องค์หญิงหนานฉือถลึงตามองอันเหนียนผาดหนึ่ง"ท่านอย่าทำมาทำลายเรื่องดีดีของข้าสิ"นางซื้อขายออกจะไปได้สวย แล้วอันเหนียนจะมาสอดปากทำไมกัน? เดี๋ยวอ๋องเจวี้ยนไม่ยอมขายป้ายทองเลี่ยงความตายให้นางจะทำอย่างไรกัน?"ข้ากลัวถึงตอนนั้นอ๋องเจวี้ยนจะมาเสียใจภายหลัง"อันเหนียนไม่ได้ถอยหนี แต่ยังคงมองเซียวหลันยวนฟู่จาวหนิงอยู่ต่อหน้าองค์จักรพรรดิฮองเฮาล้วนมีท่าทีกำเริบเสิบสาน นางดูเหมือนจะไม่เกรงกลัวอำนาจราชวงศ์ แต่เช่นนี้เองก็ไปหาเรื่องคนอื่นเขาได้ง่ายการมอบป้ายทองเลี่ยงความตายให้นาง ก็ถือว่าเป็นยันต์คุ้มกายให้นางใบหนึ่ง"อันเหนียน เจ้าไม่เข้าใจ" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเรียบๆ "มีข้าอยู่ ใครจะกล้าทำอะไรนาง"ดังนั้น ฟู่จาวหนิงไม่จำเป็นต้องมีป้ายทองเลี่ยงความตาย ข้าก็คือยันต์คุ้มกายของนางคำพูดเหล่านี้ พวกเขาใช้ภาษาแคว้นเจา ดังนั้นคนที่นี่จึงฟังเข้าใจเซียวเหยียนจิ่งไม่รู้ว่าในใจมันความรู้สึกอะไรไปชั่วขณะ เอาแต่รู้สึกแย่ๆแต่หลี่จื่อเหยากลับอิจฉาจนคุ้มคลั่งขึ้นมานางก่อนหน้านี้คิดมาตลอดว่าฟู่จาวหนิงต่อให้แต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน ก็คงจะใช้ชีวิตได้ไม่ดีเท่าไรนัก อ๋องเจวี้ยนเป็นไปไม่ได้ที่จะชอบนาง แ
"ท่านทำไมถึงอ่อนแอแบบนี้? ข้าไม่ได้ออกแรงเท่าไรเลยนะ!"องค์หญิงหนานฉือหลังจากตั้งตัวมาได้ก็โมโหขึ้นมา ยื่นมือมาคว้าหลังคอเสื้ออันเหนียน จากนั้นก็ดึงเขาขึ้นมา"พรวด" เซียวหลันยวนหัวเราะก๊ากออกมาอีกครั้ง"เอาล่ะ ลุกขึ้นมาได้แล้ว"อันเหนียนลุกขึ้นยืน เอ่ยขึ้นอย่างจำใจ "องค์หญิงปล่อยมือได้แล้วกระมัง?" พอพูดประโยคนี้จบ ก็ไอออกมาสองทีเมื่อครู่ที่ถูกตบไปยังไม่ทันได้หายใจหายคอ ตอนนี้จึงเพิ่งไอออกมาเซียวหลันยวนเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็หัวเราะขึ้นมาอีก"องค์หญิงกับผู้ตรวจการชิงของพวกเราปกติอยู่ด้วยกันแบบนี้หรือ? อย่างนั้นบนตัวผู้ตรวจการอันคงมีผลไม่น้อยแล้วกระมัง?"องค์หญิงหนานฉือร้องเชอะ "เขาติดตามข้ามา กินของดีไปไม่น้อย น้ำแกงบำรุงอะไรก็ดื่มไปตั้งเยอะ แล้วทำไมถึงยังอ่อนแอแบบนี้ อ๋องเจวี้ยนท่านเองก็อ่อนแอ ส่วนรัฐทายาทเซียวคนนั้นยิ่งอ่อนแอหนักไปอีก ผู้ชายของแคว้นเจานี้ คงไม่ใช่ว่าแค่แรงจะจับไก่ก็คงไม่มีหรอกกระมัง?"ให้ตายเถอะ ไม่มีแข็งแรงๆ กันบ้างเลยชายหนุ่มของหนานฉือทางนั้นยังดูสูงใหญ่กำยำกว่ามากเลย"พวกเขาอ่อนแอไปหน่อยแค่นั้น แต่ข้าไม่ใช่นะ ข้าเป็นเพราะป่วยมานาน แตกต่างจากพวกเขา" เซียวห
