"ท่านทำไมถึงอ่อนแอแบบนี้? ข้าไม่ได้ออกแรงเท่าไรเลยนะ!"องค์หญิงหนานฉือหลังจากตั้งตัวมาได้ก็โมโหขึ้นมา ยื่นมือมาคว้าหลังคอเสื้ออันเหนียน จากนั้นก็ดึงเขาขึ้นมา"พรวด" เซียวหลันยวนหัวเราะก๊ากออกมาอีกครั้ง"เอาล่ะ ลุกขึ้นมาได้แล้ว"อันเหนียนลุกขึ้นยืน เอ่ยขึ้นอย่างจำใจ "องค์หญิงปล่อยมือได้แล้วกระมัง?" พอพูดประโยคนี้จบ ก็ไอออกมาสองทีเมื่อครู่ที่ถูกตบไปยังไม่ทันได้หายใจหายคอ ตอนนี้จึงเพิ่งไอออกมาเซียวหลันยวนเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็หัวเราะขึ้นมาอีก"องค์หญิงกับผู้ตรวจการชิงของพวกเราปกติอยู่ด้วยกันแบบนี้หรือ? อย่างนั้นบนตัวผู้ตรวจการอันคงมีผลไม่น้อยแล้วกระมัง?"องค์หญิงหนานฉือร้องเชอะ "เขาติดตามข้ามา กินของดีไปไม่น้อย น้ำแกงบำรุงอะไรก็ดื่มไปตั้งเยอะ แล้วทำไมถึงยังอ่อนแอแบบนี้ อ๋องเจวี้ยนท่านเองก็อ่อนแอ ส่วนรัฐทายาทเซียวคนนั้นยิ่งอ่อนแอหนักไปอีก ผู้ชายของแคว้นเจานี้ คงไม่ใช่ว่าแค่แรงจะจับไก่ก็คงไม่มีหรอกกระมัง?"ให้ตายเถอะ ไม่มีแข็งแรงๆ กันบ้างเลยชายหนุ่มของหนานฉือทางนั้นยังดูสูงใหญ่กำยำกว่ามากเลย"พวกเขาอ่อนแอไปหน่อยแค่นั้น แต่ข้าไม่ใช่นะ ข้าเป็นเพราะป่วยมานาน แตกต่างจากพวกเขา" เซียวห
หลี่จื่อเหยาไม่รู้ว่าคำพูดนี้ควรจะตอบรับอย่างไรนางนั่นล่ะแต่ว่าอะไรคือ "ใครคนนั้น" ?นางไม่มีชื่อแซ่หรือไร? นางตอนนี้ไม่มีตัวตนฐานะหรือ?ถ้าตอบกลับไป แล้วหน้าของนางจะไปเหลืออะไร?ผลคือเซียวหลันยวนไม่ได้ต้องการคำตอบจากนาง เขายืนยันตัวตนฐานะของนางแล้ว หน้าขรึมลงทันที "ใครก็ได้""ท่านอ๋อง?"องครักษ์รีบเข้ามา"โยนสองคนนี้ออกไปหน่อย"เซียวหลันยวนชี้ไปที่เซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยา"อ๋องเจวี้ยน! พวกเราเป็นแขกนะ" หลี่จื่อเหยาตกตะลึง"ใช่!"องครักษ์เดินไปทางพวกเขาเซียวเหยียนจิ่งคิดไม่ถึงว่าผ่านมาตั้งนานขนาดนี้ อ๋องเจวี้ยนเหมือนยังไม่ลืมเรื่องสมัยก่อน ตอนนี้แค่หน้าก็ยังไม่อยากจะมองเขาด้วยซ้ำ!เขาเองก็หน้าเปลี่ยนสี กลับรีบลุกขึ้นมา พูดขึ้นว่า "ข้าไปเองได้!"พรวดอันเหนียนเกือบหัวเราะออกมา นี่คืออาการดื้อรั้นสุดท้ายของรัฐทายาทเซียวหรือ?เขายังคิดว่าเซียวหลันยวนไม่สนใจสองคนนั้นแล้ว แต่ตอนนี้ดูแล้วเหมือนเขาก่อนหน้านี้ไม่ได้สนใจจะมองพวกเขาตรงๆ เลยด้วยซ้ำถึงอย่างไรตาข้างหนึ่งก็ยังพันเอาไว้นี่นะ"โยนออกไป" เซียวหลันยวนเอ่ยเสียงเย็นชาองครักษ์สองคนหิ้วตัวเซียวเหยียนจิ่งขึ้นมา
