แชร์

บทที่ 1737

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
ตอนที่ได้รับจดหมาย ในใจเซียวหลันยวนมีความรู้สึกไม่ค่อยดีหลั่งทะลักเข้ามา

เขารู้สึกแต่ว่า ฟู่จาวหนิงบางทีอาจจะไม่ได้กลับมาตามเวลา

ครั้งนี้ จดหมายสี่ฉบับติดต่อกัน ทำเอาเขาถึงกับเวียนหัว

จดหมายสี่ฉบับนี้ไม่มีฉบับไหนเป็นของฟู่จาวหนิงเขียนเลย สองฉบับเป็นของสืออี และอีกหนึ่งคือฟู่จิ้นเชิน และยังมีที่อันเหนียนเขียนอีกฉบับ

เขายังไม่ทันได้เห็นเนื้อหาแค่มองลายมือ พอไม่มีจดหมายของฟู่จาวหนิง ก็ทำให้เขาใจดิ่งวูบแล้ว

ระงับใจที่ไม่สงบของตนเองลง หลังจากอ่านจดหมายทั้งสี่ฉบับจบ เซียวหลันยวนก็ตบลงบนโต๊ะ

ดูแล้วไม่ได้ออกแรงเท่าไรนัก

แต่ตอนที่นางลุกขึ้นยืน หลังจากรีบเดินออกไป โต๊ะตัวนั้นจู่ๆ ก็หักลงจากตรงกลางดังโครม ของที่อยู่ด้านบนกระจัดกระจายเต็มพื้น

เสียงนี้ทำให้ชิงอีตกใจสะดุ้งโหยง

"ท่านอ๋อง?"

เซียวหลันยวนมาถึงนอกเรือน เรียกคนเข้ามา

"ไปเรียกหมอทั้งหมดในเมืองหลวงมา!"

"ท่านอ๋อง หมอทั้งหมดรึ?"

"หมอทั้งหมด!" เซียวหลันยวนพูดไปด้วยพลางเดินไปด้านนอกประตูใหญ่ "เตรียมม้า"

"ท่านอ๋องจะไปไหน?" ชิงอีเกือบจะตามเขาไม่ทัน รู้ว่าท่านอ๋องเพิ่งอ่านจดหมายที่ส่งมาจากเมืองเจ้อ ชิงอีเองก็รู้สึกลนลาน

ทำให้ท่านอ๋อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1738

    เซียวหลันยวนเหลือบมองสาวงามที่ยังนั่งนวดขาจักรพรรดิอยู่ข้างเตียง ในใจก็รู้สึกถากถางขึ้นอย่างแรงกล้า"ฝ่าบาททรงสำราญเสียเหลือเกิน ยังจำเรื่องผู้ประสบภัยนับหมื่นที่เมืองเจ้อได้ไหม? คิดถึงเรื่องที่บ้านพวกเขาถูกทำลายไปบ้างไหม?""เจ้าบังอาจนัก!" องค์จักรพรรดิโมโหกราดเกรี้ยวเซียวหลันยวนก็รู้สึกว่าพูดกับเขามากไปก็เปลืองน้ำลายเปล่าไม่มีคนเชื่อ อันที่จริงเขาก็ยังหวังไว้มากกว่าใครๆ ว่าจักรพรรดิจะคุ้มครองแผ่นดินแคว้นเจาได้ พยายามปกครองแคว้นอย่างเต็มที่ เป็นจักรพรรดิที่ดีใครก็คิดกันว่าเขาตั้งใจจะมาชิงบัลลังก์"ออกราชโองการ ให้หมอหลวงทั้งหมดไปรวมตัวที่จวนอ๋องเจวี้ยนเพื่อหารือเรื่องการไปรักษาคนป่วยที่เมืองเจ้อที" เซียวหลันยวนพูดออกมาตรงๆองค์จักรพรรดิถลึงตาไม่อยากเชื่อ "นี่เจ้ากำลังสั่งข้าหรือ?"นี่ถึงกับออกคำสั่งเขาเลยหรือ?"นอกจากท่านอยากให้ผู้ประสบภัยจากเมืองเจ้อทะลักมาที่เมืองหลวง" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา"โหยวเหวินจางถ้ากล้าให้ผู้ประสบภัยมาที่เมืองหลวง ข้าจะตัดหัวเขาทิ้งเสีย! เขาเป็นผู้บริหารท้องถิ่นที่เมืองเจ้อภาษาอะไรกัน" องค์จักรพรรดิโกรธขึ้นมา"ท่านไม่ให้เงินบรรเทาภัยเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1739

