แชร์

บทที่ 1737

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
ตอนที่ได้รับจดหมาย ในใจเซียวหลันยวนมีความรู้สึกไม่ค่อยดีหลั่งทะลักเข้ามา

เขารู้สึกแต่ว่า ฟู่จาวหนิงบางทีอาจจะไม่ได้กลับมาตามเวลา

ครั้งนี้ จดหมายสี่ฉบับติดต่อกัน ทำเอาเขาถึงกับเวียนหัว

จดหมายสี่ฉบับนี้ไม่มีฉบับไหนเป็นของฟู่จาวหนิงเขียนเลย สองฉบับเป็นของสืออี และอีกหนึ่งคือฟู่จิ้นเชิน และยังมีที่อันเหนียนเขียนอีกฉบับ

เขายังไม่ทันได้เห็นเนื้อหาแค่มองลายมือ พอไม่มีจดหมายของฟู่จาวหนิง ก็ทำให้เขาใจดิ่งวูบแล้ว

ระงับใจที่ไม่สงบของตนเองลง หลังจากอ่านจดหมายทั้งสี่ฉบับจบ เซียวหลันยวนก็ตบลงบนโต๊ะ

ดูแล้วไม่ได้ออกแรงเท่าไรนัก

แต่ตอนที่นางลุกขึ้นยืน หลังจากรีบเดินออกไป โต๊ะตัวนั้นจู่ๆ ก็หักลงจากตรงกลางดังโครม ของที่อยู่ด้านบนกระจัดกระจายเต็มพื้น

เสียงนี้ทำให้ชิงอีตกใจสะดุ้งโหยง

"ท่านอ๋อง?"

เซียวหลันยวนมาถึงนอกเรือน เรียกคนเข้ามา

"ไปเรียกหมอทั้งหมดในเมืองหลวงมา!"

"ท่านอ๋อง หมอทั้งหมดรึ?"

"หมอทั้งหมด!" เซียวหลันยวนพูดไปด้วยพลางเดินไปด้านนอกประตูใหญ่ "เตรียมม้า"

"ท่านอ๋องจะไปไหน?" ชิงอีเกือบจะตามเขาไม่ทัน รู้ว่าท่านอ๋องเพิ่งอ่านจดหมายที่ส่งมาจากเมืองเจ้อ ชิงอีเองก็รู้สึกลนลาน

ทำให้ท่านอ๋อ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1738

    เซียวหลันยวนเหลือบมองสาวงามที่ยังนั่งนวดขาจักรพรรดิอยู่ข้างเตียง ในใจก็รู้สึกถากถางขึ้นอย่างแรงกล้า"ฝ่าบาททรงสำราญเสียเหลือเกิน ยังจำเรื่องผู้ประสบภัยนับหมื่นที่เมืองเจ้อได้ไหม? คิดถึงเรื่องที่บ้านพวกเขาถูกทำลายไปบ้างไหม?""เจ้าบังอาจนัก!" องค์จักรพรรดิโมโหกราดเกรี้ยวเซียวหลันยวนก็รู้สึกว่าพูดกับเขามากไปก็เปลืองน้ำลายเปล่าไม่มีคนเชื่อ อันที่จริงเขาก็ยังหวังไว้มากกว่าใครๆ ว่าจักรพรรดิจะคุ้มครองแผ่นดินแคว้นเจาได้ พยายามปกครองแคว้นอย่างเต็มที่ เป็นจักรพรรดิที่ดีใครก็คิดกันว่าเขาตั้งใจจะมาชิงบัลลังก์"ออกราชโองการ ให้หมอหลวงทั้งหมดไปรวมตัวที่จวนอ๋องเจวี้ยนเพื่อหารือเรื่องการไปรักษาคนป่วยที่เมืองเจ้อที" เซียวหลันยวนพูดออกมาตรงๆองค์จักรพรรดิถลึงตาไม่อยากเชื่อ "นี่เจ้ากำลังสั่งข้าหรือ?"นี่ถึงกับออกคำสั่งเขาเลยหรือ?"นอกจากท่านอยากให้ผู้ประสบภัยจากเมืองเจ้อทะลักมาที่เมืองหลวง" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา"โหยวเหวินจางถ้ากล้าให้ผู้ประสบภัยมาที่เมืองหลวง ข้าจะตัดหัวเขาทิ้งเสีย! เขาเป็นผู้บริหารท้องถิ่นที่เมืองเจ้อภาษาอะไรกัน" องค์จักรพรรดิโกรธขึ้นมา"ท่านไม่ให้เงินบรรเทาภัยเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1739