องครักษ์จวนอ๋องมองพวกนางอย่างเย็นชา "พวกเจาทำไมยังกล้ามาจวนอ๋องเจวี้ยนอีก? พวกเขาลืมไปแล้วหรือว่าเคยอะไรกับพระชายาไว้ แต่พวกเราไม่ลืมหรอกนะ ครึ่งนี้แค่ลงโทษเล็กน้อย ท่านอ๋องมีคำสั่ง ครั้งหน้าถ้าพวกเขายังกล้ามาเหยียบจวนอ๋องเจวี้ยนอีก ข้าจะหักขาทิ้งเสียเลย"พูดจบ พวกเขาก็หมุนตัวเข้าประตูไป ปิดประตูใส่หน้าเซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยาดังปังเซียวเหยียนจิ่งหน้าเขียว รู้สึกว่าได้รับความอัปยศอย่างมากเขาพลาดไปแล้วจริงๆ เซียวหลันยวนเป็นคนใจแคบเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก!หลี่จื่อเหยาหันหน้า เห็นพวกคนใช้และคนขับรถที่องค์หญิงหนานฉือพามากำลังมองพวกเขา เห็นขั้นตอนความขายหน้าทั้งหมดของพวกเขากับตา นางรู้สึกว่าหน้าตาป่นปี้ไม่มีชิ้นดี ร้องไห้ออกมาทันทีนางยกมือข่วนๆ ไปทางเซียวเหยียนจิ่ง ร้องว๊ากขึ้นมาว่า "เป็นเพราะท่าน! เป็นเพราะท่านมันไม่ได้เรื่อง! ท่านมันคนไม่เอาถ่าน จวนชินอ๋องเซียวของพวกท่านมันไม่ได้เรื่อง ถูกคนรังแกขนาดนี้แค่จะผายลมก็ยังไม่กล้าเลย!"เซียวเหยียนจิ่งถูกเขาข่วนมาที่หน้าอย่างไม่ทันคาดคิด ทั้งโกรธทั้งเกลียด ลุกขึ้นมา ยกเท้าถีบนางเข้าไปทีหนึ่ง"ที่ข้าเป็นรัฐทายาทต้องมาตกต่ำแบบนี้ ก็เพรา
"ผู้หญิงคนนั้นเข้าไปอยู่แล้วจริงหรือ?""ใช่ นางนั่นล่ะ ของใช้นางมีไม่เท่าไร ย้ายเข้าไปในนั้นหมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะมาอยู่ถาวรไหม ถ้าหากว่าใช่ล่ะก็ ของที่นางเอามานั้นยังไม่พอ แล้วตระกูลเสิ่นต้องมาซื้อให้นางไหม?""ไม่ใช่บอกว่าเป็นแค่หมอหญิงคนหนึ่งหรือ?""จริงด้วย นางพอมาถึงก็เข้าไปสวนจิ้งชิวแล้วให้หมอหวางมาเป็นลูกมือเลยนะ ไม่ใช่เป็นแค่หมอหญิงหรือ? เหมือนได้ยินว่าไปนวดหัวให้ไท่ไท่อาวุโสด้วย ฝีมือน่าจะพอไปวัดไปวาอยู่""เพราะแค่ช่วยไท่ไท่อาวุโสนวดหัว ก็ยกเชิดชูนางแล้วหรือไรกัน?"คนบ้านตระกูลเสิ่นล้วนไม่อยากเชื่อกัน ขณะเดียวกันก็ทั้งอิจฉาทั้งขุ่นเคือง"ต่อให้เพื่อให้นางอยู่ต่อก็เถอะ ก็ไม่ควรให้เข้าไปพักในสวนจิ้งชิวไหม? นางที่เป็นหมอหญิงคนหนึ่ง ถ้าพักอยู่ในสวนจิ้งชิว ถึงจะคอยรับใช้ไท่ไท่อาวุโสได้ตลอดเวลาไม่ใช่หรือ?"คนทั้งหมดหลังจากเอะอะเอ็ดตะโรไปรอบหนึ่งจึงมองไปทางท่านลุงรองครอบครัวของท่านลุงรองต่างหากที่พักอยู่ในจวนตระกูลเสิ่นมาโดยตลอดก่อนหน้านี้เสิ่นเสวียนก็ดูเคาระเขาอยู่ตัดท่านผู้เฒ่าออก ตัดไท่ไท่อาวุโสออก พูดได้ว่าบ้านตระกูลเสิ่นหลายปีมานี้มีเขาเป็นเสาหลักไปแล้ว เพราะเสิ่นเสวียน
"เห็นแล้วสิ" ทุกคนพูดออกมา"ตอนที่เขาออกจากต้าชื่อครั้งที่แล้ว สุขภาพยังย่ำแย่อยู่ แต่ตอนนี้พวกเจ้ามองออกไหม? เ่ขาเดินได้วิ่งได้หิ้วของหนักได้ สุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด"เขาเองก็ให้คนไปตรวจสอบเรื่องเพื่อยืนยันจุดนี้แล้วอาการป่วยของเสิ่นเสวียน ดีขึ้นมาแล้วมากจริงๆลูกชายสองคนของเขาตกตะลึงขึ้นในใจ สบตากันผาดหนึ่ง"ท่านลุงรองพูดมาแบบนี้มันก็จริงอยู่นะ""ใช่แล้ว เรื่องนี้ก่อนหน้าก็คิดไม่ถึง จนมองข้ามไป ลุงเสวียนตอนนี้หายดีแล้วหรือ?"