หลี่จื่อเหยาไม่รู้ว่าคำพูดนี้ควรจะตอบรับอย่างไรนางนั่นล่ะแต่ว่าอะไรคือ "ใครคนนั้น" ?นางไม่มีชื่อแซ่หรือไร? นางตอนนี้ไม่มีตัวตนฐานะหรือ?ถ้าตอบกลับไป แล้วหน้าของนางจะไปเหลืออะไร?ผลคือเซียวหลันยวนไม่ได้ต้องการคำตอบจากนาง เขายืนยันตัวตนฐานะของนางแล้ว หน้าขรึมลงทันที "ใครก็ได้""ท่านอ๋อง?"องครักษ์รีบเข้ามา"โยนสองคนนี้ออกไปหน่อย"เซียวหลันยวนชี้ไปที่เซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยา"อ๋องเจวี้ยน! พวกเราเป็นแขกนะ" หลี่จื่อเหยาตกตะลึง"ใช่!"องครักษ์เดินไปทางพวกเขาเซียวเหยียนจิ่งคิดไม่ถึงว่าผ่านมาตั้งนานขนาดนี้ อ๋องเจวี้ยนเหมือนยังไม่ลืมเรื่องสมัยก่อน ตอนนี้แค่หน้าก็ยังไม่อยากจะมองเขาด้วยซ้ำ!เขาเองก็หน้าเปลี่ยนสี กลับรีบลุกขึ้นมา พูดขึ้นว่า "ข้าไปเองได้!"พรวดอันเหนียนเกือบหัวเราะออกมา นี่คืออาการดื้อรั้นสุดท้ายของรัฐทายาทเซียวหรือ?เขายังคิดว่าเซียวหลันยวนไม่สนใจสองคนนั้นแล้ว แต่ตอนนี้ดูแล้วเหมือนเขาก่อนหน้านี้ไม่ได้สนใจจะมองพวกเขาตรงๆ เลยด้วยซ้ำถึงอย่างไรตาข้างหนึ่งก็ยังพันเอาไว้นี่นะ"โยนออกไป" เซียวหลันยวนเอ่ยเสียงเย็นชาองครักษ์สองคนหิ้วตัวเซียวเหยียนจิ่งขึ้นมา
องครักษ์จวนอ๋องมองพวกนางอย่างเย็นชา "พวกเจาทำไมยังกล้ามาจวนอ๋องเจวี้ยนอีก? พวกเขาลืมไปแล้วหรือว่าเคยอะไรกับพระชายาไว้ แต่พวกเราไม่ลืมหรอกนะ ครึ่งนี้แค่ลงโทษเล็กน้อย ท่านอ๋องมีคำสั่ง ครั้งหน้าถ้าพวกเขายังกล้ามาเหยียบจวนอ๋องเจวี้ยนอีก ข้าจะหักขาทิ้งเสียเลย"พูดจบ พวกเขาก็หมุนตัวเข้าประตูไป ปิดประตูใส่หน้าเซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยาดังปังเซียวเหยียนจิ่งหน้าเขียว รู้สึกว่าได้รับความอัปยศอย่างมากเขาพลาดไปแล้วจริงๆ เซียวหลันยวนเป็นคนใจแคบเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก!หลี่จื่อเหยาหันหน้า เห็นพวกคนใช้และคนขับรถที่องค์หญิงหนานฉือพามากำลังมองพวกเขา เห็นขั้นตอนความขายหน้าทั้งหมดของพวกเขากับตา นางรู้สึกว่าหน้าตาป่นปี้ไม่มีชิ้นดี ร้องไห้ออกมาทันทีนางยกมือข่วนๆ ไปทางเซียวเหยียนจิ่ง ร้องว๊ากขึ้นมาว่า "เป็นเพราะท่าน! เป็นเพราะท่านมันไม่ได้เรื่อง! ท่านมันคนไม่เอาถ่าน จวนชินอ๋องเซียวของพวกท่านมันไม่ได้เรื่อง ถูกคนรังแกขนาดนี้แค่จะผายลมก็ยังไม่กล้าเลย!"เซียวเหยียนจิ่งถูกเขาข่วนมาที่หน้าอย่างไม่ทันคาดคิด ทั้งโกรธทั้งเกลียด ลุกขึ้นมา ยกเท้าถีบนางเข้าไปทีหนึ่ง"ที่ข้าเป็นรัฐทายาทต้องมาตกต่ำแบบนี้ ก็เพรา