    แต่ว่าพอคนมาอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยน หารือเรื่องหน้าอ๋องเจวี้ยน ทำไมรู้สึกเหมือนเป็ฯเรื่องที่อันตรายเสียอย่างนั้นดังนั้น แค่ด้านนอกมองเข้ามา จะพบว่าพวกหมอเหล่านี้ล้วนกำลังกระซิบกระซาบกัน พูดกันเบาๆ ด้วยน้ำเสียงไม่น่าไว้ใจจังหวะที่เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เสียงทั้งหมดก็เงียบลงทันทีกระทั่งว่า คนมากมายยังต้องกลั้นหายใจขึ้นมาพวกเขาไม่กล้าจะเงยหน้ามองอ๋องเจวี้ยนยิ่งไปกว่านั้นบรรดาหมอก็ยังเข่าอ่อนจนคุกเข่าลงมา"ข้าเชิญพวกเจ้ามาเพราะมีเรื่องอยากจะขอร้อง" เสียงของเซียวหลันยวนนิ่งขรึม มีความน่าเกรงขามที่ทำให้คนไม่กล้าคัดค้านต่อต้านเหล่าหมอหลวงมองหน้ากันไปมาขอร้อง?อ๋องเจวี้ยนใช้คำว่าขอร้อง ทำให้พวกเขารู้สึกไม่อยากเชื่อ นี่บังคับพวกเขามารวมตัวกัน เพราะมีเรื่องจะขอร้องหรือ?เซียวหลันยวนไม่ให้เวลาพวกเขาได้ขบคิดนาน และไม่รอให้พวกเขาได้ตอบ พูดต่อมาว่า "เรื่องที่เมืองเจ้อจัดหาที่พักให้ผู้ประสบภัยนับหมื่นพวกเจ้าคงจะได้ยินมาบ้างแล้วใช่ไหม?""อ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้พวกเราได้ยินมาแล้ว" มีหมอหลวงคนหนึ่งรวมความกล้าเอ่ยขึ้น "ยิ่งไปกว่านั้น ข้าน้อยยังได้ยินอีกว่า พระชายาไปที่เมืองเจ้ออีกด้วย?"คนส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1740

    เซียวหลันยวนให้ชิงอีไปเตรียมตัว ครั้งนี้เขาจะนำองครักษ์เงามังกรออกเดินทางนอกจากองครักษ์เงามังกร ยังมีองครักษ์จวนอ๋องเจวี้ยนอีกยี่สิบคน"ไปค่ายคุ้มกันฝั่งตะวันออกทางนั้นส่งคำสั่งด่วนข้าไป ให้เหยียนฟางนำทหารมาห้าร้อยนาย ตรงไปที่เมืองเจ้อให้เร็วที่สุด"เซียวหลันยวนเขียนจดหมายส่งให้องครักษ์ลับนี่เป็นเหตุผลที่องค์จักรพรรดิหวาดกลัวเขา ผู้ควบคุมองครักษ์เงามังกร แล้วยังมีคุณสมบัติสั่งการทหารห้าร้อยนายเพื่อใช้งานได้ด้วยในช่วงเวลาคับขัน ทหารห้าร้อยนายสามารถสร้างเป็นกำลังสำคัญได้"ท่านอ๋อง ท่านจะเคลื่อนกำลังทหารหรือ?!" ชิงอีตกตะลึงเพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าตนเองจะเจอกับอันตรายใหญ่หลวงแค่ไหน มีหลายครั้งที่ชีวิตแขวนบนเส้นด้าย แต่เซียวหลันยวนก็ไม่เคยเคลื่อนกำลังทหารมาก่อน!เขาเองก็รู้ ว่านี่คือเรื่องที่ทำให้องค์จักรพรรดิหวาดกลัวมาก หากทำเรื่องนี้ออกมาจริง องค์จักรพรรดิก็จะยิ่งขัดใจกับเขามากขึ้นไปอีกแต่ตอนนี้เพื่อพระชายา ท่านอ๋องกลับเคลื่อนกำลังทหารขึ้นเป็นครั้งแรก"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไปที่เมืองเจ้อแล้ว" เซียวหลันยวนน้ำเสียงเคร่งขรึม "อันเหนียนยังบอกว่า มีคนที่มีความคิดไม่ดีปะปนอยู่ในกลุ่ม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1741