ทุกคนล้วนตกตะลึงกันขึ้นมา"เขาที่จู่ๆ ก็มีสัมพันธ์อันดีกับหมอหญิงคนนั้น อธิบายอะไรได้?" น้ารองเสิ่นเอ่ยเสียงขรึม "อธิบายได้ว่า ที่อาการป่วยของเขาดีขึ้น เป็นไปได้มากว่าเกี่ยวข้องกับหมอหญิงคนนี้ ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริง นางก็คือผู้มีบุญคุณของบ้านตระกูลเสิ่น ถ้าจะให้นางเข้าไปพักในสวนสี่ซินมีอะไรไม่ถูกต้องกัน"หา?อาสะใภ้รองสงสัย "เป็นไปไม่ได้สิ? แม่นางคนนั้นดูอายุไม่เท่าไรเองนี่? แล้วอาการป่วยที่หมอใหญ่ตั้งหลายคนรักษาไม่ได้ นางจะมารักษาได้อย่างไรกัน?""เรื่องนี้ พวกเราต้องยืนยันอีกหน่อย ถ้าหากวิชาแพทย์ของแม่นางคนนั้นดีจริงๆ ล่ะ?"ลองรองเสิ่นเอ่ยต่อ "ถ้
ฟู่จาวหนิงหลับไปตื่นหนึ่งเพราะกังวลสุขภาพของไท่ไท่อาวุโส นางจึงไม่ได้นอนยาวถึงอีกวัน นอนไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็ลุกขึ้นมาแล้ว"คุณหนูจาวหนิง ท่านตื่นแล้วหรือ?"ที่ประตูมีเสียงสาวน้อยคนหนึ่งลอดเข้ามา"อืม ตื่นแล้ว""ข้าน้อยชื่อว่าเสี่ยวชิ่น หลังจากนี้จะมารับใช้คุณหนูจาวหนิง ข้าน้อยเข้าไปได้ไหม?"เพราะต้องเร่งเดินทาง ฟู่จาวหนิงจึงไม่ได้พาสาวใช้มา ไม่ว่าจะเสี่ยวเถาหรือว่าหงจั๋วเฝิ่นซิง พวกนางทนกับการเร่งเดินทางเช่นนั้นไม่ไหว ฟู่จาวหนิงไม่อยากให้พวกนางต้องมาลำบากด้วยวิชาขี่ม้าของพวกนางเองก็ยังไม่ผ่านระหว่างทางนางตามพวกสืออีไป๋หู่แบบชายชาตรีเลย นอนกลางดินกินกลางทรายก็ทำมาแล้ว บางครั้งพวกทางหักมุมหรือว่าต้องควบม้ากระโดดข้ามธารเล็กๆ ก็มี นางไม่ได้ขลาดกลัวเลย ติดตามพวกเขาไปอย่างไม่มีลังเลถ้าพาสาวใช้พวกนั้นมาด้วย ก็คงจะไม่ไหวจริงๆและเพราะเป็นเช่นนี้ พวกของไป๋หู่จึงนับถือนางอย่างมากแต่พอมาถึงที่นี่ เสิ่นเสวียนจะไม่จัดสาวใช้มาให้นางได้อย่างไรกัน"เข้ามาเถอะ"ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นนั่ง ประตูเปิดออก สาวใช้อายุราวสิบห้าสิบหกหน้าตาสะสวยในชุดสีบ๊วยคนหนึ่งเดินเข้ามา ถือถาดน้ำอุ่นเข้ามาด้วย"
แต่ถ้านางมีเรื่องส่วนตัวอะไร ปกติจะเลี่ยงตัวนาง และพาสาวใช้อีกสองคนไปแทนเสี่ยวชิ่นเองก็ไม่ใช่คนโง่ รู้ว่าเพราะอะไรอวี๋อวี่เวยจึงไม่เชื่อใจนาง กลัวว่ามีเรื่องอะไรที่ให้นางรู้ แล้วจะเอาไปบอกเสิ่นเสวียน"แล้วเจ้ายินดีมาไหม? ถ้าเจ้าอยากจะไปอยู่ข้างกายแม่นางอวี๋ก็บอกตรงๆ ได้นะ ข้าทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"ฟู่จาวหนิงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอวี๋อวี่เวยอยู่ในบ้านตระกูลเสิ่นด้วยตัวตนฐานะอะไร นางเองก็ไม่ได้จะพักที่บ้านตระกูลเสิ่นนานเสียด้วย เดี๋ยวตอนที่นางต้องจากไป เสี่ยวชิ่นถ้าหากต้องกลับไปอยู่ข้างกายอวี๋อวี่เวยอีก