แพรวาครุ่นคิดตาม ไม่แน่ ฮ่องเต้อาจไม่ไม่เคยรู้เรื่องที่แพรวารู้ก่อน คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด แพรวาต้องลอง ถามความจริงดูสักครั้งและ อาจจะให้อภัยเขาชุดฮั่นฟูสี เหลืองสวยที่ ลี่มี่คัดสรร เพื่อให้ ขับผิวเนียนสีน้ำผึ้งซึ่งบัดนี้ เกือบจะขาวตามแบบฉบับ ของหญิงสาวเมืองหนาว คงเป็นเพราะอากาศที่ เย็นสบาย บางครั้งถึงกับหนาว ทำให้ ใบหน้าคมด้วยรูปหน้าที่ครบเครื่องของแพรวายิ่งน่ามองยิ่งนัก หากแววตาเปี่ยมสุขเหมือนทุกครั้งที่ไม่มีแววตาเป็นกังวลนั้นปะปนอยู่ แพรวาจะนับว่าสวยจน หาใครเทียบเคียงเดินตามทางเดินทอดยาว อากาศสดชื่น.. ใบไม้อ่อนอ่อนเริ่มผลิใบตามกิ่งก้านสีเขียวอ่อน ทำเอารู้สึกสดชื่นได้ไม่ยาก ลี่มี่เดินตามช้าช้า ทั้งคู่ไม่ได้เร่งรีบอะไรจนมาถึงตำหนักใหญ่ของฮ่องเต้ แพรวาเคยเข้าไปภายในแบบไม่ต้องขออนุญาตใครมาแล้วหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นเวลางอนฮ่องเต้ หรือเวลาที่ฮ่องเต้ เรียกหาวันนี้ก็เช่นกันลี่มี่หยุดยืนอยู่หน้าห้องแพรวาผลักประตูเข้าไปเหมือนทุกครั้ง เดินเข้าไปจนถึง แท่นบรรทม ภาพที่เห็น เหมือนกงล้อที่หมุนวนมาอีกครั้งมันวนเวียนซ้ำรอยเดิมหัวใจแพรวาเกือบหยุดเต้นเหมยหลิวอยู่ในชุดชั้นใน แบบจีนโบราณที่มี เพียงผ้าบาง
“มาเถิดมากับข้า เข้าไปนั่งข้างในก่อน” แพรวาเดินตามอย่างว่าง่าย ภายใน บรรยากาศอึมครึม แสงใดใดแทบไม่เล็ดลอดเข้ามา ชา อุ่นบนเตาถูกรินส่งให้แพรวา มือเย็นเฉียบกุมถ้วยชา ไว้ ก่อนจะยกขึ้นจิบ“สถานที่ต้องห้ามสำหรับ คนทั่วไป แต่สำหรับข้ามันที่ที่พักพิงสุดท้าย”น้ำเสียงเศร้าสร้อย แพรวา รู้สึกหดหู่ตาม นางต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหน ดูจากซีรีส์จีน ใครที่ต้องเข้าไปอยู่ในสุสานบรรพชน นี่ถือว่าต้องทรมานทั้งกายใจ“ข้าหย่าจิ้ง แม่นางน้อยมีนามว่าอะไร”“ข้า เฟยลี่ เป็นข้าหลวงหญิงหน้าพระพักตร์ของ ฮ่องเต้”“เจ้าหมายถึง หยางหลง ใช่ไหม” แพรวาพยักหน้า“ข้าอยู่นานไป จนเกือบลืมว่าแผ่นดินแสนสงบนี้ กลายเป็นของหยางหลงไปเสียแล้ว อย่างไรก็ดีหยางหลงผู้นี้ไม่เหมือนพ่อของเขา ที่มักใหญ่ใฝ่สูงเจ้าอยู่ข้างกายเขาคง ปกติสุขไม่น้อย”ดวงตาเศร้าสร้อยทอดยาวไปไกล เหมือนกำลังคุ้นคิดอะไรบางอย่าง แพรวาอยากหาคำพูดปลอบใจมากไปกว่านี้แต่ไม่รู้ว่าจะหาคำพูดไหนมาปลอบใจนาง“ข้าปกติสุขดี....” อยากต่อท้ายด้วยคำว่า ท่านแม่เหลือเกิน“ไหน ไหนก็มาแล้ว อยู่เป็นเพื่อนคุย กับข้าสักพักคงไม่ถือว่าเป็นการรบกวนเจ้า ใช่ไหมแม่นางน้อย” ชาถูกรินเติมลงในถ้วย“ข้
