หน้าหลัก / โรแมนติก / ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน / ความจริงช่างโหดร้าย กว่าความฝันและต่างกันมากมายเหลือเกิน

แชร์

ความจริงช่างโหดร้าย กว่าความฝันและต่างกันมากมายเหลือเกิน

ผู้เขียน: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 07:29:46

แพรวาลืมตาตื่นขึ้นมาบนแท่นบรรทมในตำหนักของฮ่องเต้ ข้างกายมีลี่มี่บีบนวดอยู่ข้างๆถัดไปเป็นหมอหลวงที่จับชีพจรด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

"ลี่มี่ หิวน้ำขอน้ำหน่อย"

ลี่มี่ท่าทางตื่นเต้นรีบกุลีกุจอรินน้ำใส่ถ้วยแพรวารับมาดื่มรวดเดียวเกือบหมดถ้วย

" ออกไปข้างนอกก่อนลี่มี่ เจี่ยเจี่ยมีเรื่องจะคุยกับหมอหลวงเพียงลำพัง แต่เจ้าอย่าได้ปริปากบอกใครว่าพี่สาวฟื้นแล้วนะพี่สาวขอร้อง" ลี่มี่ย่อตัวทำความเคารพ เดินออกจากห้องไปปิดประตูอย่างแผ่วเบา

ฮ่องเต้ถลาเข้ามาหาลี่มี่ทันที

" เฟยลี่ เป็นอย่างไรบ้าง"

ลี่มี่ ขมวดคิ้วนึกหาคำโกหก

" ท่านหมอบอกว่านายหญิงแค่เพียงอ่อนเพลียจึงทำให้เป็นลม อีกสักพักคงจะได้สติหมอหลวงวานให้ลี่มี่ไปหยิบเทียบยาเก่าที่ ห้องนายหญิงเพคะฝ่าบาทจึงจำต้องให้ลี่มี่ออกมา"

"อย่างนั้นข้าก็หมดห่วง เจ้าไปเถอะรีบไปรีบมา อย่าโอ้เอ้"

หยางหลงฮ่องเต้สำทับ ลี่มี่ถวายพระพรก่อนเดินนวยนาดจากไป

"ฝ่าบาทอย่าทรงเป็นกังวลให้มาก พี่สาว ...ข้าหลวงหญิงนางเพียงแค่ร่างกายอ่อนเพลีย ด้วยยาของหมอหลวงนางต้องแข็งแรงขึ้นแน่ "

เสี่ยวโอพูดจาปลอบโยน หลังจากจ้องมองใบหน้าที่หม่นหมองของฮ่องเต้และแววตาที่เป็นกังวลอย่างมาก

"นางมาอยู่ที่วังหลวง มีแต่เหตุให้บาดเจ็บ ป่วยไข้ ข้าจะไม่ห่วงนางได้อย่างไร"

สายตาทอดยาว ไปบนขอบฟ้าไกล การมาของเฟยลี่ทำให้ชีวิตของเขาที่หม่นหมองกลับมีชีวิตชีวาแต่เหตุใดเล่าบ่อยครั้งที่เขาไม่สามารถปกป้องนางจากเหตุต่างๆได้

แพรวา จ้องมองหมอหลวงตาไม่กะพริบ

"ท่านหมอข้ามีเรื่องต้องการถามเพื่อหาคำตอบ"

หมอหลวงนิ่วหน้า มองแพรวาแบบต้องการหยั่งเชิง

"ถามมาได้ หากว่าข้าหมอหลวงสามารถให้คำตอบแม่นางได้ ก็มิรอช้าหากว่าคำถามที่แม่นางถามมา ข้าหารู้คำตอบไม่ข้าก็อับจนหนทาง"

แพรวามองจ้องไปที่ขอบฟ้าไกลบนช่องหน้าต่างที่เปิดกว้างด้วยจิตใจเลื่อนลอย

"ข้าเคยอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่ "

หมอหลวงยิ้มบางเบา ในใจหมอหลวงคิดอะไรแพรวาไม่อาจรับรู้

" แม่นางจำ คำพูดของข้าได้ไหม"

แพรวาพึมพำเบา

"ที่ที่จากมา ...ข้าไม่สนใจ ข้าอยากได้คำตอบที่ไม่ต้องตีความจากท่าน"

แพรวาเริ่มฉุนเฉียว

"หากบอกแม่นางไป แม่นางก็คงไม่เชื่อข้าอยู่ดี"

"ท่านจะบอกว่าข้าไม่เคยอยู่ที่นี่ใช่ไหม แล้วความทรงจำของข้าที่ข้าเห็นมันถึงสองครั้งสองครานั่นเล่า"

"แม่นาง มาจากเมืองพุทธ เคยได้ยินคำว่าโกหกสีขาวไหมการโกหกที่ทำให้อีกฝ่ายสบายใจ และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร"

" แสดงว่า ท่านหมอโกหกข้า"

"ข้าทำดีที่สุดแล้ว เพื่อแม่นาง แม่นางแพรวาโปรดอย่าบีบคั้นข้าเลย มันคือลิขิตสวรรค์ข้าไม่อาจฝืนมัน "

แพรวาหลับตาลงช้าๆ หมอหลวงถอนหายใจอย่างโล่งอกที่แพรวาไม่ได้โวยวายเหมือนที่ควรจะเป็น ไม่ได้คาดคั้นขอคำตอบจนไม่อาจปฏิเสธ

"แม่นางต้องหาคำตอบเอง ข้าเองก็จนหนทางไม่อาจบอกเล่าเรื่องราวต่างๆละเอียดได้ เท่าความทรงจำของแม่นางเอง"

แพรวายังคงหลับตาด้วยความเหนื่อยอ่อนไม่มีวาจาโต้ตอบ หมอหลวงลุกเดินช้าๆออกจากห้องไป

"เฟยลี่ เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือยัง"

ฮ่องเต้ ผลุนผลันข้ามาในห้องแพรวาแกล้งหลับตาไม่รับรู้เรื่องใดๆ

" ไหนหมอหลวงบอกว่า เฟยลี่ ฟื้นแล้ว"

