ฮ่องเต้ที่ยังอยู่ในอดีตจมปลักอยู่กับหญิงหนึ่งในดวงใจไม่คิดสร้างความมั่นคงไม่นำพาบ้านเมืองสู่ความยิ่งใหญ่ ไม่คิดการขยายแว่นแคว้นคิดแต่เพียง จะ ย่ำอยู่กับที่ จะให้ย่ามอง หน้า พระอัยกาของหลานได้อย่างไร”ชินอ๋องมองเหม่อไปไกล สิ่งที่ไทฮองไทเฮาอยากได้คืออะไรแน่ เป็นสิ่งเดียวกับที่เขาต้องการหรือไม่“ฝ่าบาท ทรงทำดีที่สุดแล้วแต่ยังดีไม่พอ”“ไม่พอ ให้ย่าพอใจ แม้กระทั่งการเลือกฮองเฮายังไม่สามารถทำให้สำเร็จและเป็นที่พอใจของหลายฝ่าย”“ตอนนี้เองที่หลานก็ไม่สามารถเดา พระทัยเสด็จพี่ได้ว่าจะทรงเลือกใครแม้จะยังโปรดปรานเฟยลี่แต่ก็ยังเหมือนประวิงเวลารออะไรบางอย่าง”“ความเหมาะสมย่าคิดว่า ฝ่าบาททรงรอสิ่งเดียวคือความเหมาะสม เท่านั้น”ชินอ๋องนึกถึงความเหมาะสมที่ว่านั้นเขาเองเหมาะสมกับเฟยลี่มากกว่าฮ่องเต้เสียด้วยซ้ำ แต่เหตุไฉนเล่าฮ่องเต้ต้องเป็นฝ่ายมีโอกาสทุกครั้งไป หากครั้งนี้เขาสามารถทำสำเร็จ หวังว่าเฟยลี่ อาจจะเปลี่ยนใจจากฮ่องเต้ดวงจันทร์บนฟากฟ้าเป็นพยาน สิ่งเดียวที่เขาต้องการตอนนี้คือ...เฟยลี่...นึกถึงภาพ ที่ฮ่องเต้เข้ารับคมมีดจากสนมฮุ่ย เพื่อปกป้องเฟยลี่กับดวงตาสวยที่มีแววเป็นห่วงเปี่ยมล้นของเฟยลี่ที่มอง
จุมพิตอ่อนโยนที่ริมฝีปากบางทำเอาใจสาวสั่นไหว ช่างอ่อนโยนจนจิตใจของแพรวาล่องลอยไปสู่ดินแดนที่อบอวลไปด้วยหมู่มวลดอกไม้ รอยจุมพิตของหนุ่มหล่อช่างวาบวามชวนฝันนี้เองกระมังที่เขาเรียกว่ารสจูบแห่งรัก ที่มักจะหวานหอมกว่ารสจูบในแบบอื่นๆจูบหวานนั้นไม่หยุดหย่อนไล่เรื่อยไปจนเกือบทั่วทั้งใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากบางเปลือกตาสวยแก้มทั้งสองข้างแพรวาใจสั่นไหวอากาศกลายเป็นร้อนอบอ้าวทั้งที่หิมะโปรยปราย หยางหลงฮ่องเต้ รวบร่างบางอุ้มไปวางบนที่นอนนุ่มแพรวาไม่ปฏิเสธทั้งที่รู้ว่าไม่ควรแพรวาปล่อยตัวปล่อยใจ จนคิดว่าไม่อาจฝืนได้อีกแล้ว ฮ่องเต้หนุ่มกับผละออกจากร่างสวยทันทีทั้งที่แสนจะเสียดาย“ข้า ไม่อยากให้เจ้าต้องลำบากใจรอก่อนเฟยลี่รอทุกอย่างคลี่คลายรอให้ข้าสามารถบอกกับทุกคนได้เต็มปากว่าเจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ในใจของข้าและเป็นเพียงคนเดียว ที่ข้าต้องการให้เป็นฮองเฮาคู่บัลลังก์แห่งนี้"สนมฮุ่ยร้องไห้ฟูมฟาย จนเผลอหลับไปชินอ๋องเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องขังจ้องมองสนมฮุ่ยแล้วก็เดินจากไปยามสายของอีกวัน ชินอ๋องนั่งบนแท่นสูงกวาดตามองรอบบริเวณ ทหารคุมตัวสนมฮุ่ยมาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทีอิดโรย"บอกมา ใครอยู่เบ