ฟู่จาวหนิงก็กังวลว่านางคงไม่อยากไปทำแล้วเสี่ยวชิ่นรีบพูดออกมา "ยินดีเจ้าค่ะ นายท่านบอกว่าคุณหนูจาวหนิงเป็นเจ้านายที่ดีมาก ให้ข้าไม่ต้องกลัว"ฟู่จาวหนิงหัวเราะขึ้นมา"อืม ไม่ต้องกลัว"หลังจากนางเก็บกวาดเสร็จ เสี่ยวชิ่นก็รีบเปิดลิ้นชักเครื่องประดับหนึ่งบนโต๊ะ ด้านในใส่เครื่องประดับเอาไว้เต็ม ดูแล้วล้วนเป็นชุดที่ดูเรียบง่ายและเหมาะกับวัยหนุ่มสาวอย่างพวกปิ่นทองดอกลิลลี่ที่สลักไข่มุกหยกขาวไว้อะไรแบบนี้ เรียบง่ายแล้วยังดูมีเอกลักษณ์และยังมีถุงหอมด้ายทอง ประณีตแต่ไม่ได้ดูซับซ้อนมาก
เสี่ยวชิ่นตะลึงไปครู่หนึ่ง"เป็นข้าน้อยที่ไม่ได้บอกกับแม่นางชัดเจน ที่ข้าน้อยบอกว่าจะไปทำงานที่สวนสี่ซิน ไม่ใช่การไปทำเพียงชั่วคราว หลังจากนี้ข้าน้อยจะมาปรนนิบัติรับใช้คุณหนูจาวหนิงแล้ว"อันที่นางบอกไปชัดเจนแล้วแต่ต่อหน้าเจ้านาย นางเองก็แก้ตัวอะไรไม่ได้ ทำได้แค่บอกไปอีกรอบ"เพราะคุณหนูฟู่มาอาศัยพักบ้านตระกูลเสิ่นเพียงลำพังใช่ไหม?" อวี๋อวี่เวยพยายามทำให้สีหน้ากับอารมณ์ของตนเองสงบลงมาหน่อย "เช่นนั้นก็สมควรอยู่ พวกเราต้องปฏิบัติต่อแขกให้ดีสิ"นางมองไปทางฟู่จาวหนิงอีก ฉีกยิ้มออกมา ถามขึ้นว่า "ไม่ทราบว่าคุณหนูฟู่จะพักกี่วันหรือ? เจ้าน่าจะไม่รู้ ว่าเสี่ยวชิ่นอยู่ข้างกายข้ามาตลอด นางทำงานเก่ง เรื่องใหญ่เรื่องเล็กรอบตัวข้าล้วนขาดนางไม่ได้ พอนางไม่อยู่แบบนี้ ข้าก็สติไม่อยู่กับเนื้อตัวเหมือนกัน"ฟู่จาวหนิงอยากจะถอนหายใจเสียแล้วนางรู้สึกจริงๆ ว่าพูดกันแบบนี้มันเหนื่อย นางมีเวลาที่จะมาปะทะคารมกับอวี๋อวี่เวยที่นิสัยประหลาดแบบนี้เสียที่ไหน?นางจึงเอ่ยขึ้นตรงๆ "เช่นนั้นก็ขอโทษด้วย ตอนนี้ข้าต้องการเสี่ยวชิ่น ถ้ารบกวนก็ขออภัยด้วย"ประโยคเดียวจะทำให้อวี๋อวี่เวยโมโหหรือเปล่านางไม่รู้ แต่นางไม่
ฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็เตรียมใจไว้แล้วตอนนั้นพวกเขาออกจากเมืองไปแบบนั้น หลายๆ เรื่องยังคงอยู่ ทั้งที่เกี่ยวกับราชวงศ์ท่านอ๋อง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิ และไม่มีทางที่จะลืมเลือนจากเวลาที่ไหลผ่านไปกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ไม่แน่ว่าจะลืมพวกเขาถ้าหากไม่ใช่เพราะลูสาวของพวกเขาจับพลัดจับผลู พบบุพเพมหัศจรรย์จนไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้พวกเขายังไม่ทันเข้าเมืองหลวงก็คงถูกคนของอ๋องเจวี้ยนจับไปแล้วสิ่งที่รอพวกเขาก็คือการจำคุกและการไต่สวนหรือบางที คนที่รู้เรื่องเบื้องหลังในตอนนั้น หรือคนที่สงสัยว่าพวกเขาไปรู้ความลับอะไรเข้า ตอนนี้อาจจะเปิดเผยตัวกันออกมาถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางเป็นแบบตอนนี้ ที่ยังเข้าเมืองมาได้อย่างปลอดภัย กลับมาที่บ้านกระทั่งว่า