรินน้ำใส่ถ้วยแพรวารับมาดื่มรวดเดียวเกือบหมดถ้วย" ออกไปข้างนอกก่อนลี่มี่ เจี่ยเจี่ยมีเรื่องจะคุยกับหมอหลวงเพียงลำพัง แต่เจ้าอย่าได้ปริปากบอกใครว่าพี่สาวฟื้นแล้วนะพี่สาวขอร้อง" ลี่มี่ย่อตัวทำความเคารพ เดินออกจากห้องไปปิดประตูอย่างแผ่วเบาฮ่องเต้ถลาเข้ามาหาลี่มี่ทันที" เฟยลี่ เป็นอย่างไรบ้าง"ลี่มี่ ขมวดคิ้วนึกหาคำโกหก" ท่านหมอบอกว่านายหญิงแค่เพียงอ่อนเพลียจึงทำให้เป็นลม อีกสักพักคงจะได้สติหมอหลวงวานให้ลี่มี่ไปหยิบเทียบยาเก่าที่ ห้องนายหญิงเพคะฝ่าบาทจึงจำต้องให้ลี่มี่ออกมา""อย่างนั้นข้าก็หมดห่วง เจ้าไปเถอะรีบไปรีบมา อย่าโอ้เอ้"หยางหลงฮ่องเต้สำทับ ลี่มี่ถวายพระพรก่อนเดินนวยนาดจากไป"ฝ่าบาทอย่าทรงเป็นกังวลให้มาก พี่สาว ...ข้าหลวงหญิงนางเพียงแค่ร่างกายอ่อนเพลีย ด้วยยาของหมอหลวงนางต้องแข็งแรงขึ้นแน่ "เสี่ยวโอพูดจาปลอบโยน หลังจากจ้องมองใบหน้าที่หม่นหมองของฮ่องเต้และแววตาที่เป็นกังวลอย่างมาก"นางมาอยู่ที่
ฮองเฮาตัดสินใจกระโดดลงไปทันที แพรวาหลับตาคิดถึงอาการของคนที่กำลังจมน้ำกลืนกินน้ำเข้าไปจนจุกในท้องลมหายใจที่สูดเข้าไปมีน้ำเข้าไปภายในเท่านั้น จนในที่สุดก็ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ อีกเลยน้ำตาไหลเป็นสายออกจากดวงตาที่ยังหลับตาอยู่ ฮ่องเต้หนุ่มลุกพรวดพลาดจับร่างบางของแพรวามากอดไว้แน่น"เป็นอะไรไปเฟยลี่ ฝันร้ายหรืออย่างไร มาข้าจะกอดปลอบเจ้าให้หายกลัว"น้ำเสียงอ่อนโยนเอื้อาทร แพรวายิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลรินต่อไปเรื่อยๆ"ฝ่าบาท อย่าดีกับเฟยลี่มากไปกว่านี้เลย"หยางหลงฮ่องเต้ยังกอดแพรวาแน่น" เป็นอะไรไปเจ้าข้าทำอะไร ขัดใจเจ้าหรือเฟยลี่ หรือว่าแค่นี้ยังไม่พอ "จุมพิตดูดดื่ม อ่อนโยนปลอบ ประโลมจนแพรวาไม่อาจขัดขืน แต่น้ำตายังไหลรินไม่หยุดจูบอ่อนโยนนั้นซับน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา" ข้าพระองค์กับฝ่าบาท คงไร้ซึ่งวาสนาต่อกันเสียแล้ว...."พูดยังไม่ทันจบริมฝีปากหนาก็บดขยี้ลงไปบนริมฝีปากบางสวยเนิ่นนานก่อนจะถอนริมฝีปากออกด้วยอาการหักห้ามใจ"อย่าพูดถึงเรื่องวาสนาอะไรนั่นอีก เพียงแค่ตอนนี้ เราสองข้าและเจ้าอยู่เคียงข้างกันดุจจันทราคู่กับราตรี ก็เพียงพอแล้ว"แพรวากอดตอบร่างใหญ่เหมือนเด็กๆ หยางหลงฮ่องเต้ กดศีรษะแพรวาแนบ