"ข้าหลวงหญิงเฟยลี่ขอได้รับการคารวะจากข้าใต้เท้าจาง"แพรวาทรุดตัวลงนั่งด้วยคาดไม่ถึงว่าใต้เท้าจางจะยอมลงทุนถึงขนาดนี้"ลุกขึ้นเถิดใต้เท้า ข้าน้อยเพียงแต่ทำในสิ่งที่สมควรทำ""ภายหน้าหากมีสิ่งใดให้ข้าใต้เท้าจางรับใช้โปรดบอกข้าจะไม่ปฏิเสธท่านแน่นอน"แพวายิ้มชินอ๋องส่ายหัวไปมา"นางล้ำเส้นเกินไปแล้ว""เสด็จย่าอย่ากังวลนางเป็นคนที่ค่อนข้างเถรตรงสักหน่อยแต่ไม่มีพิษภัยกับเรานางไม่รู้แผนการของเราแน่"ไทฮองไทเฮาขมวดคิ้วเข้าหากัน"ดูว่าหลานย่าเข้าข้างข้าหลวงหญิงผู้นั้นเหลือเกิน ถ้าไม่มีนางเราก็เกือบจะกำจัดสนมฮุ่ยและดึงใต้เท้าจางมาสวามิภักดิ์ได้แล้วแท้ๆ หากใต้เท้าจางไม่พอใจฝ่าบาทหาว่าละเลยสนมฮุ่ย เมื่อนั้นตระกูลใหญ่ทั้งสี่ต้องมาอยู่ข้างเราแต่เฟยลี่กลับทำให้แผนการของเรายุ่งเหยิง"ชินอ๋องก้มหน้านิ่งหมดคำแก้ตัว"ฝ่าบาททรงนิ่งเฉยเกินไปหรือเปล่าเรื่องสนมฮุ่ยอย่างไรเสียนางก็....เป็นเมีย"แพรวารู้สึกหงุดหงิดเมื่อฮ่องเต้มัวแต่นั่งดีดพิณไม่สนใจสิ่งใด"ฝ่าบาท...ได้ยินไหม"ทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ เอามาบังสายพิณไว้จนฮ่องเต้ไม่สามารถดีดพิณได้ใบหน้าหล่อหันมาสบตาแพรวาแลบลิ้นใส่ด้วยความหมั่นไส้ แขนใหญ่รวบร่างบางหงายลง
"ตอนนี้ ยอดบริจาคสามารถนำไปช่วยเหลือชาวบ้านได้บ้างแล้ว บางส่วนที่เหลือได้เก็บไว้หากมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นอีกครั้ง"โหวหยางจื้อรายงานฉะฉานหยางหลงฮ่องเต้ยื่นรายชื่อขุนนางทั้งหมดให้แพรวา"เจ้าคิดว่าสมควรจัดการอย่างไรต่อไปในเมื่อได้รายชื่อมาแล้ว""ไม่ยากไม่ยาก คราวนี้ถึงคิวฝ่าบาทแล้วต้องแสดงความจริงจริงให้พวกเขาเห็น โดยการจัดงานแถลงข่าวไม่ใช่สิเรียกว่าอะไรนะอ๋อนึกออกแล้วเรียกว่าป่าวประกาศให้ทราบทั่วกัน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการที่พวกเขาได้ร่วมบริจาคในครั้งนี้ ตอนนี้เองฝ่าบาทต้องมอบของกำนัลที่ผู้ได้รับไม่อาจลืมเลือนเพื่อว่าหากมีคราวหน้าคราวหลังใครที่อยากได้ของล้ำค่าก็จะพากันบริจาคเยอะขึ้น"โหวหยางจื้อตบเข่าฉาดใหญ่"เฉียบคบยิ่งนัก แม่นางเฟยลี่ ข้าไม่คิดเลยว่าหญิงท่าทางธรรมดาเช่นท่านจะมีกลยุทธ์ที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ แบบนี้ชาวบ้านก็จะซาบซึ้งในน้ำใจของขุนนางและฝ่าบาทก็จะเป็นที่โจษขานกันว่าฮ่องเต้และขุนนางไม่ทิ้งประชาชนส่วนขุนนางทั้งหลายก็ จะรู้สึกว่าตัวว่าต้องช่วยเหลือชาวบ้าน ไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันไปเป็นสิ่งดีๆ ที่น่ายกย่อง""ไม่เท่าไหร่ไม่เท่าไหร่ ลูกเป็ดขี้เหร่สุดท้า