เสี่ยวโอมองดูฮ่องเต้ด้วยความเห็นใจ

"ข้าหลวงหญิง คงจะอ่อนเพลียมากจึงเผลอหลับไปอีกแล้ว ฝ่าบาทไว้ให้ลี่มี่เฝ้าปรนนิบัติเมื่อไหร่ที่รู้สึกตัวจะถวายรายงานฝ่าบาททันที"

เสี่ยวโอหาทางออก

"ข้าเฝ้านางเจ้าอย่าลืมว่านี่ตำหนักของข้า พวกเจ้าออกไปเถิด"

เสี่ยวโอรู้ใจผู้เป็นนายดี พยักเพยินกับลี่มี่ก่อนจะปิดประตูลง ฮ่องเต้ทรุดกายลงข้างแท่นบรรทมยกมือบางขึ้นมากุมไว้

" เจ้าอย่าเป็นอะไรนะ เฟยลี่ข้าใจหายเหลือเกินกับอาการของเจ้า หวังว่าจะเป็นเพียงแค่ อาการอ่อนเพลีย"

ยกมือบางขึ้นมาจุมพิตเบาๆ

แพรวาหลับตาลงไม่สนใจคำพูดหากจิตใจกับพะว้าพะวัง กลับภาพความทรงจำที่ผ่านเข้ามาในสมอง

หญิงนางหนึ่งที่แพรวาเคยเห็นและเรียกว่าแม่...จูงแขนแพรวาวิ่งออกทางด้านหลังของตำหนักเสียงคมกระบี่ปะทะกันดังอยู่ทั่วบริเวณ เสียงวี้ดว้าย ของบรรดาสนมนางใน

"คุ้ม กันฝ่าบาท...คุ้ม กันฝ่าบาท"

เสียงหัวหน้าองครักษ์ตะโกนดังลั่น แต่ช้าไปเสียแล้วคมกระบี่วับวาวสะท้อนแสง ให้เห็นภายใต้คบไฟสว่างไสวดุจกลางวันก็ไม่ปาน

กระบี่วาววับแทงฉับเข้าที่ขั้วหัวใจของฮ่องเต้ ชุดมังกรที่สวมใส่มีของเหลวเข้มไหลซึมออกมาร่างสูงตระหง่านชักกระบี่ออกจากร่างของฮ่องเต้ แพรวาวี้ดร้อง หญิงที่แพรวาเรียกว่าแม่ยกมือขึ้นอุดปากแพรวาไว้ ชายร่างสูงแววตาคมดุแต่ใบหน้าละม้ายคล้ายกับฮ่องเต้หนุ่มที่แพรวารู้จักดี หันหน้าคมดุมายังสองแม่ลูก

เสียงตะวาดดังลั่น

"ทหารจับตัวคุมตัว ฮองเฮาและองค์หญิงไว้อย่าให้หนีไปได้"

ฮองเฮากระชากร่างลูกสาวมากอดแนบอก แพรวาหลับตาปี้ด้วยวัยอันน้อยนิดแต่ก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ได้ กอดรัดรอบลำคอของฮองเฮาไว้แน่นเช่นกัน ทหารหลายนายรุมล้อมจนเกือบจะประชิดตัว ฮองเฮาถอยหลังชนเข้ากับราวสะพานหน้าตำหนักที่เป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำ ฮวงโหในฤดูนี้ไหลเชี่ยวและมีสีเหลือง นางหันรีหันขว้างระหว่างที่สถานการณ์คับขันนั้น

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   มันเจ็บปวด

    ฮองเฮาตัดสินใจกระโดดลงไปทันที แพรวาหลับตาคิดถึงอาการของคนที่กำลังจมน้ำกลืนกินน้ำเข้าไปจนจุกในท้องลมหายใจที่สูดเข้าไปมีน้ำเข้าไปภายในเท่านั้น จนในที่สุดก็ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ อีกเลยน้ำตาไหลเป็นสายออกจากดวงตาที่ยังหลับตาอยู่ ฮ่องเต้หนุ่มลุกพรวดพลาดจับร่างบางของแพรวามากอดไว้แน่น"เป็นอะไรไปเฟยลี่ ฝันร้ายหรืออย่างไร มาข้าจะกอดปลอบเจ้าให้หายกลัว"น้ำเสียงอ่อนโยนเอื้อาทร แพรวายิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลรินต่อไปเรื่อยๆ"ฝ่าบาท อย่าดีกับเฟยลี่มากไปกว่านี้เลย"หยางหลงฮ่องเต้ยังกอดแพรวาแน่น" เป็นอะไรไปเจ้าข้าทำอะไร ขัดใจเจ้าหรือเฟยลี่ หรือว่าแค่นี้ยังไม่พอ "จุมพิตดูดดื่ม อ่อนโยนปลอบ ประโลมจนแพรวาไม่อาจขัดขืน แต่น้ำตายังไหลรินไม่หยุดจูบอ่อนโยนนั้นซับน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา" ข้าพระองค์กับฝ่าบาท คงไร้ซึ่งวาสนาต่อกันเสียแล้ว...."พูดยังไม่ทันจบริมฝีปากหนาก็บดขยี้ลงไปบนริมฝีปากบางสวยเนิ่นนานก่อนจะถอนริมฝีปากออกด้วยอาการหักห้ามใจ"อย่าพูดถึงเรื่องวาสนาอะไรนั่นอีก เพียงแค่ตอนนี้ เราสองข้าและเจ้าอยู่เคียงข้างกันดุจจันทราคู่กับราตรี ก็เพียงพอแล้ว"แพรวากอดตอบร่างใหญ่เหมือนเด็กๆ หยางหลงฮ่องเต้ กดศีรษะแพรวาแนบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   ช้ำ...ช้ำ....ช้ำ

