แชร์

บทที่ 1732

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
อันเหนียนกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวหลังรู้เรื่องนี้ก็ปวดเศียรเวียนเกล้า

ผู้ประสบภัยสามคนนั้นก่อนหน้านี้กักกันไว้แล้ว แต่ก่อนหน้าที่จะหาตัวพวกเขาเจอ พวกเขาก็ไปที่ศูนย์พักพิงมาเรียบร้อย ที่นั่นอยู่กันอย่างแน่นขนัด คนหลายคนเพิ่งมาถึง ในใจก็กระวนกระวาย แล้วยังสับสนเป็นพิเศษอีก ไม่รู้สถานการณ์ของที่นี่ ดังนั้นสามคนนี้จึงดึงคนไม่น้อยเข้ามาพูดคุยกันเพื่อถามนั่นถามนี่

ถึงอย่างไรคนที่อยู่ใกล้ด้วยก็น่าจะมีถึงยี่สิบกว่าคน ยี่สิบกว่าคนนี้ก็ยังมีคนที่ตนเองออกไปสัมผัสอยู่อีก

และเพราะสามคนนั้นเป็นคนมาใหม่ คนไม่น้อยจึงจำไม่ได้ไม่รู้จัก ถ้าจะให้พวกเขาชี้ตัวคือยากมาก

ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวอยากจะประกาศป่าว ให้คนเหล่านั้นลุกออกมากันเอง อันเหนียนกลับรู้สึกว่าถ้าเป็นเช่นนี้ ผู้ประสบภัยอาจจะยิ่งหวาดกลัว

เพราะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกขเาจะกลัวและไม่สงบ แล้วจะเข้ามาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

"เรื่องพูดออกไปตรงๆ ไม่ได้ ต้องบอกว่าผู้ประสบภัยสามคนนั้นมีตัวตนฐานะน่าสงสัย ต้องทำการตรวจสอบ" อันเหนียนตัดสินใจแล้ว

ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเองก็เห็นด้วย

แต่ว่าข้าราชการที่ออกไปประกาศตนเองก็กลัวเหมือนกัน ต้องการห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1733

    "ถ้าเจ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาที่นี่ แล้วข้าจะบอกกับท่านอาจารย์อย่างไร? จะไปบอกกับพ่อเจ้าอย่างไรกัน?"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเข้าขวางตรงหน้าอันเหนียน ไม่อยากให้เขาไปเจอกับผู้ประสบภัยเหล่านั้น"เจ้าเพิ่งจะแต่งงานได้ไม่นานยังไม่ได้มีทายาทสืบสกุลเลย""พี่ชายเป็นคนหัวโบราณแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?" อันเหนียนอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ "จะว่าไป ก็ไม่น่ามีอะไรหรอก ต่อให้ข้าไม่ระวังติดโรคนั่นขึ้นมา หมอฟู่ก็จะรักษาให้ข้าเอง"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวชะงักไป ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาไปพักหนึ่งครู่หนึ่งเขาจึงเอ่ยว่า "ข้ารู้อยู่แล้วว่าหมอฟู่วิชาแพทย์ดีมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังตั้งใจมีความรับผิดชอบด้วย หลายวันนี้ข้าเองก็เห็นมาแล้ว แต่ถึงอย่างไร โรคนี้พวกเราก็ไม่เคยได้ยินกันมาก่อน!"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวก็รู้สึกหนักใจมาก "อันเหนียน ยังมีอีกความจริงที่เจ้าห้ามลืม ตอนนี้ในเมืองเจ้อไม่ใช่เมืองหลวง ตอนที่เผชิญหน้ากับผู้ประสบภัยมากขนาดนี้ขณะที่ยาไม่มีแล้ว! พวกเราเดิมทีก็ขาดแคลนยาอยู่ ต่อให้วิชาแพทย์หมอฟู่ดีมาก แต่แม่บ้านที่เก่งก็ทำไม่ได้ถ้าไม่มีข้าวสาร ถ้าหากไม่มียา นางจะรักษาอย่างไรกัน?"สถานการณ์เช่นนี้ อันเหนียนต้องรู้อยู