แพรวาลืมตาตื่นขึ้นมาบนแท่นบรรทมในตำหนักของฮ่องเต้ ข้างกายมีลี่มี่บีบนวดอยู่ข้างๆถัดไปเป็นหมอหลวงที่จับชีพจรด้วยใบหน้าเคร่งเครียด"ลี่มี่ หิวน้ำขอน้ำหน่อย"ลี่มี่ท่าทางตื่นเต้นรีบกุลีกุจอรินน้ำใส่ถ้วยแพรวารับมาดื่มรวดเดียวเกือบหมดถ้วย" ออกไปข้างนอกก่อนลี่มี่ เจี่ยเจี่ยมีเรื่องจะคุยกับหมอหลวงเพียงลำพัง แต่เจ้าอย่าได้ปริปากบอกใครว่าพี่สาวฟื้นแล้วนะพี่สาวขอร้อง" ลี่มี่ย่อตัวทำความเคารพ เดินออกจากห้องไปปิดประตูอย่างแผ่วเบาฮ่องเต้ถลาเข้ามาหาลี่มี่ทันที" เฟยลี่ เป็นอย่างไรบ้าง"ลี่มี่ ขมวดคิ้วนึกหาคำโกหก" ท่านหมอบอกว่านายหญิงแค่เพียงอ่อนเพลียจึงทำให้เป็นลม อีกสักพักคงจะได้สติหมอหลวงวานให้ลี่มี่ไปหยิบเทียบยาเก่าที่ ห้องนายหญิงเพคะฝ่าบาทจึงจำต้องให้ลี่มี่ออกมา""อย่างนั้นข้าก็หมดห่วง เจ้าไปเถอะรีบไปรีบมา อย่าโอ้เอ้"หยางหลงฮ่องเต้สำทับ ลี่มี่ถวายพระพรก่อนเดินนวยนาดจากไป"ฝ่าบาทอย่าทรงเป็นกังวลให้มาก พี่สาว ...ข้าหลวงหญิงนางเพียงแค่ร่างกายอ่อนเพลีย ด้วยยาของหมอหลวงนางต้องแข็งแรงขึ้นแน่ "เสี่ยวโอพูดจาปลอบโยน หลังจากจ้องมองใบหน้าที่หม่นหมองของฮ่องเต้และแววตาที่เป็นกังวลอย่างมาก"นางมาอยู่ที่
ฮองเฮาตัดสินใจกระโดดลงไปทันที แพรวาหลับตาคิดถึงอาการของคนที่กำลังจมน้ำกลืนกินน้ำเข้าไปจนจุกในท้องลมหายใจที่สูดเข้าไปมีน้ำเข้าไปภายในเท่านั้น จนในที่สุดก็ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ อีกเลยน้ำตาไหลเป็นสายออกจากดวงตาที่ยังหลับตาอยู่ ฮ่องเต้หนุ่มลุกพรวดพลาดจับร่างบางของแพรวามากอดไว้แน่น"เป็นอะไรไปเฟยลี่ ฝันร้ายหรืออย่างไร มาข้าจะกอดปลอบเจ้าให้หายกลัว"น้ำเสียงอ่อนโยนเอื้อาทร แพรวายิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลรินต่อไปเรื่อยๆ"ฝ่าบาท อย่าดีกับเฟยลี่มากไปกว่านี้เลย"หยางหลงฮ่องเต้ยังกอดแพรวาแน่น" เป็นอะไรไปเจ้าข้าทำอะไร ขัดใจเจ้าหรือเฟยลี่ หรือว่าแค่นี้ยังไม่พอ "จุมพิตดูดดื่ม อ่อนโยนปลอบ ประโลมจนแพรวาไม่อาจขัดขืน แต่น้ำตายังไหลรินไม่หยุดจูบอ่อนโยนนั้นซับน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา" ข้าพระองค์กับฝ่าบาท คงไร้ซึ่งวาสนาต่อกันเสียแล้ว...."พูดยังไม่ทันจบริมฝีปากหนาก็บดขยี้ลงไปบนริมฝีปากบางสวยเนิ่นนานก่อนจะถอนริมฝีปากออกด้วยอาการหักห้ามใจ"อย่าพูดถึงเรื่องวาสนาอะไรนั่นอีก เพียงแค่ตอนนี้ เราสองข้าและเจ้าอยู่เคียงข้างกันดุจจันทราคู่กับราตรี ก็เพียงพอแล้ว"แพรวากอดตอบร่างใหญ่เหมือนเด็กๆ หยางหลงฮ่องเต้ กดศีรษะแพรวาแนบ
ลี่มี่คุ้นคิดตรึกตรอง แพรวาฉุดมือลี่มี่ให้ลุกขึ้นยืน"ข้าเห็นเจ้าเป็นน้องสาว ไม่มีทางทำร้ายเจ้า เจ้าล่ะเห็นข้าเป็นพี่สาวเหมือนที่เรียกข้าว่าเจี่ยเจียหรือไม่"ลี่มี่น้ำตาซึม"นายหญิง อย่าบีบคั้นข้าน้อยเลย"" งั้นเจ้าแค่ พยักหน้ากับส่ายหน้าทุกอย่างเป็นข้าพูดเองคนเดียวความผิดใดใดไม่เกี่ยวกับเจ้า"ลี่มี่พยักหน้าช้าๆ"ฮ่องเต้องค์ก่อน ถูกปลงพระชนม์โดยเซี้ยนตี้ใช่หรือไม่"ลี่มี่นิ่งก่อนจะพยักหน้า