    ลี่มี่คุ้นคิดตรึกตรอง แพรวาฉุดมือลี่มี่ให้ลุกขึ้นยืน"ข้าเห็นเจ้าเป็นน้องสาว ไม่มีทางทำร้ายเจ้า เจ้าล่ะเห็นข้าเป็นพี่สาวเหมือนที่เรียกข้าว่าเจี่ยเจียหรือไม่"ลี่มี่น้ำตาซึม"นายหญิง อย่าบีบคั้นข้าน้อยเลย"" งั้นเจ้าแค่ พยักหน้ากับส่ายหน้าทุกอย่างเป็นข้าพูดเองคนเดียวความผิดใดใดไม่เกี่ยวกับเจ้า"ลี่มี่พยักหน้าช้าๆ"ฮ่องเต้องค์ก่อน ถูกปลงพระชนม์โดยเซี้ยนตี้ใช่หรือไม่"ลี่มี่นิ่งก่อนจะพยักหน้า ใจแพรวาร่วงหล่นหายไปที่ใดไม่อาจเรียกคืนภาพความทรงจำไม่ได้โกหก แพรวาเห็นทุกอย่าง พ่อของเธอที่เป็นถึงฮ่องเต้ถูกคมกระบี่เสียบทะลุขั้วหัวใจมันชัดเจนออกอย่างนั้น แม้จะบอกว่าเหมือนฝันแต่แพรวาอยู่ที่นั่นจริงจริง"แล้วองค์หญิงน้อยเล่าลี่มี่ นางหายไปไหน"ลี่มี่ส่ายหน้า"ไปเอาเหล้ามา เดี๋ยวนี้เลยเสี่ยวโอเจ้ากล้าขัดคำสั่งข้ารึ"เสียวโอถอยหลังไปสั่งขันทีอีกสองคนที่ยืนอยู่ห่างออกไปฮ่องเต้นั่งดื่มโดยมี เสี่ยวโอคอยรินสุราถวายด้วยสีหน้ากังวล“ฝ่าบาท ทรงเมามาย แล้วข้าพระองค์ว่าเลิกดื่มเถิด”ประตูที่เปิดกว้างอยู่ปรากฏร่างของเหมยหลิวอยู่เบื้องหน้าเสี่ยวโอจ้องมองไปที่ประตู“เหมยหลิว ถวายพระพรฝ่าบาท”น้ำเสียงอ่อนหวานอ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   หย่าจิ้ง

    แพรวาครุ่นคิดตาม ไม่แน่ ฮ่องเต้อาจไม่ไม่เคยรู้เรื่องที่แพรวารู้ก่อน คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด แพรวาต้องลอง ถามความจริงดูสักครั้งและ อาจจะให้อภัยเขาชุดฮั่นฟูสี เหลืองสวยที่ ลี่มี่คัดสรร เพื่อให้ ขับผิวเนียนสีน้ำผึ้งซึ่งบัดนี้ เกือบจะขาวตามแบบฉบับ ของหญิงสาวเมืองหนาว คงเป็นเพราะอากาศที่ เย็นสบาย บางครั้งถึงกับหนาว ทำให้ ใบหน้าคมด้วยรูปหน้าที่ครบเครื่องของแพรวายิ่งน่ามองยิ่งนัก หากแววตาเปี่ยมสุขเหมือนทุกครั้งที่ไม่มีแววตาเป็นกังวลนั้นปะปนอยู่ แพรวาจะนับว่าสวยจน หาใครเทียบเคียงเดินตามทางเดินทอดยาว อากาศสดชื่น.. ใบไม้อ่อนอ่อนเริ่มผลิใบตามกิ่งก้านสีเขียวอ่อน ทำเอารู้สึกสดชื่นได้ไม่ยาก ลี่มี่เดินตามช้าช้า ทั้งคู่ไม่ได้เร่งรีบอะไรจนมาถึงตำหนักใหญ่ของฮ่องเต้ แพรวาเคยเข้าไปภายในแบบไม่ต้องขออนุญาตใครมาแล้วหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นเวลางอนฮ่องเต้ หรือเวลาที่ฮ่องเต้ เรียกหาวันนี้ก็เช่นกันลี่มี่หยุดยืนอยู่หน้าห้องแพรวาผลักประตูเข้าไปเหมือนทุกครั้ง เดินเข้าไปจนถึง แท่นบรรทม ภาพที่เห็น เหมือนกงล้อที่หมุนวนมาอีกครั้งมันวนเวียนซ้ำรอยเดิมหัวใจแพรวาเกือบหยุดเต้นเหมยหลิวอยู่ในชุดชั้นใน แบบจีนโบราณที่มี เพียงผ้าบาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   มาแล้วตัวช่วย

    “มาเถิดมากับข้า เข้าไปนั่งข้างในก่อน” แพรวาเดินตามอย่างว่าง่าย ภายใน บรรยากาศอึมครึม แสงใดใดแทบไม่เล็ดลอดเข้ามา ชา อุ่นบนเตาถูกรินส่งให้แพรวา มือเย็นเฉียบกุมถ้วยชา ไว้ ก่อนจะยกขึ้นจิบ“สถานที่ต้องห้ามสำหรับ คนทั่วไป แต่สำหรับข้ามันที่ที่พักพิงสุดท้าย”น้ำเสียงเศร้าสร้อย แพรวา รู้สึกหดหู่ตาม นางต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหน ดูจากซีรีส์จีน ใครที่ต้องเข้าไปอยู่ในสุสานบรรพชน นี่ถือว่าต้องทรมานทั้งกายใจ“ข้าหย่าจิ้ง แม่นางน้อยมีนามว่าอะไร”“ข้า เฟยลี่ เป็นข้าหลวงหญิงหน้าพระพักตร์ของ ฮ่องเต้”“เจ้าหมายถึง หยางหลง ใช่ไหม” แพรวาพยักหน้า“ข้าอยู่นานไป จนเกือบลืมว่าแผ่นดินแสนสงบนี้ กลายเป็นของหยางหลงไปเสียแล้ว อย่างไรก็ดีหยางหลงผู้นี้ไม่เหมือนพ่อของเขา ที่มักใหญ่ใฝ่สูงเจ้าอยู่ข้างกายเขาคง ปกติสุขไม่น้อย”ดวงตาเศร้าสร้อยทอดยาวไปไกล เหมือนกำลังคุ้นคิดอะไรบางอย่าง แพรวาอยากหาคำพูดปลอบใจมากไปกว่านี้แต่ไม่รู้ว่าจะหาคำพูดไหนมาปลอบใจนาง“ข้าปกติสุขดี....” อยากต่อท้ายด้วยคำว่า ท่านแม่เหลือเกิน“ไหน ไหนก็มาแล้ว อยู่เป็นเพื่อนคุย กับข้าสักพักคงไม่ถือว่าเป็นการรบกวนเจ้า ใช่ไหมแม่นางน้อย” ชาถูกรินเติมลงในถ้วย“ข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   ท่านคือใคร