    แต่ว่าพอคนมาอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยน หารือเรื่องหน้าอ๋องเจวี้ยน ทำไมรู้สึกเหมือนเป็ฯเรื่องที่อันตรายเสียอย่างนั้นดังนั้น แค่ด้านนอกมองเข้ามา จะพบว่าพวกหมอเหล่านี้ล้วนกำลังกระซิบกระซาบกัน พูดกันเบาๆ ด้วยน้ำเสียงไม่น่าไว้ใจจังหวะที่เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เสียงทั้งหมดก็เงียบลงทันทีกระทั่งว่า คนมากมายยังต้องกลั้นหายใจขึ้นมาพวกเขาไม่กล้าจะเงยหน้ามองอ๋องเจวี้ยนยิ่งไปกว่านั้นบรรดาหมอก็ยังเข่าอ่อนจนคุกเข่าลงมา"ข้าเชิญพวกเจ้ามาเพราะมีเรื่องอยากจะขอร้อง" เสียงของเซียวหลันยวนนิ่งขรึม มีความน่าเกรงขามที่ทำให้คนไม่กล้าคัดค้านต่อต้านเหล่าหมอหลวงมองหน้ากันไปมาขอร้อง?อ๋องเจวี้ยนใช้คำว่าขอร้อง ทำให้พวกเขารู้สึกไม่อยากเชื่อ นี่บังคับพวกเขามารวมตัวกัน เพราะมีเรื่องจะขอร้องหรือ?เซียวหลันยวนไม่ให้เวลาพวกเขาได้ขบคิดนาน และไม่รอให้พวกเขาได้ตอบ พูดต่อมาว่า "เรื่องที่เมืองเจ้อจัดหาที่พักให้ผู้ประสบภัยนับหมื่นพวกเจ้าคงจะได้ยินมาบ้างแล้วใช่ไหม?""อ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้พวกเราได้ยินมาแล้ว" มีหมอหลวงคนหนึ่งรวมความกล้าเอ่ยขึ้น "ยิ่งไปกว่านั้น ข้าน้อยยังได้ยินอีกว่า พระชายาไปที่เมืองเจ้ออีกด้วย?"คนส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1740

    เซียวหลันยวนให้ชิงอีไปเตรียมตัว ครั้งนี้เขาจะนำองครักษ์เงามังกรออกเดินทางนอกจากองครักษ์เงามังกร ยังมีองครักษ์จวนอ๋องเจวี้ยนอีกยี่สิบคน"ไปค่ายคุ้มกันฝั่งตะวันออกทางนั้นส่งคำสั่งด่วนข้าไป ให้เหยียนฟางนำทหารมาห้าร้อยนาย ตรงไปที่เมืองเจ้อให้เร็วที่สุด"เซียวหลันยวนเขียนจดหมายส่งให้องครักษ์ลับนี่เป็นเหตุผลที่องค์จักรพรรดิหวาดกลัวเขา ผู้ควบคุมองครักษ์เงามังกร แล้วยังมีคุณสมบัติสั่งการทหารห้าร้อยนายเพื่อใช้งานได้ด้วยในช่วงเวลาคับขัน ทหารห้าร้อยนายสามารถสร้างเป็นกำลังสำคัญได้"ท่านอ๋อง ท่านจะเคลื่อนกำลังทหารหรือ?!" ชิงอีตกตะลึงเพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าตนเองจะเจอกับอันตรายใหญ่หลวงแค่ไหน มีหลายครั้งที่ชีวิตแขวนบนเส้นด้าย แต่เซียวหลันยวนก็ไม่เคยเคลื่อนกำลังทหารมาก่อน!เขาเองก็รู้ ว่านี่คือเรื่องที่ทำให้องค์จักรพรรดิหวาดกลัวมาก หากทำเรื่องนี้ออกมาจริง องค์จักรพรรดิก็จะยิ่งขัดใจกับเขามากขึ้นไปอีกแต่ตอนนี้เพื่อพระชายา ท่านอ๋องกลับเคลื่อนกำลังทหารขึ้นเป็นครั้งแรก"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไปที่เมืองเจ้อแล้ว" เซียวหลันยวนน้ำเสียงเคร่งขรึม "อันเหนียนยังบอกว่า มีคนที่มีความคิดไม่ดีปะปนอยู่ในกลุ่ม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1741