    แต่ใครก็ไม่กล้าพูดอะไรในกลุ่มหมอหลวงมีคนที่ประสบการณ์น้อยอยู่คนหนึ่ง หมอหลวงเผียว ปีนี้เพิ่งอายุสามสิบต้นๆเมื่อวานเขาหลับไม่ค่อยดี ถึงอย่างไรก็เตรียมตัวเตรียมของมาทั้งคืน ใครจะรู้ว่าเมืองเจ้อมีสถานการณ์แบบไหน? พวกเขาเองก็กลัวด้วยเหมือนกันนะดังนั้นทุกคนจึงกลับบ้านไปเก็บข้าวของส่วนตัว ใครมีรถม้าก็นั่งรถม้าของตนเองมาหมอหลวงเผียวพอปีนขึ้นรถม้าก็ทนไม่ไหวม่อยหลับไป ผลคือโดนเขย่าจนตื่นขึ้นมากลางทางพอเขาตื่นมาก็เห็นว่าตรงข้ามมีคนนั่งอยู่คนหนึ่ง ฉับพลันก้ทำเอาเขาตกใจสะดุ้งพรวดจนหัวแทบจะกระแทก"หมอหลวงเผียว ใจเย็นๆ นี่ข้าเอง" คนตรงข้ามยิ้มให้เขาใบหน้ายิ้มเจิดจ้าเหมือนแสงตะวันหยวนอี้คุณชายทูตจากแคว้นหมิ่นที่ช่วงนี้โดดเด่นมากในเมืองหลวงนั่นเองสองวันก่อนพวกเขาเคยเจอกันในงานเลี้ยงในบ้านหมอหลวงเผียวก็มีญาติที่ทำงานอยู่กับขุนนางเกษตร ดังนั้นจึงเคยพบหน้าแต่ว่า แต่ว่าเขาทำไมถึงมาอยู่บนรถม้าตนเองล่ะ?"คุณชายหย่วน ท่าน ท่านทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?"หมอหลวงเผียวรู้สึกเหมือนตนเองยังไม่ตื่นดี เขาเลิกม่านออกดู ก็เห็นว่ารถม้ากำลังเร่งเดินทาง ดูท่าจะไม่ได้หลับจนสับสนไปนี่"มานั่งตากลมหน่อยน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1742

    เรื่องราวในที่สุดก็ดำเนินไปในทางที่ฟู่จาวหนิงกังวลเสียแล้วเพราะคนเหล่านี้ต้องการยาแรง คนที่สัมผัสมาพวกนั้นก็ลนลาน ต้องการยามาป้องกันไว้ก่อน แค่สองวันวัตถุดิบยาของพวกเขาก็หายไปราวกับน้ำหลากน่าจะเพราะความลนลานกับร่างกายที่เหนื่อยและหิวก่อนหน้านี้สะสมมาถึงจุดหนึ่ง สองวันนี้จึงมีคนล้มป่วยลงไปไม่น้อยวันนี้กระทั่งยังมีคนป่วยที่มีอาการท้องเสียอย่างรุนแรงอีกหลายคนการจัดแจงที่พักผู้ประสบภัยมีอยู่จุดหนึ่งที่จัดการได้ลำบากและยุ่งยากมาก นั่นคือสถานที่ที่ให้พวกเขาทำธุระส่วนตัวพอคนมากเข้า หลายวันก่อนตอนที่พวกของอันเหนียนออกลาดตระเวนก็พบว่ามีคนไม่น้อย ที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ แค่หามุมเหมาะๆ ได้ก็นั่งยองลงจัดการธุระส่วนตัวต่อมาฟู่จาวหนิงบอกว่า เรื่องนี้ต้องระวังให้ดี เพราะนี่อาจจะเป็นเส้นทางในการระบาดโรคด้วยถ้าไม่ใช่ฟู่จาวหนิง ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกับพวกอันเหนียนก็ไม่มีใครคิดถึง ว่าสถานที่ที่คนแออัดกันอยู่มีเรื่องที่ต้องระวังมากขนาดนี้ไม่ใช่แค่รับคนเข้ามา ต้มข้าวต้มประทังชีวิตให้พวกเขาได้ก็เพียงพอเพราะว่าคนป่วยที่ท้องเสียหนักพวกนั้น ผู้ช่วยหมอเองก็รักษาไม่ได้ ฟู่จาวหนิงจึงอกจากห้องข้า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1743

    แต่ว่า พวกเขาเหล่านี้เคยบ่นว่าลำบากมาหลายครั้ง บ่นว่าหิวมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้เคยได้ยินฟู่จาวหนิงบ่นมาก่อนอารมณ์ของนางมั่นคงมาตลอด เขียนตำรับยาแก้ตำรับยาอยู่ตลอดเวลา มีวัตถุดิบยาบางส่วนขาดไป ก็คิดหาวิธีใช้วัตถุดิบยาอื่นมาแทนที่ จัดการแก้ไขตำรับยานี่ไม่ใช่สิ่งที่แก้กันส่งเดชได้ สิ่งนี้จำเป็นต้องมีทฤษฏียาวัตถุดิบยาที่น่าตกตะลึง การจะปรับสูตรยา วัตถุดิบยาอื่นๆ ก็ต้องเข้ากันได้ด้วย เป็นเรื่องที่สิ้นเลปืองสมาธิอย่างมากแล้วก็ สองวันนี้นางยังหาเวลาออกมาฝังเข็มให้คนป่วยอื่นๆ อีกในหัวนางจดจำสภาพโรคกับลักษณะพิเศษของผู้ป่วยแทบทั้งหมดไว้แล้ว แค่พูดออกมาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นคนทั้งหมดที่นี่รู้สึกนับถือนางแทบศิโรราบลงพื้นผู้ประสบภัยสิบกว่าคนอย่างกลุ่มอาเหอเองก็ด้วยหลายวันนี้ ครอบครัวพวกเขาก็ออกมาช่วยเหลือแล้วเด็กน้อยที่ยังเล็กอย่างเสี่ยวยา ก็มีภรรยาของอาเหอคอยช่วยดูแลความเร็วในการฟื้นฟูของเสี่ยวเฟิงเร็วมาก ตอนนี้ก็มาทำสิ่งต่างๆ ที่ตนเองทำได้ในแต่ละวันแล้ว อย่างเช่นมีคนป่วยหนักบางคนต้องการพักที่นี่ เขาก็จะช่วยจด เวลาต้องเปลี่ยนยา เวลาต้องกินยา บางครั้งที่ผู้ช่วยหมอทั้งสามคนกับเสี่ยวเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1744