ลี่มี่คุ้นคิดตรึกตรอง แพรวาฉุดมือลี่มี่ให้ลุกขึ้นยืน"ข้าเห็นเจ้าเป็นน้องสาว ไม่มีทางทำร้ายเจ้า เจ้าล่ะเห็นข้าเป็นพี่สาวเหมือนที่เรียกข้าว่าเจี่ยเจียหรือไม่"ลี่มี่น้ำตาซึม"นายหญิง อย่าบีบคั้นข้าน้อยเลย"" งั้นเจ้าแค่ พยักหน้ากับส่ายหน้าทุกอย่างเป็นข้าพูดเองคนเดียวความผิดใดใดไม่เกี่ยวกับเจ้า"ลี่มี่พยักหน้าช้าๆ"ฮ่องเต้องค์ก่อน ถูกปลงพระชนม์โดยเซี้ยนตี้ใช่หรือไม่"ลี่มี่นิ่งก่อนจะพยักหน้า ใจแพรวาร่วงหล่นหายไปที่ใดไม่อาจเรียกคืนภาพความทรงจำไม่ได้โกหก แพรวาเห็นทุกอย่าง พ่อของเธอที่เป็นถึงฮ่องเต้ถูกคมกระบี่เสียบทะลุขั้วหัวใจมันชัดเจนออกอย่างนั้น แม้จะบอกว่าเหมือนฝันแต่แพรวาอยู่ที่นั่นจริงจริง"แล้วองค์หญิงน้อยเล่าลี่มี่ นางหายไปไหน"ลี่มี่ส่ายหน้า"ไปเอาเหล้ามา เดี๋ยวนี้เลยเสี่ยวโอเจ้ากล้าขัดคำสั่งข้ารึ"เสียวโอถอยหลังไปสั่งขันทีอีกสองคนที่ยืนอยู่ห่างออกไปฮ่องเต้นั่งดื่มโดยมี เสี่ยวโอคอยรินสุราถวายด้วยสีหน้ากังวล“ฝ่าบาท ทรงเมามาย แล้วข้าพระองค์ว่าเลิกดื่มเถิด”ประตูที่เปิดกว้างอยู่ปรากฏร่างของเหมยหลิวอยู่เบื้องหน้าเสี่ยวโอจ้องมองไปที่ประตู“เหมยหลิว ถวายพระพรฝ่าบาท”น้ำเสียงอ่อนหวานอ่
มือใหญ่เชยคางมนให้สบตา ก้มลงจูบหนักหน่วงที่ริมฝีปากบางอีกครั้ง เขาไม่อาจหักใจหากยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ริมฝีปากอ่อนหนุ่มกลิ่นกายหอม ผิวเนื้ออ่อนละมุน ซุกอยู่กับอกกว้างถอนริมฝีปากออก“เราเคยรักกันมาก่อนใช่ไหม ที่ไหน เมื่อไหร่ บอกข้ามาก่อนที่ข้าจะกลืนกินเจ้าไป”สายตาคาดคั้น“ฝ่าบาทเชื่อเรื่องการเดินทางผ่านกาลเวลาไหม”หยางหลงขมวดคิ้ว“เช่นไร”“ข้ากับท่านเราเคยพบกัน ก่อนที่ข้าจะหายไปจากฝ่าบาทและกลับมาอีกครั้ง”หยางหลงครุ่นคิดภาพที่เขาเห็นนั้นเล่าชัดเจนแจ่มชัดในความทรงจำ เหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้น“เจ้าใช้เวทมนตร์ใช่ไหม”“ไม่ใช่เวทมนตร์แต่มันคือเรื่องประหลาดที่ข้าไม่อาจอธิบายได้ และข้าเองมิได้กำหนดว่าจะมาจะไปตอนไหน สวรรค์เป็นผู้กำหนดเหมือนที่หมอหลวงบอกข้า ข้าเพียงแต่ไปมาตามแต่สวรรค์ต้องการ”“แล้วหมอหลวงทำไมถึงรู้ว่าเจ้าจะมา”“ท่านหมอบอกข้าว่าเขาเองไม่อาจเปิดเผยบัญชาสวรรค์ตัวเขาเองมีหน้าที่เพียง เป็นผู้แจ้งข่าว”ข้างนอกนั่น“ลี่มี่ เจ้าแน่ใจแล้วรึว่าฝ่าบาท ประทับอยู่ในห้องของแม่นางเฟยลี่”เหอหลงเอ่ยปากถาม“ ข้าเห็นมากับตา ฝ่าบาททรงหายเข้าไปในห้องของพี่สาวข้าจึงรีบมาแจ้งข่าวกับท่าน”เหอหลงยิ้มมี