    แต่ใครก็ไม่กล้าพูดอะไรในกลุ่มหมอหลวงมีคนที่ประสบการณ์น้อยอยู่คนหนึ่ง หมอหลวงเผียว ปีนี้เพิ่งอายุสามสิบต้นๆเมื่อวานเขาหลับไม่ค่อยดี ถึงอย่างไรก็เตรียมตัวเตรียมของมาทั้งคืน ใครจะรู้ว่าเมืองเจ้อมีสถานการณ์แบบไหน? พวกเขาเองก็กลัวด้วยเหมือนกันนะดังนั้นทุกคนจึงกลับบ้านไปเก็บข้าวของส่วนตัว ใครมีรถม้าก็นั่งรถม้าของตนเองมาหมอหลวงเผียวพอปีนขึ้นรถม้าก็ทนไม่ไหวม่อยหลับไป ผลคือโดนเขย่าจนตื่นขึ้นมากลางทางพอเขาตื่นมาก็เห็นว่าตรงข้ามมีคนนั่งอยู่คนหนึ่ง ฉับพลันก้ทำเอาเขาตกใจสะดุ้งพรวดจนหัวแทบจะกระแทก"หมอหลวงเผียว ใจเย็นๆ นี่ข้าเอง" คนตรงข้ามยิ้มให้เขาใบหน้ายิ้มเจิดจ้าเหมือนแสงตะวันหยวนอี้คุณชายทูตจากแคว้นหมิ่นที่ช่วงนี้โดดเด่นมากในเมืองหลวงนั่นเองสองวันก่อนพวกเขาเคยเจอกันในงานเลี้ยงในบ้านหมอหลวงเผียวก็มีญาติที่ทำงานอยู่กับขุนนางเกษตร ดังนั้นจึงเคยพบหน้าแต่ว่า แต่ว่าเขาทำไมถึงมาอยู่บนรถม้าตนเองล่ะ?"คุณชายหย่วน ท่าน ท่านทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?"หมอหลวงเผียวรู้สึกเหมือนตนเองยังไม่ตื่นดี เขาเลิกม่านออกดู ก็เห็นว่ารถม้ากำลังเร่งเดินทาง ดูท่าจะไม่ได้หลับจนสับสนไปนี่"มานั่งตากลมหน่อยน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1742

    เรื่องราวในที่สุดก็ดำเนินไปในทางที่ฟู่จาวหนิงกังวลเสียแล้วเพราะคนเหล่านี้ต้องการยาแรง คนที่สัมผัสมาพวกนั้นก็ลนลาน ต้องการยามาป้องกันไว้ก่อน แค่สองวันวัตถุดิบยาของพวกเขาก็หายไปราวกับน้ำหลากน่าจะเพราะความลนลานกับร่างกายที่เหนื่อยและหิวก่อนหน้านี้สะสมมาถึงจุดหนึ่ง สองวันนี้จึงมีคนล้มป่วยลงไปไม่น้อยวันนี้กระทั่งยังมีคนป่วยที่มีอาการท้องเสียอย่างรุนแรงอีกหลายคนการจัดแจงที่พักผู้ประสบภัยมีอยู่จุดหนึ่งที่จัดการได้ลำบากและยุ่งยากมาก นั่นคือสถานที่ที่ให้พวกเขาทำธุระส่วนตัวพอคนมากเข้า หลายวันก่อนตอนที่พวกของอันเหนียนออกลาดตระเวนก็พบว่ามีคนไม่น้อย ที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ แค่หามุมเหมาะๆ ได้ก็นั่งยองลงจัดการธุระส่วนตัวต่อมาฟู่จาวหนิงบอกว่า เรื่องนี้ต้องระวังให้ดี เพราะนี่อาจจะเป็นเส้นทางในการระบาดโรคด้วยถ้าไม่ใช่ฟู่จาวหนิง ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกับพวกอันเหนียนก็ไม่มีใครคิดถึง ว่าสถานที่ที่คนแออัดกันอยู่มีเรื่องที่ต้องระวังมากขนาดนี้ไม่ใช่แค่รับคนเข้ามา ต้มข้าวต้มประทังชีวิตให้พวกเขาได้ก็เพียงพอเพราะว่าคนป่วยที่ท้องเสียหนักพวกนั้น ผู้ช่วยหมอเองก็รักษาไม่ได้ ฟู่จาวหนิงจึงอกจากห้องข้า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1743