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1734

    "พวกเราประสบภัยกันแล้ว น่าเวทนากันขนาดนี้แล้ว พระชายาอ๋องเจวี้ยนยังเอาพวกเรามาล้อเล่นอีกหรือ?"สายตาของอันเหนียนกำลังค้นหาคนที่มายุยงปลุกปั่นในกลุ่มคนอยู่ แต่ตอนนี้ผู้ประสบภัยมากเกินไป เสียงเองก็ดังหึ่งๆ ไปหมด หาคนคนนั้นออกมาไม่ได้ชั่วคราวอันเหนียนดึงองครักษ์จวนอ๋องออกมาคนหนึ่ง "พาข้าขึ้นไปบนแท่นสูงนั่นที"ที่นั่นมีแท่นสูงอยู่ องครักษ์ใช้วิชาตัวเบาพาอันเหนียนขึ้นไปบนนั้น"เจ้ามีกำลังภายใน ตอนนี้ข้าพูดออกมา เจ้าก็ใช้เสียงที่ดังที่สุดตะโกนออกไปหน่อย""ขอรับ ใต้เท้าอัน"อันเหนียนสูดลมหายใจลึก "เงียบหน่อย!""เงียบหน่อย!" องครักษ์กระตุ้นพลังตันเถียนทันที ตะโกนออกมาสายตาคนทั้งหมดถูกดึงดูดเข้ามา แต่จะใช้แค่ประโยคเดียวให้พวกเขาสงบลงมานั้นไม่มีทางจังหวะที่พวกเขาเงียบลงแล้วมองเข้ามา อันเหนียนก็เอ่ยต่ออีกประโยคทันที"ใครยังก่อเรื่องนี้ จะไล่ออกจากเมืองเจ้อสถานเดียว และไม่บริจาคข้าวต้มอีกแล้ว!"พอประโยคนี้ออกไป ก็ทำให้เหล่าผู้ประสบภัยสงบลงมาแล้ว"ตอนนี้ผู้ประสบภัยที่เข้าเมืองมาใหม่เดิมทีก็ตรวจสอบอย่างเข้มงวด พวกเจ้าใครไม่รู้บ้าง?""ที่ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวดทำเพื่ออะไร? ก็เพื่อรับผ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1735

    "ถ้าไม่สนใจพวกเจ้าจริง ศิษย์พี่ของหมอฟู่ ผู้จัดการใหญ่พันธมิตรโอสถใต้หล้าเมืองหลวง เมื่อวานคงไม่ขนวัตถุดิบยาเข้ามาอีกหลายคันรถหรอก! ข้าพูดถึงจุดนี้แล้ว ถ้าใครยังไม่ฟังการจัดระเบียบ ใครยังคิดจะก่อความวุ่นวาย ข้าจะสั่งคนจัดการสังหารหัวหน้าครอบครรัวซะ ส่วนคนที่เหลือจะปล่อยไปนอกเมืองให้ไปตายกันเอง!"พูดถึงจุดนี้ อันเหนียนก็หน้ามืดไป ร่างโงนเงนตัวเขากัดฟันฝืนทนไว้เดิมทีก็เป็นข้าราชการพลเรือน ร่างกายสู้พวกจอมยุทธ์ไม่ได้อยู่แล้วหลายวันนี้เขาเองก็เหนื่อยจะแย่ แม้จะได้ยินคำพูดของฟู่จาวหนิง พยายามข่มตาหลับทุกวัน แต่ในความเป้นจริงก็ยันอนดึกตื่นเช้า นอไปปได้แค่ไม่ถึงสามชั่วยามดีพวกเขาในเมื่อจะมาบรรเทาภัย ทุกวันจึงกินกันคล้ายๆ กับผูัประสบภัย ก็คือสองสามวันแรกที่มาถึงกินให้อิ่มหน่อย แต่ภายหลังก็ไม่ค่อยกินกันเท่าไรแล้วแล้วยังเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งความคิดมาอีกหลายวัน ทำร้ายจิตวิญญาณจริงๆถึงแม้จะให้องครักษ์ใช้กำลังภายในช่วยตะโกน แต่อัน่ที่จริง ตัวเขาเองตอนที่ตะโกนก็ใช้เสียงตะโกนสุดกำลังแล้วเช่นกันองครักษ์ตะโกนจนหน้าแดงไปหมด แต่ก็ยังรีบมาประคองอันเหนียน"ใต้เท้า ไม่เป็นไรใช่ไหม?""ไม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1736