    ผู้ประสบภัยที่สัมผัสใกล้ชิดหลายคนนั้น ติดโรคกันจริงๆ ด้วยพวกเขาเองก็โชคไม่ดี ตอนนั้นก็นอนกันไม่หลับ เลยมารวมตัวกันพูดคุยสัพเพเหระ ทุกคนได้เล่าเรื่องสนุกๆ กันออกมา รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ทำให้พวกเขาลืมความเหนื่อยยากวิตกกังวลในปัจจุบันไปได้ชั่วคราวผลคือพอคุยถึงเรื่องสนุก ก็หัวเราะร่ากัน น้ำลายแตกฟองตอนนั้นเสียงก็ดังมาก ดึงดูดคนรอบๆ เข้ามาร่วมวงด้วย คุยสัพเพเหระไปกับพวกเขาคืนนั้นสนุกสนานเฮฮา แต่ตอนนี้ต้องมาอกสั่นขวัญหาย"หมอฟู่เองก็เคยบอกพวกเขาแล้ว ว่าหลายวันนี้ให้พยายามอย่ารวมกลุ่มกันพูดคุย ห่างกันได้มากหน่อยก็ให้ห่าง แล้วทำไมยังมาทำเรื่องแบบนี้กันอีก?"ผู้ช่วยหมอคนหนึ่งโกรธมากหลังจากได้ยินสาเหตุที่คนมากขนาดนี้ติดโรค คนของที่นี่ก็โกรธกันขึ้นมาจริงๆวันที่สองที่ป้าหนิวเข้ามาที่นี่ ฟู่จาวหนิงก็ให้คนออกไปเตือนผู้ประสบภัยแล้ว เรื่องที่ต้องระมัดระวัง แจ้งเตือนพวกเขาไปทั้งหมดแต่ตอนนี้ดูท่า ยังมีคนมากมายที่ไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ"ห้องข้างฝั่งตะวันตกทางนั้นยังรับคนได้อีกไหม?"อันเหนียนตามเข้ามา แม้จะเป็นช่วงเดือนสองแล้ว แต่เขาก็ยังมีเหงื่อเต็มหน้าผากวิ่งไปวิ่งมาตลอด ทั้งเร่งท

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1745

    โชคขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตั้งแต่เด็กจนโตนั้นลือกันมาอยู่ไม่น้อย ปีที่แล้วหลังจากกลับเมืองหลวงมาจากสุสานจักรพรรดิ นางก็มีเรื่องราวอีกไม่น้อยที่ทำให้คนรู้สึกว่าโชคดี และมีฟ้ามาคุ้มครองแล้วทำไมตอนนี้ถึงได้ซวยแบบนี้?ฟู่จิ้นเชินเองก็ยังรู้สึกแปลกประหลาด เพราะตอนอยู่ที่ต้าชื่อเขาเคยได้ยินมาแล้ว ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมีโชคดีมาโดยตลอด"ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้นางยังป่วยหนักมาก หลายวันแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น" ฟู่จิ้นเชินขมวดคิ้วเขาตอนนี้กังวลหน่อยๆ กลัวว่าถ้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาเกิดเรื่องอะไรที่นี่เข้า ฝ่าบาทต้าชื่อถึงตอนนั้นจะเอาความผิดมายัดไว้บนหัวฟู่จาวหนิงจะคิดไหมว่านางไม่ยอมรักษาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดีดี?และอาจจะคิดไปในทางลบ รู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนที่นี่ทำร้ายจนตายหรือเปล่า?สิ่งที่ฟู่จิ้นเชินไม่รู้ก็คือ ตอนนี้ในห้องข้างฝั่งตะวันตก เฉินเซ๊ยงก็ทะเลาะกับฟู่จาวหนิงขึ้นมาแล้วเพราะวันนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไอจนพูดออกมาไม่ได้เลยสักคำคนที่เคยไออย่างรุนแรงจะเข้าใจ ว่าการไอต่อเนื่องไม่หยุดนี้มันทรมานมากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกทรมานจนไอไปด้วยร้องไห้ไปด้วย ดวงตาเองก็แดงก่ำ และเพราะไอมา