    แต่ว่า พวกเขาเหล่านี้เคยบ่นว่าลำบากมาหลายครั้ง บ่นว่าหิวมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้เคยได้ยินฟู่จาวหนิงบ่นมาก่อนอารมณ์ของนางมั่นคงมาตลอด เขียนตำรับยาแก้ตำรับยาอยู่ตลอดเวลา มีวัตถุดิบยาบางส่วนขาดไป ก็คิดหาวิธีใช้วัตถุดิบยาอื่นมาแทนที่ จัดการแก้ไขตำรับยานี่ไม่ใช่สิ่งที่แก้กันส่งเดชได้ สิ่งนี้จำเป็นต้องมีทฤษฏียาวัตถุดิบยาที่น่าตกตะลึง การจะปรับสูตรยา วัตถุดิบยาอื่นๆ ก็ต้องเข้ากันได้ด้วย เป็นเรื่องที่สิ้นเลปืองสมาธิอย่างมากแล้วก็ สองวันนี้นางยังหาเวลาออกมาฝังเข็มให้คนป่วยอื่นๆ อีกในหัวนางจดจำสภาพโรคกับลักษณะพิเศษของผู้ป่วยแทบทั้งหมดไว้แล้ว แค่พูดออกมาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นคนทั้งหมดที่นี่รู้สึกนับถือนางแทบศิโรราบลงพื้นผู้ประสบภัยสิบกว่าคนอย่างกลุ่มอาเหอเองก็ด้วยหลายวันนี้ ครอบครัวพวกเขาก็ออกมาช่วยเหลือแล้วเด็กน้อยที่ยังเล็กอย่างเสี่ยวยา ก็มีภรรยาของอาเหอคอยช่วยดูแลความเร็วในการฟื้นฟูของเสี่ยวเฟิงเร็วมาก ตอนนี้ก็มาทำสิ่งต่างๆ ที่ตนเองทำได้ในแต่ละวันแล้ว อย่างเช่นมีคนป่วยหนักบางคนต้องการพักที่นี่ เขาก็จะช่วยจด เวลาต้องเปลี่ยนยา เวลาต้องกินยา บางครั้งที่ผู้ช่วยหมอทั้งสามคนกับเสี่ยวเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1744

    ผู้ประสบภัยที่สัมผัสใกล้ชิดหลายคนนั้น ติดโรคกันจริงๆ ด้วยพวกเขาเองก็โชคไม่ดี ตอนนั้นก็นอนกันไม่หลับ เลยมารวมตัวกันพูดคุยสัพเพเหระ ทุกคนได้เล่าเรื่องสนุกๆ กันออกมา รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ทำให้พวกเขาลืมความเหนื่อยยากวิตกกังวลในปัจจุบันไปได้ชั่วคราวผลคือพอคุยถึงเรื่องสนุก ก็หัวเราะร่ากัน น้ำลายแตกฟองตอนนั้นเสียงก็ดังมาก ดึงดูดคนรอบๆ เข้ามาร่วมวงด้วย คุยสัพเพเหระไปกับพวกเขาคืนนั้นสนุกสนานเฮฮา แต่ตอนนี้ต้องมาอกสั่นขวัญหาย"หมอฟู่เองก็เคยบอกพวกเขาแล้ว ว่าหลายวันนี้ให้พยายามอย่ารวมกลุ่มกันพูดคุย ห่างกันได้มากหน่อยก็ให้ห่าง แล้วทำไมยังมาทำเรื่องแบบนี้กันอีก?"ผู้ช่วยหมอคนหนึ่งโกรธมากหลังจากได้ยินสาเหตุที่คนมากขนาดนี้ติดโรค คนของที่นี่ก็โกรธกันขึ้นมาจริงๆวันที่สองที่ป้าหนิวเข้ามาที่นี่ ฟู่จาวหนิงก็ให้คนออกไปเตือนผู้ประสบภัยแล้ว เรื่องที่ต้องระมัดระวัง แจ้งเตือนพวกเขาไปทั้งหมดแต่ตอนนี้ดูท่า ยังมีคนมากมายที่ไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ"ห้องข้างฝั่งตะวันตกทางนั้นยังรับคนได้อีกไหม?"อันเหนียนตามเข้ามา แม้จะเป็นช่วงเดือนสองแล้ว แต่เขาก็ยังมีเหงื่อเต็มหน้าผากวิ่งไปวิ่งมาตลอด ทั้งเร่งท