“หา”แพรวาเผลอยกมือขึ้นกระชับคอเสื้อที่หลุดหลุ่ยเผยให้เห็นผ้าคาดอกสีอ่อนเกือบจะเห็นเนินอกสวย“ข้าหมายถึง แก้ผ้าพันแผลของข้าออก”แพรวาย่นจมูก เอื้อมมือแกะผ้าพันแผลออกหยางหลงกัดฟันแน่นข่มความเจ็บปวดแผลไม่ลึกนักทว่ารอยแผลยาวเหยียดแพรวาโรยยาจนทั่วแผลก่อนจะเป่าเบาๆที่แผลของหยางหลงอย่างอ่อนโยน“เพี้ยง หายไวไวนะ”หยางหลงมองแพรวาด้วยสายตาลึกซึ้งความอ่อนโยนที่แพรวามอบให้เขาไม่เคยได้รับจากผู้ใด แพรวาเงยหน้าขึ้นพบกับสายตานั้นความเขินอายกับเกิดขึ้นกับแพรวาอย่างช่วยไม่ได้ หยางหลงเองก็เผลออมยิ้มกับอาการเขินอายนั้น“ทหารจัดเวรยามให้มากกว่านี้ ถ้าหากยังไม่อยากหัวหลุดจากบ่า คืนนี้ข้าจะค้างที่นี่”เสียงตะโกนจากในห้องออกไปแพรวาขยับตัวลุกจากแท่นนอน หยางหลงฉุดมือด้วยแขนข้างที่ไม่เจ็บไว้แพรวาหันมามองประสานสายตาแววตาลึกซึ้งแววตาที่แพรวาเคยเห็นกลับมาแล้ว“ข้าพระองค์กำลังจัดที่บรรทมให้ฝ่าบาท คืนนี้อากาศหนาวนัก”“ไม่เป็นไร เพียงแค่...มีเจ้าร่วมหมอน”แพรวาอายม้วน เฮ้อไม่น่าเชื่อว่าคำพูดของหยางหลงยังสามารถทำเอาแพรวาเขินอายได้“ฝ่าบาทนอนเสียเถิด”แพรวาเสมองไปที่ผ้าห่มที่เคยห่มคลุมกายของตัวเองบัดนี้กลับถูกห่มคล
“ไม่ไม่ อย่าทำแบบนี้เลย แบบนี้เลย (เพลงพี่ป้างดังแทรกขึ้นมาในคลื่นสมองของแพรวา) ”เหอหลงยิ้มมีเลศนัย นัยน์ตาเป็นประกายวาววับ“อ้า ถ้าอย่างนั้นท่านพอจะบอกข้าได้ไหมถึงแผนการที่ท่านวาดไว้”แพรวาอ้อนวอน“ข้าคิดว่าไม่บอกจะดีกว่าเพราะ...หลอกศัตรูต้องหลอกมิตรให้ตายใจ”"คือถ้าท่านบอกแผนการข้าก่อนอย่างน้อยข้าก็พอที่จะทำตามแผนรับมือสิ่งที่จะเจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ”แพรวาพยายามยกแม่น้ำทั้งห้า“ข้าเห็นต้องไปเสียทีแล้ว รั้งอยู่ที่นี่เสียนานเดี๋ยวความแตก”เหอหลงไม่สนใจแพรวา ขยับตัวหลบยังมุมมืดจากไปทันที แพรวาหันไปทางเสี่ยวโอ“เจ้ารู้ใช่ไหม”เสียวโอหันหลังเดินหนีเช่นกัน ลี่มี่ยิ้มอย่างรู้ทัน“พี่สาวข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”ออกตัวไว้ก่อน“ข้ารู้แล้ว”“ดีแล้วค่ะพี่สาวแต่ว่าท่านรู้ว่าอย่างไรคะ”“ก็รู้ว่า ทุกคนปิดบังข้า”“พี่สาวเราทั้งหมดเพื่อบ้านเมืองแล้วเราพร้อมที่จะทำทุกอย่าง แต่สำหรับข้า ชินอ๋องและเสี่ยวโอ เพื่อฝ่าบาทและพี่สาวเรายอมทำทุกวิถีทางเพราะเราเชื่อว่าท่านหมอพูดไว้ไม่ผิดเรื่องพี่สาวอยากให้พี่สาวเชื่อใจเถิดว่าข้าเสี่ยวโอและชินอ๋องหวังดีต่อฝ่าบาทและพี่สาวด้วยความจริงใจ”แพรวาซาบซึ้งในน้ำใจของ ท