    “อย่างนั้นสู้ หลานถวายนางกำนัลสักสองสามคน เพื่อเป็นเพื่อนคุยคลายเหงา”“คนรู้ใจ หาได้ไม่ง่าย ใครจะอยากมาอยู่กับคนแก่ อย่างป้า”แพรวาหลบอยู่ หลังโต๊ะหมู่บูชาที่วางพระพุทธรูปได้ยินทุกคำพูด คิดว่าคงหาโอกาสแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ลืมเรื่องขุ่นเคืองใจชั่วขณะ กระโดดออกมาจากที่ซ่อน“ข้าน้อยเฟยลี่อาสามา รับใช้ท่านป้าเอง ค่ะ”ฮ่องเต้ตาโตด้วยความดีใจ แพรวาสะบัดหน้าไม่มองอย่างไรเสียต้องอนุญาต“ไม่ได้ ไม่ได้ ช้าไม่อนุญาตเจ้าเป็นข้าหลวงหญิงหน้าพระพักตร์ ถ้าเจ้ามา แล้วใครจะ...อยู่รับใช้ข้า”“ฝ่าบาท ใจร้าย ฝ่าบาทไม่มีสิทธิ์มากะเกณฑ์เฟยลี่ ในเมื่อฝ่าบาทก็มีเหมยหลิวทั้งคนก็ให้นางเป็นข้าหลวงหญิง หรือจะแต่งตั้งนางเป็นฮองเฮาก็ไม่น่าจะยาก ส่วนเฟยลี่ขออยู่รับใช้ท่านป้า”ฮ่องเต้อมยิ้ม หย่าจิ้งส่ายหน้ามองคนทั้งคู่สลับกันไปมา“กลับไปกับข้าเถิด เฟยลี่ข้าขอโทษ”แพรวาไม่พูดได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นความผิดแบบนี้จะใช้คำว่าขอโทษได้อย่างไร นี่แหละหนาผู้ชาย สามวันจากนารีเป็นอื่นแต่ผู้ชายแค่เพียงวันเดียวก็เปลี่ยนใจเดินไปยืนเกาะแขน หย่าจิ้งเหมือนต้องการคนช่วย“ฝ่าบาท เมื่อพบคนแล้วก็กลับไปเถิด ส่วนเรื่องที่นางจะกลับไปรับใช้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   หย่าจิ้ง

    “แน่เสียยิ่งกว่าแน่ ฮ่องเต้หลายฝ่ายเป็นห่วงเรื่องนี้ สักวันจะเสียทีให้กับคนที่คิดไม่ซื่อรีบแต่งตั้งสนมฮุ่ยเป็นฮองเฮา รีบมีรัชทายาท เมื่อนั้นก็ไม่มีใครทำอะไรฝ่าบาทได้ เมื่อตระกูลใหญ่ทั้งสี่สนับสนุน ฐานะบนบัลลังก์มั่นคงอย่างนั้น”นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นเพราะฮ่องเต้องค์เก่า ที่เหมือนกับหยางหลงเหลือเกินรักความสงบปกครองบ้านเมืองอย่างสงบสุข ไม่รบรากับใครเทิดทูนความรักไม่ยอมมีรัชทายาทกับสนมคนใดรอเพียงให้มีกับหย่าจิ้งคนเดียว ซึ่งนางก็ให้กำเนิดเพียงแค่องค์หญิง สุดท้ายก็ต้องถูก แย่งชิงบัลลังก์จากเซี้ยนตี้ ถอนหายใจอีกครั้งหรือว่าประวัติศาตร์จะซ้ำรอย“ลูกขอเวลาตรึกตรอง ตอนนี้เองฮุ่ยเหนียงก็ยังไม่พ้นมลทินคงต้องรอให้นางพิสูจน์ตัวเองเสียก่อน”“แม่หวังว่าฝ่าบาทจะคิดให้ถ้วนถี่เฟยลี่ฝ่าบาทจะให้นางดำรงตำแหน่งอะไรก็ได้ จะอยู่กับนางทุกคืนก็ได้นางให้ได้แค่ความสำราญ พระทัย แต่เพื่อความมั่นคงของฝ่าบาทต้องเป็นสนมฮุ่ยเท่านั้น”ไทเฮาจากไป ฮ่องเต้หนุ่มอยากจะไปบอกข่าวดีนี้แก่แพรวาเหลือเกิน แต่นึกถึงใบหน้าเย็นชานั้นเล่าจะหายไปหรือยังป่านนี้คงได้ข่าว เรื่องเหมยหลิวที่ เล็ดลอดออกไปแพร่สะพัดไปทั่ว หยางหลงฮ่องเต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   แผนผังความสัมพันธ์