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1745

    โชคขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตั้งแต่เด็กจนโตนั้นลือกันมาอยู่ไม่น้อย ปีที่แล้วหลังจากกลับเมืองหลวงมาจากสุสานจักรพรรดิ นางก็มีเรื่องราวอีกไม่น้อยที่ทำให้คนรู้สึกว่าโชคดี และมีฟ้ามาคุ้มครองแล้วทำไมตอนนี้ถึงได้ซวยแบบนี้?ฟู่จิ้นเชินเองก็ยังรู้สึกแปลกประหลาด เพราะตอนอยู่ที่ต้าชื่อเขาเคยได้ยินมาแล้ว ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมีโชคดีมาโดยตลอด"ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้นางยังป่วยหนักมาก หลายวันแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น" ฟู่จิ้นเชินขมวดคิ้วเขาตอนนี้กังวลหน่อยๆ กลัวว่าถ้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาเกิดเรื่องอะไรที่นี่เข้า ฝ่าบาทต้าชื่อถึงตอนนั้นจะเอาความผิดมายัดไว้บนหัวฟู่จาวหนิงจะคิดไหมว่านางไม่ยอมรักษาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดีดี?และอาจจะคิดไปในทางลบ รู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนที่นี่ทำร้ายจนตายหรือเปล่า?สิ่งที่ฟู่จิ้นเชินไม่รู้ก็คือ ตอนนี้ในห้องข้างฝั่งตะวันตก เฉินเซ๊ยงก็ทะเลาะกับฟู่จาวหนิงขึ้นมาแล้วเพราะวันนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไอจนพูดออกมาไม่ได้เลยสักคำคนที่เคยไออย่างรุนแรงจะเข้าใจ ว่าการไอต่อเนื่องไม่หยุดนี้มันทรมานมากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกทรมานจนไอไปด้วยร้องไห้ไปด้วย ดวงตาเองก็แดงก่ำ และเพราะไอมา

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2064

    ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2063

    เจ้าอารามสูดลมหายใจลึก"ผลลัพธ์นี้ไม่ค่อยดีนัก สิ่งที่มันชี้นำไป ทำให้อายวนเดินไปยังทางเลือกที่จะพาสู่ความพินาศ"พอได้ยินคำพูดเขา ฟู่จาวหนิงก็หน้าเปลี่ยนสีแต่นางกลับโมโหขึ้นมา"เฮอะ"ก่อนหน้านี้นางยังรู้สึกว่าจะอย่างไรก็ได้แต่ว่าตัวนางจะเป็นอย่างไร นางก็ยังไม่สนใจได้ เพราะนางไม่ใส่ใจ และไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับตัวนางแต่เรื่องดันไปอยู่บนตัวเซียวหลันยวน นางก็ไม่ชอบใจขึ้นมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น นางไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนจะได้รัรบผลกระทบไหม ตัวนางเป็นคนที่ผ่านการข้ามภพมา แต่เขาไม่ใช่"อายวน" นางยื่นมือไปประคองเซียวหลันยวนเขาจับมือนางลุกขึ้นยืน มองดุนาง ยื่นมือลูบใบหน้านาง สีหน้าดูซับซ้อน"เจ้าลองดู"ฟู่จาวหนิงใจดำดิ่งหน่อยๆเพราะเขารู้สึกแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด ปฏิกิริยานี้คือถูกส่งผลกระทบเข้าแล้วเมื่อครู่เขายังบอกนางอยู่เลยว่าถ้าไม่อยากคะเนทำนายก็ไม่ต้องทำ ตอนนี้เขากลับบอกว่าให้ลองดูเสียแล้วจิตใจต่อต้านกับความอยากเอาชนะของฟุ่จาวหนิงถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว"ได้"นางขานรับ และไม่ลังเลอีก นั่งลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามผืนนั้น"ไข่มุกหมึก"เซียวหลันยวนส่งไข่มุกหมึก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2062