    ดังนั้น ต่อให้พวกเขาจะไม่พูด องครักษ์จวนอ๋องเจวี้ยนพวกนั้นจะต้องรายงานแน่นอน"สุขภาพอ๋องเจวี้ยนตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ไม่ว่าอย่างไร เขาก็คงไม่สะดวกมาเมืองเจ้อหรอกกระมัง?""สุขภาพดีขึ้นมากแล้ว"อันเหนียนคดถึงวิทยายุทธ์ชั้นยอดบนตัวเซียวหลันยวน ยังคิดไม่ออกจริงๆ ว่าร่างกายแบบนั้นพูดว่าไม่ไหวได้ไหมหลังจากฟู่จิ้นเชินส่งจดหมายออกไป ก็ไปช่วยต่งฮ่วนจือจัดระเบียบวัตถุดิบยาแล้วต่งฮ่วนจือครั้งนี้ส่งวัตถุดิบยาเข้ามา เดิมทีก็เตรียมจะอยู่หลายวันหน่อย เพื่อจะไ้ดช่วยฟู่จาวหนิงด้วย ถึงอย่างไรคนที่จะจัดการวัตถุดิบยาได้ข้างกายนางก็ไม่มีใครผู้อาวุโสจี้ยังบอกกับเขาว่า ถ้าไม่ช่วย เขาก็จะมาเองแล้วต่งฮ่วนจือกล้าให้คนแก่อย่างท่านอาจารย์ต้องมาตกระกำลำบากได้ที่ไหน?จะว่าไป เขาเองก็อยากจะใช้การกระทำขอโทษกับศิษย์น้องหญิงด้วยเหมือนกันเขาอยู่ช่วยเหลือได้พอดี อย่างน้อยเรื่องการจัดยาเขาก็ทำได้ แล้วยังนำผู้ช่วยหมอเหล่านี้ได้อีกหลังจากฟู่จิ้นเชินให้คนนำจดหมายที่เขียนส่งให้เซียวหลันยวนส่งออกไปก็เอาแต่วุ่นดูแลคนป่วยอันเหนียนกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเข้ามารออยู่พักหนึ่งถึงได้มีเวลาหยุดพักผ่อนอันเหนียนมอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1737

    ตอนที่ได้รับจดหมาย ในใจเซียวหลันยวนมีความรู้สึกไม่ค่อยดีหลั่งทะลักเข้ามาเขารู้สึกแต่ว่า ฟู่จาวหนิงบางทีอาจจะไม่ได้กลับมาตามเวลาครั้งนี้ จดหมายสี่ฉบับติดต่อกัน ทำเอาเขาถึงกับเวียนหัวจดหมายสี่ฉบับนี้ไม่มีฉบับไหนเป็นของฟู่จาวหนิงเขียนเลย สองฉบับเป็นของสืออี และอีกหนึ่งคือฟู่จิ้นเชิน และยังมีที่อันเหนียนเขียนอีกฉบับเขายังไม่ทันได้เห็นเนื้อหาแค่มองลายมือ พอไม่มีจดหมายของฟู่จาวหนิง ก็ทำให้เขาใจดิ่งวูบแล้วระงับใจที่ไม่สงบของตนเองลง หลังจากอ่านจดหมายทั้งสี่ฉบับจบ เซียวหลันยวนก็ตบลงบนโต๊ะดูแล้วไม่ได้ออกแรงเท่าไรนักแต่ตอนที่นางลุกขึ้นยืน หลังจากรีบเดินออกไป โต๊ะตัวนั้นจู่ๆ ก็หักลงจากตรงกลางดังโครม ของที่อยู่ด้านบนกระจัดกระจายเต็มพื้นเสียงนี้ทำให้ชิงอีตกใจสะดุ้งโหยง"ท่านอ๋อง?"เซียวหลันยวนมาถึงนอกเรือน เรียกคนเข้ามา"ไปเรียกหมอทั้งหมดในเมืองหลวงมา!""ท่านอ๋อง หมอทั้งหมดรึ?""หมอทั้งหมด!" เซียวหลันยวนพูดไปด้วยพลางเดินไปด้านนอกประตูใหญ่ "เตรียมม้า""ท่านอ๋องจะไปไหน?" ชิงอีเกือบจะตามเขาไม่ทัน รู้ว่าท่านอ๋องเพิ่งอ่านจดหมายที่ส่งมาจากเมืองเจ้อ ชิงอีเองก็รู้สึกลนลานทำให้ท่านอ๋อ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1738

    เซียวหลันยวนเหลือบมองสาวงามที่ยังนั่งนวดขาจักรพรรดิอยู่ข้างเตียง ในใจก็รู้สึกถากถางขึ้นอย่างแรงกล้า"ฝ่าบาททรงสำราญเสียเหลือเกิน ยังจำเรื่องผู้ประสบภัยนับหมื่นที่เมืองเจ้อได้ไหม? คิดถึงเรื่องที่บ้านพวกเขาถูกทำลายไปบ้างไหม?""เจ้าบังอาจนัก!" องค์จักรพรรดิโมโหกราดเกรี้ยวเซียวหลันยวนก็รู้สึกว่าพูดกับเขามากไปก็เปลืองน้ำลายเปล่าไม่มีคนเชื่อ อันที่จริงเขาก็ยังหวังไว้มากกว่าใครๆ ว่าจักรพรรดิจะคุ้มครองแผ่นดินแคว้นเจาได้ พยายามปกครองแคว้นอย่างเต็มที่ เป็นจักรพรรดิที่ดีใครก็คิดกันว่าเขาตั้งใจจะมาชิงบัลลังก์"ออกราชโองการ ให้หมอหลวงทั้งหมดไปรวมตัวที่จวนอ๋องเจวี้ยนเพื่อหารือเรื่องการไปรักษาคนป่วยที่เมืองเจ้อที" เซียวหลันยวนพูดออกมาตรงๆองค์จักรพรรดิถลึงตาไม่อยากเชื่อ "นี่เจ้ากำลังสั่งข้าหรือ?"นี่ถึงกับออกคำสั่งเขาเลยหรือ?"นอกจากท่านอยากให้ผู้ประสบภัยจากเมืองเจ้อทะลักมาที่เมืองหลวง" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา"โหยวเหวินจางถ้ากล้าให้ผู้ประสบภัยมาที่เมืองหลวง ข้าจะตัดหัวเขาทิ้งเสีย! เขาเป็นผู้บริหารท้องถิ่นที่เมืองเจ้อภาษาอะไรกัน" องค์จักรพรรดิโกรธขึ้นมา"ท่านไม่ให้เงินบรรเทาภัยเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1739