    เรามาทำความรู้จักกับ บรรดาผู้ที่เป็นตัวละครของเรื่องนี้กันค่ะฮ่องเต้ (หยางหลง) -ลูกของฮ่องเต้ องค์ก่อนที่ชิงบัลลังก์มาจากพ่อของแพรวา ซึ่งปู่ของแพรวาและฮ่องเต้ เป็นลูกพี่ลูกน้องกันแพรวา -อายุ หกขวบก็ เดินทางข้ามเวลามาที่ไทยโดยการกระโดดลงน้ำพร้อมกับ ฮองเฮาหย่าจิ้งผู้เป็นมารดา และพออายุได้18 ปีก็เดินทางกลับมายังที่เดิมอีกครั้งชินอ๋อง-น้องต่างมารดา ที่แม่เป็นสนมเอกของเซี้ยนตี้ (พ่อของหยางหลงฮ่องเต้) และตาเป็นถึง ขุนนางใหญ่ในราชสำนัก กุมอำนาจทางทหารไว้ทั้งหมด แต่ถูกเลี้ยงดูและ ฟูมฟักโดยไทฮองไทเฮาที่เป็นย่าเพราะชินอ๋องมีความเหมือนปู่ (ซึ่งเป็นปู่ของ หยางหลงฮ่องเต้ด้วย แต่หยางหลงฮ่องเต้ ได้นิสัยรักสงบจิตใจอ่อนโยนมาจากแม่) ชินอ๋องเป็นคนที่คนข้างเด็ดขาด และค่อนข้างโหดตามนิสัยทหาร ถ้าชินอ๋องมีความภักดี หยางหลงจะได้ทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๋เลยที่เดียวโหวหยางจื้อ- น้องชายต่างมารดา ของหยางหลงฮ่องเต้ ซึ่งแม่เป็นสามัญชนเหมือนแม่ของหยางหลง แต่ เป็นที่โปรดปรานของเซี้ยนตี้ถึงกับแต่งตั้งให้เป็นกุ้ยเหริน มีความภักดีต่อพี่ชาย และ มักจะเก่งทางด้านบุ๋น เป็นเหมือนมันสมองของ หยางหลงไทเฮา- ผู้ที่ดำรงตำแหน่งฮองเฮ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   เพียงถ้วยเดียว

    “ถาม ถามยังไม่หมด แล้วฝ่าบาททำไมถึง ...รักเหมยเจียง”แพรวาถามไปอย่างนั้นเพราะคิดคำถามไม่ออก ฮ่องเต้เลิกคิ้วสูงคาดไม่ถึงกับคำถามนั้น“เหมยเจียงเป็นสิ่งเดียวหลังจากที่ท่านแม่ตายไปนางเป็นทั้งเพื่อนเล่น และพี่สาวในเวลาเดียวกัน เหมยเจียงเป็นผู้ใหญ่เกินตัวทั้งยังมีจิตใจอ่อนโยนโอบอ้อมอารี”ดีเว่อร์ไปไหมถ้าเทียบกับแพรวา ที่ไม่มีคุณสมบัติที่ว่าเลยตำหนักไทฮองไทเฮา“ย่า ว่าเราคงต้องจัดการทุกอย่าง ให้มันเร็วขึ้นกว่าเดิมเสียแล้ว”ไทฮองไทเฮาใบหน้าเคร่งเครียด ยามที่เปล่งวาจาชินอ๋องก้มหน้านิ่งอย่างใช้ความคิด“เหมยหลิวไม่สามารถดำเนินแผนการให้สำเร็จได้ เพราะไทเฮาที่มาขัดขว้างนาง ช่างมาได้ถูกจังหวะทำให้แผนของเราปั่นป่วนตั้งแต่ครั้งที่แม่ของเจ้าต้องโทษให้ถูกจองจำในตำหนักเย็นก็เป็นไทเฮา”ชินอ๋องตาวาวโรจน์ด้วย อารมณ์คุกรุ่นภายใน เมื่อคำพูดเสียดแทงจิตใจ“หลานยังเตรียมการได้ไม่ดีเท่าที่ควร อยากให้เสด็จย่ารออีกสักระยะให้ทุกอย่างรัดกุมกว่านี้”ไทฮองไทเฮาทำเสียงจิจ๊ะ อย่างขัดใจ“ดอกเหมยจะงามเมื่อถึงเวลาเบ่งบาน เสด็จย่าโปรดรอวันที่หลานจะได้นั่งบัลลังก์”ไทฮองไทเฮายิ้มอย่างสมใจ“ถ้าเป็นเจ้าชินอ๋องหากว่าเซี้ยนตี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16

บทล่าสุด

  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   ขอแค่มีท่านข้ากาย

    “ข้าต้องทรมานเพียงใด เฟยลี่เมื่อมีเจ้าอยู่ใกล้”“ท่านนี่ปากหวานชะมัด รอให้หายก่อนเถิดและที่สำคัญเราไม่อาจเปิดเผยสถานะได้ในตอนนี้ ข้าเพียงแต่บอกพวกเขาว่าเราหนีออกมาจากวังหลวง ข้ากับเจ้าเป็นขันทีและนางในที่หลบหนีจากเหตุการณ์ ชิงบัลลังก์ของเหอหลง”“ตงเฉิง บุรุษผู้นั้นท่าทางฉลาดหลักแหลม อาจสงสัยในคำพูดของเจ้าเฟยลี่”“ช่างเขา ข้าขอเพียงท่านมีหมอมีที่พำนัก เอาตัวรอดไปทีละอย่าง”แพรวาไม่อาจบอกว่า เธอกำลังครุ่นคิดที่จะหลบหนีออกไปยังเมืองหน้าด่านเพื่อไปพบกับโหวหยางจื้อ เพราะจากท่าทีของตงเฉิงต้องการเหนี่ยวรั้งแพรวาไว้ที่นี่“ข้าไม่ชอบสายตาของตงเฉิงยามเมื่อมองเจ้า เฟยลี่เจ้าเป็นของข้าโดยสมบูรณ์ไม่อาจให้ใครแย่งชิง”แพรวายิ้มเอียงอายนึกถึงเรื่องราวที่ทำให้ตัวเองกลายเป็นของหยางหลงโดยสมบูรณ์เหมือนที่เขาว่า“เราปลอดภัยในที่แห่งนี้ท่านไม่ต้องห่วง เราจะออกเดินทางทันทีเมื่อท่านอาการดีขึ้น ตอนนี้ท่านไม่ต้องกังวลพักผ่อนเสียบ้างจะได้ หายไวไว ข้าต้มน้ำซุปไว้ข้างนอกนั่น เดี๋ยวจะออกไปยกมาให้ท่าน”ลุกขึ้นเดินหยางหลงฉุดมือ“ข้าไม่อาจทำให้เจ้าเป็นฮองเฮาของข้าได้แล้วตอนนี้ยังต้องให้เจ้าลำบากมาดูแลข้าอีก ข้าขออภัย