ใจแพรวาร่วงหล่นหายไปที่ใดไม่อาจเรียกคืนภาพความทรงจำไม่ได้โกหก แพรวาเห็นทุกอย่าง พ่อของเธอที่เป็นถึงฮ่องเต้ถูกคมกระบี่เสียบทะลุขั้วหัวใจมันชัดเจนออกอย่างนั้น แม้จะบอกว่าเหมือนฝันแต่แพรวาอยู่ที่นั่นจริงจริง"แล้วองค์หญิงน้อยเล่าลี่มี่ นางหายไปไหน"ลี่มี่ส่ายหน้า"ไปเอาเหล้ามา เดี๋ยวนี้เลยเสี่ยวโอเจ้ากล้าขัดคำสั่งข้ารึ"เสียวโอถอยหลังไปสั่งขันทีอีกสองคนที่ยืนอยู่ห่างออกไปฮ่องเต้นั่งดื่มโดยมี เสี่ยวโอคอยรินสุราถวายด้วยสีหน้ากังวล“ฝ่าบาท ทรงเมามาย แล้วข้าพระองค์ว่าเลิกดื่มเถิด”ประตูที่เปิดกว้างอยู่ปรากฏร่างของเหมยหลิวอยู่เบื้องหน้าเสี่ยวโอจ้องมองไปที่ประตู“เหมยหลิว ถวายพระพรฝ่าบาท”น้ำเสียงอ่อนหวานอ่
แพรวาครุ่นคิดตาม ไม่แน่ ฮ่องเต้อาจไม่ไม่เคยรู้เรื่องที่แพรวารู้ก่อน คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด แพรวาต้องลอง ถามความจริงดูสักครั้งและ อาจจะให้อภัยเขาชุดฮั่นฟูสี เหลืองสวยที่ ลี่มี่คัดสรร เพื่อให้ ขับผิวเนียนสีน้ำผึ้งซึ่งบัดนี้ เกือบจะขาวตามแบบฉบับ ของหญิงสาวเมืองหนาว คงเป็นเพราะอากาศที่ เย็นสบาย บางครั้งถึงกับหนาว ทำให้ ใบหน้าคมด้วยรูปหน้าที่ครบเครื่องของแพรวายิ่งน่ามองยิ่งนัก หากแววตาเปี่ยมสุขเหมือนทุกครั้งที่ไม่มีแววตาเป็นกังวลนั้นปะปนอยู่ แพรวาจะนับว่าสวยจน หาใครเทียบเคียงเดินตามทางเดินทอดยาว อากาศสดชื่น.. ใบไม้อ่อนอ่อนเริ่มผลิใบตามกิ่งก้านสีเขียวอ่อน ทำเอารู้สึกสดชื่นได้ไม่ยาก ลี่มี่เดินตามช้าช้า ทั้งคู่ไม่ได้เร่งรีบอะไรจนมาถึงตำหนักใหญ่ของฮ่องเต้ แพรวาเคยเข้าไปภายในแบบไม่ต้องขออนุญาตใครมาแล้วหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นเวลางอนฮ่องเต้ หรือเวลาที่ฮ่องเต้ เรียกหาวันนี้ก็เช่นกันลี่มี่หยุดยืนอยู่หน้าห้องแพรวาผลักประตูเข้าไปเหมือนทุกครั้ง เดินเข้าไปจนถึง แท่นบรรทม ภาพที่เห็น เหมือนกงล้อที่หมุนวนมาอีกครั้งมันวนเวียนซ้ำรอยเดิมหัวใจแพรวาเกือบหยุดเต้นเหมยหลิวอยู่ในชุดชั้นใน แบบจีนโบราณที่มี เพียงผ้าบาง
บรรจงจุมพิตที่แก้มนวล แพรวาหลับตาลงช้าๆ เหมือนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ คิดถึงอดีตที่เคยอยู่ข้างกายหยางหลง“ฮุ่ยเหนียงเจ้ามารอข้าถึงนี่เลยหรืออย่างไร”แพรวาเบิกตาโพลงหันหน้ามาเผชิญหน้ากับ หยางหลงเต็มตาฮ่องเต้หนุ่มจ้องมองแพรวา ที่สวยหวานปานหยาดน้ำผึ้งอย่างตะลึงงันสักพักก็เปลี่ยนเป็นโกรธขึ้งชี้มือมาที่แพรวาด้วยมือสั่นระริก“เจ้า เจ้าบังอาจ นำชุดของสนมฮุ่ยมาสวมใส่ใครก็ได้มาจับนางไว้”เสี่ยวโอรีบวิ่งมาคุกเข่าแพรวานิ่งคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะตาลปัตรขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเพียงพริบตาเดียว ทหารองครักษ์สองนายวิ่งมายืนขนาบข้างกดแพรวาให้คุกเข่าแพรวาไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด แต่อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลริน“ฝ่าบาท ทรงสอบสวนก่อน”เสี่ยวโอแย้งขึ้นทันทีเมื่อเห็นน้ำตาแพรวา"ไม่มีการสอบสวนใดใดทั้งสิ้น นำนางไปจองจำไว้”องครักษ์หิ้วแขนสองข้างของแพรวาขึ้นมาทันที“ไทฮองไทเฮาเสด็จจจจจจจจจจจจจจจจ”เสียงดังกังวานทำเอาทุกคนหยุดทุกการกระทำ“ฮ่องเต้ ใยเจ้ากล่าวโทษนาง ย่ามองไม่เห็นว่านางจะมีความผิดแต่อย่างใด”น้ำเสียงปราศจากความยโสเหมือนที่แพรวาเคยได้ยินแต่น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความปรานี“เสด็จย่านางนำอาภรณ์ของสนมฮุ
ลี่มี่ก้มลงกระซิบเบาๆ“ชินอ๋องข้าหมายถึงเหอหลงที่พยายามจะเตือนฝ่าบาทเรื่องสนมฮุ่ยและใต้เท้าจาง ไม่เพียงแต่ชินอ๋องเท่านั้น ท่านโหวเองก็ไม่พอใจใต้เท้าจางนักที่อาศัยความที่เป็นพ่อตาวางอำนาจบาตรใหญ่คุมกองกำลังทหารองครักษ์และสามเหล่าทัพจนเป็นที่เกรงขามไปทั่วเพียงเพราะฝ่าบาทโปรดปรานสนมฮุ่ยเรียกหาทุกค่ำคืน”เป็นไปได้อย่างไรไม่น่าเชื่อสิ่งที่ได้ยินทุกอย่างกลับตารปัดไปหมดเช่นนี้“แล้วชินอ๋อง ...เหอหลงเล่าอยู่ที่ไหน”“ชินอ๋องทนความเหิมเกริมของใต้เท้าจางโดยที่ฝ่าบาทเพิกเฉยมาตลอดนำกำลังเข้าล้อมวังหลวงสามพันนาย แต่ใต้เท้าจางกับนำทหารทัพหน้าสามเหล่า ทัพตีตลบทัพหน้าของใต้เท้าจางเกือบพ่ายแพ้เพราะชินอ๋องมีแต่กำลังทหารที่ยอมพลีชีพคนเขาลือกันว่าท่านหมอ ทำนายทายทักไว้จนท่านโหวนำกำลังอีกส่วนมาช่วยใต้เท้าจางทัน ....แต่ความจริงเขาลือกันว่าโหวหยางจื้อไปช่วย..ชินอ๋องเสียมากกว่าเพราะกำลังทหารสามพันหรือจะสู้กำลังทหารหมื่นนายของใต้เท้าจาง เขายังพูดกันอีกว่าทหารองครักษ์บางส่วน หันกระบี่เข้าใส่ทหารสามเหล่าทัพปกป้องชินอ๋อง” แพรวาตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินคราวนี้เป็นแพรวาเสียเองที่ใช้มือปิดปากตัวเอง“เพราะอย่างนี้ใช่ไหม
ก้มหน้านิ่งกลัวว่าหยาดน้ำตาจะร่วงรินให้ใครเห็น ความจริงแพรวากลับมาเพื่อหยางหลงแต่สิ่งที่ต้องเผชิญ ทำให้จิตใจไร้เรี่ยวแรง“ฝ่าบาทให้นางพำนักที่จวนข้าเถิด เพราะท่านหมอได้ฝากฝังนางไว้แก่ข้า”โหวหยางจื้อยังไม่ยอมแพ้ อ๋อนี่หลังจากสร้างเรื่องแล้วคงรู้ดีว่าแพรวาต้องเจอกับอะไรบางอย่างนั้นสิ ถึงได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้“อย่างไรเสียนางก็เป็นเพียงหญิงนางหนึ่ง ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆในวังหลวงที่มาที่ไปไม่ชัดเจน