    เขาไม่อยากให้นางต้องฝืนตัวทำอะไรเพื่อตัวเขา"ข้ายินยอมทดสอบดู ไม่เป็นไร" ฟู่จาวหนิงบอกเขาเซียวหลันยวนชะงักไป "เช่นนั้นข้าก่อนแล้วกัน เจ้าลองดูผลลัพธ์ของข้าก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจ"ตอนนี้เขาเองก็ยอมที่จะคะเนทำนายด้วย เพราะคำพูดประโยคนั้นที่เจ้าอารามพูดเมื่อครู่สามปีก่อนตอนที่เขาจะกลับเมืองหลวง ก็มีการวัดคะเนดาราไว้จริงๆ ทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าเขาควรจะออกจากยอดเขาโยวชิงเวลานั้น และไปถึงเมืองหลวงในวันนั้นเขาเจอกับจาวหนิงถอนหมั้นกลางถนนในวันนั้น แต่งงานกับนางในวันนั้น ตอนนี้พอมาคิดก็ดูจะเป็นคู่รักวาสนาที่ฟ้าประทานมาจริงๆเพื่อความแม่นยำครั้งนี้ เขาเองก็ไม่กังขากับการวัดคะเนดาราเซียวหลันยวนนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามชิ้น ยื่นมือไปทางเจ้าอาราม "ไข่มุกหมึก""เจ้าจำไว้ด้วยว่าต้องขจัดสิ่งรบกวนออก อย่าต่อต้านการชี้นำ" เจ้าอารามส่งไข่มุกหมึกให้เขา จากนั้นจึงจุดธูปขึ้นเซียวหลันยวนหลับตา สองมือกุมไข่มุกหมึกตอนที่เขาเข้าสู่สภาวะลืมตนอย่างสมบูรณ์ ฟู่จาวหนิงก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยสัญชาตญาณ เหมือนจะพบว่าแสงดาวเต็มท้องฟ้าจะสว่างเจิดจ้ากว่าเดิมเซียวหลันยวน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2061

    เจ้าอารามถอนใจอย่างจนใจอีกครั้ง ร้องเรียกพวกเขาไว้"กลับมาก่อน ทำไมพูดไม่ถูกหูหน่อยเดียวก็จะไปแล้วล่ะ? เดี๋ยวนี้อารมณ์ขึ้นง่ายขนาดนี้เชียว? ข้าก็แค่พูดเฉยๆ ไม่ใช่ว่ามองเสี่ยวฟู่แบบนี้เสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงเองก็ยืนนิ่ง นางดึงเซียวหลันยวนไว้ตอนนี้นางเองก็น่าจะมองการวัดคะเนดาราของเจ้าอารามเป็นเหมือนเกมลึกลับเกมนึง เมื่อครู่ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเจ้าอารามทำให้นางจับทางไม่ถูกเหมือนกัน คนผู้นี้ต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาสำหรับเซียวหลันยวนแน่นอนสำหรับฮูหยินเฉิง เซียวหลันยวนบทจะไม่ยอมรับก็ไม่ยอมรับได้ จะหมดความผูกพันนั่นก็หมดไป แต่สำหรับเจ้าอารามนั้นไม่ได้เด็ดขาดไม่เช่นนั้นคงไม่พานางเดินทางนับพันลี้มายอดเขาโยวชิงแค่เพราะคำๆ เดียวของเจ้าอารามหรอกนางเองก็อยากรู้มาก สาเหตุอะไรที่ต้องให้พวกเขามาทำนายชะตาอะไรนี่ เจ้าอารามคิดจะทำอะไรกันแน่นอกเหนือจากนี้ ตัวนางเองก็ยังอยากรู้ ว่าการที่นางมายังแคว้นเจานี่ เป็นเพราะมีพลังลึกลับอะไรหรือเปล่าถ้าไม่ทำให้ชัดเจน หลังจากนี้นางคงจะตั้งรับไม่ไหวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถึ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2060

    เขามองไปทางเจ้าอารามอีกครั้ง น้ำเสียงเข้มงวดขึ้นมา"ท่านน้าเฉิงถ้าพูดแบบนี้จริง เช่นนั้นสายตานางก็ตื้นเขินไม่รู้จักกาลเทศะ นางเองก็ไม่เข้าใจจาวหนิง และยิ่งไม่เข้าใจว่าจาวหนิงผ่านอะไรมาบ้าง แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงใช้ความคิดของตัวเองมาสรุป ดูท่าหลายปีนี้คงถูกเอาอกเอาใจในเมืองจื่อซวีจนเสียคนแล้วจริงๆ"เดิมทีเขาได้ยินว่าฮูหยินเฉิงตาแดงก่ำลงจากเขาไป ยังเคยคิดว่าว่าเพราะช่วยนี้เย็นชากับนางมากเกินไปหรือเปล่า เอาไว้ตอนที่จะกลับ พอผ่านอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ยังคิดจะเข้าไปบอกลานางเสียหน่อยแต่ตอนนี้เขารู้สึกแล้วจริงๆ ว่าใจคนมันพังไปแล้ว เช่นนั้นก็ยากที่จะได้รับการเคารพจากคนอื่นจริงๆ"ข้าจดจำได้ว่าตอนที่ข้ายังเล็กท่านน้าเฉิงเคยมาดูแลอยู่หลายครั้ง แต่อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น หลังจากข้าโตมา พวกเราก็เจอกันน้อยครั้งมาก เจอกันก็เพียงแค่ทักทาย ข้าเรียกนางว่าท่านน้า ก็เพราะเคยชินมาจากตอนเด็กเท่านั้น"เซียวหลันยวนตอนพูดถึงจุดนี้น้ำเสียงก็เย็นลงมา"ตอนยังเล็กนางดูแลข้ามาหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาเจ้าอุทยานกำชับไว้ ข้าจึงเคารพนาง แต่นางก็ควรวางตัวให้ถูก ไม่ใช่จะขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสของข้าจริ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2059