“อย่างนั้นสู้ หลานถวายนางกำนัลสักสองสามคน เพื่อเป็นเพื่อนคุยคลายเหงา”“คนรู้ใจ หาได้ไม่ง่าย ใครจะอยากมาอยู่กับคนแก่ อย่างป้า”แพรวาหลบอยู่ หลังโต๊ะหมู่บูชาที่วางพระพุทธรูปได้ยินทุกคำพูด คิดว่าคงหาโอกาสแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ลืมเรื่องขุ่นเคืองใจชั่วขณะ กระโดดออกมาจากที่ซ่อน“ข้าน้อยเฟยลี่อาสามา รับใช้ท่านป้าเอง ค่ะ”ฮ่องเต้ตาโตด้วยความดีใจ แพรวาสะบัดหน้าไม่มองอย่างไรเสียต้องอนุญาต“ไม่ได้ ไม่ได้ ช้าไม่อนุญาตเจ้าเป็นข้าหลวงหญิงหน้าพระพักตร์ ถ้าเจ้ามา แล้วใครจะ...อยู่รับใช้ข้า”“ฝ่าบาท ใจร้าย ฝ่าบาทไม่มีสิทธิ์มากะเกณฑ์เฟยลี่ ในเมื่อฝ่าบาทก็มีเหมยหลิวทั้งคนก็ให้นางเป็นข้าหลวงหญิง หรือจะแต่งตั้งนางเป็นฮองเฮาก็ไม่น่าจะยาก ส่วนเฟยลี่ขออยู่รับใช้ท่านป้า”ฮ่องเต้อมยิ้ม หย่าจิ้งส่ายหน้ามองคนทั้งคู่สลับกันไปมา“กลับไปกับข้าเถิด เฟยลี่ข้าขอโทษ”แพรวาไม่พูดได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นความผิดแบบนี้จะใช้คำว่าขอโทษได้อย่างไร นี่แหละหนาผู้ชาย สามวันจากนารีเป็นอื่นแต่ผู้ชายแค่เพียงวันเดียวก็เปลี่ยนใจเดินไปยืนเกาะแขน หย่าจิ้งเหมือนต้องการคนช่วย“ฝ่าบาท เมื่อพบคนแล้วก็กลับไปเถิด ส่วนเรื่องที่นางจะกลับไปรับใช้
“แน่เสียยิ่งกว่าแน่ ฮ่องเต้หลายฝ่ายเป็นห่วงเรื่องนี้ สักวันจะเสียทีให้กับคนที่คิดไม่ซื่อรีบแต่งตั้งสนมฮุ่ยเป็นฮองเฮา รีบมีรัชทายาท เมื่อนั้นก็ไม่มีใครทำอะไรฝ่าบาทได้ เมื่อตระกูลใหญ่ทั้งสี่สนับสนุน ฐานะบนบัลลังก์มั่นคงอย่างนั้น”นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นเพราะฮ่องเต้องค์เก่า ที่เหมือนกับหยางหลงเหลือเกินรักความสงบปกครองบ้านเมืองอย่างสงบสุข ไม่รบรากับใครเทิดทูนความรักไม่ยอมมีรัชทายาทกับสนมคนใดรอเพียงให้มีกับหย่าจิ้งคนเดียว ซึ่งนางก็ให้กำเนิดเพียงแค่องค์หญิง สุดท้ายก็ต้องถูก แย่งชิงบัลลังก์จากเซี้ยนตี้ ถอนหายใจอีกครั้งหรือว่าประวัติศาตร์จะซ้ำรอย“ลูกขอเวลาตรึกตรอง ตอนนี้เองฮุ่ยเหนียงก็ยังไม่พ้นมลทินคงต้องรอให้นางพิสูจน์ตัวเองเสียก่อน”“แม่หวังว่าฝ่าบาทจะคิดให้ถ้วนถี่เฟยลี่ฝ่าบาทจะให้นางดำรงตำแหน่งอะไรก็ได้ จะอยู่กับนางทุกคืนก็ได้นางให้ได้แค่ความสำราญ พระทัย แต่เพื่อความมั่นคงของฝ่าบาทต้องเป็นสนมฮุ่ยเท่านั้น”ไทเฮาจากไป ฮ่องเต้หนุ่มอยากจะไปบอกข่าวดีนี้แก่แพรวาเหลือเกิน แต่นึกถึงใบหน้าเย็นชานั้นเล่าจะหายไปหรือยังป่านนี้คงได้ข่าว เรื่องเหมยหลิวที่ เล็ดลอดออกไปแพร่สะพัดไปทั่ว หยางหลงฮ่องเต้