ข้าไม่อาจวางใจให้นางอยู่ห่างไกลสายตาของข้าเจ้าอย่าห่วงเลยโหวหยางจื้ออย่างไรเสียข้าคงไม่สั่งประหารนางตอนนี้หากต้องมีเรื่องใหญ่ขนาดนั้นคงต้องหารือเจ้าอย่างแน่นอน”แพรวาได้แต่ทอดถอนใจ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เอาวะเป็นอย่างไรเป็นกันต้องสู้ดูสักตั้งใช่ว่าแผ่นดินจะสิ้นไร้เท่าใบซานซา (พุทรา) อย่างน้อย ถ้าไม่ไหวจริงๆ แพรวาจะขอให้หมอหลวงหาทางให้กลับบ้านจะดีกว่าเงยหน้ายิ้มสู้“ไม่ต้องกังวลเรื่องตัวข้าให้มากนัก ท่านทั้งสองข้าเป็นหญิงตัวคนเดียวเพียงแค่ได้ที่พักพิงอาศัย ไม่ว่าจะที่ใดก็ดีใจเหลือเกินแล้ว ปลาย่อมพึ่งสายน้ำ ทั้งฝ่าบาทและ ท่านโหวเป็นห่วงเป็นใยข้าเพียงนี้ข้าน้อยเฟยลี่ไม่อาจดื้อรั้นอีกต่อไปจะขออาศัย
เผลอหลับไปข้างๆ แพรวาโดยไม่รู้ตัวแพรวาหลับสนิทเผลอคว้าหาหมอนข้างด้วยความเคยชินเพื่อมาก่ายกอดกับคว้าเอาร่างใหญ่มากอดไว้ซุกหน้ากับอกอุ่น อีกคนก็นอนหลับใหลเพราะความง่วง ใจกระหวัดคิดไปว่าเป็นสนมฮุ่ยที่เคยข้างกายมาตลอดแสงเช้าสาดส่องเข้ามาอย่างเคยไม่มีบิดพลิ้ว คนนอนก่อนตื่นก่อนสนมฮุ่ยนอนบิดขี้เกียจอยู่บนแท่นนอนก่อนจะมองสอดส่ายสายตาหาฝ่าบาทที่เคยอยู่ข้างกายสายตาหยุดลงที่ภาพบาดตา แพรวานอนกอดก่ายร่างของฮ่องเต้ไว้แน่นทั้งคู่หลับสนิทไม่รู้เรื่องราว“กรี๊ดดดดดดดดด”เสียงกรีดร้องดังลั่น ฮ่องเต้หนุ่มสะดุ้งตื่นจากบรรทม แพรวายังนอนไม่รู้ไม่ชี้ก็เมื่อคืนนอนดึกเหลือกำลังร่างใหญ่ผุดลุกขึ้นแพรวากับคว้าคอไว้แน่น เสี่ยวโอวิ่งรวดเดียวเข้ามาถึงในห้องทำหน้าตาพิกล จะว่าตกใจก็ไม่ใช่จะว่าแปลกใจก็ไม่ใช่“ฝ่าบาท ฝ่าบาท”สนมฮุ่ยพูดได้เพียงแค่นั้น ฮ่องเต้หนุ่มพยายามแกะมือแพรวาที่เหนียวเหมือนปลาหมึกที่โอบรอบลำคอแพรวางัวเงียลืมตาตื่นยังลำดับเหตุการณ์ได้ไม่ดีนักเอ่ยปากถามทันที“อ้าว เช้าแล้วเหรอยังนอนไม่อิ่มเลย”ปล่อยมือจากลำคอบิดขี้เกียจเหมือนแกล้ง แล้วทิ้งตัวลงนอนตะแคงตามเดิมสนมฮุ่ยมองหน้าตาเขียวปั๊ด“เจ้าใยไร้ย
ยกมือประสานกันโค้งคำนับก่อนจะถอยห่างแต่ช้าไปฮ่องเต้หนุ่มคว้าแขน มากำไว้แน่น“ข้ายังไม่อนุญาตห้ามเจ้าไป”แพรวาหันหน้ามาส่ายหน้าไปมา“ฝ่าบาทท่านช่าง ไม่มีความกระดากหรืออย่างไรท่านไม่เห็นหรือว่าสนมของท่าน ผ้าผ่อนหลุดลุ่ยออกเพียงนั้นยังจะให้ข้า...อยู่ทำไม” แล้วจะยังความมั่นคงในรักของเขาอีก แพรวาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองอย่างไม่มีเหตุผล หรือว่าหึงวะ“ไม่ได้ในเมื่อไม่อนุญาตใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดกล้าขัดบัญชาข้าได้”แพรวาทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิอยู่เบื้องหน้าอย่างประชดประชัน บ่นงึมงำเมื่อเริ่มง่วงจริงๆเสียแล้ว“จะได้นอนไหมคืนนี้”“ใครให้นอนตอบคำถามข้ามาเจ้ามีเจตนาอะไรกันแน่ ถึงได้สมคบคิดกับหมอหลวงข้าไม่อยากเชื่อว่าทุกอย่างเป็น ลิขิตของสวรรค์ใยช่างเหมาะเจาะเช่นนี้”“ตามนั้นเลยฝ่าบาทข้าพระองค์มาเพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง”อยากบอกว่าเหลือเกินเพราะคิดถึงเขา“พูดมาจุดประสงค์ใด หรือเหอหลงส่งเจ้ามา”แพรวาเริ่มสะกิดใจ คงต้องหาคำตอบเรื่องเหอหลงให้จนได้“.....................”