    สายตาที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองเซียวหลันยวนดูซับซ้อนมาก ดูลังเล กำลังตัดสินใจและดูเจ็บปวดทรมานมากแต่หลังจากนี้นางกลับละทิ้งเรื่องที่จะกลับเมืองหลวงหาคนอื่นหรือกระทั่งเรื่องไปแคว้นหมิ่น แล้วิคดจะอยู่ข้างกายเจ้าอารามแทนหรือ?นี่มัน...ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนความคิดกะทันหันของนางมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรตอนนี้นางกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นต่อวัดคะเนดารานี้เสียแล้ว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสัมผัสได้ถึงอะไรกันนะ?"องค์หญิงใหญ่พักอยู่ที่นี่สองสามวันก่อนก็ได้ เอาไว้ค่อยว่ากัน"เจ้าอารามเหลือบมองกระจกทรงมุมที่แสงดับไปแล้วผาดหนึ่ง จากนั้นก็มองใบหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แอบถอนหายใจในใจเขาเองก็ทำไม่สำเร็จ บิดชะตาฝูอวิ้นกลับมาไม่ได้ชั่วคราวผิดพลาดตรงไหนกันแน่นะ?เจ้าอารามมองต่อไปทางฟู่จาวหนิง จากการทำนายส่วนตัวของเขา ทำนายไปทำนายมา ต้นกำเนิดตัวแปรทั้งหมดก็คือฟู่จาวหนิงดังนั้น เรื่องที่เกี่ยวกับฟู่จาวหนิง เขาต้องมาขบคิดให้ดีจริงจัง""เจ้าอารามรับข้าไว้เถอะ แม้ข้าจะทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ก็ยังเรียนรู้ได้ ข้าเรียนรู้ทำกับข้าว จริงด้วย ข้าเป็นแแม่สื่อได้ด้วยนะ หลังจากนี้ชายเส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2058

    บนพื้นมีสามจุดเปล่งแสงขึ้นรางๆ ปรากฏรูปร่างสามแบบคือ แปดเหลี่ยม ทรงกลม ทรงมุมฟู่จาวหนิงเดินเข้าไปสองก้าว จึงพบว่านั่นเป็นกระจกหลากสีเรียบลื่นสามชิ้นสลักฝังอยู่บนพื้น ใต้กระจกน่าจะเป็นหินหยกผิวเรียบ และระหว่างหยกกับกระจกมีของเหลวสีแดงเจือสีเงินไหลเอื่อยๆ อยู่ยิ่งไปกว่านั้น เพียงไม่นาน ด้านบนยังมีแสงระยิบเหมือนดวงดาว ราวกับจำลองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวออกมาเจ้าอารามเดินเข้าไปใกล้ กวักมือให้กับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"มานี่"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ค่อนข้างว่าง่าย เดินเข้าไปทันทีเจ้าอารามส่งลูกปัดหยกสีดำเม็ดหนึ่งให้นาง"นั่งขัดสมาธิ กำลูกปัดเม็ดนี้ไว้ สัมผัสดูว่ามันนำเจ้าไปยังมิติดาราไหน แล้วจงชี้ออกมา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ทำตามที่เขาบอกนั่งลงขัดสมาธิบนพื้น สองมือกุมลูกปัดนั้น ตั้งสมาธิสัมผัสผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงหันหลังอย่างลังเลไปทางทรงมุมนั้น"ทางนี้"ฟู่จาวหนิงยืนมองอยู่ข้างๆจากที่นางเห็น เจ้าอารามเหมือนคนที่กำลังเล่นละครหลอกคนอย่างไรอย่างนั้น เรื่องแบบนี้จะทำนายดวงชะตาออกมาได้อย่างไร?กำลูกปัดลูกหนึ่งไว้ ก็สามารถชักนำให้ตนเองเลือกกระจกหลากสีแผ่นไหนแบ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2057