เรามาทำความรู้จักกับ บรรดาผู้ที่เป็นตัวละครของเรื่องนี้กันค่ะฮ่องเต้ (หยางหลง) -ลูกของฮ่องเต้ องค์ก่อนที่ชิงบัลลังก์มาจากพ่อของแพรวา ซึ่งปู่ของแพรวาและฮ่องเต้ เป็นลูกพี่ลูกน้องกันแพรวา -อายุ หกขวบก็ เดินทางข้ามเวลามาที่ไทยโดยการกระโดดลงน้ำพร้อมกับ ฮองเฮาหย่าจิ้งผู้เป็นมารดา และพออายุได้18 ปีก็เดินทางกลับมายังที่เดิมอีกครั้งชินอ๋อง-น้องต่างมารดา ที่แม่เป็นสนมเอกของเซี้ยนตี้ (พ่อของหยางหลงฮ่องเต้) และตาเป็นถึง ขุนนางใหญ่ในราชสำนัก กุมอำนาจทางทหารไว้ทั้งหมด แต่ถูกเลี้ยงดูและ ฟูมฟักโดยไทฮองไทเฮาที่เป็นย่าเพราะชินอ๋องมีความเหมือนปู่ (ซึ่งเป็นปู่ของ หยางหลงฮ่องเต้ด้วย แต่หยางหลงฮ่องเต้ ได้นิสัยรักสงบจิตใจอ่อนโยนมาจากแม่) ชินอ๋องเป็นคนที่คนข้างเด็ดขาด และค่อนข้างโหดตามนิสัยทหาร ถ้าชินอ๋องมีความภักดี หยางหลงจะได้ทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๋เลยที่เดียวโหวหยางจื้อ- น้องชายต่างมารดา ของหยางหลงฮ่องเต้ ซึ่งแม่เป็นสามัญชนเหมือนแม่ของหยางหลง แต่ เป็นที่โปรดปรานของเซี้ยนตี้ถึงกับแต่งตั้งให้เป็นกุ้ยเหริน มีความภักดีต่อพี่ชาย และ มักจะเก่งทางด้านบุ๋น เป็นเหมือนมันสมองของ หยางหลงไทเฮา- ผู้ที่ดำรงตำแหน่งฮองเฮ
“ถาม ถามยังไม่หมด แล้วฝ่าบาททำไมถึง ...รักเหมยเจียง”แพรวาถามไปอย่างนั้นเพราะคิดคำถามไม่ออก ฮ่องเต้เลิกคิ้วสูงคาดไม่ถึงกับคำถามนั้น“เหมยเจียงเป็นสิ่งเดียวหลังจากที่ท่านแม่ตายไปนางเป็นทั้งเพื่อนเล่น และพี่สาวในเวลาเดียวกัน เหมยเจียงเป็นผู้ใหญ่เกินตัวทั้งยังมีจิตใจอ่อนโยนโอบอ้อมอารี”ดีเว่อร์ไปไหมถ้าเทียบกับแพรวา ที่ไม่มีคุณสมบัติที่ว่าเลยตำหนักไทฮองไทเฮา“ย่า ว่าเราคงต้องจัดการทุกอย่าง ให้มันเร็วขึ้นกว่าเดิมเสียแล้ว”ไทฮองไทเฮาใบหน้าเคร่งเครียด ยามที่เปล่งวาจาชินอ๋องก้มหน้านิ่งอย่างใช้ความคิด“เหมยหลิวไม่สามารถดำเนินแผนการให้สำเร็จได้ เพราะไทเฮาที่มาขัดขว้างนาง ช่างมาได้ถูกจังหวะทำให้แผนของเราปั่นป่วนตั้งแต่ครั้งที่แม่ของเจ้าต้องโทษให้ถูกจองจำในตำหนักเย็นก็เป็นไทเฮา”ชินอ๋องตาวาวโรจน์ด้วย อารมณ์คุกรุ่นภายใน เมื่อคำพูดเสียดแทงจิตใจ“หลานยังเตรียมการได้ไม่ดีเท่าที่ควร อยากให้เสด็จย่ารออีกสักระยะให้ทุกอย่างรัดกุมกว่านี้”ไทฮองไทเฮาทำเสียงจิจ๊ะ อย่างขัดใจ“ดอกเหมยจะงามเมื่อถึงเวลาเบ่งบาน เสด็จย่าโปรดรอวันที่หลานจะได้นั่งบัลลังก์”ไทฮองไทเฮายิ้มอย่างสมใจ“ถ้าเป็นเจ้าชินอ๋องหากว่าเซี้ยนตี้
“ข้าน่าจะปล่อยให้ ชินอ๋อง ... บอกเจ้ากี่ครั้งนิสัยดื้อรั้นของเจ้าตำหนักข้าน่าเบื่อมากหรืออย่างไร เจ้าถึงต้องนั่งดื่มอยู่ ในตำหนักชินอ๋อง” แพรวาเม้มปากแน่นรู้ว่าผิดแล้วจะตอกย้ำทำไม สะบัดแขนใจให้หลุดจากการลากถูนั้นแต่เปล่าประโยชน์“แค่อยากออกมาเดินเล่นเท่านั้นพอดีเจอชินอ๋อง จะปฏิเสธอย่างไรเล่าในเมื่อเขาเป็นอนุชาของ ฝ่าบาท”ฮ่องเต้ถอนหายใจ“ในวังหลวงแห่งนี้ เจ้าคิดว่าใครบ้างที่จริงใจกับเจ้าเหมือนข้าต้องรู้จักระวังตน ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจจะพลาดท่าเสียที