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1864

    อันเหนียนเองก็โกรธจนเส้นเลือดแทบจะแตกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าองค์จักรพรรดิจะทำแบบนี้!เมืองเจ้อใหญ่ขนาดนี้ คิดจะทอดทิ้งก็ทิ้งเลยรึ!"รีบประคองข้าไปที่หอเมือง" อันเหนียนเองก็ตามไปด้วย เขาจะอยู่แต่ในนี้ไม่ได้เซียวหลันยวนมาถึงบนหอเมืองแล้ว ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรีบเข้ามารับ "ท่านอ๋อง!""สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?""ทหารห้าพันนาย! พวกเขาเข็นปืนใหญ่มาด้วย!" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวโกรธจัดจริงๆเมืองเจ้อส่งส่วยให้ทุกปีไม่เคยขาด ส่งเข้าคลังหลวงตรงเวลามาตลอด ตำแหน่งภูมิศาสตร์นี้ ก็ถือได้ว่าคอยคุ้มกันแทนเมืองหลวงอยู่ ส่งเส้นเลือดชีพจรเข้าไปให้ องค์จักรพรรดิต่อให้ใช้หัวเข่ามาคิด ก็จะทิ้งเมืองเจ้อไม่ได้!ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?เซียวหลันยวนยืนอยู่บนกำแพงเมืองลมพัดหวิว เขามองฝั่งตรงข้ามใต้กำแพงเมือง แม่ทัพที่นั่งอยู่บนหลังม้าอย่างองอาจ"โจวติ้งเจิน"โจวติ้งเจิน เป็นแม่ทัพที่ดุดันคนหนึ่ง แล้วยังเป็นพวกค่อนข้างป่าเถื่อน มนุษยสัมพันธ์ในราชสำนักแย่มาก แต่เพราะเขาจงรักภักดีสุดๆ กับองค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิมีเจตนาไหน ไม่ว่าจะไร้เหตุผลเพียงใด โจวติ้งเจินก็สามารถทำตามราชโองการได้อย่างเคร่งครัดตรงไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1863

    หยวนอี้ท้ายสุดก็ยังบาดเจ็บตามไปด้วย ที่เอวถูกอาวุธลับยิงเข้ามา เกือบจะเอาตัวไม่รอดหลังจากกลับถึงเมืองหลวง ทั้งสองคนก็สลบไปและในช่วงสิบวันนี้ คนป่วยในเมืองเจ้อก็เพิ่มมากขึ้นมหาศาล ตายไปอีกชุดใหญ่ในช่วงที่ตึงเครียดที่สุด ยาของฟู่จาวหนิงในที่สุดก็สกัดออกมา ผ่านการใช้ยาไปหลายวัน ก็หยุดยั้งการคุมไม่อยู่ของโรคไว้ได้คนที่ป่วยตายเกือบร้อยคน แต่ว่า ท้ายสุดโรคก็ถูกควบคุมไว้ได้แล้วคนทั้งหมดล้วนถอนใจยาวโล่งอกแต่ตอนนี้เอง คำสั่งลับขององค์จักรพรรดิก็ส่งมาถึงเมืองเจ้อและที่มาด้วยกันยังมีทหารชั้นดีอีกห้าพันนายคืนนี้ ทหารชั้นดีล้อมเมืองเอาไว้ ในมือมีคบเพลิง ยังมีคนง้างธนูเพลิงเล็งมาที่เมืองเจ้อด้วยแสงไฟนอกเมืองเหล่านี้ แน่นอนว่าถูกเหล่าทหารคุ้มครองเมืองพบเข้าพวกเขารีบมารายงานผู้บริหารท้องถิ่นโหยวอย่างเร่งด่วนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวพอได้ยิน เส้นที่ตึงในใจมาหลายวันนี้ก็แทบจะขาดออกจากกัน"มาแล้ว มาจริงๆ แล้ว!"องค์จักรพรรดิคิดจะทิ้งเมืองเจ้อจริงๆ! แล้วนี่จะทำอย่างไรกัน?จะเผาเมืองไหม?"รีบไปเชิญอ๋องเจวี้ยนมา!"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเอ่ยขึ้น ส่วนตนเองก็รีบพุ่งไปที่หอเมืองยืนบนหอเม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1862