คำพูดที่ออกมาจากใจของแพรวาน้ำตาเอ่อล้นตา หยางหลงรู้สึกเศร้าใจตามไปด้วย“เจ้าจะไปที่แห่งใดใครอนุญาตให้เจ้าไป”เสียงทรงอำนาจเหมือนจะออกอาการหงุดหงิดกับการจะจากไปของแพรวาหยางหลงจ้องมองที่แพรวาเหมือนจะค้นหาคำตอบ“ไม่อยากอยู่แล้วท่านหมอ”แพรวายังคงหลบตา หยางหลงหันไปมองหมอหลวงสายตาดุดัน หมอหลวงประสานมือถอยห่างออกไป“ข้าพระองค์ขอตัว ข้าขอตัวแม่นางเฟยลี่ไว้เจ้าคิดให้ดีแล้วข้าจะให้คำตอบ”แพรวาหลับตาไล่หยาดน้ำตาที่หยดริน ฮ่องเต้หนุ่มรู้สึกสงสารหญิงสาวตรงหน้ายิ่งนัก หยาดน้ำตาของนางสร้างความปวดร้าวแก่เขาเหลือเกิน ใจคิดถึงคำพูดของสนมฮุ่ยนางพูดสิ่งใดก่อนที่จะผลักเฟยลี่ลงจากสะพาน ครั้นจะคาดคั้นสนมฮุ่ยก็ตั้งครรภ์ต้องได้รับการดูแลอย่างดี“ข้า...จะปกป้องเจ้าเอง หากมีเรื่องใดในวังหลวงแห่งนี้ทำให้เจ้าลำบากใจขอเพียงบอกข้า”แพรวาร้องไห้โฮอย่างสุดจะกลั้น“มิไยต้องลำบากฝ่าบาท หม่อมฉันโหวหยางจื้อยินดีปกป้องนางด้วยชีวิต”โหวหยางจื้อเข้ามา เมื่อไหร่ไม่ทราบได้ หยางหลงมองโหวหยางจื้อด้วยความแปลกใจ“เจ้า... นะหรือโหวหยางจื้อ”น้ำเสียงเยาะหยัน แพรวาอดขำไม่ได้ทั้งๆที่น้ำตายังเปรอะเปื้อนใบหน้าโหวหยางจื้อทำหน้าเหลอหลา
แพรวาน้ำตารื้นขอบตา มาช่วยเธอทำไม เพียงครู่เดียวแพรวาก็สิ้นสติในอ้อมแขนของหยางหลง ร่างเปียกปอนกับชุดบางเบา สนมฮุ่ยยืนตัวสั่นอยู่ตรงนั้น“ฝ่าบาท”เรียกหยางหลงเหมือนรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปผิดมหันต์ แต่ไม่แน่ใจว่าหยางหลง มาทันตอนที่ผลักแพรวาลงไปหรือไม่หยางหลงเพียงแต่หันไปมองด้วยสายตาตำหนิ แต่ไม่ได้เอ่ยคำใดอุ้มแพรวาที่สิ้นสติกลับเข้าไปในตำหนักลี่มี่ถือถาดน้ำชาเดินมาเห็นเข้าพอดีรีบกุลีกุจอตามหยางหลงฮ่องเต้ไปทันที“ลี่มี่ลำบากเจ้าแล้วเปลี่ยนชุดให้นางด้วยน้ำค่อนข้างเย็น”หยางหลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงความรู้สึกใดใดหากแต่ในใจกลับรู้สึกสงสารแพรวาจับใจ ในวังหลวงหากใครเป็นที่โปรดปรานย่อมได้รับการเกลียดชังเขารู้นิสัยของสนมฮุ่ยดีว่าเป็นเช่นไร นางถูกเขาช่วยเข้ามาในตำหนักถึงสองครั้งสองคราแล้วไหนจะคำทำนายของหมอหลวงนั่นอีกไม่แน่นางจะสามารถเอาชีวิตรอดจากการปองร้ายของสนมฮุ่ย ใครกันเล่าจะอาจหาญมาปกป้องนางจากสนมคนโปรดถ้าไม่ใช่เขาหยางหลงเลี่ยงออกมา เสี่ยวโอนำอาภรณ์ชุดใหม่มาเปลี่ยนให้ฮ่องเต้หนุ่ม“ส่งองครักษ์เฝ้าหน้าห้องเฟยลี่ไว้”เสี่ยวโอยิ้มออกคำสั่งทันทีเสียงดังลั่นเหมือนจงใจให้สนมฮุ่ยที่เด
ลี่มี่ยังคงทำหน้าสงสัยใคร่รู้ หากแต่รู้ว่าแพรวาต้องเสียใจอะไรบางอย่างควรปล่อยให้ได้ระบาย ลูบหลังลูบไหล่“ข้าเพียงแต่อยากกลับมา แต่เมื่อทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้วข้าควรจะกลับไป”“พี่สาวจะกลับไปได้อย่างไรเล่า”ลี่มี่เพียงแต่พูดปลอบใจ แต่แพรวากลับคิดได้จริงสิแพรวาน่าจะกลับได้ด้วยวิธีเดิม ...