จำเอาไว้ “แพรวา ทำตาละห้อยสำนึกผิดหากหยางหลงฮ่องเต้มาไม่ทัน จะเกิดอะไรขึ้นแพรวาไม่อาจคาดเดา“ลมหนาวแม้ พัดตามฤดูกาล หากแต่ก็มีช่วงเวลาที่พัดผ่านคนเราหากไม่รอเวลาที่เหมาะสมไหนเลยจะพบกับความสุข เจ้าอดทนรอ อีกสักนิด เมื่อเวลานั้นมาถึงทุกอย่างในวังหลวงแห่งนี้ข้าแบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง จะไปไหนทำอะไรข้าจะไม่หวงห้ามเจ้าเพียงแต่ตอนนี้เรายังไม่อาจคาดเดา หลายคนหลายฝ่ายได้เท่านั้นเอง”แพรวาพยักหน้า เป็นเชิงเข้าใจลี่มี่ประคองชินอ๋องก่อนจะเรียกให้หญิงรับใช้สองสามคนมาดูแล ยืนนิ่งมองด้วยความสงสารจับใจ หันหลังกลับเดินตามหยางหลงฮ่องเต้และแพรวา กลับวังหลวงด้ว
“ไม่จริงเสด็จย่า หลานหวังเพียงแต่นางเพียงผู้เดียว”ไทฮองไทเฮายิ้มเยือกเย็น“เป็นเช่นนั้นเจ้าต้องเร่งมือทำการ ใหญ่ให้สำเร็จเสียก่อนแล้วเฟยลี่ก็คง... ไม่พ้นมือเจ้า”ชินอ๋องจากไป ไทฮองไทเฮาเรียกองครักษ์คนสนิทเข้าพบหมุนแหวนหยกบนนิ้วชี้ไปมายิ้มโหดเหี้ยม“ข้าให้เจ้า สืบเรื่องของข้าหลวงหญิงไปถึงไหนแล้ว ป่านนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดใด”“ขอไทฮองไทเฮาโปรดอภัยข้าน้อยตามสืบเรื่องของข้าหลวงหญิงแต่ไร้ร่องรอยของนาง ไม่เพียงเท่านั้นยังไม่เคยมีใครได้พบเจอนางมาก่อน”ไทฮองไทเฮาตบ โต๊ะดังสนั่น“นางที่มาที่ไปไร้ร่องรอย นางเป็นใครกันแน่”“แต่ที่ประหลาดคือ ทุกทุกเดือนหมอหลวงจะนำยาเทียบหนึ่งมาให้นางเป็นประจำ และนางเองมักจะ มีเรื่องพูดคุยกับหมอหลวงเป็นประจำ”“ฮึฮึ.. อย่างนั้นข้าคงต้อง เรียกตัวหมอหลวงเข้าพบเสียทีดูว่าหมอหลวงเจ้าเล่ห์จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง ที่่บังอาจปิดบังข้าได้”เพียงครู่เดียวหมอหลวงชราก็อยู่ต่อหน้าไทฮองไทเฮา“ข้า จางจื้อเยว่หมอหลวง ถวายพระพรไทฮองไทเฮา อายุยืนหมื่นปีหมื่นปีมีเรื่องอันใดให้ข้าพระองค์รับใช้ข้าพระองค์น้อมรับบัญชา”ยิ้ม ที่เหมือนฉาบทาด้วยยาพิษ“ข้าไม่ใช่คนอ้อมค้อม เพียงแค่อยากรู
บรรจงจุมพิตที่แก้มนวล แพรวาหลับตาลงช้าๆ เหมือนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ คิดถึงอดีตที่เคยอยู่ข้างกายหยางหลง“ฮุ่ยเหนียงเจ้ามารอข้าถึงนี่เลยหรืออย่างไร”แพรวาเบิกตาโพลงหันหน้ามาเผชิญหน้ากับ หยางหลงเต็มตาฮ่องเต้หนุ่มจ้องมองแพรวา ที่สวยหวานปานหยาดน้ำผึ้งอย่างตะลึงงันสักพักก็เปลี่ยนเป็นโกรธขึ้งชี้มือมาที่แพรวาด้วยมือสั่นระริก“เจ้า เจ้าบังอาจ นำชุดของสนมฮุ่ยมาสวมใส่ใครก็ได้มาจับนางไว้”เสี่ยวโอรีบวิ่งมาคุกเข่าแพรวานิ่งคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะตาลปัตรขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเพียงพริบตาเดียว ทหารองครักษ์สองนายวิ่งมายืนขนาบข้างกดแพรวาให้คุกเข่าแพรวาไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด แต่อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลริน“ฝ่าบาท ทรงสอบสวนก่อน”เสี่ยวโอแย้งขึ้นทันทีเมื่อเห็นน้ำตาแพรวา"ไม่มีการสอบสวนใดใดทั้งสิ้น นำนางไปจองจำไว้”องครักษ์หิ้วแขนสองข้างของแพรวาขึ้นมาทันที“ไทฮองไทเฮาเสด็จจจจจจจจจจจจจจจจ”เสียงดังกังวานทำเอาทุกคนหยุดทุกการกระทำ“ฮ่องเต้ ใยเจ้ากล่าวโทษนาง ย่ามองไม่เห็นว่านางจะมีความผิดแต่อย่างใด”น้ำเสียงปราศจากความยโสเหมือนที่แพรวาเคยได้ยินแต่น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความปรานี“เสด็จย่านางนำอาภรณ์ของสนมฮุ
ลี่มี่ก้มลงกระซิบเบาๆ“ชินอ๋องข้าหมายถึงเหอหลงที่พยายามจะเตือนฝ่าบาทเรื่องสนมฮุ่ยและใต้เท้าจาง ไม่เพียงแต่ชินอ๋องเท่านั้น ท่านโหวเองก็ไม่พอใจใต้เท้าจางนักที่อาศัยความที่เป็นพ่อตาวางอำนาจบาตรใหญ่คุมกองกำลังทหารองครักษ์และสามเหล่าทัพจนเป็นที่เกรงขามไปทั่วเพียงเพราะฝ่าบาทโปรดปรานสนมฮุ่ยเรียกหาทุกค่ำคืน”เป็นไปได้อย่างไรไม่น่าเชื่อสิ่งที่ได้ยินทุกอย่างกลับตารปัดไปหมดเช่นนี้“แล้วชินอ๋อง ...เหอหลงเล่าอยู่ที่ไหน”“ชินอ๋องทนความเหิมเกริมของใต้เท้าจางโดยที่ฝ่าบาทเพิกเฉยมาตลอดนำกำลังเข้าล้อมวังหลวงสามพันนาย แต่ใต้เท้าจางกับนำทหารทัพหน้าสามเหล่า ทัพตีตลบทัพหน้าของใต้เท้าจางเกือบพ่ายแพ้เพราะชินอ๋องมีแต่กำลังทหารที่ยอมพลีชีพคนเขาลือกันว่าท่านหมอ ทำนายทายทักไว้จนท่านโหวนำกำลังอีกส่วนมาช่วยใต้เท้าจางทัน ....แต่ความจริงเขาลือกันว่าโหวหยางจื้อไปช่วย..ชินอ๋องเสียมากกว่าเพราะกำลังทหารสามพันหรือจะสู้กำลังทหารหมื่นนายของใต้เท้าจาง เขายังพูดกันอีกว่าทหารองครักษ์บางส่วน หันกระบี่เข้าใส่ทหารสามเหล่าทัพปกป้องชินอ๋อง” แพรวาตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินคราวนี้เป็นแพรวาเสียเองที่ใช้มือปิดปากตัวเอง“เพราะอย่างนี้ใช่ไหม
ก้มหน้านิ่งกลัวว่าหยาดน้ำตาจะร่วงรินให้ใครเห็น ความจริงแพรวากลับมาเพื่อหยางหลงแต่สิ่งที่ต้องเผชิญ ทำให้จิตใจไร้เรี่ยวแรง“ฝ่าบาทให้นางพำนักที่จวนข้าเถิด เพราะท่านหมอได้ฝากฝังนางไว้แก่ข้า”โหวหยางจื้อยังไม่ยอมแพ้ อ๋อนี่หลังจากสร้างเรื่องแล้วคงรู้ดีว่าแพรวาต้องเจอกับอะไรบางอย่างนั้นสิ ถึงได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้“อย่างไรเสียนางก็เป็นเพียงหญิงนางหนึ่ง ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆในวังหลวงที่มาที่ไปไม่ชัดเจน