บ้านตระกูลฟู่เองก็อาจจะไม่อยู่แล้วด้วย บ้านหลังนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะยังอยู่ที่นี่เพื่อรอพวกเขากลับบ้านกลับบ้าน ใช่แล้ว พวกเขาในที่สุดก็กลับมาบ้านแล้วและทั้งหมดนี้ เป็นเพราะจาวหนิงเป็นจาวหนิงที่ให้พวกเขากลับมาบ้านได้ฟู่จิ้นเชินเข้าใจจุดนี้ได้ดียิ่งกว่าใครรอจนอารมณ์ของทุกคนนิ่งลงมาแล้ว เขาจึงถามถึงผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวหนิ
ฟู่จาวหนิง! พระชายาอ๋องเจวี้ยน! พวกเขาล้วนได้ยินเรื่องของนางมาไม่น้อย นั่นไม่ใช่คนที่ไปยั่วยุได้เลยนะ นางกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ยังกล้าไปต่อปากต่อคำด้วย พวกเขาในสายตาฟู่จาวหนิงไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น!ถ้าถูกจับจ้องไว้ล่ะก็ พวกเขาหลังจากนี้ได้เดือดร้อนแน่!คนเหล่านี้ล้วนขวัญเสียกันหมดแล้วคนที่ให้พวกเขาเข้ามาเอะอะบอกไว้ว่า ถ้าเอาคนมาเยอะๆ แล้วบวกกับเรื่องเมื่อสิบแปดปีก่อนเข้าไป ฟู่จิ้นเชินจะต้องนึกพวกเจ้าไม่ออก จำพวกเจ้าไม่ได้แน่ขอแค่เอาคนมามากพอ สถานการณ์วุ่นวายพอ แค่พวกเขาสร้างความวุ่นวายแล้วหนีไป ตระกูลฟู่ก็จับมือใครดมไม่ได้หรอกแต่ใครจะคิดว่าฟู่จิ้นเชินจะมาไม้นี้?"ฟู่ สหายฟู่ ไม่ต้องจดหรอก พวกเราก็แค่เจอพวกเจ้าบนถนนเท่านั้น...""ใช่ๆๆ ไม่มีใครมาแจ้งพวกเรา""พวกเรามีที่มาแหล่งข่าวเสียที่ไหน เข้าใจผิดแล้ว..."พวกเขาคิดจะถอย ถ้าหากไปถึงฟู่จาวหนิงคงวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นแน่"ในเมื่อมากันแล้ว เช่นนั้นก็มาคุยเรื่องเก่ากันก่อนเถิด อย่าเพิ่งรีบไปกัน" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้นอย่างสงบ "พวกเจ้าไม่ใช่มาหาสหายเก่าอย่างข้าหรอกหรือ?""เจ้ากับฮูหยินเพิ่งกลับมา น่าจะเหนื่อยกันแล้ว พวกเราเอาไว้ค่อ
พวกของเซี่ยซื่อยังไม่ทันได้พูดเรื่องอ๋องเจวี้ยน ด้านนอกก็มีคนออกแรงตบประตูบ้านตระกูลฟู่ขึ้นเสียงดังเฉินซานออกไปเปิดประตู คนกลุ่มหนึ่งก็ทะลักเข้ามาคนเหล่านี้ เฉินซานคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขายังเป็นนักเลงหัวไม้อยู่ในเมืองหลวง จริงๆ ก็ให้ความสนใจกับพวกพ่อค้าขุนนางระดับล่างเหล่านี้อยู่คนเหล่านี้ล้วนอายุราวสามสี่สิบปี อายุประมาณฟู่จิ้นเชิน"คุณชายใหญ่ฟู่!""เร็ว ได้ยินว่าอัจฉริยะใหญ่ฟู่กลับมาแล้วหรือ?""คุณชายฟู่กลับมาแล้วจริงหรือ?"คนกลุ่มหนึ่งทะลักเข้ามา ล้วนมองอย่างตื่นเต้นมาที่ฟู่จิ้นเชินขณะที่ยังตกใจกับความหล่อเหลาราววัยหนุ่มของฟู่จิ้นเชิน กับความสวยสะพรั่งของเสิ่นเชี่ยว พวกเขาลืมเป้าหมายที่มายังบ้านตระกูลฟู่นี้แล้วพวกเขาแย่งกันพูดขึ้นมา"สหายฟู่ ให้ตายเถอะ เจ้ายังไม่ตายจริงๆ!""คุณชายฟุ่ ยังจำข้าได้ไหม? ข้าต่งฮั่น ตอนนั้นที่เคยสนุกด้วยกันกับเจ้าที่โรงน้ำชา!""จิ้นเชิน ข้าเหอจาวหลิน พวกเราตอนนั้นเกือบจะได้เป็นศิษย์ของอาจารย์คนเดียวกันแล้ว!""อัจฉริยะใหญ่ฟู่ ตอนนั้นพวกเราเดิมพันงานเขียนกันหลายครั้ง พอเจ้าหายตัวไปสิบแปดปีข้าก็คิดถึงเจ้าตลอดเลย เจ้ากลับมาได