    แต่ว่าพอคนมาอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยน หารือเรื่องหน้าอ๋องเจวี้ยน ทำไมรู้สึกเหมือนเป็ฯเรื่องที่อันตรายเสียอย่างนั้นดังนั้น แค่ด้านนอกมองเข้ามา จะพบว่าพวกหมอเหล่านี้ล้วนกำลังกระซิบกระซาบกัน พูดกันเบาๆ ด้วยน้ำเสียงไม่น่าไว้ใจจังหวะที่เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เสียงทั้งหมดก็เงียบลงทันทีกระทั่งว่า คนมากมายยังต้องกลั้นหายใจขึ้นมาพวกเขาไม่กล้าจะเงยหน้ามองอ๋องเจวี้ยนยิ่งไปกว่านั้นบรรดาหมอก็ยังเข่าอ่อนจนคุกเข่าลงมา"ข้าเชิญพวกเจ้ามาเพราะมีเรื่องอยากจะขอร้อง" เสียงของเซียวหลันยวนนิ่งขรึม มีความน่าเกรงขามที่ทำให้คนไม่กล้าคัดค้านต่อต้านเหล่าหมอหลวงมองหน้ากันไปมาขอร้อง?อ๋องเจวี้ยนใช้คำว่าขอร้อง ทำให้พวกเขารู้สึกไม่อยากเชื่อ นี่บังคับพวกเขามารวมตัวกัน เพราะมีเรื่องจะขอร้องหรือ?เซียวหลันยวนไม่ให้เวลาพวกเขาได้ขบคิดนาน และไม่รอให้พวกเขาได้ตอบ พูดต่อมาว่า "เรื่องที่เมืองเจ้อจัดหาที่พักให้ผู้ประสบภัยนับหมื่นพวกเจ้าคงจะได้ยินมาบ้างแล้วใช่ไหม?""อ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้พวกเราได้ยินมาแล้ว" มีหมอหลวงคนหนึ่งรวมความกล้าเอ่ยขึ้น "ยิ่งไปกว่านั้น ข้าน้อยยังได้ยินอีกว่า พระชายาไปที่เมืองเจ้ออีกด้วย?"คนส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1740

    เซียวหลันยวนให้ชิงอีไปเตรียมตัว ครั้งนี้เขาจะนำองครักษ์เงามังกรออกเดินทางนอกจากองครักษ์เงามังกร ยังมีองครักษ์จวนอ๋องเจวี้ยนอีกยี่สิบคน"ไปค่ายคุ้มกันฝั่งตะวันออกทางนั้นส่งคำสั่งด่วนข้าไป ให้เหยียนฟางนำทหารมาห้าร้อยนาย ตรงไปที่เมืองเจ้อให้เร็วที่สุด"เซียวหลันยวนเขียนจดหมายส่งให้องครักษ์ลับนี่เป็นเหตุผลที่องค์จักรพรรดิหวาดกลัวเขา ผู้ควบคุมองครักษ์เงามังกร แล้วยังมีคุณสมบัติสั่งการทหารห้าร้อยนายเพื่อใช้งานได้ด้วยในช่วงเวลาคับขัน ทหารห้าร้อยนายสามารถสร้างเป็นกำลังสำคัญได้"ท่านอ๋อง ท่านจะเคลื่อนกำลังทหารหรือ?!" ชิงอีตกตะลึงเพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าตนเองจะเจอกับอันตรายใหญ่หลวงแค่ไหน มีหลายครั้งที่ชีวิตแขวนบนเส้นด้าย แต่เซียวหลันยวนก็ไม่เคยเคลื่อนกำลังทหารมาก่อน!เขาเองก็รู้ ว่านี่คือเรื่องที่ทำให้องค์จักรพรรดิหวาดกลัวมาก หากทำเรื่องนี้ออกมาจริง องค์จักรพรรดิก็จะยิ่งขัดใจกับเขามากขึ้นไปอีกแต่ตอนนี้เพื่อพระชายา ท่านอ๋องกลับเคลื่อนกำลังทหารขึ้นเป็นครั้งแรก"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไปที่เมืองเจ้อแล้ว" เซียวหลันยวนน้ำเสียงเคร่งขรึม "อันเหนียนยังบอกว่า มีคนที่มีความคิดไม่ดีปะปนอยู่ในกลุ่ม