"ผู้หญิงคนนั้นเข้าไปอยู่แล้วจริงหรือ?""ใช่ นางนั่นล่ะ ของใช้นางมีไม่เท่าไร ย้ายเข้าไปในนั้นหมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะมาอยู่ถาวรไหม ถ้าหากว่าใช่ล่ะก็ ของที่นางเอามานั้นยังไม่พอ แล้วตระกูลเสิ่นต้องมาซื้อให้นางไหม?""ไม่ใช่บอกว่าเป็นแค่หมอหญิงคนหนึ่งหรือ?""จริงด้วย นางพอมาถึงก็เข้าไปสวนจิ้งชิวแล้วให้หมอหวางมาเป็นลูกมือเลยนะ ไม่ใช่เป็นแค่หมอหญิงหรือ? เหมือนได้ยินว่าไปนวดหัวให้ไท่ไท่อาวุโสด้วย ฝีมือน่าจะพอไปวัดไปวาอยู่""เพราะแค่ช่วยไท่ไท่อาวุโสนวดหัว ก็ยกเชิดชูนางแล้วหรือไรกัน?"คนบ้านตระกูลเสิ่นล้วนไม่อยากเชื่อกัน ขณะเดียวกันก็ทั้งอิจฉาทั้งขุ่นเคือง"ต่อให้เพื่อให้นางอยู่ต่อก็เถอะ ก็ไม่ควรให้เข้าไปพักในสวนจิ้งชิวไหม? นางที่เป็นหมอหญิงคนหนึ่ง ถ้าพักอยู่ในสวนจิ้งชิว ถึงจะคอยรับใช้ไท่ไท่อาวุโสได้ตลอดเวลาไม่ใช่หรือ?"คนทั้งหมดหลังจากเอะอะเอ็ดตะโรไปรอบหนึ่งจึงมองไปทางท่านลุงรองครอบครัวของท่านลุงรองต่างหากที่พักอยู่ในจวนตระกูลเสิ่นมาโดยตลอดก่อนหน้านี้เสิ่นเสวียนก็ดูเคาระเขาอยู่ตัดท่านผู้เฒ่าออก ตัดไท่ไท่อาวุโสออก พูดได้ว่าบ้านตระกูลเสิ่นหลายปีมานี้มีเขาเป็นเสาหลักไปแล้ว เพราะเสิ่นเสวียน
"เห็นแล้วสิ" ทุกคนพูดออกมา"ตอนที่เขาออกจากต้าชื่อครั้งที่แล้ว สุขภาพยังย่ำแย่อยู่ แต่ตอนนี้พวกเจ้ามองออกไหม? เ่ขาเดินได้วิ่งได้หิ้วของหนักได้ สุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด"เขาเองก็ให้คนไปตรวจสอบเรื่องเพื่อยืนยันจุดนี้แล้วอาการป่วยของเสิ่นเสวียน ดีขึ้นมาแล้วมากจริงๆลูกชายสองคนของเขาตกตะลึงขึ้นในใจ สบตากันผาดหนึ่ง"ท่านลุงรองพูดมาแบบนี้มันก็จริงอยู่นะ""ใช่แล้ว เรื่องนี้ก่อนหน้าก็คิดไม่ถึง จนมองข้ามไป ลุงเสวียนตอนนี้หายดีแล้วหรือ?"ทุกคนล้วนตกตะลึงกันขึ้นมา"เขาที่จู่ๆ ก็มีสัมพันธ์อันดีกับหมอหญิงคนนั้น อธิบายอะไรได้?" น้ารองเสิ่นเอ่ยเสียงขรึม "อธิบายได้ว่า ที่อาการป่วยของเขาดีขึ้น เป็นไปได้มากว่าเกี่ยวข้องกับหมอหญิงคนนี้ ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริง นางก็คือผู้มีบุญคุณของบ้านตระกูลเสิ่น ถ้าจะให้นางเข้าไปพักในสวนสี่ซินมีอะไรไม่ถูกต้องกัน"หา?อาสะใภ้รองสงสัย "เป็นไปไม่ได้สิ? แม่นางคนนั้นดูอายุไม่เท่าไรเองนี่? แล้วอาการป่วยที่หมอใหญ่ตั้งหลายคนรักษาไม่ได้ นางจะมารักษาได้อย่างไรกัน?""เรื่องนี้ พวกเราต้องยืนยันอีกหน่อย ถ้าหากวิชาแพทย์ของแม่นางคนนั้นดีจริงๆ ล่ะ?"ลองรองเสิ่นเอ่ยต่อ "ถ้