    ดาวสองดวงนั้นประกายจ้ามาก แล้วยังอยู่ใกล้มากด้วย ส่องประกายให้กันและกัน เหมือนขานรับกันและกันไม่รู้เพราะอะไร พอเห็นดาวสองดวงนี้ ฟู่จาวหนิงรู้สึกมีความสุขขึ้นมานางมองไปทางเซียวหลันยวน ถามขึ้นเสียงแผ่วเบา "ท่านเห็นดาวดวงไหนหรือ?"เซียวหลันยวนไม่ตอบ แต่กุมมือนางมัน จับนิ้วนางชี้ออกไป"เอ๋?"ที่เซียวหลันยวนชี้ก็คือดาวสองดวงนั้น!หรือพวกเขาจะมองเห็นแบบเดียวกัน?แน่นอนว่าอาจจะเพราะดาวสองดวงนั้นสว่างไสวมากที่สุด คนอื่นเองก็อาจจะมองเห็นพวกมันด้วยฟู่จาวหนิงคิดเช่นนี้ เลยมองไปทางองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แต่กลับเห็นนางมองไปทางอื่นนางมองไล่ตามสายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไป ตรงนั้นมีดาวดวงหนึ่ง สว่างอยู่เหมือนกัน แต่ดาวที่อยู่รอบๆ เล็กเอามากๆ จึงส่องระยับอยู่เพียงดวงเดียวที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองอยู่น่าจะเป็นดวงนั้นกระมัง?ตอนที่นางจะเก็บสายตาก็กวาดไปเห็นซางจื่อพอดี และเห็นซางจื่อก็กำลังมองท้องฟ้า แต่สายตาของเขาดูสับสน สีหน้าเองก็ตกตะลึงไปฟู่จาวหนิงคิดๆ ถอยหลังสองก้าวไปอยู่ข้างๆ ซางจื่อซางจื่อเก็บสายตากลับ มองไปทางนาง ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ นางก็มาอยู่ข้างๆ"ซางจื่อ เจ้าชอบดาวดวงไหน?"ซา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2056

    "แต่ก่อนท่านเคยเห็นเขาระบำมาก่อนไหม?""ไม่มีเคยเลย"ตอนที่พวกเขาหยุดเท้ายืนมอง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็มาถึงข้างกายพวกเขานางเองก็มองการร่ายรำบนแท่นชมดาว สายตาดูเคลิบเคลิ้มหน่อยๆ"ข้าได้ยินว่า แต่ก่อนตงฉิงก็มีระบำทำนายดวงดาวอยู่ประเภทหนึ่ง คิดค้นขึ้นมาโดยตระกูลราชครูตงฉิง นี่เป็นระบำที่ลึกลับมาก จังหวะก้าวเท้าทุกก้าวล้วนพิถีพิถัน นำมาซึ่งพลังแห่งดวงดาว ทำให้ผู้ทำนายดวงดาวมีพลังที่ลึกลับมากขึ้น ผลลัพธ์การทำนายเองก็แม่นยำขึ้น"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ลืมสิ่งที่เซียวหลันยวนพูดไว้เมื่อครู่ เรื่องที่ไม่ให้นางเข้ามาใกล้นัก แต่มายืนอยู่ข้างกายพวกเขา พูดเรื่องที่ตนเองรู้มาก่อนหน้านี้ออกมาอย่างอดไม่อยู่"ตระกูลราชครูของตงฉิง?" ฟู่จาวหนิงเหลือบมองนางผาดหนึ่ง"ใช่ นี่เป็นสิ่งที่ข้าได้ยินองค์จักรพรรดิของข้าบอกมา" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็นว่านางยอมพูดกับตนเอง ก็รู้สึกเหมือนได้รับเกียรติจนประหลาดใจขึ้นมา "ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็ได้ยินว่าองค์จักรพรรดิข้าค้นหาตระกูลราชครูตงฉิงอยู่ตลอด ว่ากันว่า ตระกูลราชครูนั้นรู้ความลับมากมายของตงฉิง สามารถช่วยให้อาณาจักรมั่นคงได้ด้วย"เซียวหลันยวนร้องเฮอะขึ้นมาต้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status