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1864

    อันเหนียนเองก็โกรธจนเส้นเลือดแทบจะแตกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าองค์จักรพรรดิจะทำแบบนี้!เมืองเจ้อใหญ่ขนาดนี้ คิดจะทอดทิ้งก็ทิ้งเลยรึ!"รีบประคองข้าไปที่หอเมือง" อันเหนียนเองก็ตามไปด้วย เขาจะอยู่แต่ในนี้ไม่ได้เซียวหลันยวนมาถึงบนหอเมืองแล้ว ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรีบเข้ามารับ "ท่านอ๋อง!""สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?""ทหารห้าพันนาย! พวกเขาเข็นปืนใหญ่มาด้วย!" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวโกรธจัดจริงๆเมืองเจ้อส่งส่วยให้ทุกปีไม่เคยขาด ส่งเข้าคลังหลวงตรงเวลามาตลอด ตำแหน่งภูมิศาสตร์นี้ ก็ถือได้ว่าคอยคุ้มกันแทนเมืองหลวงอยู่ ส่งเส้นเลือดชีพจรเข้าไปให้ องค์จักรพรรดิต่อให้ใช้หัวเข่ามาคิด ก็จะทิ้งเมืองเจ้อไม่ได้!ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?เซียวหลันยวนยืนอยู่บนกำแพงเมืองลมพัดหวิว เขามองฝั่งตรงข้ามใต้กำแพงเมือง แม่ทัพที่นั่งอยู่บนหลังม้าอย่างองอาจ"โจวติ้งเจิน"โจวติ้งเจิน เป็นแม่ทัพที่ดุดันคนหนึ่ง แล้วยังเป็นพวกค่อนข้างป่าเถื่อน มนุษยสัมพันธ์ในราชสำนักแย่มาก แต่เพราะเขาจงรักภักดีสุดๆ กับองค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิมีเจตนาไหน ไม่ว่าจะไร้เหตุผลเพียงใด โจวติ้งเจินก็สามารถทำตามราชโองการได้อย่างเคร่งครัดตรงไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1863

    หยวนอี้ท้ายสุดก็ยังบาดเจ็บตามไปด้วย ที่เอวถูกอาวุธลับยิงเข้ามา เกือบจะเอาตัวไม่รอดหลังจากกลับถึงเมืองหลวง ทั้งสองคนก็สลบไปและในช่วงสิบวันนี้ คนป่วยในเมืองเจ้อก็เพิ่มมากขึ้นมหาศาล ตายไปอีกชุดใหญ่ในช่วงที่ตึงเครียดที่สุด ยาของฟู่จาวหนิงในที่สุดก็สกัดออกมา ผ่านการใช้ยาไปหลายวัน ก็หยุดยั้งการคุมไม่อยู่ของโรคไว้ได้คนที่ป่วยตายเกือบร้อยคน แต่ว่า ท้ายสุดโรคก็ถูกควบคุมไว้ได้แล้วคนทั้งหมดล้วนถอนใจยาวโล่งอกแต่ตอนนี้เอง คำสั่งลับขององค์จักรพรรดิก็ส่งมาถึงเมืองเจ้อและที่มาด้วยกันยังมีทหารชั้นดีอีกห้าพันนายคืนนี้ ทหารชั้นดีล้อมเมืองเอาไว้ ในมือมีคบเพลิง ยังมีคนง้างธนูเพลิงเล็งมาที่เมืองเจ้อด้วยแสงไฟนอกเมืองเหล่านี้ แน่นอนว่าถูกเหล่าทหารคุ้มครองเมืองพบเข้าพวกเขารีบมารายงานผู้บริหารท้องถิ่นโหยวอย่างเร่งด่วนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวพอได้ยิน เส้นที่ตึงในใจมาหลายวันนี้ก็แทบจะขาดออกจากกัน"มาแล้ว มาจริงๆ แล้ว!"องค์จักรพรรดิคิดจะทิ้งเมืองเจ้อจริงๆ! แล้วนี่จะทำอย่างไรกัน?จะเผาเมืองไหม?"รีบไปเชิญอ๋องเจวี้ยนมา!"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเอ่ยขึ้น ส่วนตนเองก็รีบพุ่งไปที่หอเมืองยืนบนหอเม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1862