  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   ขอแค่มีท่านข้างกาย

    เสียงฝีเท้าม้าควบตรงมายังที่ทั้งคู่สนทนากันอยู่หยางหลงผุดลุกขึ้นในท่าทีเตรียมพร้อม ไฉนเลยเขาไม่ฉุกคิดว่าที่แห่งนี้ไม่ปลอดภัยแพรวาหลบอยู่ด้านหลังอย่างกล้ากล้ากลัวกลัว หยางหลงชักกระบี่ออกมาจากฝักอยู่ในท่าเตรียมพร้อมม้านับสิบล้อมรอบทั้งคู่ไว้ บุรุษบนหลังม้าจ้องมองมายังจุดเดียวร่างผึ่งผาย บนหลังม้าสีหมอกใบหน้าคมสันผิวพรรณสะอาดสะอ้านไม่ต่างจากหยางหลง“บอกนามของ พวกเจ้ามาเดี๋ยวนี้”สายตากวาดมองจนทั่ว ก่อนจะหยุดมองใบหน้าแพรวาอย่างพึงใจหยางหลง ไม่อาจละสายตาจากตาคมที่จ้องมองแพรวานิ่ง“ไม่จำเป็นที่ข้าต้องเอ่ยนาม”ไม่ใช่แค่รู้สึกไม่ชอบใจสายตา หากแต่ไม่อยากคบค้าด้วยก็ว่าได้ บุรุษบนหลังม้าชักกระบี่ก่อนที่ฉากการต่อสู้อันยิ่งใหญ่จะเริ่มขึ้น หยางหลงฝีมือไม่ด้อยกว่าใครในยุทธภพฟาดฟันกระบี่ดังจอมยุทธมือหนึ่ง วิชาตัวเบาพลิ้วไหวดั่งอินทรีย์โฉบเฉี่ยวบุรุษหนึ่งนั้นก็หาด้อยกว่าหยางหลงไม่หลบหลีกเหมือนรู้ทันทุกกระบวนท่าของหยางหลง แพรวาใจเต้นระทึกจ้องมองฉากที่เห็นเหมือน นั่งในโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ ทั้งคู่ผลัดกันรุกรับ พัลวัน แต่แล้วบุรุษตาคมก็พลาดท่าแก่หยางหลงเมื่อปลายกระบี่คมกริบในมือของหยางหลงจ่ออยู่ที่ ลำ

  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   โบยบินงดงามท่ามกลางอ้อมกอดของท่าน

    บางขณะเหมือนกับล่องลอยอาการป่วยหายไปร่างแนบชิดจนเกือบจะกายเป็นร่างเดียวกัน หยางหลงเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าความรัก และความใคร่เมื่อมาบรรจบกันนั้นมันแสดงออกถึงพลังมหาศาล อย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกกับหญิงใดมาก่อน“ข้ารักเจ้าเฟยลี่นางหนึ่งเดียวในดวงใจของข้าต่อนี้ไป”ความหวานหอมที่เพิ่งผ่านพ้นทำเอาแพรวาครางเสียงแผ่ว หยางหลงจุมพิตไม่เบื่อหน่ายที่ริมฝีปากสวยนั้นจากนี้ไปจะเป็นหรือตาย หญิงงามนางนี้ก็เป็นสมบัติ ของเขาเพียงผู้เดียว ร่างบอบบางอ่อนระทวยในอ้อมแขนเขาแทบจะกลืนกินลงในบัดดลแพรวาเองไม่ต่างกันซบหน้าลงบนอกกว้างเปลือยเปล่า จะสามารถรักใครได้มากขนาดนี้โหยหาสัมผัสจากใครได้มากขนาดนี้ ร่างสองร่างกอดรัดไม่ห่างภายใต้แสงจันทร์นวลทุกสรรพสิ่งเป็นพยานในความรักของทั้งคู่ฟ้าสีทองส่องแสงอำพันทางทิศตะวันออกแพรวานอนหลับตาอย่างเป็นสุขในวงแขนแข็งแรง มือใหญ่หยิบเศษผมที่ตกลงมาปิดใบหน้าออกใช้มือเกลี่ยแก้มนวลเบาเบา อาการตัวร้อนหายไปยาเทียบนี้ดีเหลือเกินในความคิดของหยางหลง สงสัยต้องใช้บ่อยบ่อยเสียแล้วอมยิ้มกับความคิดของตัวเอง คนตัวเล็กในอ้อมแขนขยับตัวไปมาจูบไล่ตั้งแต่เปลือกตาเรื่อยมาจนถึงริมฝีปาก“ฝ่าบาท รังแกเฟย

  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   เสน่หาที่ขาไม่อาจต้านทาน

    “บัลลังก์เป็นสิ่งที่ข้าต้องการ และสิ่งที่ข้าต้องทำต่อจากการนั่งบัลลังก์ก็คือมอบสิ่งนี้ให้แก่ท่าน”ไทเฮารับพาน มาถือไว้ด้วยมืออันสั่นเทาชินอ๋องสะบัดชายเสื้อเดินออกจากตำหนักด้วยใบหน้าเศร้าหมองมองขึ้นไปบนฟ้ากว้างความแค้นที่ถูกชำระลงไปในวันนี้ เหตุใดทำจิตใจเขาเศร้าหมองยิ่งสิ่งที่ได้มาต้องแลกกับอะไรมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้จิตใจของ ชินอ๋องรู้สึกมีสุขและสว่างดังแสงเทียนยามค่ำคืน คือใบหน้าหวานสวยของแพรวาที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้าไทเฮาคลี่ผ้าขาวออกก่อนจะโยนผ้าขาวฟาดบนขื่อคา ผูกให้เป็นบ่วงสอดลำคอระหงลงบนบ่วงผ้าขาวหลับตาลงบนช้าช้า“เซี้ยนตี้ข้ากำลังจะตามท่านไปมารับข้าด้วย"................................................................ตำหนักใหญ่“พบตัวนางหรือยัง"เสียงตื่นเต้นดีใจเมื่อทหารองครักษ์เดินเข้ามาภายในตำหนัก“หานางไม่พบ พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” “เจ้าแน่ใจแล้วรึ”“ค้นจนทั่วเขตวังหลวง แต่ไม่มีแม้เงาของข้าหลวงหญิงเฟยลี่ ก่อนนั้นมีคนเห็นหญิงสาวลักษณะเหมือนแม่นางเฟยลี่หนีไปพร้อมกับหยางหลงที่สวมชุดขันที”กำปั้นถูกทุบลงบนพื้นโต๊ะ“ไม่ผิดแน่ใช่ไหม”“ขันทีหน้าห้องหลายคนยืนยันว่านางอยู่ในห้องบรรทม