    ตอนที่รถม้าออกจากเมืองเจ้อได้ครึ่งชั่วยาม ฟู่จาวหนิงเพิ่งวุ่นไปได้ช่วงหนึ่ง จากนั้นจึงเพิ่งพบว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกับเฉินเซียงหายไปนางไปหาเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนกลับไม่รู้สึกเกินคาด"ข้าหลับตาข้างหนึ่งปล่อยพวกนางออกไป"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดว่าจะหลบองครักษ์ของเขาพ้น"ทำไมล่ะ?"ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยเข้าใจทำไมถึงอยากจะปล่อยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหนีไป?"ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าอาการของนางดีขึ้นมากแล้ว""ท่านให้ข้าให้ยานางดีดีในช่วงสุดท้ายนี้"ดังนั้น นางจึงฉีดยาพิเศษให้กับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น อาการป่วยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วจริงๆ โอกาสจะระบาดน้อยมากแล้วนางยังคิดว่าเซียวหลันยวนรู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะมาตายที่นี่ไม่ได้เสียอีก ดังนั้นจึงพยายามรักษานางอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้ดูท่า เขาจะรู้อยู่แล้วว่านางจะออกไป แล้วยังปล่อยให้นางออกไปด้วย?"องครักษ์ลับของฝ่าบาทต้าชื่อมาถึงแล้ว ข้าไม่อยากให้พวกเขาลอบเข้ามาในเมืองเจ้อ ดังนั้นจึงพยายามส่งคนออกไป"เซียวหลันยวนไม่ใช่คนที่ใจดีนัก "หลังจากออกไป จะหนีการจับกุมฝ่าบาทต้าชื่อได้หรือเปล่า ก็ต้องดูโชคของนางแล้ว แล้วก็..."เซียว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1861

    "แคว้นหมิ่นในเมื่อรู้ข่าวแล้วจะช้าเร็วก็คงส่งมาถึงต้าชื่อกับแคว้นเจา ก็สู้ส่งพวกเราออกมาเจรจาร่วมมือก่อนไปเลยดีกว่า"เซียวหลันยวนถามเสียงเรียบ "ดังนั้นพวกเจ้าจึงมาเจรจาร่วมมือ? ร่วมมือว่าจะแบ่งสันปันส่วนตงฉิงกันอย่างไรน่ะหรือ?""ถูกต้อง พวกเราเลือกแคว้นเจาก่อน เป็นการพิจารณาทุกด้าน เพราะแคว้นเจาอยู่ใกล้ตงฉิงหน่อย แคว้นเจายังมีตัวตนอย่างอ๋องเจวี้ยน ขณะเดียวกันก็ยังมี..."หยวนอี้พูดถึงจุดนี้แล้วชะงักไปแต่เซียวหลันยวนกลับเข้าใจความหมายเขาขึ้นมา "ยังมีพระชายาของข้าอยู่หรือ?"หยวนอี้ยอมรับอันเหนียนใจสะดุ้งโหยงคิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงจะเป็นส่วนหนึ่งที่แคว้นหมิ่นนำมาพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย"พวกเจ้าต้องการวิชาแพทย์ของนางหรือ?" เซียวหลันยวนถามเขาเองก็ไม่ได้เผยอารมณ์ของตนเองออกมามากนัก หลังจากได้ยินเรื่องเหล่านี้แล้วโกรธหรือไม่มีปฏิกิริยาใด ก็ไม่ให้หยวนอี้ได้มองออก"วิชาแพทย์ของแคว้นหมิ่นตอนนี้แทบจะอยู่ในกำมือของตระกูลซุน" หยวนอี้ก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะให้พวกเขาได้รู้สถานการณ์ของแคว้นหมิ่น "ตระกูลซุนเป็นตระกูลหมอชั้นสูงที่มีชื่อที่สุดของแคว้นหมิ่น ด้วยเหตุนี้ มีหลายเรื่องที่พวกเขาเป็นคนตัด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1860

    เกี่ยวข้องกับตงฉิง?ตงฉิงอีกแล้วเหรอ?ใต้หน้ากากเซียวหลันยวน สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทำไมช่วงนี้เรื่องหลายเรื่องก็เกี่ยวกับตงฉิงไปหมด? ทำให้เขาแอบรู้สึกเหมือนเป็นตาข่ายผืนใหญ่ กำลังกางมาทางเขาและเขาก็อยู่ในกลางตาข่ายยักษ์นั่นอันเหนียนมองเซียวหลันยวน เอ่ยถามหยวนอี้ขึ้นอย่างสงบ"ตงฉิงไม่ใช่ว่าล่มสลายไปแล้วหรือ?""แต่ว่า สิ่งที่พวกท่านไม่รู้ก็คือ มีความลับหนึ่งเกี่ยวกับตงฉิง ตอนนั้นตงฉิงอันที่จริงมีกลไกการป้องกันตนเองอยู่ แม้จะบอกว่าล่มสลาย แต่อันที่จริงก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น กลไกใหญ่เมืองหลักในจุดต่างๆ พอสะสมพลังถึงระดับหนึ่ง ก็จะทำงานขึ้นมา""พอกลไกทำงาน อุโมงค์และถนนหลักจะเปิดระบบระบายน้ำดินตะกอน แล้วเมืองจักรพรรดิก็จะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง""หลังจากเมืองจักรพรรดิปรากฏขึ้นอีกครั้ง และตอนที่กลุ่มดาวบนท้องฟ้าเคลื่อนย้าย ดาวจักรพรรดิกลับสู่ตำแหน่งเดิม ภูมิประเทศกลับสู่ตำแหน่งที่แน่นอน คลังสมบัติจะปรากฏ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีภูเขาแร่ล้ำค่าอีกหลายลูกที่จะปรากฏด้วย"พอได้ยินหยวนอี้พูดเช่นนี้ อันเหนียนก็อดตกตะลึงไม่ได้"ดังนั้น ความหมายของเจ้าก็คือ พอถึงวันนั้น ตงฉิงที่แม้จะไม่มีคนอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1859