“คงต้อง ทรมานด้วยม้าแยกร่างเจ้าถึงจะยอมพูดสิ่งที่ข้าอยากรู้”“เหอ.... นอกจากจะไม่ฟังเหตุผลแล้วยังชอบทรมานคนอื่น”เอาวะเ
ความมืดปกคลุมไปทั่วเสียงต่างๆเงียบเชียบ แพรวาเดินลัดเลาะตามกำแพงสูงใหญ่ด้วยความคล่องแคล่วและมั่นใจอย่างน้อยแพรวาก็ไม่กลัวผี แต่ที่แย่คือไม่ได้หยิบเสื้อคลุมมามีเพียงชุดฮั่นฟูบางเบาทำเอาความหนาวแทรกซึมเข้าสู่ผิวกายเดินกอดอกห่อไหล่เสียงฝีเท้าหนักๆ แพรวนึกภาพทหารยาม ที่เดินยามค่ำคืน แต่ช้าไปเสียแล้วหาทางหลบก็ไม่รอด หลับตาปี๋เป็นอย่างไรเป็นกันฉับพลันร่างบางก็ถูกคว้าตัวจากทางด้านหลังกอดจะฉุดมือให้หายเข้าไปใต้พุ่มไม้หนา ร่างใหญ่ของใครบางคนเบียดบดร่างบางไว้ ตรงพุ่มไม้ข้างกำแพงแพรวาดิ้นแต่ปากถูกมือใหญ่ปิดไว้ ทหารยามเดินผ่านไปอย่างไม่เฉลียวใจร่างใหญ่คลายมือออกจากปากแพรวา“บอกมา เจ้าเป็นใครกันแม่นาง เป็นใครบงการให้เจ้าเข้ามาในนี้ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่หรือว่าจะเป็นเหอหลง”เสียงเข้มของหยางหลงดุดันอยู่ข้างหูแพรวาตะลึงงันไม่คิดว่าจะเป็นหยางหลง เขาเข้าใจเธอผิดอย่างแรงจากทางด้านหลังกอดจะฉุดมือให้หายเข้าไปใต้พุ่มไม่หนา ร่างใหญ่ของใครบางคนเบียดบดร่างบางไว้ ตรงพุ่มไม้ข้างกำแพงแพรวาดิ้นแต่ปากถูกมือใหญ่ปิดไว้ ทหารยามเดินผ่านไปอย่างไม่เฉลียวใจร่างใหญ่คลาย มือออกจากปากแพรวา“บอกมาเจ้าเป็นใครกันแม่นาง เป
อย่างน้อยสนมฮุ่ยก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน“เจ้ามาจากไหนทำมาสำออยอยู่หน้าตำหนักฝ่าบาท แล้วไหนจะข่าวลือเรื่องฉลองพระองค์เสื้อคลุมมังกรที่ฝ่าบาททรง ใช้คลุมร่างกายเปียกปอนของเจ้าอีกเล่าบอกข้ามาเจ้าเป็นใครมาจากไหน”แพรวายหุบยิ้ม มาแปลกตามปกติต้องไม่ช่างซักขนาดนี้“ข้าน้อยเฟยลี่ บังเอิญหลงเข้ามาในเขตวังหลวงขอพระสนมโปรดอภัย”มือประสานกัน ด้วยความเคารพสนมฮุ่ยยิ้มในหน้าอย่างสาใจ“รู้จักที่สูงที่ต่ำข้ามิอาจกล่าวโทษเจ้า ได้เมื่อร่างกายแข็งแรงข้าหวังว่าเจ้าจะจากไปโดยเร็ว”โอ้โหนี่ยังไม่ทันไรไล่กันเสียแล้วแพรวาคิด“เพคะ”ใจอยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่มีทางกว่าที่แพรวาจะมาถึงนี่ได้กว่าจะหาทางกลับมาได้ช่างยากเย็นเข็ญใจ เรื่องอะไรจะจากไปง่ายๆ“ฮ่องเต้เสด็จ"เสียงตะโกนก้องของเสี่ยวโอดังเข้ามาครั้งในห้อง แพรวาน้ำตาปริ่มขอบตาคิดถึงเสี่ยวโอเหลือเกิน ประตูถูกเปิดกว้างออกโดยเร็ว ชายเสื้อยาวสะบัดพรึบพับแสดงความเคารพ“ถวายพระพรฝ่าบาท" หลายคนในนั้้นคุกเข่าด้วยความเคารพเสี่ยวโอเดินตามเข้ามาติดๆแพรวาเกือบจะกระโดดเข้าไปทักทายเสี่ยวโอ“ฮุ่ยเหนียงลำบากเจ้าแล้วเจ้านี่ช่างมีน้ำใจห่วงใยดูแลหลายเรื