ฟู่จาวหนิงหลับไปตื่นหนึ่งเพราะกังวลสุขภาพของไท่ไท่อาวุโส นางจึงไม่ได้นอนยาวถึงอีกวัน นอนไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็ลุกขึ้นมาแล้ว"คุณหนูจาวหนิง ท่านตื่นแล้วหรือ?"ที่ประตูมีเสียงสาวน้อยคนหนึ่งลอดเข้ามา"อืม ตื่นแล้ว""ข้าน้อยชื่อว่าเสี่ยวชิ่น หลังจากนี้จะมารับใช้คุณหนูจาวหนิง ข้าน้อยเข้าไปได้ไหม?"เพราะต้องเร่งเดินทาง ฟู่จาวหนิงจึงไม่ได้พาสาวใช้มา ไม่ว่าจะเสี่ยวเถาหรือว่าหงจั๋วเฝิ่นซิง พวกนางทนกับการเร่งเดินทางเช่นนั้นไม่ไหว ฟู่จาวหนิงไม่อยากให้พวกนางต้องมาลำบากด้วยวิชาขี่ม้าของพวกนางเองก็ยังไม่ผ่านระหว่างทางนางตามพวกสืออีไป๋หู่แบบชายชาตรีเลย นอนกลางดินกินกลางทรายก็ทำมาแล้ว บางครั้งพวกทางหักมุมหรือว่าต้องควบม้ากระโดดข้ามธารเล็กๆ ก็มี นางไม่ได้ขลาดกลัวเลย ติดตามพวกเขาไปอย่างไม่มีลังเลถ้าพาสาวใช้พวกนั้นมาด้วย ก็คงจะไม่ไหวจริงๆและเพราะเป็นเช่นนี้ พวกของไป๋หู่จึงนับถือนางอย่างมากแต่พอมาถึงที่นี่ เสิ่นเสวียนจะไม่จัดสาวใช้มาให้นางได้อย่างไรกัน"เข้ามาเถอะ"ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นนั่ง ประตูเปิดออก สาวใช้อายุราวสิบห้าสิบหกหน้าตาสะสวยในชุดสีบ๊วยคนหนึ่งเดินเข้ามา ถือถาดน้ำอุ่นเข้ามาด้วย"
แต่ถ้านางมีเรื่องส่วนตัวอะไร ปกติจะเลี่ยงตัวนาง และพาสาวใช้อีกสองคนไปแทนเสี่ยวชิ่นเองก็ไม่ใช่คนโง่ รู้ว่าเพราะอะไรอวี๋อวี่เวยจึงไม่เชื่อใจนาง กลัวว่ามีเรื่องอะไรที่ให้นางรู้ แล้วจะเอาไปบอกเสิ่นเสวียน"แล้วเจ้ายินดีมาไหม? ถ้าเจ้าอยากจะไปอยู่ข้างกายแม่นางอวี๋ก็บอกตรงๆ ได้นะ ข้าทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"ฟู่จาวหนิงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอวี๋อวี่เวยอยู่ในบ้านตระกูลเสิ่นด้วยตัวตนฐานะอะไร นางเองก็ไม่ได้จะพักที่บ้านตระกูลเสิ่นนานเสียด้วย เดี๋ยวตอนที่นางต้องจากไป เสี่ยวชิ่นถ้าหากต้องกลับไปอยู่ข้างกายอวี๋อวี่เวยอีก ฟู่จาวหนิงก็กังวลว่านางคงไม่อยากไปทำแล้วเสี่ยวชิ่นรีบพูดออกมา "ยินดีเจ้าค่ะ นายท่านบอกว่าคุณหนูจาวหนิงเป็นเจ้านายที่ดีมาก ให้ข้าไม่ต้องกลัว"ฟู่จาวหนิงหัวเราะขึ้นมา"อืม ไม่ต้องกลัว"หลังจากนางเก็บกวาดเสร็จ เสี่ยวชิ่นก็รีบเปิดลิ้นชักเครื่องประดับหนึ่งบนโต๊ะ ด้านในใส่เครื่องประดับเอาไว้เต็ม ดูแล้วล้วนเป็นชุดที่ดูเรียบง่ายและเหมาะกับวัยหนุ่มสาวอย่างพวกปิ่นทองดอกลิลลี่ที่สลักไข่มุกหยกขาวไว้อะไรแบบนี้ เรียบง่ายแล้วยังดูมีเอกลักษณ์และยังมีถุงหอมด้ายทอง ประณีตแต่ไม่ได้ดูซับซ้อนมาก
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ
สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร
"ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