    "เซียวหลันยวนพอได้แล้ว ทำไมถึงผ่านไปไม่ได้เสียที?"ฟู่จาวหนิงถลึงตาใส่เขาเซียวหลันยวนมือหนึ่งโอบเอวนางไว้ อีกมีหนึ่งดึงบังเหียนม้า เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ "ข้าอยากแค่อยากบอกว่า รู้สึกแปลกหน่อยๆ"ฟู่จาวหนิงจึงเพิ่งรู้ว่าเข้าใจเขาผิดแต่ว่า นางเองก็รู้สึกว่าถังสืออวิ้นแปลกๆ เพียงพูดออกมาไม่ได้ว่าแปลกตรงไหนเซียวหลันยวนกลับพูดออกมาแล้ว"เขามีความรู้สึกแบบหนึ่ง ดูคล้ายๆ กับตัวเจ้า"พูดประโยคนี้ออกมาเขาก็ยังรู้สึกเจ็บแปลบอยู่หน่อยๆ ที่มองเห็นจุดคล้ายคลึงกับฟู่จาวหนิงบนตัวชายคนอื่น เขาไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิด"คล้ายข้าหรือ?" ฟู่จาวหนิงรู้ว่าที่เขาพูดมาไม่ใช่หน้าตา"ตอนที่เจอกับข้า ก็ดูสงบกว่าคนอื่นพอสมควร" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นอำนาจของเขา ตอนที่เผชิญหน้ากับคนอื่น สามารถรู้สึกได้ชัดเจนถึงท่าทีที่คนอื่นมีต่อตนเองประชาชนคือความเคารพ ส่วนพวกข้าราชการชนชั้นสูงบางส่วนก็รู้สึกหวาดกลัวเขาแน่นอนยังอาจจะมีอารมณ์อื่นอีก แต่ปกติแล้วก็คือสองอย่างนี้แต่ฟู่จาวหนิงตอนที่เจอเขาครั้งแรกไม่มีสองสิ่งนี้ นางมองเขาเป็นคนระดับเดียวกันอารมณ์สงบมาก ถ้าจะบอกว่าผันผวนบ้าง ก็ไม่ใช่เพราะตัวตนฐานะเขา แต่เป็นเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1858

    "ตอนนี้เจ้าพูดได้ว่าเป็นคนที่มีคุณสมบัติสืบทอดตงฉิงมากที่สุด นั่นจึงเป็นเส้นทางที่เจ้าควรเดินมากที่สุด หลายปีมานี้ เจ้าก็พยายามอย่างหนัก เพื่อตามหาคนตงฉิงที่ยังมีชีวิตรอดเหล่านั้น แล้วจะทิ้งไปแบบนี้เจ้ารับได้หรือ?"ฮูหยินอาวุโสถังมองถังสืออวิ้น ก็เห็นสีหน้าหดหู่ของเขาหายไป สายตากลับมาแน่วแน่อีกครั้ง ในใจจึงถอนใจโล่งออกมาทุกครั้งที่หลานชายมาหานาง จะต้องเพราะมีเรื่องให้หวั่นไหวเพราะนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันยากมากจริงๆแต่ที่นางต้องทำคือให้กำลังใจเขา จะยอมให้เขาละทิ้งไปแบบนี้ไม่ได้"ตงฉิงตอนนั้นคนออกไปตั้งมากมายซึ่งรวมถึงบ้านพวกเราด้วย เรื่องนี้กระทั่งจักรพรรดินีก็ยังไม่รู้ ดังนั้น แม้องค์หญิงใหญ่ภายหลังจะยังมีชีวิต แต่งงาน มีลูก พวกเขาก็ล้วนไม่รู้เรื่องเหล่านี้"นี่จึงเป็นสาเหตุที่ตระกูลถังคิดว่าถังสืออวิ้นมีคุณสมบัติการสืบทอดตงฉิง"พวกเขาไม่รู้ ดังนั้นจึงยังไม่เคยพยายามอะไร เรื่องเหล่านี้ล้วนมีแต่เจ้าที่ทำ คนที่เหนื่อยคือเจ้า"ถังสืออวิ้นถอนใจ"สืออวิ้น ต่อให้องค์หญิงใหญ๋จะมีลูกจริง แต่จากข่าวที่เราตรวจสอบมาตอนนั้น องค์หญิงใหญ่ไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว เด็กที่ไม่มีการเสี้ยมสอนจาก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1857