  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   แย่แล้ว

    “ข้าขี่ม้าไม่เป็น”หยางหลงฮ่องเต้ไม่พูดพล่าม ตวัดแขนเกี่ยวเอวบางส่งขึ้นไปบนหลังม้าแล้วกระโดดขึ้นคร่อมบนหลังม้าตัวเดียวกัน“ให้นางไปกับข้า เชิญท่านนำทาง” ชายกลางคนมองคนทั้งคู่อย่างพิจารณา“ถ้า หากเป็นเช่นนี้ข้าคงต้อง ผูกม้าอีกตัวไว้ที่นี่ แต่การนั่งบนหลังม้าถึงสองคน ทำให้ม้าวิ่งได้ช้าลง“ไม่เป็นไรเราคงต้องอาศัย ท่านช่วยนำทางไปยังทางที่ไม่ใช่ทางหลักถึงจะไกลหน่อยแต่ข้ารับรองว่าท่าน จะได้สิ่งตอบแทนที่ท่านพอใจ”ชายกลางคนพยักหน้าก่อนจะขึ้นไปบนหลังม้าของตัวเอง กระตุกบังเหียนใช้ส้นเท้ากระแทกสีข้างม้าให้พุ่งทะยานไปข้างหน้า ฮ่องเต้ ควบม้าตาม ด้วยความรวดเร็วไม่แพ้กัน เสียงฝีเท้าม้าดังประสานเสียงพร้อมกับเสียงตะโกนกระตุ้นม้าให้วิ่งแพรวาพิงร่างลงบนอกของฮ่องเต้ระยะทางแสนไกลไม่มีที่สิ้นสุดหมอหลวงหอบห่อผ้าพะรุงพะรังไปยังสุสานบรรพชน แสงเทียนภายในห้องของหย่าจิ้งยังไม่มอดลง“หย่าจิ้ง ถึงเวลาที่ท่านกับข้าต้องรีบเดินทางเสียแล้ว”“ท่านหมายความว่าอย่างไร”“ตอนนี้ชินอ๋อง ได้บุกเข้าไปในวังหลวงและขึ้นนั่งบัลลังก์แทนหยางหลงเสียแล้วหากว่า หย่าจิ้งยังอยู่ที่นี่เกรงจะมีอันตรายถึงชีวิต เพราะไทฮองไทเฮาทรงอยู่เบื้องห

  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   จุดเริ่มต้น

    ค่ำคืนเปี่ยมสุขนั้น หยางหลงฮ่องเต้หลับใหลโดยข้างกายมีแพรวาเคียงข้างไม่ถึงหนึ่งชั่วยามความร้อนที่อยู่รอบกาย ทำเอาฮ่องเต้สะดุ้งตื่นจากนิทราหลับใหล มองเห็นเพียงแสงสว่างแดงฉานกับความร้อนที่ทวีความรุนแรง เสียงกระบี่กระทบกันดังเข้ามาใกล้เสียงวิ่งวุ่นวายแพรวางัวเงียตื่นขึ้นมาเหมือนกันเสี่ยวโอเปิดประตูเข้ามา ใบหน้าตื่นตระหนก“ฝ่าบาท ทรงเสด็จออกทางด้านหลังตำหนักขณะนี้ชินอ๋องนำทัพหน้าล้อมวังหลวงไว้ทุกด้าน หัวหน้าองครักษ์ให้ข้าพระองค์มาแจ้งข่าว และนำเสด็จ”“คุ้มกันฝ่าบาท คุ้มกันฝ่าบาท"เสียงตะโกนดังสนั่นใกล้เข้ามาทุกที่ภาพความทรงจำเก่าๆ ย้อนเข้ามาในหัวแพรวา อดไม่ได้ยกมือกุมขยับเสี่ยวโอโยนเสื้อผ้าขันทีลงตรงหน้าพระพักตร์ ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมมังกรที่แขวนอยู่ขึ้นมาสวมทับชุดขันทีหยิบพระมาลาของฮ่องเต้ ที่ถอดวางไว้มาสวม“ฝ่าบาทเราไม่มีเวลาแล้ว ทรงสวมชุดขันทีแล้วหนีไปกับเจี่ยเจียข้าพระองค์วันนี้อยากเป็นฮ่องเต้ สวมชุดมังกรแทนท่าน”ยื่นหมวกขันทีส่งให้ฮ่องเต้“เสี่ยวโอ ข้าไม่อยากใช้เจ้าเป็นกำบัง”“ไม่มีเวลาคิดแล้ว แค่ให้ฝ่าบาทสามารถรอดจากเงื้อมมือของชินอ๋องได้และกลับมาทวงบัลลังก์คืนก็พอแล้ว”ปากก็พูดมือก