    ตอนที่รถม้าออกจากเมืองเจ้อได้ครึ่งชั่วยาม ฟู่จาวหนิงเพิ่งวุ่นไปได้ช่วงหนึ่ง จากนั้นจึงเพิ่งพบว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกับเฉินเซียงหายไปนางไปหาเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนกลับไม่รู้สึกเกินคาด"ข้าหลับตาข้างหนึ่งปล่อยพวกนางออกไป"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดว่าจะหลบองครักษ์ของเขาพ้น"ทำไมล่ะ?"ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยเข้าใจทำไมถึงอยากจะปล่อยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหนีไป?"ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าอาการของนางดีขึ้นมากแล้ว""ท่านให้ข้าให้ยานางดีดีในช่วงสุดท้ายนี้"ดังนั้น นางจึงฉีดยาพิเศษให้กับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น อาการป่วยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วจริงๆ โอกาสจะระบาดน้อยมากแล้วนางยังคิดว่าเซียวหลันยวนรู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะมาตายที่นี่ไม่ได้เสียอีก ดังนั้นจึงพยายามรักษานางอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้ดูท่า เขาจะรู้อยู่แล้วว่านางจะออกไป แล้วยังปล่อยให้นางออกไปด้วย?"องครักษ์ลับของฝ่าบาทต้าชื่อมาถึงแล้ว ข้าไม่อยากให้พวกเขาลอบเข้ามาในเมืองเจ้อ ดังนั้นจึงพยายามส่งคนออกไป"เซียวหลันยวนไม่ใช่คนที่ใจดีนัก "หลังจากออกไป จะหนีการจับกุมฝ่าบาทต้าชื่อได้หรือเปล่า ก็ต้องดูโชคของนางแล้ว แล้วก็..."เซียว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1861

    "แคว้นหมิ่นในเมื่อรู้ข่าวแล้วจะช้าเร็วก็คงส่งมาถึงต้าชื่อกับแคว้นเจา ก็สู้ส่งพวกเราออกมาเจรจาร่วมมือก่อนไปเลยดีกว่า"เซียวหลันยวนถามเสียงเรียบ "ดังนั้นพวกเจ้าจึงมาเจรจาร่วมมือ? ร่วมมือว่าจะแบ่งสันปันส่วนตงฉิงกันอย่างไรน่ะหรือ?""ถูกต้อง พวกเราเลือกแคว้นเจาก่อน เป็นการพิจารณาทุกด้าน เพราะแคว้นเจาอยู่ใกล้ตงฉิงหน่อย แคว้นเจายังมีตัวตนอย่างอ๋องเจวี้ยน ขณะเดียวกันก็ยังมี..."หยวนอี้พูดถึงจุดนี้แล้วชะงักไปแต่เซียวหลันยวนกลับเข้าใจความหมายเขาขึ้นมา "ยังมีพระชายาของข้าอยู่หรือ?"หยวนอี้ยอมรับอันเหนียนใจสะดุ้งโหยงคิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงจะเป็นส่วนหนึ่งที่แคว้นหมิ่นนำมาพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย"พวกเจ้าต้องการวิชาแพทย์ของนางหรือ?" เซียวหลันยวนถามเขาเองก็ไม่ได้เผยอารมณ์ของตนเองออกมามากนัก หลังจากได้ยินเรื่องเหล่านี้แล้วโกรธหรือไม่มีปฏิกิริยาใด ก็ไม่ให้หยวนอี้ได้มองออก"วิชาแพทย์ของแคว้นหมิ่นตอนนี้แทบจะอยู่ในกำมือของตระกูลซุน" หยวนอี้ก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะให้พวกเขาได้รู้สถานการณ์ของแคว้นหมิ่น "ตระกูลซุนเป็นตระกูลหมอชั้นสูงที่มีชื่อที่สุดของแคว้นหมิ่น ด้วยเหตุนี้ มีหลายเรื่องที่พวกเขาเป็นคนตัด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1860

    เกี่ยวข้องกับตงฉิง?ตงฉิงอีกแล้วเหรอ?ใต้หน้ากากเซียวหลันยวน สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทำไมช่วงนี้เรื่องหลายเรื่องก็เกี่ยวกับตงฉิงไปหมด? ทำให้เขาแอบรู้สึกเหมือนเป็นตาข่ายผืนใหญ่ กำลังกางมาทางเขาและเขาก็อยู่ในกลางตาข่ายยักษ์นั่นอันเหนียนมองเซียวหลันยวน เอ่ยถามหยวนอี้ขึ้นอย่างสงบ"ตงฉิงไม่ใช่ว่าล่มสลายไปแล้วหรือ?""แต่ว่า สิ่งที่พวกท่านไม่รู้ก็คือ มีความลับหนึ่งเกี่ยวกับตงฉิง ตอนนั้นตงฉิงอันที่จริงมีกลไกการป้องกันตนเองอยู่ แม้จะบอกว่าล่มสลาย แต่อันที่จริงก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น กลไกใหญ่เมืองหลักในจุดต่างๆ พอสะสมพลังถึงระดับหนึ่ง ก็จะทำงานขึ้นมา""พอกลไกทำงาน อุโมงค์และถนนหลักจะเปิดระบบระบายน้ำดินตะกอน แล้วเมืองจักรพรรดิก็จะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง""หลังจากเมืองจักรพรรดิปรากฏขึ้นอีกครั้ง และตอนที่กลุ่มดาวบนท้องฟ้าเคลื่อนย้าย ดาวจักรพรรดิกลับสู่ตำแหน่งเดิม ภูมิประเทศกลับสู่ตำแหน่งที่แน่นอน คลังสมบัติจะปรากฏ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีภูเขาแร่ล้ำค่าอีกหลายลูกที่จะปรากฏด้วย"พอได้ยินหยวนอี้พูดเช่นนี้ อันเหนียนก็อดตกตะลึงไม่ได้"ดังนั้น ความหมายของเจ้าก็คือ พอถึงวันนั้น ตงฉิงที่แม้จะไม่มีคนอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1859