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังดูยังสับสนอยู่ ยังไม่มีใจจะไปคิดเล็กคิดน้อยนัก"นี่คือลูกสาวของข้าอันห่าว นางตอนนี้ใช้สกุลเซี่ยเหมือนข้า" เซี่ยซื่อปาดน้ำตาเอ่ยขึ้นเสิ่นเชี่ยวประคองเซี่ยอันห่าวลุกขึ้นดูแล้วเซี่ยซื่อน่าจะมีเรื่องบางอย่างกับตระกูลหลิน ยิ่งไปกว่านั้นในนี้จะต้องเป็นฝีมือของจาวหนิงแน่"ต้องขอบคุณจาวหนิง นางเก็บแม่ลูกอย่างพวกเรามา ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่รอดกันแล้ว" เซี่ยซื่อเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา ได้สติขึ้นอีกครั้ง "รีบเข้าห้องเร็ว หิมะตกแล้ว ด้านนอกหนาวมาก"คนที่เหมือนแมลงกาฝากในตระกูลฟู่พวกนั้นก็ถูกฟู่จาวหนิงกวาดออกไปแล้ว เรื่องนี้สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินรู้แล้วพวกเขาเข้ามาในโถงใหญ่ ลุงจงป้าจงกับหู่จือล้วนได้ยินการเคลื่อนไหว ทั้งหมดจึงวิ่งเข้ามา"คุณชาย คุณชายใหญ่กับฮูหยินน้อยกลับมาแล้วหรือ?""คุณชาย!"ป้าจงกับลุงจงวิ่งเข้ามาก่อน พอเห็นฟู่จิ้นเชินชัดๆ พวกเขาก็น้ำตาไหลอาบทันที ทิ้งตัวลงคุกเข่า"คุณชาย ฮูหยินน้อย พวกท่านกลับมาได้เสียที พวกท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้าน้อยรู้อยู่แล้ว ว่าพวกท่านจะต้องมีโชคที่ดีแน่นอน..."พวกเขาล้วนร้องไห้กันออกมาตอนนั้นที่พวกเขาออกไป หู่จือยังเป็นเด็กน้อยอย
แม้จะผ่านไปเกือบสิบแปดปีแล้ว แต่สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวก็ยังเป็นคนที่กาลเวลารักใคร่อยู่พวกเขาแม้จะอายุมากแล้ว หน้าตาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้าง แต่พอเทียบกับสมัยก่อนแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงไปไม่เยอะมากมองหลายๆ ครั้งก็มองออกได้คนที่เซียวเหยียนจิ่งเตรียมไว้ยังมองออก ไม่ต้องพูดถึงเซี่ยซื่อเลยเซี่ยซื่อเคยเป็นครอบครัวของพวกเขาด้วยนะหลังจากนางจำได้แล้วยังสงสัยว่าตาตนเองฝาดไปหรือไม่ ยังสงสัยว่าตนเองคงตาลาย ดังนั้นเลยนวดตาทันที จากนั้นจึงมองพวกเขาอย่างละเอียดอีกครั้งไม่เปลี่ยน ยังคงเป็นสองคนนั้นเสิ่นเชี่ยวเองก็จำเซี่ยซื่อได้ แม้ว่านางจะรู้ตัวตนฐานะของตนเองแล้ว แต่ยังคงโพล่งออกมาว่า "พี่สะใภ้รอง!"เซี่ยซื่อคือภรรยาของผู้เฒ่ารองตระกูลหลินและเป็นคนเดียวในตระกูลหลินที่อ่อนโยนเป็นห่วงเสิ่นเชี่ยว ดังนั้นเสิ่นเชี่ยวพอเห็นนาง ดวงตาจึงแดงรื้นขึ้นมาคำว่าพี่สะใภ้รอง ก็ทำเอาเซี่ยซื่อใจสั่นระริกเช่นกันรีบวางตะกร้าที่หิ้วไว้ลงมา เดินตรงไปหานาง"ให้ตายเถอะ อา อาเล็กหรือ?"ไม่ ไม่ใช่อาเล็กชองนางแล้วสิ เซี่ยซื่อยืนอยู่หน้าเสิ่นเชี่ยว ถลึงตาโตอ้าปากค้าง"พี่สะใภ้รอง ข้าข้าเจอครอบครัวของข้าแ