  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   จุดเริ่มต้น

    วาจาคล้ายจะหยั่งเชิง จับพิรุธจากคำพูด“นางตัวคนเดียว ไร้ที่พึ่งพิง”“เจ้าช่างรู้ดีว่าตัวคนเดียวไร้ที่พึ่ง”หมอหลวงรู้แล้วว่าตัวเองพลาดไปถนัดใจหาก ไทฮองไทเฮารู้ฐานะที่แท้จริงของแพรวาสิ่งที่ต้องแลกมาคงไม่อาจคาดเดา“พระองค์ทรง เป็นกังวลอะไรกับเด็กสาวไร้ที่มาเพียงคนเดียว"ไทฮองไทเฮา ยิ้มเยือกเย็น“ข้าไม่สนใจ แค่เพียงคนที่ไร้ที่มาหากนางไร้ที่มาจริงจริงและพอจะเข้าใจบางอย่าง ไม่รบกวนท่านแล้วไว้ข้ามีเรื่องขัดข้องอันใดคงได้ คำตอบจากท่านอีกเป็นแน่ แม้วันนี้ท่าทีของท่านไม่อยากตอบคำถามข้านักก็ตาม”หมอหลวงผู้นี้ต้องมีเรื่องใดปิดบังอยู่เป็นแน่แท้ หากจะคาดคั้นไปยิ่งเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นหมอหลวงจากมาด้วยการแบกรับภาระที่หนักอึ้งไทฮองไทเฮา เจ้าเล่ห์ฉลาดเฉลียวไม่แน่อาจระแคะระคายอะไรบางอย่างถึงตอนนี้เองต้องหาทางบอกกล่าวแพรวาไว้บ้างเพราะนางจะได้หาทางหนีทีไล่ไว้เขาเองก็คงช่วยไม่ได้มาก ยังมีอีกคนหมอหลวงสาวเท้าเดินออกนอกเส้นทางเพื่อไปยังสุสานบรรพชนหย่าจิ้งร่ายรำวิทยายุทธที่นางฝึกฝนมานานกระบี่ในมือกวัดแกว่งรวดเร็วจนเกิดการเสียดสีกับอากาศเกิดเสียงดัง ยามแกว่งไกวหมอหลวง หยุดอยู่เบื้องหลังก่อนที่ปลายกระบี่จะ

  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   เจ็บปวด

    “ไม่จริงเสด็จย่า หลานหวังเพียงแต่นางเพียงผู้เดียว”ไทฮองไทเฮายิ้มเยือกเย็น“เป็นเช่นนั้นเจ้าต้องเร่งมือทำการ ใหญ่ให้สำเร็จเสียก่อนแล้วเฟยลี่ก็คง... ไม่พ้นมือเจ้า”ชินอ๋องจากไป ไทฮองไทเฮาเรียกองครักษ์คนสนิทเข้าพบหมุนแหวนหยกบนนิ้วชี้ไปมายิ้มโหดเหี้ยม“ข้าให้เจ้า สืบเรื่องของข้าหลวงหญิงไปถึงไหนแล้ว ป่านนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดใด”“ขอไทฮองไทเฮาโปรดอภัยข้าน้อยตามสืบเรื่องของข้าหลวงหญิงแต่ไร้ร่องรอยของนาง ไม่เพียงเท่านั้นยังไม่เคยมีใครได้พบเจอนางมาก่อน”ไทฮองไทเฮาตบ โต๊ะดังสนั่น“นางที่มาที่ไปไร้ร่องรอย นางเป็นใครกันแน่”“แต่ที่ประหลาดคือ ทุกทุกเดือนหมอหลวงจะนำยาเทียบหนึ่งมาให้นางเป็นประจำ และนางเองมักจะ มีเรื่องพูดคุยกับหมอหลวงเป็นประจำ”“ฮึฮึ.. อย่างนั้นข้าคงต้อง เรียกตัวหมอหลวงเข้าพบเสียทีดูว่าหมอหลวงเจ้าเล่ห์จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง ที่่บังอาจปิดบังข้าได้”เพียงครู่เดียวหมอหลวงชราก็อยู่ต่อหน้าไทฮองไทเฮา“ข้า จางจื้อเยว่หมอหลวง ถวายพระพรไทฮองไทเฮา อายุยืนหมื่นปีหมื่นปีมีเรื่องอันใดให้ข้าพระองค์รับใช้ข้าพระองค์น้อมรับบัญชา”ยิ้ม ที่เหมือนฉาบทาด้วยยาพิษ“ข้าไม่ใช่คนอ้อมค้อม เพียงแค่อยากรู

  • ฮ่องเต้ตัวร้ายกัยยัยตัวป่วน   บัลลังก์นี้เพื่อ

    “ข้าน่าจะปล่อยให้ ชินอ๋อง ... บอกเจ้ากี่ครั้งนิสัยดื้อรั้นของเจ้าตำหนักข้าน่าเบื่อมากหรืออย่างไร เจ้าถึงต้องนั่งดื่มอยู่ ในตำหนักชินอ๋อง” แพรวาเม้มปากแน่นรู้ว่าผิดแล้วจะตอกย้ำทำไม สะบัดแขนใจให้หลุดจากการลากถูนั้นแต่เปล่าประโยชน์“แค่อยากออกมาเดินเล่นเท่านั้นพอดีเจอชินอ๋อง จะปฏิเสธอย่างไรเล่าในเมื่อเขาเป็นอนุชาของ ฝ่าบาท”ฮ่องเต้ถอนหายใจ“ในวังหลวงแห่งนี้ เจ้าคิดว่าใครบ้างที่จริงใจกับเจ้าเหมือนข้าต้องรู้จักระวังตน ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจจะพลาดท่าเสียที จำเอาไว้ “แพรวา ทำตาละห้อยสำนึกผิดหากหยางหลงฮ่องเต้มาไม่ทัน จะเกิดอะไรขึ้นแพรวาไม่อาจคาดเดา“ลมหนาวแม้ พัดตามฤดูกาล หากแต่ก็มีช่วงเวลาที่พัดผ่านคนเราหากไม่รอเวลาที่เหมาะสมไหนเลยจะพบกับความสุข เจ้าอดทนรอ อีกสักนิด เมื่อเวลานั้นมาถึงทุกอย่างในวังหลวงแห่งนี้ข้าแบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง จะไปไหนทำอะไรข้าจะไม่หวงห้ามเจ้าเพียงแต่ตอนนี้เรายังไม่อาจคาดเดา หลายคนหลายฝ่ายได้เท่านั้นเอง”แพรวาพยักหน้า เป็นเชิงเข้าใจลี่มี่ประคองชินอ๋องก่อนจะเรียกให้หญิงรับใช้สองสามคนมาดูแล ยืนนิ่งมองด้วยความสงสารจับใจ หันหลังกลับเดินตามหยางหลงฮ่องเต้และแพรวา กลับวังหลวงด้ว

DMCA.com Protection Status