รีบหาคำแก้ตัวไม่คิดว่าพลอยจะโกรธแทนแพรวาได้ขนาดนี้ หนุ่มจีนหันหน้ามามองทั้งคู่แบบงงๆแต่ สาวเจ้าที่อยู่ข้างกายกลับออกอาการโมโหสุดขีด ส่งภาษาจีน โวยวายออกมาคล้ายกับทั้งสองคนกำลังจะแย่งคนรักไปด้วยร่างที่สูงใหญ่ของหญิงสาวชาวจีนทั่วไป เอื้อมมือมาผลักพลอยอย่างแรงร่างของพลอยเซถลามาชนแพรวา ที่ไม่ทันระวังตัวราวสะพาน ด้านล่างที่ทอดต่ำลงมากกว่าด้านบน แพรวาหงายหลังลงจากราวสะพานหล่นตูมลงไปในน้ำเย็นยะเยือกความเย็นแทรกบาดผิวหนังจนเจ็บไปทั่วสรรพร่างกาย เสียงพลอยตะโกนไล่หลังด้วยความห่วงใยแพรวาพยายามตะเกียกตะกายเพื่อพาตัวเองโผล่ขึ้นจากน้ำแต่ ด้วยความที่น้ำลึกสุดลึก แพรวาไม่สามารถช่วยตัวเองได้เสียง กระโดดน้ำตามตูมตาม คงมีคนคิดช่วยเธอ กินน้ำเข้าไปหลายอึก ลมหายใจแผ่วเบาจนกระทั่งหยุดหายใจในที่สุด สติดับวูบไปในทันทีกลิ่นหอมขจรขจาย โชยมาอ่อนๆความหนาวเหน็บยังคงอยู่ แพรวากวาดสายตามองรอบๆตัว เตียงนอนไม่สูงนักที่เธอนอนอยู่กลิ่นหอมที่ได้กลิ่นเมื่อกี้ คงมาจากอ่างสีทองใบใหญ่ใส่น้ำลอยดอกอะไรสักอย่างสีแดงเข้มไว้ข้างๆ อ่างทองใบนั้นมีกำยานถูกจุดไว้ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่ง (บทนำ) กรวดสายตามองจนรอบ ไม่มีผู้ใดอยู่ในห้องได
“แม่นาง ท่านจำคำพูดของข้าไว้ให้ดี”“เชิญท่านพูดมาข้าจะจำไว้”“หากต้องเลือก ท่านจะเลือกการมีชีวิตอยู่โดยไร้ซึ่งหยางหลง หรือว่าท่านต้องการหมดลมหายใจในอ้อมแขนของหยางหลง ขอให้ท่านตัดสินใจให้ดีแต่ท่านไม่มีทางเลือกเพราะสวรรค์เป็นฝ่ายเลือกให้แม่นางแล้ว”“หมายความว่า ข้าไม่สามารถกลับไปเป็นเฟยลี่ได้อีกแล้ว”“ท่านแลกชีวิตกับการกลับมามีชีวิตอีกครั้งที่นี่”แพรวาน้ำตาหยดริน เข้าใจคำพูดของหมอหลวงเป็นอย่างดี อย่างนี้นี้เองแพรวากลับมาก่อนกำหนดในช่วงสิบสองปีนักษัตร จึงไม่สามารถกลับไปได้อีก“แล้วทำอย่างไรข้าถึงจะกลับไปได้”"ไม่มีทางแม่นางเคยคิดไหมว่าทำไมเหมยเจียงนางยังอยู่ที่นี่”แพรวาพยักหน้า เหมยเจียงเองก็ไม่ต้องกลับไปเช่นกันเป็นกรณีพิเศษ ความรู้สึก คิดถึงทวีความรุนแรงต่อไปแพรวาไม่อาจให้ความหวังแก่ตัวเองอีกแล้ว ว่าจะสามารถย้อนเวลากลับไปพบหยางหลงอยู่เคียงข้างเขาแบบนั้น“ฝ่าบาทสบายดีไหมเมื่อไม่มีข้า”“ฝ่าบาท ทรงยอมแลกเพียงเพื่อให้แม่นางมีชีวิตอยู่ไม่ว่าจะภพไหนก็ตาม ข้าพยายามเต็มที่แล้วแต่มันฝืนกฎสวรรค์ ไม่สามารถนำพาท่านกลับไปได้ จึงได้แต่เพียงส่งข่าว ฝ่าบาทรอท่านผู้เดียวเหมือนกับคำจารึกบนราวสะพานที่ท่