กระโดดน้ำ“พี่สาวอย่าคิดมากเลย ทุกอย่างมีทางแก้ไขตอนนี้ก็ค่ำมากแล้วพี่สาวพักผ่อนเสียเถอะ อ๋อจริงสิพี่สาวไม่ต้องไปคอยปรนนิบัติสนมฮุ่ยใกล้ชิดฝ่าบาทตามแผนหรืออย่างไร”พูดเสียแทงใจดำ“ไม่จำเป็นหรอกลี่มี่ตอนนี้สนมฮุ่ยมี หลายคนคอยรับใช้ฐานะนางต่างจากเดิมแล้ว”“พี่สาวหมายความว่านาง...”“ใช่นาง นำข้าไปอีกก้าวแล้วนางกำลังตั้งครรภ์”“พี่สาวข้าเหมือนเห็นแววตาเปี่ยมด้วยความรักในตัวฝ่าบาทของพี่สาว ข้าสงสารท่านด้วยความจริงใจ”แพรวายังคงสะอื้นไห้“ลี่มี่ข้าอยากได้สุราเลิศรสเจ้าพอจะนำมันมาให้ข้าได้ไหม”แพรวาถามหาเพื่อนที่ดีที่สุดยามนี้ ลี่มี่มองแพรวาด้วยความสงสารจับใจพยักหน้าช้าๆไหสุราถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะกลางห้องพร้อมถ้วยสุรา แพรวารินสุราจากไหใส่ถ้วยครั้งแล้วครั้งเล่าปล่อยมันให้หายวับไปในลำคอ ใบหน้าแดงระเรื่อกลิ่นสุรา
“อย่างนั้นข้าน้อยโหวหยางจื้อขอทูลลา ข้าไปก่อนแม่นางเฟยลี่ หวังอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสชมดอกไม้กับแม่นางอีกในไม่ช้า”หยางหลงยืนนิ่ง แต่เมื่อโหวหยางจื้อเดินจากไป หยางหลงหันกลับมามองแพรวาเต็มตากวาดตามองแบบไม่สนใจว่าสายตาจะดุดันเช่นไร“ได้เวลาต้อง กลับไปกับข้าอีกแล้ว”แพรวายิ้ม เอาวะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ขยับตัวไปยืนเคียงข้างสอดแขนเข้าไปในวงแขนแข็งแรงอย่างไม่เคอะเขินหยางหลงมองแขนของแพรวาที่เกี่ยวเกาะกับแขนของตัวเอง“ไปเพคะ ข้าพระองค์พร้อมแล้ว”“บังอาจ”“ไหนว่าข้าพระองค์เป็นสมบัติของฝ่าบาทอย่างไรเล่า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะโมโหไปไย”ฮ่องเต้หนุ่มฮึดฮัดแต่แพรวาก็ไม่ยอมปล่อย จนต้องจำยอมในที่สุดปล่อยให้แพรวาคล้องแขนเดินอยู่อย่างนั้นสนมฮุ่ยในชุดฮั่นฝูสีฟ้าใสอ่อนหวานเยื้องย่างจากทางเดินทอดยาวจากตำหนักหนึ่งสู่อีกตำหนักหนึ่งผู้ติดตามเกือบสิบคน เดินตามคอยยกชายชุดฮั่นฝูที่ยาวรุมร่ามฉับพลันนั้นเองร่างระหงกับมีอาการเซถลาคล้ายทรงตัวไม่อยู่ หญิงรับใช้หลายคนถลาเข้าประคองอย่างรวดเร็ว แต่ร่างบางกลับหมดสติ อย่าง ไม่มีใครได้ทันคาดเดาต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเสียงวี้ดว้ายดังระงม ทหารองครักษ์วิ่งวุ่นวายเหล่าขันทีที