    ถังสืออวิ้นเดินออกไป ย้ายเก้าอี้เล็กมานั่งลงข้างๆ นาง นวดขาเบาๆ ให้นางเขาเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา "ท่านย่า หรือว่าเราล้มเลิกดีไหม? หลังจากหาสิ่งนั้นพบแล้วยังไงล่ะ..."แต่เขายังพูดไม่ทันจบ ฮูหยินอาวุโสก็ตัดบทเขาทันที"เจ้าพูดอะไรออกมา? จากนี้ไปย่าไม่อยากได้ยินเจ้าพูดอะไรที่ไม่เอาไหนแบบนี้แล้วนะ"ถังสืออวิ้นฟังออกถึงความโกรธในน้ำเสียงนาง จึงเงียบลงกว่าเดิม"สืออวิ้น ข้ารู้ว่าหลายปีนี้เจ้าลำบาก แต่ธนูเมื่อยิงแล้วไม่มีหวนกลับ ถ้าตอนนี้พวกเราล้มเลิกไป แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อกัน?"ถังสืออวิ้นเดิมทีก็เป็นอัจฉริยะอายุน้อย เดิมควรจะมีอนาคตที่สดใสตอนนั้นถ้าเขาเป็นไปตามครรลอง ไปร่วมการสอบเคอจวี่กับอัจฉริยะคนอื่นๆ ด้วยความสามารถของเขา อาจจะได้เข้าสอบเตี้ยนซื่อ แล้วกลายเป็นจอหงวนไปแล้วตอนนี้เขาอาจจะเป็นข้าราชการไปแล้วถึงสามปีแต่ว่า หลายปีมานี้เขาเอาแต่ปิดบังตัวตน ไม่ไปร่วมการสอบเคอจวี่ ไม่ย่ำเข้าสู่เส้นทางข้าราชการ ตอนนี้ก็สิบปีไปแล้วเขาใกล้จะยี่สิบสามแล้วถ้าล้มเลิกเรื่องที่อยู่ในมือไป เขาที่อายุยี่สิบสามก็เรียกได้ว่าไม่มีความสำเร็จอะไรเลย"ท่านย่า พวกเราไปทำการค้าก็ได้...""ไร้สาระ เ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1856

    เพราะอายุถังสืออวิ้นใกล้เคียงกับเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนตอนนั้นก็ให้ความสนใจเขาอยู่ แต่ก็ไม่ได้เจอตัว ดังนั้นเมื่อครู่พอได้ยินชื่อจึงรู้สึกคุ้นๆ"นั่นเป็นชื่อเสียงจอมปลอมเมื่อนานมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะจำได้ด้วย" ถังสืออวิ้นคารวะให้อีกครั้ง"เจ้าไม่เข้าร่วมสอบเคอจวี่มาตลอด" เซียวหลันยวนถาม "หรือว่าไม่เคยขึ้นกระดานมาตลอดกัน?"บางทีมีชื่อเสียงตอนอายุยังน้อย พอเติบโตความสามารถกลับลดต่ำลง กระทั่งการสอบขั้นต้นก็ยังไม่ผ่าน?""ข้าน้อยไม่ได้เข้าร่วมขอรับ""โอ๋? ทำไมกัน?" เซียวหลันยวนรู้สึกอยากรู้ขึ้นมา"เรื่องนี้..."ถังสืออวิ้นดูลำบากใจขึ้นมา ดูเหมือนจะบอกเหตุผลออกมาลำบากเซียวหลันยวนเองก็ไม่คิดจะจี้ต่อ จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หันไปพูดถึงเรื่องที่เด็กสองคนก่อนหน้านั้นพูดมา"ข้าได้ยินว่า เจ้ารู้สึกว่าพระชายาควรแต่งกับเจ้าหรือ?""แค่กๆๆ!"ถังสืออวิ้นสำลักขึ้นมา หูแดงกว่าเดิม เลิกเสื้อคลุมคุกเข่าลงทันทีเพียงแต่คุกเข่าก็ส่วนหนึ่ง แต่หลังกับแอวเขายังยืดตรง เป็นท่าทางที่ดูทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแออยู่ด้วยกัน"ท่านอ๋องระงับโกรธด้วย! ข้าน้อยแม้จะไม่ได้พูดเช่นนี้ แต่ก็เคยเอ่ยชมพระชายา ถ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status