ข้าไม่อาจวางใจให้นางอยู่ห่างไกลสายตาของข้าเจ้าอย่าห่วงเลยโหวหยางจื้ออย่างไรเสียข้าคงไม่สั่งประหารนางตอนนี้หากต้องมีเรื่องใหญ่ขนาดนั้นคงต้องหารือเจ้าอย่างแน่นอน”แพรวาได้แต่ทอดถอนใจ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เอาวะเป็นอย่างไรเป็นกันต้องสู้ดูสักตั้งใช่ว่าแผ่นดินจะสิ้นไร้เท่าใบซานซา (พุทรา) อย่างน้อย ถ้าไม่ไหวจริงๆ แพรวาจะขอให้หมอหลวงหาทางให้กลับบ้านจะดีกว่าเงยหน้ายิ้มสู้“ไม่ต้องกังวลเรื่องตัวข้าให้มากนัก ท่านทั้งสองข้าเป็นหญิงตัวคนเดียวเพียงแค่ได้ที่พักพิงอาศัย ไม่ว่าจะที่ใดก็ดีใจเหลือเกินแล้ว ปลาย่อมพึ่งสายน้ำ ทั้งฝ่าบาทและ ท่านโหวเป็นห่วงเป็นใยข้าเพียงนี้ข้าน้อยเฟยลี่ไม่อาจดื้อรั้นอีกต่อไปจะขออาศัย
เผลอหลับไปข้างๆ แพรวาโดยไม่รู้ตัวแพรวาหลับสนิทเผลอคว้าหาหมอนข้างด้วยความเคยชินเพื่อมาก่ายกอดกับคว้าเอาร่างใหญ่มากอดไว้ซุกหน้ากับอกอุ่น อีกคนก็นอนหลับใหลเพราะความง่วง ใจกระหวัดคิดไปว่าเป็นสนมฮุ่ยที่เคยข้างกายมาตลอดแสงเช้าสาดส่องเข้ามาอย่างเคยไม่มีบิดพลิ้ว คนนอนก่อนตื่นก่อนสนมฮุ่ยนอนบิดขี้เกียจอยู่บนแท่นนอนก่อนจะมองสอดส่ายสายตาหาฝ่าบาทที่เคยอยู่ข้างกายสายตาหยุดลงที่ภาพบาดตา แพรวานอนกอดก่ายร่างของฮ่องเต้ไว้แน่นทั้งคู่หลับสนิทไม่รู้เรื่องราว“กรี๊ดดดดดดดดด”เสียงกรีดร้องดังลั่น ฮ่องเต้หนุ่มสะดุ้งตื่นจากบรรทม แพรวายังนอนไม่รู้ไม่ชี้ก็เมื่อคืนนอนดึกเหลือกำลังร่างใหญ่ผุดลุกขึ้นแพรวากับคว้าคอไว้แน่น เสี่ยวโอวิ่งรวดเดียวเข้ามาถึงในห้องทำหน้าตาพิกล จะว่าตกใจก็ไม่ใช่จะว่าแปลกใจก็ไม่ใช่“ฝ่าบาท ฝ่าบาท”สนมฮุ่ยพูดได้เพียงแค่นั้น ฮ่องเต้หนุ่มพยายามแกะมือแพรวาที่เหนียวเหมือนปลาหมึกที่โอบรอบลำคอแพรวางัวเงียลืมตาตื่นยังลำดับเหตุการณ์ได้ไม่ดีนักเอ่ยปากถามทันที“อ้าว เช้าแล้วเหรอยังนอนไม่อิ่มเลย”ปล่อยมือจากลำคอบิดขี้เกียจเหมือนแกล้ง แล้วทิ้งตัวลงนอนตะแคงตามเดิมสนมฮุ่ยมองหน้าตาเขียวปั๊ด“เจ้าใยไร้ย
ยกมือประสานกันโค้งคำนับก่อนจะถอยห่างแต่ช้าไปฮ่องเต้หนุ่มคว้าแขน มากำไว้แน่น“ข้ายังไม่อนุญาตห้ามเจ้าไป”แพรวาหันหน้ามาส่ายหน้าไปมา“ฝ่าบาทท่านช่าง ไม่มีความกระดากหรืออย่างไรท่านไม่เห็นหรือว่าสนมของท่าน ผ้าผ่อนหลุดลุ่ยออกเพียงนั้นยังจะให้ข้า...อยู่ทำไม” แล้วจะยังความมั่นคงในรักของเขาอีก แพรวาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองอย่างไม่มีเหตุผล หรือว่าหึงวะ“ไม่ได้ในเมื่อไม่อนุญาตใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดกล้าขัดบัญชาข้าได้”แพรวาทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิอยู่เบื้องหน้าอย่างประชดประชัน บ่นงึมงำเมื่อเริ่มง่วงจริงๆเสียแล้ว“จะได้นอนไหมคืนนี้”“ใครให้นอนตอบคำถามข้ามาเจ้ามีเจตนาอะไรกันแน่ ถึงได้สมคบคิดกับหมอหลวงข้าไม่อยากเชื่อว่าทุกอย่างเป็น ลิขิตของสวรรค์ใยช่างเหมาะเจาะเช่นนี้”“ตามนั้นเลยฝ่าบาทข้าพระองค์มาเพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง”อยากบอกว่าเหลือเกินเพราะคิดถึงเขา“พูดมาจุดประสงค์ใด หรือเหอหลงส่งเจ้ามา”แพรวาเริ่มสะกิดใจ คงต้องหาคำตอบเรื่องเหอหลงให้จนได้“.....................”