    "เซียวหลันยวนพอได้แล้ว ทำไมถึงผ่านไปไม่ได้เสียที?"ฟู่จาวหนิงถลึงตาใส่เขาเซียวหลันยวนมือหนึ่งโอบเอวนางไว้ อีกมีหนึ่งดึงบังเหียนม้า เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ "ข้าอยากแค่อยากบอกว่า รู้สึกแปลกหน่อยๆ"ฟู่จาวหนิงจึงเพิ่งรู้ว่าเข้าใจเขาผิดแต่ว่า นางเองก็รู้สึกว่าถังสืออวิ้นแปลกๆ เพียงพูดออกมาไม่ได้ว่าแปลกตรงไหนเซียวหลันยวนกลับพูดออกมาแล้ว"เขามีความรู้สึกแบบหนึ่ง ดูคล้ายๆ กับตัวเจ้า"พูดประโยคนี้ออกมาเขาก็ยังรู้สึกเจ็บแปลบอยู่หน่อยๆ ที่มองเห็นจุดคล้ายคลึงกับฟู่จาวหนิงบนตัวชายคนอื่น เขาไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิด"คล้ายข้าหรือ?" ฟู่จาวหนิงรู้ว่าที่เขาพูดมาไม่ใช่หน้าตา"ตอนที่เจอกับข้า ก็ดูสงบกว่าคนอื่นพอสมควร" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นอำนาจของเขา ตอนที่เผชิญหน้ากับคนอื่น สามารถรู้สึกได้ชัดเจนถึงท่าทีที่คนอื่นมีต่อตนเองประชาชนคือความเคารพ ส่วนพวกข้าราชการชนชั้นสูงบางส่วนก็รู้สึกหวาดกลัวเขาแน่นอนยังอาจจะมีอารมณ์อื่นอีก แต่ปกติแล้วก็คือสองอย่างนี้แต่ฟู่จาวหนิงตอนที่เจอเขาครั้งแรกไม่มีสองสิ่งนี้ นางมองเขาเป็นคนระดับเดียวกันอารมณ์สงบมาก ถ้าจะบอกว่าผันผวนบ้าง ก็ไม่ใช่เพราะตัวตนฐานะเขา แต่เป็นเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1858

    "ตอนนี้เจ้าพูดได้ว่าเป็นคนที่มีคุณสมบัติสืบทอดตงฉิงมากที่สุด นั่นจึงเป็นเส้นทางที่เจ้าควรเดินมากที่สุด หลายปีมานี้ เจ้าก็พยายามอย่างหนัก เพื่อตามหาคนตงฉิงที่ยังมีชีวิตรอดเหล่านั้น แล้วจะทิ้งไปแบบนี้เจ้ารับได้หรือ?"ฮูหยินอาวุโสถังมองถังสืออวิ้น ก็เห็นสีหน้าหดหู่ของเขาหายไป สายตากลับมาแน่วแน่อีกครั้ง ในใจจึงถอนใจโล่งออกมาทุกครั้งที่หลานชายมาหานาง จะต้องเพราะมีเรื่องให้หวั่นไหวเพราะนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันยากมากจริงๆแต่ที่นางต้องทำคือให้กำลังใจเขา จะยอมให้เขาละทิ้งไปแบบนี้ไม่ได้"ตงฉิงตอนนั้นคนออกไปตั้งมากมายซึ่งรวมถึงบ้านพวกเราด้วย เรื่องนี้กระทั่งจักรพรรดินีก็ยังไม่รู้ ดังนั้น แม้องค์หญิงใหญ่ภายหลังจะยังมีชีวิต แต่งงาน มีลูก พวกเขาก็ล้วนไม่รู้เรื่องเหล่านี้"นี่จึงเป็นสาเหตุที่ตระกูลถังคิดว่าถังสืออวิ้นมีคุณสมบัติการสืบทอดตงฉิง"พวกเขาไม่รู้ ดังนั้นจึงยังไม่เคยพยายามอะไร เรื่องเหล่านี้ล้วนมีแต่เจ้าที่ทำ คนที่เหนื่อยคือเจ้า"ถังสืออวิ้นถอนใจ"สืออวิ้น ต่อให้องค์หญิงใหญ๋จะมีลูกจริง แต่จากข่าวที่เราตรวจสอบมาตอนนั้น องค์หญิงใหญ่ไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว เด็กที่ไม่มีการเสี้ยมสอนจาก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1857