ฟู่จาวหนิงสีหน้าขรึมลงเล็กน้อย "ดูท่า น่าจะมีคนไม่น้อยที่ยังไม่ลืมพวกเขา คอยจับตาดูจนถึงทุกวันนี้""ข้าเตรียมการเสร็จแล้ว รอบบ้านตระกูลฟู่วางองครักษ์ลับเอาไว้แล้ว วางใจเถอะ" เซียวหลันยวนพานางเข้ามา สองมือโอบข้างเอวนาง จ้องมองนาง "องค์จักรพรรดิน่าจะลงมือกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นพ่อลูกชินอ๋องเซียวยังคอยจับตาดูพวกเขาขนาดนี้ มันดูแปลกไปหน่อย""ตรวจสอบดูก็รู้ พวกเขาถ้าหากมีความคิดอะไร มีแผนอะไร มีเป้าหมายอะไร เดี๋ยวก็ได้รู้เอง"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ใส่ใจนักเซียวหลันยวนพยักหน้าสายตาเขามองออกไปไกลๆ ถัดจากนี้ต้องดูว่าสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินจะรับมืออย่างไร เมืองหลวงยังมีคนที่มีเป้าหมายต่างๆ อยู่ และยังมีขั้วอำนาจที่ใช้วิธีการต่างๆ อยู่อีกด้วยเขาถึงแม้จะเชื่อว่าครั้งนั้นไม่ใช่เสิ่นเชี่ยวที่วางยาพิษ แต่ว่าพวกเขาตอนนั้นถูกใครบางคนหรือเรื่องบางอย่างหนีบเอาไว้ตรงกลาง ไม่มีทางดึงตัวออกมาอย่างหมดจดได้ พวกเขาเองก็เป็นคนในเหตุการณ์ตอนนี้พอมีความสัมพันธ์เช่นนี้กับเขา เซียวหลันยวนก็ยังพิจารณานาว่าพวกเขาจะแบกรับไหวไหม หลังจากนี้จะไม่ถ่วงแข้งขาฟู่จาวหนิงได้จริงไหม จะไม่ทำร้ายนางจริงไหมเซียวหลันยวนไม่ได้
"หนิงหนิง มีเรื่องอะไรถึงคุยกันนานสองนาน?"ในห้องขังมีเสียงเซียวหลันยวนดังออกมา"มาแล้ว"ฟู่จาวหนิงขานรับคำหนึ่ง เตรียมจะกลับห้องขังเซียวเหยียนจิ่งไม่อยากเชื่อ "เจ้าไม่ไปกับข้าจริงหรือ? เจ้าไม่สนใจพ่อแม่เจ้าหรือไรกัน?"ปฏิกิริยาของฟู่จาวหนิงเกินจากที่เขาคาดไว้เขาเดิมทีคิดว่าพอได้ยินว่าพ่อแม่ไม่เป็นไร แล้วยังกลับมาแล้ว ฟู่จาวหนิงอย่างน้อยต้องตาแดงรื้นบ้าง ไม่ก็ร้องไห้ออกมา รีบร้อนตามเขาออกไปอย่างตื่นเต้น เพื่อรีบไปพบพ่อแม่ของนาง"อ๋องเจวี้ยนถึงอย่างไรก็ยังต้องอยู่ในห้องขัง ไม่มีอะไรหรอก เจ้าจัดที่นี่จนดูอยู่สบายไปแล้ว แล้วเขาทำไมยังต้องให้เจ้ามาอยู่ด้วยกันอีก?""ข้ามาอยู่เอง เขาเป็นสามีข้า ข้าไม่อยู่กับเขาแล้วใครจะอยู่กัน?"ฟู่จาวหนิงหลังจากที่รู้เจตนาการมาของเขาก็ขี้เกียจจะคุยกับเขาแล้ว ผลักเขาออก แล้วเดินไปทางห้องขังเซียวเหยียนจิ่งนี่ก็จุ้นจ้านเสียจริง"เจ้าทำไมถึงต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้" เซียวเหยียนจิ่งตะโกนใส่หลังนาง "เจ้าเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่แล้ว ถ้าเจ้ายินยอม มีคนตั้งมากมายที่ยินดีจะรักและเอ็นดูเจ้า ทำไมต้องมาอยู่ในคุกกับเขาแบบนี้ด้วย"เดิมทีหญิงสาวคนนี้ควรจะควรจะม