เมื่อมาถึงตำหนักใหญ่ผลักร่างแพรวาเซถลาลงไปกองกับพื้น เสี่ยวโอคุกเข่าลงข้างๆ“ฝ่าบาท ถนอมพระวรกายด้วย อย่าทรงกริ้วนักเลย”ใบหน้าถมึงทึงหันไปมองเสี่ยวโอ“ธุระกงการอะไรของเจ้า ถอยไปแล้วปิดประตูคอยฟังคำสั่ง”เสี่ยวโอหดตัวถอยห่างออกมาปิดประตูเบามือ ส่งสายตาแสดงความเห็นใจมาให้แพรวาฮ่องเต้หนุ่มหันไปหาแพรวา“เจ้าช่าง ทำข้าขายหน้านัก”แพรวาทำหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจอะไรอีกทีนี้“เฟยลี่ไม่บังควร สุดแล้วแต่ฝ่าบาทจะกล่าวโทษ”“นี่เจ้าหาว่าข้ากล่าวโทษเจ้าลอยๆ รึ”แพรวาหันหน้าหนีส่ายหน้าช้าๆ ฮึอย่าให้แพรวาโมโหมาบ้างนะชักจะไม่มีเหตุผลไปกันใหญ่“ก็แล้วแต่ฝ่าบาทจะคิด ข้าพระองค์ไม่อาจโต้แย้งอย่างไรเสียข้าพระองค์ก็เป็นเพียงลูกแกะ ฝ่าบาทเป็นหมาป่าเจ้าอำนาจ”ไม่ทนแล้วยอมมาเยอะแล้วแม่จะแผลงฤทธิ์ให้ดูทีว่าใครจะแจ๋วกว่ากัน“เจ้านี่คงไม่พ้นจะโดนลงทัณฑ์จากข้า”“ใครกลัวเพคะ”ฮ่องเต้หนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์“ข้าคิดแล้วอย่างเจ้าไม่กลัวการลงทัณฑ์เป็นแน่ ถึงได้จงใจปลอมตัวเป็นฮุ่ยเหนียงทำข้าสับสนอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ทัน ไหนๆก็ปลอมตัวเป็นสนมของข้าแล้ว อย่างนั้นไม่สู้เจ้ามาแสดงให้มันจบไปเลยดีกว่า”เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แพรวาถอยจน
บรรจงจุมพิตที่แก้มนวล แพรวาหลับตาลงช้าๆ เหมือนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ คิดถึงอดีตที่เคยอยู่ข้างกายหยางหลง“ฮุ่ยเหนียงเจ้ามารอข้าถึงนี่เลยหรืออย่างไร”แพรวาเบิกตาโพลงหันหน้ามาเผชิญหน้ากับ หยางหลงเต็มตาฮ่องเต้หนุ่มจ้องมองแพรวา ที่สวยหวานปานหยาดน้ำผึ้งอย่างตะลึงงันสักพักก็เปลี่ยนเป็นโกรธขึ้งชี้มือมาที่แพรวาด้วยมือสั่นระริก“เจ้า เจ้าบังอาจ นำชุดของสนมฮุ่ยมาสวมใส่ใครก็ได้มาจับนางไว้”เสี่ยวโอรีบวิ่งมาคุกเข่าแพรวานิ่งคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะตาลปัตรขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเพียงพริบตาเดียว ทหารองครักษ์สองนายวิ่งมายืนขนาบข้างกดแพรวาให้คุกเข่าแพรวาไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด แต่อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลริน“ฝ่าบาท ทรงสอบสวนก่อน”เสี่ยวโอแย้งขึ้นทันทีเมื่อเห็นน้ำตาแพรวา"ไม่มีการสอบสวนใดใดทั้งสิ้น นำนางไปจองจำไว้”องครักษ์หิ้วแขนสองข้างของแพรวาขึ้นมาทันที“ไทฮองไทเฮาเสด็จจจจจจจจจจจจจจจจ”เสียงดังกังวานทำเอาทุกคนหยุดทุกการกระทำ“ฮ่องเต้ ใยเจ้ากล่าวโทษนาง ย่ามองไม่เห็นว่านางจะมีความผิดแต่อย่างใด”น้ำเสียงปราศจากความยโสเหมือนที่แพรวาเคยได้ยินแต่น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความปรานี“เสด็จย่านางนำอาภรณ์ของสนมฮุ