“คงต้อง ทรมานด้วยม้าแยกร่างเจ้าถึงจะยอมพูดสิ่งที่ข้าอยากรู้”“เหอ.... นอกจากจะไม่ฟังเหตุผลแล้วยังชอบทรมานคนอื่น”เอาวะเ
ความมืดปกคลุมไปทั่วเสียงต่างๆเงียบเชียบ แพรวาเดินลัดเลาะตามกำแพงสูงใหญ่ด้วยความคล่องแคล่วและมั่นใจอย่างน้อยแพรวาก็ไม่กลัวผี แต่ที่แย่คือไม่ได้หยิบเสื้อคลุมมามีเพียงชุดฮั่นฟูบางเบาทำเอาความหนาวแทรกซึมเข้าสู่ผิวกายเดินกอดอกห่อไหล่เสียงฝีเท้าหนักๆ แพรวนึกภาพทหารยาม ที่เดินยามค่ำคืน แต่ช้าไปเสียแล้วหาทางหลบก็ไม่รอด หลับตาปี๋เป็นอย่างไรเป็นกันฉับพลันร่างบางก็ถูกคว้าตัวจากทางด้านหลังกอดจะฉุดมือให้หายเข้าไปใต้พุ่มไม้หนา ร่างใหญ่ของใครบางคนเบียดบดร่างบางไว้ ตรงพุ่มไม้ข้างกำแพงแพรวาดิ้นแต่ปากถูกมือใหญ่ปิดไว้ ทหารยามเดินผ่านไปอย่างไม่เฉลียวใจร่างใหญ่คลายมือออกจากปากแพรวา“บอกมา เจ้าเป็นใครกันแม่นาง เป็นใครบงการให้เจ้าเข้ามาในนี้ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่หรือว่าจะเป็นเหอหลง”เสียงเข้มของหยางหลงดุดันอยู่ข้างหูแพรวาตะลึงงันไม่คิดว่าจะเป็นหยางหลง เขาเข้าใจเธอผิดอย่างแรงจากทางด้านหลังกอดจะฉุดมือให้หายเข้าไปใต้พุ่มไม่หนา ร่างใหญ่ของใครบางคนเบียดบดร่างบางไว้ ตรงพุ่มไม้ข้างกำแพงแพรวาดิ้นแต่ปากถูกมือใหญ่ปิดไว้ ทหารยามเดินผ่านไปอย่างไม่เฉลียวใจร่างใหญ่คลาย มือออกจากปากแพรวา“บอกมาเจ้าเป็นใครกันแม่นาง เป
อย่างน้อยสนมฮุ่ยก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน“เจ้ามาจากไหนทำมาสำออยอยู่หน้าตำหนักฝ่าบาท แล้วไหนจะข่าวลือเรื่องฉลองพระองค์เสื้อคลุมมังกรที่ฝ่าบาททรง ใช้คลุมร่างกายเปียกปอนของเจ้าอีกเล่าบอกข้ามาเจ้าเป็นใครมาจากไหน”แพรวายหุบยิ้ม มาแปลกตามปกติต้องไม่ช่างซักขนาดนี้“ข้าน้อยเฟยลี่ บังเอิญหลงเข้ามาในเขตวังหลวงขอพระสนมโปรดอภัย”มือประสานกัน ด้วยความเคารพสนมฮุ่ยยิ้มในหน้าอย่างสาใจ“รู้จักที่สูงที่ต่ำข้ามิอาจกล่าวโทษเจ้า ได้เมื่อร่างกายแข็งแรงข้าหวังว่าเจ้าจะจากไปโดยเร็ว”โอ้โหนี่ยังไม่ทันไรไล่กันเสียแล้วแพรวาคิด“เพคะ”ใจอยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่มีทางกว่าที่แพรวาจะมาถึงนี่ได้กว่าจะหาทางกลับมาได้ช่างยากเย็นเข็ญใจ เรื่องอะไรจะจากไปง่ายๆ“ฮ่องเต้เสด็จ"เสียงตะโกนก้องของเสี่ยวโอดังเข้ามาครั้งในห้อง แพรวาน้ำตาปริ่มขอบตาคิดถึงเสี่ยวโอเหลือเกิน ประตูถูกเปิดกว้างออกโดยเร็ว ชายเสื้อยาวสะบัดพรึบพับแสดงความเคารพ“ถวายพระพรฝ่าบาท" หลายคนในนั้้นคุกเข่าด้วยความเคารพเสี่ยวโอเดินตามเข้ามาติดๆแพรวาเกือบจะกระโดดเข้าไปทักทายเสี่ยวโอ“ฮุ่ยเหนียงลำบากเจ้าแล้วเจ้านี่ช่างมีน้ำใจห่วงใยดูแลหลายเรื