"ใช่ พ่อแม่ของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว" เซียวเหยียนจิ่งจ้องมองฟู่จาวหนิง "เป็นอย่างไร เจ้าอยากรีบกลับบ้านไหม? ได้ยินว่าปู่ของเจ้ากับเด็กที่ชื่อเสี่ยวเฟยก็อยู่กันที่จวนอ๋องเจวี้ยนนี่? ถ้าเจ้าไม่กลับไป พ่อแม่ของเจ้าคงจะหาคนไม่เจอแน่"ฟู่จาวหนิงทำท่าทางตกตะลึงอย่างมาก"เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่ไหม? พวกเขากลับมาแล้วจริงหรือ?""ข้าจะโกหกเจ้าทำไมกัน? ไม่เชื่อข้าตอนนี้เจ้าก็ไปกับข้าสิ ข้าจะพาเจ้าไปหาพวกเขา"เซียวเหยียนจิ่งพูด มือเองก็คันยุบยิบ เขาอยากจะยื่นมือไปจูงนางเหลือเกิน จูงนางออกจากคุกใหญ่ถ้าเขาสามารถจูงมือนางออกไปได้ เซียวหลันยวนคงได้กระอักเลือดตายกระมัง?แต่เขาเพิ่งจะขยับ ฟู่จาวหนิงก็ถอยออกไปแล้วสองก้าว"พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง เช่นนั้นก็ต้องกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่ ที่บ้านตระกูลฟู่มีคนอยู่ พวกเขาจะหาคนไม่เจอได้อย่างไรกัน?""เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ?""เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าวิ่งแจ้นเข้ามาบอกข้าหรอกกระมัง? พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง คนใช้บ้านตระกูลฟู่อีกเดี๋ยวก็คงเข้ามาบอกข้าเอง""เจ้าลืมอ๋องเจวี้ยนไปแล้วหรือ?""เขาก็อยู่ที่นี่ ลืมอะไรกัน?""ความ
ฟู่จาวหนิงอยู่ในคุกเองก็เบื่อหน่อยๆ แล้วนางเหลือบมองเซียวเหยียนจิ่งผาดหนึ่ง จากนั้นจึงตรงไปด้าหน้าเซียวหลันยวน "ข้าออกไปฟังหน่อยได้ไหม?""ไปเถอะ" เซียวหลันยวนพยักหน้า"เอ๋ ไม่หึงแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงร้องชิชะเซียวหลันยวนหัวเราะเสียงทุ้ม "อย่าไปไกลนักล่ะ ข้าได้ยินอยู่"ถึงอย่างไรนางก็เบื่อๆ ถ้าเซียวเหยียนจิ่งพูดเรื่องอะไรที่ทำให้นางฆ่าเวลาได้ เช่นนั้นเขาก็ควรจะใจกว้างหน่อยแต่ว่า พวกเขาเดินไปไกลมากไม่ได้ ต้องอยู่ในระยะที่เขาสามารถได้ยิน"รู้อยู่แล้วว่าท่านจะใจกว้างหลอกๆ"ฟู่จาวหนิงวางพู่กัน ปรบๆ มือ จากนั้นจึงเดินออกจากห้องขัง"คิดจะพูดอะไร?"เซียวเหยียนจิ่งเดิมทีคิดจะให้เซียวหลันยวนหึงหวง ดังนั้นจึงไม่คิดจะเดินไปไกลนัก"มานี่หน่อย" เซียวเหยียนจิ่งเดินออกมาข้างๆ ไม่กี่ก้าว รู้สึกว่าระยะนี้เซียวหลันยวนน่าจะได้ยินเหมือนคนคุยกันแต่ไม่ได้ยินเนื้อหาด้านในเช่นนี้ก็พอดีฟู่จาวหนิงร้องเชอะในใจ น่าจะเข้าใจความคิดของเขาเพียงแต่เซียวเหยียนจิ่งก็ยังโง่อยู่ เขาคิดว่าระยะนี้เซียวหลันยวนไม่ได้ยินหรือไรกัน?นางเดินออกไปเซียวเหยียนจิ่งบอกกับผู้คุมข้างๆ คำหนึ่ง ให้เขาออกไปก่อนผู้คุม