    ถังสืออวิ้นเดินออกไป ย้ายเก้าอี้เล็กมานั่งลงข้างๆ นาง นวดขาเบาๆ ให้นางเขาเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา "ท่านย่า หรือว่าเราล้มเลิกดีไหม? หลังจากหาสิ่งนั้นพบแล้วยังไงล่ะ..."แต่เขายังพูดไม่ทันจบ ฮูหยินอาวุโสก็ตัดบทเขาทันที"เจ้าพูดอะไรออกมา? จากนี้ไปย่าไม่อยากได้ยินเจ้าพูดอะไรที่ไม่เอาไหนแบบนี้แล้วนะ"ถังสืออวิ้นฟังออกถึงความโกรธในน้ำเสียงนาง จึงเงียบลงกว่าเดิม"สืออวิ้น ข้ารู้ว่าหลายปีนี้เจ้าลำบาก แต่ธนูเมื่อยิงแล้วไม่มีหวนกลับ ถ้าตอนนี้พวกเราล้มเลิกไป แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อกัน?"ถังสืออวิ้นเดิมทีก็เป็นอัจฉริยะอายุน้อย เดิมควรจะมีอนาคตที่สดใสตอนนั้นถ้าเขาเป็นไปตามครรลอง ไปร่วมการสอบเคอจวี่กับอัจฉริยะคนอื่นๆ ด้วยความสามารถของเขา อาจจะได้เข้าสอบเตี้ยนซื่อ แล้วกลายเป็นจอหงวนไปแล้วตอนนี้เขาอาจจะเป็นข้าราชการไปแล้วถึงสามปีแต่ว่า หลายปีมานี้เขาเอาแต่ปิดบังตัวตน ไม่ไปร่วมการสอบเคอจวี่ ไม่ย่ำเข้าสู่เส้นทางข้าราชการ ตอนนี้ก็สิบปีไปแล้วเขาใกล้จะยี่สิบสามแล้วถ้าล้มเลิกเรื่องที่อยู่ในมือไป เขาที่อายุยี่สิบสามก็เรียกได้ว่าไม่มีความสำเร็จอะไรเลย"ท่านย่า พวกเราไปทำการค้าก็ได้...""ไร้สาระ เ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1856

    เพราะอายุถังสืออวิ้นใกล้เคียงกับเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนตอนนั้นก็ให้ความสนใจเขาอยู่ แต่ก็ไม่ได้เจอตัว ดังนั้นเมื่อครู่พอได้ยินชื่อจึงรู้สึกคุ้นๆ"นั่นเป็นชื่อเสียงจอมปลอมเมื่อนานมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะจำได้ด้วย" ถังสืออวิ้นคารวะให้อีกครั้ง"เจ้าไม่เข้าร่วมสอบเคอจวี่มาตลอด" เซียวหลันยวนถาม "หรือว่าไม่เคยขึ้นกระดานมาตลอดกัน?"บางทีมีชื่อเสียงตอนอายุยังน้อย พอเติบโตความสามารถกลับลดต่ำลง กระทั่งการสอบขั้นต้นก็ยังไม่ผ่าน?""ข้าน้อยไม่ได้เข้าร่วมขอรับ""โอ๋? ทำไมกัน?" เซียวหลันยวนรู้สึกอยากรู้ขึ้นมา"เรื่องนี้..."ถังสืออวิ้นดูลำบากใจขึ้นมา ดูเหมือนจะบอกเหตุผลออกมาลำบากเซียวหลันยวนเองก็ไม่คิดจะจี้ต่อ จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หันไปพูดถึงเรื่องที่เด็กสองคนก่อนหน้านั้นพูดมา"ข้าได้ยินว่า เจ้ารู้สึกว่าพระชายาควรแต่งกับเจ้าหรือ?""แค่กๆๆ!"ถังสืออวิ้นสำลักขึ้นมา หูแดงกว่าเดิม เลิกเสื้อคลุมคุกเข่าลงทันทีเพียงแต่คุกเข่าก็ส่วนหนึ่ง แต่หลังกับแอวเขายังยืดตรง เป็นท่าทางที่ดูทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแออยู่ด้วยกัน"ท่านอ๋องระงับโกรธด้วย! ข้าน้อยแม้จะไม่ได้พูดเช่นนี้ แต่ก็เคยเอ่ยชมพระชายา ถ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status