รีบหาคำแก้ตัวไม่คิดว่าพลอยจะโกรธแทนแพรวาได้ขนาดนี้ หนุ่มจีนหันหน้ามามองทั้งคู่แบบงงๆแต่ สาวเจ้าที่อยู่ข้างกายกลับออกอาการโมโหสุดขีด ส่งภาษาจีน โวยวายออกมาคล้ายกับทั้งสองคนกำลังจะแย่งคนรักไปด้วยร่างที่สูงใหญ่ของหญิงสาวชาวจีนทั่วไป เอื้อมมือมาผลักพลอยอย่างแรงร่างของพลอยเซถลามาชนแพรวา ที่ไม่ทันระวังตัวราวสะพาน ด้านล่างที่ทอดต่ำลงมากกว่าด้านบน แพรวาหงายหลังลงจากราวสะพานหล่นตูมลงไปในน้ำเย็นยะเยือกความเย็นแทรกบาดผิวหนังจนเจ็บไปทั่วสรรพร่างกาย เสียงพลอยตะโกนไล่หลังด้วยความห่วงใยแพรวาพยายามตะเกียกตะกายเพื่อพาตัวเองโผล่ขึ้นจากน้ำแต่ ด้วยความที่น้ำลึกสุดลึก แพรวาไม่สามารถช่วยตัวเองได้เสียง กระโดดน้ำตามตูมตาม คงมีคนคิดช่วยเธอ กินน้ำเข้าไปหลายอึก ลมหายใจแผ่วเบาจนกระทั่งหยุดหายใจในที่สุด สติดับวูบไปในทันทีกลิ่นหอมขจรขจาย โชยมาอ่อนๆความหนาวเหน็บยังคงอยู่ แพรวากวาดสายตามองรอบๆตัว เตียงนอนไม่สูงนักที่เธอนอนอยู่กลิ่นหอมที่ได้กลิ่นเมื่อกี้ คงมาจากอ่างสีทองใบใหญ่ใส่น้ำลอยดอกอะไรสักอย่างสีแดงเข้มไว้ข้างๆ อ่างทองใบนั้นมีกำยานถูกจุดไว้ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่ง (บทนำ) กรวดสายตามองจนรอบ ไม่มีผู้ใดอยู่ในห้องได
“แม่นาง ท่านจำคำพูดของข้าไว้ให้ดี”“เชิญท่านพูดมาข้าจะจำไว้”“หากต้องเลือก ท่านจะเลือกการมีชีวิตอยู่โดยไร้ซึ่งหยางหลง หรือว่าท่านต้องการหมดลมหายใจในอ้อมแขนของหยางหลง ขอให้ท่านตัดสินใจให้ดีแต่ท่านไม่มีทางเลือกเพราะสวรรค์เป็นฝ่ายเลือกให้แม่นางแล้ว”“หมายความว่า ข้าไม่สามารถกลับไปเป็นเฟยลี่ได้อีกแล้ว”“ท่านแลกชีวิตกับการกลับมามีชีวิตอีกครั้งที่นี่”แพรวาน้ำตาหยดริน เข้าใจคำพูดของหมอหลวงเป็นอย่างดี อย่างนี้นี้เองแพรวากลับมาก่อนกำหนดในช่วงสิบสองปีนักษัตร จึงไม่สามารถกลับไปได้อีก“แล้วทำอย่างไรข้าถึงจะกลับไปได้”"ไม่มีทางแม่นางเคยคิดไหมว่าทำไมเหมยเจียงนางยังอยู่ที่นี่”แพรวาพยักหน้า เหมยเจียงเองก็ไม่ต้องกลับไปเช่นกันเป็นกรณีพิเศษ ความรู้สึก คิดถึงทวีความรุนแรงต่อไปแพรวาไม่อาจให้ความหวังแก่ตัวเองอีกแล้ว ว่าจะสามารถย้อนเวลากลับไปพบหยางหลงอยู่เคียงข้างเขาแบบนั้น“ฝ่าบาทสบายดีไหมเมื่อไม่มีข้า”“ฝ่าบาท ทรงยอมแลกเพียงเพื่อให้แม่นางมีชีวิตอยู่ไม่ว่าจะภพไหนก็ตาม ข้าพยายามเต็มที่แล้วแต่มันฝืนกฎสวรรค์ ไม่สามารถนำพาท่านกลับไปได้ จึงได้แต่เพียงส่งข่าว ฝ่าบาทรอท่านผู้เดียวเหมือนกับคำจารึกบนราวสะพานที่ท่